แชร์

บทที่ 363

ผู้เขียน: หว่านชิงอิ๋น
แต่ลั่วไห่ผิงคงมิสามารถเข้าถึงราชลัญจกรหยกนั้นได้!

เกิดอะไรขึ้นกันแน่?

นางมิเข้าใจจึงหยุดคิดถึงเรื่องนี้

“ท่านอ๋อง แล้วท่าน...” นางหันกลับมากำลังจะเอ่ยบางสิ่ง

ทันใดนั้นก็พบว่าฟู่เฉินหวนหลับไปแล้ว

ลั่วชิงยวนรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย

เมื่อมองดูขวดเหล้าที่กระจัดกระจายอยู่เต็มพื้น นางก็มิสามารถอธิบายความรู้สึกในใจของนางได้

ฟู่เฉินหวนถือว่าลั่วชิงยวนเป็นศัตรู

แต่เขาถือว่าฉู่ลั่วเป็นมิตรสหายที่สามารถพูดคุยความกังวลด้วยได้

หากวันหนึ่งเขารู้ว่าฉู่ลั่วคือลั่วชิงยวน เขาจะตอบสนองอย่างไร?

บางทีเขาอาจจะคิดว่านางเข้าหาเขาอย่างมีเจตนาแฝงด้วยการเป็นฉู่ลั่ว

นางนั่งอยู่ในลานเป็นเวลานานแล้ว และเมื่อไฟค่อย ๆ ดับลง นางก็พยายามดึงฟู่เฉินหวนขึ้นมาจากพื้น

นางต้องการช่วยเขาเข้าไปในห้อง แต่ความเจ็บปวดทั่วร่างของนางและน้ำหนักของฟู่เฉินหวนทำให้นางเคลื่อนไหวลำบาก

เมื่อนางพยายามจะก้าวขึ้นบันได ก็ล้มลงไปพร้อมกับฟู่เฉินหวนทันใด

ทันทีที่นางก้าวพลาดไถล ทันใดนั้นแขนแกร่งก็คว้าเอวนางป้องมิให้ล้มลง

เมื่อนางหันหน้าไป ก็พลันสัมผัสกับใบหน้าที่อยู่ห่างไปเพียงไม่กี่นิ้วทันใด สบเข้ากับดวงตาแดงก่ำ ลึกล้ำ และเมาเล็กน
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 364

    คร่อกกกก!ลั่วชิงยวนขมวดคิ้วมุ่นพลางเหลือบมองเขาด้วยความหงุดหงิด ดึงผ้าห่มมาคลุมเขาไม่แม้แต่จะถอดรองเท้าให้ แล้วเดินออกจากห้องไปเมื่อนางเดินออกจากห้องมา ก็พบว่ามีเลือดไหลออกมาจากข้อมือของนางนางกลับมาที่ห้องของตน หยิบล่วมยาออกมา ใส่ยาแล้วพันผ้าพันแผลทีละน้อยเสียงดังมากจนซ่งเชียนฉู่ตื่นขึ้นมา นางลุกขึ้นแล้วเดินไป “เหตุใดท่านถึงได้รับบาดเจ็บ ฝีมือผู้ใดกัน?”ลั่วชิงยวนถอนหายใจ “เรื่องมันยาว”“วันนี้เจ้ามิได้เจอปัญหาอันใดที่จวนมหาราชครูใช่หรือไม่?”ซ่งเชียนฉู่ส่ายหัว “จักมีปัญหาอันใดได้อีกเล่า คนมิน้อยกรูมาหาข้าให้ทำนายดวงชะตา ข้าก็ปฏิเสธพวกเขา แล้วบอกให้พวกเขามาหาท่านที่ร้านเอง”“ท่านอ๋องเล่า? ไฉนพระองค์จึงเสด็จมาพบท่านคืนนี้กัน?”“อาการบาดเจ็บของท่านเกี่ยวข้องกับ่ท่านอ๋องใช่หรือไม่?”ซ่งเชียนฉู่จับมือนางแล้วเลิกแขนเสื้อขึ้นมีรอยเลือดที่หลังมือและข้อมือรอยแผลที่อยู่บนมืออันยุติธรรมนั้นชวนให้ตกตะลึงลั่วชิงยวนขมวดคิ้วและพึมพำ "จิตใจบุรุษนั้นยากแท้ที่จะหยั่งถึงได้ ข้ามิรู้ว่าเขาต้องการทำกระไร คนที่น่าสงสัยเช่นนั้นสามารถคุยเปิดใจกับคนที่เขามิรู้จักดีด้วยซ้ำได้อย่างไร?"สิ่

