แชร์

บทที่ 225

ผู้เขียน: หว่านชิงอิ๋น
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2023-12-26 16:00:01
เมื่อฟู่เฉินหวนพลิกตัว ริมฝีปากของเขาโดนหูของลั่วชิงยวนอย่างมิทันตั้งตัว หูของนางแดงก่ำขึ้นมาในทันที

วินาทีต่อมา ลั่วชิงยวนล้มลงบนพื้น ส่วนฟู่เฉินหวนกดนางอยู่ใต้ร่างแทน

“ท่านมีเหตุผลหน่อยสิ! นั่นคือของหม่อมฉัน!” ลั่วชิงร้อนรนจนใบหน้าแดงก่ำ เหตุใดนางต้องตอบเขามากมายเช่นนั้นด้วย?

แต่มือทั้งสองถูกเขาควบคุมไว้ ลั่วชิงยวนถูกกดไว้จนขยับมิได้โดยสิ้นเชิง นัยน์ตาของนางเต็มไปด้วยความโกรธเคือง

ฟู่เฉินหวนมองลั่วชิงยวนที่กำลังโมโห มีแวบหนึ่งที่เขารู้สึกว่านางก็น่ารักดี…

แสงไฟตกกระทบบนใบหน้ากลมของนาง แก้มของนางแดงระเรื่อ จมูกจิ้มลิ้ม ดวงตาทั้งบริสุทธิ์และมั่นคง

คิ้วของฟู่เฉินหวนขมวดแน่นกว่าเดิม ก็แค่หญิงอัปลักษณ์มิใช่หรือ?

เหตุใดเขาจึงมีความคิดเช่นนี้ได้

สายตาของเขาไม่ดี

หรือใบหน้าของลั่วชิงยวนเกิดการเปลี่ยนแปลงจริง ๆ กันแน่?

เขามิเคยสังเกตมาก่อน

ลั่วชิงยวนมิรู้ว่า เหตุใดเขาจึงสติหลุด นางฉวยโอกาสแย่งเข็มทิศมาในทันที

ฟู่เฉินหวนได้สติ กำลังจะแย่งกลับมา

ลั่วชิงยวนยัดเข็มทิศเข้าไปในหน้าอกทันที

มือที่จะแย่งของของฟู่เฉินหวนชะงักอยู่เหนือหน้าอกของนาง

มุมปากของลั่วชิงยวนกระตุกเ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 226

    "ใช่ แสดงความฉลาดของเจ้าออกมาสิ" "เจ้าน่าจะรู้ว่าตัวเองควรทำกระไรมิใช่รึ" ทั้ง ๆ ที่ฟู่เฉินหวนน้ำเสียงเย็นชา แต่กลับทำให้โทสะท่วมท้นจิตใจของลั่วชิงยวนซึ่งทำให้นางต้องรีบสะกดกลั้นเอาไว้ ไม่น่าแปลกใจเลยที่ฟู่เฉินหวนมีความคิดที่จะรวบอำนาจ ถึงแม้ว่านางจะขอเงินเพียงแค่พันตำลึงจากแม่ทัพใหญ่ฉินเป็นรางวัล แต่เรื่องนี้แม่ทัพใหญ่ฉินย่อมต้องมีเงื่อนไขอยู่แล้วซึ่งก็เท่ากับว่ามีเงื่อนไขกับตำหนักอ๋องไปด้วย ต่อให้ฟู่เฉินหวนไม่เอ่ยปาก แม่ทัพใหญ่ฉินก็จะกลายเป็นกำลังพลส่วนหนึ่งของฟู่เฉินหวนโดยไม่รู้ตัว ดังนั้นนางจึงยกยิ้มมุมปากแล้วค่อย ๆ เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงใสกระจ่างขึ้นมาว่า "ได้! หม่อมฉันช่วยท่านอ๋องก็ได้" "แต่ท่านอ๋องต้องให้สัญญากับหม่อมฉันข้อหนึ่งก่อน" เมื่อฟู่เฉินหวนได้ยินเช่นนี้เข้าก็มีวี่แววประหลาดใจพาดผ่านดวงตา จากนั้นเขาก็ขมวดคิ้ว "สัญญาเรื่องอันใด?" คงไม่ใช่เรื่องถุงหอมของมารดานางอีกหรอกนะ เขาทดสอบลั่วเยวี่ยอิงมาหลายครั้งและนางก็เอาถุงหอมมาหลอกตนอยู่หลายครั้งหลายครา แต่นางกลับไม่เคยมอบให้ลั่วชิงยวน มิหนำซ้ำยังแสร้งโง่อีกต่างหาก เขาไม่อาจฝืนใจรับเอาไว้ได้ ฉะนั้นของสิ่ง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2023-12-26
  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 227

