Share

บทที่ 1231

Penulis: หูเทียนเสี่ยว
ปันอวิ๋นเองก็ไม่กล้าชักช้า รีบนำขบวนพาไปยังหุบเขาหมื่นพิษ

กำชับกับคนในสำนักให้ดูแลพวกเขาอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็หันกลับไปช่วยเหลือจั๋วซือหรานทันที

เจ้าสัตว์กินกูนั่นเป็นความยุ่งยากมาโดยตลอด แต่ยังดีที่มันไม่ค่อยจะปรากฏตัวนัก พอจับนิสัยมันได้ก็ไม่ค่อยได้ปะทะกันเท่าไร

ฝีมือของจั๋วซือหราน ปันอวิ๋นเข้าใจเป็นอย่างดี

ตามหลักแล้วควรจะวางใจถึงจะถูก แต่กลับรู้สึกไม่วางใจขึ้นมาอย่างประหลาด

ดังนั้นหลังจากที่พาขบวนมาถึงหุบเขาหมื่นพิษแล้ว ปันอวิ๋นก็หันกลับทันที

"อย่าได้เกิดเรื่องขึ้นเชียวนะ" ปันอวิ๋นขมวดคิ้วพูดกับตนเอง

เฟิงเหยียนตอนนี้สมองไปหมดแล้ว ดังนั้นจึงเหมือนไม่ได้สนใจนางเป็นห่วงนาง

พอคิดๆ แล้วก็เหมือนจะไม่ใช่ ต่อให้สมองพังไป ความเป็นห่วงต่อหญิงสาวคนนี้ของเจ้านั่น ก็ยังมากกว่าใครคนอื่นอยู่ลิบลับ

ปันอวิ๋นรู้สึกว่า ด้วยพลังของจั๋วซือหราน อันที่จริงไม่น่าทำให้ตนเองไม่วางใจขนาดนี้ พอคิดอย่างละเอียด น่าจะเพระาอาการง่วงนอนตลอดทางแบบไม่มีสาเหตุของนาง ที่ทำให้เขาไม่วางใจ

"เดี๋ยวพากลับมาแล้ว ต้องให้แพทย์มาตรวจดูเสียหน่อย" ปันอวิ๋นพูดงึมงำ

แต่ลางสังหรณ์ไม่ดีของคนเรา มักไม่ค่อยพลาดกันสักเท่าไร

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terkait

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1232

    คนในสำนักยังพูดไม่ทันจบ ก็เห็นว่าด้านหลังเจ้าหุบเขามีคนตามมาด้วย บนหลังคนคนนั้นแบกร่างสีแดงอยู่ร่างหนึ่ง เป็นตายยังไม่รู้ กระอักเลือดออกมามากพอควร เหมือนจะตายไปแล้วคนในสำนักตอนนี้จึงเอ่ยต่อมาว่า "พวกเขายังไม่ยอมเข้าไป จอรออยู่ที่ประตูสำนักขอรับ..."ตอนนีเ้อง เหล่าแขกตรงปากประตูที่ยังไม่ยอมเข้าไป ก็ทยอยกันเข้ามา"นายท่าน!""แม่นาง!""ท่านพี่!"ทุกคนล้อมนางเข้ามาอย่างรวดเร็วจั๋วหวายตาแดงรื้น "ท่านพี่ทำไม..." เขาจ้องเขม็งที่จั๋วเฮ่ออิง "ท่านพี่เป็นอะไรไป?!"เหลียนเจินขมวดคิ้วแน่น หันกลับไปมองปันอวิ๋น "เกิดอะไรขึ้นหรือ?"ปันอวิ๋นส่ายหัว "ตอนที่ข้าไปถึง ก็อยู่สภาพนี้แล้ว"ในเมื่อกระทั่งปันอวิ๋นก็ยังไม่รู้ เช่นนั้นก็เกรงว่าคงมีแค่จั๋วเฮ่ออิงเท่านั้น...แต่ทุกคนยังไม่ทันถามอะไร จั๋วเฮ่ออิงก็หันไปบอกกับปันอวิ๋นว่า "แพทย์ช่ะ!"ไม่ต้องให้ปันอวิ๋นกำชับ พอเห็นสภาพเมื่อครู่แล้ว คนในสำนักก็รีบไปตามแพทย์มาเรียบร้อย"อย่ามากองกันอยู่ตรงนี้ เข้าไปพักผ่อนกันซะ"จั๋วซือหรานกลายเป็นแบบนี้ ทุกคนก็เหมือนเสียผู้นำไปติดตามปันอวิ๋นเข้ามาในหุบเขา ไม่ว่าจะจัดห้องพักให้พวกเขาเท่าไร ก็ไม่ยอมเข้าไ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1233