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 365

    เมื่อได้ยินเช่นนี้ ฟู่เฉินหวนก็พลันตกใจลั่วชิงยวนก็เข้าไปในห้องตำราเมื่อเห็นนางยืนอยู่ตรงหน้าตน ฟู่เฉินหวนก็ขมวดคิ้ว เขาก็ไม่รู้จะพูดอะไรอยู่ครู่หนึ่งลั่วชิงยวนมิรอให้ฟู่เฉินหวนได้เอ่ยอะไรจึงรีบเอ่ยตัดขึ้น “ท่านอ๋อง งานแต่งงานของลั่วหลางหลางจบลงแล้ว ถึงเวลาที่หม่อมฉันต้องกลับจวนนอกเมืองแล้วเพคะ”“หากท่านอ๋องทรงอนุญาต วันนี้หม่อมฉันจักเก็บข้าวของกลับจวนนอกเมือง”ลั่วชิงยวนลดเสียงลงและดูระแวดระวัง จึงทำให้ฟู่เฉินหวนรู้สึกอึดอัดเล็กน้อยราวกับมีคำพูดมากมายอยู่ในใจ แต่กลับมิสามารถเอ่ยอะไรออกไปได้เขาไพล่มือไว้ด้านหลัง หันหลังกลับมาพูดอย่างเย็นชา "หากเจ้ารู้ข้อผิดพลาด ข้าจักให้เจ้าอยู่ตำหนัก"ท่าทางที่เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่นั้นทำให้ลั่วชิงยวนเยาะเย้ยอยู่ในใจ“หม่อมฉันมิใช่คนผิด ล้วนเป็นอคติของท่านอ๋องทั้งสิ้น”“ในสายพระเนตรของท่านอ๋อง ทุกสิ่งที่หม่อมฉันทำนั้นผิดทั้งสิ้น หม่อมฉันจักไม่อยู่ให้ท่านเห็นอีก ได้โปรดให้หม่อมฉันกลับไปที่จวนนอกเมือง ภายภาคหน้าท่านจักได้มิต้องกังวลเรื่องหม่อมฉัน ทำเหมือนว่าไม่เคยมีหม่อมฉันเถิดเพคะ”ลั่วชิงยวนพูดด้วยน้ำเสียงจริงใจ นางหวังจริง ๆ ว่าฟู่เฉินหวน

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 366

    ฟู่เฉินหวนยิ่งรู้สึกโกรธเมื่อได้ยินน้ำเสียงคาดหวังของนางนางหลงรักฟู่อวิ๋นโจวเช่นนั้นหรือ?คราแรกนางอยากแต่งงานกับเขาสุดใจมิว่าจะด้วยวิธีใด แต่ยามนี้นางต้องการหย่าและอยู่ร่วมกับฟู่อวิ๋นโจวนางคิดเช่นไรกับเขากันแน่? !ลำคอหายใจขัดคล่อง โทสะปะทุอย่างควบคุมมิได้ แต่ในที่สุดเขาก็มิได้เอ่ยวาจาใด เพียงตะโกนว่า “ออกไป!”ลั่วชิงยวนมิเข้าใจว่าเหตุใดเขาจึงโกรธกะทันหันเยี่ยงนี้ อย่างไรแล้วเขาก็มิได้รักนาง แล้วเหตุไฉนเขาจึงสนใจปฏิสัมพันธ์ของนางกับฟู่อวิ๋นโจวอยู่เสมอเล่า?แม้ว่าปกติ ฟู่อวิ๋นโจวจะเรียกเธออย่างใกล้ชิดสนิทสนม แต่พวกเขาก็เป็นเพื่อนกัน ปฏิสัมพันธ์ของพวกเขาก็มิได้ข้ามเส้นมิตรภาพ ไฉนฟู่เฉินหวนถึงเป็นเช่นนี้?นางระงับความคับข้องใจแล้วหันหลังเดินออกจากห้องตำราไปนางต้องออกจากตำหนักอ๋องให้จงได้ทันทีที่เธอเดินมาถึงลานด้านหน้า องครักษ์กลุ่มหนึ่งก็ล้อมนางเอาไว้ “พระชายา โปรดกลับไปที่เรือนเถิดขอรับ!”ลั่วชิงยวนถูกขังไว้ในเรือน คราวนี้ประตูถูกล็อกหนาแน่นเพื่อกันมิให้นางออกไปจือเฉาเองก็ถูกขังอยู่ในเรือนกับนาง มีเพียงแม่นมเติ้งเท่านั้นที่นำอาหารมาให้ทั้งสองจากข้างนอกได้ลั่วชิงยวนนั

