Share

บทที่ 112

Author: หว่านชิงอิ๋น
"ที่ข้าบอกเรื่องนี้กับเจ้า เพราะหวังว่าเจ้าจะเข้าใจความคิดความอ่านของคนในครอบครัวข้า!"

"แม้ว่าเจ้าจะมาที่นี่เพื่อวิ่งเต้นเรื่องในราชสำนักให้ลั่วไห่ผิง หรืออยากจะมาเป็นตัวแทนฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างสองครอบครัว ข้าก็ขอแนะนำเจ้าว่า อย่ามัวมาเสียเวลาเลยจะดีกว่า!"

น้ำเสียงของลั่วหรงหนักแน่นเป็นพิเศษ "ครอบครัวของเราไม่มีทางยอมรับลั่วไห่ผิง!"

หลังจากได้ยินสิ่งนี้ ลั่วชิงยวนก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก เป็นเพราะเรื่องพวกนี้เอง

นางลดสายตาลงและยกยิ้มขมขื่น "ท่านอากังวลเกินไปจริง ๆ พ่อของข้า... เกลียดข้า และไม่ยอมให้ข้าไปร่วมงานฉลองวันเกิดของท่านมหาราชครูด้วยซ้ำ เขาคิดว่า การที่ข้าอ้วนและมีใบหน้าอัปลักษณ์ จะทำให้เขาต้องอับอาย นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้… ข้าอยากเข้ามาที่จวนมหาราชครูถึงขนาดนี้”

คำพูดที่ตรงไปตรงมาของนางทำให้ลั่วหรงตกใจไม่น้อย

ขณะมองไปที่ลั่วชิงยวน คิ้วของนางก็ยิ่งขมวดแน่นขึ้น "ลั่วไห่ผิงสนใจแต่ชื่อเสียงและเงินทองของตนเท่านั้น นี่แหละคือเขา!"

หลังจากเข้าใจเหตุผลแล้วลั่วหรงก็รู้สึกเห็นใจลั่วชิงยวนขึ้นเล็กน้อย

“เจ้าถึงได้ยอมออกเรือนเพื่อหลีกหนีจากท่านพ่อของเจ้าอย่างนั้นหรือ?” ลั่วหรงค
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 113

    มันแปลกเกินไป“ท่านอา ข้าขอไปเจอท่านปู่รองได้หรือไม่?” ลั่วชิงยวนถามลั่วหรงคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า "พรุ่งนี้ค่อยว่ากันเถอะ คืนนี้ดึกเกินไปแล้ว" "ได้เจ้าค่ะ"จากนั้น ลั่วชิงยวนก็ตรวจชีพจรของลั่วอวิ๋นสี่ ก่อนเขียนเทียบยาแล้วส่งให้ลั่วหรง ลั่วหรงรู้สึกประหลาดใจมาก "ข้าไม่คิดเลยว่าเจ้าจะมีทักษะทางการแพทย์กับเขาด้วย"ลั่วหรงส่งใบสั่งยาให้หลินอวี้เวยทันทีและขอให้นางไปจัดการเรื่องนี้ลั่วชิงยวนหันไปมองนางรับใช้ที่ออกไปพร้อมกับใบสั่งยา มีรอยรองเท้าเปียกหลงเหลืออยู่บนพื้นสองสามรอยน่าแปลกเสียจริง ช่วงนี้มีแดดจัดและไม่มีฝนเลยแม้แต่น้อยแล้วทำไมถึงมีรอยเท้าเปียกเช่นนี้?แต่นางก็คิดว่านางรับใช้คนนี้คงไปทำงานที่สวนด้านหลังจวนจึงอาจทำให้เท้าเปียกได้“ท่านอาเจ้าคะ สิ่งของอาถรรพ์ในบ้านยังกำจัดไม่หมดเลยเจ้าค่ะ ทางที่ดี ท่านควรเตรียมโกฐจุฬาลัมพาให้มากหน่อย และทำความสะอาดเรือนให้เรียบร้อยเพื่อขจัดสิ่งชั่วร้ายออกไป พรุ่งนี้ข้าจะจัดการให้และจะนำสิ่งเหล่านั้นออกไปทิ้งให้เร็วที่สุด ธงอัญเชิญวิญญาณทั้งที่ใช้ไปแล้วและยังไม่ได้ใช้จะต้องถูกเผาทิ้ง ขี้เถ้าจากธงอัญเชิญวิญญาณจะต้องถูกผลึกเอาไว้ในขวด

