Share

บทที่ 423

Author: หูเทียนเสี่ยว
พวกเขาแลกเปลี่ยนลมหายใจซึ่งกันและกัน ลมหายใจของพวกเขาพันกัน

จั๋วซือหรานรู้สึกเมื่อก่อนนางไม่ใช่คนเช่นนี้ แต่หลังจากนางเดินทางผ่านกาลเวลาและใช้ชีวิตอีกครั้ง นางเลยกล้าทำทุกอย่างโดยไม่กลัวอะไร

นางเสียชีวิตไปแล้วครั้งหนึ่ง ดังนั้นทำไมนางต้องกังวลอีกล่ะ

ดังนั้นเมื่อจั๋วซือหรานข้ามกาลเวลามายังโลกใบนี้ นางใช้ชีวิตอย่างมีอิสระ

พูดตรง ๆ บางครั้งนางมีการกระทำบ้าคลั่งบ้าง

แต่ถึงแม้นางเปลี่ยนเป็นคนเช่นนี้แล้ว ตอนนี้นางยังรู้สึกเขินอายอยู่บ้าง

นางรู้สึกใบหน้าของนางร้อนเล็กน้อย เพราะก่อนหน้านี้นางรู้สึกตัวเองจูบเฟิงเหยียนในความมืด มันน่าตื่นเต้นเล็กน้อย

แต่ตอนนี้ มันก็เท่ากับนางจูบกับซื่อจื่อของพวกเขาภายใต้สายตาของทุกคน และนางกับเฟิงเหยียนจูบกันอย่างเร่าร้อน

ผู้คนที่จ้องมองไปรอบ ๆ ต่างก็เป็นผู้อาวุโสของตระกูล พวกเขามีชื่อเสียงในเรื่องวิถีที่ล้าสมัย

คลั่งหรือเปล่า จั๋วซือหราน เจ้าบ้าไปแล้วจริงๆ

ยิ่งจั๋วซือหรานคิดเช่นนี้มากเท่าไร จูบระหว่างนางกับเฟิงเหยียนนั้นยิ่งรุนแรงมากขึ้นเท่านั้น

เมื่อจูบสิ้นสุดลง ริมฝีปากของสองคนนี้ก็แยกออก

จั๋วซือหรานมองเฟิงเหยียนอย่างหอบหายใจ นางเม้มริมฝีปากเล็กน้
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 424

    นี่คือความสามารถแบบไหนกันนะ นี่เป็นควมสามารถที่ถูกสร้างมาเพื่อเฟิงเหยียน นี่คือความสามารถที่ถูกออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อรองรับพลังทางจิตวิญญาณของตระกูลเฟิงเมื่อพวกเขามองจั๋วซือหราน ดวงตาของพวกเขาก็แสดงความกระตือรือร้อนเล็กน้อย“หากเป็นเช่นนั้นจริง แม่นางจิ่วสามารถ...ตระกูลเฟิงให้เราได้…” เมื่อผู้อาวุโสพูดถึงจุดนี้ ดวงตาของเขาก็สดใสยิ่งขึ้น แม้ว่าเขาไม่ได้พูดต่อ แต่ความหมายก็ชัดเจนในตัวเองแล้วจั๋วซือหรานตกตะลึงเมื่อได้ยินคำพูดนี้ นางแอบบ่นตัวเองพูดผิดพลาดเพราะนางลืมไปว่าเนื่องจากตระกูลเฟิงทั้งหมดใช้วิธีการที่แปลกประหลาด จึงรักษาพลังวิเศษของตระกูลเฟิงได้ ดังนั้นแม้ว่าสมาชิกของตระกูลเฟิงทรงพลังอย่างมาก แต่พวกเขาต่างรู้สึกจนปัญญา เนื่องจากพวกเขาถูกพลังวิเศษอันรุนแรงทำร้ายและต้องรับบาดเจ็บจากพลังวิเศษด้วยนี่ไม่ใช่ปัญหาของเฟิงเหยียนเพียงพูดเดียว แต่เป็นปัญหาของสมาชิกทุกคนของตระกูลเฟิงเช่นกันเมื่อครู่นี้จั๋วซือหรานเพิ่งบอกพวกเขาว่า นางมีความสามารถเช่นนี้ ซึ่งทำให้เหล่าผู้อาวุโสรู้สึกตื่นเต้นอย่างมาก“ไม่เคยคิดเลยว่าจะสามารถปลุกความสามารถเช่นนี้ได้ ต้องพูดอย่างไรดี… ต้องยอมรับจริง ๆ สา

