งูเพลิงเงินยังคงอ้าปาก กัดไปบนมือของจั๋วซือหราน แต่กลับกัดไม่เข้าซางถิงเพิ่งจะสังเกตเห็น ว่าบนผิวมือจั๋วซือหราน มีสิ่งของสีหยกบางอย่างที่ไม่รุ้จักเพิ่มขึ้นมาชั้นหนึ่งแต่ความคมของเขี้ยวงูเพลิงเงินนี้เหมือนจะกัดไม่เข้างูเพลิงเงินเองก็เหมือนจะคิดไม่ถึงว่าจะมีเรื่องแบบนี้ มันพ่นเพลิงเงินออกมาทันที!แต่ของที่ราวกับเป็นปรอทนั่น พออยู่บนแขนของจั๋วซือหรานซางถิงรู้สึกเหมือนใจจะดีดออกมาอีกครั้ง ภาพนี้มันตื่นเต้นเกินไปแล้วแต่ว่า ไม่มีอะไรเลยสถานการณ์อย่างแขนจะถูกเผาจนเห็นกระดูกอะไรนั่น ไม่มีเลย เพลิงเงินนั่นค้างอยู่บนแขนของนาง แต่กลับไม่สร้างบาดแผลอะไรเลยจั๋วซือหรานกางฝ่ามือออก กอบเพลิงเงินนั่นไว้ในมือคนของโถงตัดหัวตระกูลซางล้วนตกตะลึงกระทั่งสีหน้าของซางเชวี่ยก็ยังเปลี่ยนไปแล้ว "ปะ เป็นไปได้อย่างไร...?"อันที่จริงหลังจากที่จั๋วซือหรานก็สังเกตได้ว่างูตัวนี้แม้เพลิงเงินที่พ่นออกมาจะชื่อว่าเพลิงเงิน แต่อันที่จริงมันไม่ใช่เปลวไฟ แต่เเป็นพิษที่มีฤทธิ์กัดกร่อนของมันแล้วจั๋วซือหรานก็รู้สึกว่าพลังคุกคามนี้ไม่หนักหนาอะไรนัก หัตถ์เสวียนอวี้ของนางตอนที่เผชิญหน้ากับการแผดเผาของดวงใจแห่ง
ซางถิงมองหลายกระบวนท่าในปางมือของซางเชวี่ยออกสาเหตุที่เขามองออก ก็เพราะในกระบวนท่าบางส่วนในปางมือของซางเชวี่ย มันดูคล้ายกับกระบวนท่าปางมือในวิชา 'วิญญาณเลือดอสูร' ของเขานั่นเองจั๋วซือหรานสังเกตเห็นความเคร่งขรึมในสายตาซางถิงแล้วถามขึ้นว่า "มีอะไรหรือ?""กังวล นางจะเอาจริงแล้ว" เสียงของซางถิงกดต่ำ เอียงหน้าเล็กน้อย บอกกับจั๋วซือหรานที่อยู่ข้างๆ มาคำหนึ่งแล้วเขาก็ผูกถุงเก็บสัตว์ที่เอวไว้แน่น เอ่ยเสียงต่ำกับจั๋วซือหรานว่า "อีกเดี๋ยวถ้าสถานการณ์ไม่ปกติเจ้าก็หนีไปก่อนเลยนะ""อะไรนะ?" จั๋วซือหรานรู้สึกแปลกประหลาดนิดหน่อยซางถิงพยักหน้าช้าๆ สายตากลับไม่วางจากตัวซางเชวี่ย เอ่ยเสียงต่ำพูดกับจั๋วซือหรานว่า "ข้าจะขวางนางไว้เอง เจ้าหนีไปก่อน"จั๋วซือหรานเลิกคิ้วเล็กน้อย ไม่พูดอะไรซางถิงพูดต่อ "ข้ามองออกว่าบนเวทีเจ้าอ่อนข้อให้ข้า ดังนั้นตอนนี้ถือว่าข้าคืนให้เจ้าแล้วกัน เจ้าหนีไปก่อนก็พอ วิชาที่นางกำลังจะใช้ น่าจะตำมือพอควร""วิชาอะไร?" จั๋วซือหรานถามขึ้น"วิชาพวกยกระดับเลือดอสูร แต่แตกต่างกับเปิดช่องพลังทั่วไป สิ่งนี้เนื่องจากสูบเอาพลังและความสามารถจากบนตัวสัตว์ที่ควบคุมตรงๆ ดังนั้นภ
