แชร์

บทที่ 1219

ผู้เขียน: หว่านชิงอิ๋น
“แต่ก่อนหน้านี้ท่านอ๋องก็เคยรับลั่วเยวี่ยอิงเป็นพระชายารองมาก่อน เรื่องของลั่วเยวี่ยอิงกับเหยียนผิงเซียวก็ดังไปทั่ว ท่านอ๋องยังแต่งงานกับลั่วเยวี่ยอิง”

“ตอนนั้นท่านยังมิรู้สึกเสียหน้า เหตุใดจึงมารู้สึกตอนที่พระชายาอ๋องทำให้ท่านเสียหน้าเล่า!”

“ใช่ นี่มันมากเกินไปแล้ว!”

“ก่อนหน้านี้พระชายาอ๋องยังเป็นถึงมหาปราชญ์ ทั้งยังได้รับการแต่งตั้งเป็นองค์หญิงด้วย! ท่านอ๋องช่างอาจหาญนัก บอกว่าจะฆ่าก็ฆ่า!”

“ท่านก็มิได้ฆ่าอย่างเปิดเผย แค่ไฟไหม้ พระชายาจึงสิ้นใจไป ใครจะมีหลักฐานว่าท่านเป็นคนฆ่า เฮ้อ...”

“น่าสงสารพระชายา ต้องอดทนมาตลอดชีวิต”

เพียงวันเดียว ชื่อเสียงของฟู่เฉินหวนก็เสื่อมเสียลงอย่างมาก

จือเฉาคุกเข่าร้องไห้อยู่ท่ามกลางซากปรักหักพังครึ่งวัน เดิมทีอยากจะออกจากตำหนักอ๋องไป

แต่กลับถูกองครักษ์ขวางไว้ “เจ้าออกจากตำหนักมิได้”

“เหตุใด? พระชายาจากไปแล้ว ข้ามิอยากอยู่ในที่แห่งนี้แล้ว!” จือเฉาพูดพลางน้ำตาไหล

“ไม่มีเหตุผล เจ้าไปมิได้”

กล่าวจบ องครักษ์สองคนก็ลากจือเฉาไปขังไว้ในเรือนอีกแห่ง

“ปล่อยข้า! ปล่อยข้า!”

“พวกเจ้าจะทำอะไร!”

ประตูลั่นดาล จือเฉาทุบประตูอย่างสุดกำลังแต่ก็ไร้ผล

สุดท้ายก
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก
ความคิดเห็น (1)
goodnovel comment avatar
Sam Sung
ยัยลั่วนี่โรคจิต ชอบกินศพเพื่อให้ตัวเองเก่ง คิดได้ไง
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1220

    ลั่วฉิงรีบกลับไปที่ตำหนัก ค้นหาทั่วทุกซอกทุกมุมแต่ก็มิพบลั่วชิงยวนนางขมวดคิ้ว ลั่วชิงยวนถูกซ่อนไว้ที่ใดกันแน่!กลยุทธ์จักจั่นลอกคราบนี้เป็นฝีมือของลั่วชิงยวนเอง หรือฟู่เฉินหวนเป็นผู้บงการ?หากเป็นฟู่เฉินหวน แล้วเขาคิดจะทำอะไร!ลั่วฉิงออกจากตำหนักอ๋องด้วยความโกรธ และส่งคนไปเฝ้าประตูหน้าและประตูหลังของตำหนักอ๋องไว้หากลั่วชิงยวนปรากฏตัว ต้องจับนางให้ได้ในทันที!ในเมื่อเฉินชีไปซีหลิงแล้ว ก็ต้องสู้กับฟู่เฉินหวนจนตายไปข้างหนึ่ง มีเพียงช่วงเวลานี้เท่านั้นที่สามารถจับลั่วชิงยวนได้ มิเช่นนั้นก็จะไม่มีโอกาสอีก!......ลั่วชิงยวนถูกกัดจนสะดุ้งตื่นความเจ็บปวดที่ข้อเท้าทำให้นางสะดุ้งตื่น นางลืมตาขึ้นอย่างงุนงง เมื่อพยุงตัวเองลุกขึ้นนั่งก็เห็นงูนอนขดอยู่ข้างเท้าของนาง และกัดนางเข้าทันทีที่รู้สึกตัว นางก็รู้สึกเจ็บปวดที่ท้องอย่างรุนแรงนางก้มลงมองใต้แสงสลัว เมื่อเห็นเลือดไหลนองพื้นใต้ชายกระโปรงก็ตกใจสุดขีดขณะที่ลูบท้อง น้ำตาของลั่วชิงยวนก็ไหลรินไม่มีแล้ว!ไม่มีลูกแล้ว!เป็นเช่นนี้ได้อย่างไร?ลั่วชิงยวนมิรู้ว่าตัวเองสลบไปนานเท่าใด แต่นึกถึงคืนที่ถูกขังไว้ ยาที่ฟู่เฉินหวนกรอกให้นา

