แชร์

บทที่ 226

ผู้เขียน: หว่านชิงอิ๋น
"ใช่ แสดงความฉลาดของเจ้าออกมาสิ"

"เจ้าน่าจะรู้ว่าตัวเองควรทำกระไรมิใช่รึ"

ทั้ง ๆ ที่ฟู่เฉินหวนน้ำเสียงเย็นชา แต่กลับทำให้โทสะท่วมท้นจิตใจของลั่วชิงยวนซึ่งทำให้นางต้องรีบสะกดกลั้นเอาไว้

ไม่น่าแปลกใจเลยที่ฟู่เฉินหวนมีความคิดที่จะรวบอำนาจ

ถึงแม้ว่านางจะขอเงินเพียงแค่พันตำลึงจากแม่ทัพใหญ่ฉินเป็นรางวัล แต่เรื่องนี้แม่ทัพใหญ่ฉินย่อมต้องมีเงื่อนไขอยู่แล้วซึ่งก็เท่ากับว่ามีเงื่อนไขกับตำหนักอ๋องไปด้วย

ต่อให้ฟู่เฉินหวนไม่เอ่ยปาก แม่ทัพใหญ่ฉินก็จะกลายเป็นกำลังพลส่วนหนึ่งของฟู่เฉินหวนโดยไม่รู้ตัว

ดังนั้นนางจึงยกยิ้มมุมปากแล้วค่อย ๆ เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงใสกระจ่างขึ้นมาว่า

"ได้! หม่อมฉันช่วยท่านอ๋องก็ได้"

"แต่ท่านอ๋องต้องให้สัญญากับหม่อมฉันข้อหนึ่งก่อน"

เมื่อฟู่เฉินหวนได้ยินเช่นนี้เข้าก็มีวี่แววประหลาดใจพาดผ่านดวงตา จากนั้นเขาก็ขมวดคิ้ว "สัญญาเรื่องอันใด?"

คงไม่ใช่เรื่องถุงหอมของมารดานางอีกหรอกนะ

เขาทดสอบลั่วเยวี่ยอิงมาหลายครั้งและนางก็เอาถุงหอมมาหลอกตนอยู่หลายครั้งหลายครา แต่นางกลับไม่เคยมอบให้ลั่วชิงยวน มิหนำซ้ำยังแสร้งโง่อีกต่างหาก

เขาไม่อาจฝืนใจรับเอาไว้ได้

ฉะนั้นของสิ่ง
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 227

    คราวนี้นางเกือบเอาชีวิตไปทิ้งแล้ว เป็นความสะเพร่าของนางที่ตอนนั้นมัวแต่หมกมุ่นครุ่นคิดเรื่องรักษาดวงตาของฉินไป๋หลี่ โดยหารู้ไม่ว่าตนเองกำลังจะประสบเคราะห์ร้าย ฟู่เฉินหวนมองป้ายสัญลักษณ์ด้วยความตะลึงงันพลางพึมพำว่า "ตระกูลหลิว..." ลั่วชิงยวนขมวดคิ้วมุ่น "ท่านอ๋อง ท่านพูดว่าตระกูลหลิวเช่นนั้นหรือ?" "หลิวฮุ่ยเซียง?" พอฟู่เฉินหวนรู้ตัวก็เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า "เจ้าได้ยินผิดแล้ว ข้าจะไต่สวนเรื่องหอชิงเฟิงเอง เจ้าไม่ต้องมายุ่งหรอก" ฟู่เฉินหวนเก็บป้ายสัญลักษณ์ไปโดยไม่ส่งคืนให้แก่ลั่วชิงยวน ลั่วชิงยวนคิดว่าคราวนี้เกือบจะเกิดเรื่องขึ้นกับฟู่เฉินหวนเข้าแล้ว ต่อให้เขาไม่ได้ช่วยนางแก้แค้น แต่ก็น่าจะต้องระบายโทสะด้วยการหาตัวผู้บงการอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ออกมาให้จงได้ ฉะนั้นนางจึงไม่ได้ขอป้ายสัญลักษณ์คืน นางขดตัวกับกองไฟเพื่อทำให้ร่างกายอบอุ่น ไม่นานศีรษะก็ชักจะเริ่มหนักเพราะทนความง่วงงุนไม่ไหว นางจึงล้มตัวลงนอนขดกับพื้นแล้วหลับไป ฟู่เฉินหวนครุ่นคิดเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นวันนี้อยู่เป็นนาน เมื่อเขารู้สึกตัวอีกทีก็เห็นว่าลั่วชิงยวนได้หลับไปเสียแล้ว ทว่ายามราตรีอากาศหนาวเหน็บ แ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 228