    ตาของจั๋วหวายยิ่งถลึงโตขึ้นมาอีก เอ่ยขึ้นอย่างไม่อยากเชื่อ "อะไรนะ?"เดิมทีเขาคิดว่าท่านพ่อในเมื่อพาพี่สาวกลับมาได้ ก็น่าจะเห็นขั้นตอนทั้งหมดกับตาสิ รู้ว่าเจอเรื่องอะไรมา และควรรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นเอาจริงๆ สาเหตุที่จั๋วหวายยอมตามปันอวิ๋นออกมาก่อนหน้านี้ นอกจากเชื่อมั่นในพลังของพี่สาวแล้วยังรู้ว่ามีจั๋วเฮ่ออิงคอยตามอยู่ข้างหลังด้วย มีจั๋วเฮ่ออิงคอยจับตาอยู่ข้างๆ หากมีสถานการณ์อะไรขึ้นจริง ก็น่าจะพอช่วยอะไรได้บ้างแต่คิดไม่ถึงเลย ว่าเรื่องจะเปลี่ยนไปเป็นแบบนี้จั๋วเฮ่ออิงส่ายหัว มองมือที่เต็มไปด้วยเลือดของตนเอง "ข้าไม่รู้...จู่ๆ หรานหรานก็เปลี่ยนไปแบบนี้"แพทย์กำลังจับชีพจรให้จั๋วซือหราน ขมวดคิ้วแน่นปันอวิ๋นยืนอยู่ข้างๆ ก็ขมวดคิ้วแน่น จ้องไปทางแพทย์แล้วถามว่า "เป็นอย่างไรบ้าง?""เจ้าหุบเขา" แพทย์ขมวดคิ้วตอบว่า "ข้าไม่เคยเจอชีพจรที่วัดได้ยากแบบนี้มาก่อนเลย"สีหน้าก่อนหน้าของจั๋วเฮ่ออิงยังไม่ทันคลายลง กำลังเหม่อมองดูมือที่ชุ่มไปด้วยเลือด ตอนนี้พอได้ยินคำนี้ของแพทย์ ก็ได้สติกลับมาทันที สีหน้าร้อนรนขึ้นมาแล้วรีบตรงเข้ามาข้างเตียง จั๋วหวายเองก็เช่นกัน รีบเข้ามาที่ข้างเตียงปัน

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1234

    ปันอวิ๋นพอคิดจะเชิญจั๋วเฮ่ออิงให้ออกไปก่อน แต่เขายังไม่ทันได้พูดก็ได้ยินจั๋วซือหรานเหมือนจะถอนหายจออกมาแผ่วเบา จากนั้นจึงเอ่ยเสียงต่ำขึ้นว่า "ไม่มีอะไรหรอก ก็แค่..." นางแหงนตามองปันอวิ๋น "ก็แค่ตั้งท้องน่ะ"ปันอวิ๋นเดิมทีพาดมืออยู่บนเสาเตียงสบายๆ ตอนที่ได้ยินคำนี้ แรงที่มือก็คุมไม่อยู่ เสาเตียงหักดังกร๊อบแตกละเอียดไปแล้ว!และตอนนี้เอง สายตาของจั๋วเฮ่ออิงก็เบิกโพลงขึ้นมา จ้องจั๋วซือหรานตาไม่กระพริบ ในดวงตามีแต่ความตกตะลึง!ปันอวิ๋นเองก็เข้าใจขึ้นมาทันที ว่าทำไมเมื่อครู่นางถึงเหลือบมองจั๋วเฮ่ออิงน่าจะเพราะต่อให้ในใจไม่ค่อยจะยอมรับพ่อไม่ได้เรื่องคนนี้มากนัก แต่ตอนที่จะพูดเรื่องแบบนี้ กลับยังพิจารณาว่ามีผู้อาวุโสอยู่ด้วย พูดออกมาแล้วคงไม่เหมาะสมนักจั๋วซือหรานเอียงตามองปันอวิ๋น ในน้ำเสียงดูจนใจ "ปฏิกิริยานี้ของเจ้า...ถ้าคนที่ไม่รู้คงคิดว่าเด็กเป็นลูกของเจ้าไปแล้วนะ"จั๋วซือหรานถามขึ้นอย่างจนใจ "เจ้าจะตื่นเต้นอะไรกัน..."ปันอวิ๋นอ้าปากพะงาบ งุนงงไปพักหนึ่งพูดอะไรไม่ออก "เขา..."เขาพูดออกมาพยางค์หนึ่ง ก็รู้สึกว่าพูดอะไรมากไม่ได้ เลยยืนนิ่งแข็งทื่ออยู่ตรงนี้จั๋วซือหรานในเมื่อเปิดห

