Share

บทที่ 261

Author: หว่านชิงอิ๋น
ชั่วขณะที่ลั่วชิงยวนเหลือบไปเห็นใบหน้าของชายหนุ่ม

นางก็ใจหล่นวูบ

สวีซงหย่วน!

บุรุษที่ลั่วอวิ๋นสี่ชื่นชอบ!

มิน่า ตอนที่แอบฟังพวกเขาคุยกันในคืนฝนพรำนั้น น้ำเสียงของบุรุษจึงฟังดูคุ้น ๆ

ที่แท้ก็เป็นสวีซงหย่วน!

วันที่ลั่วอวิ๋นสี่เจอสวีซงหย่วนถึงได้อยากหนีตามสวีซงหย่วนไปด้วย นางเคยพบสวีซงหย่วนมาก่อนนี่เอง!

ที่แท้เขากับสวี่ชิงหลินก็เป็นพวกเดียวกัน? !

นางรีบลุกขึ้นหมายจะไล่ตามสวีซงหย่วนไป แต่งูยักษ์เป็นอิสระจากตาข่ายเวทแล้วพุ่งเข้าหาซ่งเชียนฉู่

ลั่วชิงยวนไม่มีทางเลือกนอกเสียจากรีบถอยกลับมายืนขวางหน้าซ่งเชียนฉู่เอาไว้

"ไฉนเจ้าต้องหลอกข้าด้วย? เจ้ามิได้คิดจะปกป้องนางเลยสักนิด เจ้าคิดจะฆ่านางต่างหาก" ลั่วชิงยวนหยิบเข็มทิศออกมาทันที น้ำเสียงของนางทั้งเย็นชาและยังคงระแวดระวัง

น้ำเสียงเกรี้ยวกราดของงูยักษ์ดังขึ้นมาว่า "นางเป็นคนทำร้ายข้าจนกลายเป็นเช่นนี้! นังคนไร้หัวใจสมควรตาย!"

เมื่อมันพูดจบ หมอกขาวกลุ่มหนึ่งก็ล่องลอยผ่านความมืดเข้ามา

ลั่วชิงยวนจึงเห็นภาพอีกครั้งหนึ่ง

บุรุษผู้นั้นต้องพิษงูแปลกประหลาดระหว่างที่กำลังเก็บสมุนไพรมาให้สตรีผู้นั้น เกล็ดมากมายนับไม่ถ้วนบนร่างกา
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 262

    ตอนที่ฟู่เฉินหวนพาคนกลุ่มหนึ่งเข้ามาในถ้ำ เขาก็เห็นลั่วชิงยวนที่กำลังนอนอยู่ตรงมุมหนึ่งได้ทันที เขารีบเดินเข้าไปช่วยประคองให้นางลุกขึ้นด้วยท่าทีร้อนใจ "ลั่วชิงยวน! ฟื้นสิ!" ฟู่เฉินหวนตรวจดูการหายใจเพื่อยืนยันว่านายยังมีชีวิตอยู่หรือไม่! จากนั้นเขาก็รีบอุ้มลั่วชิงยวนออกไปจากถ้ำแล้วออกคำสั่งว่า "ตรวจสอบที่นี่ให้ละเอียด เมื่อสักครู่นี้มีความเคลื่อนไหวค่อนข้างเยอะทีเดียว ดูซิว่ายังมีผู้ใดอยู่อีกหรือไม่" เซียวชูตอบว่า "พ่ะย่ะค่ะ!" ทันใดนั้นฟู่เฉินหวนก็อุ้มลั่วชิงยวนออกมาจากถ้ำด้วยท่าทีร้อนใจ จากนั้นก็ลงเขามาถึงเรือนแห่งหนึ่ง จือเฉากำลังนั่งอยู่ตรงขั้นบันไดหิน เพื่อรอคอยให้พระชายากับแม่นางซ่งกลับมา แต่นางกลับไม่คาดคิดว่าจะได้เห็นท่านอ๋องที่กำลังรอคอยอยู่! มิหนำซ้ำยังอุ้มพระชายามาอีกด้วย! "ทะ… ท่านอ๋อง ไฉนพระองค์ถึงเสด็จมาที่นี่ได้เพคะ?" จือเฉารู้สึกตกใจมากเสียจนต้องรีบลุกขึ้น แต่เมื่อนางเห็นพระชายาหมดสติและกระอักโลหิตอยู่ในอ้อมแขนของท่านอ๋อง จือเฉาก็พลันตื่นตระหนกขึ้นมาทันที "ไปเอาน้ำร้อนมา" "เพคะ!" เมื่อฟู่เฉินหวนอุ้มลั่วชิงยวนเข้ามาในห้อง จือเฉาก็รีบไปเอาน้ำร้อนแล

