Share

บทที่ 824

Author: หูเทียนเสี่ยว
แม่นางจั๋วจิ่วยังทำเหมือนก่อนหน้านี้ จัดการพวกลิ่วล้อของผู้อาวุโสตระกูลเฟิง

เหมือนว่าข่าวการหมั้นของเฟิงเหยียน ไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรกับนางเลยแม้แต่น้อย

ข่าวการร่วมมือของจั๋วซือหรานกับตระกูลฮั่ว กระจายออกไปจากการผลักดันของตระกูลฮั่ว

รวมถึงเงื่อนไขที่ร่วมมือกับตระกูลฮั่วด้วย ทำเอาคนทั้งหมดตกตะลึงไป

ถ้าหากบอกว่า ทุกคนก่อนหน้าล้วนบอกว่าตระกูลเฟิงกับตระกูลจั๋วไม่ค่อยฉลาด ดันปล่อยสมบัติล้ำค่าแบบนี้ทิ้งไป

ข่าวนี้พอออกไป ทุกคนก็พูดกันว่าตระกูลเฟิงกับตระกูลจั๋วนั้นโง่เง่า

และตอนนี้เอง ตระกูลที่โง่กว่าก็ปรากฏตัวแล้ว

"ที่แต่เหยียนหยี่หลิงของตระกูลเหยียนก็คือคู่หมั้นของซื่อจื่อตระกูลเฟิงครั้งนี้นี่เอง!"

"บ้าหรือเปล่า? ตระกูลเหยียนสมองมีรูหรือเปล่าเนี่ย ยังผิดใจกับแม่นางจั๋วจิ่วไม่พอหรือไรกัน? นี่มันไปขุดดินบนหัวเทพไท่ซุ่ยชัดๆ..."

"น่าจะเพราะก่อนหน้านี้เดิมพันไม่ชนะแม่นางจั๋วจิ่ว ตอนนี้เลยไม่มีทางเลือกแล้วกระมั่ง ถ้าไม่ร่วมมือกับตระกูลเฟิงก็คงไม่เหลือทางเดินอีกแล้ว"

ตอนที่จั๋วซือหรานรู้ข่าวนี้ กำลังนั่งเล่นแส้ในมือที่ห้องโถง แต่พอมองอย่างละเอียดก็จะรู้ ว่านั่นไม่ใช่แส้! แต่เป็นงูสีขาวตัวหน
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter
Comments (2)
goodnovel comment avatar
Piyaradchanee
ลงหลายๆตอนหน่อยค้า
goodnovel comment avatar
Dino Khamruangsri
อยากเห็นนางเอกตัวเป็นๆ
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 825

    จั๋วซือหรานอัญเชิญสัตว์อสูรปีกที่ตัวนั้นที่เก็บมาจากซางเชวี่ยออกมาพอผ่านการรักษาและพักฟื้้นมาระยะหนึ่ง จั๋วซือหรานก็เลี้ยงมันจนใช้ได้แล้ว อย่างน้อยก็ดูสง่างามน่าเกรงขามขึ้นมากจั๋วซือหรานขึ้นไปนั่งหานกวงรู้สึกประหลาดใจ "แม่นางจิ่ว ท่านจะไปแบบนี้หรือ?"จั๋วซือหรานเลิกคิ้ว "ไม่อย่างนั้นจะให้ข้าไปอย่างไร? ข้าเองก็ไม่ใช่คุณหนูสูงศักดิ์จากตระกูลอะไรเสียหน่อย ข้าต้องนั่งรถม้ากอดพิณผีพาบังหน้าไว้ด้วยหรือ?"หานกวงมองเห็นรอยยิ้มสบายๆ บนหน้าแม่นางจิ่วจั๋วซือหรานยิ้มบอกต่อว่า "ข้ามันก็แค่สามัญชน ต้องไปแบบนี้นั่นล่ะ"หานกวงตอนที่ได้ยินคำพูดนี้ของจั๋วซือหราน จู่ๆ ก็รู้สึกว่าแบบนี้ก็ดีเหมือนกันหานกวงยิ้มตอบ "เช่นนั้นแม่นางจิ่วก็ระวังตัวด้วย พวกข้าน้อยจะรอฟังข่าวดีจากท่านนะ"แต่สิ่งที่พวกเขาคิดไม่ถึงก็คือ สิ่งที่รอกลับกลายเป็นจั๋วซือหรานในชุดแดงขาดรุ่ย สภาพที่บาดแผลเต็มดัว...แต่นั่นก็เป็นเรื่องหลังจากนี้ตอนนี้ จั๋วซือหรานออกเดินทางจากบ้านตนเอง ตรงไปยังสวนชิวอีสวนชิวอีอยู่ในเมืองหลวง เป็นสวนแห่งหนึ่งที่จักรพรรดิเฒ่าตอนนั้นให้มาเพราะสงสารซือคงอวี้ สวยงามมาก ไม่ใช่แค่ทิวทัศน์งดงาม แต่