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1235

    ปันอวิ๋นอยู่ข้างๆ เกิดอาการไม่กล้าส่งเสียงขึ้นมาอย่างประหลาดผ่านไปครู่หนึ่ง จึงกระแอมออกมา กดเสียงลงต่ำ กระทั่งคำเรียกจั๋วเฮ่ออิงก็ญังเปลี่ยนไป "ท่านเองก็ระงับอารมณ์ลงหน่อย เขาเองก็มีความทุกข์ของเขาอยู่นะ""เข้ามีความทุกข์หรือ? มีความทุกข์แล้วมาทำแบบนี้กับลูกสาวข้าได้รึ?!" จั๋วเฮ่ออิงโมโหขึ้นมาจั๋วซือหรานที่อยู่ข้างๆ มองท่าทีนี้ของพ่อตนเอง...ว่ายังไงดีล่ะ อันที่จริงเดิมทีนางก็รู้สึกว่าเรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับจั๋วเฮ่ออิงเลย อย่างน้อยเรื่องนี้ก็ต้องให้เขามาสนใจเพราะเจ้าของร่างเดิมไม่อยู่ตั้งนานแล้ว หรือก็คือ 'ลูกสาวของจั๋วเฮ่ออิง' ไม่อยู่ตั้งนานแล้วนั่นเองยิ่งไปกว่านั้นอดีตระหว่างเฟิงเหยียน ก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเจ้าของร่างเดิมแม้แต่น้อยด้วย แต่เกี่ยวกับจั๋วซือหรานที่เป็นนางต่างหากสรุปก็คือ ในใจจั๋วซือหรานแล้ว จะมีจั๋วเฮ่ออิงหรือไม่ก็ไม่เกี่ยวอะไรกันแต่ถ้าจะพูดว่าไม่เกี่ยวอะไรกัน...จั๋วเฮ่ออิงตอนนั้นก็ช่วยแม่ของเฟิงเหยียนไว้จริงๆ ไม่ต้องพูดเรื่องสายเลือดเลย เขาเป็นพ่อของนางอย่างแท้จริงบวกกับเรื่องที่เมื่อครู่จั๋วเฮ่ออิงแบกนางวิ่งมาตลอดทางด้วย เสื้อผ้าถูกเลือดของนางย้อ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1236

    "อื๋อ?" จั๋วซือหรานส่งเสียงสงสัยขึ้นจมูกออกมาปันอวิ๋นถามต่อ "ทำไมเจ้าจึงเพิ่งรู้ว่าตัวเองตั้งท้อง? ด้วยวิชาแพทย์ของเจ้า น่าจะรู้ตั้งนานแล้วนี่?"จั๋วซือหรานยกมุมปากยิ้มๆ "อายุยังน้อยอยู่น่ะ ก็เลยไม่ทันสังเกต ยิ่งไปวก่านั้นก่อนหน้านี้ ก็ไม่มีปฏิกิริยาอะไรเลย ไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะอะไร..."จั๋วซือหรานคิดๆ "ข้าลองมาคิดดู น่าจเพราะก่อนหน้านี้สัมผัสกับปราณหยินมากเกินไปกระมัง? ถึงอย่างไรหุ่นเชิดความมืดมากขนาดนั้น...ตอนนั้นข้าก็ยังไม่รู้เรื่องนี้ เลยไม่ได้คิดถึงด้านนี้เลย"จั๋วซือหรานในเมื่อรู้แล้วว่าตนเองตั้งท้อง นางก็อยากจะลองสาเหตุว่าเป็นเพราะอะไร จู่ๆ ถึงกลายเป็นเช่นนี้พอคิดอย่างละเอียด บางทีสาเหตุอาจจะเพราะสัมผัสกับปราณหยินมากเกินไปและที่อยู่ในท้องนี่ พ่อเขาก็เป็นภาชนะหงส์แดงด้วย น่าจะไม่ค่อยชอบ...เจ้าของอย่างปราณหยินเข้มข้นแบบนี้ดังนั้นแต่เดิมที่ปกตินิ่งๆ เงียบๆ ไม่มีปฏิกิริยาอะไร จึงระเบิดออกมาอย่างกะทันหันจั๋วซือหรานกระทั่งยังรู้สึกว่า ที่อยู่ในท้องนี้ ให้หน้านางอยู่พอสมควร อย่างน้อยก็ไม่ทิ้งระเบิดออกมาตอนที่นางกำลังเป็นศัตรูกับสำนักเมฆาวารีไม่อย่างนั้นตนเองคงจะไม่สบาย

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1237

    ได้ยินคำนี้ของจั๋วเฮ่ออิง ปันอวิ๋นก็ขมวดคิ้ว เหมือนอยากจะเปิดปากพูดอะไร แต่ก็ไม่รู้ควรจะเริ่มจากตรงไหนแม้จะบอกว่าจั๋วเฮ่ออิงหลายปีนี้จะละเลยหน้าที่ไปมากก็ตาม ไม่ได้มาทำหน้าที่พ่อคนหนึ่ง น่าจะไม่มีคุณสมบัติมาคุยเรื่องแบบนี้กับนางแต่ไม่ว่าอย่างไร นี่ก็เป็นพ่อแท้ๆ ของจั๋วซือหราน ถ้าว่ากันจากสายเลือดและแง่ของความรู้สึกตอนนี้ดูแล้ว เขาก็ดูจะเป็นหวงและกังวลต่อหญิงสาวคนนี้ขึ้นมาจริงๆ แล้วปันอวิ๋นเดิมทีเตรียมจะพูดอยู่ แต่ตอนนี้ก็เม้มปากอีกครั้ง ไม่พูดอะไรออกมาหลักๆ คือ หญิงสาวคนนี้เป็นคนที่ทำให้วางใจได้มาตลอด เขารู้สึกว่า ในใจนางน่าจะเข้าใจอยู่แล้ว ไม่ต้องไปกังวลมากนักเกี่ยวกับสายเลือดของตระกูลเฟิง เกี่ยวกับพลังที่สืบทอดทางสายเลือดพวกนั้นรวมไปถึง...สิ่งที่แม่ของเฟิงเหยียนเจอตอนนั้น ปันอวิ๋นในเมื่อมีตำแหน่งเจ้าหุบเขาหมื่นพิษ ยิ่งไปกว่านั้นยังมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับสภาผู้อาวุโส เกี่ยวกับเรื่องนี้จะอย่างไรเขาก็ต้องรู้อยู่บ้างในเมื่อรู้ จึงได้เข้าใจ ถ้าหากจั๋วซือหรานปล่อยให้เด็กในท้องเติบโตต่อ นางจะเต้องเจอกับสถานการณ์แบบไหนต่อให้นางมีฝีมือไม่ธรรมดา ต่อให้วิชาแพทย์ของนางจะยอดเยี

