Share

บทที่ 875

Author: หูเทียนเสี่ยว
หลังจากเห็นจั๋วซือหรานพูดคำนี้จบ ก็เดินมาข้างศพศัตรูที่ล้มอยู่บนพื้นร่างหนึ่ง ดาบยาวในมือก็ลากเฉียดไปบนร่างเขา

ทุกคนคิดว่า จั๋วซือหรานน่าจะรังเกียจที่ดาบของตนเองเปื้อนเลือด ดังนั้นจึงจึงใช้เสื้อผ้าศัตรูมาเช็ดคราบเลือดให้สะอาด

แต่จั๋วซือหรานกลับใช้ปลายดาบเปิดเสื้อผ้าของเขาออก

ดาบยาวเล่มเรียวอยู่ในมือนาง คล่องแคล่วว่งไวราวกับเป็นมืออีกข้างของนางอย่างไรอย่างนั้น

จั๋วซือหรานใช้ปลายดาบเปิดเสื้อผ้าคนผู้นี้ออก จากนั้นปลายดาบก็ยกตราหนึ่งขึ้นมาจากตัวเขา

"นี่คือ...ตราขององครักษ์ชินอ๋องอวี้หรือ?" อิงเซ่าเอ่ยขึ้น

จั๋วซือหรานพยักหน้า "ในมือข้ามีอยู่ส่วนหนึ่ง จากนั้นที่นี่ก็น่าจะหามาได้ไม่น้อยเลย"

ซือคงเซี่ยนตาเป็นประกายอยู่ข้างๆ น่าจะเดาได้ถึงความคิดของจั๋วซือหราน เอ่ยขึ้นว่า "เจ้าคิดจะไปหลอกพวกเขาใช่ไหม?"

จั๋วซือหรานยิ้มตาโค้ง ปลายดาบยกตรานี่ขึ้นมา ใช้นิ้วสองนิ้วบีบเอาไว้ ตอบว่า "ซือคงอวี้ยังหากองหนุนจากภายนอก แล้วจะไม่ให้ข้าไปตบตาเขาได้หรือ..."

อิงเซ่าเข้าใจความหมายในคำพูดซือคงอวี้กับความคิดของจั๋วซือหรานแล้ว กวักมือเรียกทหารใต้บัญชามาแล้วกำชับออกไป

"ไปหาตราจวนชินอ๋องอวี้จากบนตัวพวกเขาม
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 876

    สถานการณ์ที่ประตูค่ายเป็นอย่างไร จั๋วซือหรานก็ขี้เกียจจะไปยุ่งแล้วนางเข้าไปในค่ายทหารน่าจะเพราะอิงเซ่ากำชับเอาไว้แล้ว เหล่าหัวกะทิของค่ายป้องกันลาดตระเวนจึงมารอกันอยู่ที่ลานฝึกยุทธ์พอเห็นจั๋วซือหรานเข้ามา แต่ละคนก็สายตาเป็นประกายจั๋วซือหรานหัวเราะขึ้นมาอย่างอดไม่อยู่ "พวกเรากระตือรือล้นขนาดนี้เชียว""ขออุทิศชีวิตแด่แม่นางจิ่ว"เหล่าหัวกะทิทยอยกันตะโกนออกมาซือคงเซี่ยนยืนอยู่ข้างๆ ตอนที่มองไปทางจั๋วซือหราน สายตาก็มีแววทอดถอนใจขึ้นมาเขารออยู่ที่ค่ายป้องกันลาดตระเวนพักหนึ่ง ดังนั้นสำหรับความศรัทธาต่อจั๋วซือหรานของเหล่าทหารนั้นจึงชัดเจนอย่างมากตอนนั้นถ้าหากนางไม่บุกเดี่ยวเข้ามา สถานการณ์พิษกู่เมื่อตอนนั้น ต่อให้อิงเซ่าจะรับมือกับควบคุมได้ทันท่วงทีแต่เรื่องที่ค่ายป้องกันลาดตระเวนจะกลายเป็นนรกบนดินก็อยู่ที่ช้าหรือเร็วเท่านั้นแล้วนางช่วยชีวิตพวกเขาไว้ ช่วยไว้ทั้งค่ายป้องกันลาดตระเวนทหารราบเหล่านี้ ความศรัทธานับถือต่อจั๋วซือหราน ไม่ได้น้อยไปกว่าอิงเซ่าเลยแม้แต่น้อยสามารถอุทิศชีวิตให้จั๋วซือหรานได้ สามารถติดตามนางไปแก้ไขสถานการณ์ลำบากของค่ายคุ้มกันนอกเมืองได้ พวกเขาต่อให้

