แชร์

บทที่ 352

ผู้เขียน: หูเทียนเสี่ยว
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-08-31 18:00:00
จากระยะไกล ๆ นางเห็นร่างที่สวยงามกำลังมาที่สวนหลังบ้าน นั่นคือคุณหนูเจ็ดของตระกูลเหยียน เหยียนหยี่หลิง

และคนที่เดินตามนางอย่างใกล้ชิดคือฉวนคูน

ฉวนคูนพูดซ้ำ ๆ "คุณหนูท่านนี้ คุณหนูไม่ควรเข้ามาโดยไม่ได้รับอนุญาตขอรับ โปรดหยุดฝีเท้าขอรับ"

แต่ดูเหมือนหยี่หลิงไม่สนใจฉวนคูนเป็นคนเลย นางสะบัดมือ และผลักฉวนคูนออกไป

ฉวนคูนเป็นเพียงคนรับใช้ในบ้านโดยไม่มีการฝึกฝนใด ๆ เขาเป็นเพียงคนรับใช้ในบ้านธรรมดา ๆ เขาทนแรงผลักเช่นนี้ได้อย่างไร เขาบินออกและล้มลงกับพื้นอย่างแรง

จั๋วซือหรานจ้องมองไปในทิศทางของฉวนคูน ทันทีที่ฉวนคูนกำลังจะล้มบนพื้น จู่ ๆ หญ้าบนพื้นสูงขึ้นและหนาขึ้นอย่างมาก

หญ้าเหล่านั้นช่วยรับฉวนคูนไว้ เพื่อไม่ให้เขาล้มบนพื้นอย่างแรง

เหยียนหยี่หลิงมุ่งความสนใจไปที่จั๋วซือหราน นางไม่ได้สนใจคนรับใช้ที่ถูกนางโยนออกไปในก่อนหน้านี้มากนัก ใครกันแน่กล้าห้ามนาง

แต่เหยียนฉีสังเกตการกระทำของจั๋วซือหรานแล้ว ฉากสั้น ๆ นั้นทำให้เขาตกใจอย่างมาก

เหยียนหยี่หลิงเดินเข้ามาด้วยการเยาะเย้ย นางมองไปที่ จั๋วซือหราน " จั๋วจิ่ว ทำไม เจ้ากล้าให้ท่านพี่ของข้ามาขอโทษเจ้าได้อย่างไร เจ้าเป็นผู้ทรยศต่อตระกูลของตัวเอง
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 353

    เสียงที่คมชัดขัดจังหวะเสียงของเหยียนหยี่หลิงเสียงของนางหยุดอย่างกะทันหัน สีหน้าของนางแข็งทื่อ ดวงตาของนางตกใจจนต้องเบิกกว้าง และนางไม่กระพริบตาเลยด้วยซ้ำ ดูเหมือนนางมืนงงอย่างมากผมยาวของนางปลิวไปตามสายลมและปลิวไสวบนใบหน้าของนางปิ่นปักผมที่หักหลุดออกจากศีรษะ และชิ้นส่วนนั้นทำบาดบนใบหน้าของนางเบา ๆใบหน้าของเหยียนหยี่หลิงซีดลง และนางก็นิ่งเฉย นางไม่ทราบด้วยซ้ำว่า จั๋วซือหรานลงมือเมื่อใดและลงมืออย่างไรจากนั้นนางได้ยินเสียงปัง และปิ่นปักผมของนางก็แตกเป็นชิ้น ๆ และหลุดบนพื้นผมของนางถูกปล่อยทันทีกระบวนการนี้ทำให้นางหวาดกลัว นางกลัวเพราะนางไม่ทราบเรื่องเกิดขึ้นได้อย่างไรจั๋วซือหรานไม่ได้มองเหยียนหยี่หลิง แต่มองเหยียนฉี อย่างไร้ความรู้สึก นางพูด "หากนางไม่ไปจากนี้อีก การโจมตีครั้งต่อไปจะตกใส่หัวนางโดยตรง"เหยียนฉีตกตะลึงอย่างมากเช่นกัน เขารู้สึกคอแห้งเพราะเขาตกใจอย่างมาก“เจ้าอย่าโกรธเลย ข้าจะพานางไปเดี๋ยวนี้” เหยียนฉีพูดจบ แล้วรีบดึงเหยียนหยี่หลิงไว้ก่อนหน้านี้ เหยียนหยี่หลิงยังค่อนข้างจะหยิ่งเล็กน้อย นางทำตัวหยิ่งเพราะนางทราบจั๋วซือหรานถูกสั่งสอนแล้ว แต่ตอนนี้... ดูเหมือนน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-31
  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 354

