Share

บทที่ 466

Author: หูเทียนเสี่ยว
last update Last Updated: 2024-10-29 19:42:56
“หน่วยตระเวนรักษาความปลอดภัย หน่วยป้องกันเมือง และตลาดมืด”

หลังจากได้ยินสิ่งที่พวกเขาพูด จั๋วซือหรานส่งเสียง'เชอะ'หนึ่งที "นี่คือคำสั่งของเจ้านายที่พวกเจ้าไม่กล้าเปิดเผยชื่อ หรือเป็นคำสั่งของนักปราชญ์หญิงของพวกเจ้า"

“นี่ไม่ใช่คำสั่งของเจ้านายขอรับ” พวกเขาตอบ

“ดูท่าทาง นักปราชญ์หญิงไม่ธรรมดาเลยจริง ๆ …” จั๋วซือหรานส่งเสียง'เชอะ' “หน่วยตระเวนรักษาความปลอดภัย หน่วยป้องกันเมือง ตลาดมืด...ล้วนเป็นสถานที่สำคัญ”

ในขณะนี้มีเสียงไอดังที่ประตู

ซือคงเซี่ยนยืนอยู่ที่ประตู เขากังวลเล็กน้อย "ซือหราน..."

จั๋วซือหรานมองไปที่เขา "หืม? เจ้ามาที่นี่ทำไม"

“ข้าเป็นห่วง ข้าได้ยินเสียงของทางนี้ เลยเข้ามาดู” ซือคงเซี่ยนพูด จากนั้นเขาก็ทำความเคารพชิ่งหมิง “ขออภัยในการรบกวนขอรับจริง ๆ ”

ชิ่งหมิงไม่ได้พูดอะไรและดูเหมือนเขาไม่สนใจ

แม้ว่าซือคงเซี่ยนไม่ได้ฟังรายละเอียดต่าง ๆ ทั้งหมด แต่เขาก็สามารถเดาคร่าว ๆ จากชื่อสถานที่สามแห่งนี้ได้

“... ซือคงยวี่ลงมือแล้วหรือ” ซือคงเซี่ยนอธิบายทีละข้อ “หากหน่วยป้องกันเมืองอยู่ในความสับสนวุ่นวาย ประตูป้องกันของเมืองหลวงที่เดิมมั่นคงมากก็จะพังทลายลงอย่างง่ายดาย”

“และหาก
Locked Chapter
Continue to read this book on the APP

Related chapters

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 467

    ยังคงมีบรรยากาศอันเคร่งขรึมในจวนเฟิงเฟิงเหยียนนั่งอยู่ในห้องโถงด้วยสายตาอันเย็นชา เขาฟังะการพูดคุยของเหล่าผู้อาวุโสจากแต่ละครอบครัวไม่มีการแสดงออกบนใบหน้าของเขา เขาคงรู้สึกเย็นชากับสถานการณ์เช่นนี้ เพราะเขาเห็นมันหลายครั้งเหลือเกินจนกระทั่งจ้านหลูเดินเข้ามาจากประตูและเดินไปด้านข้างของเขา สีหน้าของเฟิงเหยียนก็เปลี่ยนไปเล็กน้อยเขาเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย และมองจ้านหลูที่ยืนอยู่ข้างกาย จากนั้นเขากระซิบว่า "เป็นอย่างไรบ้าง"จ้านหลูกระซิบข้างหูของเขาว่า "หลังจากแม่นางจิ่วออกจากจวนเฟิง แม่นางก็มุ่งหน้าไปที่หน่วยสืบสวนพิเศษ ข้าติดตามห่าง ๆ กับแม่นางอยู่ขอรับ แม่นางไม่ได้สังเกตข้าขอรับ"เมื่อได้ยินคำพูดของจ้านหลู เฟิงเหยียนพยักหน้าแต่จ้านหลูยังพูดไม่จบ เขาพูดต่อ "...จากนั้นข้าสังเกตนอกจากข้า ยังมีอีกสองคนที่ติดตามแม่นางจิ่วเช่นกันขอรับ"มีสีหน้าเย็นชาในดวงตาของเฟิงเหยียน เขายังคงเงียบ แต่เขาเงยหน้าขึ้น และมองจ้านหลู การมองเช่นนี้พอที่จะให้จ้านหลูเข้าใจความหมายของเขาเขาพูดต่อทันที "ข้ามองเห็นได้ไม่ชัด เสื้อผ้าและเครื่องแต่งกายนั้นมีลักษณะของแคว้นชาง แต่รูปแบบของสองคนนี้ให้ความรู้สึกเห

    Last Updated : 2024-10-29
  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 468