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 367

    ลั่วชิงยวนหัวเราะเบา ๆ "หน้ากากดูดีต่างหาก มิใช่สวมบนหน้าข้าแล้วดูดี"หลังจากนั้นไม่นาน ซูโหยวก็เข้ามาเชิญนางไปเมื่อลั่วชิงยวนเดินไปที่ลานด้านหน้าก็เห็นว่า วันนี้ฟู่เฉินหวนเองก็สวมอาภรณ์งดงาม งานปักที่ประณีตโอ่อ่า ดูสูงส่งและลึกลับ ทำให้ใบหน้าที่ห่างเหินอยู่แล้วยิ่งเข้าถึงได้ยากฟู่เฉินหวนหันกลับไปมอง ก็พลันตกใจในบัดนั้นดูเหมือนนางจะไม่อ้วนแล้ว กอปรกับสวมหน้ากาก ยิ่งทำให้ทั้งดูสง่างาม โอ่อ่า มีรัศมีแห่งความเป็นพระชายายิ่ง“ไปกันเถอะ” ฟู่เฉินหวนเอ่ยขณะรอลั่วชิงยวน และทั้งสองก็อยากจากตำหนักไปด้วยกันทั้งสองขึ้นรถม้าแล้วมุ่งหน้าเข้าสู่วังหลวงบนรถม้า ฟู่เฉินหวนพูดอย่างเย็นชา “วันนี้ระหว่างพิธีเทศกาลโคมไฟ สิ่งที่เจ้าต้องทำมีเพียงแค่ตามตัวข้า มิจำเป็นต้องทำสิ่งใด”ลั่วชิงยวนพยักหน้าเล็กน้อยมิเอ่ยวาจาใดระหว่างทางทั้งสองไม่มีแม้บทสนทนาอื่นแต่ยิ่งเข้าใกล้ประตูวังหลวง หัวใจของลั่วชิงยวนก็ยิ่งเต้นเร็วขึ้นเรื่อย ๆ รู้สึกราวกับว่าจะมีเรื่องเลวร้ายเกิดขึ้นวันนี้มิใช่วันที่ดีสำหรับนางเป็นแน่นางหวังเพียงว่าพิธีจะดำเนินไปอย่างราบรื่นเมื่อมาถึงนอกหอบรรพบุรุษ ขุนนางน้อยใหญ่ทั้งหลายก็

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 368

    ปักธูปลงในกระถาง!การเคลื่อนไหวนี้ทำให้เหล่าธารกำนัลต่างตกใจ“ท่านอ๋อง อย่า!” สีหน้าใต้เท้าฟางซีดลงในทันใดก่อนที่เขาจะทันได้พูดจบทันใดนั้น ควันทมิฬหลายสายก็ลอยขึ้นมาจากเสาหงส์เพลิง พุ่งเข้าจับร่างของฟู่เฉินหวนไว้“บรรพบุรุษราชวงศ์กริ้วแล้ว จบสิ้นแล้ว!” ใต้เท้าฟางอุทานด้วยความหวั่นกลัวและคุกเข่าลงขุนนางน้อยใหญ่วุ่นอลหม่านนี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้เห็นปรากฏการณ์เช่นนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานที่เช่นหอบรรพบุรุษเรื่องเช่นนี้มิเคยเกิดขึ้นในพิธีมาก่อน!กลุ่มคนวิ่งเข้ามารวมตัวล้อมรอบจักรพรรดิและไทเฮาพร้อมตะโกนว่า “คุ้มกัน!”ควันทมิฬยังคงจับร่างของฟู่เฉินหวนที่ยืนอยู่บนแท่น เป็นภาพที่สร้างความหวั่นกลัวให้กับผู้ที่เห็นอย่างยิ่งแต่ภายในควันทมิฬนั้น ลั่วชิงยวนกลับมองเห็นร่างของนางผู้หนึ่งได้อย่างชัดเจนวันนี้ผู้คนวุ่นวาย อาจมีผู้หมายทำร้ายฟู่เฉินหวน!“องค์ไทเฮา! องค์จักรพรรดิ! ท่านอ๋องรุกรานพระวิญญาณบรรพบุรุษราชวงศ์ หอบรรพบุรุษมิอาจทนได้ ท่านอ๋องควรต้องโทษประหารทันทีเพื่อบรรเทาความกริ้วของเหล่าบรรพบุรุษราชวงศ์พ่ะย่ะค่ะ!”ใต้เท้าฟางคุกเข่าลงตรงหน้าไทเฮาทันใดครั้นคำพูดเหล่านี

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 369

    ทุกคนต่างกดดันให้จักรพรรดิตัดสินโทษประหารแก่ท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการบัดนี้ฟู่เฉินหวนที่อยู่บนแท่นก็เผชิญกับการทดสอบขีดจำกัดของตนในสายตาของผู้คน สิ่งนี้เป็นเพียงควันทมิฬหนาแน่นที่เหนี่ยวจับฟู่เฉินหวนเอาไว้แต่ในสายตาของลั่วชิงยวน วิญญาณชั่วร้ายมิเพียงจับฟู่เฉินหวนไว้เท่านั้น แต่ยังพยายามโจมตีเขาด้วย! ควันทมิฬสายหนึ่งพยายามเจาะเข้าไปในร่างกายของฟู่เฉินหวนอย่างบ้าคลั่งเดิมทีฟู่เฉินหวนได้รับการปกป้องจากพลังงานมังกรรอบตัวเขา แต่บัดนี้พลังนั้นเริ่มอ่อนแอลงเรื่อย ๆแรงกดดันอันรุนแรงพุ่งสู่ฟู่เฉินหวน ทำให้เขาหายใจลำบากยากจะหายใจทันใดนั้นเขาก็หมดแรงจะต้านไหวและถูกกดให้คุกเข่าลงกับพื้นรสหวานคาวของเลือดโชกอยู่ในลำคอของเขา แต่เขอดทนระงับมันไว้มิให้ผู้ใดเห็นรอยเลือด มิเช่นนั้นคนพวกนั้นจะยกเหตุขึ้นมาเพิ่มเพื่อให้ประหารเขา!ลั่วชิงยวนมองเห็นทุกอย่างชัดเจน หัวใจของนางแทบจะกระโจนออกมามองดูเงาในความดำมืด มีดยาวอันคมกริบก็ก่อตัวขึ้นในมือของมัน พลันฟันไปที่คอของฟู่เฉินหวนจากด้านหลัง!ลั่วชิงยวนแทบขาดอากาศหายใจนางวิ่งขึ้นไปข้างหน้าอย่างไร้ซึ่งความลังเล พุ่งขึ้นไปบนอากาศ พลันดึงโซ่อักขระออก

