Share

บทที่ 747

Author: หูเทียนเสี่ยว
จั๋วซือหรานเดินขึ้นหน้า โบกมือดึงไหมกู่บนมือ

ซางเชวี่ยทำได้แค่เดินตามนางไป

ตอนที่เดินผ่านคนของโถงตัดหัวตระกูลซาง จั๋วซือหรานเองก็ไม่มีท่าเกรงกลัวอะไร

เอาจริงๆ คือ เดินอาดๆ ผ่านไปหน้าตาเฉย

แต่พวกเขาก็ไม่กล้าทำอะไรกับจั๋วซือหราน!

ทำได้แค่มองนางพาซางเชวี่ยไปแบบทำอะไรไม่ได้

และไม่ไช่ไม่คิดจะลงมือเพื่อรั้งนางไว้ แต่พอคิดแล้ว เหตุผลก็เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องมี

คนที่คุณหนูสี่ทำอะไรไม่ได้ พวกเขาไม่มีทางรั้งนางไว้ได้หรอก! ไหนจะยัง ข้างๆ นางยังมีซางถิงกับผู้แข็งแกร่งนักหลอมศัสตราที่ไม่รู้จักปกป้องอยู่ด้วยนะ!

กลับไปหารือกันก่อนแล้วค่อยตัดสินใจดีกว่า

ไม่มีคนห้ามจั๋วซือหราน เพียงแต่ว่า ตอนที่ผ่านหน้าพวกเขา จั๋วซือหรานจู่ๆ ก็หยุดเท้าลง

น่าจะเพราะสิ่งที่เจอก่อนหน้านี้ ทำให้พวกเขาได้ผลกระทบและการคุกคามอย่างมาก

จั๋วซือหรานหยุดลงตรงหน้าพวกเขาเช่นนี้ พวกเขาก็ตึงเครียดกันขึ้นมาทันที

"ไม่ต้องเครียดไป" จั๋วซือหรานเหมือนมองออกถึงความเครียดพวกเขา เอ่ยขึ้นมาเสียงเรียบ

พูดต่อว่า "ข้าก็แค่อยากจะเตือนพวกเจ้าคำหนึ่ง เรื่องนี้เดิมทีเป็นพวกเจ้าที่มาหาเรื่องข้าก่อน ผลลัพธ์คือถูกข้าตอบโต้กลับ สรุปก็คือ เป็นพว
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 748

    อินเจ๋ออันมองบน "ใครหาเรื่องใครกันแน่? เจ้าอย่ามาทำตัวใส่ร้ายป้ายสีคนอื่น...""นั่นสิ" จั๋วซือหรานวางถ้วยบนโต๊ะ กลอกตามองอินเจ๋ออัน พริบตาต่อมา อินเจ๋ออันก็รู้สึกปวดหน้าผาก! บนสัญลักษณ์จันทร์เสี้ยวที่หน้าผากนั่น เจ็บปวดขึ้นมา!หญิงสาวคนนี้ยื่นมือดีดเผียะไปที่สัญลักษณ์จันทร์เสี้ยวนี้!จั๋วซือหรานดีดนิ้วใส่หน้าผากอินเจ๋ออัน พลางเอ่ยขึ้นว่า "ดังนั้นก่อนที่จะหาเรื่องก็ต้องคิดให้ถี่ถ้วนก่อนว่าเอาอยู่ไหม อย่าส่งออกมาเปล่าๆ เข้าใจไหม? เจ้าเองก็มีประสบการณ์เยอะแล้วนี่ หลังจากนี้ก็จำให้ขึ้นใจล่ะ"จั๋วซือหรานพูด พลางดีดไปอีกที อินเจ๋ออันร้องโอ๊ย ยกมือขึ้นกุมหน้าผากตัวเอง "พอแล้ว เลิกดีดได้แล้ว!"ฮั่วจือโจวที่อยู่ข้างๆ มองฉากนี้อย่างสนใจ เขาเห็ฯหญิงสาวที่ถูกจั๋วซือหรานจูงมาด้านหลังแล้วถ้าหากจำไม่ผิดล่ะก็ น่าจะเป็นคุณหนูสี่ซางเชวี่ยที่ตระกูลซางให้ความสำคัญที่สุดในรุ่นนี้ใช่ไหม?และสองคนที่อยู่ข้างๆ หนึ่งในนั้น ก็เป็นนักควบคุมสัตว์ที่สู้กับจั๋วซือหรานอย่างร้อนแรงบนเวทีก่อนหน้านี้ ส่วนอีกคนดูแล้วไม่คุ้นหน้าเลยแต่ด้วยรูปลักษณ์ที่งดงามโดดเด่น มองแล้วไม่ใช่คนธรรมดาเลยแม่นางจั๋วจิ่วคนนี้ไม่ธ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 749

