Share

บทที่ 999

Author: หูเทียนเสี่ยว
จั๋วอวิ๋นฉีได้ยินคำพูดนางก็ตกตะลึง เอ่ยขึ้นทันที่ว่า "เขาเคยมาหาเจ้าหรือ?"

จั๋วซือหรานหัวเราะเสียงเรียบ "แค่นั้นที่ไหน เข้ามาขอข้าแต่งงานด้วยนะ"

จั๋วอวิ๋นฉีตาเบิกกว้าง "เสียวจิ่ว เจ้าต้องระวังคนคนนี้ไว้ หลังจากที่ข้าออกจากตระกูลจั๋ว อยู่ที่พรมแดนใต้มานาน ดังนั้นจึงค่อนข้างได้ยินกิตติศัพท์เขามา"

"เนื่องจากได้รับการสืบทอดวิชากู่วิชาพิษจากของหุบเขาหมื่นพิษมาตั้งแต่เด็ก พอสัมผัสกับพิษกู่ต่างๆ เป็นเวลานาน นิสัยก็เปลี่ยนไปเป็นแปลกประหลาด อารมณ์แปรปรวน อันตรายมาก"

"ยิ่งไปกว่านั้น เขากับเฟิงเหยียนก่อนหน้านี้ก็เหมือน..." จั๋วอวิ๋นฉีเดิมทีไม่คิดจะเอ่ยถึงเฟิงหราน เพื่อไม่ให้ไปยั่วอารมณ์ของเสียวจิ่ว

ตอนนี้พอพูดชื่อนี้ขึ้นมา ก็เหลือบมองไปยังสีหน้าของจั๋วซือหราน

สีหน้ากลับเป็น...ไม่แสดงท่าทีใดเลย

กระทั่งเขาพูดถึงตรงนี้แล้วหยุดลงมา ยังเห็นสายตาจั๋วซือหรานที่มองเข้ามา มีการเฝ้ารออยู่ด้วยซ้ำ

ราวกับกำลังถามว่า 'กับเฟิงหรานเหมือนอะไร หลังจากนั้นล่ะ?'

จั๋วอวิ๋นฉีเดาว่าอารมณ์ของเสียวจิ่วไม่น่าได้รับผลกระทบอะไร บางทีอาจจะไม่ได้ส่งผลกระทบมาก

ก็เลยเอ่ยต่อว่า "ข้าก็แค่ได้ยินมา ปันอวิ๋นก่อนหน้านี้เคย
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1000

    รวมถึงฮั่วจือโจวกับฮั่วชิงหยวนสองพี่น้องจากตระกูลฮั่วด้วย มารวมกันหมดแล้ว"ลองชิมดู" จั๋วซือหรานชี้ไปที่อาหารบนโต๊ะฮั่วชิงหยวนน้ำชายแทบจะไหลออกมาแล้ว กินอย่างมีความสุขจั๋วซือหรานไม่ได้กิน แค่นั่งดื่มชาอยู่ข้างๆ บอกกับพวกเขาว่า "รายการอาหารข้าร่างไว้ให้แล้ว พวกเจ้าให้พ่อครัวทำออกมา ถึงอย่างไรตอนนี้พวกเจ้าก็ได้ชิมแล้ว มีรสชาติอย่างไรก็จำไว้หน่อย ถ้าพ่อครัวทำออกมาแล้วรสชาติไม่ถูกต้อง พวกเขาจะได้ตอบสนองทัน""ถ้าหากพวกเจ้าตอบสนองไม่ได้ ยืนยันว่าทำถูกแล้ว หรือไม่ต่างกันมากนัก แค่อร่อยก็พอ" จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้นคนอื่นยังพอว่า แต่ฮั่วจือโจวกับเจี่ยงเทียนซิง พอได้ยินคำพูดจั๋วซือหราน ก็ยกตาขึ้นมองนางเจี่ยงเทียนซิงขมวดคิ้ว "ท่าทางเหมือนฝากฝังนี่มันอะไรกัน? จะไปไหนรึ?"ฮั่วจือโจวขมวดคิ้วถาม "ไปพื้นที่ศักดินาหรือ? ไปเร็วขนาดนี้เชียว?"จั๋วซือหรานตอบเสียงเรียบ "พื้นที่ศักดินาเดี๋ยวก็ต้องไป แต่ว่าตอนนี้มีเรื่องเร่งด่วนกว่านั้น"หลงซ่งที่อยู่ข้างๆ เช็ดๆ ปาก บอกกับฮั่วจือโจวกับเจี่ยงเทียนซิงว่า "น้องชายของแม่นางถูกลักพาตัวไปแล้ว พาไปที่สำนักเมฆาวารี ไม่รู้ว่าพาตัวไปทำอะไร มีอันตรายหรือไม่ แม

