แชร์

บทที่ 267

ผู้เขียน: หว่านชิงอิ๋น
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-01-01 16:00:01
"ผู้ใดอยู่ตรงนั้น?" บุรุษผู้หนึ่งเปิดประตูออกมา

ลั่วชิงยวนกับซ่งเชียนฉู่ถูกพบตัวเข้า ก่อนที่พวกนางจะทันได้หนีไป

"พวกเจ้ากำลังทำอะไร? เข้ามาขโมยของในหมู่บ้านเช่นนั้นหรือ!"

"ช่วยด้วย มีผู้บุกรุก!"

ลั่วชิงยวนร้องอุทานด้วยความตกใจแล้วรีบช่วยซ่งเชียนฉู่ยกหีบ "วิ่งเร็ว!"

ไม่นานชาวบ้านกลุ่มใหญ่ที่ปรากฏตัวขึ้นทางด้านหลังก็ถือไม้เท้ากับจอบวิ่งไล่ตามพวกนางมา

ลั่วชิงยวนหายใจแทบไม่ออกและแทบจะยกสิ่งของในอ้อมแขนไม่ไหวอยู่แล้ว "เจ้าใส่เข้าไปในนี้เยอะขนาดไหนกัน หนักเหลือเกิน!"

ซ่งเชียนฉู่เองก็หยุดพักหายใจ "ช้าก่อน! มีโสมเก้าบุษบันอมตะของท่านอยู่ด้วย! ทั้งยังมีทั้งหมดสามแขนงอีกต่างหาก! เพียงพอที่จะรักษาโรคอ้วนของท่านได้เชียวหนา!"

เมื่อลั่วชิงยวนได้ยินเช่นนี้เข้า นางก็รู้สึกตื่นเต้น จากนั้นโลหิตทั่วทั้งกายาก็เริ่มที่จะเดือดพล่าน

โสมเก้าบุษบันอมตะสามแขนง!

แม้แต่ยามที่นางเป็นนักบวชหญิง นางก็ยังมิได้รับโสมเก้าบุษบันอมตะทีเดียวถึงสามแขนงเลย!

ต่อให้มีเงินก็เป็นเรื่องยากที่จะซื้อหามาได้

ลั่วชิงยวนใช้มือเดียวยกหีบใบใหญ่พลางใช้มืออีกข้างคว้าแขนของซ่งเชียนฉู่เอาไว้ จากนั้นนางก็รีบวิ่งกลับ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 268

    ลั่วชิงยวนพลันนึกขึ้นได้ว่าอาหารของพวกนางหมดแล้ว ซ่งเชียนฉู่จึงเอ่ยขึ้นมาว่า "เข้าเมืองไปขายเครื่องยาสมุนไพรกันเถอะ พวกเราน่าจะหาเงินได้บ้างแล" ลั่วชิงยวนรีบโบกมือ "มิได้นะ! เครื่องยาสมุนไพรพวกนั้นล้ำค่าเกินไป แม้แต่ในเมืองหลวงก็ยากจักพบได้ หากขายไปเช่นนี้คงได้ขาดทุนกันพอดี!" "ข้ามีลู่ทางหาเงินแล้ว! ไปที่เมืองข้าง ๆ กันเถอะ" จือเฉาถามว่า "เช่นนั้นพวกเราควรจะนำสิ่งใดไปดีเจ้าคะ?" "แค่เปลี่ยนชุดก็พอ" ลั่วชิงยวนกับจือเฉาสวมอาภรณ์ของบุรุษ ในเรือนมีเสื้อผ้าคนรับใช้อยู่มากมาย การที่พวกนางแต่งกายเช่นนั้นจึงไม่สะดุดตามากนัก …… ณ เมืองเปี้ยนเหอ เมืองไม่ใหญ่โตอะไรนัก แต่เนื่องจากอยู่ติดกับเมืองหลวงและเป็นเส้นทางเพียงสายเดียวที่จะไปสู่เมืองหลวงได้ ทำให้ค่อนข้างรุ่งเรืองเฟื่องฟู และมีตระกูลอันมั่งคั่งสัญจรไปมา ลั่วชิงยวนมาถึงโรงน้ำชาที่ค่อนข้างเงียบสงบแห่งหนึ่งแล้วจองโต๊ะบริเวณหัวมุมประตูจากเถ้าแก่ทันที เมื่อนางจ่ายเงินไปสามตำลึงเงิน เถ้าแก่จึงยกน้ำชากาหนึ่งมาให้พวกนางโดยไม่คิดเงิน หน้าโรงน้ำชามีแผงทำนายดวงชะตาที่แสนจะธรรมดาสามัญตั้งอยู่ ทั้งยังร้างไร้ผู้คนและมีผู้มาอุดหนุนไม่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-01-01
  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 269

