แชร์

บทที่ 269

ผู้เขียน: หว่านชิงอิ๋น
ซ่งเชียนฉู่ร้องอุทานพร้อมให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี "ท่านทราบเรื่องนี้ด้วยหรือเจ้าคะ?"

เสียงอุทานของซ่งเชียนฉู่ดึงดูดความสนใจของหลาย ๆ คนรอบตัวนาง และทันใดนั้นก็มีคนรีบเข้ามามุงดูเรื่องตื่นเต้น

เถ้าแก่โรงน้ำชาเข้ามาฟังไปเรื่อยเปื่อยพลางเอามือไพล่หลังเอาไว้

ลั่วชิงยวนเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง "แม่นาง เร็ว ๆ นี้ตระกูลของเจ้ากำลังเตรียมงานมงคลอยู่ใช่หรือไม่?"

ซ่งเชียนฉู่ผงกศีรษะด้วยท่าทางตื่นเต้น "ใช่ ใช่เจ้าค่ะ เรื่องนี้ท่านก็รู้ด้วยหรือเจ้าคะ?"

"แม่นาง วันนี้จงไปตรวจดูหลุมศพของผู้ล่วงลับสักหน่อย หากมีสิ่งใดในชีวิตที่ยังมิได้เอาไปก็เผาไปด้วยกันเลยเป็นดีที่สุด หากเจ้าคิดจะจัดงานมงคลให้เลื่อนไปอีกสองเดือนจะดีกว่า"

ลั่วชิงยวนกุเรื่องขึ้นมาทั้งเพ

ลั่วชิงยวนเองก็คืนถุงเงินหนักอึ้งกลับคืนไปให้ซ่งเชียนฉู่พลางกล่าวว่า "เมื่อเจ้ากลับไปจัดการธุระเรียบร้อยแล้ว หากเจ้ามีจิตศรัทธาค่อยมอบเงินให้ข้าก็ได้"

เมื่อซ่งเชียนฉู่ได้ยินเช่นนี้ นางก็รู้สึกดีใจเป็นล้นพ้น "จริงหรือเจ้าคะ? ขอบคุณท่านอาจารย์ยิ่งเจ้าค่ะ!"

หลังจากซ่งเชียนฉู่พูดจบ นางก็รีบจากไป

จือเฉาฉวยโอกาสเรียกขานออกไปว่า "ท่านอ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 270

    นอกโรงน้ำชามีคนกลุ่มใหญ่เพื่อเอาเงินมามอบให้ ทันทีที่ลั่วชิงยวนปรากฏตัว เถ้าแก่ก็รีบเข้ามาทักทายพลางกล่าวว่า "บรรดาเพื่อนบ้านมาจ่ายเงินกันแล้วหนา ไฉนท่านจึงมาช้านักเล่า?" จือเฉารู้สึกประหลาดใจยิ่งนัก ได้ผลเร็วขนาดนั้นเลยหรือ? เมื่อเห็นสีหน้าเปี่ยมสุขของทุกคน มิได้ดูเหมือนเสแสร้งแกล้งทำแต่อย่างใด ลั่วชิงยวนก็เดินเข้ามาแล้วนั่งลง ป้าหลี่ก็ยื่นเงินห้าสิบตำลึงเงินให้นางพลางกล่าวว่า "ท่านอาจารย์ แม่นจริง ๆ เจ้าค่ะ เมื่อวานนี้ข้าเจอสร้อยข้อมือที่เป็นมรดกประจำตระกูลที่หายไปอยู่ใต้เตาจริง ๆ" ลั่วชิงยวนรับเงินแล้วพยักหน้า จากนั้นคนอื่น ๆ เองก็เข้ามามอบเงินให้ลั่วชิงยวน นางมิได้ตั้งราคาค่างวดอันใด ทุกคนอยากจะให้เท่าไหร่ก็เชิญ แต่วันนี้เงินส่วนใหญ่ได้มาจากเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ได้ผลอย่างรวดเร็ว เรื่องอื่นมิได้ผลรวดเร็วขนาดนั้นหรอก เพราะฉะนั้นเงินทั้งหมดที่ได้ในวันนี้จึงมีแค่ไม่กี่ตำลึงเงิน เดิมทีซ่งเชียนฉู่คิดจจะจ่ายเงินก่อน แต่นางไม่คาดคิดว่าจะมีผู้คนมากมายขนาดนั้นชิงตัดหน้าตนไปก่อนแล้ว ทว่าก็ต้องจ่ายเงินอยู่ดี ซ่งเชียนฉู่เข้ามาแสดงละครอีกฉาก จากนั้นนางก็มอบเงินถุงหนึ่งใ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 271