    คราวนี้นางเกือบเอาชีวิตไปทิ้งแล้ว เป็นความสะเพร่าของนางที่ตอนนั้นมัวแต่หมกมุ่นครุ่นคิดเรื่องรักษาดวงตาของฉินไป๋หลี่ โดยหารู้ไม่ว่าตนเองกำลังจะประสบเคราะห์ร้าย ฟู่เฉินหวนมองป้ายสัญลักษณ์ด้วยความตะลึงงันพลางพึมพำว่า "ตระกูลหลิว..." ลั่วชิงยวนขมวดคิ้วมุ่น "ท่านอ๋อง ท่านพูดว่าตระกูลหลิวเช่นนั้นหรือ?" "หลิวฮุ่ยเซียง?" พอฟู่เฉินหวนรู้ตัวก็เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า "เจ้าได้ยินผิดแล้ว ข้าจะไต่สวนเรื่องหอชิงเฟิงเอง เจ้าไม่ต้องมายุ่งหรอก" ฟู่เฉินหวนเก็บป้ายสัญลักษณ์ไปโดยไม่ส่งคืนให้แก่ลั่วชิงยวน ลั่วชิงยวนคิดว่าคราวนี้เกือบจะเกิดเรื่องขึ้นกับฟู่เฉินหวนเข้าแล้ว ต่อให้เขาไม่ได้ช่วยนางแก้แค้น แต่ก็น่าจะต้องระบายโทสะด้วยการหาตัวผู้บงการอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ออกมาให้จงได้ ฉะนั้นนางจึงไม่ได้ขอป้ายสัญลักษณ์คืน นางขดตัวกับกองไฟเพื่อทำให้ร่างกายอบอุ่น ไม่นานศีรษะก็ชักจะเริ่มหนักเพราะทนความง่วงงุนไม่ไหว นางจึงล้มตัวลงนอนขดกับพื้นแล้วหลับไป ฟู่เฉินหวนครุ่นคิดเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นวันนี้อยู่เป็นนาน เมื่อเขารู้สึกตัวอีกทีก็เห็นว่าลั่วชิงยวนได้หลับไปเสียแล้ว ทว่ายามราตรีอากาศหนาวเหน็บ แ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2023-12-26
  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 228

    ฟู่เฉินหวนอุ้มลั่วชิงยวนเดินมาไกลด้วยความร้อนใจ กระทั่งในที่สุดเขาก็มองเห็นเรือหลายลำในแม่น้ำ เป็นคนจากตำหนักอ๋อง! ฟู่เฉินหวนรีบอุ้มลั่วชิงยวนไปที่ริมฝั่งแม่น้ำ "ตรงนั้น ตรงนั้นไง! ท่านอ๋องอยู่ตรงนั้น ท่านอ๋องอยู่ตรงนั้น!" เมื่อคนที่อยู่บนเรือมองเห็นพวกเขาก็ร้องอุทานขึ้นมาด้วยความตื่นเต้น…… ลั่วชิงยวนถูกพาตัวกลับมาที่ตำหนักอ๋อง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสร้างความโกลาหลและตื่นตระหนกกันไปทั้งตำหนัก ดังนั้นองค์จักรพรรดิจึงส่งตัวหมอหลวงมาเป็นพิเศษ ทั่วทั้งตำหนักยุ่งง่วนกันมาทั้งวัน ในที่สุดก็ช่วยชีวิตของนางเอาไว้ได้ เมื่อลั่วชิงยวนตื่นขึ้นมาด้วยอาการมึนงง นางก็รู้สึกศีรษะหนักอึ้งและอ่อนเปลี้ยเพลียแรงไปทั่วทั้งตัวเสียจนลุกขึ้นนั่งไม่ไหว "พระชายา โชคดีที่ท่านไม่เป็นอะไรเจ้าค่ะ..." จือเฉาค่อย ๆ เก็บผ้าห่ม "ท่านอ๋องกลับมาแล้วงั้นรึ?" เมื่อลั่วชิงยวนตื่นขึ้นมา ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดนางจึงเอ่ยถึงฟู่เฉินหวนเป็นอย่างแรก "ท่านเสด็จกลับมาแล้วเจ้าค่ะ ตอนที่ท่านอ๋องอุ้มท่านกลับมาค่อนข้างตื่นตระหนกทีเดียว ท่านอ๋องดูเหมือนจะเป็นห่วงท่านแทบตายเชียวนะเจ้าคะ" เมื่อจือเฉานึกถึงเรื่องนี้ก็ให้รู้ส

    ปรับปรุงล่าสุด : 2023-12-26
  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 229