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1238

    พวกมันเดิมทีเพราะเป็นห่วงมากเกินไป กินไม่ได้นอนไม่หลับ ไม่ทำอะไรทั้งนั้น เอาแต่อยู่ข้างๆ จั๋วซือหรานไม่กินไม่นอนและตอนนี้ จั๋วซือหรานก็เห็นหลายสีหน้าที่เป็นห่วงเป็นใยอยู่ข้างๆ เตียงนางรู้สึกจนใจ ถอนหายใจออกมาเบาๆ ทีหนึ่งแล้วจึงเอาคำพูดที่บอกกับแมลงกู่และสัตว์อสูรในมิติก่อนหน้านี้ บอกกับพวกเขาอีกรอบหนึ่ง หลักๆ คือ จั๋วหวายใกล้จะร้องไห้ส่งเสียงออกมาแล้ว จั๋วซือหรานเองก็ทนไม่ค่อยได้"เอาล่ะ อย่ามาทำหน้าสลดจะร้องไห้" หลังจากจั๋วซือหรานพูดแล้ว ก็ยิ้มตาโค้งให้กับจั๋วหวาย "ข้าไม่ใช่บอกแล้วหรือ ว่าถ้าถึงเวลาจริงๆ ข้าจะต้องเลือกตัวเองแน่นอน ข้ายังสวยสะพรั่งขนาดนี้ ความสามารถก็ยังยอดเยี่ยม ข้ายังใช้ชีวิตไม่พอเลยนะ"จั๋วหวายจ้องเขม็งดวงตาจั๋วซือหราน เอ่ยขึ้นอย่างตั้งใจ "ต้องเป็นงั้น ต้องเป็นอย่างนั้นนะ"จั๋วซือหรานพอได้ยินก็ยิ้มตาโค้ง "อืม แน่นอน"จั๋วเฮ่ออิงที่อยู่ข้างๆ ไม่พูดอะไรมาตลอด ปันอวิ๋นเองก็อยู่ในสภาพนิ่งงันจนตอนที่จั๋วหวายถูกจั๋วซือหรานใช้ข้ออ้างว่าอยากกินอะไร ให้จั๋วหวายออกไปจัดการให้หน่อยจั๋วเฮ่ออิงกับปันอวิ๋นก็เหมือนตัดสินใจจะพูดแล้วปันอวิ๋นถามขึ้นมาก่อน "เจ้าตัดสินใ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1239

    เพราะจั๋วซือหรานเคยได้ยินเรื่องของเขากับแม่ของเฟิงเหยียนจากเฟิงอวี้พ่อของเฟิงเหยียนมาลมหายใจของจั๋วเฮ่ออิงหอบถี่ เห็นได้ชัดว่าอารมณ์ขึ้นลงอย่างรุนแรง"แต่คนเรามันไม่ใช่ผักหญ้านะ! เจ้าตอนนี้รู้สึกแค่ว่าเป็นแค่เด็กคนหนึ่งในท้องเท่านั้น แต่ถ้าเด็กในท้องโตขึ้นเมื่อไร สะอึกพ่นฟองในท้องเจ้า พลิกตัวในท้องเจ้า แขนขาเล็กๆยื่นออกเตะต่อยในท้องเจ้าขึ้นมาล่ะ!"ใจของเจ้าจะอ่อนลงมา เจ้าจะไม่รู้สึกหนักแน่นว่าไม่เก็บไว้ก็ได้แบบนี้ เจ้าจะรู้สึกว่า ต่อให้ฟ้าถล่มเจ้าก็จะต้องคลอดเขาออกมา! ต่อให้ชีวิตตัวเองจะหาไม่ก็ต้องเก็บเขาไว้!ปันอวิ๋นที่อยู่ข้างๆ พอได้ยินว่าอารมณ์จั๋วเฮ่ออิงดูตื่นเต้นขึ้นเรื่อยๆ เสียงเองก็ตื่นเต้นขึ้นเรื่อยๆจึงเตือนเสียงต่ำขึ้นมาคำหนึ่ง "ท่านใจเย็นก่อน ตอนนี้ไม่ใช่กำลังหารือกันหรือไร ยิ่งไปกว่านั้นจั๋วซือหรานก็ไม่ใช่หญิงสาวอ่อนแอแบบที่ท่านคิดหรอกนะ ในใจนางมีขอบเขตการกระทำอยู่แล้ว"แต่จั๋วเฮ่ออิงกลับไม่แม้แต่จะมองปันอวิ๋น สายตาเขาจ้องเขม็งอยู่ที่จั๋วซือหรานมาตลอดครู่ต่อมา เขาก็สูดลมหายใจลึก จึงเอ่ยเสียงต่ำต่อมาว่า "คำพูดเมื่อครู่นี้ ไม่ใช่สิ่งที่ข้าพูด"ปันอวิ๋นพอได้ยินก็งงงั