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 826

    "เอาล่ะสิ บีบตระกูลเฟิงแบบนี้ เอาคนอื่นยกให้เฟิงเหยียน ข้าจะดูว่าจั๋วจิ่วจะทำอย่างไร นางไม่ใช่ว่าชอบเฟิงเหยียนมากที่สุดหรอกหรือ?""ใช่สิ นางไม่ใช่บอกต่อหน้าทุกคนแค่ครั้งเดียว ว่าตนเองรักเฟิงเหยียนอย่างลึกซึ้งนี่นา""ตระกูลเฟิงนี่ก็จริงๆ เลย ไม่กลัวผิดใจนางแล้วนางจะสังหารคนมากขึ้นเหรือ?""ฮ่าๆๆ..." มีคนแอบหัวเรา "ให้ข้าว่านะ ตระกูลเฟิงทำไมไม่ยกซื่อจื่อให้นางไปเลย แลกกับความสงบสุข"ตอนนี้เอง ข้างๆ ก็มีเสียงเย็นชาดังขึ้น"พวกเจ้านี่มันก็ทำได้แค่ซุบซิบนินทาอยู่ข้างหลังเท่านั้น ถึงจะไม่พูดว่าตระกูลเฟิงกับจั๋วจิ่วมีความแค้นอะไรกัน จะผิดใจหรือไม่ แต่พวกเจ้าเองก็ไม่กลัวผิดใจกับพวกเราเลยนี่..."เสียงของผู้อาวุโสตระกูลเฟิงคนหนึ่งดังลอดเข้ามาอย่างเย็นชาข้างๆกลุ่มคนที่ซุบซิบกันอยู่แต่เดิม ก็ยิ้มขึ้นอย่างกระดากขึ้นมาทันทีผู้อาวุโสตระกูลเฟิงร้องเชอะ "ยิ่งไปกว่านั้นก็ไม่ต้องให้พวกเจ้ามาพูดให้ตระกูลเฟิงของพวกเราเสื่อมเสียหรอก จั๋วจิ่วหรือ? ก็แค่ตัวตลกตัวหนึ่งเท่านั้น ที่นางสังหารไปก็มีแต่พวกลูกหลานที่ฝึกฝนมาต่ำเตี้ยเรี่ยดินของตระกูลเฟิง นางมันก็แค่หญิงสาวที่ขี้ขลาดคนหนึ่งเท่านั้น!""เจ้าก็ด

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 827

    สายตาของจั๋วซือหรานดูหยิ่งยโส มองลงมายังพวกเขาที่อยู่บนพื้นนางเอ่ยต่อว่า "แล้วพวกเจ้าบอกว่าข้าเป็นหญิงสาวขี้ขลาด กล้าลงมือแต่กับคนธรรมดาในตระกูล ไม่กล้าลงมือกับพวกเจ้าหรือ?"จั๋วซือหรานหัวเราะเบาๆ "ข้าก็แค่คิดว่า น้ำสามารถยกเรือและจมเรือได้ เจ้าลิ่วล้อพวกนั้นของพวกเจ้า ในเมื่อช่วยพวกเจ้าไล่กัดคนอื่น แต่ก็หันกลับมาแว้งกัดพวกเจ้าได้เช่นกัน""ข้าไม่กล้าลงมือกับพวกเจ้ารึ?" จั๋วซือหรานพอสิ้นเสียง ร่างก็ไหววูบออกมาทุกคนเห็นเพียงบนท้องฟ้ามีเงาสีแดงแล่นผ่านไปอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็มีเสียงเผียะดังขึ้นตอนที่ร่างแดงนั่นร่อนลงพื้นในดวงตาเหล่าผู้อาวุโสตระกูลเฟิงคือสีหน้าไม่อยากเชื่อและไฟโกรธที่ยากจะควบคุม แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่ดึงดูดความสนใจคน ที่ดึงดูดความสนใจคนยิ่งกว่า คือรอยนิ้วมือสีแดงสดบนหน้าของเหล่าผู้อาวุโสตระกูลเฟิงเช่นนั้นก็เดาได้ไม่ยากแล้ว ว่าเสียงเพียะๆ เมื่อครู่นี้คือเสียงอะไรเป็นเสียงที่จั๋วซือหรานตบพวกเขาไปนั่นเองตอนที่ทุกคนมองไปยังหญิงสาวในชุดแดงเพลิง ในสายตาก็มีความยำเกรงเพิ่มขึ้นมาพอควรในช่วงที่ผ่านมา การกระทำต่างๆ ของจั๋วซือหราน ถ้าจะบอกว่าไม่ทำให้ใครรู้สึกนับถือเลย

