แชร์

บทที่ 554

ผู้เขียน: หูเทียนเสี่ยว
เช่นนั้นก็เดาไม่ยากแล้ว

แต่สำหรับเรื่องที่จั๋วซือหรานเดาออกถึงปัญหาระหว่างพวกเขากับตระกูลเหยียนได้ทันที พวกเขาเองก็ประหลาดใจอยู่บ้าง

สีหน้าประหลาดใจแล่นผ่านใบหน้าของผู้จัดการร้าน เขาเอ่ยขึ้นว่า “คุณหนูฉลาดหลักแหลมเสียจริง ถูกต้อง พวกเราล้วนมีปัญหากับตระกูลเหยียนมาทั้งสิ้น”

“พวกเราล้วนเคยเป็นแพทย์ แตกต่างกับศูนย์การแพทย์ของตระกูลเหยียน พวกเราเป็นแพทย์ที่คอยรักษาโรคให้กับเหล่าประชาชน ไม่มีเบื้องหลังใดๆ ทั้งสิ้น”

“ตระกูลเหยียนในช่วงแรกรวบรวมแพทย์ไปหลายคน จัดส่งไปยังศูนย์การแพทย์ต่างๆ ของตระกูลเหยียน แล้วยังเคยคิดจะรับพวกเราไป แต่พวกเราปฏิเสธ”

“ดังนั้นจึงถูกตระกูลเหยียนเพ่งเล็ง ยิ่งไปกว่านั้น เนื่องจากเหยียนชางอยู่ในสถาบันแพทย์หลวง ถ้าเขาคิดจะแทรกแซงเข้ามา ตัวตนฐานะแพทย์ของพวกเราก็จะถูกส่งผลกระทบทั้งหมด”

จั๋วซือหรานเข้าใจความรู้สึกนี้ได้ดีที่สุด เพราะนางตอนแรกก็เพราะถูกเหยียนชางเข้าแทรกแซง จนนางไปสอบแพทย์ไม่ได้ และเบนเข็มไปสอบแพทย์กลั่นยาแทน...

จั๋วซือหรานเลิกคิ้ว

“คนเป็นแพทย์ต้องทำการทดสอบครั้งหนึ่งในทุกสามปี สอบผ่านแล้วจึงสามารถทำอาชีพแพทย์ต่อได้ แต่เพราะการแทรงแซงของตระกูลเหยียน
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 555

    พอเห็นฉากนี้ ทุกคนก็วางใจแล้วไหนจะจั๋วซือหรานที่ยังพูดต่อมาอีก “ยิ่งไปกว่านั้นถ้าพวกเขากล้าเข้ามาทำลายป้ายชิ้นนี้ ข้าก็จะจับเหยียนชางมาแล้วให้เขาเขียนให้ใหม่อีกแผ่น”“เช่นนั้นข้าเอาขึ้นไปแขวนเลยแล้วกัน” พนักงานร่างกำยำเอ่ยขึ้นจั๋วซือหรานคิดๆ เอ่ยต่อว่า “เอาเจ้านี้ไปแขวนไว้ข้างประตูเถอะ ส่วนชื่อของร้านยานี้ ข้าจะตั้งขึ้นมาใหม่”ผู้จัดการร้านรีบพยักหน้า “ได้เลย! ป้ายเปล่าเตรียมไว้ให้นานแล้วขอรับ ข้าจะไปหยิบมาให้ท่านเดี๋ยวนี้!”......ก่อนหน้านี้ที่จั๋วซือหรานพูดคำพูดเหล่านั้นในศูนย์การแพทย์ตระกูลเหยียน ก็เหมือนกับได้เพาะเมล็ดความสงสัยเมล็ดหนึ่งลงไปในใจของทุกคนมีบางคนสั่นคลอนขึ้นแล้ว แต่เพราะตระกุลเหยียนถึงอย่างไรก็ยังเป็นตระกูลใหญ่โต ดังนั้นในใจจึงยังมีความเชื่อมั่นให้กับตระกูลเหยียนอยู่แพทย์ของตระกูลเหยียนก็กำลังพยายามเตือนขึ้นว่า “ทุกท่านอย่าได้ไปเชื่อคำพูดเหลวไหลของนาง”“ทุกคนรู้กันดีอยู่แล้ว ว่านางกับตระกูลเหยียนมีความแค้นกันมานาน ดังนั้นนางจึงมาใส่ร้ายป้ายสีตระกูลพวกเรา”“ถ้าหากทุกท่านเชื่อคำพูดของนาง จนทำให้การรักษาล่าช้า ผลลัพธ์อาจจะเลวร้ายลงกว่าที่คิด...”“วัตถุดิบ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 556

