แชร์

บทที่ 1227

ผู้เขียน: หว่านชิงอิ๋น
นางสะบัดมือ ผงยาพุ่งเข้าใส่ใบหน้าของฉู่จิ้ง

ฉู่จิ้งมึนหัวทันที

“เป็นเจ้านี่เอง!” ฉู่จิ้งโยนคนที่อยู่ในอ้อมแขนออกไป

ลั่วฉิงตีลังกาลงพื้นอย่างมั่นคง แล้วมองฉู่จิ้งด้วยสายตาเย็นชา “ที่แท้ก็ต้องปลอมตัวเป็นเด็กคนนี้จริง ๆ ถึงจะหลอกเจ้าได้สินะ”

“ตอนนั้นเฉินเซี่ยวหานมีโอกาสใช้ซ่งเชียนฉู่มาข่มขู่เจ้า แต่เขากลับมิทำ ทำให้แผนของข้าล้มเหลวครั้งแล้วครั้งเล่า ช่างโง่เขลาสิ้นดี!”

“วันนี้ข้าจะควักดีงูของเจ้าด้วยตัวเอง!”

“จัดการเจ้าแล้วข้าค่อยไปจัดการลั่วชิงยวน!”

เมื่อได้ยินดังนั้น สีหน้าของฉู่จิ้งก็เปลี่ยนไป

ลั่วชิงยวนคงจะตกอยู่ในอันตราย

เขามิอยากต่อสู้กับนาง ตัดสินใจรีบหันหลังวิ่งหนี

แต่บนพื้นกลับมีแสงสีทองส่องประกาย

วงเวทสีทองอยู่ใต้เท้าของเขา

เขาออกไปมิได้!

ลั่วฉิงเดินเข้ามาหาช้า ๆ พลางหัวเราะอย่างเย็นชา “เจ้าคิดว่าข้ามิได้เตรียมตัวเลยงั้นรึ?”

“มีโอกาสล่อเจ้าออกมาได้เช่นนี้ ข้าจะปล่อยให้เจ้าหนีไปได้อย่างไรเล่า”

ลั่วฉิงถือกระบี่ยาวเข้ามา แววตาเต็มไปด้วยความกระหายเลือด

นางจะควักดีของเขาทั้งเป็น!

ถึงตอนนั้น มิเพียงแต่อาการบาดเจ็บของนางจะหายเท่านั้น แต่ยังจะทำให้พลังเพิ่มขึ้นอีกด้วย!

บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
ความคิดเห็น (2)
goodnovel comment avatar
Sam Sung
ทำไมไม่แทงเข้าที่อกนะ
goodnovel comment avatar
Sam Sung
ขอให้เป็นฟู่ตัวปลอม เป็นยัยลั่วตัวร้ายแทนทีเทอะ จะได้ตายๆไปเสีย เรื่องน่าจะขมวดจบได้แล้ว อย่ายืดเรื่องอีกเลย
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1228

    แต่ลั่วชิงยวนกลับมิเปลี่ยนสีหน้า ในดวงตามีเพียงความเย็นชามือกำกริชแน่น“ไม่มีใครอยากเป็นนักโทษของผู้อื่น หม่อมฉันก็เช่นกัน”“มาถึงขั้นนี้ ท่านกับหม่อมฉันก็เป็นศัตรูกันแล้ว”“อย่ามาใช้น้ำเสียงเหยียดหยามมาสั่งหม่อมฉันอีก”“หม่อมฉัน ลั่วชิงยวน มิเกี่ยวข้องอะไรกับท่านอีกต่อไป!”กล่าวจบ ลั่วชิงยวนก็คว้าปอยผมมาตัดขาดทันใดแล้วปล่อยให้ปลิวไปในอากาศ“หม่อมฉันตัดด้ายที่ผูกพันท่านกับหม่อมฉันด้วยมือของหม่อมฉันเอง นับจากนี้เราจะกลายเป็นคนแปลกหน้าของกันและกันเท่านั้น”“หากท่านยังมารบกวนอีก หม่อมฉันจะฆ่าท่านโดยมิลังเล”ใต้ความมืดมิดยามรัตติกาล แววตาของลั่วชิงยวนช่างเย็นชาเหลือเกินแววตาที่มิคุ้นเคยราวกับมองคนแปลกหน้า ในดวงตาไม่มีความรักใคร่หลงเหลืออยู่อีกแล้วการตัดครั้งนี้ถือว่าตัดความอาลัยทั้งหมดของนางแล้วนับจากนี้ นางจะมิหันหลังกลับไปอีก!ลั่วชิงยวนก้าวเท้าเดินจะจากไปแต่ฟู่เฉินหวนกลับพุ่งเข้ามา คว้าไหล่ของนาง หมายจะบีบคอเพื่อควบคุมนางพลังที่รุนแรงทำให้นางรู้สึกกดดัน พยายามหลบหลีกอย่างสุดกำลังร่างกายของนางตอนนี้มิอาจสู้กับฟู่เฉินหวนได้เลย ลั่วชิงยวนจึงได้แต่ใช้กลอุบายถอยหลั