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1001

    ฮั่วจือโจวพอได้ยินคำนี้ของจั๋วซือหราน ก็รู้ว่าไม่มีอะไรที่ต้องพูดมากอีก จึงบอกว่า "เช่นนั้น ก็ขอให้แม่นางเดินทางราบรื่นล่วงหน้าเลยแล้วกัน อวิ๋นหลิวเองก็มีโรงน้ำชาโรงเตี๊ยมของตระกูลฮั่วอยู่ ข้าจะแจ้งไปก่อนล่วงหน้า ถ้าเจ้าต้องการข่าวสารล่ะก็ให้ไปที่โรงน้ำชาตระกูลฮั่วได้เลย""ขอบคุณมาก" จั๋วซือหรานยิ้มตาโค้ง"เกรงใจไปแล้ว" ฮั่วจือโจวเอ่ยตอบ "พวกเราในเมื่อร่วมมือกันอย่างมีความสุข ก็ถือว่าเปห้นเพื่อนกันแล้วสิ""มีเหตุผล" จั๋วซือหรานพยักหน้า "เป็นอย่างที่คิดจริงๆ เลือกมาร่วมมือกับพวกเจ้าเป็นตัวเลือกที่ถูกต้อง""อื๋อ?" บนหน้าฮั่วจือโจวมีรอยยิ้มเผยออกมา บนใบหน้าสุขุมแต่ไหนแต่ไรของเขา ก็ยังหวั่นไหวขึ้นมาเพราะรอยยิ้มนี้ "เจ้าไม่ได้เลือกตระกูลฮั่วหรอกหรือ?"เขาคิดมาตลอดว่าที่จั๋วซือหรานเลือกคือตระกูลฮั่ว ตนเองเป็นแค่คนที่นางคิดว่ามีปากมีเสียงในตระกูลฮั่วได้พอดีเท่านั้นจนตอนที่ได้ยินจั๋วซือหรานพูดคำนี้ ฮั่วจือโจวถึงได้เข้าใจขึ้นมา"แน่นอนว่าไม่ใช่อยู่แล้ว ที่ข้าเลือกก็คือเจ้า" จั๋วซือหรานเข้าใจว่าสายตามองคนของตนเองถือว่าใช้ได้อยู่ ไม่ได้ถือว่าแม่นยำนัก แต่ก็ถือว่าได้ผิดเสียทีเดียวครั้งแต

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1002

    อันที่จริงก็รู้ว่าตนเองไม่ค่อยมีประโยชน์ ช่วยอะไรไม่ได้เลย แล้วยิ่งเป็นเช่นนี้ ก็ยิ่งรู้สึกผิดต่อลูกสาวจั๋วซือหรานไม่ได้อะไรกับเรื่องนี้นัก นางยิ้มกุมมือท่านแม่ไว้ เอ่ยว่า "ท่านแม่ ไม่เป็นไร ข้าไม่เคยรู้สึกว่าท่านกับเสี่ยวหวายเป็นความยุ่งยากของข้า และไม่รู้สึกว่าพวกท่านสร้างภาระให้ข้าด้วย มีแค่ท่านกับเสี่ยวหวายที่เป็นแรงผลักดันให้ข้าพยายามมาโดยตลอด"ตนเองตอนเพิ่งมาถึงโลกที่แปลกหน้านี้ โลกทั้งใบราวกับจงใจมาทำร้ายตนเองมีแค่ท่านแม่กับน้องชาย ที่ตนเองไม่สามารถปล่อยวางได้ไม่ว่าจะเวลาไหน จุดนี้ก็จะไม่เปลี่ยนพอได้ยินคำพูดที่เข้าใจเหตุผลของลูกสาว เซี่ยอวิ๋นเหนียงก็ยิ่งรู้สึกแย่ พ่อแม่ที่เป็นห่วงลูก ก็มักจะปวดใจกับเรื่องที่ลูกเข้าใจเหตุผลต่างๆ ยิ่งลูกเข้าใจมาก ก็ยิ่งทำให้เป็นห่วงกังวลมากถึงอย่างไร การเข้าใจเหตุผลคำนี้ แม้จะมีความหมายในแง่บวก แต่สำหรับคนที่เข้าใจเหตุผลแล้ว กลับไม่ใช่คำที่ดีอะไรนัก เพราะคนยิ่งเข้าใจเหตุผล ก็จะยิ่งเผชิญกับความอยุติธรรมบนโลกมากขึ้นเซี่ยอวิ๋นเหนียงออกแรงเช็ดน้ำตาจั๋วซือหรานเห็นท่านแม่เป็นเช่นนี้ จึงถอนใจออกมา "ท่านแม่ ไม่ต้องเป็นห่วง สำนักเมฆาวารีเดิม