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 263

    จือเฉารีบยื่นชาถ้วยหนึ่งให้แก่ลั่วชิงยวน แต่หลังจากดื่มชาเข้าไปแล้ว ลั่วชิงยวนก็อดมิได้ที่จะไอขึ้นมา ทันใดนั้นนางก็กระอักโลหิตออกมาคำหนึ่ง จือเฉาร้องอุทานด้วยความตื่นตะลึง "พระชายา ท่านไอเป็นเลือดหนาเจ้าคะ!" ฟู่เฉินหวนที่อยู่ในลานเรือนถึงกับขมวดคิ้ว ไอเป็นเลือดเช่นนั้นหรือ? ถึงแม้ว่าอาการบาดเจ็บภายนอกจะไม่สาหัส แต่อาการบาดเจ็บภายในไม่อาจมองข้ามได้ โดยเฉพาะในช่วงเหมันตฤดู หากไม่ดูแลให้ดี ๆ ก็อาจจะทำให้เกิดโรคภัยขึ้นมาได้ ฟู่เฉินหวนขมวดคิ้วแล้วพยายามต่อสู้กับความคิดของตน เขาไม่ควรมอบโอกาสให้แก่ลั่วชิงยวนอีกครั้ง แต่... ถ้าหากนางยอมรับผิดและตัดขาดความสัมพันธ์กับฟู่อวิ๋นโจวและไทเฮา เขาก็จะมอบโอกาสครั้งสุดท้ายให้แก่นาง! ขณะที่เขากำลังครุ่นคิดอยู่นั้น จือเฉาก็วิ่งออกมานอกห้องแล้วคุกเข่าลงตรงหน้าฟู่เฉินหวน "ท่านอ๋องเพคะ! พระชายาได้รับบาดเจ็บสาหัส ขอท่านอ๋องได้โปรดอนุญาตให้พระชายากลับไปได้หรือไม่เพคะ?" เมื่อลั่วชิงยวนได้ยินเสียงของจือเฉา นางก็รีบลุกขึ้นจากเตียงทันที แต่นางกลับอ่อนแอลงทั้งยังมีอาการเจ็บหน้าอกอย่างรุนแรง นางพิงกรอบประตูและปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าฟู่เฉินหวนด้วย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 264

    เซียวชูเอ่ยด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า "กระหม่อมพบร่องรอยของการมีคนอาศัยอยู่เรือนข้าง ๆ ผ้าผ่อนในตู้เสื้อผ้าหายไปส่วนหนึ่งซึ่งตรงกับสายคาดเอวไหมที่มัดแผลของนักฆ่าพ่ะย่ะค่ะ" เมื่อฟู่เฉินหวนได้ยินเช่นนี้ สายตาของเขากลับแปรเปลี่ยนเป็นเย็นชา "นางเลี้ยงบุรุษไว้ในเรือนของข้าเช่นนั้นหรือ?!" เซียวชูรู้สึกประหลาดใจนัก ไฉนท่าทีตอบสนองอย่างแรกของท่านอ๋องถึงกลายเป็นเช่นนี้ไปได้เล่า? "ท่านอ๋อง กระหม่อมเกรงว่าเรื่องราวจะไม่ง่ายดายเช่นนั้น มีศพนักฆ่าหลายสิบคนอยู่ในถ้ำ พวกมันเป็นนักฆ่าที่ฝึกวรยุทธมาหลายปีจึงไม่น่าจะมีวรยุทธอ่อนด้อย ดูเหมือนว่าพวกมันจะตายเพราะพิษจนใบหน้าเปลี่ยนเป็นสีดำ" "การตายช่างน่าสงสัยนัก ทั้งยังเป็นถ้ำอสรพิษอีกต่างหาก พระชายาถูกส่งไปที่นั่นเพื่อเซ่นสังเวยให้แก่เทวาภูผา แต่นักฆ่าพวกนั้นมาจากที่ใดกัน?" "ไฉนพระชายาถึงเข้าไปพัวพันกับพวกมันได้?" หลังจากฟังวาจาของเซียวชู สายตาของฟู่เฉินหวนกลับยิ่งเย็นชามากขึ้น "ตรวจดูให้ละเอียด! ตรวจสอบพื้นเพของคนพวกนั้นด้วย!" หลังจากฟู่เฉินหวนสั่งการก็เดินจากไป เซียวชูรีบถามขึ้นมาว่า "พระชายาเป็นอย่างไรบ้างพ่ะย่ะค่ะ?" ฟู่เฉินหวนเหลียว

