Share

บทที่ 119

Auteur: หูเทียนเสี่ยว
ทันทีที่จั๋วซือหรานเดินเข้าไปในศูนย์การแพทย์ของตระกูลเหยียน เดิมทีนางคิดว่านางจะเผชิญกับสถานการณ์ที่ตระกูลเหยียนมีคนจำนวนมากเพียงลำพัง

โดยไม่คาดคิด คนแรกที่นางเห็นเมื่อเดินเข้าไปในศูนย์การแพทย์ของตระกูลเหยียนคือใบหน้าที่สวมหน้ากากเปลวไฟสีดำแปลก ๆ

และข้างกายของชายผู้นี้มีชายร่างสูงสวมหน้ากากของตราตันติ่ง

"...ทำไมพวกท่านถึงมาที่นี่เจ้าคะ" จั๋วซือหรานไม่คาดคิดจริง ๆ ว่า ซือหลี่ตันติ่งและ ซือหลี่ฝายเทียนจะปรากฏตัวที่นี่ ดังนั้นหลังจากแสดงความประหลาดใจ นางก็รีบทักทาย "สวัสดีเจ้าค่ะ ท่านซือหลี่ทั้งสอง"

เสียงของซือหลี่ตันติ่งนั้นสงบและเที่ยงธรรมเช่นเคย

“เนื่องจากการแข่งขันระหว่างเจ้าและตระกูลเหยียนได้รับการตัดสินโดยหน่วยสืบสวนพิเศษ เช่นนั้นคนของหน่วยสืบสวนพิเศษมาชม เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว”

จั๋วซือหรานไม่ได้พูดอะไรในทันที นางมองไปที่ซือหลี่ตันติ่งสักครู่โดยโค้งริมฝีปากและพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม "ท่านพูดสมเหตุสมผล ข้าแค่... ข้ารู้สึกภาคภูมิใจ "

อันที่จริงจั๋วซือหรานตระหนักได้อย่างรวดเร็วว่า การที่ท่านทั้งสองนี้มาที่นี่เป็นเรื่องที่ดี

มิเช่นนั้น หากตระกูลเหยียนอยากทำอะไรชั่ว ๆ เพราะพวกเขามีคน
Continuez à lire ce livre gratuitement
Scanner le code pour télécharger l'application
Chapitre verrouillé

Related chapter

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 120

    ซือหลี่ตันติ่งมีนิสัยไม่แยแส ส่วนซือหลี่ฝายเทียน เขาไม่ได้มองคนชราผู้นี้เลยจากนั้นมีเสียงผู้หญิงของคนหนึ่งดังขึ้นจากด้านหลังของชายชรา“ คุณหนูจั๋วจิ่ว นี่คือผู้อาวุโสคนที่สี่ของตระกูลเหยียนของเรา ท่านเป็นผู้อาวุโสอยู่แล้ว เจ้าเสียมารยาทเช่นนี้ได้อย่างไร”จั๋วซือหรานมองไปที่ผู้หญิงที่พูด เหยียนหยี่หลิงไม่มีวันทำให้นางผิดหวังจริง ๆเพียงได้ยินคำพูดลักพาตัวทางศีลธรรมเช่นนี้ จั๋วซือหรานก็รู้เลยว่าใครกำลังพูดโดยไม่ได้มองด้วยซ้ำจั๋วซือหรานมองไปที่เหยียนหยี่หลิง นางพูดด้วยรอยยิ้มว่า " คุณหนูเจ็ดเหยียน ข้าไม่ถูกใจกับตระกูลเหยียน เจ้าคงไม่ใช่เพิ่งรู้วันแรกหรอกนะ ข้าเสียมารยาทกับเขา ผิดตรงไหน หากเจ้าเป็นห่วงผู้อาวุโสของเจ้า เดี๋ยวในการแข่งขันที่กำลังจะมาถึง เจ้าใช้ทักษะทางการแพทย์ของเจ้ามาชนะข้าให้เต็มที่เลย”“ฮ่า ๆ ...” เสียงหัวเราะสั้น ๆ ดังขึ้นแต่เนื่องจากมันเป็นเสียงที่สั้นเกินไป และความสนใจของทุกคนอยู่ที่จั๋วซือหราน จึงเป็นเรื่องยากที่จะบอกได้ว่าใครกำลังหัวเราะแต่จั๋วซือหรานเห็นซือหลี่ฝายเทียนที่สวมหน้ากากเปลวไฟสีดำกำลังบีบแขนเสื้อของเขาให้แน่นขึ้นสีหน้าของเหยียนหยี่หลิงค่อนข้

