Share

บทที่ 61

Author: หูเทียนเสี่ยว
ซือหลี่ชางยหวี่ตกตะลึง เขาไม่ได้พิจารณาข้อนี้เลย เขาเพียงแต่รู้สึกว่า จั๋วซือหรานหยิบวัสดุยาจากชั้นวางของอย่างจริงจังและนางไม่ลังเลใจ เขาเลยคิดว่านางสอบผ่านแน่ ๆ

แต่หลังจากเขาฟังซือหลี่เสวียนหมิงพูดเช่นนั้น เขารู้สึกข้อสอบนี้มันไม่ได้ง่ายขนาดนี้

“ป๋อยวนคงไม่แอบจัดข้อสอบยาก ๆ เพื่อให้นางสอบตกหรอกนะ”ซือหลี่ชางยหวี่ถาม เขามองซือหลี่ตันติ่งที่ยังคงยืนตัวตรงอยู่ที่นั่น

ซือหลี่เสวียนหมิงยืนอยู่ด้านข้าง เสียงของนางเต็มไปด้วยรอยยิ้มจาง ๆ “ใครจะรู้ล่ะ เพราะป๋อยวนให้คนสอบผ่านยาก แต่ป๋อหยวนบอกข้าว่า คุณหนูจั๋วจิ่วนี้ใจกล้ามาก นางตกลงกับป๋อยวน หากนางสอบตกแพทย์กลั่นยา นางจะถูกลงโทษสิบเท่า”

ขณะที่ซือหลี่เสวียนหมิงกำลังพูดอยู่ นางก็เกร็งและยืดนิ้วออกเล็กน้อย และเสียงแผ่วเบาของนางเผยให้เห็นความกระตือรือร้นเล็กน้อยที่คนอื่นสังเกตยาก

“การลงโทษเท่าสิบครั้งนะ ข้าไม่ได้ลงโทษใครสิบเท่ามานานแล้ว…” นอกจากคำพูดอันเร่าร้อนของนางแล้ว การงอเล็กน้อยและการยืดนิ้วของนางกำลังแสดงความในใจของนาง-นางคันมือแล้ว

หากฟังเสียงที่อ่อนโยนของนางอย่างเดียว บางทีอาจไม่มีใครคิดว่าผู้หญิงที่มีเสียงที่อ่อนโยนจริง ๆ แล้วคือ ซื
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 62

    ซือหลี่ฉือหางเข้าใจเรื่องนี้เป็นอย่างดี ดังนั้นเขาจึงกำลังจะพูดบั่นทอนกำลังใจแต่ก่อนที่เขาจะพูดจบ สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป“นี่คือ...!” ซือหลี่ฉือหางพูดด้วยความตกใจ นี่ไม่ใช่แค่พลังวิญญาณของไม้ธรรมดา ๆพลังทางจิตวิญญาณของจั๋วซือหรานสั่นสะเทือนอย่างนุ่มนวลและอ่อนโยน จากนั้นนางค่อย ๆ ปิดเข้าไป แน่นอนว่าเจ้าของร่างเดิมเหมือนกับสมาชิกของตระกูลจั๋วคนอื่น ๆ พวกเขาถูกควบคุมด้วยเลือดแต่จั๋วซือหรานไม่ใช่เจ้าของร่างเดิม พลังการแพทย์สายวิเศษ ของนางเปิดทางให้พรสวรรค์ทางสายเลือดของตระกูลจั๋วโดยไม่ตั้งใจ แม้ว่าพลังนี้ยังไม่ถูกปลุกให้ตื่นขึ้นอย่างเต็มที่ แต่แรงบันดาลใจแค่นี้ก็พอที่จะไปใช้ในห้องโถงยาของหน่วยสืบสวนพิเศษ การรับรู้ของนางพอที่จะให้นางใช้ในห้องโถงนี้แล้วจากนั้นนางก็หันหลังอย่างสงบ นางหยิบสมุนไพรอีกสองสามชนิดออกมาจากชั้นวางยาแล้วเรียงยาเหล่านี้และวางทั้งหมดไว้บนโต๊ะ“นี่คือยาตอนที่ข้าเดินเข้ามาในหน่วยสืบสวนพิเศษ มีหญ้าจาง ๆ อยู่ในรอยแตกของผนังข้างฉาก ข้าเกือบจะพลาดไปแล้ว…”“ส่วนนี่คือสาหร่ายใต้น้ำที่ก้นบ่อปลาหน้าห้องโถง”ทุดท้าย จั๋วซือหรานวางกล่องหนึ่งลงบนโต๊ะ "และนี่คือลูกปัดว