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 265

    นางฉีกเสื้อผ้าตัวเองแล้วรีบพันแผลให้งูยักษ์ จากนั้นหาที่หลบซ่อนแล้วยัดตัวมันเข้าไปข้างใน "ช่วยชีวิตคนได้กุศลยิ่งกว่าสร้างเจดีย์เจ็ดชั้น ข้าจะช่วยเจ้าสักครั้งก็แล้วกัน ถ้าหากเจ้ารอดพ้นเหมันต์นี้ไปได้ ข้าหวังว่าเจ้าจะปล่อยซ่งเชียนฉู่ไป" "แน่นอนว่าต่อให้เจ้าไม่ยอมปล่อยนางไป ก็ไม่เป็นไรหรอก อย่างไรเสียเจ้าก็เอาชนะข้าไม่ได้" หลังจากลั่วชิงยวนพูดจบ นางก็หันหลังเดินจากไป นางแบกซ่งเชียนฉู่เอาไว้บนหลังแล้วเดินลงเขาไปด้วยความยากลำบาก เมื่อกลับมาถึงเรือนลั่วชิงยวนก็เปลี่ยนเสื้อผ้าสะอาดให้ซ่งเชียนฉู่แล้วเตรียมตัวไปต้มยามาป้อนให้ซ่งเชียนฉู่ ช่วยชีวิตของอีกฝ่ายไว้ได้เป็นการชั่วคราว! …… เมื่อถึงตอนเย็น จือเฉาก็กลับมาพร้อมกับโอสถแล้วรีบไปต้มยาให้ลั่วชิงยวน "พระชายา แม่นางซ่งเองก็กลับมาแล้ว สวี่ชิงหลินเล่าเจ้าคะ?" จือเฉาถามด้วยความสงสัย "เขาตายไปแล้ว" ลั่วชิงยวนตอบอย่างไม่ใส่ใจนัก จือเฉาผงกศีรษะ "เช่นนั้นนับแต่บัดนี้เป็นต้นไป พวกเราสามคนก็คงต้องพึ่งพาอาศัยกันแล้ว! พรุ่งนี้บ่าวจะหาทางขึ้นเขาไปเก็บผักป่าเองเจ้าค่ะ" เมื่อลั่วชิงยวนได้ยินเช่นนี้ นางก็เอ่ยถามด้วยความสงสัยว่า "เจ้าเป็

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 266

    เกรงว่า… เรื่องนี้อาจจะไม่ใช่ความฝัน แต่เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง การที่ซ่งเชียนฉู่ฝันถึงเรื่องเหล่านี้ ก็น่าจะเป็นเพราะงูยักษ์ มันรู้ความจริงทุกอย่างแล้ว ซ่งเชียนฉู่ไม่ได้ทอดทิ้งเขาไป แต่ประสบอุบัติเหตุระหว่างที่กำลังตามหาโอสถ น่าเสียดายที่บัวมรกตเหมันต์ถูกเด็ดไปก่อนแล้ว เกรงว่าคงไม่มีวันได้พบเจ้าสิ่งนั้นอีกในใต้หล้านี้ เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ขึ้นมา นางก็อดไม่ด้ที่จะรู้สึกเสียใจอยู่บ้าง เมื่อเห็นสีหน้าที่ยังคงหวาดกลัวของซ่งเชียนฉู่ ลั่วชิงยวนก็ลังเลไปชั่วขณะและตัดสินใจว่าจะไม่บอกความจริงกับอีกฝ่าย ต่อให้นางบอกอีกฝ่ายไป อีกฝ่ายจะยอมรับได้หรือ? ตอนนี้ไม่รู้ว่าซ่งเชียนฉู่หวาดกลัวงูมากขนาดไหน ทว่าต่อให้ลั่วชิงยวนไม่พูดอะไร ซ่งเชียนฉู่ก็สัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่าง นางไม่ได้เล่าให้ลั่วชิงยวนฟังว่าสระน้ำเย็นในความฝันเหมือนกับสถานที่ที่ตนตามหาโอสถไม่มีผิดเพี้ยน บัวมรกตเหมันต์ที่ลั่วชิงยวนได้มาน่าจะเติบโตอยู่ก้นสระน้ำเย็น เพื่อบัวมรกตเหมันต์ดอกนี้แล้ว นางเฝ้าตามหามันมาตั้งแต่เมื่อครั้งยังเยาว์วัย ถึงขนาดตามหาแม้แต่ในความฝัน ทว่าสุดท้ายนางก็ยังไม่มีโอกาสได้มันมา หลังจาก

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 267

    "ผู้ใดอยู่ตรงนั้น?" บุรุษผู้หนึ่งเปิดประตูออกมา ลั่วชิงยวนกับซ่งเชียนฉู่ถูกพบตัวเข้า ก่อนที่พวกนางจะทันได้หนีไป "พวกเจ้ากำลังทำอะไร? เข้ามาขโมยของในหมู่บ้านเช่นนั้นหรือ!" "ช่วยด้วย มีผู้บุกรุก!" ลั่วชิงยวนร้องอุทานด้วยความตกใจแล้วรีบช่วยซ่งเชียนฉู่ยกหีบ "วิ่งเร็ว!" ไม่นานชาวบ้านกลุ่มใหญ่ที่ปรากฏตัวขึ้นทางด้านหลังก็ถือไม้เท้ากับจอบวิ่งไล่ตามพวกนางมา ลั่วชิงยวนหายใจแทบไม่ออกและแทบจะยกสิ่งของในอ้อมแขนไม่ไหวอยู่แล้ว "เจ้าใส่เข้าไปในนี้เยอะขนาดไหนกัน หนักเหลือเกิน!" ซ่งเชียนฉู่เองก็หยุดพักหายใจ "ช้าก่อน! มีโสมเก้าบุษบันอมตะของท่านอยู่ด้วย! ทั้งยังมีทั้งหมดสามแขนงอีกต่างหาก! เพียงพอที่จะรักษาโรคอ้วนของท่านได้เชียวหนา!" เมื่อลั่วชิงยวนได้ยินเช่นนี้เข้า นางก็รู้สึกตื่นเต้น จากนั้นโลหิตทั่วทั้งกายาก็เริ่มที่จะเดือดพล่าน โสมเก้าบุษบันอมตะสามแขนง! แม้แต่ยามที่นางเป็นนักบวชหญิง นางก็ยังมิได้รับโสมเก้าบุษบันอมตะทีเดียวถึงสามแขนงเลย! ต่อให้มีเงินก็เป็นเรื่องยากที่จะซื้อหามาได้ ลั่วชิงยวนใช้มือเดียวยกหีบใบใหญ่พลางใช้มืออีกข้างคว้าแขนของซ่งเชียนฉู่เอาไว้ จากนั้นนางก็รีบวิ่งกลับ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 268

