แชร์

บทที่ 120

ผู้เขียน: หูเทียนเสี่ยว
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-07-07 18:00:00
ซือหลี่ตันติ่งมีนิสัยไม่แยแส ส่วนซือหลี่ฝายเทียน เขาไม่ได้มองคนชราผู้นี้เลย

จากนั้นมีเสียงผู้หญิงของคนหนึ่งดังขึ้นจากด้านหลังของชายชรา

“ คุณหนูจั๋วจิ่ว นี่คือผู้อาวุโสคนที่สี่ของตระกูลเหยียนของเรา ท่านเป็นผู้อาวุโสอยู่แล้ว เจ้าเสียมารยาทเช่นนี้ได้อย่างไร”

จั๋วซือหรานมองไปที่ผู้หญิงที่พูด เหยียนหยี่หลิงไม่มีวันทำให้นางผิดหวังจริง ๆ

เพียงได้ยินคำพูดลักพาตัวทางศีลธรรมเช่นนี้ จั๋วซือหรานก็รู้เลยว่าใครกำลังพูดโดยไม่ได้มองด้วยซ้ำ

จั๋วซือหรานมองไปที่เหยียนหยี่หลิง นางพูดด้วยรอยยิ้มว่า " คุณหนูเจ็ดเหยียน ข้าไม่ถูกใจกับตระกูลเหยียน เจ้าคงไม่ใช่เพิ่งรู้วันแรกหรอกนะ ข้าเสียมารยาทกับเขา ผิดตรงไหน หากเจ้าเป็นห่วงผู้อาวุโสของเจ้า เดี๋ยวในการแข่งขันที่กำลังจะมาถึง เจ้าใช้ทักษะทางการแพทย์ของเจ้ามาชนะข้าให้เต็มที่เลย”

“ฮ่า ๆ ...” เสียงหัวเราะสั้น ๆ ดังขึ้น

แต่เนื่องจากมันเป็นเสียงที่สั้นเกินไป และความสนใจของทุกคนอยู่ที่จั๋วซือหราน จึงเป็นเรื่องยากที่จะบอกได้ว่าใครกำลังหัวเราะ

แต่จั๋วซือหรานเห็นซือหลี่ฝายเทียนที่สวมหน้ากากเปลวไฟสีดำกำลังบีบแขนเสื้อของเขาให้แน่นขึ้น

สีหน้าของเหยียนหยี่หลิงค่อนข้
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 121

    ทันใดนั้นดาบสีดำทองยาวก็หลุดออกมาจากมือของซือหลี่ฝายเทียนดาบยาวไม่ได้ถูกปลอกออก ฝักมีลวดลายที่ซับซ้อนและละเอียดอ่อนมาก และฝังด้วยอัญมณีสีเข้ม เห็นได้ชัดว่าทักษะการตีขึ้นรูปนั้นโดดเด่นอย่างมากใบมีดนั้นอยู่ระดับเสมอ และถูกยกไว้ใต้เข่าของจั๋วซือหราน เพื่อห้ามนางทำความเคารพต่อจั๋วซือหรานยกมือและทำความเคารพต่อซือหลี่ฝายเทียนและ ซือหลี่ตันติ่งแล้วพูดว่า "ท่านทั้งสอง ตระกูลเหยียนจงใจถ่วงเวลา เพราะพวกเขาไม่อยากแข่งขันกับข้า และพวกเขาไม่ยอมแพ้ด้วย หากวันนี้แข่งขันไม่ได้ ข้ามิทราบว่าคนภายนอกจะแต่งเรื่องใดใส่ร้ายข้าและหัวเราะข้า "เดิมทีจั๋วซือหรานอยากขอความช่วยเหลือจากพวกเขาสองคน ในเมื่อพวกเขามาถึงที่นี่ จั๋วซือหรานทราบดีว่าในฐานะหน่วยสืบสวนพิเศษ แม้ว่าพวกเขาจะไม่ลำเอียงนาง แต่อย่างน้อยพวกเขาก็จะต้องยุติธรรมแต่นางไม่คิดว่าเจ้าน้อยที่พูดติดอ่างตัวน้อยจะมีปฏิกิริยาตอบโต้ขนาดนี้ทันทีที่ดาบทองดำในมือของเขาออกมา บุคลิกรอบตัวของเขาก็เปลี่ยนไปทันทีทุกคนของตระกูลเหยียนเห็นซือหลี่ฝายเทียนเงียบตั้งแต่ต้นจนจบ หลังจากจั๋วซือหรานพูดเช่นนั้น เขาก็มองพวกเขาทันทีจากนั้นเขาก็จับด้ามดาบแล้วดึงใบดาบ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-07
  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 122