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1003

    "เพราะพลังวิญญาณพ่ข้า แม่ของเฟิงเหยียนถึงคลอดเขาออกมาได้หรือ?" จั๋วซือหรานถามเซี่ยอวิ๋นเหนียงคิดๆ "ถึงแม้จะพูดแบบนี้ได้ ถึงอย่างไรพ่อของเจ้าตอนนั้นถ้าหากไม่ได้ช่วยนางไว ก็คงไม่มีเฟิงเหยียนแล้ว แต่...คุณสมบัติร่างกายของเฟิงเหยียนก็เหมือจะมีอะไรอยู่ ถึงอย่างไร...หลังจากที่นางคลอดเฟิงเหยียน ก็มีชีวิตต่อไม่ได้เสียแล้ว"เซี่ยอวิ๋นเหนียงถอนหายใจ "หลักๆ คือ น่าจะมีแค่พ่อเจ้าที่เข้าใจ ต้องโทษที่ข้าตอนนั้นไม่ถามเขาให้มากกว่านี้หน่อย ถ้ารู้ว่าเจ้าจะมาพัวพันกับซื่อจื่อเฟิงลึกซึ้งขนาดนี้ ตอนนั้นข้าคงถามให้มันชัดเจนไปแล้ว..."เซี่ยอวิ๋นเหนียงมีนิสัยอ่อนโยนแข็งแกร่ง เป็นแบบฉบับของภรรยาและแม่ที่ดี สำหรับเรื่องเหล่านี้ ตอนที่สามียังอยู่ จึงไม่ได้ไปสนใจอะไรเป็นพิเศษจั๋วซือหรานเองก็ฟังออก ว่าท่านแม่น่าจะเพราะไม่ได้ผ่านเรื่องนั้นด้วยตนเอง สิ่งที่รู้ก็เป็นแค่ส่วนหนึ่งที่มาจากปากท่านพ่อเท่านั้นดังนั้นพูดจึงพูดอย่างจับต้นชนปลายไม่ได้ ตามหลักการคงทำให้คนฟังรู้สึกงงไปหมด แต่ในหูของจั๋วซือหรานกลับต่างออกไปเพราะนางรู้เรื่องมากมายที่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่เรียกว่าโชคชะตาของตระกูลเฟิง ดังนั้น ข้อมูลจึงร้อย

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1004

    "ไม่ถึงกับโกรธหรอก" จั๋วซือหรานโบกไม้โบกมือซือคงเซี่ยนถอนหายใจ "ข้ารู้ว่าในใจก็คงไม่เบิกบานนัก เรื่องนี้ ราชวงศ์ของพวกเราผิดต่อเจ้าจริงๆ""ช่างเถอะ" จั๋วซือหรานเอ่ยเสียงเรียบ คำพูดนั้นมันพูดว่าอะไรนะ "ฟ้าผ่าหรือสายฝน..."ซือคงเซี่ยนเอ่ยอย่างจนใจ "ฟ้าผ่าหรือสายฝน...ก็ล้วนเป็นพระมหากรุณาธิคุณ""อืม ความหมายนั้นนั่นล่ะ" จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้น "แล้วก็ ให้ใครมาเจอรางวัลพวกนี้แบบข้า ก็ล้วนเป็นความโปรดปรานชั้นสูงทั้งนั้น ไม่มีอะไรให้บ่นเลยเสียหน่อย"ซือคงเซี่ยนอยากจะถามว่านี่คือใจจริงของนางไหม แต่พอคิดอย่างละเอียด หญิงสาวคนนี้ก็เหมือนไม่เคยพูดอะไรที่อ่อนข้อยอมความ แต่คำพูดที่พูดออกมามากกว่าครึ่งล้วนเป็นความจริงแต่ยิ่งเป็นเช่นนี้ ในใจซือคงเซี่ยนก็ยิ่งชัดเจน ในใจนางกับราชวงศ์ มีสิ่งบางๆ กั้นไว้มาโดยตลอด ดังนั้นจึงได้เป็นเช่นนี้...เย็นชาและไม่ใส่ใจ"ไปเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปหาเสด็จพ่อ" ซือคงเซี่ยนเอ่ยขึ้น "เจ้าจัดการเรื่องในเมืองเสียเรียบร้อย วันนี้...จะมาบอกลาหรือ?"จั๋วซือหรานเอียงตามองซือคงเซี่ยน เหมือนไม่ได้แปลกใจกับการควบคุมความเคลื่อนไหวของซือคงเซี่ยนเลยจั๋วซือหรานเข้าใจดี ความสามารถเห

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1005

    ยิ่งเข้าใกล้หลังตำหนัก เสียงนกร้องจิ๊บๆ ก็ยิ่งชัดเจนขึ้นพอเดินถึงหลังตำหนัง ก็มองเห็นว่าสวนดอกไม้เล็กของหลังตำหนัก มีคานตั้งขึ้นมาแล้วแขวนกรงทองเอาไว้ส่วนหนึ่ง ด้านในมีนกน้อยขนสวยงามร้องเสียงใสอยู่หลากชนิด กำลังกระโดดไปมาในกรงอย่างคึกคักองค์จักรพรรดิเฒ่ายืนไพล่หลังชื่นชมอยู่ข้างๆ ถือไม้ไผ่แบนยาวตักอาหารใส่เข้าไปบนใบหน้าดูสงบสุขสบายใจ เทียบกับองค์จักรพรรดิเฒ่าที่ดูอ่อนล้าซีดเซียวตอนที่จั๋วซือหรานช่วยออกมาจากวังสวนของราชวงศ์ตอนนั้นอย่างกับคนละคน"คารวะฝ่าบาท" จั๋วซือหรานทำความเคารพจักรพรรดิเฒ่าโบกไม้โบกมือ "เด็กน้อยเสียวจิ่วมาได้เสียที ข้ายังคิดว่าเจ้ายังโกรธจนไม่คิดจะเข้ามาเสียอีก...""ฝ่าบาทกล่าวเกินไปแล้ว" จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้น "ที่หม่อมฉันมา ก็เพื่อมาจับชีพจรให้ฝ่าบาท ไทเฮาและพระสนมเอก และถือโอกาสบอกลาฝ่าบาทด้วย"แม้เจตนาเดิมขององค์จักรพรรดิเฒ่าคือให้จั๋วซือหรานมีพื้นที่ศักดินาที่ไกลออกไปหน่อย และยังได้ยินข่าวว่าช่วงนี้จั๋วซือหรานจัดการเรื่องในเมืองหลวงหมดแล้ว ทำท่าเหมือนจะตรงไปพรมแดนใต้แล้วแต่พอได้ยินว่าจั๋วซือหรานมาบอกล่า ก็ยังรู้สึกว่าไวเกินไป"ไวขนาดนี้เชียว?" องค์จัก