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1229

    ร่างนั้นขวางหน้าลั่วฉิงไว้แล้วเข้าโรมรันต่อสู้กับลั่วฉิงหลังจากปะทะกันหลายกระบวนท่า ถึงแม้จะเสียเปรียบเล็กน้อย แต่ก็สามารถขวางลั่วฉิงไว้ได้ลั่วชิงยวนถือเข็มทิศตามหาตำแหน่งของฉู่จิ้งเมื่อเห็นการต่อสู้ที่ดุเดือดก็ตกใจเล็กน้อย แล้วรีบวิ่งเข้าไปปลดวงเวทปล่อยตัวฉู่จิ้งออกมาเมื่อลั่วฉิงเห็นลั่วชิงยวนมาก็พลันตกตะลึง และถูกฝ่ามือตบจนกระเด็นไปหลายเมตรนางเงยหน้าขึ้นด้วยความตกใจ “ลั่วชิงยวน เจ้านี่เอง!”ลั่วชิงยวนมองนางด้วยแววตาเย็นชา “วงเวทของเจ้ายังอ่อนหัดนัก”“ข้าจะมอบให้เจ้าอีกหนึ่ง”ลั่วชิงยวนหรี่ตาลง หยิบเข็มทิศอาณัติสวรรค์ออกมา“นองเลือดแปดทิศ!”ทันใดนั้น วงเวทสีทองที่ใหญ่โตมโหฬารพลันผุดขึ้นแผ่ขยายไปบนท้องฟ้าปกคลุมลั่วฉิงไว้ลั่วฉิงอยากจะหนี แต่หนีมิพ้นนางกางมือออก เห็นเหมือนเส้นไหมสีแดงลอยขึ้นมาจากฝ่ามือถูกวงเวทดูดเข้าไปจากนั้นนางก็ตระหนักได้ด้วยความตกใจว่า นี่คือเลือดของนาง!ลั่วชิงยวนมองนางด้วยแววตาเย็นชา “ภายในเจ็ดวัน เจ้าจะกลายเป็นศพแห้ง”“เดิมทีข้าเห็นแก่มิตรภาพแห่งสำนัก จึงจะไว้ชีวิตเจ้า แต่เจ้ากลับรบกวนข้ามิเลิก กัดมิยอมปล่อย”“เจ้าต้องการเข็มทิศอาณัติสวรรค

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1230

    “ท่านแม่... ท่านอย่าทิ้งข้าไปอีกเลย ท่านไปที่ใด ข้าก็จะไปที่นั่น!”เมื่อจือเฉาได้ยินดังนั้นก็ตกใจฉู่จิ้งเลิกคิ้วด้วยความประหลาดใจ“เจ้ามีลูกชายโตถึงเพียงนี้ตั้งแต่เมื่อใด?”เสียงนี้ฟังดูแล้วน่าจะอายุมากกว่าลั่วชิงยวนเสียอีกลั่วชิงยวนกล่าวอย่างจนใจ “ก็... อยู่ ๆ ก็มี...”หลังจากกล่าวจบ นางก็มองไปที่ลั่วอวิ๋นสี่ “ตอนนี้วรยุทธ์ของเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง? มิต้องการเขาแล้วใช่หรือไม่?”ลั่วอวิ๋นสี่พยักหน้า “แข็งแกร่งขึ้นมากแล้ว น่าจะปกป้องพี่หญิงได้แล้ว”“ส่วนเตี่ยฉุย ให้เขาตามเจ้าไปเถิด”ลั่วชิงยวนตอบรับ “ได้ เมื่อไปถึงซีหลิงแล้วข้าจะหาวิธีพาเขาออกมา”......ลั่วฉิงถูกขังอยู่ในวงเวท พยายามดิ้นรนออกไป แต่ก็ออกไปมิได้วงเวทนี้ขังนางไว้อย่างแน่นหนาเมื่อเห็นเลือดถูกดูดออกไปจากร่าง ลั่วฉิงก็รู้สึกหวาดกลัวอย่างมากนางจะตายที่นี่มิได้!นางรอแล้วรอเล่า ในที่สุดเมื่อฟ้าเริ่มสางก็มีคนเดินผ่านมาลั่วฉิงราวกับพบเจอผู้ช่วยชีวิต นางนอนคว่ำอยู่บนพื้น แล้วยื่นมือออกไป “ช่วยข้าด้วย...”ชายที่แบกจอบตกใจ รีบนั่งยอง ๆ และกล่าวถาม “แม่นาง เจ้าเป็นอะไร? จะไปหาหมอหรือไม่?”ลั่วฉิงเห็นเขาเข้ามาในเ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1231