    "ถ้าหากท่านอ๋องแสดงท่าทีลำเอียง พระชายาคิดจะขอความช่วยเหลือจากองค์ชายห้าหรือไม่เจ้าคะ?" เมื่อลั่วชิงยวนได้ยินเช่นนี้ นางก็รู้สึกประหลาดใจอยู่บ้างแล้วรีบโบกมือปฏิเสธทันที "เจ้าไม่ต้องไปหาองค์ชายห้าและห้ามบอกเรื่องพวกนี้กับท่านเด็ดขาด ท่านตกที่นั่งลำบากจนแทบจะปกป้องตัวเองมิได้อยู่แล้ว ท่านจะมาขอร้องแทนข้าได้อย่างไรกันเล่า? เรื่องนี้หาได้เกี่ยวข้องอะไรกับองค์ชายห้าไม่ ตัวข้าเองก็มิอยากให้ท่านต้องเอาตัวเข้ามาพัวพันด้วย" เนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเกี่ยวพันกับหอชิงเฟิงและลั่วเยวี่ยอิง สถานการณ์ระหว่างพวกนางทั้งสามคนก็ยุ่งยากมากพออยู่แล้ว ถ้ามีฟู่อวิ๋นโจวเข้ามาพัวพัน เรื่องราวก็รังแต่จะเกิดปัญหาและยุ่งยากขึ้นไปอีก แม่นมเติ้งผงกศีรษะ "เพคะ หม่อมฉันจะทำตามคำสั่งของพระชายา" "แต่เรื่องนี้ควรจะทำเช่นไรดีหรือเจ้าคะ?" แม่นมเติ้งเองก็รู้สึกเศร้าใจแทนพระชายาที่ต้องประสบเคราะห์ร้ายมากเสียจนแทบจะต้องเอาชีวิตไปทิ้งอยู่แล้ว ลั่วชิงยวนขมวดคิ้วพลางครุ่นคิด "ก่อนอื่นต้องพักฟื้นให้หายดี ตัวข้าเองก็อยากจะรู้ว่า ฟู่เฉินหวนจะจัดการเรื่องนี้เช่นไร" ดังนั้นนางจึงอยู่แต่กินโอสถแล้วพักฟื้นในห้องโด

    ปรับปรุงล่าสุด : 2023-12-27
  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 230

    ลั่วชิงยวนรู้สึกตกใจและต่อต้านอยู่บ้าง "บอกว่าข้าไม่ไปเพราะยังไม่หายดี" ทว่าแม่นมเติ้งกลับเอ่ยขึ้นด้วยความจนใจว่า "บ่าวเกรงว่าจะทำเช่นนั้นมิได้เจ้าค่ะ จิ่นชูมารับท่านด้วยตัวเองและรถม้าก็เตรียมเอาไว้พร้อมแล้ว แม้แต่หมอหลวงก็มาด้วย" หมอหลวงก็มาด้วยเช่นนั้นหรือ? ต่อให้ต้องตายก็ต้องพานางเข้าวังให้ได้ใช่หรือไม่? ขณะที่นางเพิ่งจะพูดจบ นางก็เห็นจิ่นชูเดินนำหน้าหมอหลวงเข้ามาในเรือน "พระชายาอาการเป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ? ไทเฮารับสั่งให้ข้าพาหมอหลวงเลี่ยวมาตรวจอาการพระชายาเป็นพิเศษ และขอเชิญพระชายาเข้าวังไปสนทนากันสักครู่เจ้าค่ะ" ลั่วชิงยวนไอสองครั้งแล้วบอกว่า "ในเมื่อข้าต้องเข้าวัง เช่นนั้นก็ให้ข้าได้แต่งตัวสักหน่อยเถอะ" แต่จิ่นชูกลับพูดว่า "ไทเฮารับสั่งว่า พระชายาไม่จำเป็นต้องแต่งตัวหรอกเจ้าค่ะเมื่อไทเฮานึกได้ว่าพระชายาไม่สบาย ย่อมไม่โทษท่าน" "พระชายาเชิญทำตัวตามสบายเถิดเจ้าค่ะ" ลั่วชิงยวนไม่มีทางเลือกนอกจากพยักหน้าให้แม่นมเติ้งสวมเสื้อคลุมให้ จากนั้นนางก็ตามจิ่นชูออกไปจากตำหนัก หลังจากขึ้นรถม้าแล้ว พวกเขาก็เดินทางเข้าวัง หมอหลวงจับชีพจรให้นางอยู่ในรถม้าพลางกล่าวว่า "ถึงแม้ว่า

    ปรับปรุงล่าสุด : 2023-12-27
  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 231

    ไทเฮากล่าวต่อไปอีกว่า "เจ้าอยากจะตบหน้าตัวเองห้าสิบครั้งต่อหน้านางหรือไม่?" แต่ผู้ที่จิ่นชูพาเข้ามากลับไม่ใช่ลั่วเยวี่ยอิง แต่เป็น... หลิวฮุ่ยเซียง! หลิวฮุ่ยเซียงสวมอาภรณ์บางเบาพลางเดินกะโผลกกะเผลก เส้นผมของนางค่อนข้างเปียกชื้นราวกับว่าคุกเข่าอยู่ข้างนอกมาได้สักพักหนึ่งแล้ว เสื้อผ้าอาภรณ์และเส้นผมชุ่มไปด้วยน้ำค้างจนทำให้นางตัวสั่นสะท้านเพราะความหนาวเหน็บ หลิวฮุ่ยเซียงสืบเท้ามาข้างหน้าพลางคุกเข่าลงดังตุ้บ "ตัวหม่อมฉันผู้ต่ำต้อย หลิวฮุ่ยเซียง ถวายบังคมไทเฮาเพคะ" สายตาของไทเฮาพลันแปรเปลี่ยนเป็นเย็นชาพลางค่อย ๆ เอ่ยขึ้นมาว่า "เจ้ารู้หรือไม่ว่าเพราะเหตุใดตัวข้าถึงให้เจ้าคุกเข่าถึงหนึ่งชั่วยาม?" "ตัว... ตัวหม่อมฉันผู้ต่ำต้อยหาทราบไม่เพคะ!" หลิวฮุ่ยเซียงน้ำเสียงสั่นเครือ ทั้งยังขาดความมั่นใจอีกด้วย ก่อนที่ลั่วชิงยวนจะมาถึง นางไม่รู้จริง ๆ ว่าเหตุใดตนจึงถูกลงโทษ แต่ยามนี้ลั่วชิงยวนถูกเชิญมาที่นี่แล้วนางจะไม่รู้ได้อย่างไรกัน? ทว่านี่เป็นเรื่องคอขาดบาดตาย นางไม่กล้ายอมรับผิดไปส่ง ๆ แน่ ทันใดนั้นเสียงของไทเฮาก็พลันแปรเปลี่ยนเป็นเยียบเย็น "เจ้ามิรู้เช่นนั้นรึ? เจ้ารู้จักหอชิงเฟิง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2023-12-27
  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 232

