แชร์

บทที่ 258

ผู้เขียน: หว่านชิงอิ๋น
ลั่วชิงยวนขมวดคิ้ว สังหารนางหรือ?

ซ่งเชียนฉู่เอ่ยขึ้นมาว่า "ตอนที่ข้ายังเด็กก็เกิดเรื่องประหลาดขึ้นกับข้า จากนั้นข้าก็มักจะฝันถึงงูอยู่บ่อย ๆ"

"ความฝันเหล่านี้เคี่ยวกรำข้ามาหลายสิบปี สุขภาพของข้านับวันก็ย่ำแย่ลงไปเรื่อย ๆ มิหนำซ้ำข้ายังต้องทนทุกข์ทรมานจากโรคร้ายมากมายอีกต่างหาก"

"ข้าเคยปรึกษาซินแสท่านหนึ่ง ท่านบอกว่าชะตาของข้าจะมีเคราะห์หนัก มันเป็นหนี้กรรมที่ข้าติดค้างมาตั้งแต่ชาติปางก่อน สิ่งนั้นจะคอยตามหลอกหลอนจนกว่าข้าจะตายไป"

"ท่านซินแสแนะนำว่าต้องตัดบ่วงกรรมนี้ไปเสีย ข้าต้องมาที่นี่แล้วจัดการให้เรียบร้อยก่อนวันเกิดปีที่ยี่สิบสี่ของข้า มิฉะนั้นข้าจะต้องตาย"

"ข้าโกหกว่ามาที่นี่เพื่อมาตามหาญาติ ข้าแค่อยากจะจัดการปัญหาของตัวเอง ท่านซินแสเองก็บอกว่าข้าจะได้พบผู้มีพระคุณที่นี่"

"แม่นางลั่ว ดูเหมือนว่าท่านก็คือผู้มีพระคุณของข้า"

ซ่งเชียนฉู่จับมือของลั่วชิงยวนด้วยท่าทีตื่นเต้น

เมื่อลั่วชิงยวนได้ยินเช่นนี้เข้าก็รู้สึกประหลาดใจอยู่บ้าง แต่ก็เป็นอย่างที่คาดคิดเอาไว้ นางรู้สึกว่าซ่งเชียนฉู่กำลังปกปิดอะไรบางอย่าง

ดังนั้นลั่วชิงยวนจึงทำนายโชคชะตาของนาง ชะตาของนางมีเคราะห์หนัก
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 259

    สวี่ชิงหลินพาซ่งเชียนฉู่กลับขึ้นเขาไปอีกครั้ง ลั่วชิงยวนติดตามพวกเขาอยู่ไกล ๆ อีกหนหนึ่ง ในที่สุดคราวนี้พวกมันก็ลงมืออย่างที่คิดเอาไว้เลย สวี่ชิงหลินมุ่งหน้าไปยังถ้ำอสรพิษ ในวันเดียวกันนั้นเอง ข่าวที่พวกชาวบ้านเอาลั่วชิงยวนไปเซ่นสังเวยให้แก่เทวาภูผาก็ดังมาเข้าหูของฟู่เฉินหวน เมื่อฟู่เฉินหวนได้ยินข่าวนี้ ทีแรกเขาก็ไม่อยากเชื่อนัก "เจ้าพูดอีกทีซิ?!" ซูโหยวก้มหน้าลงด้วยเคร่งเครียด "ท่านอ๋อง ทั้งหมดล้วนเป็นความผิดของกระหม่อมที่ไม่จับตาดูนางให้ดี กระหม่อมไม่คาดคิดว่าชาวบ้านพวกนั้นจะกล้า..." ทุกคนคิดว่าหลังจากส่งพระชายาไปที่จวนนอกเมืองเพื่อรับโทษสักสองสามวัน จากนั้นท่านอ๋องก็จะรับนางกลับมา แต่ผู้ใดจะคิดว่า... "เหลวไหลทั้งเพ! พระชายาอ๋องผู้สำเร็จราชการผู้สูงศักดิ์กลับถูกไพร่กลุ่มหนึ่งเอาไปเซ่นสังเวยเทวาภูผาเช่นนั้นหรือ?!" ฟู่เฉินหวนโกรธจัดรู้สึกหัวใจบีบรัดอย่างบอกไม่ถูกจนแทบจะหายใจไม่ออก "ผู้ติดตามของกระหม่อมส่งคนไปถามดูแล้ว ตอนที่นางถูกพาตัวเข้าไปในหุบเขายังมีชีวิตอยู่ ถ้าโชคเข้าข้างพวกเรา พระชายาก็น่าจะยังมีชีวิตอยู่พ่ะย่ะค่ะ" ซูโหยวกล่าวพลางก้มหน้าลง ฟู่เฉินหวนที่โกรธ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 260