    บัดนี้การต่อสู้ระหว่างทั้งสองกองทัพหยุดลงแล้ว แต่ยังคงอยู่ในสถานการณ์ตึงเครียดต่อไปถึงแม้ว่าเฉินชีอยากจะฆ่าฟู่เฉินหวน แต่ก็มิยอมให้คนของตัวเองตายอย่างสูญเปล่าหากพูดถึงกลยุทธ์ แม้แต่เฉินชียังต้องยอมรับว่าฟู่เฉินหวนเก่งกาจมาก ถือเป็นศัตรูที่แข็งแกร่งการจะฆ่าเขานั้นมิใช่เรื่องง่ายดังนั้นจึงหยุดรบก่อนแล้วค่อยหาโอกาสหลายวันมานี้ เขาปลอมตัวเข้าไปในซีหลิงเพื่อสืบข่าวและสังเกตการณ์การป้องกันของซีหลิงแต่การป้องกันของซีหลิงนั้นแปลกประหลาด เพราะมิเห็นเลยว่าคนอยู่ที่ไหน มิรู้ว่าที่ใดมีกำลังพลมาก ที่ใดมีกำลังพลน้อยแม้แต่ร่องรอยของฟู่เฉินหวนก็ยังมิแน่นอนเขาคิดว่าตัวเองสามารถเข้าไปในซีหลิงได้โดยไม่มีใครรู้ บนใต้หล้านี้มีน้อยคนนักที่จะมีวรยุทธ์สูงส่งเทียบเท่าเขาแต่กลับหามิพบแม้กระทั่งที่ซ่อนของฟู่เฉินหวนมีค่ายประจำการอยู่มิน้อย แต่เฉินชีก็ดูออกว่าทั้งหมดล้วนเป็นภาพลวงตาที่ใช้หลอกล่อเขาวันนี้เฉินชียังคงเดินไปมาในซีหลิงเพื่อสำรวจไปรอบ ๆ และทันใดนั้นก็ได้รับจดหมายฉบับหนึ่งเมื่อเห็นเนื้อความในจดหมาย สีหน้าของเขาพลันเปลี่ยนไปก่อนจะรีบควบม้าออกไปทันที......อากาศกลับมาหนาวเย็น ล

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1232

    “จะได้มิต้องกังวล”ลั่วอวิ๋นสี่ได้ยินดังนั้นก็รู้สึกใจหายดวงตาใต้หน้ากากของนางแดงก่ำ อยากจะพูดบางอย่างออกมาแต่ก็พูดมิออกนางจึงลุกขึ้นเดินออกจากห้องไปอย่างเงียบเชียบเมื่ออยู่คนเดียวแล้วก็พิงกำแพงร้องไห้ออกมาเหตุใดญาติพี่น้องของนางจึงต้องจากไปทีละคนลั่วชิงยวนเอนหลังพิงเตียงพลางครุ่นคิด นางรู้ว่าคำพูดนั้นโหดร้าย ทว่าเจ็บแต่จบดีกว่าเจ็บเรื้อรังบางทีในภายภาคหน้านางอาจจะหาวิธีรักษาชีวิตได้ ถึงตอนนั้นค่อยบอกข่าวนี้กับพวกนาง อาจจะเป็นเรื่องน่ายินดีก็เป็นได้หลังจากกินยาแล้วลั่วชิงยวนก็พักผ่อนครึ่งวัน จากนั้นจึงออกเดินทางไปซีหลิงต้องเดินทางอย่างช้า ๆ ร่างกายของลั่วชิงยวนมิสามารถทนต่อการเดินทางไกลได้อีกแล้วจึงต้องหยุดพักบ่อยครั้งในคืนที่แสงจันทร์กระจ่าง ลั่วชิงยวนจะใช้เข็มทิศอาณัติสวรรค์ ซึ่งพลังที่ดูดซับมาจะทำให้ความเหนื่อยล้าหายไปใช้เวลาประมาณครึ่งเดือนจึงถึงซีหลิงส่วนเฉินชีนั้นเดินทางไปกลับหนึ่งรอบแล้วในวันที่เดินทางถึงซีหลิง ลั่วชิงยวนพักอยู่ที่โรงเตี๊ยม ส่วนฉู่จิ้งรีบไปหาซ่งเชียนฉู่เขาจึงแยกทางกับพวกนางลั่วชิงยวนคิดว่าควรจะให้ลั่วอวิ๋นสี่กลับไปได้แล้ว จึงให้จือเฉ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1233

    คนที่เขาต้องการฆ่าคือฟู่เฉินหวน!......ในห้องใต้ดินแห่งหนึ่งมีแผนที่แขวนอยู่บนผนัง บนโต๊ะมีแบบจำลองขนาดใหญ่ ที่นี่คือสถานที่สำหรับวางกลยุทธ์ฟู่เฉินหวนที่ใบหน้าซีดเซียวกำลังดื่มชา “แค่ก แค่ก แค่ก แค่ก...”เซียวชูรีบลูบหลังให้ท่านอ๋อง “ท่านอ๋อง ร่างกายของท่านแย่ลงเรื่อย ๆ อยู่ที่ห้องใต้ดินมิได้แล้วพ่ะย่ะค่ะ ข้างล่างนี้หนาวเย็นเกินไป”หลังจากที่ฟู่เฉินหวนหยุดไอก็โบกมือ “หากออกไปจะถูกเฉินชีหาเจอ”“เขาเป็นชาวแคว้นหลี มีวิธีมากมายในการตามหาข้า”“มีเพียงที่นี่เท่านั้นที่อยู่ได้ พลังหยินปกปิดพลังหยางจึงหามิพบ”เซียวชูกล่าวอย่างจนใจ “มีเพียงท่านอ๋องเท่านั้นที่คิดวิธีนี้ออก”ที่นี่คือห้องใต้ดินของสัปเหร่อในสุสานเดิมทีห้องใต้ดินนี้ใช้สำหรับเก็บอาหารของสัปเหร่อ ตอนนี้ด้านบนเต็มไปด้วยหลุมศพในห้องใต้ดินนั้นหนาวเย็นมาก อาภรณ์หนาแค่ไหนก็มิสามารถต้านทานความหนาวเย็นได้หนึ่งถึงสองเดือนมานี้ ท่านอ๋องอาศัยอยู่ที่นี่ เพราะต้องหลบหนีการตามล่าของเฉินชีคอยวางแผนในซีหลิงอย่างลับ ๆ และควบคุมสถานการณ์ทั้งหมดจนถึงตอนนี้ยังมิเคยแพ้ มิเพียงแต่มิให้กองทัพแคว้นหลีบุกเข้าซีหลิงได้เท่านั้น แต่ยั