    “ย่อมไม่มี หมู่บ้านนี้มีข้าที่ชื่อฉู่ลั่วเพียงคนเดียว” ได้ยินดังนี้ แม่นมจึงผายมือเชื้อเชิญ “เช่นนั้นเชิญท่านเซียนฉู่ทำนายให้ฮูหยินข้าทีเถิด หากสมหวังจริง เราจักตอบแทนท่านเป็นอย่างดี!” ดังนั้นลั่วชิงยวนจึงขึ้นรถม้าไปพร้อมกับซ่งเชียนฉู่และจือเฉ่า รถม้าค่อย ๆ ออกจากหมู่บ้าน และเข้าไปในเมืองหลวง ในเมืองหลวงเจริญกว่าในหมู่บ้านนัก บัดนี้เป็นเวลามืดค่ำ แต่เพราะหิมะตกหนักจึงดึงดูดให้ผู้คนไม่น้อยออกมา พวกเขาหัวเราะหยอกเล่นกันกลางหิมะ บรรยากาศครึกครื้นยิ่ง นางกลับมาอีกครั้งแล้ว กลับมาที่เมืองหลวง เพียงแต่ ครั้งนี้นางมิได้กลับตำหนักอ๋องสำเร็จราชการ รถม้าวิ่งเข้าซอยเล็ก ๆ ที่แสนจะเงียบสงบ และจอดที่ประตูหลังของคฤหาสน์แห่งหนึ่ง แม่นมลงจากรถม้า พาเหล่าลั่วชิงยวนเข้าทางประตูหลัง ผ่านทางแสนจะคดเคี้ยว สุดท้ายจึงเข้ามาในเรือนใน ระหว่างทางไม่มีผู้คนสักคน คฤหาสน์ใหญ่เช่นนี้แต่กลับเงียบสงัดอย่างมาก พิลึกเกินไป แม่นมกล่าวขึ้นหน้าเรือนอุ่น “ท่านเซียนฉู่เข้าไปด้านในแต่เพียงผู้เดียว ส่วนท่านทั้งสองโปรดรอที่เรือนรองครู่หนึ่ง” ลั่วชิงยวนพยักหน้าใส่พวกนางสองคน จากนั้นตามแม่นมเข้าไปในเ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 272

    นั่นคือเสียงของฟู่เฉินหวน! ฟู่เฉินหวนมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร? นางชักขาเดินหนีทันที เบื้องหลัง ฟู่เฉินหวนก็เดินถึงหน้าประตู เมื่อเห็นแผ่นหลังลับ ๆ ล่อ ๆ ของนาง จึงดุเสียงเย็น “รอเดี๋ยว!” “เจ้าเป็นใครกัน?” เสียงของฟู่เฉินหวนเยือกเย็น บัดนี้แม่นมเดินออกมา คำนับฟู่เฉินหวนพร้อมกล่าว “ท่านผู้นี้คือท่านเซียนฉู่ที่เชิญมาคืนนี้เพคะ” ลั่วชิงยวนหันหลังให้พวกเขา และมิได้หันหน้ากลับไป ฟู่เฉินหวนประเมินนางพร้อมกับขมวดคิ้ว ฟู่จิ่งหานก้าวขาเดินเข้าห้อง “ท่านเซียนฉู่ว่าอย่างไร?” แม่นมจึงเอ่ยตอบ ลั่วชิงยวนเห็นว่าพวกเขามิได้คิดจะซักถามนางต่อ ก็รู้สึกโล่งอกและสับขาเดินออกไปอย่างร้อนรน ฟู่เฉินหวนปรากฏตัวที่นี่ ฮูหยินท่านนี้ต้องมิธรรมดาแน่! มิคิดว่างานใหญ่งานแรกที่รับหลังกลับเมืองหลวงของนาง จะเกี่ยวข้องกับฟู่เฉินหวนได้ นางเดินไปเรือนรองอย่างรวดเร็ว ซ่งเชียนฉู่และจือเฉ่าทั้งคู่ต่างกำลังรอนางอยู่ “เป็นอย่างไรบ้าง?” พวกนางลุกขึ้นเอ่ยถาม ลั่วชิงยวนสรุปอาการของฮูหยินท่านนั้นให้ฟัง “ข้าเห็นบริเวณหน้าท้องของหญิงสาวมีควันทมิฬโอบล้อม แต่บนร่างกลับมิมีไอชั่วร้าย ข้าคิดว่านางน่าจะติดพิษ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 273