    ตอนเดินมาถึงทางแยก จั๋วซือหรานก็เอียงตามองชิ่งหมิง "น้องชิ่ง เจ้าไม่กลับหรือ?"ชิ่งหมิงมองจั๋วซือหรานตาเป็นประกายแม้จะอยู่ในสภาพผู้ใหญ่หน้าตาหล่อเหลา ตามหลักการความคิดและการรับรู้ก็ควรจะกลับเป็นผู้ใหญ่แล้วเช่นกันให้ความรู้สึกที่ดูเย็นชากับคนอื่น แต่ตอนที่มองจั๋วซือหรานประกายแสงที่สว่างวาบขึ้นมาในตาคู่นั้น ก็ดูเหมือนกับชายหนุ่มที่ความคิดจิตใจยังมึนงงก่อนหน้าคนนั้นเลยชิ่งหมิงตอบ "ข้าไม่ต้องไปกับเจ้าหรือ?""ข้าก็ไม่คิดอะไรหรอก แต่ลุงของเจ้าจะวางใจหรือ? กลัวว่าเดี๋ยวจะอาละวาดเข้ามาอีก" จั๋วซือหรานคิดถึงลุงของชิ่งหมิงคนนั้น นั่นก็ไม่ใช่เล่นๆ เลยนะชิ่งหมิงเอ่ยตอบ "เขาไม่มาหรอก ที่ข้าดีขึ้นมา เขาจะต้องซาบซึ้งขอบคุณเจ้าแน่ ยิ่งไปกว่านั้นก็รู้แล้วด้วยว่าก่อนหน้านี้โทษเจ้าแบบผิดๆ ไว้"จั๋วซือหรานฟังไม่ออกเสียที่ไหน เด็กคนนี้...เอาเถอะ เรียกว่าเด็กคงไม่ได้แล้ว ตอนนี้ไม่ว่าจะความคิดหรือรูปลักษณ์ภายนอก เรียกว่าเด็กไม่ได้แล้วชายคนนี้ คิดจะกลับไปกับนาง"เอาเถอะ ไปกัน" จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้นไม่นานนัก ก็มาถึงเรือนของจั๋วซือหรานพอเข้าประตูใหญ่ จั๋วซือหรานก็เห็นเฉวียนคุนที่ทำหน้าพรรณนาไม

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 750

    เฟิงหร่านตาเป็นประกาย แต่เวลานี้ จั๋วซือหรานก็ลังเลขึ้นมาแล้ว "เดี๋ยวก่อน""อื๋อ?" เฟิงหร่านมองนาง จากนั้นจึงเห็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ในตานาง"อย่าพูดให้มันง่ายนัก" จั๋วซือหรานยิ้ม "โดยเฉพาะตอนอยู่ต่อหน้าพี่ชายเจ้า..."จั๋วซือหรานลากเสียงยาวครุ่นคิด จากนั้นจึงเอ่ยขึ้นว่า "เจ้าแค่บอกเขาว่า ข้าถูกรังแก สู้คนอื่นเขาไม่ได้ ไม่มีพลังไม่มีขั้วอำนาจหนุนหลัง เจ็บตัวขึ้นมาแล้ว"เฟิงหร่านฟังแล้วงงงัน "ท่านถูก...ถูกรังแก? สู้...สู้ไม่ไหว?"จั๋วซือหรานยิ้มตาหยีพยักหน้า "อืม เจ้าพูดแบบนี้ไปก็พอ""แต่ว่า..." เฟิงหร่านยังคงลังเล หลักๆ รู้สึกว่าพี่ชายก็ไม่ใช่คนโง่นะ จะมาติดกับง่ายๆ ได้อย่างไรกันจั๋วซือหรานยิ้มแล้วพูดขึ้นมา "เจ้าทำตามที่ข้าพูดก็พอ พี่ชายเจ้าดีใจแน่""ดีใจ?" เฟิงหร่านยังไม่ค่อยเข้าใจจั๋วซือหรานเองก็ไม่ได้อธิบายกับนางมากนักอันที่จริงจั๋วซือหรานต่อมาก็เคยคิด ถึงความสัมพันธ์ระหว่างตนเองกับเฟิงเหยียนพิจารณาจากสถานการณ์ที่ตระกูลเฟิงระแวดระวัง อันที่จริงคือกลัวว่านางกับเฟิงเหยียนพออยู่ด้วยกัน จะมาขโมยพลังตระกูลเฟิงของพวกเขาไปอันที่จริงตระกูลเฟิงก็ไม่ได้เกลียดชังในตัวจั๋วซือหรานอยู