    ฟู่เฉินหวนอุ้มลั่วชิงยวนเดินมาไกลด้วยความร้อนใจ กระทั่งในที่สุดเขาก็มองเห็นเรือหลายลำในแม่น้ำ เป็นคนจากตำหนักอ๋อง! ฟู่เฉินหวนรีบอุ้มลั่วชิงยวนไปที่ริมฝั่งแม่น้ำ "ตรงนั้น ตรงนั้นไง! ท่านอ๋องอยู่ตรงนั้น ท่านอ๋องอยู่ตรงนั้น!" เมื่อคนที่อยู่บนเรือมองเห็นพวกเขาก็ร้องอุทานขึ้นมาด้วยความตื่นเต้น…… ลั่วชิงยวนถูกพาตัวกลับมาที่ตำหนักอ๋อง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสร้างความโกลาหลและตื่นตระหนกกันไปทั้งตำหนัก ดังนั้นองค์จักรพรรดิจึงส่งตัวหมอหลวงมาเป็นพิเศษ ทั่วทั้งตำหนักยุ่งง่วนกันมาทั้งวัน ในที่สุดก็ช่วยชีวิตของนางเอาไว้ได้ เมื่อลั่วชิงยวนตื่นขึ้นมาด้วยอาการมึนงง นางก็รู้สึกศีรษะหนักอึ้งและอ่อนเปลี้ยเพลียแรงไปทั่วทั้งตัวเสียจนลุกขึ้นนั่งไม่ไหว "พระชายา โชคดีที่ท่านไม่เป็นอะไรเจ้าค่ะ..." จือเฉาค่อย ๆ เก็บผ้าห่ม "ท่านอ๋องกลับมาแล้วงั้นรึ?" เมื่อลั่วชิงยวนตื่นขึ้นมา ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดนางจึงเอ่ยถึงฟู่เฉินหวนเป็นอย่างแรก "ท่านเสด็จกลับมาแล้วเจ้าค่ะ ตอนที่ท่านอ๋องอุ้มท่านกลับมาค่อนข้างตื่นตระหนกทีเดียว ท่านอ๋องดูเหมือนจะเป็นห่วงท่านแทบตายเชียวนะเจ้าคะ" เมื่อจือเฉานึกถึงเรื่องนี้ก็ให้รู้ส

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 229

    "ถ้าหากท่านอ๋องแสดงท่าทีลำเอียง พระชายาคิดจะขอความช่วยเหลือจากองค์ชายห้าหรือไม่เจ้าคะ?" เมื่อลั่วชิงยวนได้ยินเช่นนี้ นางก็รู้สึกประหลาดใจอยู่บ้างแล้วรีบโบกมือปฏิเสธทันที "เจ้าไม่ต้องไปหาองค์ชายห้าและห้ามบอกเรื่องพวกนี้กับท่านเด็ดขาด ท่านตกที่นั่งลำบากจนแทบจะปกป้องตัวเองมิได้อยู่แล้ว ท่านจะมาขอร้องแทนข้าได้อย่างไรกันเล่า? เรื่องนี้หาได้เกี่ยวข้องอะไรกับองค์ชายห้าไม่ ตัวข้าเองก็มิอยากให้ท่านต้องเอาตัวเข้ามาพัวพันด้วย" เนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเกี่ยวพันกับหอชิงเฟิงและลั่วเยวี่ยอิง สถานการณ์ระหว่างพวกนางทั้งสามคนก็ยุ่งยากมากพออยู่แล้ว ถ้ามีฟู่อวิ๋นโจวเข้ามาพัวพัน เรื่องราวก็รังแต่จะเกิดปัญหาและยุ่งยากขึ้นไปอีก แม่นมเติ้งผงกศีรษะ "เพคะ หม่อมฉันจะทำตามคำสั่งของพระชายา" "แต่เรื่องนี้ควรจะทำเช่นไรดีหรือเจ้าคะ?" แม่นมเติ้งเองก็รู้สึกเศร้าใจแทนพระชายาที่ต้องประสบเคราะห์ร้ายมากเสียจนแทบจะต้องเอาชีวิตไปทิ้งอยู่แล้ว ลั่วชิงยวนขมวดคิ้วพลางครุ่นคิด "ก่อนอื่นต้องพักฟื้นให้หายดี ตัวข้าเองก็อยากจะรู้ว่า ฟู่เฉินหวนจะจัดการเรื่องนี้เช่นไร" ดังนั้นนางจึงอยู่แต่กินโอสถแล้วพักฟื้นในห้องโด