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1221

    ลั่วชิงยวนตกใจเล็กน้อยแล้วยื่นมือออกไปนอกช่อง พยายามดึงถุงเข้ามาแล้วหยิบขวดยาออกมาทีละขวดหลังจากตรวจสอบดูว่ามียาอะไรบ้าง ลั่วชิงยวนก็กินยาเม็ดหนึ่งนางกำลังจะถามฉู่จิ้งว่าหายาพวกนี้มาจากที่ใด แต่เมื่อมองไปที่มุมห้องก็กลายเป็นว่าฉู่จิ้งขดตัวหลับไปเสียแล้วลั่วชิงยวนลากผ้าห่มมาห่มให้เขาเมื่อเข้าเหมันตฤดู พลังของฉู่จิ้งจะอ่อนแอลง ทำให้เขาง่วงนอนและต้องจำศีล ปกติแล้วจะมิค่อยตื่นขึ้นมาการออกไปหายาคงจะต้องใช้พลังทั้งหมดที่มียาที่นำมาเพียงพอสำหรับพวกเขาใช้ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง ได้แต่หวังว่าเหมันตฤดูจะผ่านพ้นไปโดยเร็วในห้องลับที่มืดมิด ลั่วชิงยวนได้แต่นอนและกินเท่านั้น มองมิเห็นแสงตะวัน มีเพียงความมืดมิดมิรู้จบห้วงเวลาแห่งความทุกข์ทรมานช่างยาวนานเหลือเกินเสบียงแห้งแข็งราวกับหิน ทั้งแห้งและแข็งจนกลืนลำบาก กลืนลงไปแล้วก็เหมือนกินใบมีด เจ็บคอมากบาดแผลทั่วร่างก็มิสามารถล้างทำความสะอาดได้ ได้แต่ใช้ผ้าสะอาดเช็ดรอบแผล ทายาและพันแผลใหม่ทุกวันถึงแม้ว่าบาดแผลส่วนใหญ่จะมิแย่ลง แต่ก็มิได้ดีขึ้นเลยในห้องลับนั้นหนาวเหน็บ หนาวจนต้องห่มผ้าห่มสองผืนแต่ก็ยังคงรู้สึกหนาวผิวแห้งแตกไปหมด บางค

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1222

    “ตามข้ามา” ซูโหยวสั่งจือเฉาลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงตามซูโหยวไปเมื่อมาถึงห้องของซูโหยว ซูโหยวก็หยิบจดหมายฉบับหนึ่งออกมายื่นให้จือเฉาจือเฉางุนงง “นี่คือ...”“นี่คือสิ่งที่ท่านอ๋องให้เจ้าทำก่อนหน้านี้ จดหมายฉบับนี้เป็นจดหมายที่ท่านอ๋องเขียนถึงพระชายา”จือเฉารับจดหมายมาอ่าน แล้วก็ต้องตกใจสุดขีด “พระชายามิได้...”ซูโหยวยกนิ้วชี้แตะริมฝีปาก แล้วกล่าวว่า “พระชายายังมิตาย”“ทั้งหมดนี้เป็นแผนการของท่านอ๋อง”“ข้าเตรียมทุกอย่างให้เจ้าแล้ว เช้าวันพรุ่ง เจ้าก็พาพระชายาออกจากตำหนัก ออกจากเมืองหลวง แล้วอย่าได้กลับมาอีก”“ส่วนจดหมายฉบับนี้ค่อยมอบให้พระชายาหลังจากผ่านไปครึ่งปี”“เจ้าทำได้หรือไม่?”จือเฉาตกใจมากและรู้สึกสับสน “แผนการของท่านอ๋องคืออะไรกันแน่”“เจ้าอย่าสนใจมาก ทำตามที่ท่านอ๋องสั่งก็พอ เจ้าแค่ต้องรู้ว่าทำเช่นนี้จึงจะรักษาชีวิตของพระชายาได้”“เรื่องที่ข้าบอกเจ้า ห้ามบอกพระชายา แค่ส่งจดหมายฉบับนี้ให้พระชายาหลังจากผ่านไปครึ่งปีก็พอ”“นี่เป็นโอกาสที่เจ้าทั้งสองจะมีชีวิตรอด เข้าใจหรือไม่?”จือเฉาตั้งใจฟัง พยักหน้า แล้วเก็บจดหมายไว้ในอกเสื้อ“แล้วตอนนี้พระชายาอยู่ที่ใด? วันพร

