แชร์

บทที่ 554

ผู้เขียน: หูเทียนเสี่ยว
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
เช่นนั้นก็เดาไม่ยากแล้ว

แต่สำหรับเรื่องที่จั๋วซือหรานเดาออกถึงปัญหาระหว่างพวกเขากับตระกูลเหยียนได้ทันที พวกเขาเองก็ประหลาดใจอยู่บ้าง

สีหน้าประหลาดใจแล่นผ่านใบหน้าของผู้จัดการร้าน เขาเอ่ยขึ้นว่า “คุณหนูฉลาดหลักแหลมเสียจริง ถูกต้อง พวกเราล้วนมีปัญหากับตระกูลเหยียนมาทั้งสิ้น”

“พวกเราล้วนเคยเป็นแพทย์ แตกต่างกับศูนย์การแพทย์ของตระกูลเหยียน พวกเราเป็นแพทย์ที่คอยรักษาโรคให้กับเหล่าประชาชน ไม่มีเบื้องหลังใดๆ ทั้งสิ้น”

“ตระกูลเหยียนในช่วงแรกรวบรวมแพทย์ไปหลายคน จัดส่งไปยังศูนย์การแพทย์ต่างๆ ของตระกูลเหยียน แล้วยังเคยคิดจะรับพวกเราไป แต่พวกเราปฏิเสธ”

“ดังนั้นจึงถูกตระกูลเหยียนเพ่งเล็ง ยิ่งไปกว่านั้น เนื่องจากเหยียนชางอยู่ในสถาบันแพทย์หลวง ถ้าเขาคิดจะแทรกแซงเข้ามา ตัวตนฐานะแพทย์ของพวกเราก็จะถูกส่งผลกระทบทั้งหมด”

จั๋วซือหรานเข้าใจความรู้สึกนี้ได้ดีที่สุด เพราะนางตอนแรกก็เพราะถูกเหยียนชางเข้าแทรกแซง จนนางไปสอบแพทย์ไม่ได้ และเบนเข็มไปสอบแพทย์กลั่นยาแทน...

จั๋วซือหรานเลิกคิ้ว

“คนเป็นแพทย์ต้องทำการทดสอบครั้งหนึ่งในทุกสามปี สอบผ่านแล้วจึงสามารถทำอาชีพแพทย์ต่อได้ แต่เพราะการแทรงแซงของตระกูลเหยียน
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 555

    พอเห็นฉากนี้ ทุกคนก็วางใจแล้วไหนจะจั๋วซือหรานที่ยังพูดต่อมาอีก “ยิ่งไปกว่านั้นถ้าพวกเขากล้าเข้ามาทำลายป้ายชิ้นนี้ ข้าก็จะจับเหยียนชางมาแล้วให้เขาเขียนให้ใหม่อีกแผ่น”“เช่นนั้นข้าเอาขึ้นไปแขวนเลยแล้วกัน” พนักงานร่างกำยำเอ่ยขึ้นจั๋วซือหรานคิดๆ เอ่ยต่อว่า “เอาเจ้านี้ไปแขวนไว้ข้างประตูเถอะ ส่วนชื่อของร้านยานี้ ข้าจะตั้งขึ้นมาใหม่”ผู้จัดการร้านรีบพยักหน้า “ได้เลย! ป้ายเปล่าเตรียมไว้ให้นานแล้วขอรับ ข้าจะไปหยิบมาให้ท่านเดี๋ยวนี้!”......ก่อนหน้านี้ที่จั๋วซือหรานพูดคำพูดเหล่านั้นในศูนย์การแพทย์ตระกูลเหยียน ก็เหมือนกับได้เพาะเมล็ดความสงสัยเมล็ดหนึ่งลงไปในใจของทุกคนมีบางคนสั่นคลอนขึ้นแล้ว แต่เพราะตระกุลเหยียนถึงอย่างไรก็ยังเป็นตระกูลใหญ่โต ดังนั้นในใจจึงยังมีความเชื่อมั่นให้กับตระกูลเหยียนอยู่แพทย์ของตระกูลเหยียนก็กำลังพยายามเตือนขึ้นว่า “ทุกท่านอย่าได้ไปเชื่อคำพูดเหลวไหลของนาง”“ทุกคนรู้กันดีอยู่แล้ว ว่านางกับตระกูลเหยียนมีความแค้นกันมานาน ดังนั้นนางจึงมาใส่ร้ายป้ายสีตระกูลพวกเรา”“ถ้าหากทุกท่านเชื่อคำพูดของนาง จนทำให้การรักษาล่าช้า ผลลัพธ์อาจจะเลวร้ายลงกว่าที่คิด...”“วัตถุดิบ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 556