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 114

    มีภาพวาดแขวนอยู่บนผนังตรงทางเข้าด้านหน้า มันเป็นภาพเหตุการณ์เพลิงไหม้รุนแรง ยังประกอบไปด้วยสตรีและเด็กอยู่ในภาพนั้น ก่อนจะมีเสียงกรีดร้องดังขึ้นพวกเขาพยายามดิ้นรนหลบหนี แต่ก็ไม่อาจหนีจากเพลิงที่โหมกระหน่ำมาได้เมื่อหนีไม่ทัน พวกเขาจึงต้องตายในเปลวเพลิง“น้องหญิงชิงยวน?”เมื่อเห็นว่านางตะลึงไป ลั่วหลางหลางก็เอ่ยเรียกจากนั้นลั่วชิงยวนก็กลับมามีสติอีกครั้ง และยิ่งมองเข้าไปใกล้มากขึ้น ภาพวาดนั้นก็แสดงให้เห็นภาพของสตรีกิริยาอ่อนโยนกำลังอุ้มเด็กเอาไว้ผู้คนในภาพดูคล้ายจะมีชีวิตอยู่อย่างไร้กังวลลั่วชิงยวนขมวดคิ้วโดยไม่รู้ตัวหลังจากที่ลั่วหลางหลางเข้าไปในห้อง ลั่วชิงยวนก็ยิ่งตกใจมากขึ้นไปอีก ทั้งห้องเต็มไปด้วยภาพวาดที่คล้ายกันมีทั้งรูปเดี่ยวของสตรีและรูปเดียวของเด็กแขวนอยู่ด้วยจะเห็นได้ว่า ภาพวาดเหล่านี้ไม่ได้ถูกวาดโดยศิลปินคนเดียวกันทั้งหมด อีกทั้งมันยังมีรูปแบบการวาดที่แตกต่างกันอีกด้วย และแน่นอนว่าภาพวาดบุคคลเหล่านี้ถูกวาดตามคำอธิบายของมหาราชครูลั่ว นั่นก็เพราะว่าเขามีภาพวาดในลักษณะที่คล้ายคลึงกัน แต่ให้ความรู้สึกราวกับเป็นคนละคนเกือบทั้งห้องถูกรายล้อมไปด้วยภาพบุคคลและสิ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 115

    ลั่วหลางหลางรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับลั่วชิงยวน ครั้นยังวัยเยาว์พวกนางมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน แม้ว่าแม่ของพวกนางจะไม่ยอมให้พวกนางคบหากัน แต่พวกนางก็จะได้พบกันโดยบังเอิญในโอกาสพิเศษบางอย่างและจะได้เล่นด้วยกันเสมอหลังจากที่ลั่วชิงยวนป่วยและมีรูปร่างอวบอ้วนขึ้น พวกนางก็ไม่ได้ติดต่อกันอีกเลยนั่นเพราะลั่วชิงยวนไม่ยอมออกมานอกจวน“ถ้าท่านปู่รองได้รับรู้ถึงอาการของอวิ๋นสี่ เขาจะต้องกังวลและเศร้าโศกเป็นแน่ อีกทั้งเขาทำเรื่องพวกนี้ก็เพราะต้องการอัญเชิญวิญญาณของคนที่เขารัก ทั้งจะทำให้เขาตำหนิตัวเองเปล่า ๆ เช่นนั้นเราอย่าได้บอกเรื่องนี้กับท่านปู่จะดีกว่า"เมื่อได้ยินคำพูดของลั่วชิงยวน ดวงตาของลั่วหลางหลางก็เป็นประกายขึ้น นางพยักหน้าและพูดด้วยรอยยิ้ม "เจ้านี่คิดได้รอบคอบทีเดียว"“น้องหญิงชิงยวน ยังฉลาดเหมือนตอนเด็กไม่มีผิด!”ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ผู้คนข้างนอกต่างหัวเราะเยาะลั่วชิงยวน ด่าว่าลั่วชิงยวนว่าเป็นหมู นางรวบรวมความกล้าโต้เถียงกับพวกคนเหล่านั้นอยู่หลายครั้ง แต่ก็ยังถูกรังแกอย่างน่าสังเวชอยู่ดีนางไม่อาจปกป้องลั่วชิงยวนได้ และรู้สึกเสียใจทุกครั้งที่คิดถึงเรื่องนี้ทันทีที่ได้เห็นนางว

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 116

    ลั่วหรงเข้ามาฟังลั่วชิงยวนกระซิบหลังจากได้ยินสิ่งนี้ ดวงตาของลั่วหรงเป็นประกาย "เจ้าทำเช่นนั้นได้จริงหรือ?”“เชื่อข้าเถิด” ลั่วชิงยวนยิ้มและพยักหน้าอย่างมั่นคงลั่วหรงคิดว่า ตนไม่ใช่คนประเภทเชื่อใจใครง่าย ๆ ยังไม่รวมว่านางเพิ่งกลับใจได้เมื่อคืน และไม่รู้เลยว่าอะไรเป็นอะไรแต่เมื่อได้เห็นท่าทางมั่นใจของลั่วชิงยวน นางก็รู้สึกว่ามันน่าเชื่อถืออย่างอธิบายไม่ถูก“เอาล่ะ ข้าขอโทษที่รบกวนเจ้า! หากมันได้ผลจริง ข้าจะขอบคุณเจ้ามาก!” ลั่วหรงยกแขนขึ้นและโค้งคำนับลั่วชิงยวนช่วยพยุงนางไว้และพูดว่า "ท่านอา ข้าเต็มใจช่วย เพราะการช่วยท่าน ข้าก็เหมือนได้ช่วยตัวข้าเองด้วย"ว่ากันตามตรง การให้ความช่วยเหลือแก่พวกเขาก็ถือเป็นประโยชน์ของตัวนางเองด้วยสิ่งนี้ทำให้ลั่วหรงรู้สึกชอบลั่วชิงยวนขึ้นอีกเล็กน้อยอาจกล่าวได้ว่า ลั่วชิงยวนไม่ได้ประสงค์ร้ายอะไร จุดประสงค์ของนางค่อนข้างชัดเจน แล้วไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน ทั้งยังสามารถสัมผัสได้ถึงความจริงใจของนางอีกด้วยลั่วชิงยวนบอกกับพวกนางถึงสิ่งที่ต้องระวังเป็นพิเศษ และวิธีจัดการกับสิ่งที่เรียกว่าวิญญาณร้ายเหล่านั้นก่อนที่นางจะเดินทางออกจากจวนมหาราชครูไป