"เจ้ามองข้าแบบนี้ทำไมกัน!" ซางเชวี่ยเหมือนจะรับไม่ได้กับสีหน้านิ่งๆ ของจั๋วซือหรานซะแล้ว จึงลงมือทันที คิดจะรีบฉีกทึงสีหน้านิ่งบนหน้าของจั๋วซือหรานทิ้ง นางอยากจะเห็นหญิงสาวคนนี้อ้อนวอน! อยากเห็นหญิงสาวคนนี้กรีดร้องทรมาน!"ข้าจะควักลูกตาเจ้าออกมาเสีย!" เสียงของซางเชวี่ยยังไม่ทันขาด ร่างก็พุ่งไปอยู่ข้างตัวจั๋วซือหรานแล้วเพราะความเร็วมหาศาล กระพือลมเย็นเยียบขึ้นมาซางถิงเอ่ยเตือนเสียงต่ำ "ระวัง!"เขาคิดไม่ถึง! ว่าซางถิงนี่จะ...ซางถิงเอ่ยขึ้นอย่างร้อนรน "นางสูดรับความสามารถกับพลังของสัตว์ที่ควบคุมสองชนิดได้พร้อมกัน!"แสงเงินบนผิวหนัง เป็นพลังป้องกันจากเกล็ดสีเงินของงูเพลิงเงินตัวนั้นอย่างไม่ต้องสงสัยแต่ความเร็วนี้ และยังมีการโจมตีกรงเล็บที่ส่งเสียงเคร้งคร้างตอนที่โจมตีใส่จั๋วซือหรานด้วย...ไม่ต้องสงสัยว่าเป็นสัตว์ที่ควบคุมประเภทนกที่รวดเร็วแน่นอนบางทีอาจจะเป็นสัตว์ที่ควบคุมประเภทนกเหยี่ยว!แต่ซางเชวี่ยแม้จะฉากเข้ามาข้างตัวจั๋วซือหราน แต่การโจมตีก็ไม่ได้โจมตีโดนจั๋วซือหรานอย่างราบรื่นเสียงชิ้ง!ดังขึ้น ถูกจั๋วซือหรานกันออกไปแล้ว"เจ้าอาจจะยังเข้าใจข้าไม่พอ" เสียงของจั๋วซือหราน
“เสียวจิ่ว ผู้นี้คือจวงเหยาเหยา นางมีเลือดเนื้อเชื้อไขของข้าอยู่ในท้องของนางแล้ว ในเมื่อวันนี้เป็นพิธีงานแต่งระหว่างข้าและเจ้า ข้าไม่อยากปิดบังอะไรเจ้า ข้าได้วางแผนที่จะให้นางมาเป็นนางสนม และข้าจะแต่งเจ้ากับนางเข้าเรือนในวันนี้"ฉินรุ่ยหยางไม่รู้สึกไร้ยางอายแม้แต่นิดเดียว“เจ้า...เมื่อครู่นี้เจ้าพูดอะไรนะ เจ้าพูดอีกครั้งสิ…”สีหน้าของจั๋วซือหรานดูซีดขาวมากยิ่งขึ้นเมื่อเทียบกับชุดแต่งงานสีแดงสดและมงกุฎหงส์นางจ้องเขม็งไปยังชายและหญิงที่อยู่ตรงหน้านางฉินรุ่ยหยาง"เสียวจิ่ว เจ้าไม่ต้องเป็นกังวลไป เจ้าจะเป็นภรรยาหลวงที่มีเกียรติเสมอ ไม่มีใครมีอำนาจเหนือเจ้าได้ ในภายภาคหน้า เหยาเหยาจะเคารพเจ้าอันเป็นแท้ และลูกของนางก็จะเรียกเจ้าว่า แม่ใหญ่"จั๋วซือหรานยิ้มเยาะ "ข้าเกลียดคำเรียกนี้เสียจริง เด็กเหี้ยอะไรกันกล้ามาเรียกข้าเป็นแม่"ใบหน้าของฉินรุ่ยหยางนิ่งขรึมจวงเหยาเหยาน้ำตาเอ่อคลอ " พี่จั๋วเจ้าคะ หนูรู้ดีว่าตนเองมีฐานะต่ำต้อย แต่เด็กที่อยู่ในท้องของข้านั้น เด็กไม่ได้ทำอะไรผิดด้วย โปรดเห็นแก่เด็กคนนี้ที่เป็นสายเลือดของพี่ฉินด้วยนะ... "จั๋วซือหรานไม่มองนาง สายตาจ้องไปยังฉินรุ่ยหยางอย่