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 425

    เมื่อเฟิงเหยียนได้ยินคำพูดของนาง เขามองนาง “เจ้ากลัวจะตกหลุมพรางของคนอื่นไม่ใช่หรือ”จากคำพูดในก่อนหน้านี้ของจั๋วซือหราน เฟิงเหยียนฟังออก ตอนนี้สถานการณ์ของจั๋วซือหรานนั้นน่าเป็นห่วงหากเรื่องเป็นไปตามที่นางพูดไว้ นางจะกลายเป็นคนที่มีบุญต่อตระกูลหากเรื่องไม่ได้เป็นไปตามที่นางกล่าวไว้ในก่อนหน้านี้ นางจะกลายเป็นคนเจ้าเล่ห์ที่วางยาพิษให้กับตระกูลเฟิง เพื่อฉ้อโกงตระกูลเฟิง จากนั้นนางฉวยโอกาสแสดงความโปรดปรานในภายหลังเฟิงเหยียนเข้าใจความกังวลของนาง และถึงกับรู้สึกว่านางฉลาดมากจริง ๆ เพราะนางสามารถคาดเดาได้ทุกความเป็นไปได้และคิดถึงจุดนี้ด้วยมีคนมากมายในโลกนี้ที่เดินหนึ่งก้าวก่อน จากนั้นค่อยพิจาราณาว่าจะทำอย่างไรต่อ ดังนั้นผู้ที่เดินไปข้างหน้าหนึ่งก้าวแล้วทราบจะทำอย่างไรต่อในขั้นต่อไป ถือว่าเป็นคนฉลาดแล้วและสำหรับคนอย่างนาง นางได้คิดออกอนาคตจะเกิดอะไร และคิดไปถึงทางไกลอย่างมาก นางพิจาราณาถึงทุกรายละเอียดและทุกความเป็นไปได้ นางไม่เคยพลาดเรื่องใด ๆ ซึ่งถือได้ว่าคนฉลาดขั้นเทพจั๋วซือหรานได้ยินคำพูดของเขา นางยิ้มและมองเขา ดวงตาของนางยังคงแสดงท่าทีขี้เล่นอยู่บ้าง นางถามว่า " ท่านอ๋อง...

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 426

    เดิมทีเฟิงเหยียนนั่งอยู่บนม้านั่งอี้หิน นั่นเป็นม้านั่งหินที่ทำจากหินสีเขียวชิ้นใหญ่ ซึ่งม้านั่งหินตัวนี้หนักมากจั๋วซือหรานเห็นเขานั่งอยู่บนม้านั่งหิน มือข้างหนึ่งวางอยู่บนขอบม้านั่งหินในขณะนี้ ขอบของม้านั่งหินแตกเป็นชิ้น ๆเดิมทีม้านั่งหินนี้ถูกแกะสลักจากหินสีเขียวที่แข็งมากนั้น บัดนี้ม้านั่งหินนี้เปราะบาง เหมือนชิ้นเต้าหู้ในมือของเขาขอบของม้านั่งถูกเขาบดขยี้ ชิ้นส่วนที่แหลกสลายกลายเป็นผงในมือของเขา และผงเหล่านี้ไม่ทันจะปลิวไปจากมือของเขาผงนั้นถูกเปลวเพลิงที่ร้อนแรงเผา มันคงจะร้อนมากจนเกิดประกายไฟสองสามดวงในอากาศ จากนั้นหายไปโดยไม่เหลืออะไรเลยยิ่งไปกว่านั้น จั๋วซือหรานไม่รู้ว่าเป็นภาพลวงตาหรือไม่นางรู้สึกอุณหภูมิในตำหนักใต้ดินนี้...ดูเหมือนตำหนักใต้ดินทั้งหมดร้อนขึ้นเล็กน้อยแม้ว่าก่อนหน้านี้ เมื่อนางหลับไป นางรู้สึกอบอุ่นขณะที่นางนอนบนตักของเฟิงเหยียน แต่อุณหภูมิโดยรวมที่เพิ่มขึ้นนั้นแตกต่างจากอุณหภูมิตอนที่นางหลับเดิมทีจั๋วซือหรานยังคิดอยู่ว่านางรู้สึกผิดหรือเปล่าแต่ในไม่ช้า ผู้อาวุโสหลายคนเริ่มรู้สึกไม่สบายตัวเล็กน้อย และสีหน้าของพวกเขาก็แสดงให้เห็นว่า พวกเขาทนไม่

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 427

    เฟิงเหยียนจ้องมองนางอย่างลึกซึ้ง มันเวลาไหนแล้วนางยังมีอารมณ์พูดตลกอีกจั๋วซือหรานมองเข้าไปในดวงตาของเฟิงเหยียน นางต้องยอมรับรูม่านตาของชายคนนี้ลึกมาก และสายตาของเขาก็ลึกมากในความเป็นจริง หลายครั้งคนอื่นมักจะอ่านไม่ออกหลายอารมณ์ของเขาแต่บางครั้งลูกตาของชายคนนี้ก็ใสสะอาดเหมือนเด็กอย่างตอนนี้จั๋วซือหรานมองเข้าไปในดวงตาของเขาและดูเหมือนนางมองเห็นทุกสิ่งได้ชัดเจนดังนั้นจั๋วซือหรานจึงโค้งริมฝีปากและยิ้ม "ใช่ เมื่อไรแล้ว ข้ายังพูดเล่นได้ นั่นพิสูจน์ว่าสำหรับข้า เรื่องนี้ไม่ได้ร้ายแรงมากหรอก ท่านอ๋องอย่ากังวลนะ อย่าโกรธ มิฉะนั้น..."จั๋วซือหรานดึงมุมเสื้อผ้าของเขาเบา ๆ อีกครั้ง และการเคลื่อนไหวของนางก็ดูอ่อนไหวอย่างมากและคำพูดของนางฟังดูเหมือนนางกำลังพูดว่า ไม่เช่นนั้น ข้าจะจูบเจ้านะเพราะเฟิงเหยียนทราบดี วิธีที่ง่ายที่สุดและตรงที่สุดที่นางสามารถถอดพลังวิเศษของเขาออกได้คือสิ่งนี้เฟิงเหยียนจ้องเข้าไปในดวงตาของนางครู่หนึ่งแล้วหายใจเข้าลึก ๆ สองครั้งในที่สุดเขาก็ค่อย ๆ ระงับอารมณ์ปั่นป่วนในหัวใจของเขาบางที แม้แต่เฟิงเหยียนเองก็ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงโกรธมากเมื่อได้ยินจั๋วซือหราน