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 63

    ซือหลี่ตันติ่งเป็นผู้ที่ไม่ชอบคุย เขาไม่ค่อยคุยกับซือหลี่คนอื่น ๆ แต่เขาเคารพซือเจิ้งของหน่วยสืบสวนพิเศษอย่างมากเมื่อได้ยินเช่นนี้ เขาก็มิได้คัดค้านและพยักหน้า “เชิยท่านตามสบายขอรับ”จั๋วซือหรานรู้สึกกังวลเล็กน้อยเมื่อได้นางยินคำแนะนำของชายคนนั้นแม้ว่านางจะจำได้ว่าตอนที่นางถูกเหยียนชางใส่ร้ายและถูกทรมานเพื่อสอบปากคำ หลังจากชายคนนี้ปรากฏตัว คนอื่นจึงหยุดการทรมานแต่คนอย่างเขาเป็นคนที่คาดเดาไม่ได้และยากที่จะรู้ว่า เขาเป็นศัตรูหรือเพื่อนเช่นนี้ยิ่งทำให้ผู้คนรู้สึกอันตรายโดยไม่มีเหตุผลจั๋วซือหรานกัดริมฝีปากของนางเบา ๆ แต่เสียงของนางไม่ได้ถ่อมตัวหรือหยิ่งผยอง "มิทราบว่า ท่านจะทดสอบข้าอย่างไร"ด่านที่สองของการแพทย์กลั่นยาคือยาแก้พิษนั่นคือการวิเคราะห์ลักษณะยาและวัตถุดิบของยาด่านที่สามคือการกลั่นยาต่อหน้าทุกคนหากจั๋วซือหรานผ่านสามด่านนี้ได้ จะถือว่านางสอบผ่านฟังดูง่าย แต่จริง ๆ แล้วทำได้ยากมากเพราะถ้านางไม่ใช่คนที่รู้เรื่องยาและสรรพคุณทางยามากนัก นางจะติดอยู่ที่นี่ในด่านที่สองยาเม็ดสามารถแบ่งคร่าว ๆ ออกเป็นคุณภาพชั้นหนึ่งถึงชั้นก้าวโดยชั้นหนึ่ง คือคุณภาพที่แย่สุด และชั้

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 64

    คิ้วของจั๋วซือหรานขมวดเล็กน้อย จากนั้นนางเงยหน้าและมองไปที่ชายที่นั่งอยู่บนที่นั่งนางมีความรู้สึกที่อธิบายไม่ถูกความรู้สึกที่ผู้ชายคนนี้ทำให้นางซับซ้อนมาก เมื่อเทียบกับการเขาจงใจพยายามทำให้นางสอบไม่ผ่านจั๋วซือหรานรู้สึกเขานำยาเม็ดเล็กชั้นสี่มาทดสอบนาง นั่นไม่ใช่จงใจสร้างด่านให้นาง แต่เหมือนอยากทดสอบความลึกของนางมากกว่า เพราะเขาอยากรู้นางได้ซ่อนความสามารถอะไรบ้างจั๋วซือหรานยิ้มเบา ๆ “ยาเม็ดเล็กชั้นสี่หรือ ท่านกำลังพยายามหาเรื่องกับผู้หญิงที่อ่อนแออย่างข้าหรือ”ซือเจิ้งของหน่วยสืบสวนพิเศษจ้องจ้องมองใบหน้าของนางครู่หนึ่ง และเขาพูดด้วยนำเสียงแบบเดิม "เมื่อเห็นเจ้ามีความมั่นใจอย่างมาก ข้ารู้สึกนี่ไม่ใช่หาเรื่องหรอก"จั๋วซือหรานกัดริมฝีปากของนางเบา ๆ นางแอบคิดในใจ เมื่อครู่นี้นางควรทำตัวน่าสงสารหน่อยนางเงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นนางนึกแผนรับมือออก นางเลิกคิ้วที่สวยงามของนางเล็กน้อย “ไม่ต้องสนใจข้าจะลำบากหรือไม่ ท่านเป็นผู้ใหญ่ เอายาเม็ดเล็กชั้นสี่มาเป็นการทดสอบของการสอบแพทย์กลั่นยา ช่างไม่ยุติธรรมเสียจริง”ซือเจิ้งของหน่วยสืบสวนพิเศษถามอย่างไร้ความรูั้สึก “เจ้าจะยอมแพ้หรือ”“นั่นไ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 65

    พลังของการแพทย์สายวิเศษพุ่งออกมาจากแหวนเสวียนเหยียน และห่อยาเม็ดเล็กนั้นอย่างช้า ๆ พร้อมกับพลังทางจิตวิญญาณไม้ธรรมชาติของตระกูลจั๋วแม้แต่จั๋วซือหรานก็สังเกตถึง หลังจากรวมพลังของการแพทย์สายวิเศษเข้ากับพลังทางจิตวิญญาณไม้ธรรมชาติของตระกูลจั๋ว พลังนั้นทรงพลังและมั่นคงอย่างยิ่งแรงบันดาลใจอันสูงสุดแก่จั๋วซือหราน ต้องยอมรับว่าบางทีพลังของการแพทย์สายวิเศษของตัวเองและพลังทางจิตวิญญาณจากไม้ตามธรรมชาติของตระกูลจั๋วใช้คู่กันดีจริง ๆแรงบันดาลใจในสมองของจั๋วซือหรานช่วยจั๋วซือหรานรู้จักลักษณะยาและช่วยหาส่วนผสมของยาเม็ดเล็กซือหลี่หลายคนเห็นนางเริ่มกลั่นยาหลังจากได้รับแรงบันดาลใจอย่างรวดเร็วพวกเขาทั้งหมดดูนางและไม่พูดคำใด ๆ ไม่รู้เวลาผ่านไปนานแค่ไหน ซือหลี่ชางยหวี่อดไม่ได้ที่ต้องบถามด้วยเสียงต่ำ "ข้าได้ยินมาว่า ดูเหมือนตระกูลจั๋วประกาศว่า ไล่นางออกจากกสำนักงานใหญ่"ซือหลี่เสวียนหมิงตอบสั้น "จ้ะ น่าจะใช่"“ไม่น่าแปลกใจเลยที่ตระกูลจั๋วเสื่อมโทรมเรื่อย ๆ มีสายตาสั้นเช่นนี้ มันก็จะจบล้มละลายไม่ช้าก็เร็ว” ซือหลี่ชางยหวี่พูดตรง ๆ หากพูดอย่างสุภาพคือ ไม่มีวิจารณญาณ หากพูดอย่างไร้มารยาทคือ มองคนไม

