แชร์

บทที่ 828

ผู้เขียน: หูเทียนเสี่ยว
พวกมันล้วนโมโหกัน

"ปล่อยข้าออกไป! ข้าจะกัดเขาให้ตายไปเลย!" งูเพลิงเงินเอ่ยขึ้น

ขนมถั่วแดงเป็นพวกนิสัยหัวรุนแรง "ข้าจะไปฝังไหมกู่ให้เต็มตัวเขาเลย!"

กระทั่งราชาแมงมุมหน้าผีที่สุขุมที่สุด ก็ยังพูดว่า "ข้าจะให้เขาได้เจอกับรสชาติของการถูกชำแหละจนตาย"

พวกมันเจื้อยแจ้วอยู่ในสมองนาง แต่กลับบรรเทาอารมณ์ของจั๋วซือหรานลงได้ระดับหนึ่ง

หลังจากเข้ามาในสวนชิวอี ถึงแม้นางจะเดินเพียงคนเดียว

แต่ก็มีคนเข้ามาใกล้นาง ทว่าไม่ได้มีเจตนามาหาเรื่องนาง

ผ่านเรื่องไปมากมาย คนเราก็เรียนรู้ที่จะทำตัวให้ว่าง่ายขึ้นไม่น้อย ต่อให้จะไม่ชอบนาง ก็จะไม่ยั่วโมโหนาง ถึงอย่างไร ถ้าไปยั่วโมโหความยุ่งยากใหญ่นี้เข้า ไม่ใช่ตัวเลือกที่ฉลาดนักแน่นอน

คนที่เข้ามาหานางก็เพื่อจะมาสร้างความสนิทสนมกับนาง

"แม่นางจิ่ว ได้ยินว่าช่วงนี้ท่านร่วมมือกับตระกูลฮั่ว ใช้ยาลูกกลอนขั้นสี่เป็นสิ่งแลกเปลี่ยน ไม่ทราบว่าอยากจะมาร่วมมือกับข้าบ้างไหม?"

"จริงด้วย ขายยาลูกกลอนเหล่านั้นให้พวกข้าบ้างก็ได้นะ"

ถึงอย่างไรยาลูกกลอนขั้นสี่หลายครั้งก็ราคาสูงมากจนขายไม่ได้ในเมืองหลวง ต้องนำไปประมูลกัน การประมูลก็ดูไม่ใช่สิ่งที่แน่นอนด้วย ไม่รู้ว่าจะมีคนโง
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 829

    "ข้าก็แค่คิดไม่ถึง เจ้ารู้อยู่แล้วว่าเป็นแผนแต่ก็ยังกล้ามา นี่มันพูดว่าหยิ่งยโสไม่ได้แล้ว แต่เป็นโง่เขลาต่างหาก"จั๋วซือหรานได้ยินคำพูดเขา ก็หันหน้ากลับมา แล้วจึงเห็นชายกลางคนคนหนึ่งไม่ใช่คนอื่น บิดาของเฟิงเหยียน เฟิงอวี้นั่นเอง"พวกเขาเอาเฟิงเหยียนมาเป็นสิ่งแลกเปลี่ยน ไม่ใช่ว่าคิดไว้แล้วว่าข้าจะมาหรือ" จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้สายตาเฟิงอวี้ดูลึกซึ้งมากจั๋วซือหรานมองดวงตาเขา น้าจะเพราะคิ้วตาใบหน้าของเฟิงอวี้ดูคล้ายกับเฟิงเหยียนจริงๆดังนั้นพอมองดวงตาเฟิงอวี้ ก็คล้ายกับมองดวงตาของเฟิงเหยียนอย่างไรอย่างนั้นพอที่จะอ่านออกมาได้ชัดเจน ว่าในสองตานั่น ไม่มีความคิดอริศัตรูตอนนี้ ไม่เห็นความคิดอริศัตรู แต่กลับเห็นถึงอารมณ์ที่ซับซ้อนลึกซึ้งบางส่วนนางเองก็บอกไม่ถูกว่าคืออะไร แต่ขอแค่ไม่ใช่ความคิดอริศัตรู นางก็ขี้เกียจจะไปใส่ใจจั๋วซือหรานหมุนตัวหันไปโยนหินลงน้ำต่อแต่กลับไม่ได้ยินเสียงฝีเท้าเดินจากไปลอดเข้ามาทางด้านหลังเฟิงอวี้ยืนอยู่ด้านหลังนางตลอด ไม่ได้เดินไปไหนจั๋วซือหรานไม่ได้ยินเสียงเขาเดินจากไป ดังนั้นหลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จึงหันมาถามว่า "ท่านมีอะไรจะชี้แนะอีกหรือ?"ถึงแ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 830

