Share

บทที่ 546

Author: หูเทียนเสี่ยว
พอสังเกตเห็นสายตาแหลมคมของเวินป๋อยวน ชิ่งหมิงก็รู้ว่าเขาน่าจะเข้าใจผิดเสียแล้ว “ซือหรานแค่คิด คิดจะรักษาข้า...”

เวินป๋อยวนเหลือบมองจั๋วซือหรานเย็นชาผาดหนึ่ง “ใช้แมลงกู่หรือ? ข้ากับชิ่งหมิงล้วนมาจากแดนใต้กันทังนั้น จั๋วจิ่ว เรื่องนี้เอาไปหลอกคนอื่นก็พอได้ แต่มาใช้กับพวกข้านี่มันดูไม่ค่อยเหมาะเลยนะ”

จั๋วซือหรานเม้มริมฝีปาก ไม่ส่งเสียงด เพียงเอียงตาไปกำชับกับจั๋วหวาย “เสี่ยวหวาย พาท่านแม่กลับบ้านไปก่อน ข้ามีเรื่องต้องหารือกับสองคนนี้”

จั๋วหวายแม้จะกังวลพี่สาวอยู่ แต่ก็ยังเชื่อมั่นว่าพี่สาวจะสามารถจัดการเรื่องของตนเองได้ จึงพาท่านแม่กลับไปที่บ้าน

จั๋วซือหรานมองไปทางเวินป๋อยวน “นายท่านซือหลี่ตันติง เพราะคนที่ข้ารับปากไว้คือชิงหมิง ดังนั้นข้าจะรักษาเขาให้หาย ว่าตามหลักการแล้ว ข้าก็ไม่มีหน้าที่ต้องมาอธิบายอะไรกับท่านด้วย”

เสียงของจั๋วซือหรานราบเรียบ เนื้อหาในคำพูด ทำเอาเวินป๋อหยวนถึงกับหรี่ตาลง

“แต่พิจารณาถึงนายท่านที่เป็นห่วงจนว้าวุ่น บวกกับที่นายท่านได้รับของที่ข้าต้องการมา” จั๋วซือหรานชี้ไปยังยาที่ทำให้คนเจ็บปวดทรมานอย่างที่สุด “ดังนั้น ข้าก็ไม่รังเกียจที่จะอธิบายให้นายท่านฟังเสียหน่
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 547

    เวินป๋อยวนพอได้ยินคำพูดนี้ ก็นิ่งงันไปครู่หนึ่ง จากนั้นจึงพูดออกมาประโยคหนึ่งว่า “โอ้อวดอย่างไม่ละอาย”แต่เขาก็พูดต่อมาอีก “แต่เจ้าเองก็มีความสามารถที่ทำให้คนต้องมองใหม่ได้อยู่ตลอดเวลา เพียงแต่ เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยของชิ่งหมิง ข้าจะบุ่มบ่ามเห็นได้ไม่ได้ เจ้าจทำให้ข้าเชื่อได้อย่างไร ว่าเจ้ามั่นใจเต็มร้อยจริง?”เวินป๋อยวนจ้องมองดวงตาของหญิงสาวน่าจะเป็นเพราะประสบการณ์ที่เจอมาตลอด เวินป๋อยวนต้องปกป้องชิ่งหมิงที่เหมือนกับกระดาษขาวแผ่นหนึ่งไว้ ถ้าบอกว่าชิ่งหมิงเป็นราวกับกระดาษขาวแผ่นหนึ่ง เชื่อใจคนอื่นอย่างสนิทใจโดยไม่สงสัยแล้วล่ะก็เช่นนั้นความเคร่งขรึมกับซับซ้อนของเวินป๋อยวน ก็เต็มไปด้วยความสงสัยต่อตัวคนอื่นนั่นเองแทนที่จะเชื่อใจ เขากลับสงสัยเสียมากกว่าแต่หญิงสาวตรงหน้า เคยทำให้เขาต้องหันมามองใหม่มาแล้ว ดังนั้น เวินป๋อยวนก็ไม่ใช่ว่าจะลองเชื่อใจนางไม่ได้ เพียงแต่ เขาต้องการบางสิ่งอย่างที่ทำให้ตนเองเชื่อใจได้มากขึ้นและตอนนี้เอง รอยยิ้มบนหน้าจั๋วซือหรานยังคงละไม เลิกหางตาขึ้นเล็กน้อย กระทั่งดูขี้เกียจหน่อยๆ ด้วยนางยักไหล่เบาๆ เอ่ยกับเวินป๋อยวนว่า “ดังนั้น ก็ไม่ใช่ว่าข