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 751

    เฟิงเหยียนอันที่จริงเข้าใจอย่างชัดเจน พลังที่แท้จริงของจั๋วซือหรานแข็งแกร่งมาก คุณสมบัติร่างกายเองก็ไม่ใช่เรื่องล้อเล่นบาดแผลทั่วไปสำหรับนางแล้ว เพียงไม่นานก็จะสมานคืนแต่ต่อให้ในใจชัดเจนแค่ไหน พริบตาที่ได้ยินเฟิงหร่านบอกว่านางบาดเจ็บคิ้วของเฟิงเหยียนก็ขมวดแน่นขึ้นมา ดวงตาเปลี่ยนเป็นสีเข้มดูหนักแน่น"บาดเจ็บตรงไหน? หนักหนามั๊ย?" เฟิงเหยียนถามเสียงขรึมแต่ว่าสีหน้าของเฟิงหร่านก็เปลี่ยนเป็นไม่สบายใจขึ้นมานางเม้มริมฝีปาก ในใจแอบคิด แล้วนี่ต้องพูดอย่างไรล่ะ...เฟิงหร่านนิ่งงันไปครู่หนึ่งจึงเอ่ยขึ้น "ก็...ตรงนี้ตรงนั้น"เฟิงเหยียนหลังจากได้ยินคำนี้ จึงสังเกตเห็นสีหน้าไม่สบายใจของเฟิงหร่านขึ้นมาเขาขมวดคิ้วแน่นขึ้นไปอีกเพียงไม่นานก็มีปฏิกิริยากลับมา เฟิงหร่านกำลังพูดโกหกแต่พอลองคิด เฟิงหร่านทำไมต้องพูดโกหก? ใครให้เฟิงหร่านโกหกกัน?เพียงไม่นาน สองเส้นคำถาม ก็จูงไปหาคำตอบที่ชัดเจนคำตอบหนึ่งคิ้วที่ขมวดแน่นของเฟิงเหยียนคลายลงมาแล้ว เลิกคิ้วขึ้น "โอ๋? ถ้างั้น นางยังพูดอะไรอีกไหม?"เฟิงหร่านคิดถึงคำพูดของพี่จั๋ว กัดฟันพูดต่อว่า "นางยังบอกว่า..."เฟิงหร่านมองพี่ชายอย่างจนใจ ตัด

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 752

    "ถ้าอย่างนั้นข้าขอกินก่อนละ หิวแล้ว" จั๋วซือหรานยกบะหมี่รวมมิตรออกมาชามหนึ่งกลิ่นหอมนั่นลอยเข้ามาในจมูกซางถิงทันที ลูกกระเดือกเขากลิ้งไหล หิว...ขึ้นมาทันทีเขาพูดขึ้นเสียงต่ "ก็ไม่ใช่ขนาดนั้นทั้งหมดหรอก"จั๋วซือหรานเองก็เหลือบตามองเขา แต่ก็ไม่ได้ขี้งก แบ่งให้เขาชามหนึ่งดังนั้นเพียงไม่นาน ซางถิงเดิมทีที่คิดจะพูดคุยอย่างจริงจังกับนาง ก็จริงจังขึ้นมาไม่ได้ในชั่วพลันเสียแล้วทั้งสองคนสูดบะหมี่ไปด้วย คุยกันไปด้วย แล้วมันจะจริงจังไปได้แค่ไหนกันดังนั้นถึงได้มีการเจรจจาบนโต๊ะอาหารโต๊ะสุราน่ะสิ ก็แค่ให้มีอารมณ์ผ่อนคลายลงมาหน่อย เหตุผลแค่นี้แหละดังนั้นลักษณะของบทสนทนา จึงเบาลงมาแทบจะในทันทีจั๋วซือหรานสูดบะหมี่ไปด้วย คุยไปด้วย "ข้าพาเจ้ากลับมามันจะเพราะอะไรได้ จะให้ข้าชำแหละเจ้าไปชั่งโลขายเหรอ พวกค้ามนุษย์มันก็แค่ปลาซิวปลาสร้อย ไม่ใช่ข้าจั๋วซือหรานหรอกนะ"ซางถิงมองนาง "แล้วมันเพราะอะไรล่ะ?""คนอย่างข้าไม่ชอบติดค้างน้ำใจใคร" จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้น "ตาหลักแล้วเจ้าไม่ควรต้องถูกเปิดเผยตัวตน ขนาดถูกตระกูลซางตัดหางปล่อยวัดแล้ว ซ้ำยังหนีการไล่ล่ามาเรียบร้อย เดิมทีไม่ควรมาถูกตระกูลซางเพ่งเล็ง

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 753

    คำพูดนี้ของซางถิงลอดออกมาจากไรฟัน มีอาการขบเขี้ยวเคี้ยวฟันอยู่ด้วยแต่จั๋วซือหรานก็เหมือนฟังไม่ออก และยังเหมือนฟังออกแต่ไม่ได้สนอกสนใจด้วยบนหน้านางมีรอยยิ้ม เอ่ยขึ้นว่า "ไม่ดีหรือ? ไม่ใช่ว่าดีกว่าต้องทำตัวหลบๆ ซ่อนๆ อดมื้อกินมื้อหนีเอาตัวรอดอย่างยากลำบากหรอกหรือ?"ซางถิงได้ยินคำพูดนี้ก็ตกตะลึงไป ที่ประหลาดก็คือ ก่อนหน้านี้ยังมีอาการขบเขี้ยวเคี้ยวฟันอยู่แต่ตอนนี้กลับเหมือนเข้าใจขึ้นมา ราวกับว่าอารมณ์ก่อนหน้านี้ สลายหายไปแทบจะในทันทีจั๋วซือหรานกินบะหมี่เสร็จก็โบกไม้โบกมือ "ง่วงแล้ว ข้ากลับห้องไปพักผ่อนแล้วนะ เจ้าเองก็พักผ่อนไวหน่อยเถอะ ข้าทางนี้ถึงจะไม่ได้ดูหรูหรานัก แต่ว่าก็ไม่ต้องกังวลมาก พักอย่างสบายใจเถอะ"ซางถิงพยักหน้า มองแผ่นหลังจั๋วซือหรานจากไป เขาทนไม่ไหว ร้องเรียกขึ้นมาคำหนึ่ง "เอ๊ เดี๋ยว...จั๋วจิ่ว""อื๋อ?" จั๋วซือหรานหยุดเท้ามองมาทางเขา"มีเรื่องอะไรที่ข้าทำได้ไหม?" ซางถิงยกมือขึ้นเกาหัว "ข้า ข้าคงจะอยู่เปล่าๆ ไม่ได้หรอก"จั๋วซือหรานคิดๆ "ก็ไม่ใช่ว่าไม่มีนะ เอาอย่างนี้...เจ้าไปจับแมงมุมกลับมาหน่อย?""แมงมุมอะไร?" ซางถิงรู้สึกว่า ความคิดของจั๋วซือหรานนี่เดายากจริ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 754