    ตัวอย่างเช่น จั๋วซือหรานไจะไปสถานที่เหล่านี้เพียงลำพัง ปลอดภัยไหม“ช่างเอาแต่ใจจริง ๆ ”ทันใดนั้นเฟิงเหยียนก็ลุกขึ้นยืนจ้านหลูสามารถเข้าใจความกังวลที่เจ้านายของเขามีต่อแม่นางจิ่ว แต่เขาก็ยังไม่กล้าลืมหน้าที่ของเขาในฐานะที่เป็นผู้พิทักษ์เงาของเฟิงเหยียนเขาลดเสียงลงและพูดว่า "ท่าน...ท่านขอรับ อีกไม่นานก่อนรุ่งสาง ท่านออกไปเช่นนี้ ไม่ปลอดภัยนัก ท่านจะได้รับบาดเจ็บขอรับ"แต่ดูเหมือนเฟิงเหยียนไม่ได้ยินคำพูดของจ้านหลูเขาจะได้รับบาดเจ็บหรือไม่ ดูเหมือนทันใดนั้น นั่นไม่ได้อยู่ในการพิจราณาของเขา แต่จั๋วเสียวจิ่วต้องได้รับบาดเจ็บแน่ ๆนางยุ่งมาทั้งวัน ไม่ได้พักผ่อนเลยจ้านหลูเห็นเจ้านายของเขาตัดสินใจแล้ว ดังนั้นเขาจึงได้แต่กัดฟันและพูดว่า "ท่านขอรับ หากท่านไปเช่นนี้ เมื่อฟ้าสาง ท่านต้องได้รับบาดเจ็บ และแม่นางจิ่วต้องเสียแรงมารักษาท่านอีกขอรับ”ทันใดนั้นเฟิงเหยียนจ้องมองมาที่จ้านหลู จ้านหลูรู้สึกตระหนกเล็กน้อย เขารีบพูด"ข้าพูดผิด ข้ายอมรับการลงโทษขอรับ""ตอนนี้ยังไม่ต้อง เมื่อเสร็จเรื่อง เจ้าไปรับการลงโทษได้"เฟิงเหยียนกล่าวแต่จ้านหลูฟังออก อย่างน้อยเจ้านายไม่มีความตั้งใจที่จะไปตามห

    Last Updated : 2024-10-29
  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 469

    ในความเป็นจริง ก่อนหน้านี้ในตำหนักใต้ดิน เพื่อช่วยพวกเขา จั๋วซือหรานได้ดูดซับพลังวิเศษของเขาโดยตรงต่อหน้าเหล่าผู้อาวุโสและใช้พลังนั้นเป็นประโยชน์เฟิงเหยียนก็เคยคิดอยู่ว่าบางทีหลังจากผ่านวิกฤติครั้งนี้ไป ผู้เฒ่าเหล่านี้ของตระกูลเฟิงคงจะรู้ในไม่ช้าว่าสิ่งที่ จั๋วซือหรานดูดซับไปคือพลังที่ควรให้ตระกูลเฟิงใช้เดิมทีเขาคิดว่าอย่างน้อยพวกเขาควรรอจนกว่าวิกฤติจะสิ้นสุดล พวกเขาจึงกลับมากล่าวหาเรื่องนี้โดยไม่คาดคิด พวกเขารอไม่ไหว“นางช่วยชีวิตของพวกท่านไว้ แล้วพวกท่านด่านางฉลาดแกมโกงหรือ” เฟิงเหยียนเหลือบมองพวกเขาอย่างเย็นชา “นิสัยของพวกท่านสูงส่งจริง ๆ ”หลังจากเฟิงเหยียนพูดเช่นนี้ เขาก็เดินต่อไปข้างนอกโดยไม่หยุดฝีเท้าในขณะนี้ จู่ ๆ ท่านพ่อของเขาก็แวบไปข้างหลังเขาและคว้าไหล่ของเขาไว้มีพลังวิเศษที่รุนแรงอยู่ในมือของเขา หากผู้คนรู้สึกไวต่อ พลังวิเศษ ก็อาจไม่ยากที่จะสังเกตว่าพลังวิเศษที่เขาใช้อยู่ในขณะนี้นั้นเหมือนกับพลังวิเศษของเฟิงเหยียนทุกประการแค่รู้สึกว่าระดับความรุนแรงไม่สูงเท่ากับพลังวิเศษของ เฟิงเหยียน“ เฟิงเหยียน อย่าเอาแต่ใจ”เสียงของชายวัยกลางคนนั้นเข้มงวด เสียงของเขาเต็ม

    Last Updated : 2024-10-29
  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 470