    ดังนั้นจึงเห็นว่าบนป้ายที่แขวนอยู่เหนือประตูทางเข้า เขียนอักษรตัวใหญ่เอาไว้ว่า...ศูนย์การแพทย์จั๋วซือหรานลายมือทรงพลัง ลายเส้นคมชัด ไม่ได้ดูอ่อนหวานเหมือนลายเส้นของหญิงสาวเลยมองออกว่าหมึกยังไม่แห้ง น่าจะเป็นป้ายร้านที่เพิ่งเขียนหมาดๆและที่ข้างประตูยังมีป้ายแนวตั้งอีกแผ่น ด้านบนเขียนอักษรเอาไว้อย่างชัดเจนหลายตัว...วิชาแพทย์ตระกูเหลียนสู้จั๋วซือหรานไม่ได้เดิมทีพวกเขาก็ยังไม่ค่อยมั่นใจนักเพราะประสิทธิภาพตำรับยาของตระกูลเหยียนถูกยืนยันไปแล้ว จะต้องใช้ได้อย่างมั่นคงแน่ แต่ว่าของแม่นางจั๋วจิ่วทางนี้ ใครก็ยังไม่ชัดเจนทั้งนั้นแต่ว่า พอเห็นประตูศูนย์การแพทย์ของนาง พอเห็นป้ายนี้ในใจก็เริ่มมีความเชื่อมั่นกับความกล้าโผล่ขึ้นมาอย่างประหลาดจริงด้วย ต่อให้ศูนย์การแพทย์ของแม่นางคนนี้ไม่ได้มีรากฐานมั่นคงอย่างตระกูลเหยียน ไม่ได้มีชื่อเสียงอย่างตระกูลเหยียนแต่แม่นางคนนี้ก็ไม่ใช่คนไร้ความสามารถอะไร แต่ได้พิสูจน์ต่อหน้าคนทุกคน ต่อหน้าคนใหญ่โตจากหน่วยสืบสวนพิเศษมาแล้วอย่างแท้จริงเอาชนะตระกูลเหยียน ย่ำวิชาแพทย์ของตระกูลเหยียนจนจมอยู่ใต้เท้า...นางไม่ใช่คนไร้ความสามารถมาแต่ไหนแต่ไร“รบ..

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 557

    เดิมทีตอนนี้ คนกลุ่มแรกที่มาศูนย์การแพทย์จั๋วซือหรานจากทางตระกูลเหยียนนั้นก็ล้วนเป็นประชาชน ยิ่งไปกว่นั้นยังเป็นพวกที่จนกรอบแบบสุดๆด้วยเป็นคนที่แบกรับภาระค่ายารักษาของตระกูลเหยียนทางนั้นไม่ไหว ดังนั้นจึงมาหาจั๋วซือหรานทางนี้ พูดให้แย่หน่อยก็คือมาเพราะหวังของถูกกว่านั่นเองมีความหมายลักษณะหวังโชคอยู่ด้านในแต่คิดไม่ถึงว่าจะมาเจอโชคจังๆ เช่นนี้ เดิมทีคิดว่าถ้าได้ยารักษามาแบบเปล่าๆ แล้วเป็นยาที่มีประสิทธิภาพไปกิน ก็ถือว่าขอบคุณฟ้าขอบคุณดินได้แล้ว แต่พอได้ยินความหมายจากแม่นางจั๋วจิ่ว คือคิดจะรักษาโรคเรื้อรังเก่าบนตัวเขาให้ด้วย!ไม่ว่าจะรักษาได้หรือไม่ได้ แค่คำพูดนี้ของจั๋วซือหราน ก็เพียงพอที่จะให้ความหวังแก่คนแล้วยิ่งไปกว่านั้น พวกเขายังรู้มาว่าแม่นางคนนี้ คือคนที่เอาชนะวิชาแพทย์ตระกูลเหยียนมาอย่างชอบธรรม กระทั่งตระกูลเหยียนคิดจะใช้วิธีต่างๆ นานาก็ยังพลิกกระดานกลับไม่ได้“ขอบ...ขอบคุณ ขอบคุณแม่นางจั๋วมาก!”คนผู้นี้คุกเข่าลงทันที จั๋วซือหรานพอเห็นก็เหลือบมองไปทางพนักงานร่างกำยำ อีกฝ่ายก็เข้าใจทันที เข้ามาขวางคนผู้นี้ไว้จั๋วซือหรานเอ่ยต่อว่า “หัวเข่าไม่ค่อยดีก็อย่าเอาแต่คุกเข่าเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 558

    และเป็นกลุ่มคนที่เคยเข้าแถวอยู่หน้าศูนย์การแพทย์ตระกูลเหยียนก่อนหน้านี้พอเห็นพวกเขาเดินมาแต่ไกล เสียงของแพทย์คนหนึ่งในตระกูลเหยียนก็ดังขึ้น “ข้ากะไว้แล้ว พวกเขาจะช้าเร็วก็ต้องมานึกเสียใจ จะช้าเร็วต้องกลับมาหาพวกเรา”“จั๋วจิ่วเปิดร้านศูนย์การแพทย์ชั่วคราว ทำตำรับยาถูกๆ ไม่มีคุณสรรพคุณอะไร ก็แค่พวกไร้ฝีมือมีชื่อเสียงร้อยปีอย่างศูนย์การแพทย์ตระกูลเหยียนเสียที่ไหน”“ให้พวกเจ้ารอเสียนาน รักษาแล้วไม่มีผลจึงกลับมาหาพวกเราสินะ พวกเจ้าก็ไม่ควรเชื่อ...” ประโยคนี้ของแพทย์ตระกูลเหยียนยังไม่ทันพูดจบม่านตาเหยียนหยี่หลิงจึงหดลงมามองคนกลุ่มนี้ให้ชัดๆ ในใจเต้นตึกตัก จากนั้นจึงดึงแขนเสื้อของคนนี้ห้ามไม่ให้เขาพูดต่อแต่คำพูดที่แพทย์ตระกูลหยางพูดไปเมื่อครู่ก็มากเกินไปแล้วตอนนี้ กลุ่มคนที่เดินมาจากทิศของศูนย์การแพทย์จั๋วซือหราน ก็เดินมาถึงตรงหน้าพวกเขาแล้ว“ใครบอกว่าพวกเราเสียใจกัน?”“พวกเราไม่ได้มารักษากับพวกท่านเสียหน่อย!”“อย่ามาปิดทองใส่หน้าตัวเองเลย! เลิกใส่ร้ายแม่นางจั๋วจิ่วได้แล้ว!”“แม่นางจั๋วจิ่วต่างหากถึงเป็นผู้ทรงเมตตาช่วยเหลือคนตกทุกข์ได้ยาก แตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับพวกพ่อค้าตระกูลเห