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 428

    เฟิงเหยียนหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนที่จะสงบสติอารมณ์ได้เช่นกัน เขาถามจั๋วซือหราน "เจ้าอยากนำแม่กู่นี้ไปใช้เองหรือ"“อีกฝ่ายทำให้ข้าต้องเหนื่อยขนาดนี้ ข้ารักษาทุกคน มันไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ นะ ข้ายึดแม่กู่ไม่กี่ตัวนั้นไว้ เอาเป็นว่าเป็นดอกเบี้ยละกัน มันไม่ได้มากเกินไปหรอก”จั๋วซือหรานยักไหล่เล็กน้อยขณะที่นางพูด "และจริง ๆ แล้วข้ายังไม่แน่ใจว่าข้าเอาแม่กู่ของอีกฝ่ายมาใช้ ข้าทำสำเร็จได้หรือไหม แต่ไม่เป็นไร ข้าลองดูก่อน เพราะอย่างไรก็ตาม ข้าไม่ได้จ่ายเงินสักหน่อย "ทันใดนั้นทุกคนหมดคำพูดกับจั๋วซือหรานผู้อาวุโสคนหนึ่งอดไม่ได้อีกต่อไปแล้วพูดว่า " แม่นางจิ่ว แต่แม่กูพวกนี้ทำให้ ฟิงช่านเฟิงจู๋ และคนือ่น ๆ กลายเป็นคนประหลาดเช่นนั้น พูดตามตรง พวกเขาถือว่าเป็นคนเก่งของตระกูลเฟิง และต่างผ่านการฝึกฝนของตระกูลเฟิงแล้ว จึงได้ถูกลัทธิเลือก... สุดท้ายพวกเขากลายเป็นเช่นนี้และรอดชีวิตไม่ได้ "ความหมายของคำพูดนี้ชัดเจนอย่างมากโดยไม่ต้องกล่าวเสริมอีก เพราะการฝึกฝนของตระกูลเฟิงไม่ใช่เรื่องเล่น นั่นเป็นสนามแข่งที่แม้แต่เฟิงเหยียนก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสเพียงแต่สาเหตุจริงที่เฟิงเหยียนได้รับบาดเจ็บในการฝึกฝนของตระก

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 429

    ได้ยินมาว่าหากตระกูลจั๋วปลุกพลังสายเลือดแห่งตระกูล อย่างเต็มที่ ความสามารถของพวกเขาก็จะยิ่งแข็งแกร่งยิ่งขึ้นไม่ต้องพูดถึงงู แมลง หนู และมดแม้แต่ดอกไม้และต้นไม้ก็สามารถสัมผัสถึงความสามารถนี้ได้หากเอาเป็นจริง ๆ ก็อาจเป็นได้ว่าดอกไม้ทุกดอกและหญ้าทุกชนิดเป็นหูเป็นตาของนางได้กล่าวโดยสรุป ผู้อาวุโสเข้าใจความหมายของจั๋วซือหรานพลังวิเศษของนางสามารถทำให้แม่กู่เหล่านี้มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดได้ หากนางต้องการลองนำแม่กู่เหล่านี้ไปใช้ด้วยตัวเองจริง ๆอาจจะ......แต่เดิมเหล่าผู้อาวุโสยังคิดอยู่ว่าเรื่องนี้ไม่น่าดำเนินการได้ ตอนนี้พวกเขาก็เริ่มรู้สึกความเป็นไปได้ของเรื่องนี้พวกเขาเริ่มโน้มน้าวเฟิงเหยียนด้วยซ้ำ“ เหยียนเอ๋อร์ ข้าคิดว่าแม่นางจิ่วพูดถูก เจ้าคิดว่าอย่างไร”“ใช่แล้ว อย่างไรก็ตาม แค่ลองเฉย ๆ ไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ หากแม่นางจิ่วสามารถปราบแม่กู่เจ้าเวรเหล่านี้ได้จริง ๆ เราก็สามารถเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับสิ่งเหล่านี้ได้เช่นกัน”“ถึงแม้จะเป็นไปไม่ได้ แต่มีเจ้าอยู่เคียงข้างกายนาง แม่นางจิ่วจะไม่ตกอยู่ในอันตรายใด ๆ...ใช่ไหม”และผู้อาวุโสต่างก็มีความรู้สึกอยู่ในใจ... จั๋วจิ่วคนนี้ไ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 430