    เช้าวันถัดมาคนของตระกูลซางรีบเข้ามาหาคนที่มาดูแล้วเป็นคนที่มาอายุหน่อย คิดว่าในตระกูลซาง ตัวตนฐานะคงไม่ได้ต่ำมากเพียงแต่ว่า พวกเขาพอมาถึงประตู ก็ถูกชายหนุ่มร่างใหญ๋คนหนึ่งขวางไว้ที่ประตู"แม่นางจิ่วยังไม่ตื่น" เฮยหลิงเอ่ยเสียงขรึมเขาอยู่ที่นี่ แมจะไม่ใช่ข้าทาสคนรับใช้ของจั๋วซือหราน แต่ก็ยอมออกแรงทำเรื่องที่ทำได้เพื่อนางในจวนของนางเองก็ไม่ได้หาคนใช้มามากเท่าไรนัก เฮยหลิงได้ยินมาจากเฉวียนคุน เพราะนางไม่ชอบข้าทาส ดังนั้นจึงไม่หาคนใช้ในบ้านจุดนี้สะกิดใจเฮยหลิงมาก เพราะเขาเป็นทาสเนื่องจากขายร่างกาย...ถึงได้ติดอยู่ในลานทดสอบนานสองนานและเฉวียนคุนก็ไม่ใช่ว่าสู้ไม่ได้ แต่ถ้าหากมีคนบุกเข้ามาจริง ก็ยังค่อนข้างเสียเปรียบ ดังนั้นเฮยหลิงจึงคอยสอนวิชายุทธ์ให้กับเฉวียนคุนและเด็กฉลาด เผื่อไว้คอยเป็นคนเฝ้าประตูเหล่าผู้อาวุโสตระกูลซางที่หน้าประตู สีหน้าปั้นยากขึ้นมา"นางจับลูกหลานตระกูลข้าไว้! พวกเรายังต้องรอให้นางตื่นนอนอีกหรือ?!""อืม" เฮยหลิงพยักหน้า ตอบคำพูดของพวกเขาอย่างหนักแน่นเหล่าผู้อาวุโสตระกูลซางดวงตาแทบจะถลนออกมาแล้ว "เจ้าพูดว่า...อะไรนะ?"เฮยหลิงคิดๆ เอ่ยตอบเสียงขรึม "เป

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 755

    จั๋วซือหรานตอนที่พูดคำนี้ ไม่ได้ดูดุร้ายเลย น้ำเสียงราบเรียบ ยิ่งไปกว่านั้นเพราะเพิ่งตื่นได้ไม่นาน ดังนั้นเสียงจึงยังงัวเงียอยู่แต่เนื้อหาในประโยคนี้ ไม่ได้อ่อนโยนเอาเสียเลย!คนของตระกูลซาง มีหลายคนที่ไม่เคยเห็นจั๋วซือหรานถึงอย่างไรก็ไม่ใช่ยุคปัจจุบัน ที่จะมีรูปภาพอะไรแบบนั้นหลักๆ คือเคยเห็นแล้วก็เห็นไป ที่ไม่เคยเห็น ก็แค่ฟังจากที่คนอื่นพูดขึ้นมาว่าคนผู้นี้หน้าตาเป็นอย่างไรในสมองไม่มีอะไรที่มันชัดเจนนักคนไม่น้อยของตระกูลซาง ก็แค่เคยได้ยินว่าจั๋วซือหรานหญิงสาวที่ตระกูลจั๋วทอดทิ้ง แต่ยังไม่รู้ว่าความสามารถของนางเป็นอย่างไรแต่ว่านางก็มีหน้าตาที่งดงามจริงๆพวกเขาเดิมทียังคิดว่าคำนี้น่าจะเกินจริงไปหน่อย แต่ตอนนี้พอได้เห็นจั๋วซือหรานกับตาจึงได้รู้ว่าอะไรคือคำพูดไม่เกินจริงน่าจะเพราะหญิงสาวตรงหน้านี้งดงามจนดูไม่เหมือนจริง...กระทั่งว่าผู้อาวุโสตระกูลซางยังถามขึ้นอย่างไม่ค่อยเชื่อ "เจ้าคือจั๋วซือหรานหรือ?"จั๋วซือหรานกวาดตามองพวกเขา เอ่ยต่อว่า "เข้ามาก่อนสิ"จากนั้นก็หมุนตัวเดินเข้าไปด้านใน เดินไปสองก้าวก็หยุดเท้าลงนางหยุดเท้า คนของตระกูลซางก็หวาดหวั่นขึ้นมาอย่างประหลาด