    "พระชายา เจ้าคิดว่าควรทำอย่างไรดี?" คำถามของไทเฮาทำให้ลั่วชิงยวนไม่ทันได้ตั้งตัว "หม่อมฉันหรือเพคะ?" ถึงเวลาที่นางต้องจัดการกับเรื่องนั้นแล้วใช่หรือไม่? หลิวฮุ่ยเซียงรีบคุกเข่าโขกหัวคำนับตรงหน้าลั่วชิงยวน "พระชายาเจ้าคะ! ก่อนหน้านี้ล้วนเป็นความผิดของข้า ข้าขอโทษท่านแล้ว!" แม้ว่าหลิวฮุ่ยเซียงจะเอ่ยขึ้นด้วยความร้อนรนกังวลใจ แต่นางก็ยังโขกหัวคำนับจนตอนนี้หน้าผากเลือดออกพลางขอร้องว่า "พระชายา ได้โปรดอภัยให้ข้าด้วยเจ้าค่ะ! ขอเพียงท่านอภัยให้ จะให้ทำกระไรข้าก็ยอม!" ตระกูลฉินไม่ปกป้องนางอีกต่อไปแล้ว นางจึงไม่มีทางเลือกนอกเสียจากคุกเข่าขอโทษลั่วชิงยวน แต่ลั่วชิงยวนกลับมองด้วยสายตาเย็นชาโดยมิพูดอะไรสักคำ ทำให้หลิวฮุ่ยเซียงโขกหัวคำนับนางมิหยุดหย่อน ถึงหลิวฮุ่ยเซียงจะโขกหัวคำนับจนหน้าผากมีเลือดหยด ทว่าลั่วชิงยวนกลับมิเอ่ยวาจาใดสักคำเดียว กระทั่งไทเฮาต้องร้องเรียกว่า "พระชายา เช่นนี้เจ้าพอใจหรือไม่?" ลั่วชิงยวนก้มหน้ามองหลิวฮุ่ยเซียงด้วยสายตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความเย็นชาแล้วตอบเสียงเย็นว่า "ไม่เพคะ" วันที่คนพวกนั้นบังคับจับตัวนางไปทำให้นางรู้สึกอัปยศอดสูเพียงใด? นางต้องถูกก่นด่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2023-12-27
  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 233

    นางเอ่ยมาขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า "คราวนี้เพื่อเห็นแก่ไทเฮา ข้าจะไม่ติดใจเอาความ แต่ถ้ามีครั้งหน้าอีกล่ะก็ ข้าจะไม่ปล่อยเจ้าไปแน่!" หลิวฮุ่ยเซียงก้มหน้าแล้วให้สัญญาว่า "ข้ามิกล้าทำอีกแล้วเจ้าค่ะ!" เมื่อหลิวฮุ่ยเซียงพูดจบก็เงยหน้าขึ้นมาพร้อมสายตาจองหอง ทันใดนั้นหลิวฮุ่ยเซียงก็เผยสีหน้าเจ็บปวดและกุมหน้าอกเอาไว้ทันที เพราะรู้สึกปวดช่องท้องขึ้นมากะทันหัน นางเริ่มทรงตัวได้ไม่มั่นคงแล้วล้มลงกับพื้น ลั่วชิงยวนรู้สึกตกใจจนลุกพรวดขึ้นมาทันที "ไทเฮา..." หลิวฮุ่ยเซียงดิ้นรนกระเสือกกระสนแล้วกระตุกไปสองครั้ง นางเงยหน้าแล้วยื่นมือมาทางไทเฮาราวกับว่ากำลังขอความช่วยเหลือ แต่ไทเฮากลับนั่งตัวตรงบนเก้าอี้ พลางหยิบถ้วยชาขึ้นมาด้วยท่าทีสงบนิ่งและไม่ใส่ใจ หลิวฮุ่ยเซียงกระตุกไปสองครั้งทั้งอย่างนั้น จากนั้นก็กระอักเลือดแล้วสิ้นชีพลง ลั่วชิงยวนรู้สึกตื่นตกใจมากเสียจนขมวดคิ้วขึ้นมาทันที ไทเฮาประทานสุราพิษให้แก่หลิวฮุ่ยเซียง! ไทเฮาบอกว่าพระนางอยากให้ลั่วชิงยวนเลิกแล้วต่อกันไปเพื่อเห็นแก่พระนาง แต่พระนางกลับประทานพิษให้แก่หลิวฮุ่ยเซียง "ไทเฮาเพคะ นี่มัน..." ตอนนี้สีหน้าซีดขาวของลั่วชิงยวน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2023-12-27