    เขาจ่ายออกไปแล้วจริงๆเจ็บปวดมากดังนั้นเขาจึงหวังว่าลูกชายตนเองจะไม่เดินตามรอยความผิดพลาดของตนเช่นนั้น ขอแค่เหยียนเอ๋อร์ไม่เอาใครมาไว้ในใจ ก็ไม่ต้องเดินตามรอยตนเองแล้วและก็ผ่านไปอีกพักหนึ่งงานเลี้ยงในที่สุดก็เริ่มขึ้นแล้ว จั๋วซือหรานตามเหล่าแขกเหรื่อไปที่โถงจัดเลี้ยงและได้เห็นเหล่าผู้อาวุโสตระกูลเฟิง เข้ามาถึงในห้องจัดเลี้ยงก่อนแล้วนอกเหนือจากนี้ คนของตระกูลเหยียนส่วนหนึ่งก็อยู่ด้วยพวกเขากำลังคุยอะไรบางอย่างกันอยู่คิ้วของจั๋วซือหรานเลิกเล็กน้อย สายตาเย็นชาลงเล็กน้อยตอนที่ทุกคนมากันเกือบครบ ผู้อาวุโสตระกูลเหยียนกับผุ้อาวุโสตระกูลเฟิงก็ยืนขึ้นมา ร่วมประกาศข่าวขึ้นพร้อมกัน"เชื่อว่าทุกคนน่าจะเคยได้ยินกันแล้ว พวกเราสองตระกูลกำลังจะเกี่ยวดองกัน ลูกหลานที่ยอดเยี่ยมสองคนของสองตระกูลเรา ในวันนี้จะทำการหมั้นหมายกันภายใต้สักขีพยานของทุกท่าน หวังว่าจะได้รับการอวยพรของทุกท่าน"ทุกคนไม่อวยพรก็ไม่อวยพรสิ แต่สายตาก็อดมองไปทางจั๋วซือหรานไม่ได้ขึ้นมา ราวกับพยายามจะหาคำตอบหรือเหตุผลจากหน้าบนหน้าจั๋วซือหรานสีหน้าของจั๋วซือหรานไม่มีความอบอุ่นอยู่เลย แต่ก็มองไม่ออกว่าอึดอัดอะไรมีคน

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 831

    "เจ้ากำลังพูดไร้สาระอะไร? พวกเราไปทำอะไรกับเขาตอนไหน?"ถูกจั๋วซือหรานใช้กระบี่ยาวแทงผู้อาวุโสตระกูลเฟิงคนนี้ไว้บนพื้น เนื่องจากความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นกะทันหันทำให้เขาหน้าบูดเบี้ยวแต่ว่าตอนที่มองจั๋วซือหราน สายตากลับดูภาคภูมิใจขึ้นมาราวกับกำลังบอกกับนางว่า: แล้วเจ้าจะทำอะไรได้? เจ้าโกรธแค้นขนาดนี้เพื่อเฟิงเหยียน ไล่ฆ่าคนไปมากมาย พยายามไปตั้งมากมาย แล้วมีประโยชน์อะไร? เจ้าทำอะไรได้บ้าง?ผู้อาวุโสคนนี้ทนความเจ็บปวดไว้ เสียงกดลงทั้งต่ำทั้งเบา แต่กลับมีความเย้ยหยันกับหยิ่งยโสขึ้นอย่างไม่ปิดบัง บอกกับจั๋วซือหรานว่า "เจ้าไม่ใช่ว่าทุกวันต้องสังหารคนในตระกูลเราหนึ่งคนหรือ? เจ้าไม่ใช่บอกว่า ทุกวันจะสังหารลิ่วล้อของพวกเราคนหนึ่งนี่นะ?"เขาจ้องจั๋วซือหรานนิ่ง หัวเราะเย็นชา "เช่นนั้นเจ้าก็จัดการสังหารเฟิงเหยียนเสียสิ เขาเองก็เป็นลิ่วล้อของพวกเรา ทำไมเจ้าไม่ลงมือ?"ดวงตาของจั๋วซือหรานแดงก่ำขึ้นมา ริมฝีปากเม้มแน่น ไม่พูดอะไรผู้อาวุโสที่ถูกนางกดไว้คนนี้ พูดต่อมาว่า "จั๋วจิ่ว ถ้าเจ้าไม่ลงมือ ข้าก็จะลงมือแล้วนะ"จั๋วซือหรานยังไม่ทันตั้งตัวว่าคำว่า 'ลงมือ' จากปากผู้อาวุโสตระกูลเฟิงหมายความว่าอย