    ซ่งเชียนฉู่ร้องอุทานพร้อมให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี "ท่านทราบเรื่องนี้ด้วยหรือเจ้าคะ?" เสียงอุทานของซ่งเชียนฉู่ดึงดูดความสนใจของหลาย ๆ คนรอบตัวนาง และทันใดนั้นก็มีคนรีบเข้ามามุงดูเรื่องตื่นเต้น เถ้าแก่โรงน้ำชาเข้ามาฟังไปเรื่อยเปื่อยพลางเอามือไพล่หลังเอาไว้ ลั่วชิงยวนเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง "แม่นาง เร็ว ๆ นี้ตระกูลของเจ้ากำลังเตรียมงานมงคลอยู่ใช่หรือไม่?" ซ่งเชียนฉู่ผงกศีรษะด้วยท่าทางตื่นเต้น "ใช่ ใช่เจ้าค่ะ เรื่องนี้ท่านก็รู้ด้วยหรือเจ้าคะ?" "แม่นาง วันนี้จงไปตรวจดูหลุมศพของผู้ล่วงลับสักหน่อย หากมีสิ่งใดในชีวิตที่ยังมิได้เอาไปก็เผาไปด้วยกันเลยเป็นดีที่สุด หากเจ้าคิดจะจัดงานมงคลให้เลื่อนไปอีกสองเดือนจะดีกว่า" ลั่วชิงยวนกุเรื่องขึ้นมาทั้งเพ ลั่วชิงยวนเองก็คืนถุงเงินหนักอึ้งกลับคืนไปให้ซ่งเชียนฉู่พลางกล่าวว่า "เมื่อเจ้ากลับไปจัดการธุระเรียบร้อยแล้ว หากเจ้ามีจิตศรัทธาค่อยมอบเงินให้ข้าก็ได้" เมื่อซ่งเชียนฉู่ได้ยินเช่นนี้ นางก็รู้สึกดีใจเป็นล้นพ้น "จริงหรือเจ้าคะ? ขอบคุณท่านอาจารย์ยิ่งเจ้าค่ะ!" หลังจากซ่งเชียนฉู่พูดจบ นางก็รีบจากไป จือเฉาฉวยโอกาสเรียกขานออกไปว่า "ท่านอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-01-01
  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 270

    นอกโรงน้ำชามีคนกลุ่มใหญ่เพื่อเอาเงินมามอบให้ ทันทีที่ลั่วชิงยวนปรากฏตัว เถ้าแก่ก็รีบเข้ามาทักทายพลางกล่าวว่า "บรรดาเพื่อนบ้านมาจ่ายเงินกันแล้วหนา ไฉนท่านจึงมาช้านักเล่า?" จือเฉารู้สึกประหลาดใจยิ่งนัก ได้ผลเร็วขนาดนั้นเลยหรือ? เมื่อเห็นสีหน้าเปี่ยมสุขของทุกคน มิได้ดูเหมือนเสแสร้งแกล้งทำแต่อย่างใด ลั่วชิงยวนก็เดินเข้ามาแล้วนั่งลง ป้าหลี่ก็ยื่นเงินห้าสิบตำลึงเงินให้นางพลางกล่าวว่า "ท่านอาจารย์ แม่นจริง ๆ เจ้าค่ะ เมื่อวานนี้ข้าเจอสร้อยข้อมือที่เป็นมรดกประจำตระกูลที่หายไปอยู่ใต้เตาจริง ๆ" ลั่วชิงยวนรับเงินแล้วพยักหน้า จากนั้นคนอื่น ๆ เองก็เข้ามามอบเงินให้ลั่วชิงยวน นางมิได้ตั้งราคาค่างวดอันใด ทุกคนอยากจะให้เท่าไหร่ก็เชิญ แต่วันนี้เงินส่วนใหญ่ได้มาจากเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ได้ผลอย่างรวดเร็ว เรื่องอื่นมิได้ผลรวดเร็วขนาดนั้นหรอก เพราะฉะนั้นเงินทั้งหมดที่ได้ในวันนี้จึงมีแค่ไม่กี่ตำลึงเงิน เดิมทีซ่งเชียนฉู่คิดจจะจ่ายเงินก่อน แต่นางไม่คาดคิดว่าจะมีผู้คนมากมายขนาดนั้นชิงตัดหน้าตนไปก่อนแล้ว ทว่าก็ต้องจ่ายเงินอยู่ดี ซ่งเชียนฉู่เข้ามาแสดงละครอีกฉาก จากนั้นนางก็มอบเงินถุงหนึ่งใ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-01-01
  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 271