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 230

    ลั่วชิงยวนรู้สึกตกใจและต่อต้านอยู่บ้าง "บอกว่าข้าไม่ไปเพราะยังไม่หายดี" ทว่าแม่นมเติ้งกลับเอ่ยขึ้นด้วยความจนใจว่า "บ่าวเกรงว่าจะทำเช่นนั้นมิได้เจ้าค่ะ จิ่นชูมารับท่านด้วยตัวเองและรถม้าก็เตรียมเอาไว้พร้อมแล้ว แม้แต่หมอหลวงก็มาด้วย" หมอหลวงก็มาด้วยเช่นนั้นหรือ? ต่อให้ต้องตายก็ต้องพานางเข้าวังให้ได้ใช่หรือไม่? ขณะที่นางเพิ่งจะพูดจบ นางก็เห็นจิ่นชูเดินนำหน้าหมอหลวงเข้ามาในเรือน "พระชายาอาการเป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ? ไทเฮารับสั่งให้ข้าพาหมอหลวงเลี่ยวมาตรวจอาการพระชายาเป็นพิเศษ และขอเชิญพระชายาเข้าวังไปสนทนากันสักครู่เจ้าค่ะ" ลั่วชิงยวนไอสองครั้งแล้วบอกว่า "ในเมื่อข้าต้องเข้าวัง เช่นนั้นก็ให้ข้าได้แต่งตัวสักหน่อยเถอะ" แต่จิ่นชูกลับพูดว่า "ไทเฮารับสั่งว่า พระชายาไม่จำเป็นต้องแต่งตัวหรอกเจ้าค่ะเมื่อไทเฮานึกได้ว่าพระชายาไม่สบาย ย่อมไม่โทษท่าน" "พระชายาเชิญทำตัวตามสบายเถิดเจ้าค่ะ" ลั่วชิงยวนไม่มีทางเลือกนอกจากพยักหน้าให้แม่นมเติ้งสวมเสื้อคลุมให้ จากนั้นนางก็ตามจิ่นชูออกไปจากตำหนัก หลังจากขึ้นรถม้าแล้ว พวกเขาก็เดินทางเข้าวัง หมอหลวงจับชีพจรให้นางอยู่ในรถม้าพลางกล่าวว่า "ถึงแม้ว่า

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 231

    ไทเฮากล่าวต่อไปอีกว่า "เจ้าอยากจะตบหน้าตัวเองห้าสิบครั้งต่อหน้านางหรือไม่?" แต่ผู้ที่จิ่นชูพาเข้ามากลับไม่ใช่ลั่วเยวี่ยอิง แต่เป็น... หลิวฮุ่ยเซียง! หลิวฮุ่ยเซียงสวมอาภรณ์บางเบาพลางเดินกะโผลกกะเผลก เส้นผมของนางค่อนข้างเปียกชื้นราวกับว่าคุกเข่าอยู่ข้างนอกมาได้สักพักหนึ่งแล้ว เสื้อผ้าอาภรณ์และเส้นผมชุ่มไปด้วยน้ำค้างจนทำให้นางตัวสั่นสะท้านเพราะความหนาวเหน็บ หลิวฮุ่ยเซียงสืบเท้ามาข้างหน้าพลางคุกเข่าลงดังตุ้บ "ตัวหม่อมฉันผู้ต่ำต้อย หลิวฮุ่ยเซียง ถวายบังคมไทเฮาเพคะ" สายตาของไทเฮาพลันแปรเปลี่ยนเป็นเย็นชาพลางค่อย ๆ เอ่ยขึ้นมาว่า "เจ้ารู้หรือไม่ว่าเพราะเหตุใดตัวข้าถึงให้เจ้าคุกเข่าถึงหนึ่งชั่วยาม?" "ตัว... ตัวหม่อมฉันผู้ต่ำต้อยหาทราบไม่เพคะ!" หลิวฮุ่ยเซียงน้ำเสียงสั่นเครือ ทั้งยังขาดความมั่นใจอีกด้วย ก่อนที่ลั่วชิงยวนจะมาถึง นางไม่รู้จริง ๆ ว่าเหตุใดตนจึงถูกลงโทษ แต่ยามนี้ลั่วชิงยวนถูกเชิญมาที่นี่แล้วนางจะไม่รู้ได้อย่างไรกัน? ทว่านี่เป็นเรื่องคอขาดบาดตาย นางไม่กล้ายอมรับผิดไปส่ง ๆ แน่ ทันใดนั้นเสียงของไทเฮาก็พลันแปรเปลี่ยนเป็นเยียบเย็น "เจ้ามิรู้เช่นนั้นรึ? เจ้ารู้จักหอชิงเฟิง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 232

    "พระชายา เจ้าคิดว่าควรทำอย่างไรดี?" คำถามของไทเฮาทำให้ลั่วชิงยวนไม่ทันได้ตั้งตัว "หม่อมฉันหรือเพคะ?" ถึงเวลาที่นางต้องจัดการกับเรื่องนั้นแล้วใช่หรือไม่? หลิวฮุ่ยเซียงรีบคุกเข่าโขกหัวคำนับตรงหน้าลั่วชิงยวน "พระชายาเจ้าคะ! ก่อนหน้านี้ล้วนเป็นความผิดของข้า ข้าขอโทษท่านแล้ว!" แม้ว่าหลิวฮุ่ยเซียงจะเอ่ยขึ้นด้วยความร้อนรนกังวลใจ แต่นางก็ยังโขกหัวคำนับจนตอนนี้หน้าผากเลือดออกพลางขอร้องว่า "พระชายา ได้โปรดอภัยให้ข้าด้วยเจ้าค่ะ! ขอเพียงท่านอภัยให้ จะให้ทำกระไรข้าก็ยอม!" ตระกูลฉินไม่ปกป้องนางอีกต่อไปแล้ว นางจึงไม่มีทางเลือกนอกเสียจากคุกเข่าขอโทษลั่วชิงยวน แต่ลั่วชิงยวนกลับมองด้วยสายตาเย็นชาโดยมิพูดอะไรสักคำ ทำให้หลิวฮุ่ยเซียงโขกหัวคำนับนางมิหยุดหย่อน ถึงหลิวฮุ่ยเซียงจะโขกหัวคำนับจนหน้าผากมีเลือดหยด ทว่าลั่วชิงยวนกลับมิเอ่ยวาจาใดสักคำเดียว กระทั่งไทเฮาต้องร้องเรียกว่า "พระชายา เช่นนี้เจ้าพอใจหรือไม่?" ลั่วชิงยวนก้มหน้ามองหลิวฮุ่ยเซียงด้วยสายตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความเย็นชาแล้วตอบเสียงเย็นว่า "ไม่เพคะ" วันที่คนพวกนั้นบังคับจับตัวนางไปทำให้นางรู้สึกอัปยศอดสูเพียงใด? นางต้องถูกก่นด่

