Share

บทที่ 991

Author: หูเทียนเสี่ยว
พอได้ยินคำพูดจั๋วซือหราน สีหน้าเซี่ยอวิ๋นเหนียงก็เปลี่ยนไปทันที

ต่อในนางจะพอเข้าใจคร่าวกับคำว่า 'ผู้ทดลองยา' ก็ตาม แต่จากท่าทีต่อตระกูลเซี่ยของจั๋วซือหราน เซี่ยอวิ๋นเหนียงเองก็พอคาดเดาได้ เช่นนั้นจะต้องไม่ดีเท่าไรแน่ ไม่ใช่เรื่องที่ดีกับจั๋วหวายนัก

เซี่ยอวิ๋นเหนียงถามเสียงขรึม "ข้าก็ไม่ค่อยเข้าใจนัก แต่จากชื่อแล้วก็พอจะเดาออก ดังนั้น หรานหราน...ความหมายของเจ้าคือ เสี่ยวหวายถูกคนวางแผนหลอกลวงจนกลายเป็น 'ผู้ทดลองยา' ที่ไร้ค่าหรือ?"

ตาของจั๋วซือหรานลึกซึ้ง "นี่เป็นการคาดเดาที่เลวร้ายสุดของข้า"

เซี่ยอวิ๋นเหนียงสีหน้าซีดไป "ข้าคลอดเจ้ามาข้าเข้าใจดี ว่าในใจเจ้าถ้าไม่มั่นไปแปดส่วน จะไม่มีทางพูดออกมา...ในเมื่อเจ้าพูดมาเช่นนี้ เช่นนั้นก็คงจริงไปกว่าครึ่งแล้ว"

จั๋วซือหรานอ้าปาก แต่ก็ไม่พูดอะไรออกมา

ในเมื่อตามหลักการแล้ว ตนเองไม่ใช่เซี่ยอวิ๋นเหนียงคลอดออกมาหรอก แต่ก็ยังอดพูดไม่ได้ ว่าลึกแล้วก็มีวาสนาอยู่ระดับหนึ่ง ตอนนี้เซี่ยอวิ๋นเหนียงพูดถึงนิสัยนางได้ถูกต้อง

พูดได้แค่ว่าแม่รู้จักลูกสาวดีที่สุดสินะ

จั๋วซือหรานก่อนหน้านี้เพราะกังวลอารมณ์ของแม่ ดังนั้นจึงพูดออกมาค่อนข้างอ้อมค้อม

แต่ตอนนี้
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 992

    "ท่านกับเสี่ยวหวายกินยาลูกกลอนที่ข้าหลอม ถ้าหากบอกว่าเป็นโรคอะไร ข้าเองก็ยังเชื่ออยู่ แต่นี่...ไม่คุ้นกับสภาพแวดล้อมรึ? เป็นไปไม่ได้" จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้นเสียงเรียบ "และไม่รู้ว่าเสี่ยวหวายถูกใครวางแผนอะไรใส่ ถึงต้องใช้วิธีนี้เพื่อให้เขาอยู่ในเมืองอวิ๋นหลิว ไม่ให้เขากลับมาเมืองหลวง"จั๋วซือหรานพูด ดวงตาหรี่ลง "ข้าสงสัยว่า ต่อให้ตระกูลเซี่ยที่อวิ๋นหลิว คงจะไม่รู้จักความเจ้าอารมณ์ของจั๋วซือหรานอย่างข้า แต่ตระกูลของคุณหนูป่วยคนนั้น หรือก็คือเจ้าพวกสำนักกะโหลกกะลา บางทีอาจจะเคยได้ยินชื่อข้าบ้าง อาจจะรู้ว่าข้ารับมือยาก เสี่ยวหวายถ้าหากกลับมาถึงเมืองหลวง ไม่นานข้าคงจะสังเกตเห็นความผิดปกติ ดังนั้นจึงให้ตระกูลเซี่ยหาเหตุผลให้เสี่ยวหวายอยู่ที่อวิ๋นหลิวต่อ"ความเร็วการพูดของจั๋วซือหรานไม่รีบไม่ร้อน พูดมาอย่างต่อเนื่อง แม้จะแค่การคาดเดา แต่ในการคาดเดานาง เส้นตรรกะทั้งหมดก็แจ่มชัดขึ้นเรื่อยๆ"ถ้ารู้แต่แรกก็ไม่ไปแล้ว" คิ้วของเซี่ยอวิ๋นเหนียงขมวดขึ้นมา"ท่านแม่อย่าโทษตัวเอง""ตอนนี้จะทำอย่างไรดี?" เซี่ยอวิ๋นเหนียงถามขึ้นจั๋วซือหรานคิดๆ "ท่านแม่ ท่านเล่ากับข้าให้ละเอียดหน่อย ถึงเรื่องหลังจากพาเส