    “ย่อมไม่มี หมู่บ้านนี้มีข้าที่ชื่อฉู่ลั่วเพียงคนเดียว” ได้ยินดังนี้ แม่นมจึงผายมือเชื้อเชิญ “เช่นนั้นเชิญท่านเซียนฉู่ทำนายให้ฮูหยินข้าทีเถิด หากสมหวังจริง เราจักตอบแทนท่านเป็นอย่างดี!” ดังนั้นลั่วชิงยวนจึงขึ้นรถม้าไปพร้อมกับซ่งเชียนฉู่และจือเฉ่า รถม้าค่อย ๆ ออกจากหมู่บ้าน และเข้าไปในเมืองหลวง ในเมืองหลวงเจริญกว่าในหมู่บ้านนัก บัดนี้เป็นเวลามืดค่ำ แต่เพราะหิมะตกหนักจึงดึงดูดให้ผู้คนไม่น้อยออกมา พวกเขาหัวเราะหยอกเล่นกันกลางหิมะ บรรยากาศครึกครื้นยิ่ง นางกลับมาอีกครั้งแล้ว กลับมาที่เมืองหลวง เพียงแต่ ครั้งนี้นางมิได้กลับตำหนักอ๋องสำเร็จราชการ รถม้าวิ่งเข้าซอยเล็ก ๆ ที่แสนจะเงียบสงบ และจอดที่ประตูหลังของคฤหาสน์แห่งหนึ่ง แม่นมลงจากรถม้า พาเหล่าลั่วชิงยวนเข้าทางประตูหลัง ผ่านทางแสนจะคดเคี้ยว สุดท้ายจึงเข้ามาในเรือนใน ระหว่างทางไม่มีผู้คนสักคน คฤหาสน์ใหญ่เช่นนี้แต่กลับเงียบสงัดอย่างมาก พิลึกเกินไป แม่นมกล่าวขึ้นหน้าเรือนอุ่น “ท่านเซียนฉู่เข้าไปด้านในแต่เพียงผู้เดียว ส่วนท่านทั้งสองโปรดรอที่เรือนรองครู่หนึ่ง” ลั่วชิงยวนพยักหน้าใส่พวกนางสองคน จากนั้นตามแม่นมเข้าไปในเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-01-02
  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 272

    นั่นคือเสียงของฟู่เฉินหวน! ฟู่เฉินหวนมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร? นางชักขาเดินหนีทันที เบื้องหลัง ฟู่เฉินหวนก็เดินถึงหน้าประตู เมื่อเห็นแผ่นหลังลับ ๆ ล่อ ๆ ของนาง จึงดุเสียงเย็น “รอเดี๋ยว!” “เจ้าเป็นใครกัน?” เสียงของฟู่เฉินหวนเยือกเย็น บัดนี้แม่นมเดินออกมา คำนับฟู่เฉินหวนพร้อมกล่าว “ท่านผู้นี้คือท่านเซียนฉู่ที่เชิญมาคืนนี้เพคะ” ลั่วชิงยวนหันหลังให้พวกเขา และมิได้หันหน้ากลับไป ฟู่เฉินหวนประเมินนางพร้อมกับขมวดคิ้ว ฟู่จิ่งหานก้าวขาเดินเข้าห้อง “ท่านเซียนฉู่ว่าอย่างไร?” แม่นมจึงเอ่ยตอบ ลั่วชิงยวนเห็นว่าพวกเขามิได้คิดจะซักถามนางต่อ ก็รู้สึกโล่งอกและสับขาเดินออกไปอย่างร้อนรน ฟู่เฉินหวนปรากฏตัวที่นี่ ฮูหยินท่านนี้ต้องมิธรรมดาแน่! มิคิดว่างานใหญ่งานแรกที่รับหลังกลับเมืองหลวงของนาง จะเกี่ยวข้องกับฟู่เฉินหวนได้ นางเดินไปเรือนรองอย่างรวดเร็ว ซ่งเชียนฉู่และจือเฉ่าทั้งคู่ต่างกำลังรอนางอยู่ “เป็นอย่างไรบ้าง?” พวกนางลุกขึ้นเอ่ยถาม ลั่วชิงยวนสรุปอาการของฮูหยินท่านนั้นให้ฟัง “ข้าเห็นบริเวณหน้าท้องของหญิงสาวมีควันทมิฬโอบล้อม แต่บนร่างกลับมิมีไอชั่วร้าย ข้าคิดว่านางน่าจะติดพิษ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-01-02
  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 273

    ทุกครั้งที่เห็นสีหน้าเช่นนี้ของพระชายา จือเฉ่ามักรู้สึกสันหลังเย็บวูบวาบ นางเอ่ยถามอย่างอดมิได้ “พระชายา เข็มนำทางคือสิ่งใดหรือ?” “สิ่งที่ทำร้ายฮูหยินท่านนั้นหรือเจ้าคะ?” ลั่วชิงยวนพยักหน้า จากนั้นวางเข็มลงพร้อมกล่าว “เอาผ้าคลุมหน้าให้ข้า” จือเฉ่าหยิบผ้าคลุมหน้าออกมา ลั่วชิงยวนใส่ปิดหน้าทันที นางหยิบของและกลับเข้าใปในห้อง เพียงแต่ซ่งเชียนฉู่ได้ให้ฟู่เฉินหวนและฟู่จิ่งหานออกไปล่วงหน้าแล้ว บัดนี้ทั้งคู่นั่งอยู่หลังฉากกั้น ระยะมิใกล้กันแต่นิด ทิศทางที่พวกเขานั่งก็มองมิเห็นใบหน้าของลั่วชิงยวน “เป็นอย่างไรบ้าง?” ลั่วชิงยวนเอ่ยถาม ซ่งเชียนฉู่พยักหน้า “อย่างที่ท่านคาดคิด ฮูหยินท่านนี้ติดพิษ และฝังไว้ลึกมาก น่าจะติดจากการสูดกลิ่นธูปเมื่อนางไปสวดมนต์ไหว้พระ พิษมิได้ร้ายแรงนัก มิถึงแก่ชีวิต เพียงแค่ส่งผลต่อสติของนาง” “แต่สำหรับหญิงสาวมีครรภ์ กลับส่งผลกระทบรุนแรงยิ่ง” ฮูหยินที่พิงอยู่บนหมอนหน้าถอดสี “เช่นนี้ท่านหมอมีวิธีรักษาหรือไม่?” ซ่งเชียนฉู่ไตร่ตรองและกล่าว “วิธีรักษาย่อมมี แต่อาจมิได้รักษาถึงต้นตอ ต้องดูว่าด้านท่านเซียนฉู่พบสิ่งใดหรือไม่” ลั่วชิงยวนจึงหยิบสิ่งของเหล่านั

