Share

บทที่ 792

Auteur: หูเทียนเสี่ยว
แต่ไฟวิเศษของมันคือความแข็งแกร่งที่สุดของพวกมัน

เพียงไม่นาน คนคุ้มกันสี่คนนั้นก็ถูกเจ้าก้อนเนื้อทั้งสี่ควบคุม ทั้งหมดถูกลากกลับมาจุดที่จั๋วซือหรานซ่อนอยู่

พวกเขาถลึงตาเบิกโพลง มองจั๋วซือหรานตาไม่กระพริบ

จั๋วซือหรานถามขึ้น "ข้ามีคำถามจะถามพวกเจ้า หวังว่าพวกเจ้าจะตอบมาดีดี"

พวกเขายังคงถลึงตามองนาง เพียงแต่ในดวงตามีแต่ความดูหมิ่น เหมือนกำลังเยาะเย้ยถากถางคำพูดของนาง

น่าจะเพราะจั๋วซือหรานรูปร่างเล็กบาง แล้วยังสวมชุดคลุมของคนคุ้มกันอีก ดูแล้วมันออกจะ...ประหลาดอยู่หน่อยๆ

ยากที่จะทำให้พวกเขาเกิดความระวังตัว

จั๋วซือหรานยิ้มตาโค้ง เอ่ยต่อว่า "ถึงแม้จะไม่รู้ว่าในวังสวนราชวงศ์ที่พวกเจ้าอยู่ จะเคยได้ยินชื่อของข้าไหม แต่ก็แนะนำตัวเสียหน่อยแล้วกัน ข้าสกุลจั๋ว จั๋วซือหราน"

ตอนที่ทั้งสี่คนได้ยินชื่อนี้ ดวงตาก็เบิกโพลงกว้างกว่าเดิม อย่างกับแทบจะทะลักร่วงจากเบ้าตาแล้ว

ความดูหมิ่นในสายตาก่อนหน้านี้ หายวับจนหมดในพริบตา ในดวงตาเหลือไว้เพียงความหวาดกลัว

"ดูท่าจะเคยได้ยินชื่อของข้าสินะ" จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้นเรียบๆ "ไม่มีความแค้นก็ไม่ใช่ศัตรูกัน เข้าไม่อยากจะสร้างความลำบากใจให้คนบริสุทธิ์ ขอแค่พวกเจ้า
Continuez à lire ce livre gratuitement
Scanner le code pour télécharger l'application
Chapitre verrouillé

Related chapter

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 793

    "ข้าจะพูดทั้งหมด! จริงๆ!"คนคุ้มกันคนนี้รีบตอบกลับ ราวกับว่าถ้าช้าไปนิดหน่อย จั๋วซือหรานจะลงโทษเขาอย่างไรอย่างนั้นแต่ในใจเขากลับแอบคิดว่า แค่ล่อให้จั๋วซือหรานไปยังจุดที่คนคุ้มกันเยอะที่สุดก็พอ นางจบไม่สวยแน่สองมือหรือจะสู้หลายคน!ไหนจะเรื่องที่นางเป็นแค่หญิงสาวคนเดียวอีก! ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าหากนางมีฝีมือจริง คงไม่ต้องเอาพวกเขาทั้งสี่คนควบคุมมาซ่อนเพื่อเค้นปากตรงนี้หรอกนางบุกเข้าไปก็จบแล้วไหม?เขาเห็นจั๋วซือหรานพยักหน้าอย่างพอใจ ในใจก็แอบคิด นี่จะทำให้นางติดกับ!"ฝ่าบาทอยู่ที่...!"เขายังไม่ทันพูดจบ ก็เห็นหญิงสาวใบหน้าสะสวยคนนี้ ดวงตาโค้ง อยู่ในท่าทางยิ้มจนทำให้คนรำคาญไม่ลงบอกกับเขาว่า "ไม่ ไม่ต้องบอกข้า นำทางข้าไปก็พอ ถ้าหากกล้าเล่นตุกติก ข้าก็จะเชือดเจ้าตรงนั้นเลยค่อยหนีออกไป ส่วนเจ้าแล้วเพื่อนเจ้าที่เหลือ แน่นอนว่าไม่รอด"จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้นว่า "ข้าจะปลูกไหมกู่เอาไว้บนตัวพวกเจ้า"สายตาพวกเขาเปลี่ยนไปทันทีขนาดคนคุ้มกันคนนี้ที่เดิมที่วางแผนอะไรในใจอยู่ ก็ยังต้องหยุดคิดไปเลยจั๋วซือหรานเอ่ยต่อว่า "ไป เดินสิ"ไหมกู่ของขนมถั่วแดงทิ้งไว้บนตัวคนนั้น แล้วเอาคนคนนี้ทิ้งไว้ใน