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 117

    ทันใดนั้นก็มีเสียงอันสง่างามดังมาจากด้านหลัง“เมื่อคืนนี้ พระชายาอยู่ที่จวนของหม่อมฉันจริง ๆ เพคะ!”ลั่วชิงยวนหันหลังกลับไปมองและเห็นลั่วหรงเดินมาอย่างช้า ๆ โดยมีนางรับใช้อยู่เบื้องหลังนางหลายคน ในมือนางถือถุงผ้าเอาไว้นางจึงอดไม่ได้ที่จะประหลาดใจเล็กน้อยฟู่เฉินหวนเองก็ประหลาดใจเช่นกันเมื่อเห็นผู้มาเยือน และสุภาพขึ้นกว่าเก่า "ฮูหยินลั่ว"ฮูหยินลั่วหรงสาวเท้าเข้ามาด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า นางเหลือบมองลั่วชิงยวนแล้วพูดว่า "ชิงยวนช่วยหม่อมฉันได้มากทีเดียว แถมหม่อมฉันยังไม่มีเวลาได้ขอบคุณเลยด้วยซ้ำ เพราะมาคิด ๆ ดูแล้ว หม่อมฉันรู้สึกว่า มันไม่เหมาะสม หม่อมฉันจึงตั้งใจนำโอสถมาให้นาง”ลั่วหลางหลางย้ำเตือน ลั่วชิงยวนเคยป่วยหนักมาก่อน เพราะเหตุนี้นางถึงได้เป็นสตรีอ้วนหน้าตาอัปลักษณ์จวนของนางมีเครื่องยาสมุนไพรมากที่สุด เพราะใครต่อใครต่างก็มอบของกำนัลมาให้ทุกปี จวนของนางไม่เคยรับของเหล่านั้นไว้เนื่องจากมันมีมูลค่ามากเกินไป เมื่อเวลาผ่านไปคนเหล่านั้นจึงเปลี่ยนมามอบเครื่องยาสมุนไพรแทน พวกเขาบอกว่าให้ใช้เพื่อรักษาโรคและบำรุงสุขภาพของมหาราชครู เช่นนั้นของขวัญเหล่านั้นจึงไม่ถูกปฏิเสธแม้ว่านางจะไ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 118

    ฟู่เฉินหวนศึกษาตำรารอจนถึงเที่ยง ก่อนที่ซูโหยวจะกลับมารายงาน “ท่านอ๋อง คนรับใช้ของจวนมหาราชครูนั้นแทบไม่ปริปากอะไรเลย กระหม่อมรู้แค่ว่า พระชายาพาลั่วอวิ๋นสี่กลับจวนไปเมื่อวานนี้ และฮูหยินลั่วก็ให้ที่พักแก่พระชายาเป็นเวลาหนึ่งคืนพ่ะย่ะค่ะ”“คนของกระหม่อมเเฝ้าสังเกตการณ์อยู่ด้านนอกจวนมหาราชครูมานานกว่าหนึ่งก้านธูป ทุกคนในจวนม่วนอยู่กับการทำความสะอาดจวน ดูเหมือนเมื่อคืนจะมีอะไรร้ายแรงเกิดขึ้น แต่จวนมหาราชครูทั้งหลังกลับปิดสนิท ลอบสอบถามอะไรมิได้เลยพ่ะย่ะค่ะ"เมื่อได้ยินเช่นนี้ ฟู่เฉินหวนก็มีร่องรอยความโกรธเกิดขึ้นระหว่างคิ้วทั้งสองข้างของตัวเองลั่วชิงยวนคิดจะทำอะไรกันแน่!แค่เพราะนางตามหาลั่วอวิ๋นสี่เจอ และเหตุใดฮูหยินลั่วถึงได้นำเครื่องยาสมุนไพรมามอบให้ด้วยตัวเองเช่นนี้ยิ่งไปกว่านั้น ของแทนน้ำใจทั้งหมดนั่นยังเป็นเครื่องยาสมุนไพรที่หายาก และมีราคาแพงมากอีกด้วยขณะที่เขากำลังคิดถึงเรื่องนี้ ก็มีเสียงฝีเท้าและเสียงร้องอันคุ้นหูดังอยู่ข้างนอก“ท่านอ๋อง...” ลั่วเยวี่ยอิงเจ็บปวดมากจนพูดไม่ชัด น้ำตาของนางไหลอาบหน้า อีกทั้งดวงตายังบวมจากการร้องไห้เพิ่มเข้าไปอีกหัวใจของฟู่เฉินหวนเจ็บ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 119