ฉินตวนหยางงและจวงเหยาเหยาถูกมัดอย่างแน่นจั๋วซือหรานก้าวขาเดินออกจากห้องด้วยความมั่นใจนางสวมชุดแต่งงานสีแดงอันสดใสและงดงาม เสมือนนางกำลังสวมชุดสู้รบ นางดูทรงมีพลังและองอาจหลังจากที่คุณหนูและคนใช้ทั้งสามเดินออกจากห้องไป บนหลังคามีเสียงหัวเราะดังขึ้นแผ่นกระเบื้องที่มุมหลังคาที่มิอาจได้รู้ว่า ถูกเปิดออกมาเมื่อใดเวลานี้กำลังถูกค่อย ๆ เคลื่อนกลับไปอยู่ที่เดิมร่างของสองคนค่อย ๆ ปรากฏขึ้นบนหลังคาชายหนุ่มทางด้านซ้ายแต่งกายด้วยชุดสีดำ เขามีใบหน้าเรียวงามส่วนชายหนุ่มทางด้านขวา เขายิ้มและมองเฟิงเหยียนที่อันหล่อเหลา บัดนี้เฟิงเหยียนกำลังเมินเฉยชายหนุ่มทางด้านขวาหัวเราะและพูด"เดิมทีข้าแค่อยากรู้ว่าจั๋วซือหรานที่ถอนหมั้นกับเจ้าจะงามเช่นใด ไม่คิดเลยว่า ภรรยาในอนาคตของเจ้าจะน่าสนใจขเช่นนี้หรอกนะ"ใบหน้าของเฟิงเหยียนนิ่งเฉย “เหยียนฉี เจ้าลากข้ามาที่นี่เพื่อปีนหลังคาของบ้านคนอื่นหรือ”แววตาของเฟิงเหยียนเย็นชา บุคคลิกของเขาประกายอารมณ์ที่ปฏิเสธผู้อื่นเข้าใกล้ชิดอย่างหนักแน่น "อีกอย่าง นางไม่ใช่คู่หมั้นของข้า"“เชอะ อย่าเย็นชาขนาดนี้สิ” ดวงตากลมโตของเหยียนฉีหรี่ลง “จั๋วจิ่วเพิ่งพูดไปเมื่
แววตาของจั๋วซือหรานเต็มไปด้วยความสับสน มีพลังที่มองไม่เห็นกำลังล่อลวงหัวใจของนาง เพื่อให้นางทำตามคำพูดของฉินตวนหยางนางพยายามทรงตัวไว้และอดความเจ็บปวดไว้ไม่แปลกเลย ชะตากรรมอันเดิมของเจ้าของร่างคนนี้ราวกับคนตาบอด นางรักคนไร้ความสามารถอย่างฉินตวนหยางขนาดนี้ แท้จริงแล้ว นางถูกอาคมหนอนพิษกู่ควบคุมสติไว้พิษแปลก ๆ ดังกล่าวแปลกอย่างมากจนทำให้เจ้าของร่างเดิมโดนอาคมหนอนพิษกู่โดยไม่รู้ตัว แม้ตายไปก็ไม่ทราบว่าตัวเองโดนหนอนพิษกู่ หากจั๋วซือหรานไม่ได้เดินทางข้ามเวลามา ร่างเดิมคงใช้ชีวิตอันน่าสงเวชอย่างชะตากรรมอันเดิมที่กำหนดไว้แต่ในเมื่อจั๋วซือหรานมาแล้ว นางจะไม่มีวันฉินตวนหยางสมหวังฉินตวนหยางเห็นนางไม่ตอบ จึงเสกเป่าอีกที "เสี่ยวจิ่ว เจ้าเชื่อข้าไหมขอรับ"จั๋วซือหรานมองไปที่ฉินตวนหยาง นางค่อย ๆ อ้าริมฝีปากอันสีแดงให้กว้างขึ้น“เจ้าฝันไปเสียเถิด”เสียง 'คลิก'ดังขึ้น“อา”ขาของฉินตวนหยางถูกคนหัก และเขากรีดร้องด้วยความเจ็บปวดเขาตกใจด้วยความเจ็บปวดทรมาน ผู้นั้นได้กล่าวไว้อย่างชัดเจนว่า ตราบใดเสน่ห์หนอนพิษกู่นี้ยังคงอยู่ จั๋วซือหรานก็สามารถเชื่อฟังเขาไปตลอดชีวิต ทำไมหนอนพิษกู่จึงใช้งานไม่ไ
น้ำเสียงทุ้มต่ำของเฟิงเหยียนเต็มไปด้วยความเย็นชาและเสน่ห์"น่าอับอายเสียจริง เรื่องไร้สาระสิ้นดี"จั๋วซือหรานเงยหน้ามองชายผู้นี้ด้วยความเจ็บปวดอย่างมากใต้หล้ามีคนหน้าตาดีตั้งมากมายเฟิงเหยีนกลับมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่เหมือนใคร ความหล่อเหลาของเขาผสมด้วยความกล้าหาญที่ฮึกเหิมทันทีที่จั๋วซือหรานเห็นใบหน้านี้ นางหายความเจ็บปวดทันทีแต่จั๋วซือหรานหายเจ็บปวด ไม่ใช่เป็นเพราะนางเห็นหน้าตาอันหล่อเหลาแต่เป็นเพราะวินาทีที่ชายผู้นี้ปรากฏตัวอย่างรวดเร็ว เขาวางมือบนไหล่ฉินตวนหยาง"อ๊าก ๆ——!