Share

บทที่ 380

Author: หว่านชิงอิ๋น
สิ่งนี้ช่างคุ้นตาเหลือเกิน!

วัสดุของลูกแก้วนี้ นางเคยเห็นมาก่อน!

จี้กิเลน!

หินว่านเซี่ยง!

วันนั้นนางเห็นมหาราชครูลั่วส่งจี้กิเลนให้กับลั่วไห่ผิงกับตา ของนี้ยื่นผ่านหน้านางไป นางเห็นอย่างชัดเจน

หินเป็นสีเขียวใส ใสเสียจนไม่มีสิ่งแปลกปลอมแม้แต่นิด บริสุทธิ์ยิ่งกว่าหยกเสียอีก!

หากมิเห็นจี้กิเลนวันนั้น นางคงไม่มีทางรู้

แต่ฟู่เฉินหวนบอกนาง จี้กิเลนนี้ทำมาจากหินว่านเซี่ยงที่สามารถหลอมแปรเปลี่ยนเป็นรูปลักษณ์ใดก็ได้ และตัวหินจะไม่เสียหาย

สิ่งนี้กระทั่งหนึ่งในหมื่นยังหายาก ดังนั้นจึงมีค่ามากเป็นพิเศษ

ทั้งเมืองหลวง เกรงว่าคงมีแค่ในมือของมหาราชครูลั่ว!

ยามนั้นนางคิดไม่ออกว่าลั่วไห่ผิงต้องกระทำความผิดที่หนักหนาเช่นไร จึงเดือดร้อนไปถึงจวนมหาราชครู

บัดนี้ นางรู้แล้ว!

ฟู่จิ่งหานเห็นสีหน้าของนางผิดปกติไป จึงเอ่ยถามอย่างอดมิได้ ”มีอะไรหรือ? สิ่งนี้มีอะไรประหลาดจริง ๆ หรือ?”

อารมณ์ของลั่วชิงยวนหนักอึ้ง นางเอ่ยกับจักรพรรดิ “ลูกแก้วหงส์นี้ มิใช่ลูกแก้วหงส์เดิมเพคะ!”

ได้ยินเช่นนี้ ฟู่จิ่งหานตะลึง “ว่าไงนะ? ของปลอมรึ?!”

คิ้วของลั่วชิงยวนขมวดแน่น เขาคุกเข่าลงมาทันที “ฝ่าบาทโปรดให
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 381

    “ท่านอัครมหาเสนาบดี ดึกเพียงนี้แล ท่านจักทูลเรื่องใดหรือ?“ ฟู่จิ่งหานก้าวเท้าเข้าตำหนัก ลั่วไห่ผิงตามเข้าไป พูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “ฝ่าบาท เรื่องของท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการมีความคืบหน้าหรือไม่ขอรับ?” “การร่วงหล่นของลูกแก้วหงส์เพลิงอาจเป็นเพียงความบังเอิญ ผิดที่กระหม่อมมิทันเห็นว่ามันหละหลวมเมื่อตอนตรวจสอบเอง กระหม่อมมารับโทษพ่ะย่ะค่ะ!” ได้ยินดังนี้ ฟู่จิ่งหานถอนหายใจทีหนึ่ง “เรื่องนี้ข้าได้สั่งคนไปตรวจสอบแล้ว ท่านอัครมหาเสนาบดีกลับเถิด” หัวใจลั่วไห่ผิงสั่นคลอน สั่งคนไปตรวจสอบแล้วหรือ? จะตรวจพบว่าลูกแก้วหงส์เพลิงถูกขโมยหรือไม่? แม้ผู้ขโมยลูกแก้วหงส์เพลิงจะมิใช่เขา แต่เขามิได้รายงานแก่เบื้องบนในคราแรก กลับหาจี้กิเลนมาปลอมแปลงแทน ก็ถือเป็นโทษหนักเช่นกัน “พ่ะย่ะค่ะ” หลังจากไป ในใจลั่วไห่ผิงกระตุกขึ้นลง ไม่ได้! เขาต้องหาลูกแก้วหงส์เพลิงให้เจอก่อนที่เรื่องจะแดง! หลังออกจากวัง ลั่วไห่ผิงจึงรีบสั่งคนไปเยี่ยมเยียนเจ้ากรมธรรมการทันที การสูญหายของลูกแก้วหงส์เพลิง เขาเองก็มีส่วนผิด! จะให้ตนแบกรับคนเดียวมิได้เด็ดขาด! …… การคำนวณทั้งคืน ทำลั่วชิงยวนสูญเสียพลังไปมาก สิ่ง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 382