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 993

    หลงซ่งประสานมือกับจั๋วซือหราน เอ่ยขึ้นว่า "แม่นางจิ่ว พวกเราเองวันนี้ก็เพิ่งทราบ ว่าน้องชายท่านจะถูกพากลับไปที่สำนักเมฆาวารีแล้ว"พอสิ้นเสียงหลงซ่ง ก็ได้ยินเสียงกร๊อบดังขึ้น!ถ้วยชาในมือจั๋วซือหรานแตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย สีหน้านางไม่เหลือความอบอุ่นใดอีก ถามขึ้นว่า "เจ้าว่าอะไรนะ"หลงซ่องเองก็มองออกถึงอารมณ์ของจั๋วซือหราน เขาชะงักไป จากนั้นจึงเอ่ยซ้ำขึ้นอีกครั้ง "น้องชายของท่านจะถูกพากลับสำนักเมฆาวารีแล้ว"จั๋วซือหรานนิ่งงันไปพักหนึ่ง จึงถามขึ้นเสียงต่ำว่า "เรื่องนี้...เป็นข่าวตั้งแต่ตอนไหน ถ้าคำนวณจากความเร็วในการส่งสารของหอเฟิ่งเสวี่ย"หลงซ่งรู้ว่านางพบจุดสำคัญของเรื่องนี้แล้วในชั่วพริบตาหลงซ่งตอบว่า "อย่างช้าสุดคือไม่เกินสามวัน ด้วยความเร็วการส่งสารของหอเฟิ่งเสวี่ย"จั๋วซือหรานหัวเราะเย็นชาขึ้นมา "สามวัน...ตอนนั้นแม่ของข้าคงเพิ่งจะออกเดินทางจากอวิ๋นหลิวมาเมืองหลวง หรือก็คือ พอแม่ข้าออกจากอวิ๋นหลิว ตระกูลเซี่ยอย่างพวกเขาก็จัดแจงให้น้องชายข้าทันทีสินะ"หลงซ่งขานรับคำหนึ่ง "น่าจะเป็นอย่างที่แม่นางคาดการณ์""ดี ดีเหลือเกิน" สายตาจั๋วซือหรานไม่เหลืออุณหภูมิใดอีก นางลุกขึ้นยืน "ข

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 994

    พอได้ยินคำนี้ของนาง เฉวียนคุนก็เอียงตามองนาง ยิ้มขึ้นมาจั๋วซือหรานเห็นสายตาที่เอียงมากับรอยยิ้มเขา ก็เอ่ยขึ้นอย่างจนใจว่า "สายตาอะไรของเจ้ากัน ข้าพูดเรื่องจริงนะ"เฉวียนคุนโบกไม้โบกมือ "นายท่านไม่ต้องมาขู่ข้า"จั๋วซือหราน "..."เฉวียนคุนเอ่ยด้วยรอยิ้ม "ด้วยความฉลาดหลักแหลมกับการวางแผนได้ละเอียดรอบของของท่าน ในเมื่อวางใจไปที่หลวนหนาน ก็อธิบายได้แล้วว่าในเมืองหลวง ท่านไม่ได้มีแค่เฉวียนคุนคนเดียวเท่านั้น""ข้าเป็นแค่คนไม่สำคัญ ติดตามนายท่านคอยดูแลเรื่องในเรือนยังพอไหว แต่จะให้ข้าไปวุ่นกับเรื่องธุรกิจนี่ ข้าคงไม่ไหว ข้ารู้ตัวเองดี"เฉวียนคุนยิ้มๆ มองจั๋วซือหราน "ดังนั้น ข้าจะติดตามนายท่านไปหลวนหนานด้วย ไม่ว่าจะยอู่ในเรือนเล็กหรือว่าใหญ่ ข้าก็ยังมองท่านเป็นนายท่านอยู่วันยังค่ำ "จั๋วซือหรานหลังจากได้ยินคำพูดของเฉวียนคุน ก็ไม่ได้พูดอะไรอีก หลังจากนิ่งงันไปครู่ใหญ่จึงเอ่ยขึ้นว่า "ช่างเถอะ แล้วแต่เจ้าละกัน"นางเบ้ปาก "เจ้าคนไม่ยอมก้าวหน้า"เฉวียนคุนตอบกลับอย่างเริงร่า "เดิมทีข้าก็แค่อยากจะอยู่ข้างกายนายท่านเท่านั้น ไม่ได้อยากจะก้าวหน้าอะไร"จั๋วซือหรานมองเขา "แต่ว่าเจ้าพูดผิดไปคำหนึ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 995