บทล่าสุด

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1203

    ใจของลั่วชิงยวนร้อนรุ่มดั่งไฟสุม นางพยายามดิ้นรนสุดแรง “ปล่อยข้านะ!”“ฟู่เฉินหวน ท่านช่างไร้หัวใจอะไรเยี่ยงนี้!”ทว่าฟู่เฉินหวนยังคงมีสีหน้าเรียบเฉย มิสะทกสะท้านแม้แต่น้อยเมื่อเห็นแม่นมเติ้งใกล้จะทนมิไหวแล้ว น้ำตาลั่วชิงยวนก็เอ่อคลอ“หม่อมฉันจะมิออกจากเรือนแล้ว หม่อมฉันจะมิออกจากห้องแล้ว ได้หรือไม่!”นางมองฟู่เฉินหวนด้วยดวงตาแดงก่ำ พยายามวิงวอนขอร้องในที่สุดนางก็ยอมก้มหน้าลง“ขอท่านไว้ชีวิตนางด้วยเถิดเพคะ!” ลั่วชิงยวนคุกเข่าลงอย่างอ่อนแรงแววตาฟู่เฉินหวนมืดมนเดิมทีลั่วชิงยวนคิดว่าเมื่อนางขอร้องแล้ว ฟู่เฉินหวนคงจะไว้ชีวิตแม่นมเติ้งแต่ฟู่เฉินหวนกลับมีแววตาเย็นชา “นางเป็นบ่าวของตำหนัก มิใช่บ่าวของเจ้า นางขัดคำสั่งข้า สำหรับข้าแล้ว ไม่มีคำว่ายกโทษ”น้ำเสียงเย็นเยียบของเขาเป็นดั่งหนามแหลมทิ่มแทงหัวใจของลั่วชิงยวนลั่วชิงยวนตกตะลึงนางโกรธจนตะโกนลั่น “ฟู่เฉินหวน!”ฟู่เฉินหวนขมวดคิ้ว นัยน์ตาฉายแววหงุดหงิดขณะกล่าวเสียงเย็น “พาตัวนางไป”องครักษ์จับตัวลั่วชิงยวนแล้วลากออกไปฟู่เฉินหวนมองนางเป็นครั้งสุดท้ายด้วยสายตาเย็นชา “หากเจ้ายังท้าทายข้าอีก จะต้องมีคนตายมา่กกว่านี้แน่”แ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1202

    ครั้นลั่วชิงยวนถูกพากลับมายังเรือนพวกองครักษ์ก็ปล่อยตัวนาง นางจึงทรุดกายลงคุกเข่ากับพื้นด้วยความอ่อนล้า“พระชายา! พระชายา!”จือเฉารีบรุดเข้ามาประคอง แต่พลั้งมือไปโดนแขนนางเข้า จึงสะดุ้งโหยงรีบชักมือกลับ “พระชายา แขนของท่าน...”ลั่วชิงยวนยันกายลุกขึ้นโดยอาศัยจือเฉาพยุงเดินเข้าห้องไปอย่างเชื่องช้าเมื่อนั่งลงบนเก้าอี้ นางก็จับแขนข้างที่หักนั้นไว้พลางกัดฟันแน่นก่อนจะออกแรงดันกระดูกให้เข้าที่ความเจ็บปวดแล่นริ้วราวกับจะขาดใจ น้ำตาของนางแทบไหลรินจือเฉากลั้นน้ำตาไว้มิอยู่ “พระชายา... เหตุใดท่านอ๋องจึงโหดเหี้ยมเช่นนี้ ลงพระหัตถ์หนักหนาเกินไปแล้ว...”ทันใดนั้นลั่วชิงยวนก็รู้สึกเจ็บแปลบที่อกพลันไอออกมามิหยุด จือเฉารีบยื่นผ้าเช็ดหน้าให้ เมื่อไอเสร็จ ลั่วชิงยวนก็พบว่าผ้าเช็ดหน้าเต็มไปด้วยเลือด...จือเฉาตกใจมาก “บ่าวจะไปตามซูโหยวให้ไปเชิญหมอหลวงมาเจ้าค่ะ”แต่ลั่วชิงยวนกลับบอกว่า “มิต้อง อย่าทำให้เขาเดือดร้อนเลย”หากฟู่เฉินหวนรู้ว่าซูโหยวช่วยนางคงจะโกรธมากเป็นแน่“แล้วแผลของพระชายาเล่าเจ้าคะ?”ลั่วชิงยวนรินน้ำชา “ยังมีสมุนไพรเหลืออยู่มิใช่หรือ แค่นั้นก็เพียงพอแล้ว”จากนั้นนางก็หยิบส