    ทันทีที่ผู้อาวุโสพูดคำเหล่านี้ เขาก็ได้ยินเสียงบูดบึ้งของเฟิงยวี่ "นางเป็นผู้รักษาที่ห่วย นางดูดซับพลังของเหยียนเอ๋อร์ และบรรเทาอาการบาดเจ็บของเหยียนเอ๋อร์ได้ นางฉลาดแกมโกงมาก"“เฟิงยวี่ แม้ว่าเราจะรู้ว่าเจ้ากำลังทำเพื่อผลประโยชน์ของตระกูล แต่อย่าเพิ่งทะเลาะกับเหยียนเอ๋อร์ก่อน”“ใช่สิ เมื่อครอบครัวมีความสามัคคีเท่านั้น จึงเจริญรุ่งเรืองได้”เหล่าผู้อาวุโสชักชวนเฟิงยวี่เฟิงยวี่เหลือบมองผู้อาวุโสเหล่านี้อย่างเย็นชา เมื่อก่อนเขาเคยเป็นเหมือนกับเฟิงเหยียน ดังนั้นเขาจึงรู้ดีว่าผู้อาวุโสเหล่านี้ล้วนเป็นผู้ที่แสวงหาผลไร้ประโยชน์เท่านั้นเขาตะคอกอย่างเย็นชา "พวกเจ้ากลัวเขา แต่ข้าไม่กลัว"หลังจากเฟิงยวี่พูดจบ เขาก็รีบวิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว เขาวิ่ง ไปในทิศทางที่เฟิงเหยียนจากไปในก่อนหน้านี้ในไม่ช้า เฟิงเหยียนสังเกตมีใครบางคนกำลังไล่ตามเขาดังนั้นเขาจึงหันกลับมาทันที และโจมตีด้วยพลังวิเศษอันทรงพลังต้องบอกเลยว่าแม้ไม่อยากยอมรับก็ตาม แต่อาจมีความเข้าใจโดยปริยายระหว่างพ่อลูกบ้างเพราะเฟิงยวี่พุ่งเข้ามาและโจมตีด้วยพลังวิเศษอันทรงพลังในการโจมตีระหว่างพ่อและลูกครั้งนี้ ไม่มีใครหยุดยั้งพล

    Last Updated : 2024-10-29
  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 471

    เฟิงยวี่พูดต่อจนถึงจุดนี้ ทันใดนั้นเขาดึงดาบประจำตระกูลของเขาออก และดาบอันแหลมคมก็เสียบเข้าไปในฝักดาบจากนั้นเขาปรับเสื้อคลุมของเขาเบา ๆ สีหน้าและท่าทางของเขาก็กลับมาสง่างามและมั่นคงอีกครั้งราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นมาก่อน ราวกับว่ารูปลักษณ์ที่บ้าคลั่งและโกรธเคืองของเขาในก่อนหน้านี้เป็นเพียงภาพลวงตาเขาพุ่งมาอย่างกะทันหัน และจากไปอย่างสง่างามเฟิงเหยียนยืนอยู่ที่นั่นโดยไม่มีการเคลื่อนไหวใด ๆ มือที่ถือกระบี่เสวียนเหยียนวางที่ข้างกายเขาดวงตาคู่นั้นที่สวยงามและลุ่มลึกมาโดยตลอดดูเหมือนจะไม่มีสมาธิในขณะนี้ และสายตาของพวกเขาก็ว่างเปล่าเล็กน้อยราวกับว่าเขากำลังคิดฟุ่งซ่านอยู่ และไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่จ้านหลูยืนอยู่ไม่ไกล เขาได้เห็นเหตุการณ์นี้อย่างชัดเจน เขาจึงรีบเดินเข้ามาและพูด "ท่านขอรับ"จ้านหลูโกรธเล็กน้อย เขาได้แสดงความโกรธบนใบหน้าของเขา เขาพูดว่า "เขาจะพูดเช่นนั้นกับท่านได้อย่างไร หากไม่ใช่เพราะเขา ท่านคงไม่เป็นเช่นนี้..."แม้ว่ายามใหม่จะไม่รู้เรื่องที่เกี่ยวกับเฟิงเหยียนและภูมิหลังของเฟิงเหยียน แต่ผู้พิทักษ์เงาที่อยู่กับเขามาหลายปีต่างทราบคร่าว ๆเนื่องจากความดุร้า

    Last Updated : 2024-10-29
  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 472

    และเฟิงเหยียนเป็นอัจฉริยะที่หาได้ยากของตระกูลเฟิงในรอบศตวรรษเมื่อเฟิงเหยียนถึงอายุครบตามเกณฑ์ เขาไปที่สวนดาบ เพื่อเข้าร่วมกระบวนการขั้นสุดท้ายของการหลอมดาบประจำตระกูล เช่นเดียวกับสมาชิกในตระกูลของเขา แต่หลังจากเฟิงเหยียนไปที่นั่น เขาจึงตระหนักว่าการให้ดาบประจำตระกูลจำเจ้าของของมันได้ เป็นเพียงส่วนหนึ่งของกระบวนการเท่านั้นอีกส่วนหนึ่งคือต้องมาวัดดูว่า พลังศักดิ์สิทธิ์ของหงส์แดง สามารถบูรณาการเข้ากับเขาได้อย่างสมบูรณ์แบบหรือไม่เดิมทีเขาคือผู้ที่ได้รับความคาดหวังและเป็นความหวังทั้งหมดจากตระกูลของเขาสุดท้ายเขาก็ไม่สามารถเข้ากับพลังศักดิ์สิทธิ์ของหงส์แดงอย่างสมบูรณ์แบบพลังศักดิ์สิทธิ์ของหงส์แดงอันรุนแรงนั้นเริ่มทำร้ายเขาทันทีเขาเป็นเพียง...ภาชนะที่ไม่ สมบูรณ์แบบในเวลานี้ เฟิงเหยียนจึงทราบ เพื่อรักษาพลังวิเศษที่อยู่ในสายเลือดของตระกูลเฟิง ตระกูลเฟิงทำอะไรบ้างและมีการตัดสินใจเช่นใดเขายังรู้ด้วยว่าทำไมท่านแม่ของเขาถึงต้องเสียชีวิต ตั้งแต่เด็ก เขาได้ยินเรื่องซุบซิบมากมาย นั่นเป็นคำพูดเสียดสีที่เกิดจากความอิจฉาพรสวรรค์ของเขาเช่น เจ้าภูมิใจในสิ่งใด พรสวรรค์ของเจ้าได้มาเพราะตอนที