Latest chapter

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 946

    และตอนที่ฮั่วจือโจวกำลังหารือเรื่องเปิดโรงเตี๊ยมอยู่กับเจี่ยงเทียนซิงและอินเจ๋ออัน ก็ได้รู้ข่าวการพระราชทานรางวัลนี้พวกเขาสามคนสบตากัน"จักรพรรดิเฒ่านี่ร้ายจริงๆ"จั๋วซือหรานไม่ได้ส่งเสียง หลังจากได้ยินคนวังประกาศราชโองการจบ นางก็ยืนนิ่งไม่ขยับคนวังเองก็ดูกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เรียกนางขึ้นคำหนึ่ง "แม่นางจิ่ว ขานรับราชโองการสิ"จั๋วซือหรานไม่ขยับ นางมองราชโองการฉบับนั้น อันที่จริงในใจกำลังพิจารณาจะรับดีไหมองค์จักรพรรดิเฒ่าดีดลูกคิดรอบนี้ ลูกคิดแทบจะกระเด็นมาโดนหน้านางอยู่แล้วพระราชทานเงิน พระราชทานจวน พระราชทานวังสวน สิทธิ์อำนาจพ่อค้าหลวง พวกนี้ไม่มีปัญหาอะไร ใกล้เคียงกับที่นางขอองค์จักรพรรดิเฒ่าไว้แต่การอวยยศ...แต่งตั้งขุนนางกับพื้นที่ศักดินา แบบนี้มันเกินไปจริงๆในสายตาคนนอก นางเป็นแค่หญิงสาวคนหนึ่ง ได้รับยศมา เรียกได้ว่าจะกลายเป็นโหวหญิงชั้นสูงเพียงคนเดียวของเมืองหลวงไปเลยยิ่งไปกว่านั้นยังมีพื้นที่ศักดินาให้ เรื่องดีจะตายนี่?แต่การแต่งตั้งเป็นหัวหน้าแพทย์หลวง แม้จะชั่วคราว แต่ใครจะรุ้ว่าต้องนานแค่ไหน?ต้องไปเข้ากะอะไรแบบนั้น น่ารำคาญจะตายยิ่งไปกว่านั้นตำแหน่งข้า

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 945

    จั๋วซือหรานพอได้ยินเสียงนี้ ก็ไม่เร่งไม่ร้อน ชนแก้วกับจั๋วอวิ๋นฉีก่อน จากนั้นจึงค่อยๆ ดื่มสุราในแก้วลงไปจนหมดตอนนี้ นางกับจั๋วอวิ๋นฉีก็กลายเป็นผู้อาวุโสสามและผู้อาวุโสห้าของตระกูลจั๋วแล้วพอวางแก้วลง จั๋วอวิ๋นฉีก็หน้าเย็นชาลงมา เขาหน้าตาหล่อเหล่า แต่ตอนที่สีหน้าเย็นชา ก็ให้ความรู้สึกบีบคั้นที่เย็นเยียบมากเขามองไปทางผู้อาวุโสที่พูดเมื่อครู่นี้คนคนนั้นหดคอลง ไม่กล้าส่งเสียงอีกจั๋วซือหรานไม่ได้ใส่ใจ งานเลี้ยงเริ่มขึ้นแล้วตอนที่อาหารกลางวันดำเนินไปครึ่งหนึ่ง ด้านนอกประตูจู่ๆ ก็มีรายงาน ว่าคนในวังมาแล้ว"คนในวัง?" ยังมีคนไม่เข้าใจ คนในวังมาบ้านตระกูลจั๋วทำไมเพียงไม่นานก็เห็นคนวังประกาศราชโองการในชุดเรียบร้อยเดินเข้ามา เพียงแต่ว่า ดูแล้วหายใจหอบอยู่ น่าจะรีบเข้ามาพอควรคนวังประกาศราชโองการพอเห็นจั๋วซือหราน ก็เผยรอยยิ้มออกมา "แม่นางจิ่วที่แท้ก็อยู่ที่นี่นี่เอง ข้าน้อยหาตัวมาพักหนึ่งแล้ว เกรงว่าจะพลาดฤกษ์ประกาศราชโองการ"สายตาของคนตระกูลจั๋ว ทยอยกันมองจั๋วซือหรานตอนนี้ คนวังประกาศราชโองการจึงลากเสียงขึ้นดังลั่น "จั๋วซือหราน...รับราชโองการ...!"จั๋วซือหรานลุกขึ้น เตรียมจะทำท่