    แต่เขาเพียงนั่งอยู่ที่นั่น จากร่างก็ดูออกเลยว่า เขามีบุคลิกที่ทรงพลังอย่างมาก“เช่นนั้นมาเริ่มกันเลย” เหยียนฉีกล่าวจั๋วซือหรานส่ายหัว "ไม่ เรามาตกลงกันว่า จะแข่งอย่างไร และจะแข่งอะไร"เหยียนฉีไม่พูดอะไรและเหลือบมองชายที่นั่งอยู่ที่นั่นเท่านั้นจั๋วซือหรานมองเห็นบางสิ่งบางอย่างจากการมองของเหยียนฉี เหยียนฉีหรือตระกูลเหยียนต่างไม่สามารถตัดสินใจได้จะแข่งอย่างไร จะแข่งอะไร ดูเหมือนว่าไม่ได้ขึ้นอยู่กับพวกเขา แต่ขึ้นอยู่กับเฟิงเหยียนวินาทีต่อมามีเสียงทุ้มดังมาจากใต้ผ้าคลุมของหมวก“เดี๋ยวข้ามีบาดแผล ใครก็ตามที่สามารถรักษาอาการบาดเจ็บของข้าได้จะเป็นผู้ชนะ”เมื่อซือหลี่ตันติ่งได้ยินคำพูดนี้ เขาอดไม่ได้ที่ต้องมองเฟิงเหยียนจั๋วซือหรานยังคงสงสัยเล็กน้อยว่า อาการบาดเจ็บของเขามาจากไหน วินาทีต่อมา ผู้ดูแลก็เข้ามาและถอดม่านหนาที่หน้าต่างออกแสงด้านนอกส่องเข้ามาทางหน้าต่าง ขับไล่ความมืดในห้องออกไปในที่สุดแต่วินาทีต่อมา ลูกตาของจั๋วซือหรานหดตัวลงนางมองเห็นได้อย่างชัดเจนว่า มือและกล้ามเนื้อท่อนแขนครึ่งหนึ่งของเขาที่ถูกเปิดออก และเริ่มแสดงอาการบาดเจ็บสาหัสรอยดำที่ไหม้เกรียมเช่นนั้น... ด

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-07
  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 123

    เหยียนฉีใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วยาม(หนึ่งชั่วยาม=สองชั่วโมง)รักษาอาการบาดเจ็บของเฟิงเหยียนโดยทั่วไปแล้ว อาการบาดเจ็บจากไฟไหม้ที่เห็นบนผิวหนังที่ถูกเปิดเผยของเขาได้รับการรักษาและไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าอีกต่อไปเหยียนฉีถอนหายใจยาว ๆมีบางคนมาดูที่นอกประตูแล้ว เพราะแม้ว่าตระกูลเหยียนจะมีอำนาจห้ามชาวบ้านธรรมดาได้ แต่พวกเขาไม่สามารถห้ามตระกูลขุนนางเหล่านั้นได้เสียงกระซิบดังมาจากประตู“ดูสิ ถึงอย่างไร ผู้เชี่ยวชาญที่มีชื่อเสียงต้องเก่งกว่าผู้ไร้ชื่อเสียงสิ”“ ใช่แล้ว ถึงอย่างไร ตระกูลเหยียนก็คือตระกูลเหยียน พวกเขาฝึกฝนแพทย์และเภสัชวิทยามาหลายปีแล้ว พวกเขาต้องมีความสามารถประจำตัวของพวกเขาอยู่”“ ทีนี้ จั๋วจิ่วต้องเสียหน้าแน่ ๆ ...”ไม่ใช่จั๋วซือหรานไม่ได้ยินเสียงที่มาจากประตูห้องให้คำปรึกษา นางแค่ขี้เกียจสนใจคำพูดเหล่านั้นสีหน้าประหลาดใจของนางเมื่อนางเห็นอาการบาดเจ็บของเฟิงเหยียนในก่อนอาจทำให้ทุกคนคิดว่านางกลัวแต่จั๋วซือหรานขี้เกียจไปอธิบายอะไรอีก ทักษะทางการแพทย์ไม่ต้องอธิบายมากมาย พิสูจน์ตัวเองด้วยทักษะทางการแพทย์ คนอื่นจะเลิกนินทาเองหลังจากเหยียนฉีรักษาอาการบาดเจ็บที่ป

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-08
  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 124

    คอเรียว หน้าอกและหน้าท้องที่แข็งแรง กล้ามเนื้ออันสวยงาม ไหล่กว้าง และหลังตรงเพียงแต่ร่างกายที่มีกล้ามเนื้อสวยงามถูกปกคลุมไปด้วยรอยไหม้สีดำ ซึ่งเพียงมองแวบเดียวก็ตกตะลึงการรักษาในก่อนหน้านี้ดูเหมือนว่ามีเพียงแขนที่เปิดออกและคอของเขาเท่านั้นที่หายดีแล้วอาการบาดเจ็บที่อื่นยังคงน่าตกใจเมื่อเห็นอาการที่อื่น ท่าทีอันเย่อหยิ่งในก่อนหน้านี้ของตระกูลเหยียนก็กลายเป็นเรื่องตลกเหยียนฉียังไม่ทันเช็ดเหงื่อใบหน้าให้เสร็จเลย เขาต้องตกตะลึงอย่างสิ้นเชิงเมื่อเขาเห็นอาการบาดเจ็บบนตัวของเฟิงเหยียนใบหน้าของเขาซีดลงทันทีจั๋วซือหรานมองสีหน้าเหยียนฉี นางเข้าใจทันดี เหยียนฉีอาจจะไม่ได้ใช้วิธีบังสายตาของคนอื่น แต่... บางทีเขาอาจคาดไม่ถึงว่า อาการบาดเจ็บของเฟิงเหยียนจะร้ายแรงขนาดนี้.นี่ทำให้จั๋วซือหรานคาดเดาได้อย่างคลุมเครือ เป็นไปได้ไหมที่อาการของเฟิงเหยียนแย่ลงจริง ๆ อย่างน้อยมันก็แย่กว่าที่เหยียนฉีรับรู้มาก่อนอย่างมาก ดังนั้นก่อนหน้านี้ เหยียนฉีจึงวินิจฉัยผิดแต่ในขณะนี้ จั๋วซือหรานไม่ได้คิดอะไรมากนางลดสายตาลงและมองดูอาการบาดเจ็บอันน่าสยดสยองบนร่างกายของเฟิงเหยียน บาดแผลแต่ละจุดดูเหมือนหลุม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-08
  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 125