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 66

    การหลอมยาคือ ใช้พลังทางจิตวิญญาณอย่างต่อเนื่องเพื่อห่อแก่นแท้ของวัสดุยาที่ได้รับการขัดเกลาและหลอมให้เป็นรูปทรงกลม ส่วนการอัดยาหมายถึง ในระหว่างกระบวนการนี้ มักใช้พลังทางจิตวิญญาณอัดยาจากทุกทิศทางให้เข้าในยาเม็ดเล้กในกระบวนการนี้ ผู้กลั่นยาไม่เพียงแต่ต้องใช้พลังทางจิตวิญญาณมาหลอมยาให้เป็นกลม ๆ ยังต้องใช้พลังทางจิตวิญญาณมาคุมความร้อนอีกด้วย หากไม่ระมัดระวัง ผู้กลั่นยาอาจจะระเบิดยาเม็ดเล็กหรือระเบิดเตาหม้อดังนั้นทักษะพื้นฐานของแพทย์กลั่นยาคือการควบคุมพลังทางวิญญาณอย่างละเอียดและแม่นยำ ยิ่งควบคุมพลังทางวิญญาณได้ละเอียดและแม่นยำเท่าใด คนก็ยิ่งมีโอกาสเป็นแพทย์กลั่นยาที่เก่งมากขึ้นเท่านั้นเดิมทีจั๋วซือหรานมีสมาธิมากอยู่แล้ว และเมื่อมาถึงสองขั้นตอนนี้ นางยิ่งมีสมาธิมากขึ้น ราวกับว่านางอยู่ในโลกที่มีแต่นางผู้เดียวเมื่อทุกอย่างเสร็จสิ้นไม่ใช่เสียงใหญ่ที่เกิดจากเตาหม้อระเบิด แต่เป็นเสียงที่คมชัด - ดิ๊งเนื่องจากจั๋วซือหรานมีสมาธิมากเกินไป ม่านตาของนางจึงไม่มีสมาธิในขณะนี้ ม่านตาสีดำอันสว่างมีสมาธิและมีแสงสว่างเจิดจ้าดวงตาและมุมปากของนางเริ่มค่อย ๆ โค้งงอเสียงที่คมชัดในเมื่อครู่นี

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 67

    เสียงของซือหลี่ฝายเทียนฟังติด ๆ ขาด ๆ จะว่าเขาพูดติดอ่าง ดูเหมือน...มากกว่าจั๋วซือหรานอดไม่ได้ที่ต้องมองซือหลี่ฝายเทียนสองครั้งและซือหลี่ฝายเทียนท่านนี้ดูผอมและไม่สูงมาก ดูเหมือนเขาจะเขินอายเล็กน้อยเมื่อเขาสังเกตจั๋วซือหรานมองเขา เขาหันไปด้านข้างและหลบสายตาของนางซือหลี่ตันติ่งมีนิสัยที่เย็นชาและตรงไปตรงมา เขาค่อนข้างใจร้อนกับซือหลี่ท่านอื่น ทีนี้เขาดูเหมือนจะค่อนข้างดีกับซือหลี่ฝายเทียนเขาเรียกชื่อของซือหลี่ฝายเทียนตรง ๆ “เอาล่ะ ชิ่งหมิง มานี่สิ”ซือหลี่ฝายเทียน ซึ่งถูกเรียกว่า ชิ่งหมิง ในตอนแรกเขาหันไปด้านข้างและรักษาระยะห่างอย่างสุภาพกับจั๋วซือหราน จากนั้นเขาจึงค่อย ๆ ยับตัวไปที่ด้านข้างของ ซือหลี่ตันติ่งจั๋วซือหรานรู้ลัทธิฝานเทียน ในเจ็ดลัทธิหลัก ลัทธิฝานเทียนไม่ใช่ลัทธิที่ถนัดการต่อสู้ แต่ลัทธินี้มีฐานะสูงอยู่ เนื่องจากลัทธิฝานเทียนเชี่ยวชาญด้านฝึกฝนนักกลั่นอาวุธ เช่นเดียวกับลัทธิตันติ่ง ซึ่งถนัดในด้านการฝึกฝนแพทย์กลั่นยาผู้มีความสามารถพิเศษเช่นนี้ แม้ว่าบุคคลธรรมดาไม่ไปตีสนิทเอง แต่พวกเขาก็ไม่อยากทำให้เขาขุ่นเคืองด้วยตัวอย่างนักหลอมดาบของห้องกระบี่ประจำตระกูลที่ตร

