Share

บทที่ 267

Author: หูเทียนเสี่ยว
last update Last Updated: 2024-08-06 19:07:36
จั๋วซือหรานเหลือบมองสถานการณ์ที่'ก้นชาม' นางถาม "เจ้าพูดจริงหรือ"

“แน่นอน” เจ้าสำนักแห่งหอฟ้าดาวตอบ เขามองการเปลี่ยนแปลงสีหน้าของจั๋วซือหรานอย่างสงบ

เดิมทีเขายังคิดว่าเขาจะได้เห็นสีหน้าที่ขุ่นเคืองและโกรธเพราะถูกล่วงเกินตัว แต่หญิงสาวผู้นี้แค่เลิกคิ้วขึ้น

เมื่อดูจากสีหน้าของนาง ดูเหมือนนางไม่ได้โกรธหรืออารมณ์เสียเพราะเขาล่วงเกินตัว

แต่นางกลับพิจารณาสถานการณ์ที่"ก้นชาม'อย่างจริงจัง ราวกับว่านางกำลังพิจารณาความเป็นไปได้ของเรื่องนี้จริง ๆ

ซึ่งทำให้เจ้าสำนักแห่งหอฟ้าดาวประหลาดใจมาก ท้ายที่สุด ไม่ว่าเขาจะมองอย่างไร นางก็ยังเป็นแม่นางที่มาจากตระกูลขุนนางและเติบโตในพื้นที่ชนชั้นสูง ซึ่งเป็นบริเวณที่อยู่ทางตอนเหนือของเมือง

แม้ว่าผู้คนในพื้นที่นั้นไม่ได้บอกว่ามีฐานะที่สูงส่งมากนัก แต่เมื่อมาถึงเขตตะวันตกของเมือง พวกเขามักจะดูถูกที่นี่ด้วยความรังเกียจทุกรูปแบบ

เมื่อถูกคุกคามเช่นนี้ในเขตตะวันตกของเมือง นางไม่ได้โกรธ ซึ่งเป็นที่น่าสนใจจริง ๆ

เจ้าสำนักแห่งหอฟ้าดาวไม่รีบร้อน เขายังคงเงียบและรอคำตอบของจั๋วซือหรานอย่างเงียบ ๆ เขายังหยิบถ้วยชาขึ้นและค่อย ๆ ดื่มชา

'ก้นชา' ได้เริ่มการแข่งขันรอบใ
Locked Chapter
Continue to read this book on the APP

Related chapters

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 268

    เจ้าสำนักแห่งหอฟ้าดาวกล่าวเสริม "จากคำพูดของแม่นาง ดูเหมือนว่าแม่นางไม่ต่อต้านข้อเสนอของข้า"จั๋วซือหรานเงยหน้าขึ้นและมองเขา ดวงตาอันสีเข้มคู่หนึ่งจ้องมองเขา ดวงตาที่ลึกซึ้งและเฉียบคมของนางไม่เหมือนแววตาที่เด็กผู้หญิงในวัยนี้“ในเมื่อเจ้าสำนักตั้งใจสืบข้อมูลของข้ามาแล้ว เจ้าคงรู้ด้วยว่าข้า จั๋วซือหราน ไม่ชอบพูดอะไรที่ฟังแล้วดูดี แต่ชอบคำพูดที่ทำได้จริง ๆ ”จั๋วซือหรานยิ้มเบา ๆ "พูดตรง ๆ ข้าเป็นคนที่เห็นแต่ผลประโยชน์ชัด ๆ ดังนั้นแทนที่จะพูดคำหรุ ๆ ให้ข้าฟัง เจ้าสำนักพูดตรงตรง ๆ กับข้าดีกว่า"จั๋วซือหรานจ้องเข้าไปในดวงตาของเขา แม้ว่าเสียงของนางจะมีรอยยิ้ม แต่สีหน้าหรือลูกตาของนางไม่ได้แสดงร้อยยิ้มใด ๆ นางกล่าวต่อ "บอกข้าสิว่า ข้าจะได้รับผลประโยชน์อะไรบ้างหากข้าทำตามข้อเสนอของเจ้า มิฉะนั้นเจ้าขู่ข้า มันไร้ประโยชน์ หากข้าเป็นคนที่กลัวภัยคุกคาม ข้าคงไม่อยู่จนถึงทุกวันนี้หรอก”ก่อนหน้านี้ เจ้าสำนักแห่งหอฟ้าดาวจ้องมองนาง เพราะเขาต้องการศึกษาอารมณ์บางอย่างในดวงตาของนางเขาจะได้เดาอารมณ์ของนางได้แต่ในขณะนี้ เมื่อนางกลับจ้องมองเขาครู่หนึ่ง เขามีภาพลวงตาจริง ๆ ว่าเขากำลังถูกสัตว์ป่าจ้องมองอ

    Last Updated : 2024-08-06
  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 269