    จั๋วซือหรานทราบดี เขาต้องมีวิธีของตัวเองในการควบคุมระดับของการบาดเจ็บของตนเอง หรือวิธีการยับยั้งการบาดเจ็บจากพลังวิเศษของตนเองในระดับหนึ่งสุราในน้ำเต้าในวันนั้น บ่อเย็นในคืนนั้น และคาถาแปลก ๆ และซับซ้อนบนร่างกายของเขาเมื่ออยู่ในบ่อเย็นของทั้งหมดนั้นต้องมีประโยชน์แต่วันนี้เขาอาจจะไม่ได้ทำการรักษาใด ๆ และปรากฏตัวเช่นนี้ ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมอาการบาดเจ็บบนร่างกายของเขาจึงดูน่ากลัวและน่าสยองจั๋วซือหรานบิดแหวนเสวียนเหยียน ความจริงนางได้สังเกตแล้วว่าผู้คนในโลกนี้ดูเหมือนไม่สามารถมองเห็นแหวนเสวียนเหยียนของนางได้ดังนั้นเมื่อนางบิดแหวนเสวียนเหยียน แม้ว่าการเคลื่อนไหวของนางจะไม่มาก แต่นางก็ไม่ได้ปิดบังแหวนเสวียนเหยียนเป็นเครื่องร่างวิเศษที่นางนำมาจากชาติก่อน และเป็นรากฐานสำหรับนางในการปักหลักและใช้ชีวิตของนาง แหวนวงนี้ไม่ได้เป็นเพียงภาชนะที่เก็บของเท่านั้น แต่ยังสามารถกักเก็บพลังได้ในระดับหนึ่ง รวมถึงพลังของการแพทย์สายวิเศษและศิลปะการต่อสู้โบราณความสามารถในการบรรจุพลังนั้นขึ้นอยู่กับกับความแข็งแกร่งและสภาพแวดล้อมของนางเองยิ่งนางแข็งแกร่งเท่าไร นางยิ่งเก็บพลังได้มากขึ้นเท่านั้นเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-08
  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 126

    เพราะความเจ็บปวดที่เจ้านายต้องทนเมื่อเขาอาศัยพลังเย็นเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บที่ตัวเองทำนั้นไม่สามารถมองเห็นได้ในการแสดงออกของเจ้านาย แต่ก็ไม่ยากที่จะเห็นจากกล้ามเนื้อและแขนขาที่ตึงเครียดของเขาแต่ในขณะนี้... ฉูนจวีนไม่แน่ใจมันเป็นภาพลวงตาของเขาหรือจะรู้สึกตึงเครียดเลยไม่เพียงแต่ไม่ได้ตึงเครียด แต่ยังผ่อนคลายอย่างมาก ขาเรียวทั้งสองข้างเหยียดไปข้างหน้ามากและรู้สึกขายาวทั้งสองข้างเหยียดไปข้างหน้าอย่างสบายตัวจั๋วซือหรานยืนอยู่ตรงหน้าเขาและรักษาอาการบาดเจ็บของเขา นางไม่ได้สังเกตพวกนี้มากนัก แต่ในสายตาของคนอื่น เวลานี้นางเหมือนกำลังยืนอยู่ในช่องว่างระหว่างขายาวทั้งสองข้างของเขา ตราบใดที่เขายื่นมืออก เขาสามารถอุ้มนางไว้ในอ้อมแขนของเขาได้ในสายตาของผู้อื่น พวกเขารู้สึกตราบใดที่นางยืนไม่นิ่งเล็กน้อย นางจะนั่งอยู่บนตักของเขาแล้วอาการบาดเจ็บบนร่างกายของเขาเบาลงและจางลงเรื่อย ๆเหยียนฉีมยืนองดูจากด้านข้าง เขารู้สึกโล่งใจ แต่ก็ท้อแท้เล็กน้อยเช่นกันในความเป็นจริง เหยียนฉีรู้ดีว่าเขาพ่ายแพ้ตั้งแต่ตอนที่จั๋วซือหรานเริ่มรักษาเฟิงเหยียน นางเริ่มการรักษาโดยไม่ต้องใช้ยาใด ๆ เลยเหยียนฉีมั่นใจว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-08
  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 127