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1234

    เสียงกลองศึกดังขึ้นกองทัพแคว้นหลีบุกมาถึงชายแดนอีกครั้งและครั้งนี้ ฟู่เฉินหวนนำทัพออกรบด้วยตัวเองเฉินชีควบม้าอยู่หน้ากองทัพแคว้นหลีเมื่อเห็นฟู่เฉินหวน เขาก็ยกยิ้มเย็นชา “ในที่สุดเจ้าก็มิเป็นเต่าหัวหดแล้ว! ช่างหาได้ยากนัก!”ฟู่เฉินหวนมองเขาด้วยแววตาเย็นชา “นางอยู่ที่ไหน?”เฉินชีหรี่ตาลง ยกยิ้มมุมปากอย่างผู้มีชัย “ฆ่าตายไปแล้ว”แววตาของฟู่เฉินหวนเต็มไปด้วยจิตสังหาร“เป็นอย่างไร? จะสู้กับข้าจนตายไปข้างหนึ่งหรือไม่?” ดวงตาของเฉินชีลุกโชน อยากจะลงมือเต็มทีแล้วฟู่เฉินหวนชักกระบี่กระโจนเข้าใส่ในชั่วขณะนั้น เซียวชูก็ใจกระตุกวูบเฉินชียกยิ้มอย่างผู้มีชัย รีบชักกระบี่กระโดดขึ้น วันนี้เขาจะฆ่าฟู่เฉินหวนด้วยมือของเขาเอง!กระบี่ยาวในมือของทั้งสองฟาดฟันกันจนเกิดเสียงดังสนั่นจิตสังหารแผ่ซ่านไปทั่วขณะต่อสู้ ฟู่เฉินหวนเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เฉินชี เจ้าคิดว่าใครจะเป็นผู้ชนะ”“ไร้สาระ แน่นอนว่าต้องเป็นข้า! เฉินชีคนนี้มิเคยพ่ายแพ้!” เฉินชีหัวเราะอย่างเย็นชา แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงโอหังฟู่เฉินหวนใช้พลังทั้งหมดต้านทานการโจมตีของเฉินชี พลางกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ต่อหน้ากองทัพ หาก

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1235

    “เฉินชี ข้าจะกลับไปกับเจ้า ถอยทัพเดี๋ยวนี้” ลั่วชิงยวนกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาเฉินชีรีบยกมือขึ้นกองทัพแคว้นหลีหยุดรุกคืบเฉินชียื่นมือไปหานาง “เจ้าจะกลับไปกับข้าจริง ๆ ใช่หรือไม่?”ลั่วชิงยวนมิหันกลับมามอง แต่ยื่นมือออกไปอย่างเด็ดเดี่ยวเฉินชียกยิ้มอย่างผู้มีชัย แววตาเต็มไปด้วยความตื่นเต้นขณะดึงลั่วชิงยวนขึ้นหลังม้าด้วยกัน แล้วควบม้าหันหลังกลับไปอย่างองอาจส่วนกองทัพแคว้นหลีก็ถอยทัพทันทีเซียวชูเห็นดังนั้นก็พึมพำ “แคว้นหลีถอยทัพแล้ว เป็นพระชายาที่หยุดสงครามครั้งนี้...”ฟู่เฉินหวนกำมือแน่น เห็นร่างที่พร่ามัวค่อย ๆ หายไป เขาร้อนใจจนอยากจะลุกขึ้น แต่เลือดกลับไหลทะลักออกมาสุดท้ายทุกอย่างก็มืดลง“ท่านอ๋อง!”......เฉินชีมีความสุขมาก เขาควบม้าอย่างรวดเร็วข้างหูของลั่วชิงยวนมีเพียงเสียงลมและเสียงพูดด้วยความตื่นเต้นของเฉินชี “อาเหลา นี่เป็นครั้งแรกที่เจ้าเต็มใจขี่ม้ากับข้า”ลั่วชิงยวนกล่าวด้วยแววตาเย็นชา “ช้าลงหน่อย ข้าปวดหู”เฉินชีก็ชะลอความเร็วลงลั่วชิงยวนหรี่ตาลงเล็กน้อย ก่อนมาที่นี่ นางกินโอสถจตุรธาตุ ดูเหมือนว่าจะได้ผลกับเฉินชีจริง ๆ“ข้ายังมิอยากกลับแคว้นหลี ข้าต้องร