    ทันทีที่เขได้ยินคำพูดของจั๋วซือหราน เจ้าสำนักแห่งหอฟ้าดาวมองมาที่นาง ราวกับว่าเขาไม่คาดคิดว่านี่คือคนที่นางต้องการสอบถาม"โดยปกติแล้ว คนมักอยากได้ข้อมูลขององค์ชาย" เพราะการชิงบัลลังเป็นการแข่งขันที่น่าดูมาก เจ้าสำนักแห่งหอฟ้าดาวเหลือบมองจั๋วซือหรานอีกครั้ง "เจ้าไม่เหมือนผู้อื่นจริง ๆ ทำไมถึงอยากรู้ข้อมูลขององค์หญิงขอรับ "“แน่นอน ข้ามีเหตุผลของข้า องค์หญิงท่านนี้ไม่ธรรมดา” จั๋วซือหรานกล่าวนางไม่เห็นความประหลาดใจใด ๆ ในสีหน้าของของเจ้าสำนักแห่งหอฟ้าดาว จากนั้น จั๋วซือหรานหัวเราะ "แต่ดูเหมือนเจ้าสำนักรู้เรื่องนี้อยู่แล้ว เช่นนั้นข้าหาคนถูกต้องแล้วจริง ๆ หอฟ้าดาวสืบข้อมูลได้ดีมากจริง ๆ "เจ้าสำนักแห่งหอฟ้าดาวกล่าว "ท่านอ๋องยวี่ชอบหาความสนุก ท่านอ๋องเซี่ยนไม่ชอบต่อสู้ ทุกคนต่างจ้องมองไปที่องค์ชาย แต่ไม่มีใครสนใจในสวนหลังของพระราชวัง มีองค์หญิงที่ฉลาดหรือไม่ ข้าขอบอก องค์หญิงท่านนี้ฉลาดจริง ๆ แม่นางมองคนเก่งจริง ๆ "เมื่อได้ยินคำพูดนี้ จั๋วซือหรานหัวเราะ "ข้าจะมองคนเก่งได้อย่างไร"แต่เป็นเพราะนางเกือบถูกองค์หญิงเจาหมิ่นฆ่าตายโดยใช้กลยุทธ์ยืมดาบฆ่าคน หรือพูดอีกอย่างหนึ่ง เจ้าของร่างเ

    Last Updated : 2024-08-06
  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 270

    หลังจากเจ้าสำนักแห่งหอฟ้าดาวพูดจบ เขาก็มองจั๋วซือหราน "ข้าไม่ได้รู้ทุกอย่าง ข้าได้ข้อมูลมาแค่นี้"จั๋วซือหรานแตะคางของนางและคิด แต่นางก็ไม่ได้พูดอะไรอยู่พักหนึ่งเจ้าสำนักแห่งหอฟ้าดาวสังเกตความเงียบของนาง เขาอดไม่ได้ที่ต้องขมวดคิ้ว เขาคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดต่อ "อย่างไรก็ตาม หากเจ้าเห็นด้วยกับเงื่อนไขของข้า ข้าจะให้คนอื่นไปสืบข้อมูลของนางต่อ"จั๋วซือหรานจึงตระหนักได้ว่า ดูเหมือนเจ้าสำนักแห่งหอฟ้าดาวกำลังกลัวนางไม่อยากลงสนามแข่งหรือจั๋วซือหรานยิ้มและพูดว่า "เจ้าสำนักไม่ต้องกังวล ข้า จั๋วซือหราน ทำเช่นนี้ตลอด ในเมื่อข้าพยักหน้า ข้าจะไม่ผิดสัญญา เราตกลงเรื่องนี้กันแล้ว""นั่นเป็นสิ่งที่ดีมาก"หลังจากได้ยินคำพูดของจั๋วซือหราน ในที่สุด ใบหน้าไร้อารมณ์ของเจ้าสำนักแห่งหอฟ้าดาวก็เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย ดูเหมือนเขาโค้งมุมปากของเขาตื้น"แต่ช่วงนี้ไม่ได้ เจ้าสำนักคงรู้เช่นกันว่าช่วงนี้ข้ายุ่งมาก แม้แต่คืนนี้ข้ามาที่นี่ ข้ายังต้องหาโอกาสเดินเล่น คุยกับเจ้าเสร็จ ข้าต้องรีบกลับ" จั๋วซือหรานกล่าวเจ้าสำนักแห่งหอฟ้าดาวไม่มีความคิดเห็นใด ๆ เขาแค่ถามว่า "เช่นนั้น แม่นางจะมาหลังการฝึกฝนของ

    Last Updated : 2024-08-06
  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 271