    สิ้นประโยคนี้ ร่างของลั่วชิงยวนสั่นคลอน นี่มิใช่น้ำเสียงปรึกษาหรือหยั่งเชิง เป็นน้ำเสียงที่ลั่วชิงยวนรับรู้ถึงการข่มขู่ นางมิได้เอ่ยตอบ ไทเฮายิ้มพร้อมมองไปทางนาง “มิต้องการหรือ?” ลั่วชิงยวนถอยหลังพร้อมคุกเข่าลง “ไทเฮาโปรดประทานอภัยเพคะ! หม่อมฉันแต่งงานกับท่านอ๋อง หม่อมฉันที่เป็นพระชายาของท่านอ๋อง จักแต่งงานกับผู้อื่นได้อย่างไร” “หรือต่อให้หม่อมฉันยอม ก็ทำเช่นนี้มิได้! มิเช่นนั้นความสัมพันธ์ของท่านอ๋องและองค์ชายห้าจักอึดอัด หรือกระทั่งห่างเหินกันเพราะหม่อมฉัน ซึ่งเป็นการเพิ่มคำนินทา และทำราชวงศ์เสียหน้าเพคะ!” นางมิชอบฟู่อวิ๋นโจว จักแต่งกับเขาได้เช่นไรเล่า หรือต่อให้นางมีความคับแค้นใดกับฟู่เฉินหวน ก็ควรคลี่คลายกันเองระหว่างนางและเขา ประโยคนี้ ทำไทเฮามิพอใจขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด ใบหน้าของไทเฮาเต็มไปด้วยรอยยิ้ม แต่กลับเป็นยิ้มเยือก “ดูท่าเจ้ายังคงรักท่านอ๋องอยู่มาก” “ครั้งนี้เจ้ามิได้เข้าวังมาเพื่อเจอเขาหรือ? ข้าพาเจ้าไปเจอเขาเอง” ในเสียงน่าเกรงขาม เต็มไปด้วยความข่มขู่ หัวใจของลั่วชิงยวนบีบรัด นางจะออกจากวังเพื่อไปตามหาลูกแก้วหงส์เพลิง! ในใจของนางร้อนรนดุจมดกล

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 383

    ผู้ช่วยในร้านเดินออกมาต้อนรับ “แม่นาง ท่านมาซื้อหรือมาขายของกันหรือขอรับ?” ลั่วชิงยวนสำรวจทั้งหอมหาสมบัติอย่างกังวลใจ “ข้ามาหาคน” พูดจบนางก็วิ่งขึ้นชั้นบนในทันที คนใช้ตะลึง วิ่งไปห้ามในทันที “แม่นาง ชั้นบนไปมิได้ขอรับ!” เสินหลีกดร่างผู้ช่วยไว้ และเผยป้ายบนเอว คนใช้ผู้นั้นตกใจร่างสั่นคลอน และมิกล้าห้ามอีก พลังวิญญาณของลูกแก้วหงส์เพลิงนั้นค่อนข้างรุนแรง ทั้งหอมหาสมบัติสามารถรับรู้ได้ทั่ว ที่น่าดีใจคือ นางมิได้หาผิดที่ แต่ที่น่าร้อนใจคือ หอนี้อบอวลไปด้วยพลังวิญญาณของลูกแก้วหงส์เพลิง มิสามารถรู้แน่ชัดได้ว่าอยู่ห้องไหน ลั่วชิงยวนทำได้เพียงบุกรุกทีละห้อง เพื่อตามหาลูกแก้วหงส์เพลิง ทำผู้คนมิน้อยขึ้งโกรธ แต่เมื่อเสินหลีแสดงป้าย ผู้ที่ลุกพรวดอย่างโกรธเคือง ต่างนั่งลงอย่างหมดน้ำโห หอมหาสมบัตินั้นใหญ่มาก เรียกได้ว่าแทบจะตรงตามชื่อหอ ของสะสมทั้งหอ มีมากมายเป็นหมื่น ๆ ชิ้น ทุกครั้งที่ผลักประตู มือของลั่วชิงยวนจะมีความเจ็บปวดรุนแรงส่งมา แต่ในใจของนางร้อนรน คิดถึงเพียงแค่ลูกแก้วหงส์เพลิง มิรู้ว่าประตูบานที่เท่าไร วินาทีที่ประตูถูกเปิดออก ของที่ประกายแสงจ้าบนโต๊ะ ดึงดูดสายต