    ลั่วชิงยวนพลันนึกขึ้นได้ว่าอาหารของพวกนางหมดแล้ว ซ่งเชียนฉู่จึงเอ่ยขึ้นมาว่า "เข้าเมืองไปขายเครื่องยาสมุนไพรกันเถอะ พวกเราน่าจะหาเงินได้บ้างแล" ลั่วชิงยวนรีบโบกมือ "มิได้นะ! เครื่องยาสมุนไพรพวกนั้นล้ำค่าเกินไป แม้แต่ในเมืองหลวงก็ยากจักพบได้ หากขายไปเช่นนี้คงได้ขาดทุนกันพอดี!" "ข้ามีลู่ทางหาเงินแล้ว! ไปที่เมืองข้าง ๆ กันเถอะ" จือเฉาถามว่า "เช่นนั้นพวกเราควรจะนำสิ่งใดไปดีเจ้าคะ?" "แค่เปลี่ยนชุดก็พอ" ลั่วชิงยวนกับจือเฉาสวมอาภรณ์ของบุรุษ ในเรือนมีเสื้อผ้าคนรับใช้อยู่มากมาย การที่พวกนางแต่งกายเช่นนั้นจึงไม่สะดุดตามากนัก …… ณ เมืองเปี้ยนเหอ เมืองไม่ใหญ่โตอะไรนัก แต่เนื่องจากอยู่ติดกับเมืองหลวงและเป็นเส้นทางเพียงสายเดียวที่จะไปสู่เมืองหลวงได้ ทำให้ค่อนข้างรุ่งเรืองเฟื่องฟู และมีตระกูลอันมั่งคั่งสัญจรไปมา ลั่วชิงยวนมาถึงโรงน้ำชาที่ค่อนข้างเงียบสงบแห่งหนึ่งแล้วจองโต๊ะบริเวณหัวมุมประตูจากเถ้าแก่ทันที เมื่อนางจ่ายเงินไปสามตำลึงเงิน เถ้าแก่จึงยกน้ำชากาหนึ่งมาให้พวกนางโดยไม่คิดเงิน หน้าโรงน้ำชามีแผงทำนายดวงชะตาที่แสนจะธรรมดาสามัญตั้งอยู่ ทั้งยังร้างไร้ผู้คนและมีผู้มาอุดหนุนไม่

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 269

    ซ่งเชียนฉู่ร้องอุทานพร้อมให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี "ท่านทราบเรื่องนี้ด้วยหรือเจ้าคะ?" เสียงอุทานของซ่งเชียนฉู่ดึงดูดความสนใจของหลาย ๆ คนรอบตัวนาง และทันใดนั้นก็มีคนรีบเข้ามามุงดูเรื่องตื่นเต้น เถ้าแก่โรงน้ำชาเข้ามาฟังไปเรื่อยเปื่อยพลางเอามือไพล่หลังเอาไว้ ลั่วชิงยวนเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง "แม่นาง เร็ว ๆ นี้ตระกูลของเจ้ากำลังเตรียมงานมงคลอยู่ใช่หรือไม่?" ซ่งเชียนฉู่ผงกศีรษะด้วยท่าทางตื่นเต้น "ใช่ ใช่เจ้าค่ะ เรื่องนี้ท่านก็รู้ด้วยหรือเจ้าคะ?" "แม่นาง วันนี้จงไปตรวจดูหลุมศพของผู้ล่วงลับสักหน่อย หากมีสิ่งใดในชีวิตที่ยังมิได้เอาไปก็เผาไปด้วยกันเลยเป็นดีที่สุด หากเจ้าคิดจะจัดงานมงคลให้เลื่อนไปอีกสองเดือนจะดีกว่า" ลั่วชิงยวนกุเรื่องขึ้นมาทั้งเพ ลั่วชิงยวนเองก็คืนถุงเงินหนักอึ้งกลับคืนไปให้ซ่งเชียนฉู่พลางกล่าวว่า "เมื่อเจ้ากลับไปจัดการธุระเรียบร้อยแล้ว หากเจ้ามีจิตศรัทธาค่อยมอบเงินให้ข้าก็ได้" เมื่อซ่งเชียนฉู่ได้ยินเช่นนี้ นางก็รู้สึกดีใจเป็นล้นพ้น "จริงหรือเจ้าคะ? ขอบคุณท่านอาจารย์ยิ่งเจ้าค่ะ!" หลังจากซ่งเชียนฉู่พูดจบ นางก็รีบจากไป จือเฉาฉวยโอกาสเรียกขานออกไปว่า "ท่านอ

