共有

บทที่ 734

作者: หูเทียนเสี่ยว
"แต่จากที่ข้ารู้ แมลงพิษที่ใช้เป็นกู่มาหลอมได้...แมงมุมเองก็ถือเป็นหนึ่งในนั้น" จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้น

พอจั๋วซือหรานพูดคำนี้ คนของโถงตัดหัว สีหน้าก็เปลี่ยนไปทันที

จั๋วซือหรานยิ้มๆ "เล่นกู่หรือ? ช่วงนี้ข้าก็สนใจกับการเล่นกู่เหมือนกัน ดังนั้น ตาข่ายของพวกเจ้า ฉันเลยทดสอบไปแล้ว ตอนนี้ตาข้าแล้วกระมัง?"

ตอนที่จั๋วซือหรานพูดคำนี้ ซางถิงก็ตกตะลึงไป

เขารู้สึกว่าคำพูดนี้ดูคุ้นหู ตอนอยู่บนเวที จั๋วซือหรานก็พูดแบบนี้กับเขาเหมือนกัน

และหลังจากที่นางพูดคำนี้ ก็โต้กลับอย่างรุนแรงใส่เขาทันที

ตอนนี้ นางพูดแบบนี้ออกมาอีกครั้ง

ไม่รู้เพราะอะไร ซางถิงรู้สึกว่า น่าจะเป็นความรู้สึกคล้ายๆ กับก่อนหน้านี้กระมัง

คนอย่างจั๋วซือหราน ตอนที่เป็นคู่ต่อสู้ของนาง คงรู้สึกตำมือเป็นอย่างมาก มาเจอคนแบบนี้ เหมือนเจอกับเข็มแหลมรอบด้านจริงๆ

ไม่ว่าจะสัมผัสจากมุมไหน ก็ล้วนทิ่มแทงมือทั้งสิ้น!

แต่ตอนที่ไม่ได้เป็นคู่ต่อสู้กับนาง แล้วมาเป็นสหายร่วมรบที่มีเป้าหมายเดียวกัน

ก็เหมือนจะรู้สึกว่าวางใจได้อย่างประหลาดเลยทีเดียว

ตอนที่ได้ยินนางพูดเช่นนี้ ก็เหมือนจะไม่มีอะไรให้สับสนแล้ว

ซางเชวี่ยหัวเราะเย็นชาขึ้นมาในกลุ่มโถงตัดหั
この本を無料で読み続ける
コードをスキャンしてアプリをダウンロード
ロックされたチャプター

関連チャプター

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 735

    "นี่มัน...ไหมกู่?" ซางถิงอยู่ใกล้ๆ จั๋วซือหราน ดังนั้นจึงเห็นเส้นใยเหล่านี้ยิงออกมาจากมือนางและเพราะสามารถมองเห็นได้ชัด ดังนั้นซางถิงจึงมองออกรางๆ ว่าเส้นใยแต่ละเส้นเหล่านี้ กลับไม่เหมือนตาข่ายใยแมงมุมอะไรแต่คล้ายกับ...ไหมกู่ไหมกู่ที่แมลงกู่พ่นออกมาหญิงสาวคนนี้...ใช้วิชากู่ได้ด้วย!ซางถิงก่อนหน้านี้รู้สึกแค่ว่า จั๋วซือหรานถึงแม้จะเก่งกาจ แต่ว่าตนเองก็ออมมือไปบนเวทีด้วยไม่ได้ใช้วิญญาณเลือดอสูรออกมาด้วยซ้ำแต่ตอนนี้ดูแล้ว จั๋วซือหรานที่อยู่บนเวทีเองก็เหมือนจะออมมืออยู่ไม่น้อยเลย ทั้งสองฝ่ายต่างออมมือจนสู้ออกมาเป็นแบบนั้นคนของโถงตัดหัวตระกูลซาง เห็นได้ชัดว่าคิดไม่ถึงเหมือนกัน ว่าจั๋วซือหรานจะใช้วิชากู่ได้ด้วย!หญิงสาวคนนี้! คิด! จะทำอะไรกันแน่!วิชาแพทย์ วิชาสกัดยา วิชายุทธ์ ตอนนี้วิชาควบคุมสัตว์กับวิชากู่ก็ยัง...!คนของโถงตัดหัวล้วนมองนางอย่างระแวดระวัง หลังจากกันไหมกู่ของนางออกไปแล้ว ก็ยังไม่กล้าทำอะไรบุ่มบ่ามแต่ก็มีอยู่สองสามคนที่ไม่ระวังถูกไหมกู่ของนางเปื้อนเข้าไป ล้วนล้มลงพื้นครวญครางเจ็บปวดขึ้นมาสายตาซางเชวี่ยก็จับจ้องที่จั๋วซือหรานเช่นกัน "วิชากู่เจ้าก็เป็นด้วย