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 384

    ลั่วชิงยวนมองไปทางลั่วไห่ผิงอย่างตะลึง เขาก็มาเพื่อลูกแก้วหงส์เพลิง! เขารู้ได้อย่างไรว่าอยู่ที่นี่? เขาสะกดรอยตามนาง! จู่ ๆ สันหลังของลั่วชิงยวนก็เย็นวาบขึ้นมา หลังนางออกจากวังนางก็มาที่นี่ในทันที ลั่วไห่ผิงมาเร็วเช่นนี้ นอกเสียจากเขาสั่งคนจ้องอยู่หน้าประตูวังตลอด เมื่อเห็นนางออกจากวังจึงตามมา! ลั่วไห่ผิงคิดจะทำสิ่งใด? “มิเกี่ยวกับท่าน!” น้ำเสียงของลั่วชิงยวนเย็นชา และกอดกล่องแพรไว้แน่น “ส่งมา!”ลั่วไห่ผิงยื่นมือแย่งชิง เสินหลีขึ้นหน้ากล่าว “ท่านอัครมหาเสนาบดี พระชายาได้รับพระราชบัญชาจากฝ่าบาท!” เสินหลีย่อมมิมีทางลงมือกับท่านอัครมหาเสนาบดีแน่ แต่เขาสามารถเอ่ยตักเตือนได้ แต่ลั่วไห่ผิงกลับมิไว้หน้าแต่นิด เขาตอบเสียงเยือก “ลูกแก้วหงส์เพลิงหาย ข้าเองก็มีส่วนรับผิดชอบมาก! ตรวจสอบมาหลายวัน จนสืบพบที่อยู่ของลูกแก้วเมื่อครู่! ข้าจักนำลูกแก้วหงส์เพลิงไปรับโทษเอง!” สิ้นประโยค ลั่วไห่ผิงจับมือที่กำลังบาดเจ็บอยู่ของลั่วไห่ผิงขึ้น นางเจ็บปวดจนเลือดสดไหลพราก อยากจะสลัดออกแต่กลับไม่มีแรงต่อต้าน ความเจ็บปวดอันมากล้นทำหน้าผากของนางซึมออกมาเป็นเม็ดเหงื่อ ลั่วไห่ผิงแย่งชิงกล่อง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 385

    ลูกแก้วหงส์เพลิงนี้มิใช่ลั่วชิงยวนหากลับได้พร้อมกับเสินหลีหรือ? เกี่ยวอะไรกับลั่วไห่ผิงกัน? เพียงแต่คำพูดของเขากลับตรงข้าม “ท่านอัครมหาเสนาบดีสามารถตามหาลูกแก้วหงส์เพลิงของจริงกลับมาได้ ถือเป็นการพิสูจน์แล้วว่า ท่านอ๋องผู้สำเร็จราขการมิใช่ผู้ชั่วร้าย ที่บรรพบุรุษราชวงศ์นั้นมิยอมรับ!” “แต่มีผู้บังอาจมาแตะต้องเสาหงส์เพลิงในหอบรรพบุรุษเพื่อใส่ร้ายอ๋องผู้สำเร็จราชการ บังอาจนัก!” น้ำเสียงของจักรพรรดิกริ้วโกรธ “ผู้ใดลักลูกแก้วหงส์เพลิงไป?” บัดนี้ ลั่วไห่ผิงกลับเอ่ยตอบ “เมื่อกระหม่อมหาลูกแก้วหงส์เพลิงเจอ กระหม่อมพบกับคนสามคนพอดีพ่ะย่ะค่ะ” “แต่ผู้ใดเป็นคนลักลูกแก้วไปนั้น กระหม่อมมิทราบ” สามคนนั้น ก็คือลั่วชิงยวนและสองคนนั้นที่เจรจากันในหอมหาสมบัติ ขุนนางระดับสูงโดยรอบซุบซิบเสียงเบา เรื่องการลักลูกแก้วหงส์เพลิงนั้นจะเกี่ยวกับลั่วชิงยวนอีกหรือไม่? ท่านอัครมหาเสนาบดีช่างเที่ยงตรงเสียจริง กระทั่งลั่วชิงยวนยังจับตัวมาในตำหนัก หรือลูกแก้วหงส์เพลิงนี้ ลั่วชิงยวนจะเป็นผู้ขโมยจริง ๆ? ฟู่จิ่งหานย่อมรู้ดีว่าลั่วชิงยวนบริสุทธิ์ แต่เขากลับมิรู้รายละเอียด จึงเอ่ยถาม“พระชายาอ๋อง เจ้าอ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 386

    บุตรชายคนโตของแม่ทัพฟ่านหรือ?จักรพรรดิเองก็ตะลึง “บุตรคนโตของจวนแม่ทัพติ้งหย่วนหรือ?”เสียงกังวลของชายหนุ่มค่อย ๆ ดังขึ้น “พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมเป็นบุตรคนเอกของจวนแม่ทัพติ้งหย่วน ฟ่านซานเหอ”สิ้นประโยคนี้ หัวใจลั่วชิงยวนหมดลมหายใจไปพักหนึ่งเหตุใดจึงเป็นเขาได้!สามีของลั่วหลางหลาง!วันแต่งงาน แม้นางจะไปดื่มเหล้ามงคลเช่นกัน แต่คนมากเกิน นางจึงไปเจอเพียงลั่วหลางหลางโดยส่วนตัว และมิเคยเห็นสามีของลั่วหลางหลางมาก่อน!เขาคือฟ่านซานเหองั้นหรือ?ฟ่านซานเหอเข้ามาเกี่ยวโยงกับเรื่องนี้ได้อย่างไร?ลั่วชิงยวนคิดย้อนอย่างละเอียด เหตุใดลั่วไห่ผิงจึงถึงหอมหาสมบัติอย่างทันเวลา เขารู้ได้อย่างไรว่านางกำลังตามหาลูกแก้วหงส์เพลิง?และฟ่านซานเหอก็ถือลูกแก้วหงส์เพลิงขายให้กับหอมหาสมบัติอย่างบังเอิญบางทีทั้งหมดนี้อาจเป็นแผนการอยู่แล้วหรือเรื่องที่นางจะตามหาลูกแก้วหงส์เพลิง เล็ดลอดและทำพวกเขาแตกตื่นเสียนานแล้ว?แม้เช้านี้นางจะพบไทเฮา แต่นางก็คาดการณ์ไว้แล้วว่าลูกแก้วหงส์เพลิงอยู่ที่หอมหาสมบัติก่อนที่จะพบไทเฮาดังนั้นเป็นก่อนหน้านั้นก่อนฟ้าจะสว่าง!สมองของนางราวกับจะระเบิดออก ร่างกายที่อ่อนเพลีย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 387