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 548

    หลังจากนั้นก็แล้วแต่สถานการณ์จะพาไปเลยจั๋วซือหรานภายใต้การยอมรับกลายๆ ของเวินป๋อยวน จึงนำเจ้าอ้วนขาวในมือตัวนี้ วางไว้บนตัวชิ่งหมิงขั้นตอนทั้งหมดดูสงบมากชิ่งหมิงเองก็ไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดอะไร แต่ก็เหมือนว่าเวลาเพียงครู่เดียวคงยังมองผลลัพธ์อะไรไม่ออก“น่าจะต้องหลายวันหน่อยกระมัง” จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้นแต่เวินป๋อยวนกับชิ่งหมิง ก็ดูไม่ได้ใส่ใจกับเรื่องที่ยังไม่เห็นผลลัพธ์ชั่วขณะนี้ ในช่วงหลายปีเวินป๋อยวนก็คิดหาวิธีรักษาชิ่งหมิงมาไม่น้อย แต่ทั้งหมดก็ล้วนไม่มีผลลัพธ์ใดดังนั้นจึงชินไปแล้ว จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้นว่า “สรุปคือ รออีกสักสองสามวันแล้วค่อยดูผลลัพธ์เถอะ ชิ่งหมิงทางนี้ข้าจัดการให้เรียบร้อยแล้ว ข้ายังมีเรื่องอื่นต้องไปจัดการอีก ขอตัวก่อน”จั๋วซือหรานยุ่งเอามากๆ ยังมีงานต้องไปทำต่อเวินป๋อยวนหลังจากผ่าน “การสื่อสารฉันท์มิตร” กับจั๋วซือหรานไปเมื่อครู่ อารมณ์ตอนนี้ก็สงบลงมาแล้วตอนนี้จึงเอ่ยขึ้นเสียงเรียบ “เจ้าไปทำธุระของเจ้าได้ แม้ว่าเรื่องที่ด้านนอก ข้ากับชิ่งหมิงจะสอดมือเข้าไปลำบาก แต่คนที่เจ้าให้พักที่นี่จะไม่มีปัญหาอะไรทั้งนั้น”จั๋วซือหรานพยักหน้า “ขอบคุณนายท่านมาก เช่น

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 549

    ด้านนอกศูนย์การแพทย์ตระกูลเหยียนมีแถวยาวเหยียด ในศูนย์การแพทย์ก็ยิ่งคึกคักดังนั้นตอนที่จั๋วซือหรานเข้ามา จึงไม่มีคนสังเกตเห็นนาง ยังเอ่ยขึ้นว่า “ไปเข้าแถวข้างนอกก่อน เจ้า...”จากนั้นพอจำได้ เสียงก็ขาดห้วงไปทันทีและมีเสียงกระซิบเบาๆ ดังขึ้น “นี่...นาง...ไม่ใช่แม่นางจั๋วจิ่วคนนั้นหรือ?”เพราะว่ายุ่งเกินไป ดังนั้นเหยียนหยี่หลิงจึงคอยช่วยอยู่ตลอดพอได้เยินเสียงกระซิบนี้ หูนางก็ขยับเล็กน้อย เงยหน้ามองไปยังแขกแปลกหน้าที่ทำให้เกิดความวุ่นวายสายตาจึงสบกับดวงตาพญาหงส์คู่หนึ่ง ดวงตาที่งดงามขีดสุด ประกายตากลับลึกซึ้ง เหยียนหยี่หลิงตึกตักในใจ นางมาได้อย่างไรกัน?! นางทำมจึงยังกล้าออกจากบ้าน?!เพราะบุญคุณความแค้นก่อนหน้านี้ของจั๋วซือหรานกับตระกูลเหยียน เหยียนหยี่หลิงที่ไม่เคยประสบความสำเร็จเลยสักครั้ง จึงกลายเป็นปมในใจของเหยียนหยี่หลิงไปแล้วในดวงตาเหยียนหยี่หลิงมีความสับสนแล่นวาบผ่านไปชั่วครู่แต่ก็เห็นว่าคนมากมายรอบๆ ล้วนกำลังใช้สายตาท่าทีระวังและพรั่นพรึง กระทั่งรังเกียจมองไปทางจั๋วซือหรานคนมากขนาดนี้ล้วนยืนอยู่ฝั่งเดียวกับตนเอง ในใจเหยียนหยี่หลิงจู่ๆ ก็มั่นใจขึ้นมานางหัวเราะเย็

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 550

    “เจ้าลงมือ...กับหมออย่างข้า...อย่างเปิดเผยเช่นนี้เลยหรือ?”จั๋วซือหรานหัวเราะเสียงต่ำ “เจ้ายังมาหมิ่นเกียรติของข้าอย่างเปิดเผยได้เลย แล้วข้าจะลงมือกับเจ้าบ้างมันทำไมกัน? ทุกคนก็เป็นแพทย์กันทั้งนั้น เจ้าไม่ยอมเจ้าก็มาลงมือกับข้าสิ”เหยียนหยี่หลิงสีหน้าแข็งทื่อไปแล้ว นางยังดิ้นให้หลุดจากการกดของจั๋วซือหรานตอนนี้ไม่ได้เลย! นางเป็นแค่แพทย์คนหนึ่งเท่านั้น!แต่ว่าจั๋วซือหรานคนนี้...กลับสามารถประมือกับเหยียนอีที่มีพรสวรรค์วิชายุทธ์ของตระกูลเหยียนในตอนนั้นได้เลยนะ กระทั่งว่าถ้าไม่หยุดไว้เสียก่อน น่าอาจจะโค่นเหยียนอีได้ด้วยซ้ำ!“เจ้ารีบปล่อยข้าเลยนะ” เหยียนหยี่หลิงดิ้นรนขึ้นมาจั๋วซือหรานกดนางไว้ เอ่ยถามขึ้นเสียงเรียบ “เหยียนหยี่หลิง เจ้ายังจำสัญญาที่ตระกูลเหยียนเดิมพันกับข้าได้ไหม?”เหยียนหยี่หลิงตกตะลึง แอบขบเขี้ยวเคี้ยวฟันทำไมจะจำไม่ได้ ไม่ใช่แค่นางที่จำได้ ทั่วทั้งเมืองหลวงก็จำได้กันหมดศูนย์การแพทย์ตระกูลเหยียนต้องปิดทำการ ร้านยาเองก็ต้องมาบริการให้จั๋วซือหรานนานแค่ไหนแล้วที่ตระกูลเหยียนของพวกเขา ไม่เคยเจอเรื่องอัปยศขนาดนี้เหยียนหยี่หลิงกัดฟันตอบ “ข้าต้องมาเปิดศูนย์การแพทย์ชั่