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 370

    “สิ่งที่เรียกว่าบุพนิมิตและลางร้ายล้วนกระทำโดยเจตนาของผู้ที่หมายใส่ร้ายท่านอ๋อง!”เสียงหนักแน่นเด็ดเดี่ยวขอนางดังก้องไปทั่วจัตุรัสไม่รู้ว่าหน้ากากทองคำนั้นเด่นแวววาวเกินไปหรือไม่ แต่มันให้ความรู้สึกยิ่งใหญ่และแข็งแกร่งเมื่อได้ยินวาจาเหล่านั้น ก็เกิดเสียงอุทานโดยรอบ“อะไรนะ? ใส่ร้าย?”“หมายความเยี่ยงไร?”หากใส่ร้าย เช่นนั้นแล้วปรากฏการณ์ประหลาดนี้จะเกิดขึ้นได้อย่างไรเล่า?บัดนี้เหล่าขุนนางน้อยใหญ่ต่างสับสนฉงนใจใต้เท้าฟางกล่าวอย่างเคร่งขรึม "ไร้สาระ! พระชายาอ๋องมิเคยมาที่แห่งนี้ นางคงมิรู้ถึงความสำคัญของอนุสวรีย์มังกรและหงส์เพลิง สิ่งนี้แสดงถึงพระวิญญาณบรรพบุรุษของราชวงศ์ในหอบรรพบุรุษ พระชายาอ๋องเอ่ยไร้สาระเช่นนี้เพื่อปกป้องท่านอ๋องเสียมากกว่าหรือไม่?”ได้ยินเช่นนั้นลั่วชิงยวนก็หัวเราะเยาะ “ข้ารึพูดไร้สาระ? เป็นท่านต่างหากกระมัง ใต้เท้าฟาง?"“ดูท่านจะตอกหน้าข้าแทบหัวชนฝา หรือเป็นท่านเองเล่าที่สร้างสิ่งนี้ขึ้นมา?”ลั่วชิงยวนหยิบหุ่นเชิดและเผชิญหน้ากับใต้เท้าฟางใต้เท้าฟางหน้าซีดลดทันใด “สิ่งนี้มาจากที่ใด ข้าหาได้รู้ไม่”ลั่วชิงยวนถือหุ่นเชิดไว้พลางพูดต่อ “เหตุการณ์ทั้งหมดเ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 371

    “วันนี้มีเหตุประหลาดเกิดขึ้นในพิธีการ มิควรละเลย! เช่นนั้นแล้วเราสืบหาความจริงเรื่องนี้อย่างถี่ถ้วน! แม้แต่ท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการและพระชายาอ๋องก็ควรได้รับการสืบสวน! เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของทั้งสอง!”ทันทีที่เขาเห็นมหาราชาจารย์เหยียนออกมา หัวใจของลั่วชิงยวนก็เริ่มจมลงนางคาดการณ์เหตุล่วงหน้าของตนได้แล้วการแย่งชิงอำนาจในแคว้นเทียนเชวียนั้นซับซ้อนยิ่ง แม้ว่าบิดาของนางจะเป็นอัครเสนาบดีแต่ก็ไร้ซึ่งอำนาจเมื่ออยู่ต่อหน้ามหาราชาจารย์เหยียนในสายตาของมหาราชาจารย์เหยียน นางผู้เป็นบุตรีของอัครเสนาบดีเป็นเพียงมดตัวหนึ่งที่จะขยี้เมื่อใดก็ได้บุรุษเพียงผู้เดียวที่สามารถโต้แย้งกับมหาราชาจารย์เหยียนได้ มิจำเป็นต้องปกป้องนางแม้แต่ยามนี้เอง วาจาของจักรพรรดิยังติดอยู่ในลำคอ มิสามารถเอ่ยตรัสอันใดออกไปได้ เขามิกล้าเมื่อเห็นจักรพรรดินิ่งเงียบ ไทเฮาจึงรับสั่งว่า “ผู้ใดก็ได้! จงนำตัวอ๋องผู้สำเร็จราชการและพระชายาอ๋องมา…”ก่อนที่ไทเฮาจะทันได้เอ่ยจบ ทันใดนั้นเสียงที่เข้มงวดเปี่ยมอำนาจก็พลันดังขึ้น“ดูเสียเถิดว่าผู้มันกล้าขยับ!”ธารกำนัลทั้งหลายพลันหันไปตามเสียงเหล่าข้าหลวงแบกเกี้ยวมา บุรุษวัย