    นางหยวนถูกจั๋วซือหรานทำให้เกิดความหวาดกลัวทางจิตใจขึ้นมาแล้ว ดังนั้นพอได้ยินเสียงจั๋วซือหราน ก็ตัวสั่นขึ้นมาทันทีไม่ว่าเป็นใครหลังจากที่ตายไปด้วยมือคนหนึ่งคนแล้วถูกดึงชีวิตกลับมา พอได้เจอคนนี้อีกครั้ง ก็น่าจะเป็นเช่นนี้กันหมด รู้สึกหวาดกลัวเหมือนเจอผีร้ายอย่างไรอย่างนั้นนางหยวนพอได้ยินเสียงของจั๋วซือหราน ทั่วร่างก็ตัวสั่นพังพาบไปหมด คำถามต่อตัวเซี่ยหมิงอี้ก่อนหน้า ก็ยังไม่สามารถตอบกลับไปได้อย่างถูกต้องตอนนี้กลับเข้าไปหลบด้านหลังเซี่ยหมิงอี้ จ้องเขม็งที่จั๋วซือหรานอย่างหวาดๆ น้ำเสียงเองก็อ่อนลงมา "เจ้า เจ้า...คิดจะทำอะไร?"จั๋วซือหรานเดินไปตรงหน้าพวกเขา วางมือไว้ด้านหน้าท่อนแขนดูแล้วก็เรียวยาวอ่อนนุ่ม นิ้วก็ขาวนวลราวต้นหอม เป็นสองมือที่ดูดีมากแต่ในสายตาของนางหยวน กลับคิดออกได้แค่สองมือนี้บีบคอนางไว้อย่างไรจนขาดอากาศหายใจ"ข้าคิดจะทำอะไร? ข้าก็แค่จะให้น้องชายข้ากลับมา แค่นั้นเอง "จั๋วซือหรานมองนางหยวน ได้ยินคำพูดท่านก่อนหน้านี้ คุณหนูสำนักนั่นก็ดูไม่เลวเลยนี่..."นางหยวนไม่กล้าส่งเสียง ไม่กล้าพยักหน้าและไม่กล้าส่ายหัว จ้องเขม็งจั๋วซือหรานอยู่อย่างนั้นจั๋วซือหรานเอ่ยต่อ "ใน

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 996

    จั๋วซือหรานขี้เกียจจะพูดไร้สาระกับนาง จึงเอ่ยแค่ว่า "แม่ข้าอัธยาศัยดี จนอาจทำให้พวกท่านเข้าใจว่าข้าก็พูดจาง่ายเหมือนาง แต่ความเป็นจริงจะทำให้พวกท่านผิดหวังแน่"เสียงนางเย็นลงมาทีละนิดๆ "ดังนั้นทางที่ดีก็ภาวนาไว้ว่าให้น้องชายข้าปลอดภัย ไม่เช่นนั้น..."นางหยวนได้ยินนางพูดถึงตรงนี้แล้วก็หยุดไปหลังจากนั้น อิฐหินที่นูนออกมาก้อนหนึ่งบนกำแพงข้างๆ นาง ก็ถูกบดเป็นผงภายใต้พลังนิ้วของนาง ร่วงกราวลงกับพื้น"ข้าจะให้ท่านตายแล้วก็ฟื้นกลับมา แต่ไม่ใช่ทุกครั้งที่จะมีอารมณ์แบบนี้" จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้น ปัดๆ ผงฝุ่นบนมือออก ไม่พูดอะไรอีก กลอกตามองไปทางเซี่ยหมิงอี้ "ลุงใหญ่ ออกมากับข้าเถอะ"เซี่ยหมิงอี้เดิมทีก็กำลังคิด ว่าจะอธิบายกับหลานสาวที่เก่งกาจคนนี้ของเขาอย่างไรดีว่าตนเองไม่รู้เรื่องนี้เลย ไม่รู้เรื่องด้วยจริงๆคิดไม่ถึงว่ายังไม่ทันเอ่ยปาก นางก็เรียกเขาออกมาเสียแล้วเซี่ยหมิงอี้ไม่พูดอะไรเยอะ แค่เดินตามนางออกไปจากคุกเงียบๆหลังออกมา เซี่ยหมิงอี้จึงกลั่นกรองคำพูดออกมาคำหนึ่ง "หราน...ใต้เท้าโหว เรื่องนี้ข้าไม่รู้เรื่องด้วยจริงๆ"กระทั่งคำเรียกก็ยังเปลี่ยนเสียใหม่จั๋วซือหรานมองเขาผาดหนึ่ง "ลุ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 997

    "หราน หรานหราน..." เซี่ยหมิงอี้ตระหนักได้ถึงแผนล่วงหน้าของเซี่ยหมิงหยวน ไม่ว่าจะมองอย่างไรก็คือตระกูลเซี่ยเสียหาย ขนาดที่เขาพูดจาก็ยังตะกุกตะกักขึ้นมาแล้วสีหน้าจั๋วซือหรานยังพอไหว ไม่ได้ปั้นยากอย่างที่เขาคิดเอาไว้น้ำสเียงนางฟังแล้วนิ่งมาก ไม่มีอารมณ์ตื่นเต้นอะไรเลย เอ่ยขึ้นว่า "ลุงใหญ่ไม่ต้องเครียดไป ขอแค่เรื่องนี้ท่านไม่ได้ร่วมด้วย ข้าจะไม่ย้ายความโกรธไปหาหาคนบริสุทธิ์แน่นอน"เซี่ยหมิงอี้อ้าปากพะงาบ ท้ายสุดจึงได้แค่ถอนหายใจจั๋วซือหรานเอ่ยขึ้นว่า "เอาล่ะ ดังนั้นพวกเราก็มาหารือเรื่องธุรกิจดีกว่า รอคุยทางนี้กับท่านเสร็จ ข้ายังมีธุรกิจอื่นต้องคุยอีก ถึงจะไปที่สำนักเมฆาวารีได้อย่างวางใจ"เซี่ยหมิงอี้ได้ยินคำพูดนาง รู้สึกแค่ว่า ยอดเยี่ยมมากจริงๆจั๋วซือหรานร่างแผนรายละเอียดธุรกิจวัตถุดิบยาเอาไว้แล้ว เดิมทีแค่ให้เซี่ยหมิงอี้อ่านสักรอบก็พอยิ่งไปกว่านั้นเดิมทีจั๋วซือหรานก็ยอมลดกำไรที่จั๋วให้กับตระกูลเซี่ยไปไม่น้อยเพียงแต่ว่าพอผ่านเรื่องของเสี่ยวหวาย การยอมลดให้ที่เตรียมไว้แต่เดิมจึงไม่คิดจะลดให้แล้วยิ่งไปกว่านั้นการฆ่าคนมันทำร้ายจิตใจ ดังนั้นพูดจาก็ต้องให้ชัดเจนจั๋วซือหรานพูดเ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 998