    แต่ข้าไม่ได้คาดหวังว่า เมื่อถึงตอนค่ำจะได้รับข่าวของฟู่อวิ๋นโจวเสียก่อน“พระชายา ทุกคนในตำหนักต่างพูดกันถึงเรื่องนี้ วันนี้องค์ชายห้าถูกคนทำร้ายอยู่ข้างนอก! อาการบาดเจ็บสาหัส!”ลั่วชิงยวนสะดุ้งเล็กน้อย "ถูกทำร้าย ได้อย่างไรกัน?"เขาเป็นถึงองค์ชายใครจะกล้าทำอะไรองค์ชายเช่นเขา?“ข้าได้ยินมาว่า… วันนี้ชายสูงศักดิ์กลุ่มหนึ่งกำลังนินทาพระชายา พูดจาส่อเสียดและดูหมิ่น องค์ชายห้าที่บังเอิญผ่านมาได้ยินเข้าจึงออกหน้าเถียงแทนอยู่สองสามคำ อีกฝ่ายกลับบอกว่าพระชายาก็ไม่ต่างจากองค์ชาย องค์ชายห้าทำกิริยาลับ ๆ ล่อ ๆ น่าเกลียด และเป็นชู้กับสตรีไปทั่ว”“องค์ชายห้าโกรธจึงเริ่มลงไม้ลงมือกับพวกเขาบางคน เป็นผลให้ร่างอันอ่อนแอขององค์ชายห้าถูกคนกลุ่มนั้นทำร้ายจนลงไปกองกับพื้นลุกขึ้นยืนแทบไม่ไหว ว่ากันว่าพระองค์ถูกหามกลับเข้ามาในตำหนัก ด้วยอาการสาหัส ช่างน่าอนาถจริง ๆ!”แม่นมเติ้งแทบจะทนเล่าจนจบไม่ไหวลั่วชิงยวนรู้สึกแย่ลงไปอีกเมื่อนางได้ยินว่า อีกฝ่ายบาดเจ็บเพราะต้องการที่จะปกป้องไม่ให้นางเสียหาย“แม่นมเติ้ง ไปดูทีเถิดว่าอาการบาดเจ็บขององค์ชายห้าเป็นอย่างไรบ้าง”เนื่องจากตอนนี้ค่ำมืดแล้ว นางจึงรู้สึกไ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 120

    “พระชายา… แล้วเราควรทำอย่างไรดีเจ้าคะ? ก่อนหน้านี้องค์ชายห้าได้มอบโอสถให้พระชายามากมาย แต่ตอนนี้เขากำลังลำบาก...” แม่นมเติ้งแทบทนไม่ได้“เราจะทำอะไรได้เล่า?” ดวงตาของลั่วชิงยวนเปลี่ยนเป็นเย็นชาและเดินออกจากห้องไปนางตรงไปที่ห้องตำราของฟู่เฉินหวนทันทีนางรู้ว่าฟู่เฉินหวนจงใจปฏิเสธที่จะรักษาฟู่อวิ๋นโจวด้วยยาเพื่อบังคับให้นางนำบัวหิมะเทียนซานมาแลกเปลี่ยน นางเกรงว่าหากนางตรงไปที่เรือนทักษิณานางจะไม่อาจเข้าไปที่นั่นได้นางจึงจำเป็นต้องไปหาฟู่เฉินหวนเท่านั้น!ในห้องตำรา ร่างที่เย็นชานั้นนั่งอยู่บนเก้าอี้อย่างเกียจคร้าน ปลายนิ้วของเขาเคาะที่จับเก้าอี้ช้า ๆ อย่างสบายใจ สีหน้าของเขาดูสงบและติดจะฟุ้งซ่านอยู่บ้างแต่ในสายตาของลั่วชิงยวน นี่เป็นท่าทางที่เย่อหยิ่งที่สุดเขาดูไม่แปลกใจเลยกับการมาถึงของนาง แถมยังไม่ถามด้วยซ้ำว่า นางมาทำอะไรที่นี่ ราวกับว่าเขารู้ทุกอย่างดีอยู่ก่อนแล้ว“เหตุใดท่านไม่ทรงยอมให้หมอกู้ใช้โอสถรักษาองค์ชายห้า ท่านอยากให้เขาตายอยู่ที่ตำหนักนี้งั้นหรือ?”น้ำเสียงของลั่วชิงยวนเย็นชาฟู่เฉินหวนหรี่ตาลงเล็กน้อย สายตาล้ำลึกราวกับทะเลสาบน้ำแข็ง“มาถึงที่นี่เพื่อไถ่ถามข้า

