Share

บทที่ 748

Author: หูเทียนเสี่ยว
อินเจ๋ออันมองบน "ใครหาเรื่องใครกันแน่? เจ้าอย่ามาทำตัวใส่ร้ายป้ายสีคนอื่น..."

"นั่นสิ" จั๋วซือหรานวางถ้วยบนโต๊ะ กลอกตามองอินเจ๋ออัน พริบตาต่อมา อินเจ๋ออันก็รู้สึกปวดหน้าผาก! บนสัญลักษณ์จันทร์เสี้ยวที่หน้าผากนั่น เจ็บปวดขึ้นมา!

หญิงสาวคนนี้ยื่นมือดีดเผียะไปที่สัญลักษณ์จันทร์เสี้ยวนี้!

จั๋วซือหรานดีดนิ้วใส่หน้าผากอินเจ๋ออัน พลางเอ่ยขึ้นว่า "ดังนั้นก่อนที่จะหาเรื่องก็ต้องคิดให้ถี่ถ้วนก่อนว่าเอาอยู่ไหม อย่าส่งออกมาเปล่าๆ เข้าใจไหม? เจ้าเองก็มีประสบการณ์เยอะแล้วนี่ หลังจากนี้ก็จำให้ขึ้นใจล่ะ"

จั๋วซือหรานพูด พลางดีดไปอีกที อินเจ๋ออันร้องโอ๊ย ยกมือขึ้นกุมหน้าผากตัวเอง "พอแล้ว เลิกดีดได้แล้ว!"

ฮั่วจือโจวที่อยู่ข้างๆ มองฉากนี้อย่างสนใจ เขาเห็ฯหญิงสาวที่ถูกจั๋วซือหรานจูงมาด้านหลังแล้ว

ถ้าหากจำไม่ผิดล่ะก็ น่าจะเป็นคุณหนูสี่ซางเชวี่ยที่ตระกูลซางให้ความสำคัญที่สุดในรุ่นนี้ใช่ไหม?

และสองคนที่อยู่ข้างๆ หนึ่งในนั้น ก็เป็นนักควบคุมสัตว์ที่สู้กับจั๋วซือหรานอย่างร้อนแรงบนเวทีก่อนหน้านี้ ส่วนอีกคนดูแล้วไม่คุ้นหน้าเลย

แต่ด้วยรูปลักษณ์ที่งดงามโดดเด่น มองแล้วไม่ใช่คนธรรมดาเลย

แม่นางจั๋วจิ่วคนนี้ไม่ธ
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 749

    ตอนเดินมาถึงทางแยก จั๋วซือหรานก็เอียงตามองชิ่งหมิง "น้องชิ่ง เจ้าไม่กลับหรือ?"ชิ่งหมิงมองจั๋วซือหรานตาเป็นประกายแม้จะอยู่ในสภาพผู้ใหญ่หน้าตาหล่อเหลา ตามหลักการความคิดและการรับรู้ก็ควรจะกลับเป็นผู้ใหญ่แล้วเช่นกันให้ความรู้สึกที่ดูเย็นชากับคนอื่น แต่ตอนที่มองจั๋วซือหรานประกายแสงที่สว่างวาบขึ้นมาในตาคู่นั้น ก็ดูเหมือนกับชายหนุ่มที่ความคิดจิตใจยังมึนงงก่อนหน้าคนนั้นเลยชิ่งหมิงตอบ "ข้าไม่ต้องไปกับเจ้าหรือ?""ข้าก็ไม่คิดอะไรหรอก แต่ลุงของเจ้าจะวางใจหรือ? กลัวว่าเดี๋ยวจะอาละวาดเข้ามาอีก" จั๋วซือหรานคิดถึงลุงของชิ่งหมิงคนนั้น นั่นก็ไม่ใช่เล่นๆ เลยนะชิ่งหมิงเอ่ยตอบ "เขาไม่มาหรอก ที่ข้าดีขึ้นมา เขาจะต้องซาบซึ้งขอบคุณเจ้าแน่ ยิ่งไปกว่านั้นก็รู้แล้วด้วยว่าก่อนหน้านี้โทษเจ้าแบบผิดๆ ไว้"จั๋วซือหรานฟังไม่ออกเสียที่ไหน เด็กคนนี้...เอาเถอะ เรียกว่าเด็กคงไม่ได้แล้ว ตอนนี้ไม่ว่าจะความคิดหรือรูปลักษณ์ภายนอก เรียกว่าเด็กไม่ได้แล้วชายคนนี้ คิดจะกลับไปกับนาง"เอาเถอะ ไปกัน" จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้นไม่นานนัก ก็มาถึงเรือนของจั๋วซือหรานพอเข้าประตูใหญ่ จั๋วซือหรานก็เห็นเฉวียนคุนที่ทำหน้าพรรณนาไม