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 736

    "เดิมทีข้าแค่คิดจะจับเจ้าเป็นๆ พากลับไปสอบสวนเสียหน่อย ว่าเจ้าไปรเียนรู้ทักษะภาษาสัตว์ที่แทบจะสาปสูญไปแล้วของตระกูลซางมาได้อย่างไร" ซางเชวี่ยน้ำเสียงเย็นชาลงไปอีกจั๋วซือหรานมองนาง มุมปากยกขึ้นจนเป็นร้อยยิ้มจางๆ ไม่มีความอบอุ่นใดๆ กระทั่งไม่มีอารมณ์ใดอีกด้วยราวกับไม่ว่าซางเชวี่ยกับคนตระกูลซางพวกนี้จะพูดอะไรหรือทำอะไร ก็ไม่อาจส่งผลอะไรกับใจนางได้เลยจั๋วซือหรานเอ่ยขึ้น "คนที่บีบเค้นถามข้า บอกว่าข้าแอบเรียนวิชาแพทย์ของตระกูลพวกเขา ตอนนี้ยังนอนอยู่ในบ้าน บางครั้งก็อั้นฉี่ไม่ไหวอยู่เลย "จั๋วซือหรานมองดวงตาซางเชวี่ย "เจ้าอยากจะลองไหม?"ซางเชวี่ยหัวเราะเย็นชา "ข้ายังพูดไม่จบเลยนะ ข้าเดิมทีคิดจะจับเจ้าเป็นๆ แต่ตอนนี้ ข้าเปลี่ยนความคิดแล้ว คนอย่างเจ้า เป็นตัวแปรที่ไม่สามารถควบคุมได้ ไม่รู้ว่าจะเอาความยุ่งยากหรือการเปลี่ยนแปลงมามากแค่ไหน ตายๆ ไปเสียดีกว่า คนตายไปคือปลอดภัยที่สุด ไม่ว่าสำหรับใครก็เป็นเช่นนี้"เสียงเพิ่งหยุดลง ข้อมือของซางเชวี่ยก็สั่นไหวอย่างรุนแรงแสงเงินสายหนึ่ง รวดเร็วมาก! แล่นตรงเข้ามาทางจั๋วซือหรานจั๋วซือหรานหรี่ตาลงเล็กน้อย ยื่นมือออกทันทีแต่นางยังไม่ทันยื่นมือ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 737

    ซางถิงสังเกตเห็นถึงสายตาของจั๋วซือหราน เขาไม่รู้เพราะอะไร ตนเองเหมือนจะเข้าใจความหมายบางส่วนในสายตาของจั๋วซือหรานขึ้นมาดวงตาซางถิงเบิกโพลงขึ้นมา ม่านตาหดลง จ้องมองจั๋วซือหราน "เจ้าคิดจะทำอะไร?"เขารู้สึกว่า จั๋วซือหรานกำลังคิดเรื่องที่แปลกใหม่เอามากๆคนปกติไม่มีทางมีความคิดเช่นนี้ แต่นางกลับกำลังคิดอยู่จริงๆ!จั๋วซือหรานเอียงตาเหลือบมองซางถิงผาดหนึ่ง คนผู้นี้ฉลาดจริงๆ มองออกแล้วว่านางคิดจะทำอะไรซางถิงกดเสียงต่ำพูดกับนาง "การโจมตีของงูเพลิงเงินนั้นอหังการมาก การป้องกันเองก็ยอดเยี่ยม เกล็ดหนังสีเงินทั้งตัวก็เหมือนเหล็กที่ไม่มีวันขาด ยิ่งไปกว่นั้นเพลิงเงินของมันก็ร้ายกาจ จะเผาไหม้สิ่งที่สัมผัสโดนมันจนไหม้เป็นจุณ!"จั๋วซือหรานเลิกคิ้ว ตอนนี้เอง งูสีเงินตัวนั้น ก็ถูกแส้ของซางถิงกับไหมกู่ของนางพันเอาไว้แน่นและเป็นอย่างที่ซางถิงพูดเอาไว้เลย เกล็ดหนังของมันพลังป้องกันโดดเด่นมาก ไหมกู่ของนางแทงหนังเกล็ดของมันไม่เข้าเลย ทำอันตรายกับมันไม่ได้และมันก็เหมือนจะโกรธที่ถูกแส้กับไหมกู่พันเอาไว้ด้วย จึงอ้าปาก แล้วพ่นเพลิงเงินลูกหนึ่งออกมาเพลิงเงินลูกหนึ่ง ดูแล้วราวกับเป็นปรอทอย่างไรอย่างนั