“ฉินตวนหยางกรีดร้องออกมาอย่างบ้าคลั่ง เสียงร้องนั้นดังเป็นสิบ ๆ เท่าเมื่อเทียบกับตอนที่เขาถูกหักขาในก่อนหน้านี้ และบัดนี้เขากำลังล้มบนพื้นและกระตุกไปทั้งตัวสายเลือดของตระกูลเฟิงเป็นเช่นนี้ สายเลือดนี้เป็นธาตุไฟที่รุนแรงที่สุด ยิ่งเป็นผู้ที่มีพรสวรรค์อันยอดเยี่ยม พลังทางจิตวิญญาณก็ยิ่งเผด็จการมาขึ้นเท่านั้นหากถูกพลังทางจิตวิญญาณนั้นรุกราน จะมีความรู้สึกอย่างร่างกายกำลังถูกไฟเผา ซึ่งความเจ็บปวดนั้นพอ ๆ กันกับความเจ็บปวดที่เสน่ห์หนอนพิษกู่นำมาในขณะเดียวกัน ฉินตวนหยางหลั่งน้ำอย่างหนัก เขาดูน่าเกลียดอย่า
ทันทีที่เฟิงเหยียนเดินออกจากจวนของจั๋วซือหราน หลังจากนั้นไม่นาน ข้างเฟิงเหยียนมีร่างสีดำสองร่างปรากฏตัวอย่างเงียบ ๆ“ท่านอ๋องขอรับ” ชายที่สวมชุดดำทั้งสองแสดงความเคารพเฟิงเหยียนมีสีหน้าอย่างไม่มีอารมณ์ "ไปสืบมา ข้าต้องการรู้เสน่ห์หนอนพิษกู่ที่จั๋วจิ่วถูกวาง ใครเป็นคนสั่งการเบื้อหลัง"ไม่มีใครเชื่อหรอกว่าบัณฑิตที่ไร้ประโยชน์ผู้นั้นจะเป็นผู้กระทำความผิดนี้*จั๋วซือหรานกำลังนั่งอยู่ในห้อง ฝูซางกังวลอย่างมาก และรีบเช็ดเลือดที่ริมฝีปากของคุณหนูของนาง "คุณหนูเจ้าคะ คุณหนูจะปล่อยเป็นเช่นนี้อีกต่อไปมิได้หรอกนะ ข้าน้อยว่า เราควรรีบไปตามคุณหมอมาตรวจเถิดนะ"“ข้าแค่อาเจียนออกมาเป็นเลือดเพียงเท่านั้น กังวลอะไรล่ะ” จั๋วซือหรานดึงเข็มเงินที่นางสอดไว้ก่อนหน้านี้ออกมาอย่างใจเย็น “หากไม่บีบเลือดที่ติดพิษกู่ออกไป อาการบาดเจ็บภายในจะไม่มีทางหายหรอก”ฝูซาง: “ว่าแต่คุณหนูไปเรียนทักษะการรักษามาโรคตั้งแต่เมื่อไรกัน"จั๋วซือหรานยิ้มเบา ๆ และไม่ตอบ ”ยิ่งไปกว่านี้ ข้าอยากรู้ว่าใครกันแน่ที่เกลียดข้ามากจนใช้เสน่ห์หนอนพิษกู่ มิฉะนั้น ต่อให้ฉินตวนหยางมีความกล้าหาญมากเท่าไร เขาก็ไม่กล้าำเช่นนี้กับข้าหรอก แม้
"เจ้ามองข้าแบบนี้ทำไมกัน!" ซางเชวี่ยเหมือนจะรับไม่ได้กับสีหน้านิ่งๆ ของจั๋วซือหรานซะแล้ว จึงลงมือทันที คิดจะรีบฉีกทึงสีหน้านิ่งบนหน้าของจั๋วซือหรานทิ้ง นางอยากจะเห็นหญิงสาวคนนี้อ้อนวอน! อยากเห็นหญิงสาวคนนี้กรีดร้องทรมาน!"ข้าจะควักลูกตาเจ้าออกมาเสีย!" เสียงของซางเชวี่ยยังไม่ทันขาด ร่างก็พุ่งไปอยู่ข้างตัวจั๋วซือหรานแล้วเพราะความเร็วมหาศาล กระพือลมเย็นเยียบขึ้นมาซางถิงเอ่ยเตือนเสียงต่ำ "ระวัง!"เขาคิดไม่ถึง! ว่าซางถิงนี่จะ...ซางถิงเอ่ยขึ้นอย่างร้อนรน "นางสูดรับความสามารถกับพลังของสัตว์ที่ควบคุมสองชนิดได้พร้อมกัน!"