แชร์

บทที่ 1130

ผู้เขียน: หว่านชิงอิ๋น
ทุกคนต่างหน้าซีด

“ท่านพ่อ ท่านบาดเจ็บสาหัส อย่าเพิ่งร้อนใจ ค่อย ๆ พูดเถิดเจ้าค่ะ” ซ่งเชียนฉู่ร้อนใจ

พ่อของซ่งเชียนฉู่พยายามพยุงตัวนั่ง แล้วจับมือซ่งเชียนฉู่ “เชียนฉู่ เจ้ามิน่ากลับมาเลย”

“พวกเจ้ารีบไปเถิด หากมิไปตอนนี้จะมิทันแล้ว!”

ซ่งอวี่ร้อนรน และผลักซ่งเชียนฉู่ “ไปเถิด มิต้องสนใจพ่อ รีบลงเขาไป ออกไปจากซีหลิงเสีย!”

“ท่านพ่อ ข้าจะทิ้งท่านไปได้อย่างไร หากจะลงเขาก็ต้องลงไปด้วยกัน!”

เฉินเซี่ยวหานเข้ามาแบกซ่งอวี่ขึ้นหลัง “ขอรับท่านลุง พวกเราจะทิ้งท่านได้อย่างไร จะไปก็ต้องไปด้วยกัน”

ลั่วชิงยวนเห็นซ่งอวี่ร้อนรนเช่นนั้น ก็เดาว่าเขาน่าจะรู้อะไรบางอย่าง

แต่ไม่มีเวลาถาม พวกเขาจึงตัดสินใจลงเขาก่อน

เพราะท่าทางของซ่งอวี่แสดงว่าบนเขามีอันตราย

ทุกคนระแวดระวัง เดินกลับทางเดิมแล้วลงเขาไป

ภูเขาลูกนี้สูงชัน ทางขึ้นลงมีเพียงทางเดียว

กลางคืนน้ำค้างลงหนัก การเดินทางจึงล่าช้าเพราะต้องระวังลื่นตกจากบันไดหิน

แต่เมื่อเดินมาถึงกลางเขาก็มีเหยี่ยวตัวหนึ่งบินโฉบลงมา ทำให้ทุกคนตกใจ

“อาเสิน...”

แล้วก็มีเสียงฝีเท้าดังมาจากข้างล่าง

ทุกคนหยุดเดิน

มินานก็เห็นหล่างมู่วิ่งขึ้นมาอย่างเหนื่อยหอบ

“พี่หญิง ท
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1131

    ซ่งอวี่ก็ตกใจ“ว่ากระไรนะ?”“หากเป็นเช่นนั้นก็ต้องหยุดพวกมัน!”กล่าวจบ ซ่งอวี่ก็พูดว่า “สมุนไพรในสำนักมิได้ถูกเผาหมด! ยังมีเก็บไว้ในห้องใต้ดินอีกมากหลาย อยู่ติดกับห้องเก็บน้ำแข็ง ไฟไหม้เข้าไปมิถึง”“เชียนฉู่ เจ้ารู้วิธีเปิดกุญแจ”“เมื่อปลอดภัยแล้วให้นำสมุนไพรทั้งหมดออกไปช่วยเหลือผู้คน อย่าให้ตกอยู่ในมือโจร!”ซ่งเชียนฉู่พยักหน้า “เจ้าค่ะ”ทันใดนั้นอาเสินก็บินมาบนฟ้า แล้วส่งเสียงร้องเตือนลั่วชิงยวนหน้าซีด “พวกมันกำลังมาแล้ว”หล่างมู่รีบวิ่งกลับมา “พี่สาว พวกมันใกล้มาถึงแล้ว พวกเราอ้อมไปหลบหลังสำนักก่อนเถิด”“บางทีพวกมันค้นหามิพบก็อาจจะถอนกำลัง”ทุกคนจึงออกเดินทางอีกครั้ง อ้อมไปหลบหลังสำนักหลบกลุ่มโจรที่กำลังขึ้นเขาซ่อนตัวในป่าทึบหลังสำนัก มองเห็นไฟในสำนักยังมิมอดดับลั่วชิงยวนครุ่นคิดสักพักก็มองหาพื้นที่ราบเรียบ จากนั้นหยิบกระดาษยันต์ออกมาหลายแผ่น ก่อนกรีดฝ่ามือวาดยันต์ด้วยเลือด“พี่หญิง ท่านทำอะไร?”ลั่วชิงยวนวาดยันต์ไปพลางตอบ “วงเวทสะกดวิญญาณ”“หากพวกมันค้นมาถึงที่นี่ก่อนฟ้าสางจะได้หลอกล่อพวกมันได้”วาดเสร็จ นางก็แบ่งให้หล่างมู่ “เจ้าไปทางนั้น แปะไว้บนต้นไม้”“ขอร