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 738

    งูเพลิงเงินยังคงอ้าปาก กัดไปบนมือของจั๋วซือหราน แต่กลับกัดไม่เข้าซางถิงเพิ่งจะสังเกตเห็น ว่าบนผิวมือจั๋วซือหราน มีสิ่งของสีหยกบางอย่างที่ไม่รุ้จักเพิ่มขึ้นมาชั้นหนึ่งแต่ความคมของเขี้ยวงูเพลิงเงินนี้เหมือนจะกัดไม่เข้างูเพลิงเงินเองก็เหมือนจะคิดไม่ถึงว่าจะมีเรื่องแบบนี้ มันพ่นเพลิงเงินออกมาทันที!แต่ของที่ราวกับเป็นปรอทนั่น พออยู่บนแขนของจั๋วซือหรานซางถิงรู้สึกเหมือนใจจะดีดออกมาอีกครั้ง ภาพนี้มันตื่นเต้นเกินไปแล้วแต่ว่า ไม่มีอะไรเลยสถานการณ์อย่างแขนจะถูกเผาจนเห็นกระดูกอะไรนั่น ไม่มีเลย เพลิงเงินนั่นค้างอยู่บนแขนของนาง แต่กลับไม่สร้างบาดแผลอะไรเลยจั๋วซือหรานกางฝ่ามือออก กอบเพลิงเงินนั่นไว้ในมือคนของโถงตัดหัวตระกูลซางล้วนตกตะลึงกระทั่งสีหน้าของซางเชวี่ยก็ยังเปลี่ยนไปแล้ว "ปะ เป็นไปได้อย่างไร...?"อันที่จริงหลังจากที่จั๋วซือหรานก็สังเกตได้ว่างูตัวนี้แม้เพลิงเงินที่พ่นออกมาจะชื่อว่าเพลิงเงิน แต่อันที่จริงมันไม่ใช่เปลวไฟ แต่เเป็นพิษที่มีฤทธิ์กัดกร่อนของมันแล้วจั๋วซือหรานก็รู้สึกว่าพลังคุกคามนี้ไม่หนักหนาอะไรนัก หัตถ์เสวียนอวี้ของนางตอนที่เผชิญหน้ากับการแผดเผาของดวงใจแห่ง

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 739

    ซางถิงมองหลายกระบวนท่าในปางมือของซางเชวี่ยออกสาเหตุที่เขามองออก ก็เพราะในกระบวนท่าบางส่วนในปางมือของซางเชวี่ย มันดูคล้ายกับกระบวนท่าปางมือในวิชา 'วิญญาณเลือดอสูร' ของเขานั่นเองจั๋วซือหรานสังเกตเห็นความเคร่งขรึมในสายตาซางถิงแล้วถามขึ้นว่า "มีอะไรหรือ?""กังวล นางจะเอาจริงแล้ว" เสียงของซางถิงกดต่ำ เอียงหน้าเล็กน้อย บอกกับจั๋วซือหรานที่อยู่ข้างๆ มาคำหนึ่งแล้วเขาก็ผูกถุงเก็บสัตว์ที่เอวไว้แน่น เอ่ยเสียงต่ำกับจั๋วซือหรานว่า "อีกเดี๋ยวถ้าสถานการณ์ไม่ปกติเจ้าก็หนีไปก่อนเลยนะ""อะไรนะ?" จั๋วซือหรานรู้สึกแปลกประหลาดนิดหน่อยซางถิงพยักหน้าช้าๆ สายตากลับไม่วางจากตัวซางเชวี่ย เอ่ยเสียงต่ำพูดกับจั๋วซือหรานว่า "ข้าจะขวางนางไว้เอง เจ้าหนีไปก่อน"จั๋วซือหรานเลิกคิ้วเล็กน้อย ไม่พูดอะไรซางถิงพูดต่อ "ข้ามองออกว่าบนเวทีเจ้าอ่อนข้อให้ข้า ดังนั้นตอนนี้ถือว่าข้าคืนให้เจ้าแล้วกัน เจ้าหนีไปก่อนก็พอ วิชาที่นางกำลังจะใช้ น่าจะตำมือพอควร""วิชาอะไร?" จั๋วซือหรานถามขึ้น"วิชาพวกยกระดับเลือดอสูร แต่แตกต่างกับเปิดช่องพลังทั่วไป สิ่งนี้เนื่องจากสูบเอาพลังและความสามารถจากบนตัวสัตว์ที่ควบคุมตรงๆ ดังนั้นภ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 740

    "เจ้ามองข้าแบบนี้ทำไมกัน!" ซางเชวี่ยเหมือนจะรับไม่ได้กับสีหน้านิ่งๆ ของจั๋วซือหรานซะแล้ว จึงลงมือทันที คิดจะรีบฉีกทึงสีหน้านิ่งบนหน้าของจั๋วซือหรานทิ้ง นางอยากจะเห็นหญิงสาวคนนี้อ้อนวอน! อยากเห็นหญิงสาวคนนี้กรีดร้องทรมาน!"ข้าจะควักลูกตาเจ้าออกมาเสีย!" เสียงของซางเชวี่ยยังไม่ทันขาด ร่างก็พุ่งไปอยู่ข้างตัวจั๋วซือหรานแล้วเพราะความเร็วมหาศาล กระพือลมเย็นเยียบขึ้นมาซางถิงเอ่ยเตือนเสียงต่ำ "ระวัง!"เขาคิดไม่ถึง! ว่าซางถิงนี่จะ...ซางถิงเอ่ยขึ้นอย่างร้อนรน "นางสูดรับความสามารถกับพลังของสัตว์ที่ควบคุมสองชนิดได้พร้อมกัน!"แสงเงินบนผิวหนัง เป็นพลังป้องกันจากเกล็ดสีเงินของงูเพลิงเงินตัวนั้นอย่างไม่ต้องสงสัยแต่ความเร็วนี้ และยังมีการโจมตีกรงเล็บที่ส่งเสียงเคร้งคร้างตอนที่โจมตีใส่จั๋วซือหรานด้วย...ไม่ต้องสงสัยว่าเป็นสัตว์ที่ควบคุมประเภทนกที่รวดเร็วแน่นอนบางทีอาจจะเป็นสัตว์ที่ควบคุมประเภทนกเหยี่ยว!แต่ซางเชวี่ยแม้จะฉากเข้ามาข้างตัวจั๋วซือหราน แต่การโจมตีก็ไม่ได้โจมตีโดนจั๋วซือหรานอย่างราบรื่นเสียงชิ้ง!ดังขึ้น ถูกจั๋วซือหรานกันออกไปแล้ว"เจ้าอาจจะยังเข้าใจข้าไม่พอ" เสียงของจั๋วซือหราน