    Last Updated : 2024-10-29
  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 473

    จ้านหลูไม่ทราบต้องตอบอย่างไรดีเมื่อได้ยินคำพูดนี้เขาตอบอย่างไรดีเขาคิดอยู่พักหนึ่งแล้วพูดอย่างจริงจังว่า "อย่างไรก็ตาม ข้าไม่คิดว่าท่านจะไร้ศีลธรรมเหมือนเขา"เฟิงเหยียนกระซิบ "ข้าก็เคยคิดอย่างนั้น แต่บางครั้งข้าก็สงสัยว่าจะมีสักวันหนึ่งไหมที่ข้าไม่มั่นใจและควบคุมทุกอย่างไม่ได้หรือไม่..."เขาหยุดชั่วครู่ก่อนจะพูดต่อ "ท้ายที่สุดแล้ว ผู้คนสามารถทนต่อความมืดได้ชั่วคราว แต่ความมืดถาวร การลงโทษด้วยที่ต้องอยู่ภายใต้ความมืดชั่วนิรันดร์ และความเจ็บปวดจากการเผาร่างกายตลอดเวลา..."“ข้าทนชั่วได้ครู่หนึ่ง แต่ตลอดชีวิต...แม้แต่ข้าเองก็ไม่มั่นใจข้าทำได้หรือไม่” จริง ๆ แล้ว เฟิงเหยียนไม่ค่อยคิดเรื่องนี้แต่เมื่อครู่นี้ เฟิงยวี่พูดเช่นนั้นอย่างบ้าคลั่ง ดูเหมือนช่วยงัดความคิดที่ถูกซ่อนอยู่ในที่ลึก ๆ ของสมองของเฟิงเหยียนออกมาในทันทีทำเองได้จริงหรือ เขาจะไม่เหมือนเฟิงยวี่ได้จริง ๆ หรือแต่ผู้คนมักจะ...กลายเป็นผู้คนที่ตัวเองไม่ชอบมากที่สุดไม่ใช่หรือ เขามีความมั่นใจว่าตัวเองไม่เหมือนพ่อของเขาด้วยเหตุใดล่ะเฟิงยวี่อาจคิดว่าเขาเป็นบุตรแห่งโชคชะตาตั้งแต่แรกแล้ว และเขาอาจคิดว่าเขาสามารถเปลี่ยนชะตากร

    Last Updated : 2024-10-29
  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 474

    คนผู้นั้นไปทางไหนก็ตาม ล้วนมีแต่ความทุกข์บุคคลนี้ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากฉีฮ่าว แม่ทัพแห่งหน่วยป้องกันเมืองเขามักจะเป็นแม่ทัพที่มีศักดิ์ศรี น่าเชื่อถือ และน่าชื่นชมอย่างมากแต่ในขณะนี้ ทหารทั้งหมดหนีไปแล้ว แต่พวกพ้อง ผู้ใกล้ชิตของเขา และร้อยโทที่อยู่รอบตัวเขาไม่อยากละทิ้งเขา ดังนั้นพวกเขาจึงตามเขาที่รอบ ๆ และพยายามจับกุมเขาพวกเขาอยากปราบแม่ทัพ เพื่อไม่ให้เขาทำร้ายผู้คนอีก ผู้ใกล้ชิดและร้อยโทถูกฉีฮ่าวทำร้ายร่างกายแล้วร้อยโทลฺหวี่เหลียงปิดแขนของเขา มีรูเลือดที่แขนของเขา และมีชิ้นเนื้อถูกกัดออกตอนนี้กำลังมีเลือดไหลออกจากแผล ยิ่งกว่านั้น ลฺหวี่เหลียงสวมชุดเกราะหนังน้ำหนักเบาอยู่แล้ว หากผู้คนนั้นไม่ได้เป็นคนบ้าคลั่งจริง ๆ เขาจะกัดแรงขนาดนี้จนฉีกชุดเกราะหนังจนเป็นรู จนกระทั่งเนื้อและเลือดถูกดัดออกพร้อมกับชุดเกราะได้อย่างไร“ทุกคน ตามมา อย่าให้แม่ทัพทำร้ายใครอีก” ลฺหวี่เหลียงตะโกน“ขอรับ” ฝูงองครักษ์ยอมรับคำสั่งด้วยเสียงทุ้มลึก พวกเขาต่างได้รับบาดแผลเช่นกันพวกเขารู้อยู่แล้วว่าอีกไม่นาน พวกเขาอาจจะกลายเป็นคนตีโพยตีพายเหมือนแม่ทัพเช่นกัน...แต่ตราบใดที่พวกเขามีสติอยู่หนึ่งวินาที พวกเ