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 233

    นางเอ่ยมาขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า "คราวนี้เพื่อเห็นแก่ไทเฮา ข้าจะไม่ติดใจเอาความ แต่ถ้ามีครั้งหน้าอีกล่ะก็ ข้าจะไม่ปล่อยเจ้าไปแน่!" หลิวฮุ่ยเซียงก้มหน้าแล้วให้สัญญาว่า "ข้ามิกล้าทำอีกแล้วเจ้าค่ะ!" เมื่อหลิวฮุ่ยเซียงพูดจบก็เงยหน้าขึ้นมาพร้อมสายตาจองหอง ทันใดนั้นหลิวฮุ่ยเซียงก็เผยสีหน้าเจ็บปวดและกุมหน้าอกเอาไว้ทันที เพราะรู้สึกปวดช่องท้องขึ้นมากะทันหัน นางเริ่มทรงตัวได้ไม่มั่นคงแล้วล้มลงกับพื้น ลั่วชิงยวนรู้สึกตกใจจนลุกพรวดขึ้นมาทันที "ไทเฮา..." หลิวฮุ่ยเซียงดิ้นรนกระเสือกกระสนแล้วกระตุกไปสองครั้ง นางเงยหน้าแล้วยื่นมือมาทางไทเฮาราวกับว่ากำลังขอความช่วยเหลือ แต่ไทเฮากลับนั่งตัวตรงบนเก้าอี้ พลางหยิบถ้วยชาขึ้นมาด้วยท่าทีสงบนิ่งและไม่ใส่ใจ หลิวฮุ่ยเซียงกระตุกไปสองครั้งทั้งอย่างนั้น จากนั้นก็กระอักเลือดแล้วสิ้นชีพลง ลั่วชิงยวนรู้สึกตื่นตกใจมากเสียจนขมวดคิ้วขึ้นมาทันที ไทเฮาประทานสุราพิษให้แก่หลิวฮุ่ยเซียง! ไทเฮาบอกว่าพระนางอยากให้ลั่วชิงยวนเลิกแล้วต่อกันไปเพื่อเห็นแก่พระนาง แต่พระนางกลับประทานพิษให้แก่หลิวฮุ่ยเซียง "ไทเฮาเพคะ นี่มัน..." ตอนนี้สีหน้าซีดขาวของลั่วชิงยวน

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 234

    ลมหนาวเสียดกระดูก กลุ่มคนชุดดำกำลังหลบหนีอยู่ในท้องถนนอันเงียบสงัด บุรุษผู้มีแผลเป็นกำลังวิ่งไปทั่ว เมื่อเห็นว่าตนถูกล้อมกระหนาบไว้จากทั้งสองด้าน เขาก็กระโดดขึ้นรถม้าแล้วพยายามที่จะปีนขึ้นหลังคาเพื่อหนีไป แต่ทันทีที่เขากระโดดขึ้นมาบนหลังคาเพื่อจะหนีไป จู่ ๆ ก็มีคนชุดดำปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าเขา ก่อนที่บุรุษผู้มีแผลเป็นจะทันได้มองให้ชัด ๆ เขาก็โดนถีบเข้าที่หน้าอก เขาโดนถีบจนร่วงตกลงมาจากหลังคาทันที เขาหล่นลงมาที่พื้นอย่างแรงแล้วคนชุดดำก็เข้ามารุมเล่นงานเขา กระบี่เยียบเย็นกลับยิ่งเฉียบคมในสายลมหนาวแล้วกดลงมาที่ลำคอของเขา “กราบทูลท่านอ๋อง! จับตัวได้แล้วพ่ะย่ะค่ะ!" องครักษ์ชุดดำรายงานด้วยความเคารพนบนอบ ฟู่เฉินหวนยืนเอามือไพล่หลังอยู่บนหลังคาด้วยสายตาเฉียบขาดและเย็นชา "รีบเอาตัวมันไปไต่สวน" หลังจากไล่ตามไม่หยุดหย่อนมาหลายวัน ในที่สุดจับปลาไม่กี่ตัวที่หลุดลอดแหไปได้สักที คนพวกนี้คือไม่กี่คนที่สืบหาได้จากเงื่อนงำที่คนในหอชิงเฟิงเคยให้ไว้ คราวนี้พวกเขาจะต้องไต่สวนหาผู้บงการอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ได้แน่! …… เมื่อรถม้าในวังหลวงหยุดลงตรงหน้าตำหนักอ๋อง จิ่นชูก็ส่งนางแล้วกลับไป