แสงเงินบนผิวหนัง เป็นพลังป้องกันจากเกล็ดสีเงินของงูเพลิงเงินตัวนั้นอย่างไม่ต้องสงสัยแต่ความเร็วนี้ และยังมีการโจมตีกรงเล็บที่ส่งเสียงเคร้งคร้างตอนที่โจมตีใส่จั๋วซือหรานด้วย...ไม่ต้องสงสัยว่าเป็นสัตว์ที่ควบคุมประเภทนกที่รวดเร็วแน่นอนบางทีอาจจะเป็นสัตว์ที่ควบคุมประเภทนกเหยี่ยว!แต่ซางเชวี่ยแม้จะฉากเข้ามาข้างตัวจั๋วซือหราน แต่การโจมตีก็ไม่ได้โจมตีโดนจั๋วซือหรานอย่างราบรื่นเสียงชิ้ง!ดังขึ้น ถูกจั๋วซือหรานกันออกไปแล้ว"เจ้าอาจจะยังเข้าใจข้าไม่พอ" เสียงของจั๋วซือหราน
ซางถิงมองหลายกระบวนท่าในปางมือของซางเชวี่ยออกสาเหตุที่เขามองออก ก็เพราะในกระบวนท่าบางส่วนในปางมือของซางเชวี่ย มันดูคล้ายกับกระบวนท่าปางมือในวิชา 'วิญญาณเลือดอสูร' ของเขานั่นเองจั๋วซือหรานสังเกตเห็นความเคร่งขรึมในสายตาซางถิงแล้วถามขึ้นว่า "มีอะไรหรือ?""กังวล นางจะเอาจริงแล้ว" เสียงของซางถิงกดต่ำ เอียงหน้าเล็กน้อย บอกกับจั๋วซือหรานที่อยู่ข้างๆ มาคำหนึ่งแล้วเขาก็ผูกถุงเก็บสัตว์ที่เอวไว้แน่น เอ่ยเสียงต่ำกับจั๋วซือหรานว่า "อีกเดี๋ยวถ้าสถานการณ์ไม่ปกติเจ้าก็หนีไปก่อนเลยนะ""อะไรนะ?" จั๋วซือหรานรู้สึกแปลกประหลาดนิดหน่อยซางถิงพยักหน้าช้าๆ สายตากลับไม่วางจากตัวซางเชวี่ย เอ่ยเสียงต่ำพูดกับจั๋วซือหรานว่า "ข้าจะขวางนางไว้เอง เจ้าหนีไปก่อน"จั๋วซือหรานเลิกคิ้วเล็กน้อย ไม่พูดอะไรซางถิงพูดต่อ "ข้ามองออกว่าบนเวทีเจ้าอ่อนข้อให้ข้า ดังนั้นตอนนี้ถือว่าข้าคืนให้เจ้าแล้วกัน เจ้าหนีไปก่อนก็พอ วิชาที่นางกำลังจะใช้ น่าจะตำมือพอควร""วิชาอะไร?" จั๋วซือหรานถามขึ้น"วิชาพวกยกระดับเลือดอสูร แต่แตกต่างกับเปิดช่องพลังทั่วไป สิ่งนี้เนื่องจากสูบเอาพลังและความสามารถจากบนตัวสัตว์ที่ควบคุมตรงๆ ดังนั้นภ
งูเพลิงเงินยังคงอ้าปาก กัดไปบนมือของจั๋วซือหราน แต่กลับกัดไม่เข้าซางถิงเพิ่งจะสังเกตเห็น ว่าบนผิวมือจั๋วซือหราน มีสิ่งของสีหยกบางอย่างที่ไม่รุ้จักเพิ่มขึ้นมาชั้นหนึ่งแต่ความคมของเขี้ยวงูเพลิงเงินนี้เหมือนจะกัดไม่เข้างูเพลิงเงินเองก็เหมือนจะคิดไม่ถึงว่าจะมีเรื่องแบบนี้ มันพ่นเพลิงเงินออกมาทันที!แต่ของที่ราวกับเป็นปรอทนั่น พออยู่บนแขนของจั๋วซือหรานซางถิงรู้สึกเหมือนใจจะดีดออกมาอีกครั้ง ภาพนี้มันตื่นเต้นเกินไปแล้วแต่ว่า ไม่มีอะไรเลยสถานการณ์อย่างแขนจะถูกเผาจนเห็นกระดูกอะไรนั่น ไม่มีเลย เพลิงเงินนั่นค้างอยู่บนแขนของนาง แต่กลับไม่สร้างบาดแผลอะไรเลยจั๋วซือหรานกางฝ่ามือออก กอบเพลิงเงินนั่นไว้ในมือคนของโถงตัดหัวตระกูลซางล้วนตกตะลึงกระทั่งสีหน้าของซางเชวี่ยก็ยังเปลี่ยนไปแล้ว "ปะ เป็นไปได้อย่างไร...?"