    ดังนั้นจึงเห็นว่าบนป้ายที่แขวนอยู่เหนือประตูทางเข้า เขียนอักษรตัวใหญ่เอาไว้ว่า...ศูนย์การแพทย์จั๋วซือหรานลายมือทรงพลัง ลายเส้นคมชัด ไม่ได้ดูอ่อนหวานเหมือนลายเส้นของหญิงสาวเลยมองออกว่าหมึกยังไม่แห้ง น่าจะเป็นป้ายร้านที่เพิ่งเขียนหมาดๆและที่ข้างประตูยังมีป้ายแนวตั้งอีกแผ่น ด้านบนเขียนอักษรเอาไว้อย่างชัดเจนหลายตัว...วิชาแพทย์ตระกูเหลียนสู้จั๋วซือหรานไม่ได้เดิมทีพวกเขาก็ยังไม่ค่อยมั่นใจนักเพราะประสิทธิภาพตำรับยาของตระกูลเหยียนถูกยืนยันไปแล้ว จะต้องใช้ได้อย่างมั่นคงแน่ แต่ว่าของแม่นางจั๋วจิ่วทางนี้ ใครก็ยังไม่ชัดเจนทั้งนั้นแต่ว่า พอเห็นประตูศูนย์การแพทย์ของนาง พอเห็นป้ายนี้ในใจก็เริ่มมีความเชื่อมั่นกับความกล้าโผล่ขึ้นมาอย่างประหลาดจริงด้วย ต่อให้ศูนย์การแพทย์ของแม่นางคนนี้ไม่ได้มีรากฐานมั่นคงอย่างตระกูลเหยียน ไม่ได้มีชื่อเสียงอย่างตระกูลเหยียนแต่แม่นางคนนี้ก็ไม่ใช่คนไร้ความสามารถอะไร แต่ได้พิสูจน์ต่อหน้าคนทุกคน ต่อหน้าคนใหญ่โตจากหน่วยสืบสวนพิเศษมาแล้วอย่างแท้จริงเอาชนะตระกูลเหยียน ย่ำวิชาแพทย์ของตระกูลเหยียนจนจมอยู่ใต้เท้า...นางไม่ใช่คนไร้ความสามารถมาแต่ไหนแต่ไร“รบ..

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 557

    เดิมทีตอนนี้ คนกลุ่มแรกที่มาศูนย์การแพทย์จั๋วซือหรานจากทางตระกูลเหยียนนั้นก็ล้วนเป็นประชาชน ยิ่งไปกว่นั้นยังเป็นพวกที่จนกรอบแบบสุดๆด้วยเป็นคนที่แบกรับภาระค่ายารักษาของตระกูลเหยียนทางนั้นไม่ไหว ดังนั้นจึงมาหาจั๋วซือหรานทางนี้ พูดให้แย่หน่อยก็คือมาเพราะหวังของถูกกว่านั่นเองมีความหมายลักษณะหวังโชคอยู่ด้านในแต่คิดไม่ถึงว่าจะมาเจอโชคจังๆ เช่นนี้ เดิมทีคิดว่าถ้าได้ยารักษามาแบบเปล่าๆ แล้วเป็นยาที่มีประสิทธิภาพไปกิน ก็ถือว่าขอบคุณฟ้าขอบคุณดินได้แล้ว แต่พอได้ยินความหมายจากแม่นางจั๋วจิ่ว คือคิดจะรักษาโรคเรื้อรังเก่าบนตัวเขาให้ด้วย!ไม่ว่าจะรักษาได้หรือไม่ได้ แค่คำพูดนี้ของจั๋วซือหราน ก็เพียงพอที่จะให้ความหวังแก่คนแล้วยิ่งไปกว่านั้น พวกเขายังรู้มาว่าแม่นางคนนี้ คือคนที่เอาชนะวิชาแพทย์ตระกูลเหยียนมาอย่างชอบธรรม กระทั่งตระกูลเหยียนคิดจะใช้วิธีต่างๆ นานาก็ยังพลิกกระดานกลับไม่ได้“ขอบ...ขอบคุณ ขอบคุณแม่นางจั๋วมาก!”คนผู้นี้คุกเข่าลงทันที จั๋วซือหรานพอเห็นก็เหลือบมองไปทางพนักงานร่างกำยำ อีกฝ่ายก็เข้าใจทันที เข้ามาขวางคนผู้นี้ไว้จั๋วซือหรานเอ่ยต่อว่า “หัวเข่าไม่ค่อยดีก็อย่าเอาแต่คุกเข่าเ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 558