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1201

    ในชั่วพริบตา ลั่วชิงยวนก็รู้สึกเจ็บแปลบที่หลังเพราะถูกกดลงบนกำแพงเท้าของนางลอยขึ้นจากพื้นความรู้สึกหายใจมิออกทำให้นางดิ้นรนสุดกำลัง“ใครอนุญาตให้เจ้าเข้ามา! ใครอนุญาตให้เจ้าแตะต้องของของข้า!”ลั่วชิงยวนพยายามพูด “ฟู่เฉินหวน...”นางหายใจมิออกแล้วนัยน์ตาของฟู่เฉินหวนฉายแววเย็นชาขณะจับนางเหวี่ยงออกไปร่างลั่วชิงยวนตกกระแทกพื้นเสียงดังสนั่นกลิ้งไปหลายตลบแล้วกระอักเลือดออกมาอวัยวะภายในสั่นสะเทือน ปวดร้าวไปทั่วร่าง“ฟู่เฉินหวน ลั่วฉิงกับไทเฮาร่วมมือกัน สิ่งที่ไทเฮาให้ท่านอาจถูกลั่วฉิงปลอมแปลง จดหมายนั้นอาจเป็นของปลอมก็ได้!”ลั่วชิงยวนรีบอธิบายความคิดของตนเองฟู่เฉินหวนเดินเข้ามาด้วยความโกรธ เขาจับนางขึ้นมาแล้วมองนางด้วยสายตาเหี้ยมโหด “ถึงตอนนี้แล้วยังจะมาหลอกลวงข้าอีกรึ?”“ลายมือท่านแม่ของข้า ข้าจะจำมิได้เชียวหรือ!”พูดจบ ลั่วชิงยวนก็ถูกเหวี่ยงออกจากห้องร่างกระแทกพื้นหิมะแขนข้างหนึ่งถูกทับจนเกิดเสียงดังกร๊อบแขนหลุดจากข้อต่อแล้ว“โอ๊ย...” ลั่วชิงยวนร้องเสียงหลง หน้าซีดเผือดด้วยความเจ็บปวด เหงื่อเย็นผุดขึ้นเต็มไปหน้านางใช้มือข้างเดียวพยุงตัว พยายามลุกขึ้นอย่างยากล

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1200

    ลั่วฉิงใช้เข็มทิศอาณัติสวรรค์มิเป็นด้วยฐานะของนาง เป็นไปมิได้ที่จะใช้มิเป็นลั่วชิงยวนเบิกตากว้างลั่วฉิงมิได้ใช้มิเป็น แต่ใช้มิได้ต่างหาก!นางพกเข็มทิศนี้ติดตัวมาตั้งแต่เด็ก อาจารย์บอกว่าเป็นของที่ตกทอดมาจากบรรพบุรุษของนางหลังจากที่นางตายแล้วเกิดใหม่เข็มทิศนี้ก็ยังคงติดตัวนางมา ย่อมมิใช่ของธรรมดาสามัญแน่นอนดังนั้น เข็มทิศนี้อาจจะยอมรับนางเป็นเจ้าของแล้ว คนอื่นจึงใช้มิได้เมื่อคิดได้ดังนั้น ลั่วชิงยวนก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมาบ้างลั่วฉิงได้เข็มทิศไปก็ไร้ประโยชน์ฟู่เฉินหวนถาม “หากไม่มีเข็มทิศนี้ เจ้าก็ทำนายอะไรมิได้เลยหรือ?”ลั่วฉิงยกยิ้ม “แน่นอนว่ามิใช่เช่นนั้น”“เช่นนั้นก็มิเห็นเป็นอะไร เจ้าแค่ทำนายสิ่งที่เจ้าทำนายได้ แล้วก็จะค่อย ๆ ได้รับความไว้วางใจเอง”ฟู่เฉินหวนมีสีหน้าเคร่งขรึม ขณะกล่าวเสียงเย็น “ข้าทะเลาะกับนางไปแล้ว หากจะหลอกลวงนางอีกก็ต้องแสร้งทำดีด้วย”“ข้ามิอยากทำเรื่องน่ารังเกียจเช่นนั้น”หัวใจของลั่วชิงยวนพลันเจ็บแปลบเขาบอกว่าการทำดีกับนางเป็นเรื่องน่ารังเกียจ...ลั่วชิงยวนรู้สึกเจ็บปวด นางกำเสื้อแน่น มิกล้าส่งเสียงแล้วค่อย ๆ เดินจากไปคำพูดเหล่านั้นดังก้อ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1199