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 741

    ซางถิงเดิมทีคิดว่าเป็นเลือดของซางเชวี่ยที่หยดลงมาบนมือจั๋วซือหราน เพราะสีหน้าของจั๋วซือหรานนั้นนิ่งมาก สงบนิ่งสุดๆมองอย่างไรก็ไม่เหมือนคนที่บาดเจ็บจนตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบแต่พอเพ่งมองดีดีก็จะพบว่า ไม่ใช่เลือดของซางเชวี่ย แต่เป็นมือของจั๋วซือหรานที่บาดเจ็บจากการปะทะกับซางเชวี่ยจริงๆจากนั้นเลือดสดก็ไหลลงมาตามแขน นิ้ว และค่อยๆ หยดลงพื้นซางถิงม่านตาหดลง "จั๋วจิ่วเจ้า...ไม่เป็นไรใช่ไหม?""อื๋อ?" จั๋วซือหรานก้มลงมองแผลบนแขนของตนเองผาดหนึ่ง "ไม่เป็นไร"พริบตาที่นางตระหนักถึงแผลบนมือตนเอง ที่บาดแผลเลือดก็หยุดไหลไปแล้วระดับความแข็งแกร่งของร่างกายนางกับระดับการฟื้นฟู น่าตกตะลึงจริงๆแต่เพราะนางบาดเจ็บ แต่ซางเชวี่ยกลับไม่มีแผลที่ชัดเจน จึงทำให้ซางเชวี่ยมั่นใจขึ้นมาก"จั๋วซือหราน ข้าจะดูว่าเจ้าจะทนได้อีกแค่ไหน ข้าสู้กับเจ้าแบบนี้ได้ทั้งวันเลย" ซางเชวี่ยเอ่ยขึ้นนางมีสัตว์ที่ควบคุมซึ่งสามารถยืมพลังมาใช้ได้ และรักษาสภาพได้ยาวนาน คำพูดนี้ตามหลักแล้วคือพูดไม่ผิดแต่ว่าจั๋วซือหรานกลับยิ้มจนปากโค้ง เอ่ยขึ้นเสียงเรียบว่า "ไม่ เจ้าสู้ได้ไม่ถึงทั้งวันหรอก แค่หนึ่งเค่อเจ้าก็ไม่ไหวแล้ว""พูดจา

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 742

    ไม่กัดเจ้าจนตาย แต่แค่ตบเจ้าเล่นไปมาด้วยกรงเล็บเท่านั้น...หนึ่งสองสามสี่ ถุงเก็บสัตว์ของนางล้วนถูกสูดรับไปหมดแล้วซางเชวี่ยคิดไม่ถึงเลยจริงๆ ว่าจะมีคน ที่สามารถยืนหยัดได้ภายใต้การสูดรับพลังจากถุงเก็บสัตว์ทั้งสี่ของนางนางไม่เคยถูกบีบจนถึงระดับนี้มาก่อนจั๋วซือหรานหัวเราะขึ้นเบาๆ ในที่สุดก็พูดขึ้นว่า "ข้าเคยบอกแล้ว ว่าเจ้ายังไม่เข้าใจข้าพอ""ใครอยากจะไปเข้าใจเจ้ากัน!" ซางเชวี่ยตะคอกขึ้นอย่างโมโห"ที่เรียกว่ารู้เขารู้เรา...สรุปคือ ถ้าหากเจ้าเข้าใจ ก็น่าจะรู้ ว่าตอนที่ข้าสู้กับเหยียนอีของตระกูลเหยียนในครั้งนั้น หลังจากที่เลือดอสูรคุ้มคลั่ง ก็ถูกข้าปล่อยลมออกอย่างรวดเร็ว" จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้นซางเชวี่ยตะลึงงันปล่อย...ลม? นางไม่ใช่คนโง่ ถ้าหากคนโง่คงไม่มีทางถูกคนในตระกูลให้ความสำคัญซางเชวี่ยเหมือนจู่ๆ จะเข้าใจขึ้นมา ไม่ใช่ว่าจั๋วซือหรานจู่ๆ ก็เปลี่ยนเป็นแข็งแกร่ง แต่ว่าตนเองนั้น...อ่อนแอลงต่างหากจะว่าไป ก็เหมือนหลังจากที่จั๋วซือหรานสร้างบาดแผลเล็กๆ ขึ้นมาแล้วบาดแผลที่ไม่เจ็บไม่คันเหล่านั้น ซางเชวี่ยเดิมทีคิดว่าไม่มีอะไร แต่พอเทียบกันแล้ว บางทีอาจจะมีอะไรอยู่ด้านในก็ได้"เจ้า