    ทุกครั้งที่เห็นสีหน้าเช่นนี้ของพระชายา จือเฉ่ามักรู้สึกสันหลังเย็บวูบวาบ นางเอ่ยถามอย่างอดมิได้ “พระชายา เข็มนำทางคือสิ่งใดหรือ?” “สิ่งที่ทำร้ายฮูหยินท่านนั้นหรือเจ้าคะ?” ลั่วชิงยวนพยักหน้า จากนั้นวางเข็มลงพร้อมกล่าว “เอาผ้าคลุมหน้าให้ข้า” จือเฉ่าหยิบผ้าคลุมหน้าออกมา ลั่วชิงยวนใส่ปิดหน้าทันที นางหยิบของและกลับเข้าใปในห้อง เพียงแต่ซ่งเชียนฉู่ได้ให้ฟู่เฉินหวนและฟู่จิ่งหานออกไปล่วงหน้าแล้ว บัดนี้ทั้งคู่นั่งอยู่หลังฉากกั้น ระยะมิใกล้กันแต่นิด ทิศทางที่พวกเขานั่งก็มองมิเห็นใบหน้าของลั่วชิงยวน “เป็นอย่างไรบ้าง?” ลั่วชิงยวนเอ่ยถาม ซ่งเชียนฉู่พยักหน้า “อย่างที่ท่านคาดคิด ฮูหยินท่านนี้ติดพิษ และฝังไว้ลึกมาก น่าจะติดจากการสูดกลิ่นธูปเมื่อนางไปสวดมนต์ไหว้พระ พิษมิได้ร้ายแรงนัก มิถึงแก่ชีวิต เพียงแค่ส่งผลต่อสติของนาง” “แต่สำหรับหญิงสาวมีครรภ์ กลับส่งผลกระทบรุนแรงยิ่ง” ฮูหยินที่พิงอยู่บนหมอนหน้าถอดสี “เช่นนี้ท่านหมอมีวิธีรักษาหรือไม่?” ซ่งเชียนฉู่ไตร่ตรองและกล่าว “วิธีรักษาย่อมมี แต่อาจมิได้รักษาถึงต้นตอ ต้องดูว่าด้านท่านเซียนฉู่พบสิ่งใดหรือไม่” ลั่วชิงยวนจึงหยิบสิ่งของเหล่านั

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 274

    “ในเมื่อท่านหมอเทวดามีเครื่องยาสมุนไพร เช่นนั้นก็ใช้เครื่องยาของท่านหมอเถิด เงินมิสำคัญ มิว่าเท่าไรข้าก็ให้ได้!” ฟู่จิ่งหานเดินออกมาโดยไคว้มือไว้ด้านหลัง ฟู่เฉินหวนเองก็เดินออกมาเช่นกัน ลั่วชิงยวนหันหน้าไปมอง ทันทีที่สบตากับฟู่เฉินหวน นางก็หลบตาในทันที แต่สายตาของฟู่เฉินหวนกลับตกอยู่ที่นางตั้งแต่ต้นจนจบ เขามักรู้สึกว่าท่าทีของคนตรงหน้าช่างคุ้นเคย แม้กระทั่งเสียงเขายังรู้สึกค่อนข้างคุ้นหู แต่หุ่นของคนตรงหน้า กลับไม่เหมือนโดยสิ้นเชิง “เหตุใดท่านเซียนฉู่จึงปิดหน้าหรือ?” เสียงเยือกเย็นของฟู่เฉินหวนดังขึ้น และแฝงไปด้วยการหยั่งเชิง ลั่วชิงยวนตอบอย่างสงบ “ข้าป่วย ร่างกายของท่านฮูหยินอ่อนแอ ข้ากลัวว่าจะเผลอแพร่ไปให้ท่านเข้า” มองดูสายตาของฟู่เฉินหวนที่ค่อนข้างแปลกตา ลั่วชิงยวนคิดว่าเขาน่าจะดูไม่ออก เพราะนางใช้โสมเก้าบุษบันอมตะปรับสมดุลกายามาหนึ่งเดือน พิษในร่างนางเริ่มถูกขับออกไปแล้ว จากร่างที่อ้วนท้วมราวกับสุกร บัดนี้กลายเป็นเพียงแค่ร่างอวบ ๆ หุ่นเช่นนี้จะปรากฏบนร่างชายหนุ่มก็มิใช่เรื่องแปลก ดังนั้นฟู่เฉินหวนไม่มีทางเชื่อมโยงนางกับลั่วชิงยวนแน่ “โอสถของพวกข้านอกจากค่าเคร

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 275

    นี่ยังคงเป็นแผ่นดินของตระกูลฟู่หรือ? เหมือนเป็นแผ่นดินของตระกูลเหยียนเสียมากกว่า! ฟู่เฉินหวนกลับมองเขาอย่างจริงจังพร้อมกล่าว “หากเจ้าไม่อยากถูกพวกเขาควบคุมไปตลอด เช่นนั้นเด็กคนนี้ มิว่าอย่างไรเจ้าก็ต้องปกป้องเอาไว้ให้ได้ หากเป็นองค์ชาย ก็ให้เติบโตในฐานะองค์ชายเอก อนาคตพระสนมซีจึงจะมีโอกาสแย่งชิงตำแหน่งฮองเฮา” “หากฮองเฮาของเจ้าเป็นลูกสาวของตระกูลเหยียน เช่นนั้นเจ้าคงถูกตระกูลเหยียนควบคุมไปตลอดชีวิต”คำพูดของฟู่เฉินหวน ทำให้ฟู่จิ่งหานรับรู้ถึงความอันตราย แต่ก็กลับถูกความกดดันเช่นนี้กดไว้เสียจนจะหายใจไม่ออก เขาดึงแขนเสื้อฟู่เฉินหวนไว้ “เสด็จพี่สาม ตอนนี้ข้าทำได้เพียงพึ่งเสด็จพี่แล้ว ข้าไม่มีแผนการ คงต้องให้เสด็จพี่ช่วยข้าคิดแล้ว” ...... เมื่อผ่านยามจื่อ(1) ประตูเมืองปิดลง แม่นมจึงส่งพวกนางไปพักในโรงเตี๊ยม จ่ายค่าห้องพักให้พวกนาง และสั่งอาหารน้ำเหล้าเรียบร้อย พร้อมทิ้งท้ายว่าพรุ่งนี้เวลาเที่ยงตรงจะมารับพวกนางเข้าเมือง แม้ว่าแม่นมจะจองไว้ให้พวกนางสามห้อง แต่ทั้งสามกลับนอนห้องเดียวกัน จือเฉ่าไปขอน้ำร้อนที่หลังครัว ทั้งสามนั่งแช่เท้าอยู่ในห้อง ร่างกายของพวกนางอบอุ่นขึ้น