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-01-02
  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 274

    “ในเมื่อท่านหมอเทวดามีเครื่องยาสมุนไพร เช่นนั้นก็ใช้เครื่องยาของท่านหมอเถิด เงินมิสำคัญ มิว่าเท่าไรข้าก็ให้ได้!” ฟู่จิ่งหานเดินออกมาโดยไคว้มือไว้ด้านหลัง ฟู่เฉินหวนเองก็เดินออกมาเช่นกัน ลั่วชิงยวนหันหน้าไปมอง ทันทีที่สบตากับฟู่เฉินหวน นางก็หลบตาในทันที แต่สายตาของฟู่เฉินหวนกลับตกอยู่ที่นางตั้งแต่ต้นจนจบ เขามักรู้สึกว่าท่าทีของคนตรงหน้าช่างคุ้นเคย แม้กระทั่งเสียงเขายังรู้สึกค่อนข้างคุ้นหู แต่หุ่นของคนตรงหน้า กลับไม่เหมือนโดยสิ้นเชิง “เหตุใดท่านเซียนฉู่จึงปิดหน้าหรือ?” เสียงเยือกเย็นของฟู่เฉินหวนดังขึ้น และแฝงไปด้วยการหยั่งเชิง ลั่วชิงยวนตอบอย่างสงบ “ข้าป่วย ร่างกายของท่านฮูหยินอ่อนแอ ข้ากลัวว่าจะเผลอแพร่ไปให้ท่านเข้า” มองดูสายตาของฟู่เฉินหวนที่ค่อนข้างแปลกตา ลั่วชิงยวนคิดว่าเขาน่าจะดูไม่ออก เพราะนางใช้โสมเก้าบุษบันอมตะปรับสมดุลกายามาหนึ่งเดือน พิษในร่างนางเริ่มถูกขับออกไปแล้ว จากร่างที่อ้วนท้วมราวกับสุกร บัดนี้กลายเป็นเพียงแค่ร่างอวบ ๆ หุ่นเช่นนี้จะปรากฏบนร่างชายหนุ่มก็มิใช่เรื่องแปลก ดังนั้นฟู่เฉินหวนไม่มีทางเชื่อมโยงนางกับลั่วชิงยวนแน่ “โอสถของพวกข้านอกจากค่าเคร

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-01-02
  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 275

    นี่ยังคงเป็นแผ่นดินของตระกูลฟู่หรือ? เหมือนเป็นแผ่นดินของตระกูลเหยียนเสียมากกว่า! ฟู่เฉินหวนกลับมองเขาอย่างจริงจังพร้อมกล่าว “หากเจ้าไม่อยากถูกพวกเขาควบคุมไปตลอด เช่นนั้นเด็กคนนี้ มิว่าอย่างไรเจ้าก็ต้องปกป้องเอาไว้ให้ได้ หากเป็นองค์ชาย ก็ให้เติบโตในฐานะองค์ชายเอก อนาคตพระสนมซีจึงจะมีโอกาสแย่งชิงตำแหน่งฮองเฮา” “หากฮองเฮาของเจ้าเป็นลูกสาวของตระกูลเหยียน เช่นนั้นเจ้าคงถูกตระกูลเหยียนควบคุมไปตลอดชีวิต”คำพูดของฟู่เฉินหวน ทำให้ฟู่จิ่งหานรับรู้ถึงความอันตราย แต่ก็กลับถูกความกดดันเช่นนี้กดไว้เสียจนจะหายใจไม่ออก เขาดึงแขนเสื้อฟู่เฉินหวนไว้ “เสด็จพี่สาม ตอนนี้ข้าทำได้เพียงพึ่งเสด็จพี่แล้ว ข้าไม่มีแผนการ คงต้องให้เสด็จพี่ช่วยข้าคิดแล้ว” ...... เมื่อผ่านยามจื่อ(1) ประตูเมืองปิดลง แม่นมจึงส่งพวกนางไปพักในโรงเตี๊ยม จ่ายค่าห้องพักให้พวกนาง และสั่งอาหารน้ำเหล้าเรียบร้อย พร้อมทิ้งท้ายว่าพรุ่งนี้เวลาเที่ยงตรงจะมารับพวกนางเข้าเมือง แม้ว่าแม่นมจะจองไว้ให้พวกนางสามห้อง แต่ทั้งสามกลับนอนห้องเดียวกัน จือเฉ่าไปขอน้ำร้อนที่หลังครัว ทั้งสามนั่งแช่เท้าอยู่ในห้อง ร่างกายของพวกนางอบอุ่นขึ้น