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 828

    พวกมันล้วนโมโหกัน"ปล่อยข้าออกไป! ข้าจะกัดเขาให้ตายไปเลย!" งูเพลิงเงินเอ่ยขึ้นขนมถั่วแดงเป็นพวกนิสัยหัวรุนแรง "ข้าจะไปฝังไหมกู่ให้เต็มตัวเขาเลย!"กระทั่งราชาแมงมุมหน้าผีที่สุขุมที่สุด ก็ยังพูดว่า "ข้าจะให้เขาได้เจอกับรสชาติของการถูกชำแหละจนตาย"พวกมันเจื้อยแจ้วอยู่ในสมองนาง แต่กลับบรรเทาอารมณ์ของจั๋วซือหรานลงได้ระดับหนึ่งหลังจากเข้ามาในสวนชิวอี ถึงแม้นางจะเดินเพียงคนเดียวแต่ก็มีคนเข้ามาใกล้นาง ทว่าไม่ได้มีเจตนามาหาเรื่องนางผ่านเรื่องไปมากมาย คนเราก็เรียนรู้ที่จะทำตัวให้ว่าง่ายขึ้นไม่น้อย ต่อให้จะไม่ชอบนาง ก็จะไม่ยั่วโมโหนาง ถึงอย่างไร ถ้าไปยั่วโมโหความยุ่งยากใหญ่นี้เข้า ไม่ใช่ตัวเลือกที่ฉลาดนักแน่นอนคนที่เข้ามาหานางก็เพื่อจะมาสร้างความสนิทสนมกับนาง"แม่นางจิ่ว ได้ยินว่าช่วงนี้ท่านร่วมมือกับตระกูลฮั่ว ใช้ยาลูกกลอนขั้นสี่เป็นสิ่งแลกเปลี่ยน ไม่ทราบว่าอยากจะมาร่วมมือกับข้าบ้างไหม?""จริงด้วย ขายยาลูกกลอนเหล่านั้นให้พวกข้าบ้างก็ได้นะ"ถึงอย่างไรยาลูกกลอนขั้นสี่หลายครั้งก็ราคาสูงมากจนขายไม่ได้ในเมืองหลวง ต้องนำไปประมูลกัน การประมูลก็ดูไม่ใช่สิ่งที่แน่นอนด้วย ไม่รู้ว่าจะมีคนโง

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 829

    "ข้าก็แค่คิดไม่ถึง เจ้ารู้อยู่แล้วว่าเป็นแผนแต่ก็ยังกล้ามา นี่มันพูดว่าหยิ่งยโสไม่ได้แล้ว แต่เป็นโง่เขลาต่างหาก"จั๋วซือหรานได้ยินคำพูดเขา ก็หันหน้ากลับมา แล้วจึงเห็นชายกลางคนคนหนึ่งไม่ใช่คนอื่น บิดาของเฟิงเหยียน เฟิงอวี้นั่นเอง"พวกเขาเอาเฟิงเหยียนมาเป็นสิ่งแลกเปลี่ยน ไม่ใช่ว่าคิดไว้แล้วว่าข้าจะมาหรือ" จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้สายตาเฟิงอวี้ดูลึกซึ้งมากจั๋วซือหรานมองดวงตาเขา น้าจะเพราะคิ้วตาใบหน้าของเฟิงอวี้ดูคล้ายกับเฟิงเหยียนจริงๆดังนั้นพอมองดวงตาเฟิงอวี้ ก็คล้ายกับมองดวงตาของเฟิงเหยียนอย่างไรอย่างนั้นพอที่จะอ่านออกมาได้ชัดเจน ว่าในสองตานั่น ไม่มีความคิดอริศัตรูตอนนี้ ไม่เห็นความคิดอริศัตรู แต่กลับเห็นถึงอารมณ์ที่ซับซ้อนลึกซึ้งบางส่วนนางเองก็บอกไม่ถูกว่าคืออะไร แต่ขอแค่ไม่ใช่ความคิดอริศัตรู นางก็ขี้เกียจจะไปใส่ใจจั๋วซือหรานหมุนตัวหันไปโยนหินลงน้ำต่อแต่กลับไม่ได้ยินเสียงฝีเท้าเดินจากไปลอดเข้ามาทางด้านหลังเฟิงอวี้ยืนอยู่ด้านหลังนางตลอด ไม่ได้เดินไปไหนจั๋วซือหรานไม่ได้ยินเสียงเขาเดินจากไป ดังนั้นหลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จึงหันมาถามว่า "ท่านมีอะไรจะชี้แนะอีกหรือ?"ถึงแ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 830

    เขาจ่ายออกไปแล้วจริงๆเจ็บปวดมากดังนั้นเขาจึงหวังว่าลูกชายตนเองจะไม่เดินตามรอยความผิดพลาดของตนเช่นนั้น ขอแค่เหยียนเอ๋อร์ไม่เอาใครมาไว้ในใจ ก็ไม่ต้องเดินตามรอยตนเองแล้วและก็ผ่านไปอีกพักหนึ่งงานเลี้ยงในที่สุดก็เริ่มขึ้นแล้ว จั๋วซือหรานตามเหล่าแขกเหรื่อไปที่โถงจัดเลี้ยงและได้เห็นเหล่าผู้อาวุโสตระกูลเฟิง เข้ามาถึงในห้องจัดเลี้ยงก่อนแล้วนอกเหนือจากนี้ คนของตระกูลเหยียนส่วนหนึ่งก็อยู่ด้วยพวกเขากำลังคุยอะไรบางอย่างกันอยู่คิ้วของจั๋วซือหรานเลิกเล็กน้อย สายตาเย็นชาลงเล็กน้อยตอนที่ทุกคนมากันเกือบครบ ผู้อาวุโสตระกูลเหยียนกับผุ้อาวุโสตระกูลเฟิงก็ยืนขึ้นมา ร่วมประกาศข่าวขึ้นพร้อมกัน"เชื่อว่าทุกคนน่าจะเคยได้ยินกันแล้ว พวกเราสองตระกูลกำลังจะเกี่ยวดองกัน ลูกหลานที่ยอดเยี่ยมสองคนของสองตระกูลเรา ในวันนี้จะทำการหมั้นหมายกันภายใต้สักขีพยานของทุกท่าน หวังว่าจะได้รับการอวยพรของทุกท่าน"ทุกคนไม่อวยพรก็ไม่อวยพรสิ แต่สายตาก็อดมองไปทางจั๋วซือหรานไม่ได้ขึ้นมา ราวกับพยายามจะหาคำตอบหรือเหตุผลจากหน้าบนหน้าจั๋วซือหรานสีหน้าของจั๋วซือหรานไม่มีความอบอุ่นอยู่เลย แต่ก็มองไม่ออกว่าอึดอัดอะไรมีคน