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 877

    จั๋วซือหรานหลังจากได้ยิน ก็หัวเราะขึ้นมาทันทีพอเทียบกับตอนที่ไม่ได้แปลงโฉม สภาพที่เวลานางยิ้มแล้วงดงามล่มเมืองแบบนั้นตอนนี้พอนางยิ้มขึ้นมา มีความสดใสที่เข้มแข็ง เฉลียวฉลาดอย่างเปิดเผย"ถึงอย่างไร...ถ้าคิดจะแต่งให้สวยก็ยากมาก แต่ถ้าคิดจะแต่งให้น่าเกลียดหน่อยคือง่ายแสนง่าย" จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้นคำพูดนี้ ถ้าคนอื่นมาพูด เกรงว่าคงทำให้คนรู้สึกว่า...หน้าใหญ่เหลือเกินถึงกล้าพูดเช่นนี้แต่ก็มีแค่คุณหนูจั๋วจิ่วคนนี้เท่านั้น ที่พูดคำพูดนี้ออกมาแล้วไม่ทำให้คนรู้สึกแย่กระทั่งยังทำให้คนรู้สึกว่าคำพูดนี้เป็นเรื่องจริงด้วย"แม่นางจิ่วพูดมาถูกต้องอย่างที่สุด" รองแม่ทัพรีบประสานมือเอ่ยขึ้น "แม่นางจิ่ว ข้าเลือกคนเรียบร้อย อยู่ที่นี่กันหมดแล้ว"จั๋วซือหรานพยักหน้าส่งตราออกไป "ให้พวกเขาพกไว้คนละชิ้น""ขอรับ!" รองแม่ทัพขานรับคำหนึ่ง แต่พอคิดๆ ก็อดถามขึ้นมาไม่ได้ "แม่นางจิ่ว พวกเขาไม่ได้สวมชุดของจวนชินอ๋องอวี้ ไม่เป็นไรหรือ?"ก่อนหน้านี้รองแม่ทัพพิจารณาถึงปัญหานี้แล้ว แต่เขารู้สึกว่า แม่นางจิ่วคิดอะไรรอบคอบ ในเมื่อนางกล้าทำเช่นนี้ แน่นอนว่านางจะต้องมีเหตุผลที่มั่นใจจั๋วซือหรานพอได้ยินก็เลิกคิ้

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 878

    ถ้าจะเล่น ก็ต้องเล่นให้ใหญ่หน่อยรองแม่ทัพรู้สึกเหมือนจิตสังหารบนตัวแม่นางจิ่ว ราวกับเป็นของจริงขึ้นมา!ต่อให้อยู่ข้างๆ นาง ก็เหมือนถูกจิตสังหารอันคมกริบนี้ทิ่มแทงเข้ามาแล้ว!ไม่นานนัก ค่ายคุ้มกันก็มาอยู่ตรงหน้าแล้ว!ค่ายคุ้มกันที่แม่ทัพฮ่าวฉีบัญชาการ เป็นจุดเหมาะสมที่อยู่ห่างจากเมืองหลวงหลายสิบลี้ ด้านหน้าค่ายเป็นที่ราบกว้างใหญ่ ด้านหลังติดกับหน้าผาสูงชั้นที่ล้อมด้วยป่าหนาทึบยิ่งไปกว่านั้นในค่ายใหญ่ยังสร้างกำแพงสูง บนกำแพงสูงทุกระยะยี่สิบสามสิบเมตรก็จะมีหอธนูอยู่หอหนึ่งพูดได้ว่าป้องกันง่ายโจมตียากตอนนี้ ประตูค่ายมีคนจำนวนมากรวมตัวกันอยู่คนเหล่านี้ล้วนแขวนป้ายจวนชินอ๋องอวี้ไว้ แต่เสื้อผ้านั้นแตกต่างกัน ดูยุ่งเหยิงไปหมดยิ่งไปกว่นั้นยังมองออกไม่ยาก ว่าหน้าตากับบุคลิกคนเหล่านี้...ไม่ใช่คนแคว้นชางทั้งหมดมีคนที่ถักเปียเล็กบนหัว ผิวค่อนข้างคล้ำ ดวงตาลึกซึ้ง มีความเป็นคนต่างแดนมากมีคนที่ผิวขาว ดวงตาดูลึกลับ กระทั่งสีของตาดำยังหลากหลายสีสันอาวุธในมือเองก็มากมายหลายแบบ ดาบหอกกระบองขวานแส้ยาว...มีมันทุกอย่างสำเนียงการพูดก็มีความเป็นต่างแดน หางเสียงยกสูงกดต่ำแตกต่างกันยิ่ง