บทล่าสุด

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1288

    ทันทีที่คำกล่าวเหล่านี้หลุดออกมาร่างกายของฟู่เฉินหวนก็แข็งทื่อดวงตาของฉินอี้เต็มไปด้วยความคาดหวังอันร้อนแรงตั้งแต่เล็กจนโต แม้เขาจะเป็นองค์ชาย แต่ก็มีเพียงมิกี่คนที่ให้ความเคารพเขาแม้กระทั่งน้องสาวของเขาเองก็มักจะลงมือทำร้ายเขาบ่อย ๆ โดยมิไว้หน้ากันเลยแม้แต่น้อยส่วนคนที่อยู่ตรงหน้าเขาคืออ๋องผู้เป็นเทพสงครามเทพแห่งแคว้นเทียนเชวียและผู้สำเร็จราชการผู้ยิ่งใหญ่ในใต้หล้าเขาจึงตั้งตารอที่จะได้เห็นฟู่เฉินหวนคุกเข่าด้วยความเคารพฟู่เฉินหวนกำหมัดแน่นซ้ำแล้วซ้ำเล่าที่จริงเขาสามารถเจรจากับฉินอี้ได้ และมีเงื่อนไขต่าง ๆ มากมายที่เขาสามารถพูดคุยกับอีกฝ่ายได้ทว่าการเจรจาต้องอาศัยยุทธวิธีและที่สำคัญกว่านั้นคือ ต้องมีจิตใจที่สงบมั่นคงแต่ในเวลานี้ ฟู่เฉินหวนมิสามารถทำเช่นนั้นได้เขาแทบจะรอมิไหวแล้วดวงตาของเขาขรึมลง พลางยกเสื้อคลุมขึ้นและคุกเข่าลงเสียงดังตึงเมื่อเข่ากระทบพื้นนั้นเจือไปด้วยความอึดอัดกลัดกลุ้ม แต่เป็นเสียงที่ฉินอี้ฟังแล้วรู้สึกสบายหูเป็นอย่างยิ่งมิอาจปฏิเสธได้ว่าตอนนี้เขาพอใจอย่างถึงที่สุดนี่เป็นความรู้สึกที่เขาพยายามเสาะหามาตลอดหลายปีแต่ก็มิเคยได้มันมาโดยเฉพา

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1287

    ในห้องขังอันเงียบงัน เสียงเฆี่ยนตีดังชัดเจนจนเหมือนได้ยินเสียงผิวหนังฉีกออกเป็นชิ้น ๆทำเอาคนที่ได้ยินรู้สึกใจสั่นที่มุมตรงทางเดิน บุรุษสวมหน้ากากที่อยู่ข้างหลังฉินอี้กำหมัดแน่นในทันทีฝ่ามือถูกจิกจนเกือบจะเลือดออกฟู่เฉินหวนที่ได้ยินเสียงนั้นก็รู้สึกเป็นห่วงและอดมิได้ที่จะพุ่งไปหาแต่ฉินอี้คว้าข้อมือของเขาเอาไว้“เฉินชีจะมาช่วยนางเอง”“หากตอนนี้เจ้าถูกจับได้ก็ช่วยนางออกไปมิได้ แล้วพวกเจ้าก็จะต้องตายอยู่ที่นี่”“ด้วยตัวตนของเจ้า มีแต่จะต้องเผชิญกับจุดจบที่น่าอนาถยิ่งกว่าเดิม”ฟู่เฉินหวนกำหมัดแน่น เขาก้าวถอยหลังมาหนึ่งก้าวและอดทนต่อไปฝ่ามือของเขาเหงื่อออกเมื่อได้ยินเสียงเฆี่ยนตีอย่างต่อเนื่องแต่ไม่มีเสียงร้องของความเจ็บปวด ก็สามารถบอกได้ว่า ลั่วชิงยวนกำลังทุกข์ทรมานกับความเจ็บปวดมากเพียงใดนั่นทำให้ฟู่เฉินหวนรู้สึกปวดใจเป็นอย่างมากทว่าเขาทำได้เพียงเฝ้ามองจากที่ไกล ๆ มิสามารถเข้าไปใกล้หรือช่วยนางได้เสียงแส้ดังขึ้นอย่างมิหยุดหย่อน และเสียงแส้ในแต่ละครั้งนั้นดูเหมือนจะฟาดลงไปที่หัวใจของฟู่เฉินหวนจนเลือดสด ๆ ไหลออกมาเป็นทางเวลาเหมือนจะผ่านไปอย่างเชื่องช้า และเสียงแส้น