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 559

    ผู้คนที่ยังเข้าแถวอยู่หน้าศูนย์การแพทย์ตระกูลเหยียน ก็เพราะเชื่อมั่นในตระกูลเหยียน รู้สึกว่าตระกูลเหยียนทำกิจกาจใหญ่โต มั่นคงน่าพึ่งพากว่าแต่ตอนนี้ก็มีกลับมี “ป้ายร้านมีชีวิต” ที่ซาบซึ้งต่อจั๋วซือหรานโผล่มามากถึงขนาดนี้ ประชาชนที่ก่อนหน้ายังสงสัยว่าจั๋วซือหรานจะไม่ดีเท่าตระกูลเหยียนที่กิจการใหญ่โต ก็เริ่มรู้สึกพลาดขึ้นมาจริงๆ แล้วลมพัดกลับไปทางจั๋วซือหรานอย่างฉับพลัน......จั๋วซือหรานอยู่ในศูนย์การแพทย์ ขณะที่กำลังล้างมือดื่มน้ำผู้จัดการร้านก็เอ่ยเสียงต่ำขึ้นมากับนาง “คุณหนู พอมีคนพวกนั้นไปทางตระกูลเหยียน น่าจะได้ผลอยู่กระมัง?”“ได้ผลแน่นอน ดังนั้นพวกเจ้าก็รีบดื่มน้ำดื่มท่าผ่อนคลายเอาไว้ อีกเดี๋ยวจะวุ่นกันแล้ว” จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้น“พวกเขาจะไหวหรือ? พวกเขาถึงอย่างไรก็เป็นแค่ประชาชนทั่วไป...”ในใจผู้จัดการร้านก็ไม่ค่อยมั่นใจ เพราะเขากับพนักงานเหล่านนี้ ล้วนเจอความลำบากจากตระกูลเหยียนมาแล้วทั้งนั้นจากที่พวกเขาเห็น ตระกูลเหยียนไม่ใช่ว่าจะรับมือง่ายๆดังนั้นพวกเขาจึงศรัทธาต่อจั๋วซือหรานมาก นั่นก็เพราะ พวกเขารู้สึกว่าตระกูลที่รับมือยาก พออยู่ต่อหน้าจั๋วซือหราน...ก็เหมือนจะเปลี

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 560

    เพียงไม่นาน ผู้คนที่เดินมาจากศูนย์การแพทย์ตระกูลเหยียนก็มาถึง ทยอยกันเข้าแถวยาวเหยียดที่ด้านนอกศูนย์การแพทย์จั๋วซือหรานและตระกูลเหยียนทางนั้น จากที่มีคนมาออกันแน่นราวกับตลาดนัก ก็ค่อยๆ เปลี่ยนเป็นเงียบเหงาแพทย์ของตระกูลเหยียนก็ว่างกันขึ้นมา จึงทยอยกันมองไปทางศูนย์การแพทย์จั๋วซือหรานมีเจตนาหาเรื่องอย่างชัดเจน คนในชุดตระกูลเหยียนกลุ่มนี้ เดินตรงไปยังประตูทางเข้าศูนย์การแพทย์จั๋วซือหรานอย่างมาดร้ายแต่ว่า...ขั้วอำนาจที่มาดร้ายยิ่งกว่าพวกเขาก็เข้ามาแล้ว!พอเห็นทหารในชุดเกราะเบามาตรฐานของทหารหน่วยป้องกันเมือง เดินเข้ามาอย่างพร้อมเพรียง ย่ำเท้าราวนกเค้าแมว และยังมีทหารในชุดเกราะหนังของหน่วยลาดตระเวน ล้วนเดินตรงมาทางประตูของศูนย์การแพทย์จั๋วซือหรานพอเห็นฉากนี้ เหล่าปราชนล้วนเกิดความลนลานขึ้นมาแต่พวกเขาก็มองเข้าใจแล้ว คนที่นำทางมาสองคนสวมเกราะแบบที่ระดับขุนพลใช้อย่างชัดเจนเห็นได้ชัดว่าเป็นสองขุนพลจากหน่วยลาดตระเวนและหน่วยป้องกันเมือง แม่ทัพอิงเซ่าจากหน่วยลาดตระเวนและแม่ทัพฉีฮ่าวจากหน่วยป้องกันเมืองเหล่าประชาชนถึงแม้จะรู้สึกไม่ค่อยดีนักกับพวกตระกูลต่างๆ กับราชวงศ์ก็อาจจะแบบเดียว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 561