    ช่างเป็นเรื่องที่น่ายินดีจริง ๆ ตระกูลจั๋วอาจมีการกระทำใด ๆ ในอนาคตแต่ในขณะนี้ เหยียนฉีไม่มีเวลาลึกว่านี้อีกต่อไปเพราะจั๋วซือหรานไม่อยากพูดเรื่องไร้สาระกับพวกเขาอีกแล้ว เนางพูดอย่างไร้ความรู้สึก "ข้านับถึงสาม เหยียนหยี่หลิง หากเจ้ายังไม่หายไปจากสายตาของข้า กะโหลกของเจ้าจะแตกสลายเหมือนปิ่นปักผมอันเมื่อครู่นี้"เหยียนหยี่หลิงหวาดกลัว นางรีบลากเหยียนฉีออกไปก่อนที่เหยียนฉีจะจากไป เขาเพียงมองจั๋วซือหรานอย่างลึกซึ้งและซับซ้อนเพียงแต่ว่าจั๋วซือหรานไม่สังเกตสายตาอันซับซ้อนนี้เลย นางเพียงแค่หลับตาและหาวหลังจากพวกเขาจากไป ฉวนคูนก็รีบวิ่งเข้ามา เขาปัดฝุ่นบนร่างกายของเขา "คุณหนู คุณหนูขอรับ ขอบคุณคุณที่ช่วยข้าไว้ขอรับ"จั๋วซือหรานเหลือบมองเขาฉวนคูนยิ้มและพูดต่อ "ข้ายังสงสัยอยู่เลยว่า ทำไมจู่ ๆ หญ้าก็หนาขึ้น และข้าล้มบนนั้นก็ไม่เจ็บอีกเลย ปรากฎว่าคุณหนูปกป้องข้าอยู่ขอรับ"จั๋วซือหรานเลิกคิ้ว "เจ้าทำงานให้ข้า แน่นอนว่าข้าต้องปกป้องเจ้า แต่นี่ เจ้า..." จั๋วซือหรานขมวดคิ้ว "ชายร่างใหญ่ช่างอ่อนแอเหลือเกิน วันหลัง เจ้าฝึกฝนกับจั๋วหวาย และฝูซูเลย"“ฮะ” ฉวนคูนพริบตา“โอ้ ใช่แล้ว พาเด็กฉลา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-31
  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 355

    จั๋วซือหรานสั่งฉวนคูนทุกเรื่อง จากนั้นนางไม่ได้กลับไปนอนที่ห้องขนางคิดครู่หนึ่ง จากนั้นไปที่ห้องของท่านแม่ดวงตาของอวิ๋นเหนียงกระพริบ เห็นได้ชัดว่านางอยากพูดอะไรบางอย่าง แต่นางไม่ทราบจะพูดอย่างไรจั๋วซือหรานไม่รีบร้อน นางรออย่างเงียบ ๆหลังจากนั้นไม่นาน อวิ๋นเหนียงจึงอ้าปากพูด " หรานหราน เมื่อครู่นี้ คนของตระกูลเหยียนมาหาเรื่องลูก แม่ได้ยินหมดแล้ว"“เจ้าค่ะ” จั๋วซือหรานนั่งเตียงนอน นางยิ้มและมองท่านแม่ของนาง จริง ๆ แล้วนางทราบท่านแม่ของนางจะพูดอะไร แต่นางแค่อยากรอท่านแม่ของนางอ้าปากพูดเองจั๋วซือหรานไม่กลัวท่านแม่ขออะไรกับนาง ยิ่งกว่านั้น นางรู้สึกดีใจอย่างมากหากท่านแม่ของนางขออะไรจากนาง นางยินดีที่จะให้ท่านแม่ของนางสมปรารถนานางรู้สึกนี่อาจเป็นความเห็นแก่ตัวในส่วนของนาง เพราะได้ยึดครองร่างของลูกสาวของอวิ๋นเหนียง ดังนั้นโดยธรรมชาติแล้วนางจึงต้องดแลอวิ๋นเหนียงในฐานะลูกสาวของอวิ๋นเหนียง ซึ่งถือเป็นการชดเชยสำหรับเจ้าของร่างเดิมเอาเป็นว่านี่เป็นผลตอบแทนสำหรับการดูแลของอวิ๋นเหนียงแต่อวิ๋นเหนียงไม่ได้พูดอะไรมาเป็นเวลานาน นางไม่กล้าเรียกร้องอะไรจากลูกสาวของนางจริง ๆ เพราะนางทราบดี

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-01
  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 356

    อวิ๋นเหนียงรู้สึกเจ็บใจ นางตอบเบา ๆ “เอาล่ะ แม่รู้ หากลูกง่วง นอนเลยลูก แม่จะเฝ้าลูก”จั๋วซือหรานฮัมด้วยความงุนงง นางหลับไปอย่างรวดเร็วโดยไม่พลิกตัวเลยสักนิดนางต้องยอมรับการที่ให้ท่านแม่ค่อย ๆ สัมผัสศีรษะของนาง และเกลี้ยกล่อมนางด้วยคำพูดที่อ่อนโยนนั้นช่างถูกสะกดจิตจริง ๆแม้ในขณะที่นางหลับ จั๋วซือหรานก็ไม่ได้เกียจคร้านทันทีที่นางหลับตา นางก็เข้าไปในพื้นที่ของแหวนเสวียนเหยียน นางถือถุงผ้าอยู่ในมือ นี่คือทรัพสินท์อุดหนุนที่ สำนักงานใหญ่ของตระกูลมอบให้นางเมื่อนางถอนตัวออกจากสำนักงานใหญ่ของตระกูล และของขวัญหมั้นบางชิ้นที่ที่ตระกูลเฟิงส่งมา นางค้นหาในรายการของของขวัญพวกมันล้วนเป็นเมล็ดพันธุ์สมุนไพรวิเศษ เมื่อนางได้รับพวกมัน จั๋วซือหรานก็โยนพวกมันเข้าไปในพื้นที่ของแหวนเสวียนเหยียนเป็นเพราะนางรู้สึกว่าหลังจากนางได้พบเจอเฟิงเหยียน แล้ว แหวนเสวียนเหยียนก็ตามข้ามมายังโลกใบนี้ และพื้นที่เก็บของของแหวนเสวียนเหยียนก็ถูกเปิดออก และคลังพลังก็ปรากฏขึ้นเช่นกันตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา จั๋วซือหรานรู้สึกว่าสักวันหนึ้ง พื้นที่น้ำพุวิเศษต้องถูกเปิดแน่ ๆตามที่คาดไว้ ตอนที่นางอยู่จวนจั๋ว เพื่อเต่อสู