    คนผู้นั้นหลอกนาง! สวี่ชิงหลินวิ่งเข้ามาแล้วเถาวัลย์บนผนังผาก็เปิดออกจนเผยให้เห็นเส้นทางลับอีกแห่งหนึ่ง ลั่วชิงยวนเองก็ติดตามมาอย่างกระชั้นชิด ทันทีที่เกิดความเคลื่อนไหวขึ้นในถ้ำ นักฆ่ากลุ่มหนึ่งที่ถืออาวุธนานาชนิดอยู่นอกถ้ำก็เตรียมพร้อมบุกเข้ามาในถ้ำ ซ่งเชียนฉู่ที่ถูกลากเข้าไปในถ้ำพยายามดิ้นรนกระเสือกกระสนด้วยความหวาดกลัว "ปล่อยข้า!" ความหวาดกลัวท่วมท้นจิตใจของนาง ในที่สุดพวกมันก็หยุดลง ถ้ำมืดจนชวนให้นางหัวใจสั่นสะท้าน ทันใดนั้นความเย็นยะเยือกก็คืบคลานมาตามแผ่นหลังแล้วโอบรอบลำคอของนางเอาไว้ น้ำเสียงน่าสะพรึงกลัวที่ซ่งเชียนฉู่ฝันถึงนับครั้งไม่ถ้วนดังก้องโสตของนาง "อาจวิน ในที่สุดข้าก็หาเจ้าพบเสียที" ซ่งเชียนฉู่ร้องไห้ด้วยความหวาดกลัวแล้วสำลักก้อนสะอื้น "ข้าไม่ใช่อาจวิน เจ้าจำคนผิดแล้ว" "ข้าจำมิผิดหรอก ตอนนั้นเจ้าสาบานว่าจะหาโอสถมาให้ข้า แต่เจ้าก็ทิ้งข้าไปและไม่กลับมาอีกเลยทำให้ข้าต้องกลายเป็นเช่นนี้!" "ข้าละทิ้งชื่อเสียงและครอบครัวเอาไว้ข้างหลังเพื่อที่จะได้โบยบินไปกับเจ้า แต่เจ้ากลับทำกับข้าอย่างโหดร้ายถึงเพียงนั้น เจ้ารู้หรือไม่ว่าข้ารอคอยเจ้ามากี่ทิวาราตรีแล้ว?"

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 261

    ชั่วขณะที่ลั่วชิงยวนเหลือบไปเห็นใบหน้าของชายหนุ่ม นางก็ใจหล่นวูบ สวีซงหย่วน! บุรุษที่ลั่วอวิ๋นสี่ชื่นชอบ! มิน่า ตอนที่แอบฟังพวกเขาคุยกันในคืนฝนพรำนั้น น้ำเสียงของบุรุษจึงฟังดูคุ้น ๆ ที่แท้ก็เป็นสวีซงหย่วน! วันที่ลั่วอวิ๋นสี่เจอสวีซงหย่วนถึงได้อยากหนีตามสวีซงหย่วนไปด้วย นางเคยพบสวีซงหย่วนมาก่อนนี่เอง! ที่แท้เขากับสวี่ชิงหลินก็เป็นพวกเดียวกัน? ! นางรีบลุกขึ้นหมายจะไล่ตามสวีซงหย่วนไป แต่งูยักษ์เป็นอิสระจากตาข่ายเวทแล้วพุ่งเข้าหาซ่งเชียนฉู่ ลั่วชิงยวนไม่มีทางเลือกนอกเสียจากรีบถอยกลับมายืนขวางหน้าซ่งเชียนฉู่เอาไว้ "ไฉนเจ้าต้องหลอกข้าด้วย? เจ้ามิได้คิดจะปกป้องนางเลยสักนิด เจ้าคิดจะฆ่านางต่างหาก" ลั่วชิงยวนหยิบเข็มทิศออกมาทันที น้ำเสียงของนางทั้งเย็นชาและยังคงระแวดระวัง น้ำเสียงเกรี้ยวกราดของงูยักษ์ดังขึ้นมาว่า "นางเป็นคนทำร้ายข้าจนกลายเป็นเช่นนี้! นังคนไร้หัวใจสมควรตาย!" เมื่อมันพูดจบ หมอกขาวกลุ่มหนึ่งก็ล่องลอยผ่านความมืดเข้ามา ลั่วชิงยวนจึงเห็นภาพอีกครั้งหนึ่ง บุรุษผู้นั้นต้องพิษงูแปลกประหลาดระหว่างที่กำลังเก็บสมุนไพรมาให้สตรีผู้นั้น เกล็ดมากมายนับไม่ถ้วนบนร่างกา