    อิงเซ่ากับฉีฮ่าวเข้ามาด้วยกัน เดิมทีคิดว่าไม่ว่าอย่างไร ก็ต้องเชิญนางกลับไปรักษาทหารให้ได้พวกเขาทั้งสองคนเป็นแม่ทัพที่รักทหารราวกับบุตร ดังนั้นจึงมีเชื่อเสียงสูงส่งเช่นนี้แต่พอเห็นแถวด้านนอกศูนย์การแพทย์จั๋วซือหรานเช่นนี้ ทั้งหมดเป็นประชาชนที่กำลังรอให้จั๋วซือหรานรักษา พวกเขาทั้งสองคนก็รู้สึกผิดขึ้นมาบ้างแล้วจั๋วซือหรานพอได้ยิน ก็เชิดคางไปยังประชาชนที่ยังเข้าแถวอยู่ บอกกับพวกเขาว่า “นี่ พวกเจ้าดูเอาสิ ยังมีคนเข้าแถวอยู่ตั้งมากขนาดนี้”บนหน้าสีแทนของฉีฮ่าว สีหน้าร้อนรนขึ้นมา “ถ้า ถ้าเช่นนั้น...ไม่ทราบว่าแม่นางจิ่วต้องการเวลาเท่าไรจึงจะเสร็จเรื่องที่นี่หรือ?”“จริงๆ ก็น่าจะใกล้แล้ว เรื่องจ่ายยา แต่...” จั๋วซือหรานพูดขึ้นมาคำหนึ่งมีประชาชนที่เข้าแถวอยู่เอ่ยปากขึ้นมา “ท่านแม่ทัพ! แม่นางจิ่วเป็นผู้มีใจเมตตา! หนึ่งร้อยคนแรกจะไม่เก็บค่าใช้จ่ายของยา แล้วยังรักษาอาการเรื้อรังเดิมบนตัวพวกเราให้ด้วย!”จั๋วซือหรานมองไปทางฉีฮ่าวกับอิงเซ่า เหมือนยิ้มเหมือนไม่ยิ้ม “เอาอย่างนี้ท่านแม่ทัพทั้งสอง วัตถุดิบยาข้าเองก็ให้พนักงานเตรียมไว้เสร็จสรรพแล้ว พวกท่านเองก็พาคนมาด้วยพอดี”“ข้าขายวัตถุดิบยา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 562

    อิงเซ่ากับฉีฮ่าวหารือกันครู่หนึ่ง จึงตัดสินใจให้ฉีห่าวพาคนนำวัตถุดิบยากลับไป ส่วนอิงเซ่าจะอยู่ที่นี่ รอจนจั๋วซือหรานเสร็จธุระจั๋วซือหรานเองก็ไม่มีความเห็นใด เรื่องนี้จัดการเสร็จสิ้นแล้ว นางจึงกลับไปนั่งลงที่โต๊ะตรวจด้านใน ดูอาการให้กับประชาชนที่เข้าแถวต่ออิงเซ่าถึงอย่างไรก็ไม่มีอะไรทำ จึงคอยมองอยู่ข้างๆเขาไม่ได้หยาบกระด้างเหมือนฉีฮ่าว ความคิดเขาละเอียดยิ่งกว่า ดังนั้นเพียงไม่นานจากในขั้นตอนที่จั๋วซือหรานรักษาคนเหล่านี้ จึงสังเกตออกมาแล้วอิงเซ่าทอดถอนในใจ หญิงสาวตรงหน้าคนนี้ เป็นคนที่มีความสามารถจริงๆยิ่งไปกว่านั้นอิงเซ่ายังสังเกตเห็นแพทย์ตระกูลเหยียนที่อยู่ด้านนอกเหล่านั้นแล้วอิงเซ่าขมวดคิ้วเล็กน้อย เอ่ยถามเสียงต่ำกับจั๋วซือหราน “แม่นางจิ่ว แพทย์ตระกูลเหยียนข้างนอกนั่น มีเรื่องอะไรหรือ?”จั๋วซือหรานพอได้ยินก็แหงนตามอง ไม่ได้อธิบายอะไรละเอียดไม่จำเป็นต้องให้นางพูด ประชาชนที่อยู่ข้างๆ ก็เล่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นออกมาอย่างชัดเจนแจ่มแจ้ง“คนพวกนั้นแย่มากจริงๆ ! พวกเขาไม่ใช่แค่คิดจะรีดเงินพวกเรา แต่ยังคิดจะสาดน้ำสกปรกใส่แม่นางจิ่วอีกด้วย!”“ใช่เลย ถ้าไม่ใช่เพราะแม่นางจิ่วมีค