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1223

    หัวใจของลั่วชิงยวนกระตุก แต่มิส่งเสียง ได้ยินลั่วฉิงยืนอยู่ข้างนอกครู่หนึ่งก็จากไปแต่ประตูห้องเปิดอยู่ ลั่วชิงยวนมองเห็นแสงสว่างจากด้านนอก ในที่สุดก็ได้เห็นแสงที่แตกต่างจากแสงเทียนแต่ทันใดนั้น นางก็ได้กลิ่นไหม้และเห็นไฟลุกไหม้จากด้านนอกบ้านไฟลุกลามอย่างรวดเร็ว มินานลั่วชิงยวนก็ได้กลิ่นควันไฟเปลวเพลิงกำลังแผดเผาเรือนหลังนี้ลั่วชิงยวนรีบนำน้ำมาชุบผ้าห่มแล้วอุดช่องว่างเพื่อป้องกันมิให้ควันลอยเข้ามาฟู่เฉินหวนอาจจะมิสนใจชีวิตของนาง แต่เมื่อเรือนไฟไหม้ก็ต้องให้คนมาช่วยดับไฟเพียงแค่นางยืนหยัดต่อไป ไฟก็จะมิลามเข้ามา อีกสักพักก็คงจะดับแล้วแต่ไฟกลับยิ่งลุกไหม้รุนแรงขึ้นผู้คนในตำหนักพบเห็นเข้าจึงรีบมาช่วยกันดับไฟจือเฉาได้ยินข่าวจึงรีบมา แล้วเห็นไฟไหม้ในเรือนนั้นเหมือนกับครั้งก่อนไม่มีผิดนางร้อนใจมากพระชายายังอยู่ข้างใน!นางรีบไปตักน้ำดับไฟกับคนอื่น ๆท่ามกลางความวุ่นวาย ลั่วฉิงแอบซ่อนตัวอยู่ในที่มืด ไม่มีใครสังเกตเห็นนางแน่นอนว่านางต้องรอ รอลั่วชิงยวนออกมาครั้งนี้มิว่าอย่างไรก็จะมิปล่อยให้ลั่วชิงยวนหนีไปได้!“แค่ก แค่ก แค่ก แค่ก...” ลั่วชิงยวนพิงกำแพง ควันที่ลอยเข

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1224

    ความเจ็บปวดถาโถมเข้ามาดุจสายน้ำ เลือดเอ่อล้นขึ้นมาในลำคอ“เป็นอย่างไรบ้าง?” ฉู่จิ้งขมวดคิ้ว“มิเป็นอะไร” ลั่วชิงยวนพยายามพยุงตัวเองขึ้น สิ่งที่ทรมานยิ่งกว่าคือแสงแดดที่แยงตาในขณะนี้แสบตามากจนน้ำตาไหลมิหยุด“พระชายา พระชายา!” จือเฉาโผเข้ามาหาพลางร้องไห้โฮ “พระชายา โชคดีเหลือเกินที่ท่านปลอดภัย”“ตอนที่ยังวุ่นวาย พวกเราหนีไปตอนนี้กันเถิดเจ้าค่ะ ” จือเฉาจูงมือลั่วชิงยวน แล้วรีบหนีออกจากประตูหลังนางยังจำคำพูดของซูโหยวได้ ทุกอย่างถูกจัดเตรียมไว้แล้ว ต้องพาพระชายาออกไปก่อนที่จะเกิดเรื่องใหญ่โตมิเช่นนั้นหากทุกคนรู้ว่าพระชายายังมิตาย พระชายาอาจจะออกไปมิได้แล้วลั่วชิงยวนถูกพาตัวออกจากประตูหลัง แสงแดดแยงตาจนมองมิเห็นทางข้างหน้าเมื่อขึ้นรถม้าได้จึงรู้สึกดีขึ้นบ้าง“พระชายา เหตุใดท่านจึงร้องไห้หรือเจ้าคะ” จือเฉารีบหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาสักพักฉู่จิ้งก็ขึ้นรถม้าตามมา “พระชายาของเจ้าถูกขังอยู่ในห้องลับที่มืดมิดนานเกินไป ยังปรับตัวเข้ากับแสงภายนอกมิได้”ได้ยินดังนั้น จือเฉาก็รีบหยิบห่อผ้ามาจากกล่อง แล้วหยิบเสื้อคลุมสีดำตัวใหญ่ออกมาแล้วคลุมศีรษะให้ลั่วชิงยวนร่างผอมบางถูกคลุมด้วยเสื้อ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1225

    พระชายาใช้ชีวิตอย่างไรในตอนที่ถูกขังอยู่หลังจากกินข้าวเสร็จลั่วชิงยวนก็มอบสมุนไพรให้จือเฉา ให้นางไปต้มที่ห้องครัวส่วนลั่วชิงยวนนอนพักบนเตียง ขณะสะลึมสะลือ นางได้ยินเสียงบุรุษหลายคนกำลังพูดคุยเรื่องสงครามอยู่ชั้นล่างลั่วชิงยวนได้ยินเรื่องกองทัพแคว้นหลีและซีหลิงนางจึงลุกไปเปิดประตูแล้วยืนฟังที่มาจากทางเดิน“สู้รบกันมาตั้งนานแล้ว ยังมิรู้ผลแพ้ชนะ ครั้งนี้ท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการคงจะแพ้กระมัง”“เป็นไปมิได้ นี่เป็นสิ่งที่ท่านมหาปราชญ์ทำนาย บอกว่าท่านอ๋องไปแล้วจะชนะอย่างแน่นอน!”“แต่ก็มิรู้ว่าต้องรอนานเท่าใด”“จะว่าไปแล้ว ท่านมหาปราชญ์ผู้นี้มีความสามารถจริงหรือ? เทียบกับพระชายาอ๋องคนก่อนแล้ว ความสามารถช่างห่างไกล”ลั่วชิงยวนกลับเข้าห้องปรากฏว่ากองทัพแคว้นหลียังมิถอยทัพฟู่เฉินหวนถึงกับไปซีหลิงเพื่อต่อสู้กับกองทัพแคว้นหลี ดูเหมือนว่าอยากจะช่วยลั่วฉิงรักษาสถานะในราชสำนักจริง ๆมิรู้ว่าทั้งสองกลายเป็นมิตรกันได้อย่างไรหรือเป็นเพราะมีศัตรูร่วมกันก็คือนาง?จือเฉาต้มยาเสร็จแล้วนำมาให้ หลังจากที่ลั่วชิงยวนกินยาแล้วก็นั่งลงบนเก้าอี้ข้างหน้าต่างพลางสัมผัสแสงแดดภายนอกจือเฉานำผ้าห่ม