    รถม้าสั่นสะเทือน ฟู่เฉินหวนมองคนที่สลบในอ้อมอก ยื่นมือไปถอดหน้ากากของนางอย่างอดมิได้ใบหน้าของนาง บาดเจ็บหนักเพียงไหนกันแต่สัมผัสบนใบหน้า ทำลั่วชิงยวนป้องกันตัวโดยสัญชาตญาณ และจับมือเขาไว้แน่นทันทีฟู่เฉินหวนตะลึงเล็กน้อย มองดูนางที่ดวงตายังหลับพริ้ม ส่วนมือที่จับเขาไว้ ผ้าพันแผลถูกย้อมไปด้วยเลือดสด แต่นางราวกับรับรู้มิถึงความเจ็บปวด จับมือของเขาไว้แน่นต้องเป็นบาดแผลที่หนักเช่นไหน จึงทำให้นางที่สลบอยู่ยังระแวงเช่นนี้ เพราะกลัวคนจะเห็นใบหน้าของนางหน้าอกของฟู่เฉินหวนราวกับถูกหินก้อนยักษ์ทับไว้ จนเขาหายใจไม่ออกหรือที่ผ่านมาเขาเข้าใจนางผิดมาโดยตลอด เข้าใจผิดว่านางเป็นคนที่ตระกูลเหยียนส่งมาสอดแนมหรือจะเป็นอย่างที่ซูโหยวกล่าว ตระกูลเหยียนเพียงกำลังหลอกใช้นางหากเป็นเช่นนั้น คงทำร้ายนางมากเกินไปจริง ๆ เขากำมือไว้แน่น นัยน์ตาเต็มไปด้วยความซับซ้อนฟู่เฉินหวนกลับตำหนัก ทันทีที่รถม้ามาถึง ซูโหยวและจือเฉาก็ออกไปต้อนรับทันที“เร็วเข้า! เรียกหมอกู้มา!”ฟู่เฉินหวนอุ้มลั่วชิงยวนลงจากรถม้า มุ่งไปห้องนางก้าวไวไม่นานนัก หมอกู้ก็มาถึงเขาแกะผ้าพันแผลบนมือของลั่วชิงยวนออก มือของนางเลือด

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 388

    “มีผู้หนึ่งต้องช่วยพระชายาได้แน่!”จือเฉาลนลาน จนลืมซ่งเชียนฉู่ไป!นางลุกขึ้นเช็ดน้ำตา “แม่นมเติ้ง แม่นางซ่งเชี่ยวชาญวิชาแพทย์ เครื่องยาสมุนไพรก็มากหลาย นางต้องช่วยพระชายาได้แน่ แต่จะให้นางเข้าตำหนักอย่างไร?”“เช่นนี้ เจ้าออกตำหนักไปตามซูโหยว บอกซูโหยวว่าเครื่องยาสมุนไพรอยู่ที่ใด ให้ซูโหยวพาแม่นางซ่งเข้ามา แต่เจ้าต้องฉลาดหน่อย อย่าให้ซูโหยวรู้ตัว”“ห้ามทำตัวตนของพระชายาความแตกเด็ดขาด”ได้ยินดังนี้ จือเฉาพยักหน้า “เจ้าค่ะ บ่าวจักไปประเดี๋ยวนี้!”หลังเหล่าหมอหลวงทายาให้ท่านอ๋องเสร็จ หมอกู้ก็ส่งเขาออกไปทันทีมองฟู่เฉินหวนบนเตียงทีหนึ่ง หมอกู้ก็หันเดินออกจากไปเช่นกันฟู่เฉินหวนที่นอนอยู่บนเตียงพึมพำบางอย่างด้วยความสะลึมสะลือ จู่ ๆ เขาก็สะดุ้งตื่นขึ้นมาเขาฝืนลุกขึ้นนั่ง ใส่อาภรณ์และหนึ่งมือดันผนังห้องเดินออกจากห้องด้วยสีหน้าซีดเผือด เซียวซูเดินขึ้นหน้า “ท่านอ๋อง บาดแผลของท่าน…”“มิต้องยุ่ง” น้ำเสียงฟู่เฉินหวนไม่พอใจ และเดินออกจากเรือนไปในทันทีฟู่เฉินหวนกดหน้าอกไว้ ข่มความเจ็บปวดแรงกล้าจากบาดแผล ควบม้า และมุ่งไปทางตรอกฉางเล่อเมื่อฟู่เฉินหวนมาถึงในร้าน ทำซ่งเชียนฉู่ตกใจเป็นอย