บทล่าสุด

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1284

    ลั่วชิงยวนตกตะลึง อารมณ์ความรู้สึกของนางดำดิ่งเป็นไปตามที่นางคาดเดาเอาไว้ว่ามิเหลือแม้แต่ศพอย่างนั้นหรือ?“มิพบศพด้วยซ้ำ” อวี๋โหรวกล่าวเสียงขรึมดวงตาของลั่วชิงยวนหม่นลง ดูเหมือนว่าร่างนั้นจะถูกกำจัดไปแล้วจริง ๆ ส่วนจะกำจัดอย่างไรและทิ้งไว้ที่ไหน บางทีอาจมีเพียงฆาตกรเท่านั้นที่รู้“น่าเสียดายจริง ๆ” ลั่วชิงยวนทอดถอนใจด้วยความเสียดายอวี๋โหรวจ้องนางด้วยสายตาจริงจังและพูดอย่างหนักแน่น “มิน่าเสียดายหรอก ข้าเชื่อว่าเจ้าจะกลายเป็นนางคนต่อไป!”ทันใดนั้น สายตาที่จริงจังของอวี๋โหรวก็ทำให้ลั่วชิงยวนรู้สึกเย็นวาบไปถึงสันหลังและยังสงสัยด้วยว่าอวี๋โหรวจะสังเกตเห็นอะไรบางอย่างหรือไม่ทว่าแม้แต่ศิษย์น้องหญิงก็จำนางมิได้ อีกทั้งอวี๋โหรวก็มิได้สนิทสนมกับนาง แล้วจะจำนางได้อย่างไรลั่วชิงยวนยิ้มและกล่าวว่า “ข้าจะถือว่านั่นคือคำปลอบใจก็แล้วกัน”อวี๋โหรวพูดอย่างจริงจัง “ข้ามิได้ปลอบใจเจ้า ข้าพูดจริง”หลังจากนั้น อวี๋โหรวก็ยิ้มอีกครั้งและพูดว่า “ทางข้ายังพอมียาอยู่บ้าง หากเจ้าต้องการอะไรก็บอกข้าได้เลย”ลั่วชิงยวนมิค่อยเข้าใจว่า เหตุใดอวี๋โหรวถึงทำดีกับนางนางมิค่อยรู้จักอวี๋โหรวมากนัก ในภาพจ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1283

    หรือเป็นเพราะเขาเชื่อมั่นในพลังความแข็งแกร่งของลั่วชิงยวน?แต่เมื่อมาครุ่นคิดดูตอนนี้ สตรีที่สามารถทำให้เซินฉีหลงใหลได้ถึงเพียงนี้คงไม่มีทางที่จะเป็นขยะไร้ค่าแม้จะมิได้แข็งแกร่งกว่าเฉินชี แต่ก็เป็นคนที่สามารถต่อกรกับเขาได้อย่างสูสีเพราะเช่นนี้เขาจึงมิแลเกาเหมียวเหมี่ยวเลยด้วยซ้ำ……เมื่อกลับมาถึงห้องลั่วชิงยวนก็นั่งลงพักผ่อนเฉินชีเดินตามเข้ามาและนั่งลงข้าง ๆ นาง พร้อมกับรินชาสองจอก“สมแล้วที่เป็นอาเหลา มีเพียงเจ้าเท่านั้นที่กล้าทำให้เกาเหมียวเหมี่ยวตกอยู่ในสภาพเช่นนั้น! ข้าชอบ!” มีแสงประกายเจิดจ้าส่องสว่างในดวงตาของเฉินชีสายตาของเขาดูเหมือนอยากจะกลืนกินลั่วชิงยวนเข้าไปทั้งตัวลั่วชิงยวนพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เกาเหมียวเหมี่ยวได้รับบาดเจ็บสาหัส ฝ่าบาทกับฮองเฮาคงมิยอมปล่อยข้าไปแน่ คงต้องให้เจ้าช่วยออกหน้าให้แล้ว”เฉินชียิ้มมุมปาก “วางใจได้ มีข้าอยู่ทั้งคน”ลั่วชิงยวนที่ยังกังวลอยู่เล็กน้อยกำชับด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “เฉินชี ครั้งนี้เจ้าจะยืนนิ่งดูดายอีกมิได้แล้ว เพราะหากข้าตาย แผนทั้งหมดของเจ้าก็จะสูญเปล่า”“ใต้หล้านี้ไม่มีลั่วเหลาคนที่สองหรอกนะ”เฉินชีพยักหน้าอย่างจริงจ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1282