    และเป็นกลุ่มคนที่เคยเข้าแถวอยู่หน้าศูนย์การแพทย์ตระกูลเหยียนก่อนหน้านี้พอเห็นพวกเขาเดินมาแต่ไกล เสียงของแพทย์คนหนึ่งในตระกูลเหยียนก็ดังขึ้น “ข้ากะไว้แล้ว พวกเขาจะช้าเร็วก็ต้องมานึกเสียใจ จะช้าเร็วต้องกลับมาหาพวกเรา”“จั๋วจิ่วเปิดร้านศูนย์การแพทย์ชั่วคราว ทำตำรับยาถูกๆ ไม่มีคุณสรรพคุณอะไร ก็แค่พวกไร้ฝีมือมีชื่อเสียงร้อยปีอย่างศูนย์การแพทย์ตระกูลเหยียนเสียที่ไหน”“ให้พวกเจ้ารอเสียนาน รักษาแล้วไม่มีผลจึงกลับมาหาพวกเราสินะ พวกเจ้าก็ไม่ควรเชื่อ...” ประโยคนี้ของแพทย์ตระกูลเหยียนยังไม่ทันพูดจบม่านตาเหยียนหยี่หลิงจึงหดลงมามองคนกลุ่มนี้ให้ชัดๆ ในใจเต้นตึกตัก จากนั้นจึงดึงแขนเสื้อของคนนี้ห้ามไม่ให้เขาพูดต่อแต่คำพูดที่แพทย์ตระกูลหยางพูดไปเมื่อครู่ก็มากเกินไปแล้วตอนนี้ กลุ่มคนที่เดินมาจากทิศของศูนย์การแพทย์จั๋วซือหราน ก็เดินมาถึงตรงหน้าพวกเขาแล้ว“ใครบอกว่าพวกเราเสียใจกัน?”“พวกเราไม่ได้มารักษากับพวกท่านเสียหน่อย!”“อย่ามาปิดทองใส่หน้าตัวเองเลย! เลิกใส่ร้ายแม่นางจั๋วจิ่วได้แล้ว!”“แม่นางจั๋วจิ่วต่างหากถึงเป็นผู้ทรงเมตตาช่วยเหลือคนตกทุกข์ได้ยาก แตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับพวกพ่อค้าตระกูลเห

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 559

    ผู้คนที่ยังเข้าแถวอยู่หน้าศูนย์การแพทย์ตระกูลเหยียน ก็เพราะเชื่อมั่นในตระกูลเหยียน รู้สึกว่าตระกูลเหยียนทำกิจกาจใหญ่โต มั่นคงน่าพึ่งพากว่าแต่ตอนนี้ก็มีกลับมี “ป้ายร้านมีชีวิต” ที่ซาบซึ้งต่อจั๋วซือหรานโผล่มามากถึงขนาดนี้ ประชาชนที่ก่อนหน้ายังสงสัยว่าจั๋วซือหรานจะไม่ดีเท่าตระกูลเหยียนที่กิจการใหญ่โต ก็เริ่มรู้สึกพลาดขึ้นมาจริงๆ แล้วลมพัดกลับไปทางจั๋วซือหรานอย่างฉับพลัน......จั๋วซือหรานอยู่ในศูนย์การแพทย์ ขณะที่กำลังล้างมือดื่มน้ำผู้จัดการร้านก็เอ่ยเสียงต่ำขึ้นมากับนาง “คุณหนู พอมีคนพวกนั้นไปทางตระกูลเหยียน น่าจะได้ผลอยู่กระมัง?”“ได้ผลแน่นอน ดังนั้นพวกเจ้าก็รีบดื่มน้ำดื่มท่าผ่อนคลายเอาไว้ อีกเดี๋ยวจะวุ่นกันแล้ว” จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้น“พวกเขาจะไหวหรือ? พวกเขาถึงอย่างไรก็เป็นแค่ประชาชนทั่วไป...”ในใจผู้จัดการร้านก็ไม่ค่อยมั่นใจ เพราะเขากับพนักงานเหล่านนี้ ล้วนเจอความลำบากจากตระกูลเหยียนมาแล้วทั้งนั้นจากที่พวกเขาเห็น ตระกูลเหยียนไม่ใช่ว่าจะรับมือง่ายๆดังนั้นพวกเขาจึงศรัทธาต่อจั๋วซือหรานมาก นั่นก็เพราะ พวกเขารู้สึกว่าตระกูลที่รับมือยาก พออยู่ต่อหน้าจั๋วซือหราน...ก็เหมือนจะเปลี

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 560

    เพียงไม่นาน ผู้คนที่เดินมาจากศูนย์การแพทย์ตระกูลเหยียนก็มาถึง ทยอยกันเข้าแถวยาวเหยียดที่ด้านนอกศูนย์การแพทย์จั๋วซือหรานและตระกูลเหยียนทางนั้น จากที่มีคนมาออกันแน่นราวกับตลาดนัก ก็ค่อยๆ เปลี่ยนเป็นเงียบเหงาแพทย์ของตระกูลเหยียนก็ว่างกันขึ้นมา จึงทยอยกันมองไปทางศูนย์การแพทย์จั๋วซือหรานมีเจตนาหาเรื่องอย่างชัดเจน คนในชุดตระกูลเหยียนกลุ่มนี้ เดินตรงไปยังประตูทางเข้าศูนย์การแพทย์จั๋วซือหรานอย่างมาดร้ายแต่ว่า...ขั้วอำนาจที่มาดร้ายยิ่งกว่าพวกเขาก็เข้ามาแล้ว!พอเห็นทหารในชุดเกราะเบามาตรฐานของทหารหน่วยป้องกันเมือง เดินเข้ามาอย่างพร้อมเพรียง ย่ำเท้าราวนกเค้าแมว และยังมีทหารในชุดเกราะหนังของหน่วยลาดตระเวน ล้วนเดินตรงมาทางประตูของศูนย์การแพทย์จั๋วซือหรานพอเห็นฉากนี้ เหล่าปราชนล้วนเกิดความลนลานขึ้นมาแต่พวกเขาก็มองเข้าใจแล้ว คนที่นำทางมาสองคนสวมเกราะแบบที่ระดับขุนพลใช้อย่างชัดเจนเห็นได้ชัดว่าเป็นสองขุนพลจากหน่วยลาดตระเวนและหน่วยป้องกันเมือง แม่ทัพอิงเซ่าจากหน่วยลาดตระเวนและแม่ทัพฉีฮ่าวจากหน่วยป้องกันเมืองเหล่าประชาชนถึงแม้จะรู้สึกไม่ค่อยดีนักกับพวกตระกูลต่างๆ กับราชวงศ์ก็อาจจะแบบเดียว