    เฟิงเหยียนเงยหน้าขึ้นและมองจั๋วซือหราน เขาเห็นสีหน้าของนางไม่มีการเปลี่ยนแปลงในสายตาของคนนอก ท่าทางของนางทำให้ควพวกนั้นรู้สึกว่า แม่นางจั๋วจิ่วรักษาอาการบาดเจ็บสาหัสเช่นนี้ได้ ไม่เพียงแต่เร็วกว่าคุณชายสามเหยียน แต่นางยังรักษาให้หายด้วยวิธีที่ง่ายดาย และนางไม่หนื่อยด้วยซึ่งเห็นได้ชัดว่าความสามารถของนางเก่งกว่าตระกูลเหยียน อย่างมากหากเฟิงเหยียนไม่ได้เป็นหนึ่งในฝ่ายที่เกี่ยวข้องและอยู่ใกล้นางมาก เขาอาจเห็นด้วยว่า นางรักษาอาการของเขาอย่างง่ายดายแต่ตอนนี้ เฟิงเหยียนสังเกตเหงื่อบนฝ่ามือของนางอย่างชัดเจน และเขารู้โดยธรรมชาติว่านางกำลังพยายามอดทนอยู่จั๋วซือหรานสังเกตถึงสายตาของเขา แต่นางมองเขาอย่างสงบมาก จากนั้นนางหันตัวกลับอย่างผ่อนคลายนางพูดเบา ๆ กับเหยียนฉี “ขอบคุณที่ออมมือ”แม้ว่าเหยียนฉีดูเขินอายเล็กน้อย แต่เขาจะไม่ปฏิเสธที่จะยอมรับความพ่ายแพ้ หลังจากได้ยินคำพูดของจั๋วซือหราน เขาก็ยกมือขึ้นและทำท่าเคารพเล็กน้อยแล้วพูดว่า "เหยียนฉีมีทักษณะที่ไม่ดีเท่าแม่นาง ข้าเต็มใจที่จะยอมรับความพ่ายแพ้”จั๋วซือหรานไม่ได้มีเจตนาร้ายต่อเหยียนฉี ดังนั้นทั้งท่าทีหรือคำพูดของนางจึงไม่ได้มุ่งเป้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-09
  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 128

    คำเยาะเย้ยของผู้คนจะไม่มีวันที่ผ่านไปได้ และไม่มีวันที่หยุดนินทายิ่งไปกว่านั้น ตระกูลเหยียนเก่งเรื่องการแพทย์มาหลายชั่วอายุคนแล้ว พวกคนที่มาชมการแข่งขันอาจมองไม่ออก แถมอาจรู้สึกว่าหลังจากที่จั๋วซือหรานรักษาอาการบาดเจ็บแก่เฟิงเหยียน นางยังผ่อนคลายมากแต่ผู้อาวุโสสี่เหยียนในฐานะที่เป็นผู้ใหญ่ของตระกูลเหยียนรู้ดีที่สุด เขารู้อาการบาดเจ็บของเฟิงเหยียนร้ายแรเพียงใด และรู้การรักษานี้ยากลำบากเพียงใดนางรักษาเฟิงเหยียนเหนื่อยแน่ ๆ สภาพของนางต้องไม่ดีเท่าที่เขาเห็นเป็นเพียงแต่ผู้หญิงคนนี้ระงับไว้ต่อหน้าทุกคนผู้ที่มีนิสัยเช่นนี้และผู้ที่มีความอดทนสูงและโหดเหี้ยมกับตัวเองได้จะประสบความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ในอนาคตผู้อาวุโสสี่เหยียนแอบด่าเหยียนชาง ทำไมเขาต้องไปหาเรื่องกับบุคคลเช่นนี้แต่เพื่อความรุ่งโรจน์ของตระกูล ผู้อาวุโสสี่เหยียนไม่มีทางเลือกผู้อาวุโสสี่เหยียนยิ้มอย่างเขินอาย เขาพูด "จะมาว่าเรเป็นผู้กำหนดวิธีการแข่งได้อย่างไร แม่นางจั๋วจิ่ว เจ้าเป็นผู้ที่เสนอการแข่งขันครั้งนี้เอง ตั้งแต่แรกเริ่มเจ้าก็ไม่กำหนดว่าแข่งตาเดียวและตัดสินผู้ชนะหรือผู้แพ้ โดยทั่วไปแล้ว จะกำหนดแข่งห้าตา ใครชนะสา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-09