最新チャプター

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1273

    แม้จะบอกว่าเป็นความฝัน แต่อันที่จริงจั๋วซือหรานก็ค่อยๆ เข้าใจแล้ว ว่าเพราะอะไรหลังจากฝันถึงเขาครั้งที่แล้วจนมาถึงครั้งนี้ นานมากแล้วที่ไม่ได้ฝันถึงเขาอีกพอมาคิดอย่างละเอียด เหมือนว่าตอนฝันถึงเขาครั้งที่แล้ว จะเป็นหลังจากที่นางมีสัมพันธ์ทางกายกับเขาดังนั้นจั๋วซือหรานจึงค่อยๆ เข้าใจ บางทีน่าจะเป็นเพราะสาเหตุนี้การดูดหยางบำรุงหยินของนางก็ดูดซับมาจนพอเข้าใจแล้ว เหมือนว่าพอดูดซับมาถึงระดับหนึ่ง ก็จะเกิด...ถ้าจะพูดว่าเป็นความฝัน สู้บอกว่าเป็นการสื่อสารทางจิตใต้สำนึกกับความทรงจำของเฟิงเหยียนส่วนที่ถูกผนึกไปจะดีกว่า?และไม่ว่าจะ 'ความฝัน' ครั้งที่แล้ว หรือว่าครั้งนี้ก็มองออกได้ไม่ยากเฟิงเหยียนน่าจะเข้าใจต่อสถานการณ์อยู่ ดังนั้นบางทีจิตใต้สำนึกเขายังคงอยู่มาตลอด เพียงแต่ถูกสมองทื่อๆ นี่กดเอาไว้ หรือบางทีคงถูกสภาผู้อาวุโสลงมือสะกดเอาไว้ไม่แน่ว่า อาจจะต้องมีชนวนเหตุบางอย่าง ถึงจะสามารถปลุกขึ้นมาได้จั๋วซือหรานอยากจะรู้ชนวนเหตุนั้นว่าคืออะไรกันแน่"ต้องทำยังไงเจ้าถึงจะดีขึ้นมา?" จั๋วซือหรานถามแต่เฟิงเหยียนกลับเหมือนจะจำจุดสำคัญนั้นไม่ได้แล้ว ขมวดคิ้ว สีหน้าดูเหมือนขมขื่น เหมือนว

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1272

    ในห้วงฝันนางมองมือตัวเอง สับสนไปหมดทั้งตัว เหมือนยังตั้งตัวกลับมาไม่ได้เพราะนางถ้าไม่หลับลึก ก็จะเอาจิตใต้สำนึกส่งเข้าไปในมิติ จึงฝันน้อยครั้งมากดังนั้นตอนที่ดำดิ่งสู่ห้วงฝัน นางยังรู้สึกไม่คุ้นอยู่หน่อยๆ มองมือตนเอง รู้สึกไม่คอ่ยเป็นจริงสักเท่าไรวินาทีต่อมา มือข้างหนึ่งก็ทาบมาบนมือของนางมือข้างนั้น ข้อต่อกระดูกชัดเจน นิ้วเรียวยาว เล็บตัดมาดูสะอาดสะอ้าน ผิวหนังขาวซีดเย็นเหมือนไม่โดนแดดมานานสายตาของจั๋วซือหรานจ้องนิ่งอยู่บนมือข้างนี้ จากนั้นจึงค่อยๆ ยกขึ้นมามองไปยังเจ้าของมือนี้ ใบหน้าหล่อเหลาไม่มีที่ตินั่นทั้งที่เป็นใบหน้าที่เพิ่งเห็นไปก่อนหลับตาลงเมื่อครู่แท้ๆ แต่ตอนนี้พอมอง กลับยังคงทำให้นางรู้สึกเหมือนไม่เจอกันเสียนานสายตาของชายหนุ่มอบอุ่น ด้านในมีความรู้สึกอารมณ์เหมือนความเจ็บปวดแฝงอยู่"จั๋วเสียวจิ่ว..." เขาก้มหน้าลงเรียกนางจั๋วซือหรานมองเขา จากนั้นจึงออกแรงบีบมือเขา และน่าจะเพราะออกแรงมากเกินไปปลายเล็บจึงเหมือนจิกลงไปในเนื้อเขาฝันถึงเขาอีกแล้วจั๋วซือหรานมีปฏิกิริยาขึ้นมา ครั้งนี้เหมือนกับครั้งนั้นเลย ฝันถึงเฟิงเหยียนยิ่งไปกว่านั้นยังดูเหมือนจริงเป็นพิ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1271