Latest chapter

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1294

    ชายหลายคนก้าวเข้ามารุมทำร้ายอวี๋โหรวในทันทีจั๋วฉ่างตงเปิดกล่องใบหนึ่งออก หมอกดำทมิฬพลันลอยออกมาแล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ “เจ้ายังกล้าสอดมือเข้ามายุ่งเรื่องของลั่วชิงยวนอีก เห็นทีจะยังมีเรี่ยวแรงอยู่ ข้าคงทรมานเจ้ายังมิพอ”“วันนี้เจ้าจงลิ้มรสภูตผีร้ายแห่งหุบเขาฝังศพให้สาสม”จั๋วฉ่างตงใช้ยันต์แผ่นหนึ่งควบคุมหมอกดำทมิฬให้รวมตัวกันกลางอากาศ แล้วพุ่งเข้าโจมตีอวี๋โหรวอย่างรุนแรงอวี๋โหรวกำลังต้านทานการโจมตีของบุรุษเหล่านั้นอยู่ในชั่วขณะต่อมา หมอกดำทมิฬก็พุ่งเข้าใส่ กระแทกเข้าที่ท้องของนางราวกับจะฉีกร่างนางออกเป็นชิ้น ๆ ความเจ็บปวดรุนแรงแล่นปราดเข้าจู่โจมหมอกดำทมิฬนั้นทะลุผ่านร่างของนางไปอวี๋โหรวร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด ล้มลงกระแทกพื้นอย่างแรง เจ็บปวดจนร่างกายสั่นเทา มิอาจลุกขึ้นได้บุรุษเหล่านั้นจับแขนของนางแล้วกระชากให้นางลุกขึ้นหมอกดำทมิฬนั้นพุ่งเข้ากระแทกท้องของนางอีกครั้ง แล้วทะลุผ่านไปอย่างรุนแรงอวัยวะภายในสั่นสะท้านก่อให้เกิดความเจ็บปวดรุนแรง ทำให้อวี๋โหรวสั่นไปทั้งร่าง เจ็บปวดจนริมฝีปากสั่นระริก ใบหน้าซีดเผือดนางไม่มีเรี่ยวแรงที่จะตอบโต้ได้เลยเป็นเช่นนี้ซ้

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1293

    นางมองเขาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความมิพอใจนางเป็นถึงองค์หญิง ความรักของนางนั้นสูงส่งยิ่งนัก เฉินชีควรจะคุกเข่ารับมันไว้ แต่น่าเสียดายที่เขาปฏิเสธนางอย่างเย็นชา! มิหนำซ้ำยังทำให้นางอับอายขายหน้าอีกด้วย!นางมิพอใจและมิเต็มใจอย่างยิ่งเฉินชียิ่งเป็นแบบนี้ นางก็ยิ่งอยากเอาชนะเขาให้ได้!เฉินชีมองนางด้วยความประหลาดใจ แววตาของเขาเต็มไปด้วยความรังเกียจแต่เขาก็ยังคงแย่งกระบี่ในมือเกาเหมียวเหมี่ยวมา แล้วกดศีรษะของนางลง ก่อนจะจุมพิตลงบนริมฝีปากของนางอย่างมิลังเลหัวใจของเกาเหมียวเหมี่ยวเต้นแรงราวกับจะกระโดดออกมาจากอกของนางจูบของเฉินชีนั้นเร่าร้อนและรุนแรงอย่างมิอาจต้านทานได้เกาเหมียวเหมี่ยวถูกจูบจนหมดแรง แทบจะทรุดตัวลงแต่ในขณะที่นางคิดว่าเฉินชีจะทำอะไรต่อไป เฉินชีกลับผลักนางออกอย่างแรงไร้ซึ่งความปรานีก่อนเดินจากไปอย่างสง่างามโดยมิแม้แต่จะหันมามองนางด้วยซ้ำเกาเหมียวเหมี่ยวล้มลงนั่งกับพื้นพลางมองแผ่นหลังของเฉินชีด้วยความตกตะลึงเสียงเย็นชาของเฉินชีดังขึ้นว่า “สิ่งที่ท่านให้ข้าทำ ข้าทำแล้ว เรื่องนี้จบแค่นี้”“หากท่านยังคงใช้เรื่องนี้มาขู่ข้าอีก ข้าจะมิเกรงใจท่านแน่”เฉินชีเดิ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1292