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1006

    จั๋วซือหรานปิดกรงนกลง เอ่ยต่อว่า "ชีพจรของฝ่าบาทแข็งแรงมาก""อื๋อ?" องค์จักรพรรดิเฒ่าตกตะลึง "เจ้ามาจับชีพจรข้าตั้งแต่เมื่อไรกัน?"จั๋วซือหรานตาโค้งชูนิ้วขึ้นกระดกนิ้ว ไหมกู่เส้นหนึ่งค่อยๆ ปรากฏออกมา "เมื่อครู่ตอนที่เล่นกับนกน้อย ข้าก็จัดการจับดูแล้ว"องค์จักรพรรดิเฒ่าเห็นไหมกู่เส้นนั้น ยังมีความระแวดระวังขึ้นมา หลักๆคือเพราะรู้ว่าวิชากู่ของจั๋วซือหรานอยู่ในระดับสูงจั๋วซือหรานเก็บไหมกู่กลับมา "หม่อมฉันจะจัดตำรับยาบำรุงร่างกายไว้ให้ฝ่าบาทดื่ม ถ้าหากร่างกายไม่สบายแล้วฝ่าบาทไม่ไว้ใจแพทย์จากสถาบันแพทย์หลวงพวกนั้น จามาระให้คนไปที่โรงหมอของหม่อมฉัน พอกับเหยียนเจินเหยียนฉีสองพ่อลูกได้""คนตระกูลเหยียน!" องค์จักรพรรดิเฒ่าเดิมทียังมีใบหน้าอ่อนโยน แต่พริบตาก็เปลี่ยนเป็นเย็นชา "พูดถึงคนตระกูลเหยียน การลงโทษพวกเขาจะเกิดขึ้นเร็วๆ นี้แล้ว!"องค์จักรพรรดิเฒ่ามองจั๋วซือหราน "แล้วเจ้ายังถูกใจท่านอ๋องตระกูลเฟิงคนนั้นอีกไหม แม้เขาตอนนี้จะหมั้นหมายกับหญิงสาวจากตระกูลเหยียน แต่ไม่นานก็คงจบกันแล้ว"จั๋วซือหรานฟังถึงจุดนี้ สีหน้าก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปนัก อันที่จริงความเป็นไปได้นี้ นางเองก็คาดเดาไว้แล้

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1007

    องค์จักรพรรดิเฒ่าไม่ได้โง่ แน่นอนว่าฟังความหมายของจั๋วซือหรานออกนางให้ท่านแม่อยู่ในเมืองหลวง ก็เท่ากับเอาจุดอ่อนของตนเองไว้ในเมืองหลวง เพื่อให้องค์จักรพรรดิเฒ่าวางใจดังนั้นต่อให้เห็นแก่หน้า องค์จักรพรรดิเฒ่ากับอ๋องสำเร็จราชการแทน ก็ต้องคอยดูแลแม่ของนางอยู่ระดับหนึ่งดังน้้นองค์จักรพรรดิจึงบอกว่ นางเป็นคนฉลาดฉับไว แล้วยังอ่อนโยนจิตใจดีด้วย...พอได้ยินเสด็จพ่อพูดเช่นนี้ ซือคงเซี่ยนเดิมทียังคิดจะพูดอะไร แต่ผ่านไปครู่หนึ่ง แค่ช่วงถอนหายใจเบาๆองค์จักรพรรดิเฒ่าก็เอียงตามองเขา "เอาล่ะ รู้ว่าเจ้าก็เป็นห่วง รีบไปเถอะ จริงด้วย นางทำถึงขนาดนี้แล้ว ถ้านางมีความต้องการอะไร หากไม่ใช่ปัญหาใหญ่ก็รับปากนางเถอะ""ทราบแล้ว" ซือคงเซี่ยนหลังจากรับคำ ก็ประสานมือบอกลาเสด็จพ่อ เดินตามจั๋วซือหรานไป"ท่านอ๋อง" จั๋วซือหรานยิ้มตาโค้งซือคงเซี่ยนก้มลงมองนาง "เดินช้าขนาดนี้ กำลังรอข้ารึ?"จั๋วซือหรานพยักหน้า "ใช่สิ ข้าจะไปจับชีพจรให้พระสนมเอกกับไทเฮาเองมันจะดูอึดอัดหน่อยๆ น่ะ"ซือคงเซี่ยนอดหัวเราะขึ้นมาไม่ได้ "หมอชายของสถาบันแพทย์หลวงแต่ก่อนนี้ยังรักษาให้ไทเฮาพระสนมอย่างสบายแท้ๆ เจ้าเป็นแค่หญิงสาวที่ย