    "ได้" เซี่ยหมิงอี้พยักหน้า คิดๆ จึงถามขึ้นมาอย่างทนไม่ไหวหรานหราน แล้วป้ารองเจ้ากับคนใช้พวกนั้น...จั๋วซือหรานยิ้มเรียบๆ "เรื่องนี้ลุงใหญ่ไม่ต้องกังวล ท่านพักผ่อนในเรือนอย่างวางใจก็พอ เหล่าคนใช้จะดูแลท่านอย่างดี ส่วนป้ารอง...?" อีกเดี๋ยวข้าจะพาไปด้วยกัน ถ้าเสี่ยวหวายไม่เป็นไรก็จบเรื่อง แต่ถ้าเสี่ยวหวายเป็นอะไรขึ้นมา พวกเขาทั้งตระกูลจะต้องตายไปด้วยกันเซี่ยหมิงอีได้ยินน้ำเสียงนางและเห็นใบหน้านางตอนที่นางพูด กระทั่งมีรอยยิ้มจางๆ ออกมาด้วย!แค่คำง่ายๆ ไม่กี่คำ ก็กำหนดความเป็นความตายของพวกเซี่ยหมิงหย่วนแล้วในใจก็อดทอดถอนออกมาไม่ได้ เซี่ยหมิงหย่วนครั้งนี้เตะกับแผ่นเหล็กเข้าอย่างจังเลย...จั๋วซือหรานหลังจากจัดการธุรกิจนี้จนชัดเจนแล้ว ก็ใช้เวลาอีกหนึ่งวันหนึ่งคืน อ่านบัญชีของตระกูลจั๋วไปรอบหนึ่งบัญชีที่ยุ่งเหยิงต่างๆ ทำเอานางปวดหัวมากหลังจากเอาพวกที่ทำบัญชียุ่งเหยิงนั่นเข้ามา ในห้องโถงบรรพบุรุษตระกูลจั๋ว เสียงแส้กับเสียงกรีดร้องก็ดังก้องไปทั้งวัน...จั๋วอวิ๋นฉีหิ้วดคมเดินมาส่งนางที่ประตู ถอนหายใจเอ่ยขึ้นว่า "เสียวจิ่ว ลำบากเจ้าเสียแล้ว"จั๋วซือหรานเอียงตาเหลือบมองเขา ไม่ได้แสดงออก

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 999

    จั๋วอวิ๋นฉีได้ยินคำพูดนางก็ตกตะลึง เอ่ยขึ้นทันที่ว่า "เขาเคยมาหาเจ้าหรือ?"จั๋วซือหรานหัวเราะเสียงเรียบ "แค่นั้นที่ไหน เข้ามาขอข้าแต่งงานด้วยนะ"จั๋วอวิ๋นฉีตาเบิกกว้าง "เสียวจิ่ว เจ้าต้องระวังคนคนนี้ไว้ หลังจากที่ข้าออกจากตระกูลจั๋ว อยู่ที่พรมแดนใต้มานาน ดังนั้นจึงค่อนข้างได้ยินกิตติศัพท์เขามา""เนื่องจากได้รับการสืบทอดวิชากู่วิชาพิษจากของหุบเขาหมื่นพิษมาตั้งแต่เด็ก พอสัมผัสกับพิษกู่ต่างๆ เป็นเวลานาน นิสัยก็เปลี่ยนไปเป็นแปลกประหลาด อารมณ์แปรปรวน อันตรายมาก""ยิ่งไปกว่านั้น เขากับเฟิงเหยียนก่อนหน้านี้ก็เหมือน..." จั๋วอวิ๋นฉีเดิมทีไม่คิดจะเอ่ยถึงเฟิงหราน เพื่อไม่ให้ไปยั่วอารมณ์ของเสียวจิ่วตอนนี้พอพูดชื่อนี้ขึ้นมา ก็เหลือบมองไปยังสีหน้าของจั๋วซือหรานสีหน้ากลับเป็น...ไม่แสดงท่าทีใดเลยกระทั่งเขาพูดถึงตรงนี้แล้วหยุดลงมา ยังเห็นสายตาจั๋วซือหรานที่มองเข้ามา มีการเฝ้ารออยู่ด้วยซ้ำราวกับกำลังถามว่า 'กับเฟิงหรานเหมือนอะไร หลังจากนั้นล่ะ?'จั๋วอวิ๋นฉีเดาว่าอารมณ์ของเสียวจิ่วไม่น่าได้รับผลกระทบอะไร บางทีอาจจะไม่ได้ส่งผลกระทบมากก็เลยเอ่ยต่อว่า "ข้าก็แค่ได้ยินมา ปันอวิ๋นก่อนหน้านี้เคย