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 121

    ทันใดนั้นดาบสีดำทองยาวก็หลุดออกมาจากมือของซือหลี่ฝายเทียนดาบยาวไม่ได้ถูกปลอกออก ฝักมีลวดลายที่ซับซ้อนและละเอียดอ่อนมาก และฝังด้วยอัญมณีสีเข้ม เห็นได้ชัดว่าทักษะการตีขึ้นรูปนั้นโดดเด่นอย่างมากใบมีดนั้นอยู่ระดับเสมอ และถูกยกไว้ใต้เข่าของจั๋วซือหราน เพื่อห้ามนางทำความเคารพต่อจั๋วซือหรานยกมือและทำความเคารพต่อซือหลี่ฝายเทียนและ ซือหลี่ตันติ่งแล้วพูดว่า "ท่านทั้งสอง ตระกูลเหยียนจงใจถ่วงเวลา เพราะพวกเขาไม่อยากแข่งขันกับข้า และพวกเขาไม่ยอมแพ้ด้วย หากวันนี้แข่งขันไม่ได้ ข้ามิทราบว่าคนภายนอกจะแต่งเรื่องใดใส่ร้ายข้าและหัวเราะข้า "เดิมทีจั๋วซือหรานอยากขอความช่วยเหลือจากพวกเขาสองคน ในเมื่อพวกเขามาถึงที่นี่ จั๋วซือหรานทราบดีว่าในฐานะหน่วยสืบสวนพิเศษ แม้ว่าพวกเขาจะไม่ลำเอียงนาง แต่อย่างน้อยพวกเขาก็จะต้องยุติธรรมแต่นางไม่คิดว่าเจ้าน้อยที่พูดติดอ่างตัวน้อยจะมีปฏิกิริยาตอบโต้ขนาดนี้ทันทีที่ดาบทองดำในมือของเขาออกมา บุคลิกรอบตัวของเขาก็เปลี่ยนไปทันทีทุกคนของตระกูลเหยียนเห็นซือหลี่ฝายเทียนเงียบตั้งแต่ต้นจนจบ หลังจากจั๋วซือหรานพูดเช่นนั้น เขาก็มองพวกเขาทันทีจากนั้นเขาก็จับด้ามดาบแล้วดึงใบดาบ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 122

    แต่เขาเพียงนั่งอยู่ที่นั่น จากร่างก็ดูออกเลยว่า เขามีบุคลิกที่ทรงพลังอย่างมาก“เช่นนั้นมาเริ่มกันเลย” เหยียนฉีกล่าวจั๋วซือหรานส่ายหัว "ไม่ เรามาตกลงกันว่า จะแข่งอย่างไร และจะแข่งอะไร"เหยียนฉีไม่พูดอะไรและเหลือบมองชายที่นั่งอยู่ที่นั่นเท่านั้นจั๋วซือหรานมองเห็นบางสิ่งบางอย่างจากการมองของเหยียนฉี เหยียนฉีหรือตระกูลเหยียนต่างไม่สามารถตัดสินใจได้จะแข่งอย่างไร จะแข่งอะไร ดูเหมือนว่าไม่ได้ขึ้นอยู่กับพวกเขา แต่ขึ้นอยู่กับเฟิงเหยียนวินาทีต่อมามีเสียงทุ้มดังมาจากใต้ผ้าคลุมของหมวก“เดี๋ยวข้ามีบาดแผล ใครก็ตามที่สามารถรักษาอาการบาดเจ็บของข้าได้จะเป็นผู้ชนะ”เมื่อซือหลี่ตันติ่งได้ยินคำพูดนี้ เขาอดไม่ได้ที่ต้องมองเฟิงเหยียนจั๋วซือหรานยังคงสงสัยเล็กน้อยว่า อาการบาดเจ็บของเขามาจากไหน วินาทีต่อมา ผู้ดูแลก็เข้ามาและถอดม่านหนาที่หน้าต่างออกแสงด้านนอกส่องเข้ามาทางหน้าต่าง ขับไล่ความมืดในห้องออกไปในที่สุดแต่วินาทีต่อมา ลูกตาของจั๋วซือหรานหดตัวลงนางมองเห็นได้อย่างชัดเจนว่า มือและกล้ามเนื้อท่อนแขนครึ่งหนึ่งของเขาที่ถูกเปิดออก และเริ่มแสดงอาการบาดเจ็บสาหัสรอยดำที่ไหม้เกรียมเช่นนั้น... ด