    Last Updated : 2024-10-29

Latest chapter

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 732

    เขาสัมผัสได้ว่าบนบาดแผลทั้งสองที่ถูกดาบของนางแทงไว้ จนทำให้หินต้องห้ามยังแตกก่อนหน้านี้เวลานี้มันคันยุบยิบ ราวกัยว่า...กำลังผสานอย่างรวดเร็วจั๋วซือหรานเอ่ยขึ้นเสียงต่ำ "รักษาให้เจ้าก่อน อีกเดี๋ยวถ้าสู้ขึ้นมา จะได้ไม่ขี้เกียจ"ซางถิงเกือบจะโมโหจนหัวเราะขึ้นมายังไม่ทันที่เขาจะได้พูด ในกลุ่มคนเหล่านั้นที่ล้อมเข้ามา ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้น"จั๋วซือหราน เจ้าสังหารลูกหลานตระกูลข้าไป แอบเรียนวิชาลับตระกูลข้า โทษนี้สมควรตาย แต่เห็นแก่ว่าเจ้าไม่ใช่คนในตระกูลเรา ไม่เข้าใจกฏเกณฑ์ของตระกูล จะไว้ชีวิตเจ้า แล้วจะพาเจ้ากลับไปช่วยอธิบายให้หน่อย ว่าไปร่ำเรียนวิชาลับตระกูลเรามาจากที่ไหน"จั๋วซือหรานพอได้ยินเนื้อหานี้ "เข้ามาเพราะความสามารถข้าจริงๆ ด้วย"ซางถิงหัวเราะเฮอะขึ้นมา เอ่ยเสียงต่ำกับจั๋วซือหรานว่า " ข้าก็บอกว่าแล้วไม่ได้มาหาข้า ในเมื่อมันไม่เกี่ยวกับข้า ข้าไปได้แล้วใช่ไหม?"จั๋วซือหรานหัวเราะเหอะๆ " อย่าสิ ข้ารักษาให้เจ้าแล้วนะ รับแล้วก็ตอบแทนกันหน่อยมันเป็นมารยาท"ซางถิงกัดฟัน "แล้วทำไมเจ้าไม่พูดเสียหน่อยว่าบาดแผลพวกนั้นมันมายังไง..."ตอนนี้เอง เสียง 'คาดโทษ' จั๋วซือหรานก่อนหน้านี้ก

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 731

    เพราะเวลาค่อนข้างดึกแล้ว กระทั่งสนามประลองทางนี้ก็ยังเงียบสงบ ดังนั้นที่นี่ต่อให้สู้กันขึ้นมาตอนนี้ ก็ไม่ได้ดึงดูดสายตาใครยิ่งไปกว่านั้น ตลาดมืดก็มีกฏของตลาดมืด คนของตลาดมืดก็มีวิถีการดำรงชีวิตของตนเองเช่นกันในนี้กฏที่ใช้ได้ทั่วไปข้อหนึ่งคือ...อย่ายุ่งเรื่องชาวบ้านดังนั้นพวกเขาต่อให้ตายกันที่นี่ ก็น่าจะไม่ส่งผลกระทบอะไรมากนักตลาดมืดฝังศพเอาไว้แทบทุกที่ นี่คือที่มาของคำพูดนี้ดังนั้นในกลุ่มคนเหล่านี้ หลังจากเข้ามาล้อมซางถิงกับจั๋วซือหรานแล้ว เดิมทีรอบๆ ก็ยังมีคนอยู่อีกส่วนหนึ่งดูจากท่าทางแล้วไม่ธรรมดาเลย ทยอยกันกระจายตัวออกเหมือนสัตว์ ตอนนี้ที่นี่จึงสงบมาก...แทบไม่มีคนเลยคืนเดือนมืดลมพัดแรง ค่ำคืนแห่งการสังหารดูจากเสื้อผ้าคนเหล่านี้ อันที่จริงยังมองไม่ออกถึงตัวตนฐานะแท้จริงของพวกเขาแตว่า ขอแค่คนรู้จริงเรื่องกลุ่มอย่างซางถิง ก็จะมองออกถึงกลุ่มได้อย่างรวดเร็วซางถิงมองกลุ่มออกจากเครื่องมือควบคุมสัตว์ของพวกเขาอย่างรวดเร็วซางถิงเอียงหน้าเล็กน้อย บอกกับจั๋วซือหรานด้านหลังว่า "ระวังด้วย คนพวกนี้ ทั้งหมดเป็นคนของโถงตัดหัวตระกูลซาง"โถงตัดหัว?" จั๋วซือรหานฟังคำนี้แล้วก็เอ่ย