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 276

    วินาทีนั้นหัวใจของลั่วชิงยวนสั่นคลอน แต่นางมิได้หันหลังกลับ และเดินหน้าต่อโดยไม่สนใจ ผู้อยู่เบื้องหลังส่งเสียงเรียกนางอีกครั้ง “ท่านเซียนฉู่” ลั่วชิงยวนจึงหยุดฝีเท้าลงและหันร่าง “ท่านเซียนฉู่มาจากเมืองเปี้ยนเหอหรือ? เช่นนั้นรู้จักลั่วชิงยวนหรือไม่” ฟู่เฉินหวนถามหยั่งเชิง ก่อนหน้านี้ท่านเซียนฉู่มิเคยปรากฏตัวมาก่อน เมื่อองค์จักรพรรดิพูดถึงเรื่องพระสนมซี เขาคิดถึงลั่วชิงยวนเป็นคนแรกเลย แต่ยังมิทันที่เขาจะเอ่ยถึงลั่วชิงยวน องค์จักรพรรดิก็ตามหาท่านเซียนฉู่มาเสียก่อน “มิรู้จักขอรับ” ลั่วชิงยวนตอบอย่างมารยาท “ท่านยังมีเรื่องอื่นอีกหรือไม่?” ดวงตาลึกซึ้งของฟู่เฉินหวนประเมินนาง “ไม่มีแล้ว” ลั่วชิงยวนก้มหน้าเล็กน้อย จากนั้นหันร่างจากไปพร้อมกับซ่งเชียนฉู่ ฟู่เฉินหวนมองแผ่นหลังที่จากไป ยิ่งมองยิ่งรู้สึกไม่เหมือน ดูท่าจะมิเกี่ยวข้องกับลั่วชิงยวน เมื่อคิดถึงลั่วชิงยวน ฟู่เฉินหวนจึงก้าวขาจากไป และกลับไปยังตำหนักอ๋อง “ซูโหยว” ซูโหยวรีบเดินเข้ามา “ท่านอ๋อง” “ที่จวนนอกเมือง ช่วงนี้มีท่าทีใดหรือไม่?” ฟู่เฉินหวนถามเสียงเย็น ซูโหยวชะงักเล็กน้อย พร้อมขานตอบ “กระหม่อมส่งคนไป

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 277

    เห็นว่าในจวนไม่มีคน แม่นมเติ้งรู้สึกร้อนรนเป็นอย่างมาก พระชายาหายไปไหนกัน? จากนั้นนางก็เห็นชายหนุ่มที่ปิดหน้าปิดตาเดินเข้ามา นางระแวงขึ้นมาในทันที “เจ้าคือผู้ใด?​ เหตุใดจึงบุกรุกจวนนอกเมืองอ๋องสำเร็จราชการ?” ลั่วชิงยวนถอดผ้าคลุมหน้าออก พร้อมกล่าว “แม่นมเติ้ง ข้าเอง” ได้ยินเช่นนี้ แม่นมเติ้งชะงักทีหนึ่ง จากนั้นจึงเริ่มมองคนตรงหน้าอย่างตั้งใจ และกล่าวอย่างไม่น่าเชื่อ “พระชายา...หรือ?” ลั่วชิงยวนพยักหน้า แม่นมเติ้งหมุนร่างนางดูซ้ำไปซ้ำมาอย่างมิอยากจะเชื่อ “มิได้เจอเดือนหนึ่ง เหตุใดท่านจึงผอมลงเช่นนี้เล่าเจ้าคะ? ร่างกายของท่านเป็นอย่างไรบ้าง ได้รับการบาดเจ็บหนักอะไรหรือไม่เจ้าคะ?” แม่นมเติ้งรู้สึกเป็นห่วงมาก ลั่วชิงตอบยิ้ม ๆ “ไม่เป็นไร ร่างกายของข้าสบายดี” “ผอมลงเป็นเรื่องดี ท่านมิต้องกังวล” “ที่ท่านมาจวนนอกเมืองครั้งนี้ ท่านอ๋องเป็นคนสั่งหรือ?” แม่นมเติ้งเอ่ยตอบ “ซูโหยวให้บ่าวมา เขาให้มาดูว่าจวนนอกเมืองเป็นอย่างไรบ้าง น่าจะอยากให้บ่าวแอบเอาของมาให้พระชายาเจ้าค่ะ” ลั่วชิงยวนกระตุกยิ้มเย็น “ท่านอ๋องปล่อยให้ข้าเอาตัวรอดเอง ซูโหยวกล้าให้เจ้าแอบเอาของมาให้ข้างั้นรึ?” “พ