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 561

    อิงเซ่ากับฉีฮ่าวเข้ามาด้วยกัน เดิมทีคิดว่าไม่ว่าอย่างไร ก็ต้องเชิญนางกลับไปรักษาทหารให้ได้พวกเขาทั้งสองคนเป็นแม่ทัพที่รักทหารราวกับบุตร ดังนั้นจึงมีเชื่อเสียงสูงส่งเช่นนี้แต่พอเห็นแถวด้านนอกศูนย์การแพทย์จั๋วซือหรานเช่นนี้ ทั้งหมดเป็นประชาชนที่กำลังรอให้จั๋วซือหรานรักษา พวกเขาทั้งสองคนก็รู้สึกผิดขึ้นมาบ้างแล้วจั๋วซือหรานพอได้ยิน ก็เชิดคางไปยังประชาชนที่ยังเข้าแถวอยู่ บอกกับพวกเขาว่า “นี่ พวกเจ้าดูเอาสิ ยังมีคนเข้าแถวอยู่ตั้งมากขนาดนี้”บนหน้าสีแทนของฉีฮ่าว สีหน้าร้อนรนขึ้นมา “ถ้า ถ้าเช่นนั้น...ไม่ทราบว่าแม่นางจิ่วต้องการเวลาเท่าไรจึงจะเสร็จเรื่องที่นี่หรือ?”“จริงๆ ก็น่าจะใกล้แล้ว เรื่องจ่ายยา แต่...” จั๋วซือหรานพูดขึ้นมาคำหนึ่งมีประชาชนที่เข้าแถวอยู่เอ่ยปากขึ้นมา “ท่านแม่ทัพ! แม่นางจิ่วเป็นผู้มีใจเมตตา! หนึ่งร้อยคนแรกจะไม่เก็บค่าใช้จ่ายของยา แล้วยังรักษาอาการเรื้อรังเดิมบนตัวพวกเราให้ด้วย!”จั๋วซือหรานมองไปทางฉีฮ่าวกับอิงเซ่า เหมือนยิ้มเหมือนไม่ยิ้ม “เอาอย่างนี้ท่านแม่ทัพทั้งสอง วัตถุดิบยาข้าเองก็ให้พนักงานเตรียมไว้เสร็จสรรพแล้ว พวกท่านเองก็พาคนมาด้วยพอดี”“ข้าขายวัตถุดิบยา

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 562

    อิงเซ่ากับฉีฮ่าวหารือกันครู่หนึ่ง จึงตัดสินใจให้ฉีห่าวพาคนนำวัตถุดิบยากลับไป ส่วนอิงเซ่าจะอยู่ที่นี่ รอจนจั๋วซือหรานเสร็จธุระจั๋วซือหรานเองก็ไม่มีความเห็นใด เรื่องนี้จัดการเสร็จสิ้นแล้ว นางจึงกลับไปนั่งลงที่โต๊ะตรวจด้านใน ดูอาการให้กับประชาชนที่เข้าแถวต่ออิงเซ่าถึงอย่างไรก็ไม่มีอะไรทำ จึงคอยมองอยู่ข้างๆเขาไม่ได้หยาบกระด้างเหมือนฉีฮ่าว ความคิดเขาละเอียดยิ่งกว่า ดังนั้นเพียงไม่นานจากในขั้นตอนที่จั๋วซือหรานรักษาคนเหล่านี้ จึงสังเกตออกมาแล้วอิงเซ่าทอดถอนในใจ หญิงสาวตรงหน้าคนนี้ เป็นคนที่มีความสามารถจริงๆยิ่งไปกว่านั้นอิงเซ่ายังสังเกตเห็นแพทย์ตระกูลเหยียนที่อยู่ด้านนอกเหล่านั้นแล้วอิงเซ่าขมวดคิ้วเล็กน้อย เอ่ยถามเสียงต่ำกับจั๋วซือหราน “แม่นางจิ่ว แพทย์ตระกูลเหยียนข้างนอกนั่น มีเรื่องอะไรหรือ?”จั๋วซือหรานพอได้ยินก็แหงนตามอง ไม่ได้อธิบายอะไรละเอียดไม่จำเป็นต้องให้นางพูด ประชาชนที่อยู่ข้างๆ ก็เล่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นออกมาอย่างชัดเจนแจ่มแจ้ง“คนพวกนั้นแย่มากจริงๆ ! พวกเขาไม่ใช่แค่คิดจะรีดเงินพวกเรา แต่ยังคิดจะสาดน้ำสกปรกใส่แม่นางจิ่วอีกด้วย!”“ใช่เลย ถ้าไม่ใช่เพราะแม่นางจิ่วมีค