    “แม่นาง... เอ่อ... แม่นางจิ่ว นี่... น่าขยะแขยงเกินไป...” ผู้อาวุโสหนึ่งคนอดไม่ได้ที่ต้องมีอาการคลื่นไส้สองทีและการกระทำต่อไปของจั๋วซือหรานยิ่งทำให้เขารู้สึกอยากอาเจียนมากขึ้นจั๋วซือหรานยื่นมือออกและไปล้วงเนื้อที่ดูอ่อนนุ่มของเฟิงจู๋..."อ๊วก"(เสียงอาเจียน)"แหวะ"(เสียงอาเจียน)"อู๊บ โอ๊ก"(เสียงอาเจียน)ผู้อาวุโสทุกคนอาเจียนพร้อมกันจากนั้นพวกเขาเห็นว่าเด็กผู้หญิงคนนี้ไม่ได้เปลี่ยนสีหน้าหรือการแสดงออก แม้ว่านางต้องเผชิญกับร่างกายที่เสียโฉมของเฟิงจู้ก็ตามในขณะนี้ นางขมวดคิ้วเพราะพวกเขาอาเจียนเหล่าผู้อาวุโส "..."นี่ทำให้พวกเขารู้สึกเสียหน้าเล็กน้อยจั๋วซือหรานกล่าวว่า "ในกรณีนี้ ข้าคงต้องรีบรักษาพวกเจ้า และให้พวกเจ้าออกจากห้องใต้ดินแห่งนี้ กลิ่นเหม็นเกินไป... "คำพูดนี้ทำให้เหล่าผู้อาวุโสยิ่งรู้สึกละอายใจมากขึ้นพวกเขากระซิบ "ส่วนใหญ่เป็นเพราะแม่นางจิ่ว เจ้า... กล้าหาญมาก"จั๋วซือหรานยังคงทำในสิ่งที่นางกำลังทำต่อไป นางล้วงเข้าไปในเนื้อและเลือดของศพเฟิงจู๋ จากนั้นนางกระซิบว่า "มันดูเหมือนขี้ผึ้ง ยิ่งจับมัน ยิ่งรู้สึกใช่เลย"จากนั้นจั๋วซือหรานหดมือกลับพวกเขายังคิดอยู่

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 431

    จากหางตาของจั๋วซือหรานเห็นเหล่าผู้อาวุโสหันตัวและยืนอยู่ตรงมุม เหมือนพวกเขากำลังสำนึกผิดนางรู้สึกตัวเองทำผิดเล็กน้อยเช่นกัน แต่นางรู้สึกตัวเองทำผิดไม่ได้เป็นเพราะนางจูบกับเฟิงเหยียนนางรู้สึกตัวเองทำผิด เพราะการที่นางจูบกับเฟิงเหยียนทำให้เหล่าผู้อาวุโสต้องหันหลังและยืนไปมองกำแผงเฟิงเหยียนปล่อยริมฝีปากของนาง เสียงของเขาแหบแห้งเล็กน้อยจั๋วซือหรานรู้ด้วยว่าการกระทำเช่นนี้ไม่ดีต่อสุขภาพของ เฟิงเหยียน ซึ่งผู้ที่เป็นชายที่กระฉับกระเฉงทรงพลัง เขาต้องประสบกับความกระตือรือร้นและหลายหนในเวลาอันสั้นเฟิงเหยียนลดสายตาลงและถามด้วยเสียงต่ำ “เจ้าพร้อมหรือยัง”“พร้อมแล้ว” จั๋วซือหรานพยักหน้าเบา ๆ เฟิงเหยียนปล่อยนาง เขาก้าวไปข้าง ๆ และนั่งลงบนม้านั่งหินที่เสียมุม เพื่อซ่อนปฏิกิริยาของร่างกายของเขาไว้เหล่าผู้อาวุโสได้ยินจั๋วซือหรานพูดว่านางพร้อมแล้ว จากนั้นพวกเขาจึงหันตัวกลับมาพวกเขาไม่มีเวลาสนใจสถานะปัจจุบันของเฟิงเหยียน พวกเขาต่างจ้องมองไปที่จั๋วซือหราน“ แม่นางจิ่วจะเริ่มแล้วหรือ” เหล่าผู้อาวุโสถามจั๋วซือหรานพยักหน้า "ข้าจะลองมือแล้ว เชิญผู้อาวุโสยืนไกล ๆ หน่อย"ทุกคนปฏิบัติตามคำพูดข