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 750

    เฟิงหร่านตาเป็นประกาย แต่เวลานี้ จั๋วซือหรานก็ลังเลขึ้นมาแล้ว "เดี๋ยวก่อน""อื๋อ?" เฟิงหร่านมองนาง จากนั้นจึงเห็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ในตานาง"อย่าพูดให้มันง่ายนัก" จั๋วซือหรานยิ้ม "โดยเฉพาะตอนอยู่ต่อหน้าพี่ชายเจ้า..."จั๋วซือหรานลากเสียงยาวครุ่นคิด จากนั้นจึงเอ่ยขึ้นว่า "เจ้าแค่บอกเขาว่า ข้าถูกรังแก สู้คนอื่นเขาไม่ได้ ไม่มีพลังไม่มีขั้วอำนาจหนุนหลัง เจ็บตัวขึ้นมาแล้ว"เฟิงหร่านฟังแล้วงงงัน "ท่านถูก...ถูกรังแก? สู้...สู้ไม่ไหว?"จั๋วซือหรานยิ้มตาหยีพยักหน้า "อืม เจ้าพูดแบบนี้ไปก็พอ""แต่ว่า..." เฟิงหร่านยังคงลังเล หลักๆ รู้สึกว่าพี่ชายก็ไม่ใช่คนโง่นะ จะมาติดกับง่ายๆ ได้อย่างไรกันจั๋วซือหรานยิ้มแล้วพูดขึ้นมา "เจ้าทำตามที่ข้าพูดก็พอ พี่ชายเจ้าดีใจแน่""ดีใจ?" เฟิงหร่านยังไม่ค่อยเข้าใจจั๋วซือหรานเองก็ไม่ได้อธิบายกับนางมากนักอันที่จริงจั๋วซือหรานต่อมาก็เคยคิด ถึงความสัมพันธ์ระหว่างตนเองกับเฟิงเหยียนพิจารณาจากสถานการณ์ที่ตระกูลเฟิงระแวดระวัง อันที่จริงคือกลัวว่านางกับเฟิงเหยียนพออยู่ด้วยกัน จะมาขโมยพลังตระกูลเฟิงของพวกเขาไปอันที่จริงตระกูลเฟิงก็ไม่ได้เกลียดชังในตัวจั๋วซือหรานอยู

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 751

    เฟิงเหยียนอันที่จริงเข้าใจอย่างชัดเจน พลังที่แท้จริงของจั๋วซือหรานแข็งแกร่งมาก คุณสมบัติร่างกายเองก็ไม่ใช่เรื่องล้อเล่นบาดแผลทั่วไปสำหรับนางแล้ว เพียงไม่นานก็จะสมานคืนแต่ต่อให้ในใจชัดเจนแค่ไหน พริบตาที่ได้ยินเฟิงหร่านบอกว่านางบาดเจ็บคิ้วของเฟิงเหยียนก็ขมวดแน่นขึ้นมา ดวงตาเปลี่ยนเป็นสีเข้มดูหนักแน่น"บาดเจ็บตรงไหน? หนักหนามั๊ย?" เฟิงเหยียนถามเสียงขรึมแต่ว่าสีหน้าของเฟิงหร่านก็เปลี่ยนเป็นไม่สบายใจขึ้นมานางเม้มริมฝีปาก ในใจแอบคิด แล้วนี่ต้องพูดอย่างไรล่ะ...เฟิงหร่านนิ่งงันไปครู่หนึ่งจึงเอ่ยขึ้น "ก็...ตรงนี้ตรงนั้น"เฟิงเหยียนหลังจากได้ยินคำนี้ จึงสังเกตเห็นสีหน้าไม่สบายใจของเฟิงหร่านขึ้นมาเขาขมวดคิ้วแน่นขึ้นไปอีกเพียงไม่นานก็มีปฏิกิริยากลับมา เฟิงหร่านกำลังพูดโกหกแต่พอลองคิด เฟิงหร่านทำไมต้องพูดโกหก? ใครให้เฟิงหร่านโกหกกัน?เพียงไม่นาน สองเส้นคำถาม ก็จูงไปหาคำตอบที่ชัดเจนคำตอบหนึ่งคิ้วที่ขมวดแน่นของเฟิงเหยียนคลายลงมาแล้ว เลิกคิ้วขึ้น "โอ๋? ถ้างั้น นางยังพูดอะไรอีกไหม?"เฟิงหร่านคิดถึงคำพูดของพี่จั๋ว กัดฟันพูดต่อว่า "นางยังบอกว่า..."เฟิงหร่านมองพี่ชายอย่างจนใจ ตัด