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29

บทล่าสุด

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 736

    "เดิมทีข้าแค่คิดจะจับเจ้าเป็นๆ พากลับไปสอบสวนเสียหน่อย ว่าเจ้าไปรเียนรู้ทักษะภาษาสัตว์ที่แทบจะสาปสูญไปแล้วของตระกูลซางมาได้อย่างไร" ซางเชวี่ยน้ำเสียงเย็นชาลงไปอีกจั๋วซือหรานมองนาง มุมปากยกขึ้นจนเป็นร้อยยิ้มจางๆ ไม่มีความอบอุ่นใดๆ กระทั่งไม่มีอารมณ์ใดอีกด้วยราวกับไม่ว่าซางเชวี่ยกับคนตระกูลซางพวกนี้จะพูดอะไรหรือทำอะไร ก็ไม่อาจส่งผลอะไรกับใจนางได้เลยจั๋วซือหรานเอ่ยขึ้น "คนที่บีบเค้นถามข้า บอกว่าข้าแอบเรียนวิชาแพทย์ของตระกูลพวกเขา ตอนนี้ยังนอนอยู่ในบ้าน บางครั้งก็อั้นฉี่ไม่ไหวอยู่เลย "จั๋วซือหรานมองดวงตาซางเชวี่ย "เจ้าอยากจะลองไหม?"ซางเชวี่ยหัวเราะเย็นชา "ข้ายังพูดไม่จบเลยนะ ข้าเดิมทีคิดจะจับเจ้าเป็นๆ แต่ตอนนี้ ข้าเปลี่ยนความคิดแล้ว คนอย่างเจ้า เป็นตัวแปรที่ไม่สามารถควบคุมได้ ไม่รู้ว่าจะเอาความยุ่งยากหรือการเปลี่ยนแปลงมามากแค่ไหน ตายๆ ไปเสียดีกว่า คนตายไปคือปลอดภัยที่สุด ไม่ว่าสำหรับใครก็เป็นเช่นนี้"เสียงเพิ่งหยุดลง ข้อมือของซางเชวี่ยก็สั่นไหวอย่างรุนแรงแสงเงินสายหนึ่ง รวดเร็วมาก! แล่นตรงเข้ามาทางจั๋วซือหรานจั๋วซือหรานหรี่ตาลงเล็กน้อย ยื่นมือออกทันทีแต่นางยังไม่ทันยื่นมือ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 735

    "นี่มัน...ไหมกู่?" ซางถิงอยู่ใกล้ๆ จั๋วซือหราน ดังนั้นจึงเห็นเส้นใยเหล่านี้ยิงออกมาจากมือนางและเพราะสามารถมองเห็นได้ชัด ดังนั้นซางถิงจึงมองออกรางๆ ว่าเส้นใยแต่ละเส้นเหล่านี้ กลับไม่เหมือนตาข่ายใยแมงมุมอะไรแต่คล้ายกับ...ไหมกู่ไหมกู่ที่แมลงกู่พ่นออกมาหญิงสาวคนนี้...ใช้วิชากู่ได้ด้วย!ซางถิงก่อนหน้านี้รู้สึกแค่ว่า จั๋วซือหรานถึงแม้จะเก่งกาจ แต่ว่าตนเองก็ออมมือไปบนเวทีด้วยไม่ได้ใช้วิญญาณเลือดอสูรออกมาด้วยซ้ำแต่ตอนนี้ดูแล้ว จั๋วซือหรานที่อยู่บนเวทีเองก็เหมือนจะออมมืออยู่ไม่น้อยเลย ทั้งสองฝ่ายต่างออมมือจนสู้ออกมาเป็นแบบนั้นคนของโถงตัดหัวตระกูลซาง เห็นได้ชัดว่าคิดไม่ถึงเหมือนกัน ว่าจั๋วซือหรานจะใช้วิชากู่ได้ด้วย!หญิงสาวคนนี้! คิด! จะทำอะไรกันแน่!วิชาแพทย์ วิชาสกัดยา วิชายุทธ์ ตอนนี้วิชาควบคุมสัตว์กับวิชากู่ก็ยัง...!คนของโถงตัดหัวล้วนมองนางอย่างระแวดระวัง หลังจากกันไหมกู่ของนางออกไปแล้ว ก็ยังไม่กล้าทำอะไรบุ่มบ่ามแต่ก็มีอยู่สองสามคนที่ไม่ระวังถูกไหมกู่ของนางเปื้อนเข้าไป ล้วนล้มลงพื้นครวญครางเจ็บปวดขึ้นมาสายตาซางเชวี่ยก็จับจ้องที่จั๋วซือหรานเช่นกัน "วิชากู่เจ้าก็เป็นด้วย