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-01-02

บทล่าสุด

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1205

    เหตุใดแคว้นหลีจึงส่งกองทัพมากะทันหันฟู่อวิ๋นโจวเอ่ยถาม “ท่านมหาปราชญ์ ท่านเชี่ยวชาญด้านนี้ พอจะทำนายผลลัพธ์ได้หรือไม่?”“ควรจะรับมืออย่างไร”ขุนนางทั้งหลายต่างมองไปที่ลั่วฉิง ลั่วฉิงไม่มีทางเลือก จึงได้แต่กัดฟันกล่าวว่า “เรื่องนี้... ทำนายได้ แต่หม่อมฉันต้องการเวลาเพคะ”ฟู่อวิ๋นโจวมีสีหน้ากังวล และถามว่า “ท่านมหาปราชญ์ต้องการเวลานานเพียงใด?”ลั่วฉิงลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จึงกล่าวว่า “สามวันเพคะ!”สิ้นคำพูดของนาง หลายคนก็แสดงความมิพอใจ“สามวันหรือ? ซีหลิงอยู่ห่างจากเมืองหลวงราวพันลี้ สามวันกว่าจะบอกผลลัพธ์ จะทันการณ์ได้อย่างไร”“ก่อนหน้านี้พระชายาอ๋องผู้สำเร็จราชการก็มิได้ใช้เวลานานถึงเพียงนั้น”“ใช่ ท่านมหาปราชญ์คงจะมิค่อยมีความสามารถมากถึงเพียงนั้นกระมัง”คำพูดนี้ทำให้ลั่วฉิงหน้าซีดเผือด“สองวัน อย่างเร็วที่สุดก็ต้องสองวัน!” ลั่วฉิงกัดฟันกล่าวในตอนนี้ ฟู่เฉินหวนกล่าวอย่างใจเย็น “แคว้นหลีส่งกองทัพมาโดยมิทราบสาเหตุ ข้าคิดว่าตอนนี้ควรส่งคนไปเจรจากับแคว้นหลีโดยด่วน”“ระหว่างนั้นก็ส่งกองกำลังไปเสริมอย่างลับ ๆ ด้วย อย่าได้พึ่งพาแต่ผลการทำนายของท่านมหาปราชญ์”“หากผลลัพธ์ออกมาแล้ว

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1204

    เมื่อเฉินชีได้ยินดังนั้นก็หยุดชะงักแล้วยกยิ้มมุมปาก เดินมาที่หน้าต่าง พิงกำแพงพลางกอดอก “เจ้าจะให้ข้าช่วยเจ้าในฐานะที่เจ้าเป็นใคร?”ลั่วชิงยวนมองเขาด้วยสายตาเย็นชา “นักบวชระดับสูง”ดวงตาของเฉินชีลุกโชนด้วยประกายร้อนแรง “อาเหลา ในที่สุดเจ้าก็ตัดสินใจจะไปกับข้าแล้วหรือ?”ลั่วชิงยวนมองเขาด้วยสายตาเย็นชาและเย่อหยิ่ง “กลับแคว้นหลีก็ได้ ข้าบอกแล้วว่าให้เจ้าช่วยข้าเรื่องหนึ่ง”“แคว้นหลีจะมีนักบวชระดับสูงได้เพียงผู้เดียวเท่านั้น”เฉินชียกยิ้มมุมปากแล้วหัวเราะอย่างเจ้าเล่ห์ ก่อนจะคุกเข่าลงข้างหนึ่งอย่างนอบน้อม “อย่าว่าแต่เรื่องเดียวเลย สิบเรื่อง ร้อยเรื่อง เฉินชีก็ยินดีทำเพื่อนักบวชระดับสูงทั้งสิ้น!”ลั่วชิงยวนหรี่ตามองเขาด้วยแววตาที่ลึกล้ำถึงแม้เฉินชีจะบ้าแต่ก็มิใช้คนโง่เขลา เขาทำอะไรตามอำเภอใจแต่ก็คงมิยอมสยบต่อนางง่าย ๆ เช่นนี้การเปลี่ยนท่าทีเช่นนี้ทำให้นางมิค่อยเชื่อถือ“เจ้าฟังเรื่องที่ข้าจะให้เจ้าทำก่อนค่อยตอบรับก็ยังมิสาย”เฉินชีลุกขึ้นมองนางด้วยแววตาเป็นประกาย “ท่านนักบวชต้องการให้ข้าทำสิ่งใด?”“ข้าต้องการให้เจ้ายกทัพไปตีซีหลิง”“แต่ห้ามสู้รบกันจริง ๆ ห้ามทำร้ายราษฎร”เฉ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1203