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 752

    "ถ้าอย่างนั้นข้าขอกินก่อนละ หิวแล้ว" จั๋วซือหรานยกบะหมี่รวมมิตรออกมาชามหนึ่งกลิ่นหอมนั่นลอยเข้ามาในจมูกซางถิงทันที ลูกกระเดือกเขากลิ้งไหล หิว...ขึ้นมาทันทีเขาพูดขึ้นเสียงต่ "ก็ไม่ใช่ขนาดนั้นทั้งหมดหรอก"จั๋วซือหรานเองก็เหลือบตามองเขา แต่ก็ไม่ได้ขี้งก แบ่งให้เขาชามหนึ่งดังนั้นเพียงไม่นาน ซางถิงเดิมทีที่คิดจะพูดคุยอย่างจริงจังกับนาง ก็จริงจังขึ้นมาไม่ได้ในชั่วพลันเสียแล้วทั้งสองคนสูดบะหมี่ไปด้วย คุยกันไปด้วย แล้วมันจะจริงจังไปได้แค่ไหนกันดังนั้นถึงได้มีการเจรจจาบนโต๊ะอาหารโต๊ะสุราน่ะสิ ก็แค่ให้มีอารมณ์ผ่อนคลายลงมาหน่อย เหตุผลแค่นี้แหละดังนั้นลักษณะของบทสนทนา จึงเบาลงมาแทบจะในทันทีจั๋วซือหรานสูดบะหมี่ไปด้วย คุยไปด้วย "ข้าพาเจ้ากลับมามันจะเพราะอะไรได้ จะให้ข้าชำแหละเจ้าไปชั่งโลขายเหรอ พวกค้ามนุษย์มันก็แค่ปลาซิวปลาสร้อย ไม่ใช่ข้าจั๋วซือหรานหรอกนะ"ซางถิงมองนาง "แล้วมันเพราะอะไรล่ะ?""คนอย่างข้าไม่ชอบติดค้างน้ำใจใคร" จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้น "ตาหลักแล้วเจ้าไม่ควรต้องถูกเปิดเผยตัวตน ขนาดถูกตระกูลซางตัดหางปล่อยวัดแล้ว ซ้ำยังหนีการไล่ล่ามาเรียบร้อย เดิมทีไม่ควรมาถูกตระกูลซางเพ่งเล็ง

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 753

    คำพูดนี้ของซางถิงลอดออกมาจากไรฟัน มีอาการขบเขี้ยวเคี้ยวฟันอยู่ด้วยแต่จั๋วซือหรานก็เหมือนฟังไม่ออก และยังเหมือนฟังออกแต่ไม่ได้สนอกสนใจด้วยบนหน้านางมีรอยยิ้ม เอ่ยขึ้นว่า "ไม่ดีหรือ? ไม่ใช่ว่าดีกว่าต้องทำตัวหลบๆ ซ่อนๆ อดมื้อกินมื้อหนีเอาตัวรอดอย่างยากลำบากหรอกหรือ?"ซางถิงได้ยินคำพูดนี้ก็ตกตะลึงไป ที่ประหลาดก็คือ ก่อนหน้านี้ยังมีอาการขบเขี้ยวเคี้ยวฟันอยู่แต่ตอนนี้กลับเหมือนเข้าใจขึ้นมา ราวกับว่าอารมณ์ก่อนหน้านี้ สลายหายไปแทบจะในทันทีจั๋วซือหรานกินบะหมี่เสร็จก็โบกไม้โบกมือ "ง่วงแล้ว ข้ากลับห้องไปพักผ่อนแล้วนะ เจ้าเองก็พักผ่อนไวหน่อยเถอะ ข้าทางนี้ถึงจะไม่ได้ดูหรูหรานัก แต่ว่าก็ไม่ต้องกังวลมาก พักอย่างสบายใจเถอะ"ซางถิงพยักหน้า มองแผ่นหลังจั๋วซือหรานจากไป เขาทนไม่ไหว ร้องเรียกขึ้นมาคำหนึ่ง "เอ๊ เดี๋ยว...จั๋วจิ่ว""อื๋อ?" จั๋วซือหรานหยุดเท้ามองมาทางเขา"มีเรื่องอะไรที่ข้าทำได้ไหม?" ซางถิงยกมือขึ้นเกาหัว "ข้า ข้าคงจะอยู่เปล่าๆ ไม่ได้หรอก"จั๋วซือหรานคิดๆ "ก็ไม่ใช่ว่าไม่มีนะ เอาอย่างนี้...เจ้าไปจับแมงมุมกลับมาหน่อย?""แมงมุมอะไร?" ซางถิงรู้สึกว่า ความคิดของจั๋วซือหรานนี่เดายากจริ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 754

    เช้าวันถัดมาคนของตระกูลซางรีบเข้ามาหาคนที่มาดูแล้วเป็นคนที่มาอายุหน่อย คิดว่าในตระกูลซาง ตัวตนฐานะคงไม่ได้ต่ำมากเพียงแต่ว่า พวกเขาพอมาถึงประตู ก็ถูกชายหนุ่มร่างใหญ๋คนหนึ่งขวางไว้ที่ประตู"แม่นางจิ่วยังไม่ตื่น" เฮยหลิงเอ่ยเสียงขรึมเขาอยู่ที่นี่ แมจะไม่ใช่ข้าทาสคนรับใช้ของจั๋วซือหราน แต่ก็ยอมออกแรงทำเรื่องที่ทำได้เพื่อนางในจวนของนางเองก็ไม่ได้หาคนใช้มามากเท่าไรนัก เฮยหลิงได้ยินมาจากเฉวียนคุน เพราะนางไม่ชอบข้าทาส ดังนั้นจึงไม่หาคนใช้ในบ้านจุดนี้สะกิดใจเฮยหลิงมาก เพราะเขาเป็นทาสเนื่องจากขายร่างกาย...ถึงได้ติดอยู่ในลานทดสอบนานสองนานและเฉวียนคุนก็ไม่ใช่ว่าสู้ไม่ได้ แต่ถ้าหากมีคนบุกเข้ามาจริง ก็ยังค่อนข้างเสียเปรียบ ดังนั้นเฮยหลิงจึงคอยสอนวิชายุทธ์ให้กับเฉวียนคุนและเด็กฉลาด เผื่อไว้คอยเป็นคนเฝ้าประตูเหล่าผู้อาวุโสตระกูลซางที่หน้าประตู สีหน้าปั้นยากขึ้นมา"นางจับลูกหลานตระกูลข้าไว้! พวกเรายังต้องรอให้นางตื่นนอนอีกหรือ?!""อืม" เฮยหลิงพยักหน้า ตอบคำพูดของพวกเขาอย่างหนักแน่นเหล่าผู้อาวุโสตระกูลซางดวงตาแทบจะถลนออกมาแล้ว "เจ้าพูดว่า...อะไรนะ?"เฮยหลิงคิดๆ เอ่ยตอบเสียงขรึม "เป