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 879

    ฟันของรองแม่ทัพกัดแน่นจนมีเสียง!มือข้างหนึ่งถือกล้องสองทางไกลไว้แน่น จนแทบจะบีบมันจนพัง"ไอ้พวก...เดรัจฉาน!"ต่อให้รู้ว่าชัยชนะและความพ่ายแพ้เป็นเรื่องปกติของสงคราม แต่พอได้เห็นฉากเช่นนี้ ก็ยังรู้สึกอึดอัดในใจ มันเดือดดาล!คนอื่นไม่เห็นภาพที่จั๋วซือหรานกับรองแม่ทัพเห็นแต่ก็ถูกอารมณ์ของรองแม่ทัพระบาดไปแล้วรีบร้อนถามขึ้นว่า "ท่านรองแม่ทัพ ทางนั้นเป็นอย่างไรบ้าง?"แม้จะได้ยินจั๋วซือหรานพูดว่าตั้งคานประตูขึ้นมาแล้ว จากสถานการณ์ที่ประตูค่ายป้องกันลาดตระเวนก่อนหน้านี้ ก็พอจะเดาได้ ว่าสถานการณ์ทางนั้นจะต้องไม่ได้ใช่ภาพที่น่าดูแน่นอน"พวกเขาตั้งคานประตูด้วยหรือ? ที่ค่ายคุ้มกันเนี่ยนะ? เจ้าพวกเดรัจฉาน..." มีทหารหัวกะทิคนอื่นๆ ก่นด่าตามขึ้นมาแล้วรองแม่ทัพกัดฟันเอ่ยว่า "น่าเวทนากว่าสถานการณ์ประตูค่ายของพวกเราเสียอีก พวกเขาทางนี้...แขวนหัวคนขึ้นไป!"ตอนที่รองแม่ทัพพูดออกมา น้ำเสียงขบเขี้ยวเคี้ยวฟันนั่น ก็ราวกับอยากจะดื่มเลือดของอีกฝ่าย กินเนื้อของอีกฝ่ายเสียให้ได้อย่างนั้น"คนที่ตายไปในค่ายคุ้มกัน...มากกว่าในค่ายพวกเรามาก" รองแม่ทัพกัดฟันพูดจั๋วซือหรานพูดขึ้นข้างๆ "แน่นอน พวกต่างแ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 880

    "กองทหารที่อ่อนแอเช่นนี้ แคว้นแบบนี้ กลับทำให้ดินแดนทางใต้ของพวกเราสยบมาตั้งนานขนาดนี้""พอคิดถึงเรื่องที่แคว้นเราต้องส่งเครื่องบรรณณาการให้กับแคว้นที่อ่อนแอแบบนี้แล้ว มันน่าโมโหเสียจริง!""นี่! ไอ้พวกอ่อนแอแคว้นชาง! เลิกหดหัวอยู่ในกำแพงสูงแล้วออกมาได้แล้ว!""ให้ตายเถอะ! พวกเจ้าไม่ใช่เก่งนักหรือ! รีบออกมาเร็ว ให้พวกข้าได้สังหารทิ้งเสียหน่อย!""ฮ่าๆๆ! ข้าว่าพวกเขาคงจะกลัวกันแล้ว ตายไปตั้งมากขนาดนี้ กลัวตายกันสินะ คงจะกลัวว่าถ้าออกมาอีกคงถูกวพกเราเด็ดหัวไปแขวนคานประตูล่ะสิ!""ต้าชางอะไรกัน! ข้าเห็นแต่ไอ้พวกอ่อนแอกระจุกหนึ่ง เรียกว่าชางขี้ขลาดไปเลยดีกว่า!"คำวิจารณ์ถากถางเช่นนี้ของศัตรูดังขึ้นไม่ขาดหู ลือเข้าไปถึงในค่ายทหาร ลอดเขาไปในหูของทหารที่อยู่บนกำแพงแล้วจึงผ่านการรายงานของเหล่าทหาร ส่งเข้าไปในกระโจมแม่ทัพทุกถ้อยทุกคำหลังจากที่เหล่าแม่ทัพยุทธ์ไ้ดยินคำพูดเหล่านี้ ก็โมโหจนตาแดงก่ำแทบจะควบคุมเลือดที่เดือดพล่านและความโกรธแค้นในอกไม่อยู่ทันที!อาวุธที่ถืออยู่ก็อยากจะเอาออกไปสั่งสอนเจ้าพวกคนเถื่อนเหล่านี้!"ฝ่าบาท! ท่านแม่ทัพ! ข้าขอติดตามไปด้วย! ต่อให้ตายสักพันครั้งก็ไม่เสีย

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 881

    เหมือนกับตอนในค่ายป้องกันลาดตระเวน ชื่อเสียงของจั๋วซือหราน ใช้การได้เช่นเดียวกับที่ค่ายคุ้มกันยิ่งไปกว่านั้น เทียบกับตอนที่อยู่ในค่ายป้องกันลาดตระเวน อิงเซ่าตอนนั้นที่ไปช่วยใต้เท้าต่งคัง เนื่องจากตั้งตัวได้เร็ว บวกกับอาณาเขตของค่ายป้องกันลาดตระเวณไม่ใหญ่นักดังนั้นสถานการณ์ตอนนั้น จึงควบคุมได้ค่อนข้างทันท่วงทีแต่ค่ายคุ้มกันตอนนั้น เละเทะไปหมดแล้วทว่าภายใต้สถานการณ์นั้น จั๋วซือหรานก็ยังมาได้ทันท่วงที จัดการควบคุมสถานการณ์เอาไว้จุดนี้ ไม่ว่าจะมองอย่างไร เหล่าขุนพาลค่ายคุ้มกัน ก็ล้วนได้รับบุญคุณของจั๋วซือหรานมามีความเชื่อใจและหวังดีกับนางมากขึ้นพอได้ยินชื่อแม่นางจั๋วจิ่วจากปากของแม่ทัพ เหล่าทหารทุกนายก็จ้องมองตาไม่กระพริบเพียงรอแม่ทัพพูดออกมา ว่าแม่นางจิ่วพูดอะไรกันแน่"แม่นางจิ่วเคยบอกกับข้าว่า ฝ่าบาทกับพระสนมเอกอยู่ในค่ายคุ้มกัน ในปัจจุบันนี้ เป็นตัวเลือกที่ปลอดภัยที่สุดแล้ว!"ฉีฮ่าวกดเสียงต่ำ "แม่นางจิ่วนำความปลอดภัยของฝ่าบาทกับพระสนมเอกฝากไว้ที่ค่ายคุ้มกัน เชื่อมั่นในค่ายคุ้มกัน..."พอได้ยินคำนี้ สีหน้าและสายตาของเหล่าทหารก็ยิ่งหนักแน่นขึ้นมาฉีฮ่าวเอ่ยต่อว่า "แต่แ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 882