    เดิมทีเจ้าสำนักแห่งหอฟ้าดาวยังไม่สบายใจอยู่เลย แต่เมื่อเขาเห็นผู้ชายคนนี้ เขาตตระลึงทันทีน เขาตกใจอย่างมาก "ท่าน... ท่านมาที่นี่ทำไมขอรับ"ไม่เพียงแต่เขาตกใจเล็กน้อย แต่ จั๋วซือหรานตกใจอเล็กน้อยเช่นกันเพราะชายที่สวมหน้ากากที่อยู่ข้างนอกนั้นไม่ใช่ใครอื่น นอกจากท่านซือเจิ้ง ผู้ลึกลับแห่งหน่วยสืบสวนพิเศษนางพยายามถามเจ้าติดอ่างน้อย ชิ่งหมิง นั้น แต่ไม่ได้ข้อมูลเลยไม่ต้องพูดถึงข้อมูล นางยังไม่ทราบชื่อท่านนี้ด้วยซ้ำจั๋วซือหรานจึงเปิดปาก แต่นางเพียงพูดว่า "... ท่านซือเจิ้ง เหตุใดท่านจึงมาที่นี่"แม้ว่านางนั่งอยู่ในที่นั่งที่ข้างในสุด ๆ ของห้องส่วนตัว เพราะมองจากที่นี่เท่านั้น นางจึงสามารถมองเห็นทุกการเคลื่นไหวใน 'ก้นชาม' ได้อย่างชัดเจนแต่จั๋วซือหรานยังคงรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่า ท่านซือเจิ้งกำลังจ้องมองนางและนางสังเกตถึงอารมณ์ของเจ้าสำนักแห่งหอฟ้าดาวอย่างชัดเจน เขาไม่สงบเหมือนเมื่อครู่อีกต่อไป เขากังวลเล็กน้อย“ เหตุใดท่านจึงมาที่นี่ในครั้งนี้” ปรเจ้าสำนักแห่งหอฟ้าดาวถาม แม้ว่าจะไม่มีน้ำเสียงที่ถ่อมตัวเกินไปก็ตามแต่เขาใช้คำว่า 'ท่าน' ยังคงแสดงความเคารพต่อท่านซือเจิ้งของหน่วยสื

    Last Updated : 2024-08-06
  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 272

    ในฐานะที่เป็นหน่วยสืบสวนพิเศษ ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของลัทธิ เขามาเขตตะวันตกของเมือง ซึ่งเป็นเรื่องปกติอย่างมากแต่คำพูดถัดไปของซือเจิ้งทำให้เจ้าสำนักของหอฟ้าดาวรู้สึกตึงเครียด และทำให้จั๋วซือหราน รูสึกประหลาดใจ“แต่ข้าเห็นเจ้าคุมนางมาที่นี่” หน่วยสืบสวนพิเศษมองเจ้าสำนักของหอฟ้าดาวด้วยสายตาที่เคร่งครัด “เจ้าอยากทำอะไร”เจ้าสำนักของหอฟ้าดาวอ้าปาก แต่ก็พูดไม่ออกสักคำ เขาไม่รู้ว่าจะพูดอะไรอยู่ครู่หนึ่ง เขาแค่ตอบ "...ข้าได้ยินเรื่องต่าง ๆ ที่เก่งกาจของคุณหนูจิ่วในเมื่อเร็ว ๆ นี้ ข้าสนใจนางมาก เลยชวนนางมาคุยกันหน่อย ข้าไม่ทราบเรื่องนี้จะรบกวนถึงท่านขอรับ"เจ้าสำนักของหอฟ้าดาวกล่าวเช่นนี้ แต่ดูเหมือนซือเจิ้งของหน่วยสืบสวนพิเศษไม่เชื่อในสิ่งที่เขาพูด อาจเป็นเพราะเขาเป็นผู้นำขององค์กรตลาดมืดเขตตะวันตกของเมือง ซึ่งทำให้ผู้คนคิดว่าเขาไม่น่าเชื่อถือกล่าวโดยสรุป เมื่อซือเจิ้งของหน่วยสืบสวนพิเศษได้ยินคำพูดนั้น เขาก็หันไปมองจั๋วซือหราน และถามด้วยน้ำเสียงทุ้มลึกว่า "เขาพูดจริงหรือไม่"ขณะที่จั๋วซือหรานกำลังจะตอบ นางได้ยินท่านซือเจิ้งพูดอีกครั้งว่า "ในหน่วยสืบสวนพิเศษ เจ้าได้ผ่านการสอบของแพทย์กล

    Last Updated : 2024-08-06
  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 273

    เมื่อจั๋วซือหรานเห็นใบหน้าที่ไม่ยิ้มแย้มของเจ้าสำนักของหอฟ้าดาว สีหน้าของเขามีความโล่งใจและปิติยินดีนางอดไม่ได้ที่ต้องสงสารเขา เจ้าสำนักเจ้าคะ อย่าเพิ่งดีใจก่อนสิจั๋วซือหรานกล่าวต่อ "เจ้าสำนักให้ข้าขึ้นมา เพื่อให้ข้าเข้าร่วมในการฝึกฝนเถื่อนของหอฟ้าดาว ไม่ทราบว่าท่านเคยได้ยินเรื่องที่เกิดขึ้นในเมืองหลวงหรือไม่"ซือเจิ้งของหน่วยสืบสวนพิเศษเงียบไปสองสามวินาที แล้วพูดว่า "ได้ยินมานิดหน่อย"“กล่าวโดยสรุปคือ ความทุกข์ที่ข้าได้รับในก่อนหน้านี้คือข้าถูกพี่สาวในตระกูลเล่นงาน ตระกูบจะให้ความยุติธรรมแก่ข้าโดยมีเงื่อนไขบางอย่าง ข้าต้องเอาชนะพี่สาวที่ทำราบข้าในการฝึกฝนของตระกูล"ใบหน้าของจั๋วซือหรานไม่มีสีหน้าใด ๆ และนางพูดอย่างใจเย็น เหมือนนางกำลังพูดถึงเรื่องไม่สำคัญของคนอื่นซึ่งทำให้ผู้คนรู้สึกว่า นางไม่ได้จริงจังกับเรื่องเหล่านี้จริง ๆจั๋วซือหรานกล่าวต่อ "พี่ชายของพี่สาวคนนั้นไม่เป็นศิษย์ของ ลัทธิอู๋จี๋เท่านั้น แต่ยังเป็นผู้เก่งกาจในการฝึกฝนประจำตระกูลด้วย เขากลับมาอยู่เมืองหลวงแล้ว และเขาต้องใช้วิธีทุกประเภทอย่างแน่นอน เพื่อยกระดับแข็งแกร่งของพี่สาวคนนี้ให้ได้ ”“ข้าไม่มีใครชี้แนะเ