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 831

    "เจ้ากำลังพูดไร้สาระอะไร? พวกเราไปทำอะไรกับเขาตอนไหน?"ถูกจั๋วซือหรานใช้กระบี่ยาวแทงผู้อาวุโสตระกูลเฟิงคนนี้ไว้บนพื้น เนื่องจากความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นกะทันหันทำให้เขาหน้าบูดเบี้ยวแต่ว่าตอนที่มองจั๋วซือหราน สายตากลับดูภาคภูมิใจขึ้นมาราวกับกำลังบอกกับนางว่า: แล้วเจ้าจะทำอะไรได้? เจ้าโกรธแค้นขนาดนี้เพื่อเฟิงเหยียน ไล่ฆ่าคนไปมากมาย พยายามไปตั้งมากมาย แล้วมีประโยชน์อะไร? เจ้าทำอะไรได้บ้าง?ผู้อาวุโสคนนี้ทนความเจ็บปวดไว้ เสียงกดลงทั้งต่ำทั้งเบา แต่กลับมีความเย้ยหยันกับหยิ่งยโสขึ้นอย่างไม่ปิดบัง บอกกับจั๋วซือหรานว่า "เจ้าไม่ใช่ว่าทุกวันต้องสังหารคนในตระกูลเราหนึ่งคนหรือ? เจ้าไม่ใช่บอกว่า ทุกวันจะสังหารลิ่วล้อของพวกเราคนหนึ่งนี่นะ?"เขาจ้องจั๋วซือหรานนิ่ง หัวเราะเย็นชา "เช่นนั้นเจ้าก็จัดการสังหารเฟิงเหยียนเสียสิ เขาเองก็เป็นลิ่วล้อของพวกเรา ทำไมเจ้าไม่ลงมือ?"ดวงตาของจั๋วซือหรานแดงก่ำขึ้นมา ริมฝีปากเม้มแน่น ไม่พูดอะไรผู้อาวุโสที่ถูกนางกดไว้คนนี้ พูดต่อมาว่า "จั๋วจิ่ว ถ้าเจ้าไม่ลงมือ ข้าก็จะลงมือแล้วนะ"จั๋วซือหรานยังไม่ทันตั้งตัวว่าคำว่า 'ลงมือ' จากปากผู้อาวุโสตระกูลเฟิงหมายความว่าอย

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 832

    "เฟิงเหยียนเองก็ไร้น้ำใจเกินไปแล้ว""นั่นสิ ต่อให้ไม่ได้เป็นคนรักกัน แต่แม่นางจั๋วจิ่วก็รักเขามากนะ ถึงกับยอมเป็นศัตรูกับทั้งตระกูลเฟิงเพื่อความปลอดภัยของเขาเลย แต่ดันต้องมาเจอเรื่องแบบนี้""น่าเวทนาจริงๆ หญิงสาวนี่นะ ต่อให้จะเก่งกาจแค่ไหน แต่ถ้ามาหลงใครหัวปักหัวปำเรื่องความรัก ก็จบแล้ว""คนที่อหังการอย่างจั๋วจิ่ว ก็ยังหนีคำว่ารักนี่ไม่พ้นสินะ"ถึงแม้จะไม่อยากได้ยิน แต่ห้องโถงมันก็ใหญ่แค่นี้คำสำคัญในเสียงวิพากษ์วิจารณ์ ดังก้องจนได้ยินอย่างชัดเจนจั๋วซือหรานยืนอยู่ตรงนั้น นางยกมือขึ้นกุมแขนซ้ายของตนเอง ของเหลวสีแดงสดไหลออกมาตามร้องนิ้ว จนทำเอาแขนเสื้อชุดแดงเพลิงของนาง ย้อมจนกลายเป็นแดงคล้ำนางมองชายคนนั้น มองสีหน้าไร้อารมณ์กับดวงตาลึกซึ้งที่เหม่อลอยของเขาถึงแม้จะไม่อยากยินยอม แต่ก็จำใจต้องยอมรับความจริงหนึ่ง"เจ้าจำข้าไม่ได้แล้ว" จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้นเสียงเรียบเสียงของเฟิงเหยียนไม่มีความอบอุ่นแม้เพียงน้อย ฟังแล้วเลื่อนลอยมาก "ข้าไม่รู้จักเจ้าเลย"จั๋วซือหรานคิดถึงภาพตอนที่ตนเองได้พบชายคนนี้ขึ้นมาครั้งแรกทันทีเขาในตอนนั้น ก็เหมือนจะเป็นเช่นนี้ พูดจาเฉยเมย เย็นชา ฟังไม่ออกเล