บทล่าสุด

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1211

    นางเอ่ยปากอย่างอ่อนแรง “ได้”ลั่วฉิงพยุงนางขึ้น แล้วโยนนางลงบนเก้าอี้ลั่วชิงยวนไร้เรี่ยวแรงจะพูด “ข้าต้องการสมุนไพร”มือทั้งสองข้างของนางวางอยู่บนที่วางแขน แท่งเหล็กยังคงปักอยู่ เลือดไหลอาบมิหยุด ขยับร่างกายมิได้เลยลั่วฉิงมองนางอย่างเย็นชา ก่อนจะกดมือของนางไว้แล้วดึงแท่งเหล็กออกอย่างรวดเร็ว“กรี๊ด”ลั่วชิงยวนร้องลั่นด้วยความเจ็บปวดลั่วฉิงโน้มตัวลงมองนางด้วยสายตาเย็นชา “ก่อนหน้านี้เจ้ามิเคยกลัวความเจ็บปวดเช่นนี้ ลั่วเหลา”ลั่วชิงยวนตัวสั่น มองนางด้วยความตกใจ“นี่ก็เป็นสิ่งที่ฟู่เฉินหวนบอกเจ้าเช่นนั้นหรือ?” ลั่วชิงยวนรู้สึกทั้งโกรธและสิ้นหวังในใจลั่วฉิงนำยามาทำแผลให้พลางหัวเราะอย่างดูถูก “มินึกเลยว่านักบวชระดับสูงลั่วเหลาผู้มีพรสวรรค์มาตั้งแต่เด็ก ถูกอาจารย์เอ็นดูทะนุถนอมมาโดยตลอด สุดท้ายกลับพ่ายแพ้ให้กับบุรุษ”ในน้ำเสียงของลั่วฉิงแฝงไปด้วยความอิจฉาริษยาลั่วชิงยวนมองนางด้วยแววตาเย็นชา “ข้ากับเจ้ามิเคยมีเรื่องบาดหมางกันมิใช่หรือ”แววตาของลั่วฉิงเต็มไปด้วยความเกลียดชัง มองนางอย่างเย็นชา “ในสายตาของเจ้า อาจจะไม่มีเรื่องบาดหมาง”“แต่สำหรับข้า เรื่องบาดหมางนั้นใหญ่หลวงนัก

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1210

    “กรี๊ด” ลั่วชิงยวนกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด ได้แต่ขดตัวอยู่บนพื้น ตัวสั่นเทาด้วยความเจ็บปวดรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่า แท่งเหล็กถูกแทงลึกลงไปอีก ความรู้สึกที่กระดูกถูกแยกออกจากกันนั้นทำให้เจ็บปวดจนอยากตาย“ดี ยังมิยอมบอกอีกใช่หรือไม่”ลั่วฉิงหยิบแท่งเหล็กอีกอันแทงเข้าไปในมืออีกข้างของลั่วชิงยวนอย่างแรงตลอดทั้งคืน ลั่วชิงยวนถูกทรมานจนเหมือนตายแล้วเกิดขึ้นใหม่ หลายครั้งที่สลบไปเพราะความเจ็บปวด แล้วก็ถูกปลุกให้ตื่นขึ้นมาด้วยความเจ็บปวดจนในที่สุด คอของนางก็แหบแห้งจนส่งเสียงร้องมิได้ด้วยซ้ำฟ้าสางแล้ว แสงแดดสาดส่องเข้ามา ลั่วชิงยวนนอนแน่นิ่งอยู่บนพื้นราวกับแอ่งโคลนเปียก มิขยับเขยื้อนเลยแม้แต่น้อยเลือดเปรอะเปื้อนอาภรณ์ของนางจนเป็นสีแดงฉาน แสงแดดส่องกระทบกองเลือดจนเป็นประกาย......ตำหนักอ๋องมีเสียงคำรามด้วยความโกรธดังมาจากห้องตำรา“ยังไม่มีใครมารายงานข้าสักคน! รีบไปหา! ออกไปหาให้หมด!”ฟู่เฉินหวนโกรธจัด มึนหัวจนต้องเอามือยันโต๊ะไว้ถึงแม้จะนั่งลงเพื่อจัดการเรื่องต่าง ๆ แต่ก็ยังมิสามารถสงบสติอารมณ์ได้ ร้อนรุ่มใจยิ่งนักได้แต่หวังว่านางจะออกจากตำหนักไปเองจือเฉายังคงอยู่ที่หน้าประ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1209