    เลือดสด ๆ ยังคงไหลมิหยุด ไหลนองไปตามร่องลึกของลวดลายวงเวทบนพื้นดินคาดมิถึงว่ามันจะค่อย ๆ ทำให้อักษรเวทของวงเวทส่องแสงขึ้นจากนั้นหมอกสีเขียวจาง ๆ ก็กระจายฟุ้งอยู่รอบตัวลั่วชิงยวนสิ่งเหล่านั้นล้วนเป็นไอโอสถทั้งสิ้นหอรักษ์ดาราแห่งนี้ยังเป็นสถานที่ที่สามารถกลั่นไอโอสถจากเลือดได้ และไอโอสถเหล่านี้ก็สามารถรักษาร่างกายที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสได้ลั่วชิงยวนหลับตาและสูดลมหายใจด้วยความเพลิดเพลิน ทำให้ร่างกายที่ปวดร้าวของนางดูเหมือนจะผ่อนคลายลงนี่อาจจะเป็นความหมายของการมีอยู่ของแท่นประลองหอรักษ์ดาราแต่ไอโอสถนี้ก็จางลงอย่างรวดเร็วลั่วชิงยวนปล่อยเกาเหมียวเหมี่ยว นางยืนขึ้นพร้อมกับยืดเส้นยืดสาย และเดินลงจากแท่นประลองคนอื่นที่อยู่รอบ ๆ ต่างมองมาที่นางด้วยสายตาที่หวาดกลัวมากขึ้น และพวกเขาก็มิกล้าพูดจาดูถูกเหยียดหยามนางเหมือนก่อนหน้านี้อีกต่อไปแล้วลั่วชิงยวนกวาดตามองอย่างเรียบเฉย จากนั้นก็มองไปที่เฉินชีด้วยสายตาลึกซึ้งแล้วเดินจากไปเกาเหมียวเหมี่ยวที่ได้รับบาดเจ็บถูกปลดแส้ออกอย่างรวดเร็วและถูกช่วยลงจากแท่นประลอง นางกัดฟันแน่นพลางจ้องตามหลังลั่วชิงยวนที่กำลังเดินออกไปครู่ต่อมา นางก็เห

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1281

    “โอ้สวรรค์ ข้าคงมิได้ตาลายใช่หรือไม่?”“นางไปเอาความกล้ามาจากที่ใดกัน!”ทุกคนในเมืองหลวงต่างรู้ดีว่าเกาเหมียวเหมี่ยวคือใครนางมิเพียงมีสถานะองค์หญิงที่สูงส่งเท่านั้น แต่ยังมีโอกาสที่จะได้สืบราชบัลลังก์ในภายภาคหน้าอีกด้วยเนื่องจากองค์ชายใหญ่มีความสามารถปานกลาง จึงมิเป็นที่โปรดปรานขององค์จักรพรรดิและฮองเฮา ทว่าองค์หญิงผู้นี้กลับแข็งแกร่งและไร้ความปรานี จึงได้รับความโปรดปรานจากพวกเขาไม่มีใครในเมืองหลวงกล้าขัดใจนางเว้นเสียแต่ เฉินชีเพราะนางชอบเขาทว่าแม้จะเป็นเฉินชี แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าคนอื่นเขาก็ให้เกียรตินางมากลั่วชิงยวนผู้นี้กล้ามากถึงขั้นเหยียบย่ำองค์หญิงต่อหน้าธารกำนัลมากมายเช่นนี้!เกาเหมียวเหมี่ยวพยายามดิ้นพร้อมกับก่นด่าไปด้วย “ลั่วชิงยวน ปล่อยข้าเดี๋ยวนี้! หากเจ้ามิปล่อยข้า ข้าจะทำให้เจ้าตายจนหาที่ฝังมิได้เลยคอยดู!”“ท่านนี่พูดมากนัก เงียบเสีย!”ลั่วชิงยวนมองนางด้วยสายตาเย็นชา พลางคว้าแส้แล้วดึงมันอย่างแรงทันใดนั้นแส้ที่คอของเกาเหมียวเหมี่ยวก็รัดแน่นขึ้นบังคับให้เกาเหมียวเหมี่ยวต้องเชิดหน้าขึ้นสูงแต่ยังคงถูกแส้รั้งไว้จนหน้าแดงนางหายใจมิออกจนเส้นเลือดแตกและตา