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 734

    "แต่จากที่ข้ารู้ แมลงพิษที่ใช้เป็นกู่มาหลอมได้...แมงมุมเองก็ถือเป็นหนึ่งในนั้น" จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้นพอจั๋วซือหรานพูดคำนี้ คนของโถงตัดหัว สีหน้าก็เปลี่ยนไปทันทีจั๋วซือหรานยิ้มๆ "เล่นกู่หรือ? ช่วงนี้ข้าก็สนใจกับการเล่นกู่เหมือนกัน ดังนั้น ตาข่ายของพวกเจ้า ฉันเลยทดสอบไปแล้ว ตอนนี้ตาข้าแล้วกระมัง?"ตอนที่จั๋วซือหรานพูดคำนี้ ซางถิงก็ตกตะลึงไปเขารู้สึกว่าคำพูดนี้ดูคุ้นหู ตอนอยู่บนเวที จั๋วซือหรานก็พูดแบบนี้กับเขาเหมือนกันและหลังจากที่นางพูดคำนี้ ก็โต้กลับอย่างรุนแรงใส่เขาทันทีตอนนี้ นางพูดแบบนี้ออกมาอีกครั้งไม่รู้เพราะอะไร ซางถิงรู้สึกว่า น่าจะเป็นความรู้สึกคล้ายๆ กับก่อนหน้านี้กระมังคนอย่างจั๋วซือหราน ตอนที่เป็นคู่ต่อสู้ของนาง คงรู้สึกตำมือเป็นอย่างมาก มาเจอคนแบบนี้ เหมือนเจอกับเข็มแหลมรอบด้านจริงๆไม่ว่าจะสัมผัสจากมุมไหน ก็ล้วนทิ่มแทงมือทั้งสิ้น!แต่ตอนที่ไม่ได้เป็นคู่ต่อสู้กับนาง แล้วมาเป็นสหายร่วมรบที่มีเป้าหมายเดียวกันก็เหมือนจะรู้สึกว่าวางใจได้อย่างประหลาดเลยทีเดียวตอนที่ได้ยินนางพูดเช่นนี้ ก็เหมือนจะไม่มีอะไรให้สับสนแล้วซางเชวี่ยหัวเราะเย็นชาขึ้นมาในกลุ่มโถงตัดหั

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 733

    "มันต้องไม่ปกติอยู่แล้ว! นั่นมันวิชาลับสืบทอดของโถงตัดหัว" ซางถิงเอ่ยขึ้น "ตาข่ายแมงมุมของพวกเขาล้วนหลอมขึ้นมา ก็เพราะเอาไว้ควบคุมฝ่ายตรงข้าม""ในเมื่อควบคุมจั๋วซือหรานได้แล้ว" ผู้หญิงเสียงเย็นชานั่นเอ่ยขึ้นมา "ก็เก็บซางถิงเสีย ข้าเห็นตอนที่เขาสู้กับจั๋วซือหรานบนเวที สู้จนหมดเรี่ยวหมดแรงแล้ว ยังไม่รู้ว่าจับแอบเก็บไพ่ตายอะไรที่ไม่อยากให้ใครเห็นไว้หรือเปล่า? ดูแล้วประหลาดๆ"ซางถิงพอได้ยินเนื้อหาคำพูดของซางเชวี่ย สีตาก็เปลี่ยนไปเขากำกำปั้นแน่น เขาซ่อนไพ่ตายความสามารถที่ไม่อยากให้คนอื่นรู้ไว้จริง เขาสามารถเปิดช่องพลังได้แต่ไม่เหมือนกับเปิดช่องพลังทั่วไป เขาไม่เพียงแต่สามารถเปิดช่องพลัง ยกระดับความสามารถตนเองขึ้นชั่วคราว ยิ่งไปกว่านั้น ยังไม่รู้สึกอ่อนล้าหลังจากที่ใช้พลังเกินตัวอีกด้วยเพราะการเปิดช่องพลังของเขา ไม่ได้เกิดจากใช้พลังงานของตนเองจนหมดแล้วดูดซับพลังวิญญาณฟ้าดินการเปิดช่องพลังของเขา คือใช้พละกำลังของสัตว์ที่ควบคุม ไม้ตายนี้เรียกว่า...วิญญาณเลือดอสูรไขาไม่เพียงแต่สามารถใช้พลังของสัตว์ที่ควบคุมได้ แต่ยังใช้พลังวิญญาณของสัตว์ควบคุมได้ในบางระดับด้วย กระทั่ง ยังสามารถทำให้

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 732

    เขาสัมผัสได้ว่าบนบาดแผลทั้งสองที่ถูกดาบของนางแทงไว้ จนทำให้หินต้องห้ามยังแตกก่อนหน้านี้เวลานี้มันคันยุบยิบ ราวกัยว่า...กำลังผสานอย่างรวดเร็วจั๋วซือหรานเอ่ยขึ้นเสียงต่ำ "รักษาให้เจ้าก่อน อีกเดี๋ยวถ้าสู้ขึ้นมา จะได้ไม่ขี้เกียจ"ซางถิงเกือบจะโมโหจนหัวเราะขึ้นมายังไม่ทันที่เขาจะได้พูด ในกลุ่มคนเหล่านั้นที่ล้อมเข้ามา ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้น"จั๋วซือหราน เจ้าสังหารลูกหลานตระกูลข้าไป แอบเรียนวิชาลับตระกูลข้า โทษนี้สมควรตาย แต่เห็นแก่ว่าเจ้าไม่ใช่คนในตระกูลเรา ไม่เข้าใจกฏเกณฑ์ของตระกูล จะไว้ชีวิตเจ้า แล้วจะพาเจ้ากลับไปช่วยอธิบายให้หน่อย ว่าไปร่ำเรียนวิชาลับตระกูลเรามาจากที่ไหน"จั๋วซือหรานพอได้ยินเนื้อหานี้ "เข้ามาเพราะความสามารถข้าจริงๆ ด้วย"ซางถิงหัวเราะเฮอะขึ้นมา เอ่ยเสียงต่ำกับจั๋วซือหรานว่า " ข้าก็บอกว่าแล้วไม่ได้มาหาข้า ในเมื่อมันไม่เกี่ยวกับข้า ข้าไปได้แล้วใช่ไหม?"จั๋วซือหรานหัวเราะเหอะๆ " อย่าสิ ข้ารักษาให้เจ้าแล้วนะ รับแล้วก็ตอบแทนกันหน่อยมันเป็นมารยาท"ซางถิงกัดฟัน "แล้วทำไมเจ้าไม่พูดเสียหน่อยว่าบาดแผลพวกนั้นมันมายังไง..."ตอนนี้เอง เสียง 'คาดโทษ' จั๋วซือหรานก่อนหน้านี้ก