Latest chapter

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1416

    “เจ้ารีบอะไรนักหนา รอมาตั้งนานแล้ว รออีกสักหน่อยจะเป็นกระไร”เมื่อได้ยินดังนั้น อวี๋ตันเฟิ่งก็หยุดมือลั่วชิงยวนเดินเข้าไปคว้าตัวโหยวเซียงไว้ให้โฉวสือชีมัดนางไว้แน่นหนา จากนั้นจึงปลุกโหยวเซียงให้ฟื้นขึ้นมาเมื่อฟื้นคืนสติ โหยวเซียงก็จ้องหน้าลั่วชิงยวนเขม็งอย่างโกรธแค้น “เจ้ากล้าจับข้า เจ้าคอยดูเถอะว่าจะตายอย่างไร!”ลั่วชิงยวนย่อตัวลงนั่งตรงหน้านาง แล้วหัวเราะเบา ๆ “ใช่แล้ว ใครจะกล้าแตะต้องคุณหนูใหญ่เมืองแห่งภูตผีเล่า”“น่าเสียดาย เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้ บิดามารดาของเจ้าไปปล้นเขามา มิใช่ของพวกเขามาแต่เดิม ย่อมมิใช่ของเจ้าเช่นกัน”“ถึงเวลาคืนเจ้าของตัวจริงแล้ว”โหยวเซียงจ้องเขม็งนางอย่างโกรธแค้น “เจ้าพูดจาเหลวไหลอะไร! เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้เป็นของบิดามารดาข้ามาแต่เดิม!”เมื่อได้ยินดังนั้น ลั่วชิงยวนก็ประหลาดใจ “หรือว่าต่งอวิ๋นซิ่วมิได้บอกความจริงแก่เจ้า”“ก็ถูกแล้ว เรื่องน่าอับอายเช่นนี้ นางจะบอกลูกสาวได้อย่างไร”“เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้มิใช่เพียงถูกบิดามารดาเจ้ายึดมาเท่านั้น แต่ยังใช้วิธีการที่น่ารังเกียจในการยึดครองด้วย!”“เดาว่าจนถึงตอนนี้เจ้าก็คงยังมิรู้เลยว่าศัตรูของเจ้าคือผ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1415

    โหยวเซียงกัดฟันพูดด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบลั่วชิงยวนมองไปที่อวี๋โหรว หลายวันมานี้อวี๋โหรวผอมซูบไปมาก“เจ้าจับตัวอวี๋โหรวมาเพื่อล่อข้ามาที่นี่รึ?”ลั่วชิงยวนหรี่ตามองโหยวเซียง“แต่เจ้ามิน่าจะมีความสามารถพอที่จะพาอวี๋โหรวออกจากวังหลวงไปได้”“เวินซินถงเป็นคนทำใช่หรือไม่?”“เจ้าทำข้อตกลงอะไรกับนางไว้?”โหยวเซียงหัวเราะเยาะ “อยากรู้รึ?”“คุกเข่าอ้อนวอนข้าสิ”“เจ้าอ้อนวอนข้า ข้าถึงจะบอกเจ้าว่าผู้ใดจับตัวอวี๋โหรวมา และผู้ใดร่วมมือกับข้าวางแผนให้เจ้ามาที่เมืองแห่งภูตผี”ลั่วชิงยวนมองท่าทีหยิ่งยโสของโหยวเซียงแล้วก็อดมิได้ที่จะหัวเราะเบา ๆ นางกวาดสายตามองไปรอบ ๆ แล้วถามว่า “ต่งอวิ๋นซิ่วมิมาด้วยรึ?”“เมื่อครู่นี้คนที่ต่อสู้กับข้าก็คือนางใช่หรือไม่?”เมื่อได้ยินน้ำเสียงเยาะเย้ยของลั่วชิงยวน โหยวเซียงก็โกรธจัด ในใจนางตกใจ ลั่วชิงยวนรู้แล้วหรือว่ามารดาของนางเป็นใคร“สารเลว!”นางบีบคออวี๋โหรวอย่างแรงเพื่อข่มขู่ลั่วชิงยวน “จะคุกเข่าหรือไม่?!”“ลั่วชิงยวน เจ้ามีโอกาสแค่ครั้งเดียว!”“หากเจ้ามิยอมคุกเข่ายอมจำนนแต่โดยดี ข้าจะหักคอนางเดี๋ยวนี้!”กล่าวจบ โหยวเซียงก็ออกแรงบีบบีบจนอวี๋โหรวหาย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1414