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 68

    "อ้าว" ซือหลี่ตันติ่งเหลือบมองเขาจากด้านข้างจากนั้นเขาได้ยินซือหลี่ฝายเทียนพูดติดอ่าง"นาง นางหน้าตาดี ดวงตา ดวงตาของนางสวยมาก"Alaซือหลี่ตันติ่งดูเหมือนจะหัวเราะและพูดว่า "เอาน่า"หลังจากพวกเขาออกไป ห้องโถงเงียบลงทันทีจั๋วซือหรานไม่คาดคิดว่า หน่วยสืบสวนพิเศษ ซึ่งดูจริงจังเกินไป เคร่งขรึม และมืดมน จะมีคนเช่นซือหลี่ฝายเทียนทั้ง ๆ ที่ชื่อของลัทธิฟังเผด็จการ ฝานเทียน(ฝานเทียนในภาษาจีนหมายถึง เผาท้องฟ้า)จริง ๆ แล้วเขาเป็นเด็กน่ารักที่พูดติดอ่าง...จั๋วซือหรานไม่รีบเดินไปข้างนอก นางเลยนั่งอยู่บนพื้นในห้องโถง เริ่มลองใช้พลังทางจิตวิญญาณของนางและพลังของการแพทย์สายวิเศษอีกครั้ง เพื่อรู้สึกการผสมผสานที่ลึกลับนางรู้สึกการคาถาที่ซับซ้อนที่อยู่บนพื้นของห้องโถงน่าจะช่วยกระตุ้นด้วยห้องโถงตันติ่งเงียบมาก ซึ่งเงียบกว่าที่อื่นมาก ดูเหมือนว่าไม่ต้องต้องกังวลใครเข้ามาอย่างกะทันหันจั๋วซือหรานไม่รู้เวลาผ่านไปนานเท่าไร นางรู้สึกว่าน่าจะเกือบหนึ่งชั่วยามพอดีเสียงฝีเท้าดังขึ้นจากนอกประตูของห้องโถงตันติ่ง เสียนั้นเข้ามาใกล้มากขึ้นเรื่อย ๆจั๋วซือหรานลืมตาขึ้นและเห็นซือหลี่ฝายเทียนที่สวมหน้า

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 69

    “คิดให้ดีก่อนค่อยตอบ หากทำไม่ได้ก็อย่าตกลง” เสียงของซือหลี่ตันติ่งดังมาจากประตูเขาวางมือไว้ด้านหลังและยืนอย่างเงียบ ๆ ที่ประตู "เจ้าควรสังเกตว่า ชิ่งหมิงแตกต่างจากคนทั่วไป เขาฟังคำพูดที่เป็นขอไปทีหรือคำพูดที่มีพิธีรีตองไม่เป็น ดังนั้นหากเจ้าทำไม่ได้ก็อย่ารับปากเขา คิดให้ดีก่อนค่อยตอบ”จั๋วซือหรานได้ยินคำพูดนั้น นางมองไปที่ซือหลี่ฝายเทียน ลายบนหน้ากากของเขาดูเหมือนเปลวไฟสีดำที่แปลกมาก แต่ก็ไม่ได้ทำให้ผู้คนรู้สึกหวาดกลัวจั๋วซือหรานมองเขา พยักหน้าและพูดว่า "เจ้าค่ะ ข้ารับปาก หลังจากข้าจัดงานต่าง ๆ ให้เสร็จ ข้าจะมาเรียนกับใต้เท้า""ขอรับ" ซือหลี่ฝายเทียนกระโดดขึ้น ๆ ลง ในบริเวณนั้น แล้วรีบพูด "ถ้าอย่างนั้น เจ้ารีบเอาตราของเจ้าให้คนเหล่านั้นดูเลย"จั๋วซือหรานยิ้มและพูดว่า "เจ้าค่ะ"เมื่อนางเดินออกจาก ห้องโถงตันติ่ง นางเดินผ่านซือหลี่ตันติ่งพูดตามความจริง จั๋วซือหรานไม่เคยคาดคิดว่า คนที่มีนิสัยอย่างซือหลี่ตันติ่งจะชมนางต่อหน้าซือหลี่ฝายเทียนว่า หลอมอาวุะได้แน่ ๆดังนั้นเมื่อนางเดินผ่านซือหลี่ตันติ่ง นางก็อดไม่ได้ที่ต้องมองเขาจากด้านข้างซือหลี่ตันติ่งมองนางและเรียกนาง " จั๋วซือห