อันที่จริงหลังจากที่จั๋วซือหรานก็สังเกตได้ว่างูตัวนี้แม้เพลิงเงินที่พ่นออกมาจะชื่อว่าเพลิงเงิน แต่อันที่จริงมันไม่ใช่เปลวไฟ แต่เเป็นพิษที่มีฤทธิ์กัดกร่อนของมันแล้วจั๋วซือหรานก็รู้สึกว่าพลังคุกคามนี้ไม่หนักหนาอะไรนัก หัตถ์เสวียนอวี้ของนางตอนที่เผชิญหน้ากับการแผดเผาของดวงใจแห่ง
ซางถิงสังเกตเห็นถึงสายตาของจั๋วซือหราน เขาไม่รู้เพราะอะไร ตนเองเหมือนจะเข้าใจความหมายบางส่วนในสายตาของจั๋วซือหรานขึ้นมาดวงตาซางถิงเบิกโพลงขึ้นมา ม่านตาหดลง จ้องมองจั๋วซือหราน "เจ้าคิดจะทำอะไร?"เขารู้สึกว่า จั๋วซือหรานกำลังคิดเรื่องที่แปลกใหม่เอามากๆคนปกติไม่มีทางมีความคิดเช่นนี้ แต่นางกลับกำลังคิดอยู่จริงๆ!จั๋วซือหรานเอียงตาเหลือบมองซางถิงผาดหนึ่ง คนผู้นี้ฉลาดจริงๆ มองออกแล้วว่านางคิดจะทำอะไรซางถิงกดเสียงต่ำพูดกับนาง "การโจมตีของงูเพลิงเงินนั้นอหังการมาก การป้องกันเองก็ยอดเยี่ยม เกล็ดหนังสีเงินทั้งตัวก็เหมือนเหล็กที่ไม่มีวันขาด ยิ่งไปกว่นั้นเพลิงเงินของมันก็ร้ายกาจ จะเผาไหม้สิ่งที่สัมผัสโดนมันจนไหม้เป็นจุณ!"จั๋วซือหรานเลิกคิ้ว ตอนนี้เอง งูสีเงินตัวนั้น ก็ถูกแส้ของซางถิงกับไหมกู่ของนางพันเอาไว้แน่นและเป็นอย่างที่ซางถิงพูดเอาไว้เลย เกล็ดหนังของมันพลังป้องกันโดดเด่นมาก ไหมกู่ของนางแทงหนังเกล็ดของมันไม่เข้าเลย ทำอันตรายกับมันไม่ได้และมันก็เหมือนจะโกรธที่ถูกแส้กับไหมกู่พันเอาไว้ด้วย จึงอ้าปาก แล้วพ่นเพลิงเงินลูกหนึ่งออกมาเพลิงเงินลูกหนึ่ง ดูแล้วราวกับเป็นปรอทอย่างไรอย่างนั
"เดิมทีข้าแค่คิดจะจับเจ้าเป็นๆ พากลับไปสอบสวนเสียหน่อย ว่าเจ้าไปรเียนรู้ทักษะภาษาสัตว์ที่แทบจะสาปสูญไปแล้วของตระกูลซางมาได้อย่างไร" ซางเชวี่ยน้ำเสียงเย็นชาลงไปอีกจั๋วซือหรานมองนาง มุมปากยกขึ้นจนเป็นร้อยยิ้มจางๆ ไม่มีความอบอุ่นใดๆ กระทั่งไม่มีอารมณ์ใดอีกด้วยราวกับไม่ว่าซางเชวี่ยกับคนตระกูลซางพวกนี้จะพูดอะไรหรือทำอะไร ก็ไม่อาจส่งผลอะไรกับใจนางได้เลยจั๋วซือหรานเอ่ยขึ้น "คนที่บีบเค้นถามข้า บอกว่าข้าแอบเรียนวิชาแพทย์ของตระกูลพวกเขา ตอนนี้ยังนอนอยู่ในบ้าน บางครั้งก็อั้นฉี่ไม่ไหวอยู่เลย "จั๋วซือหรานมองดวงตาซางเชวี่ย "เจ้าอยากจะลองไหม?"ซางเชวี่ยหัวเราะเย็นชา "ข้ายังพูดไม่จบเลยนะ ข้าเดิมทีคิดจะจับเจ้าเป็นๆ แต่ตอนนี้ ข้าเปลี่ยนความคิดแล้ว คนอย่างเจ้า เป็นตัวแปรที่ไม่สามารถควบคุมได้ ไม่รู้ว่าจะเอาความยุ่งยากหรือการเปลี่ยนแปลงมามากแค่ไหน ตายๆ ไปเสียดีกว่า คนตายไปคือปลอดภัยที่สุด ไม่ว่าสำหรับใครก็เป็นเช่นนี้"เสียงเพิ่งหยุดลง ข้อมือของซางเชวี่ยก็สั่นไหวอย่างรุนแรงแสงเงินสายหนึ่ง รวดเร็วมาก! แล่นตรงเข้ามาทางจั๋วซือหรานจั๋วซือหรานหรี่ตาลงเล็กน้อย ยื่นมือออกทันทีแต่นางยังไม่ทันยื่นมือ