Latest chapter

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1273

    แม้จะบอกว่าเป็นความฝัน แต่อันที่จริงจั๋วซือหรานก็ค่อยๆ เข้าใจแล้ว ว่าเพราะอะไรหลังจากฝันถึงเขาครั้งที่แล้วจนมาถึงครั้งนี้ นานมากแล้วที่ไม่ได้ฝันถึงเขาอีกพอมาคิดอย่างละเอียด เหมือนว่าตอนฝันถึงเขาครั้งที่แล้ว จะเป็นหลังจากที่นางมีสัมพันธ์ทางกายกับเขาดังนั้นจั๋วซือหรานจึงค่อยๆ เข้าใจ บางทีน่าจะเป็นเพราะสาเหตุนี้การดูดหยางบำรุงหยินของนางก็ดูดซับมาจนพอเข้าใจแล้ว เหมือนว่าพอดูดซับมาถึงระดับหนึ่ง ก็จะเกิด...ถ้าจะพูดว่าเป็นความฝัน สู้บอกว่าเป็นการสื่อสารทางจิตใต้สำนึกกับความทรงจำของเฟิงเหยียนส่วนที่ถูกผนึกไปจะดีกว่า?และไม่ว่าจะ 'ความฝัน' ครั้งที่แล้ว หรือว่าครั้งนี้ก็มองออกได้ไม่ยากเฟิงเหยียนน่าจะเข้าใจต่อสถานการณ์อยู่ ดังนั้นบางทีจิตใต้สำนึกเขายังคงอยู่มาตลอด เพียงแต่ถูกสมองทื่อๆ นี่กดเอาไว้ หรือบางทีคงถูกสภาผู้อาวุโสลงมือสะกดเอาไว้ไม่แน่ว่า อาจจะต้องมีชนวนเหตุบางอย่าง ถึงจะสามารถปลุกขึ้นมาได้จั๋วซือหรานอยากจะรู้ชนวนเหตุนั้นว่าคืออะไรกันแน่"ต้องทำยังไงเจ้าถึงจะดีขึ้นมา?" จั๋วซือหรานถามแต่เฟิงเหยียนกลับเหมือนจะจำจุดสำคัญนั้นไม่ได้แล้ว ขมวดคิ้ว สีหน้าดูเหมือนขมขื่น เหมือนว

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1272

    ในห้วงฝันนางมองมือตัวเอง สับสนไปหมดทั้งตัว เหมือนยังตั้งตัวกลับมาไม่ได้เพราะนางถ้าไม่หลับลึก ก็จะเอาจิตใต้สำนึกส่งเข้าไปในมิติ จึงฝันน้อยครั้งมากดังนั้นตอนที่ดำดิ่งสู่ห้วงฝัน นางยังรู้สึกไม่คุ้นอยู่หน่อยๆ มองมือตนเอง รู้สึกไม่คอ่ยเป็นจริงสักเท่าไรวินาทีต่อมา มือข้างหนึ่งก็ทาบมาบนมือของนางมือข้างนั้น ข้อต่อกระดูกชัดเจน นิ้วเรียวยาว เล็บตัดมาดูสะอาดสะอ้าน ผิวหนังขาวซีดเย็นเหมือนไม่โดนแดดมานานสายตาของจั๋วซือหรานจ้องนิ่งอยู่บนมือข้างนี้ จากนั้นจึงค่อยๆ ยกขึ้นมามองไปยังเจ้าของมือนี้ ใบหน้าหล่อเหลาไม่มีที่ตินั่นทั้งที่เป็นใบหน้าที่เพิ่งเห็นไปก่อนหลับตาลงเมื่อครู่แท้ๆ แต่ตอนนี้พอมอง กลับยังคงทำให้นางรู้สึกเหมือนไม่เจอกันเสียนานสายตาของชายหนุ่มอบอุ่น ด้านในมีความรู้สึกอารมณ์เหมือนความเจ็บปวดแฝงอยู่"จั๋วเสียวจิ่ว..." เขาก้มหน้าลงเรียกนางจั๋วซือหรานมองเขา จากนั้นจึงออกแรงบีบมือเขา และน่าจะเพราะออกแรงมากเกินไปปลายเล็บจึงเหมือนจิกลงไปในเนื้อเขาฝันถึงเขาอีกแล้วจั๋วซือหรานมีปฏิกิริยาขึ้นมา ครั้งนี้เหมือนกับครั้งนั้นเลย ฝันถึงเฟิงเหยียนยิ่งไปกว่านั้นยังดูเหมือนจริงเป็นพิ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1271