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 731

    เพราะเวลาค่อนข้างดึกแล้ว กระทั่งสนามประลองทางนี้ก็ยังเงียบสงบ ดังนั้นที่นี่ต่อให้สู้กันขึ้นมาตอนนี้ ก็ไม่ได้ดึงดูดสายตาใครยิ่งไปกว่านั้น ตลาดมืดก็มีกฏของตลาดมืด คนของตลาดมืดก็มีวิถีการดำรงชีวิตของตนเองเช่นกันในนี้กฏที่ใช้ได้ทั่วไปข้อหนึ่งคือ...อย่ายุ่งเรื่องชาวบ้านดังนั้นพวกเขาต่อให้ตายกันที่นี่ ก็น่าจะไม่ส่งผลกระทบอะไรมากนักตลาดมืดฝังศพเอาไว้แทบทุกที่ นี่คือที่มาของคำพูดนี้ดังนั้นในกลุ่มคนเหล่านี้ หลังจากเข้ามาล้อมซางถิงกับจั๋วซือหรานแล้ว เดิมทีรอบๆ ก็ยังมีคนอยู่อีกส่วนหนึ่งดูจากท่าทางแล้วไม่ธรรมดาเลย ทยอยกันกระจายตัวออกเหมือนสัตว์ ตอนนี้ที่นี่จึงสงบมาก...แทบไม่มีคนเลยคืนเดือนมืดลมพัดแรง ค่ำคืนแห่งการสังหารดูจากเสื้อผ้าคนเหล่านี้ อันที่จริงยังมองไม่ออกถึงตัวตนฐานะแท้จริงของพวกเขาแตว่า ขอแค่คนรู้จริงเรื่องกลุ่มอย่างซางถิง ก็จะมองออกถึงกลุ่มได้อย่างรวดเร็วซางถิงมองกลุ่มออกจากเครื่องมือควบคุมสัตว์ของพวกเขาอย่างรวดเร็วซางถิงเอียงหน้าเล็กน้อย บอกกับจั๋วซือหรานด้านหลังว่า "ระวังด้วย คนพวกนี้ ทั้งหมดเป็นคนของโถงตัดหัวตระกูลซาง"โถงตัดหัว?" จั๋วซือรหานฟังคำนี้แล้วก็เอ่ย

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 730

    แต่ยังไม่ทันได้แตะไหล่ของจั๋วซือหราน นางก็มีปฏิกิริยากลับมาอย่างรวดเร็ว“เจ้า” จั๋วซือหรานเห็นหน้าคนด้านหลังอย่างชัดเจนผมสีขาวรุงรังกับดวงตาสีฟ้าทึมที่เป็นเอกลักษณ์ แสดงชัดถึงตัวตนฐานะของเขา นี่คือคู่มือที่ประลองกับนางบนเวทีเมื่อครู่นี้นั่นเองดวงตาสีฟ้าทึมของเขาจ้องมองจั๋วซือหราน “ข้ายังคิดว่าเจ้าไปแล้วเสียอีก ทำไม? กำลังรอข้าหรือ?”จั๋วซือหรานมองเขา “เจ้านี่...มั่นใจในตัวเองเสียจริงนะ”“ใช่สิ” รอยยิ้มในดวงตาสีฟ้าทึมของเขายิ่งเพิ่มมากขึ้น “ข้ากับเจ้ามันคนประเภทเดียวกัน เป็นพวกที่มั่นใจในตนเองแบบนั้น”จั๋วซือหรานหัวเราะ จากนั้นจึงเห็นแขนที่ห้อยอยู่ข้างตัวเขา ยังมีเลือดสดไหลอาบลงมา กลิ่นคาวเลือดบนตัวเขายังไม่หายไป“เจ้าน่าจะรักษาแผลก่อนแล้วค่อยมาพูดจาคุยโตนะ” จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้น“เรื่องเล็กน่า” ซางถิงเอ่ยตอบจั๋วซือหรานคิดๆ เอ่ยขึ้นว่า “เมื่อครู่เจ้าออมมือไว้ ไม่งั้นคงไม่เจ็บขนาดนี้”“ใช่เลย ข้าออมมือไว้ ก็เลยลดความยุ่งยากลงไปได้พอควร” ซางถิงตอบจั๋วซือหรานยิ้ม “อินเจ๋ออันไม่ใช่ความยุ่งยากหรือ?”“เขา? เขาจะไปยุ่งยากอะไร...” ซางถิงดูไม่ใส่ใจกับเรื่องนี้ เอ่ยต่อว่า “ข้าออมมือ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 729