    ใจของลั่วชิงยวนร้อนรุ่มดั่งไฟสุม นางพยายามดิ้นรนสุดแรง “ปล่อยข้านะ!”“ฟู่เฉินหวน ท่านช่างไร้หัวใจอะไรเยี่ยงนี้!”ทว่าฟู่เฉินหวนยังคงมีสีหน้าเรียบเฉย มิสะทกสะท้านแม้แต่น้อยเมื่อเห็นแม่นมเติ้งใกล้จะทนมิไหวแล้ว น้ำตาลั่วชิงยวนก็เอ่อคลอ“หม่อมฉันจะมิออกจากเรือนแล้ว หม่อมฉันจะมิออกจากห้องแล้ว ได้หรือไม่!”นางมองฟู่เฉินหวนด้วยดวงตาแดงก่ำ พยายามวิงวอนขอร้องในที่สุดนางก็ยอมก้มหน้าลง“ขอท่านไว้ชีวิตนางด้วยเถิดเพคะ!” ลั่วชิงยวนคุกเข่าลงอย่างอ่อนแรงแววตาฟู่เฉินหวนมืดมนเดิมทีลั่วชิงยวนคิดว่าเมื่อนางขอร้องแล้ว ฟู่เฉินหวนคงจะไว้ชีวิตแม่นมเติ้งแต่ฟู่เฉินหวนกลับมีแววตาเย็นชา “นางเป็นบ่าวของตำหนัก มิใช่บ่าวของเจ้า นางขัดคำสั่งข้า สำหรับข้าแล้ว ไม่มีคำว่ายกโทษ”น้ำเสียงเย็นเยียบของเขาเป็นดั่งหนามแหลมทิ่มแทงหัวใจของลั่วชิงยวนลั่วชิงยวนตกตะลึงนางโกรธจนตะโกนลั่น “ฟู่เฉินหวน!”ฟู่เฉินหวนขมวดคิ้ว นัยน์ตาฉายแววหงุดหงิดขณะกล่าวเสียงเย็น “พาตัวนางไป”องครักษ์จับตัวลั่วชิงยวนแล้วลากออกไปฟู่เฉินหวนมองนางเป็นครั้งสุดท้ายด้วยสายตาเย็นชา “หากเจ้ายังท้าทายข้าอีก จะต้องมีคนตายมา่กกว่านี้แน่”แ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1202

    ครั้นลั่วชิงยวนถูกพากลับมายังเรือนพวกองครักษ์ก็ปล่อยตัวนาง นางจึงทรุดกายลงคุกเข่ากับพื้นด้วยความอ่อนล้า“พระชายา! พระชายา!”จือเฉารีบรุดเข้ามาประคอง แต่พลั้งมือไปโดนแขนนางเข้า จึงสะดุ้งโหยงรีบชักมือกลับ “พระชายา แขนของท่าน...”ลั่วชิงยวนยันกายลุกขึ้นโดยอาศัยจือเฉาพยุงเดินเข้าห้องไปอย่างเชื่องช้าเมื่อนั่งลงบนเก้าอี้ นางก็จับแขนข้างที่หักนั้นไว้พลางกัดฟันแน่นก่อนจะออกแรงดันกระดูกให้เข้าที่ความเจ็บปวดแล่นริ้วราวกับจะขาดใจ น้ำตาของนางแทบไหลรินจือเฉากลั้นน้ำตาไว้มิอยู่ “พระชายา... เหตุใดท่านอ๋องจึงโหดเหี้ยมเช่นนี้ ลงพระหัตถ์หนักหนาเกินไปแล้ว...”ทันใดนั้นลั่วชิงยวนก็รู้สึกเจ็บแปลบที่อกพลันไอออกมามิหยุด จือเฉารีบยื่นผ้าเช็ดหน้าให้ เมื่อไอเสร็จ ลั่วชิงยวนก็พบว่าผ้าเช็ดหน้าเต็มไปด้วยเลือด...จือเฉาตกใจมาก “บ่าวจะไปตามซูโหยวให้ไปเชิญหมอหลวงมาเจ้าค่ะ”แต่ลั่วชิงยวนกลับบอกว่า “มิต้อง อย่าทำให้เขาเดือดร้อนเลย”หากฟู่เฉินหวนรู้ว่าซูโหยวช่วยนางคงจะโกรธมากเป็นแน่“แล้วแผลของพระชายาเล่าเจ้าคะ?”ลั่วชิงยวนรินน้ำชา “ยังมีสมุนไพรเหลืออยู่มิใช่หรือ แค่นั้นก็เพียงพอแล้ว”จากนั้นนางก็หยิบส