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 730

    แต่ยังไม่ทันได้แตะไหล่ของจั๋วซือหราน นางก็มีปฏิกิริยากลับมาอย่างรวดเร็ว“เจ้า” จั๋วซือหรานเห็นหน้าคนด้านหลังอย่างชัดเจนผมสีขาวรุงรังกับดวงตาสีฟ้าทึมที่เป็นเอกลักษณ์ แสดงชัดถึงตัวตนฐานะของเขา นี่คือคู่มือที่ประลองกับนางบนเวทีเมื่อครู่นี้นั่นเองดวงตาสีฟ้าทึมของเขาจ้องมองจั๋วซือหราน “ข้ายังคิดว่าเจ้าไปแล้วเสียอีก ทำไม? กำลังรอข้าหรือ?”จั๋วซือหรานมองเขา “เจ้านี่...มั่นใจในตัวเองเสียจริงนะ”“ใช่สิ” รอยยิ้มในดวงตาสีฟ้าทึมของเขายิ่งเพิ่มมากขึ้น “ข้ากับเจ้ามันคนประเภทเดียวกัน เป็นพวกที่มั่นใจในตนเองแบบนั้น”จั๋วซือหรานหัวเราะ จากนั้นจึงเห็นแขนที่ห้อยอยู่ข้างตัวเขา ยังมีเลือดสดไหลอาบลงมา กลิ่นคาวเลือดบนตัวเขายังไม่หายไป“เจ้าน่าจะรักษาแผลก่อนแล้วค่อยมาพูดจาคุยโตนะ” จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้น“เรื่องเล็กน่า” ซางถิงเอ่ยตอบจั๋วซือหรานคิดๆ เอ่ยขึ้นว่า “เมื่อครู่เจ้าออมมือไว้ ไม่งั้นคงไม่เจ็บขนาดนี้”“ใช่เลย ข้าออมมือไว้ ก็เลยลดความยุ่งยากลงไปได้พอควร” ซางถิงตอบจั๋วซือหรานยิ้ม “อินเจ๋ออันไม่ใช่ความยุ่งยากหรือ?”“เขา? เขาจะไปยุ่งยากอะไร...” ซางถิงดูไม่ใส่ใจกับเรื่องนี้ เอ่ยต่อว่า “ข้าออมมือ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 729

    ได้ยินคำนี้ ฮั่วจือโจวยกมุมปากขึ้น “คุณหนูเฟิงสือ เจ้าคิดมากเกินไปแล้ว ข้าก็แค่อยากร่วมมือกับแม่นางจิ่วเท่านั้น”เฟิงหร่านมองเขา แม้บนปากจะไม่คัดค้าน แต่ในใจก็แอบคิด นั่นก็เพราะเจ้ายังสัมผัสไม่ได้ถึงเสน่ห์ของพี่หญิงจั๋วเท่านั้นส่วนเจี่ยงเทียนซิงที่อยู่ข้างๆ พอได้ยินคำพูดของเฟิงหร่าน ก็ไม่ได้ส่งเสียงอะไร เพียงแต่รอยยิ้มในดวงตาค่อยลดลงมาเท่านั้นครู่ต่อมา จึงเอ่ยเสียงต่ำขึ้นว่า “แต่ว่าตระกูลเฟิงของพวกเจ้า ไม่ใช่ว่าดูถูกซือหรานหรอกหรือ เพราะอะไรกัน? พวกเจ้าเห็นสิ่งนี้เป็นของไร้ค่า แต่ก็ไม่ยอมให้คนอื่นได้ครอบครองหรือ? ใหญ่โตเสียจริง”สำหรับคำพูดของเจี่ยงเทียนซิง เฟิงหรานกระทั่งโต้แย้งก็ยังแย้งออกมาไม่ได้นางริมฝีปากสั่นระริก ครึ่งมาจึงบอกว่า “สรุปคือ หลังจากนี้จะมีวิธีเอง”ฝูซูมองจากข้างๆ เขารู้แน่นอนว่าคุณหนูของตนเองยอดเยี่ยมแค่ไหนทำให้คนหลงใหลได้แค่ไหนและก็รู้ว่าคุณหนูเฟิงสือถูกคุณหนูทำให้หลงไปแล้ว การที่พูดแบบนี้ออกมาก็ไม่ได้ผิดอะไรแต่ปฏิกิริยาของเจี่ยงเทียนซิงนี่ กลับทำให้ฝูซูอดเหลือบมองเขาขึ้นมากหน่อยไม่ได้ในใจฝูซูก่อนหน้านี้ก็รู้สึกว่าเจี่ยงเทียนซิงคนนี้เหมือนจะ...รู้สึก

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 728

    “นี่ฝูซูกับเฮยหลิงยังไว้หน้าพวกเจ้าอยู่นะ ถึงยังไม่จับตะเกียบ ไม่อย่างนั้นพวกเจ้าแค่น้ำแกงก็ไม่ได้ชิมด้วยซ้ำ” เจี่ยงเทียนซิงวางตะเกียบลงหัวเราะฮั่วจือโจวไม่อยากเชื่อ ถามขึ้นว่า “นี่คือของที่แม่นางจั๋วจิ่วทำหรือ? จริงหรือเปล่า?”“เป็นของที่คุณหนูข้าทำเอง” ฝูซูพยักหน้าอินเจ๋ออันมองเขา ถามขึ้นว่า “คุณชายฮั่ว ยอมรับแล้วหรือยัง?”ฮั่วจือโจวถอนหายใจเบาๆ พยักหน้าเจี่ยงเทียนซิงเห็นท่าทางแขกยึดครองตำแหน่งเจ้าภาพของอินเจ๋ออันแล้วก็หัวเราะพรวดขึ้นมา “เปาน้อย เจ้าเองก็ไว้หน้าตัวเองหน่อยดีไหม คำพูดนี้ข้าต่างหากที่ควรถาม? เจ้าน่ะยอมรับแล้วหรือยัง?”“ถ้าข้าไม่ยอมรับ แล้วข้าจะเอาเงินมาให้พวกเจ้าด้วยตัวเองทำไมกัน?!” อินเจ๋ออันจ้องอย่างมาดร้ายไปทางเจี่ยงเทียนซิงตัวเขาเองอาจจะไม่ทันสังเกต ว่าตนเองกระทั่งลืมไปแล้วว่าต่อต้านชื่อเรีย ‘เปาน้อย’ อยู่เฟิงหร่านนั่งอยู่ข้างๆ ไม่พูดอะไรมาตลอด สนใจแค่การกินอาหารบนโต๊ะอย่างรวดเร็วราวพายุดูดเท่านั้นนางกินไปด้วย พิจารณาชายหนุ่มสามคนนี้ไปด้วยในใจจู่ๆ ก็เกิดความรู้สึกวิตกกังวลขึ้นมาเฟิงหร่านเกิดวิตกกังวลขึ้นมาแทนพี่ชายตนเอง นางชื่นชมในใจ พี่หญิงจั๋วน