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 755

    จั๋วซือหรานตอนที่พูดคำนี้ ไม่ได้ดูดุร้ายเลย น้ำเสียงราบเรียบ ยิ่งไปกว่านั้นเพราะเพิ่งตื่นได้ไม่นาน ดังนั้นเสียงจึงยังงัวเงียอยู่แต่เนื้อหาในประโยคนี้ ไม่ได้อ่อนโยนเอาเสียเลย!คนของตระกูลซาง มีหลายคนที่ไม่เคยเห็นจั๋วซือหรานถึงอย่างไรก็ไม่ใช่ยุคปัจจุบัน ที่จะมีรูปภาพอะไรแบบนั้นหลักๆ คือเคยเห็นแล้วก็เห็นไป ที่ไม่เคยเห็น ก็แค่ฟังจากที่คนอื่นพูดขึ้นมาว่าคนผู้นี้หน้าตาเป็นอย่างไรในสมองไม่มีอะไรที่มันชัดเจนนักคนไม่น้อยของตระกูลซาง ก็แค่เคยได้ยินว่าจั๋วซือหรานหญิงสาวที่ตระกูลจั๋วทอดทิ้ง แต่ยังไม่รู้ว่าความสามารถของนางเป็นอย่างไรแต่ว่านางก็มีหน้าตาที่งดงามจริงๆพวกเขาเดิมทียังคิดว่าคำนี้น่าจะเกินจริงไปหน่อย แต่ตอนนี้พอได้เห็นจั๋วซือหรานกับตาจึงได้รู้ว่าอะไรคือคำพูดไม่เกินจริงน่าจะเพราะหญิงสาวตรงหน้านี้งดงามจนดูไม่เหมือนจริง...กระทั่งว่าผู้อาวุโสตระกูลซางยังถามขึ้นอย่างไม่ค่อยเชื่อ "เจ้าคือจั๋วซือหรานหรือ?"จั๋วซือหรานกวาดตามองพวกเขา เอ่ยต่อว่า "เข้ามาก่อนสิ"จากนั้นก็หมุนตัวเดินเข้าไปด้านใน เดินไปสองก้าวก็หยุดเท้าลงนางหยุดเท้า คนของตระกูลซางก็หวาดหวั่นขึ้นมาอย่างประหลาด

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 756

    เสียงของจั๋วซือหรานยังคงเย็นชา "เพราะขยะกองหนึ่งของตระกูลพวกเจ้า เข้ามาหาเรื่องข้าก่อน จากนั้นก็ถูกข้าจับเป็นเชลย เข้าใจหรือยัง? พวกเจ้าน่าจะฟังออกว่าเชลยมันหมายความว่าอะไร?""หรือว่าพวกเจ้าคิดว่า เพราะพวกเจ้าเป็นตระกูลซาง จั๋วซือหรานอย่างข้าถึงต้องให้หน้าพวกเจ้า? ปล่อยคนออกไปดีดี? พวกเจ้าหน้าด้านกันมาจากไหน?"จั๋วซือหรานจ้องพวกเขา "ตระกูลเฟิงยังไม่กล้าพูดจาใหญ่โตขนาดนี้เลย แต่พวกเจ้านี่ปากกล้าไม่เบา"สีหน้าชายชราตระกูลซางสองคนปั้นยากเหมือนกินแมลงวันเข้าไป ตอนนี้กลับนิ่งเงียบเป็นเป่าสาก ไม่มีใครกล้าโต้แย้งกลับมา"พวกเจ้ามาไถ่คนคืน" จั๋วซือหรานมองพวกเขา "เข้าใจไหม?"ไม่มีใครส่งเสียงจั๋วซือหรานเองก็ไม่สนใจว่าพวกเขาจะส่งเสียงหรือไม่ พวกตระกูลขุนนางเหล่านี้มันหยิ่งจองหองจนจะทะลุฟ้าไปแล้ว ถ้าไม่สะกดความหยิ่งพวกเขาไว้บ้าง ตอนคุยกันคงน่ารำคาญน่าดูจั๋วซือหรานพูดต่อ "ข้าไม่ให้พวกเข้าคุกเข่าลงโขกศีรษะไถ่คนคืนก็ดีแค่ไหนแล้ว พวกเจ้ายังมาทำตัวเหนือกว่าคนอื่นที่นี่อีกหรือ?ทำไม? ให้ข้ากระชากกระดูกสันหลังของซางเชวี่ยออกมาแกว่งตรงหน้าพวกเจ้าไหม พวกเจ้าถึงจะได้รู้ว่าข้าไม่ได้เล่นกับพวกเจ้า?"อ