Latest chapter

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1022

    เสียงของฉุนจวินเย็นลงไปอีก "ข้าไม่อยากพูดไร้สาระกับพวกเจ้า หลีกไป นายท่านของข้าคือเฟิงเหยียน ถ้าหากนายท่านจะลงโทษอะไรพวกเรา พวกเราก็จะไม่ปริปากบ่น แต่ก่อนหน้านั้น พวกเราไม่ใช่ว่าใครจะมารังแกกันได้"ฉุนจวินบอก เสียงชิ้งดังขึ้น! ชักดาบยาวออกมาแล้ว องครักษ์เงาคนอื่นเองก็ทยอยกันชักอาวุธออกมาฉุนจวินมองกลุ่มลาดตระเวนห้าคนตรงหน้านี้อย่างเย็นชา บอกว่า "อย่างมากก็แค่เชือดพวกเจ้าทิ้ง แล้วค่อยมาดูว่าจะโดนโทษแบบไหน แค่ลงโทษพวกเราไม่กลัวหรอก ข้าจะคอยดูพวกเจ้า ถ้าไม่มีชีวิตแล้วยังจะทำอะไรได้อีก"พอได้ยินคำพูดของฉุนจวิน พวกของกลุ่มลาดตระเวนก็เริ่มมีอาการจะถอยให้อย่างชัดเจนเพียงแต่ดูเหมือนว่า ยังพยายามจะแสดงท่าทีแข็งกร้าวแต่ใจจริงอ่อนแอตอบมาว่า "พวกเจ้าต่อให้กลับมา! ก็ยังมีความผิดติดตัวอยู่! ยังกล้ามาพูดแบบนี้กับเราอีก! ไปเถอะ! พวกเจ้ามัดตัวเองไปหาซื่อจื่อโน่นเลย ข้าจะดู ว่าซื่อจื่อจะลงโทษอะไรพวกเจ้า..."พอสิ้นเสียงคนของกลุ่มลาดตระเวนเสียงเย็นชาเสียงหนึ่ง ก็ดังลอดเข้ามาจากข้างๆ ฟังแล้วไม่มีความอบอุ่นใด ไม่มีอารมณ์ใดด้วย"ฟังน้ำเสียงเจ้าแล้ว ถ้าข้าไม่ลงโทษพวกเขา พวกเจ้าเองก็ตั้งใจจะจัดการข้า

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1021

    พอได้ยินคำนี้ของจั๋วซือหราน เหล่าองครักษ์เงาเดิมทียังอยู่ในท่ากิน ก็ล้วนชะงักนิ่งกันหมด"แม่นาง..."ฉุนจวินงึมงำเรียกนางขึ้นมาจั๋วซือหรานยิ้มให้เขา "เจ้าไม่ต้องคิดมาก ข้าไม่ได้มีความหมายอื่นอะไร เพียงแต่ข้าเข้าใจว่าพวกเจ้าภักดีต่อตัวเขามาก"ฉุนจวินเอ่ยว่า "ความภักดีต่อนายท่านของพวกเรา ไม่ได้ขัดแย้งกับความภักดีต่อแม่นางของพวกเรา กระทั่งว่า ถ้าต้องให้พวกเราเลือก บางทีทุกคนอาจจะเลือกแม่นางหมดก็ได้"อย่างน้อยภายใต้สถานการณืที่จั๋วซือหรานไม่ได้รังเกียจอะไรเฟิงเหยียน พวกขเาก็เลือกจะยืนข้างจั๋วซือหราน"ข้ารู้" จั๋วซือหรานพยักหน้า "เพียงแต่ว่า ข้าจะออกจากเมืองหลวงแล้ว หลวนหนานมีสถานการณ์แบบไหน ตอนนี้ก็ยังไม่รู้ ยิ่งไปกว่านั้น ข้ายังต้องไปที่สำนักเมฆาวารีก่อนด้วย ให้ข้าพาคนมากขนาดนี้ไป เดิมทีก็ไม่สมเห็นสมผลเท่าไร""ในจวนถึงแม้จะต้องการคนคอยคุ้มกัน และยังต้องการคนคุ้มกันแม่ข้า แต่ก็ไม่จำเป็นต้องมีมากขนาดนี้" จั๋วซือหรานพูดพลางเม้มปากเบาๆ มองฉุนจวิน "ข้างกายเขาตอนนี้คนที่ใช้ได้ไม่มีเลยสักคน"ฉุนจวินพอได้ยินคำพูดจั๋วซือหราน ก็เข้าใจขึ้นมาแล้วเขาถอนหายใจออกมาเบาๆ ที่สุดท้าย แม่นางจิ่วก็ยัง