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 123

    เหยียนฉีใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วยาม(หนึ่งชั่วยาม=สองชั่วโมง)รักษาอาการบาดเจ็บของเฟิงเหยียนโดยทั่วไปแล้ว อาการบาดเจ็บจากไฟไหม้ที่เห็นบนผิวหนังที่ถูกเปิดเผยของเขาได้รับการรักษาและไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าอีกต่อไปเหยียนฉีถอนหายใจยาว ๆมีบางคนมาดูที่นอกประตูแล้ว เพราะแม้ว่าตระกูลเหยียนจะมีอำนาจห้ามชาวบ้านธรรมดาได้ แต่พวกเขาไม่สามารถห้ามตระกูลขุนนางเหล่านั้นได้เสียงกระซิบดังมาจากประตู“ดูสิ ถึงอย่างไร ผู้เชี่ยวชาญที่มีชื่อเสียงต้องเก่งกว่าผู้ไร้ชื่อเสียงสิ”“ ใช่แล้ว ถึงอย่างไร ตระกูลเหยียนก็คือตระกูลเหยียน พวกเขาฝึกฝนแพทย์และเภสัชวิทยามาหลายปีแล้ว พวกเขาต้องมีความสามารถประจำตัวของพวกเขาอยู่”“ ทีนี้ จั๋วจิ่วต้องเสียหน้าแน่ ๆ ...”ไม่ใช่จั๋วซือหรานไม่ได้ยินเสียงที่มาจากประตูห้องให้คำปรึกษา นางแค่ขี้เกียจสนใจคำพูดเหล่านั้นสีหน้าประหลาดใจของนางเมื่อนางเห็นอาการบาดเจ็บของเฟิงเหยียนในก่อนอาจทำให้ทุกคนคิดว่านางกลัวแต่จั๋วซือหรานขี้เกียจไปอธิบายอะไรอีก ทักษะทางการแพทย์ไม่ต้องอธิบายมากมาย พิสูจน์ตัวเองด้วยทักษะทางการแพทย์ คนอื่นจะเลิกนินทาเองหลังจากเหยียนฉีรักษาอาการบาดเจ็บที่ป