บทล่าสุด

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 906

    แพทย์ทหารเอ่ยขึ้นเสียงต่ำ "ข้าข้ามีทักษะเช่นนี้...ทหารราบเหล่านั้นก็คงไม่ตายกันแล้ว..."เสียงของเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด เขาประจักษ์กับตาแล้วถึงการเปลี่ยนสิ่งเน่าเสียกลายเป็นสิ่งอัศจรรย์ของแม่นางจั๋วจิ่วแล้วพอเห็นว่านางทำตัวราวกับเป็นช่างยอดฝีมือ จัดการเย็บช่องท้องของคนผู้นี้ราวกับเย็บกระเป๋าขาดยิ่งไปกว่านั้นยังจัดการรักษาส่วนที่บาดเจ็บของอวัยวะภายในไปแล้วด้วยนี่ทำให้เขาอดคิดไปถึงทหารที่ตายอย่างน่าเวทนาเหล่านั้น ต่อมาถูกก็ถูกพวกคนเถื่อนเอาหัวขึ้นไปแขวนบนคาน...เขาอดคิดไม่ได้เลย ถ้าหากตนเองมีฝีมือเสียหน่อย ไม่แน่คนเหล่นั้นอาจจะช่วยไว้ได้กระมังคำพูดนี้มีอารมณ์อยู่ด้วย เพราะตอนนี้อารมณ์ของเขาถูกส่งผลกระทบอยู่จริงๆแต่เสียงของจั๋วซือหรานกลับสงบ นางก้มหน้าพูดว่า "ไม่หรอก ถ้าหากเจ็บหนักเกินไป อย่างเช่นหัวขาดออกจากกัน ต่อให้เทพเจ้าก็ทำอะไรไม่ได้ แน่นอนว่าข้าเองก็ไม่มีวิธีเหมือนกัน ข้าเป็นแค่แพทย์ ไม่ใช่พระเจ้า"แม้คำพูดนี้จะดูใจเย็น ราวกับกำลังอธิบายข้อเท็จจริงอยู่ แต่คำพูดนี้ก็ยังทำให้แพทย์ทหารที่ยังรู้สึกโทษตัวเองอยู่ก่อนหน้านี้ อารมณ์ผ่อนคลายลงมาบ้างแล้วจั๋วซือหรานเย็บเข็มส

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 905

    สถานการณืเช่นนี้ ทำให้คนรู้สึกไม่อยากเชื่อจริงๆ!เดิมทีในใจก็เห็นความหวังแล้ว ตอนนี้ยิ่งร้อนแรงขึ้นมาใหญ่ในดวงตาเขาเมหือนมีพลังชีวิตเปล่งออกมาจั๋วซือหรานพอใจกับสถานการณ์เช่นนี้ พลังชีวิตเช่นนี้ อันที่จริงก็มีประโยชน์กับอาการบาดเจ็บของเขาคนอื่นๆ อันที่จริงก็รู้สึกสนใจกับวิธีการรักษษของจั๋วซือหรานมากแต่ว่า...วิชาและขั้นตอนการรักษษ ในบางระดับ ก็ถือว่าเป็นความลับของแพทย์ด้วยดังนั้น ต่อให้จะอยากรู้อยากเห็นแค่ไหน พวกเขาก็ทำได้แค่รออยู่ด้านนอกฉากกั้นลมเพียงแต่ว่า พวกเขาก่อนหน้านี้ยังได้ยินเสียงร้องเจ็บปวดของคนเจ็บอยู่เลยตอนนี้กลับค่อยๆ สงบลงมาแล้วนี่ทำเอาทุกคนมีการคาดเดาขึ้น...ว่าคนคนนั้น...คงจะไม่ได้ตายไปแล้วกระมัง?มีแพทย์ทหารที่ทนไม่ไหว ต่อให้รู้ว่าหน้าไม่อาย แต่เขาก็ยังเปิดปากขึ้นอย่างหน้าด้านๆบอกว่า "แม่นางจิ่ว ข้าอยากรู้จริงๆ ให้ข้าเข้าไปดูด้วยได้ไหม?"ตอนที่พูดคำนี้จบ แพทย์ทหารคนอื่นที่อยู่รอบๆ สายตาก็เผยสีหน้าไม่อยากเชื่อจ้องมองเขาเจ้าไหวไหมน่ะ? หน้าตาน่ะมีไหม?แต่คนผู้นี้ก็ยังกัดฟัน ไร้เกียรติก็ช่างมัน!ยิ่งไปกว่นั้นด้านในก็ไม่มีปฏิกิริยาใด ทุกคนจึงรู้สึกว