Latest chapter

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1273

    แม้จะบอกว่าเป็นความฝัน แต่อันที่จริงจั๋วซือหรานก็ค่อยๆ เข้าใจแล้ว ว่าเพราะอะไรหลังจากฝันถึงเขาครั้งที่แล้วจนมาถึงครั้งนี้ นานมากแล้วที่ไม่ได้ฝันถึงเขาอีกพอมาคิดอย่างละเอียด เหมือนว่าตอนฝันถึงเขาครั้งที่แล้ว จะเป็นหลังจากที่นางมีสัมพันธ์ทางกายกับเขาดังนั้นจั๋วซือหรานจึงค่อยๆ เข้าใจ บางทีน่าจะเป็นเพราะสาเหตุนี้การดูดหยางบำรุงหยินของนางก็ดูดซับมาจนพอเข้าใจแล้ว เหมือนว่าพอดูดซับมาถึงระดับหนึ่ง ก็จะเกิด...ถ้าจะพูดว่าเป็นความฝัน สู้บอกว่าเป็นการสื่อสารทางจิตใต้สำนึกกับความทรงจำของเฟิงเหยียนส่วนที่ถูกผนึกไปจะดีกว่า?และไม่ว่าจะ 'ความฝัน' ครั้งที่แล้ว หรือว่าครั้งนี้ก็มองออกได้ไม่ยากเฟิงเหยียนน่าจะเข้าใจต่อสถานการณ์อยู่ ดังนั้นบางทีจิตใต้สำนึกเขายังคงอยู่มาตลอด เพียงแต่ถูกสมองทื่อๆ นี่กดเอาไว้ หรือบางทีคงถูกสภาผู้อาวุโสลงมือสะกดเอาไว้ไม่แน่ว่า อาจจะต้องมีชนวนเหตุบางอย่าง ถึงจะสามารถปลุกขึ้นมาได้จั๋วซือหรานอยากจะรู้ชนวนเหตุนั้นว่าคืออะไรกันแน่"ต้องทำยังไงเจ้าถึงจะดีขึ้นมา?" จั๋วซือหรานถามแต่เฟิงเหยียนกลับเหมือนจะจำจุดสำคัญนั้นไม่ได้แล้ว ขมวดคิ้ว สีหน้าดูเหมือนขมขื่น เหมือนว

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1272

    ในห้วงฝันนางมองมือตัวเอง สับสนไปหมดทั้งตัว เหมือนยังตั้งตัวกลับมาไม่ได้เพราะนางถ้าไม่หลับลึก ก็จะเอาจิตใต้สำนึกส่งเข้าไปในมิติ จึงฝันน้อยครั้งมากดังนั้นตอนที่ดำดิ่งสู่ห้วงฝัน นางยังรู้สึกไม่คุ้นอยู่หน่อยๆ มองมือตนเอง รู้สึกไม่คอ่ยเป็นจริงสักเท่าไรวินาทีต่อมา มือข้างหนึ่งก็ทาบมาบนมือของนางมือข้างนั้น ข้อต่อกระดูกชัดเจน นิ้วเรียวยาว เล็บตัดมาดูสะอาดสะอ้าน ผิวหนังขาวซีดเย็นเหมือนไม่โดนแดดมานานสายตาของจั๋วซือหรานจ้องนิ่งอยู่บนมือข้างนี้ จากนั้นจึงค่อยๆ ยกขึ้นมามองไปยังเจ้าของมือนี้ ใบหน้าหล่อเหลาไม่มีที่ตินั่นทั้งที่เป็นใบหน้าที่เพิ่งเห็นไปก่อนหลับตาลงเมื่อครู่แท้ๆ แต่ตอนนี้พอมอง กลับยังคงทำให้นางรู้สึกเหมือนไม่เจอกันเสียนานสายตาของชายหนุ่มอบอุ่น ด้านในมีความรู้สึกอารมณ์เหมือนความเจ็บปวดแฝงอยู่"จั๋วเสียวจิ่ว..." เขาก้มหน้าลงเรียกนางจั๋วซือหรานมองเขา จากนั้นจึงออกแรงบีบมือเขา และน่าจะเพราะออกแรงมากเกินไปปลายเล็บจึงเหมือนจิกลงไปในเนื้อเขาฝันถึงเขาอีกแล้วจั๋วซือหรานมีปฏิกิริยาขึ้นมา ครั้งนี้เหมือนกับครั้งนั้นเลย ฝันถึงเฟิงเหยียนยิ่งไปกว่านั้นยังดูเหมือนจริงเป็นพิ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1271

