Share

บทที่ 836

Author: หูเทียนเสี่ยว
อย่างกับจะใช้สายตาจัดการเปลื้องผ้านางออกจนหมดอย่างไรอย่างนั้น

ในน้ำเสียงก็เต็มไปด้วยความอยากได้อยากครองอย่างไม่ปิดบัง เอ่ยขึ้นว่า "แม่นางจั๋วจิ่ว ตระกูลเฟิงทำกับท่านแบบนี้ ไม่ได้เห็นใจและสงสารกันเลย! หชื่อเสียงของหญิงสาวคนหนึ่งสำคัญมาก ทั้งที่ท่านต้องหมั้นหมายกับเฟิงเหยียนชัดๆ ตอนนี้กลับมาเปลี่ยนคนกลางทาง นี่มันไม่เห็นท่านอยู่ในสายตาเลย!"

จั๋วซือหรานพอได้ยินก็ไม่ได้พูดอะไร หลักๆ คือขี้เกียจจะไปตอบ จะลองดูว่าคนผู้นี้จะพูดอะไรออกมาอีก

คนผู้นี้พอเห็นจั๋วซือหรานไม่พูดอะไร ก็คิดว่าจั๋วซือหรานยอมรับตัวเขาแล้ว

จึงรีบพูดต่อว่า "ไหนจะเรื่องที่ให้เจ้าต้องมาเจ็บจนเหวอะหวะไปทั้งตัวนี่เอง รังแกกันเกินไปแล้ว นี่คือยารักษาอาการบาดเจ็บ น้ำใจเล็กน้อยของข้าน้อย ข้าน้อยชื่นชมแม่นางจั๋วจิ่วมานานแล้ว แม่นางเป็นหญิงสาวคนหนึ่ง จะอย่างไรเบื้องหลังก็ควรมีตระกูลมาคอยสนับสนุนถึงจะถูก..."

จั๋วซือหรานได้ยินคำนี้ ในที่สุดหัวเราะออกมาอย่างทนไม่ไหว ตาของนางโค้งจนเย็นชาไร้ความอบอุ่น เอ่ยขึ้นเสียงเรียบว่า "โอ้ นี่ก็มาทันเวลาจริงๆ ถ้ายังไม่เอายามารักษาล่ะก็ แผลของข้าก็ใกล้สมานกันแล้ว"

คนผู้นี้สีหน้าแข็งทื่อ รอบๆ ก
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter
Comments (2)
goodnovel comment avatar
Jirawadee Panyasan
ให้นางเอกสมหวังที ทรมานทั้งเรื่อง พระเอกก็ไม่เคยช่วยอะไรเลย
goodnovel comment avatar
ณัฏฐ์ปภาพินท์ แม่ค้า
ไม่ต้องสนใจพระเอกหรอก เดินไปตบคนละทีแล้วก้กลับบ้านดีกว่า หนุ่มๆรอเราเยอะ
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 837

    เหมือนกับว่า...นี่มันเป็นชื่อเรียกเฉพาะอะไรสักอย่างแต่ว่า นี่มันชื่อเรียกเฉพาะอะไรล่ะ?เฟิงเหยียนขมวดคิ้ว ไม่มีอารมณ์ใดเหยียนหยี่หลิงที่อยู่ข้างๆ ก็ตาแดงรื้นเหมือนจะร้องไห้เพราะตกใจกับเสียงที่เข้มงวดของเขาเฟิงเหยียนขมวดคิ้วเหลือบมองนาง เอาจริงๆ สำหรับหญิงสาวอ่อนหวานแบบนี้ก็เป็นเรื่องปกติแต่บอกไม่ถูกว่าเพราะอะไร เห็นแล้วรู้สึกรำคาญหน่อยๆราวกับว่า...หญิงสาวไม่ควรเป็นเช่นนี้ แล้วมันควรเป็นแบบไหนล่ะ? ไม่มีอารมณ์อย่างนั้นรึจากนั้นก็มองไปยังใบหน้าสวยที่อยู่ห่างออกไปทางนั้น กลับเป็นใบหน้าที่ไร้ซึ่งอารมณ์ ราวกัว่าต่อให้ตอนนี้ฟ้าถล่มลงมาต่อหน้านาง นางก็จะไม่แม้แต่ขมวดคิ้วเพียงแต่ว่า ถ้าหากเหยียนหยี่หลิงร้องไห้ออกมาตอนนี้ คงทำให้งานยิ่งยุ่งยากเข้าไปอีกเขากลัวความยุ่งยาก ก็เลยยื่นมือไปรับถ้วยชาของเหยียนหยี่หลิงมาเอ่ยขึ้นเสียงเรียบ "ขอบใจ"สีหน้าน้อยเนื้อต่ำใจของเหยียนหยี่หลิงก่อนหน้านี้จึงหายไปจั๋วซือหรานพอเห็นท่าทางรักใคร่ชอบพอของทางนี้ มุมปากก็ยกขึ้นให้เห็นการเย้ยหยันอย่างเย็นชาขึ้นมาตามหลักการแล้ว นางไม่ควรไปคิดเล็กคิดน้อยกับคนโง่คนรักหนุ่มโง่แล้วทำอย่างไรล่ะ? ก็ต้องใ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 838