    กลางดึก จั๋วซือหรานกัดริมฝีปาก กอดหมอน เดินเท้าเปล่าจากห้องด้านนอกเข้าไปยังห้องด้านใน!คิ้วงามของนางขมวดแน่น สีหน้าที่มีสีเลือดฟื้นมาบ้างแล้ว ตอนนี้กลับขาวซีดขึ้นมาในใจนางเองก็พูดไม่ออก เดิมทีตอนที่หลับก็ยังดีอยู่ พอกลางดึกจู่ๆ ก็ไม่ไหวขึ้นมาเสียแล้วหน้าอกปั่นป่วนอย่างรุนแรง เป็นความรู้สึกทรมานแบบที่นางผ่านมาก่อนหน้าไม่ผิดเพี้ยนถ้าบอกว่าคนคนนี้ไม่เข้ามาก็ว่าไปอย่าง แต่นี่ก็เข้ามาแล้วว่ากันว่าพอเคยสบายแล้ว จะยากที่จะกลับไปลำบากตอนนี้จะให้นางปล่อยชายหนุ่มที่เหมือนกับ 'ยาบำรุงครรภ์' นี้ไว้ข้างในเฉยๆ โดยไม่ใช้ แล้วต้องมานั่งทนกระอักเลือดต่อล่ะก็...ขอโทษด้วย สกุลจั๋วอย่างนางไม่ใช่คนประเภทนั้นนางเข้าใจแล้ว ก่อนที่จะหลับไปเมื่อคืนนี้ ตอนที่เฟิงเหยียนบอกว่าจะนอนด้านนอก ริมฝีปากที่เม้มแน่นนั้นกำลังอดกลั้นเรื่องอะไรน่าจะคิดไว้แล้วว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้สารเลว!จั๋วซือหรานครั่นเนื้อครั่นตัวตื่นมากลางดึก ต่อให้เป็นคนที่มีสติเยือกเย็นแค่ไหน ก็ยังมีอาการหงุดหงิดงัวเงียหลังตื่นนอนนางเดินเท้าเปล่าเข้าไปห้องด้านใน อากาศในหุบเขาตอนกลางคืนเย็นมากนางสวมแค่เสื้อบางๆ ชุดหนึ่ง ทั้งตัวเย

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1270

    แต่กลับรู้ตัวตนฐานะผู้ชายทรยศของเฟิงเหยียนได้ ไม่ต้องคิดเลยว่าคงเป็นจั๋วหวายพล่ามออกมาแน่"จั๋วหวายมาบอกเจ้าหรือ?" ปันอวิ๋นถามขึ้นคำหนึ่งจวงอี๋ไห่ พยักหน้าอย่างระมัดระวัง "คุณชายเสี่ยวหวายไม่หลอกข้าหรอก คุณชายเสี่ยวหวายบอกว่าเป็นผู้ชายทรยศ เช่นนั้นกว่าครึ่งก็ต้องเป็นผู้ชายทรยศแล้ว"ปันอวิ๋นถอนหายใจแผ่วเบาในห้อง จั๋วซือหรานนั่งลงข้างโต๊ะเฟิงเหยียนไม่พูดอะไร รินน้ำชาให้นางถ้วยหนึ่งจั๋วซือหรานกำถ้วยไว้ ใช้นิ้วมือลูบไล้ขอบถ้วยเบาๆ"อีกเดี๋ยวพออาหารส่งเข้ามา ก็กินสักหน่อยแล้วค่อยนอนพัก" เฟิงเหยียนเอ่ยขึ้นแต่ในน้ำเสียงแฝงไว้ด้วยความหนักแน่นที่ห้ามปฏิเสธจั๋วซือหรานแหงนตามองเขา กำลังจะบอกว่ายังไม่หิวก็เห็นริมฝีปากบางของชายคนนี้เม้มเบาๆ เอ่ยเสียงต่ำว่า "ข้าไม่มีสิทธิ์จะมาหารือกับเจ้าจริงๆ นั่นล่ะ..." สายตาเขาทอดลงไปที่ท้องน้อยนาง แววตาลึกซึ้งจากนั้นจึงเอ่ยต่อว่า "แต่การจะเตือนให้เจ้ากินอะไรดีดีก็ยังพอมีสิทธิ์อยู่" สายตาเขายกขึ้นมาจากท้องน้อยจั๋วซือหรานเลื่อนมาที่ดวงตานาง จ้องมองดวงตานาง เอ่ยต่อว่า "ถึงอย่างไรเมื่อครู่ก็เพิ่งช่วยเจ้ากลับมา ยิ่งไปกว่นั้นเรื่องถูกพลังศักดิ์สิท

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1269

    เขาไม่เพียงแต่ไม่ใช่สามีของนาง เขายังเป็นคู่หมั้นในนามของหญิงสาวคนอื่นอีกด้วยสีหน้าของเฟิงเหยียนแข็งทื่อไปแล้ว แต่ท้ายสุดก็ยังพูดอะไรไม่ออกเพราะในคำพูดจั๋วซือหราน ไม่มีส่วนที่ผิดเลยแม้แต่น้อยแม้จะบอกว่าเด็กคนนี้ ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเขาก็ตามแต่ครั้งก่อนหน้านั้น เป็นเพราะจั๋วซือหรานถูกวางแผนร้ายใส่ ถึงทำให้นางสับสนหลงใหลจนมีสัมพันธ์กับเขาถ้าจะบอกว่า เขาเอาเปรียบหญิงสาวไป ก็ไมไ่ด้พูดเกินเลยนักเอาเปรียบหญิงสาว จนทำนางตั้งท้อง ไม่เคยจะมารับผิดชอบอะไรตอนนี้กลับจะมาชี้มือชี้ไม้เรื่องของนางพอสรุปมาแบบนี้ มันก็ช่าง...แย่มากจริงๆเฟิงเหยียนเองก็รู้ว่าตนเองนั้นแย่มาก พูดอะไรออกมาไม่ได้ไปชั่วขณะปันอวิ๋นรู้สึกกระอักกระอ่วนแทนสหายเก่า เขากระแอมออกมาเบาๆ ทีหนึ่ง ไกล่เกลี่ยขึ้นว่า "เอาล่ะเอาล่ะ..."เขาเองก็ไม่รู้ว่าควรพูดอะไร ถึงอย่างไร ทั้งสองคนตอนนี้จะไม่ได้เป็นคู่รัก แต่ความสัมพันธ์แบบนี้...มันก็ดูคลุมเครือ กลืนไม่เข้าคายไม่ออกอยู่ นี่มันช่าง...ดังนั้นปันอวิ๋นเลยเปิดประเด็นขึ้น อึกอักในปากอยู่พักหนึ่ง กว่าจะพูดออกมาได้ "...พวกเจ้าหิวหรือยัง? ให้เหล่าจวนทำอะไรให้กินหน่อยดีไหม?"