"นี่มัน...ไหมกู่?" ซางถิงอยู่ใกล้ๆ จั๋วซือหราน ดังนั้นจึงเห็นเส้นใยเหล่านี้ยิงออกมาจากมือนางและเพราะสามารถมองเห็นได้ชัด ดังนั้นซางถิงจึงมองออกรางๆ ว่าเส้นใยแต่ละเส้นเหล่านี้ กลับไม่เหมือนตาข่ายใยแมงมุมอะไรแต่คล้ายกับ...ไหมกู่ไหมกู่ที่แมลงกู่พ่นออกมาหญิงสาวคนนี้...ใช้วิชากู่ได้ด้วย!ซางถิงก่อนหน้านี้รู้สึกแค่ว่า จั๋วซือหรานถึงแม้จะเก่งกาจ แต่ว่าตนเองก็ออมมือไปบนเวทีด้วยไม่ได้ใช้วิญญาณเลือดอสูรออกมาด้วยซ้ำแต่ตอนนี้ดูแล้ว จั๋วซือหรานที่อยู่บนเวทีเองก็เหมือนจะออมมืออยู่ไม่น้อยเลย ทั้งสองฝ่ายต่างออมมือจนสู้ออกมาเป็นแบบนั้นคนของโถงตัดหัวตระกูลซาง เห็นได้ชัดว่าคิดไม่ถึงเหมือนกัน ว่าจั๋วซือหรานจะใช้วิชากู่ได้ด้วย!หญิงสาวคนนี้! คิด! จะทำอะไรกันแน่!วิชาแพทย์ วิชาสกัดยา วิชายุทธ์ ตอนนี้วิชาควบคุมสัตว์กับวิชากู่ก็ยัง...!คนของโถงตัดหัวล้วนมองนางอย่างระแวดระวัง หลังจากกันไหมกู่ของนางออกไปแล้ว ก็ยังไม่กล้าทำอะไรบุ่มบ่ามแต่ก็มีอยู่สองสามคนที่ไม่ระวังถูกไหมกู่ของนางเปื้อนเข้าไป ล้วนล้มลงพื้นครวญครางเจ็บปวดขึ้นมาสายตาซางเชวี่ยก็จับจ้องที่จั๋วซือหรานเช่นกัน "วิชากู่เจ้าก็เป็นด้วย
"แต่จากที่ข้ารู้ แมลงพิษที่ใช้เป็นกู่มาหลอมได้...แมงมุมเองก็ถือเป็นหนึ่งในนั้น" จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้นพอจั๋วซือหรานพูดคำนี้ คนของโถงตัดหัว สีหน้าก็เปลี่ยนไปทันทีจั๋วซือหรานยิ้มๆ "เล่นกู่หรือ? ช่วงนี้ข้าก็สนใจกับการเล่นกู่เหมือนกัน ดังนั้น ตาข่ายของพวกเจ้า ฉันเลยทดสอบไปแล้ว ตอนนี้ตาข้าแล้วกระมัง?"ตอนที่จั๋วซือหรานพูดคำนี้ ซางถิงก็ตกตะลึงไปเขารู้สึกว่าคำพูดนี้ดูคุ้นหู ตอนอยู่บนเวที จั๋วซือหรานก็พูดแบบนี้กับเขาเหมือนกันและหลังจากที่นางพูดคำนี้ ก็โต้กลับอย่างรุนแรงใส่เขาทันทีตอนนี้ นางพูดแบบนี้ออกมาอีกครั้งไม่รู้เพราะอะไร ซางถิงรู้สึกว่า น่าจะเป็นความรู้สึกคล้ายๆ กับก่อนหน้านี้กระมังคนอย่างจั๋วซือหราน ตอนที่เป็นคู่ต่อสู้ของนาง คงรู้สึกตำมือเป็นอย่างมาก มาเจอคนแบบนี้ เหมือนเจอกับเข็มแหลมรอบด้านจริงๆไม่ว่าจะสัมผัสจากมุมไหน ก็ล้วนทิ่มแทงมือทั้งสิ้น!แต่ตอนที่ไม่ได้เป็นคู่ต่อสู้กับนาง แล้วมาเป็นสหายร่วมรบที่มีเป้าหมายเดียวกันก็เหมือนจะรู้สึกว่าวางใจได้อย่างประหลาดเลยทีเดียวตอนที่ได้ยินนางพูดเช่นนี้ ก็เหมือนจะไม่มีอะไรให้สับสนแล้วซางเชวี่ยหัวเราะเย็นชาขึ้นมาในกลุ่มโถงตัดหั