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-01
  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 357

    จั๋วซือหรานใช้ประโยชน์จากช่วงเวลาอันสั้นที่นางนอนเพื่อเฝ้าดูเมล็ดพืชที่กระจัดกระจายแบบสุ่มในพื้นที่น้ำพุวิเศษของนาง นางเห็นเมล็ดที่นางโบรยลงดินเติบโตไปเรื่อย ๆการเจริญเติบโตนั้นน่ายินดีจริง ๆจั๋วซือหรานนั่งอยู่ที่นั่นและเฝ้าดู นางอดไม่ได้ที่ต้องพึมพำกับตัวเองว่า "ลืมไปเถิด ทำไมต้องเป็นคุณหมอ ทำงานหนักมากและไม่มีเงินเลย และหากรักษาไม่หาย ยังถูกคนไข้ด่าอีก...เป็นพ่อค้าขายวัสดุยา ทำธุรกิจค้าวัสดุยาละกัน เงินเยอะ ไม่ยุ่งยากด้วย"ในเวลาเดียวกันฉวนคูนยืนอยู่บนดินที่เขาเพิ่งขุดออกในเมื่อสองสามวันก่อน เขาได้พลิกกลับและคลายดินเมื่อเขาเห็นพืชอันสีเขียวโตขึ้นสูงมาก เขาตกใจอย่างมากเขาไม่สามารถแม้แต่จะยืนนิ่งได้ เขาสะดุดกลับและล้มลงกับพื้นในที่สุดฉวนคูนจึงเข้าใจว่าก่อนหน้านี้ ทำไมคุณหนูถึงพูดเช่นนั้นกล่าวคือไก่ไม่มีมือ มิฉะนั้น ไก่ก็สามารถทำงานประเภทนี้ได้แม้ว่าแค่โบรยข้าวกำหนึ่งก็ตามตอนที่ฉวนคูนได้ยินคำพูดนี้ เขายังคิดอยู่คุณหนูล้อเขา แต่เขาไม่คาดคิด...“คุณหนูไม่ได้โกหกจริง ๆ ไม่ได้โกหกสักคำเลย...” ฉวนคูนเอามือจิกตรงกลางของริมฝีปากชั้นบนของตัวเอง หากเขาไม่ทำเช่นนั้น เขาจะรู้สึกต

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-01
  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 358

    เมื่อพูดถึงจุดนี้ จั๋วซือหรานไม่ได้พูดต่อนางไม่ได้ขึ้นรถม้า แต่นำม้าออกมาโดยตรง นางขี่ม้าและมุ่งหน้าไปยังหอหลวงหอหลวงเป็นตำหนักหลวงที่ตั้งอยู่ในชานเมืองทางตอนเหนือของเมืองหลวง หอหลวงมีพื้นค่อนข้างใหญ่ในนี้มีศาลาต่าง ๆ และมีสวนทุกประเภท ไม่เพียงแต่มีครูที่คอยสอนนักเรียนเท่านั้น แต่ยังมีผู้เชี่ยวชาญในการสอนศิลปะการต่อสู้อีกด้วยผู้ที่สามารถเรียนที่นี่ได้อาจเป็นลูกหลานของสมาชิกราชวงศ์ คุณชายหรือคุณหนูแห่งตระกูลขุนนางต่าง ๆแต่จริง ๆ แล้วลูกหลานของตระกูลต่าง ๆ ไม่โอกาศน้อยมากที่สามารถเข้ามาเรียนที่นี่ได้ อาจพูดได้ว่า มีจำนวนน้อยมาก ด้วยเหตุนี้เมื่อ เมื่อจั๋วซือหรานได้สิทธิ์ที่เข้ามาเรียนในหอหลวงจากไทเฮา ผู้อาวุโสของตระกูลจั๋วจึงบังคับนางสละสิทธิ์แม้ว่ามีลูกหลานไม่กี่คนของตระกูลต่าง ๆ มาเรียนที่นี่ แต่พวกเขาต่างมีความสัมพันธ์ส่วนตัวกับลูกหลานของขุนนางและราชวงศ์ดังนั้นคุณชายและคุณหนูเหล่านี้ที่กำลังศึกษาอยู่ในหอหลวงจึงทราบเหตุการณ์ล่าสุดของจั๋วซือหรานและตระกูลจั๋วเป็นอย่างดีพวกเขารู้อยู่แล้วว่าจั๋วซือหรานได้สิทธิ์ที่เข้ามาศึกษาที่หอหลวง เดิมทีพวกเขากำลังรอผู้หญิงที่หยิ่งยโสและป