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 551

    ก่อนที่จั๋วซือหรานจะลงมือ เหล่าผู้คนข้างๆ ที่กล้าปลุกปั่นตามกันมาแต่เดิม ก็ทยอยกันกระจายตัวถอยหลัง เหลือแค่ความกล้าคอยชมอยู่ข้างๆ เท่านั้นโดยพื้นฐานแล้วพวกเขาล้วนเป็นแค่กลุ่มคนไร้แก่นสารรวมตัวกันเพียงชั่วครู่ แล้วก็กรูกันหายไปอะไรแบบนั้นตอนที่คนนำหรือแกนหลักของพวกเขามีพลังแข็งแกร่ง พวกเขาก็จะแข็งแกร่งตาม แต่ตอนที่คนนำหรือแกนหลักของพวกเขาถูกยิ่งจนร่วง พวกเขาก็จะกระจายตัวกันเร็วกว่าน้ำลดเสียอีกจั๋วซือหรานเข้าใจสิ่งเหล่านี้มานานแล้ว ดังนั้นจึงเป็นเหตุผลให้ตอนที่ได้ยินคำดูหมิ่นของพวกเขา จึงไม่แสบไม่คัน ไม่สนใจไม่แยแสสิ่งที่นางต้องทำ ก็แค่จัดการเล่นงานคนนำหรือแกนหลักออกมาทุบทิ้งแล้วฝูงกาพวกนี้ก็จะสลายตัวไปเองก็เหมือนกับที่นางเคยจัดการคนพวกนั้นที่หน้าจวนตนเองนั่นล่ะยิ่งไปกว่านั้นผู้คนก็ล้วนสรรเสริญความแข็งแกร่ง ในโลกที่ความแข็งแกร่งเป็นใหญ่ก็ยิ่งเป็นเช่นนี้จั๋วซือหรานเข้าใจเป็นอย่างดี ว่าถ้าตนเองเข้ามาเพื่ออธิบายให้กับตนเองล่ะก็ ต่อให้เสียงจะดังแค่ไหน ผลลัพธ์ที่ได้ก็คงเป็นแค่ยิ่งวาดก็ยิ่งดำแต่ขอแค่บีบคนนำหรือแกนหลักเอาไว้ ตนเองจะพูดอะไร ต่อให้เสียงจะไม่ดังก็ยังสนั่นลั่นจน

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 552

    เพราะเหยียนหยี่หลิงร้อนรนขึ้นมาแล้ว และเป็นผลมาจากอารมณ์ ดังนั้นคำพูดนี้จึงหลุดปากออกมาทั้งที่ยังไม่ทันได้พิจารณาให้ดีแต่หลังจากพูดคำนี้ออกไป เหยียนหยี่หลิก็เห็นในดวงตาพญาหงส์คู่นั้น มีประกายยิ้มแผ่ออกมาในใจเหยียนหยี่หลิงเต้นตึกตัก! เกินความลางสังหรณ์ไม่ค่อยดีขึ้นมา ราวกับความรู้สึกนั้นแล่นผ่านจากเท้าขึ้นไปกลางกระหม่อมเลยทีเดียวนางมองดวงตาทั้งคู่ของจั๋วซือหราน ในใจวิตกอย่างรุนแรงเหมือนไร้ซึ่งก้นบึ้งตอนนี้เอง ชายคนหนึ่งก็เดินเข้ามา ยืนอยู่ข้างกายจั๋วซือหราน เอ่ยขึ้นเสียงขรึม “แม่นางจิ่ว จากความหมายของเจ้าสำนัก คือจัดการนำวัตถุดิบยาทั้งหมดที่ท่านพูดไว้ จัดเตรียมไว้ให้เรียบร้อย ขนย้ายไปในร้านแล้ว” “ลำบากเจ้าเสียแล้ว” จั๋วซือหรานพอได้ยินคำพูดของอิ๋นไห่ ก็พยักหน้าให้เล็กน้อยหลังจากอิ๋นไห่รายงานจบก็ยังไม่ไปไหน ยืนนิ่งเงียบๆ อยู่ข้างๆมีคนมองออกถึงชายหนุ่มที่เดินเข้ามารายงานกับจั๋วซือหราน เครื่องแบบบนตัวนั่นมัน...เสียงกระซิบกระซาบดังขึ้นมา“นี่...เหมือนจะเป็นคนของตลาดมืดนะ...”“คนของตลาดมืดมาได้อย่างไรกัน?”“เหมือนจะเป็น...คนของหอฟ้าดาว เหมือนว่าต้องเป็นผู้ดูแลหอฟ้าดาวจึงจะม