    แต่ว่า ฉีฮ่าวรู้สึกว่า คนอื่นอาจจะไม่ได้แต่คนของค่ายคุ้มกันอย่างพวกเขาทำได้และเป็นไปตามคาด ตอนที่ได้ยินคำพูดเหล่านี้ของฉีฮ่าวเหล่าขุนพลที่ในตายังลังเลก่อนหน้า ก็เหมือนจะวางใจลงมาได้แล้ว"แม่นางจิ่วจะต้องคิดวิธีการออกแน่นอน!""ใช่ แม่นางจิ่วทำได้แน่!"ถ้าหากขุนนางหรือแม่ทัพคนไหนมีชื่อเสียงบารมีขนาดนี้ องค์จักรพรรดิเฒ่าก็คงต้องครั่นคร้ามขึ้นบ้างแต่ว่านี่เป็นหญิงสาวคนหนึ่ง ยิ่งไปกว่านั้นยังช่วยชีวิตเขามาแล้วไม่ว่าอย่างไรเขาก็ครั่นคร้ามขึ้นมาไม่ได้เลยตอนนี้เอง ด้านนอกก็มีทหารเข้ามารายงาน"รายงานขอรับ!"ทหารส่งสารรีบวิงเข้ามาคุกเข่าลงข้างหนึ่ง สีหน้าดูเคร่งขรึม"ฝ่าบาท ท่านแม่ทัพ! ห่างออกไปด้านนอกมีกองทหารม้ามาอีกกองหนึ่ง กำลังตรงมาทางประตูค่ายคุ้มกัน..."เหล่าขุนพลพอได้ยิน สีหน้าก็ปั้นยากขึ้นมา "มาอีกแล้วหรือ? เป็นพวกคนเถื่อนหรือเปล่า?""ไม่ใช่คนเถื่อนขอรับ" ทหารส่งสารตอบมีขุนพลคนหนึ่งหัวเราะเย็นชาขึ้นมา "เช่นนั้นก็น่าจะเป็นกองหนุนของชินอ๋องอวี้นั่นล่ะ"เพราะข่าวนี้ที่ทหารส่งสารนำเข้ามา เหล่าขุนพลที่กว่าจะมีสีหน้าดีขึ้นมาได้ ก็กลับไปมีแรงกดดันอีกครั้งพอเทียบกับคว

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 883

    เหล่าคนเถื่อนกลุ่มนี้ที่หน้าประตูค่ายคุ้มกัน ไม่ได้รู้สึกเลยแม้แต่น้อย ว่าในกลุ่มคนที่เข้ามาจากที่ไกลๆ เหล่านั้น...หรือก็คือคนที่พวกเขาคิดว่ามาเป็นพวกองครักษ์ชินอ๋องอวี้ที่มาจากเมืองหลวง เหล่าองครักษ์ที่จัดการแก้ไขสถานการณ์ในเมืองหลวง และจัดการจั๋วซือหรานไปแล้วพวกนั้นด้านในมีร่างอรชนเพรียวบางหนึ่งซ่อนอยู่!เข้าใกล้ประตูค่ายคุ้มกันเข้ามาแล้วรองแม่ทัพตึงเครียดขึ้นมา น้ำเสียงดูไม่ค่อยมั่นคงแล้ว เขาเอ่ยถามจั๋วซือหรานเสียงต่อว่า "แม่นางจิ่ว แบบนี้ไหวแน่หรือ?"จั๋วซือหรานเอ่ยเสียงต่ำ "ปัญหาไม่ใหญ่ นี่ ข้าว่าเจ้าคนผิวดำไว้เปียนั่นน่ะ เหมือนจะไม่เลวนักในกลุ่มของพวกเขานะ ที่ยืนอยู่ข้างหน้านั่นน่ะ เอาเขานั่นล่ะ"รองแม่ทัพกลืนน้ำลายเอื๊อก พยักหน้า เขากดเสียงต่ำสั่งออกไป "ทุกคนทั้งหมดเตรียมตัว พอแม่นางจิ่วโจมตี พวกเราทั้งหมดให้หยุดลง รักษาท่าทีระวังภัยไว้!"ทุกคนไม่กล้าส่งเสียงรับคำสั่ง แต่กดเสียงต่ำขานรับทราบออกมาในมือจั๋วซือหรานถือสิ่งดำๆ เล่มหนึ่งไว้ในมือ ทาบลงไปบนบ่าของทหารคนหนึ่งใช้ แผ่นเกราะบ่าของทหารเกราะเบาคนนี้ ช่วยรับแรงกระทกจากเจ้าของสี่ดำนี้ให้จั๋วซือหรานได้พอดีในใจเขาตกต