Latest chapter

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1412

    “ใครกัน?!”ลั่วชิงยวนหรี่ตาลงเล็กน้อย แล้วตอบเสียงแผ่ว “ซูเซียง”“แต่ตอนนี้ควรเรียกนางว่าโหยวเซียง”“ภารกิจที่พวกเจ้าได้รับก็เป็นเพียงการละเล่นของนางเท่านั้น”“นางต้องการให้พวกเจ้าฆ่ากันเอง”และภารกิจหนังหน้าของหญิงงามที่ฉีเสวี่ยเวยได้รับ ก็คงเป็นการล่อลวงให้ฉีเสวี่ยเวยมาฆ่านางหากสามารถยืมมือคนอื่นฆ่าคนได้ โหยวเซียงก็มิจำเป็นต้องเปิดเผยตัวตนเพียงแต่โหยวเซียงคาดมิถึงว่าฉีเสวี่ยเวยจะฆ่านางมิได้ กระทั่งโหยวเซียงเองก็ฆ่านางมิได้“โหยวเซียงหรือ? นางเป็นคนของเมืองแห่งภูตผีแห่งนี้หรือ?” ฉีเสวี่ยเวยมองนางอย่างมิเชื่อสายตา“มิแปลกใจเลย… นางท้องแก่ถึงเพียงนั้นยังกล้ามาที่นี่ได้”ลั่วชิงยวนเห็นว่าใกล้รุ่งสางแล้ว จึงให้โฉวสือชีแก้เชือกที่มัดฉีเสวี่ยเวยไว้“ข้าจะยังมิฆ่าเจ้าตอนนี้”“มิว่าเรื่องที่เจ้ากล่าวมาจะเป็นจริงหรือไม่ก็มิสำคัญ ข้าก็มิกลัวว่าเจ้าจะไปบอกเรื่องนี้กับถูหมิง”“หากเจ้าไปบอก เรื่องเดียวที่จะเป็นผลเสียต่อพวกข้าก็คือต้องแบกหีบเพิ่มอีกมิกี่ใบ”“เพียงเท่านั้น”มิใช่เรื่องคอขาดบาดตายที่นางทำเป็นร่วมมือกับถูหมิง ก็เพียงต้องการใช้คนของเขาไปขวางทางศพชายที่ถูกผนึกไว้ในถ้ำ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1411

    “แม้จะต้องยอมตายไปพร้อมกับถูหมิง ข้าก็ยินดี!”เมื่อได้ยินดังนั้น ลั่วชิงยวนก็ตกตะลึง แต่ก็ยังคงสงสัยอยู่บ้าง“แต่เจ้าสนิทสนมกับถูหมิงถึงเพียงนั้น น่าจะมีโอกาสฆ่าเขาได้นับครั้งมิถ้วน”ฉีเสวี่ยเวยขมวดคิ้วแน่น ดวงตาแดงก่ำ “แท้จริงแล้วคนผู้นั้นระแวดระวังตัวมาก หากมิใช่เพราะต้องการลดความระแวดระวังของเขา ข้ากับชายมากหน้าหลายตาก็คงมิ...”เมื่อกล่าวถึงตรงนี้ ฉีเสวี่ยเวยก็เม้มริมฝีปากแน่นหลังจากกล้ำกลืนความรู้สึกแล้ว จึงกล่าวต่อ “ในป่าครั้งนั้นเป็นครั้งแรกที่เขาใกล้ชิดข้า เดิมทีตอนนั้นข้ามีโอกาสที่จะฆ่าเขาได้!”“แต่เจ้าปีศาจฝูเหมิ่งนั่นบังเอิญมาขวาง!”“หากมิใช่เพราะเขา ข้าคงทำสำเร็จไปแล้ว!”ฉีเสวี่ยเวยกัดฟันพูด เต็มไปด้วยความเคียดแค้นลั่วชิงยวนรู้สึกประหลาดใจ เมื่อเห็นสีหน้าของฉีเสวี่ยเวย ในดวงตาของนางเต็มไปด้วยความแค้น ดูมิเหมือนคนโกหกทำให้นางเปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อฉีเสวี่ยเวยไปบ้างขณะที่ลั่วชิงยวนยังคงครุ่นคิด ฉีเสวี่ยเวยก็มองมาที่นาง “เจ้ายังมิเชื่อข้าหรือ?”“ขอเพียงเจ้าฆ่าถูหมิงได้ ข้าจะทำทุกอย่างเพื่อเจ้า! ข้าจะบอกสิ่งที่เจ้าอยากรู้ทุกอย่าง!”ลั่วชิงยวนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1410