    Last Updated : 2024-08-06
  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 274

    จั๋วซือหรานยิ้มและมองซือเจิ้งของหน่วยสืบสวนพิเศษ ด้วยเหตุผลบางอย่าง นางรู้สึกมั่นใจเล็กน้อย "เจ้าสำนัก ท่านซือเจิ้งต้องเห็นด้วยแน่นอน"จั๋วซือหรานไม่รู้ว่าทำไมนางถึงมั่นใจขนาดนั้น อาจเป็นเพราะดูเหมือนซือเจิ้งของหน่วยสืบสวนพิเศษมาที่นี่เพราะนางหรือจั๋วซือหรานมองเขาแล้วเรียกเขาอีกครั้ง “ ท่านซือเจิ้ง”นางเอียงศีรษะและมองซือเจิ้งของหน่วยสืบสวนพิเศษ นางพยายามการเห็นชอบหรือไม่จากรูดวงตาของเขาจากหน้ากาก แต่นางมองไม่เห็นอะไรเลย รูตานั้นลึกและมืดท่านซือเจิ้งเงียบไปครู่หนึ่ง ในที่สุดก็มีเสียงของชายคนนั้นดังมาจากใต้หน้ากาก "ไหน ๆ ข้าก็มาแล้ว ไปเอาพู่กันและกระดาษมา"ชั่วขณะต่อมาที่เขาพูดคำเหล่านี้ เขาเห็นรอยยิ้มอันสดใสปรากฏบนใบหน้าของหญิงสาวนางสวยอย่างมาก และใบหน้าเล็ก ๆ ของนางก็ดูสวยงามยิ่งขึ้นด้วยรอยยิ้มอันงดงามนี้เจ้าสำนักของหอฟ้าดาวเสีนใจเกือบต้องกัดฟันหัก แต่เขาก็ยังไม่สามารถพูดอะไรได้อีก เขาทำได้เพียงให้คนรับใช้นำกระดาษและพู่กันมาให้ตายเถอะ คนรับใช้ของเขามีน้ำใจมาก เขาคงเดาได้ว่าเจ้านายของเขาต้องการเขียนเอกสารสำคัญ ดังนั้นกระดาษที่เขาส่งให้เขาจึงเป็นกระดาษที่ทำจากหนังแพะ ซึ่งเป

    Last Updated : 2024-08-07
  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 275

    จั๋วซือหรานมองไปที่หน้ากากของชายคนนั้นที่มีรูปแบบเปลวไฟสีแดง นางเห็นแววตาที่อยากรู้อยากเห็นในดวงตาของเขา นางอดไม่ได้ที่ต้องรู้สึกตัวเองหมดคำพูดสีหน้าของนางดูทำอะไรไม่ถูกเล็กน้อย ซึ่งค่อนข้างทำให้ผู้คนประหลาดใจ เพราะผู้หญิงคนนี้สามารถวางกลยุทธ์และทำทุกอย่างได้อย่างง่ายดายสีหน้าที่ผู้คนมักจะเห็นบนใบหน้าของนางนั้นคือความสงบไม่ต้องพูดถึงอารมณ์ต่าง ๆ เช่น ความเศร้า ความกลัว และความเกลียดชัง ใบหน้าของนางไม่มีสีหน้าที่หมดคำพูดเหมือนอย่างที่นางมีในตอนนี้แต่ในขณะนี้ สีหน้าของนางบอกได้ว่า นางกำลังไม่รู้ต้องทำอย่างไรดี“จริง ๆ แล้ว มันไม่ของวิเศษอะไรหรอก มันเป็นแค่อุปกรณ์เล็ก ๆ ” จั๋วซือหรานกล่าว“แม่นางถ่อมตัว” เจ้าสำนักของหอฟ้าดาวพูดอย่างเคร่ง เห็นได้ชัดว่าเขาไม่สบายใจเพราะจั๋วซือหรานโกงเขาต่อหน้าซือเจิ้งของหน่วยสืบสวนพิเศษดังนั้นเขาจึงพูดอย่างเย็นชาเล็กน้อยในขณะนี้ “อุปกรณ์ขนาดเล็กสามารถทำให้นักฆ่าของข้าได้รับบาดเจ็บสาหัสจากระยะไกลได้ เห็นได้ชัดว่ามันไม่ง่ายเลย ยิ่งทำให้ข้าอยากเห็นมาก”ซือเจิ้งของหน่วยสืบสวนพิเศษไม่พูดอะไร แต่มองนางครู่หนึ่งวินาทีต่อมา จั๋วซือหรานส่ายแขนเสื้อ แล