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 904

    ถ้าในชาติที่แล้วคือไม่น้อยเลยต่อให้ไม่ใช่ชาติที่แล้ว ในโลกที่การรักษาล้าหลังอย่างที่นี่ จั๋วซือหรานเองก็เคยมีประสบการณ์มาแล้วแพทย์ทหารพอได้ยินคำนี้ก็งงงันไป น่าจะเพราะคิดไม่ถึงว่าจะได้ยินคำตอบมั่นใจนี้จากปากจั๋วซือหราน"อะ อะ...อะไรนะ?" แพทย์ทหารมีสีหน้าไม่อยากเชื่อ เขาจ้องจั๋วซือหรานนิ่งจากนั้นนึงดึงผ้าที่คลุมบนตัวคนเจ็บผืนนั้นออก เอ่ยขึ้นว่า "ท่านว่าอาการอย่างนี้น่ะนะ?!"การกระทำที่ตามมาหลังคำพูด คือการเปิดเผยอาการบาดเจ็บออกมายังสายตาคนทั้งหมดบาดแผลที่น่ากลัว ช่องท้องเปิดโหว่ ประจักษ์เข้ามาในสายตาคนทั้งหมดคนทั้งหมดในนี้ล้วนเป็นขุนพลสายบู๊ทุกคนไม่กลัวกับภาพสยดสยองที่เลือดเนื้อเหวอะหวะแต่ไม่กลัวมันก็ส่วนไม่กลัวแต่เพระาเคยเห็นเลือดกับความตายมาแล้ว ตอนที่เจอกับอาการบาดเจ็บเช่นนี้ก็แทบจะคิดถึงปลายทางได้เลย ถ้าหากจากความคิดพวกเขา แค่รู้สึกว่า...มอบความเมตตาให้เขาไปสบายจะดีกว่าไหม?ใครจะคิดว่าคำตอบที่จั๋วซือหรานให้มากลับเป็น..."อืม บาดแผลแบบนี้เลย คุ้มค่าที่จะลองดู" จั๋วซือหรานยิ้มเรียบๆ นางเดินขึ้นไปก้าวหนึ่งส่วนน้องชายคนเจ็บ เดิมทีถูกปฏิกิริยาของแพทย์ทหารเมื่อครู่ทำ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 903

    ใกล้จะตายแล้วฉีฮ่าวมากับจั๋วซือหราน ตอนที่ตามคนผู้นี้มาด้วยกัน แค่เห็นน้องชายเขาผาดเดียวก็มองออกแล้ว ว่าคนผู้นี้กำลังจะตายสีหน้าเขาไม่มีสีเลือดแล้ว เขียวคล้ำ หายใจออกแรงหายใจเข้าเบา...บางทีไม่ควรพูดว่าหายใจออกแรงหายใจเข้าเบาด้วยซ้ำ นี่เหมือนไม่ได้ยินเสียงหายใจเข้าของเขาด้วยซ้ำตอนที่พวกเขาเข้าไป ทหารราบที่มาโขกศีรษะกับจั๋วซือหรานก่อนหน้าคนนั้น ก็รีบตะโกนขึ้นว่า "ท่านพี่! ท่านพี่! เจ้ารีบตื่นเร็ว! ข้าพาคนมาแล้ว ข้าพาคนมาช่วยเจ้าแล้ว! ข้าพาแม่นางจิ่วมาช่วยเจ้าแล้ว!"ไม่รู้ว่าเพราะได้ยินเสียงที่คุ้นเคยหรือเปล่า หรือว่าได้ยินคำว่าแม่นางจิ่ว จึงทำให้เขาเชื่อมั่นขึ้นมาเขาที่เดิมทีตาปรืออยู่แล้ว ตอนนี้ค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาเล็กน้อยดวงตาที่พร่ามัว ฝืนตัวเพ่งสมาธิขึ้นมาอีกครั้งตกมาอยู่บนตัวจั๋วซือหรานหลังจากนั้นก็เหมือนว่าจะมีชีวิตชีวาขึ้นมาหน่อยฉีฮ่าวขมวดคิ้วอยู่ข้างๆ มองด้านบนผ้าที่คลุมร่างเขาไว้ เลือดสดดวงใหญ่นั่น...ฉีฮ่าวเอ่ยขึ้นกับทหารที่โขกศีรษะคนนั้นก่อน "พี่ชายเจ้าสภาพแบบนี้..."ทหารคนนี้ขยี้ตาอย่างแรง เอ่ยขึ้นว่า "พี่ชายข้ายังพอช่วยไหวไหม..."ฉีฮ่าวเอ่ยตอบ "เกรงว่าจะ...ย

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 902

    แต่ว่าเนื้อหาในคำพูด กลับมีเหตุผล และชัดเจนมากเหล่าขุนพลไม่มีใครฟังไม่เข้าใจเข้าใจความคิดที่ฉีฮ่าวต้องการแสดงออกมาในทันที ถ้าหากพวกเขาเหล่านี้เป็นทหาร หากสูญเสียจิตใจปวงประชาไป เช่นนั้นก็จบสิ้นกันแล้ว...เช่นนั้นพวกเขาจะต่างอะไรกับโจรขโมย?จั๋วซือหรานยืนอยู่ข้างๆ ฟังฉีฮ่าวพูดประโยคเหล่านี้นางเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย คิดไม่ถึงว่า ฉีฮ่าวแม้จะเป็นชายชาติทหารร่างใหญ่กักขฬะ แต่ในจุดนี้กลับเข้าใจเป็นอย่างดีนางไม่ได้คิดจะมอบให้เปล่าๆ นางไม่ใช่พวกทำการกุศลอะไรแคว้นชางอะไร กองทหารอะไร นั่นโน่นนี่ถ้าเจ้าของร่างเดิมก็อาจจะมีความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งอยู่กระมัง?แต่จั๋วซือหรานอย่างนางนั้นไม่มีนางไม่ใช่ว่าคิดจะไม่มอบให้ เพียงแต่ว่านางคิดจะทำขึ้นเอง ถ้าเป็นไปได้ก็จะหขายให้กับกองทหารมีทักษะเช่นนี้ แน่นอนว่าอยู่ในมือตนเองจะมั่นคงกว่านางมาจากต่างโลก ต่างโลกที่เทคโนโลยีก้าวหน้ากว่าโลกใบนี้พูดได้ว่ายืนอยู่บนบ่าของยักษ์ใหญ่แล้วยักษ์ใหญ่ก็ไม่ได้มีไว้ให้คนอื่นขโมยไป...คนคนนั้นเดินเข้ามา คุกเข่าลงตรงหน้าจั๋วซือหราน"ข้าขอโทษ แม่นางจิ่ว ข้ายอมรับโทษแล้ว!" ขุนพลเอ่ยขึ้น เขาหยิบหน้าไม้กลสอง