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-01
  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 359

    เมื่อจั๋วซือหรานมาถึงหอหลวง จั๋วหวายกำลังยืนอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่นอกห้องเรียน เขากำลังยกมือขึ้นสูงเพื่อไตร่ตรองใบหน้าของเขายังคงมีรอยฟกช้ำอยู่บ้าง แต่สีหน้าของเขาไม่มีความน้อใจใด ๆในทางกลับกัน ในห้องเรียนด้านข้าง ใบหน้าของลูกหลานของราชวงศ์และขุนนางหลายคนช้ำและบวม น่าสังเวชมากกว่าของจั๋วหวายหลายเท่าชิ่งหมิงยืนอยู่ข้าง ๆ จั๋วหวาย คิ้วอันบอบบางของเขาขมวดแน่น เขาถามด้วยเสียงต่ำ " เสี่ยวหวาย ทำไมเจ้าไม่ให้ข้า... ลงมือจัดการพวกเขา"จั๋วหวายยิ้มแม้จะมีรอยช้ำเล็กน้อยบนใบหน้าก็ตาม" ชิ่งหมิง เจ้าต่อสู้เก่ง หากเจ้าลงมือจัดการพวกเขา พวกเขาต้องรับบาดเจ็บสาหัส แล้วเราจะไม่เป็นฝ่ายที่ถูกต้อง นอกจากนี้ ตัวตนภายนอกของเจ้าในปัจจุบันยังเป็นเด็กรับใช้เมื่อคุณชายเรียนหนังสือ หากเด็กรับใช้อลงมือและทำร้ายพวกเขา จะถือเป็นล่วงเกินตัว สถานการณ์ของเราคงจะลำบากกว่าตอนนี้อีกขอรับ”“แต่ตข้าสู้กับพวกเขา จะเป็นคนละเรื่อง อย่างมากก็เป็นแค่ความขัดแย้งระหว่างเพื่อนร่วมชั้น ประการแรก คำพูดของพวกเขาไม่เป็นที่พอใจ อีกอย่าง พวดเราแค่ใช้หมัดกัน จะชนะหรือแพ้ มันไม่สำคัญ และข้ามองออก พวกเขาสู้ข้าไม่ได้หรอก”“เชอะ พวกเขา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-02
  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 360

    ชิ่งหมิงรีบรับกล่องอาหารไว้จั๋วซือหรานพูดว่า "ข้าเอาอาหารกลางวันมาให้"ดวงตาของจั๋วหวายสว่างขึ้น“ข้าก็ไม่ได้หวังใเจ้าตั้งใจเรียนหรอก แต่เจ้าสร้างปัญหาในวันแรก…” จั๋วซือหรานมองไปที่จั๋วหวายด้วยรอยยิ้มจาง ๆจั๋วหวายทำหน้าบูดบึ้งและพูดอย่างเสียใจว่า "พวกเขาพูดจารุนแรงมาก และเอาแต่พูดเรื่องไม่ดีเกี่ยวกับท่านพี่ ข้าโกรธมาก เลยจัดการพวกเขา พวกเขาด่าข้า ข้าไม่เป็นไร แต่ทำไมพวกเขาต้องว่าท่านพี่ด้วยล่ะ ท่านพี่มีอะไรที่ด้อยกว่าพวกเขาหรือ ท่านพี่มีอะไรที่ด้อยกว่าทุกคนหรือ”เมื่อเห็นท่าจริงจังของน้องชาย จั๋วซือหรานก็โค้งริมฝีปากแล้วยิ้ม "แต่ในเมื่อเจ้าชนะแล้ว ข้าก็จะไม่ลงโทษเจ้า แต่ทำไมเจ้าถึงต้องยืนอยู่ที่นี่"จั๋วหวายกล่าวว่า "ครูสั่งลงโทษข้า ให้ข้ายืนอยู่ที่นี่"“เจ้าถูกลงโทษคนเดียวหรือ” จั๋วซือหรานเลิกคิ้ว “คนพวกนั้นไม่ได้ลงมือหรือ”“พวกเขาลงมือด้วยขอรับ แต่ข้ายอมรับการลงโทษของครู เพราะพวกเขาถูกข้าตีอย่างรุนแรง” จั๋วหวายกล่าวเมื่อได้ยินคำพูดของน้องชาย จั๋วซือหรานก็เดินไปที่ห้องเรียนใบหน้าของเหล่าลูกหลานของตระกูลขุนนางเต็มไปด้วยรอยฟกช้ำ เมื่อพวกเขาเห็นนางเดินเข้ามาอย่างอารมณ์ดี พ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-02