    Last Updated : 2024-08-08

Latest chapter

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 914

    ทุกคนรู้สึกว่านางผิด เพียงแค่เพราะ นางไม่ยอมทำตัวเป็นปกติเหมือนพวกเขาสายตาของเหยียนเจินเปล่งประกาย เอ่ยขึ้นว่า "จะไม่มีทางออกเลยหรือไร? ถ้าไม่ไหวจริงๆ ก็ไปเข้ากับจั๋วจิ่วเลย!"เหยียนฉีพอได้ยินก็ตกตะลึง งงงันไป "ได้...ได้หรือ? ตระกูลเหยียนกับนาง...ตอนนี้น่าจะอยู่ในสภาพไม่ตายไม่เลิกรากันแล้วกระมัง?""ตระกูลเหยียนก็คือตระกูลเหยียน" เหยียนเจินไม่แยแส "พวกเราถ้าออกจากตระกูลเหยียน เช่นนั้นความแค้นนั่นก็ไม่เกี่ยวอะไรกับพวกเรา ยิ่งไปกว่านั้นข้าก็มองออกถึงนิสัยจั๋วจิ่ว ขอแค่ไม่ผิดใจกับนาง นางก็จะไม่ทำอะไรคนอื่น"อดพูดไม่ได้ เหยียนเจินมองนิสัยจั๋วซือหรานออกจริงๆดังนั้น พ่อลูกตระกูลเหยียนคู่นี้ หลังจากที่หารือกันเสร็จคืนนี้เช้าวันถัดมาตอนที่ข่าวเรื่องจั๋วซือหรานถูกพระราชทานรางวัลลือมาถึงเมืองหลวง จึงออกจากตระกูลเหยียนไปเงียบๆสถานการณ์ของตระกูลเหยียนเป็นเช่นนี้ ตระกูลอื่นกลับเป็นอีกแบบหนึ่งบรรยากาศของตระกูลเฟิงตึงเครียดมากแต่สิ่งเหล่านี้ เฟิงเหยียนไม่คิดจะเข้าร่วม เขานั่งอยู่ตรงนั้น ไม่ว่าเหล่าผู้อาวุโสจะพูดอะไรกันเขาก็ไม่เข้าร่วมการสนทนาเลยสายตาเหม่อลอยหน่อยๆ ราวกับคิดถึงเรื่อง

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 913

    "เจ้าอย่ามาพูดให้เกินจริงนัก! ทุกคนรวมตัวกันอยู่ที่นี่ ไม่ใช่เพื่อมาฟังเจ้าพูดเกินจริง!""นั่นสิ ตระกูลฮั่วเพราะอะไรถึงได้ช่วยจั๋วจิ่วแบบนี้ เสี่ยงจะผิดใจกับตระกูลอื่นๆ อีก..."และก็มีเสียงคัดค้านไม่เชื่อปรากฏขึ้นเช่นกันแต่คนฉลาดก็หัวเราะเย็นชาขึ้นา "ใช่สิ ข้าพูดเกินจริงเองนั่นล่ะ พวกเจ้าเห็นว่าตระกูลฮั่วมันโง่สินะ"คนผู้นี้โมโหจนหัวเราะ "ตระกูลฮั่วถูกพวกเราสี่ตระกูลกดมาตั้งหลายปี! พวกเขาในสายตาพวกเราคืออะไร? ผู้ค่าข่าว ผู้จัดการโรงเตี๊ยม...หลายปีมานี้ถูกพวกเราสี่ตระกูลกดดัน""ตอนนี้พวกเขาได้เวลาเฉิดฉายแล้ว โดยไม่สิ้นเปลืองกำลังทหารอีกด้วย ก็แค่เพราะ...เดิมพันถูกกับความโดดเด่นของจั๋วจิ่วเท่านั้น! พวกเจายังคิดว่าเขาจะร่วมมือกับเราเพื่อแก้แค้นหรือ? พวกเรานั่นล่ะที่เป็นศัตรูของเขา!"พูดจบสิ่งเหล่านี้ เขาเองก็ขี้เกียจจะพูดไร้สาระกับคนเหล่านี้แล้วมีแค่วิธีเดียว ออกไป รีบออกไปจากตระกูลที่ไม่มียาอะไรจะช่วยได้แล้วนี่เสียคนผู้นี้ไม่ใช่ใครอื่น พ่อของเหยียนฉีนั่นเองในงานประชุมของตระกูลเช่นนี้ แม้ยังพูดเรื่องเหล่านี้ได้บ้าง แต่เพราะความตรงไปตรงมาและรุนแรงเกินไป ทำให้ก่อนหน้านี้มักจะก่