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 262

    ตอนที่ฟู่เฉินหวนพาคนกลุ่มหนึ่งเข้ามาในถ้ำ เขาก็เห็นลั่วชิงยวนที่กำลังนอนอยู่ตรงมุมหนึ่งได้ทันที เขารีบเดินเข้าไปช่วยประคองให้นางลุกขึ้นด้วยท่าทีร้อนใจ "ลั่วชิงยวน! ฟื้นสิ!" ฟู่เฉินหวนตรวจดูการหายใจเพื่อยืนยันว่านายยังมีชีวิตอยู่หรือไม่! จากนั้นเขาก็รีบอุ้มลั่วชิงยวนออกไปจากถ้ำแล้วออกคำสั่งว่า "ตรวจสอบที่นี่ให้ละเอียด เมื่อสักครู่นี้มีความเคลื่อนไหวค่อนข้างเยอะทีเดียว ดูซิว่ายังมีผู้ใดอยู่อีกหรือไม่" เซียวชูตอบว่า "พ่ะย่ะค่ะ!" ทันใดนั้นฟู่เฉินหวนก็อุ้มลั่วชิงยวนออกมาจากถ้ำด้วยท่าทีร้อนใจ จากนั้นก็ลงเขามาถึงเรือนแห่งหนึ่ง จือเฉากำลังนั่งอยู่ตรงขั้นบันไดหิน เพื่อรอคอยให้พระชายากับแม่นางซ่งกลับมา แต่นางกลับไม่คาดคิดว่าจะได้เห็นท่านอ๋องที่กำลังรอคอยอยู่! มิหนำซ้ำยังอุ้มพระชายามาอีกด้วย! "ทะ… ท่านอ๋อง ไฉนพระองค์ถึงเสด็จมาที่นี่ได้เพคะ?" จือเฉารู้สึกตกใจมากเสียจนต้องรีบลุกขึ้น แต่เมื่อนางเห็นพระชายาหมดสติและกระอักโลหิตอยู่ในอ้อมแขนของท่านอ๋อง จือเฉาก็พลันตื่นตระหนกขึ้นมาทันที "ไปเอาน้ำร้อนมา" "เพคะ!" เมื่อฟู่เฉินหวนอุ้มลั่วชิงยวนเข้ามาในห้อง จือเฉาก็รีบไปเอาน้ำร้อนแล

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 263

    จือเฉารีบยื่นชาถ้วยหนึ่งให้แก่ลั่วชิงยวน แต่หลังจากดื่มชาเข้าไปแล้ว ลั่วชิงยวนก็อดมิได้ที่จะไอขึ้นมา ทันใดนั้นนางก็กระอักโลหิตออกมาคำหนึ่ง จือเฉาร้องอุทานด้วยความตื่นตะลึง "พระชายา ท่านไอเป็นเลือดหนาเจ้าคะ!" ฟู่เฉินหวนที่อยู่ในลานเรือนถึงกับขมวดคิ้ว ไอเป็นเลือดเช่นนั้นหรือ? ถึงแม้ว่าอาการบาดเจ็บภายนอกจะไม่สาหัส แต่อาการบาดเจ็บภายในไม่อาจมองข้ามได้ โดยเฉพาะในช่วงเหมันตฤดู หากไม่ดูแลให้ดี ๆ ก็อาจจะทำให้เกิดโรคภัยขึ้นมาได้ ฟู่เฉินหวนขมวดคิ้วแล้วพยายามต่อสู้กับความคิดของตน เขาไม่ควรมอบโอกาสให้แก่ลั่วชิงยวนอีกครั้ง แต่... ถ้าหากนางยอมรับผิดและตัดขาดความสัมพันธ์กับฟู่อวิ๋นโจวและไทเฮา เขาก็จะมอบโอกาสครั้งสุดท้ายให้แก่นาง! ขณะที่เขากำลังครุ่นคิดอยู่นั้น จือเฉาก็วิ่งออกมานอกห้องแล้วคุกเข่าลงตรงหน้าฟู่เฉินหวน "ท่านอ๋องเพคะ! พระชายาได้รับบาดเจ็บสาหัส ขอท่านอ๋องได้โปรดอนุญาตให้พระชายากลับไปได้หรือไม่เพคะ?" เมื่อลั่วชิงยวนได้ยินเสียงของจือเฉา นางก็รีบลุกขึ้นจากเตียงทันที แต่นางกลับอ่อนแอลงทั้งยังมีอาการเจ็บหน้าอกอย่างรุนแรง นางพิงกรอบประตูและปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าฟู่เฉินหวนด้วย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 264

    เซียวชูเอ่ยด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า "กระหม่อมพบร่องรอยของการมีคนอาศัยอยู่เรือนข้าง ๆ ผ้าผ่อนในตู้เสื้อผ้าหายไปส่วนหนึ่งซึ่งตรงกับสายคาดเอวไหมที่มัดแผลของนักฆ่าพ่ะย่ะค่ะ" เมื่อฟู่เฉินหวนได้ยินเช่นนี้ สายตาของเขากลับแปรเปลี่ยนเป็นเย็นชา "นางเลี้ยงบุรุษไว้ในเรือนของข้าเช่นนั้นหรือ?!" เซียวชูรู้สึกประหลาดใจนัก ไฉนท่าทีตอบสนองอย่างแรกของท่านอ๋องถึงกลายเป็นเช่นนี้ไปได้เล่า? "ท่านอ๋อง กระหม่อมเกรงว่าเรื่องราวจะไม่ง่ายดายเช่นนั้น มีศพนักฆ่าหลายสิบคนอยู่ในถ้ำ พวกมันเป็นนักฆ่าที่ฝึกวรยุทธมาหลายปีจึงไม่น่าจะมีวรยุทธอ่อนด้อย ดูเหมือนว่าพวกมันจะตายเพราะพิษจนใบหน้าเปลี่ยนเป็นสีดำ" "การตายช่างน่าสงสัยนัก ทั้งยังเป็นถ้ำอสรพิษอีกต่างหาก พระชายาถูกส่งไปที่นั่นเพื่อเซ่นสังเวยให้แก่เทวาภูผา แต่นักฆ่าพวกนั้นมาจากที่ใดกัน?" "ไฉนพระชายาถึงเข้าไปพัวพันกับพวกมันได้?" หลังจากฟังวาจาของเซียวชู สายตาของฟู่เฉินหวนกลับยิ่งเย็นชามากขึ้น "ตรวจดูให้ละเอียด! ตรวจสอบพื้นเพของคนพวกนั้นด้วย!" หลังจากฟู่เฉินหวนสั่งการก็เดินจากไป เซียวชูรีบถามขึ้นมาว่า "พระชายาเป็นอย่างไรบ้างพ่ะย่ะค่ะ?" ฟู่เฉินหวนเหลียว