    ซือคงเซี่ยนไฟโกรธปะทุในใจ เขายังโกรธด้วยหรือ? เขามีคุณสมบัติอะไรมาโกรธ? เขาทำซือหรานบาดเจ็บขนาดนี้เชียว!ซือคงเซี่ยนโตมาขนาดนี้ยังไม่เคยอิจฉาริษยาใครมาก่อน แต่สำหรับเฟิงเหยียน เขานั้นอิจฉาริษยาจริงๆได้รับใจของหญิงสาวอย่างซือหราน แต่กลับไม่เสียดาย? ทำร้ายนางจนบาดเจ็บขนาดนี้เลยหรือ!ส่วนอีกด้านหนึ่ง เฟิงเหยียนเห็นชายหนุ่มในชุดอ๋องคนนั้น จับแขนจั๋วจิ่วอย่างเสียดายหวงหวน ถามถึงอาการของนางด้วยสายตาอ่อนโยนและกังวลเฟิงเหยียนพูดอะไรไม่ออก แค่รู้สึกว่า...เหมือนในใจถูกกระชากขนออกมากำหนึ่งอย่างไรอย่างนั้น ไม่ได้เจ็บมาก แต่มันคันจะแย่ มองข้ามไปไม่ได้เลยชั่วขณะหนึ่งยิ่งไปกว่านั้น จั๋วซือหรานยังดึงอ๋องเซี่ยนไปข้างๆ แล้วพูดคุยด้วยอีก...ภาพที่ทั้งสองคนอยู่ข้างๆ ยืนใกล้กันมาก คุยกันด้วยเสียงต่ำเบา เหมือนประทับเข้าไปในดวงตาเขาอย่างไรอย่างนั้นจั๋วซือหรานขี้เกียจจะสนใจเขาทางนั้น เอ่ยกับอ๋องเซี่ยนขึ้นว่า "ท่านอ๋องมาครั้งนี้จะปลอดภัยแน่หรือ? ที่นี่ถึงอย่างไรก็เป็นเขตของซือคงอวี้ ข้านะหนีไปเองก็ได้"ซือคงเซี่ยนยิ้มตาโค้งเอ่ยขึ้น "ข้าจะทำให้เจ้าลำบากใจได้อย่างไรล่ะ ข้าจัดการอะไรเรียบร้อยหมดแล้วถึ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 839

    เหยียนหยี่หลิงโมโหจะแย่ แต่ก็ยังกลัวจะเสียหน้า ดังนั้นจึงระงับเสียงต่ำไว้แม้เสียงจะกดต่ำไว้ ความโกรธในน้ำเสียงกลับกดต่ำลงไป"เวลาข้าพูดแล้วยกตระกูลยกผู้อาวุโสออกมา แน่นอนว่าเพราะข้ามีตระกูล! มีผู้อาวุโส! ข้ามีที่พึ่งพาอย่างไรล่ะ! ไม่เหมือนกับเจ้า เจ้ามีตระกูลกับเขาไหม? มีผู้อาวุโสกับเขาบ้างไหม?"ความโกรธในน้ำเสียงเหยียนหยี่หลิงยิ่งเพิ่มขึ้น แต่ในเสียงของจั๋วซือหรานกลับหัวเราะขึ้นมา นางเป็นเช่นนี้มาแต่ไหนแต่ไร เวลาศัตรูโกรธ นางก็จะไม่โกรธนี่คือสิ่งที่เรียกว่าการถ่ายทอดพลังงานด้านลบ ไม่อย่างนั้นคงได้ป่วยกันพอดี ใครก็เป็นแบบนี้กันทั้งนั้นนี่?จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้ม "ข้าเป็นต้นไม้ใหญ่ ทำไมจะต้องมีคนมาให้พึ่งพาด้วย? ข้าบอกแล้ว ข้ากับเจ้าไม่เหมือนกัน เจ้าก็อย่าทำให้ตนเองอับอายขยหน้าดีกว่า อย่ามาทึกทักว่าเป็นเรื่องตัวเอง เจ้าไม่ใช่อยากจะแต่งกับเฟิงเหยียนมาตลอดหรือ ตอนนี้เรื่องก็เสร็จไปครึ่งแล้วนะ จะดีใจก็ดีใจไปคนเดียว จะมาลอยชายต่อหน้าข้าทำไมกัน?"ก็เหมือนกับที่จั๋วซือหรานคิดไว้ ยิ่งคนอื่นโกรธข้าก็จะยิ่งไม่โกรธส่วนความคิดของเหยียนหยี่หลิงเหมือนว่าจะเป็น...คนอื่นยิ่งนิ่ง นางก