บทล่าสุด

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 926

    แม้จะบอกว่า จั๋วซือหรานตอนที่ประลองกับซางถิงในตลาดมืด จะเคยใช้สัตว์เลี้ยงไปแล้วตามหลักการน่าจะมีคนไม่น้อยที่รู้จักสัตว์อสูรของนางแต่เพราะตอนนั้น ถึงอย่างไรก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะมองเห็นนี่ไม่ได้เหมือนในชาติที่แล้วของนาง ที่จะหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาถ่ายรูปโพสไปบนเน็ตได้นี่ล้วนเป็นการลือกันแบบปากต่อปาก คนส่วนใหญ่เคยชินกับข่าวแบบนี้ที่มักจะพูดกันเกินจริง ดังนั้นบางคนก็ไม่ค่อย หรือเชื่อบ้างไม่เชื่อบ้างก็ตามทีแต่ตอนนี้ ทุกคนได้เห็นกับตาแล้ว"หรือว่า...กระทั่งตระกูลซาง...ก็ยังแพ้นางมาแล้ว"อิงเซ่าขี่ม้าเข้ามารับ เขาดูตื่นเต้น ใบหน้าแดงก่ำไปหมดพอมาอยู่ตรงหน้าจั๋วซือหรานจั๋วซือหรานจึงเก็บแมงมุมลงมา ยืนอยู่บนพื้นอิงเซ่าพลิกตัวลงจากม้า "แม่นางจิ่ว! ข้ารู้อยู่แล้ว ว่าถ้าท่านออกโรงต้องสำเร็จ"จั๋วซือหรานเอียงหัวไปทางด้านหลัง "คนของท่าน พากลับมาไม่ขาดแม้แต่คนเดียว บาดเจ็บไปหลายคน แต่ก็ไม่ได้หนักหนาอะไร""ดี!" อิงเซ่าพยักหน้า พูดต่อกันว่า "ดีดีดีมาก!"ตอนนี้ อันที่จริงอย่าว่าแต่เหล่าขุนนางชนชั้นสูงกับพวกราชวงศ์ที่ออกันเต็มประตูเมืองเลยกระทั่งเหล่าประชาชนที่มามุงดูก็ยังเข้าใจ ว่าแม่

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 925

    ดวงตาซือคงอวี้ถลึงโต ลูกตาค่อยๆ พร่ามัวและชายหนุ่มที่ใบหน้าหล่อเหลาชั่วร้ายนี้ ก็ปัดเศษเลือดที่กระเซ็นมาติดชายเสื้อออกไปอย่างไม่แยแสเขารูปร่างโปรง สูงเพรียว แต่ไม่ได้ดูแข็งแรงนัก ดูแล้วผอมไปบ้างแต่กระดูกรูปหน้าดี ดังนั้นใบหน้าจึงดูดีมาก บวกกับผิวที่ขาว จึงให้ความรู้สึกที่เย็นชาดูจากใบหน้าแล้ว ไม่ได้มีเอกลักษณ์ของคนแดนใต้มากนัก ถ้าหากบวกกับผิวสีขาวเข้าไป ก็ยิ่งไม่เกี่ยวกันกับผิวสีคล้ำค่อนดำที่เห็นได้บ่อยๆ ของคนแดนใต้แล้วแต่ผมสีแดงเข้มบนหัว ก็ดูไม่เหมือนกับต้าชางเลยเสื้อผ้าบนตัวเขา สีใกล้เคียงกับสีผมเขามาก ในที่ที่มีแสงน้อย ก็เหมือนจะกลืนกันจนเป็นสีดำแต่ถ้ามองในที่ที่สว่างหน่อย ก็จะดูเป็นสีแดงเข้มคล้ายเลือดและตอนนี้ เหล่าทหารเดนตายของชินอ๋องอวี้...ที่ก่อนหน้านี้ไม่รู้ถอยหนีกระจายกันไปที่ไหน กลับล้อมวงกันเข้ามา"นายท่าน"พวกเขาทยอยกันคุกเข่าข้างหนึ่งชายหนุ่มร้องอืมขึ้น จากนั้นจึงยื่นมือไปดึงคอเสื้อของซือคงอวี้ ลากเขาเดินไปด้านหน้าทหารเดนตายคนหนึ่งเอ่ยขึ้นทันที "นายท่าน ให้ข้าน้อยช่วยเถิด?"ชายหนุ่มกลับโบกไม้โบกมือไม่สนใจ "ไม่ต้อง เดี๋ยวจะทำตะปูวิญญาณข้าเสียหาย"เหล