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1132

    “หล่างมู่ เซียวชู!” ลั่วชิงยวนร้องเรียกพลางชักกระบี่ แล้วหยุดฝีเท้าหันหลังกลับหล่างมู่กับเซียวชูก็หยุดเช่นกัน รีบเข้าต่อสู้ขัดขวางศัตรูที่ไล่ตามมา“ชิงยวน!” ซ่งเชียนฉู่ร้องด้วยความเป็นห่วง“พวกเจ้าไปก่อน พวกเราจะตามไป!” ลั่วชิงยวนตะโกนเร่งซ่งเชียนฉู่กับเฉินเซี่ยวหานรีบหนีไปอย่างรวดเร็วยิ่งลั่วชิงยวนต่อสู้กับศัตรูเหล่านี้ก็ยิ่งมั่นใจว่าพวกเขาคือคนแคว้นหลีมิใช่โจรธรรมดามิน่าแปลกใจที่ใช้เพลิงประกายแก้วเผาสำนักหุบเขาซีหลิงจี้เยวี่ยหลังจากต่อสู้กันอย่างดุเดือดก็สังหารศัตรูไปได้ส่วนหนึ่งมีคนกลุ่มใหญ่ปรากฏตัวขึ้น นำโดยชายผู้ถือกระบี่พิชิตมารเดินเข้ามาอย่างดุดันดวงตาคมกริบของเขาจ้องมองลั่วชิงยวนหล่างมู่จะเข้าไปสู้ แต่ลั่วชิงยวนรีบดึงไว้ “ไป!”“อย่ามัวสู้ติดพัน”ถ่วงเวลาให้ซ่งเชียนฉู่ได้มากที่สุดก็พอทั้งสามคนรีบวิ่งหนีชายผู้ถือกระบี่พิชิตมารเร่งฝีเท้า แล้วกระโจนเข้ามา คมกระบี่พุ่งเข้าใส่ลั่วชิงยวนลั่วชิงยวนรู้ตัว รีบหันไปรับมือทันทีทันใดนั้นก็มีเงาดำพุ่งลงมาจากฟ้า แล้วใช้กรงเล็บแหลมคมตะปบชายผู้นั้นอย่างแรง เขายกมือขึ้นป้องหน้าลั่วชิงยวนชะงักอาศัยจังหวะที่อาเส

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1133

    ซ่งอวี่ที่นั่งพักอยู่ด้านข้างกล่าวว่า “เมื่อรอดพ้นภัยครั้งนี้ พวกเจ้าก็นำเครื่องยาสมุนไพรออกไปช่วยเหลือผู้คนได้”เฉินเซี่ยวหานพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “พวกมันรู้แล้วว่าเราอยู่บนเขา คงจะพยายามตามฆ่าเราให้ได้แน่นอน หากจับเรามิได้ คงมิยอมจากไปง่าย ๆ ““ที่นี่จะซ่อนได้นานสักเท่าใด”คงซ่อนได้มินานจริง ๆลั่วชิงยวนถาม “หล่างมู่ ก่อนเจ้าจะขึ้นมา ซีหลิงเป็นอย่างไรบ้าง? มีโจรกลุ่มอื่นอีกหรือไม่?”หล่างมู่พยักหน้า “มีขอรับ”“มีมิน้อยเลย พวกมันก่อกวนหมู่บ้าน ทำให้ชาวบ้านต้องหลบหนี และปล้นชิงอาหาร”“แต่พี่หญิงวางกำลังไว้แล้ว น่าจะป้องกันได้”ลั่วชิงยวนมิแปลกใจ นางพูดด้วยน้ำเสียงจริงใจ “พวกนั้นมิใช่โจรธรรมดา แต่เป็นคนแคว้นหลีปลอมตัวมา”“สาเหตุที่ก่อกวนชาวบ้านคงเพื่อแพร่เชื้อโรคระบาด”“ยากที่จะรับมือ”“ทหารม้าสามพันนายที่เรานำมากระจายกำลังกันป้องกัน ต้องดูแลความปลอดภัยของชาวบ้าน ถอนกำลังมิได้”“มิเพียงแต่ถอนกำลังมิได้เท่านั้น แต่เรายังต้องส่งยาไปให้พวกเขาด้วย!”“มิเช่นนั้นหากโรคระบาดลุกลาม ต่อให้มีทหารหมื่นนายก็ควบคุมมิได้”ซ่งอวี่ได้ฟังดังนั้นก็กังวล “เครื่องยาสมุนไพรที่นี่ จะนำออกไปท