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 944

    ผู้อาวุโสสาม!?ครั้งที่แล้วที่นางกลับไปตระกูลจั๋ว คือเชิญนางไปเป็นผู้อาวุโสหรือ?!อย่าว่าแต่พวกที่มาดูมหรสพเลย กระทั่งเฉวียนคุนพอได้ยินคำเรียกนี้ก็ยังตะลึงไปและเพราะอารมณ์ในใจเขาตื่นเต้นเกินไป จึงสั่นไปทั้งตัว!เรียก เรียกว่าอะไรนะ?!นี่เรียกว่า! สะใจสินะ! เขาตอนนั้นยังจำได้ว่า คุณหนูจิ่วออกจากตระกูล ตอนนั้นคนมากมายล้วนรอดูนางเป็นตัวตลก หรือรู้สึกว่านางนี่ล่ะที่เป็นตัวตลกตอนนั้นส่งคนใช้มามากมายมาที่เรือนของนาง แต่ละคนล้วนรู้สึกเหมือนถูกเนรเทศอย่างไรอย่างนั้น รู้สึกว่าจะไม่มีวันได้กลับไปเชิดหน้าชูตาอีกแล้วมีแค่เขาที่อยู่รอด! นับจากตอนนั้นเขาก็เริ่มเชื่อมั่นว่านายท่านจะต้องก้าวหน้าแน่!จั๋วซือหรานได้ยินคำเรียกนี้ สีหน้าก็ดูสงบนิ่งมากทุกคนเห็นสีหน้านางก็รู้แล้ว นางคงรู้เรื่องนี้มานานแล้วพอคนใช้รายงานเสร็จ ก็มองจั๋วซือหรานอย่างตึงเครียดขึ้นมาราวกับ...กลัวว่านางจะปฏิเสธพวกเขาถูกส่งมาเชิญนาง ถ้าหากเชิญไม่ได้ กลับไปอาจจะถูกลงโทษก็ไม่แน่ดังนั้นพวกเขาจึงมองดูการเปลี่ยนแปลงสีหน้าของจั๋วซือหราน เตรียมว่าถ้าหากเห็นเค้าลางการปฏิเสธในสีหน้า พวกเขาก็จะอ้อนวอนนางทันทีแต่จั๋วซือห

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 943

    ตอนที่เฉวียนคุณเคาะประตูจั๋วซือหรนา นางเพิ่งจะวุ่นกับการหลอมยา...งานช่วงเช้าเสร็จเฉวียนคุนรีบเข้ามารินชาให้นางจั๋วซือหรานรับไปดื่มสองอึก "ทำไมหรือ?"เฉวียนคุนเอ่ยขึ้นว่า "นายท่าน นี่มันเรื่องอะไรกัน"สีหน้าของเฉวียนคุณปั้นยาก "เดิมทีเรือนของพวกเราก็ไม่ได้เล็กอะไร ตามหลักการแล้วก็พออาศัยอยู่"เดิมทีก็มีแค่นายท่าน ข้า เด็กฉลาด เฮยหลิง นี่ก็ไม่ใช่ว่าพออยู่เหลือเฟือหรือ"แต่ก่อนหน้านั้นก็เพิ่งจะมีใต้เท้าพวกนั้นที่ท่านช่วยกลับมาจากตระกูลเฟิง" เฉวียนคุนเอ่ยขึ้นหมายถึงพวกเหล่าองครักษ์เงาของเฟิงเหยียนที่นางช่วยกลับมา"ตอนนี้ยังมีพ่อลูกสกุลเหยียนอีก" เฉวียนคุนเอ่ยต่อ "ดังนั้นห้องข้างจึงไม่ค่อยพอแล้วนะ"ห้องพักคนใช้นอกเรือนยังว่างอยู่ ปัญหาคือ เฉวียนคุนมองว่าคนเหล่านี้ นายท่านก็ไม่ได้มองพวกเขาเหมือนคนรับใช้ ดูคล้ายจะเป็นแขกมากกว่าจะให้แขกไปอยู่ในห้องพักคนใช้ก็ไม่ได้..."อา..." จั๋วซือหรานฟังถึงจุดนี้ ก็เข้าใจความหมายของเฉวียนคุนแล้ว "อย่างนี้นี่เอง รู้แล้ว"เฉวียนคุนพยักหน้า "นายท่านเข้าใจบ้างก็ดีแล้ว ตอนนี้ยังพอจัดให้ได้ถูไถ แต่หลังจากนี้ถ้าฮูหยินกับนายท่านกลับมา ก็น่าจะจัดไม่ลง