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 794

    นางเก็บพวกก้อนเนื้อเข้ามา และยังทยอยทิ้งไหมกู่ไว้บนตัวพวกเขา จากนั้นก็เตะเข้าไปในกอหญ้าพวกเขาต่อให้อยากจะไปรายงาน แต่ก็เป็นเรื่องอีกพักหนึ่งหลังจากนี้แล้วจากนั้นจั๋วซือหรานก็สะบัดมือ เดินเข้าไปในเรือนนั้นในเรือนสิ่งแวดล้อมไม่เลว ยิ่งไปกว่านั้นยังไม่มีการคุ้มกันที่แน่นหนาด้วย ดูแล้วเหมือนเป็นที่ที่ไม่มีคนมากกว่าจั๋วซือหรานเดินสบายๆ เข้าไปแต่นางก็มีประสาทรับรู้ที่เฉียบคมมาก สัมผัสได้แน่นอนว่าตนเองถูกจับจ้องอยู่นางเดินตรงเข้าไปในสิ่งปลูกสร้าง นางมองระยะห่างระหว่างตนเองกับสิ่งปลูกสร้างนั่นนางรู้สึกว่า ถ้าเป็นตนเอง แล้วคิดจะปกป้องคนที่อยู่ในสิ่งปลูกสร้างนั้น จะไม่มีให้ทางคนเข้าใกล้นระยะสิบจั้งและเป็นไปตามคาด ตอนที่ตนเองเดินเข้าไปใกล้จะถึงระยะสิบจั้ง!จู่ๆ ก็มีเสียงแหวกอากาศดังเข้ามา!ปราณกระบี่ราวกับลมภูเขาทะเลครั่งโถมพัดเข้ามา!ในมือจั๋วซือหรานปรากฏดาบยาวเล่มหนึ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว ชั่วรพิบตา ก็ประมือกับอีกฝ่ายไปนับสิบกระบวนท่า!อดพูดไม่ได้เลย ถ้าไม่นับเรื่องความสามารถอื่นๆ เอาแค่ทักษะยุทธ์ ทักษะกระบี่ล่ะก็ พลังของคนผู้นี้แข็งแกร่งอย่างมาก!ในสิบกว่ากระบวนท่านี้ จั๋วซือห

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 795

    จอมกระบี่ชุดเทาหลังจากพุดจบ จั๋วซือหรานก็ผ่อนลมโล่ง พยักหน้าอย่างเข้าใจ "โอ้ แค่ป่วยเท่านั้นสินะ"จอมกระบี่ชุดเทาพอได้ยินคำนี้ ก็มองหญิงสาวตรงหน้าด้วยสายตาประหลาดแค่รู้สึกว่า...หญิงสาวคนนี้ช่างกล้าหาญเหลือเกิน!แต่นี่ก็ประหลาดมาก ตอนที่ได้ยินจั๋วซือหรานพูดคำว่า 'แค่'ป่วยเท่านั้น จอมกระบี่ก็รู้สึกขึ้นมาทันที ว่านับตั้งแต่ตอนที่ฝ่าบาทถูกกักบริเวณอยู่ในวังสวนนี้ตอนที่ฝ่าบาททรงประชวร แต่แพทย์จากวังสวนก็ยังไม่อยากจะเชื่อเขาในฐานะที่เป็นผู้ติดตามข้างกายฝ่าบาท ไม่เคยออกห่างจากเรือนเลยแม้แต่ก้าวเดียว และไม่กล้าให้คนเข้ามาด้วยแต่ไหนแต่ไรไม่เคยมีคนพูดว่า 'แค่' มาก่อน ราวกับว่าเป็นเรื่องเล็กๆ ที่จัดการได้ไม่ยากแม้จะทำให้ความพยายามอย่างต่อเนื่องของเขารู้สึกไม่ค่อยดีนัก แต่ว่าจอมกระบี่ชุดเทาพอคิดทบทวนถึงเรื่องราวที่หญิงสาวคนนี้ทำในช่วงนี้ก็ยังรู้สึกว่า...คำพูดของนางน่าจะเป็นเรื่องจริงในสายตานาง รู้สึกว่า 'ก็แค่ป่วยไป' เท่านั้นจริงๆ ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรนี่ทำให้เขารู้สึก ผ่อนใจโล่งขึ้นมาจริงๆจั๋วซือหรานยิ้มตาหยีมองจอมกระบี่ชุดเทา เอ่ยขึ้นว่า "ถ้าหากท่านวางใจล่ะก็ สามารถพาข้าไปรักษ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 796

    ที่เขาผิดหวังและระแวดระวังขนาดนี้ ก็พอเข้าใจได้"ข้าน้อยเข้าใจแน่นอน แต่ว่า...นางมอบยาลูกกลอนมาให้ บอกว่าเป็นน้ำใจจากนาง ไม่ว่าฝ่าบาทจะป่วยอย่างไร พอมียาลูกกลอนนี้ ก็สามารถต้านทานเอาไว้ได้" จอมกระบี่ชุดเทาชิงหงเอ่ยขึ้นซือคงเหมี่ยนตอนที่ได้ยิน ในดวงตาที่ขุ่นมัวก็เปล่งประกายขึ้นทันที "จริงหรือ?""ข้าน้อยจะทดสอบให้เดี๋ยวนี้"จอมกระบี่ชุดเทาชิงหงพูดจบ ก็ขูดส่วนหนึ่งของยาลูกกลอนอย่างระมัดระวัง ส่งเข้าไปในปาก "พอชิมแล้วก็ไม่รู้สึกผิดปกติอะไร กลิ่นของยาเข้มข้นชัดเจน สีสันก็ดีมาก"ชิงหงมองซือคงเหมี่ยนอย่างเปี่ยมความหวัง "ฝ่าบาท..."ซือคงเหมี่ยนยังคงลังเล ถูกกักบริเวณมาเสียนาน พวกความเชื่อมั่นระหว่างคนด้วยกัน แทบจะหายไปจนหมดสิ้นแล้วชิงหงโขกศีรษะ เอ่ยขึ้นว่า "ฝ่าบาท ตอนนี้พวกเราไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว ที่นี่มีคนคุ้มกันหนาแน่น ฝ่าบาทเองก็สุขภาพอ่อนแอ ข้าไม่สามารถพาฝ่าบาทออกไปได้ จึงทำได้แค่ติดอยู่ที่นี่ต่อไป""ในว่าอาหารในเรือนก็ใช้หมดไปตั้งแต่สองวันก่อนแล้ว อาหารที่ด้านนอกส่งเข้ามาก็ไม่รู้ว่ามีพิษหรือไม่จึงไม่กล้ากินกัน หากเป็นเช่นนี้ต่อไป เกรงว่าจะเลี่ยง..."เลี่ยงความตายไม่พ้นแล้ว คำพ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 797