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1286

    ภายในห้องบรรทมอันโอ่อ่าฉินอี้เดินมาที่ข้างเตียงด้วยร่างกายที่เต็มไปด้วยบาดแผลยามนี้เกาเหมียวเหมี่ยวได้ทำแผลและกินโอสถเรียบร้อยแล้ว แต่ใบหน้าของนางยังคงซีดอยู่เล็กน้อยเมื่อเห็นฉินอี้เดินมาหาด้วยใบหน้าฟกช้ำและเปื้อนเลือด เกาเหมียวเหมี่ยวจึงมองเขาด้วยความมิอยากเชื่อ“ท่านแพ้ลั่วชิงยวนรึ?”ฉินอี้ขมวดคิ้วเป็นปม พลางมองบาดแผลของเกาเหมียวเหมี่ยวด้วยความกังวลและพูดว่า “เหมียวเหมี่ยว บาดแผลเจ้าสาหัสมาก ช่วงสองวันนี้เจ้าควรพักผ่อนให้ดีก่อน อย่าเพิ่งเดินไปไหนมาไหนเลย”ทว่าเกาเหมียวเหมี่ยวกลับมิได้สนใจในความห่วงใยของฉินอี้นางจ้องมองฉินอี้ด้วยความโมโหแล้วยกฝ่ามือฟาดไปหนึ่งฉาดฉินอี้มิประหลาดใจแม้แต่น้อย แต่กลับมองเกาเหมียวเหมี่ยวด้วยสีหน้าจริงจังและเป็นห่วง“เหมียวเหมี่ยว...”เกาเหมียวเหมี่ยวโมโหมากจนเอามือฟาดเขาสองครั้งติดต่อกันและแสดงความเกรี้ยวกราดออกมา “ขยะไร้ค่า! ขยะไร้ค่า!”“ท่านเป็นถึงองค์ชายผู้สูงส่ง แต่กลับถูกลั่วชิงยวนจัดการจนมีสภาพเช่นนี้ อับอายจนมิรู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ใด!”เกาเหมียวเหมี่ยวโกรธจนแทบอยากจะฉีกลั่วชิงยวนเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยดวงตาของฉินอี้หรี่ลง แต่กลับมิได

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1285

    แต่ขณะที่ทั้งสองคนกำลังต่อสู้กันอย่างสูสีวิชาฝ่ามือที่จู่โจมเข้ามาอย่างฉับพลันของลั่วชิงยวนทำให้ฉินอี้มิทันตั้งตัว เขาถูกรัวหมัดใส่อย่างต่อเนื่องจนลอยกระเด็นออกไป และกระอักเลือดออกมาการต่อสู้สิ้นจบลงในพริบตาเดียวหลายคนที่อยู่รอบด้านล้วนเห็นมิชัด“เมื่อครู่เกิดกระไรขึ้น?”“ต่อสู้กันอยู่มิใช่หรือ? เหตุใดจู่ ๆ ฉินอี้ถึงแพ้ได้เล่า?”ลั่วชิงยวนมองฉินอี้ด้วยสายตาเย็นชา “ดูเหมือนวรยุทธ์ขององค์ชายใหญ่จะเป็นอย่างที่คนเขาลือกันนะเพคะ”เทียบกับคนทั่วไปแล้ว วรยุทธ์ของฉินอี้ก็ถือว่ามิได้อ่อนด้อยเลยแต่สำหรับคนที่เป็นถึงองค์ชายนั้นช่างดูอ่อนแอนักเมื่อครู่ที่ลั่วชิงยวนลองทดสอบ ดูเหมือนว่าเขายังคงมีทักษะวรยุทธ์แบบเดียวกับที่เคยเรียนมาเมื่อก่อน และมิได้มีความก้าวหน้ามากนักเป็นเช่นนี้ได้อย่างไรหากฉินอี้เพียรพยายามมากกว่านี้ ผลลัพธ์ก็คงมิเป็นเช่นนี้ฉินอีจ้องนางด้วยโทสะ ดูเหมือนจะเจ็บใจที่วรยุทธ์ของตนอ่อนด้อยเกินไป ทำให้เสียงวิพากษ์วิจารณ์รอบข้างยิ่งบาดหูมากขึ้นไปอีกเขากัดฟันพลางกำหมัดแน่น และพุ่งเข้าหาลั่วชิงยวนอย่างดุร้ายเขามิยอมพ่ายแพ้เช่นนี้หรอกแต่เขากลับมิสามารถเอาชนะลั่วชิงย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1284