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1134

    ลั่วชิงยวนฉวยแขนหล่างมู่ไว้พลางดึงให้ถอยหลังกลับเปลี่ยนทิศทางหนีเอาชีวิตรอด แม้ร่างจะพุ่งผ่านไปเพียงชั่วพริบตา แต่ก็มิอาจรอดพ้นสายตาของชายผู้ตามล่าดวงตาคมดุจเหยี่ยวของเขาฉายแววเยือกเย็นราวกับสัตว์ป่าที่ได้กลิ่นเลือด เขาชักกระบี่พิชิตมารขึ้น กระโจนตามติดไปอย่างมิลดละลั่วชิงยวนดึงหล่างมู่วิ่งหนี แสงไฟจากเพลิงไหม้ที่ลุกโชนในสำนักใหญ่ส่องสว่างให้เห็นเงาของทั้งสองอย่างชัดเจนเมื่อรู้สึกว่าคนข้างหลังไล่ตามมาติด ๆ ลั่วชิงยวนจึงดึงหล่างมู่เปลี่ยนทิศทางวิ่งเข้าไปในความมืดมิด“พี่หญิง ท่านหนีไปก่อนเถิดขอรับ ข้าจะขัดขวางเขาไว้เอง!”หล่างมู่เอ่ยพลางจะส่งถุงยาให้นาง แล้วหันไปเผชิญหน้ากับชายผู้ตามหลังแต่ลั่วชิงยวนกลับจับแขนหล่างมู่ไว้แน่น “มิได้! เจ้ามิใช่คู่ต่อสู้ของเขา!”“มิได้ลองดูจะรู้ได้อย่างไรขอรับ!” หล่างมู่ปรารถนาจะปกป้องลั่วชิงยวน และคอยคุ้มกันให้นางหนีไปก่อนแต่ลั่วชิงยวนมิยินยอม“เจ้ามิเชื่อฟังคำของพี่หญิงหรือ?”หล่างมู่จึงเงียบไปลั่วชิงยวนหยิบเข็มทิศขึ้นมา แล้วกรีดฝ่ามือเพื่อใช้เลือดเป็นเครื่องบูชาอัญเชิญวิญญาณมาต่อสู้แต่ภูตผีปีศาจบนภูเขาลูกนี้มีน้อยจึงมิค่อยทรงพลังนัก

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1135

    ทั้งสองแวะเก็บผลไม้ระหว่างทาง เผื่อมีโอกาสจะนำไปให้พวกซ่งเชียนฉู่ด้วยมินานอาเสินก็กลับมาลั่วชิงยวนมอบห่อสมุนไพรชุดที่สองให้ทั้งสองคนรีบเปลี่ยนที่ซ่อนอีกครั้งคนพวกนั้นมิลงจากเขา ยังคงค้นหาไปทั่วบางครั้งลั่วชิงยวนกับหล่างมู่ก็เผชิญหน้ากับศัตรู แต่พวกเขาก็สามารถจัดการได้อย่างเงียบเชียบ แล้วหนีไปจากนั้นก็ยังวนเวียนอยู่บนเขาค่อย ๆ ส่งห่อสมุนไพรออกไปจนหมดในป่าแห่งหนึ่ง เฉินชีเดินมามองศพที่นอนอยู่บนพื้นด้วยสายตาเย็นชา“นายท่าน พวกมันหนีไปอีกแล้ว ทั้งสองคนมีฝีมือ จะเพิ่มกำลังคนหรือไม่ขอรับ?”เฉินชีหรี่ตาครุ่นคิด ดวงตาเป็นประกาย มุมปากพลันแสยะยิ้ม “สตรีผู้นี้ช่างน่าสนใจ”“เรียกคนทั้งหมดมา”“ข้าต้องการตัวนาง!”ผู้ใต้บังคับบัญชาตกใจ “ทั้งหมดเลยหรือขอรับ? แต่พวกเขายังมีภารกิจอื่น”เฉินชีกล่าวเสียงเย็น “เหยี่ยวตัวนั้นบินลงเขาหลายครั้ง คาบอะไรบางอย่างไปด้วย น่าจะเป็นห่อยา”“เจ้าจิ้งจอกเฒ่าซ่งอวี่ยังมีสมุนไพรอยู่ ตอนนี้จะขัดขวางก็มิทันแล้ว ภารกิจของพวกมันต้องล้มเหลว”“ยิ่งกว่านั้น ข้าสนใจนางมากกว่าชีวิตพวกต่ำต้อยเหล่านั้น”ดวงตาของเฉินชีเป็นประกาย “ส่วนคนที่เหลือต้องซ่อนอยู่ใ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1136

    เหล่าศัตรูจำนวนมากบุกเข้าล้อมพวกเขาอย่างรวดเร็วซ่งอวี่กล่าวด้วยสีหน้าเคร่งเครียด “วางข้าลงเถิด หากพาข้าไปด้วย พวกเจ้าจะหนีมิพ้น”“ท่านพ่อ ข้าจะมิทิ้งท่านไปไหนทั้งนั้น” ซ่งเชียนฉู่กล่าวอย่างแน่วแน่ทุกคนเตรียมพร้อมจะต่อสู้จากนั้นศึกอันดุเดือดก็ปะทุขึ้นครั้งนี้รุนแรงยิ่งนักคมกระบี่และคมดาบปะทะกัน จิตสังหารลุ่งพล่านรุนแรงในการต่อสู้ ฝ่ายที่มีคนน้อยกว่าต่างเหนื่อยล้า ลั่วชิงยวนจำต้องใช้กลวิธีพิเศษ นางรู้สึกได้ว่าสายตาของเฉินชีจ้องมองนางอยู่ตลอดเวลา นับตั้งแต่ที่ทำลายวงเวทสะกดวิญญาณ เฉินชีคงจับตามองนางมาแล้วแต่ลั่วชิงยวนไม่มีทางเลือกอื่น ในสถานการณ์คับขันเช่นนี้ การเอาชีวิตรอดสำคัญที่สุด!นางกรีดฝ่ามือตัวเอง แล้วใช้เลือดเป็นเครื่องบูชาอัญเชิญวิญญาณมาต่อสู้นางเรียกวิญญาณของผู้คนในสำนักใหญ่ทั้งหมดออกมาครั้งนี้เป็นพลังอันยิ่งใหญ่ ลมพายุปั่นป่วน ทำให้เฉินชีเปลี่ยนสีหน้าเขามองขึ้นไปบนท้องฟ้า ดวงตาของเขามิได้แสดงความหวาดกลัว แต่กลับมีเปลวไฟแห่งความกระหายที่ยิ่งทวีความรุนแรงขึ้น“น่าสนใจ”วิญญาณมากมายส่งเสียงร้องครวญครางโหยหวนอย่างน่าสยดสยอง เสียงนั้นดุร้ายอย่างยิ่งพลั