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 912

    สิ่งเหล่านี้ จั๋วซือหรานล้วนไม่รู้เหมือนกับที่นางก็ไม่รู้ ว่าตอนนี้ในตระกูลเหล่านั้น ตอนนี้มีสภาพเช่นไรมันวุ่นวายยุ่งเหยิงแค่ไหนเพราะว่า ข่าวที่นางได้รับชัยไม่ใช่เพิ่งลือมาถึงเมืองหลวงเช้าวันนี้แม้จะบอกว่าเช้าวันนี้เพิ่งส่งมาถึงเมืองหลวง แต่ในฐานะตระกูลชั้นสูง เมื่อวานนี้ก็รู้ข่าวที่ค่ายคุ้มกันแล้วดังนั้นเมื่อคืนนี้ ตอนที่จั๋วซือหรานพักผ่อนอยู่ในค่ายคุ้มกันในเมืองหลวง ตระกูลต่างๆ กลับเป็นคนละแบบกันไปเลยในโถงใหญ่งานพิธีตระกูลเหยียน โคมไฟสว่างไสวบรรยายาศกลับตึงเครียด"ตอนนี้อย่างไรถึงจะดี..." คำถามแบบที่ไม่มีความเห็นแบบนี้และมีพวกที่อารมณ์รุนแรง ด่ากราดออกมาทันที "ถ้าไม่ใช่พวกเจ้าคิดแต่จะไปยุ่งกับตระกูลเฟิง คงไม่ทำให้จั๋วจิ่วผิดใจจนเป็นแบบนี้"มีคนไม่ค่อยยอมรับกับคำพูดนี้ "เจ้าพูดอะไรออกมา! จั๋วจิ่วนั่น! ตระกูลเหยียนของพวกเราผิดใจไปตั้งนานแล้ว! คนที่ผิดใจกับนางตอนแรกสุดคือพวกเรา! ตอนนี้ถ้าคิดจะถอยออกมามันทันเสียที่ไหน!""เพราะอะไรถึงไม่ทัน! ทำไมถึงจะไม่ทัน! เพราะอะไรถึงจะไม่ทัน! นางไปร่วมมือกับตระกูลฮั่วแล้ว! ยิ่งไปกว่านั้นจากที่ข้าเห็น ตระกูลจั๋วเหมือนจะต้องกระโจนขึ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 911

    ตอนนี้ข่าวที่รู้แน่ชัดแล้วคือ องค์จักรพรรดิเฒ่าจะส่งอำนาจพ่อค้าหลวงของตระกูลจั๋วให้กับนางวังสวนอุทยานหลิ่วพ่านของราชวงศ์เองก็ให้นางด้วยแล้วจากที่พูด กระทั่งจวนชินอ๋องอวี้กับสวนชิวอี ก็จะยอมยกให้นางด้วยแล้วยังมีข่าวที่มากกว่า เริ่มทยอยกันลือออกมา"ได้ยินว่าฝ่าบาทยังถามนางด้วยว่าจะแต่งงานกับอ๋องเซี่ยนหรือเปล่า!""ให้ตายเถอะ! นี่มันสุดยอดไปเลย""จริงด้วย ตระกูลเฟิงทำผิดกับนาง เอาจริงๆ จั๋วจิ่วคนนี้ควรจะไม่เหลือหน้าตาอีกแล้วสิ คิดไม่ถึงเลย ว่าฝ่าบาทถึงกับถามนางว่าจะแต่งงานกับอ๋องเซี่ยนไหม!""จะว่าไป สถานการณ์ตรงหน้านนี้ ชินอ๋องอวี้ท่าจะไม่ไหวแล้วมั๊ง เช่นนั้นหลังจากนี้...ไม่แน่ว่าอ๋องเซี่ยนก็จะเป็น...""จริงด้วย ถ้านางพยักหน้าล่ะก็ อนาคตจะไม่ใช่..."พระมารดาแห่งใต้หล้าหรือ!ตามหลักการ ตัวตนฐานะของจั๋วจิ่วเองก็ไม่ใช่ต่ำต้อย ตระกูลจั๋วเองก็ถือว่าเป็นครอบครัวตระกูลสูงปัญหาคือตอนนี้นางเป็นแค่หญิงสาวที่ถูกทอดทิ้งเท่านั้นพอบวกกับ ก่อนหน้านี้นางเคยหมั้นไปครั้งหนึ่ง ตัวนางเองก็โดนเสน่ห์หนอนพิษกู่จนต้องมาเสียใจที่แต่งงาน แล้วก็ยังเกือบจะได้แต่งงานไปครั้งหนึ่งด้วย ทำเอาพิธีแต่งงานวั