บทล่าสุด

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1288

    ทันทีที่คำกล่าวเหล่านี้หลุดออกมาร่างกายของฟู่เฉินหวนก็แข็งทื่อดวงตาของฉินอี้เต็มไปด้วยความคาดหวังอันร้อนแรงตั้งแต่เล็กจนโต แม้เขาจะเป็นองค์ชาย แต่ก็มีเพียงมิกี่คนที่ให้ความเคารพเขาแม้กระทั่งน้องสาวของเขาเองก็มักจะลงมือทำร้ายเขาบ่อย ๆ โดยมิไว้หน้ากันเลยแม้แต่น้อยส่วนคนที่อยู่ตรงหน้าเขาคืออ๋องผู้เป็นเทพสงครามเทพแห่งแคว้นเทียนเชวียและผู้สำเร็จราชการผู้ยิ่งใหญ่ในใต้หล้าเขาจึงตั้งตารอที่จะได้เห็นฟู่เฉินหวนคุกเข่าด้วยความเคารพฟู่เฉินหวนกำหมัดแน่นซ้ำแล้วซ้ำเล่าที่จริงเขาสามารถเจรจากับฉินอี้ได้ และมีเงื่อนไขต่าง ๆ มากมายที่เขาสามารถพูดคุยกับอีกฝ่ายได้ทว่าการเจรจาต้องอาศัยยุทธวิธีและที่สำคัญกว่านั้นคือ ต้องมีจิตใจที่สงบมั่นคงแต่ในเวลานี้ ฟู่เฉินหวนมิสามารถทำเช่นนั้นได้เขาแทบจะรอมิไหวแล้วดวงตาของเขาขรึมลง พลางยกเสื้อคลุมขึ้นและคุกเข่าลงเสียงดังตึงเมื่อเข่ากระทบพื้นนั้นเจือไปด้วยความอึดอัดกลัดกลุ้ม แต่เป็นเสียงที่ฉินอี้ฟังแล้วรู้สึกสบายหูเป็นอย่างยิ่งมิอาจปฏิเสธได้ว่าตอนนี้เขาพอใจอย่างถึงที่สุดนี่เป็นความรู้สึกที่เขาพยายามเสาะหามาตลอดหลายปีแต่ก็มิเคยได้มันมาโดยเฉพา

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1287

    ในห้องขังอันเงียบงัน เสียงเฆี่ยนตีดังชัดเจนจนเหมือนได้ยินเสียงผิวหนังฉีกออกเป็นชิ้น ๆทำเอาคนที่ได้ยินรู้สึกใจสั่นที่มุมตรงทางเดิน บุรุษสวมหน้ากากที่อยู่ข้างหลังฉินอี้กำหมัดแน่นในทันทีฝ่ามือถูกจิกจนเกือบจะเลือดออกฟู่เฉินหวนที่ได้ยินเสียงนั้นก็รู้สึกเป็นห่วงและอดมิได้ที่จะพุ่งไปหาแต่ฉินอี้คว้าข้อมือของเขาเอาไว้“เฉินชีจะมาช่วยนางเอง”“หากตอนนี้เจ้าถูกจับได้ก็ช่วยนางออกไปมิได้ แล้วพวกเจ้าก็จะต้องตายอยู่ที่นี่”“ด้วยตัวตนของเจ้า มีแต่จะต้องเผชิญกับจุดจบที่น่าอนาถยิ่งกว่าเดิม”ฟู่เฉินหวนกำหมัดแน่น เขาก้าวถอยหลังมาหนึ่งก้าวและอดทนต่อไปฝ่ามือของเขาเหงื่อออกเมื่อได้ยินเสียงเฆี่ยนตีอย่างต่อเนื่องแต่ไม่มีเสียงร้องของความเจ็บปวด ก็สามารถบอกได้ว่า ลั่วชิงยวนกำลังทุกข์ทรมานกับความเจ็บปวดมากเพียงใดนั่นทำให้ฟู่เฉินหวนรู้สึกปวดใจเป็นอย่างมากทว่าเขาทำได้เพียงเฝ้ามองจากที่ไกล ๆ มิสามารถเข้าไปใกล้หรือช่วยนางได้เสียงแส้ดังขึ้นอย่างมิหยุดหย่อน และเสียงแส้ในแต่ละครั้งนั้นดูเหมือนจะฟาดลงไปที่หัวใจของฟู่เฉินหวนจนเลือดสด ๆ ไหลออกมาเป็นทางเวลาเหมือนจะผ่านไปอย่างเชื่องช้า และเสียงแส้น