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1137

    ทุกคนวิ่งหนีในความมืดเมื่อวิ่งออกจากป่ามาถึงหน้าผา ลมหนาวก็พัดกระหน่ำ ทำให้ต้องฝีเท้าชะงัก“อยู่ข้างล่างนี้”ซ่งเชียนฉู่ประคองลุงซ่งลงพื้นทุกคนมาถึงริมหน้าผาแล้วมองลงไป มันมืดสนิท มองมิเห็นว่าข้างล่างลึกเท่าใด รู้แต่ว่าหากตกลงไป ร่างคงแหลกละเอียดแน่“มีเถาวัลย์อยู่ด้านข้าง พวกเจ้ารีบลงไปเถิด” ซ่งอวี่เร่ง“ท่านลุงซ่ง ข้าจะแบกท่านลงไป” เฉินเซี่ยวหานแก้เข็มขัดเตรียมจะมัดตัวเองกับซ่งอวี่แต่ซ่งอวี่ยกมือห้าม “ข้าจะอยู่ที่นี่ พวกมันจะตามมา ข้าจะกระโดดลงไปต่อหน้าพวกมัน พวกมันจะได้มิตามลงมา”“ข้างล่างนี้แม้จะเป็นสุสานของตระกูลซ่ง แต่ไม่มีทางลงเขา หากพวกมันตามมาก็จะหนีไปไหนมิได้”ซ่งเชียนฉู่ได้ฟังดังนั้นก็ร้อนใจ “ท่านพ่อ! หากท่านจะอยู่ที่นี่ ข้าก็จะอยู่ด้วย!”นางจะทิ้งบิดาไปได้อย่างไร เขาคือญาติเพียงคนเดียวของนางซ่งอวี่ยังจะพูดต่อลั่วชิงยวนยืนริมหน้าผาแล้วใช้คันฉ่องสุริยันจันทราส่องดู จึงเห็นแสงวาววับแวบอยู่ข้างล่างมิเหมือนทางตัน“ไม่มีเวลาแล้ว ลงไปก่อนเถิด” นางรีบเร่งเฉินเซี่ยวหานมิรอช้า แบกซ่งอวี่ขึ้นแล้วใช้เถาวัลย์มัดตัว โรยตัวลงไปตามหน้าผาลั่วชิงยวนกับคนอื่น ๆ ก็รีบตา

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1138

    คนอื่น ๆ ก็เห็นแล้วเช่นกันไม่มีเวลาแล้ว ทุกคนรีบวิ่งไปยังอีกฝั่ง สะพานจึงสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงโชคดีที่สะพานแข็งแรง ไม่มีใครตกลงไปข้างล่างแต่เฉินชีกับพรรคพวกข้างหลังก็ลงมาถึงพื้นแล้วลั่วชิงยวนหันไปมอง แล้วเห็นเฉินชีวิ่งมาโดยมิพาคนตามมาด้วยนางชะงัก รู้สึกสังหรณ์ใจมิดีแล้วก็เห็นเฉินชีถือกระบี่พิชิตมารเดินไปที่ริมสะพาน เขาแสยะยิ้มอย่างชั่วร้ายแล้วใช้กระบี่ฟันโซ่เส้นหนึ่งแคร้ง!โซ่ขาดสะบั้น ร่วงลงไปในหุบเหวสะพานสั่นคลอนอย่างรุนแรงโชคดีที่ยังมีโซ่อีกเส้นยึดไว้ทุกคนบนสะพานต่างตื่นตระหนกเฉินชียกกระบี่พิชิตมารขึ้นเตรียมจะตัดโซ่อีกเส้นหากโซ่ขาดอีกเส้นสะพานจะพลิกคว่ำและทุกคนจะตกลงไปซ่งอวี่ร้องตะโกน “หยุดนะ! เจ้าต้องการสมุนไพร ข้าจะยกให้ทั้งหมด! ปล่อยพวกเขาไป!”เขาจะมิยอมให้ลูกสาวและคนอื่น ๆ ต้องมาตายที่นี่!เฉินชีหัวเราะเย็นชา “มาถึงขั้นนี้แล้ว เจ้าคิดว่าข้ายังสนใจสมุนไพรพวกนั้นอีกรึ?”กล่าวจบ เขาก็ยกกระบี่พิชิตมารฟันไปที่โซ่อีกเส้นหากโซ่เส้นนี้ขาดพวกเขาจะตกหน้าผาตายหมดอย่างมิต้องสงสัย!ทุกคนใจหายวาบลั่วชิงยวนมิสนใจอะไร ร้องตะโกน “เฉินชี!”ทันทีที่คำนี้หลุ