    ลั่วชิงยวนมองอวี๋โหรวด้วยความประหลาดใจ อวี๋โหรวกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “คราวก่อนเจ้ามิได้ถามข้าหรอกหรือว่ามีสิ่งนี้หรือไม่ นี่เป็นดอกสุดท้ายที่ข้าเหลืออยู่”“คราวนี้เจ้าถูกฮองเฮาทำร้ายบาดเจ็บสาหัส ข้าคิดว่าเจ้าย่อมต้องการสิ่งนี้เป็นแน่ จึงได้นำมาให้”ลั่วชิงยวนได้ฟังก็รู้สึกตื้นตันใจยิ่งนัก นางมิคาดคิดว่าอวี๋โหรวจะมอบสิ่งนี้แก่นางด้วยว่ายามนี้ ต่อให้หาทั่วทั้งเมืองหลวงก็หาสิ่งนี้มิได้แล้ว“ขอบคุณ” ลั่วชิงยวนกล่าวอย่างซาบซึ้งใจยามนี้นางต้องการสิ่งนี้ยิ่งนัก“มิต้องเกรงใจ” อวี๋โหรวแย้มยิ้มจากนั้นทั้งสองก็เข้าวังไปด้วยกัน กลับไปยังที่พำนักของสำนักนักบวชของพวกนางการใช้บัวถวายนั้นจำต้องใช้สมุนไพรอื่นร่วมด้วย อวี๋โหรวจึงไปยังคลังโอสถเพื่อนำสมุนไพรมามากมายลั่วชิงยวนจึงก่อไฟต้มยาในลานหลังจากกินยาเข้าไป ลั่วชิงยวนก็รู้สึกถึงกระแสความอบอุ่นแผ่ซ่านไปทั่วร่างสิ่งนี้มีสรรพคุณหลักในการรักษาบาดแผลภายในและฟื้นฟูลมปราณ แต่เมื่อบาดแผลภายในหายดีแล้วย่อมส่งผลดีต่อบาดแผลภายนอกด้วยเช่นกันอวี๋โหรวเห็นว่าหลังจากนางกินยาแล้วสีหน้าของนางก็ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด“ดูเหมือนว่ายานี้จะได้ผลดีกับเจ้าย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1291

    นางจ้องมองไปยังเฉินชีพลางเอ่ยว่า “โอสถนี้ก็แค่บำรุงรักษาร่างกายทั่วไป มิได้มีผลอะไรต่อข้าในยามนี้”เฉินชีกลับกล่าวตอบ “ร่างกายของเจ้าในยามนี้มิอาจกินยาแรงได้ ตำรับยานี้สามารถรักษาบาดแผลภายนอกของเจ้าได้”ลั่วชิงยวนขมวดคิ้วมุ่นมองเขา “แต่ยามนี้ข้าต้องการโอสถรักษาบาดแผลภายใน”“โอสถของเจ้าเพียงรักษาที่ปลายเหตุ มิได้รักษาที่ต้นเหตุ!” เฉินชียังคงยืนกรานในความคิดของตน “วางใจเถิดอาเหลา โอสถที่ข้าให้เจ้ากินนั้นย่อมเหมาะสมแก่เจ้าที่สุด”“เจ้าพักผ่อนให้ดี ข้ายังต้องเข้าวังไปอีกครั้ง”“เรื่องของเกาเหมียวเหมี่ยวยังมิได้สะสาง”“เจ้าพักอยู่ที่นี่ให้สบายใจ ไม่มีผู้ใดกล้าทำร้ายเจ้าหรอก”กล่าวจบ เฉินชีก็จากไปอีกทั้งยังจัดแจงให้คนมาส่งโอสถแก่ลั่วชิงยวนด้วยลั่วชิงยวนพักรักษาตัวอยู่ที่เรือนของเฉินชีสองวันแล้ว ทุกวันจะมีนางรับใช้มาเปลี่ยนผ้าพันแผลและเสื้อผ้าให้ตรงเวลาโอสถที่นำมาให้ก็ล้วนเป็นไปตามตำรับของเฉินชีทว่าลั่วชิงยวนรู้ซึ้งถึงอาการของตนดีว่า ร่างกายของตนนั้นจำต้องได้รับการรักษาด้วยโอสถใดตำรับยาของเฉินชีนั้นเป็นเพียงยาบำรุงร่างกายและให้สารอาหารแก่ร่างกายนี้ แต่การบำรุงเพียงอย่างเดีย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1290

    ขณะพูด เฉินชีก็รีบหยิบขวดโอสถขวดหนึ่งออกมา พลางเทโอสถลูกกลอนหนึ่งเม็ดส่งให้ลั่วชิงยวนกินมันสามารถปกป้องหัวใจของนางได้รถม้าโคลงเคลงไปตลอดทาง เร่งมุ่งหน้าไปยังจวนของเฉินซีอย่างรวดเร็วหลานจีได้ยินเสียงจึงเดินมาที่ลาน นางสงสัยมากว่ามีเรื่องอะไรที่ทำให้ท่านแม่ทัพต้องรีบร้อนออกไปอย่างกะทันหันทว่านางกลับเห็นเฉินชีลงจากรถม้าพร้อมกับอุ้มลั่วชิงยวนที่ได้รับบาดเจ็บ“ท่านแม่ทัพ… นางคือ...” หลานจีรีบสาวเท้าเข้ามาแต่นางกลับถูกเฉินชีผลักออกไปอย่างไร้ความเมตตา “อย่ามาขวางข้า!”หลานจีต้องถอยหลังไปสองก้าวถึงจะทรงตัวไว้ได้เมื่อได้สติ เฉินชีก็เดินไปไกลพร้อมกับสตรีในอ้อมแขนแล้วหลานจีตกตะลึงเหตุใดท่านแม่ทัพถึงต้องเป็นห่วงสตรีนางนั้นถึงเพียงนี้?นางเป็นใครกัน?หลานจีเกิดอาการตื่นตระหนกขึ้นมาอย่างกะทันหันนางตามไปดูด้วยความมิพอใจเฉินชีอุ้มลั่วชิงยวนเข้ามาที่ห้องของตน เขาวางนางลงบนเตียงแล้วเรียกนางรับใช้มาเปลี่ยนอาภรณ์ให้ลั่วชิงยวนนางรับใช้พากันสาละวนเข้า ๆ ออก ๆ เรือนกันยกใหญ่ยามนี้หลั่วชิงยวนหลับไปแล้วจากนั้นเฉินชีก็ออกจากห้องไป และมิรู้ว่าเขาไปที่ใดหลังจากที่นางรับใช้เปลี่ยนอา