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1286

    ภายในห้องบรรทมอันโอ่อ่าฉินอี้เดินมาที่ข้างเตียงด้วยร่างกายที่เต็มไปด้วยบาดแผลยามนี้เกาเหมียวเหมี่ยวได้ทำแผลและกินโอสถเรียบร้อยแล้ว แต่ใบหน้าของนางยังคงซีดอยู่เล็กน้อยเมื่อเห็นฉินอี้เดินมาหาด้วยใบหน้าฟกช้ำและเปื้อนเลือด เกาเหมียวเหมี่ยวจึงมองเขาด้วยความมิอยากเชื่อ“ท่านแพ้ลั่วชิงยวนรึ?”ฉินอี้ขมวดคิ้วเป็นปม พลางมองบาดแผลของเกาเหมียวเหมี่ยวด้วยความกังวลและพูดว่า “เหมียวเหมี่ยว บาดแผลเจ้าสาหัสมาก ช่วงสองวันนี้เจ้าควรพักผ่อนให้ดีก่อน อย่าเพิ่งเดินไปไหนมาไหนเลย”ทว่าเกาเหมียวเหมี่ยวกลับมิได้สนใจในความห่วงใยของฉินอี้นางจ้องมองฉินอี้ด้วยความโมโหแล้วยกฝ่ามือฟาดไปหนึ่งฉาดฉินอี้มิประหลาดใจแม้แต่น้อย แต่กลับมองเกาเหมียวเหมี่ยวด้วยสีหน้าจริงจังและเป็นห่วง“เหมียวเหมี่ยว...”เกาเหมียวเหมี่ยวโมโหมากจนเอามือฟาดเขาสองครั้งติดต่อกันและแสดงความเกรี้ยวกราดออกมา “ขยะไร้ค่า! ขยะไร้ค่า!”“ท่านเป็นถึงองค์ชายผู้สูงส่ง แต่กลับถูกลั่วชิงยวนจัดการจนมีสภาพเช่นนี้ อับอายจนมิรู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ใด!”เกาเหมียวเหมี่ยวโกรธจนแทบอยากจะฉีกลั่วชิงยวนเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยดวงตาของฉินอี้หรี่ลง แต่กลับมิได

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1285

    แต่ขณะที่ทั้งสองคนกำลังต่อสู้กันอย่างสูสีวิชาฝ่ามือที่จู่โจมเข้ามาอย่างฉับพลันของลั่วชิงยวนทำให้ฉินอี้มิทันตั้งตัว เขาถูกรัวหมัดใส่อย่างต่อเนื่องจนลอยกระเด็นออกไป และกระอักเลือดออกมาการต่อสู้สิ้นจบลงในพริบตาเดียวหลายคนที่อยู่รอบด้านล้วนเห็นมิชัด“เมื่อครู่เกิดกระไรขึ้น?”“ต่อสู้กันอยู่มิใช่หรือ? เหตุใดจู่ ๆ ฉินอี้ถึงแพ้ได้เล่า?”ลั่วชิงยวนมองฉินอี้ด้วยสายตาเย็นชา “ดูเหมือนวรยุทธ์ขององค์ชายใหญ่จะเป็นอย่างที่คนเขาลือกันนะเพคะ”เทียบกับคนทั่วไปแล้ว วรยุทธ์ของฉินอี้ก็ถือว่ามิได้อ่อนด้อยเลยแต่สำหรับคนที่เป็นถึงองค์ชายนั้นช่างดูอ่อนแอนักเมื่อครู่ที่ลั่วชิงยวนลองทดสอบ ดูเหมือนว่าเขายังคงมีทักษะวรยุทธ์แบบเดียวกับที่เคยเรียนมาเมื่อก่อน และมิได้มีความก้าวหน้ามากนักเป็นเช่นนี้ได้อย่างไรหากฉินอี้เพียรพยายามมากกว่านี้ ผลลัพธ์ก็คงมิเป็นเช่นนี้ฉินอีจ้องนางด้วยโทสะ ดูเหมือนจะเจ็บใจที่วรยุทธ์ของตนอ่อนด้อยเกินไป ทำให้เสียงวิพากษ์วิจารณ์รอบข้างยิ่งบาดหูมากขึ้นไปอีกเขากัดฟันพลางกำหมัดแน่น และพุ่งเข้าหาลั่วชิงยวนอย่างดุร้ายเขามิยอมพ่ายแพ้เช่นนี้หรอกแต่เขากลับมิสามารถเอาชนะลั่วชิงย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1284