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 924

    ในใจฮาร์วีย์คิดถึงความเป็นไปได้หนึ่ง คิ้วเลิกขยับขึ้นเบาๆ ไม่ได้พูดอะไรออกมาอีกจั๋วซือหรานเห็นสีหน้าเขา ยังคิดว่าเขาจะพูดอะไรอีก คิดไม่ถึงว่าจะไม่พูดอะไรออกมาเลยไม่พูดก็ไม่พูด ถึงอย่างไรก็ไม่ได้รีบร้อนที่จุดนี้จั๋วซือหรานรอการตัดสินใจขององค์จักรพรรดิเฒ่า แค่ครู่เดียว รองแม่ทัพก็เข้ามารายงาน อธิบายถึงเจตนาขององค์จักรพรรดิเฒ่ารองแม่ทัพบอกว่า "ฝ่าบาทตรัสว่า ให้เดินหน้าต่อได้เลย"จั๋วซือหรานพยักหน้าเล็กน้อย ไม่ได้รู้สึกเกินคาดอะไรกับคำตอบนี้ แค่ตบลงบนตัวแมงมุมน้อยเบาๆไม่มีอะไรเกินคาด นับแต่โบราณองค์จักรพรรดินั้นปราศจากความเมตตาที่สุดมาตลอดตอนที่โปรดปรานเจ้า ก็อยากจะให้เจ้าเป็นองค์รัชทายาทจนตัวสั่น แต่พอความโปรดปรานนี้หายไป แค่ศพก็ไม่อยากจะเก็บกลับไปแมงมุมของจั๋วซือหรานนำทางอยู่ด้านหน้า ขบวนรถม้าเคลื่อนตามนางอยู่ด้านหลังซือคงอวี้แผ่อยู่บนพื้น เขาคลานไปบนพื้นสายตาจับจ้องไปยังทิศทางที่ขบวนรถม้าจากไป มองรถม้าที่คลุมด้วยสีเหลืองคันนั้นห่างออกไปเรื่อยๆมุมปากเขาขยับ แต่ก็ไม่อาจะตะโกนเรียกได้แล้ว เหลือเพียงแต่เสียงที่อ่อนแอ"เสด็จพ่อ...เสด็จพ่อ..." หางตาซือคงอวี้มีน้ำตาหลั่งอ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 923

    จากที่คนอื่นเห็นชินอ๋องคนหนึ่ง ต่อให้จะทำความผิดพลาดครั้งใหญ่แค่ไหน ก็ยังต้องให้ผู้ปกครองสูงสุดแห่งราชวงศ์ ผู้เป็นจักรพรรดิมาลงโทษแต่ไม่ใช่นางที่เป็นหญิงสาวคนหนึ่ง ลงมาสังหารโดยที่ตาก็ไม่กระพริบนางช่างอาจหาญเสียจริง!เหมือนกับชายหนุ่มที่เด็ดเดี่ยวซึ่งไม่เคยหันกลับไปมองฉากระเบิดด้านหลังอย่างไรอย่างนั้นจั๋วซือหรานพอลงมือก็ลงมือ ขี้เกียจจะหันกลับไปมองหลายรอบนางหิ้วขลุ่ยดินเผาเลานั้น เดินกลับไปตรงหน้าราชาแมงมุมหน้าผี กระโดดขึ้นไปบนหลังมันฮาร์วีย์ที่อยู่ข้างๆ เนื่องจากเป็นเชลยของจั๋วซือหราน ดังนั้นจึงอยู่ใกล้นางมากก่อนหน้านี้เห็นขั้นตอนทั้งหมดกับตา ดังนั้นตอนนี้จึงยังคงตกตะลึงอยู่จั๋วซือหรานจ้องมองขลุ่ยดินเผาในมือพิจารณาอยู่ครู่หนึ่ง จึงแหงนตามองฮาร์วีย์ "นี่คืออาวุธกู่นั่นใช่ไหม?"ฮาร์วีย์พยักหน้า "ใช่แล้ว"จั๋วซือหรานมองสัญลักษณ์ดอกถูหมีนั่น มุมปากนางก็ยกขึ้น นิ้วมือควบพลังวิญญาณ จัดการลบสัญลักษณ์ดอกถูหมีบนขลุ่ยดินเผานั้นออกอย่างไม่ปราณีพอเห็นการกระทำที่อหังการเช่นนี้ของนาง ฮาร์วีย์ประหลาดใจหน่อยๆ แต่ก็เหมือนไม่ได้รู้สึกเกินคาดเท่าไรฮาร์วีย์เอ่ยขึ้นอย่างจนใจ "แม่นา