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1268

    นางยืนเงียบๆ อยู่ตรงนั้น แหงนตาขึ้นมองพวกเขาสายตาของเฟิงเหยียนอึ้งไปเล็กน้อย เห็นนางยืนอยู่ในประตูด้วยสีหน้านิ่งขรึมเขารู้สึกลำคอแห้งผากอย่างประหลาด ความรู้สึกนั้น บางทีควรจะเรียกว่า...ตึงเครียดไหม?"เจ้า...ตื่นขึ้นมาตอนไหนน่ะ?" เฟิงเหยียนถามจั๋วซือหรานมองเขา "ไม่นานเท่าไร"เหมือจะมองออกถึงความกระอักกระอ่วนของเขา หรืออาจจะไม่สรุปคือ มุมปากจั๋วซือหรานยกขึ้นบางๆ พูดมาคำหนึ่ง "ท่านอ๋องน้อย ไม่เจอกันเสียนาน"นางทำแบบนี้โดยไม่เอ่ยถึงคำพูดก่อนหน้านั้นแม้แต่น้อยเฟิงเหยียนอ้าปากพะงาบ ต่อให้คิดจะพูดอะไร แต่ชั่วขณะหนึ่งก็เหมือนจะพูดออกมาไม่ได้จึงแค่ถามขึ้นอย่างเป็นห่วง "ดีขึ้นบ้างหรือยัง?"จั๋วซือหรานพยักหน้า "ดีขึ้นมากแล้ว"กระทั่งปันอวิ๋นก็ยังมองออกถึงเรื่องระหว่างพวกเขา ไม่รู้เพราะเจ้าสมองกลับนี่ไปแตะเนื้อต้องตัวทำอะไรนาง หรือเป็นเพราะคำพูดเมื่อครู่นางได้ยินคำพูดของเฟิงเหยียน...สรุปคือ ปันอวิ๋นมองพวกเขาทั้งสองคน แล้วก็รู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออกแทนพวกเขาทั้งสองคนปันอวิ๋นคิดๆ ดู ตอนที่ตนเองอยู่กับจั๋วซือหรานก็ยังไม่ได้กลืนไม่เข้าคายไม่ออกขนาดนี้รู้สึกร้อนใจแทนเจ้าบ้านี่จร

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1267

    เพราะเป็นเพื่อนสนิท ปันอวิ๋นจึงเข้าใจความหมายที่เขาคิดจะแสดงออกมาหรือก็คือ ปันอวิ๋นเดาได้นานแล้วบางทีตอนนั้นเพื่อจะให้จั๋วซือหรานหลีกเลี่ยงโชคชะตาเช่นนี้ ตนเองจึงเลือกที่จะลืมเลือนแต่สุดท้ายพอวกไปวนมา ก็กลับมาเดินอยู่บนเส้นทางเดิมเจ้าสิ่งที่เรียกว่าโชคชะตานี่ ลึกลับเอามากๆบางครั้งเหมือนจะมีเมตตา แต่บางครั้งก็เหมือนไม่เคยปราณีใครผู้ใด"แล้วเจ้าตอนนี้...คิดจะทำอย่างไร?" ปันอวิ๋นถามเขาจ้องเฟิงเหยียนตาไม่กระพริบเอาจริงๆ ปันอวิ๋นใช้มองจากมุมมองคนนอกอย่างมีเหตุมีผล ยังหวังว่าจั๋วซือหรานจะสามารถปล่อยวางได้แต่พอคิดถึงว่าถ้าหากจั๋วซือหรานปล่อยวางแล้วล่ะก็ ด้วยโชคชะตาภาชนะพลังศักดิ์สิทธิ์หงส์แดงของเฟิงเหยียน ผลสรุปสุดท้าย ก็คือตายก่อนวัยอันควรอยู่ดีและเพราะรู้เรื่องนี้ ดังนั้นปันอวิ๋นจึงหยุดไปครู่หนึ่ง เอ่ยเสริมมาคำนึง "ถังฉือเคยบอกข้าไว้ ในโถงวิญญาณอสูร พวกสัตว์เทพที่ถูกเก็บกลับมาเหล่านั้น..."ปันอวิ๋นขมวดคิ้ว คิดถึงคำพูดของถังฉือถังฉือมีบาปหนาจากการฆ่าฟันคนมากมาย กลายเป็นคนเย็นชาไร้หัวใจไปแล้ว ถ้าหากไม่เย็นชาไร้หัวใจ ป่านนี้คงเป็นบ้าไปแล้วดังนั้นตอนที่เขาพูดถึงเรื่องเห