    ลั่วชิงยวนตกตะลึง อารมณ์ความรู้สึกของนางดำดิ่งเป็นไปตามที่นางคาดเดาเอาไว้ว่ามิเหลือแม้แต่ศพอย่างนั้นหรือ?“มิพบศพด้วยซ้ำ” อวี๋โหรวกล่าวเสียงขรึมดวงตาของลั่วชิงยวนหม่นลง ดูเหมือนว่าร่างนั้นจะถูกกำจัดไปแล้วจริง ๆ ส่วนจะกำจัดอย่างไรและทิ้งไว้ที่ไหน บางทีอาจมีเพียงฆาตกรเท่านั้นที่รู้“น่าเสียดายจริง ๆ” ลั่วชิงยวนทอดถอนใจด้วยความเสียดายอวี๋โหรวจ้องนางด้วยสายตาจริงจังและพูดอย่างหนักแน่น “มิน่าเสียดายหรอก ข้าเชื่อว่าเจ้าจะกลายเป็นนางคนต่อไป!”ทันใดนั้น สายตาที่จริงจังของอวี๋โหรวก็ทำให้ลั่วชิงยวนรู้สึกเย็นวาบไปถึงสันหลังและยังสงสัยด้วยว่าอวี๋โหรวจะสังเกตเห็นอะไรบางอย่างหรือไม่ทว่าแม้แต่ศิษย์น้องหญิงก็จำนางมิได้ อีกทั้งอวี๋โหรวก็มิได้สนิทสนมกับนาง แล้วจะจำนางได้อย่างไรลั่วชิงยวนยิ้มและกล่าวว่า “ข้าจะถือว่านั่นคือคำปลอบใจก็แล้วกัน”อวี๋โหรวพูดอย่างจริงจัง “ข้ามิได้ปลอบใจเจ้า ข้าพูดจริง”หลังจากนั้น อวี๋โหรวก็ยิ้มอีกครั้งและพูดว่า “ทางข้ายังพอมียาอยู่บ้าง หากเจ้าต้องการอะไรก็บอกข้าได้เลย”ลั่วชิงยวนมิค่อยเข้าใจว่า เหตุใดอวี๋โหรวถึงทำดีกับนางนางมิค่อยรู้จักอวี๋โหรวมากนัก ในภาพจ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1283

    หรือเป็นเพราะเขาเชื่อมั่นในพลังความแข็งแกร่งของลั่วชิงยวน?แต่เมื่อมาครุ่นคิดดูตอนนี้ สตรีที่สามารถทำให้เซินฉีหลงใหลได้ถึงเพียงนี้คงไม่มีทางที่จะเป็นขยะไร้ค่าแม้จะมิได้แข็งแกร่งกว่าเฉินชี แต่ก็เป็นคนที่สามารถต่อกรกับเขาได้อย่างสูสีเพราะเช่นนี้เขาจึงมิแลเกาเหมียวเหมี่ยวเลยด้วยซ้ำ……เมื่อกลับมาถึงห้องลั่วชิงยวนก็นั่งลงพักผ่อนเฉินชีเดินตามเข้ามาและนั่งลงข้าง ๆ นาง พร้อมกับรินชาสองจอก“สมแล้วที่เป็นอาเหลา มีเพียงเจ้าเท่านั้นที่กล้าทำให้เกาเหมียวเหมี่ยวตกอยู่ในสภาพเช่นนั้น! ข้าชอบ!” มีแสงประกายเจิดจ้าส่องสว่างในดวงตาของเฉินชีสายตาของเขาดูเหมือนอยากจะกลืนกินลั่วชิงยวนเข้าไปทั้งตัวลั่วชิงยวนพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เกาเหมียวเหมี่ยวได้รับบาดเจ็บสาหัส ฝ่าบาทกับฮองเฮาคงมิยอมปล่อยข้าไปแน่ คงต้องให้เจ้าช่วยออกหน้าให้แล้ว”เฉินชียิ้มมุมปาก “วางใจได้ มีข้าอยู่ทั้งคน”ลั่วชิงยวนที่ยังกังวลอยู่เล็กน้อยกำชับด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “เฉินชี ครั้งนี้เจ้าจะยืนนิ่งดูดายอีกมิได้แล้ว เพราะหากข้าตาย แผนทั้งหมดของเจ้าก็จะสูญเปล่า”“ใต้หล้านี้ไม่มีลั่วเหลาคนที่สองหรอกนะ”เฉินชีพยักหน้าอย่างจริงจ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1282

    เลือดสด ๆ ยังคงไหลมิหยุด ไหลนองไปตามร่องลึกของลวดลายวงเวทบนพื้นดินคาดมิถึงว่ามันจะค่อย ๆ ทำให้อักษรเวทของวงเวทส่องแสงขึ้นจากนั้นหมอกสีเขียวจาง ๆ ก็กระจายฟุ้งอยู่รอบตัวลั่วชิงยวนสิ่งเหล่านั้นล้วนเป็นไอโอสถทั้งสิ้นหอรักษ์ดาราแห่งนี้ยังเป็นสถานที่ที่สามารถกลั่นไอโอสถจากเลือดได้ และไอโอสถเหล่านี้ก็สามารถรักษาร่างกายที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสได้ลั่วชิงยวนหลับตาและสูดลมหายใจด้วยความเพลิดเพลิน ทำให้ร่างกายที่ปวดร้าวของนางดูเหมือนจะผ่อนคลายลงนี่อาจจะเป็นความหมายของการมีอยู่ของแท่นประลองหอรักษ์ดาราแต่ไอโอสถนี้ก็จางลงอย่างรวดเร็วลั่วชิงยวนปล่อยเกาเหมียวเหมี่ยว นางยืนขึ้นพร้อมกับยืดเส้นยืดสาย และเดินลงจากแท่นประลองคนอื่นที่อยู่รอบ ๆ ต่างมองมาที่นางด้วยสายตาที่หวาดกลัวมากขึ้น และพวกเขาก็มิกล้าพูดจาดูถูกเหยียดหยามนางเหมือนก่อนหน้านี้อีกต่อไปแล้วลั่วชิงยวนกวาดตามองอย่างเรียบเฉย จากนั้นก็มองไปที่เฉินชีด้วยสายตาลึกซึ้งแล้วเดินจากไปเกาเหมียวเหมี่ยวที่ได้รับบาดเจ็บถูกปลดแส้ออกอย่างรวดเร็วและถูกช่วยลงจากแท่นประลอง นางกัดฟันแน่นพลางจ้องตามหลังลั่วชิงยวนที่กำลังเดินออกไปครู่ต่อมา นางก็เห