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 832

    "เฟิงเหยียนเองก็ไร้น้ำใจเกินไปแล้ว""นั่นสิ ต่อให้ไม่ได้เป็นคนรักกัน แต่แม่นางจั๋วจิ่วก็รักเขามากนะ ถึงกับยอมเป็นศัตรูกับทั้งตระกูลเฟิงเพื่อความปลอดภัยของเขาเลย แต่ดันต้องมาเจอเรื่องแบบนี้""น่าเวทนาจริงๆ หญิงสาวนี่นะ ต่อให้จะเก่งกาจแค่ไหน แต่ถ้ามาหลงใครหัวปักหัวปำเรื่องความรัก ก็จบแล้ว""คนที่อหังการอย่างจั๋วจิ่ว ก็ยังหนีคำว่ารักนี่ไม่พ้นสินะ"ถึงแม้จะไม่อยากได้ยิน แต่ห้องโถงมันก็ใหญ่แค่นี้คำสำคัญในเสียงวิพากษ์วิจารณ์ ดังก้องจนได้ยินอย่างชัดเจนจั๋วซือหรานยืนอยู่ตรงนั้น นางยกมือขึ้นกุมแขนซ้ายของตนเอง ของเหลวสีแดงสดไหลออกมาตามร้องนิ้ว จนทำเอาแขนเสื้อชุดแดงเพลิงของนาง ย้อมจนกลายเป็นแดงคล้ำนางมองชายคนนั้น มองสีหน้าไร้อารมณ์กับดวงตาลึกซึ้งที่เหม่อลอยของเขาถึงแม้จะไม่อยากยินยอม แต่ก็จำใจต้องยอมรับความจริงหนึ่ง"เจ้าจำข้าไม่ได้แล้ว" จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้นเสียงเรียบเสียงของเฟิงเหยียนไม่มีความอบอุ่นแม้เพียงน้อย ฟังแล้วเลื่อนลอยมาก "ข้าไม่รู้จักเจ้าเลย"จั๋วซือหรานคิดถึงภาพตอนที่ตนเองได้พบชายคนนี้ขึ้นมาครั้งแรกทันทีเขาในตอนนั้น ก็เหมือนจะเป็นเช่นนี้ พูดจาเฉยเมย เย็นชา ฟังไม่ออกเล

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 833

    ไม่รู้ว่าเพราะอะไร น่าจะเพราะพริบตานี้ จู่ๆ ก็รู้สึกเหนื่อยขึ้นมาจั๋วซือหรานไม่หลบอีก จู่ๆ นางก็หยุดเท้ายืนนิ่งมองชายที่โบกกระบี่มาทางตนเอง หางตานางแดงรื้นขึ้นมา เหมือนดูอ่อนแอมาก แต่ริมฝีปากกลับเม้มแน่น มองไม่เหมือนคนที่อ่อนแอเลยแม้แต่น้อยเฟิงเหยียนโบกกระบี่โจมตีมาทางเขา เขากระทั่งคาดการณ์ไว้แล้วล่วงหน้า ว่าหญิงสาวคนนี้จะทำท่ายกกระบี่เพื่อกันไม่รู้เพราะอะไร ถึงแม้เขาจะไม่รู้จักหญิงสาวคนนี้ แต่ระหว่างที่ลงมือกับนาง กลับทำให้เขารู้สึกไม่ค่อยเป็นตัวของตัวเองพูดไม่ถูกว่าเป็นความรู้สึกอะไร และบอกไม่ถูกว่าในใจเป็นอย่างไรหรือว่าจะเพราะ...นางนั้นงดงามมาก ดังนั้นจึงทำให้เขารู้สึกเห็นใจและทะนุถนอมขึ้นมาหรือ?ถึงแม้เขาจะรู้สึกว่าในชีวิตของตนเองนี้ เหมือนไม่เคยเกิดมีคำว่ารู้สึกเห็นใจและทะนุถนอมมาก่อนเลยก็ตามแต่ว่า บาดแผลเหล่านั้นบนตัวนาง...เดิมทีควรจะตัดแขนของนางไปแล้ว แต่ตอนหลังกลับเก็บแรงลงมา จึงทิ้งไว้แค่เพียงแผลถลอกเดิมทีควรจะเป็นการโจมตีที่ทะลวงท้องของนางไป แต่กลับกลายเป็นแผลตื้นๆ แผลหนึ่งที่ข้างเอวนางแทนแน่นอน เฟิงเหยียนคิดว่า น่าจะเพราะนางปฏิกิริยารวดเร็วมาก และเพราะทุกค

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 834

    แต่กลับไม่ลงมือ กระทั่ง ยังเก็บกระบี่ยาวลงทันควันอีกด้วยเสียงชิ้ง! ดังขึ้น กระบี่เสวียนเหยียนกลับเข้าไปอยู่ในฝักแล้วจั๋วซือหรานมองเขา "ท่านอ๋อง ท่านไม่รู้จักข้าจริงหรือ?""ไม่รู้จัก" เฟิงเหยียนเอ่ยขึ้นเสียงเย็นชา แต่ในใจกลับไม่ค่อยแน่ใจเท่าไร ไม่รู้จักจริงหรือ? แล้วปัญหามันเกิดจากตรงไหนกัน...จั๋วซือหรานหัวเราะเฮอะขึ้น "มองไม่ออกเลย ว่าท่านอ๋องจะมีเมตตากับคนที่ไม่รู้จักแบบนี้ ไม่ใช่บอกว่าจะสังหารข้าหรือ ลงมือไม่ลงแล้วเหรอ?"เฟิงเหยียนไม่พูดอะไรจั๋วซือหรานมองเขา มุมปากเลิกขึ้นเป็นรอยโค้งเหมือนยิ้มเหมือนไม่ยิ้ม "หรือก็คือ เพราะข้าหน้าตาดี ท่านอ๋องเลยเห็นใจและสงสารขึ้นมาแล้วสินะ?"เฟิงเหยียนได้ยินคำนี้ นิ่งงันไปพักหนึ่ง "เจ้าถือว่าเป็นหญิงสาวที่ต้องเห็ฯใจและสงสารหรือ?"จั๋วซือหรานพอได้ยินก็ยิ้มๆ นางมองเขานิ่งไม่รู้เพราะอะไร เฟิงเหยียนมองออกบางส่วนจากในสองตานี้...ทำให้เขามีสีหน้าตื่นตระหนกขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุกระทั่งว่า ตัวนางไม่รู้ด้วยซ้ำว่าทำไมถึงต้องตื่นตระหนกแต่เพียงไม่นาน เขาก็มีคำตอบขึ้นมาเพราะวินาทีต่อมา มือที่ห้อยอยู่ข้างตัวนาง กำกระบี่แล้วชูขึ้นมาทันควันแต่