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 265

    นางฉีกเสื้อผ้าตัวเองแล้วรีบพันแผลให้งูยักษ์ จากนั้นหาที่หลบซ่อนแล้วยัดตัวมันเข้าไปข้างใน "ช่วยชีวิตคนได้กุศลยิ่งกว่าสร้างเจดีย์เจ็ดชั้น ข้าจะช่วยเจ้าสักครั้งก็แล้วกัน ถ้าหากเจ้ารอดพ้นเหมันต์นี้ไปได้ ข้าหวังว่าเจ้าจะปล่อยซ่งเชียนฉู่ไป" "แน่นอนว่าต่อให้เจ้าไม่ยอมปล่อยนางไป ก็ไม่เป็นไรหรอก อย่างไรเสียเจ้าก็เอาชนะข้าไม่ได้" หลังจากลั่วชิงยวนพูดจบ นางก็หันหลังเดินจากไป นางแบกซ่งเชียนฉู่เอาไว้บนหลังแล้วเดินลงเขาไปด้วยความยากลำบาก เมื่อกลับมาถึงเรือนลั่วชิงยวนก็เปลี่ยนเสื้อผ้าสะอาดให้ซ่งเชียนฉู่แล้วเตรียมตัวไปต้มยามาป้อนให้ซ่งเชียนฉู่ ช่วยชีวิตของอีกฝ่ายไว้ได้เป็นการชั่วคราว! …… เมื่อถึงตอนเย็น จือเฉาก็กลับมาพร้อมกับโอสถแล้วรีบไปต้มยาให้ลั่วชิงยวน "พระชายา แม่นางซ่งเองก็กลับมาแล้ว สวี่ชิงหลินเล่าเจ้าคะ?" จือเฉาถามด้วยความสงสัย "เขาตายไปแล้ว" ลั่วชิงยวนตอบอย่างไม่ใส่ใจนัก จือเฉาผงกศีรษะ "เช่นนั้นนับแต่บัดนี้เป็นต้นไป พวกเราสามคนก็คงต้องพึ่งพาอาศัยกันแล้ว! พรุ่งนี้บ่าวจะหาทางขึ้นเขาไปเก็บผักป่าเองเจ้าค่ะ" เมื่อลั่วชิงยวนได้ยินเช่นนี้ นางก็เอ่ยถามด้วยความสงสัยว่า "เจ้าเป็

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 266

    เกรงว่า… เรื่องนี้อาจจะไม่ใช่ความฝัน แต่เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง การที่ซ่งเชียนฉู่ฝันถึงเรื่องเหล่านี้ ก็น่าจะเป็นเพราะงูยักษ์ มันรู้ความจริงทุกอย่างแล้ว ซ่งเชียนฉู่ไม่ได้ทอดทิ้งเขาไป แต่ประสบอุบัติเหตุระหว่างที่กำลังตามหาโอสถ น่าเสียดายที่บัวมรกตเหมันต์ถูกเด็ดไปก่อนแล้ว เกรงว่าคงไม่มีวันได้พบเจ้าสิ่งนั้นอีกในใต้หล้านี้ เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ขึ้นมา นางก็อดไม่ด้ที่จะรู้สึกเสียใจอยู่บ้าง เมื่อเห็นสีหน้าที่ยังคงหวาดกลัวของซ่งเชียนฉู่ ลั่วชิงยวนก็ลังเลไปชั่วขณะและตัดสินใจว่าจะไม่บอกความจริงกับอีกฝ่าย ต่อให้นางบอกอีกฝ่ายไป อีกฝ่ายจะยอมรับได้หรือ? ตอนนี้ไม่รู้ว่าซ่งเชียนฉู่หวาดกลัวงูมากขนาดไหน ทว่าต่อให้ลั่วชิงยวนไม่พูดอะไร ซ่งเชียนฉู่ก็สัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่าง นางไม่ได้เล่าให้ลั่วชิงยวนฟังว่าสระน้ำเย็นในความฝันเหมือนกับสถานที่ที่ตนตามหาโอสถไม่มีผิดเพี้ยน บัวมรกตเหมันต์ที่ลั่วชิงยวนได้มาน่าจะเติบโตอยู่ก้นสระน้ำเย็น เพื่อบัวมรกตเหมันต์ดอกนี้แล้ว นางเฝ้าตามหามันมาตั้งแต่เมื่อครั้งยังเยาว์วัย ถึงขนาดตามหาแม้แต่ในความฝัน ทว่าสุดท้ายนางก็ยังไม่มีโอกาสได้มันมา หลังจาก