    ในชั่วขณะนั้น นางเกือบจะคิดว่าตัวเองกำลังฝันไป เหตุใดนางจึงเห็นลั่วฉิงแต่คำพูดของลั่วฉิงในวินาทีต่อมา ทำให้นางรู้สึกราวกับตกอยู่ในหุบเหวลึก“แม้แต่ท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการก็ยังจัดการคนดื้อรั้นเช่นเจ้ามิได้ ต้องให้ข้ามาเองเลยหรือ”ร่างของลั่วชิงยวนสั่นเทามิหยุด หนาวเหน็บจนแทบจะไร้ความรู้สึกน้ำตาที่ไหลอาบใบหน้าซีดเซียวหยดลงบนพื้นทีละหยดลั่วชิงยวนมองไปรอบ ๆ แล้วพบว่าที่นี่คือห้องห้องหนึ่งแต่มิใช่ในตำหนักอ๋อง“เหตุใดข้าจึงมาอยู่ที่นี่” นางจำได้ว่าหลังจากที่จือเฉาทายาให้แล้วนางก็หลับไปลั่วฉิงหัวเราะเบา ๆ “แน่นอนว่าฟู่เฉินหวนส่งเจ้ามาให้ข้า”“เขาเค้นคำตอบจากเจ้ามิได้ จึงต้องให้ข้ามาจัดการเอง”ได้ยินดังนั้น หัวใจของลั่วชิงยวนก็แตกสลายเป็นเสี่ยง ๆ อีกครั้งเขายังคิดว่าตัวเองยังโหดร้ายมิพออีกหรือ จึงส่งนางให้ลั่วฉิงเช่นนี้นี่ต้องการทรมานนางจนตายจึงจะหายแค้นหรืออย่างไรลั่วฉิงหยิบกล่องใบหนึ่งมาเปิดออก ข้างในเต็มไปด้วยแท่งเหล็กขนาดเท่าหัวแม่มือแล้วกล่าวอย่างแผ่วเบา “เจ้าน่าจะรู้ว่าข้าต้องการอะไร”“หากตอนนี้เจ้าบอกวิธีใช้เข็มทิศอาณัติสวรรค์ ข้าจะไว้ชีวิตเจ้า”“หากพลาดโอกาสนี้

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1208

    ในวินาทีต่อมา องครักษ์ก็กรูกันเข้ามาลากลั่วชิงยวนออกไปที่ลานหลังจากกดนางลงกับพื้นก็ใช้หวายฟาดลงบนร่างของนางอย่างมิปรานีความเจ็บปวดแล่นริ้ว ลั่วชิงยวนจิกเล็บลงบนพื้นหิมะจนเป็นรอยลึกจือเฉากระโจนเข้ามาจากนอกลาน “หยุด! หยุด!”“ท่านอ๋อง เหตุใดจึงทำกับพระชายาเช่นนี้ พระชายาทำผิดอันใดหรือเพคะ!”“ท่านอ๋อง ขอได้โปรดปล่อยพระชายาเถิดเพคะ! ตั้งแต่เข้าเหมันตฤดู แผลบนร่างของพระชายาก็ยังมิหาย! หากโบยเช่นนี้ต่อไปคงจะสิ้นใจเป็นแน่เพคะ!”“ท่านอ๋องทรงพระกรุณาด้วยเพคะ!” จือเฉาโผเข้ากอดลั่วชิงยวนเพื่อรับหวายแทนแต่กลับถูกองครักษ์ดึงตัวออกไปจือเฉาร้องขอความเมตตาสุดเสียง แต่บุรุษที่ยืนอยู่ใต้ชายคากลับมีสีหน้าเรียบเฉย นัยน์ตาฉายแววเย็นชาไร้ซึ่งความอบอุ่น“พระชายา...” จือเฉาร้อนใจ แทบจะเป็นลมเพราะร้องไห้หนักลั่วชิงยวนเจ็บปวดจนแทบมิได้ยินเสียงของจือเฉา มีเพียงความเจ็บปวดมิรู้จบ ยาวนานราวกับไม่มีที่สิ้นสุดหลังจากที่ลั่วชิงยวนสลบไป ฟู่เฉินหวนจึงสั่งให้หยุดแล้วจากไปด้วยความโกรธจือเฉาโผเข้าหาลั่วชิงยวน เมื่อเอื้อมมือไปสัมผัสก็พบว่ามือเปื้อนไปด้วยเลือด นางรีบชักมือกลับมองเลือดที่ไหลนองเต็มพื

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1207

    ฟู่เฉินหวนกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา แววตาที่น่ารังเกียจนั้นทำให้หัวใจของลั่วชิงยวนเจ็บปวดราวกับถูกเข็มทิ่มแทงลั่วชิงยวนกัดฟันพลางกลั้นน้ำตาไว้ “ท่านมิได้บอกว่าจะเชื่อหม่อมฉันหรอกหรือเพคะ?”“หากหม่อมฉันบอกท่านทั้งหมด ท่านก็จะเชื่อหม่อมฉันมิใช่หรือเพคะ!”ฟู่เฉินหวนมีแววตาเย็นชา มองนางอย่างเฉยเมย “แต่เจ้าบอกข้าทั้งหมดแล้วหรือยังเล่า? เจ้ายังคงปิดบัง ยังคงหลอกลวง!”เสียงตำหนินั้นเต็มไปด้วยความโกรธทำให้หัวใจของลั่วชิงยวนแทบแตกสลาย“ฟู่เฉินหวน วันนี้ท่านมาก็เพื่อหลอกลวงหม่อมฉันอีกแล้วใช่หรือไม่”“จุดประสงค์สุดท้ายของท่านคือ หลอกล่อให้หม่อมฉันบอกวิธีใช้เข็มทิศอาณัติสวรรค์ เพราะลั่วฉิงใช้มันมิได้ ใช่หรือไม่!”ลั่วชิงยวนตะโกนด้วยความโกรธ“หม่อมฉันช่างโง่เขลาที่เชื่อใจท่าน บอกความลับทั้งหมดให้ท่านฟัง แต่ท่านก็หลอกลวงหม่อมฉันอีกครั้ง...”พูดไปน้ำตาของลั่วชิงยวนก็ไหลรินในเวลานี้ หัวใจของลั่วชิงยวนราวกับถูกควักออกมาผ่าเป็นสองซีกเจ็บปวดเจียนตายแต่ฟู่เฉินหวนกลับมิเปลี่ยนสีหน้า แววตายิ่งเย็นชาขึ้นเขาบีบคอของนางด้วยความโกรธ“ในเมื่อเจ้ารู้แล้ว ข้าก็ขี้เกียจเสแสร้งกับเจ้าแล้ว”“เข็มท