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 901

    และเพราะนางยิ้มอยู่ ยิ่งไปกว่านั้นยังยิ้มอย่างอัธยาศัยดีด้วย ทำให้คนเข้าใจผิดคิดว่านางตอบรับแล้วอย่างน้อยปฏิกิริยาแรกของฉีฮ่าวก็คือนางตอนรับแล้ว ดังนั้นจึงพูดขึ้นว่า "เช่นนั้นก็ขอบคุณ..."พูดไปได้แค่ครึ่งเดียว ฉีฮ่าวจึงเพิ่งตั้งตัวได้ ว่านางบอกว่าไม่ได้นี่นาชั่วขณะหนึ่งก็งงงันไป"ไม่ ไม่...ไม่ได้หรือ?" ฉีฮ่าวถามงึมงำขึ้นมาจั๋วซือหรานพยักหน้า "อืม ไม่ได้"ข้างๆ มีขุนพล ที่น่าจะรู้สึกหวั่นไหวกับอาวุธนี้จริงๆบวกกับอาการร้อนรน จึงเอ่ยขึ้นทันที "ทำไมจึงไม่ได้หรือ? ถ้าหากอาวุธเช่นนี้สามารถมอบให้กับกองทหารได้ จะยกระดับความสามารถการทำสงครามขึ้นมหาศาลเลย...""แต่นั้นเกี่ยวอะไรกับข้าหรือ" จั๋วซือหรานมองไปทางเขาขุนพลคนนี้ถูกคำพูดของนางทำให้ชะงัก ชั่วขณะหนึ่งพูดอะไรไม่ออกแต่ก็มองออกไม่ยาก สีหน้าแข็งกร้าวขึ้นมาแล้ว ครู่หนึ่งจึงเอ่ยขึ้นว่า "ท่านเป็นประชาชนของต้าชาง ของเช่นนี้ หากมอบให้กับกงอทหาร จะนำคุณประโยชน์มาได้มากมาย"จั๋วซือหรานมองเขาเย็นชา "ตอนที่ข้าถูกคนเป็นหมื่นตำหนิ ก็ไม่เห็นว่าพวกเจ้าจะมาปกป้องข้าในฐานะคนของต้าชางเลย"ฉีฮ่าวพอได้ยินน้ำเสียงของจั๋วซือหราน ในใจก็สั่นกึก ฉั

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 900

    "จั๋วจิ่ว! เจ้าคิดว่าเจ้าจะมีจุดจบอย่างไรกัน?! แดนใต้ไม่มีทางปล่อยเจ้าไว้แน่""สำนักพวกเราเองก็จะไม่ปล่อยเจ้าด้วย!""สภาผู้อาวุโสก็จะไม่ปล่อยเจ้า!""จั๋วจิ่วเจ้าจะไม่ตายดี! เจ้าจะไม่ได้ตายดี!"จั๋วซือหรานได้ยินเสียงก่นด่าของพวกเขา สีหน้ายังคงเรียบเฉยแต่รองแม่ทัพที่อยู่ข้างๆ นาง พอได้ยินคำนี้ กระทั่งคิ้วก็ยังขมวดขึ้นมาเขากำลังจะเตือนจั๋วซือหรานว่าไม่ต้องโกรธ อย่าไปใส่ใจคำพูดของคนพวกนี้แต่ยังไม่ทันที่เขาจะพูด ก็ได้ยินหญิงสาวข้างกาย เอ่ยขึ้นมาเบาๆ ด้วยน้ำเสียงไม่ใส่ใจ "โอ้ ถ้าอย่างนั้นตอนเจ้าไปเข้าฝันพวกเขาก็อย่าจำผิดล่ะ ข้าชื่อจั๋วซือหราน"เพียงไม่นาน คนเหล่านี้ก็ตอบอะไรนางไม่ได้อีกรองแม่ทัพดูจนใจขึ้นมา "ท่านไม่ได้โกรธเลยสินะ...""จะไปโกรธอะไรกับคนใกล้ตายกัน" จั๋วซือหรานกลอกตามองรองแม่ทัพ "มาหาข้ามีอะไรหรือ?"รองแม่ทัพพยักหน้า "ท่านแม่ทัพเชิญท่านเข้าไปน่ะ"จั๋วซือหรานขานรับคำหนึ่ง เงยหน้าเหลือบมองคานหัวมนุษย์ผาดหนึ่ง แล้วจึงหมุนตัวขึ้นม้ากลับไปในค่ายในกระโจมค่าย ฉีฮ่าวนั่งอยู่ที่นั่น ไม่ใช่แค่ฉีฮ่าว แต่ยังมีกลุ่มขุนพลของเขาด้วยอยู่กันครบองค์ประชุม"คึกครื้นขนาดนี้เชี