Bab terbaru

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1263

    ท่าทีของเฟิงเหยียน ไม่ถือว่ากระตือรือร้นมากนัก กระทั่งค่อนข้างเย็นชาด้วยซ้ำแต่ก็เป็นเรื่องปกติ หลังจากที่เขาออกจากสำนักในตอนนั้น ก็ไม่ได้มีความฮึกเหิมเหมือนสมัยครั้งยังเด็กอีกมักจะเย็นชา และมักจะเฉยเมยปันอวิ๋นเม้มริมฝีปาก เข้าใจถึงสาเหตุนั้นสภาพการณ์ตอนที่เฟิงเหยียนออกจากสำนักครั้งนั้น เขาเองก็รู้เป็นอย่างดีต่อให้จนถึงตอนนี้ ก็ยังจดจำได้อย่างชัดเจนเพราะเฟิงเหยียนถูกทรยศเป็นคนแรก ดังนั้น ตอนนั้นพวกเขาก็อยู่ในฐานะคนที่ยังไม่ถูกทรยศอันที่จริง จะมากน้อยก็ยังมีความสงสัยว่าถ้าไม่อยู่ในสถานการณ์เดียวกันก็คงไม่เข้าใจอยู่พวกเขารู้สึกว่าเฟิงเหยียนทำเรื่องเล็กเป็นเรื่องใหญ่ เป็นเฟิงเหยียนที่ไม่รู้จักบุญคุณพวกเขารู้สึกว่า เป็นเฟิงเหยียนที่ทำไม่ถูกเฟิงเหยียนเป็นคนอกตัญญูจนต่อมา ต่อมาของต่อมา ทุกคนทยอยกันเดินบนเส้นทางของเฟิงเหยียน ใครก็หนีไม่พ้นการทรยศหรือใช้ประโยชน์ทั้งนั้นตามหลักแล้วควรจะยอมรับชะตากรรมอย่างที่เคยเตือนเฟิงเหยียนเอาไว้ในตอนนั้น และมองว่าสิ่งนั้นเป็นการบ่มเพาะและการให้ความสำคัญจากสำนักแต่เพระาอะไร...ถึงได้ดีใจกันขึ้นมาไม่ได้เลยและหลังจากนั้นอีก แต่ละคนก็ทร

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1262

    ดังนั้นเขาจึงยังไม่กล้าไปกอดนางไว้แบบนี้ตลอด คอยอยู่ด้วยเงียบๆแต่เขากลับไม่ง่วงเลย ไม่ได้หลับ ไม่ได้ปิดตาด้วยแค่มองนางเงียบๆ สัมผัสถึงความร้อนในตัวนางกับชีพจรนางกระทั่งตัวเขาเองก็ยังบอกไม่ได้ว่าเพราะอะไร แต่ก็มีความรู้สึกอย่างหนึ่ง...รู้สึกสงบใจอย่างมากราวกับว่า ทั้งหมดเปลี่ยนเป็นสมบูรณ์แบบแล้วทั้งที่ความทรงจำในอดีตยังไม่กลับคืนเข้าที่ แต่ความรู้สึกนี้ เหมือนสลักประทับอยู่ในจิตวิญญาณอย่างไรอย่างนั้น ยากที่จะลบเลือนจนกระทั่งลมหายใจของจั๋วซือหรานมั่นคงแล้ว สีหน้ายิ่งมีประกายแดง สภาพดีขึ้นมากแล้วเขามองไปที่คราบเลือดแห้งกรังเหล่านั้นบนใบหน้าจั๋วซือหราน รู้สึกเสียดแทงตาเหลือเกินจึงได้เคลื่อนไหวเบาๆ เดินออกไปด้านนอก กำชับคนรับใช้ให้เตรียมน้ำร้อนมาไม่ให้คนรับใช้เข้ามาปรนนิบัติ แต่เขาหิ้วถังน้ำเข้ามาเองเขาอุ้มนางมาแช่ในถังน้ำ คอยสระชำระเส้นผมนางทีละเล็กทีละน้อย เช็ดคราบเลือดบนผิวนางออกอาบตัวนางจนสะอาดหมดจด อุ้มกลับไปบนเตียง ใช้ผ้าห่มห่อตัวนางจากนั้นจึงใช้พลังวิญญาณธาตุไฟบริสุทธิ์ เป่าผมนางจนแห้งและเพราะมีกลิ่นอายของเขาห่อหุ้มอยู่ จั๋วซือหรานจึงหลับลึกอย่างสบาย ไม่ตื