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 942

    แต่หลังจากที่พวกเขาออกไป จั๋วซือหรานกลับไม่ได้ลงมาจากบนกำแพงล้อมแต่ยังคงนั่งอยู่ตรงนั้น ผ่านไปครู่หนึ่ง นางจึงเอ่ยขึ้นว่า "พวกเจ้ายังมีเรื่องอะไรอีก"นางปวดหัว เรื่องนึงสงบลงอีกเรื่องก็ผุดขึ้นมา นางสัมผัสได้นานแล้ว ต่อให้จะเป็นตอนที่คุมเชิงกับคนตระกูลเฟิงที่ไล่ตามเฟิงหร่านมา นางก็สัมผัสได้ถึงสายตาที่จับจ้องแอบมองอยู่จากมุมหนึ่งมาโดยตลอดแล้วพอคนจากไป นางก็รออยู่อีกพักหนึ่ง สายตาที่แอบมองอยู่นั่นก็ยังอยู่นางเองก็ขี้เกียจมาเสียเวลาอยู่ตรงนี้แล้ว จึงส่งเสียงขึ้นมาตรงๆตอนนี้เอง ในมุมลับตา ก็มีเงาสองร่างเดินออกมาจั๋วซือหรานรู้จักหนึ่งในนี้ นางเลิกคิ้ว "วันนี้คึกคักเสียจริง"พอได้ยินคำนี้ เหยียนฉีก็รู้สึกเขินหน่อยๆ เขาประสานมือให้ "แม่นางจิ่ว ไม่เจอกันเสียนาน"จั๋วซือหรานพยักหน้า มองไปยังคนข้างๆ ผาดหนึ่งเหยียนฉีเอ่ยแนะนำว่า "นี่ นี่คือพ่อของข้าเหยียนเจิน"จั๋วซือหรานคิดอยู่ครู่หนึ่ง "เข้ามาสิ"นางไม่ได้กระโจนกลับจากกำแพงล้อมหรือกระโจนออกไป แต่ยืนขึ้นย้ำไปตามสันกำแพง เดินตรงไปยังประตูหน้าพร้อมพวกเขาตอนที่พวกเขาเดินมาถึงประตูเรือนหลัก จึงมีเงาแดงร่างหนึ่งร่อนลงมาตรงหน้าพวกเขา

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 941

    พอได้ยินคำนี้ของจั๋วซือหราน หานกวงก็พยักหน้า "ใช่แล้ว"จั๋วซือหรานมุมปากกระตุก "ไม่จบไม่สิ้นเสียที"หานกวงฟังออก ถึงความเย็นชาและขุ่นเคืองในน้ำเสียงของแม่นางจิ่วจั๋วซือหรานผลักประตูออก เดินไปที่ห้องตะวันออกเฟิงหร่านพยุงร่างขึ้นมานั่งบนเตียง นางอยู่ในชุดดำ มีบาดแผลอยู่ไม่น้อย มีเลือดซึมออกมาข้างนอกด้วยจั๋วซือหรานแค่เหลือบมอง ก็รู้ว่าปัญหาไม่ใหญ่นักนางเดินเข้าไป ใช้มือหนึ่งจับชีพจรของเฟิงหร่าน อีกมือหนึ่งโยนขวดใบหนึ่งให้นางเฟิงหร่านก็รับไปแบบมือไม้พัลวัน "พี่จั๋ว นี่คือ...""เจ็บไม่หนักมาก กินยาเอาเองเลย" จั๋วซือหรานตอบมาเฟิงหร่านเดาว่าด้านในน่าจะเป็ยารักษาอะไรบางอย่าง นางพยักหน้า "ได้เลย ขอบคุณพี่จั๋วมาก"นางเดิมทียังคิดจะเอ่ยปาก บอกเรื่องในตระกูลเฟิงกับจั๋วซือหรานแต่ก็เห็นว่าว่าหลังที่จั๋วซือหรานส่งยาให้นางแล้ว ก็หมุนตัวเดินไปนอกประตูทันทีเฟิงหร่านรีบถามขึ้น "พี่จั๋ว ท่านจะไปไหน?"จั๋วซือหรานมุถมปากกระตุก "คนตระกูลเฟิงที่ไล่สังหารเจ้ามาพวกนั้น มาล้อมอยู่นอกบ้านข้าแล้ว พอดีเลย คืนนี้ข้าจะได้ไม่ต้องไปหาพวกเขา"พูดจบ นางก็เดินออกจาห้องไปเฟิงหร่านนั่งลงบนเตียงงงๆ แล

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 940

    แพงไม่ว่า แต่บางทีมีเงินก็หาซื้อไม่ได้พวกเขาตอนนี้เพิ่งจะรู้สึกขึ้นได้ว่าตัวตนนักกลั่นยาของจั๋วซือหรานนั้นมีประโยชน์มากจริงๆถ้าหากเดิมทียังรู้สึกไม่พอใจอยู่บ้าง ตอนนี้ก็แทบจะไม่เหลืออยู่แล้วสายตาของพวกเขาเปล่งประกายจับจ้องจั๋วซือหรานจั๋วซือหรานพอได้ยินก็ยิ้มๆ นางมองสายตาเปล่งประกายรอบๆ จากนั้นจึงมองไปทางผู้อาวุโสใหญ่"ถ้าหากให้ข้าตัดสินใจได้ล่ะก็ เงื่อนไขนี้ไม่มีปัญหาแน่นอน"เสียงของจั๋วซือหรานสงบนิ่งมาก "จะทำเช่นที่มอบให้กับตระกูลฮั่ว มอบยาลูกกลอนให้ตระกูลจั๋ว กระทั่งถ้าอารมณ์ดี จะมอบที่ขั้นสูงกว่าให้ด้วย แต่เงื่อนไขก็คือ ตระกูลจั๋วข้าต้องมีอำนาจตัดสินใจ แล้วก็ไม่ใช่ว่ามีพวกกลุ่มที่กระโจนตัวลากใบหน้าแก่ๆ ออกมาสั่งโน่นสั่งนี่กับข้า"จั๋วหลานฟังถึงคำนี้ ในใจก็อดสั่นกึกขึ้นไม่ได้เขาฟังออกถึงความหมายเชิงลึกในคำพูดนาง...ถ้าหากวันไหนที่นางไม่มีอำนาจตัดสินใจในตระกูลจั๋ว นางก็จะตัดการส่งมอบให้ได้ตลอดเวลา พวกเขาไม่มีทางเลือกเลยแม้แต่น้อยดังนั้น ไม่ว่าในใจเหล่าผู้อาวุโสที่นี่จะมีความคิด 'ฟังนางไปก่อนชั่วคราว หลังจากนี้ค่อยว่ากัน' แค่ไหน ตอนนี้ก็ต้องดับมอดลงไปทันทีจั๋วซือหรานพ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 939