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 840

    ซือคงเซี่ยนชั่วขณะหนึ่ง ไม่รู้ว่าควรพูดอะไรดีแต่ว่าจั๋วซือหรานกลับไม่รอให้เขาทันซาบซึ้ง นางดึงชายผ้าคลุมไหล่เล็กน้อย เดินตรงไปทางตำหนักข้างตำหนักข้างจัดเตรียมงานเลี้ยงเสร็จแล้ว เหล่าแขกเหรื่อกำลังกินอย่างมีความสุขล้วนเป็นชนชั้นสูงและเหล่าญาติราชวงศ์ หลักๆ แล้วล้วนเป็นตระกูลเหยียนกับตระกูลเฟิง ตระกูลซางเองก็มีคนบางส่วนมาด้วยแต่ว่ากลับไม่เห็นตระกูลฮั่วกับตระกูลจั๋วมานี่ทำเอาคนนึกไม่ถึงเลย ทุกคนคาดเดาว่า ที่ตระกูลฮั่วไม่มา น่าจะเพราะมีความร่วมมือกับจั๋วซือหรานไว้แต่ตระกูลจั๋วก็ไม่มาหรือ?"จะเพราะอะไรได้ ก็เพราะถูกตระกูลเฟิงถอนหมั้นน่ะสิ""แต่ว่าพวกเขาทั้งสองตระกูลก็สงบศึกกันแล้วหรือ? ก่อนหน้านี้ตอนที่จั๋วจิ่วถูกคนใช้เสน่ห์หนอนพิษกู่เข้าควบคุม ไม่ใช่ยังเคยไปถอนหมั้นกับตระกูลเฟิงหรอกหรือ""ยิ่งไปกว่านั้นต่อให้จั๋วซือหรานถูกตระกูลเฟิงถอนหมั้น...นางไม่ใช่ว่าออกจากตระกูลจั๋วแล้วหรือ?"เสียงคำวิจารณ์เหล่านี้ ล้วนหยุดลงอย่างฉับพลันตอนที่ร่างงามคลุมผ้าคลุมเดินเข้าไปเท้าของจั๋วซือหรานไม่สะทกสะท้าน เดินมาที่ข้างโต๊ะจัดเลี้ยงตัวหนึ่งแล้วนั่งลงคนที่เดิมทีกำลังคุยกันอยู่ที่โต๊ะนี้

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 841

    จั๋วซือหรานก็ไม่คิดเยอะ เดินเข้าไปในประตูศาลาริมน้ำใครจะรู้ว่าพอเดินเข้ามาในศาลาริมน้ำ ก็เห็นร่างสีดำคล่องแคล่วผ่านหน้าต่างออกไป...จั๋วซือหรานขมวดคิ้ว ตอนเข้าไปในศษลาก็ไม่เห็นร่างเจ้าโง่คนนั้นก่อนหน้านี้แล้วนางเม้มริมฝีปาก เดิมทีก็ยังไม่อยากยอมรับ แต่กลับจำใจต้องยอมรับ...น่าจะเป็นเฟิงเหยียนจริงๆ สร้างสถานการณ์ล่อนางเข้ามาน่าจะเพราะตระกูลเฟิงร่วมมือกับซือคงอวี้แล้ว และตระกูลเฟิงกับซือคงอวี้ก็ใช้ประโยชน์จากการที่เฟิงเหยียนอยู่ในใจนาง แล้วสร้างสถานการณ์นี้ขึ้นจั๋วซือหรานเดินมาถึงตำแหน่งที่เฟิงเหยียนนั่งอยู่ก่อนหน้า ค่อยๆ นั่งลงมาสีหน้าหม่นจางลงเล็กน้อยไม่สนว่าพวกเขาจะเตรียมสถานการณ์อะไรไว้ นางตัดสินใจจะดูเสียหน่อยแม้ก่อนหน้านี้ในใจจะคิดว่า ยังไม่อยากจะพูดอะไรดีดีกับเจ้าโง่นั่นชั่วคราวเพราะในใจรู้สึกว่า เจ้าโง่นั่นก็โง่จริงๆ จำนางไม่ได้แล้ว แต่อย่างน้อย เขาตอนนี้ก็ปลอดภัยดี เพราะตอนนี้เขากับตนเองไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันในสายตาตระกูลเฟิง ก็น่าจะไม่เป็นอะไรแล้วแต่เจ้าโง่นั่นดันมาช่วยคนชั่วๆ ในบ้านรับมือกับนาง ความเข้าใจนี้ก็ยังทำให้จั๋วซือหรานหงุดหงิดขึ้นมาเลยทีเดียวยิ่

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 842

    เพราะนี่เป็นตรรกะง่ายๆ ถ้าหากเจ้าอ๋องสุนัขนี่ไม่ได้มั่นใจเต็มร้อยกับไพ่ลับที่เอาไว้รับมือกับตนเอง เป็นไปไม่ได้เลยที่จะกล้าโผล่หน้ามาแบบนี้แน่นอน เป็นไปได้ว่าเจ้าอ๋องสุนัขนี่จะสมองไม่ค่อยดี แต่ความเป็นไปได้นี้ก็ไม่ค่อยจะสูงนักจั๋วซือหรานกลับยิ่งรู้สึกว่าซือคงอวี้น่าจะมีอะไรที่ทำให้เขามั่นใจมากอยู่และปฏิกิริยาของนาง ก็ค่อนข้างไว พุ่งตรงเข้าไปหาเขาทันที!จั๋วซือหรานค่อนข้างเข้าใจหลักการที่ว่าลงมือก่อนได้เปรียบแต่ว่า นางกลับยังไม่ทันพุ่งออกจากประตูศาลาริมน้ำนี่ ก็หยุดเอาไว้แล้วจั๋วซือหรานเลิกคิ้ว มองแล้วสถานการณ์ราวกับว่าถูกสิ่งของไร้รูปร่างบางอย่างขวางเอาไว้แต่อันที่จริงนางก็รู้ ว่าไม่ใช่สิ่งของไร้รูปร่างที่ขวางอยู่แต่เป็นแขนขาทั้งสี่ของตนเองต่างหาก ที่ขยับไม่ได้แล้วชั่วขณะหนึ่ง นางกระทั่งนึกไม่ออกว่าทำไมตนเองจู่ๆ จึงขยับตัวไม่ได้ดังนั้น จั๋วซือหรานพริบตานี้จึงนำพลังวิญญาณของตนเองกระตุ้นไปยังเส้นลมปราณของแขนขาตนเอง พยายามหาต้นตอของปัญหาที่เกิดขึ้นนางตั้งแต่ที่มาถึงสวนชิวอี้ แค่น้ำสักหยดก็ยังไม่ได้ดื่ม แล้วยังไม่ได้กลิ่นอะไรในอากาศด้วยถ้าหากในอากาศมียาอะไรอยู่ เช่นนั