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 553

    ก่อนหน้าที่จั๋วซือหรานเตรียมจะประลองกับตระกูลเหยียน ก็จัดการแผนการนี้ไว้แล้วตอนนั้น ก็ให้อ๋องเซี่ยนช่วยหาตำแหน่งร้านที่เหมาะสมให้ จากนั้นจึงเริ่มเตรียมการเพียงแต่เพราะเรื่องยุ่งยากดันเข้ามาหานางทีละเรื่องทีละเรื่อง นางจึงไม่มีเวลาไปเพิ่มความเร็วกับเรื่องนี้ จึงหาพนักงานมาได้ไม่กี่คน จัดการไปอย่างเชื่องช้าจั๋วซือหรานกระทั่งไม่มองเลยด้วยซ้ำวันนี้เป็นครั้งแรก ที่จะได้เห็นร้านขายยาของตนเองอดพูดไม่ได้เลย ว่าดีกว่าที่จินตนาการไว้พอควร จั๋วซือหรานเดิมทีคิดว่าจะต่างกับศูนย์การแพทย์ร้านขาของตระกูลเหยียนอยู่มาก แต่ว่าพอมองแล้วกลับใกล้เคียงกันเลย จั๋วซือหรานพึงพอใจสุดๆดูแล้ว แม้ว่านางจะไม่ค่อยใส่ใจกับเรื่องนี้ แต่ซือคงเซียนกลับลงทุนลงแรงอย่างมากกับเรื่องที่นางไม่นำมาใส่ใจโดยตลอดเรื่องนี้พนักงานหลายคนแล้วก็ผู้จัดการร้านล้วนวุ่นกันจนลมหายใจหอบถี่ เพราะอิ๋นไห่เพิ่งพาคนของหอฟ้าดาวนำวัตถุดิบยาส่งเข้ามาดังนั้นเหล่าพนักงานกับผู้จัดการร้านจึงล้วนวุ่นกันมือเป็นระวิงอยู่ที่คลังเรือนหลังตอนนี้ล้วนกำลังถูไม้ถูมือ ออกมาต้อนรับจั๋วซือหราน หน้าผากก็ล้วนมีเหงื่อผุดซึม แต่บนใบหน้ากลับมีสีหน้าที่

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 554

    เช่นนั้นก็เดาไม่ยากแล้วแต่สำหรับเรื่องที่จั๋วซือหรานเดาออกถึงปัญหาระหว่างพวกเขากับตระกูลเหยียนได้ทันที พวกเขาเองก็ประหลาดใจอยู่บ้างสีหน้าประหลาดใจแล่นผ่านใบหน้าของผู้จัดการร้าน เขาเอ่ยขึ้นว่า “คุณหนูฉลาดหลักแหลมเสียจริง ถูกต้อง พวกเราล้วนมีปัญหากับตระกูลเหยียนมาทั้งสิ้น”“พวกเราล้วนเคยเป็นแพทย์ แตกต่างกับศูนย์การแพทย์ของตระกูลเหยียน พวกเราเป็นแพทย์ที่คอยรักษาโรคให้กับเหล่าประชาชน ไม่มีเบื้องหลังใดๆ ทั้งสิ้น”“ตระกูลเหยียนในช่วงแรกรวบรวมแพทย์ไปหลายคน จัดส่งไปยังศูนย์การแพทย์ต่างๆ ของตระกูลเหยียน แล้วยังเคยคิดจะรับพวกเราไป แต่พวกเราปฏิเสธ”“ดังนั้นจึงถูกตระกูลเหยียนเพ่งเล็ง ยิ่งไปกว่านั้น เนื่องจากเหยียนชางอยู่ในสถาบันแพทย์หลวง ถ้าเขาคิดจะแทรกแซงเข้ามา ตัวตนฐานะแพทย์ของพวกเราก็จะถูกส่งผลกระทบทั้งหมด”จั๋วซือหรานเข้าใจความรู้สึกนี้ได้ดีที่สุด เพราะนางตอนแรกก็เพราะถูกเหยียนชางเข้าแทรกแซง จนนางไปสอบแพทย์ไม่ได้ และเบนเข็มไปสอบแพทย์กลั่นยาแทน...จั๋วซือหรานเลิกคิ้ว“คนเป็นแพทย์ต้องทำการทดสอบครั้งหนึ่งในทุกสามปี สอบผ่านแล้วจึงสามารถทำอาชีพแพทย์ต่อได้ แต่เพราะการแทรงแซงของตระกูลเหยียน