    ทันทีที่คนใบ้หันมาเห็นจึงรีบเข้ามาย่อตัวลงข้างนางแล้วช่วยประคองนางไว้ลั่วชิงยวนเช็ดเลือดที่มุมปาก ใบหน้าซีดเผือดกว่าเดิม“ข้ามิเป็นอะไร”นางเงยหน้าขึ้นมองอวี๋ตันเฟิ่งที่อยู่กลางอากาศ ในที่สุดจิตวิญญาณของนางก็สมบูรณ์แล้วบนใบหน้าซีดขาวนั้นปรากฏรอยยิ้ม รอยยิ้มนั้นทั้งพึงพอใจและเย่อหยิ่ง“ในที่สุดข้าก็ได้… เป็นอิสระแล้ว! ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า...”อวี๋ตันเฟิ่งหัวเราะลั่น ทำเอาป่าทั้งผืนเกิดพายุโหมกระหน่ำคนใบ้รีบยกมือขึ้นช่วยลั่วชิงยวนปัดป้องฝุ่นและใบไม้ที่ปลิวว่อน......จู่ ๆ ต่งอวิ๋นซิ่วก็กระอักเลือดออกมาเต็มปาก จากนั้นหมดสติล้มลงบนพื้น“ท่านแม่!”โหยวเซียงตกใจ รีบเข้าไปประคองนาง “ท่านแม่! ท่านแม่! ท่านเป็นอะไรไป!”หลังจากตะโกนเรียกอยู่นาน มารดาของนางก็มิฟื้นโหยวเซียงโกรธจนกัดฟันพูด “ลั่วชิงยวน สารเลว!”“เจ้าคอยดูเถอะ!”......ผ่านไปครู่ใหญ่ อวี๋ตันเฟิ่งถึงจะสงบสติอารมณ์ลงได้ลมพายุในป่าก็สงบลงเช่นกันถูหมิงที่อยู่ข้าง ๆ จึงค่อย ๆ ขยับเข้ามาใกล้ฉีเสวี่ยเวยที่ยังคงตกตะลึงมองภาพเหตุการณ์เมื่อครู่ด้วยความมิอยากเชื่อ “เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้น?”“ต่อไปพวกเราต้องทำอะไร?”ลั่วชิงยวน

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1413

    คนของถูหมิงตายไปหมดแล้ว เหลือเพียงฉีเสวี่ยเวยเท่านั้นในขณะที่พวกเขาเดินทางไปยังถ้ำแห่งที่หกในคืนนั้นผลลัพธ์ที่ได้กลับน่าผิดหวังเพราะในถ้ำว่างเปล่า“ดูเหมือนว่าพวกเราจะมาช้าไปก้าวหนึ่ง”ถูหมิงขมวดคิ้ว “เหลืออีกหนึ่งชิ้น ทำอย่างไรดี? หรือว่าความพยายามทั้งหมดของเราจะสูญเปล่า?”พวกเขาวุ่นวายมาหลายวัน เดินทางไปเกือบทั่วทั้งภูเขาแล้วหากสมบัติหายไปเช่นนี้ เขาคงต้องฆ่าสตรีผู้นี้เป็นแน่!ลั่วชิงยวนขมวดคิ้วครุ่นคิด แล้วกล่าวว่า “เหลืออีกหนึ่งชิ้นก็เหลืออีกหนึ่งชิ้น”“หาที่ปลอดภัยก่อน”จากนั้นพวกเขาก็มายังป่าที่ค่อนข้างสะอาด ไม่มีพุ่มไม้หรือวัชพืชหนาแน่นบนพื้นมากนัก ค่อนข้างโปร่งโล่งหีบทั้งห้าใบวางอยู่บนพื้นลั่วชิงยวนกล่าวว่า “เปิดหีบกันเถิด”ทันใดนั้นดวงตาของถูหมิงก็เป็นประกาย “เปิดได้หรือ?”เขาเห็นว่าบนหีบมีแต่อักขระสีเลือดปกคลุมอยู่ จึงยั้งมือไว้หลายครั้งแม้จะอยากเปิดก็ตามเมื่อได้ยินเช่นนี้จึงรีบเปิดหีบทันทีแต่เมื่อเปิดออกแล้ว ร่างกายของเขาก็แข็งทื่อไปศพ?!ทั้งยังเป็นศพที่ถูกชำแหละอีกด้วย?ฉีเสวี่ยเวยก็ตกใจกลัวลั่วชิงยวนกลับสงบสติอารมณ์ สั่งให้โฉวสือชีและคนใบ้ช่วย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1412