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 910

    แต่พอคิดดู เขาจะไปทำอะไรแม่นางจิ่วได้กันล่ะ?ดังนั้นทุกคนจึงค่อนข้างวางใจ"เจ้าอยากจะรู้อะไร?"และไม่รู้เพราะเห็นจั๋วซือหรานไม่พูดอะไรเลย คนผู้นี้จึงถามนางขึ้นมาอย่างทนไม่ไหวจั๋วซือหรานยิ้มๆ "ไม่ต้องรีบ ตอนที่ข้าอยากรู้ ข้าจะถามเจ้าเอง""เจ้าตอนนี้ยังไม่อยากรู้หรือ?" สีหน้าของชายหนุ่มดูแล้วแปลกประหลาดสุดๆจั๋วซือหรานตอบเสียงเรียบ "ยังไม่ถึงเวลา รออีกหน่อยเถอะ"จั๋วซือหรานคิดๆ ถามไปคำหนึ่ง "จริงด้วย เจ้าชื่ออะไรล่ะ?"ชายหนุ่มก้มหน้าลงเล็กน้อย ดวงตาเป็นประกาย "ฮาร์วีย์ ข้าชื่อฮาร์วีย์"จั๋วซือหรานพยักหน้า เอ่ยเสียงต่ำเรียกชื่อนี้ขึ้นมา "ฮาร์วีย์หรือ? เข้าใจแล้ว"นางบอกกับเขาว่า "เจ้าก็ตามข้ามาแล้วกัน รอตอนที่ข้าอยากถาม ข้าจะถามเจ้าเอง"จั๋วซือหรานเดินมาถึงกระโจมค่าย ซือคงเซี่ยนเองก็เดินเข้ามาพอเห็นว่าด้านหลังนางมีคนแดนใต้ตามอยู่ ก็รู้สึกประหลาดใจหน่อยๆแต่ว่าซือคงเซี่ยนเองก็ไม่ได้ตกใจมากนัก แค่ถามขึ้นว่า "ซือหาาน ได้ยินว่าเจ้าจะไปส่งเสด็จพ่อกับเสด็จแม่ที่เมืองหลวงด้วยตนเองหรือ?""อืม" จั๋วซือหรานขานกลับเสียงแผ่ว "ถึงอย่างไรข้าก็จะไปเมืองหลวงอยู่แล้ว ถือโอกาสทำให้ไปเลย""

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 909

    บางครั้ง คำพูดร้ายๆ ก็ไม่จำเป็นต้องพูดขณะที่กำลังโกรธจัดถึงจะมีพลังทำร้ายประหัตประหารกระทั่งในบางโอกาศ พูดออกมาตอนที่ยิ้มๆ ยังมีพลังทำร้ายมากยิ่งกว่าอย่างเช่นตอนนี้ จั๋วซือหรานพูดออกมาด้วยรอยยิ้มตาหยีเช่นนี้ ยิ่งทำให้คนที่พูดว่านางสะกดคำว่าตายไม่เป็นก่อนหน้านี้ เกิดอาการเหงื่อแตกพลั่กขึ้นมาเขาอ้าปากพะงาบๆ ชั่วขณะหนึ่งไม่รู้ว่าควรจะตอบกลับคำนี้ของจั๋วซือหรานอย่างไรจั๋วซือหรานขี้เกียจจะสนใจเขา เอ่ยต่อมาว่า "ถ้าหากมีคนยอมบอกข้าล่ะก็ ข้าก็จะไว้ชีวิตนั้นไว้ โอ้จริงด้วย กระทั่งไม่แตะต้องแมลงกู่บนตัวเลยนะ"และหลังจากที่พวกเขาได้ยินคำนี้ของจั๋วจิ่วแล้วจึงเห็นนางนับจำนวนพวกเขาขึ้นมาอย่างไม่ค่อยตั้งใจนัก "พวกเจ้ามีสิบสี่คน แต่ข้ามีแมลงแค่เจ็ดตัว ก่อนหน้านี้กินไปที่ประตูค่ายแล้วตัวนึง เหลืออีกหกตัว เมื่อครู่กินของพวกเจ้าไปแล้วหกคน พวกเจ้ายังเหลืออีกแปดคนสินะ ทว่ามื้อต่อไปขอแค่เจ็ดคนก็พอ"นางคำนวณขึ้นมาอย่างไม่รีบไม่ร้อน จากนั้นจึงพยักหน้าเอ่ยว่า "เหลือไว้ได้คนนึงจริงๆ"เหล่าปรมาจารย์กู่แดนใต้ดูสิ้นหวังหน่อยๆ เพราะพวกเขาได้ยินคำพูดเมื่อครู่ของจั๋วซือหรานแล้วอะไรคือ...มื้อต่อไป?เจ้

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 908

    ให้ใครมาเห็น ก็ล้วนไม่ใช่ภาพที่ชวนมองนักหน้าผากคนเหล่านี้ เส้นเลือดที่คอกับแขนขาไขกระดูก ราวกับมีอะไรบางอย่างกำลังมุดทะลวงอยู่อย่างไรอย่างนั้นจั๋วซือหรานรู้ ว่านั่นคือไหมกู่ของเจ้าพวกก้อนเนื้อ พวกมันเข้ากลืนกินแมลงกู่ทั้งหมดที่น่าจะซ่อนและบำรุงอยู่ตามเส้นลมปราณเส้นชีพจรของปรมาจารย์กู่คนเถื่อนเหล่านี้สำหรับคนทั่วไปแล้ว อาจจะไม่คิดว่านี่เป็นเรื่องใหญ่แต่สำหรับคนเถื่อนเหล่านี้แล้ว พวกเขาล้วนเป็นปรมาจารย์กู่นะ แมลงกู่ของพวกเขาล้วนเป็นรากฐานที่ทำให้ตนเองอยู่ได้อย่างมั่นคงไหนจะเรื่องที่แมลงกู่พวกนี้ต้องใช้เลือดเนื้อของตัวพวกเขาในการชุบเลี้ยง ยิ่งเป็นสิ่งที่พวกเขาให้ความสำคัญเข้าไปอีกตอนนี้ถูกแมลงกู่ของจั๋วจิ่ว กินกันอย่างเอร็ดอร่อยมื้อใหญ่...พวกเขาจะไม่โกรธได้อย่างไรแต่นอกจากความโกรธแล้ว ก็ยังมีความตกตะลึงอยู่ด้วยนางเป็นแค่หญิงสาวอายุน้อยคนหนึ่ง แล้วยังอยู่ในดินแดนต้าชาง แล้วไปฝึกวิชากู่มาจากไหน? ฝึกแมลงกู่ที่อหังการขนาดนี้ออกมาได้อย่างไร?เพราะ นางยัดเข้ามาในปากคนอื่นแบบนี้ ไม่ได้กังวลเลยว่าแมลงกู่ของตนเองจะมาเจอกับแมลงที่ร้ายกาจกว่าของตนเองสังหารหรือไม่นางไม่กังวลเลยสั