Latest chapter

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1273

    แม้จะบอกว่าเป็นความฝัน แต่อันที่จริงจั๋วซือหรานก็ค่อยๆ เข้าใจแล้ว ว่าเพราะอะไรหลังจากฝันถึงเขาครั้งที่แล้วจนมาถึงครั้งนี้ นานมากแล้วที่ไม่ได้ฝันถึงเขาอีกพอมาคิดอย่างละเอียด เหมือนว่าตอนฝันถึงเขาครั้งที่แล้ว จะเป็นหลังจากที่นางมีสัมพันธ์ทางกายกับเขาดังนั้นจั๋วซือหรานจึงค่อยๆ เข้าใจ บางทีน่าจะเป็นเพราะสาเหตุนี้การดูดหยางบำรุงหยินของนางก็ดูดซับมาจนพอเข้าใจแล้ว เหมือนว่าพอดูดซับมาถึงระดับหนึ่ง ก็จะเกิด...ถ้าจะพูดว่าเป็นความฝัน สู้บอกว่าเป็นการสื่อสารทางจิตใต้สำนึกกับความทรงจำของเฟิงเหยียนส่วนที่ถูกผนึกไปจะดีกว่า?และไม่ว่าจะ 'ความฝัน' ครั้งที่แล้ว หรือว่าครั้งนี้ก็มองออกได้ไม่ยากเฟิงเหยียนน่าจะเข้าใจต่อสถานการณ์อยู่ ดังนั้นบางทีจิตใต้สำนึกเขายังคงอยู่มาตลอด เพียงแต่ถูกสมองทื่อๆ นี่กดเอาไว้ หรือบางทีคงถูกสภาผู้อาวุโสลงมือสะกดเอาไว้ไม่แน่ว่า อาจจะต้องมีชนวนเหตุบางอย่าง ถึงจะสามารถปลุกขึ้นมาได้จั๋วซือหรานอยากจะรู้ชนวนเหตุนั้นว่าคืออะไรกันแน่"ต้องทำยังไงเจ้าถึงจะดีขึ้นมา?" จั๋วซือหรานถามแต่เฟิงเหยียนกลับเหมือนจะจำจุดสำคัญนั้นไม่ได้แล้ว ขมวดคิ้ว สีหน้าดูเหมือนขมขื่น เหมือนว

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1272

    ในห้วงฝันนางมองมือตัวเอง สับสนไปหมดทั้งตัว เหมือนยังตั้งตัวกลับมาไม่ได้เพราะนางถ้าไม่หลับลึก ก็จะเอาจิตใต้สำนึกส่งเข้าไปในมิติ จึงฝันน้อยครั้งมากดังนั้นตอนที่ดำดิ่งสู่ห้วงฝัน นางยังรู้สึกไม่คุ้นอยู่หน่อยๆ มองมือตนเอง รู้สึกไม่คอ่ยเป็นจริงสักเท่าไรวินาทีต่อมา มือข้างหนึ่งก็ทาบมาบนมือของนางมือข้างนั้น ข้อต่อกระดูกชัดเจน นิ้วเรียวยาว เล็บตัดมาดูสะอาดสะอ้าน ผิวหนังขาวซีดเย็นเหมือนไม่โดนแดดมานานสายตาของจั๋วซือหรานจ้องนิ่งอยู่บนมือข้างนี้ จากนั้นจึงค่อยๆ ยกขึ้นมามองไปยังเจ้าของมือนี้ ใบหน้าหล่อเหลาไม่มีที่ตินั่นทั้งที่เป็นใบหน้าที่เพิ่งเห็นไปก่อนหลับตาลงเมื่อครู่แท้ๆ แต่ตอนนี้พอมอง กลับยังคงทำให้นางรู้สึกเหมือนไม่เจอกันเสียนานสายตาของชายหนุ่มอบอุ่น ด้านในมีความรู้สึกอารมณ์เหมือนความเจ็บปวดแฝงอยู่"จั๋วเสียวจิ่ว..." เขาก้มหน้าลงเรียกนางจั๋วซือหรานมองเขา จากนั้นจึงออกแรงบีบมือเขา และน่าจะเพราะออกแรงมากเกินไปปลายเล็บจึงเหมือนจิกลงไปในเนื้อเขาฝันถึงเขาอีกแล้วจั๋วซือหรานมีปฏิกิริยาขึ้นมา ครั้งนี้เหมือนกับครั้งนั้นเลย ฝันถึงเฟิงเหยียนยิ่งไปกว่านั้นยังดูเหมือนจริงเป็นพิ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1271