Latest chapter

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1273

    แม้จะบอกว่าเป็นความฝัน แต่อันที่จริงจั๋วซือหรานก็ค่อยๆ เข้าใจแล้ว ว่าเพราะอะไรหลังจากฝันถึงเขาครั้งที่แล้วจนมาถึงครั้งนี้ นานมากแล้วที่ไม่ได้ฝันถึงเขาอีกพอมาคิดอย่างละเอียด เหมือนว่าตอนฝันถึงเขาครั้งที่แล้ว จะเป็นหลังจากที่นางมีสัมพันธ์ทางกายกับเขาดังนั้นจั๋วซือหรานจึงค่อยๆ เข้าใจ บางทีน่าจะเป็นเพราะสาเหตุนี้การดูดหยางบำรุงหยินของนางก็ดูดซับมาจนพอเข้าใจแล้ว เหมือนว่าพอดูดซับมาถึงระดับหนึ่ง ก็จะเกิด...ถ้าจะพูดว่าเป็นความฝัน สู้บอกว่าเป็นการสื่อสารทางจิตใต้สำนึกกับความทรงจำของเฟิงเหยียนส่วนที่ถูกผนึกไปจะดีกว่า?และไม่ว่าจะ 'ความฝัน' ครั้งที่แล้ว หรือว่าครั้งนี้ก็มองออกได้ไม่ยากเฟิงเหยียนน่าจะเข้าใจต่อสถานการณ์อยู่ ดังนั้นบางทีจิตใต้สำนึกเขายังคงอยู่มาตลอด เพียงแต่ถูกสมองทื่อๆ นี่กดเอาไว้ หรือบางทีคงถูกสภาผู้อาวุโสลงมือสะกดเอาไว้ไม่แน่ว่า อาจจะต้องมีชนวนเหตุบางอย่าง ถึงจะสามารถปลุกขึ้นมาได้จั๋วซือหรานอยากจะรู้ชนวนเหตุนั้นว่าคืออะไรกันแน่"ต้องทำยังไงเจ้าถึงจะดีขึ้นมา?" จั๋วซือหรานถามแต่เฟิงเหยียนกลับเหมือนจะจำจุดสำคัญนั้นไม่ได้แล้ว ขมวดคิ้ว สีหน้าดูเหมือนขมขื่น เหมือนว

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1272

    ในห้วงฝันนางมองมือตัวเอง สับสนไปหมดทั้งตัว เหมือนยังตั้งตัวกลับมาไม่ได้เพราะนางถ้าไม่หลับลึก ก็จะเอาจิตใต้สำนึกส่งเข้าไปในมิติ จึงฝันน้อยครั้งมากดังนั้นตอนที่ดำดิ่งสู่ห้วงฝัน นางยังรู้สึกไม่คุ้นอยู่หน่อยๆ มองมือตนเอง รู้สึกไม่คอ่ยเป็นจริงสักเท่าไรวินาทีต่อมา มือข้างหนึ่งก็ทาบมาบนมือของนางมือข้างนั้น ข้อต่อกระดูกชัดเจน นิ้วเรียวยาว เล็บตัดมาดูสะอาดสะอ้าน ผิวหนังขาวซีดเย็นเหมือนไม่โดนแดดมานานสายตาของจั๋วซือหรานจ้องนิ่งอยู่บนมือข้างนี้ จากนั้นจึงค่อยๆ ยกขึ้นมามองไปยังเจ้าของมือนี้ ใบหน้าหล่อเหลาไม่มีที่ตินั่นทั้งที่เป็นใบหน้าที่เพิ่งเห็นไปก่อนหลับตาลงเมื่อครู่แท้ๆ แต่ตอนนี้พอมอง กลับยังคงทำให้นางรู้สึกเหมือนไม่เจอกันเสียนานสายตาของชายหนุ่มอบอุ่น ด้านในมีความรู้สึกอารมณ์เหมือนความเจ็บปวดแฝงอยู่"จั๋วเสียวจิ่ว..." เขาก้มหน้าลงเรียกนางจั๋วซือหรานมองเขา จากนั้นจึงออกแรงบีบมือเขา และน่าจะเพราะออกแรงมากเกินไปปลายเล็บจึงเหมือนจิกลงไปในเนื้อเขาฝันถึงเขาอีกแล้วจั๋วซือหรานมีปฏิกิริยาขึ้นมา ครั้งนี้เหมือนกับครั้งนั้นเลย ฝันถึงเฟิงเหยียนยิ่งไปกว่านั้นยังดูเหมือนจริงเป็นพิ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1271