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1226

    ลั่วชิงยวนหยิบยันต์ออกมาจากแขนเสื้อ แล้วถือไว้ในมือ วินาทีต่อมายันต์นั้นลุกไหม้เป็นเถ้าถ่าน พลังหยินอันรุนแรงพวยพุ่งออกมาลั่วฉิงตกใจมากนางเห็นยันต์ลุกไหม้ก่อนที่มิติจะเปิดออก ทันใดนั้นงูยักษ์ก็พุ่งทะยานออกมาจากมิติมันอ้าปากเปื้อนเลือดขนาดใหญ่พุ่งเข้าหาลั่วฉิงเสียงคำรามดังกึกก้องลั่วฉิงรีบหยิบเข็มทิศอาณัติสวรรค์ออกมา แต่กลับไร้ประโยชน์ นางถูกเสียงคำรามผลักจนกระเด็นออกจากห้อง เข็มทิศอาณัติสวรรค์ในมือหล่นลงพื้นนางตกลงไปที่ห้องโถงชั้นล่าง ได้แต่ลุกขึ้นยืนโซซัดโซเซ และเงยหน้ามองห้องนั้นด้วยความโกรธนางกัดฟันแล้วหันหลังเดินออกไปข้างกายลั่วชิงยวนมีงูยักษ์คอยปกป้อง!แต่ก็ดี ทั้งเข็มทิศอาณัติสวรรค์และดีงู นางต้องการทั้งหมด!ประตูห้องถูกปิดลงอีกครั้งลั่วชิงยวนก้มลงเก็บเข็มทิศอาณัติสวรรค์ที่ตกอยู่บนพื้น ในที่สุดก็วางใจได้เสียทีของอย่างอื่นจะหายไปก็ได้แต่เข็มทิศอาณัติสวรรค์จะหายไปมิได้นางรู้ว่าลั่วฉิงต้องสะกดรอยตามมาแน่นอน จึงจงใจแวะพักที่นี่เพื่อให้ลั่วฉิงมีโอกาสลงมือครู่หนึ่งจือเฉาและฉู่จิ้งก็กลับมา ลั่วชิงยวนรีบพาพวกเขาเดินทางไปซีหลิงในทันทีมิกล้าเสียเวลาอีกบนรถม้า

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1227

    นางสะบัดมือ ผงยาพุ่งเข้าใส่ใบหน้าของฉู่จิ้งฉู่จิ้งมึนหัวทันที“เป็นเจ้านี่เอง!” ฉู่จิ้งโยนคนที่อยู่ในอ้อมแขนออกไปลั่วฉิงตีลังกาลงพื้นอย่างมั่นคง แล้วมองฉู่จิ้งด้วยสายตาเย็นชา “ที่แท้ก็ต้องปลอมตัวเป็นเด็กคนนี้จริง ๆ ถึงจะหลอกเจ้าได้สินะ”“ตอนนั้นเฉินเซี่ยวหานมีโอกาสใช้ซ่งเชียนฉู่มาข่มขู่เจ้า แต่เขากลับมิทำ ทำให้แผนของข้าล้มเหลวครั้งแล้วครั้งเล่า ช่างโง่เขลาสิ้นดี!”“วันนี้ข้าจะควักดีงูของเจ้าด้วยตัวเอง!”“จัดการเจ้าแล้วข้าค่อยไปจัดการลั่วชิงยวน!”เมื่อได้ยินดังนั้น สีหน้าของฉู่จิ้งก็เปลี่ยนไปลั่วชิงยวนคงจะตกอยู่ในอันตรายเขามิอยากต่อสู้กับนาง ตัดสินใจรีบหันหลังวิ่งหนีแต่บนพื้นกลับมีแสงสีทองส่องประกายวงเวทสีทองอยู่ใต้เท้าของเขาเขาออกไปมิได้!ลั่วฉิงเดินเข้ามาหาช้า ๆ พลางหัวเราะอย่างเย็นชา “เจ้าคิดว่าข้ามิได้เตรียมตัวเลยงั้นรึ?”“มีโอกาสล่อเจ้าออกมาได้เช่นนี้ ข้าจะปล่อยให้เจ้าหนีไปได้อย่างไรเล่า”ลั่วฉิงถือกระบี่ยาวเข้ามา แววตาเต็มไปด้วยความกระหายเลือดนางจะควักดีของเขาทั้งเป็น!ถึงตอนนั้น มิเพียงแต่อาการบาดเจ็บของนางจะหายเท่านั้น แต่ยังจะทำให้พลังเพิ่มขึ้นอีกด้วย!