    กลางดึก จั๋วซือหรานกัดริมฝีปาก กอดหมอน เดินเท้าเปล่าจากห้องด้านนอกเข้าไปยังห้องด้านใน!คิ้วงามของนางขมวดแน่น สีหน้าที่มีสีเลือดฟื้นมาบ้างแล้ว ตอนนี้กลับขาวซีดขึ้นมาในใจนางเองก็พูดไม่ออก เดิมทีตอนที่หลับก็ยังดีอยู่ พอกลางดึกจู่ๆ ก็ไม่ไหวขึ้นมาเสียแล้วหน้าอกปั่นป่วนอย่างรุนแรง เป็นความรู้สึกทรมานแบบที่นางผ่านมาก่อนหน้าไม่ผิดเพี้ยนถ้าบอกว่าคนคนนี้ไม่เข้ามาก็ว่าไปอย่าง แต่นี่ก็เข้ามาแล้วว่ากันว่าพอเคยสบายแล้ว จะยากที่จะกลับไปลำบากตอนนี้จะให้นางปล่อยชายหนุ่มที่เหมือนกับ 'ยาบำรุงครรภ์' นี้ไว้ข้างในเฉยๆ โดยไม่ใช้ แล้วต้องมานั่งทนกระอักเลือดต่อล่ะก็...ขอโทษด้วย สกุลจั๋วอย่างนางไม่ใช่คนประเภทนั้นนางเข้าใจแล้ว ก่อนที่จะหลับไปเมื่อคืนนี้ ตอนที่เฟิงเหยียนบอกว่าจะนอนด้านนอก ริมฝีปากที่เม้มแน่นนั้นกำลังอดกลั้นเรื่องอะไรน่าจะคิดไว้แล้วว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้สารเลว!จั๋วซือหรานครั่นเนื้อครั่นตัวตื่นมากลางดึก ต่อให้เป็นคนที่มีสติเยือกเย็นแค่ไหน ก็ยังมีอาการหงุดหงิดงัวเงียหลังตื่นนอนนางเดินเท้าเปล่าเข้าไปห้องด้านใน อากาศในหุบเขาตอนกลางคืนเย็นมากนางสวมแค่เสื้อบางๆ ชุดหนึ่ง ทั้งตัวเย

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1270

    แต่กลับรู้ตัวตนฐานะผู้ชายทรยศของเฟิงเหยียนได้ ไม่ต้องคิดเลยว่าคงเป็นจั๋วหวายพล่ามออกมาแน่"จั๋วหวายมาบอกเจ้าหรือ?" ปันอวิ๋นถามขึ้นคำหนึ่งจวงอี๋ไห่ พยักหน้าอย่างระมัดระวัง "คุณชายเสี่ยวหวายไม่หลอกข้าหรอก คุณชายเสี่ยวหวายบอกว่าเป็นผู้ชายทรยศ เช่นนั้นกว่าครึ่งก็ต้องเป็นผู้ชายทรยศแล้ว"ปันอวิ๋นถอนหายใจแผ่วเบาในห้อง จั๋วซือหรานนั่งลงข้างโต๊ะเฟิงเหยียนไม่พูดอะไร รินน้ำชาให้นางถ้วยหนึ่งจั๋วซือหรานกำถ้วยไว้ ใช้นิ้วมือลูบไล้ขอบถ้วยเบาๆ"อีกเดี๋ยวพออาหารส่งเข้ามา ก็กินสักหน่อยแล้วค่อยนอนพัก" เฟิงเหยียนเอ่ยขึ้นแต่ในน้ำเสียงแฝงไว้ด้วยความหนักแน่นที่ห้ามปฏิเสธจั๋วซือหรานแหงนตามองเขา กำลังจะบอกว่ายังไม่หิวก็เห็นริมฝีปากบางของชายคนนี้เม้มเบาๆ เอ่ยเสียงต่ำว่า "ข้าไม่มีสิทธิ์จะมาหารือกับเจ้าจริงๆ นั่นล่ะ..." สายตาเขาทอดลงไปที่ท้องน้อยนาง แววตาลึกซึ้งจากนั้นจึงเอ่ยต่อว่า "แต่การจะเตือนให้เจ้ากินอะไรดีดีก็ยังพอมีสิทธิ์อยู่" สายตาเขายกขึ้นมาจากท้องน้อยจั๋วซือหรานเลื่อนมาที่ดวงตานาง จ้องมองดวงตานาง เอ่ยต่อว่า "ถึงอย่างไรเมื่อครู่ก็เพิ่งช่วยเจ้ากลับมา ยิ่งไปกว่นั้นเรื่องถูกพลังศักดิ์สิท