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1289

    "ตอนนี้มิว่าท่านจะตรัสอะไรไปก็ไร้ประโยชน์”“ไม่มีใครสนใจหรอกเพคะ”ทันทีที่พูดคำเหล่านี้ออกมา สีหน้าของฉินอี้และฮองเฮาเกาก็เปลี่ยนไปฮองเฮาเกาจ้องนางด้วยสายตาดุร้ายนางยิ้มเยาะ “ในที่สุดก็ยอมเอ่ยปากแล้วรึ? อย่าลืมที่ข้าพูดไว้สิว่า หากเจ้าพูดข้าจะตัดลิ้นเจ้าทิ้งเสีย!”จากนั้นนางก็ส่งสายตาเป็นนัยให้องครักษ์องครักษ์สองคนก้าวไปข้างหน้า คนหนึ่งจับไหล่ของลั่วชิงยวน อีกคนหยิบมีดขึ้นมาเตรียมตัวพร้อมลงมือฉินอี้ตกใจและครุ่นคิดอย่างรวดเร็วว่าจะทำอย่างไรดีลั่วชิงยวนยังมิยอมแพ้ รอยยิ้มเย็นชาผุดขึ้นบนใบหน้าของนาง “องค์ชายใหญ่ทรงเคยคิดหรือไม่เพคะว่าเหตุใดวรยุทธ์ของท่านถึงหยุดนิ่งมิพัฒนาไปไหน?”“เหตุใดถึงเรียนรู้ได้ช้า แม้จะทุ่มเทความพยายามมากกว่าคนทั่วไปหลายสิบเท่า แต่ก็ยังมิสามารถเรียนรู้ได้เท่ากับที่คนอื่นทำได้”“นั่นมีเหตุผลอยู่เพคะ”“ที่จริงแล้ว ทั้งหมดมิใช่เป็นเพราะพรสวรรค์ที่ธรรมดาเพคะ”“แต่มีพิษชนิดหนึ่งที่ชื่อว่า…”เมื่อเขาได้ยินเช่นนั้น ฉินอี้ก็ตกใจเป็นอย่างมากฮองเฮาเการีบกระชับเสื้อของนางด้วยความกังวล สีหน้าของนางเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงและขณะที่ลั่วชิงยวนกำลังจะพูดออกมาน

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1288

    ทันทีที่คำกล่าวเหล่านี้หลุดออกมาร่างกายของฟู่เฉินหวนก็แข็งทื่อดวงตาของฉินอี้เต็มไปด้วยความคาดหวังอันร้อนแรงตั้งแต่เล็กจนโต แม้เขาจะเป็นองค์ชาย แต่ก็มีเพียงมิกี่คนที่ให้ความเคารพเขาแม้กระทั่งน้องสาวของเขาเองก็มักจะลงมือทำร้ายเขาบ่อย ๆ โดยมิไว้หน้ากันเลยแม้แต่น้อยส่วนคนที่อยู่ตรงหน้าเขาคืออ๋องผู้เป็นเทพสงครามเทพแห่งแคว้นเทียนเชวียและผู้สำเร็จราชการผู้ยิ่งใหญ่ในใต้หล้าเขาจึงตั้งตารอที่จะได้เห็นฟู่เฉินหวนคุกเข่าด้วยความเคารพฟู่เฉินหวนกำหมัดแน่นซ้ำแล้วซ้ำเล่าที่จริงเขาสามารถเจรจากับฉินอี้ได้ และมีเงื่อนไขต่าง ๆ มากมายที่เขาสามารถพูดคุยกับอีกฝ่ายได้ทว่าการเจรจาต้องอาศัยยุทธวิธีและที่สำคัญกว่านั้นคือ ต้องมีจิตใจที่สงบมั่นคงแต่ในเวลานี้ ฟู่เฉินหวนมิสามารถทำเช่นนั้นได้เขาแทบจะรอมิไหวแล้วดวงตาของเขาขรึมลง พลางยกเสื้อคลุมขึ้นและคุกเข่าลงเสียงดังตึงเมื่อเข่ากระทบพื้นนั้นเจือไปด้วยความอึดอัดกลัดกลุ้ม แต่เป็นเสียงที่ฉินอี้ฟังแล้วรู้สึกสบายหูเป็นอย่างยิ่งมิอาจปฏิเสธได้ว่าตอนนี้เขาพอใจอย่างถึงที่สุดนี่เป็นความรู้สึกที่เขาพยายามเสาะหามาตลอดหลายปีแต่ก็มิเคยได้มันมาโดยเฉพา