    กลางดึก จั๋วซือหรานกัดริมฝีปาก กอดหมอน เดินเท้าเปล่าจากห้องด้านนอกเข้าไปยังห้องด้านใน!คิ้วงามของนางขมวดแน่น สีหน้าที่มีสีเลือดฟื้นมาบ้างแล้ว ตอนนี้กลับขาวซีดขึ้นมาในใจนางเองก็พูดไม่ออก เดิมทีตอนที่หลับก็ยังดีอยู่ พอกลางดึกจู่ๆ ก็ไม่ไหวขึ้นมาเสียแล้วหน้าอกปั่นป่วนอย่างรุนแรง เป็นความรู้สึกทรมานแบบที่นางผ่านมาก่อนหน้าไม่ผิดเพี้ยนถ้าบอกว่าคนคนนี้ไม่เข้ามาก็ว่าไปอย่าง แต่นี่ก็เข้ามาแล้วว่ากันว่าพอเคยสบายแล้ว จะยากที่จะกลับไปลำบากตอนนี้จะให้นางปล่อยชายหนุ่มที่เหมือนกับ 'ยาบำรุงครรภ์' นี้ไว้ข้างในเฉยๆ โดยไม่ใช้ แล้วต้องมานั่งทนกระอักเลือดต่อล่ะก็...ขอโทษด้วย สกุลจั๋วอย่างนางไม่ใช่คนประเภทนั้นนางเข้าใจแล้ว ก่อนที่จะหลับไปเมื่อคืนนี้ ตอนที่เฟิงเหยียนบอกว่าจะนอนด้านนอก ริมฝีปากที่เม้มแน่นนั้นกำลังอดกลั้นเรื่องอะไรน่าจะคิดไว้แล้วว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้สารเลว!จั๋วซือหรานครั่นเนื้อครั่นตัวตื่นมากลางดึก ต่อให้เป็นคนที่มีสติเยือกเย็นแค่ไหน ก็ยังมีอาการหงุดหงิดงัวเงียหลังตื่นนอนนางเดินเท้าเปล่าเข้าไปห้องด้านใน อากาศในหุบเขาตอนกลางคืนเย็นมากนางสวมแค่เสื้อบางๆ ชุดหนึ่ง ทั้งตัวเย

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1270

    แต่กลับรู้ตัวตนฐานะผู้ชายทรยศของเฟิงเหยียนได้ ไม่ต้องคิดเลยว่าคงเป็นจั๋วหวายพล่ามออกมาแน่"จั๋วหวายมาบอกเจ้าหรือ?" ปันอวิ๋นถามขึ้นคำหนึ่งจวงอี๋ไห่ พยักหน้าอย่างระมัดระวัง "คุณชายเสี่ยวหวายไม่หลอกข้าหรอก คุณชายเสี่ยวหวายบอกว่าเป็นผู้ชายทรยศ เช่นนั้นกว่าครึ่งก็ต้องเป็นผู้ชายทรยศแล้ว"ปันอวิ๋นถอนหายใจแผ่วเบาในห้อง จั๋วซือหรานนั่งลงข้างโต๊ะเฟิงเหยียนไม่พูดอะไร รินน้ำชาให้นางถ้วยหนึ่งจั๋วซือหรานกำถ้วยไว้ ใช้นิ้วมือลูบไล้ขอบถ้วยเบาๆ"อีกเดี๋ยวพออาหารส่งเข้ามา ก็กินสักหน่อยแล้วค่อยนอนพัก" เฟิงเหยียนเอ่ยขึ้นแต่ในน้ำเสียงแฝงไว้ด้วยความหนักแน่นที่ห้ามปฏิเสธจั๋วซือหรานแหงนตามองเขา กำลังจะบอกว่ายังไม่หิวก็เห็นริมฝีปากบางของชายคนนี้เม้มเบาๆ เอ่ยเสียงต่ำว่า "ข้าไม่มีสิทธิ์จะมาหารือกับเจ้าจริงๆ นั่นล่ะ..." สายตาเขาทอดลงไปที่ท้องน้อยนาง แววตาลึกซึ้งจากนั้นจึงเอ่ยต่อว่า "แต่การจะเตือนให้เจ้ากินอะไรดีดีก็ยังพอมีสิทธิ์อยู่" สายตาเขายกขึ้นมาจากท้องน้อยจั๋วซือหรานเลื่อนมาที่ดวงตานาง จ้องมองดวงตานาง เอ่ยต่อว่า "ถึงอย่างไรเมื่อครู่ก็เพิ่งช่วยเจ้ากลับมา ยิ่งไปกว่นั้นเรื่องถูกพลังศักดิ์สิท