Latest chapter

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1154

    รู้สึกเหมือนถูกสัตว์ร้ายจับจ้องอยู่อย่างไรอย่างนั้น พอบวกกับ ที่จมูกตอนนี้ยังได้กลิ่นเลือดสดที่ทะลักออกมาจากคอของคุณชายฉินจนมีกลิ่นคาวเลือดจางๆและยังได้ยินเสียงอ่อคๆ ในคอของคุณชายฉินอีก ขนาดที่ความน่าเกรงขามที่แข็งแกร่งขนาดนี้ แข็งแกร่งจนราวกับจะจับต้องมันได้ขึ้นมา!ดังนั้นพวกเขาที่เดิมทียังคิดจะบุกเข้าไป จึงยืนนิ่งตัวแข็งกันอยู่ที่เดิมพอเห็นท่าทางแข็งทื่อไปกะทันหันของพวกเขา จั๋วซือหรานก็เลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ยกมุมปากเอ่ยขึ้นว่า "เป็นตัวเลือกที่ฉลาด"รอบๆ ไม่รู้ว่าใครที่ตะโกนขึ้นมา "ให้ตายเถอะ! ใยหุ่นเชิด...มากมายเต็มไปหมด!""ให้ตาย! เยอะมากจริงๆ! นางเองก็เป็นปรมาจารย์วิชาเหยี่ยนหรือ?!"พอได้ยินเสียงแบบนี้ขึ้นมารอบๆ พวกสำนักเมฆาวารีก็สังเกตเห็นขึ้นมา ว่าระว่างนางกับพวกเขา มีใยละเอียดอยู่มากมายจริงๆ...เพียงแต่มันโปร่งใสอยู่ตลอด ดังนั้น ถ้าหากไม่สังเกตอย่างละเอียดก็จะมองไม่เห็นและมีใยหุ่นเชิดในนี้ ที่ย้อมเลือดอยู่ด้วยไม่รู้ว่านางปล่อยใยหุ่นเชิดมากมายขนาดนี้มาตั้งแต่เมื่อไรคิดดูแล้วเมื่อครู่นี้คุณชายฉินน่าจะถูกปาดคอไปตอนที่นางใช้นิ้วปาดวาด ก็คงพราะเจ้าใยหุ่นเชิดพวกนี้สินะพลัง

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1153

    คุณชายฉินหลังจากด่าออกมาอย่างเคืองๆ เหมือนความโกรธแค้นในใจเมื่อครู่ได้ระบายออกมาบ้างแล้วเขาถลึงตามใส่จั๋วซือหรานอย่างมาดร้าย เหมือนกับยังคิดจะด่ากราดออกมาอีกแต่...กลับพบว่า สีหน้าของหญิงสาวคนนี้กลับไม่มีหวาดกลัวและลนลาน จากการปรากฏตัวของคนสำนักเมฆาวารีเลยแต่เหมือนจะ...คุณชายฉินเดิมทียังถอนใจโล่งในใจ แต่ตอนที่เห็นสีหน้ากับแววตาของจั๋วซือหรานก็ตกตะลึงขึ้นฉับพลันเพราะเขารู้สึกได้ว่า สีหน้าและแววตาของหญิงสาวคนนี้ ไม่ใช่แค่ไม่หวาดกลัวลนลาน แต่ยังดูเหมือสมใจอยาก...ทำสำเร็จแล้ว?ทำสำเร็จเหรือ?!จะทำสำเร็จอะไรได้ยังไง?!ยังไม่ทันที่คุณชายฉินได้คิดจนเข้าใจรายละเอียดด้านใน ก็ได้ยินเสียงใสเย็นของจั๋วซือหรานที่แฝงด้วยรอยยิ้มเย็นชา เอ่ยขึ้นว่า "ออกมาไวเสียจริง ข้ายังคิดว่าต้องฆ่าคนก่อนเสียอีก ถึงจะลากพวกเจ้าออกมาได้..."คนสำนักเมฆาวารีเหล่านี้ เดิมทีเตรียมตำหนิที่จั๋วซือหรานบ้าบิ่นเอาไว้แล้วแต่ก็ถูกประโยคนี้ของนางอัดแน่นในลำคอจนพูดไม่ออกนี่...หมายความว่าอย่างไร?พวกเขาเดิมทีคิดว่นางจะคิดไม่ถึงว่าพวกเขาจะลงมือ พวกเขาเดิมคิดว่าตนเองจะหยุดยั้งพฤติกรรมของนางได้แต่ไม่คิดเลย...ว่านี่