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1266

    ปันอวิ๋นส่งให้เขาชามหนึ่ง ตนเองก็ด้วยทั้งสองคนไม่พูดพล่ามทำเพลง กระดกรวดเดียวจนหมดราวกับว่า สุราที่มาช้าไปหลายปีนี้ ในที่สุดก็ได้ดื่มเสียทีราวกับว่าภาพเด็กน้อยที่แอบขโมยสุราพวกนั้นมาดื่ม ซ้อนทับเข้ามากับพวกเขาในเวลานี้"ช่วงนี้เจ้า ไม่ได้ติดต่อกับพวกเขาเลยหรือ?"หลังจากร่ำสุราลงท้องไปสองชาม จิตใจก็เหมือนจะผ่อนคลายลงมาไม่น้อย ปันอวิ๋นถามขึ้นอย่างสบายๆ เป็นกันเองเฟิงเหยียนฟังออก ว่าเขาถามถึงเหล่าพี่น้องพวกนั้นเขาตอบอืมไปคำหนึ่ง "ไม่ได้ติดต่อกันเลย""เช่นนั้นก็คงไม่รู้สถานการณ์ของพวกเขาเลยสินะ" ปันอวิ๋นเอ่ยขึ้นเฟิงเหยียนไม่ยอมรับหรือปฏิเสธกับสิ่งนี้ ถือว่ายอมรับไปกลายๆปันอวิ๋นยิ้มๆ เหมือนจะเย้ยหยันตนเอง "แต่ก็ไม่โทษพวกเขาที่ไม่ติดต่อเจ้า ด้วยสถานการณ์ของพวกเขาตอนนี้ ก็ไม่มีหน้ามาติดต่อเจ้าจริงๆ นั่นล่ะ"ได้ยินคำนี้ของปันอวิ๋น เฟิงเหยียนก็ไม่พูดอะไรอีกปันอวิ๋นเอ่ยต่อว่า "ซงซีตอนนี้ทุกวันเหมือนขลุกอยู่แต่ในห้องหลอมสกัด หลอมสกัดอยู่ทุกวันไม่ได้พักเลย"เฟิงเหยียนพอได้ยินคำนี้ คิ้วก็ขมวดขึ้นบางๆ"เยี่ยนเหวย...ก็สูบเลือดออกมาทุกวัน อยู่แบบไม่เหมือนผู้เหมือนคน ผู้อาวุโสหวงจ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1265

    บางทีคงเป็นเพราะการคุยแบบเปิดอกก่อนหน้านี้ ทำให้ระยะทางขอเพื่อนสนิทสองคนที่เคยห่างไปตามกาลเวลา ย่อหดลงไปไม่น้อยเลยกระมังดังนั้นพอได้ยินปันอวิ๋นบอกว่าไม่ต้องขอบคุณ เฟิงเหยียนจึงเหลือบมองเขา น้ำเสียงเปลี่ยนไป "ก็ได้ เช่นนั้นก็ไม่ขอบคุณแล้วกัน"เฟิงเหยียนสั่งขึ้นมา "ไป ไปเอาสุรามาให้ข้าหน่อย"แม้จะพูดเช่นนี้ แต่ในเสียงกลับไม่ได้ออกคำสั่งอะไร ฟังแล้วเหมือนการใช้งานระหว่างเพื่อนกันมากกว่าปันอวิ๋นชะงักไปเล้กน้อย เพราะตอนพวกเขายังเด็ก ก็เคยใช้งานกันและกันแบบนี้ไป ไปเอาสุรามาหน่อยได้ งั้นเจ้าก็เอาปลาไปย่างซะข้าเห็นว่าเจ้าหน้าตาเหมือนปลาถ้าเจ้ายังพูดอีกรอบ จะโดนข้ากดจนจมถังสุราตายไปเลยเพราะคำพูดนี้ของเฟิงเหยียน ทั้งสองคนก็เหมือนกลับไปสมัยยังเด็กในชั่วพริบตาปันอวิ๋นยกมุมปากขึ้นบางๆ ลุกขึ้นไปให้คนรับใช้ส่งสุราเข้ามาคือสุราห้าพิษที่เขาจะหมักอยู่ทุกปี และใช้แมลงพิษมาหลอมจริงๆ แต่ตัวสุรากลับไม่มีพิษใดๆ กระทั่งยังหอมอบอวลเข้มข้นเป็นพิเศษ เป็นสุราที่หาได้ยากยิ่งและเป็นความลับที่ไม่เผยแพร่สู่ภายนอกของหุบเขาหมื่นพิษ ปกติมีแค่เจ้าหุบเขาที่รู้แต่ปันอวิ๋น หลังจากออกสำนักมา ก็ไม่ได้ด

無料で面白い小説を探して読んでみましょう
GoodNovel アプリで人気小説に無料で!お好きな本をダウンロードして、いつでもどこでも読みましょう!
アプリで無料で本を読む
コードをスキャンしてアプリで読む
DMCA.com Protection Status