    กลางดึก จั๋วซือหรานกัดริมฝีปาก กอดหมอน เดินเท้าเปล่าจากห้องด้านนอกเข้าไปยังห้องด้านใน!คิ้วงามของนางขมวดแน่น สีหน้าที่มีสีเลือดฟื้นมาบ้างแล้ว ตอนนี้กลับขาวซีดขึ้นมาในใจนางเองก็พูดไม่ออก เดิมทีตอนที่หลับก็ยังดีอยู่ พอกลางดึกจู่ๆ ก็ไม่ไหวขึ้นมาเสียแล้วหน้าอกปั่นป่วนอย่างรุนแรง เป็นความรู้สึกทรมานแบบที่นางผ่านมาก่อนหน้าไม่ผิดเพี้ยนถ้าบอกว่าคนคนนี้ไม่เข้ามาก็ว่าไปอย่าง แต่นี่ก็เข้ามาแล้วว่ากันว่าพอเคยสบายแล้ว จะยากที่จะกลับไปลำบากตอนนี้จะให้นางปล่อยชายหนุ่มที่เหมือนกับ 'ยาบำรุงครรภ์' นี้ไว้ข้างในเฉยๆ โดยไม่ใช้ แล้วต้องมานั่งทนกระอักเลือดต่อล่ะก็...ขอโทษด้วย สกุลจั๋วอย่างนางไม่ใช่คนประเภทนั้นนางเข้าใจแล้ว ก่อนที่จะหลับไปเมื่อคืนนี้ ตอนที่เฟิงเหยียนบอกว่าจะนอนด้านนอก ริมฝีปากที่เม้มแน่นนั้นกำลังอดกลั้นเรื่องอะไรน่าจะคิดไว้แล้วว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้สารเลว!จั๋วซือหรานครั่นเนื้อครั่นตัวตื่นมากลางดึก ต่อให้เป็นคนที่มีสติเยือกเย็นแค่ไหน ก็ยังมีอาการหงุดหงิดงัวเงียหลังตื่นนอนนางเดินเท้าเปล่าเข้าไปห้องด้านใน อากาศในหุบเขาตอนกลางคืนเย็นมากนางสวมแค่เสื้อบางๆ ชุดหนึ่ง ทั้งตัวเย

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1270

    แต่กลับรู้ตัวตนฐานะผู้ชายทรยศของเฟิงเหยียนได้ ไม่ต้องคิดเลยว่าคงเป็นจั๋วหวายพล่ามออกมาแน่"จั๋วหวายมาบอกเจ้าหรือ?" ปันอวิ๋นถามขึ้นคำหนึ่งจวงอี๋ไห่ พยักหน้าอย่างระมัดระวัง "คุณชายเสี่ยวหวายไม่หลอกข้าหรอก คุณชายเสี่ยวหวายบอกว่าเป็นผู้ชายทรยศ เช่นนั้นกว่าครึ่งก็ต้องเป็นผู้ชายทรยศแล้ว"ปันอวิ๋นถอนหายใจแผ่วเบาในห้อง จั๋วซือหรานนั่งลงข้างโต๊ะเฟิงเหยียนไม่พูดอะไร รินน้ำชาให้นางถ้วยหนึ่งจั๋วซือหรานกำถ้วยไว้ ใช้นิ้วมือลูบไล้ขอบถ้วยเบาๆ"อีกเดี๋ยวพออาหารส่งเข้ามา ก็กินสักหน่อยแล้วค่อยนอนพัก" เฟิงเหยียนเอ่ยขึ้นแต่ในน้ำเสียงแฝงไว้ด้วยความหนักแน่นที่ห้ามปฏิเสธจั๋วซือหรานแหงนตามองเขา กำลังจะบอกว่ายังไม่หิวก็เห็นริมฝีปากบางของชายคนนี้เม้มเบาๆ เอ่ยเสียงต่ำว่า "ข้าไม่มีสิทธิ์จะมาหารือกับเจ้าจริงๆ นั่นล่ะ..." สายตาเขาทอดลงไปที่ท้องน้อยนาง แววตาลึกซึ้งจากนั้นจึงเอ่ยต่อว่า "แต่การจะเตือนให้เจ้ากินอะไรดีดีก็ยังพอมีสิทธิ์อยู่" สายตาเขายกขึ้นมาจากท้องน้อยจั๋วซือหรานเลื่อนมาที่ดวงตานาง จ้องมองดวงตานาง เอ่ยต่อว่า "ถึงอย่างไรเมื่อครู่ก็เพิ่งช่วยเจ้ากลับมา ยิ่งไปกว่นั้นเรื่องถูกพลังศักดิ์สิท

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1269

    เขาไม่เพียงแต่ไม่ใช่สามีของนาง เขายังเป็นคู่หมั้นในนามของหญิงสาวคนอื่นอีกด้วยสีหน้าของเฟิงเหยียนแข็งทื่อไปแล้ว แต่ท้ายสุดก็ยังพูดอะไรไม่ออกเพราะในคำพูดจั๋วซือหราน ไม่มีส่วนที่ผิดเลยแม้แต่น้อยแม้จะบอกว่าเด็กคนนี้ ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเขาก็ตามแต่ครั้งก่อนหน้านั้น เป็นเพราะจั๋วซือหรานถูกวางแผนร้ายใส่ ถึงทำให้นางสับสนหลงใหลจนมีสัมพันธ์กับเขาถ้าจะบอกว่า เขาเอาเปรียบหญิงสาวไป ก็ไมไ่ด้พูดเกินเลยนักเอาเปรียบหญิงสาว จนทำนางตั้งท้อง ไม่เคยจะมารับผิดชอบอะไรตอนนี้กลับจะมาชี้มือชี้ไม้เรื่องของนางพอสรุปมาแบบนี้ มันก็ช่าง...แย่มากจริงๆเฟิงเหยียนเองก็รู้ว่าตนเองนั้นแย่มาก พูดอะไรออกมาไม่ได้ไปชั่วขณะปันอวิ๋นรู้สึกกระอักกระอ่วนแทนสหายเก่า เขากระแอมออกมาเบาๆ ทีหนึ่ง ไกล่เกลี่ยขึ้นว่า "เอาล่ะเอาล่ะ..."เขาเองก็ไม่รู้ว่าควรพูดอะไร ถึงอย่างไร ทั้งสองคนตอนนี้จะไม่ได้เป็นคู่รัก แต่ความสัมพันธ์แบบนี้...มันก็ดูคลุมเครือ กลืนไม่เข้าคายไม่ออกอยู่ นี่มันช่าง...ดังนั้นปันอวิ๋นเลยเปิดประเด็นขึ้น อึกอักในปากอยู่พักหนึ่ง กว่าจะพูดออกมาได้ "...พวกเจ้าหิวหรือยัง? ให้เหล่าจวนทำอะไรให้กินหน่อยดีไหม?"