Latest chapter

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1263

    ท่าทีของเฟิงเหยียน ไม่ถือว่ากระตือรือร้นมากนัก กระทั่งค่อนข้างเย็นชาด้วยซ้ำแต่ก็เป็นเรื่องปกติ หลังจากที่เขาออกจากสำนักในตอนนั้น ก็ไม่ได้มีความฮึกเหิมเหมือนสมัยครั้งยังเด็กอีกมักจะเย็นชา และมักจะเฉยเมยปันอวิ๋นเม้มริมฝีปาก เข้าใจถึงสาเหตุนั้นสภาพการณ์ตอนที่เฟิงเหยียนออกจากสำนักครั้งนั้น เขาเองก็รู้เป็นอย่างดีต่อให้จนถึงตอนนี้ ก็ยังจดจำได้อย่างชัดเจนเพราะเฟิงเหยียนถูกทรยศเป็นคนแรก ดังนั้น ตอนนั้นพวกเขาก็อยู่ในฐานะคนที่ยังไม่ถูกทรยศอันที่จริง จะมากน้อยก็ยังมีความสงสัยว่าถ้าไม่อยู่ในสถานการณ์เดียวกันก็คงไม่เข้าใจอยู่พวกเขารู้สึกว่าเฟิงเหยียนทำเรื่องเล็กเป็นเรื่องใหญ่ เป็นเฟิงเหยียนที่ไม่รู้จักบุญคุณพวกเขารู้สึกว่า เป็นเฟิงเหยียนที่ทำไม่ถูกเฟิงเหยียนเป็นคนอกตัญญูจนต่อมา ต่อมาของต่อมา ทุกคนทยอยกันเดินบนเส้นทางของเฟิงเหยียน ใครก็หนีไม่พ้นการทรยศหรือใช้ประโยชน์ทั้งนั้นตามหลักแล้วควรจะยอมรับชะตากรรมอย่างที่เคยเตือนเฟิงเหยียนเอาไว้ในตอนนั้น และมองว่าสิ่งนั้นเป็นการบ่มเพาะและการให้ความสำคัญจากสำนักแต่เพระาอะไร...ถึงได้ดีใจกันขึ้นมาไม่ได้เลยและหลังจากนั้นอีก แต่ละคนก็ทร

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1262

    ดังนั้นเขาจึงยังไม่กล้าไปกอดนางไว้แบบนี้ตลอด คอยอยู่ด้วยเงียบๆแต่เขากลับไม่ง่วงเลย ไม่ได้หลับ ไม่ได้ปิดตาด้วยแค่มองนางเงียบๆ สัมผัสถึงความร้อนในตัวนางกับชีพจรนางกระทั่งตัวเขาเองก็ยังบอกไม่ได้ว่าเพราะอะไร แต่ก็มีความรู้สึกอย่างหนึ่ง...รู้สึกสงบใจอย่างมากราวกับว่า ทั้งหมดเปลี่ยนเป็นสมบูรณ์แบบแล้วทั้งที่ความทรงจำในอดีตยังไม่กลับคืนเข้าที่ แต่ความรู้สึกนี้ เหมือนสลักประทับอยู่ในจิตวิญญาณอย่างไรอย่างนั้น ยากที่จะลบเลือนจนกระทั่งลมหายใจของจั๋วซือหรานมั่นคงแล้ว สีหน้ายิ่งมีประกายแดง สภาพดีขึ้นมากแล้วเขามองไปที่คราบเลือดแห้งกรังเหล่านั้นบนใบหน้าจั๋วซือหราน รู้สึกเสียดแทงตาเหลือเกินจึงได้เคลื่อนไหวเบาๆ เดินออกไปด้านนอก กำชับคนรับใช้ให้เตรียมน้ำร้อนมาไม่ให้คนรับใช้เข้ามาปรนนิบัติ แต่เขาหิ้วถังน้ำเข้ามาเองเขาอุ้มนางมาแช่ในถังน้ำ คอยสระชำระเส้นผมนางทีละเล็กทีละน้อย เช็ดคราบเลือดบนผิวนางออกอาบตัวนางจนสะอาดหมดจด อุ้มกลับไปบนเตียง ใช้ผ้าห่มห่อตัวนางจากนั้นจึงใช้พลังวิญญาณธาตุไฟบริสุทธิ์ เป่าผมนางจนแห้งและเพราะมีกลิ่นอายของเขาห่อหุ้มอยู่ จั๋วซือหรานจึงหลับลึกอย่างสบาย ไม่ตื