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1261

    พลังศักดิ์สิทธิ์หงส์แดงที่บริสุทธิ์ที่สุด ถูกส่งผ่านเข้ามาอย่างนั้นจั๋วซือหรานมีความรู้สึกเหมือนตนเองถูกแช่ไว้ในน้ำอุ่น เป็นความรู้สึกที่สบายอย่างที่สุดในลำคอก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมาด้วยความสบายยิ่งไปกว่านั้น คนเราก็เหมือนจะเป็นเช่นนี้เดิมทีก็ไม่ได้รู้สึกว่าตนเองลำบากยากเย็นอะไรนักแต่ตอนที่ร่างกายสามารถผ่อนคลายลงมาได้ ไม่รู้สึกเจ็บปวดทรมานอีกแล้วพอย้อนคิดไปถึงความยากลำบากเหล่านั้นก่อนหน้า กลับรู้สึกว่าตนเองน่าสงสารขึ้นมาจั๋วซือหรานตอนนี้ก็รู้สึก ว่าตนเอง...ไม่ค่อยได้รับความเป็นธรรมเท่าไรชายคนนี้ เจ้าคนสมควรตายนี่มีสิทธิ์อะไร?มีสิทธิ์อะไรกัน?"..." ชายหนุ่มรู้สึกเจ็บที่ปลายลิ้นเขาขมวดคิ้ว รสชาติคคาวหวานของเลือดแผ่ซ่านในร่องฟันของทั้งสองคนเขามองหญิงสาวตรงหน้า ก็เห็นแววตาของนางมีความหงุดหงิดอยู่หน่อยๆแล้วยังมีสีหน้าท้าทายอีกด้วยดูเหมือนจะจงใจกัดปลายลิ้นเขา น่าจะโมโหเอาการชายหนุ่มไม่ครางออกมาเลย ราวกับไม่รู้สึกเจ็บอย่างไรอย่างนั้นยิ่งไปกว่านั้นยังไม่ใส่ใจ ปลายลิ้นยังโถมใส่นางอย่างเร่าร้อนรุนแรงถ้านางอยากได้ ก็ต้องแล้วแต่นางจั๋วซือหรานดูจนใจหน่อยๆ แต

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1260

    เหมือนว่าความทรมานทั้งหมดก่อนหน้านี้ ไม่ได้ทรมานอะไรขนาดนั้นและไม่รู้ว่าเจ้าโง่นี้ใช้แรงกระแทกนางมากแค่ไหน...มีหลายครั้ง ที่นางรู้สึกได้ว่า ในมิตินี้เหมือนสั่นไหวขึ้นมาราวกับวิญญาณของนางที่ถูกขังอยู่ในมิติ จะถูกดันกลับเข้าไปที่เดิมเลยจั๋วซือหรานถลึงตาโตขึ้นหน่อย จ้องมองมิติที่โยกไหวหน่อยๆรู้สึกหมดคำจะพูดแมงมุมน้อยงึมงำขึ้นมาข้างๆ "นายท่าน...ในนี้มัน...ร้อนจัง..."จั๋ซซือรหานมองไปทางเหล่าสัตว์อสูรของตนเอง มองออกไม่ยาก พวกมันเหมือนเริ่มมึนๆ จะหลับกันแล้ว พอเห็นแบบนี้ ก็เหมือนจะไม่ได้แตกต่างอะไรนักกับสถานการณ์ครั้งที่แล้วเพียงแต่ครั้งที่แล้ว ตนเองถูกทำจนเกือบจะสลบไปและตอนนี้ ตนเองถูกทำ...จนใกล้จะตื่นขึ้นมาแล้วผู้ชายคนนี้...ร้ายกาจจริงๆนี่มันช่าง....สัมผัสแนบเนื้อบนตัวนางมีเหงื่อบางๆ ชั้นหนึ่ง ผิวที่เคยขาวซีดไปทั้งตัว ตอนนี้พอมีเม็ดเหงื่อเกาะอยู่ จึงยิ่งดูเป็นประกายระยิบระยับขึ้นมาและไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน..."อือ..." หญิงสาวที่ไม่มีปฏิกิริยามาตลอด ริมฝีปากที่ยังมีรอยเลือดที่ยังเช็ดไม่สะอาด ส่งเสียงครางออกมาเหมือนลูกแมวตัวน้อยฟังดูแล้วเป็นเสียงอือๆ งึมงำๆน

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1259

    ในใจจั๋วหวายเข้าใจอย่างหนักแน่นว่าเฟิงเหยียนคือผู้ชายทรยศแต่ว่านี่ไม่ได้เป็นอุปสรรคที่ทำให้เขาคิดว่าเฟิงเหยียนจะทำให้พี่สาวดีขึ้นได้คนเราก็มักมีสองมาตรฐานเช่นนี้ ไม่มีทางเลือกดังนั้นจั๋วหวายแม้จะไม่ได้เน้นหนักว่าผู้ชายทรยศคนนั้นคือผู้ชายทรยศ แต่ก็ยังถามขึ้นว่า "เขาจะพาพี่สาวข้าไปไหน?"ปันอวิ๋นได้ยินคำนี้ สายตาก็ลึกซึ้งขึ้นมา "นั่น...เป็นเรื่องของผู้ใหญ่เขา เด็กๆ ไม่ต้องถามเยอะ"จั๋วหวายเบ้ปาก ในใจก็บ่นว่าตนเองไม่ใช่เด็กแล้วเสียหน่อยแต่ปันอวิ๋นในที่สุดก็ไม่ได้บอกจั๋วหวาย ว่าเฟิงเหยียนจะพาจั๋วซือหรานไปที่ไหนในใจปันอวิ๋นชัดเจนดี สภาพของจั๋วซือหรานแย่หนักถึงระดับนี้แล้ว ขนาดยาก็ยังดื่มไม่ลงถ้าคิดจะใช้พลังศักดิ์สิทธิ์ปลอบประโลมตัวนาง รวมถึงปลอบประโลมลูกในท้องนาง...วิธีการที่ดีที่สุด คือสิ่งนั้นอย่างไม่ต้องสงสัยสติสัมปชัญญะของจั๋วซือหรานไม่ได้หลับลึกอย่างสมบูรณ์ ในมิติยังสัมผัสรับรู้ได้ถึงสภาพแวดล้อมรอบๆความรู้สึกนั้น เหมือนกับสติสัมปชัญญะถูกขังอยู่ในมิติอย่างไรอย่างนั้นนางจึงเป็นได้เพียงแค่ผู้ชมเท่านั้น"เฮ้อ ดูท่าเขาจะใช้วิะีนั้นสินะ" จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้นขนมถั่วแดงกั