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1268

    นางยืนเงียบๆ อยู่ตรงนั้น แหงนตาขึ้นมองพวกเขาสายตาของเฟิงเหยียนอึ้งไปเล็กน้อย เห็นนางยืนอยู่ในประตูด้วยสีหน้านิ่งขรึมเขารู้สึกลำคอแห้งผากอย่างประหลาด ความรู้สึกนั้น บางทีควรจะเรียกว่า...ตึงเครียดไหม?"เจ้า...ตื่นขึ้นมาตอนไหนน่ะ?" เฟิงเหยียนถามจั๋วซือหรานมองเขา "ไม่นานเท่าไร"เหมือจะมองออกถึงความกระอักกระอ่วนของเขา หรืออาจจะไม่สรุปคือ มุมปากจั๋วซือหรานยกขึ้นบางๆ พูดมาคำหนึ่ง "ท่านอ๋องน้อย ไม่เจอกันเสียนาน"นางทำแบบนี้โดยไม่เอ่ยถึงคำพูดก่อนหน้านั้นแม้แต่น้อยเฟิงเหยียนอ้าปากพะงาบ ต่อให้คิดจะพูดอะไร แต่ชั่วขณะหนึ่งก็เหมือนจะพูดออกมาไม่ได้จึงแค่ถามขึ้นอย่างเป็นห่วง "ดีขึ้นบ้างหรือยัง?"จั๋วซือหรานพยักหน้า "ดีขึ้นมากแล้ว"กระทั่งปันอวิ๋นก็ยังมองออกถึงเรื่องระหว่างพวกเขา ไม่รู้เพราะเจ้าสมองกลับนี่ไปแตะเนื้อต้องตัวทำอะไรนาง หรือเป็นเพราะคำพูดเมื่อครู่นางได้ยินคำพูดของเฟิงเหยียน...สรุปคือ ปันอวิ๋นมองพวกเขาทั้งสองคน แล้วก็รู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออกแทนพวกเขาทั้งสองคนปันอวิ๋นคิดๆ ดู ตอนที่ตนเองอยู่กับจั๋วซือหรานก็ยังไม่ได้กลืนไม่เข้าคายไม่ออกขนาดนี้รู้สึกร้อนใจแทนเจ้าบ้านี่จร

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1267

    เพราะเป็นเพื่อนสนิท ปันอวิ๋นจึงเข้าใจความหมายที่เขาคิดจะแสดงออกมาหรือก็คือ ปันอวิ๋นเดาได้นานแล้วบางทีตอนนั้นเพื่อจะให้จั๋วซือหรานหลีกเลี่ยงโชคชะตาเช่นนี้ ตนเองจึงเลือกที่จะลืมเลือนแต่สุดท้ายพอวกไปวนมา ก็กลับมาเดินอยู่บนเส้นทางเดิมเจ้าสิ่งที่เรียกว่าโชคชะตานี่ ลึกลับเอามากๆบางครั้งเหมือนจะมีเมตตา แต่บางครั้งก็เหมือนไม่เคยปราณีใครผู้ใด"แล้วเจ้าตอนนี้...คิดจะทำอย่างไร?" ปันอวิ๋นถามเขาจ้องเฟิงเหยียนตาไม่กระพริบเอาจริงๆ ปันอวิ๋นใช้มองจากมุมมองคนนอกอย่างมีเหตุมีผล ยังหวังว่าจั๋วซือหรานจะสามารถปล่อยวางได้แต่พอคิดถึงว่าถ้าหากจั๋วซือหรานปล่อยวางแล้วล่ะก็ ด้วยโชคชะตาภาชนะพลังศักดิ์สิทธิ์หงส์แดงของเฟิงเหยียน ผลสรุปสุดท้าย ก็คือตายก่อนวัยอันควรอยู่ดีและเพราะรู้เรื่องนี้ ดังนั้นปันอวิ๋นจึงหยุดไปครู่หนึ่ง เอ่ยเสริมมาคำนึง "ถังฉือเคยบอกข้าไว้ ในโถงวิญญาณอสูร พวกสัตว์เทพที่ถูกเก็บกลับมาเหล่านั้น..."ปันอวิ๋นขมวดคิ้ว คิดถึงคำพูดของถังฉือถังฉือมีบาปหนาจากการฆ่าฟันคนมากมาย กลายเป็นคนเย็นชาไร้หัวใจไปแล้ว ถ้าหากไม่เย็นชาไร้หัวใจ ป่านนี้คงเป็นบ้าไปแล้วดังนั้นตอนที่เขาพูดถึงเรื่องเห