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 835

    "เจ้า...!" เฟิงเหยียนรู้สึกว่าตนเองแทบจะบ้าอยู่แล้ว กระทั่งไม่รู้ว่าไฟโกรธนี้มาจากที่ไหนนิ้วของจั๋วซือหรานคลายจากด้ามกระบี่ เอ่ยขึ้นเสียงเรียบ "ชอบกระบี่ข้าขนาดนี้เชียว? ถึงกับเอามือเปล่ามารับคมเลยหรือ? ให้เจ้าแล้วกัน"พูดพลาง จั๋วซือหรานก็หันไปมองผู้อาวุโสตระกูลเฟิงเหล่านั้นนางหัวเราะขึ้นมา "แค่นี้น่ะนะ?"พอสิ้นเสียง ก็เห็นสีหน้าเหมือนกินขี้มาของพวกเขาตามคาดทุกคนล้วนนิ่งเป็นเป่าสาก เพราะสถานการณ์ก่อนหน้านี้มันพลิกไปพลิกมา...จนทำเอาคนต้องถลึงตาอ้าปากค้าง ดูละครยังไม่ถึงใจขนาดนี้เลยจั๋วจิ่วคนนี้ เป็นคนประหลาดเสียจริง!นางกล้ามากจริงๆ!นางกล้าเดิมพัน!พวกบ้าเดิมพันแบบนาง ตระกูลเฟิงทำไมถึงกล้าไปยั่วโมโหนางกัน?ครั้งนี้เป็นไงล่ะ ขายหน้าครั้งใหญ่เลยกระมังคิดจะทำให้จั๋วซือหรานอึดอัดต่อหน้าคน ตอนนี้ใครกันแน่ที่อัดอัด?ผู้อาวุโสตระกูลเฟิงไม่พอใจกับเรื่องนี้มาก เดินไปข้างๆ เฟิงเหยียน กดเสียงต่ำถามขึ้นมา "เหยียนเอ๋อร์! เจ้าเป็นอะไรไป"เฟิงเหยียนก้มหน้าลงใช้ผ้าเช็ดมือเช็ดแผลที่ฝ่ามือของตนเอง สีหน้านิ่งมาก กวาดตามองผู้อาวุโสผาดหนึ่ง เสียงเองก็เรียบสงบ "พวกท่านก่อนหน้านี้ไม่ได้พูด

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 836

    อย่างกับจะใช้สายตาจัดการเปลื้องผ้านางออกจนหมดอย่างไรอย่างนั้นในน้ำเสียงก็เต็มไปด้วยความอยากได้อยากครองอย่างไม่ปิดบัง เอ่ยขึ้นว่า "แม่นางจั๋วจิ่ว ตระกูลเฟิงทำกับท่านแบบนี้ ไม่ได้เห็นใจและสงสารกันเลย! หชื่อเสียงของหญิงสาวคนหนึ่งสำคัญมาก ทั้งที่ท่านต้องหมั้นหมายกับเฟิงเหยียนชัดๆ ตอนนี้กลับมาเปลี่ยนคนกลางทาง นี่มันไม่เห็นท่านอยู่ในสายตาเลย!"จั๋วซือหรานพอได้ยินก็ไม่ได้พูดอะไร หลักๆ คือขี้เกียจจะไปตอบ จะลองดูว่าคนผู้นี้จะพูดอะไรออกมาอีกคนผู้นี้พอเห็นจั๋วซือหรานไม่พูดอะไร ก็คิดว่าจั๋วซือหรานยอมรับตัวเขาแล้วจึงรีบพูดต่อว่า "ไหนจะเรื่องที่ให้เจ้าต้องมาเจ็บจนเหวอะหวะไปทั้งตัวนี่เอง รังแกกันเกินไปแล้ว นี่คือยารักษาอาการบาดเจ็บ น้ำใจเล็กน้อยของข้าน้อย ข้าน้อยชื่นชมแม่นางจั๋วจิ่วมานานแล้ว แม่นางเป็นหญิงสาวคนหนึ่ง จะอย่างไรเบื้องหลังก็ควรมีตระกูลมาคอยสนับสนุนถึงจะถูก..."จั๋วซือหรานได้ยินคำนี้ ในที่สุดหัวเราะออกมาอย่างทนไม่ไหว ตาของนางโค้งจนเย็นชาไร้ความอบอุ่น เอ่ยขึ้นเสียงเรียบว่า "โอ้ นี่ก็มาทันเวลาจริงๆ ถ้ายังไม่เอายามารักษาล่ะก็ แผลของข้าก็ใกล้สมานกันแล้ว"คนผู้นี้สีหน้าแข็งทื่อ รอบๆ ก