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1261

    พลังศักดิ์สิทธิ์หงส์แดงที่บริสุทธิ์ที่สุด ถูกส่งผ่านเข้ามาอย่างนั้นจั๋วซือหรานมีความรู้สึกเหมือนตนเองถูกแช่ไว้ในน้ำอุ่น เป็นความรู้สึกที่สบายอย่างที่สุดในลำคอก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมาด้วยความสบายยิ่งไปกว่านั้น คนเราก็เหมือนจะเป็นเช่นนี้เดิมทีก็ไม่ได้รู้สึกว่าตนเองลำบากยากเย็นอะไรนักแต่ตอนที่ร่างกายสามารถผ่อนคลายลงมาได้ ไม่รู้สึกเจ็บปวดทรมานอีกแล้วพอย้อนคิดไปถึงความยากลำบากเหล่านั้นก่อนหน้า กลับรู้สึกว่าตนเองน่าสงสารขึ้นมาจั๋วซือหรานตอนนี้ก็รู้สึก ว่าตนเอง...ไม่ค่อยได้รับความเป็นธรรมเท่าไรชายคนนี้ เจ้าคนสมควรตายนี่มีสิทธิ์อะไร?มีสิทธิ์อะไรกัน?"..." ชายหนุ่มรู้สึกเจ็บที่ปลายลิ้นเขาขมวดคิ้ว รสชาติคคาวหวานของเลือดแผ่ซ่านในร่องฟันของทั้งสองคนเขามองหญิงสาวตรงหน้า ก็เห็นแววตาของนางมีความหงุดหงิดอยู่หน่อยๆแล้วยังมีสีหน้าท้าทายอีกด้วยดูเหมือนจะจงใจกัดปลายลิ้นเขา น่าจะโมโหเอาการชายหนุ่มไม่ครางออกมาเลย ราวกับไม่รู้สึกเจ็บอย่างไรอย่างนั้นยิ่งไปกว่านั้นยังไม่ใส่ใจ ปลายลิ้นยังโถมใส่นางอย่างเร่าร้อนรุนแรงถ้านางอยากได้ ก็ต้องแล้วแต่นางจั๋วซือหรานดูจนใจหน่อยๆ แต

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1260

    เหมือนว่าความทรมานทั้งหมดก่อนหน้านี้ ไม่ได้ทรมานอะไรขนาดนั้นและไม่รู้ว่าเจ้าโง่นี้ใช้แรงกระแทกนางมากแค่ไหน...มีหลายครั้ง ที่นางรู้สึกได้ว่า ในมิตินี้เหมือนสั่นไหวขึ้นมาราวกับวิญญาณของนางที่ถูกขังอยู่ในมิติ จะถูกดันกลับเข้าไปที่เดิมเลยจั๋วซือหรานถลึงตาโตขึ้นหน่อย จ้องมองมิติที่โยกไหวหน่อยๆรู้สึกหมดคำจะพูดแมงมุมน้อยงึมงำขึ้นมาข้างๆ "นายท่าน...ในนี้มัน...ร้อนจัง..."จั๋ซซือรหานมองไปทางเหล่าสัตว์อสูรของตนเอง มองออกไม่ยาก พวกมันเหมือนเริ่มมึนๆ จะหลับกันแล้ว พอเห็นแบบนี้ ก็เหมือนจะไม่ได้แตกต่างอะไรนักกับสถานการณ์ครั้งที่แล้วเพียงแต่ครั้งที่แล้ว ตนเองถูกทำจนเกือบจะสลบไปและตอนนี้ ตนเองถูกทำ...จนใกล้จะตื่นขึ้นมาแล้วผู้ชายคนนี้...ร้ายกาจจริงๆนี่มันช่าง....สัมผัสแนบเนื้อบนตัวนางมีเหงื่อบางๆ ชั้นหนึ่ง ผิวที่เคยขาวซีดไปทั้งตัว ตอนนี้พอมีเม็ดเหงื่อเกาะอยู่ จึงยิ่งดูเป็นประกายระยิบระยับขึ้นมาและไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน..."อือ..." หญิงสาวที่ไม่มีปฏิกิริยามาตลอด ริมฝีปากที่ยังมีรอยเลือดที่ยังเช็ดไม่สะอาด ส่งเสียงครางออกมาเหมือนลูกแมวตัวน้อยฟังดูแล้วเป็นเสียงอือๆ งึมงำๆน

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1259

    ในใจจั๋วหวายเข้าใจอย่างหนักแน่นว่าเฟิงเหยียนคือผู้ชายทรยศแต่ว่านี่ไม่ได้เป็นอุปสรรคที่ทำให้เขาคิดว่าเฟิงเหยียนจะทำให้พี่สาวดีขึ้นได้คนเราก็มักมีสองมาตรฐานเช่นนี้ ไม่มีทางเลือกดังนั้นจั๋วหวายแม้จะไม่ได้เน้นหนักว่าผู้ชายทรยศคนนั้นคือผู้ชายทรยศ แต่ก็ยังถามขึ้นว่า "เขาจะพาพี่สาวข้าไปไหน?"ปันอวิ๋นได้ยินคำนี้ สายตาก็ลึกซึ้งขึ้นมา "นั่น...เป็นเรื่องของผู้ใหญ่เขา เด็กๆ ไม่ต้องถามเยอะ"จั๋วหวายเบ้ปาก ในใจก็บ่นว่าตนเองไม่ใช่เด็กแล้วเสียหน่อยแต่ปันอวิ๋นในที่สุดก็ไม่ได้บอกจั๋วหวาย ว่าเฟิงเหยียนจะพาจั๋วซือหรานไปที่ไหนในใจปันอวิ๋นชัดเจนดี สภาพของจั๋วซือหรานแย่หนักถึงระดับนี้แล้ว ขนาดยาก็ยังดื่มไม่ลงถ้าคิดจะใช้พลังศักดิ์สิทธิ์ปลอบประโลมตัวนาง รวมถึงปลอบประโลมลูกในท้องนาง...วิธีการที่ดีที่สุด คือสิ่งนั้นอย่างไม่ต้องสงสัยสติสัมปชัญญะของจั๋วซือหรานไม่ได้หลับลึกอย่างสมบูรณ์ ในมิติยังสัมผัสรับรู้ได้ถึงสภาพแวดล้อมรอบๆความรู้สึกนั้น เหมือนกับสติสัมปชัญญะถูกขังอยู่ในมิติอย่างไรอย่างนั้นนางจึงเป็นได้เพียงแค่ผู้ชมเท่านั้น"เฮ้อ ดูท่าเขาจะใช้วิะีนั้นสินะ" จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้นขนมถั่วแดงกั