บทล่าสุด

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1227

    นางสะบัดมือ ผงยาพุ่งเข้าใส่ใบหน้าของฉู่จิ้งฉู่จิ้งมึนหัวทันที“เป็นเจ้านี่เอง!” ฉู่จิ้งโยนคนที่อยู่ในอ้อมแขนออกไปลั่วฉิงตีลังกาลงพื้นอย่างมั่นคง แล้วมองฉู่จิ้งด้วยสายตาเย็นชา “ที่แท้ก็ต้องปลอมตัวเป็นเด็กคนนี้จริง ๆ ถึงจะหลอกเจ้าได้สินะ”“ตอนนั้นเฉินเซี่ยวหานมีโอกาสใช้ซ่งเชียนฉู่มาข่มขู่เจ้า แต่เขากลับมิทำ ทำให้แผนของข้าล้มเหลวครั้งแล้วครั้งเล่า ช่างโง่เขลาสิ้นดี!”“วันนี้ข้าจะควักดีงูของเจ้าด้วยตัวเอง!”“จัดการเจ้าแล้วข้าค่อยไปจัดการลั่วชิงยวน!”เมื่อได้ยินดังนั้น สีหน้าของฉู่จิ้งก็เปลี่ยนไปลั่วชิงยวนคงจะตกอยู่ในอันตรายเขามิอยากต่อสู้กับนาง ตัดสินใจรีบหันหลังวิ่งหนีแต่บนพื้นกลับมีแสงสีทองส่องประกายวงเวทสีทองอยู่ใต้เท้าของเขาเขาออกไปมิได้!ลั่วฉิงเดินเข้ามาหาช้า ๆ พลางหัวเราะอย่างเย็นชา “เจ้าคิดว่าข้ามิได้เตรียมตัวเลยงั้นรึ?”“มีโอกาสล่อเจ้าออกมาได้เช่นนี้ ข้าจะปล่อยให้เจ้าหนีไปได้อย่างไรเล่า”ลั่วฉิงถือกระบี่ยาวเข้ามา แววตาเต็มไปด้วยความกระหายเลือดนางจะควักดีของเขาทั้งเป็น!ถึงตอนนั้น มิเพียงแต่อาการบาดเจ็บของนางจะหายเท่านั้น แต่ยังจะทำให้พลังเพิ่มขึ้นอีกด้วย!

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1226

    ลั่วชิงยวนหยิบยันต์ออกมาจากแขนเสื้อ แล้วถือไว้ในมือ วินาทีต่อมายันต์นั้นลุกไหม้เป็นเถ้าถ่าน พลังหยินอันรุนแรงพวยพุ่งออกมาลั่วฉิงตกใจมากนางเห็นยันต์ลุกไหม้ก่อนที่มิติจะเปิดออก ทันใดนั้นงูยักษ์ก็พุ่งทะยานออกมาจากมิติมันอ้าปากเปื้อนเลือดขนาดใหญ่พุ่งเข้าหาลั่วฉิงเสียงคำรามดังกึกก้องลั่วฉิงรีบหยิบเข็มทิศอาณัติสวรรค์ออกมา แต่กลับไร้ประโยชน์ นางถูกเสียงคำรามผลักจนกระเด็นออกจากห้อง เข็มทิศอาณัติสวรรค์ในมือหล่นลงพื้นนางตกลงไปที่ห้องโถงชั้นล่าง ได้แต่ลุกขึ้นยืนโซซัดโซเซ และเงยหน้ามองห้องนั้นด้วยความโกรธนางกัดฟันแล้วหันหลังเดินออกไปข้างกายลั่วชิงยวนมีงูยักษ์คอยปกป้อง!แต่ก็ดี ทั้งเข็มทิศอาณัติสวรรค์และดีงู นางต้องการทั้งหมด!ประตูห้องถูกปิดลงอีกครั้งลั่วชิงยวนก้มลงเก็บเข็มทิศอาณัติสวรรค์ที่ตกอยู่บนพื้น ในที่สุดก็วางใจได้เสียทีของอย่างอื่นจะหายไปก็ได้แต่เข็มทิศอาณัติสวรรค์จะหายไปมิได้นางรู้ว่าลั่วฉิงต้องสะกดรอยตามมาแน่นอน จึงจงใจแวะพักที่นี่เพื่อให้ลั่วฉิงมีโอกาสลงมือครู่หนึ่งจือเฉาและฉู่จิ้งก็กลับมา ลั่วชิงยวนรีบพาพวกเขาเดินทางไปซีหลิงในทันทีมิกล้าเสียเวลาอีกบนรถม้า