บทล่าสุด

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1102

    รอยยิ้มบนใบหน้าจั๋วซือหรานไม่เปลี่ยน "เช่นนั้นก็ขอบคุณมาก""ไม่เป็นไร" 'เยี่ยนหราน' เอ่ยขึ้นเสียงเรียบจั๋วซือหรานยังคงยิ้มบาง "บัวเจ็ดดอกเจ็ดใบแกนกลางเทียนนี้เป็นสิ่งมีพิษกระมัง?""อืม" เขาไม่ได้ตระหนักถึงว่าอะไรผิดปกติ พยักหน้าตอบกลับ "เป็นสิ่งมีพิษที่มีอยู่ไม่มากนัก สามารถสร้างหมอกพิษขึ้นในป่าได้ ต้นของมันเดิมทีก็มีพิษร้ายแรงอยู่"อาหารรสชาติไม่เลวเลย น้ำแกงทำเอาตัวคนผ่อนคลายลงมาเลยทีเดียวเขาค่อนข้างผ่อนคลาย...หรือบางที สิ่งที่ทำให้เขาผ่อนคลายไม่ใช่น้ำแกงร้อน แต่เป็นเสียงอ่อนโยนของนาง...เขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันดังนั้น ตอนนี้เขาจึงไม่ได้สังเกตถึงอะไรที่ผิดปกติพอได้ยินคำถามที่จั๋วซือหรานเพิ่งถาม ก็ตอบกลับนางมาตรงๆหลังจากนั้นก็ได้ยินเสียงหญิงสาวใสเย็น เพียงแต่ว่า ไม่ได้อ่อนโยนแบบก่อนหน้านี้แล้วเพียงแค่เอ่ยขึ้นเรียบๆ ว่า "เป็นของดีจริงๆ เพียงแต่ว่า..." นางเปลี่ยนหัวข้อสนทนา "ไม่รู้ว่าคุณชายเยี่ยนรู้ได้อย่างไร...หรือทำไมจึงรู้สึกว่า ข้าสามารถทนทานต่อธาตุพิษได้โดยไม่ต้องเกรงกลัวอะไร?"มือที่จับตะเกียบของชายหนุ่ม หยุดนิ่งไปในชั่วพริบตาเขาแหงนตา มองไปยังสีหน้าของหญิงสาว อั

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1101

    คำพูดนี้ของจั๋วซือหรานไม่ได้มีเจตนาอะไรเป็นพิเศษแต่นางหน้าตาดี แล้วยังฉลาดเฉลียว ปกติเวลาปฏิบัติต่อใครก็จะมีท่าทีเย็นชา ดังนั้นต่อให้จะสวย แต่ก็ยังรู้สึกเหินห่างด้วยเช่นกันแต่ตอนนี้ท่าทีของนาง กลับไม่ได้เย็นชาเหมือนปกตินางยิ้มตาโค้ง ยิ้มสวยหยาดเยิ้มราวกับดวงดาวพร่างพราวอยู่เต็มฟ้า เหมือนมีมนต์สะกดที่ไม่รู้จัก สามารถทำให้คนจมดิ่งเข้าไปได้ในพริบตา'เยี่ยนหราน' มองตานางนิ่ง ไม่ย้ายสายตาไปไหนเลยพักหนึ่ง"ทำไมหรือ?" จั๋วซือหรานถามขึ้นเบาๆ'เยี่ยนหราน' ตอนนี้จึงส่งเสียงฮึจากจมูกออกมาเป็นเชิงถาม คล้ายกับเพิ่งจะรู้สึกตัวจั๋วซือหรานหัวเราะ ถามขึ้นว่า "คุณชายเยี่ยนเหม่อไปแล้วหรือ? ชื่อดวงดาวที่เจ้าบอกล่ะ?"ตอนนี้เขาจึงเอ่ยขึ้น "เหลียนเจิน เทียนเยว่ เทียนจี เทียนเซี่ยง เทียนถง เทียนเหลียง..."หลังจากจั๋วซือหรานได้ยิน ก็เลิกคิ้วขึ้น "ไม่เลวจริงๆ ถ้าอย่างนั้นก็เอาตามที่คุณชายว่าแล้วกัน ขอบคุณมาก"ปฏิกิริยาเหล่านี้ของ 'เยี่ยนหราน' จั๋วซือหรานรู้สึกว่าน่าสนใจอย่างเห็นได้ชัดและรู้สึกว่าใกล้เคียงแล้ว จึงลุกขึ้นยืน "คุณชายเยี่ยนค่อยๆ กินเถิด ข้าจะไปดูพวกคนรับใช้ที่บาดเจ็บพอดี แล้วจะบอก