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1287

    ในห้องขังอันเงียบงัน เสียงเฆี่ยนตีดังชัดเจนจนเหมือนได้ยินเสียงผิวหนังฉีกออกเป็นชิ้น ๆทำเอาคนที่ได้ยินรู้สึกใจสั่นที่มุมตรงทางเดิน บุรุษสวมหน้ากากที่อยู่ข้างหลังฉินอี้กำหมัดแน่นในทันทีฝ่ามือถูกจิกจนเกือบจะเลือดออกฟู่เฉินหวนที่ได้ยินเสียงนั้นก็รู้สึกเป็นห่วงและอดมิได้ที่จะพุ่งไปหาแต่ฉินอี้คว้าข้อมือของเขาเอาไว้“เฉินชีจะมาช่วยนางเอง”“หากตอนนี้เจ้าถูกจับได้ก็ช่วยนางออกไปมิได้ แล้วพวกเจ้าก็จะต้องตายอยู่ที่นี่”“ด้วยตัวตนของเจ้า มีแต่จะต้องเผชิญกับจุดจบที่น่าอนาถยิ่งกว่าเดิม”ฟู่เฉินหวนกำหมัดแน่น เขาก้าวถอยหลังมาหนึ่งก้าวและอดทนต่อไปฝ่ามือของเขาเหงื่อออกเมื่อได้ยินเสียงเฆี่ยนตีอย่างต่อเนื่องแต่ไม่มีเสียงร้องของความเจ็บปวด ก็สามารถบอกได้ว่า ลั่วชิงยวนกำลังทุกข์ทรมานกับความเจ็บปวดมากเพียงใดนั่นทำให้ฟู่เฉินหวนรู้สึกปวดใจเป็นอย่างมากทว่าเขาทำได้เพียงเฝ้ามองจากที่ไกล ๆ มิสามารถเข้าไปใกล้หรือช่วยนางได้เสียงแส้ดังขึ้นอย่างมิหยุดหย่อน และเสียงแส้ในแต่ละครั้งนั้นดูเหมือนจะฟาดลงไปที่หัวใจของฟู่เฉินหวนจนเลือดสด ๆ ไหลออกมาเป็นทางเวลาเหมือนจะผ่านไปอย่างเชื่องช้า และเสียงแส้น

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1286

    ภายในห้องบรรทมอันโอ่อ่าฉินอี้เดินมาที่ข้างเตียงด้วยร่างกายที่เต็มไปด้วยบาดแผลยามนี้เกาเหมียวเหมี่ยวได้ทำแผลและกินโอสถเรียบร้อยแล้ว แต่ใบหน้าของนางยังคงซีดอยู่เล็กน้อยเมื่อเห็นฉินอี้เดินมาหาด้วยใบหน้าฟกช้ำและเปื้อนเลือด เกาเหมียวเหมี่ยวจึงมองเขาด้วยความมิอยากเชื่อ“ท่านแพ้ลั่วชิงยวนรึ?”ฉินอี้ขมวดคิ้วเป็นปม พลางมองบาดแผลของเกาเหมียวเหมี่ยวด้วยความกังวลและพูดว่า “เหมียวเหมี่ยว บาดแผลเจ้าสาหัสมาก ช่วงสองวันนี้เจ้าควรพักผ่อนให้ดีก่อน อย่าเพิ่งเดินไปไหนมาไหนเลย”ทว่าเกาเหมียวเหมี่ยวกลับมิได้สนใจในความห่วงใยของฉินอี้นางจ้องมองฉินอี้ด้วยความโมโหแล้วยกฝ่ามือฟาดไปหนึ่งฉาดฉินอี้มิประหลาดใจแม้แต่น้อย แต่กลับมองเกาเหมียวเหมี่ยวด้วยสีหน้าจริงจังและเป็นห่วง“เหมียวเหมี่ยว...”เกาเหมียวเหมี่ยวโมโหมากจนเอามือฟาดเขาสองครั้งติดต่อกันและแสดงความเกรี้ยวกราดออกมา “ขยะไร้ค่า! ขยะไร้ค่า!”“ท่านเป็นถึงองค์ชายผู้สูงส่ง แต่กลับถูกลั่วชิงยวนจัดการจนมีสภาพเช่นนี้ อับอายจนมิรู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ใด!”เกาเหมียวเหมี่ยวโกรธจนแทบอยากจะฉีกลั่วชิงยวนเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยดวงตาของฉินอี้หรี่ลง แต่กลับมิได

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status