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1258

    แต่ว่าชายหนุ่มยังคงไม่ตอบเขาเขาเพียงยกมือขึ้นมา สะบัดแขนเสื้อ เผยท่อนแขนออกมาจากในแขนเสื้อจั๋วหวายจึงเห็นว่าท่อนแขนของชายคนนี้ มีลายมัดกล้ามที่สวยงาม กระชับเรียวยาวผิวเองก็ขาวเย็น ไม่รู้ว่าเพราะปกติไม่ค่อยโดนแสงแดดหรือเปล่าและตอนนี้เอง ผิวหนังขาวเย็นที่โผล่ออกมานอกแขนเสื้อพอต้องกับแสงตะวัน จั๋วหวายก็รู้สึกเหมือนขาวจนสะท้อนแสงออกมาเลย!จากนั้น หลังจากสัมผัสกับแสง ก็ค่อยๆ รอยแผลเหมือนไฟลวกที่ค่อยๆ แดงขึ้น ก็ปรากฏมาบนท่อนแขนเขาไม่เพียงเท่านี้ หลังจากที่รอยไหม้เหล่านี้ปรากฏ ท่อนแขนเขาก็มีอักขระประหลาดบางส่วนปรากฏขึ้นมาอย่างรวดเร็วพออักขระคำสาปปรากฏ บาดแผลเผาไหม้พวกนั้นก็ถูกสะกดลงไป บาดแผลบนผิวหนังเริ่มสมานตัวกลับเหมือนเดิม หลังจากแผลสมานดี อักขระคำสาปเหล่านั้นก็ค่อยๆ สลายหายไปบนผิวหนังเขาแต่ไม่นานนัก ก็ปรากฏแผลไฟลวกอีกครั้ง อักขระเหล่านั้นก็ปรากฏขึ้นมาอีกซ้ำไปซ้ำมาแบบนี้ ดูแล้วทำให้คน...รู้สึกประหลาดมากจั๋วหวายมองจนบื้อไปเลยและชายหนุ่มก็ไม่ได้ใส่ใจกับแผลที่หายแล้วก็เกิด เกิดแล้วก็หายพวกนี้เลย ราวกับเหมือนมองไม่เห็นอย่างไรอย่างนั้นและก็เหมือนไม่ได้เจ็บได้ปวดเลย แม้ต

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1257

    เหมือนว่าพอสายตามองเห็นหญิงสาวในอ้อมกอดปันปวิ๋นที่เหมือนลมพัดก็สลายหายไปได้ ตอนนั้นเอง สัมผัสทั้งหมดก็เหมือนหายวับไปในพริบตาดวงตามองไม่เห็นสิ่งใดอีกแล้ว หุเองก็ไม่ได้ยินเสียงอื่นใดอีกความรู้สึกเดียวที่เหลืออยู่คือความเจ็บปวดรุนแรงเหมือนมีดกรีดกลางใจ ไม่เพียงเท่านี้ สมองก็เหมือนถูกของมีคมกวนคนอย่างไรอย่างนั้น เจ็บขึ้นมาเป็นระยะๆยิ่งเจ็บ ก็ยิ่งอยากจะมองนางให้ชัดจเน ไม่อยากพลาดไปแม้แต่น้อยปันอวิ๋นพอเห็นร่างของเขา และกลิ่นอายนั่นบนตัวปันอวิ๋นในที่สุดก็ถอนใจโล่ง เขามาได้เสียที..."เจ้าหุบเขา?" ศิษย์สำนักข้างๆ ยังระแวดระวังอยู่ปันอวิ๋นบอกกับศิษย์สำนักเสียงเรียบว่า "เขาไม่ทำอะไรหรอก"ศิษย์สำนักพอได้ยินคำนี้ จึงถอนใจโล่งออกมา เพราะตอนที่พวกคนคุ้มกันขวางเขาเมื่อครู่มันเกินต้านแล้วจริงๆปรมาจารย์กู่อย่างพวกเขาเดิมทีก็แพ้ธาตุไฟอยู่แล้ว และชายคนนี้ก็เหมือนจะมีธาตุไฟระดับสูงด้วยพวกเขาไม่มีความสามารถจะไปทัดทานได้เลยปันอวิ๋นพอเห็นร่างสูงใหญ่ตรงหน้า ก็คิดในใจ ยังจะงงอะไรอยู่เล่า ถ้าเจ้ายังงงอยู่ หญิงสาวคนนี้จะไม่ไหวแล้วนะ!"โอ๊ค..." ในปากจั๋วซือหรานมีเลือดสดทะลักออกมาและมือข้างนั