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1269

    เขาไม่เพียงแต่ไม่ใช่สามีของนาง เขายังเป็นคู่หมั้นในนามของหญิงสาวคนอื่นอีกด้วยสีหน้าของเฟิงเหยียนแข็งทื่อไปแล้ว แต่ท้ายสุดก็ยังพูดอะไรไม่ออกเพราะในคำพูดจั๋วซือหราน ไม่มีส่วนที่ผิดเลยแม้แต่น้อยแม้จะบอกว่าเด็กคนนี้ ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเขาก็ตามแต่ครั้งก่อนหน้านั้น เป็นเพราะจั๋วซือหรานถูกวางแผนร้ายใส่ ถึงทำให้นางสับสนหลงใหลจนมีสัมพันธ์กับเขาถ้าจะบอกว่า เขาเอาเปรียบหญิงสาวไป ก็ไมไ่ด้พูดเกินเลยนักเอาเปรียบหญิงสาว จนทำนางตั้งท้อง ไม่เคยจะมารับผิดชอบอะไรตอนนี้กลับจะมาชี้มือชี้ไม้เรื่องของนางพอสรุปมาแบบนี้ มันก็ช่าง...แย่มากจริงๆเฟิงเหยียนเองก็รู้ว่าตนเองนั้นแย่มาก พูดอะไรออกมาไม่ได้ไปชั่วขณะปันอวิ๋นรู้สึกกระอักกระอ่วนแทนสหายเก่า เขากระแอมออกมาเบาๆ ทีหนึ่ง ไกล่เกลี่ยขึ้นว่า "เอาล่ะเอาล่ะ..."เขาเองก็ไม่รู้ว่าควรพูดอะไร ถึงอย่างไร ทั้งสองคนตอนนี้จะไม่ได้เป็นคู่รัก แต่ความสัมพันธ์แบบนี้...มันก็ดูคลุมเครือ กลืนไม่เข้าคายไม่ออกอยู่ นี่มันช่าง...ดังนั้นปันอวิ๋นเลยเปิดประเด็นขึ้น อึกอักในปากอยู่พักหนึ่ง กว่าจะพูดออกมาได้ "...พวกเจ้าหิวหรือยัง? ให้เหล่าจวนทำอะไรให้กินหน่อยดีไหม?"

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1268

    นางยืนเงียบๆ อยู่ตรงนั้น แหงนตาขึ้นมองพวกเขาสายตาของเฟิงเหยียนอึ้งไปเล็กน้อย เห็นนางยืนอยู่ในประตูด้วยสีหน้านิ่งขรึมเขารู้สึกลำคอแห้งผากอย่างประหลาด ความรู้สึกนั้น บางทีควรจะเรียกว่า...ตึงเครียดไหม?"เจ้า...ตื่นขึ้นมาตอนไหนน่ะ?" เฟิงเหยียนถามจั๋วซือหรานมองเขา "ไม่นานเท่าไร"เหมือจะมองออกถึงความกระอักกระอ่วนของเขา หรืออาจจะไม่สรุปคือ มุมปากจั๋วซือหรานยกขึ้นบางๆ พูดมาคำหนึ่ง "ท่านอ๋องน้อย ไม่เจอกันเสียนาน"นางทำแบบนี้โดยไม่เอ่ยถึงคำพูดก่อนหน้านั้นแม้แต่น้อยเฟิงเหยียนอ้าปากพะงาบ ต่อให้คิดจะพูดอะไร แต่ชั่วขณะหนึ่งก็เหมือนจะพูดออกมาไม่ได้จึงแค่ถามขึ้นอย่างเป็นห่วง "ดีขึ้นบ้างหรือยัง?"จั๋วซือหรานพยักหน้า "ดีขึ้นมากแล้ว"กระทั่งปันอวิ๋นก็ยังมองออกถึงเรื่องระหว่างพวกเขา ไม่รู้เพราะเจ้าสมองกลับนี่ไปแตะเนื้อต้องตัวทำอะไรนาง หรือเป็นเพราะคำพูดเมื่อครู่นางได้ยินคำพูดของเฟิงเหยียน...สรุปคือ ปันอวิ๋นมองพวกเขาทั้งสองคน แล้วก็รู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออกแทนพวกเขาทั้งสองคนปันอวิ๋นคิดๆ ดู ตอนที่ตนเองอยู่กับจั๋วซือหรานก็ยังไม่ได้กลืนไม่เข้าคายไม่ออกขนาดนี้รู้สึกร้อนใจแทนเจ้าบ้านี่จร

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1267

    เพราะเป็นเพื่อนสนิท ปันอวิ๋นจึงเข้าใจความหมายที่เขาคิดจะแสดงออกมาหรือก็คือ ปันอวิ๋นเดาได้นานแล้วบางทีตอนนั้นเพื่อจะให้จั๋วซือหรานหลีกเลี่ยงโชคชะตาเช่นนี้ ตนเองจึงเลือกที่จะลืมเลือนแต่สุดท้ายพอวกไปวนมา ก็กลับมาเดินอยู่บนเส้นทางเดิมเจ้าสิ่งที่เรียกว่าโชคชะตานี่ ลึกลับเอามากๆบางครั้งเหมือนจะมีเมตตา แต่บางครั้งก็เหมือนไม่เคยปราณีใครผู้ใด"แล้วเจ้าตอนนี้...คิดจะทำอย่างไร?" ปันอวิ๋นถามเขาจ้องเฟิงเหยียนตาไม่กระพริบเอาจริงๆ ปันอวิ๋นใช้มองจากมุมมองคนนอกอย่างมีเหตุมีผล ยังหวังว่าจั๋วซือหรานจะสามารถปล่อยวางได้แต่พอคิดถึงว่าถ้าหากจั๋วซือหรานปล่อยวางแล้วล่ะก็ ด้วยโชคชะตาภาชนะพลังศักดิ์สิทธิ์หงส์แดงของเฟิงเหยียน ผลสรุปสุดท้าย ก็คือตายก่อนวัยอันควรอยู่ดีและเพราะรู้เรื่องนี้ ดังนั้นปันอวิ๋นจึงหยุดไปครู่หนึ่ง เอ่ยเสริมมาคำนึง "ถังฉือเคยบอกข้าไว้ ในโถงวิญญาณอสูร พวกสัตว์เทพที่ถูกเก็บกลับมาเหล่านั้น..."ปันอวิ๋นขมวดคิ้ว คิดถึงคำพูดของถังฉือถังฉือมีบาปหนาจากการฆ่าฟันคนมากมาย กลายเป็นคนเย็นชาไร้หัวใจไปแล้ว ถ้าหากไม่เย็นชาไร้หัวใจ ป่านนี้คงเป็นบ้าไปแล้วดังนั้นตอนที่เขาพูดถึงเรื่องเห