    ลั่วชิงยวนนอนนิ่งอยู่บนเตียง มิกล้าขยับกายทว่างูตัวนั้นกลับกัดข้อเท้านางอย่างแรงหนึ่งครั้ง จากนั้นก็รีบเลื้อยหนีไปรออยู่ครู่หนึ่ง ฉีเสวี่ยเวยเห็นว่าคนที่นอนอยู่บนเตียงไม่มีความเคลื่อนไหวใด ๆ จึงเปิดประตูเข้ามานางมิอาจมั่นใจได้ว่าพวกคนใบ้จะกลับมาเมื่อใด จึงมิกล้าเสียเวลานานหลังจากปิดประตูอย่างระแวดระวังแล้ว นางก็มายังปลายเตียง จ้องมองข้อเท้าของลั่วชิงยวนอย่างละเอียด ปรากฏว่าถูกงูกัดจริง ๆ นางต้องตายเพราะพิษนี้แน่นอน!ทันใดนั้นเอง ฉีเสวี่ยเวยก็ชักกริชออกมาแล้วเดินไปยังหัวเตียง ค่อย ๆ จรดใบมีดลงบนใบหน้าของลั่วชิงยวนแต่ในพริบตานั้นเอง ลั่วชิงยวนก็ลืมตาขึ้นมาจ้องมองนางด้วยสายตาอาฆาตแค้นฉีเสวี่ยเวยพลันตกใจ แต่ก็มิได้หนีในทันที เพราะนางคิดว่าลั่วชิงยวนโดนพิษงูเข้าไปแล้ว อย่างไรก็ต้องตายอยู่ดีลั่วชิงยวนรีบคว้าข้อมือของฉีเสวี่ยเวยไว้เพื่อแย่งชิงกริชมาจากนางฉีเสวี่ยเวยก็ลงมือโจมตีเช่นกัน เพียงแต่นางคาดมิถึงว่าสตรีผู้นี้ที่ถูกพิษแล้วจะยังมีพละกำลังมากมายถึงเพียงนี้หลังจากทั้งสองต่อสู้กันครู่หนึ่งในห้อง ฉีเสวี่ยเวยก็พ่ายแพ้ ถูกลั่วชิงยวนจับกดไว้บนโต๊ะฉีเสวี่ยเวยตกใจมาก “เจ้า

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1409

    “แน่นอน”“อีกอย่าง เมื่อหาของเหล่านี้ครบแล้วเมืองแห่งภูตผีทั้งเมืองก็จะเป็นของพวกเรา แล้วยังต้องขึ้นเขาไปเอาของเล็ก ๆ น้อย ๆ นั่นหาปะไร”คำพูดนี้กระตุ้นความโลภในใจของทุกคนที่อยู่ตรงนั้นอย่างมิต้องสงสัยพวกเขาจึงมิลังเลอีกต่อไป รีบติดตามลั่วชิงยวนไปยังเส้นทางเดิมตลอดทางยังมีงูมากมาย ลั่วชิงยวนก็หาสมุนไพรบางชนิดตลอดทางแล้วมอบให้ทุกคนผูกติดไว้บนตัวและทาตามเท้า เพื่อให้กลิ่นของสมุนไพรนั้นช่วยไล่งูดังนั้นการเดินทางของพวกเขาจึงราบรื่นดี เมื่อยามค่ำคืนมาเยือนพวกเขาก็ออกมาจากบ่อน้ำพุร้อนนั้นอีกครั้งพวกเขากลับมายังหมู่บ้านเดิมในช่วงกลางดึกสงัดในหมู่บ้านยังมีอาหารหลงเหลืออยู่ ดังนั้นทุกคนจึงหยุดพักกินอาหารกันก่อนเมื่อฟื้นฟูพละกำลังได้แล้วคนทั้งหมดก็ออกเดินทางต่อมาถึงสุสานเดิม ยามนี้วิญญาณอาฆาตเต็มไปทั่วทั้งภูเขา พลังหยินแผ่ซ่านไปทั่วเมื่อลั่วชิงยวนมาถึงที่แห่งนั้นก็พบว่าปากถ้ำเปิดออกแล้วมีคนกล่าวขึ้นว่า “วันนั้นฝูเหมิ่งก็มาที่นี่!”ลั่วชิงยวนตกใจเล็กน้อยเมื่อเข้าไปในถ้ำแล้ว ภาพที่ปรากฏด้านในนั้นมิเปลี่ยนแปลงมากนัก สิ่งที่เปลี่ยนไปเพียงอย่างเดียวคือโลงศพที่ถูกล่ามโซ่นั้นระเบ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1408

    เมื่อได้ยินดังนั้น ความโลภก็ปรากฏในดวงตาของถูหมิง ใครเล่าจะมิปรารถนาสมบัติของเมืองแห่งภูตผี เขาตอบตกลงในทันที “ได้”ลั่วชิงยวนกล่าวต่อว่า “แต่การนำของสิ่งนี้มาจะต้องเผชิญกับอันตรายบ้าง ดังนั้นอาจจะต้องมีคนของเจ้าสละชีวิต”“แต่คนมากก็แบ่งกันได้น้อย คนตายไปบ้างก็มิจำเป็นต้องสนใจความเป็นความตายของพวกเขา”“ความลับนี้ข้าบอกเพียงเจ้าเท่านั้น เจ้าอย่าได้แพร่งพรายให้ผู้ใดรู้เชียว”“โดยเฉพาะฉีเสวี่ยเวย”เมื่อได้ยินดังนั้นถูหมิงก็หันกลับไปมอง แต่ไหนแต่ไรมาเขาก็มิเคยสนใจความเป็นความตายของคนเหล่านั้นอยู่แล้ว“หาได้มีปัญหาไม่!”ถูหมิงรับปากอย่างง่ายดาย แต่ลั่วชิงยวนกลับยังคงระแวดระวัง “ยังมีเรื่องที่ต้องบอกเจ้าอีกอย่าง กองทัพของเมืองแห่งภูตผีถูกพวกข้าปลุกปั่นแล้ว คาดว่าอีกมินานคงไล่ตามมา”“ก่อนที่จะหาของทั้งหกชิ้นพบ อย่าได้คิดที่จะทำสิ่งใดนอกเหนือจากนี้ ท้ายที่สุดแล้ว พวกเราต้องร่วมมือกันต่อสู้กับศัตรู หากถูกพวกมันจับได้คงไม่มีใครมีจุดจบที่ดี”สีหน้าของถูหมิงเปลี่ยนไปเล็กน้อย มิคาดคิดว่าสตรีผู้นี้จะเก่งกาจมากถึงเพียงนี้ กระทั่งปลุกกองทัพของเมืองแห่งภูตผีขึ้นมาได้ดูเหมือนว่าสิ่งที่นางต้