"มันต้องไม่ปกติอยู่แล้ว! นั่นมันวิชาลับสืบทอดของโถงตัดหัว" ซางถิงเอ่ยขึ้น "ตาข่ายแมงมุมของพวกเขาล้วนหลอมขึ้นมา ก็เพราะเอาไว้ควบคุมฝ่ายตรงข้าม""ในเมื่อควบคุมจั๋วซือหรานได้แล้ว" ผู้หญิงเสียงเย็นชานั่นเอ่ยขึ้นมา "ก็เก็บซางถิงเสีย ข้าเห็นตอนที่เขาสู้กับจั๋วซือหรานบนเวที สู้จนหมดเรี่ยวหมดแรงแล้ว ยังไม่รู้ว่าจับแอบเก็บไพ่ตายอะไรที่ไม่อยากให้ใครเห็นไว้หรือเปล่า? ดูแล้วประหลาดๆ"ซางถิงพอได้ยินเนื้อหาคำพูดของซางเชวี่ย สีตาก็เปลี่ยนไปเขากำกำปั้นแน่น เขาซ่อนไพ่ตายความสามารถที่ไม่อยากให้คนอื่นรู้ไว้จริง เขาสามารถเปิดช่องพลังได้แต่ไม่เหมือนกับเปิดช่องพลังทั่วไป เขาไม่เพียงแต่สามารถเปิดช่องพลัง ยกระดับความสามารถตนเองขึ้นชั่วคราว ยิ่งไปกว่านั้น ยังไม่รู้สึกอ่อนล้าหลังจากที่ใช้พลังเกินตัวอีกด้วยเพราะการเปิดช่องพลังของเขา ไม่ได้เกิดจากใช้พลังงานของตนเองจนหมดแล้วดูดซับพลังวิญญาณฟ้าดินการเปิดช่องพลังของเขา คือใช้พละกำลังของสัตว์ที่ควบคุม ไม้ตายนี้เรียกว่า...วิญญาณเลือดอสูรไขาไม่เพียงแต่สามารถใช้พลังของสัตว์ที่ควบคุมได้ แต่ยังใช้พลังวิญญาณของสัตว์ควบคุมได้ในบางระดับด้วย กระทั่ง ยังสามารถทำให้
เขาสัมผัสได้ว่าบนบาดแผลทั้งสองที่ถูกดาบของนางแทงไว้ จนทำให้หินต้องห้ามยังแตกก่อนหน้านี้เวลานี้มันคันยุบยิบ ราวกัยว่า...กำลังผสานอย่างรวดเร็วจั๋วซือหรานเอ่ยขึ้นเสียงต่ำ "รักษาให้เจ้าก่อน อีกเดี๋ยวถ้าสู้ขึ้นมา จะได้ไม่ขี้เกียจ"ซางถิงเกือบจะโมโหจนหัวเราะขึ้นมายังไม่ทันที่เขาจะได้พูด ในกลุ่มคนเหล่านั้นที่ล้อมเข้ามา ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้น"จั๋วซือหราน เจ้าสังหารลูกหลานตระกูลข้าไป แอบเรียนวิชาลับตระกูลข้า โทษนี้สมควรตาย แต่เห็นแก่ว่าเจ้าไม่ใช่คนในตระกูลเรา ไม่เข้าใจกฏเกณฑ์ของตระกูล จะไว้ชีวิตเจ้า แล้วจะพาเจ้ากลับไปช่วยอธิบายให้หน่อย ว่าไปร่ำเรียนวิชาลับตระกูลเรามาจากที่ไหน"จั๋วซือหรานพอได้ยินเนื้อหานี้ "เข้ามาเพราะความสามารถข้าจริงๆ ด้วย"ซางถิงหัวเราะเฮอะขึ้นมา เอ่ยเสียงต่ำกับจั๋วซือหรานว่า " ข้าก็บอกว่าแล้วไม่ได้มาหาข้า ในเมื่อมันไม่เกี่ยวกับข้า ข้าไปได้แล้วใช่ไหม?"จั๋วซือหรานหัวเราะเหอะๆ " อย่าสิ ข้ารักษาให้เจ้าแล้วนะ รับแล้วก็ตอบแทนกันหน่อยมันเป็นมารยาท"ซางถิงกัดฟัน "แล้วทำไมเจ้าไม่พูดเสียหน่อยว่าบาดแผลพวกนั้นมันมายังไง..."ตอนนี้เอง เสียง 'คาดโทษ' จั๋วซือหรานก่อนหน้านี้ก