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 843

    จากท่าทางการสาดเข้ามาของซือคงอวี้ กลิ่นหอมประหลาดเข้มข้นกระจายออกมาในอากาศจั๋วซือหรานขมวดคิ้วเบาๆ มองออกถึงวัตถุดิบหลายอย่างที่อยู่ด้านในซือคงอวี้เอ่ยต่อ "ข้ารู้ว่าเจ้ามีคุณสมบัติร่างกายไม่ธรรมดา พิษแทบไม่มีผลกับเจ้า ดังนั้นข้าจึงให้คนปรับยานี้มาเป็นพิเศษ ด้านในล้วนเป็นยาบำรุง"ซือคงอวี้หัวเราะเหี้ยมเกรียม มองจั๋วซือหราน ถามขึ้นว่า "พิษไม่มีผลกับเจ้า แต่ยาบำรุงก็ควรจะมีผลกระมัง? ยิ่งไปกว่านั้นยานี้ก็มีปฏิกิริยากับไหมกู่บนตัวเจ้าพอดี"จั๋วซือหรานไม่เคยได้กลิ่นหอมประหลาดเข้มข้นแบบนี้มาก่อน จึงรู้ว่ายานี้ของซือคงอวี้มีประสิทธิภาพอะไร มาในจุดประสงค์ไหนก็เดาได้ไม่ยาก ถึงอย่างไรความคิดสกปรกต่อตัวนางของซือคงอวี้ ก็ไม่ใช่เพิ่งมีมาวันสองวันซือคงอวี้ใช้สายตาพิจารณาจั๋วซือหรานทั้งบนล่าง เอ่ยขึ้นว่า "ข้ารอให้เจ้าลงมาคุกเข่าอ้อนวอนข้าเหมือนพวกแมลงน่าสงสาร วางใจได้ ถึงแม้ที่เจ้าพังแผนใหญ่ของข้าไปจะน่าโมโห แต่เห็นแก่หน้าสวยๆ ของเจ้า ถ้าเจ้ายอมมาคุกเข่าอ้อนวอนข้า ข้าก็จะไม่ปฏิเสธเจ้า"จั๋วซือหรานพอได้ยินคำนี้ ก็หัวเราะออกมาเบาๆ"เจ้ายังขำออกอีกหรือ? ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตาจริงๆ" ซือคงอวี

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 844

    มีฝีมือก็สังหารนางเสียสิจั๋วซือหรานหัวเราะเย็นชา ในสายตาไม่มีความอบอุ่นอยู่เลย จ้องมองซือคงอวี้ เอ่ยขึ้นว่า "ไม่ใช่ว่าปากแข็ง แต่ว่า...ในเมื่อสภาผู้อาวุโสร้ายกาจขนาดนั้น ไม่รู้ว่าพอเจ้าตายไปพวกเขาจะช่วยให้เจ้ารอดกลับมาได้หรือเปล่า"คำพูดนี้ถูกนางพูดออกมาด้วยน้ำเสียงสงบซือคงอวี้งงงันไป ในใจก็แอบรู้สึกไม่ค่อยสงบ บางครั้งก็จะเป็นเช่นนี้ ยิ่งอีกฝ่ายทำท่าทางดุร้ายมากเท่าไร ก็ยิ่งเหมือนดีแต่ขู่ให้กลัวมากกว่าแต่ว่าอีกฝ่ายถ้าหากพูดด้วยน้ำเสียงสงบเช่นนี้ กลับยิ่งทำให้รู้สึกไม่สงบ เพราะจะรู้สึกว่าอีกฝ่ายนั้นมีความมั่นใจอะไรอยู่สีหน้าซือคงอวี้แข็งไป "เจ้าอย่ามาข่ม..."ปัง!ยังไม่ทันที่ซือคงอวี้จะพูดจบ ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้น แล้วยังดังมาก ฉับพลันกะทันหัน ทำเอาซือคงอวี้ตกใจสะดุ้งโหยง!ร่างหนึ่งเอียงคะมำไปข้างๆเป็นองครักษ์ติดตามเขา ที่มีปฏิกิริยาฉับไวมาก เข้ามาขวางตรงหน้าเขาได้ทันเวลาพอดีตอนนี้ตำแหน่งใต้กระดูกไหปลาร้า ช่วงอกด้านบน กลายเป็นแผลขนาดใหญ่ที่มีเลือดไหลออกมาอย่างรุนแรงซือคงอวี้ม่านตาหดลง! เขาเคยได้ยินเรื่องอาวุธพิเศษแบบนี้ของจั๋วซือหรานมานานแล้ว และเคยได้ยินตระกูลเฟิงเอ่ยถ