    กลางดึก จั๋วซือหรานกัดริมฝีปาก กอดหมอน เดินเท้าเปล่าจากห้องด้านนอกเข้าไปยังห้องด้านใน!คิ้วงามของนางขมวดแน่น สีหน้าที่มีสีเลือดฟื้นมาบ้างแล้ว ตอนนี้กลับขาวซีดขึ้นมาในใจนางเองก็พูดไม่ออก เดิมทีตอนที่หลับก็ยังดีอยู่ พอกลางดึกจู่ๆ ก็ไม่ไหวขึ้นมาเสียแล้วหน้าอกปั่นป่วนอย่างรุนแรง เป็นความรู้สึกทรมานแบบที่นางผ่านมาก่อนหน้าไม่ผิดเพี้ยนถ้าบอกว่าคนคนนี้ไม่เข้ามาก็ว่าไปอย่าง แต่นี่ก็เข้ามาแล้วว่ากันว่าพอเคยสบายแล้ว จะยากที่จะกลับไปลำบากตอนนี้จะให้นางปล่อยชายหนุ่มที่เหมือนกับ 'ยาบำรุงครรภ์' นี้ไว้ข้างในเฉยๆ โดยไม่ใช้ แล้วต้องมานั่งทนกระอักเลือดต่อล่ะก็...ขอโทษด้วย สกุลจั๋วอย่างนางไม่ใช่คนประเภทนั้นนางเข้าใจแล้ว ก่อนที่จะหลับไปเมื่อคืนนี้ ตอนที่เฟิงเหยียนบอกว่าจะนอนด้านนอก ริมฝีปากที่เม้มแน่นนั้นกำลังอดกลั้นเรื่องอะไรน่าจะคิดไว้แล้วว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้สารเลว!จั๋วซือหรานครั่นเนื้อครั่นตัวตื่นมากลางดึก ต่อให้เป็นคนที่มีสติเยือกเย็นแค่ไหน ก็ยังมีอาการหงุดหงิดงัวเงียหลังตื่นนอนนางเดินเท้าเปล่าเข้าไปห้องด้านใน อากาศในหุบเขาตอนกลางคืนเย็นมากนางสวมแค่เสื้อบางๆ ชุดหนึ่ง ทั้งตัวเย

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1270

    แต่กลับรู้ตัวตนฐานะผู้ชายทรยศของเฟิงเหยียนได้ ไม่ต้องคิดเลยว่าคงเป็นจั๋วหวายพล่ามออกมาแน่"จั๋วหวายมาบอกเจ้าหรือ?" ปันอวิ๋นถามขึ้นคำหนึ่งจวงอี๋ไห่ พยักหน้าอย่างระมัดระวัง "คุณชายเสี่ยวหวายไม่หลอกข้าหรอก คุณชายเสี่ยวหวายบอกว่าเป็นผู้ชายทรยศ เช่นนั้นกว่าครึ่งก็ต้องเป็นผู้ชายทรยศแล้ว"ปันอวิ๋นถอนหายใจแผ่วเบาในห้อง จั๋วซือหรานนั่งลงข้างโต๊ะเฟิงเหยียนไม่พูดอะไร รินน้ำชาให้นางถ้วยหนึ่งจั๋วซือหรานกำถ้วยไว้ ใช้นิ้วมือลูบไล้ขอบถ้วยเบาๆ"อีกเดี๋ยวพออาหารส่งเข้ามา ก็กินสักหน่อยแล้วค่อยนอนพัก" เฟิงเหยียนเอ่ยขึ้นแต่ในน้ำเสียงแฝงไว้ด้วยความหนักแน่นที่ห้ามปฏิเสธจั๋วซือหรานแหงนตามองเขา กำลังจะบอกว่ายังไม่หิวก็เห็นริมฝีปากบางของชายคนนี้เม้มเบาๆ เอ่ยเสียงต่ำว่า "ข้าไม่มีสิทธิ์จะมาหารือกับเจ้าจริงๆ นั่นล่ะ..." สายตาเขาทอดลงไปที่ท้องน้อยนาง แววตาลึกซึ้งจากนั้นจึงเอ่ยต่อว่า "แต่การจะเตือนให้เจ้ากินอะไรดีดีก็ยังพอมีสิทธิ์อยู่" สายตาเขายกขึ้นมาจากท้องน้อยจั๋วซือหรานเลื่อนมาที่ดวงตานาง จ้องมองดวงตานาง เอ่ยต่อว่า "ถึงอย่างไรเมื่อครู่ก็เพิ่งช่วยเจ้ากลับมา ยิ่งไปกว่นั้นเรื่องถูกพลังศักดิ์สิท

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1269

    เขาไม่เพียงแต่ไม่ใช่สามีของนาง เขายังเป็นคู่หมั้นในนามของหญิงสาวคนอื่นอีกด้วยสีหน้าของเฟิงเหยียนแข็งทื่อไปแล้ว แต่ท้ายสุดก็ยังพูดอะไรไม่ออกเพราะในคำพูดจั๋วซือหราน ไม่มีส่วนที่ผิดเลยแม้แต่น้อยแม้จะบอกว่าเด็กคนนี้ ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเขาก็ตามแต่ครั้งก่อนหน้านั้น เป็นเพราะจั๋วซือหรานถูกวางแผนร้ายใส่ ถึงทำให้นางสับสนหลงใหลจนมีสัมพันธ์กับเขาถ้าจะบอกว่า เขาเอาเปรียบหญิงสาวไป ก็ไมไ่ด้พูดเกินเลยนักเอาเปรียบหญิงสาว จนทำนางตั้งท้อง ไม่เคยจะมารับผิดชอบอะไรตอนนี้กลับจะมาชี้มือชี้ไม้เรื่องของนางพอสรุปมาแบบนี้ มันก็ช่าง...แย่มากจริงๆเฟิงเหยียนเองก็รู้ว่าตนเองนั้นแย่มาก พูดอะไรออกมาไม่ได้ไปชั่วขณะปันอวิ๋นรู้สึกกระอักกระอ่วนแทนสหายเก่า เขากระแอมออกมาเบาๆ ทีหนึ่ง ไกล่เกลี่ยขึ้นว่า "เอาล่ะเอาล่ะ..."เขาเองก็ไม่รู้ว่าควรพูดอะไร ถึงอย่างไร ทั้งสองคนตอนนี้จะไม่ได้เป็นคู่รัก แต่ความสัมพันธ์แบบนี้...มันก็ดูคลุมเครือ กลืนไม่เข้าคายไม่ออกอยู่ นี่มันช่าง...ดังนั้นปันอวิ๋นเลยเปิดประเด็นขึ้น อึกอักในปากอยู่พักหนึ่ง กว่าจะพูดออกมาได้ "...พวกเจ้าหิวหรือยัง? ให้เหล่าจวนทำอะไรให้กินหน่อยดีไหม?"