บทล่าสุด

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1416

    “เจ้ารีบอะไรนักหนา รอมาตั้งนานแล้ว รออีกสักหน่อยจะเป็นกระไร”เมื่อได้ยินดังนั้น อวี๋ตันเฟิ่งก็หยุดมือลั่วชิงยวนเดินเข้าไปคว้าตัวโหยวเซียงไว้ให้โฉวสือชีมัดนางไว้แน่นหนา จากนั้นจึงปลุกโหยวเซียงให้ฟื้นขึ้นมาเมื่อฟื้นคืนสติ โหยวเซียงก็จ้องหน้าลั่วชิงยวนเขม็งอย่างโกรธแค้น “เจ้ากล้าจับข้า เจ้าคอยดูเถอะว่าจะตายอย่างไร!”ลั่วชิงยวนย่อตัวลงนั่งตรงหน้านาง แล้วหัวเราะเบา ๆ “ใช่แล้ว ใครจะกล้าแตะต้องคุณหนูใหญ่เมืองแห่งภูตผีเล่า”“น่าเสียดาย เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้ บิดามารดาของเจ้าไปปล้นเขามา มิใช่ของพวกเขามาแต่เดิม ย่อมมิใช่ของเจ้าเช่นกัน”“ถึงเวลาคืนเจ้าของตัวจริงแล้ว”โหยวเซียงจ้องเขม็งนางอย่างโกรธแค้น “เจ้าพูดจาเหลวไหลอะไร! เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้เป็นของบิดามารดาข้ามาแต่เดิม!”เมื่อได้ยินดังนั้น ลั่วชิงยวนก็ประหลาดใจ “หรือว่าต่งอวิ๋นซิ่วมิได้บอกความจริงแก่เจ้า”“ก็ถูกแล้ว เรื่องน่าอับอายเช่นนี้ นางจะบอกลูกสาวได้อย่างไร”“เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้มิใช่เพียงถูกบิดามารดาเจ้ายึดมาเท่านั้น แต่ยังใช้วิธีการที่น่ารังเกียจในการยึดครองด้วย!”“เดาว่าจนถึงตอนนี้เจ้าก็คงยังมิรู้เลยว่าศัตรูของเจ้าคือผ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1415

    โหยวเซียงกัดฟันพูดด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบลั่วชิงยวนมองไปที่อวี๋โหรว หลายวันมานี้อวี๋โหรวผอมซูบไปมาก“เจ้าจับตัวอวี๋โหรวมาเพื่อล่อข้ามาที่นี่รึ?”ลั่วชิงยวนหรี่ตามองโหยวเซียง“แต่เจ้ามิน่าจะมีความสามารถพอที่จะพาอวี๋โหรวออกจากวังหลวงไปได้”“เวินซินถงเป็นคนทำใช่หรือไม่?”“เจ้าทำข้อตกลงอะไรกับนางไว้?”โหยวเซียงหัวเราะเยาะ “อยากรู้รึ?”“คุกเข่าอ้อนวอนข้าสิ”“เจ้าอ้อนวอนข้า ข้าถึงจะบอกเจ้าว่าผู้ใดจับตัวอวี๋โหรวมา และผู้ใดร่วมมือกับข้าวางแผนให้เจ้ามาที่เมืองแห่งภูตผี”ลั่วชิงยวนมองท่าทีหยิ่งยโสของโหยวเซียงแล้วก็อดมิได้ที่จะหัวเราะเบา ๆ นางกวาดสายตามองไปรอบ ๆ แล้วถามว่า “ต่งอวิ๋นซิ่วมิมาด้วยรึ?”“เมื่อครู่นี้คนที่ต่อสู้กับข้าก็คือนางใช่หรือไม่?”เมื่อได้ยินน้ำเสียงเยาะเย้ยของลั่วชิงยวน โหยวเซียงก็โกรธจัด ในใจนางตกใจ ลั่วชิงยวนรู้แล้วหรือว่ามารดาของนางเป็นใคร“สารเลว!”นางบีบคออวี๋โหรวอย่างแรงเพื่อข่มขู่ลั่วชิงยวน “จะคุกเข่าหรือไม่?!”“ลั่วชิงยวน เจ้ามีโอกาสแค่ครั้งเดียว!”“หากเจ้ามิยอมคุกเข่ายอมจำนนแต่โดยดี ข้าจะหักคอนางเดี๋ยวนี้!”กล่าวจบ โหยวเซียงก็ออกแรงบีบบีบจนอวี๋โหรวหาย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1414