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1407

    ตามแผนที่นั้น ลั่วชิงยวนนำทางพวกเขาอ้อมไปอ้อมมา ในที่สุดก็มาถึงถ้ำที่โหยวเซียงผลักนางลงไปเนื่องจากก่อนหน้านี้โหยวเซียงนำคนมาไล่ตามพวกนางจากด้านล่าง ด้านบนจึงไม่มีสิ่งใดปิดบังแล้วและบนผนังหินก็มีเถาวัลย์ยาวห้อยลงมาด้วยเมื่อลองดึงเถาวัลย์นั้นก็พบว่าแข็งแรงมาก“ไปกันเถอะ”คนใบ้ยังคงเดินนำหน้า เขาจับเถาวัลย์ปีนขึ้นไปเมื่อขึ้นไปถึงด้านบนแล้วลั่วชิงยวนก็ปีนตามไปสุดท้ายก็ดึงโฉวสือชีขึ้นไปทัศนวิสัยเบื้องหน้าพลันสว่างและกว้างขึ้นลั่วชิงยวนมองไปที่คนใบ้ “ยามนั้นเจ้าถูกลากตัวมาที่นี่หรือ?”คนใบ้พยักหน้าโฉวสือชีกล่าวว่า “ข้าก็เหมือนจะเคยมาที่นี่เช่นกัน รู้สึกว่าที่นี่มีพลังหยินเข้มข้นนัก”ลั่วชิงยวนพยักหน้า “ถูกต้อง ก็ที่นี่แหละ”นี่คือจุดหมายที่สองของพวกเขาลั่วชิงยวนทำได้เพียงค้นหาไปทีละแห่ง ตามตำแหน่งที่อยู่ใกล้พวกนางมากที่สุดนางหยิบเข็มทิศอาณัติสวรรค์ออกมาเริ่มค้นหาตำแหน่งที่แน่นอนทั้งสามถือโอกาสพักผ่อนในป่าสักครู่และหาอะไรกินเพื่อเติมพลังยามนี้ก็บ่ายแล้ว เห็นได้ชัดว่าฟ้าใกล้จะมืดลง ทั้งสามจึงออกเดินทางต่ออีกครั้งจนได้พบถ้ำแห่งหนึ่งด้านนอกถูกปกคลุมไปด้วยพุ่มไม้หนา เ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1406

    ทั้งสามรีบวิ่งหนีไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วในมิช้า โหยวเซียงและต่งอวิ๋นซิ่วก็นำผู้คนจำนวนมากมาถึงที่นี่อย่างรีบร้อนแต่เมื่อทั้งคณะพุ่งเข้าไปในถ้ำ กลับพบว่าสิ่งนั้นหายไปแล้ว!สีหน้าของต่งอวิ๋นซิ่วเปลี่ยนไป นางตวาดเสียงดัง “ตามหาให้ทั่ว!”“ข้ามิเชื่อหรอกว่าจะยังมีใครที่เดินเหินไปมาอย่างอิสระในเมืองแห่งภูตผีแห่งนี้ได้!”ยามนี้ลั่วชิงยวนมีแผนที่อยู่ในมือ นางสามารถเดินไปไหนมาไหนในเมืองแห่งภูตผีแห่งนี้ได้อย่างอิสระจริง ๆนางถึงขนาดรู้ทุกซอกทุกมุมในเมืองแห่งภูตผีแห่งนี้ดีกว่าต่งอวิ๋นซิ่วและพรรคพวกด้วยซ้ำเพราะนั่นคือแผนที่ที่อวี๋ตันเฟิ่งวาดให้นาง ซึ่งละเอียดลออยิ่งส่วนพวกต่งอวิ๋นซิ่ว ท้ายที่สุดแล้วความทุ่มเทที่พวกนางมีต่อเมืองแห่งภูตผีแห่งนี้ย่อมมิอาจเทียบกับอวี๋ตันเฟิ่งได้ ความเข้าใจที่พวกนางมีจึงด้อยกว่าอวี๋ตันเฟิ่งลั่วชิงยวนเดินตามแผนที่ มิได้วิ่งหนีเข้าไปในหน้าผาหากไปในเส้นทางนั้นก็อาจถูกตามทันได้ขณะที่วิ่งหนี ลั่วชิงยวนก็แหงนหน้ามองตามผนังหินไปด้วยในที่สุดก็พบทางเข้าถ้ำแห่งหนึ่งแม้จะสูงไปสักหน่อยแต่ทางขึ้นไปก็มิได้ชันมาก ปีนป่ายขึ้นไปก็ได้แล้ว“ปีนขึ้นไปทางนั้น!”เมื่อ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1405