บทล่าสุด

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1288

    ทันทีที่คำกล่าวเหล่านี้หลุดออกมาร่างกายของฟู่เฉินหวนก็แข็งทื่อดวงตาของฉินอี้เต็มไปด้วยความคาดหวังอันร้อนแรงตั้งแต่เล็กจนโต แม้เขาจะเป็นองค์ชาย แต่ก็มีเพียงมิกี่คนที่ให้ความเคารพเขาแม้กระทั่งน้องสาวของเขาเองก็มักจะลงมือทำร้ายเขาบ่อย ๆ โดยมิไว้หน้ากันเลยแม้แต่น้อยส่วนคนที่อยู่ตรงหน้าเขาคืออ๋องผู้เป็นเทพสงครามเทพแห่งแคว้นเทียนเชวียและผู้สำเร็จราชการผู้ยิ่งใหญ่ในใต้หล้าเขาจึงตั้งตารอที่จะได้เห็นฟู่เฉินหวนคุกเข่าด้วยความเคารพฟู่เฉินหวนกำหมัดแน่นซ้ำแล้วซ้ำเล่าที่จริงเขาสามารถเจรจากับฉินอี้ได้ และมีเงื่อนไขต่าง ๆ มากมายที่เขาสามารถพูดคุยกับอีกฝ่ายได้ทว่าการเจรจาต้องอาศัยยุทธวิธีและที่สำคัญกว่านั้นคือ ต้องมีจิตใจที่สงบมั่นคงแต่ในเวลานี้ ฟู่เฉินหวนมิสามารถทำเช่นนั้นได้เขาแทบจะรอมิไหวแล้วดวงตาของเขาขรึมลง พลางยกเสื้อคลุมขึ้นและคุกเข่าลงเสียงดังตึงเมื่อเข่ากระทบพื้นนั้นเจือไปด้วยความอึดอัดกลัดกลุ้ม แต่เป็นเสียงที่ฉินอี้ฟังแล้วรู้สึกสบายหูเป็นอย่างยิ่งมิอาจปฏิเสธได้ว่าตอนนี้เขาพอใจอย่างถึงที่สุดนี่เป็นความรู้สึกที่เขาพยายามเสาะหามาตลอดหลายปีแต่ก็มิเคยได้มันมาโดยเฉพา

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1287

    ในห้องขังอันเงียบงัน เสียงเฆี่ยนตีดังชัดเจนจนเหมือนได้ยินเสียงผิวหนังฉีกออกเป็นชิ้น ๆทำเอาคนที่ได้ยินรู้สึกใจสั่นที่มุมตรงทางเดิน บุรุษสวมหน้ากากที่อยู่ข้างหลังฉินอี้กำหมัดแน่นในทันทีฝ่ามือถูกจิกจนเกือบจะเลือดออกฟู่เฉินหวนที่ได้ยินเสียงนั้นก็รู้สึกเป็นห่วงและอดมิได้ที่จะพุ่งไปหาแต่ฉินอี้คว้าข้อมือของเขาเอาไว้“เฉินชีจะมาช่วยนางเอง”“หากตอนนี้เจ้าถูกจับได้ก็ช่วยนางออกไปมิได้ แล้วพวกเจ้าก็จะต้องตายอยู่ที่นี่”“ด้วยตัวตนของเจ้า มีแต่จะต้องเผชิญกับจุดจบที่น่าอนาถยิ่งกว่าเดิม”ฟู่เฉินหวนกำหมัดแน่น เขาก้าวถอยหลังมาหนึ่งก้าวและอดทนต่อไปฝ่ามือของเขาเหงื่อออกเมื่อได้ยินเสียงเฆี่ยนตีอย่างต่อเนื่องแต่ไม่มีเสียงร้องของความเจ็บปวด ก็สามารถบอกได้ว่า ลั่วชิงยวนกำลังทุกข์ทรมานกับความเจ็บปวดมากเพียงใดนั่นทำให้ฟู่เฉินหวนรู้สึกปวดใจเป็นอย่างมากทว่าเขาทำได้เพียงเฝ้ามองจากที่ไกล ๆ มิสามารถเข้าไปใกล้หรือช่วยนางได้เสียงแส้ดังขึ้นอย่างมิหยุดหย่อน และเสียงแส้ในแต่ละครั้งนั้นดูเหมือนจะฟาดลงไปที่หัวใจของฟู่เฉินหวนจนเลือดสด ๆ ไหลออกมาเป็นทางเวลาเหมือนจะผ่านไปอย่างเชื่องช้า และเสียงแส้น