    “ใครกัน?!”ลั่วชิงยวนหรี่ตาลงเล็กน้อย แล้วตอบเสียงแผ่ว “ซูเซียง”“แต่ตอนนี้ควรเรียกนางว่าโหยวเซียง”“ภารกิจที่พวกเจ้าได้รับก็เป็นเพียงการละเล่นของนางเท่านั้น”“นางต้องการให้พวกเจ้าฆ่ากันเอง”และภารกิจหนังหน้าของหญิงงามที่ฉีเสวี่ยเวยได้รับ ก็คงเป็นการล่อลวงให้ฉีเสวี่ยเวยมาฆ่านางหากสามารถยืมมือคนอื่นฆ่าคนได้ โหยวเซียงก็มิจำเป็นต้องเปิดเผยตัวตนเพียงแต่โหยวเซียงคาดมิถึงว่าฉีเสวี่ยเวยจะฆ่านางมิได้ กระทั่งโหยวเซียงเองก็ฆ่านางมิได้“โหยวเซียงหรือ? นางเป็นคนของเมืองแห่งภูตผีแห่งนี้หรือ?” ฉีเสวี่ยเวยมองนางอย่างมิเชื่อสายตา“มิแปลกใจเลย… นางท้องแก่ถึงเพียงนั้นยังกล้ามาที่นี่ได้”ลั่วชิงยวนเห็นว่าใกล้รุ่งสางแล้ว จึงให้โฉวสือชีแก้เชือกที่มัดฉีเสวี่ยเวยไว้“ข้าจะยังมิฆ่าเจ้าตอนนี้”“มิว่าเรื่องที่เจ้ากล่าวมาจะเป็นจริงหรือไม่ก็มิสำคัญ ข้าก็มิกลัวว่าเจ้าจะไปบอกเรื่องนี้กับถูหมิง”“หากเจ้าไปบอก เรื่องเดียวที่จะเป็นผลเสียต่อพวกข้าก็คือต้องแบกหีบเพิ่มอีกมิกี่ใบ”“เพียงเท่านั้น”มิใช่เรื่องคอขาดบาดตายที่นางทำเป็นร่วมมือกับถูหมิง ก็เพียงต้องการใช้คนของเขาไปขวางทางศพชายที่ถูกผนึกไว้ในถ้ำ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1411

    “แม้จะต้องยอมตายไปพร้อมกับถูหมิง ข้าก็ยินดี!”เมื่อได้ยินดังนั้น ลั่วชิงยวนก็ตกตะลึง แต่ก็ยังคงสงสัยอยู่บ้าง“แต่เจ้าสนิทสนมกับถูหมิงถึงเพียงนั้น น่าจะมีโอกาสฆ่าเขาได้นับครั้งมิถ้วน”ฉีเสวี่ยเวยขมวดคิ้วแน่น ดวงตาแดงก่ำ “แท้จริงแล้วคนผู้นั้นระแวดระวังตัวมาก หากมิใช่เพราะต้องการลดความระแวดระวังของเขา ข้ากับชายมากหน้าหลายตาก็คงมิ...”เมื่อกล่าวถึงตรงนี้ ฉีเสวี่ยเวยก็เม้มริมฝีปากแน่นหลังจากกล้ำกลืนความรู้สึกแล้ว จึงกล่าวต่อ “ในป่าครั้งนั้นเป็นครั้งแรกที่เขาใกล้ชิดข้า เดิมทีตอนนั้นข้ามีโอกาสที่จะฆ่าเขาได้!”“แต่เจ้าปีศาจฝูเหมิ่งนั่นบังเอิญมาขวาง!”“หากมิใช่เพราะเขา ข้าคงทำสำเร็จไปแล้ว!”ฉีเสวี่ยเวยกัดฟันพูด เต็มไปด้วยความเคียดแค้นลั่วชิงยวนรู้สึกประหลาดใจ เมื่อเห็นสีหน้าของฉีเสวี่ยเวย ในดวงตาของนางเต็มไปด้วยความแค้น ดูมิเหมือนคนโกหกทำให้นางเปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อฉีเสวี่ยเวยไปบ้างขณะที่ลั่วชิงยวนยังคงครุ่นคิด ฉีเสวี่ยเวยก็มองมาที่นาง “เจ้ายังมิเชื่อข้าหรือ?”“ขอเพียงเจ้าฆ่าถูหมิงได้ ข้าจะทำทุกอย่างเพื่อเจ้า! ข้าจะบอกสิ่งที่เจ้าอยากรู้ทุกอย่าง!”ลั่วชิงยวนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1410

    ลั่วชิงยวนนอนนิ่งอยู่บนเตียง มิกล้าขยับกายทว่างูตัวนั้นกลับกัดข้อเท้านางอย่างแรงหนึ่งครั้ง จากนั้นก็รีบเลื้อยหนีไปรออยู่ครู่หนึ่ง ฉีเสวี่ยเวยเห็นว่าคนที่นอนอยู่บนเตียงไม่มีความเคลื่อนไหวใด ๆ จึงเปิดประตูเข้ามานางมิอาจมั่นใจได้ว่าพวกคนใบ้จะกลับมาเมื่อใด จึงมิกล้าเสียเวลานานหลังจากปิดประตูอย่างระแวดระวังแล้ว นางก็มายังปลายเตียง จ้องมองข้อเท้าของลั่วชิงยวนอย่างละเอียด ปรากฏว่าถูกงูกัดจริง ๆ นางต้องตายเพราะพิษนี้แน่นอน!ทันใดนั้นเอง ฉีเสวี่ยเวยก็ชักกริชออกมาแล้วเดินไปยังหัวเตียง ค่อย ๆ จรดใบมีดลงบนใบหน้าของลั่วชิงยวนแต่ในพริบตานั้นเอง ลั่วชิงยวนก็ลืมตาขึ้นมาจ้องมองนางด้วยสายตาอาฆาตแค้นฉีเสวี่ยเวยพลันตกใจ แต่ก็มิได้หนีในทันที เพราะนางคิดว่าลั่วชิงยวนโดนพิษงูเข้าไปแล้ว อย่างไรก็ต้องตายอยู่ดีลั่วชิงยวนรีบคว้าข้อมือของฉีเสวี่ยเวยไว้เพื่อแย่งชิงกริชมาจากนางฉีเสวี่ยเวยก็ลงมือโจมตีเช่นกัน เพียงแต่นางคาดมิถึงว่าสตรีผู้นี้ที่ถูกพิษแล้วจะยังมีพละกำลังมากมายถึงเพียงนี้หลังจากทั้งสองต่อสู้กันครู่หนึ่งในห้อง ฉีเสวี่ยเวยก็พ่ายแพ้ ถูกลั่วชิงยวนจับกดไว้บนโต๊ะฉีเสวี่ยเวยตกใจมาก “เจ้า