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1152

    คนหลายคนกรูกันเข้ามาจากรอบด้านทันที ล้อมจั๋วซือหรานเอาไว้คุณชายฉินทนความเจ็บปวดไว้ หัวเราะเย็นชาขึ้นมา "แม่นาง เจ้านี่ช่างกล้าเหลือเกิน ข้าเห็นว่าเจ้าหน้าตาสวยหรอกนะ ถึงไม่อยากจะทำอะไรเจ้า เจ้าคุกเข่าลงขอโทษข้า จากนั้นก็ออกไปเที่ยวเล่นกับคุณชายอย่างข้าซะ เรื่องนี้ก็จะแล้วกันไป ดีไหม?""ไม่ดี" จั๋วซือหรานหัวเราะเย็นชาขึ้นมา แหงนตามองเขา "แล้วกันไปหรือ? ไม่เห็นจะน่าสนใจ ข้าไม่คิดจะให้มันจบลงแค่นี้"พูดจบ นางก็เหลือบมองไปยังคนที่ล้อมอยู่รอบๆจากนั้นสายตาก็กลับมาอยู่บนหน้าคุณชายฉิน เอ่ยขึ้นเสียงเรียบว่า "ดังนั้นก่อนหน้านี้จึงให้คนพวกนี้ซุ่มโจมตีลูกน้องข้าอยู่ด้านนอกสินะ?"คุณชายฉินเลิกคิ้วขึ้น ไม่ตอบรับหรือปฏิเสธ ถือว่ายอมรับแล้วจั๋วซือหรานรู้สึกพอใจกับเรื่องนี้อยู่ ในเมื่อมากันแล้ว เช่นนั้นก็พอดีเลย จัดการมันซะทีละคน ไม่ต้องหนีไปไหนกันทั้งหมดนั่นล่ะจั๋วซือหรานโบกมือหยิบป้ายตาโยนไปบนหน้าคุณชายฉิน พลางลากเขาเดินออกไปด้านนอกในโรงน้ำชาเดิมทียังคึกคักอยู่ มีคนไม่น้อยที่คอยดื่มชาฟังมหรสพตอนนี้พอมีอะไรให้ดู ก็ดึงดูดสายตาทั้งหมดไปทันทีคุณชายฉินรีบรับป้ายนั้นที่นางโยนเข้ามามือเป็นร

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1151

    นายบ่าวไม่นานนักก็มาถึงโรงน้ำชาที่เหลียนเจินมาหาข่าวไว้ก่อนหน้านี้ด้านในโรงน้ำชามีสายตาจับจ้องอยู่ไม่น้อย พอเห็นว่าเหลียนเจินไปแล้วกลับมา จึงมีคนกระซิบกระซาบส่งข่าวอย่างรวดเร็วไม่นานนัก ก็มีเสียงชายคนหนึ่งดังลอดมาจากด้านใน ใช้น้ำเสียงที่ดูเหนือกว่าเอ่ยขึ้นว่า "โย่ว? ไม่หลาบจำสินะ? นี่ยังกล้ามาอีก ดูท่าก่อนหน้านี้จะสั่งสอนไปไม่พอ!"จั๋วซือหรานได้ยินคำนี้ ก็เอียงตามองเหลียนเจินผาดหนึ่งเหลียนเจินสบสายตากับนายท่าน พยักหน้าเงียบๆ แสดงออกว่าเสียงนี้คือคุณชายฉินก่อนหน้านี้จั๋วซือหรานหรี่ตาลง มุมปากกลับยกขึ้นมา มองไปทางต้นกำเนิดเสียงประตูโรงน้ำชา ชายหนุ่มคนหนึ่งยืนอยู่ตรงนั้น สวมชุดคลุมค่อนข้างหรูหรา ในดวงตามีความประชดประชันเล็กๆแต่ตอนที่สายตาเห็นใบหน้าจั๋วซือหราน ก็ตะลึงไปฉับพลันแต่ก็เป็นเรื่องปกติ ใครก็ตามตอนเห็นใบหน้านี้ของจั๋วซือหรานครั้งแรก ยากนักที่จะไม่มีปฏิกิริยาครู่หนึ่งนางถึงตั้งตัวกลับมาได้ หัวเราะเชอะขึ้นมา "ทำไม? หาคนมาช่วยแล้วรึ?"จั๋วซือหรานมองเขา จากนั้นตาก็โค้งเผยรอยยิ้มสวยจริงๆทำเขาตะลึงงันไปในพริบตา "เจ้า..."จั๋วซือหรานยิ้มตาหยีถามเขา "เมื่อครู่ คนของ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1150