    ลั่วชิงยวนตกตะลึง อารมณ์ความรู้สึกของนางดำดิ่งเป็นไปตามที่นางคาดเดาเอาไว้ว่ามิเหลือแม้แต่ศพอย่างนั้นหรือ?“มิพบศพด้วยซ้ำ” อวี๋โหรวกล่าวเสียงขรึมดวงตาของลั่วชิงยวนหม่นลง ดูเหมือนว่าร่างนั้นจะถูกกำจัดไปแล้วจริง ๆ ส่วนจะกำจัดอย่างไรและทิ้งไว้ที่ไหน บางทีอาจมีเพียงฆาตกรเท่านั้นที่รู้“น่าเสียดายจริง ๆ” ลั่วชิงยวนทอดถอนใจด้วยความเสียดายอวี๋โหรวจ้องนางด้วยสายตาจริงจังและพูดอย่างหนักแน่น “มิน่าเสียดายหรอก ข้าเชื่อว่าเจ้าจะกลายเป็นนางคนต่อไป!”ทันใดนั้น สายตาที่จริงจังของอวี๋โหรวก็ทำให้ลั่วชิงยวนรู้สึกเย็นวาบไปถึงสันหลังและยังสงสัยด้วยว่าอวี๋โหรวจะสังเกตเห็นอะไรบางอย่างหรือไม่ทว่าแม้แต่ศิษย์น้องหญิงก็จำนางมิได้ อีกทั้งอวี๋โหรวก็มิได้สนิทสนมกับนาง แล้วจะจำนางได้อย่างไรลั่วชิงยวนยิ้มและกล่าวว่า “ข้าจะถือว่านั่นคือคำปลอบใจก็แล้วกัน”อวี๋โหรวพูดอย่างจริงจัง “ข้ามิได้ปลอบใจเจ้า ข้าพูดจริง”หลังจากนั้น อวี๋โหรวก็ยิ้มอีกครั้งและพูดว่า “ทางข้ายังพอมียาอยู่บ้าง หากเจ้าต้องการอะไรก็บอกข้าได้เลย”ลั่วชิงยวนมิค่อยเข้าใจว่า เหตุใดอวี๋โหรวถึงทำดีกับนางนางมิค่อยรู้จักอวี๋โหรวมากนัก ในภาพจ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1283

    หรือเป็นเพราะเขาเชื่อมั่นในพลังความแข็งแกร่งของลั่วชิงยวน?แต่เมื่อมาครุ่นคิดดูตอนนี้ สตรีที่สามารถทำให้เซินฉีหลงใหลได้ถึงเพียงนี้คงไม่มีทางที่จะเป็นขยะไร้ค่าแม้จะมิได้แข็งแกร่งกว่าเฉินชี แต่ก็เป็นคนที่สามารถต่อกรกับเขาได้อย่างสูสีเพราะเช่นนี้เขาจึงมิแลเกาเหมียวเหมี่ยวเลยด้วยซ้ำ……เมื่อกลับมาถึงห้องลั่วชิงยวนก็นั่งลงพักผ่อนเฉินชีเดินตามเข้ามาและนั่งลงข้าง ๆ นาง พร้อมกับรินชาสองจอก“สมแล้วที่เป็นอาเหลา มีเพียงเจ้าเท่านั้นที่กล้าทำให้เกาเหมียวเหมี่ยวตกอยู่ในสภาพเช่นนั้น! ข้าชอบ!” มีแสงประกายเจิดจ้าส่องสว่างในดวงตาของเฉินชีสายตาของเขาดูเหมือนอยากจะกลืนกินลั่วชิงยวนเข้าไปทั้งตัวลั่วชิงยวนพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เกาเหมียวเหมี่ยวได้รับบาดเจ็บสาหัส ฝ่าบาทกับฮองเฮาคงมิยอมปล่อยข้าไปแน่ คงต้องให้เจ้าช่วยออกหน้าให้แล้ว”เฉินชียิ้มมุมปาก “วางใจได้ มีข้าอยู่ทั้งคน”ลั่วชิงยวนที่ยังกังวลอยู่เล็กน้อยกำชับด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “เฉินชี ครั้งนี้เจ้าจะยืนนิ่งดูดายอีกมิได้แล้ว เพราะหากข้าตาย แผนทั้งหมดของเจ้าก็จะสูญเปล่า”“ใต้หล้านี้ไม่มีลั่วเหลาคนที่สองหรอกนะ”เฉินชีพยักหน้าอย่างจริงจ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1282

    เลือดสด ๆ ยังคงไหลมิหยุด ไหลนองไปตามร่องลึกของลวดลายวงเวทบนพื้นดินคาดมิถึงว่ามันจะค่อย ๆ ทำให้อักษรเวทของวงเวทส่องแสงขึ้นจากนั้นหมอกสีเขียวจาง ๆ ก็กระจายฟุ้งอยู่รอบตัวลั่วชิงยวนสิ่งเหล่านั้นล้วนเป็นไอโอสถทั้งสิ้นหอรักษ์ดาราแห่งนี้ยังเป็นสถานที่ที่สามารถกลั่นไอโอสถจากเลือดได้ และไอโอสถเหล่านี้ก็สามารถรักษาร่างกายที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสได้ลั่วชิงยวนหลับตาและสูดลมหายใจด้วยความเพลิดเพลิน ทำให้ร่างกายที่ปวดร้าวของนางดูเหมือนจะผ่อนคลายลงนี่อาจจะเป็นความหมายของการมีอยู่ของแท่นประลองหอรักษ์ดาราแต่ไอโอสถนี้ก็จางลงอย่างรวดเร็วลั่วชิงยวนปล่อยเกาเหมียวเหมี่ยว นางยืนขึ้นพร้อมกับยืดเส้นยืดสาย และเดินลงจากแท่นประลองคนอื่นที่อยู่รอบ ๆ ต่างมองมาที่นางด้วยสายตาที่หวาดกลัวมากขึ้น และพวกเขาก็มิกล้าพูดจาดูถูกเหยียดหยามนางเหมือนก่อนหน้านี้อีกต่อไปแล้วลั่วชิงยวนกวาดตามองอย่างเรียบเฉย จากนั้นก็มองไปที่เฉินชีด้วยสายตาลึกซึ้งแล้วเดินจากไปเกาเหมียวเหมี่ยวที่ได้รับบาดเจ็บถูกปลดแส้ออกอย่างรวดเร็วและถูกช่วยลงจากแท่นประลอง นางกัดฟันแน่นพลางจ้องตามหลังลั่วชิงยวนที่กำลังเดินออกไปครู่ต่อมา นางก็เห