Latest chapter

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 950

    ต่งคังตอบ "องค์หญิงเนื่องจากยังไม่แต่งงาน ดังนั้นจึงยังไม่ได้ออกจากวังสร้างจวน ยังคงอยู่ในวัง ตำหนัวังของนางไม่ใช่กรมสืบสวนอาญาเข้าไปจัดการ แต่เป็นอ๋องเซี่ยนที่กำชับให้หน่วยงานในวังเข้าไปจัดการ แม่นางจิ่วหากสนใจล่ะก็ ข้าจะไปหาข่าวมาให้"จั๋วซือหรานพอได้ยินก็โบกไม้โบกมือ "ไม่ต้องแล้ว"ในเมื่อเป็นการกำชับของซือคงเซี่ยน เช่นนั้นถ้าหากมีจุดไหนที่ผิดปกติ ก็น่าจะมาบอกนางจั๋วซือหรานกับต่งคังยืนอยู่หน้าประตูจวนชินอ๋องอวี้ที่ไม่ได้รุ่งโรจน์เหมือนในอดีตอีกแล้วนางหันตามองกลับไป โบกมือเล็กน้อย ป้ายชื่อหนาหนักที่เขียนอักษรสี่ตัวไว้ว่า 'จวนชินอ๋องอวี้' ก็ร่วงลงมาดังโครมจั๋วซือหรานกลับไปที่บ้านตนเอง แล้วไปกำชับกับเฉวียนคุนแล้วก็เหล่าองครักษ์เงา"ย้าย ย้ายบ้านหรือ?""แต่เรือนนี้ของแม่นางจิ่วเพิ่งเข้ามาอยู่ได้ไม่นานเองนะ..."จั๋วซือหรานมองพวกเขาผาดหนึ่ง "ย้ายไปอยู่ที่ที่กว้างกว่าน่ะ"นางเอ่ยถึงเรื่องรางวัลพระราชทานขึ้นมาไม่ใช่ทุกคนที่จะฟังเข้าใจความหมายที่ซ่อนอยู่ ทุกคนล้วนดีอกดีใจกับรางวัลพระราชทานนี้พอหลังจากที่องครักษ์เงาลงไป พ่อลูกตระกูลเหยียนที่ไม่พูดอะไรอยู่ข้างๆ มาตลอด จึงเอ่ยปาก

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 949

    อ๋องเซี่ยนไม่ได้อยู่ในเรือนจั๋วซือหรานนานนัก เดิมทีที่มาก็เพราะตอนนี้มีเรื่องราวมากมายเรื่องซือคงอวี้ครั้งนี้ แม้จะจัดการไปเกือบหมดแล้วแต่ก็ยังเหลือปัญหามากมายที่ต้องมาจัดการ จำเป็นต้องให้เขาเข้าไปวุ่น ดังนั้นเขาจึงไม่ได้อยู่นานนัก หลังรู้ว่าจั๋วซือหรานไม่ได้โกรธ เพียงไม่นานก็บอกลากับจั๋วซือหรานจั๋วซือหรานคิดๆ ถามขึ้นว่า "จริงด้วย ท่านอ๋อง""อื๋อ?""เมื่อไรถึงจะเข้าไปตรวจยึดจวนอ๋องของซือคงอวี้?""พรุ่งนี้" ซือคงเซี่ยนตอบ จากนั้นจึงคิดได้ "จริงด้วย เจ้าจะไปดูด้วยไหม? ถึงอย่างไรที่นั่นภายหลังก็จะเป็นจวนของเจ้าแล้ว"จั๋วซือหรานครุ่นคิด พยักหน้าตอบว่า "ได้ เช่นนั้นก็ไปดูเสียหน่อยแล้วกัน"วันต่อมา จั๋วซือหรานก้ไปที่จวนชินอ๋องอวี้อย่างไม่รีบไม่ร้อนในอดีตจวนชินอ๋องอวี้ พูดได้ว่ามีแขกเหรื่อมากมาย แต่ตอนนี้กลับเหมือนกลายเป็นกรมสืบสวนพิเศษไปแล้ว เป็นตัวตนที่ทำให้คนอยากเลี่ยงออกไปให้ไกลดูเงียบๆ ไม่มีชีวิตชีวา เหมือนถ้าเดินผ่านที่นี่จะมีความซวยติดตัวไปด้วยอย่างไรอย่างนั้นตอนที่จั๋วซือหรานเดินเล่นในจวนชินอ๋องอวี้ ก็ดึงดูดความสนใจมาไม่น้อย ถึงอย่างไรนางก็เป็นคนดังในเมืองหลวงดังนั้