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1286

    ภายในห้องบรรทมอันโอ่อ่าฉินอี้เดินมาที่ข้างเตียงด้วยร่างกายที่เต็มไปด้วยบาดแผลยามนี้เกาเหมียวเหมี่ยวได้ทำแผลและกินโอสถเรียบร้อยแล้ว แต่ใบหน้าของนางยังคงซีดอยู่เล็กน้อยเมื่อเห็นฉินอี้เดินมาหาด้วยใบหน้าฟกช้ำและเปื้อนเลือด เกาเหมียวเหมี่ยวจึงมองเขาด้วยความมิอยากเชื่อ“ท่านแพ้ลั่วชิงยวนรึ?”ฉินอี้ขมวดคิ้วเป็นปม พลางมองบาดแผลของเกาเหมียวเหมี่ยวด้วยความกังวลและพูดว่า “เหมียวเหมี่ยว บาดแผลเจ้าสาหัสมาก ช่วงสองวันนี้เจ้าควรพักผ่อนให้ดีก่อน อย่าเพิ่งเดินไปไหนมาไหนเลย”ทว่าเกาเหมียวเหมี่ยวกลับมิได้สนใจในความห่วงใยของฉินอี้นางจ้องมองฉินอี้ด้วยความโมโหแล้วยกฝ่ามือฟาดไปหนึ่งฉาดฉินอี้มิประหลาดใจแม้แต่น้อย แต่กลับมองเกาเหมียวเหมี่ยวด้วยสีหน้าจริงจังและเป็นห่วง“เหมียวเหมี่ยว...”เกาเหมียวเหมี่ยวโมโหมากจนเอามือฟาดเขาสองครั้งติดต่อกันและแสดงความเกรี้ยวกราดออกมา “ขยะไร้ค่า! ขยะไร้ค่า!”“ท่านเป็นถึงองค์ชายผู้สูงส่ง แต่กลับถูกลั่วชิงยวนจัดการจนมีสภาพเช่นนี้ อับอายจนมิรู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ใด!”เกาเหมียวเหมี่ยวโกรธจนแทบอยากจะฉีกลั่วชิงยวนเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยดวงตาของฉินอี้หรี่ลง แต่กลับมิได

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1285

    แต่ขณะที่ทั้งสองคนกำลังต่อสู้กันอย่างสูสีวิชาฝ่ามือที่จู่โจมเข้ามาอย่างฉับพลันของลั่วชิงยวนทำให้ฉินอี้มิทันตั้งตัว เขาถูกรัวหมัดใส่อย่างต่อเนื่องจนลอยกระเด็นออกไป และกระอักเลือดออกมาการต่อสู้สิ้นจบลงในพริบตาเดียวหลายคนที่อยู่รอบด้านล้วนเห็นมิชัด“เมื่อครู่เกิดกระไรขึ้น?”“ต่อสู้กันอยู่มิใช่หรือ? เหตุใดจู่ ๆ ฉินอี้ถึงแพ้ได้เล่า?”ลั่วชิงยวนมองฉินอี้ด้วยสายตาเย็นชา “ดูเหมือนวรยุทธ์ขององค์ชายใหญ่จะเป็นอย่างที่คนเขาลือกันนะเพคะ”เทียบกับคนทั่วไปแล้ว วรยุทธ์ของฉินอี้ก็ถือว่ามิได้อ่อนด้อยเลยแต่สำหรับคนที่เป็นถึงองค์ชายนั้นช่างดูอ่อนแอนักเมื่อครู่ที่ลั่วชิงยวนลองทดสอบ ดูเหมือนว่าเขายังคงมีทักษะวรยุทธ์แบบเดียวกับที่เคยเรียนมาเมื่อก่อน และมิได้มีความก้าวหน้ามากนักเป็นเช่นนี้ได้อย่างไรหากฉินอี้เพียรพยายามมากกว่านี้ ผลลัพธ์ก็คงมิเป็นเช่นนี้ฉินอีจ้องนางด้วยโทสะ ดูเหมือนจะเจ็บใจที่วรยุทธ์ของตนอ่อนด้อยเกินไป ทำให้เสียงวิพากษ์วิจารณ์รอบข้างยิ่งบาดหูมากขึ้นไปอีกเขากัดฟันพลางกำหมัดแน่น และพุ่งเข้าหาลั่วชิงยวนอย่างดุร้ายเขามิยอมพ่ายแพ้เช่นนี้หรอกแต่เขากลับมิสามารถเอาชนะลั่วชิงย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1284