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1258

    แต่ว่าชายหนุ่มยังคงไม่ตอบเขาเขาเพียงยกมือขึ้นมา สะบัดแขนเสื้อ เผยท่อนแขนออกมาจากในแขนเสื้อจั๋วหวายจึงเห็นว่าท่อนแขนของชายคนนี้ มีลายมัดกล้ามที่สวยงาม กระชับเรียวยาวผิวเองก็ขาวเย็น ไม่รู้ว่าเพราะปกติไม่ค่อยโดนแสงแดดหรือเปล่าและตอนนี้เอง ผิวหนังขาวเย็นที่โผล่ออกมานอกแขนเสื้อพอต้องกับแสงตะวัน จั๋วหวายก็รู้สึกเหมือนขาวจนสะท้อนแสงออกมาเลย!จากนั้น หลังจากสัมผัสกับแสง ก็ค่อยๆ รอยแผลเหมือนไฟลวกที่ค่อยๆ แดงขึ้น ก็ปรากฏมาบนท่อนแขนเขาไม่เพียงเท่านี้ หลังจากที่รอยไหม้เหล่านี้ปรากฏ ท่อนแขนเขาก็มีอักขระประหลาดบางส่วนปรากฏขึ้นมาอย่างรวดเร็วพออักขระคำสาปปรากฏ บาดแผลเผาไหม้พวกนั้นก็ถูกสะกดลงไป บาดแผลบนผิวหนังเริ่มสมานตัวกลับเหมือนเดิม หลังจากแผลสมานดี อักขระคำสาปเหล่านั้นก็ค่อยๆ สลายหายไปบนผิวหนังเขาแต่ไม่นานนัก ก็ปรากฏแผลไฟลวกอีกครั้ง อักขระเหล่านั้นก็ปรากฏขึ้นมาอีกซ้ำไปซ้ำมาแบบนี้ ดูแล้วทำให้คน...รู้สึกประหลาดมากจั๋วหวายมองจนบื้อไปเลยและชายหนุ่มก็ไม่ได้ใส่ใจกับแผลที่หายแล้วก็เกิด เกิดแล้วก็หายพวกนี้เลย ราวกับเหมือนมองไม่เห็นอย่างไรอย่างนั้นและก็เหมือนไม่ได้เจ็บได้ปวดเลย แม้ต

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1257

    เหมือนว่าพอสายตามองเห็นหญิงสาวในอ้อมกอดปันปวิ๋นที่เหมือนลมพัดก็สลายหายไปได้ ตอนนั้นเอง สัมผัสทั้งหมดก็เหมือนหายวับไปในพริบตาดวงตามองไม่เห็นสิ่งใดอีกแล้ว หุเองก็ไม่ได้ยินเสียงอื่นใดอีกความรู้สึกเดียวที่เหลืออยู่คือความเจ็บปวดรุนแรงเหมือนมีดกรีดกลางใจ ไม่เพียงเท่านี้ สมองก็เหมือนถูกของมีคมกวนคนอย่างไรอย่างนั้น เจ็บขึ้นมาเป็นระยะๆยิ่งเจ็บ ก็ยิ่งอยากจะมองนางให้ชัดจเน ไม่อยากพลาดไปแม้แต่น้อยปันอวิ๋นพอเห็นร่างของเขา และกลิ่นอายนั่นบนตัวปันอวิ๋นในที่สุดก็ถอนใจโล่ง เขามาได้เสียที..."เจ้าหุบเขา?" ศิษย์สำนักข้างๆ ยังระแวดระวังอยู่ปันอวิ๋นบอกกับศิษย์สำนักเสียงเรียบว่า "เขาไม่ทำอะไรหรอก"ศิษย์สำนักพอได้ยินคำนี้ จึงถอนใจโล่งออกมา เพราะตอนที่พวกคนคุ้มกันขวางเขาเมื่อครู่มันเกินต้านแล้วจริงๆปรมาจารย์กู่อย่างพวกเขาเดิมทีก็แพ้ธาตุไฟอยู่แล้ว และชายคนนี้ก็เหมือนจะมีธาตุไฟระดับสูงด้วยพวกเขาไม่มีความสามารถจะไปทัดทานได้เลยปันอวิ๋นพอเห็นร่างสูงใหญ่ตรงหน้า ก็คิดในใจ ยังจะงงอะไรอยู่เล่า ถ้าเจ้ายังงงอยู่ หญิงสาวคนนี้จะไม่ไหวแล้วนะ!"โอ๊ค..." ในปากจั๋วซือหรานมีเลือดสดทะลักออกมาและมือข้างนั