Latest chapter

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1273

    แม้จะบอกว่าเป็นความฝัน แต่อันที่จริงจั๋วซือหรานก็ค่อยๆ เข้าใจแล้ว ว่าเพราะอะไรหลังจากฝันถึงเขาครั้งที่แล้วจนมาถึงครั้งนี้ นานมากแล้วที่ไม่ได้ฝันถึงเขาอีกพอมาคิดอย่างละเอียด เหมือนว่าตอนฝันถึงเขาครั้งที่แล้ว จะเป็นหลังจากที่นางมีสัมพันธ์ทางกายกับเขาดังนั้นจั๋วซือหรานจึงค่อยๆ เข้าใจ บางทีน่าจะเป็นเพราะสาเหตุนี้การดูดหยางบำรุงหยินของนางก็ดูดซับมาจนพอเข้าใจแล้ว เหมือนว่าพอดูดซับมาถึงระดับหนึ่ง ก็จะเกิด...ถ้าจะพูดว่าเป็นความฝัน สู้บอกว่าเป็นการสื่อสารทางจิตใต้สำนึกกับความทรงจำของเฟิงเหยียนส่วนที่ถูกผนึกไปจะดีกว่า?และไม่ว่าจะ 'ความฝัน' ครั้งที่แล้ว หรือว่าครั้งนี้ก็มองออกได้ไม่ยากเฟิงเหยียนน่าจะเข้าใจต่อสถานการณ์อยู่ ดังนั้นบางทีจิตใต้สำนึกเขายังคงอยู่มาตลอด เพียงแต่ถูกสมองทื่อๆ นี่กดเอาไว้ หรือบางทีคงถูกสภาผู้อาวุโสลงมือสะกดเอาไว้ไม่แน่ว่า อาจจะต้องมีชนวนเหตุบางอย่าง ถึงจะสามารถปลุกขึ้นมาได้จั๋วซือหรานอยากจะรู้ชนวนเหตุนั้นว่าคืออะไรกันแน่"ต้องทำยังไงเจ้าถึงจะดีขึ้นมา?" จั๋วซือหรานถามแต่เฟิงเหยียนกลับเหมือนจะจำจุดสำคัญนั้นไม่ได้แล้ว ขมวดคิ้ว สีหน้าดูเหมือนขมขื่น เหมือนว

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1272

    ในห้วงฝันนางมองมือตัวเอง สับสนไปหมดทั้งตัว เหมือนยังตั้งตัวกลับมาไม่ได้เพราะนางถ้าไม่หลับลึก ก็จะเอาจิตใต้สำนึกส่งเข้าไปในมิติ จึงฝันน้อยครั้งมากดังนั้นตอนที่ดำดิ่งสู่ห้วงฝัน นางยังรู้สึกไม่คุ้นอยู่หน่อยๆ มองมือตนเอง รู้สึกไม่คอ่ยเป็นจริงสักเท่าไรวินาทีต่อมา มือข้างหนึ่งก็ทาบมาบนมือของนางมือข้างนั้น ข้อต่อกระดูกชัดเจน นิ้วเรียวยาว เล็บตัดมาดูสะอาดสะอ้าน ผิวหนังขาวซีดเย็นเหมือนไม่โดนแดดมานานสายตาของจั๋วซือหรานจ้องนิ่งอยู่บนมือข้างนี้ จากนั้นจึงค่อยๆ ยกขึ้นมามองไปยังเจ้าของมือนี้ ใบหน้าหล่อเหลาไม่มีที่ตินั่นทั้งที่เป็นใบหน้าที่เพิ่งเห็นไปก่อนหลับตาลงเมื่อครู่แท้ๆ แต่ตอนนี้พอมอง กลับยังคงทำให้นางรู้สึกเหมือนไม่เจอกันเสียนานสายตาของชายหนุ่มอบอุ่น ด้านในมีความรู้สึกอารมณ์เหมือนความเจ็บปวดแฝงอยู่"จั๋วเสียวจิ่ว..." เขาก้มหน้าลงเรียกนางจั๋วซือหรานมองเขา จากนั้นจึงออกแรงบีบมือเขา และน่าจะเพราะออกแรงมากเกินไปปลายเล็บจึงเหมือนจิกลงไปในเนื้อเขาฝันถึงเขาอีกแล้วจั๋วซือหรานมีปฏิกิริยาขึ้นมา ครั้งนี้เหมือนกับครั้งนั้นเลย ฝันถึงเฟิงเหยียนยิ่งไปกว่านั้นยังดูเหมือนจริงเป็นพิ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1271