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1256

    ราวกับว่า...ต่อให้นางจะดูอ่อนแอเหมือนกดให้ตายได้ด้วยนิ้วเดียวแต่ยังคงไม่ยอมให้คนรู้สึกว่าอ่อนแอ ยังคงทำให้คนรู้สึกว่า ถ้าหากอยากจะเป็นศัตรูกับนาง ก่อนนางตายก็จะลากเจ้าลงนรกไปด้วยกันตอนนี้รอยยิ้มที่ดูเกียจคร้านไม่ใส่ใจ กลับยิ่งดูสงบนิ่งมั่นคงราวกับยกของหนักได้อย่างสบายนางเอ่ยขึ้นอย่างเกียจคร้าน "ใครจะรู้ล่ะ? อาจจะขาดหนูไม้ไผ่อยู่กระมัง"ปันอวิ๋นกลั้นหัวเราะไว้ไม่อยู่พอได้ยินหนูไม้ไผ่สองคำนี้ เขาก็รู้แล้ว ว่าตอนที่เขาไปทิ้งจดหมายที่บ้านไม้ไผ่ นางก็เดาได้แล้วว่าเขาทำอะไรเพียงแต่ไม่ได้พูดออกมาเท่านั้นเป็นหญิงสาวที่เจ้าเล่ห์กว่าจิ้งจอกเสียอีกปันอวิ๋นจุ๊ปาก "เจ้านี่ถึงตายไป สมองก็คงจะแล่นอยู่อย่างนี้สินะ?"จั๋วซือหรานแค่เหลือบมองเขา ไม่ได้พูดอะไร มุมปากกลับยกโค้งขึ้นบางๆหลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง คิ้วนางก็ขมวดขึ้นบางๆ"ทำไมหรือ?" ปันอวิ๋นเห็นการเปลี่ยนแปลงของสีหน้านาง จึงขมวดคิ้วเดินเข้ามา สองมือประคองบ่านางไว้อันที่จริงเป็นเพราะเขาไม่ค่อยได้เห็นสีหน้าทรมานจากหน้านางนัก นางมักจะทำเป็นเหมือนไม่เป็นไรเสมอแต่ตอนนี้ บนสีหน้า กลับดูทรมานขึ้นอย่างชัดเจนจากนั้น นางก็เหมือนจะยืน

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1255

    จั๋วหวายเกือบจะสำรอกออกมาแล้ว!"ถ้าจะอาเจียนก็ออกไปอาเจียนซะ ถ้าทำกู่กล่องนี้ของข้าพัง ข้าจะจับเจ้าแขวนห้อยหัวซะเลย" ปันอวิ๋นเอ่ยขึ้นเสียงเรียบจั๋วหวายหมุนตัวพุ่งออกไป สูดลมหายใจลึกหลายครั้งกว่าจะสงบลงมาได้ จากนั้นจึงเตรียมตัวเตรียมใจ ตอนที่เข้าไปอีกครั้งก็ไม่มีกระทบกระเทือนอย่างแรงแบบก่อนหน้าแล้วแต่สายตากลับไม่ได้มองไปยังแผ่นกระดานที่มีของดิ้นกระแด่วๆ นั่นมองแล้วขนลุกสุดๆ"มีเรื่องอะไร?" ปันอวิ๋นถามขึ้นเสียงเรียบจั๋วหวายเอ่ยเสียงต่ำ "ท่านรู้..." เขาสูดจมูก ถามออกไปว่า "ท่านรู้จักเฟิงเหยียนใช่ไหม?"ปันอวิ๋นเดิมทีกำลังป้อนอาหารเจ้าพวกดุ๊กดิ๊กพวกนั้นพอได้ยินคำนี้ การเคลื่อนไหวก็หยุดลงมา ไม่หันไปมองเขา ผ่านไปครู่หนึ่งจึงถามขึ้นเรียบๆ ว่า "ทำไมล่ะ?""ข้าอยากเจอเขา ข้าอยากจะถามเขา ว่าทำไมทำแบบนี้กับพี่ของข้า" จั๋วหวายขอบตาแดงรื้นเขาสูดหายใจลึกแล้วพ่นออกมา "ข้าเองก็อยากจะถามเขา ว่าช่วยพี่ข้าได้ไหม ถ้าหากไม่ได้ หรือก็คือเขาเป็นผู้ชายทรยศ ไม่ยินยอม เช่นนั้นเขามาบอกกับท่านพี่ได้ไหม ว่าให้เลิกแล้วต่อกันจบๆ ไป"ปันอวิ๋นพอได้ยินคำนี้ จะฟังความเสียใจในใจจั๋วหวายไม่ออกได้อย่างไรกั

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status