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1225

    พระชายาใช้ชีวิตอย่างไรในตอนที่ถูกขังอยู่หลังจากกินข้าวเสร็จลั่วชิงยวนก็มอบสมุนไพรให้จือเฉา ให้นางไปต้มที่ห้องครัวส่วนลั่วชิงยวนนอนพักบนเตียง ขณะสะลึมสะลือ นางได้ยินเสียงบุรุษหลายคนกำลังพูดคุยเรื่องสงครามอยู่ชั้นล่างลั่วชิงยวนได้ยินเรื่องกองทัพแคว้นหลีและซีหลิงนางจึงลุกไปเปิดประตูแล้วยืนฟังที่มาจากทางเดิน“สู้รบกันมาตั้งนานแล้ว ยังมิรู้ผลแพ้ชนะ ครั้งนี้ท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการคงจะแพ้กระมัง”“เป็นไปมิได้ นี่เป็นสิ่งที่ท่านมหาปราชญ์ทำนาย บอกว่าท่านอ๋องไปแล้วจะชนะอย่างแน่นอน!”“แต่ก็มิรู้ว่าต้องรอนานเท่าใด”“จะว่าไปแล้ว ท่านมหาปราชญ์ผู้นี้มีความสามารถจริงหรือ? เทียบกับพระชายาอ๋องคนก่อนแล้ว ความสามารถช่างห่างไกล”ลั่วชิงยวนกลับเข้าห้องปรากฏว่ากองทัพแคว้นหลียังมิถอยทัพฟู่เฉินหวนถึงกับไปซีหลิงเพื่อต่อสู้กับกองทัพแคว้นหลี ดูเหมือนว่าอยากจะช่วยลั่วฉิงรักษาสถานะในราชสำนักจริง ๆมิรู้ว่าทั้งสองกลายเป็นมิตรกันได้อย่างไรหรือเป็นเพราะมีศัตรูร่วมกันก็คือนาง?จือเฉาต้มยาเสร็จแล้วนำมาให้ หลังจากที่ลั่วชิงยวนกินยาแล้วก็นั่งลงบนเก้าอี้ข้างหน้าต่างพลางสัมผัสแสงแดดภายนอกจือเฉานำผ้าห่ม

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1224

    ความเจ็บปวดถาโถมเข้ามาดุจสายน้ำ เลือดเอ่อล้นขึ้นมาในลำคอ“เป็นอย่างไรบ้าง?” ฉู่จิ้งขมวดคิ้ว“มิเป็นอะไร” ลั่วชิงยวนพยายามพยุงตัวเองขึ้น สิ่งที่ทรมานยิ่งกว่าคือแสงแดดที่แยงตาในขณะนี้แสบตามากจนน้ำตาไหลมิหยุด“พระชายา พระชายา!” จือเฉาโผเข้ามาหาพลางร้องไห้โฮ “พระชายา โชคดีเหลือเกินที่ท่านปลอดภัย”“ตอนที่ยังวุ่นวาย พวกเราหนีไปตอนนี้กันเถิดเจ้าค่ะ ” จือเฉาจูงมือลั่วชิงยวน แล้วรีบหนีออกจากประตูหลังนางยังจำคำพูดของซูโหยวได้ ทุกอย่างถูกจัดเตรียมไว้แล้ว ต้องพาพระชายาออกไปก่อนที่จะเกิดเรื่องใหญ่โตมิเช่นนั้นหากทุกคนรู้ว่าพระชายายังมิตาย พระชายาอาจจะออกไปมิได้แล้วลั่วชิงยวนถูกพาตัวออกจากประตูหลัง แสงแดดแยงตาจนมองมิเห็นทางข้างหน้าเมื่อขึ้นรถม้าได้จึงรู้สึกดีขึ้นบ้าง“พระชายา เหตุใดท่านจึงร้องไห้หรือเจ้าคะ” จือเฉารีบหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาสักพักฉู่จิ้งก็ขึ้นรถม้าตามมา “พระชายาของเจ้าถูกขังอยู่ในห้องลับที่มืดมิดนานเกินไป ยังปรับตัวเข้ากับแสงภายนอกมิได้”ได้ยินดังนั้น จือเฉาก็รีบหยิบห่อผ้ามาจากกล่อง แล้วหยิบเสื้อคลุมสีดำตัวใหญ่ออกมาแล้วคลุมศีรษะให้ลั่วชิงยวนร่างผอมบางถูกคลุมด้วยเสื้อ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1223