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1268

    นางยืนเงียบๆ อยู่ตรงนั้น แหงนตาขึ้นมองพวกเขาสายตาของเฟิงเหยียนอึ้งไปเล็กน้อย เห็นนางยืนอยู่ในประตูด้วยสีหน้านิ่งขรึมเขารู้สึกลำคอแห้งผากอย่างประหลาด ความรู้สึกนั้น บางทีควรจะเรียกว่า...ตึงเครียดไหม?"เจ้า...ตื่นขึ้นมาตอนไหนน่ะ?" เฟิงเหยียนถามจั๋วซือหรานมองเขา "ไม่นานเท่าไร"เหมือจะมองออกถึงความกระอักกระอ่วนของเขา หรืออาจจะไม่สรุปคือ มุมปากจั๋วซือหรานยกขึ้นบางๆ พูดมาคำหนึ่ง "ท่านอ๋องน้อย ไม่เจอกันเสียนาน"นางทำแบบนี้โดยไม่เอ่ยถึงคำพูดก่อนหน้านั้นแม้แต่น้อยเฟิงเหยียนอ้าปากพะงาบ ต่อให้คิดจะพูดอะไร แต่ชั่วขณะหนึ่งก็เหมือนจะพูดออกมาไม่ได้จึงแค่ถามขึ้นอย่างเป็นห่วง "ดีขึ้นบ้างหรือยัง?"จั๋วซือหรานพยักหน้า "ดีขึ้นมากแล้ว"กระทั่งปันอวิ๋นก็ยังมองออกถึงเรื่องระหว่างพวกเขา ไม่รู้เพราะเจ้าสมองกลับนี่ไปแตะเนื้อต้องตัวทำอะไรนาง หรือเป็นเพราะคำพูดเมื่อครู่นางได้ยินคำพูดของเฟิงเหยียน...สรุปคือ ปันอวิ๋นมองพวกเขาทั้งสองคน แล้วก็รู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออกแทนพวกเขาทั้งสองคนปันอวิ๋นคิดๆ ดู ตอนที่ตนเองอยู่กับจั๋วซือหรานก็ยังไม่ได้กลืนไม่เข้าคายไม่ออกขนาดนี้รู้สึกร้อนใจแทนเจ้าบ้านี่จร

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1267

    เพราะเป็นเพื่อนสนิท ปันอวิ๋นจึงเข้าใจความหมายที่เขาคิดจะแสดงออกมาหรือก็คือ ปันอวิ๋นเดาได้นานแล้วบางทีตอนนั้นเพื่อจะให้จั๋วซือหรานหลีกเลี่ยงโชคชะตาเช่นนี้ ตนเองจึงเลือกที่จะลืมเลือนแต่สุดท้ายพอวกไปวนมา ก็กลับมาเดินอยู่บนเส้นทางเดิมเจ้าสิ่งที่เรียกว่าโชคชะตานี่ ลึกลับเอามากๆบางครั้งเหมือนจะมีเมตตา แต่บางครั้งก็เหมือนไม่เคยปราณีใครผู้ใด"แล้วเจ้าตอนนี้...คิดจะทำอย่างไร?" ปันอวิ๋นถามเขาจ้องเฟิงเหยียนตาไม่กระพริบเอาจริงๆ ปันอวิ๋นใช้มองจากมุมมองคนนอกอย่างมีเหตุมีผล ยังหวังว่าจั๋วซือหรานจะสามารถปล่อยวางได้แต่พอคิดถึงว่าถ้าหากจั๋วซือหรานปล่อยวางแล้วล่ะก็ ด้วยโชคชะตาภาชนะพลังศักดิ์สิทธิ์หงส์แดงของเฟิงเหยียน ผลสรุปสุดท้าย ก็คือตายก่อนวัยอันควรอยู่ดีและเพราะรู้เรื่องนี้ ดังนั้นปันอวิ๋นจึงหยุดไปครู่หนึ่ง เอ่ยเสริมมาคำนึง "ถังฉือเคยบอกข้าไว้ ในโถงวิญญาณอสูร พวกสัตว์เทพที่ถูกเก็บกลับมาเหล่านั้น..."ปันอวิ๋นขมวดคิ้ว คิดถึงคำพูดของถังฉือถังฉือมีบาปหนาจากการฆ่าฟันคนมากมาย กลายเป็นคนเย็นชาไร้หัวใจไปแล้ว ถ้าหากไม่เย็นชาไร้หัวใจ ป่านนี้คงเป็นบ้าไปแล้วดังนั้นตอนที่เขาพูดถึงเรื่องเห