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1020

    แต่ก็ไม่แปลก เพราะว่าพวกเขาล้วนรู้ว่าซื่อจื่อกับจั๋วจิ่วก่อนหน้านี้ใกล้ชิดกันมาก ดังนั้นจึงรู้สึกระวังตัวขึ้นมา คิดแค่ว่าซื่อจื่อจะช่วยจั๋วจิ๋วไหมและพอผ่อนลมหายใจ เพราะพวกเขารู้ว่าซื่อจื่อจำนางไม่ได้ไปนานแล้ว มีแต่นางที่ยังคิดไปเองฝ่ายเดียวคนของกลุ่มลาดตระเวนล้วนมองไปยังเฟิงเหยียนมุมปากจั๋วซือหรานยกขึ้นเป็นเส้นโค้งลางๆ "ทำไมหรือ? ท่านอ๋องจะลงมือกับข้ารึ?"เฟิงเหยียนไม่ตอบคำนี้ แค่กวาดตามองกลุ่มลาดตระเวนนี้อย่างเย็นชาผาดหนึ่ง "ยังไม่ไปนี่คือคิดจะลงมือกับนางจริงรึ?"หัวหน้ากลุ่มลาดตระเวนตอบสนองขึ้นมาฉับพลัน ซื่อจื่อมาคลี่คลายให้พวกเขาแล้วส่วนใหญ่ก็รู้อยู่ว่าถ้าลงมือกับนาง พวกเขาไม่พูดก็คงได้ตายกันอย่างไม่ต้องสงสัยแน่ อย่างน้อยก็ไม่มีความหวังที่จะชนะได้เลยลังเลเพียงครู่เดียว พวกเขาก็ออกไปกันจั๋วซือหรานเองก็ไม่คิดที่จะไล่ไปโจมตี นางไพล่มือไว้ด้านหลัง ยืนเงียบๆ อยู่กับที่ ดูแล้วเหมือนกำลังเดินผ่อนคลายอยู่ในสวยหลังบ้านตนเองอย่างไรอบ่างนั้น"ได้ยินว่าเจ้าจะออกจากเมืองหลวงแล้ว" เฟิงเหยียนเอ่ยขึ้นจั๋วซือหรานพอได้ยินก็ยกมุมปากยิ้ม "ก็เหมือนกันนั่นล่ะ ได้ยินว่าท่านอ๋องเองก็จะออกจ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1019

    จวนตระกูลเฟิงช่วงกลางดึก ยังคงดูคึกคักกลุ่มลาดระเวนของจวนตระกูลเฟิงแต่เดิมยังไล่ตามผู้บุกรุกจวนไม่ได้ ค้นหาไปจนทั่วทุกซอกมุมแล้วจึงเห็นร่างสีแดงร่างหนึ่ง เดินเข้ามาทางพวกเขาอย่างหยิ่งผยองคนของกลุ่มลาดตระเวนพอเห็น เบื้องหน้าก็มืดบอดไป!ทำไมถึงเป็นนางปีศาจนี่อีกแล้วล่ะ?!นางไม่ใช่ว่าไม่มาเล่นที่บ้านตระกูลเฟิงตังนานแล้วหรือ? ทำไมถึงมาอีกแล้วกัน?!ยิ่งไปกว่านั้นนางปีศาจคนนี้ นางมีท่าท่าที่แอบเข้ามาบ้านคนอื่นอย่างลับๆ ล่อๆ เสียที่ไหน?นี่นางปรากฏตัวอย่างหยิ่งผยองเลยต่างหาก!ยืนอยู่ตรงหน้าพวกเขา กระทั่งยังโบกมือให้พวกเขาด้วย "ไม่เจอกันตั้งนาน"คนของกลุ่มลาดตระเวน หน้าดำคร่ำเครียดไปหมด! อะไรคือไม่เจอกันตั้งนาน?!ใครอยากเจอนางกัน!"จั๋วจิ่ว! เจ้าบังอาจนักนะ ถึงกับกล้าบุกเข้ามาจวนตระกูลเฟิงอีกครั้ง!" หัวหน้ากลุ่มลาดตระเวนตะคอกขึ้นมาจั๋วซือหรานคิดๆ "ก่อนหน้านี้ข้าก็มาบ่อยๆ คุ้นหน้ากันแล้วนี่ เจ้าไม่ต้องใช้น้ำเสียตกใจขนาดนี้ก็ได้ ช่วงนี้ข้าก็แค่มีเรื่องเยอะจนทำให้ล่าช้าไปเท่านั้น"คนของกลุ่มลาดตระเวนล้วนตะโกนกันในใจ! ถึงอย่างไรก็ล่าช้าไปแล้วนี่! เจ้าไม่ต้องมาอีกเลยก็ได้!จั๋วซือ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1018