    ความรู้สึกว่านางมีมารยาทก่อนหน้านี้ สลายหายไปจนหมดจากใจของซือคงเหมี่ยน"เช่นนั้นข้าก็เข้าไปแล้วนะ" จั๋วซือหรานยิ้มตาหยี ก้าวเท้ายังคงสบายๆ เหมือนเดินเล่นในสวน"เจ้านี่ไม่เกรงอกเกรงใจกันเลยนะ" ใบหน้าซือคงเหมี่ยนคาดเดาอารมณ์ได้ยาก ตาทั้งสองจ้องมองนาง แม้จะชราภาพ แต่ว่าตอนนี้ดวงตาของเขาไม่ขุ่นมัวเหมือนก่อนหน้าแล้วบนความรู้สึกเหมือนในที่สุดก็ฟื้นฟูกำลังวังชาจิตวิญญาณขึ้นมาบ้างแล้วจั๋วซือหรานยิ้มเอ่ยว่า "หลักๆ คือข้าต้องทำเวลาน่ะ ยิ่งไปกว่านั้นท่านเองก็กินยาลูกกลอนข้าไปแล้ว"ซือคงเหมี่ยนน่าจะเพราะมองเห็นความหวังบางๆ ในช่วงอับจน ตอนนี้อารมณ์ก็ไม่แย่นัก พอได้ยินนางเอ่ยขึ้น จึงยิ้มแล้วบอกว่า "ทำไมล่ะ กินยาลูกกลอนเจ้าลงไปแล้วก็เลยไม่เกรงใจได้อย่างนั้นหรือ?"เขาคิดว่าหญิงสาวคนนี้จะกลัวขึ้นบ้าง แต่ใครจะรู้ว่านางกลับ...พยักหน้า "อืม""อืม?" คำตอบนี้ทำเอาคนคิดไม่ถึงเลย ซือคงเหมี่ยนเองก็งงงันไปแล้วจั๋วซือหรานยิ้มตอบ "ถ้าหากข้าวางยาอะไรลงไปล่ะ ฝ่าบาทตอนนี้ก็คงจะไม่มีทางเลือกแล้ว ข้าจึงเข้ามาได้อย่างไรล่ะ"ซือคงเหมี่ยนจ้องนางอยู่ครู่หนึ่ง แล้วก็หัวเราะขึ้นมา "น้องเจ็ดหาคนนิสัยแบบเจ้ามา ไ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 798

    จั๋วซือหรานพูดถึงตรงนี้ก็ชะงักไป จากนั้นจึงพูดสิ่งที่ซือคงเหมี่ยนคิดไม่ถึงออกมา "ข้าคิดว่าสามารถช่วยท่านออกไปได้เลย""!!!" ต่อให้เป็นจักรพรรดิที่สงบนิ่งมาแต่ไหนแต่ไร เวลานี้ก็ยังถูกคำพูดของจั๋วซือหรานจนคุมสีหน้าไว้ไม่ได้เหมือนกันจั๋วซือหรานเอ่ยขึ้นว่า "พลังผู้ติดตามข้างกายท่านคนนี้สู้ได้สบาย ข้ากับเขาร่วมมือกันช่วยพาท่านออกไปน่าจะไม่ใช่ปัญหาเลย"ซือคงเหมี่ยนพอได้ยินคำพูดนาง ก็พูดไม่ถูกว่ามีความรู้สึกอย่างไร คงเป็นเพราะช่วงนี้รู้สึกอึดอัดใจมากเขาเป็นจักรพรรดิ! เคยมีความรู้สึกอึดอัดแบบนี้เสียที่ไหน...ดังนั้นตอนนี้พอได้ยินคำพูดของจั๋วซือหราน สิ่งที่ซือคงเหมี่ยนคิดถึงก่อนกลับไม่ได้ความสงสัย หรือการถอยหนีแต่เป็น...ความโล่งใจความโล่งใจที่สามารถหลุดพ้นจนก 'คุก' นี่ได้เสียที!ดังนั้นเขาจึงถามว่า "เรื่องนี้พูดจริงหรือ?"จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้ม "ข้าพูดแต่ความจริงมาตลอด""ดี!" ซือคงเหมี่ยนดันเตียงคิดจะยืนขึ้นมาจั๋วซือหรานเอ่ยขึ้น "ข้าขอรักษาท่านก่อน แล้วพวกเราค่อยออกไปก็ยังไม่สาย"ซือคงเหมี่ยนเห็นนางหยิบเข็มทองออกมา ถึงแม้จะยังระแวดระวังอยู่บ้าง แต่ก็พยายามผ่อนคลายลงมาให