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 899

    จักรพรรดิเฒ่ามองไปทางซือคงเซี่ยน ถามขึ้นมาคำหนึ่ง "น้องเจ็ด เจ้าว่าอย่างไรล่ะ?"ซือคงเซี่ยนมองออกว่า เสด็จพ่อประทับใจคำพูดเมื่อครู่ของจั๋วซือหรานเข้าแล้วยิ่งไปกว่านั้นในคำพูดเมื่อครู่ของจั๋วซือหราน ซือคงเซี่ยนเองก็สังเกตออก ว่านางมีท่าทีไม่ยอมรับต่อการการมอบงานอภิเษกของเสด็จพ่อดังนั้นซือคงเซี่ยนจึงเอ่ยว่า "ลูก...ไม่มีความเห็น แล้วแต่เสด็จพ่อจะจัดวางเลย"จักรพรรดิเฒ่าได้ยินคำนี้ของซือคงเซี่ยน ในใจก็อดถอนใจไม่ได้อันที่จริงถ้าหากน้องเจ็ดกัดฟันพูดว่าต้องการงานอภิเษกนี้ล่ะก็จักรพรรดิเฒ่าคิดว่า ตนเองจะยอมรับอยู่แต่ว่าลูกชายของตนเองนั้น...ถ้าหากบอกว่าน้องห้าทะเยอทะยานเกินไป เช่นนั้นน้องเจ็ดก็...ไม่มีความทะเยอะทะยานเอาเสียเลยน่าจะเพราะพระสนมเอกคิดได้อย่างลึกซึ้ง ตั้งแต่แรกนางรู้ว่าฐานะของตัวเองและอำนาจทางตระกูลฝ่ายแม่ จะสร้างความระแวงต่อนางและอ๋องเซี่ยนรวมถึงตระกูลฝ่ายแม่ของนางกับองค์จักรพรรดิภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ สิ่งแรกที่ต้องวางลงมาก็คือความทะเยอทะยานที่ไม่เหมาะสมสรุปคือ จักรพรรดิเฒ่าไม่เห็นความเร่งร้อนกับความปรารถนาใดจากในตาของซือคงเซี่ยน เห็นแค่ความผิดหวังรางๆ เท่านั้

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 898

    นางอดมองไปบนกำแพงสูงไม่ได้คนของ...ตระกูลเฟิงหรือ? หรือว่า...ในลานเกิดความวุ่นวายขึ้นทันที แต่เพราะจักรพรรดิเฒ่าไม่เป็นอะไร ในลานจึงสงบลงมาอย่างรวดเร็วแต่หัวข้อสนทนาเรื่องจะจัดอภิเษกเมื่อครู่ ก็ถูกปัดตกไปแล้วตอนนี้ถ้าถูกยกขึ้นมาใหม่ ก็ไม่ได้เป็นทางการแบบเมื่อครู่แล้วจั๋วซือหรานมองไปทางจักรพรรดิเฒ่า นางครุ่นคิด หลังจากคิดคำพูดอยู่พักหนึ่ง จึงเอ่ยขึ้นว่า "ฝ่าบาท ข้ารู้สึกว่า ตัวตนฐานะข้าตอนนี้เหมาะสมไหม ฝ่าบาทคิดว่าอย่างไร? ในเมืองหลวง...ยังวุ่นวายกันอยู่เลย"จักรพรรดิเฒ่าฉลาดเสียขนาดไหน พอได้ยินคำนี้ของจั๋วซือหราน ก็เข้าใจความหมายที่นางคิดจะแสดงออกมาทันทีพริบตานี้ จักรพรรดิเฒ่าเองรู้สึกแค่ว่า...อยากจะถอนใจเสียเหลือเกิน หญิงสาวคนนี้ฉลาดจริงๆไม่ใช่คนธรรมดาเลยจริงๆยิ่งไปกว่านั้นยังไม่บอกว่าลูกเจ็ดคู่ควรกับนางหรือไม่ถ้าหากจะนำหญิงสาวแบบนี้ไปพันธนาการไว้ในกรงทองวังหลังล่ะก็ เท่ากับเป็นการทำลายของมีค่าไปหญิงสาวเช่นนี้ สมควรจะบินทะยานจักรพรรดิเฒ่าฟังความหมายคำพูดเมื่อครู่ของจั๋วซือหรานออกแน่นอนตัวตนตอนนี้ของนางเหมาะมากเพราะตัวตนของนางตอนนี้ ไม่ชัดเจนอย่างที่สุดจะบอก

DMCA.com Protection Status