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1201

    ในชั่วพริบตา ลั่วชิงยวนก็รู้สึกเจ็บแปลบที่หลังเพราะถูกกดลงบนกำแพงเท้าของนางลอยขึ้นจากพื้นความรู้สึกหายใจมิออกทำให้นางดิ้นรนสุดกำลัง“ใครอนุญาตให้เจ้าเข้ามา! ใครอนุญาตให้เจ้าแตะต้องของของข้า!”ลั่วชิงยวนพยายามพูด “ฟู่เฉินหวน...”นางหายใจมิออกแล้วนัยน์ตาของฟู่เฉินหวนฉายแววเย็นชาขณะจับนางเหวี่ยงออกไปร่างลั่วชิงยวนตกกระแทกพื้นเสียงดังสนั่นกลิ้งไปหลายตลบแล้วกระอักเลือดออกมาอวัยวะภายในสั่นสะเทือน ปวดร้าวไปทั่วร่าง“ฟู่เฉินหวน ลั่วฉิงกับไทเฮาร่วมมือกัน สิ่งที่ไทเฮาให้ท่านอาจถูกลั่วฉิงปลอมแปลง จดหมายนั้นอาจเป็นของปลอมก็ได้!”ลั่วชิงยวนรีบอธิบายความคิดของตนเองฟู่เฉินหวนเดินเข้ามาด้วยความโกรธ เขาจับนางขึ้นมาแล้วมองนางด้วยสายตาเหี้ยมโหด “ถึงตอนนี้แล้วยังจะมาหลอกลวงข้าอีกรึ?”“ลายมือท่านแม่ของข้า ข้าจะจำมิได้เชียวหรือ!”พูดจบ ลั่วชิงยวนก็ถูกเหวี่ยงออกจากห้องร่างกระแทกพื้นหิมะแขนข้างหนึ่งถูกทับจนเกิดเสียงดังกร๊อบแขนหลุดจากข้อต่อแล้ว“โอ๊ย...” ลั่วชิงยวนร้องเสียงหลง หน้าซีดเผือดด้วยความเจ็บปวด เหงื่อเย็นผุดขึ้นเต็มไปหน้านางใช้มือข้างเดียวพยุงตัว พยายามลุกขึ้นอย่างยากล

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1200

    ลั่วฉิงใช้เข็มทิศอาณัติสวรรค์มิเป็นด้วยฐานะของนาง เป็นไปมิได้ที่จะใช้มิเป็นลั่วชิงยวนเบิกตากว้างลั่วฉิงมิได้ใช้มิเป็น แต่ใช้มิได้ต่างหาก!นางพกเข็มทิศนี้ติดตัวมาตั้งแต่เด็ก อาจารย์บอกว่าเป็นของที่ตกทอดมาจากบรรพบุรุษของนางหลังจากที่นางตายแล้วเกิดใหม่เข็มทิศนี้ก็ยังคงติดตัวนางมา ย่อมมิใช่ของธรรมดาสามัญแน่นอนดังนั้น เข็มทิศนี้อาจจะยอมรับนางเป็นเจ้าของแล้ว คนอื่นจึงใช้มิได้เมื่อคิดได้ดังนั้น ลั่วชิงยวนก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมาบ้างลั่วฉิงได้เข็มทิศไปก็ไร้ประโยชน์ฟู่เฉินหวนถาม “หากไม่มีเข็มทิศนี้ เจ้าก็ทำนายอะไรมิได้เลยหรือ?”ลั่วฉิงยกยิ้ม “แน่นอนว่ามิใช่เช่นนั้น”“เช่นนั้นก็มิเห็นเป็นอะไร เจ้าแค่ทำนายสิ่งที่เจ้าทำนายได้ แล้วก็จะค่อย ๆ ได้รับความไว้วางใจเอง”ฟู่เฉินหวนมีสีหน้าเคร่งขรึม ขณะกล่าวเสียงเย็น “ข้าทะเลาะกับนางไปแล้ว หากจะหลอกลวงนางอีกก็ต้องแสร้งทำดีด้วย”“ข้ามิอยากทำเรื่องน่ารังเกียจเช่นนั้น”หัวใจของลั่วชิงยวนพลันเจ็บแปลบเขาบอกว่าการทำดีกับนางเป็นเรื่องน่ารังเกียจ...ลั่วชิงยวนรู้สึกเจ็บปวด นางกำเสื้อแน่น มิกล้าส่งเสียงแล้วค่อย ๆ เดินจากไปคำพูดเหล่านั้นดังก้อ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1199

    ลั่วชิงยวนที่ถูกขังไว้สองวันเริ่มรู้สึกอึดอัดราวกับถูกจองจำในคุกหิมะตกหนักติดต่อกันหลายวันยิ่งทำให้นางรู้สึกหดหู่เมื่อหิมะเริ่มเบาบางลงนางจึงออกมานั่งที่เก้าอี้ในเรือนสัมผัสกับความเย็นยะเยือกที่โปรยปรายลงบนใบหน้า“พระชายา ระวังจะเป็นหวัดนะเจ้าคะ”จือเฉานำกาน้ำชาอุ่นมาวางไว้บนโต๊ะข้าง ๆ แล้วรินใส่ถ้วยให้นางไอร้อนจากน้ำชาช่วยเพิ่มความอบอุ่นในวันหิมะตกอันหนาวเหน็บจือเฉานั่งอยู่ข้าง ๆ เหม่อมองท้องฟ้าด้วยความกังวล “พระชายา เหตุใดท่านอ๋องจึงใจร้ายกับท่านเช่นนี้เจ้าคะ”“ก่อนหน้านี้เป็นเพราะมีลั่วเยวี่ยอิงที่คอยยุแยง บัดนี้ลั่วเยวี่ยอิงก็ตายไปแล้ว เหตุใดท่านอ๋องจึงยังเป็นเช่นนี้ ระหว่างท่านอ๋องกับพระชายามีเรื่องเข้าใจผิดกันหรือเจ้าคะ?”ลั่วชิงยวนก็มิอาจเข้าใจได้เริ่มเปลี่ยนไปตั้งแต่เมื่อใดกันตั้งแต่ที่นางถูกเฉินชีจับตัวไปบนเขาหรือไม่สิ น่าจะเริ่มตั้งแต่เรื่องของฟู่จิ่งหานตอนที่ฟู่เฉินหวนตัดสินใจจัดการกับฟู่อวิ๋นโจว เขาเข้าวังไปหลายวันแล้วเมื่อกลับมาก็หย่ากับนางแต่เกิดเรื่องอะไรขึ้นในวัง แม้แต่จักรพรรดิสูงสุดก็มิยอมบอกนางหรือบางทีอาจจะมิรู้เหมือนกันวันนี้แม่นมเติ้งเป