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 907

    เอาจริงๆ เจ้าพวกนี้โอดครวญอยู่นานแล้วก่อนหน้านี้จั๋วซือหรานทนการโอดครวญของเจ้าพวกนี้ แล้วไปรักษาทหารบาดเจ็บคนนั้นนี่ทำให้จั๋วซือหรานเกิด...ความรู้สึกของหมอในสนามรบแล้วจริงๆหมอในสนามรบคนอื่นด้านนอกมีเสียงการล่าการสังหารแต่ในสมองนางมีเสียงพวกลูกๆ ทะเลาะกันจะเป็นจะตายจะว่าอย่างไรดี ถ้าว่าจากเรื่องมลภาวะทางเสียงก็ถือว่าพอๆ กัน สถานการณ์ที่นางเจอไม่ได้ด้อยกว่ากันเลย ยิ่งไปกว่านั้นจั๋วซือหรานยังรู้สึกว่า เนื่องจากเจ้าพวกแมลงสามารถกลิ้งไปกลิ้งมาในจิตสำนึกนางได้โดยตรงดังนั้น...บางทีสถานการณ์ที่ตนเองเผชิญจะดูรุนแรงกว่าการรบกวนที่พวกแพทย์สนามรบได้รับเสียอีกแมลงพวกนี้ไม่ได้จงใจเอะอะใส่นาง แต่ก่อนหน้านี้ที่นางยัดขนมชาเขียวเข้าไปในปากปรมาจารย์กู่ที่เตรียมจะระเบิดตัวเองคนนั้นหลังจากที่เก็บขนมชาเขียวกลับมา ขนมชาเขียวก็ดูอิ่มเอมมาก อดไปพูดให้เจ้าก้อนเนื้อตัวอื่นๆ ในมิติน้ำพุวิเศษฟังอย่างอดไม่อยู่ส่วนเจ้าพวกก้อนเนื้อจะว่าอย่างไรดี เพิ่งจะมีสติปัญญาขึ้นมาได้ไม่นานนัก จะมากน้อยก็ยังมีความคิดนิสัยแบบเด็กๆ อยู่ขนมชาเขียวพอเอาของอร่อยที่ผู้ปกครองซื้อให้กลับไปคุยโม้กับเพื่อนๆ คนอื่นในหั

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 906

    แพทย์ทหารเอ่ยขึ้นเสียงต่ำ "ข้าข้ามีทักษะเช่นนี้...ทหารราบเหล่านั้นก็คงไม่ตายกันแล้ว..."เสียงของเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด เขาประจักษ์กับตาแล้วถึงการเปลี่ยนสิ่งเน่าเสียกลายเป็นสิ่งอัศจรรย์ของแม่นางจั๋วจิ่วแล้วพอเห็นว่านางทำตัวราวกับเป็นช่างยอดฝีมือ จัดการเย็บช่องท้องของคนผู้นี้ราวกับเย็บกระเป๋าขาดยิ่งไปกว่านั้นยังจัดการรักษาส่วนที่บาดเจ็บของอวัยวะภายในไปแล้วด้วยนี่ทำให้เขาอดคิดไปถึงทหารที่ตายอย่างน่าเวทนาเหล่านั้น ต่อมาถูกก็ถูกพวกคนเถื่อนเอาหัวขึ้นไปแขวนบนคาน...เขาอดคิดไม่ได้เลย ถ้าหากตนเองมีฝีมือเสียหน่อย ไม่แน่คนเหล่นั้นอาจจะช่วยไว้ได้กระมังคำพูดนี้มีอารมณ์อยู่ด้วย เพราะตอนนี้อารมณ์ของเขาถูกส่งผลกระทบอยู่จริงๆแต่เสียงของจั๋วซือหรานกลับสงบ นางก้มหน้าพูดว่า "ไม่หรอก ถ้าหากเจ็บหนักเกินไป อย่างเช่นหัวขาดออกจากกัน ต่อให้เทพเจ้าก็ทำอะไรไม่ได้ แน่นอนว่าข้าเองก็ไม่มีวิธีเหมือนกัน ข้าเป็นแค่แพทย์ ไม่ใช่พระเจ้า"แม้คำพูดนี้จะดูใจเย็น ราวกับกำลังอธิบายข้อเท็จจริงอยู่ แต่คำพูดนี้ก็ยังทำให้แพทย์ทหารที่ยังรู้สึกโทษตัวเองอยู่ก่อนหน้านี้ อารมณ์ผ่อนคลายลงมาบ้างแล้วจั๋วซือหรานเย็บเข็มส

DMCA.com Protection Status