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1269

    เขาไม่เพียงแต่ไม่ใช่สามีของนาง เขายังเป็นคู่หมั้นในนามของหญิงสาวคนอื่นอีกด้วยสีหน้าของเฟิงเหยียนแข็งทื่อไปแล้ว แต่ท้ายสุดก็ยังพูดอะไรไม่ออกเพราะในคำพูดจั๋วซือหราน ไม่มีส่วนที่ผิดเลยแม้แต่น้อยแม้จะบอกว่าเด็กคนนี้ ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเขาก็ตามแต่ครั้งก่อนหน้านั้น เป็นเพราะจั๋วซือหรานถูกวางแผนร้ายใส่ ถึงทำให้นางสับสนหลงใหลจนมีสัมพันธ์กับเขาถ้าจะบอกว่า เขาเอาเปรียบหญิงสาวไป ก็ไมไ่ด้พูดเกินเลยนักเอาเปรียบหญิงสาว จนทำนางตั้งท้อง ไม่เคยจะมารับผิดชอบอะไรตอนนี้กลับจะมาชี้มือชี้ไม้เรื่องของนางพอสรุปมาแบบนี้ มันก็ช่าง...แย่มากจริงๆเฟิงเหยียนเองก็รู้ว่าตนเองนั้นแย่มาก พูดอะไรออกมาไม่ได้ไปชั่วขณะปันอวิ๋นรู้สึกกระอักกระอ่วนแทนสหายเก่า เขากระแอมออกมาเบาๆ ทีหนึ่ง ไกล่เกลี่ยขึ้นว่า "เอาล่ะเอาล่ะ..."เขาเองก็ไม่รู้ว่าควรพูดอะไร ถึงอย่างไร ทั้งสองคนตอนนี้จะไม่ได้เป็นคู่รัก แต่ความสัมพันธ์แบบนี้...มันก็ดูคลุมเครือ กลืนไม่เข้าคายไม่ออกอยู่ นี่มันช่าง...ดังนั้นปันอวิ๋นเลยเปิดประเด็นขึ้น อึกอักในปากอยู่พักหนึ่ง กว่าจะพูดออกมาได้ "...พวกเจ้าหิวหรือยัง? ให้เหล่าจวนทำอะไรให้กินหน่อยดีไหม?"

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1268

    นางยืนเงียบๆ อยู่ตรงนั้น แหงนตาขึ้นมองพวกเขาสายตาของเฟิงเหยียนอึ้งไปเล็กน้อย เห็นนางยืนอยู่ในประตูด้วยสีหน้านิ่งขรึมเขารู้สึกลำคอแห้งผากอย่างประหลาด ความรู้สึกนั้น บางทีควรจะเรียกว่า...ตึงเครียดไหม?"เจ้า...ตื่นขึ้นมาตอนไหนน่ะ?" เฟิงเหยียนถามจั๋วซือหรานมองเขา "ไม่นานเท่าไร"เหมือจะมองออกถึงความกระอักกระอ่วนของเขา หรืออาจจะไม่สรุปคือ มุมปากจั๋วซือหรานยกขึ้นบางๆ พูดมาคำหนึ่ง "ท่านอ๋องน้อย ไม่เจอกันเสียนาน"นางทำแบบนี้โดยไม่เอ่ยถึงคำพูดก่อนหน้านั้นแม้แต่น้อยเฟิงเหยียนอ้าปากพะงาบ ต่อให้คิดจะพูดอะไร แต่ชั่วขณะหนึ่งก็เหมือนจะพูดออกมาไม่ได้จึงแค่ถามขึ้นอย่างเป็นห่วง "ดีขึ้นบ้างหรือยัง?"จั๋วซือหรานพยักหน้า "ดีขึ้นมากแล้ว"กระทั่งปันอวิ๋นก็ยังมองออกถึงเรื่องระหว่างพวกเขา ไม่รู้เพราะเจ้าสมองกลับนี่ไปแตะเนื้อต้องตัวทำอะไรนาง หรือเป็นเพราะคำพูดเมื่อครู่นางได้ยินคำพูดของเฟิงเหยียน...สรุปคือ ปันอวิ๋นมองพวกเขาทั้งสองคน แล้วก็รู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออกแทนพวกเขาทั้งสองคนปันอวิ๋นคิดๆ ดู ตอนที่ตนเองอยู่กับจั๋วซือหรานก็ยังไม่ได้กลืนไม่เข้าคายไม่ออกขนาดนี้รู้สึกร้อนใจแทนเจ้าบ้านี่จร

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1267

    เพราะเป็นเพื่อนสนิท ปันอวิ๋นจึงเข้าใจความหมายที่เขาคิดจะแสดงออกมาหรือก็คือ ปันอวิ๋นเดาได้นานแล้วบางทีตอนนั้นเพื่อจะให้จั๋วซือหรานหลีกเลี่ยงโชคชะตาเช่นนี้ ตนเองจึงเลือกที่จะลืมเลือนแต่สุดท้ายพอวกไปวนมา ก็กลับมาเดินอยู่บนเส้นทางเดิมเจ้าสิ่งที่เรียกว่าโชคชะตานี่ ลึกลับเอามากๆบางครั้งเหมือนจะมีเมตตา แต่บางครั้งก็เหมือนไม่เคยปราณีใครผู้ใด"แล้วเจ้าตอนนี้...คิดจะทำอย่างไร?" ปันอวิ๋นถามเขาจ้องเฟิงเหยียนตาไม่กระพริบเอาจริงๆ ปันอวิ๋นใช้มองจากมุมมองคนนอกอย่างมีเหตุมีผล ยังหวังว่าจั๋วซือหรานจะสามารถปล่อยวางได้แต่พอคิดถึงว่าถ้าหากจั๋วซือหรานปล่อยวางแล้วล่ะก็ ด้วยโชคชะตาภาชนะพลังศักดิ์สิทธิ์หงส์แดงของเฟิงเหยียน ผลสรุปสุดท้าย ก็คือตายก่อนวัยอันควรอยู่ดีและเพราะรู้เรื่องนี้ ดังนั้นปันอวิ๋นจึงหยุดไปครู่หนึ่ง เอ่ยเสริมมาคำนึง "ถังฉือเคยบอกข้าไว้ ในโถงวิญญาณอสูร พวกสัตว์เทพที่ถูกเก็บกลับมาเหล่านั้น..."ปันอวิ๋นขมวดคิ้ว คิดถึงคำพูดของถังฉือถังฉือมีบาปหนาจากการฆ่าฟันคนมากมาย กลายเป็นคนเย็นชาไร้หัวใจไปแล้ว ถ้าหากไม่เย็นชาไร้หัวใจ ป่านนี้คงเป็นบ้าไปแล้วดังนั้นตอนที่เขาพูดถึงเรื่องเห