    ลั่วชิงยวนตกตะลึง อารมณ์ความรู้สึกของนางดำดิ่งเป็นไปตามที่นางคาดเดาเอาไว้ว่ามิเหลือแม้แต่ศพอย่างนั้นหรือ?“มิพบศพด้วยซ้ำ” อวี๋โหรวกล่าวเสียงขรึมดวงตาของลั่วชิงยวนหม่นลง ดูเหมือนว่าร่างนั้นจะถูกกำจัดไปแล้วจริง ๆ ส่วนจะกำจัดอย่างไรและทิ้งไว้ที่ไหน บางทีอาจมีเพียงฆาตกรเท่านั้นที่รู้“น่าเสียดายจริง ๆ” ลั่วชิงยวนทอดถอนใจด้วยความเสียดายอวี๋โหรวจ้องนางด้วยสายตาจริงจังและพูดอย่างหนักแน่น “มิน่าเสียดายหรอก ข้าเชื่อว่าเจ้าจะกลายเป็นนางคนต่อไป!”ทันใดนั้น สายตาที่จริงจังของอวี๋โหรวก็ทำให้ลั่วชิงยวนรู้สึกเย็นวาบไปถึงสันหลังและยังสงสัยด้วยว่าอวี๋โหรวจะสังเกตเห็นอะไรบางอย่างหรือไม่ทว่าแม้แต่ศิษย์น้องหญิงก็จำนางมิได้ อีกทั้งอวี๋โหรวก็มิได้สนิทสนมกับนาง แล้วจะจำนางได้อย่างไรลั่วชิงยวนยิ้มและกล่าวว่า “ข้าจะถือว่านั่นคือคำปลอบใจก็แล้วกัน”อวี๋โหรวพูดอย่างจริงจัง “ข้ามิได้ปลอบใจเจ้า ข้าพูดจริง”หลังจากนั้น อวี๋โหรวก็ยิ้มอีกครั้งและพูดว่า “ทางข้ายังพอมียาอยู่บ้าง หากเจ้าต้องการอะไรก็บอกข้าได้เลย”ลั่วชิงยวนมิค่อยเข้าใจว่า เหตุใดอวี๋โหรวถึงทำดีกับนางนางมิค่อยรู้จักอวี๋โหรวมากนัก ในภาพจ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1283

    หรือเป็นเพราะเขาเชื่อมั่นในพลังความแข็งแกร่งของลั่วชิงยวน?แต่เมื่อมาครุ่นคิดดูตอนนี้ สตรีที่สามารถทำให้เซินฉีหลงใหลได้ถึงเพียงนี้คงไม่มีทางที่จะเป็นขยะไร้ค่าแม้จะมิได้แข็งแกร่งกว่าเฉินชี แต่ก็เป็นคนที่สามารถต่อกรกับเขาได้อย่างสูสีเพราะเช่นนี้เขาจึงมิแลเกาเหมียวเหมี่ยวเลยด้วยซ้ำ……เมื่อกลับมาถึงห้องลั่วชิงยวนก็นั่งลงพักผ่อนเฉินชีเดินตามเข้ามาและนั่งลงข้าง ๆ นาง พร้อมกับรินชาสองจอก“สมแล้วที่เป็นอาเหลา มีเพียงเจ้าเท่านั้นที่กล้าทำให้เกาเหมียวเหมี่ยวตกอยู่ในสภาพเช่นนั้น! ข้าชอบ!” มีแสงประกายเจิดจ้าส่องสว่างในดวงตาของเฉินชีสายตาของเขาดูเหมือนอยากจะกลืนกินลั่วชิงยวนเข้าไปทั้งตัวลั่วชิงยวนพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เกาเหมียวเหมี่ยวได้รับบาดเจ็บสาหัส ฝ่าบาทกับฮองเฮาคงมิยอมปล่อยข้าไปแน่ คงต้องให้เจ้าช่วยออกหน้าให้แล้ว”เฉินชียิ้มมุมปาก “วางใจได้ มีข้าอยู่ทั้งคน”ลั่วชิงยวนที่ยังกังวลอยู่เล็กน้อยกำชับด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “เฉินชี ครั้งนี้เจ้าจะยืนนิ่งดูดายอีกมิได้แล้ว เพราะหากข้าตาย แผนทั้งหมดของเจ้าก็จะสูญเปล่า”“ใต้หล้านี้ไม่มีลั่วเหลาคนที่สองหรอกนะ”เฉินชีพยักหน้าอย่างจริงจ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1282

    เลือดสด ๆ ยังคงไหลมิหยุด ไหลนองไปตามร่องลึกของลวดลายวงเวทบนพื้นดินคาดมิถึงว่ามันจะค่อย ๆ ทำให้อักษรเวทของวงเวทส่องแสงขึ้นจากนั้นหมอกสีเขียวจาง ๆ ก็กระจายฟุ้งอยู่รอบตัวลั่วชิงยวนสิ่งเหล่านั้นล้วนเป็นไอโอสถทั้งสิ้นหอรักษ์ดาราแห่งนี้ยังเป็นสถานที่ที่สามารถกลั่นไอโอสถจากเลือดได้ และไอโอสถเหล่านี้ก็สามารถรักษาร่างกายที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสได้ลั่วชิงยวนหลับตาและสูดลมหายใจด้วยความเพลิดเพลิน ทำให้ร่างกายที่ปวดร้าวของนางดูเหมือนจะผ่อนคลายลงนี่อาจจะเป็นความหมายของการมีอยู่ของแท่นประลองหอรักษ์ดาราแต่ไอโอสถนี้ก็จางลงอย่างรวดเร็วลั่วชิงยวนปล่อยเกาเหมียวเหมี่ยว นางยืนขึ้นพร้อมกับยืดเส้นยืดสาย และเดินลงจากแท่นประลองคนอื่นที่อยู่รอบ ๆ ต่างมองมาที่นางด้วยสายตาที่หวาดกลัวมากขึ้น และพวกเขาก็มิกล้าพูดจาดูถูกเหยียดหยามนางเหมือนก่อนหน้านี้อีกต่อไปแล้วลั่วชิงยวนกวาดตามองอย่างเรียบเฉย จากนั้นก็มองไปที่เฉินชีด้วยสายตาลึกซึ้งแล้วเดินจากไปเกาเหมียวเหมี่ยวที่ได้รับบาดเจ็บถูกปลดแส้ออกอย่างรวดเร็วและถูกช่วยลงจากแท่นประลอง นางกัดฟันแน่นพลางจ้องตามหลังลั่วชิงยวนที่กำลังเดินออกไปครู่ต่อมา นางก็เห