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 727

    สายตาฮั่วจือโจวมองจั๋วซือหรานอย่างลึกซึ้งตระกูลขุนนางเหล่านี้ล้วนเป็นแบบเดียวกัน จั๋วซือหรานเองก็เดินออกมาจากตระกูลขุนนาง ดังนั้นจึงเข้าใจเป็นอย่างดีต่อให้ทุกคนจะเป็นลูกหลานในตระกูลเหมือนกัน และก็จะมีพวกลูกหลานที่ได้รับการปฏิบัติกับให้ความสำคัญมากกว่า และก็จะมีลูกหลานที่ถูกมองข้ามหรือเมินเฉยแต่นี่ก็จะขึ้นอยู่กับฝีมือของรุ่นพ่อและฝีมือของตนเองดูจากจั๋วซือหรานแล้วมองออกไม่ยาก กระทั่งฝีมือของรุ่นพ่อก็ยังไม่แน่ว่าจะสำคัญ เพราะพ่อของนางนั้นไม่อยู่มานานแล้วมีเพียงฝีมือของตนเองที่ถูกให้ความสำคัญมากที่สุดดังนั้นในฐานะที่เป็นลูกหลานในตระกูล หากคิดจะได้รับการให้ความสำคัญของตระกูล อย่างน้อยก็ต้องทำผลงานออกมาให้ได้สถานการณ์ของฮั่วจือโจวตอนนี้ก็น่าจะเป็นเช่นนี้เขามีฝีมืออยู่บ้าง และมีอุดมการณ์ของตนเองด้วยเช่นกัน แต่ก็จำเป็นต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ จะตัดสินใจอย่างบุ่มบ่ามไม่ได้เพราะในตระกูลเช่นนี้ คนมากมายล้วนเป็นแบบเดียวกัน โอกาสอาจจะมีแค่ครั้งเดียว ถ้าทำผลงานไม่ได้ หลังจากนี้ทรัพยายากรก็อาจจะไม่เอนมาทางเขาอีกแล้วจุดนี้ จั๋วซือหรานไม่ลังเลที่จะพูดออกมาสายตาฮั่วจือโจวหยุดอยู่ที่แ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 726

    จั๋วซือหรานยิ้มๆ “ก็ต้องตั้งแต่ตอนที่เจ้าตามพวกเราเข้ามาแล้วน่ะสิ”ฮั่วจือโจวลุกขึ้นยืน เดินตรงเข้ามาทางนี้ นั่งลงข้างโต๊ะพวกเขา“เมื่อครู่แผนของแม่นางจิ่ว ข้าได้ยินแล้ว” ฮั่วจือโจวเองก็ไม่ปิดบัง พูดออกมาตรงๆเขาพูดประโยคนี้ออกมา ก็หวังว่าจั๋วซือหรานจะไม่ต้องมาเสียเวลาคิดมากในเรื่องนี้แล้วแต่ฮั่วจือโจวคิดไม่ถึงว่าจั๋วซือหรานจะพูดว่า “ข้าจงใจพูดออกมาให้เจ้าได้ยิน”สีหน้าฮั่วจือโจวตกตะลึงไปทันที “อะไรนะ?”จั๋วซือหรานยิ้มตาโค้งเอ่ยขึ้นว่า “คุณชายสามฮั่วฟังแผนการของข้าแล้วรู้สึกอย่างไรบ้าง?”“ไม่เลว” ฮั่วจือโจวตอบ “มิน่าสี่ตระกูลที่เหลือจึงมองเจ้าเป็นหนามยอกอก”รอยยิ้มบนหน้าจั๋วยังไม่จางหาย “ถ้าข้าไม่จงใจพูดให้เจ้าได้ยิน แล้วจะกล่อมให้เจ้ามาร่วมมือได้อย่างไรกัน?”“ร่วมมือ?” ฮั่วจือโจวตกตะลึงจั๋วซือหรานตอบ “อืม ข้าไม่มีเจตนาจะทำให้ตระกูลฮั่วต้องลำบากใจ ถ้าแค่ตระกูลฮั่วไม่ทำให้ข้าลำบากใจน่ะนะ แต่ข้าเองก็เข้าใจ บุ่มบ่ามไปแย่งธุรกิจของคนอื่น ดูแล้วยังไงก็ไม่เหมาะสม และยังเป็นในสถานการณ์ที่ข้ามั่นใจว่าข้าคว้ามันมาได้ด้วย”ฟังคำพูดนี้ของจั๋วซือหรานแล้ว ฮั่วจือโจวก็หัวเราะขึ้นมา เขาก