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1266

    ปันอวิ๋นส่งให้เขาชามหนึ่ง ตนเองก็ด้วยทั้งสองคนไม่พูดพล่ามทำเพลง กระดกรวดเดียวจนหมดราวกับว่า สุราที่มาช้าไปหลายปีนี้ ในที่สุดก็ได้ดื่มเสียทีราวกับว่าภาพเด็กน้อยที่แอบขโมยสุราพวกนั้นมาดื่ม ซ้อนทับเข้ามากับพวกเขาในเวลานี้"ช่วงนี้เจ้า ไม่ได้ติดต่อกับพวกเขาเลยหรือ?"หลังจากร่ำสุราลงท้องไปสองชาม จิตใจก็เหมือนจะผ่อนคลายลงมาไม่น้อย ปันอวิ๋นถามขึ้นอย่างสบายๆ เป็นกันเองเฟิงเหยียนฟังออก ว่าเขาถามถึงเหล่าพี่น้องพวกนั้นเขาตอบอืมไปคำหนึ่ง "ไม่ได้ติดต่อกันเลย""เช่นนั้นก็คงไม่รู้สถานการณ์ของพวกเขาเลยสินะ" ปันอวิ๋นเอ่ยขึ้นเฟิงเหยียนไม่ยอมรับหรือปฏิเสธกับสิ่งนี้ ถือว่ายอมรับไปกลายๆปันอวิ๋นยิ้มๆ เหมือนจะเย้ยหยันตนเอง "แต่ก็ไม่โทษพวกเขาที่ไม่ติดต่อเจ้า ด้วยสถานการณ์ของพวกเขาตอนนี้ ก็ไม่มีหน้ามาติดต่อเจ้าจริงๆ นั่นล่ะ"ได้ยินคำนี้ของปันอวิ๋น เฟิงเหยียนก็ไม่พูดอะไรอีกปันอวิ๋นเอ่ยต่อว่า "ซงซีตอนนี้ทุกวันเหมือนขลุกอยู่แต่ในห้องหลอมสกัด หลอมสกัดอยู่ทุกวันไม่ได้พักเลย"เฟิงเหยียนพอได้ยินคำนี้ คิ้วก็ขมวดขึ้นบางๆ"เยี่ยนเหวย...ก็สูบเลือดออกมาทุกวัน อยู่แบบไม่เหมือนผู้เหมือนคน ผู้อาวุโสหวงจ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1265

    บางทีคงเป็นเพราะการคุยแบบเปิดอกก่อนหน้านี้ ทำให้ระยะทางขอเพื่อนสนิทสองคนที่เคยห่างไปตามกาลเวลา ย่อหดลงไปไม่น้อยเลยกระมังดังนั้นพอได้ยินปันอวิ๋นบอกว่าไม่ต้องขอบคุณ เฟิงเหยียนจึงเหลือบมองเขา น้ำเสียงเปลี่ยนไป "ก็ได้ เช่นนั้นก็ไม่ขอบคุณแล้วกัน"เฟิงเหยียนสั่งขึ้นมา "ไป ไปเอาสุรามาให้ข้าหน่อย"แม้จะพูดเช่นนี้ แต่ในเสียงกลับไม่ได้ออกคำสั่งอะไร ฟังแล้วเหมือนการใช้งานระหว่างเพื่อนกันมากกว่าปันอวิ๋นชะงักไปเล้กน้อย เพราะตอนพวกเขายังเด็ก ก็เคยใช้งานกันและกันแบบนี้ไป ไปเอาสุรามาหน่อยได้ งั้นเจ้าก็เอาปลาไปย่างซะข้าเห็นว่าเจ้าหน้าตาเหมือนปลาถ้าเจ้ายังพูดอีกรอบ จะโดนข้ากดจนจมถังสุราตายไปเลยเพราะคำพูดนี้ของเฟิงเหยียน ทั้งสองคนก็เหมือนกลับไปสมัยยังเด็กในชั่วพริบตาปันอวิ๋นยกมุมปากขึ้นบางๆ ลุกขึ้นไปให้คนรับใช้ส่งสุราเข้ามาคือสุราห้าพิษที่เขาจะหมักอยู่ทุกปี และใช้แมลงพิษมาหลอมจริงๆ แต่ตัวสุรากลับไม่มีพิษใดๆ กระทั่งยังหอมอบอวลเข้มข้นเป็นพิเศษ เป็นสุราที่หาได้ยากยิ่งและเป็นความลับที่ไม่เผยแพร่สู่ภายนอกของหุบเขาหมื่นพิษ ปกติมีแค่เจ้าหุบเขาที่รู้แต่ปันอวิ๋น หลังจากออกสำนักมา ก็ไม่ได้ด

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status