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 799

    จั๋วซือหรานมองหญิงสาวที่แห้งเหมือนกระดูกบนเตียง เอ่ยขึ้นเสียงต่ำว่า "พระสนมเอก ข้ามาช่วยท่านออกไป"แม้จะบอกว่าหญิงสาวที่นอนอยู่บนเตียงตรงหน้านี้ มองไม่ออกถึงความสงบเสงี่ยมและสูงส่งในวันวาน แต่แม้จะดูอ่อนล้า กลับไม่ได้ดูน่าสมเพชเลยระทั่งยังยิ้มให้กับจั๋วซือหราน เอ่ยขึ้นว่า "แม่นางจิ่วจากตระกูลจั๋ว ครอบครัวของพวกเรา เป็นหนี้บุญคุณเจ้าไม่น้อยเลย..."เสียงของพระสนมเอกค่อนข้างอ่อนแรงจั๋วซือหรานเอ่ยต่อ "ข้าจะรักษาให้ท่านสักครู่ จากนั้นจะพาท่านออกจากที่นี่"พระสนมเอกสูดลมหายใจยาวอันที่จริงสถานการณ์ของพระสนมเอกจะบอกว่าไม่หนักก็ไม่หนัก จะบอกว่าหนักก็หนักอยู่ถ้าต้องพูดขึ้นจริง ก็คือหิวจนกลายเป็นแบบนี้ ไม่มีของดีดีตกถึงท้องนานน่าจะมีแค่เสบียงกรังนิดหน่อยคอยพยุงไว้ ร่างกายอยู่ในสภาพอดอยากทุกวันดังนั้น แม้จะยังมีชีวิตอยู่ แต่ว่าสภาพร่างกาย ก็อยู่ในสภาพที่แย่เอามากๆแต่เพราะไม่มีบาดแผลภายนอก จึงไม่มีวิะีรักษาอื่นแล้วจั๋วซือหรานนำอาหารออกมาให้นางแค่พอเห็นอาหารที่จั๋วซือหรานนำออกมา พระสนมเอกก็ตกตะลึงไป ดวงตาเปล่งประกายขึ้นมาเพราะการอบรมมาอย่างดี จึงพยายามสะกดข่มเอาไว้ ไม่เช่นนั้น

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 800

    น่าจะเพราะได้ยินชื่อเรียกตัวเองว่าพระสนมเอก เหล่าคนคุ้มกันพวกนี้ก็มีปฏิกิริยาถึงตัวตนของนางขึ้นมาแต่ก็ดูจะไม่ได้ใส่ใจอะไรนัก น่าจะเป็นพวกเดียวกับองค์ชายเจ็ดอ๋องเซี่ยนมาตั้งแต่แรก จบสิ้นไปแล้วถึงอย่างไรขนาดองค์จักรพรรดิก็ยังถูกอ๋องอวี้ชินกักบริเวณไว้ที่นี่เลย องค์จักรพรรดิเองก็จบสิ้นไปแล้วเช่นกัน แล้วนี่ก็แค่พระสนมเอกคนเดียวคนคุ้มกันกลุ่มนี้ คนที่เป็นหัวหน้าหัวเราะขึ้นมาทีหนึ่ง ฟังแล้วดูหยามหมิ่นอย่างที่สุด"นี่มันเวลาไหนแล้ว ท่านยังคิดจะวางตัวเป็นพระสนมเอกอีกหรือ? รอให้ท่านต้องพลีชีพเพื่อฝ่าบาทก่อน พวกเราจะมาเคารพท่าน แต่ว่าตอนนี้ ท่านน่ะกลับไปที่เรือนตนเองอย่างว่าง่ายเสียเถอะ อย่ารอให้พวกเราต้องเข้าไปเชิญท่าน เช่นนั้นจะไม่ได้เกรงใจแบบนี้แล้วนะ"ความหยามหมิ่นในเสียงของอีกฝ่าย ส่งออกมาแบบไม่มีปิดบังแต่สีหน้าพระสนมเอกก็ไม่ต่ำต้อยไม่หยิ่งยโส ไม่ได้มีปฏิกิริยาอะไรกับคำพูดพวกเขาแม้แต่น้อย"เชอะ!" คนคุ้มกันจุ๊ปากออกมาอย่างทนไม่ไหว "ให้ตายเถอะ วุ่นวายเสียจริง"จากนั้นจึงยกเท้าเดินตรงมาทางพวกนางจั๋วซือหรานพอเห็นก็เลิกคิ้วขึ้น ในใจบอกว่าพอดีเลย ตนเองจะได้ไม่ต้องเดินไปเก็บพวกเขาย