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1280

    ลั่วชิงยวนถูกแส้ฟาดจนกระอักเลือด ทำให้อาภรณ์ชุดขาวของนางมีรอยเปื้อนสีแดงมีรอยแส้ที่น่าสะเทือนใจพาดอยู่บนหลังของนางเป็นเส้น ๆทุกคนที่อยู่รอบนอกต่างรู้สึกหวาดกลัวมีคนที่อดมิได้ที่จะกระซิบขึ้นว่า “มิยุติธรรมเลย คนหนึ่งมีอาวุธ แต่อีกคนไม่มี นี่มันจงใจแกล้งกันชัด ๆ มิใช่หรือ”“ชู่! พระนางเป็นองค์หญิง ถึงพระนางจะจงใจฆ่าลั่วชิงยวน แล้วใครจะพูดอะไรได้ ระวังไว้เถิด หากนางจับได้ เจ้าได้เดือดร้อนแน่”ทุกทิศมีแต่ความเงียบงันไม่มีใครกล้าพูดอะไรใครใช้ให้เกาเหมียวเหมี่ยวเป็นองค์หญิงเล่า?นางคือองค์หญิงที่ได้รับความโปรดปรานมาตั้งแต่ยังเล็กนางกลายเป็นคนเย่อหยิ่งบ้าอำนาจ และวิธีการของนางเลวทรามมิน้อยไปกว่าเฉินชีเลยทุกคนในที่นี้ล้วนไม่มีใครกล้าขัดทว่ามีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่สามารถช่วยลั่วชิงยวนได้ แต่คนผู้นั้นกลับนั่งนิ่งอยู่บนเก้าอี้ พลางมองลั่วชิงยวนที่ถูกฟาดบนพื้นจนร่างกายเต็มไปด้วยเลือดมีแสงประกายเจิดจ้าอยู่ในดวงตาของเขาและเจือไปด้วยความยินดีปรีดาลั่วชิงยวนกลิ้งไปบนพื้นและทันใดนั้นก็กระอักเลือดออกมาเต็มปากนางเงยหน้าขึ้นมาและเห็นสายตาที่แสดงถึงความตื่นเต้นดีใจของเฉินชี เขาม

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1279

    “สตรีนางนี้ตอบสนองได้รวดเร็วยิ่งนัก”“การตอบสนองเร็วเป็นเรื่องหนึ่ง แต่การเอาชนะคู่ต่อสู้ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง”“พลังความสามารถของจั๋วฉ่างตงนั้นสูงมาก แม้แต่บรรดาคนที่อยู่ที่นี่ก็ยังมีเพียงมิกี่คนเท่านั้นที่สามารถเอาชนะนางได้”ผลลัพธ์ของการประลองครั้งนี้ ไม่มีอะไรให้ต้องลุ้นแล้วทว่าขณะที่ทุกคนกำลังพูดคุยกัน ทันใดนั้นจั๋วฉ่างตงก็ล้มลงอย่างแรงเมื่อทุกคนจ้องมองไปและแน่ใจว่าคนที่ลอยตกลงมาคือจั๋วฉ่างตง พวกเขาก็พากันตกตะลึงงัน“ข้าเห็นมิชัดเลย จั๋วฉ่างตงกระเด็นออกไปได้อย่างไรกัน?”ทุกคนต่างสงสัยจั๋วฉ่างตงกระอักเลือดและเงยหน้ามองคนผู้นั้นด้วยความตกตะลึง ดวงตาของนางเยือกเย็นจนน่าหวาดกลัวเป็นไปได้อย่างไรกันนางเป็นขยะไร้ค่ามิใช่รึคราวก่อนที่ส่งคนไปทดสอบ ก็เห็นอยู่ชัด ๆ ว่าไม่มีพลังที่จะรับมือได้เลย เป็นไปมิได้ที่จู่ ๆ นางจะเปลี่ยนมาร้ายกาจถึงเพียงนี้!จั๋วฉ่างตงมิยอมรับ นางดีดตัวขึ้นและพุ่งไปหาลั่วชิงยวนอีกครั้งดวงตาของลั่วชิงยวนเปลี่ยนเป็นเย็นชา ร่างกายของนางเคลื่อนไหวรวดเร็วจนกลายเป็นภาพลวงตา พลางปล่อยหมัดออกมาซ้ำแล้วซ้ำเล่าลั่วชิงยวนต่อยจั๋วฉ่างตงอย่างรุนแรงจนกระเด็น จากน

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1278

    “ได้ยินมาว่านางจะประลองกับจั๋วฉ่างตงที่หอรักษ์ดาราในวันพรุ่ง”แม้หลายปีมานี้จั๋วฉ่างตงจะมิได้ดำรงตำแหน่งขุนนางใด ๆ แต่กำลังความสามารถของนางก็ถือว่าโดดเด่นที่สุดในบรรดาคนรุ่นเดียวกันอย่างแน่นอน“แล้วเจ้ามิช่วยนางเล่า? เหตุใดจึงปล่อยให้นางขโมยโอสถทะลวงปราณไป?”ขณะนี้ เฉินชีที่อยู่ในห้องเดินออกมาอย่างช้า ๆ พร้อมมองไปยังทิศทางที่ลั่วชิงยวนหนีไปด้วยดวงตาที่เป็นประกายริมฝีปากของเขาเผยรอยยิ้มชั่วร้ายออกมา“ข้าชอบที่เห็นนางอยู่ในสภาพบาดเจ็บเลือดตกยางออก”“ยิ่งนางจนมุมข้าก็ยิ่งปรีดา”เฒ่าโอสถขมวดคิ้วและส่ายหัวด้วยอารมณ์ซับซ้อน “สตรีบ้านไหนได้เจอเจ้า ถือว่าโชคร้ายที่สุดจริง ๆ”……หลังจากกลับมาถึงห้องอย่างปลอดภัยแล้ว ลั่วชิงยวนก็รีบเปลี่ยนอาภรณ์และนั่งขัดสมาธิบนตั่งนุ่มข้างหน้าต่างนางหยิบโอสถทะลวงปราณ และนำเข็มทิศอาณัติแห่งสวรรค์ออกมาทำการบำเพ็ญตนแค่คืนเดียวก็เพียงพอที่จะนำเอาประสิทธิภาพสูงสุดของโอสถทะลวงปราณออกมาได้แม้จะมิสามารถฟื้นฟูพลังยุทธได้อย่างสมบูรณ์ แต่ก็สามารถฟื้นคืนมาได้อย่างน้อยเจ็ดถึงแปดในสิบส่วนเพียงแค่จัดการกับจั๋วฉ่างตงได้ก็พอแล้ว……วันต่อมาเวลารุ่งสางบริเวณร