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1206

    ฟู่เฉินหวนตกใจมองนางด้วยความประหลาดใจก่อนจะตอบว่า “ได้”“หากเจ้าอธิบายได้ชัดเจน ข้ายินดีเชื่อเจ้าเป็นครั้งสุดท้าย”ได้ยินดังนั้นลั่วชิงยวนก็รู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อยรีบกล่าวทันที “หม่อมฉันชื่อลั่วเหลา แท้จริงแล้วลั่วอิงคืออาจารย์ของหม่อมฉัน หม่อมฉันตายไปแล้วมาเกิดใหม่ในร่างของลั่วชิงยวน”“วันรุ่งขึ้นหลังจากวันแต่งงาน ลั่วชิงยวนก็ปลิดชีพตัวเอง หลังจากนั้นร่างนี้ก็มิใช่ลั่วชิงยวนอีกต่อไป แต่เป็นหม่อมฉัน ลั่วเหลา”“หม่อมฉันเป็นชาวแคว้นหลี”“ดังนั้นความสามารถที่หม่อมฉันมีจึงเป็นสิ่งที่ลั่วชิงยวนไม่มี”“เรื่องน้ำศักดิ์สิทธิ์ของแคว้นหลี หม่อมฉันก็เพิ่งค้นพบตอนที่ไปเผ่านอกด่าน หลังจากที่อาจารย์ค้นพบความลับนี้ ก็พยายามค้นหาวิธีแก้ไขเรื่องน้ำศักดิ์สิทธิ์”“เพราะหากความลับนี้รั่วไหลออกไป จะมีคนมากมายเกิดความโลภ จะทำให้ทั้งใต้หล้าประสบพบความวุ่นวาย เลือดนองแผ่นดิน”“...”ลั่วชิงยวนเล่าความลับทั้งหมดของนางให้เขาฟังโดยมิปิดบังนางรู้สึกว่าคนที่เคยเปิดใจให้กันคงจะมิทรยศกันง่าย ๆตราบใดที่นางจริงใจ มิปิดบังสิ่งใด นางก็จะได้รับการตอบสนองเช่นเดียวกันหลังจากที่นางพูดจบ ฟู่เฉินหวนก็ตกตะลึ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1205

    เหตุใดแคว้นหลีจึงส่งกองทัพมากะทันหันฟู่อวิ๋นโจวเอ่ยถาม “ท่านมหาปราชญ์ ท่านเชี่ยวชาญด้านนี้ พอจะทำนายผลลัพธ์ได้หรือไม่?”“ควรจะรับมืออย่างไร”ขุนนางทั้งหลายต่างมองไปที่ลั่วฉิง ลั่วฉิงไม่มีทางเลือก จึงได้แต่กัดฟันกล่าวว่า “เรื่องนี้... ทำนายได้ แต่หม่อมฉันต้องการเวลาเพคะ”ฟู่อวิ๋นโจวมีสีหน้ากังวล และถามว่า “ท่านมหาปราชญ์ต้องการเวลานานเพียงใด?”ลั่วฉิงลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จึงกล่าวว่า “สามวันเพคะ!”สิ้นคำพูดของนาง หลายคนก็แสดงความมิพอใจ“สามวันหรือ? ซีหลิงอยู่ห่างจากเมืองหลวงราวพันลี้ สามวันกว่าจะบอกผลลัพธ์ จะทันการณ์ได้อย่างไร”“ก่อนหน้านี้พระชายาอ๋องผู้สำเร็จราชการก็มิได้ใช้เวลานานถึงเพียงนั้น”“ใช่ ท่านมหาปราชญ์คงจะมิค่อยมีความสามารถมากถึงเพียงนั้นกระมัง”คำพูดนี้ทำให้ลั่วฉิงหน้าซีดเผือด“สองวัน อย่างเร็วที่สุดก็ต้องสองวัน!” ลั่วฉิงกัดฟันกล่าวในตอนนี้ ฟู่เฉินหวนกล่าวอย่างใจเย็น “แคว้นหลีส่งกองทัพมาโดยมิทราบสาเหตุ ข้าคิดว่าตอนนี้ควรส่งคนไปเจรจากับแคว้นหลีโดยด่วน”“ระหว่างนั้นก็ส่งกองกำลังไปเสริมอย่างลับ ๆ ด้วย อย่าได้พึ่งพาแต่ผลการทำนายของท่านมหาปราชญ์”“หากผลลัพธ์ออกมาแล้ว