    หัวใจของลั่วชิงยวนกระตุก แต่มิส่งเสียง ได้ยินลั่วฉิงยืนอยู่ข้างนอกครู่หนึ่งก็จากไปแต่ประตูห้องเปิดอยู่ ลั่วชิงยวนมองเห็นแสงสว่างจากด้านนอก ในที่สุดก็ได้เห็นแสงที่แตกต่างจากแสงเทียนแต่ทันใดนั้น นางก็ได้กลิ่นไหม้และเห็นไฟลุกไหม้จากด้านนอกบ้านไฟลุกลามอย่างรวดเร็ว มินานลั่วชิงยวนก็ได้กลิ่นควันไฟเปลวเพลิงกำลังแผดเผาเรือนหลังนี้ลั่วชิงยวนรีบนำน้ำมาชุบผ้าห่มแล้วอุดช่องว่างเพื่อป้องกันมิให้ควันลอยเข้ามาฟู่เฉินหวนอาจจะมิสนใจชีวิตของนาง แต่เมื่อเรือนไฟไหม้ก็ต้องให้คนมาช่วยดับไฟเพียงแค่นางยืนหยัดต่อไป ไฟก็จะมิลามเข้ามา อีกสักพักก็คงจะดับแล้วแต่ไฟกลับยิ่งลุกไหม้รุนแรงขึ้นผู้คนในตำหนักพบเห็นเข้าจึงรีบมาช่วยกันดับไฟจือเฉาได้ยินข่าวจึงรีบมา แล้วเห็นไฟไหม้ในเรือนนั้นเหมือนกับครั้งก่อนไม่มีผิดนางร้อนใจมากพระชายายังอยู่ข้างใน!นางรีบไปตักน้ำดับไฟกับคนอื่น ๆท่ามกลางความวุ่นวาย ลั่วฉิงแอบซ่อนตัวอยู่ในที่มืด ไม่มีใครสังเกตเห็นนางแน่นอนว่านางต้องรอ รอลั่วชิงยวนออกมาครั้งนี้มิว่าอย่างไรก็จะมิปล่อยให้ลั่วชิงยวนหนีไปได้!“แค่ก แค่ก แค่ก แค่ก...” ลั่วชิงยวนพิงกำแพง ควันที่ลอยเข

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1222

    “ตามข้ามา” ซูโหยวสั่งจือเฉาลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงตามซูโหยวไปเมื่อมาถึงห้องของซูโหยว ซูโหยวก็หยิบจดหมายฉบับหนึ่งออกมายื่นให้จือเฉาจือเฉางุนงง “นี่คือ...”“นี่คือสิ่งที่ท่านอ๋องให้เจ้าทำก่อนหน้านี้ จดหมายฉบับนี้เป็นจดหมายที่ท่านอ๋องเขียนถึงพระชายา”จือเฉารับจดหมายมาอ่าน แล้วก็ต้องตกใจสุดขีด “พระชายามิได้...”ซูโหยวยกนิ้วชี้แตะริมฝีปาก แล้วกล่าวว่า “พระชายายังมิตาย”“ทั้งหมดนี้เป็นแผนการของท่านอ๋อง”“ข้าเตรียมทุกอย่างให้เจ้าแล้ว เช้าวันพรุ่ง เจ้าก็พาพระชายาออกจากตำหนัก ออกจากเมืองหลวง แล้วอย่าได้กลับมาอีก”“ส่วนจดหมายฉบับนี้ค่อยมอบให้พระชายาหลังจากผ่านไปครึ่งปี”“เจ้าทำได้หรือไม่?”จือเฉาตกใจมากและรู้สึกสับสน “แผนการของท่านอ๋องคืออะไรกันแน่”“เจ้าอย่าสนใจมาก ทำตามที่ท่านอ๋องสั่งก็พอ เจ้าแค่ต้องรู้ว่าทำเช่นนี้จึงจะรักษาชีวิตของพระชายาได้”“เรื่องที่ข้าบอกเจ้า ห้ามบอกพระชายา แค่ส่งจดหมายฉบับนี้ให้พระชายาหลังจากผ่านไปครึ่งปีก็พอ”“นี่เป็นโอกาสที่เจ้าทั้งสองจะมีชีวิตรอด เข้าใจหรือไม่?”จือเฉาตั้งใจฟัง พยักหน้า แล้วเก็บจดหมายไว้ในอกเสื้อ“แล้วตอนนี้พระชายาอยู่ที่ใด? วันพร

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1221

    ลั่วชิงยวนตกใจเล็กน้อยแล้วยื่นมือออกไปนอกช่อง พยายามดึงถุงเข้ามาแล้วหยิบขวดยาออกมาทีละขวดหลังจากตรวจสอบดูว่ามียาอะไรบ้าง ลั่วชิงยวนก็กินยาเม็ดหนึ่งนางกำลังจะถามฉู่จิ้งว่าหายาพวกนี้มาจากที่ใด แต่เมื่อมองไปที่มุมห้องก็กลายเป็นว่าฉู่จิ้งขดตัวหลับไปเสียแล้วลั่วชิงยวนลากผ้าห่มมาห่มให้เขาเมื่อเข้าเหมันตฤดู พลังของฉู่จิ้งจะอ่อนแอลง ทำให้เขาง่วงนอนและต้องจำศีล ปกติแล้วจะมิค่อยตื่นขึ้นมาการออกไปหายาคงจะต้องใช้พลังทั้งหมดที่มียาที่นำมาเพียงพอสำหรับพวกเขาใช้ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง ได้แต่หวังว่าเหมันตฤดูจะผ่านพ้นไปโดยเร็วในห้องลับที่มืดมิด ลั่วชิงยวนได้แต่นอนและกินเท่านั้น มองมิเห็นแสงตะวัน มีเพียงความมืดมิดมิรู้จบห้วงเวลาแห่งความทุกข์ทรมานช่างยาวนานเหลือเกินเสบียงแห้งแข็งราวกับหิน ทั้งแห้งและแข็งจนกลืนลำบาก กลืนลงไปแล้วก็เหมือนกินใบมีด เจ็บคอมากบาดแผลทั่วร่างก็มิสามารถล้างทำความสะอาดได้ ได้แต่ใช้ผ้าสะอาดเช็ดรอบแผล ทายาและพันแผลใหม่ทุกวันถึงแม้ว่าบาดแผลส่วนใหญ่จะมิแย่ลง แต่ก็มิได้ดีขึ้นเลยในห้องลับนั้นหนาวเหน็บ หนาวจนต้องห่มผ้าห่มสองผืนแต่ก็ยังคงรู้สึกหนาวผิวแห้งแตกไปหมด บางค