Latest chapter

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1273

    แม้จะบอกว่าเป็นความฝัน แต่อันที่จริงจั๋วซือหรานก็ค่อยๆ เข้าใจแล้ว ว่าเพราะอะไรหลังจากฝันถึงเขาครั้งที่แล้วจนมาถึงครั้งนี้ นานมากแล้วที่ไม่ได้ฝันถึงเขาอีกพอมาคิดอย่างละเอียด เหมือนว่าตอนฝันถึงเขาครั้งที่แล้ว จะเป็นหลังจากที่นางมีสัมพันธ์ทางกายกับเขาดังนั้นจั๋วซือหรานจึงค่อยๆ เข้าใจ บางทีน่าจะเป็นเพราะสาเหตุนี้การดูดหยางบำรุงหยินของนางก็ดูดซับมาจนพอเข้าใจแล้ว เหมือนว่าพอดูดซับมาถึงระดับหนึ่ง ก็จะเกิด...ถ้าจะพูดว่าเป็นความฝัน สู้บอกว่าเป็นการสื่อสารทางจิตใต้สำนึกกับความทรงจำของเฟิงเหยียนส่วนที่ถูกผนึกไปจะดีกว่า?และไม่ว่าจะ 'ความฝัน' ครั้งที่แล้ว หรือว่าครั้งนี้ก็มองออกได้ไม่ยากเฟิงเหยียนน่าจะเข้าใจต่อสถานการณ์อยู่ ดังนั้นบางทีจิตใต้สำนึกเขายังคงอยู่มาตลอด เพียงแต่ถูกสมองทื่อๆ นี่กดเอาไว้ หรือบางทีคงถูกสภาผู้อาวุโสลงมือสะกดเอาไว้ไม่แน่ว่า อาจจะต้องมีชนวนเหตุบางอย่าง ถึงจะสามารถปลุกขึ้นมาได้จั๋วซือหรานอยากจะรู้ชนวนเหตุนั้นว่าคืออะไรกันแน่"ต้องทำยังไงเจ้าถึงจะดีขึ้นมา?" จั๋วซือหรานถามแต่เฟิงเหยียนกลับเหมือนจะจำจุดสำคัญนั้นไม่ได้แล้ว ขมวดคิ้ว สีหน้าดูเหมือนขมขื่น เหมือนว

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1272

    ในห้วงฝันนางมองมือตัวเอง สับสนไปหมดทั้งตัว เหมือนยังตั้งตัวกลับมาไม่ได้เพราะนางถ้าไม่หลับลึก ก็จะเอาจิตใต้สำนึกส่งเข้าไปในมิติ จึงฝันน้อยครั้งมากดังนั้นตอนที่ดำดิ่งสู่ห้วงฝัน นางยังรู้สึกไม่คุ้นอยู่หน่อยๆ มองมือตนเอง รู้สึกไม่คอ่ยเป็นจริงสักเท่าไรวินาทีต่อมา มือข้างหนึ่งก็ทาบมาบนมือของนางมือข้างนั้น ข้อต่อกระดูกชัดเจน นิ้วเรียวยาว เล็บตัดมาดูสะอาดสะอ้าน ผิวหนังขาวซีดเย็นเหมือนไม่โดนแดดมานานสายตาของจั๋วซือหรานจ้องนิ่งอยู่บนมือข้างนี้ จากนั้นจึงค่อยๆ ยกขึ้นมามองไปยังเจ้าของมือนี้ ใบหน้าหล่อเหลาไม่มีที่ตินั่นทั้งที่เป็นใบหน้าที่เพิ่งเห็นไปก่อนหลับตาลงเมื่อครู่แท้ๆ แต่ตอนนี้พอมอง กลับยังคงทำให้นางรู้สึกเหมือนไม่เจอกันเสียนานสายตาของชายหนุ่มอบอุ่น ด้านในมีความรู้สึกอารมณ์เหมือนความเจ็บปวดแฝงอยู่"จั๋วเสียวจิ่ว..." เขาก้มหน้าลงเรียกนางจั๋วซือหรานมองเขา จากนั้นจึงออกแรงบีบมือเขา และน่าจะเพราะออกแรงมากเกินไปปลายเล็บจึงเหมือนจิกลงไปในเนื้อเขาฝันถึงเขาอีกแล้วจั๋วซือหรานมีปฏิกิริยาขึ้นมา ครั้งนี้เหมือนกับครั้งนั้นเลย ฝันถึงเฟิงเหยียนยิ่งไปกว่านั้นยังดูเหมือนจริงเป็นพิ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1271