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1281

    “โอ้สวรรค์ ข้าคงมิได้ตาลายใช่หรือไม่?”“นางไปเอาความกล้ามาจากที่ใดกัน!”ทุกคนในเมืองหลวงต่างรู้ดีว่าเกาเหมียวเหมี่ยวคือใครนางมิเพียงมีสถานะองค์หญิงที่สูงส่งเท่านั้น แต่ยังมีโอกาสที่จะได้สืบราชบัลลังก์ในภายภาคหน้าอีกด้วยเนื่องจากองค์ชายใหญ่มีความสามารถปานกลาง จึงมิเป็นที่โปรดปรานขององค์จักรพรรดิและฮองเฮา ทว่าองค์หญิงผู้นี้กลับแข็งแกร่งและไร้ความปรานี จึงได้รับความโปรดปรานจากพวกเขาไม่มีใครในเมืองหลวงกล้าขัดใจนางเว้นเสียแต่ เฉินชีเพราะนางชอบเขาทว่าแม้จะเป็นเฉินชี แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าคนอื่นเขาก็ให้เกียรตินางมากลั่วชิงยวนผู้นี้กล้ามากถึงขั้นเหยียบย่ำองค์หญิงต่อหน้าธารกำนัลมากมายเช่นนี้!เกาเหมียวเหมี่ยวพยายามดิ้นพร้อมกับก่นด่าไปด้วย “ลั่วชิงยวน ปล่อยข้าเดี๋ยวนี้! หากเจ้ามิปล่อยข้า ข้าจะทำให้เจ้าตายจนหาที่ฝังมิได้เลยคอยดู!”“ท่านนี่พูดมากนัก เงียบเสีย!”ลั่วชิงยวนมองนางด้วยสายตาเย็นชา พลางคว้าแส้แล้วดึงมันอย่างแรงทันใดนั้นแส้ที่คอของเกาเหมียวเหมี่ยวก็รัดแน่นขึ้นบังคับให้เกาเหมียวเหมี่ยวต้องเชิดหน้าขึ้นสูงแต่ยังคงถูกแส้รั้งไว้จนหน้าแดงนางหายใจมิออกจนเส้นเลือดแตกและตา

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1280

    ลั่วชิงยวนถูกแส้ฟาดจนกระอักเลือด ทำให้อาภรณ์ชุดขาวของนางมีรอยเปื้อนสีแดงมีรอยแส้ที่น่าสะเทือนใจพาดอยู่บนหลังของนางเป็นเส้น ๆทุกคนที่อยู่รอบนอกต่างรู้สึกหวาดกลัวมีคนที่อดมิได้ที่จะกระซิบขึ้นว่า “มิยุติธรรมเลย คนหนึ่งมีอาวุธ แต่อีกคนไม่มี นี่มันจงใจแกล้งกันชัด ๆ มิใช่หรือ”“ชู่! พระนางเป็นองค์หญิง ถึงพระนางจะจงใจฆ่าลั่วชิงยวน แล้วใครจะพูดอะไรได้ ระวังไว้เถิด หากนางจับได้ เจ้าได้เดือดร้อนแน่”ทุกทิศมีแต่ความเงียบงันไม่มีใครกล้าพูดอะไรใครใช้ให้เกาเหมียวเหมี่ยวเป็นองค์หญิงเล่า?นางคือองค์หญิงที่ได้รับความโปรดปรานมาตั้งแต่ยังเล็กนางกลายเป็นคนเย่อหยิ่งบ้าอำนาจ และวิธีการของนางเลวทรามมิน้อยไปกว่าเฉินชีเลยทุกคนในที่นี้ล้วนไม่มีใครกล้าขัดทว่ามีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่สามารถช่วยลั่วชิงยวนได้ แต่คนผู้นั้นกลับนั่งนิ่งอยู่บนเก้าอี้ พลางมองลั่วชิงยวนที่ถูกฟาดบนพื้นจนร่างกายเต็มไปด้วยเลือดมีแสงประกายเจิดจ้าอยู่ในดวงตาของเขาและเจือไปด้วยความยินดีปรีดาลั่วชิงยวนกลิ้งไปบนพื้นและทันใดนั้นก็กระอักเลือดออกมาเต็มปากนางเงยหน้าขึ้นมาและเห็นสายตาที่แสดงถึงความตื่นเต้นดีใจของเฉินชี เขาม

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status