    ทุกคนเห็นว่าบนหน้าจั๋วซือหรานมีรอยยิ้มจางๆ อยู่ตลอดแม้จะไม่มีความหมายอะไร ลอยอยู่ผิวเผิน แต่ก็มีอยู่มาตลอดจนตอนที่คำพูดนี้ออกมา รอยยิ้มผิวเผินบนหน้านางเหล่านั้นก็หายวับไปทันทีเหลือเพียงความเย็นชาไร้ความรู้สึกนางบอกกับคนวังจดบันทึกที่อยู่ข้างๆ "รบกวนเจ้าด้วย"คนวังจดบันทึกรู้ว่าคนผู้นี้เป็นตัวตนที่สำคัญแค่ไหนสำหรับฝ่าบาทดังนั้นท่าทีจึงนอบน้อมมาก หยิบม้วนผ้าไหมเลืองทองออกมาคลี่ออกใครก็เห็นลายมังกรที่อยู่บนนั้น...นี่มันคือราชโองการ!คนวังจดบันทึกหยิบพู่กันออกมา เริ่มตวัดเขียนขึ้นบัญชาสวรรค์ จักรพรรดิรับสั่ง ตระกูลจั๋วมีบุตรสาว ชื่อนามหรูซิน จึงขอพระราชทานงานอภิเษกให้กับฉินตวนหยางปราชญ์แห่งกรมดาราศาสตร์...หลังจากได้ยินคนวังจดบันทึกอ่านประกาศร่างราชโองการจั๋วหรูซินยังคงเป็นลมไม่ได้ เพราะยาเม็ดนั้นที่จั๋วซือหรานให้มาอหังการเหลือเกิน บอกว่าจะทำให้นางสติตื่นตัว ก็ทำให้ตื่นตัวได้จริงๆดังนั้นนางจึงโกรธแค้นจนเกินทน กระอักเลือดสดออกมาจั๋วซือหรานลุกขึ้นยืน ในดวงตาไม่มีคนผู้นี้อยู่อีก ราวกับว่า ล้างแค้นสิ่งที่ควรทำเรียบร้อยคนอย่างจั๋วหรูซิน ไม่จำเป็นต้องมาอยู่ในสายตานางอี

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 938

    ถังหยวนมองสภาพจั๋วหรูซินตอนนี้ เขาอดมีสายตาสับสนขึ้นมาไม่ได้ตรงหน้าเขามีภาพตอนที่จั๋วซือหรานถูกลงโทษแวบผ่านขึ้นมา กระดูกสันหลังที่ไม่ยอมคดงอนั่นเก้าแส้ฟาดลงไป หน้าขาวซีด เหมือนจะร่วงพับสิ้นสติ สภาพซมซานน่าเวทนาแต่ในสีหน้าท่าทาง ไม่มีท่าทีเจ็บปวดร้องไห้ชักกระตุกให้เห็นกระทั่งว่า ถังหยวนเกิดความรู้สึกลวงขึ้นมา ว่ามันควรจะเป็นเช่นนี้หรือเปล่า?แต่ตอนนี้พอเห็นท่าทางของจั๋วหรูซิน จึงมีปฏิกิริยาเข้าใจขึ้นทันที จั๋วหรูซินแบบนี้ต่างหากที่เป็นสภาพปกติแต่แบบจั๋วซือหรานนั่น เป็นตัวตนที่แตกต่างจากคนอื่นจั๋วหลานมองจั๋วซือหราน "เสียวจิ่ว พอสบายใจขึ้นบ้างหรือยัง?"จั๋วซือหรานเดินขึ้นไปทีละก้าวทุกคนล้วนคิดว่า หญิงสาวคนนี้ยังไม่สะใจพอ ต้องเข้าไปมองความเจ็บปวดทรมานของจั๋วหรูซินใกล้ๆ จึงจะพอใจจั๋วอวิ๋นชินอดทนอยู่ข้างๆ แม้เขาจะไม่พอใจน้องสาวคนนี้นัก แต่ถึงอย่างไรก็เป็นน้องสาวจะอย่างไรก็ยังมีความรู้สึกทนไม่ไหวอยู่ เขาเตรียมจะยัดยาลูกกลอนให้กับจั๋วหรูซินแล้วแต่ตอนนี้พอเห็นจั๋วซือหรานเดินขึ้นมา แม้เขาจะหยุดเท้าลง แต่ในที่สุดก็ทนไม่ไหวจั๋วอวิ๋นชินเอ่ยขึ้นเสียงขรึม "จั๋วซือหราน หรูชินได้ร

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status