บทล่าสุด

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1078

    หลงเฉินเนื่องจากร่างกายแบกพลังมังกรหนามม่วงไว้ แต่สิ่งที่ต้องนำมาสะกดนั้นตรงข้ามกับเฟิงเหยียนหลงเฉินเป็นประเภทที่ต้องพึ่งพาคุณสมบัติต่อพิษ ถ้าหากไม่มีการหาสิ่งที่พิษ พิษของมังกรหนามม่วงในร่างกายก็จะเริ่มทำร้ายตนเองอันที่จริงถ้าหากจั๋วซือหรานอยู่ที่นี่แล้วมีปฏิกิริยากับเนื้อหาที่เฟิงเหยียนพูดมาล่ะก็ คงจะมีคำจำกัดความให้อย่างรวดเร็วว่า:นี่มันก็เหมือนกับติดยาเสพติดนี่นาสถานการณ์ของหลงเฉินตอนนี้เป็นเช่นนี้จริงๆ"เพราะที่พรมแดนใต้มีสิ่งมีพิษอยู่มากกว่า" เฟิงเหยียนเอ่ยขึ้น "แต่ก่อน บางทีท่านก็หายไประยะหนึ่ง บอกว่าตนเองปิดด่าน หลังจากกลับมาสีหน้ากับสภาพก็ไม่ค่อยสู้ดีนักตอนนี้พอคิดๆ ดู ท่านก็น่าจะไปเอาสิ่งมีพิษมาใช้ประโยชน์กับตัวเองสินะ...ท่านอยู่แค่ในป่านี้ ก็เพราะที่นี่มีหมอกพิษข้าเดาว่าท่านคิดจะสูดรับหมอกพิษเหล่านี้แล้ว ค่อยไปยังใจกลางหมอกพิษเอาสมบัติที่ก่อหมอกพิษหนาแน่นนี้มาใช้ประโยชน์กับตนเองและสาเหตุที่ก่อนหน้านี้ท่านลงมือกับสัตว์อสูรของจั๋วเสียวจิ่ว ก็น่าจะเพราะแมงมุมตัวนั้นไปพบกับสมบัติที่ใจกลางหมอกพิษ แล้วกำลังจะเก็บมันมาสินะยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นเพราะ แมงมุมตัวนั้นก็เ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1077

    เฟิงเหยียนหลังจากพูดคำนี้ ก็ได้เห็นสีหน้าหลงเฉินเปลี่ยนเป็นเย็นชากับปั้นยากอย่างที่หวังเอาไว้ชั่วพริบตา เฟิงเหยียนก็รู้สึกสุขล้นขึ้นมาก่อนหน้านี้อันที่จริงเขาไม่ใช่คนนิสัยแบบนี้ หลายครั้ง ที่เขาขี้เกียจจะไปคิดเล็กคิดน้อยกับคนอื่นการพูดจาแทงใจดำคนอื่นเช่นนี้ เป็นความสามารถของจั๋วซือหรานนางเหมือนจะมีความสามารถที่พูดแค่ไม่กี่คำ ก็ทำให้คนอื่นโมโหหัวฟัดหัวเหวี่ยงได้และเฟิงเหยียนในตอนนี้ ก็เหมือนจู่ๆ เข้าใจถึงความสุขนั้นขึ้นมาแล้ว?ถึงอย่างไร พอเห็นคนที่ไม่ชอบหน้า เห็นสีหน้ากับหน้าตาที่ปั้นยากนั่นในใจก็รู้สึกเป็นสุขมากกว่าธรรมดา"หญิงสาวคนนั้นบ้าบิ่นหยิ่งยโสนัก" เสียงของหลงเฉินเอ่ยขึ้นมาโดยไม่เหลือความอบอุ่น "ดูท่าก่อนหน้านี้ข้าจะใจดีไป ถึงได้ปล่อยนางหนีไปกับเจ้า""องค์กรเดิมทีก็คิดจะกำจัดนางอยู่แล้ว ข้าเห็นแก่หน้าเจ้าหรอกนะ ถึงไม่ได้ทำอะไรนาง" หลงเฉินยิ้มเย็นชา "แต่นี่ก็ไม่รู้ผิดชอบชั่วดีจริงๆ จัดการนางทิ้งน่าจะดีกว่า"เฟิงเหยียนเหลือบมองเขาผาดหนึ่ง "ท่านอย่ามาทำเป็นแข็งกร้าวนักเลย""โอ๋?" หลงเฉินมองเขา "ข้าแข็งกร้าวเรอะ?"เฟิงเหยียนเอ่ยเสียงเรียบ "ถ้าท่านรีบออกจากป่านี้ เ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1076