    ทันทีที่คนใบ้หันมาเห็นจึงรีบเข้ามาย่อตัวลงข้างนางแล้วช่วยประคองนางไว้ลั่วชิงยวนเช็ดเลือดที่มุมปาก ใบหน้าซีดเผือดกว่าเดิม“ข้ามิเป็นอะไร”นางเงยหน้าขึ้นมองอวี๋ตันเฟิ่งที่อยู่กลางอากาศ ในที่สุดจิตวิญญาณของนางก็สมบูรณ์แล้วบนใบหน้าซีดขาวนั้นปรากฏรอยยิ้ม รอยยิ้มนั้นทั้งพึงพอใจและเย่อหยิ่ง“ในที่สุดข้าก็ได้… เป็นอิสระแล้ว! ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า...”อวี๋ตันเฟิ่งหัวเราะลั่น ทำเอาป่าทั้งผืนเกิดพายุโหมกระหน่ำคนใบ้รีบยกมือขึ้นช่วยลั่วชิงยวนปัดป้องฝุ่นและใบไม้ที่ปลิวว่อน......จู่ ๆ ต่งอวิ๋นซิ่วก็กระอักเลือดออกมาเต็มปาก จากนั้นหมดสติล้มลงบนพื้น“ท่านแม่!”โหยวเซียงตกใจ รีบเข้าไปประคองนาง “ท่านแม่! ท่านแม่! ท่านเป็นอะไรไป!”หลังจากตะโกนเรียกอยู่นาน มารดาของนางก็มิฟื้นโหยวเซียงโกรธจนกัดฟันพูด “ลั่วชิงยวน สารเลว!”“เจ้าคอยดูเถอะ!”......ผ่านไปครู่ใหญ่ อวี๋ตันเฟิ่งถึงจะสงบสติอารมณ์ลงได้ลมพายุในป่าก็สงบลงเช่นกันถูหมิงที่อยู่ข้าง ๆ จึงค่อย ๆ ขยับเข้ามาใกล้ฉีเสวี่ยเวยที่ยังคงตกตะลึงมองภาพเหตุการณ์เมื่อครู่ด้วยความมิอยากเชื่อ “เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้น?”“ต่อไปพวกเราต้องทำอะไร?”ลั่วชิงยวน

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1413

    คนของถูหมิงตายไปหมดแล้ว เหลือเพียงฉีเสวี่ยเวยเท่านั้นในขณะที่พวกเขาเดินทางไปยังถ้ำแห่งที่หกในคืนนั้นผลลัพธ์ที่ได้กลับน่าผิดหวังเพราะในถ้ำว่างเปล่า“ดูเหมือนว่าพวกเราจะมาช้าไปก้าวหนึ่ง”ถูหมิงขมวดคิ้ว “เหลืออีกหนึ่งชิ้น ทำอย่างไรดี? หรือว่าความพยายามทั้งหมดของเราจะสูญเปล่า?”พวกเขาวุ่นวายมาหลายวัน เดินทางไปเกือบทั่วทั้งภูเขาแล้วหากสมบัติหายไปเช่นนี้ เขาคงต้องฆ่าสตรีผู้นี้เป็นแน่!ลั่วชิงยวนขมวดคิ้วครุ่นคิด แล้วกล่าวว่า “เหลืออีกหนึ่งชิ้นก็เหลืออีกหนึ่งชิ้น”“หาที่ปลอดภัยก่อน”จากนั้นพวกเขาก็มายังป่าที่ค่อนข้างสะอาด ไม่มีพุ่มไม้หรือวัชพืชหนาแน่นบนพื้นมากนัก ค่อนข้างโปร่งโล่งหีบทั้งห้าใบวางอยู่บนพื้นลั่วชิงยวนกล่าวว่า “เปิดหีบกันเถิด”ทันใดนั้นดวงตาของถูหมิงก็เป็นประกาย “เปิดได้หรือ?”เขาเห็นว่าบนหีบมีแต่อักขระสีเลือดปกคลุมอยู่ จึงยั้งมือไว้หลายครั้งแม้จะอยากเปิดก็ตามเมื่อได้ยินเช่นนี้จึงรีบเปิดหีบทันทีแต่เมื่อเปิดออกแล้ว ร่างกายของเขาก็แข็งทื่อไปศพ?!ทั้งยังเป็นศพที่ถูกชำแหละอีกด้วย?ฉีเสวี่ยเวยก็ตกใจกลัวลั่วชิงยวนกลับสงบสติอารมณ์ สั่งให้โฉวสือชีและคนใบ้ช่วย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1412