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1409

    “แน่นอน”“อีกอย่าง เมื่อหาของเหล่านี้ครบแล้วเมืองแห่งภูตผีทั้งเมืองก็จะเป็นของพวกเรา แล้วยังต้องขึ้นเขาไปเอาของเล็ก ๆ น้อย ๆ นั่นหาปะไร”คำพูดนี้กระตุ้นความโลภในใจของทุกคนที่อยู่ตรงนั้นอย่างมิต้องสงสัยพวกเขาจึงมิลังเลอีกต่อไป รีบติดตามลั่วชิงยวนไปยังเส้นทางเดิมตลอดทางยังมีงูมากมาย ลั่วชิงยวนก็หาสมุนไพรบางชนิดตลอดทางแล้วมอบให้ทุกคนผูกติดไว้บนตัวและทาตามเท้า เพื่อให้กลิ่นของสมุนไพรนั้นช่วยไล่งูดังนั้นการเดินทางของพวกเขาจึงราบรื่นดี เมื่อยามค่ำคืนมาเยือนพวกเขาก็ออกมาจากบ่อน้ำพุร้อนนั้นอีกครั้งพวกเขากลับมายังหมู่บ้านเดิมในช่วงกลางดึกสงัดในหมู่บ้านยังมีอาหารหลงเหลืออยู่ ดังนั้นทุกคนจึงหยุดพักกินอาหารกันก่อนเมื่อฟื้นฟูพละกำลังได้แล้วคนทั้งหมดก็ออกเดินทางต่อมาถึงสุสานเดิม ยามนี้วิญญาณอาฆาตเต็มไปทั่วทั้งภูเขา พลังหยินแผ่ซ่านไปทั่วเมื่อลั่วชิงยวนมาถึงที่แห่งนั้นก็พบว่าปากถ้ำเปิดออกแล้วมีคนกล่าวขึ้นว่า “วันนั้นฝูเหมิ่งก็มาที่นี่!”ลั่วชิงยวนตกใจเล็กน้อยเมื่อเข้าไปในถ้ำแล้ว ภาพที่ปรากฏด้านในนั้นมิเปลี่ยนแปลงมากนัก สิ่งที่เปลี่ยนไปเพียงอย่างเดียวคือโลงศพที่ถูกล่ามโซ่นั้นระเบ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1408

    เมื่อได้ยินดังนั้น ความโลภก็ปรากฏในดวงตาของถูหมิง ใครเล่าจะมิปรารถนาสมบัติของเมืองแห่งภูตผี เขาตอบตกลงในทันที “ได้”ลั่วชิงยวนกล่าวต่อว่า “แต่การนำของสิ่งนี้มาจะต้องเผชิญกับอันตรายบ้าง ดังนั้นอาจจะต้องมีคนของเจ้าสละชีวิต”“แต่คนมากก็แบ่งกันได้น้อย คนตายไปบ้างก็มิจำเป็นต้องสนใจความเป็นความตายของพวกเขา”“ความลับนี้ข้าบอกเพียงเจ้าเท่านั้น เจ้าอย่าได้แพร่งพรายให้ผู้ใดรู้เชียว”“โดยเฉพาะฉีเสวี่ยเวย”เมื่อได้ยินดังนั้นถูหมิงก็หันกลับไปมอง แต่ไหนแต่ไรมาเขาก็มิเคยสนใจความเป็นความตายของคนเหล่านั้นอยู่แล้ว“หาได้มีปัญหาไม่!”ถูหมิงรับปากอย่างง่ายดาย แต่ลั่วชิงยวนกลับยังคงระแวดระวัง “ยังมีเรื่องที่ต้องบอกเจ้าอีกอย่าง กองทัพของเมืองแห่งภูตผีถูกพวกข้าปลุกปั่นแล้ว คาดว่าอีกมินานคงไล่ตามมา”“ก่อนที่จะหาของทั้งหกชิ้นพบ อย่าได้คิดที่จะทำสิ่งใดนอกเหนือจากนี้ ท้ายที่สุดแล้ว พวกเราต้องร่วมมือกันต่อสู้กับศัตรู หากถูกพวกมันจับได้คงไม่มีใครมีจุดจบที่ดี”สีหน้าของถูหมิงเปลี่ยนไปเล็กน้อย มิคาดคิดว่าสตรีผู้นี้จะเก่งกาจมากถึงเพียงนี้ กระทั่งปลุกกองทัพของเมืองแห่งภูตผีขึ้นมาได้ดูเหมือนว่าสิ่งที่นางต้

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status