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1281

    “โอ้สวรรค์ ข้าคงมิได้ตาลายใช่หรือไม่?”“นางไปเอาความกล้ามาจากที่ใดกัน!”ทุกคนในเมืองหลวงต่างรู้ดีว่าเกาเหมียวเหมี่ยวคือใครนางมิเพียงมีสถานะองค์หญิงที่สูงส่งเท่านั้น แต่ยังมีโอกาสที่จะได้สืบราชบัลลังก์ในภายภาคหน้าอีกด้วยเนื่องจากองค์ชายใหญ่มีความสามารถปานกลาง จึงมิเป็นที่โปรดปรานขององค์จักรพรรดิและฮองเฮา ทว่าองค์หญิงผู้นี้กลับแข็งแกร่งและไร้ความปรานี จึงได้รับความโปรดปรานจากพวกเขาไม่มีใครในเมืองหลวงกล้าขัดใจนางเว้นเสียแต่ เฉินชีเพราะนางชอบเขาทว่าแม้จะเป็นเฉินชี แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าคนอื่นเขาก็ให้เกียรตินางมากลั่วชิงยวนผู้นี้กล้ามากถึงขั้นเหยียบย่ำองค์หญิงต่อหน้าธารกำนัลมากมายเช่นนี้!เกาเหมียวเหมี่ยวพยายามดิ้นพร้อมกับก่นด่าไปด้วย “ลั่วชิงยวน ปล่อยข้าเดี๋ยวนี้! หากเจ้ามิปล่อยข้า ข้าจะทำให้เจ้าตายจนหาที่ฝังมิได้เลยคอยดู!”“ท่านนี่พูดมากนัก เงียบเสีย!”ลั่วชิงยวนมองนางด้วยสายตาเย็นชา พลางคว้าแส้แล้วดึงมันอย่างแรงทันใดนั้นแส้ที่คอของเกาเหมียวเหมี่ยวก็รัดแน่นขึ้นบังคับให้เกาเหมียวเหมี่ยวต้องเชิดหน้าขึ้นสูงแต่ยังคงถูกแส้รั้งไว้จนหน้าแดงนางหายใจมิออกจนเส้นเลือดแตกและตา

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1280

    ลั่วชิงยวนถูกแส้ฟาดจนกระอักเลือด ทำให้อาภรณ์ชุดขาวของนางมีรอยเปื้อนสีแดงมีรอยแส้ที่น่าสะเทือนใจพาดอยู่บนหลังของนางเป็นเส้น ๆทุกคนที่อยู่รอบนอกต่างรู้สึกหวาดกลัวมีคนที่อดมิได้ที่จะกระซิบขึ้นว่า “มิยุติธรรมเลย คนหนึ่งมีอาวุธ แต่อีกคนไม่มี นี่มันจงใจแกล้งกันชัด ๆ มิใช่หรือ”“ชู่! พระนางเป็นองค์หญิง ถึงพระนางจะจงใจฆ่าลั่วชิงยวน แล้วใครจะพูดอะไรได้ ระวังไว้เถิด หากนางจับได้ เจ้าได้เดือดร้อนแน่”ทุกทิศมีแต่ความเงียบงันไม่มีใครกล้าพูดอะไรใครใช้ให้เกาเหมียวเหมี่ยวเป็นองค์หญิงเล่า?นางคือองค์หญิงที่ได้รับความโปรดปรานมาตั้งแต่ยังเล็กนางกลายเป็นคนเย่อหยิ่งบ้าอำนาจ และวิธีการของนางเลวทรามมิน้อยไปกว่าเฉินชีเลยทุกคนในที่นี้ล้วนไม่มีใครกล้าขัดทว่ามีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่สามารถช่วยลั่วชิงยวนได้ แต่คนผู้นั้นกลับนั่งนิ่งอยู่บนเก้าอี้ พลางมองลั่วชิงยวนที่ถูกฟาดบนพื้นจนร่างกายเต็มไปด้วยเลือดมีแสงประกายเจิดจ้าอยู่ในดวงตาของเขาและเจือไปด้วยความยินดีปรีดาลั่วชิงยวนกลิ้งไปบนพื้นและทันใดนั้นก็กระอักเลือดออกมาเต็มปากนางเงยหน้าขึ้นมาและเห็นสายตาที่แสดงถึงความตื่นเต้นดีใจของเฉินชี เขาม

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status