    “ใครกัน?!”ลั่วชิงยวนหรี่ตาลงเล็กน้อย แล้วตอบเสียงแผ่ว “ซูเซียง”“แต่ตอนนี้ควรเรียกนางว่าโหยวเซียง”“ภารกิจที่พวกเจ้าได้รับก็เป็นเพียงการละเล่นของนางเท่านั้น”“นางต้องการให้พวกเจ้าฆ่ากันเอง”และภารกิจหนังหน้าของหญิงงามที่ฉีเสวี่ยเวยได้รับ ก็คงเป็นการล่อลวงให้ฉีเสวี่ยเวยมาฆ่านางหากสามารถยืมมือคนอื่นฆ่าคนได้ โหยวเซียงก็มิจำเป็นต้องเปิดเผยตัวตนเพียงแต่โหยวเซียงคาดมิถึงว่าฉีเสวี่ยเวยจะฆ่านางมิได้ กระทั่งโหยวเซียงเองก็ฆ่านางมิได้“โหยวเซียงหรือ? นางเป็นคนของเมืองแห่งภูตผีแห่งนี้หรือ?” ฉีเสวี่ยเวยมองนางอย่างมิเชื่อสายตา“มิแปลกใจเลย… นางท้องแก่ถึงเพียงนั้นยังกล้ามาที่นี่ได้”ลั่วชิงยวนเห็นว่าใกล้รุ่งสางแล้ว จึงให้โฉวสือชีแก้เชือกที่มัดฉีเสวี่ยเวยไว้“ข้าจะยังมิฆ่าเจ้าตอนนี้”“มิว่าเรื่องที่เจ้ากล่าวมาจะเป็นจริงหรือไม่ก็มิสำคัญ ข้าก็มิกลัวว่าเจ้าจะไปบอกเรื่องนี้กับถูหมิง”“หากเจ้าไปบอก เรื่องเดียวที่จะเป็นผลเสียต่อพวกข้าก็คือต้องแบกหีบเพิ่มอีกมิกี่ใบ”“เพียงเท่านั้น”มิใช่เรื่องคอขาดบาดตายที่นางทำเป็นร่วมมือกับถูหมิง ก็เพียงต้องการใช้คนของเขาไปขวางทางศพชายที่ถูกผนึกไว้ในถ้ำ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1411

    “แม้จะต้องยอมตายไปพร้อมกับถูหมิง ข้าก็ยินดี!”เมื่อได้ยินดังนั้น ลั่วชิงยวนก็ตกตะลึง แต่ก็ยังคงสงสัยอยู่บ้าง“แต่เจ้าสนิทสนมกับถูหมิงถึงเพียงนั้น น่าจะมีโอกาสฆ่าเขาได้นับครั้งมิถ้วน”ฉีเสวี่ยเวยขมวดคิ้วแน่น ดวงตาแดงก่ำ “แท้จริงแล้วคนผู้นั้นระแวดระวังตัวมาก หากมิใช่เพราะต้องการลดความระแวดระวังของเขา ข้ากับชายมากหน้าหลายตาก็คงมิ...”เมื่อกล่าวถึงตรงนี้ ฉีเสวี่ยเวยก็เม้มริมฝีปากแน่นหลังจากกล้ำกลืนความรู้สึกแล้ว จึงกล่าวต่อ “ในป่าครั้งนั้นเป็นครั้งแรกที่เขาใกล้ชิดข้า เดิมทีตอนนั้นข้ามีโอกาสที่จะฆ่าเขาได้!”“แต่เจ้าปีศาจฝูเหมิ่งนั่นบังเอิญมาขวาง!”“หากมิใช่เพราะเขา ข้าคงทำสำเร็จไปแล้ว!”ฉีเสวี่ยเวยกัดฟันพูด เต็มไปด้วยความเคียดแค้นลั่วชิงยวนรู้สึกประหลาดใจ เมื่อเห็นสีหน้าของฉีเสวี่ยเวย ในดวงตาของนางเต็มไปด้วยความแค้น ดูมิเหมือนคนโกหกทำให้นางเปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อฉีเสวี่ยเวยไปบ้างขณะที่ลั่วชิงยวนยังคงครุ่นคิด ฉีเสวี่ยเวยก็มองมาที่นาง “เจ้ายังมิเชื่อข้าหรือ?”“ขอเพียงเจ้าฆ่าถูหมิงได้ ข้าจะทำทุกอย่างเพื่อเจ้า! ข้าจะบอกสิ่งที่เจ้าอยากรู้ทุกอย่าง!”ลั่วชิงยวนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1410

    ลั่วชิงยวนนอนนิ่งอยู่บนเตียง มิกล้าขยับกายทว่างูตัวนั้นกลับกัดข้อเท้านางอย่างแรงหนึ่งครั้ง จากนั้นก็รีบเลื้อยหนีไปรออยู่ครู่หนึ่ง ฉีเสวี่ยเวยเห็นว่าคนที่นอนอยู่บนเตียงไม่มีความเคลื่อนไหวใด ๆ จึงเปิดประตูเข้ามานางมิอาจมั่นใจได้ว่าพวกคนใบ้จะกลับมาเมื่อใด จึงมิกล้าเสียเวลานานหลังจากปิดประตูอย่างระแวดระวังแล้ว นางก็มายังปลายเตียง จ้องมองข้อเท้าของลั่วชิงยวนอย่างละเอียด ปรากฏว่าถูกงูกัดจริง ๆ นางต้องตายเพราะพิษนี้แน่นอน!ทันใดนั้นเอง ฉีเสวี่ยเวยก็ชักกริชออกมาแล้วเดินไปยังหัวเตียง ค่อย ๆ จรดใบมีดลงบนใบหน้าของลั่วชิงยวนแต่ในพริบตานั้นเอง ลั่วชิงยวนก็ลืมตาขึ้นมาจ้องมองนางด้วยสายตาอาฆาตแค้นฉีเสวี่ยเวยพลันตกใจ แต่ก็มิได้หนีในทันที เพราะนางคิดว่าลั่วชิงยวนโดนพิษงูเข้าไปแล้ว อย่างไรก็ต้องตายอยู่ดีลั่วชิงยวนรีบคว้าข้อมือของฉีเสวี่ยเวยไว้เพื่อแย่งชิงกริชมาจากนางฉีเสวี่ยเวยก็ลงมือโจมตีเช่นกัน เพียงแต่นางคาดมิถึงว่าสตรีผู้นี้ที่ถูกพิษแล้วจะยังมีพละกำลังมากมายถึงเพียงนี้หลังจากทั้งสองต่อสู้กันครู่หนึ่งในห้อง ฉีเสวี่ยเวยก็พ่ายแพ้ ถูกลั่วชิงยวนจับกดไว้บนโต๊ะฉีเสวี่ยเวยตกใจมาก “เจ้า