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 948

    ผู้อาวุโสใหญ่เอ่ยขึ้น "ข้าจะดำเนินการดูแลลงไปเอง"จั๋วซือหรานพยักหน้า "เช่นนั้นเรื่องราวต่อจากนี้ ก็ให้ผู้อาวุโสห้ารับช่วงต่อจากข้าแล้วกัน ข้าเชื่อว่าเขาจะตัดสินอย่างยุติธรรม"จั๋วอวิ๋นฉีพอได้ยิน ก็เลิกคิ้วขึ้นเขาเข้าใจความหมายของจั๋วซือหรานดี นางก็เป็นเหมือนกับเขา คนอื่นๆ ในตระกูลจั๋วไม่เคยเชื่อถือเพียงแต่ เขาเป็นคนที่นางดึงกลับมาจากในกลุ่มคนเถื่อน แล้วยัดกลับเข้ามาในตระกูลจั๋ว แล้วพอเทียบกับคนนั้นคนนี้ในตระกูลจั๋วความน่าเชื่อถือยังสูงกว่าหน่อย ที่สำคัญที่สุดคือ ด้วยประสบการณ์ของจั๋วอวิ๋นฉี ก็น่าจะไม่ต้องเจอคำพูดซ้ำซากที่แขวนอยู่ข้างปากตาแก่ตระกูลจั๋วพวกนั้นแล้ว นี่คือดีมากเลยจั๋วซือหรานเตรียมจะออกไป ผู้อาวุโสใหญ่จั๋วหลานจึงคิดจะไปส่งนางจั๋วซือหรานยังประหลาดใจหน่อยๆ จะอย่างไร ผู้อาวุโสใหญ่ก็ไม่น่าจะทำถึงขนาดนี้จากนั้นจู่ๆ ก็นึกขึ้นมาได้ นางเลิกคิ้วขึ้น "โอ้ จริงด้วย"จั๋วซือหรานโยนขวดใบหนึ่งให้จั๋วอวิ๋นฉี "รับไว้"จั๋วอวิ๋นฉียกมือรับไว้ แล้วก็ตระหนักได้อย่างรวดเร็วว่านี่คืออะไรเป็นสิ่งที่นางมอบให้ตระกูลจั๋วเช่นเดียวกับตระกุลฮั่ว ด้านในทั้งหมดล้วนเป็นยาลูกกลอนกู้หยวน

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 947

    พอได้ยินคำนี้ของจั๋วซือหราน ทุกคนตระกูลจั๋วแม้จะไม่แสดงชัดบนใบหน้า ในใจกลับล้วนมีความผิดหวังขึ้นมารางๆถ้าหากบอกว่าก่อนหน้านี้ยังคิดว่าจั๋วซือหรานมีหรือไม่มีการพระราชทานรางวัลเหล่านั้นตอนนี้พอมาคิด ถ้าทำให้นางกลับมาอยู่ในตระกูลได้ล่ะก็ รางวัลเหล่านั้นที่นางได้มา...ตระกูลจั๋วหรือว่าได้อาบแสงไปด้วยเลยหรือเปล่านะแต่ตอนนี้ จั๋วซือหรานกลับปฏิเสธที่จะกลับมาอยู่มีคนยังคิดจะกล่อมอีกหน่อย"คนคนหนึ่งอยู่ข้างนอก ไม่มีใครดูแล ไม่ค่อยสะดวกด้วยนะ...""จริงด้วย ผู้อาวุโสสามยังกลับมาอยู่เลย ท่านเป็นถึงผู้อาวุโสตระกูล กลับมาอยู่ในตระกูลจะสะดวกให้ตระกูลดูแลกว่านะ"จั๋วซือหรานพอได้ยิน ก็ดึงมุมปากขึ้นเล็กน้อย น้ำเสียงเย็นชา "ก่อนหน้านี้ตอนข้าอยู่ในตระกูลจั๋ว ก็ได้รับการ 'ดูแล' ไม่น้อยเลยจริงๆ ที่มีชีวิตรอดออกไปจากจวนจั๋วได้ ถือว่าข้าดวงแข็งแล้ว"ทุกคนฟังออกถึงความหมายของจั๋วซือหราน กลืนไม่เข้าคายไม่ออกกันไปทันทีคนเหล่านั้นที่เสนอให้นางกลับมา ก็ไม่กล้าส่งเสียงอีกความคิดของพวกเขา เดาได้ไม่ยาก เดิมทีคือคิดว่า ถือโอกาสจั๋วซือหรานหลังจากถูกพระราชทานรางวัลแล้วอารมณ์ยังดีอยู่ อาจจะเห็นด้วยกับข้อ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 946