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1281

    “โอ้สวรรค์ ข้าคงมิได้ตาลายใช่หรือไม่?”“นางไปเอาความกล้ามาจากที่ใดกัน!”ทุกคนในเมืองหลวงต่างรู้ดีว่าเกาเหมียวเหมี่ยวคือใครนางมิเพียงมีสถานะองค์หญิงที่สูงส่งเท่านั้น แต่ยังมีโอกาสที่จะได้สืบราชบัลลังก์ในภายภาคหน้าอีกด้วยเนื่องจากองค์ชายใหญ่มีความสามารถปานกลาง จึงมิเป็นที่โปรดปรานขององค์จักรพรรดิและฮองเฮา ทว่าองค์หญิงผู้นี้กลับแข็งแกร่งและไร้ความปรานี จึงได้รับความโปรดปรานจากพวกเขาไม่มีใครในเมืองหลวงกล้าขัดใจนางเว้นเสียแต่ เฉินชีเพราะนางชอบเขาทว่าแม้จะเป็นเฉินชี แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าคนอื่นเขาก็ให้เกียรตินางมากลั่วชิงยวนผู้นี้กล้ามากถึงขั้นเหยียบย่ำองค์หญิงต่อหน้าธารกำนัลมากมายเช่นนี้!เกาเหมียวเหมี่ยวพยายามดิ้นพร้อมกับก่นด่าไปด้วย “ลั่วชิงยวน ปล่อยข้าเดี๋ยวนี้! หากเจ้ามิปล่อยข้า ข้าจะทำให้เจ้าตายจนหาที่ฝังมิได้เลยคอยดู!”“ท่านนี่พูดมากนัก เงียบเสีย!”ลั่วชิงยวนมองนางด้วยสายตาเย็นชา พลางคว้าแส้แล้วดึงมันอย่างแรงทันใดนั้นแส้ที่คอของเกาเหมียวเหมี่ยวก็รัดแน่นขึ้นบังคับให้เกาเหมียวเหมี่ยวต้องเชิดหน้าขึ้นสูงแต่ยังคงถูกแส้รั้งไว้จนหน้าแดงนางหายใจมิออกจนเส้นเลือดแตกและตา

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1280

    ลั่วชิงยวนถูกแส้ฟาดจนกระอักเลือด ทำให้อาภรณ์ชุดขาวของนางมีรอยเปื้อนสีแดงมีรอยแส้ที่น่าสะเทือนใจพาดอยู่บนหลังของนางเป็นเส้น ๆทุกคนที่อยู่รอบนอกต่างรู้สึกหวาดกลัวมีคนที่อดมิได้ที่จะกระซิบขึ้นว่า “มิยุติธรรมเลย คนหนึ่งมีอาวุธ แต่อีกคนไม่มี นี่มันจงใจแกล้งกันชัด ๆ มิใช่หรือ”“ชู่! พระนางเป็นองค์หญิง ถึงพระนางจะจงใจฆ่าลั่วชิงยวน แล้วใครจะพูดอะไรได้ ระวังไว้เถิด หากนางจับได้ เจ้าได้เดือดร้อนแน่”ทุกทิศมีแต่ความเงียบงันไม่มีใครกล้าพูดอะไรใครใช้ให้เกาเหมียวเหมี่ยวเป็นองค์หญิงเล่า?นางคือองค์หญิงที่ได้รับความโปรดปรานมาตั้งแต่ยังเล็กนางกลายเป็นคนเย่อหยิ่งบ้าอำนาจ และวิธีการของนางเลวทรามมิน้อยไปกว่าเฉินชีเลยทุกคนในที่นี้ล้วนไม่มีใครกล้าขัดทว่ามีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่สามารถช่วยลั่วชิงยวนได้ แต่คนผู้นั้นกลับนั่งนิ่งอยู่บนเก้าอี้ พลางมองลั่วชิงยวนที่ถูกฟาดบนพื้นจนร่างกายเต็มไปด้วยเลือดมีแสงประกายเจิดจ้าอยู่ในดวงตาของเขาและเจือไปด้วยความยินดีปรีดาลั่วชิงยวนกลิ้งไปบนพื้นและทันใดนั้นก็กระอักเลือดออกมาเต็มปากนางเงยหน้าขึ้นมาและเห็นสายตาที่แสดงถึงความตื่นเต้นดีใจของเฉินชี เขาม

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status