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1266

    ปันอวิ๋นส่งให้เขาชามหนึ่ง ตนเองก็ด้วยทั้งสองคนไม่พูดพล่ามทำเพลง กระดกรวดเดียวจนหมดราวกับว่า สุราที่มาช้าไปหลายปีนี้ ในที่สุดก็ได้ดื่มเสียทีราวกับว่าภาพเด็กน้อยที่แอบขโมยสุราพวกนั้นมาดื่ม ซ้อนทับเข้ามากับพวกเขาในเวลานี้"ช่วงนี้เจ้า ไม่ได้ติดต่อกับพวกเขาเลยหรือ?"หลังจากร่ำสุราลงท้องไปสองชาม จิตใจก็เหมือนจะผ่อนคลายลงมาไม่น้อย ปันอวิ๋นถามขึ้นอย่างสบายๆ เป็นกันเองเฟิงเหยียนฟังออก ว่าเขาถามถึงเหล่าพี่น้องพวกนั้นเขาตอบอืมไปคำหนึ่ง "ไม่ได้ติดต่อกันเลย""เช่นนั้นก็คงไม่รู้สถานการณ์ของพวกเขาเลยสินะ" ปันอวิ๋นเอ่ยขึ้นเฟิงเหยียนไม่ยอมรับหรือปฏิเสธกับสิ่งนี้ ถือว่ายอมรับไปกลายๆปันอวิ๋นยิ้มๆ เหมือนจะเย้ยหยันตนเอง "แต่ก็ไม่โทษพวกเขาที่ไม่ติดต่อเจ้า ด้วยสถานการณ์ของพวกเขาตอนนี้ ก็ไม่มีหน้ามาติดต่อเจ้าจริงๆ นั่นล่ะ"ได้ยินคำนี้ของปันอวิ๋น เฟิงเหยียนก็ไม่พูดอะไรอีกปันอวิ๋นเอ่ยต่อว่า "ซงซีตอนนี้ทุกวันเหมือนขลุกอยู่แต่ในห้องหลอมสกัด หลอมสกัดอยู่ทุกวันไม่ได้พักเลย"เฟิงเหยียนพอได้ยินคำนี้ คิ้วก็ขมวดขึ้นบางๆ"เยี่ยนเหวย...ก็สูบเลือดออกมาทุกวัน อยู่แบบไม่เหมือนผู้เหมือนคน ผู้อาวุโสหวงจ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1265

    บางทีคงเป็นเพราะการคุยแบบเปิดอกก่อนหน้านี้ ทำให้ระยะทางขอเพื่อนสนิทสองคนที่เคยห่างไปตามกาลเวลา ย่อหดลงไปไม่น้อยเลยกระมังดังนั้นพอได้ยินปันอวิ๋นบอกว่าไม่ต้องขอบคุณ เฟิงเหยียนจึงเหลือบมองเขา น้ำเสียงเปลี่ยนไป "ก็ได้ เช่นนั้นก็ไม่ขอบคุณแล้วกัน"เฟิงเหยียนสั่งขึ้นมา "ไป ไปเอาสุรามาให้ข้าหน่อย"แม้จะพูดเช่นนี้ แต่ในเสียงกลับไม่ได้ออกคำสั่งอะไร ฟังแล้วเหมือนการใช้งานระหว่างเพื่อนกันมากกว่าปันอวิ๋นชะงักไปเล้กน้อย เพราะตอนพวกเขายังเด็ก ก็เคยใช้งานกันและกันแบบนี้ไป ไปเอาสุรามาหน่อยได้ งั้นเจ้าก็เอาปลาไปย่างซะข้าเห็นว่าเจ้าหน้าตาเหมือนปลาถ้าเจ้ายังพูดอีกรอบ จะโดนข้ากดจนจมถังสุราตายไปเลยเพราะคำพูดนี้ของเฟิงเหยียน ทั้งสองคนก็เหมือนกลับไปสมัยยังเด็กในชั่วพริบตาปันอวิ๋นยกมุมปากขึ้นบางๆ ลุกขึ้นไปให้คนรับใช้ส่งสุราเข้ามาคือสุราห้าพิษที่เขาจะหมักอยู่ทุกปี และใช้แมลงพิษมาหลอมจริงๆ แต่ตัวสุรากลับไม่มีพิษใดๆ กระทั่งยังหอมอบอวลเข้มข้นเป็นพิเศษ เป็นสุราที่หาได้ยากยิ่งและเป็นความลับที่ไม่เผยแพร่สู่ภายนอกของหุบเขาหมื่นพิษ ปกติมีแค่เจ้าหุบเขาที่รู้แต่ปันอวิ๋น หลังจากออกสำนักมา ก็ไม่ได้ด

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status