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 922

    และนางเองก็ไม่ใช่ว่าจะไปเด็ดหัวศัตรู แต่แค่ทำเหมือนเข้าไปเด็ดดอกไม้สดดอกหนึ่งอย่างไรอย่างนั้นนักรบเดนตายของซือคงอวี้เหล่านั้น ก็ไม่รู้ว่าเพราะเห็นซือคงอวี้ไม่ดิ้นรนเหมือนคนที่ใกล้จะตายแล้ว หรือว่าเพราะยังตกใจกับการโจมตีก่อนหน้าของจั๋วซือหราน จึงทำให้คนไม่กล้าทำอะไรบุ่มบ่าม?สรุปคือ แม้พวกเขาจะมีท่าทีระแวดระวังอยู่ตลอด กลับไม่กล้าคิดจะทดลองลงมืออะไรกับจั๋วซือหรานแน่นอน และอาจจะเพราะรู้ว่าตนเองสู้ไม่ไหวจั๋วซือหรานเดินไปอยู่ตรงหน้าซือคงอวี้อย่างราบรื่นพอเห็นว่าเหล่าทหารเดนตายรอบๆ ทำได้แค่ระแวดระวัง ไม่มีท่าทีว่าจะโจมตีอะไร จั๋วซือหรานจึงยกริมฝีปากหัวเราะขึ้นมา "เป็นตัวเลือกที่ฉลาด"จากนั้น จั๋วซือหรานก็คุกเข่าลงมาตรงหน้าซือคงอวี้นางกอดเขานั่งยองลงมาตรงหน้าซือคงอวี้ ก้มลงมองดูเขา...ซือคงอวี้ถลึงสองตาที่เต็มไปด้วยเส้นเลือด จ้องเขม็งยังจั๋วซือหรานแต่ตอนนี้เอง ท่าทางกับสายตาของจั๋วซือหรานก็ทำให้เขาเกิดเข้าใจผิด ราวกับว่า...นางไม่ได้กำลังมองเขา แต่ว่า...แต่ว่ากำลังมองมดปลวกบนพื้นตัวหนึ่ง"เจ้า..." ซือคงอวี้ส่งเสียงออกมาอย่างยากลำบาก เขารู้ว่าตนเองตกที่นั่งลำบากแล้วเช่นนั้น

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 921

    "เปรี้ยง...!" เสียงสะเทือนฟ้าเสียงหนึ่งดังขึ้นกะทันหัน!ฮาร์วีย์จับจ้องท่าทางจั๋วซือหรานอยู่ตลอด ดังนั้นตอนที่เสียงสนั่นนี้ดังขึ้นอันที่จริงเขาก็รู้ว่านางเป็นคนทำขึ้นแต่รู้ก็ส่วนรู้ทว่าก็ยังอดรู้สึกตกใจสะดุ้งโหยงขึ้นมาไม่ได้ใครมาได้ยินเสียงแบบนี้ ก็น่าจะตกใจกันหมดนั่นล่ะดังเสียยิ่งกว่าสายฟ้าฟาดเสียอีก!จากนั้น หางตาของฮาร์วีย์ก็จับไปที่ภาพของซือคงอวี้ทางนั้นตรงหน้าซือคงอวี้มีทหารเดนตายขวางอยู่จริงแต่บนความรู้สึก ก็เหมือนว่า...เจ้าทหารเดนตายคนั้นเหมือนกับกระดาษไหม้อย่างไรอย่างนั้นการโจมตีของจั๋วซือหราน...ซัดทะลุร่างกายของทหารเดินตายคนนั้น!จากนั้นก็ซัดซือคงอวี้ลอยตามออกไปด้วยกันเสียงทำนองขลุ่ยดินเผาก่อนหน้านั้น หายวับไปทันทีพวกก้อนเนื้อที่กำลังกลิ้งในมิติของนาง เดิมทียังเจ็บปวดจนแทบจะทนไม่ไหว ทำได้แค่ใช้พลังวิญญาณที่ถ่ายเข้ามาระงับความเจ็บปวดแต่ตอนนี้ พอเสียงของขลุ่ยดินเผาหยุดลงพวกมันไม่เจ็บปวดแล้ว เหลืออยู่เพียงการถ่ายเข้ามาของพลังวิญญาณนายท่าน เหมือนกำลังนอนแช่น้ำอยู่อย่างไรอย่างนั้นรู้สึกสบายสุดยอดขึ้นมาทันที!ความรู้สึกนั้น ราวกับหลุดจากนรกขึ้นมาบนสวรรค

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 920

    ดังนั้นตอนที่พวกมันสัมผัสได้ถึงพลังดำมืดที่ซ่อนอยู่ในขลุ่ยดินเผาสัญชาตญาณของพวกมันจึงคิดว่า ที่เจ้านายของตนเองกำลังเผชิญหน้า คือเจ้าของพลังดำมืดคนนั้นคนที่หลอมสกัดพวกมันและประทับตราให้กับพวกมันคนนั้น...ปันอวิ๋นหน้าจั๋วซือหรานเย็นชาลงมานางเอ่ยเสียงขรึมกับเจ้าพวกขนมน้อย "ไม่ต้องกังวล ในเื่อข้าแย่งพวกเจ้ามา เช่นนั้นก็คือของข้าแล้ว ข้าเองก็อยากจะเห็น ว่าเขาเอาขลุ่ยดินเผานั้นมาแล้วจะทำอะไรได้!"เหล่าลูกแก้วมังกรทั้งเจ็ดได้ยินถึงความโกรธแค้นในคำพูดของจั๋วซือหรานจากนั้นถัดจากประโยคนี้ของนาง พวกมันก็สัมผัสได้ถึง พลังวิญญาณที่พวกมันชอบที่สุด พลังที่ทำให้พวกมันรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นสุขสบายที่พิเศษ...พลังวิญญาณของจั๋วซือหรานถ่ายเข้ามาแบบไม่เสียดายไม่คิดเงินราวกับว่า ไม่ว่าพลังความมืดที่เสียงเหล่านั้นนำมาจะแข็งแกร่งแค่ไหน นางก็จะพยายามอย่างเต็มที่ลองดูสักตั้ง!จั๋วซือหรานทำสองเรื่องพร้อมกันในหัวใช้พลังวิญญาณที่ยิ่งใหญ่ของตนเองถ่ายเข้าไปในมิติน้ำพุวิเศษส่วนด้านนอกก็ยกปืนยาวขึ้นมา เล็งไปทางซือคงอวี้ พูดให้ถูกคือ เล็งไปยังขลุ่ยดินเผาในมือซือคงอวี้แต่ซือคงอวี้ก็ระแวดระวังมาก น่าจ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 919