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 725

    “ทำให้มันคึกคักขึ้น?” เฟิงหร่านตาเป็นประกาย ความชื่นชมต่อตัวจั๋วซือหรานของนางไม่ได้แค่นิดหน่อยแล้วตอนนี้มองจั๋วซือหรานด้วยตาเป็นประกาย “พี่หญิงจั๋ว จะทำให้มันคึกคักขึ้นได้อย่างไรหรือ?”จั๋วซือหรานคิดๆ เอ่ยขึ้นว่า “วิธีการมีอยู่เยอะเลยทีเดียว ก็ให้เจ้าไปแสดงพ่นไฟ เฮยหลิงไปแสดงหน้าอกทลายหินอะไรแบบนั้น หรือไม่ข้าก็ให้พวกแมลงไปแสดงละครหุ่นกระบอก? ต้องสนุกคึกคักแน่ๆ...”“พ่น พ่น...พ่นไฟ??” ในสายตาเฟิงหร่านเต็มไปด้วยความไม่อยากเชื่อก็จริง สำหรับนางที่เป็นคุณหนูลูกขุนนางเช่นนี้ทุกการกระทำทั้งหมดของจั๋วซือหราน กระทั่งแค่ลมหายใจของนาง ก็ดูจะผิดแปลกไปจากคนอื่นๆ ในตระกูลขุนนางเหล่านั้น “พ่นไฟเป็นไหม? ถ้าไม่เป็นเดี๋ยวไว้ข้าหาเวลาสอนเจ้า” จั๋วซือหรานวางตะเกียบลง “สรุปคือ ถ้าถึงเวลาต้องเปิดกิจการ ก็หาการแสดงอะไรมา จากนั้นพอเปิดร้านก็เตรียมการให้ลูกค้าแต่ละโต๊ะหลังจากที่กินอาหารเสร็จ ก็มอบอาหารเพิ่มให้อีกหนึ่งจานแบบไม่ต้องจ่ายเงินอะไรแบบนี้”“ประชาชนกินเพื่ออยู่ ขอแค่ของอร่อย ยังต้องกลัวว่าจะไม่มีใครมาอีกหรือ” จั๋วซือหรานคิดคิด เอ่ยต่อว่า “ไหนจะเรื่องที่อาหารของที่นี่รสชาติแย่แค่ไหน น่าจะไ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 724

    จั๋วซือหรานตอบ “เดี๋ยวเจ้าลองชิมก็รู้แล้ว...”ผ่านไปครู่หนึ่ง อาหารก็ส่งขึ้นมา หน้าตาแย่เอามากๆเจี่ยงเทียนซิงจึงเพิ่งได้ยินประโยคหลังของจั๋วซือหราน “...ไม่ใช่ห่วยแตกแบบธรรมดาด้วย”เจี่ยงเทียนซิง “...”เฟิงหร่าน “...”ฝูซู “...”เฮยหลิง “...”ทุกคนทยอยกันพูดไม่ออกจั๋วซือหรานหยิบตะเกียบขึ้นมา คีบคำหนึ่งส่งเข้าปาก หลังจากเคี้ยวไปสองคำ ก็ขมวดคิ้วขึ้นมา “พวกเจ้าลองชิมสิ ห่วยแตกแบบไม่ธรรมดาจริงๆ”เฮยหลิงยังพอไหว ถึงอย่างไรก่อนหน้านี้ก็ใช้ชีวิตยากลำบากมาแล้ว ขยับตะเกียบ หลังจากกินคำแรกไปเห็นได้อย่างชัดเจน ว่าเขาเหมือนจะโกรธขึ้นแล้วเฟิงหร่านเองพอเห็นสถานการณ์ จึงวางตะเกียบลงเงียบๆเจี่ยงเทียนซิงถาม “เจ้าหิวแล้ว แต่จงใจมายังร้านอาหารที่รสชาติแย่หรือ?”จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้น “ลองชิมดูก่อน แบบนี้ภายหลังจะได้มีความแตกต่าง”เจี่ยงเทียนซิงก็เชื่อฟังคำพูดของนาง คีบขึ้นมาพอส่งเข้าปาก จึงเพิ่งมีปฏิกิริยากับคำพูดของจั๋วซือหราน “...ภายหลัง?”ตอนนี้เอง อะไรบางอย่างที่อยู่ในปาก ในที่สุดก็ทำเอาประสามรับรสของเขาถูกปะทะอย่างรุนแรง“ถุด” เจี่ยงเทียนซิงพ่นอาหารในปากออกมา รู้สึกว่าคำวิจารณ์ก่อน

DMCA.com Protection Status