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1100

    "เอาที่อร่อยดีกว่า" ขนมชามเองก็ใสซื่อ เอ่ยขึ้นว่า "นายท่านเองก็หิวแล้วนี่"จั๋วซือหรานยื่นนิ้วออกมานิ้วหนึ่ง จับไปที่ขนมชามเบาๆยิ้มตาโค้ง "เด็กดี"จากนั้นนางก็เอ่ยขึ้นเสียงเรียบ "เอาล่ะ ถือว่าเขาโชคดีแล้วกัน"โชคดีที่มาเจอเข้ากับขนมชามที่นิสัยอ่อนโยนที่ด้านนอก ถ้าหากขนมถั่วแดงอยู่ด้านนอกล่ะก็ คงได้เสนออีกข้อหนึ่งมาแน่จั๋วซือหรานหยิบวัตถุดิบออกมาจากในมิติ คิดจะทำอาหารสักมื้อหลักๆ คือ อันที่จริงเดิมทีนางก็อยากจะทำให้ใจเขาปั่นป่วนอยู่แต่พอคิดๆ แล้วก็รู้สึกว่า ถ้าหากจะปั่นป่วนจิตใจเขาจริง ก็เหมือนจะไม่ใช่วิธีการที่ปฏิบัติต่อเขาอย่างเย็นชาตาของจั๋วซือหรานหรี่ลง พริบตานี้...ก็เหมือนมีแผนการใหม่ขึ้นมาแล้วประมาณราวสามเค่อกับข้าวสี่อย่างน้ำแกงหนึ่งอย่างอันหอมหวนชวนกิน ก็เสร็จสิ้นลงจากเตา"นี่คือปลาเปรี้ยวหวาน ขานกย่าง เนื้อกระดูกหอมเกรียม คะน้าไฟแดง แล้วก็มีน้ำแกงเต้าหู้กระดูกปลาอีกที่ด้วย"จั๋วซือหรานนำอาหารหอมหวนชวนกิน ยกมาวางกองลงตรงหน้า 'เยี่ยนหราน'จากนั้นจึงเลิกแขนเสื้อขึ้น เผยให้เห็นข้อมือขาว หยิบตะเกียบแล้วเอ่ยขึ้นว่า "คุณชายเยี่ยน ลองชิมฝีมือของข้าหน่อย"ตอนที่พูดค

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1099

    เหล่าคนค้มกันทยอยกันมองไปทางหัวหน้าคนคุ้มกัน ในสายตาเต็มไปด้วยความต้องการความช่วยเหลืออย่างจริงใจหัวหน้าคนคุ้มกันกัดฟันถามขึ้น "แม่ แม่นาง...คงจะไม่คิดจะตั้งชื่อ..."เขาชะงักไป เปลี่ยนทิศทางคำพูด เอ่ยต่อว่า "...อะไรทำนองนี้หรอกใช่ไหม?"ไม่หรอกกระมัง?จั๋วซือหรานเองก็ไม่ได้โง่ ฟังไม่ออกถึงความกังวลพวกเขาเสียที่ไหนนางเหลือบมองพวกเขาผาดหนึ่ง จงใจแหย่พวกเขา เอ่ยขึ้นว่า "ทำไมล่ะ ไม่ดีหรือ? ลาย่างไฟ ขนมไส้หมู หมูชุบกรอบ เป็ดหมักน้ำจิ้ม หมูผัดเปรี้ยวหวาน"นางพูดไปด้วยพลางชี้นิ้วไปทางพวกเขาจากนั้นจึงเห็นว่าสีหน้าของเหล่าคนคุ้มกันแทบจะร้องไห้กันออกมาแล้วตอนนี้เอง เสียงหัวเราะแผ่วเบาเสียงหนึ่งก็ดังขึ้นที่ประตูจั๋วซือหรานมองไปตามเสียง ก็เห็นร่างเงาหนึ่งที่คุ้นเคย"เจ้าทำไมมาอยู่ที่นี่?" จั๋วซือหรานเลิกคิ้ว มองคนที่มาใหม่ด้วยสายตาลึกซึ้ง จากนั้นก็พ่นชื่อออกมา "เยี่ยนหราน? ข้าจำชื่อไม่ผิดใช่ไหม"ชายหนุ่มร่างตรงแน่วเดินเข้ามาจากประตู พยักหน้าเบาๆ "ถูกต้อง"จั๋วซือหรานแหงนตามองเขา ไม่พูดอะไรชายหนุ่มก้มหน้ามองนาง สบตากันครู่หนึ่ง อันที่จริงในใจเขาก็ไม่ค่อยสงบนัก แค่คิดว่านางมองอะไรอ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1098

    นางหมายถึง...กองหนุนที่ย้ายมาจากสำนักเมฆาวารีของผู้เฒ่าเหอสินะ!?แต่ใครก็ตามที่มีความคิดเช่นนี้ เขาคงจะรู้สึกว่าอีกฝ่ายหยิ่งผยองโอหังถึงที่สุดหญิงสาวตรงหน้าคนนี้ ตอนที่เผยความหมายนี้ออกมากลับไม่ทำให้เขารู้สึกถึงความหยิ่งผยองโอหังแม้แต่น้อยเพราะ เรื่องราวเหมือนจะเป็นเช่นนี้จั๋วซือหรานเหมือนจะงึมงำกับตนเองขึ้นว่า "พอเข้าใจวิชาหุ่นเชิดกับหุ่นเชิดมนุษย์แล้ว มันน่าสนใจจริงๆ ทางที่ดีขอให้พวกเขาเอาเจ้าพวกนี้มาเล่นด้วย จะได้ไม่เสียเวลาที่ให้ข้ารอนานขนาดนี้...เจิ้นเจียงเหลือบมองทุกคนที่มีบาดแผลพอคิดๆ ก็ถามจั๋วซือหรานขึ้น "แม่นาง แล้วจะเรียกพวกเขาว่าอย่างไรกัน? เหมือนว่าจะบาดเจ็บกันหนักมาก ข้าพาพวกเขาไปพักผ่อนดีไหม?"หัวหน้าคนคุ้มกันมองออก ว่าคนรับใช้คนนี้ของนายท่าน เหมือนจะไม่ได้กังวลอะไรเลยกับสถานการณ์ที่นายท่านกำลังจะเผชิญแม้ไม่รู้ว่าผ่านเรื่องอะไรมา ถึงทำให้บ่าวมีความเชื่อมั่นที่เด็ดขาดขนาดนี้แต่ไม่ว่าจะผ่านอะไรมาอันที่จริงคนคุ้มกันอย่างพวกเขา ก็เพิ่งจะผ่านการถูกตระกูลเหอปฏิบัติอย่างโหดร้ายมานี่เองและยังเห็นเจิ้นเจียงมีความเชื่อมั่นที่เด็ดขาดขนาดนี้ต่อนายท่านแม้พวกเขา