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1198

    เขามีสีหน้าเย็นชาขณะกล่าวเสียงเรียบ “กลับตำหนักกับข้า”ลั่วชิงยวนนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่งแล้วจึงให้จือเฉาเก็บข้าวของตามฟู่เฉินหวนออกจากวังเมื่อขึ้นรถม้า ฟู่เฉินหวนก็สั่งสารถีให้กลับตำหนักทันทีทั้งยังเร่งให้รีบกลับด้วยคิ้วที่ขมวดเข้าหากันเล็กน้อยดูเหมือนจะหงุดหงิดอยู่รถม้าแล่นไปอย่างรวดเร็ว ลั่วชิงยวนถูกเขย่าโคลงเคลงจนตัวแทบปลิว แต่ก็ยังพยายามทรงตัว มิเอ่ยคำใดจนกระทั่งรถม้ามาถึงหน้าตำหนักลั่วชิงยวนจึงสังเกตเห็นรอยแดงบนใบหน้าของฟู่เฉินหวนนางยกมือขึ้น แตะใบหน้าเขาเบา ๆ “ใบหน้าของท่านเป็นอะไรไป?”ฟู่เฉินหวนคว้าข้อมือของนางไว้แล้วจ้องมองด้วยสายตาคมกริบ “มิใช่เพราะเจ้าหรอกรึ!”ลั่วชิงยวนชะงักไปชั่วพริบตานั้น ฟู่เฉินหวนก็กระชากนางลงจากรถม้าอย่างแรง ทำให้นางเกือบล้มนางเดินเซ แต่ก็ยังถูกฟู่เฉินหวนลากเข้าไปในตำหนักฟู่เฉินหวนเดินอย่างรวดเร็ว ทั้งร่างเต็มไปด้วยโทสะราวกับพยายามอดกลั้นมานานลั่วชิงยวนจึงตระหนักได้ว่าเขาคงถูกจักรพรรดิสูงสุดลงโทษมิเช่นนั้นรอยแดงบนใบหน้าเขาจะมาจากไหนเมื่อมาถึงลานด้านใน นางก็สะบัดตัวหลุดจากฟู่เฉินหวน“ท่านจะทำอะไร!”ทันใดนั้น ฟู่เฉินหวนก็บีบคางน

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1197

    ผ่านไปครู่หนึ่ง เซิ่งไป่ชวนก็มาถึงลั่วชิงยวนพยุงตัวลุกขึ้นนั่งเซิ่งไป่ชวนเห็นเหงื่อเม็ดเล็ก ๆ บนหน้าผากนาง จึงเอ่ยถามด้วยความแปลกใจ “พระชายารู้สึกหนาวหรือไม่ขอรับ?”ลั่วชิงยวนกล่าวอย่างแผ่วเบา “ข้ามิเป็นอะไร มิต้องตรวจชีพจรแล้ว ข้าจะเขียนใบเทียบยาให้ เจ้าช่วยไปหยิบยาให้หน่อย”เซิ่งไป่ชวนพยักหน้า เขาย่อมเชื่อมั่นในฝีมือแพทย์ของลั่วชิงยวนจึงมิฝืนใจเพียงแต่กล่าวว่า “เห็นอาการของพระชายาทรงทรุดลงทุกวัน เกรงว่าจะเป็นเพราะความวิตกกังวล พระชายาควรปล่อยวางบ้าง”“เพื่อรักษาพระวรกายให้แข็งแรงขอรับ”ลั่วชิงยวนพยักหน้า “ขอบคุณหมอหลวงเซิ่ง”“ข้าจะระมัดระวัง”ขณะที่กำลังสนทนากัน ก็พลันได้ยินเสียงตวาดดังมาจากด้านนอก“ว่ากระไรนะ! สั่งลงไป ผู้ใดกล้าพูดถึงเรื่องนี้อีกให้ตัดหัวได้เลย!”ลั่วชิงยวนตกใจเล็กน้อยด้วยความสงสัย นางจึงสวมรองเท้าเดินออกไปจือเฉานำผ้าคลุมมาสวมให้นางเห็นจักรพรรดิสูงสุดกำลังโมโหอยู่ใต้ชายคา“เกิดเรื่องอันใดขึ้นหรือเพคะ?” ลั่วชิงยวนถามด้วยความอยากรู้จักรพรรดิสูงสุดกล่าวว่า “ไม่มีอะไร เจ้าไปพักผ่อนเถิด ข้ามิได้ดุใครมานานแล้วเลยลองฝึกฝนดู”จากนั้นจักรพรรดิสูงสุด

DMCA.com Protection Status