    กลางดึก จั๋วซือหรานกัดริมฝีปาก กอดหมอน เดินเท้าเปล่าจากห้องด้านนอกเข้าไปยังห้องด้านใน!คิ้วงามของนางขมวดแน่น สีหน้าที่มีสีเลือดฟื้นมาบ้างแล้ว ตอนนี้กลับขาวซีดขึ้นมาในใจนางเองก็พูดไม่ออก เดิมทีตอนที่หลับก็ยังดีอยู่ พอกลางดึกจู่ๆ ก็ไม่ไหวขึ้นมาเสียแล้วหน้าอกปั่นป่วนอย่างรุนแรง เป็นความรู้สึกทรมานแบบที่นางผ่านมาก่อนหน้าไม่ผิดเพี้ยนถ้าบอกว่าคนคนนี้ไม่เข้ามาก็ว่าไปอย่าง แต่นี่ก็เข้ามาแล้วว่ากันว่าพอเคยสบายแล้ว จะยากที่จะกลับไปลำบากตอนนี้จะให้นางปล่อยชายหนุ่มที่เหมือนกับ 'ยาบำรุงครรภ์' นี้ไว้ข้างในเฉยๆ โดยไม่ใช้ แล้วต้องมานั่งทนกระอักเลือดต่อล่ะก็...ขอโทษด้วย สกุลจั๋วอย่างนางไม่ใช่คนประเภทนั้นนางเข้าใจแล้ว ก่อนที่จะหลับไปเมื่อคืนนี้ ตอนที่เฟิงเหยียนบอกว่าจะนอนด้านนอก ริมฝีปากที่เม้มแน่นนั้นกำลังอดกลั้นเรื่องอะไรน่าจะคิดไว้แล้วว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้สารเลว!จั๋วซือหรานครั่นเนื้อครั่นตัวตื่นมากลางดึก ต่อให้เป็นคนที่มีสติเยือกเย็นแค่ไหน ก็ยังมีอาการหงุดหงิดงัวเงียหลังตื่นนอนนางเดินเท้าเปล่าเข้าไปห้องด้านใน อากาศในหุบเขาตอนกลางคืนเย็นมากนางสวมแค่เสื้อบางๆ ชุดหนึ่ง ทั้งตัวเย

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1270

    แต่กลับรู้ตัวตนฐานะผู้ชายทรยศของเฟิงเหยียนได้ ไม่ต้องคิดเลยว่าคงเป็นจั๋วหวายพล่ามออกมาแน่"จั๋วหวายมาบอกเจ้าหรือ?" ปันอวิ๋นถามขึ้นคำหนึ่งจวงอี๋ไห่ พยักหน้าอย่างระมัดระวัง "คุณชายเสี่ยวหวายไม่หลอกข้าหรอก คุณชายเสี่ยวหวายบอกว่าเป็นผู้ชายทรยศ เช่นนั้นกว่าครึ่งก็ต้องเป็นผู้ชายทรยศแล้ว"ปันอวิ๋นถอนหายใจแผ่วเบาในห้อง จั๋วซือหรานนั่งลงข้างโต๊ะเฟิงเหยียนไม่พูดอะไร รินน้ำชาให้นางถ้วยหนึ่งจั๋วซือหรานกำถ้วยไว้ ใช้นิ้วมือลูบไล้ขอบถ้วยเบาๆ"อีกเดี๋ยวพออาหารส่งเข้ามา ก็กินสักหน่อยแล้วค่อยนอนพัก" เฟิงเหยียนเอ่ยขึ้นแต่ในน้ำเสียงแฝงไว้ด้วยความหนักแน่นที่ห้ามปฏิเสธจั๋วซือหรานแหงนตามองเขา กำลังจะบอกว่ายังไม่หิวก็เห็นริมฝีปากบางของชายคนนี้เม้มเบาๆ เอ่ยเสียงต่ำว่า "ข้าไม่มีสิทธิ์จะมาหารือกับเจ้าจริงๆ นั่นล่ะ..." สายตาเขาทอดลงไปที่ท้องน้อยนาง แววตาลึกซึ้งจากนั้นจึงเอ่ยต่อว่า "แต่การจะเตือนให้เจ้ากินอะไรดีดีก็ยังพอมีสิทธิ์อยู่" สายตาเขายกขึ้นมาจากท้องน้อยจั๋วซือหรานเลื่อนมาที่ดวงตานาง จ้องมองดวงตานาง เอ่ยต่อว่า "ถึงอย่างไรเมื่อครู่ก็เพิ่งช่วยเจ้ากลับมา ยิ่งไปกว่นั้นเรื่องถูกพลังศักดิ์สิท