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1204

    เมื่อเฉินชีได้ยินดังนั้นก็หยุดชะงักแล้วยกยิ้มมุมปาก เดินมาที่หน้าต่าง พิงกำแพงพลางกอดอก “เจ้าจะให้ข้าช่วยเจ้าในฐานะที่เจ้าเป็นใคร?”ลั่วชิงยวนมองเขาด้วยสายตาเย็นชา “นักบวชระดับสูง”ดวงตาของเฉินชีลุกโชนด้วยประกายร้อนแรง “อาเหลา ในที่สุดเจ้าก็ตัดสินใจจะไปกับข้าแล้วหรือ?”ลั่วชิงยวนมองเขาด้วยสายตาเย็นชาและเย่อหยิ่ง “กลับแคว้นหลีก็ได้ ข้าบอกแล้วว่าให้เจ้าช่วยข้าเรื่องหนึ่ง”“แคว้นหลีจะมีนักบวชระดับสูงได้เพียงผู้เดียวเท่านั้น”เฉินชียกยิ้มมุมปากแล้วหัวเราะอย่างเจ้าเล่ห์ ก่อนจะคุกเข่าลงข้างหนึ่งอย่างนอบน้อม “อย่าว่าแต่เรื่องเดียวเลย สิบเรื่อง ร้อยเรื่อง เฉินชีก็ยินดีทำเพื่อนักบวชระดับสูงทั้งสิ้น!”ลั่วชิงยวนหรี่ตามองเขาด้วยแววตาที่ลึกล้ำถึงแม้เฉินชีจะบ้าแต่ก็มิใช้คนโง่เขลา เขาทำอะไรตามอำเภอใจแต่ก็คงมิยอมสยบต่อนางง่าย ๆ เช่นนี้การเปลี่ยนท่าทีเช่นนี้ทำให้นางมิค่อยเชื่อถือ“เจ้าฟังเรื่องที่ข้าจะให้เจ้าทำก่อนค่อยตอบรับก็ยังมิสาย”เฉินชีลุกขึ้นมองนางด้วยแววตาเป็นประกาย “ท่านนักบวชต้องการให้ข้าทำสิ่งใด?”“ข้าต้องการให้เจ้ายกทัพไปตีซีหลิง”“แต่ห้ามสู้รบกันจริง ๆ ห้ามทำร้ายราษฎร”เฉ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1203

    ใจของลั่วชิงยวนร้อนรุ่มดั่งไฟสุม นางพยายามดิ้นรนสุดแรง “ปล่อยข้านะ!”“ฟู่เฉินหวน ท่านช่างไร้หัวใจอะไรเยี่ยงนี้!”ทว่าฟู่เฉินหวนยังคงมีสีหน้าเรียบเฉย มิสะทกสะท้านแม้แต่น้อยเมื่อเห็นแม่นมเติ้งใกล้จะทนมิไหวแล้ว น้ำตาลั่วชิงยวนก็เอ่อคลอ“หม่อมฉันจะมิออกจากเรือนแล้ว หม่อมฉันจะมิออกจากห้องแล้ว ได้หรือไม่!”นางมองฟู่เฉินหวนด้วยดวงตาแดงก่ำ พยายามวิงวอนขอร้องในที่สุดนางก็ยอมก้มหน้าลง“ขอท่านไว้ชีวิตนางด้วยเถิดเพคะ!” ลั่วชิงยวนคุกเข่าลงอย่างอ่อนแรงแววตาฟู่เฉินหวนมืดมนเดิมทีลั่วชิงยวนคิดว่าเมื่อนางขอร้องแล้ว ฟู่เฉินหวนคงจะไว้ชีวิตแม่นมเติ้งแต่ฟู่เฉินหวนกลับมีแววตาเย็นชา “นางเป็นบ่าวของตำหนัก มิใช่บ่าวของเจ้า นางขัดคำสั่งข้า สำหรับข้าแล้ว ไม่มีคำว่ายกโทษ”น้ำเสียงเย็นเยียบของเขาเป็นดั่งหนามแหลมทิ่มแทงหัวใจของลั่วชิงยวนลั่วชิงยวนตกตะลึงนางโกรธจนตะโกนลั่น “ฟู่เฉินหวน!”ฟู่เฉินหวนขมวดคิ้ว นัยน์ตาฉายแววหงุดหงิดขณะกล่าวเสียงเย็น “พาตัวนางไป”องครักษ์จับตัวลั่วชิงยวนแล้วลากออกไปฟู่เฉินหวนมองนางเป็นครั้งสุดท้ายด้วยสายตาเย็นชา “หากเจ้ายังท้าทายข้าอีก จะต้องมีคนตายมา่กกว่านี้แน่”แ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status