    ท้ายสุดก็ยังไม่สามารถให้อภัยได้ สักนิดก็ไม่ได้ ดังนั้นจึงตัดความสัมพันธ์กับอาจารย์ แยกทางกับพี่น้องไปเขาสูงทะเลกว้าง ราวกับไม่มีวันได้พบกันอีกชั่วระยะเวลาหนึ่ง เหล่าพี่น้องล้วนรู้สึกว่าเขาทำผิดไปแต่เฟิงเหยียน ทุกคนล้วนยอมรับว่าเขาเป็นคนที่ดื้อรั้น แม้ว่าจะผิด แต่เขาก็ยืนยันที่จะเดินไปจนถึงที่สุดแต่ว่า...หลังจากนั้นล่ะแล้ว...ตอนนี้ล่ะ?เฟิงเหยียนมองเรียบๆ ไปเบื้องหน้า...มองไปยังอดีตอาจารย์ที่เคยเป็นบุคคลที่ยิ่งใหญ๋ในสายตาเขาเสียงของเฟิงเหยียนไม่ได้เย็นชาอะไร หรือห่างเหินโกรธแค้นอย่างไรมีแต่ความสงบความสงบที่ไม่มีอาการขึ้นลงของอารมณ์ดวงตาที่เฟิงเหยียนมองหลงเฉิน ถามขึ้นเสียงเรียบว่า "พวกเขาเคยบอกว่าข้าทำผิด พวกเขาล้วนคิดว่า ท่านแค่ทำเพื่อข้า เป็นข้าที่ไม่รู้ผิดชอบชั่วดี เป็นข้าที่ทำให้มันเป็นเรื่องใหญ่""แต่พวกเขาตอนนี้ ไปอยู่ที่ไหนกันแล้ว?" เฟิงเหยียนถามขึ้นหลังจากนั้น ความสงบที่อบอุ่นบนหน้าหลงเฉิน ก็เหมือนพังทลายลงในพริบตา เผยให้เห็นความมืดมนราวกับถูกย่ำลงไปบนจุดเจ็บอย่างไรอย่างนั้นศิษย์เหล่านั้นที่เคยรายล้อมอยู่รอบตัวเขา ทุกวันเหมือนเต็มไปด้วยความสดใสมีชีวิตชีวา

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1075

    จะเรียกว่าเยี่ยนหรานหรือว่าเฟิงเหยียนก็ได้ทั้งนั้น แต่คำว่าศิษย์นั้นไม่ได้เขาตัดขาดความสัมพันธ์กับหลงเฉินไปแล้ว และไม่ใช่ศิษย์ของเขานานแล้วหลงเฉินได้ยินเขาพูดเช่นนี้ ก็ฟังออกถึงความหมายของเขาจึงหัวเราะเสียงต่ำขึ้นมา "เป็นเด็กดื้อจริงๆ มิน่าตอนนั้นอวิ๋นเอ๋อร์กับเซิ่นเอ๋อร์ถึงได้ทะเลาะกับเจ้า"พอได้ยินสองชื่อนี้ มุมปากเฟิงเหยียนก็เม้มแน่นขึ้นมาตอนนั้นศิษย์ที่อยู่ใต้สังกัดของหลงเฉินไม่ใช่มีแค่เขา แต่ยังมีศิษย์คนอื่นอยู่ด้วยแม้เขาจะนิสัยค่อนข้างเย็นชา แต่เพราะพรสวรรค์ที่ยอดเยี่ยม จึงได้รับความโปรดปรานจากหลงเฉินมากศิษย์คนอื่น แม้อันที่จริงตอนนั้นจะมีความผูกพันธ์ฉันท์พี่น้องลึกซึ้ง แต่ในกลุ่มเด็กหนุ่มที่ชอบแข่งขัน ก็ย่อมมีคนอิจฉาที่เขาได้ความรักจากอาจารย์มากที่สุดในกลุ่มเด็กหนุ่ม ไม่มีความแค้นฝังลึกอะไรแบบนั้น ก็แค่อิจฉาริษยาเท่านั้น ทะเลาะกันสักยกก็จบเรื่องแต่เฟืงเหยียนไม่ว่าจะสู้กับคนอื่นอย่างไร ก็ไม่เคยก้มหน้าให้ดื้อแพ่งสุดๆและต่อมา ในที่สุดเขาก็ตระหนักได้ ว่าตนเองถูกอาจารย์รังแก ถูกทรยศมาตลอดเหตุผลตั้งแต่ต้นจนจบ ก็แค่เพราะเข้าเหมาะที่จะเป็นภาชนะหงส์แดงมากที่สุดเท่า

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1074

    เพียงแต่ว่า ถ้าจะให้พูดจริงๆ เฟิงเหยียนเองก็อาจจะไม่รู้ว่าเพราะอะไร หลังจากออกเมืองหลวงมาก็อยากจะติดตามหญิงสาวคนนั้นทั้งที่จำไม่ได้แล้วแท้ๆ ทั้งที่ตัดสินใจจะขีดเส้นคั่นแล้วแท้ๆแต่ก็ยังตามนางมาเพราะรู้ว่านางระแวดระวังแค่ไหน ก็เลยใช้วิะีการแปลงโฉมที่เป็นเอกลักษณ์ และไม่เข้าใกล้นางอยู่ตลอด จนกระทั่งนางเข้ามาในป่าทวนแสงนี้พอมาถึงพื้นที่ป่าที่หมอกพิษหนาทึบ สัมผัสของคนเราก็จะอ่อนแอลง ตอนนี้จึงร่นระยะเข้าใกล้ขึ้นมาและเพราะเหตุนี้ จึงได้มองออกถึงหลงเฉิน...ภาชนะมังกรหนามม่วงตั้งแต่แรกเห็นหลงเฉินเป็นอาจารย์ของเขา หนึ่งในภาชนะสัตว์เทพที่สภาผู้อาวุโสรวบรวมเข้ามาตอนนั้นที่สภาผู้อาวุโสให้หลงเฉินได้เจอกับเขา สั่งสอนเขา ให้เขาพึ่งพาศรัทธาเป็นอาจารย์ เป้าหมายหลักๆ แล้ว อันที่จริงก็คือแบบนั้นสภาผู้อาวุโสหวังจะรวบรวมภาชนะหงส์แดงเข้ามา เพียงแต่เนื่องจากตระกูลเฟิงเจ้าเล่ห์เกินไป เพื่อรับประกันว่าตระกูลตนเองยังสามารถใช้ประโยชน์พลังของสัตว์เทพได้ จึงใช้มันออกมาแทบทุกวิถีทางไม่ว่าจะพันธนาการดวงวิญญาณของสัตว์เทพ หรือลงมือกับภาชนะสัตว์เทพอย่างเขาดังนั้นสภาผู้อาวุโสจึงทำไม่สำเร็จ ดังนั้นจึงทำ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1073