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1277

    เกาเหมียวเหมี่ยวกำหมัดแน่น รู้สึกโมโหมากจนแทบจะปรี๊ดแตกออกมาความรู้สึกอับอายถาโถมเข้ามาหานางเหมือนกับคลื่นยักษ์“เฉินชี คอยดูเถอะ!” เกาเหมียวเหมี่ยวจ้องมองเขาด้วยความโกรธเกรี้ยวนางสวมอาภรณ์แล้วหนีไปทันที……คืนก่อนวันประลองที่หอรักษ์ดาราทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ในความเงียบสงบหลังจากลั่วชิงยวนพักผ่อนได้หนึ่งวัน นางก็เปลี่ยนอาภรณ์เป็นชุดท่องราตรีนางแอบเปิดประตูห้องแล้วอาศัยจังหวะที่บริเวณรอบ ๆ ไม่มีคน มุ่งหน้าไปยังหอปรุงโอสถทั้งยังปล่อยเตี่ยฉุยออกมาเพื่อช่วยนางดูคนที่ผ่านไปมาให้อีกแรงหอปรุงโอสถเป็นสถานที่สำคัญของสำนักนักบวช บุคคลทั่วไปมิได้รับอนุญาตให้เข้าไปตามใจชอบ หากนางถูกจับได้ จะต้องตายสถานเดียวทว่าหากมิขโมยโอสถ วันพรุ่งก็ต้องตายในการประลองที่หอรักษ์ดาราอยู่ดีดังนั้นนางจึงทำได้เพียงยอมเสี่ยงดูสักครั้งลั่วชิงยวนอาศัยความที่คุ้นเคยกับสถานที่แห่งนี้ได้อย่างรวดเร็ว ทำการหลบเลี่ยงจุดที่อาจจะมีคนและมาถึงด้านนอกของหอปรุงโอสถขณะนี้ หอปรุงโอสถเงียบสงบและไม่มีใครเฝ้ายามลั่วชิงยวนเดินเข้ามาในลานจนถึงประตูที่ลงกลอนเอาไว้นางดึงปิ่นปักผมออกมาปลดกลอนประตูอย่างชำนาญจากนั้นก

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1276

    “ใครให้เจ้าใช้กลิ่นกล้วยไม้? คิดว่าตัวเองคู่ควรกับมันรึ?”แววตาอันชั่วร้ายและกลิ่นอายสังหารทั่วร่างที่แผ่ออกมาทำให้หลานจีหวาดกลัวจนต้องดิ้นรนอย่างสุดชีวิต“ท่าน… ท่านแม่ทัพ ท่านเป็นให้ข้าใช้มันเองนะเจ้าคะ”ดวงตาของเฉินชีเปลี่ยนเป็นเยือกเย็น เขาโยนหลานจีออกจากห้องอย่างโหดร้าย“นับตั้งแต่วันนี้ห้ามใช้น้ำหอมกลิ่นกล้วยไม้อีก ไสหัวไป!”หลานจีล้มออกมานอกห้องอย่างแรงจนกลิ้งตกขั้นบันไดและกระอักเลือดออกมา ทำให้ตกอยู่ในสภาพที่ดูมิได้อย่างยิ่งนางเงยหน้าขึ้นด้วยความมิอยากเชื่อ มิเข้าใจว่าเหตุใดอารมณ์ของท่านแม่ทัพถึงเปลี่ยนไปอย่างกะทันหันเมื่อก่อนเขาชอบดูนางร่ายรำเป็นที่สุด และชอบกลิ่นหอมของกล้วยไม้บนตัวของนางด้วยเช่นกันเหตุใดจู่ ๆ ถึง…หลานจีพยายามลุกขึ้นจากพื้นพลางมองไปที่เฉินชีที่ยังคงดื่มอยู่ในห้อง “ท่านแม่ทัพมีเรื่องอันใดมิสบายใจใช่หรือไม่เจ้าคะ หลานจียินดีช่วยแบ่งเบาความกังวลให้ท่านแม่ทัพเจ้าค่ะ!”ทันใดนั้นก็มีบุคคลหนึ่งก้าวออกมาจากด้านหลัง ร่างนั้นเดินผ่านหน้านาง และได้ตบนางอย่างแรงทำให้หลานจีล้มลงกับพื้นอีกครั้ง“ไล่ให้เจ้าไสหัวไปแต่กลับมิทำ จะรอข้ามาถลกหนังรึไร?” ดวงตาของเก

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status