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1097

    จั๋วซือหรานหลังจากพูดจบ ผู้เฒ่าเหอในที่สุดก็ทนกับความโกรธไม่ไหวตาเหลือกสลบเหมือดไปอีกครั้งจั๋วซือหรานจึงพาคนออกมาจากจวน ตอนที่ไปยังโรงเตี๊ยม หัวหน้าคนคุ้มกันยังมีความระแวดระวังอยู่"แม่นาง นี่คือโรงเตี๊ยมของตระกูลเหอ"จั๋วซือหรานเหลือบมองเขา พยักหน้าตอบ "ข้ารู้""ท่านไม่กังวล..." ขณะที่หัวหน้าคนคุ้มกันเอ่ยขึ้น ก็ตระหนักขึ้นมาได้อย่างรวดเร็ว ว่าเจ้านายใหม่ของตนเอง เหมือนเดิมทีจะเป็นคนที่ไม่ค่อยกังวลกับอะไรนัก""ถ้าหากกังวลล่ะก็ เกรงว่าตอนที่พวกเขาอยู่ในป่าทวนแสงก่อนหน้านี้ คงไม่ถูกนางเล่นงานเสียจนเป็นแบบนั้นหัวหน้าคนคุ้มกันบอกพูดพลางยิ้มจางๆ บอกกับตนเองว่า "ก็ถูก..."จั๋วซือหรานเพิ่งเดินเข้าประตูโรงเตี๊ยม เจิ้นเจียงก็เข้ามาต้อนรับแล้ว "คุณหนู! ท่านกลับมาแล้ว!"จั๋วซือหรานขานรับอืม เหลือบมองเขา "มีเรื่องอะไรยุ่งยากหรือเปล่า?"เจิ้นเจียงส่ายหัวตอบกลับ "ไม่มีเลยขอรับ ก็แค่ตอนที่เริ่มมีคนคิดจะมาหาเรื่อง แต่ยังไม่ทันได้แตะข้า ก็ถูกฟาดจนล้มไป หลังจากนั้น...ไม่มีหลังจากนั้นแล้วขอรับ"เจิ้นเจียงรู้ว่านายท่านคงทำอะไรไว้บนตัวตนเอง แต่ว่าจนถึงตอนที่เห็นคนที่คิดจะเข้ามาหาเรื่อง กระทั่งย

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1096

    ราวกับว่าความรู้สึกที่คลุมเครือในใจนั้น ในที่สุดก็โผล่ขึ้นมาอีกครั้งนางไม่มีประสบการณ์ผ่านเรื่องนี้จริงๆ แต่ในเส้นโชคชะตาของเจ้าของร่างเดิม เสน่ห์หนอนพิษกู่ในร่างเจ้าของเดิมถูกควบคุมโดยฉินตวนหยาง ทำให้ร่างกายไม่เป็นตัวของตัวเอง แล้วมองเห็นตนเองถูกควบคุมอยู่ตลอดเวลาทำอะไรไม่ได้ทั้งนั้นแตกต่างอะไรกับหุ่นเชิดความมืดกัน วิญญาณถูกขังให้รับการควบคุมอยู่ในเปลือกร่าง ไม่อาจสงบสุขได้อีก ไม่อาจหลุดพ้นได้...เกลียดชังขนาดที่แม้จะเกิดใหม่อีกครั้ง ก็ยังไม่อยากมีชีวิตอยู่อีกแล้วผู้เฒ่าเหอพอได้ยินคำนี้ ก็ไม่ได้ส่งเสียงอะไร ยังคงเช็ดแผลเลือดซิบบนหน้าตนเอง เช็ดจนบวมขึ้นมาแล้วจั๋วซือหรานไม่หันไปมองผู้เฒ่าเหออีก นำทางคนที่รับเข้ามาใหม่เตรียมจะออกไปพวกเขาแม้จะยังไม่ได้ฟื้นฟูกลับมาอย่างสมบูรณ์ แต่อย่างน้อยก็เดินกันได้แล้วยิ่งไปกว่านั้นในใจพวกเขาก็เข้าใจดี ต่อให้ตนเองเดินไม่ได้ จะต้องคลาน! ก็ต้องตามแม่นางออกไปพอเห็นจั๋วซือหรานออกไป ในใจผู้เฒ่าเหอก็เกิดความรู้สึกโล่งใจออกมาแต่ความรู้สึกที่มากว่า ยังคงเป็ฯความโกรธเคือง ชิงชังจนเข้ากระดูกดำแม้จะไม่กล้าพูดอะไรที่รุนแรงออกมา แต่กลับยังใช้สาย