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1269

    เขาไม่เพียงแต่ไม่ใช่สามีของนาง เขายังเป็นคู่หมั้นในนามของหญิงสาวคนอื่นอีกด้วยสีหน้าของเฟิงเหยียนแข็งทื่อไปแล้ว แต่ท้ายสุดก็ยังพูดอะไรไม่ออกเพราะในคำพูดจั๋วซือหราน ไม่มีส่วนที่ผิดเลยแม้แต่น้อยแม้จะบอกว่าเด็กคนนี้ ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเขาก็ตามแต่ครั้งก่อนหน้านั้น เป็นเพราะจั๋วซือหรานถูกวางแผนร้ายใส่ ถึงทำให้นางสับสนหลงใหลจนมีสัมพันธ์กับเขาถ้าจะบอกว่า เขาเอาเปรียบหญิงสาวไป ก็ไมไ่ด้พูดเกินเลยนักเอาเปรียบหญิงสาว จนทำนางตั้งท้อง ไม่เคยจะมารับผิดชอบอะไรตอนนี้กลับจะมาชี้มือชี้ไม้เรื่องของนางพอสรุปมาแบบนี้ มันก็ช่าง...แย่มากจริงๆเฟิงเหยียนเองก็รู้ว่าตนเองนั้นแย่มาก พูดอะไรออกมาไม่ได้ไปชั่วขณะปันอวิ๋นรู้สึกกระอักกระอ่วนแทนสหายเก่า เขากระแอมออกมาเบาๆ ทีหนึ่ง ไกล่เกลี่ยขึ้นว่า "เอาล่ะเอาล่ะ..."เขาเองก็ไม่รู้ว่าควรพูดอะไร ถึงอย่างไร ทั้งสองคนตอนนี้จะไม่ได้เป็นคู่รัก แต่ความสัมพันธ์แบบนี้...มันก็ดูคลุมเครือ กลืนไม่เข้าคายไม่ออกอยู่ นี่มันช่าง...ดังนั้นปันอวิ๋นเลยเปิดประเด็นขึ้น อึกอักในปากอยู่พักหนึ่ง กว่าจะพูดออกมาได้ "...พวกเจ้าหิวหรือยัง? ให้เหล่าจวนทำอะไรให้กินหน่อยดีไหม?"

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1268

    นางยืนเงียบๆ อยู่ตรงนั้น แหงนตาขึ้นมองพวกเขาสายตาของเฟิงเหยียนอึ้งไปเล็กน้อย เห็นนางยืนอยู่ในประตูด้วยสีหน้านิ่งขรึมเขารู้สึกลำคอแห้งผากอย่างประหลาด ความรู้สึกนั้น บางทีควรจะเรียกว่า...ตึงเครียดไหม?"เจ้า...ตื่นขึ้นมาตอนไหนน่ะ?" เฟิงเหยียนถามจั๋วซือหรานมองเขา "ไม่นานเท่าไร"เหมือจะมองออกถึงความกระอักกระอ่วนของเขา หรืออาจจะไม่สรุปคือ มุมปากจั๋วซือหรานยกขึ้นบางๆ พูดมาคำหนึ่ง "ท่านอ๋องน้อย ไม่เจอกันเสียนาน"นางทำแบบนี้โดยไม่เอ่ยถึงคำพูดก่อนหน้านั้นแม้แต่น้อยเฟิงเหยียนอ้าปากพะงาบ ต่อให้คิดจะพูดอะไร แต่ชั่วขณะหนึ่งก็เหมือนจะพูดออกมาไม่ได้จึงแค่ถามขึ้นอย่างเป็นห่วง "ดีขึ้นบ้างหรือยัง?"จั๋วซือหรานพยักหน้า "ดีขึ้นมากแล้ว"กระทั่งปันอวิ๋นก็ยังมองออกถึงเรื่องระหว่างพวกเขา ไม่รู้เพราะเจ้าสมองกลับนี่ไปแตะเนื้อต้องตัวทำอะไรนาง หรือเป็นเพราะคำพูดเมื่อครู่นางได้ยินคำพูดของเฟิงเหยียน...สรุปคือ ปันอวิ๋นมองพวกเขาทั้งสองคน แล้วก็รู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออกแทนพวกเขาทั้งสองคนปันอวิ๋นคิดๆ ดู ตอนที่ตนเองอยู่กับจั๋วซือหรานก็ยังไม่ได้กลืนไม่เข้าคายไม่ออกขนาดนี้รู้สึกร้อนใจแทนเจ้าบ้านี่จร

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1267

    เพราะเป็นเพื่อนสนิท ปันอวิ๋นจึงเข้าใจความหมายที่เขาคิดจะแสดงออกมาหรือก็คือ ปันอวิ๋นเดาได้นานแล้วบางทีตอนนั้นเพื่อจะให้จั๋วซือหรานหลีกเลี่ยงโชคชะตาเช่นนี้ ตนเองจึงเลือกที่จะลืมเลือนแต่สุดท้ายพอวกไปวนมา ก็กลับมาเดินอยู่บนเส้นทางเดิมเจ้าสิ่งที่เรียกว่าโชคชะตานี่ ลึกลับเอามากๆบางครั้งเหมือนจะมีเมตตา แต่บางครั้งก็เหมือนไม่เคยปราณีใครผู้ใด"แล้วเจ้าตอนนี้...คิดจะทำอย่างไร?" ปันอวิ๋นถามเขาจ้องเฟิงเหยียนตาไม่กระพริบเอาจริงๆ ปันอวิ๋นใช้มองจากมุมมองคนนอกอย่างมีเหตุมีผล ยังหวังว่าจั๋วซือหรานจะสามารถปล่อยวางได้แต่พอคิดถึงว่าถ้าหากจั๋วซือหรานปล่อยวางแล้วล่ะก็ ด้วยโชคชะตาภาชนะพลังศักดิ์สิทธิ์หงส์แดงของเฟิงเหยียน ผลสรุปสุดท้าย ก็คือตายก่อนวัยอันควรอยู่ดีและเพราะรู้เรื่องนี้ ดังนั้นปันอวิ๋นจึงหยุดไปครู่หนึ่ง เอ่ยเสริมมาคำนึง "ถังฉือเคยบอกข้าไว้ ในโถงวิญญาณอสูร พวกสัตว์เทพที่ถูกเก็บกลับมาเหล่านั้น..."ปันอวิ๋นขมวดคิ้ว คิดถึงคำพูดของถังฉือถังฉือมีบาปหนาจากการฆ่าฟันคนมากมาย กลายเป็นคนเย็นชาไร้หัวใจไปแล้ว ถ้าหากไม่เย็นชาไร้หัวใจ ป่านนี้คงเป็นบ้าไปแล้วดังนั้นตอนที่เขาพูดถึงเรื่องเห