    ลั่วชิงยวนที่ถูกขังไว้สองวันเริ่มรู้สึกอึดอัดราวกับถูกจองจำในคุกหิมะตกหนักติดต่อกันหลายวันยิ่งทำให้นางรู้สึกหดหู่เมื่อหิมะเริ่มเบาบางลงนางจึงออกมานั่งที่เก้าอี้ในเรือนสัมผัสกับความเย็นยะเยือกที่โปรยปรายลงบนใบหน้า“พระชายา ระวังจะเป็นหวัดนะเจ้าคะ”จือเฉานำกาน้ำชาอุ่นมาวางไว้บนโต๊ะข้าง ๆ แล้วรินใส่ถ้วยให้นางไอร้อนจากน้ำชาช่วยเพิ่มความอบอุ่นในวันหิมะตกอันหนาวเหน็บจือเฉานั่งอยู่ข้าง ๆ เหม่อมองท้องฟ้าด้วยความกังวล “พระชายา เหตุใดท่านอ๋องจึงใจร้ายกับท่านเช่นนี้เจ้าคะ”“ก่อนหน้านี้เป็นเพราะมีลั่วเยวี่ยอิงที่คอยยุแยง บัดนี้ลั่วเยวี่ยอิงก็ตายไปแล้ว เหตุใดท่านอ๋องจึงยังเป็นเช่นนี้ ระหว่างท่านอ๋องกับพระชายามีเรื่องเข้าใจผิดกันหรือเจ้าคะ?”ลั่วชิงยวนก็มิอาจเข้าใจได้เริ่มเปลี่ยนไปตั้งแต่เมื่อใดกันตั้งแต่ที่นางถูกเฉินชีจับตัวไปบนเขาหรือไม่สิ น่าจะเริ่มตั้งแต่เรื่องของฟู่จิ่งหานตอนที่ฟู่เฉินหวนตัดสินใจจัดการกับฟู่อวิ๋นโจว เขาเข้าวังไปหลายวันแล้วเมื่อกลับมาก็หย่ากับนางแต่เกิดเรื่องอะไรขึ้นในวัง แม้แต่จักรพรรดิสูงสุดก็มิยอมบอกนางหรือบางทีอาจจะมิรู้เหมือนกันวันนี้แม่นมเติ้งเป

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1198

    เขามีสีหน้าเย็นชาขณะกล่าวเสียงเรียบ “กลับตำหนักกับข้า”ลั่วชิงยวนนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่งแล้วจึงให้จือเฉาเก็บข้าวของตามฟู่เฉินหวนออกจากวังเมื่อขึ้นรถม้า ฟู่เฉินหวนก็สั่งสารถีให้กลับตำหนักทันทีทั้งยังเร่งให้รีบกลับด้วยคิ้วที่ขมวดเข้าหากันเล็กน้อยดูเหมือนจะหงุดหงิดอยู่รถม้าแล่นไปอย่างรวดเร็ว ลั่วชิงยวนถูกเขย่าโคลงเคลงจนตัวแทบปลิว แต่ก็ยังพยายามทรงตัว มิเอ่ยคำใดจนกระทั่งรถม้ามาถึงหน้าตำหนักลั่วชิงยวนจึงสังเกตเห็นรอยแดงบนใบหน้าของฟู่เฉินหวนนางยกมือขึ้น แตะใบหน้าเขาเบา ๆ “ใบหน้าของท่านเป็นอะไรไป?”ฟู่เฉินหวนคว้าข้อมือของนางไว้แล้วจ้องมองด้วยสายตาคมกริบ “มิใช่เพราะเจ้าหรอกรึ!”ลั่วชิงยวนชะงักไปชั่วพริบตานั้น ฟู่เฉินหวนก็กระชากนางลงจากรถม้าอย่างแรง ทำให้นางเกือบล้มนางเดินเซ แต่ก็ยังถูกฟู่เฉินหวนลากเข้าไปในตำหนักฟู่เฉินหวนเดินอย่างรวดเร็ว ทั้งร่างเต็มไปด้วยโทสะราวกับพยายามอดกลั้นมานานลั่วชิงยวนจึงตระหนักได้ว่าเขาคงถูกจักรพรรดิสูงสุดลงโทษมิเช่นนั้นรอยแดงบนใบหน้าเขาจะมาจากไหนเมื่อมาถึงลานด้านใน นางก็สะบัดตัวหลุดจากฟู่เฉินหวน“ท่านจะทำอะไร!”ทันใดนั้น ฟู่เฉินหวนก็บีบคางน

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1197

    ผ่านไปครู่หนึ่ง เซิ่งไป่ชวนก็มาถึงลั่วชิงยวนพยุงตัวลุกขึ้นนั่งเซิ่งไป่ชวนเห็นเหงื่อเม็ดเล็ก ๆ บนหน้าผากนาง จึงเอ่ยถามด้วยความแปลกใจ “พระชายารู้สึกหนาวหรือไม่ขอรับ?”ลั่วชิงยวนกล่าวอย่างแผ่วเบา “ข้ามิเป็นอะไร มิต้องตรวจชีพจรแล้ว ข้าจะเขียนใบเทียบยาให้ เจ้าช่วยไปหยิบยาให้หน่อย”เซิ่งไป่ชวนพยักหน้า เขาย่อมเชื่อมั่นในฝีมือแพทย์ของลั่วชิงยวนจึงมิฝืนใจเพียงแต่กล่าวว่า “เห็นอาการของพระชายาทรงทรุดลงทุกวัน เกรงว่าจะเป็นเพราะความวิตกกังวล พระชายาควรปล่อยวางบ้าง”“เพื่อรักษาพระวรกายให้แข็งแรงขอรับ”ลั่วชิงยวนพยักหน้า “ขอบคุณหมอหลวงเซิ่ง”“ข้าจะระมัดระวัง”ขณะที่กำลังสนทนากัน ก็พลันได้ยินเสียงตวาดดังมาจากด้านนอก“ว่ากระไรนะ! สั่งลงไป ผู้ใดกล้าพูดถึงเรื่องนี้อีกให้ตัดหัวได้เลย!”ลั่วชิงยวนตกใจเล็กน้อยด้วยความสงสัย นางจึงสวมรองเท้าเดินออกไปจือเฉานำผ้าคลุมมาสวมให้นางเห็นจักรพรรดิสูงสุดกำลังโมโหอยู่ใต้ชายคา“เกิดเรื่องอันใดขึ้นหรือเพคะ?” ลั่วชิงยวนถามด้วยความอยากรู้จักรพรรดิสูงสุดกล่าวว่า “ไม่มีอะไร เจ้าไปพักผ่อนเถิด ข้ามิได้ดุใครมานานแล้วเลยลองฝึกฝนดู”จากนั้นจักรพรรดิสูงสุด