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1220

    ลั่วฉิงรีบกลับไปที่ตำหนัก ค้นหาทั่วทุกซอกทุกมุมแต่ก็มิพบลั่วชิงยวนนางขมวดคิ้ว ลั่วชิงยวนถูกซ่อนไว้ที่ใดกันแน่!กลยุทธ์จักจั่นลอกคราบนี้เป็นฝีมือของลั่วชิงยวนเอง หรือฟู่เฉินหวนเป็นผู้บงการ?หากเป็นฟู่เฉินหวน แล้วเขาคิดจะทำอะไร!ลั่วฉิงออกจากตำหนักอ๋องด้วยความโกรธ และส่งคนไปเฝ้าประตูหน้าและประตูหลังของตำหนักอ๋องไว้หากลั่วชิงยวนปรากฏตัว ต้องจับนางให้ได้ในทันที!ในเมื่อเฉินชีไปซีหลิงแล้ว ก็ต้องสู้กับฟู่เฉินหวนจนตายไปข้างหนึ่ง มีเพียงช่วงเวลานี้เท่านั้นที่สามารถจับลั่วชิงยวนได้ มิเช่นนั้นก็จะไม่มีโอกาสอีก!......ลั่วชิงยวนถูกกัดจนสะดุ้งตื่นความเจ็บปวดที่ข้อเท้าทำให้นางสะดุ้งตื่น นางลืมตาขึ้นอย่างงุนงง เมื่อพยุงตัวเองลุกขึ้นนั่งก็เห็นงูนอนขดอยู่ข้างเท้าของนาง และกัดนางเข้าทันทีที่รู้สึกตัว นางก็รู้สึกเจ็บปวดที่ท้องอย่างรุนแรงนางก้มลงมองใต้แสงสลัว เมื่อเห็นเลือดไหลนองพื้นใต้ชายกระโปรงก็ตกใจสุดขีดขณะที่ลูบท้อง น้ำตาของลั่วชิงยวนก็ไหลรินไม่มีแล้ว!ไม่มีลูกแล้ว!เป็นเช่นนี้ได้อย่างไร?ลั่วชิงยวนมิรู้ว่าตัวเองสลบไปนานเท่าใด แต่นึกถึงคืนที่ถูกขังไว้ ยาที่ฟู่เฉินหวนกรอกให้นา

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1219

    “แต่ก่อนหน้านี้ท่านอ๋องก็เคยรับลั่วเยวี่ยอิงเป็นพระชายารองมาก่อน เรื่องของลั่วเยวี่ยอิงกับเหยียนผิงเซียวก็ดังไปทั่ว ท่านอ๋องยังแต่งงานกับลั่วเยวี่ยอิง”“ตอนนั้นท่านยังมิรู้สึกเสียหน้า เหตุใดจึงมารู้สึกตอนที่พระชายาอ๋องทำให้ท่านเสียหน้าเล่า!”“ใช่ นี่มันมากเกินไปแล้ว!”“ก่อนหน้านี้พระชายาอ๋องยังเป็นถึงมหาปราชญ์ ทั้งยังได้รับการแต่งตั้งเป็นองค์หญิงด้วย! ท่านอ๋องช่างอาจหาญนัก บอกว่าจะฆ่าก็ฆ่า!”“ท่านก็มิได้ฆ่าอย่างเปิดเผย แค่ไฟไหม้ พระชายาจึงสิ้นใจไป ใครจะมีหลักฐานว่าท่านเป็นคนฆ่า เฮ้อ...”“น่าสงสารพระชายา ต้องอดทนมาตลอดชีวิต”เพียงวันเดียว ชื่อเสียงของฟู่เฉินหวนก็เสื่อมเสียลงอย่างมากจือเฉาคุกเข่าร้องไห้อยู่ท่ามกลางซากปรักหักพังครึ่งวัน เดิมทีอยากจะออกจากตำหนักอ๋องไปแต่กลับถูกองครักษ์ขวางไว้ “เจ้าออกจากตำหนักมิได้”“เหตุใด? พระชายาจากไปแล้ว ข้ามิอยากอยู่ในที่แห่งนี้แล้ว!” จือเฉาพูดพลางน้ำตาไหล“ไม่มีเหตุผล เจ้าไปมิได้”กล่าวจบ องครักษ์สองคนก็ลากจือเฉาไปขังไว้ในเรือนอีกแห่ง“ปล่อยข้า! ปล่อยข้า!”“พวกเจ้าจะทำอะไร!”ประตูลั่นดาล จือเฉาทุบประตูอย่างสุดกำลังแต่ก็ไร้ผลสุดท้ายก

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status