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1266

    ปันอวิ๋นส่งให้เขาชามหนึ่ง ตนเองก็ด้วยทั้งสองคนไม่พูดพล่ามทำเพลง กระดกรวดเดียวจนหมดราวกับว่า สุราที่มาช้าไปหลายปีนี้ ในที่สุดก็ได้ดื่มเสียทีราวกับว่าภาพเด็กน้อยที่แอบขโมยสุราพวกนั้นมาดื่ม ซ้อนทับเข้ามากับพวกเขาในเวลานี้"ช่วงนี้เจ้า ไม่ได้ติดต่อกับพวกเขาเลยหรือ?"หลังจากร่ำสุราลงท้องไปสองชาม จิตใจก็เหมือนจะผ่อนคลายลงมาไม่น้อย ปันอวิ๋นถามขึ้นอย่างสบายๆ เป็นกันเองเฟิงเหยียนฟังออก ว่าเขาถามถึงเหล่าพี่น้องพวกนั้นเขาตอบอืมไปคำหนึ่ง "ไม่ได้ติดต่อกันเลย""เช่นนั้นก็คงไม่รู้สถานการณ์ของพวกเขาเลยสินะ" ปันอวิ๋นเอ่ยขึ้นเฟิงเหยียนไม่ยอมรับหรือปฏิเสธกับสิ่งนี้ ถือว่ายอมรับไปกลายๆปันอวิ๋นยิ้มๆ เหมือนจะเย้ยหยันตนเอง "แต่ก็ไม่โทษพวกเขาที่ไม่ติดต่อเจ้า ด้วยสถานการณ์ของพวกเขาตอนนี้ ก็ไม่มีหน้ามาติดต่อเจ้าจริงๆ นั่นล่ะ"ได้ยินคำนี้ของปันอวิ๋น เฟิงเหยียนก็ไม่พูดอะไรอีกปันอวิ๋นเอ่ยต่อว่า "ซงซีตอนนี้ทุกวันเหมือนขลุกอยู่แต่ในห้องหลอมสกัด หลอมสกัดอยู่ทุกวันไม่ได้พักเลย"เฟิงเหยียนพอได้ยินคำนี้ คิ้วก็ขมวดขึ้นบางๆ"เยี่ยนเหวย...ก็สูบเลือดออกมาทุกวัน อยู่แบบไม่เหมือนผู้เหมือนคน ผู้อาวุโสหวงจ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1265

    บางทีคงเป็นเพราะการคุยแบบเปิดอกก่อนหน้านี้ ทำให้ระยะทางขอเพื่อนสนิทสองคนที่เคยห่างไปตามกาลเวลา ย่อหดลงไปไม่น้อยเลยกระมังดังนั้นพอได้ยินปันอวิ๋นบอกว่าไม่ต้องขอบคุณ เฟิงเหยียนจึงเหลือบมองเขา น้ำเสียงเปลี่ยนไป "ก็ได้ เช่นนั้นก็ไม่ขอบคุณแล้วกัน"เฟิงเหยียนสั่งขึ้นมา "ไป ไปเอาสุรามาให้ข้าหน่อย"แม้จะพูดเช่นนี้ แต่ในเสียงกลับไม่ได้ออกคำสั่งอะไร ฟังแล้วเหมือนการใช้งานระหว่างเพื่อนกันมากกว่าปันอวิ๋นชะงักไปเล้กน้อย เพราะตอนพวกเขายังเด็ก ก็เคยใช้งานกันและกันแบบนี้ไป ไปเอาสุรามาหน่อยได้ งั้นเจ้าก็เอาปลาไปย่างซะข้าเห็นว่าเจ้าหน้าตาเหมือนปลาถ้าเจ้ายังพูดอีกรอบ จะโดนข้ากดจนจมถังสุราตายไปเลยเพราะคำพูดนี้ของเฟิงเหยียน ทั้งสองคนก็เหมือนกลับไปสมัยยังเด็กในชั่วพริบตาปันอวิ๋นยกมุมปากขึ้นบางๆ ลุกขึ้นไปให้คนรับใช้ส่งสุราเข้ามาคือสุราห้าพิษที่เขาจะหมักอยู่ทุกปี และใช้แมลงพิษมาหลอมจริงๆ แต่ตัวสุรากลับไม่มีพิษใดๆ กระทั่งยังหอมอบอวลเข้มข้นเป็นพิเศษ เป็นสุราที่หาได้ยากยิ่งและเป็นความลับที่ไม่เผยแพร่สู่ภายนอกของหุบเขาหมื่นพิษ ปกติมีแค่เจ้าหุบเขาที่รู้แต่ปันอวิ๋น หลังจากออกสำนักมา ก็ไม่ได้ด

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status