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1409

    “แน่นอน”“อีกอย่าง เมื่อหาของเหล่านี้ครบแล้วเมืองแห่งภูตผีทั้งเมืองก็จะเป็นของพวกเรา แล้วยังต้องขึ้นเขาไปเอาของเล็ก ๆ น้อย ๆ นั่นหาปะไร”คำพูดนี้กระตุ้นความโลภในใจของทุกคนที่อยู่ตรงนั้นอย่างมิต้องสงสัยพวกเขาจึงมิลังเลอีกต่อไป รีบติดตามลั่วชิงยวนไปยังเส้นทางเดิมตลอดทางยังมีงูมากมาย ลั่วชิงยวนก็หาสมุนไพรบางชนิดตลอดทางแล้วมอบให้ทุกคนผูกติดไว้บนตัวและทาตามเท้า เพื่อให้กลิ่นของสมุนไพรนั้นช่วยไล่งูดังนั้นการเดินทางของพวกเขาจึงราบรื่นดี เมื่อยามค่ำคืนมาเยือนพวกเขาก็ออกมาจากบ่อน้ำพุร้อนนั้นอีกครั้งพวกเขากลับมายังหมู่บ้านเดิมในช่วงกลางดึกสงัดในหมู่บ้านยังมีอาหารหลงเหลืออยู่ ดังนั้นทุกคนจึงหยุดพักกินอาหารกันก่อนเมื่อฟื้นฟูพละกำลังได้แล้วคนทั้งหมดก็ออกเดินทางต่อมาถึงสุสานเดิม ยามนี้วิญญาณอาฆาตเต็มไปทั่วทั้งภูเขา พลังหยินแผ่ซ่านไปทั่วเมื่อลั่วชิงยวนมาถึงที่แห่งนั้นก็พบว่าปากถ้ำเปิดออกแล้วมีคนกล่าวขึ้นว่า “วันนั้นฝูเหมิ่งก็มาที่นี่!”ลั่วชิงยวนตกใจเล็กน้อยเมื่อเข้าไปในถ้ำแล้ว ภาพที่ปรากฏด้านในนั้นมิเปลี่ยนแปลงมากนัก สิ่งที่เปลี่ยนไปเพียงอย่างเดียวคือโลงศพที่ถูกล่ามโซ่นั้นระเบ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1408

    เมื่อได้ยินดังนั้น ความโลภก็ปรากฏในดวงตาของถูหมิง ใครเล่าจะมิปรารถนาสมบัติของเมืองแห่งภูตผี เขาตอบตกลงในทันที “ได้”ลั่วชิงยวนกล่าวต่อว่า “แต่การนำของสิ่งนี้มาจะต้องเผชิญกับอันตรายบ้าง ดังนั้นอาจจะต้องมีคนของเจ้าสละชีวิต”“แต่คนมากก็แบ่งกันได้น้อย คนตายไปบ้างก็มิจำเป็นต้องสนใจความเป็นความตายของพวกเขา”“ความลับนี้ข้าบอกเพียงเจ้าเท่านั้น เจ้าอย่าได้แพร่งพรายให้ผู้ใดรู้เชียว”“โดยเฉพาะฉีเสวี่ยเวย”เมื่อได้ยินดังนั้นถูหมิงก็หันกลับไปมอง แต่ไหนแต่ไรมาเขาก็มิเคยสนใจความเป็นความตายของคนเหล่านั้นอยู่แล้ว“หาได้มีปัญหาไม่!”ถูหมิงรับปากอย่างง่ายดาย แต่ลั่วชิงยวนกลับยังคงระแวดระวัง “ยังมีเรื่องที่ต้องบอกเจ้าอีกอย่าง กองทัพของเมืองแห่งภูตผีถูกพวกข้าปลุกปั่นแล้ว คาดว่าอีกมินานคงไล่ตามมา”“ก่อนที่จะหาของทั้งหกชิ้นพบ อย่าได้คิดที่จะทำสิ่งใดนอกเหนือจากนี้ ท้ายที่สุดแล้ว พวกเราต้องร่วมมือกันต่อสู้กับศัตรู หากถูกพวกมันจับได้คงไม่มีใครมีจุดจบที่ดี”สีหน้าของถูหมิงเปลี่ยนไปเล็กน้อย มิคาดคิดว่าสตรีผู้นี้จะเก่งกาจมากถึงเพียงนี้ กระทั่งปลุกกองทัพของเมืองแห่งภูตผีขึ้นมาได้ดูเหมือนว่าสิ่งที่นางต้

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status