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1095

    จั๋วซือหรานฟังถึงจุดนี้ อันที่จริงก็ไม่มีอะไรให้ฟังต่อเท่าไรแล้ว อย่างอื่นก็เหมือนจะเดาออกมาได้อยู่สาเหตุที่ใช้คนเป็นมาหลอมสกัด โดยเฉพาะต้องไปลอบโจมตีคนที่ทักษะยุทธ์ยอดเยี่ยมมาหลอมเป็นหุ่นเชิดความมืดแน่นอนว่าเป็นเพราะทักษะยุทธ์กับความคิดด้านต่อสู้ของอีกฝ่าย และสิ่งเหล่านี้ไม่ได้อยู่ในร่างกายของอีกฝ่าย แต่อยู่ในจิตใต้สำนึกของอีกฝ่าย...พูดให้ง่ายหน่อย คืออยู่ในจิตวิญญาณของอีกฝ่ายนั่นเองพอร่างตายวิญญาณก็ดับสลายแล้วตะปูวิญญาณนี่...จั๋วซือหรานมองตะปูยาวในมือเล่มนี้ ฟังจากชื่อก็เดาประโยชน์ของมันได้ไม่ยากโหดร้ายมาก ตอกดวงวิญญาณของอีกฝ่ายไว้ในร่างกาย ประสิทธิภาพของอักขระคำสาปเปล่านี้ ก็ควรจะเป็นเช่นนี้กระมังผู้เฒ่าเหอพอเห็นจั๋วซือหรานไม่ถามต่อ ก็ไม่ได้พูดอะไรมาก ถอนใจยาวออกมาและตอนนี้เอง หลังจากได้รับการรักษาของจั๋วซือหราน หัวหน้าคนคุ้มกันที่ฟื้นฟูพลังปราณมาแล้วบางส่วนก็พูดกับจั๋วซือหรานอย่างนอบน้อม "แม่นาง ปรมาจารย์วิชาเหยี่ยนที่หลอมสกัดหุ่นเชิดความมืดเป็นคนแรก ก็คือบรรพจารย์ผู้ก่อตั้งสำนักเมฆาวารี แต่เจ้าสำนักเมฆาวารีในตอนนี้ เป็นรุ่นหลังของบรรพจารย์ผู้ก่อตั้งสำนักคนนั้น"

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1094

    ถ้าหากใช้ศพของคนล่ะ?แต่ถึงอย่างไรมันก็เป็นสิ่งต้องห้าม ดังนั้นตอนที่หุ่นเชิดร่างแรกถูกหลอมออกมา ปรมาจารย์วิชาเหยี่ยนคนนั้นกระทั่ง ปรมาจารย์วิชาเหยี่ยนคนนั้นก็พบกับการลงโทษที่รุนแรงยิ่งไปกว่านั้นหุ่นเชิดมนุษย์ก็ถูกตราว่าเป็นสิ่งต้องห้าม แต่ว่า ทักษะนี้ก็ปรากฏออกมาแล้วทักษะอะไรก็ตามพอปรากฏออกมาแล้ว ต่อให้จะถูกตีตราเป็นสิ่งต้องห้ามก็ตาม แต่ก็ยังมีคนที่แอบนำมาใช้งานกันอยู่ส่วนหุ่นเชิดความมืดตัวแรกนั้น...จั๋วซือหรานฟังถึงตรงนี้ก็เลิกคิ้วขึ้น "ดังนั้นเอาคนเป็นมาใช้ถึงจะกลายเป็นหุ่นเชิดความมืดสินะ"นางมองผู้เฒ่าเหอ "ข้าเป็นหมอ วิชาแพทย์เองก็ไม่เลวนัก บาดแผลที่เกิดขึ้นก่อนตายกับบาดแผลที่เกิดขึ้นหลายตายไปแล้ว ข้าเข้าใจเป็นอย่างดี"เจตนาที่จั๋วซือหรานพูดคำนี้ออกมานั้นง่ายมาก ก็คือจะพูดกับผู้เฒ่าเหอให้ชัดเจนถึงความหมายหนึ่ง...อย่าโกหกข้าผู้เฒ่าเหอเหลือบมองนางผาดหนึ่ง ตอนนี้จึงเอ่ยขึ้นเสียงเล็ก "ใช่แล้ว แค่นำคนเป็นมาทำ ก็จะเรียกว่าหุ่นเชิดความมืด แม้หุ่นเชิดความมืดจะถูกสั่งห้ามมาตลอด แต่ระหว่างปรมาจารย์วิชาเหยี่ยนด้วยกันก็มีการหารือกันมาตลอด หุ่นเชิดมนุษย์ไม่สามารถแก้ไขปัญหาเรื่องควา

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status