    ถ้าไม่ยอมให้เขาออกมาล่ะก็..."ไม่ขอรับ เขาให้ข้าออกมา" เหลียนเจินเอ่ยขึ้น "เพียงแต่ว่า ด้านนอกโรงน้ำชามีคนซุ่มอยู่ พอข้าออกมาจากโรงน้ำชาครู่เดียว ก็มีคนลอบโจมตีเข้ามา ข้าน้อยไร้ความสามารถ สู้พวกเขาไม่ได้ ถูกทำบาดเจ็บสาหัส...ถ้าหากไม่ใช่เพราะวิธีการที่นายท่านใส่ไว้บนตัวข้าน้อย วันนี้ข้าน้อยคง...กลับมาไม่ได้แล้ว""ในกลุ่มพวกเขา มีปรมาจารย์วิชาเหยี่ยนอยู่หลายคน บกวกับหุ่นเชิดของพวกเขา คนก็มีมากกว่า ข้าน้อยหนีออกมาไม่ได้จริงๆ ยิ่งไปกว่นั้นหุ่นเชิดพวกเขายังฉาบยาพิษไว้อีก" เหลียนเจินเอ่ยขึ้น"หุ่นเชิดฉาบยาพิษก็ดูเป็นเรื่องปกติ" จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้น "ถึงอย่างไรการจะเพิ่มพลังต่อสู้กับพลังสังหารของหุ่นเชิด ก็เป็นเรื่องที่ปรมาจารย์วิชาเหยี่ยนไม่มีทางพลาด"เหลียนเจินเข้าใจหลักการนี้อย่างเห็นได้ชัด พยักหน้า จากนั้นก็เอ่ยต่อว่า "เพียงแต่ว่าเหมือนเพราะพิษนี้ ทำให้แมลงกู่ที่นายท่านทิ้งไว้บนตัวข้าก็ถูกปลุกขึ้นมา ตอนที่ข้าบาดเจ็บหนักจนเสียความสามารถการเคลื่อนไหว จู่ๆ ก็เข้าควบคุมข้า หนีการโจมตีเหล่านั้นออกมา..."ตอนที่เหลียนเจินพูดถึงตรงนี้ จั๋วซือหรานก็ได้ยินเสียงฟ่อๆ ของขนมชาเขียวขึ้นในมิตินาง "ไ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1149

    แบบนี้ก็กลืนไม่เข้าคายไม่ออกแล้วส่วนเรื่องว่า ต่อให้ฉลาดแบบจั๋วซือหราน ก็ยังถูกน้องชายเล่นงานด้วยวิธีนี้จนไม่มีแผนรับมือไปชั่วขณะเลยทีเดียว"เจ้าเด็กคนนี้..." จั๋วซือหรานดูจนใจหน่อยๆ "ข้าไม่รู้เลยว่าจะหาตัวเขาได้จากไหน""แต่อย่างน้อยคุณชายจั๋วหวายก็ยังปลอดภัย ไม่ใช่ถูกทำเป็นผู้ทดลองยาก็ยังถือเป็นเรื่องดี" เหลียนเจินเอ่ยขึ้นจั๋วซือหรานจุ๊ปาก "ถ้าเขายังอยู่ในการดูแลของสำนักเมฆาวารี ตอนข้าไปช่วยเขาออกมา ต่อให้เขาถูกทำเป็นผู้ทดลองยาแล้ว แต่ถ้ายังไม่ได้เข้าไปเสริมให้กับคุณหนูสำนักเมฆาวารี ข้าก็ยังมีวิธีรักษาเขาอยู่""แต่ตอนนี้เขาไม่รู้ว่าตนเองซ่อนอยู่ที่ไหน ถ้าหากเกิดสถานการณ์อะไรขึ้น ข้าก็ไม่รู้ทั้งนั้น ไม่แน่ว่าจะจับปฏิกิริยาได้ด้วย บางทีอาจจะอันตรายยิ่งกว่า" จั๋วซือหรานถอนหายใจออกมาแต่ว่า เรื่องมาถึงจุดนี้แล้ว ต้องคิดหาวิธีแก้ไขจั๋วซือหรานถึงอย่างไรก็ยังเป็นจั๋วซือหราน เมื่อครู่ตอนที่นางรู้สถานการณ์ที่น้องชายตนเองหนีออกมา ก็แค่ตกตะลึงไปจนยังไม่ทันนึกแผนรับมือออกเท่านั้นแต่ตอนนี้มีแผนออกมาแล้วจั๋วซือหรานครุ่นคิด เอ่ยขึ้นว่า "เอาแบบนี้ อีกเดี๋ยวพวกเจ้าก็เอาเรื่องที่ข้ามาเมือ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1148

    เกรงว่าคงเพราะ..ขนมชาเขียวยังไม่ได้เรียนรู้เรื่องการเดินกระมัง ดังนั้นตอนที่ควบคุมร่างของเหลียนเจินให้เดินจึงดูแปลกประหลาด"ขนมชาเขียวนี่เจ้า..." จั๋วซือหรานเองก็ตระหนักขึ้นมาได้ ว่าสถานการณ์นี้แม้จะน่าตกตะลึง แต่ก็ไม่ใช่เวลาจะมาซักไซ้ไล่เรียงต้องรีบรักษาแผลให้กับเหลียนเจินจั๋วซือหรานแตะลงไปบนตัวเหลียนเจินสองสามที ตามหลักการ ขนมชาเขียวควรจะออกมาจากตัวของเหลียนเจินจึงจะถูกแต่กลับไม่มีเลยแต่กลับไม่มีจั๋วซือหรานได้ยินเสียงฟ่อๆ ของขนมชาเขียว "นายท่าน เขาบาดเจ็บหนักมาก ข้า่ยังออกไปไม่ได้!"จั๋วซือหรานขมวดคิ้ว จึงยัดยาลูกกลอนเม็ดหนึ่งเข้าไปในปากเหลียนเจิน จากนั้นก็สำรวจชีพจรที่หลังเขาอีกหน่อย พลังวิญญาณการแพทย์สายวิเศษที่อ่อนโยนยิ่งใหญ่หลั่งไหลเข้าไปในเส้นลมปราณของเหลียนเจินกระตุ้นพลังยาลูกกลอนให้ออกฤทธิ์ทันที"แค่ก! แค่กๆ...!" เหลียนเจินไอขึ้นมาอย่างรุนแรง ตอนที่ไอ เลือดสดก็ทะลักออกมาจากในปากด้วยแต่บนสีหน้า กลับดูดีขึ้นมาบ้างแล้วจั๋วซือหรานตอนนี้จึงยื่นมือไปกดบนตัวเขาอีกที ขนมชาเขียวจึงออกมาจากบนตัวเหลียนเจินขนมชาเขียวถอนใจโล่งออกมาดัง 'ฟิ้ว' กอดนิ้วของจั๋วซือหรานไว้ เอ่ย