    ฮาร์วีย์เห็นท่าทางของจั๋วซือหราน...ท่าทางที่ทำให้คนไม่เข้าใจเดิมทียังไม่เข้าใจอะไรเลย แค่สัญชาตญาณทำให้เขารู้สึกว่าหญิงสาวคนนี้ เดิมทีก็ไม่ใช่คนที่ทำอะไรไม่สมเหตุสมผลนางไม่มีทางถามโดยไม่มีเหตุผล ไม่พูดแบบไม่มีเหตุผล และยิ่งไม่ทำอะไรที่ไม่มีเหตุผลฮาร์วีย์อยู่ข้างๆ จั๋วซือหราน ดังนั้น นางจึงสัมผัสได้ชัดเจน ว่าท่วงท่าพลังบนตัวจั๋วซือหรานเริ่มผิดปกติขึ้นเรื่อยๆ แล้วนี่มันช่าง...บอกว่ารุนแรงก็ไม่ได้ เพราะความรู้สึกนั้นไม่ใช่บ้าคลั่ง และไม่เหมือนคนที่เปิดช่องพลังสูดรับเข้าร่างกาย จนกลายเป็นสภาพบ้าคลั่งแบบนั้นด้วยน่าจะเพราะล้ำลึกมากพลังที่ล้ำลึกและยิ่งใหญ่ ราวกระแสน้ำขึ้น กระจายแผ่ออกไปรอบๆ โดยมีนางเป็นศูนย์กลาง"เขาคิด หญิงสาวคนนี้เกรง่วาส่าจะเหมือนกับลูกหลานตระกูลเฟิงพวกนั้น มีสิ่งทีเ่หมือนกับกระบี่ประจำตระกูล อาวุธหรือภาชนะที่กักเก็บพลังของตนเองไว้...ดังนั้นจึงสามารถ ปลดปล่อยพลังที่ยิ่งใหญ่นี่ออกมาในตอนนี้ฮาร์วีย์จู่ๆ ก็คิดถึงสิ่งที่ตนเองเพิ่งพูดไปเมื่อครู่...ถ้าหากพลังวิญญาณควบคุมกู่ของอีกฝ่ายแข็งแกร่งกว่าท่านล่ะก็...บางทีเพราะคำพูดนี้จั๋วซือหรานจึงแสดงท่าทีของตนเอ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 918

    ดังนั้น กลุ่มองครักษ์เหล่านี้ก็คือคนของรองแม่ทัพจากค่ายคุ้มกันและค่ายป้องกันลาดตระเวนที่จั๋วซือหรานพามาก่อนหน้านี้พวกเขาเดิมทีก็ศรัทธาในตัวจั๋วซือหรานอยู่แล้วตอนนี้พอเห็นจั๋วซือหรานนั่งอยู่บนแมงมุมขนาดยักษ์ตัวนั้นด้านหน้าสุดก็ยิ่งรู้สึกเคารพยำเกรงขึ้นมาจั๋วซือหรานไม่รู้การเคลื่อนไหวในเมืองหลวงตอนนี้เลยแต่นางก็มีลางสังหรณ์ขึ้นมารางๆ ว่าเส้นทางครั้งนี้อาจจะไม่ได้ราบรื่นนักไม่แน่ว่าซือคงอวี้ยังมีการลอบโจมตีอยู่จั๋วซือหรานเดาไม่ผิดจริงๆ แต่นางเองก็คิดไม่ถึง ว่าคนที่ซุ่มโจมตีอยู่จะเป็นตัวซือคงอวี้เองเลยครั้นจะบอกว่าเป็นตัวเขาเองก็ยังไม่ถูกนัก เขายังคงมาคนบางส่วนมา แค่องครักษ์สองกลุ่มเท่านั้น กลุ่มหนึ่งมีสิบห้าคน รวมกันแล้วก็แค่สามสิบคนพอเทียบกับขบวนองครักษ์ที่ยิ่งใหญ่นับร้อยขององค์จักรพรรดิเฒ่าแล้วดูไม่จืดเลยจริงๆกระทั่งว่า จั๋วซือหรานแทบจะไม่เกิดความระแวดระวังอะไรขึ้นมาเลยแต่นางก็รู้ว่าการดูถูกศัตรูนั้นไม่ถูกต้อง ดังนั้นยังพยายามกระตุ้นความระแวดระวังขึ้นมาซือคงอวี้อยู่ไม่ห่างไปนัก ขี่ม้าพันธุ์ดีสูงใหญ่ตัวหนึ่งอยู่เขามองบนแผ่นหลังแมงมุมตัวยักษ์นั่นอยู่ห่างๆ มีเงา

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status