    และตอนที่ฮั่วจือโจวกำลังหารือเรื่องเปิดโรงเตี๊ยมอยู่กับเจี่ยงเทียนซิงและอินเจ๋ออัน ก็ได้รู้ข่าวการพระราชทานรางวัลนี้พวกเขาสามคนสบตากัน"จักรพรรดิเฒ่านี่ร้ายจริงๆ"จั๋วซือหรานไม่ได้ส่งเสียง หลังจากได้ยินคนวังประกาศราชโองการจบ นางก็ยืนนิ่งไม่ขยับคนวังเองก็ดูกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เรียกนางขึ้นคำหนึ่ง "แม่นางจิ่ว ขานรับราชโองการสิ"จั๋วซือหรานไม่ขยับ นางมองราชโองการฉบับนั้น อันที่จริงในใจกำลังพิจารณาจะรับดีไหมองค์จักรพรรดิเฒ่าดีดลูกคิดรอบนี้ ลูกคิดแทบจะกระเด็นมาโดนหน้านางอยู่แล้วพระราชทานเงิน พระราชทานจวน พระราชทานวังสวน สิทธิ์อำนาจพ่อค้าหลวง พวกนี้ไม่มีปัญหาอะไร ใกล้เคียงกับที่นางขอองค์จักรพรรดิเฒ่าไว้แต่การอวยยศ...แต่งตั้งขุนนางกับพื้นที่ศักดินา แบบนี้มันเกินไปจริงๆในสายตาคนนอก นางเป็นแค่หญิงสาวคนหนึ่ง ได้รับยศมา เรียกได้ว่าจะกลายเป็นโหวหญิงชั้นสูงเพียงคนเดียวของเมืองหลวงไปเลยยิ่งไปกว่านั้นยังมีพื้นที่ศักดินาให้ เรื่องดีจะตายนี่?แต่การแต่งตั้งเป็นหัวหน้าแพทย์หลวง แม้จะชั่วคราว แต่ใครจะรุ้ว่าต้องนานแค่ไหน?ต้องไปเข้ากะอะไรแบบนั้น น่ารำคาญจะตายยิ่งไปกว่านั้นตำแหน่งข้า

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 945

    จั๋วซือหรานพอได้ยินเสียงนี้ ก็ไม่เร่งไม่ร้อน ชนแก้วกับจั๋วอวิ๋นฉีก่อน จากนั้นจึงค่อยๆ ดื่มสุราในแก้วลงไปจนหมดตอนนี้ นางกับจั๋วอวิ๋นฉีก็กลายเป็นผู้อาวุโสสามและผู้อาวุโสห้าของตระกูลจั๋วแล้วพอวางแก้วลง จั๋วอวิ๋นฉีก็หน้าเย็นชาลงมา เขาหน้าตาหล่อเหล่า แต่ตอนที่สีหน้าเย็นชา ก็ให้ความรู้สึกบีบคั้นที่เย็นเยียบมากเขามองไปทางผู้อาวุโสที่พูดเมื่อครู่นี้คนคนนั้นหดคอลง ไม่กล้าส่งเสียงอีกจั๋วซือหรานไม่ได้ใส่ใจ งานเลี้ยงเริ่มขึ้นแล้วตอนที่อาหารกลางวันดำเนินไปครึ่งหนึ่ง ด้านนอกประตูจู่ๆ ก็มีรายงาน ว่าคนในวังมาแล้ว"คนในวัง?" ยังมีคนไม่เข้าใจ คนในวังมาบ้านตระกูลจั๋วทำไมเพียงไม่นานก็เห็นคนวังประกาศราชโองการในชุดเรียบร้อยเดินเข้ามา เพียงแต่ว่า ดูแล้วหายใจหอบอยู่ น่าจะรีบเข้ามาพอควรคนวังประกาศราชโองการพอเห็นจั๋วซือหราน ก็เผยรอยยิ้มออกมา "แม่นางจิ่วที่แท้ก็อยู่ที่นี่นี่เอง ข้าน้อยหาตัวมาพักหนึ่งแล้ว เกรงว่าจะพลาดฤกษ์ประกาศราชโองการ"สายตาของคนตระกูลจั๋ว ทยอยกันมองจั๋วซือหรานตอนนี้ คนวังประกาศราชโองการจึงลากเสียงขึ้นดังลั่น "จั๋วซือหราน...รับราชโองการ...!"จั๋วซือหรานลุกขึ้น เตรียมจะทำท่

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 944

    ผู้อาวุโสสาม!?ครั้งที่แล้วที่นางกลับไปตระกูลจั๋ว คือเชิญนางไปเป็นผู้อาวุโสหรือ?!อย่าว่าแต่พวกที่มาดูมหรสพเลย กระทั่งเฉวียนคุนพอได้ยินคำเรียกนี้ก็ยังตะลึงไปและเพราะอารมณ์ในใจเขาตื่นเต้นเกินไป จึงสั่นไปทั้งตัว!เรียก เรียกว่าอะไรนะ?!นี่เรียกว่า! สะใจสินะ! เขาตอนนั้นยังจำได้ว่า คุณหนูจิ่วออกจากตระกูล ตอนนั้นคนมากมายล้วนรอดูนางเป็นตัวตลก หรือรู้สึกว่านางนี่ล่ะที่เป็นตัวตลกตอนนั้นส่งคนใช้มามากมายมาที่เรือนของนาง แต่ละคนล้วนรู้สึกเหมือนถูกเนรเทศอย่างไรอย่างนั้น รู้สึกว่าจะไม่มีวันได้กลับไปเชิดหน้าชูตาอีกแล้วมีแค่เขาที่อยู่รอด! นับจากตอนนั้นเขาก็เริ่มเชื่อมั่นว่านายท่านจะต้องก้าวหน้าแน่!จั๋วซือหรานได้ยินคำเรียกนี้ สีหน้าก็ดูสงบนิ่งมากทุกคนเห็นสีหน้านางก็รู้แล้ว นางคงรู้เรื่องนี้มานานแล้วพอคนใช้รายงานเสร็จ ก็มองจั๋วซือหรานอย่างตึงเครียดขึ้นมาราวกับ...กลัวว่านางจะปฏิเสธพวกเขาถูกส่งมาเชิญนาง ถ้าหากเชิญไม่ได้ กลับไปอาจจะถูกลงโทษก็ไม่แน่ดังนั้นพวกเขาจึงมองดูการเปลี่ยนแปลงสีหน้าของจั๋วซือหราน เตรียมว่าถ้าหากเห็นเค้าลางการปฏิเสธในสีหน้า พวกเขาก็จะอ้อนวอนนางทันทีแต่จั๋วซือห