    เหล่าสัตว์ประหลาดในใจก็บริสุทธิ์มากๆ ความเชื่อมั่นและการพึ่งพาต่อจั๋วซือหรานของพวกมันดังนั้นพอได้ยินคำนี้ของจั๋วซือหราน จึงรู้สึกว่าจั๋วซือหรานเหมือนน้อยเนื้อต่ำใจอย่างไรอย่างนั้นขนมถั่วแดงเอ่ยขึ้นฮึดฮัด "ใครกล้ามารังแกนายท่านของข้า? ข้าจะไปจัดการเขาคนแรกเลย!""ข้าคนที่สอง..." ขนมมะม่วงเอ่ยขึ้นเสียงอ่อย"ข้าคนที่สาม...""ข้าคนที่สี่...""..."อารมณ์จั๋วซือหราน เหมือนถูกเจ้าก้อนเนื้อพวกนี้แหย่ให้ดีขึ้นมาพอควรนางยื่นมือไปจับสองตัวเข้ามา นวดคลึงไว้ในมือเหมือนกับคนแก่คลึงบอลเพื่อสุขภาพนวดไปด้วยก็เอ่ยขึ้นด้วยเสียงหัวเราะ "มีพวกเจ้าอยู่ข้าก็อารมณ์ดีแล้ว ถ้าอารมณ์ไม่ดี พวกเราก็ไปหาคนกับหาเรื่องระบายให้ดีก็พอแล้ว"ราชาแมงมุมหน้าผีได้ยินน้ำเสียงของจั๋วซือหรานเหมือนดีขึ้นมาไม่น้อย จึงผ่อนลมลงมา "ได้ ข้าจะไปสั่งสอนเจ้าพวกตระกูลเหอนั่นพร้อมนายท่านเลย""ใช่เลย" จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้น "พูดถึงตระกูลเหอ...ไอ้ของที่ข้าโยนเข้ามาในมิติเมื่อครู่ล่ะ?"เดิมทีน่าจะเป็นของที่น่าสนใจอยู่ แต่ดันถูกเจ้ามนุษย์กิ้งก่านั่นมาขัด นางจึงลืมไปเลย ตอนนี้เพิ่งจะนึกออกหุ่นเชิดตัวนั้นล่ะ?ราชาแมงมุมหน้าผียื

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1072

    จั๋วซือหรานคิดๆ "ไม่รู้ว่าจะเรียกอย่างไรดี?" นางยิ้มตาโค้ง "ในอนาคตข้าจะหาวิธีตอบแทนเจ้าแน่"ชายหนุ่มนิ่งงันไปครู่หนึ่ง เอ่ยเสียงต่ำออกมาคำหนึ่ง "เยี่ยนหราน""เยี่ยนหราน?" จั๋วซือหรานรู้สึกไม่ค่อยเหมาะสม ตนเองทำแบบนี้ก็ไม่ค่อยมีมารยาท จึงยื่นมือไปตรงหน้าเขา "สองตัวอักษรไหนหรือ?"ชายหนุ่มเห็นนางยื่นฝ่ามือขาวนวลมาตรงหน้า สายตานิ่งงันไปครู่หนึ่งมุมปากยกขึ้น ค่อยๆ ยกมือขึ้นมา มือข้างหนึ่งประคองหลังมือนาง นิ้วของมืออีกข้างก็วาดลงไปเบาๆ บนฝ่ามือนาง"คำว่าเยี่ยนที่แปลว่าสงบ หรานที่แปลว่าเผาไหม้" ชายหนุ่มเอ่ยตอบเขาชะงักไป เหมือนนึกอะไรออกขึ้นมา ถามว่า "แม่นางชื่อว่าอะไรหรือ?"จั๋วซือหรานมองเขาอย่างครุนคิด ดวงตาลึกซึ้งขึ้นมาแต่ว่าสีหน้าของชายคนนี้ ก็ไม่ได้เปลี่ยนไปมากนักจั๋วซือหรานจึงตอบว่า "สกุลจั๋ว จั๋วซือหราน ยินดีที่ได้รู้จัก" ในดวงตาของนางมีรอยยิ้มที่ดูลึกลับ "เช่นนั้นพวกเราก็มีวาสนากันสินะ มีชื่อหรานด้วยกันทั้งคู่"ชายหนุ่มไม่พูดอะไรมาก เพียงเอ่ยขึ้นว่า "ในป่านี้อันตราย เจ้ารีบออกจากที่นี่จะดีที่สุด ไม่รู้ว่าเจ้านั้นถ้าตั้งตัวแล้วหาที่นี่เจอ คงได้วุ่นวายกันพอดี"จั๋วซือหราน