    กลางดึก จั๋วซือหรานกัดริมฝีปาก กอดหมอน เดินเท้าเปล่าจากห้องด้านนอกเข้าไปยังห้องด้านใน!คิ้วงามของนางขมวดแน่น สีหน้าที่มีสีเลือดฟื้นมาบ้างแล้ว ตอนนี้กลับขาวซีดขึ้นมาในใจนางเองก็พูดไม่ออก เดิมทีตอนที่หลับก็ยังดีอยู่ พอกลางดึกจู่ๆ ก็ไม่ไหวขึ้นมาเสียแล้วหน้าอกปั่นป่วนอย่างรุนแรง เป็นความรู้สึกทรมานแบบที่นางผ่านมาก่อนหน้าไม่ผิดเพี้ยนถ้าบอกว่าคนคนนี้ไม่เข้ามาก็ว่าไปอย่าง แต่นี่ก็เข้ามาแล้วว่ากันว่าพอเคยสบายแล้ว จะยากที่จะกลับไปลำบากตอนนี้จะให้นางปล่อยชายหนุ่มที่เหมือนกับ 'ยาบำรุงครรภ์' นี้ไว้ข้างในเฉยๆ โดยไม่ใช้ แล้วต้องมานั่งทนกระอักเลือดต่อล่ะก็...ขอโทษด้วย สกุลจั๋วอย่างนางไม่ใช่คนประเภทนั้นนางเข้าใจแล้ว ก่อนที่จะหลับไปเมื่อคืนนี้ ตอนที่เฟิงเหยียนบอกว่าจะนอนด้านนอก ริมฝีปากที่เม้มแน่นนั้นกำลังอดกลั้นเรื่องอะไรน่าจะคิดไว้แล้วว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้สารเลว!จั๋วซือหรานครั่นเนื้อครั่นตัวตื่นมากลางดึก ต่อให้เป็นคนที่มีสติเยือกเย็นแค่ไหน ก็ยังมีอาการหงุดหงิดงัวเงียหลังตื่นนอนนางเดินเท้าเปล่าเข้าไปห้องด้านใน อากาศในหุบเขาตอนกลางคืนเย็นมากนางสวมแค่เสื้อบางๆ ชุดหนึ่ง ทั้งตัวเย

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1270

    แต่กลับรู้ตัวตนฐานะผู้ชายทรยศของเฟิงเหยียนได้ ไม่ต้องคิดเลยว่าคงเป็นจั๋วหวายพล่ามออกมาแน่"จั๋วหวายมาบอกเจ้าหรือ?" ปันอวิ๋นถามขึ้นคำหนึ่งจวงอี๋ไห่ พยักหน้าอย่างระมัดระวัง "คุณชายเสี่ยวหวายไม่หลอกข้าหรอก คุณชายเสี่ยวหวายบอกว่าเป็นผู้ชายทรยศ เช่นนั้นกว่าครึ่งก็ต้องเป็นผู้ชายทรยศแล้ว"ปันอวิ๋นถอนหายใจแผ่วเบาในห้อง จั๋วซือหรานนั่งลงข้างโต๊ะเฟิงเหยียนไม่พูดอะไร รินน้ำชาให้นางถ้วยหนึ่งจั๋วซือหรานกำถ้วยไว้ ใช้นิ้วมือลูบไล้ขอบถ้วยเบาๆ"อีกเดี๋ยวพออาหารส่งเข้ามา ก็กินสักหน่อยแล้วค่อยนอนพัก" เฟิงเหยียนเอ่ยขึ้นแต่ในน้ำเสียงแฝงไว้ด้วยความหนักแน่นที่ห้ามปฏิเสธจั๋วซือหรานแหงนตามองเขา กำลังจะบอกว่ายังไม่หิวก็เห็นริมฝีปากบางของชายคนนี้เม้มเบาๆ เอ่ยเสียงต่ำว่า "ข้าไม่มีสิทธิ์จะมาหารือกับเจ้าจริงๆ นั่นล่ะ..." สายตาเขาทอดลงไปที่ท้องน้อยนาง แววตาลึกซึ้งจากนั้นจึงเอ่ยต่อว่า "แต่การจะเตือนให้เจ้ากินอะไรดีดีก็ยังพอมีสิทธิ์อยู่" สายตาเขายกขึ้นมาจากท้องน้อยจั๋วซือหรานเลื่อนมาที่ดวงตานาง จ้องมองดวงตานาง เอ่ยต่อว่า "ถึงอย่างไรเมื่อครู่ก็เพิ่งช่วยเจ้ากลับมา ยิ่งไปกว่นั้นเรื่องถูกพลังศักดิ์สิท

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1269

    เขาไม่เพียงแต่ไม่ใช่สามีของนาง เขายังเป็นคู่หมั้นในนามของหญิงสาวคนอื่นอีกด้วยสีหน้าของเฟิงเหยียนแข็งทื่อไปแล้ว แต่ท้ายสุดก็ยังพูดอะไรไม่ออกเพราะในคำพูดจั๋วซือหราน ไม่มีส่วนที่ผิดเลยแม้แต่น้อยแม้จะบอกว่าเด็กคนนี้ ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเขาก็ตามแต่ครั้งก่อนหน้านั้น เป็นเพราะจั๋วซือหรานถูกวางแผนร้ายใส่ ถึงทำให้นางสับสนหลงใหลจนมีสัมพันธ์กับเขาถ้าจะบอกว่า เขาเอาเปรียบหญิงสาวไป ก็ไมไ่ด้พูดเกินเลยนักเอาเปรียบหญิงสาว จนทำนางตั้งท้อง ไม่เคยจะมารับผิดชอบอะไรตอนนี้กลับจะมาชี้มือชี้ไม้เรื่องของนางพอสรุปมาแบบนี้ มันก็ช่าง...แย่มากจริงๆเฟิงเหยียนเองก็รู้ว่าตนเองนั้นแย่มาก พูดอะไรออกมาไม่ได้ไปชั่วขณะปันอวิ๋นรู้สึกกระอักกระอ่วนแทนสหายเก่า เขากระแอมออกมาเบาๆ ทีหนึ่ง ไกล่เกลี่ยขึ้นว่า "เอาล่ะเอาล่ะ..."เขาเองก็ไม่รู้ว่าควรพูดอะไร ถึงอย่างไร ทั้งสองคนตอนนี้จะไม่ได้เป็นคู่รัก แต่ความสัมพันธ์แบบนี้...มันก็ดูคลุมเครือ กลืนไม่เข้าคายไม่ออกอยู่ นี่มันช่าง...ดังนั้นปันอวิ๋นเลยเปิดประเด็นขึ้น อึกอักในปากอยู่พักหนึ่ง กว่าจะพูดออกมาได้ "...พวกเจ้าหิวหรือยัง? ให้เหล่าจวนทำอะไรให้กินหน่อยดีไหม?"