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 943

    ตอนที่เฉวียนคุณเคาะประตูจั๋วซือหรนา นางเพิ่งจะวุ่นกับการหลอมยา...งานช่วงเช้าเสร็จเฉวียนคุนรีบเข้ามารินชาให้นางจั๋วซือหรานรับไปดื่มสองอึก "ทำไมหรือ?"เฉวียนคุนเอ่ยขึ้นว่า "นายท่าน นี่มันเรื่องอะไรกัน"สีหน้าของเฉวียนคุณปั้นยาก "เดิมทีเรือนของพวกเราก็ไม่ได้เล็กอะไร ตามหลักการแล้วก็พออาศัยอยู่"เดิมทีก็มีแค่นายท่าน ข้า เด็กฉลาด เฮยหลิง นี่ก็ไม่ใช่ว่าพออยู่เหลือเฟือหรือ"แต่ก่อนหน้านั้นก็เพิ่งจะมีใต้เท้าพวกนั้นที่ท่านช่วยกลับมาจากตระกูลเฟิง" เฉวียนคุนเอ่ยขึ้นหมายถึงพวกเหล่าองครักษ์เงาของเฟิงเหยียนที่นางช่วยกลับมา"ตอนนี้ยังมีพ่อลูกสกุลเหยียนอีก" เฉวียนคุนเอ่ยต่อ "ดังนั้นห้องข้างจึงไม่ค่อยพอแล้วนะ"ห้องพักคนใช้นอกเรือนยังว่างอยู่ ปัญหาคือ เฉวียนคุนมองว่าคนเหล่านี้ นายท่านก็ไม่ได้มองพวกเขาเหมือนคนรับใช้ ดูคล้ายจะเป็นแขกมากกว่าจะให้แขกไปอยู่ในห้องพักคนใช้ก็ไม่ได้..."อา..." จั๋วซือหรานฟังถึงจุดนี้ ก็เข้าใจความหมายของเฉวียนคุนแล้ว "อย่างนี้นี่เอง รู้แล้ว"เฉวียนคุนพยักหน้า "นายท่านเข้าใจบ้างก็ดีแล้ว ตอนนี้ยังพอจัดให้ได้ถูไถ แต่หลังจากนี้ถ้าฮูหยินกับนายท่านกลับมา ก็น่าจะจัดไม่ลง

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 942

    แต่หลังจากที่พวกเขาออกไป จั๋วซือหรานกลับไม่ได้ลงมาจากบนกำแพงล้อมแต่ยังคงนั่งอยู่ตรงนั้น ผ่านไปครู่หนึ่ง นางจึงเอ่ยขึ้นว่า "พวกเจ้ายังมีเรื่องอะไรอีก"นางปวดหัว เรื่องนึงสงบลงอีกเรื่องก็ผุดขึ้นมา นางสัมผัสได้นานแล้ว ต่อให้จะเป็นตอนที่คุมเชิงกับคนตระกูลเฟิงที่ไล่ตามเฟิงหร่านมา นางก็สัมผัสได้ถึงสายตาที่จับจ้องแอบมองอยู่จากมุมหนึ่งมาโดยตลอดแล้วพอคนจากไป นางก็รออยู่อีกพักหนึ่ง สายตาที่แอบมองอยู่นั่นก็ยังอยู่นางเองก็ขี้เกียจมาเสียเวลาอยู่ตรงนี้แล้ว จึงส่งเสียงขึ้นมาตรงๆตอนนี้เอง ในมุมลับตา ก็มีเงาสองร่างเดินออกมาจั๋วซือหรานรู้จักหนึ่งในนี้ นางเลิกคิ้ว "วันนี้คึกคักเสียจริง"พอได้ยินคำนี้ เหยียนฉีก็รู้สึกเขินหน่อยๆ เขาประสานมือให้ "แม่นางจิ่ว ไม่เจอกันเสียนาน"จั๋วซือหรานพยักหน้า มองไปยังคนข้างๆ ผาดหนึ่งเหยียนฉีเอ่ยแนะนำว่า "นี่ นี่คือพ่อของข้าเหยียนเจิน"จั๋วซือหรานคิดอยู่ครู่หนึ่ง "เข้ามาสิ"นางไม่ได้กระโจนกลับจากกำแพงล้อมหรือกระโจนออกไป แต่ยืนขึ้นย้ำไปตามสันกำแพง เดินตรงไปยังประตูหน้าพร้อมพวกเขาตอนที่พวกเขาเดินมาถึงประตูเรือนหลัก จึงมีเงาแดงร่างหนึ่งร่อนลงมาตรงหน้าพวกเขา

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status