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1071

    "ความหมายของเจ้าคือ มนุษย์กิ้งก่าเมื่อครู่นี้..." จั๋วซือหรานเรียกว่าคำว่า 'มนุษย์มังกร' ออกมาไม่ได้จริงๆ นางเอ่ยต่อว่า "บนตัวถูกปิดผนึกพลังของมังกรหนามม่วงไว้หรือ?"และเหมือนเพราะนางตอบสนองได้รวดเร็ซ สายตาของชายหนุ่มที่มองไปทางนาง ก็พยักหน้าให้อย่างชื่นชม"พวกองค์กร...ที่มีพลังค่อนข้างลึกล้ำบางส่วน จะรวบรวมพลังพวกนี้ไว้" ชายหนุ่มเอ่ยขึ้น "เลี้ยงคนแบบนี้เอาไว้ในองค์กร เหมือนกับชุบเลี้ยงอาวุธไว้นั่นล่ะ เป็นดาบที่ใช้การได้ดีเลยทีเดียว"พริบตาที่ได้ยินคำนี้ จั๋วซือหรานก็อดคิดไปถึงสภาผู้อาวุโสนั่นไม่ได้นางขมวดคิ้ว ครุ่นคิด แล้วก็ยังถามขึ้นว่า "ถ้าพลังแข็งแกร่งพอล่ะก็ ยังถูกพวกองค์กรพวกนี้ควบคุมได้อีกหรือ?"ชายหนุ่มไม่ได้พยักหน้าและส่ายหัวให้กับคำพูดนี้ของจั๋วซือหราน หลังจากที่ชะงักไปเล็กน้อย จึงเอ่ยขึ้นว่า "องค์กรที่พลังลึกล้ำเช่นนี้ ก่อนที่จะทำให้คนเหล่านี้เปลี่ยนเป็นเช่นนี้ ก็น่าจะเตรียมตัวเอาไว้ล่วงหน้าแล้ว ไม่มีทางที่จะให้ดาบที่ตนเองตีไว้ ต้องหันมาเฉือนมือตนเองแน่นอน..."ในน้ำเสียงเขามีอาการทอดถอนใจอยู่ "และหนทางเดียวของคนเหล่านี้ ก็คือการตื่นขึ้น แต่การตื่นนั้นก็ยังยากยิ่งกว่าข

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1070

    จากนั้นจึงได้ยินเขาเสริมมาให้คำหนึ่ง "ยิ่งไปกว่านั้น เขาเองก็ไม่ใช่กิ้งก่าด้วย"จั๋วซือหรานมองเขา "ไม่ใช่กิ้งก่า? แต่เกล็ดหนังทั้งตัวนั่น...แล้วนิสัยเป็นศัตรูกับพวกแมลง ก็ไม่น่าจะเป็นของพวกจระเข้หรือเปล่า..."จั๋วซือหรานพูด น่าจะเพราะรู้สึกว่าคำพูดต่อจากนี้มันน่าขำ ดังนั้นจึงหัวเราะขึ้นมา เอ่ยต่อว่า "คงไม่ได้เป็นมังกรหรอกนะ..."จากนั้น นางจึงเห็นว่า...ชายหนุ่มคนนี้ หลังจากได้ยินนางพูดเช่นนี้ ก็จ้องมาที่นาง ไม่พูดอะไรจั๋วซือหรานตกตะลึงไป นางกัดริมฝีปาก "หรือว่าเป็นจริงๆ...?"แม้จะยอมรับโลกแฟนตาซีนี้ได้นานแล้ว กระทั่งหงส์แดงก็ยังมีเลย นางเองก็ยังยอมรับได้ แต่ว่า...มังกรหรือ?แม้จะบอกว่าพลังของคนเมื่อครู่ทำให้นางเกิดความรู้สึกอันตรายขึ้นา แต่...มังกรเนี่ยนะ?!ชาติที่แล้วนางมาจากแผ่นดินใหญ่ แนวคิดเรื่องมังกร มันไม่ใช่แค่รูปลักษณ์เท่านั้น แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ที่ฝังรากลึกใจเชิงวัฒนธรรม เป็นคำที่สื่อถึงความหมายดีดีมีศิริมงคลแต่เมื่อกี้นี้มัน...จั๋วซือหรานขมวดคิ้ว "มังกรดีดีที่ไหนที่หน้าตาเป็นแบบนั้นกัน...ดูแล้วอย่างกับถูกดองเอาไว้อย่างไรอย่างนั้น"ชายหนุ่มเดิมทีที่มีสีหน้าเคร่งขรึ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status