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1266

    ปันอวิ๋นส่งให้เขาชามหนึ่ง ตนเองก็ด้วยทั้งสองคนไม่พูดพล่ามทำเพลง กระดกรวดเดียวจนหมดราวกับว่า สุราที่มาช้าไปหลายปีนี้ ในที่สุดก็ได้ดื่มเสียทีราวกับว่าภาพเด็กน้อยที่แอบขโมยสุราพวกนั้นมาดื่ม ซ้อนทับเข้ามากับพวกเขาในเวลานี้"ช่วงนี้เจ้า ไม่ได้ติดต่อกับพวกเขาเลยหรือ?"หลังจากร่ำสุราลงท้องไปสองชาม จิตใจก็เหมือนจะผ่อนคลายลงมาไม่น้อย ปันอวิ๋นถามขึ้นอย่างสบายๆ เป็นกันเองเฟิงเหยียนฟังออก ว่าเขาถามถึงเหล่าพี่น้องพวกนั้นเขาตอบอืมไปคำหนึ่ง "ไม่ได้ติดต่อกันเลย""เช่นนั้นก็คงไม่รู้สถานการณ์ของพวกเขาเลยสินะ" ปันอวิ๋นเอ่ยขึ้นเฟิงเหยียนไม่ยอมรับหรือปฏิเสธกับสิ่งนี้ ถือว่ายอมรับไปกลายๆปันอวิ๋นยิ้มๆ เหมือนจะเย้ยหยันตนเอง "แต่ก็ไม่โทษพวกเขาที่ไม่ติดต่อเจ้า ด้วยสถานการณ์ของพวกเขาตอนนี้ ก็ไม่มีหน้ามาติดต่อเจ้าจริงๆ นั่นล่ะ"ได้ยินคำนี้ของปันอวิ๋น เฟิงเหยียนก็ไม่พูดอะไรอีกปันอวิ๋นเอ่ยต่อว่า "ซงซีตอนนี้ทุกวันเหมือนขลุกอยู่แต่ในห้องหลอมสกัด หลอมสกัดอยู่ทุกวันไม่ได้พักเลย"เฟิงเหยียนพอได้ยินคำนี้ คิ้วก็ขมวดขึ้นบางๆ"เยี่ยนเหวย...ก็สูบเลือดออกมาทุกวัน อยู่แบบไม่เหมือนผู้เหมือนคน ผู้อาวุโสหวงจ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1265

    บางทีคงเป็นเพราะการคุยแบบเปิดอกก่อนหน้านี้ ทำให้ระยะทางขอเพื่อนสนิทสองคนที่เคยห่างไปตามกาลเวลา ย่อหดลงไปไม่น้อยเลยกระมังดังนั้นพอได้ยินปันอวิ๋นบอกว่าไม่ต้องขอบคุณ เฟิงเหยียนจึงเหลือบมองเขา น้ำเสียงเปลี่ยนไป "ก็ได้ เช่นนั้นก็ไม่ขอบคุณแล้วกัน"เฟิงเหยียนสั่งขึ้นมา "ไป ไปเอาสุรามาให้ข้าหน่อย"แม้จะพูดเช่นนี้ แต่ในเสียงกลับไม่ได้ออกคำสั่งอะไร ฟังแล้วเหมือนการใช้งานระหว่างเพื่อนกันมากกว่าปันอวิ๋นชะงักไปเล้กน้อย เพราะตอนพวกเขายังเด็ก ก็เคยใช้งานกันและกันแบบนี้ไป ไปเอาสุรามาหน่อยได้ งั้นเจ้าก็เอาปลาไปย่างซะข้าเห็นว่าเจ้าหน้าตาเหมือนปลาถ้าเจ้ายังพูดอีกรอบ จะโดนข้ากดจนจมถังสุราตายไปเลยเพราะคำพูดนี้ของเฟิงเหยียน ทั้งสองคนก็เหมือนกลับไปสมัยยังเด็กในชั่วพริบตาปันอวิ๋นยกมุมปากขึ้นบางๆ ลุกขึ้นไปให้คนรับใช้ส่งสุราเข้ามาคือสุราห้าพิษที่เขาจะหมักอยู่ทุกปี และใช้แมลงพิษมาหลอมจริงๆ แต่ตัวสุรากลับไม่มีพิษใดๆ กระทั่งยังหอมอบอวลเข้มข้นเป็นพิเศษ เป็นสุราที่หาได้ยากยิ่งและเป็นความลับที่ไม่เผยแพร่สู่ภายนอกของหุบเขาหมื่นพิษ ปกติมีแค่เจ้าหุบเขาที่รู้แต่ปันอวิ๋น หลังจากออกสำนักมา ก็ไม่ได้ด

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status