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1266

    ปันอวิ๋นส่งให้เขาชามหนึ่ง ตนเองก็ด้วยทั้งสองคนไม่พูดพล่ามทำเพลง กระดกรวดเดียวจนหมดราวกับว่า สุราที่มาช้าไปหลายปีนี้ ในที่สุดก็ได้ดื่มเสียทีราวกับว่าภาพเด็กน้อยที่แอบขโมยสุราพวกนั้นมาดื่ม ซ้อนทับเข้ามากับพวกเขาในเวลานี้"ช่วงนี้เจ้า ไม่ได้ติดต่อกับพวกเขาเลยหรือ?"หลังจากร่ำสุราลงท้องไปสองชาม จิตใจก็เหมือนจะผ่อนคลายลงมาไม่น้อย ปันอวิ๋นถามขึ้นอย่างสบายๆ เป็นกันเองเฟิงเหยียนฟังออก ว่าเขาถามถึงเหล่าพี่น้องพวกนั้นเขาตอบอืมไปคำหนึ่ง "ไม่ได้ติดต่อกันเลย""เช่นนั้นก็คงไม่รู้สถานการณ์ของพวกเขาเลยสินะ" ปันอวิ๋นเอ่ยขึ้นเฟิงเหยียนไม่ยอมรับหรือปฏิเสธกับสิ่งนี้ ถือว่ายอมรับไปกลายๆปันอวิ๋นยิ้มๆ เหมือนจะเย้ยหยันตนเอง "แต่ก็ไม่โทษพวกเขาที่ไม่ติดต่อเจ้า ด้วยสถานการณ์ของพวกเขาตอนนี้ ก็ไม่มีหน้ามาติดต่อเจ้าจริงๆ นั่นล่ะ"ได้ยินคำนี้ของปันอวิ๋น เฟิงเหยียนก็ไม่พูดอะไรอีกปันอวิ๋นเอ่ยต่อว่า "ซงซีตอนนี้ทุกวันเหมือนขลุกอยู่แต่ในห้องหลอมสกัด หลอมสกัดอยู่ทุกวันไม่ได้พักเลย"เฟิงเหยียนพอได้ยินคำนี้ คิ้วก็ขมวดขึ้นบางๆ"เยี่ยนเหวย...ก็สูบเลือดออกมาทุกวัน อยู่แบบไม่เหมือนผู้เหมือนคน ผู้อาวุโสหวงจ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1265

    บางทีคงเป็นเพราะการคุยแบบเปิดอกก่อนหน้านี้ ทำให้ระยะทางขอเพื่อนสนิทสองคนที่เคยห่างไปตามกาลเวลา ย่อหดลงไปไม่น้อยเลยกระมังดังนั้นพอได้ยินปันอวิ๋นบอกว่าไม่ต้องขอบคุณ เฟิงเหยียนจึงเหลือบมองเขา น้ำเสียงเปลี่ยนไป "ก็ได้ เช่นนั้นก็ไม่ขอบคุณแล้วกัน"เฟิงเหยียนสั่งขึ้นมา "ไป ไปเอาสุรามาให้ข้าหน่อย"แม้จะพูดเช่นนี้ แต่ในเสียงกลับไม่ได้ออกคำสั่งอะไร ฟังแล้วเหมือนการใช้งานระหว่างเพื่อนกันมากกว่าปันอวิ๋นชะงักไปเล้กน้อย เพราะตอนพวกเขายังเด็ก ก็เคยใช้งานกันและกันแบบนี้ไป ไปเอาสุรามาหน่อยได้ งั้นเจ้าก็เอาปลาไปย่างซะข้าเห็นว่าเจ้าหน้าตาเหมือนปลาถ้าเจ้ายังพูดอีกรอบ จะโดนข้ากดจนจมถังสุราตายไปเลยเพราะคำพูดนี้ของเฟิงเหยียน ทั้งสองคนก็เหมือนกลับไปสมัยยังเด็กในชั่วพริบตาปันอวิ๋นยกมุมปากขึ้นบางๆ ลุกขึ้นไปให้คนรับใช้ส่งสุราเข้ามาคือสุราห้าพิษที่เขาจะหมักอยู่ทุกปี และใช้แมลงพิษมาหลอมจริงๆ แต่ตัวสุรากลับไม่มีพิษใดๆ กระทั่งยังหอมอบอวลเข้มข้นเป็นพิเศษ เป็นสุราที่หาได้ยากยิ่งและเป็นความลับที่ไม่เผยแพร่สู่ภายนอกของหุบเขาหมื่นพิษ ปกติมีแค่เจ้าหุบเขาที่รู้แต่ปันอวิ๋น หลังจากออกสำนักมา ก็ไม่ได้ด

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status