    สิ่งที่อยู่ในโลงเริ่มสั่นไหวรุนแรงจนเกิดเสียงดังสนั่น และโลงศพก็ระเบิดออกในที่สุดทันใดนั้น ศพชายคนหนึ่งก็ลุกขึ้นมาบีบคอฝูเหมิ่งไว้สิ่งที่เป็นกึ่งคนกึ่งผีทั้งสองเริ่มต่อสู้กันลั่วชิงยวนสังเกตอยู่ครู่หนึ่งก็พบว่า ชายคนนั้นก็ดุร้ายเช่นกันและเป็นสิ่งที่อันตรายมากทั้งสองเข้าโรมรันต่อสู้กันอย่างดุเดือดเนื่องจากศพชายคนนั้นฉุดรั้งฝูเหมิ่งไว้ ลั่วชิงยวนจึงหยิบเข็มทิศอาณัติสวรรค์ขึ้นมาสังเกตการณ์ในถ้ำแห่งนี้อย่างเงียบ ๆแท้จริงแล้วที่นี่คือหนึ่งในจุดรวมพลังศพของอวี๋ตันเฟิ่งก็ควรจะอยู่ที่นี่ ไม่มีทางผิดพลาดแน่แต่ถ้ำแห่งนี้มีขนาดเล็กเพียงเท่านี้ มองปราดเดียวก็เห็นทั่วแล้ว ไม่มีที่ให้เข้าไปลึกกว่านี้แล้วลั่วชิงยวนถือเข็มทิศมองอยู่นาน และทันใดนั้นดวงตาของนางก็พลันเป็นประกายใต้พื้นถ้ำ!เมื่อมองไปยังใต้โลงศพก็พบว่าเป็นจานกลมขนาดใหญ่ น่าจะขยับได้เมื่อคิดได้เช่นนั้น ลั่วชิงยวนก็เริ่มค้นหาตัวไขกลไก ในที่สุดสายตาก็ไปหยุดอยู่ที่รูปปั้นหินบนผนัง“พวกเจ้าช่วยคุ้มกันข้าหน่อย!”ลั่วชิงยวนหยิบเชือกออกมาคล้องที่เอวพร้อมมัดไว้ก่อนจะส่งปลายเชือกให้อาถู่และโฉวสือชีถือไว้จากนั้นนางก็กระโจนไ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1404

    โฉวสือชีชะงักไปครู่หนึ่ง “มีทางลงไปจากหน้าผาด้วยหรือ?”ลั่วชิงยวนพยักหน้าหลังจากที่ทั้งสามพักผ่อนเพียงพอแล้วก็ออกเดินทางต่อมุ่งหน้าลงจากเขาไปเมื่อเดินไปได้ประมาณหนึ่งชั่วยาม ลั่วชิงยวนก็พาพวกเขามาถึงเชิงผา ที่นี่มีหน้าผาสูงชันทั้งสองด้านและด้านล่างเป็นลำธารตื้น ๆ สายหนึ่งพวกเขาก้าวเท้าไปตามลำธาร เดินไปข้างหน้าอย่างช้า ๆที่นี่อากาศหนาวเย็นจัด หนาวจนมือเท้าชาเลยทีเดียวทางเดินบางครั้งก็กว้าง บางครั้งก็แคบ แสงสว่างบางครั้งก็สว่างจ้า บางครั้งก็สลัวเดินไปนานมาก ในที่สุดด้านหน้าก็ปรากฏร่างหนึ่งศพของหงไห่นั่นเองเมื่อตกลงมาจากที่สูงเช่นนั้นจึงมิเหลือแม้แต่ซากศพที่สมบูรณ์...ลั่วชิงยวนหดหู่ใจ หยิบยันต์รวมวิญญาณออกมาแล้วนำขวดออกมาบรรจุวิญญาณของหงไห่แล้วใส่ไว้ในกระเป๋าโฉวสือชีและคนใบ้ค้นบริเวณนี้มาครู่หนึ่งแล้วเมื่อกลับมาถึง ทั้งสามก็สบตากัน สีหน้าหนักอึ้งไปตามกัน“ฝูเหมิ่งยังมิตาย”พวกเขามิพบศพของฝูเหมิ่งเรื่องนี้อยู่ในความคาดหมายของลั่วชิงยวนอยู่แล้ว เพราะท้ายที่สุด ในร่างของฝูเหมิ่งในตอนนี้คือโหยวจิ้งเฉิงแต่เมื่อตกลงมาจากที่สูงขนาดนั้น ร่างกายของฝูเหมิ่งก็น่าจะได้ร

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status