    ได้ยินคำนี้ ฮั่วจือโจวยกมุมปากขึ้น “คุณหนูเฟิงสือ เจ้าคิดมากเกินไปแล้ว ข้าก็แค่อยากร่วมมือกับแม่นางจิ่วเท่านั้น”เฟิงหร่านมองเขา แม้บนปากจะไม่คัดค้าน แต่ในใจก็แอบคิด นั่นก็เพราะเจ้ายังสัมผัสไม่ได้ถึงเสน่ห์ของพี่หญิงจั๋วเท่านั้นส่วนเจี่ยงเทียนซิงที่อยู่ข้างๆ พอได้ยินคำพูดของเฟิงหร่าน ก็ไม่ได้ส่งเสียงอะไร เพียงแต่รอยยิ้มในดวงตาค่อยลดลงมาเท่านั้นครู่ต่อมา จึงเอ่ยเสียงต่ำขึ้นว่า “แต่ว่าตระกูลเฟิงของพวกเจ้า ไม่ใช่ว่าดูถูกซือหรานหรอกหรือ เพราะอะไรกัน? พวกเจ้าเห็นสิ่งนี้เป็นของไร้ค่า แต่ก็ไม่ยอมให้คนอื่นได้ครอบครองหรือ? ใหญ่โตเสียจริง”สำหรับคำพูดของเจี่ยงเทียนซิง เฟิงหรานกระทั่งโต้แย้งก็ยังแย้งออกมาไม่ได้นางริมฝีปากสั่นระริก ครึ่งมาจึงบอกว่า “สรุปคือ หลังจากนี้จะมีวิธีเอง”ฝูซูมองจากข้างๆ เขารู้แน่นอนว่าคุณหนูของตนเองยอดเยี่ยมแค่ไหนทำให้คนหลงใหลได้แค่ไหนและก็รู้ว่าคุณหนูเฟิงสือถูกคุณหนูทำให้หลงไปแล้ว การที่พูดแบบนี้ออกมาก็ไม่ได้ผิดอะไรแต่ปฏิกิริยาของเจี่ยงเทียนซิงนี่ กลับทำให้ฝูซูอดเหลือบมองเขาขึ้นมากหน่อยไม่ได้ในใจฝูซูก่อนหน้านี้ก็รู้สึกว่าเจี่ยงเทียนซิงคนนี้เหมือนจะ...รู้สึก

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 728

    “นี่ฝูซูกับเฮยหลิงยังไว้หน้าพวกเจ้าอยู่นะ ถึงยังไม่จับตะเกียบ ไม่อย่างนั้นพวกเจ้าแค่น้ำแกงก็ไม่ได้ชิมด้วยซ้ำ” เจี่ยงเทียนซิงวางตะเกียบลงหัวเราะฮั่วจือโจวไม่อยากเชื่อ ถามขึ้นว่า “นี่คือของที่แม่นางจั๋วจิ่วทำหรือ? จริงหรือเปล่า?”“เป็นของที่คุณหนูข้าทำเอง” ฝูซูพยักหน้าอินเจ๋ออันมองเขา ถามขึ้นว่า “คุณชายฮั่ว ยอมรับแล้วหรือยัง?”ฮั่วจือโจวถอนหายใจเบาๆ พยักหน้าเจี่ยงเทียนซิงเห็นท่าทางแขกยึดครองตำแหน่งเจ้าภาพของอินเจ๋ออันแล้วก็หัวเราะพรวดขึ้นมา “เปาน้อย เจ้าเองก็ไว้หน้าตัวเองหน่อยดีไหม คำพูดนี้ข้าต่างหากที่ควรถาม? เจ้าน่ะยอมรับแล้วหรือยัง?”“ถ้าข้าไม่ยอมรับ แล้วข้าจะเอาเงินมาให้พวกเจ้าด้วยตัวเองทำไมกัน?!” อินเจ๋ออันจ้องอย่างมาดร้ายไปทางเจี่ยงเทียนซิงตัวเขาเองอาจจะไม่ทันสังเกต ว่าตนเองกระทั่งลืมไปแล้วว่าต่อต้านชื่อเรีย ‘เปาน้อย’ อยู่เฟิงหร่านนั่งอยู่ข้างๆ ไม่พูดอะไรมาตลอด สนใจแค่การกินอาหารบนโต๊ะอย่างรวดเร็วราวพายุดูดเท่านั้นนางกินไปด้วย พิจารณาชายหนุ่มสามคนนี้ไปด้วยในใจจู่ๆ ก็เกิดความรู้สึกวิตกกังวลขึ้นมาเฟิงหร่านเกิดวิตกกังวลขึ้นมาแทนพี่ชายตนเอง นางชื่นชมในใจ พี่หญิงจั๋วน

DMCA.com Protection Status