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1256

    ราวกับว่า...ต่อให้นางจะดูอ่อนแอเหมือนกดให้ตายได้ด้วยนิ้วเดียวแต่ยังคงไม่ยอมให้คนรู้สึกว่าอ่อนแอ ยังคงทำให้คนรู้สึกว่า ถ้าหากอยากจะเป็นศัตรูกับนาง ก่อนนางตายก็จะลากเจ้าลงนรกไปด้วยกันตอนนี้รอยยิ้มที่ดูเกียจคร้านไม่ใส่ใจ กลับยิ่งดูสงบนิ่งมั่นคงราวกับยกของหนักได้อย่างสบายนางเอ่ยขึ้นอย่างเกียจคร้าน "ใครจะรู้ล่ะ? อาจจะขาดหนูไม้ไผ่อยู่กระมัง"ปันอวิ๋นกลั้นหัวเราะไว้ไม่อยู่พอได้ยินหนูไม้ไผ่สองคำนี้ เขาก็รู้แล้ว ว่าตอนที่เขาไปทิ้งจดหมายที่บ้านไม้ไผ่ นางก็เดาได้แล้วว่าเขาทำอะไรเพียงแต่ไม่ได้พูดออกมาเท่านั้นเป็นหญิงสาวที่เจ้าเล่ห์กว่าจิ้งจอกเสียอีกปันอวิ๋นจุ๊ปาก "เจ้านี่ถึงตายไป สมองก็คงจะแล่นอยู่อย่างนี้สินะ?"จั๋วซือหรานแค่เหลือบมองเขา ไม่ได้พูดอะไร มุมปากกลับยกโค้งขึ้นบางๆหลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง คิ้วนางก็ขมวดขึ้นบางๆ"ทำไมหรือ?" ปันอวิ๋นเห็นการเปลี่ยนแปลงของสีหน้านาง จึงขมวดคิ้วเดินเข้ามา สองมือประคองบ่านางไว้อันที่จริงเป็นเพราะเขาไม่ค่อยได้เห็นสีหน้าทรมานจากหน้านางนัก นางมักจะทำเป็นเหมือนไม่เป็นไรเสมอแต่ตอนนี้ บนสีหน้า กลับดูทรมานขึ้นอย่างชัดเจนจากนั้น นางก็เหมือนจะยืน

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1255

    จั๋วหวายเกือบจะสำรอกออกมาแล้ว!"ถ้าจะอาเจียนก็ออกไปอาเจียนซะ ถ้าทำกู่กล่องนี้ของข้าพัง ข้าจะจับเจ้าแขวนห้อยหัวซะเลย" ปันอวิ๋นเอ่ยขึ้นเสียงเรียบจั๋วหวายหมุนตัวพุ่งออกไป สูดลมหายใจลึกหลายครั้งกว่าจะสงบลงมาได้ จากนั้นจึงเตรียมตัวเตรียมใจ ตอนที่เข้าไปอีกครั้งก็ไม่มีกระทบกระเทือนอย่างแรงแบบก่อนหน้าแล้วแต่สายตากลับไม่ได้มองไปยังแผ่นกระดานที่มีของดิ้นกระแด่วๆ นั่นมองแล้วขนลุกสุดๆ"มีเรื่องอะไร?" ปันอวิ๋นถามขึ้นเสียงเรียบจั๋วหวายเอ่ยเสียงต่ำ "ท่านรู้..." เขาสูดจมูก ถามออกไปว่า "ท่านรู้จักเฟิงเหยียนใช่ไหม?"ปันอวิ๋นเดิมทีกำลังป้อนอาหารเจ้าพวกดุ๊กดิ๊กพวกนั้นพอได้ยินคำนี้ การเคลื่อนไหวก็หยุดลงมา ไม่หันไปมองเขา ผ่านไปครู่หนึ่งจึงถามขึ้นเรียบๆ ว่า "ทำไมล่ะ?""ข้าอยากเจอเขา ข้าอยากจะถามเขา ว่าทำไมทำแบบนี้กับพี่ของข้า" จั๋วหวายขอบตาแดงรื้นเขาสูดหายใจลึกแล้วพ่นออกมา "ข้าเองก็อยากจะถามเขา ว่าช่วยพี่ข้าได้ไหม ถ้าหากไม่ได้ หรือก็คือเขาเป็นผู้ชายทรยศ ไม่ยินยอม เช่นนั้นเขามาบอกกับท่านพี่ได้ไหม ว่าให้เลิกแล้วต่อกันจบๆ ไป"ปันอวิ๋นพอได้ยินคำนี้ จะฟังความเสียใจในใจจั๋วหวายไม่ออกได้อย่างไรกั

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status