    เฟิงอวี้มองขวดสุราผาดหนึ่ง สายตาก็เหมือนล่องลอยไปไกล แฝงไปด้วยความคิดคะนึง"ข้าดื่มสุรานี้ ไม่เดี่ยวกับอะไรกับพลังศักดิ์สิทธิ์หงส์แดง" ปลายนิ้วเฟิงอวี้นวดคลึงเบาๆ บนขวดสุรา ลายมือที่สลักอยู่บนขวดสุรา เลือนลางจนมองไม่ชัดไปตามกาลเวลาต้องมองอย่างละเอียด ถึงจะเห็นว่า ด้านบนสลักคำว่า 'เสวี่ย' ไว้คำว่าเสวี่ยจากชื่อเสวี่ยเจินแม่ของเฟิงเหยียน"ตอนนั้นข้าถูกพลังศักดิ์สิทธิ์ทรมาน ทุกวันเจ็บปวดแสนสาหัส แม่ของเจ้าก็คิดหาทุกวิถีทาง ถึงได้ทำสุราเหมันต์นี้ออกมาได้ บวกกับอักขระคำสาปพิเศษ จึงสามารถข่มพลังศักดิ์สิทธิ์ที่ทำร้ายตัวเองนี้ได้ในระดับหนึ่ง"เฟิงอวี้ทั้งที่พูดถึงความเจ็บปวดในอดีตแท้ๆ แต่อดีตพวกนั้นก็เคยเป็นช่วงเวลาที่เขาใช้ชีวิตกับภรรยาด้วย ดังนั้นบนหน้าเขาจึงไม่มีสีหน้าความเจ็บปวดแม้แต่น้อย แต่กลับดูอ่อนโยนเสียด้วยซ้ำไปเฟิงเหยียนพอได้ยินคำนี้ก็รู้สึกประหลาดใจ อันที่จริงก่อนหน้านี้ตอนที่เขาอยู่ในมุมมืด ก็ได้ยินเนื้อหาเหล่านั้นที่ท่านพ่อบอกกับจั๋วจิ่ว นั่นมันก็ประหลาดมากแล้ว...ไม่สิ คำพูดเหล่านั้นสำหรับเขา บางทีน่าจะเป็นการพลิกผันทำให้ความคิดและความเชื่อที่ฝังลึกมานานหลายปีพลิกผันไปอ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1017

    ตอนที่เฟิงอวี้มีปฏิกิริยาถึงความหมายในคำพูดนาง เจ้าเด็กคนนี้ก็กระโจนหนีไปทางยอดไม้แล้วตอนนี้มันใช่ปัญหาเรื่องนามสกุลของลูกหรือ!เฟิงอวี้แค่รู้สึกว่าหนังหัวตึงขึ้นมา ก่อ่นหน้านี้บางทีคงไม่ทันสังเกต แต่ตอนนี้ ตัวตนของสายตาที่จับจ้องอยู่ด้านหลังนั้นเพิกเฉยไปไม่ได้เลยไม่รู้ว่ามาตั้งแต่ตอนไหน และไม่รู้ว่าฟังอยู่นานแค่ไหน ฟังไปมากแค่ไหนพอเฟิงอวี้หมุนตัว ก็เห็นว่าในมุมมืดไม่ห่างไปนัก ร่างสูงโปร่งร่างหนึ่งยืนอยู่ตรงนั้น เสื้อผ้าสีดำบนตัว เดิมทีก็ดูไม่เด่นอยู่แล้ว พอบวกกับการที่เขาเก็บงำตัวตนอย่างสมบูรณ์แบบดังนั้นจึงยิ่งทำให้คนสังเกตเห็นได้ยาก เฟิงอวี้ตอนนี้ก็เพิ่งจะจับได้ถึงตัวตนเขาพอคิดถึงคำพูดเหล่านั้นก่อนที่จั๋วจิ่วจะออกไป ก็ฟังออกว่า นางเหมือนจะสังเกตได้นานแล้ว เจ้าเด็กนี่จริงๆ เลย สังเกตเห็นเขาแล้วแท้ๆ ดันไม่เตือนกันเสียหน่อยถ้าเตือนมาสักนิด เขาคงไม่พูดอะไรไร้สาระมากขนาดนี้หรอก ตอนนี้คงไม่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกขนาดนี้เฟิงอวี้มองไปยังเฟิงเหยียนที่ยืนอยู่ในเงามืด ไม่ค่อยเจอจริงๆ บนใบหน้าเย็นชาแต่ไหนแต่ไรของเฟิงอวี้ ที่จะมีสีหน้าประหม่าขึ้นมาแบบนี้"เจ้ามาได้อย่างไรกัน" เฟิงอวี

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1016

    "ใช่ ตระกูลเฟิงจะว่าอย่างไรก็คือมองข้ามเจ้าไป ไม่คิดว่าจะมีตัวตนแบบเจ้า พวกเขาคิดไม่ถึงว่าเจ้าจะดึงดูดพลังศักดิ์สิทธิ์หงส์แดงของเฟิงเหยียนมาใช้กับตนเองได้ นี่เป็นเรื่องที่พวกเขาไม่เคยเจอมาก่อน ดังนั้นจึงรู้สึกว่ายากจะควบคุม ตัดสินใจเลือกปล่อยเจ้าทิ้งไปเสีย"ส่วนเหยียนเอ๋อร์...หลังจากที่รู้ว่าอาจจะทำให้เจ้าต้องบาดเจ็บ จึงเห็นด้วยกับวิธีลบความทรงจำของพวกเขา เขารู้นิสัยเจ้าดี ร้ว่าเจ้ากล้ารักและกล้าเกลียดดังนั้นเขาจึงรู้สึกว่า ขอแค่เขาจำเจ้าไม่ได้ ด้วยนิสัยของเจ้า ไม่มีทางที่จะเอาแต่อยู่กับเขาไม่จากไปไหนแน่นอนถึงแม้ในสายตาคนนอกเจ้าจะดูเหมือนรักเขาอย่างลึกซึ้ง แต่เขาเข้าใจนิสัยแท้จริงของเจ้าดี ดังนั้น เขาทำถึงขนาดนี้แล้ว เจ้าหนีได้ก็ควรจะรีบหนีไปซะ อย่ากระโดดมาลงหลุมอีก ข้าเตือนเจ้าไปตั้งนานแล้วพอฟังคำเหล่านี้ของเฟิงอวี้ จั๋วซือหรานจึงถามว่า "แล้วพวกท่านล่ะ? เฟิงเหยียนเหมือนตัดสินใจจะออกไปท่องเที่ยวนอกเมืองหลวงแล้วนี่?""ใช่ ตระกูลเฟิงถูกตัวตนของเจ้าเล่นงานจนรับมือไม่ทัน ดังนั้นตอนนั้นขอแค่เขาเห็นด้วยกับการลบความทรงจำ ตระกูลเฟิงก็จะเห็นด้วยกับเงื่อนไขที่มากมายของเขา หนึ่งในนั้นคือส