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1268

    นางยืนเงียบๆ อยู่ตรงนั้น แหงนตาขึ้นมองพวกเขาสายตาของเฟิงเหยียนอึ้งไปเล็กน้อย เห็นนางยืนอยู่ในประตูด้วยสีหน้านิ่งขรึมเขารู้สึกลำคอแห้งผากอย่างประหลาด ความรู้สึกนั้น บางทีควรจะเรียกว่า...ตึงเครียดไหม?"เจ้า...ตื่นขึ้นมาตอนไหนน่ะ?" เฟิงเหยียนถามจั๋วซือหรานมองเขา "ไม่นานเท่าไร"เหมือจะมองออกถึงความกระอักกระอ่วนของเขา หรืออาจจะไม่สรุปคือ มุมปากจั๋วซือหรานยกขึ้นบางๆ พูดมาคำหนึ่ง "ท่านอ๋องน้อย ไม่เจอกันเสียนาน"นางทำแบบนี้โดยไม่เอ่ยถึงคำพูดก่อนหน้านั้นแม้แต่น้อยเฟิงเหยียนอ้าปากพะงาบ ต่อให้คิดจะพูดอะไร แต่ชั่วขณะหนึ่งก็เหมือนจะพูดออกมาไม่ได้จึงแค่ถามขึ้นอย่างเป็นห่วง "ดีขึ้นบ้างหรือยัง?"จั๋วซือหรานพยักหน้า "ดีขึ้นมากแล้ว"กระทั่งปันอวิ๋นก็ยังมองออกถึงเรื่องระหว่างพวกเขา ไม่รู้เพราะเจ้าสมองกลับนี่ไปแตะเนื้อต้องตัวทำอะไรนาง หรือเป็นเพราะคำพูดเมื่อครู่นางได้ยินคำพูดของเฟิงเหยียน...สรุปคือ ปันอวิ๋นมองพวกเขาทั้งสองคน แล้วก็รู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออกแทนพวกเขาทั้งสองคนปันอวิ๋นคิดๆ ดู ตอนที่ตนเองอยู่กับจั๋วซือหรานก็ยังไม่ได้กลืนไม่เข้าคายไม่ออกขนาดนี้รู้สึกร้อนใจแทนเจ้าบ้านี่จร

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1267

    เพราะเป็นเพื่อนสนิท ปันอวิ๋นจึงเข้าใจความหมายที่เขาคิดจะแสดงออกมาหรือก็คือ ปันอวิ๋นเดาได้นานแล้วบางทีตอนนั้นเพื่อจะให้จั๋วซือหรานหลีกเลี่ยงโชคชะตาเช่นนี้ ตนเองจึงเลือกที่จะลืมเลือนแต่สุดท้ายพอวกไปวนมา ก็กลับมาเดินอยู่บนเส้นทางเดิมเจ้าสิ่งที่เรียกว่าโชคชะตานี่ ลึกลับเอามากๆบางครั้งเหมือนจะมีเมตตา แต่บางครั้งก็เหมือนไม่เคยปราณีใครผู้ใด"แล้วเจ้าตอนนี้...คิดจะทำอย่างไร?" ปันอวิ๋นถามเขาจ้องเฟิงเหยียนตาไม่กระพริบเอาจริงๆ ปันอวิ๋นใช้มองจากมุมมองคนนอกอย่างมีเหตุมีผล ยังหวังว่าจั๋วซือหรานจะสามารถปล่อยวางได้แต่พอคิดถึงว่าถ้าหากจั๋วซือหรานปล่อยวางแล้วล่ะก็ ด้วยโชคชะตาภาชนะพลังศักดิ์สิทธิ์หงส์แดงของเฟิงเหยียน ผลสรุปสุดท้าย ก็คือตายก่อนวัยอันควรอยู่ดีและเพราะรู้เรื่องนี้ ดังนั้นปันอวิ๋นจึงหยุดไปครู่หนึ่ง เอ่ยเสริมมาคำนึง "ถังฉือเคยบอกข้าไว้ ในโถงวิญญาณอสูร พวกสัตว์เทพที่ถูกเก็บกลับมาเหล่านั้น..."ปันอวิ๋นขมวดคิ้ว คิดถึงคำพูดของถังฉือถังฉือมีบาปหนาจากการฆ่าฟันคนมากมาย กลายเป็นคนเย็นชาไร้หัวใจไปแล้ว ถ้าหากไม่เย็นชาไร้หัวใจ ป่านนี้คงเป็นบ้าไปแล้วดังนั้นตอนที่เขาพูดถึงเรื่องเห