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1196

    เดิมทีนางตั้งใจจะบอกข่าวดีนี้แก่เขาในยามที่เขากับนางคืนดีกันแล้วทว่าสิ่งที่รอคอยกลับเป็นการหลอกลวง เขาชิงเอาเข็มทิศอาณัติสวรรค์ของนางไปบัดนี้เขาใจแข็งเช่นนี้ ลั่วชิงยวนจึงจำต้องบอกเรื่องนี้แก่เขาในใจนางยังคงมีความหวัง หวังว่าเพื่อลูกในครรภ์ ฟู่เฉินหวนอาจจะใจอ่อนลงบ้างทว่าประตูบานนั้นยังคงปิดสนิทนอกจากเสียงลมหวีดหวิวที่พัดผ่านก็ไม่มีเสียงตอบรับใดสายลมหนาวราวกับจะพัดพาความอบอุ่นสุดท้ายในใจนางให้หายไปน้ำตาใสไหลรินอาบแก้มซีดเผือดลั่วชิงยวนหันหลังเดินจากไปอย่างเงียบงันเหล่าบ่าวไพร่ในตำหนักเห็นนางแล้วอยากจะทักทาย แต่ก็ลังเล มิกล้าเอ่ยปากบัดนี้ลั่วชิงยวนราวกับคนไร้วิญญาณ เดินออกจากตำหนักไปอย่างไร้จุดหมายนางเดินไปเรื่อย ๆ รู้สึกราวกับว่าสายลมหนาวจะพัดพาร่างนางให้แหลกสลายไป ความหนาวเหน็บกัดกร่อนกระดูก......ภายในห้องตำรา ฟู่เฉินหวนทรุดลงนอนสลบแน่นิ่งกองอยู่ที่มุมห้อง พื้นเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือดจนกระทั่งซูโหยวกลับมาพบเข้า จึงรีบให้คนไปตามหมอหลวงมู่มาโดยด่วนหมอหลวงมู่ตรวจอาการแล้วก็ตกใจยิ่งนัก รีบปรุงยาให้ทันทีและยังนำโสมมังกรที่ตกทอดกันมาในตระกูลออกมาตัดแบ่งส่วนเล็ก

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1195

    เขามิอยากแตะต้องนางแม้เพียงปลายเล็บฟู่เฉินหวนรีบส่งคนออกไปตามล่าเฉินชี แล้วจึงกวาดสายตามองลั่วชิงยวนที่นอนอยู่บนพื้นหิมะอย่างเย็นชาก่อนเอ่ยเสียงเรียบ “พากลับไป”องครักษ์สองนายเข้ามาพยุงลั่วชิงยวน แล้วพานางออกไปจากศาลาลั่วชิงยวนจ้องมองฟู่เฉินหวนด้วยดวงตาแดงก่ำ เมื่อสบเข้ากับสายตาเย็นชาของเขา หัวใจนางก็พลันเหมือนถูกบีบขณะที่นางถูกพาตัวออกไป เสียงซุบซิบนินทาดังขึ้นทั่วศาลาเสียดแทงโสตประสาทยิ่งนักเมื่อกลับถึงตำหนัก ฟู่เฉินหวนก็รีบจัดการวางกำลังคนไปจับตัวเฉินชีลั่วชิงยวนยืนรออยู่ท่ามกลางหิมะ จนกระทั่งเขาจัดการทุกอย่างเสร็จจึงเดินเข้าไปหา“ฟู่เฉินหวน...”ทว่าฟู่เฉินหวนกลับมองนางด้วยสายตาเย็นชา ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องตำรา แล้วปิดประตูใส่หน้าเสียงปิดประตูดังสนั่น ทำให้ลั่วชิงยวนสะดุ้งตกใจนางมิยอมแพ้ เดินไปเคาะประตู “ฟู่เฉินหวน ท่านรังเกียจหม่อมฉันแล้วใช่หรือไม่!”“เฉินชีกับลั่วฉิงร่วมมือกัน! เหตุใดท่านจึงหลอกเอาเข็มทิศของหม่อมฉันไป! ทั้งหมดนี้เป็นแผนของพวกเขา!”นางทุบประตูเรียก “ฟู่เฉินหวน ท่านต้องอธิบายให้หม่อมฉันฟัง!”ประตูเปิดออกกะทันหันฟู่เฉินหวนก้าวออกมาด้วยความโกรธ

DMCA.com Protection Status