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1015

    จั๋วซือหรานเรียบเรียงความคิดในหัว เรียบเรียงเรื่องราวออกมาให้ชัดเจน เอ่ยออกมาอย่างไม่รีบไม่ร้อน"ท่านไม่รู้ว่าพลังศักดิ์สิทธิ์เป็นเหมือนกับครรภ์พิษ สร้างตราประทับให้กับเฟิงเหยียนตั้งแต่ในครรภ์แม่ ดังนั้นท่านจึงไม่คิดจะให้เขาเป็นแบบท่าน ทรยศเจ้าโชคชะตาที่ยากลำบากนี้ ท่านปั้นเรื่องราวขึ้นมาภายใต้การยอมรับของตระกูลเฟิง"ท่านทำให้เขาเกลียดท่าน กระทั่งดีใจด้วยซ้ำที่มันเป็นเช่นนั้น ก็เพื่อให้ตอนที่เขาออกไปหลังจากนี้ ไม่ถูกท่านถ่วงแข้งขาไว้อีก ดังนั้นเฟิงเหยียนจึงได้ออกไปท่องโลกมานานในช่วงอายุยังน้อย กระทั่ง...เกือบจะได้สัมผัสถึงอิสระแล้วแต่เขาดันกลับมา ทรยศสิ่งที่เรียกว่าโชคชะตา คิดแล้วก็น่าจะเพราะเขาถูกประทับตราพลังศักดิ์สิทธิ์ไปตั้งแต่อยู่ในครรภ์แม่ ถ้าหากโตมาถึงระดับหนึ่ง...บางทีภายใต้เงื่อนไขบางอย่าง ถ้าไม่ได้รับสืบทอดพลังศักดิ์สิทธิ์ ก็อาจจะจบไม่สวยนัก...จั๋วซือหรานพูดถึงตรงนี้ ก็ตั้งใจครุ่นคิดขึ้นมา งึมงำกับตนเองว่า "เงื่อนไขอะไรกันนะ..." นางครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จึงเงยตามองไปทางเฟิงอวี้ ถามขึ้นว่า "กระบี่ประจำตระกูลใช่ไหม"เฟิงอวี้มองนาง ไม่ได้ตอบ แค่ถอนหายใจออกมาเบาๆจั๋วซือห

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1014

    จั๋วซือหรานพอได้ยินเขาพูดถึงจุดนี้ ก็รู้ว่าเรื่องในอดีตเหมือนจะจบลงแล้ว นางก็เหมือนคนที่เพิ่งยกภาระออกจากอก ถอนหายใจยาวออกมาเงียบๆเฟิงอวี้นั่งอยู่บนเก้าอี้ ท่าทางดูแล้วไม่ได้เย็นเยียบเหมือนก่อนหน้าขนาดนั้นแล้วมองออกไม่ยาก เขาก็เหมือนเพิ่งยกภาระออกจากอกเช่นกันมีแต่ฟ้าที่รู้ว่าเขาแบกเรื่องนี้ไว้มานานแค่ไหน คำพูดเมื่อครู่นี้ คือคำตอบที่ให้กับนาง ขณะเดียวกันอาจจะเป็นการปลดปล่อยความรู้สึกตนเองออกมาด้วยก้ได้? จั๋วซือหรานคิดในใจจากนั้นก็คือความงงงัน พอย้อนนึกถึงความคิดนี้อีกครั้ง ก็จริง มีแต่ฟ้าที่รู้ว่าเขาแบกเรื่องนี้ไว้แล้วนานแค่ไหนจั๋วซือหรานเอ่ยขึ้น "เฟิงเหยียนไม่รู้เรื่องนี้เลย" นางใช้น้ำเสียงที่ยืนยัน ถ้าหากเฟิงเหยียนรู้เรื่องนี คงไม่มีทางมีท่าทีแบบนั้นกับพ่อของเขา...ท่าทีที่เหมือนว่าพ่อเป็นต้นเหตุของทุกสิ่งอย่างยิ่งไปกว่านั้น...จั๋วซือหรานขมวดคิ้ว บอกต่ออีกว่า "ตระกูลเฟิงไม่รู้เรื่องนี้ พวกเขาไม่รู้ว่าท่านฟื้นคืนความจำแล้ว...ไม่เช่นนั้นคงไม่มีทางเอาความเสียงอย่างท่านมาไว้ในตระกูล กระทั่งยังให้ความสำคัญเป็นพิเศษด้วย"เฟิงอวี้มองนาง ในดวงตามีสีหน้าเหมือนยิ้มเหมือนไม่ยิ้ม

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status