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1266

    ปันอวิ๋นส่งให้เขาชามหนึ่ง ตนเองก็ด้วยทั้งสองคนไม่พูดพล่ามทำเพลง กระดกรวดเดียวจนหมดราวกับว่า สุราที่มาช้าไปหลายปีนี้ ในที่สุดก็ได้ดื่มเสียทีราวกับว่าภาพเด็กน้อยที่แอบขโมยสุราพวกนั้นมาดื่ม ซ้อนทับเข้ามากับพวกเขาในเวลานี้"ช่วงนี้เจ้า ไม่ได้ติดต่อกับพวกเขาเลยหรือ?"หลังจากร่ำสุราลงท้องไปสองชาม จิตใจก็เหมือนจะผ่อนคลายลงมาไม่น้อย ปันอวิ๋นถามขึ้นอย่างสบายๆ เป็นกันเองเฟิงเหยียนฟังออก ว่าเขาถามถึงเหล่าพี่น้องพวกนั้นเขาตอบอืมไปคำหนึ่ง "ไม่ได้ติดต่อกันเลย""เช่นนั้นก็คงไม่รู้สถานการณ์ของพวกเขาเลยสินะ" ปันอวิ๋นเอ่ยขึ้นเฟิงเหยียนไม่ยอมรับหรือปฏิเสธกับสิ่งนี้ ถือว่ายอมรับไปกลายๆปันอวิ๋นยิ้มๆ เหมือนจะเย้ยหยันตนเอง "แต่ก็ไม่โทษพวกเขาที่ไม่ติดต่อเจ้า ด้วยสถานการณ์ของพวกเขาตอนนี้ ก็ไม่มีหน้ามาติดต่อเจ้าจริงๆ นั่นล่ะ"ได้ยินคำนี้ของปันอวิ๋น เฟิงเหยียนก็ไม่พูดอะไรอีกปันอวิ๋นเอ่ยต่อว่า "ซงซีตอนนี้ทุกวันเหมือนขลุกอยู่แต่ในห้องหลอมสกัด หลอมสกัดอยู่ทุกวันไม่ได้พักเลย"เฟิงเหยียนพอได้ยินคำนี้ คิ้วก็ขมวดขึ้นบางๆ"เยี่ยนเหวย...ก็สูบเลือดออกมาทุกวัน อยู่แบบไม่เหมือนผู้เหมือนคน ผู้อาวุโสหวงจ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1265

    บางทีคงเป็นเพราะการคุยแบบเปิดอกก่อนหน้านี้ ทำให้ระยะทางขอเพื่อนสนิทสองคนที่เคยห่างไปตามกาลเวลา ย่อหดลงไปไม่น้อยเลยกระมังดังนั้นพอได้ยินปันอวิ๋นบอกว่าไม่ต้องขอบคุณ เฟิงเหยียนจึงเหลือบมองเขา น้ำเสียงเปลี่ยนไป "ก็ได้ เช่นนั้นก็ไม่ขอบคุณแล้วกัน"เฟิงเหยียนสั่งขึ้นมา "ไป ไปเอาสุรามาให้ข้าหน่อย"แม้จะพูดเช่นนี้ แต่ในเสียงกลับไม่ได้ออกคำสั่งอะไร ฟังแล้วเหมือนการใช้งานระหว่างเพื่อนกันมากกว่าปันอวิ๋นชะงักไปเล้กน้อย เพราะตอนพวกเขายังเด็ก ก็เคยใช้งานกันและกันแบบนี้ไป ไปเอาสุรามาหน่อยได้ งั้นเจ้าก็เอาปลาไปย่างซะข้าเห็นว่าเจ้าหน้าตาเหมือนปลาถ้าเจ้ายังพูดอีกรอบ จะโดนข้ากดจนจมถังสุราตายไปเลยเพราะคำพูดนี้ของเฟิงเหยียน ทั้งสองคนก็เหมือนกลับไปสมัยยังเด็กในชั่วพริบตาปันอวิ๋นยกมุมปากขึ้นบางๆ ลุกขึ้นไปให้คนรับใช้ส่งสุราเข้ามาคือสุราห้าพิษที่เขาจะหมักอยู่ทุกปี และใช้แมลงพิษมาหลอมจริงๆ แต่ตัวสุรากลับไม่มีพิษใดๆ กระทั่งยังหอมอบอวลเข้มข้นเป็นพิเศษ เป็นสุราที่หาได้ยากยิ่งและเป็นความลับที่ไม่เผยแพร่สู่ภายนอกของหุบเขาหมื่นพิษ ปกติมีแค่เจ้าหุบเขาที่รู้แต่ปันอวิ๋น หลังจากออกสำนักมา ก็ไม่ได้ด

Découvrez et lisez de bons romans gratuitement
Accédez gratuitement à un grand nombre de bons romans sur GoodNovel. Téléchargez les livres que vous aimez et lisez où et quand vous voulez.
Lisez des livres gratuitement sur l'APP
Scanner le code pour lire sur l'application
DMCA.com Protection Status