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1147

    ผู้จัดการไม่กล้าพูดแล้ว นำจั๋วซือหรานไปที่ห้องแขกอย่างว่าง่ายน่าจะเพราะเข้าใจแล้ว ว่านี่เป็นคนที่ไม่ควรไปแหยมด้วย ดังนั้นผู้จัดการกระทั่งคำพูดก็ยังระมัดระวังขึ้นมาไม่น้อยหลังจากส่งจั๋วซือหรานมาที่ห้อง ผู้จัดการก็กลับมาถึงโถงหน้า ถึงเพิ่งได้รู้สถานการณ์ที่ประตูเมืองก่อนหน้านี้"ข้าก็ว่านางเป็นหญิงสาวคนหนึ่งทำไมถึงได้บ้าคลั่งขนาดนี้ ที่แท้ก็คนชั้นสูง..." ผู้จัดการมุมปากกระตุก แม้ปากจะพูดว่าคนใหญ๋โต แต่ในสีหน้ากลับไม่ได้ดูมีความเคารพอยู่เลยในความคิดในสายตาเหมือนจะมีอาการประชดประชันอยู่ด้วย"สรุปคือ เจ้าคอยจับตาดูทางนี้ คนแบบนี้ถ้าหากดึงเป็นพวกไม่ได้ ทางที่ดีก็อย่าไปผิดใจด้วย""ทราบแล้ว""แล้วก็ ช่วงนี้เรื่องที่เกิดขึ้นในสำนักเจ้าน่าจะเข้าใจอยู่ คนชั้นสูงแบบนาง เข้ามาในเมืองก็ไม่ได้ตรวจสอบอย่างละเอียด ดังนั้นเจ้าพยายามคิดหาวิธีตรวจสอบรถม้าของนางหน่อย...""ตรวจสอบไม่ได้" ผู้จัดการขมวดคิ้ว"อะไรคือตรวจสอบไม่ได้?" คนที่เข้ามาพูดกับผู้จัดการ น่าจะมีตัวตนระดับหนึ่งในสำนักเมฆาวารี หลังจากได้ยินคำนี้ของผู้จัดการ ในสีหน้าก็มีอาการไม่พอใจขึ้นอย่างชัดเจนผู้จัดการตอบว่า "เมื่อครู่ตอนนาง

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1146

    ให้ความรู้สึก...แปลกประหลาดมากๆจั๋วซือหรานมองออกถึงความคิดของผู้จัดการ เอ่ยขึ้นเสียงเรียบว่า "เจ้าให้พนักงานนำไปก็พอ ม้าของข้าจะตามไปเอง""อย่างนี้นี่เอง" ผู้จัดการจึงส่งสายตาให้กับพนักงานพนักงานเข้ามานำม้าไปเรือนหลังโรงเตี๊ยมทันทีอันที่จริงสายตาเมื่อครู่นี้ของผู้จัดการ ยังมีความหมายอื่นอยู่ด้วยพนักงานเข้าใจเจตนาเป็นอย่างดี ความหมายของผู้จัดการคือ ให้เขาหาโอกาสมองดูในรถม้าด้วยว่ามีสถานการณ์แบบไหนพนักงานนำรถม้าไปถึงเรือนด้านหลัง จากนั้นก็สังเกตไปรอบๆ พอพบว่าไม่มีคนกำลังมองตนเองเขาก็เลยยื่นมือออกไปเลิกม่ารถม้าออกเบาๆ คิดจะเปิดดูว่าด้านในมีสถานการณ์อย่างไรตอนเพิ่งแง้มเปิดได้เล็กน้อย กระทั่งยังไม่ทันได้มองว่าเป็นอย่างไรความเจ็บปวดที่รุนแรงวูบหนึ่ง ก็ซัดเข้าใส่อวัยวะสัมผัสทั้งหมดของเขา พริบตานั้น เหมือนความคิดกับการคิดอ่านทั้งหมดหายไปจนหมดสิ้นความเจ็บปวด มีแต่ความเจ็บปวด"อ๊าๆๆๆ...!"พนักงานล้มลงพื้นร้องครวญคราง เขากรีดร้องอย่างน่าเวทนา กระทั่งแขกทั้งหมดก็ยังได้ยินอย่างชัดเจน!และตอนนีเ้อง ผู้จัดการที่กำลังนำจั๋วซือหรานไปที่ห้องพักก็ได้ยินเสียงกรีดร้องน่าเวทนานี้ขึ้น

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status