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 124

    คอเรียว หน้าอกและหน้าท้องที่แข็งแรง กล้ามเนื้ออันสวยงาม ไหล่กว้าง และหลังตรงเพียงแต่ร่างกายที่มีกล้ามเนื้อสวยงามถูกปกคลุมไปด้วยรอยไหม้สีดำ ซึ่งเพียงมองแวบเดียวก็ตกตะลึงการรักษาในก่อนหน้านี้ดูเหมือนว่ามีเพียงแขนที่เปิดออกและคอของเขาเท่านั้นที่หายดีแล้วอาการบาดเจ็บที่อื่นยังคงน่าตกใจเมื่อเห็นอาการที่อื่น ท่าทีอันเย่อหยิ่งในก่อนหน้านี้ของตระกูลเหยียนก็กลายเป็นเรื่องตลกเหยียนฉียังไม่ทันเช็ดเหงื่อใบหน้าให้เสร็จเลย เขาต้องตกตะลึงอย่างสิ้นเชิงเมื่อเขาเห็นอาการบาดเจ็บบนตัวของเฟิงเหยียนใบหน้าของเขาซีดลงทันทีจั๋วซือหรานมองสีหน้าเหยียนฉี นางเข้าใจทันดี เหยียนฉีอาจจะไม่ได้ใช้วิธีบังสายตาของคนอื่น แต่... บางทีเขาอาจคาดไม่ถึงว่า อาการบาดเจ็บของเฟิงเหยียนจะร้ายแรงขนาดนี้.นี่ทำให้จั๋วซือหรานคาดเดาได้อย่างคลุมเครือ เป็นไปได้ไหมที่อาการของเฟิงเหยียนแย่ลงจริง ๆ อย่างน้อยมันก็แย่กว่าที่เหยียนฉีรับรู้มาก่อนอย่างมาก ดังนั้นก่อนหน้านี้ เหยียนฉีจึงวินิจฉัยผิดแต่ในขณะนี้ จั๋วซือหรานไม่ได้คิดอะไรมากนางลดสายตาลงและมองดูอาการบาดเจ็บอันน่าสยดสยองบนร่างกายของเฟิงเหยียน บาดแผลแต่ละจุดดูเหมือนหลุม

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 125

    จั๋วซือหรานทราบดี เขาต้องมีวิธีของตัวเองในการควบคุมระดับของการบาดเจ็บของตนเอง หรือวิธีการยับยั้งการบาดเจ็บจากพลังวิเศษของตนเองในระดับหนึ่งสุราในน้ำเต้าในวันนั้น บ่อเย็นในคืนนั้น และคาถาแปลก ๆ และซับซ้อนบนร่างกายของเขาเมื่ออยู่ในบ่อเย็นของทั้งหมดนั้นต้องมีประโยชน์แต่วันนี้เขาอาจจะไม่ได้ทำการรักษาใด ๆ และปรากฏตัวเช่นนี้ ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมอาการบาดเจ็บบนร่างกายของเขาจึงดูน่ากลัวและน่าสยองจั๋วซือหรานบิดแหวนเสวียนเหยียน ความจริงนางได้สังเกตแล้วว่าผู้คนในโลกนี้ดูเหมือนไม่สามารถมองเห็นแหวนเสวียนเหยียนของนางได้ดังนั้นเมื่อนางบิดแหวนเสวียนเหยียน แม้ว่าการเคลื่อนไหวของนางจะไม่มาก แต่นางก็ไม่ได้ปิดบังแหวนเสวียนเหยียนเป็นเครื่องร่างวิเศษที่นางนำมาจากชาติก่อน และเป็นรากฐานสำหรับนางในการปักหลักและใช้ชีวิตของนาง แหวนวงนี้ไม่ได้เป็นเพียงภาชนะที่เก็บของเท่านั้น แต่ยังสามารถกักเก็บพลังได้ในระดับหนึ่ง รวมถึงพลังของการแพทย์สายวิเศษและศิลปะการต่อสู้โบราณความสามารถในการบรรจุพลังนั้นขึ้นอยู่กับกับความแข็งแกร่งและสภาพแวดล้อมของนางเองยิ่งนางแข็งแกร่งเท่าไร นางยิ่งเก็บพลังได้มากขึ้นเท่านั้นเ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 126

    เพราะความเจ็บปวดที่เจ้านายต้องทนเมื่อเขาอาศัยพลังเย็นเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บที่ตัวเองทำนั้นไม่สามารถมองเห็นได้ในการแสดงออกของเจ้านาย แต่ก็ไม่ยากที่จะเห็นจากกล้ามเนื้อและแขนขาที่ตึงเครียดของเขาแต่ในขณะนี้... ฉูนจวีนไม่แน่ใจมันเป็นภาพลวงตาของเขาหรือจะรู้สึกตึงเครียดเลยไม่เพียงแต่ไม่ได้ตึงเครียด แต่ยังผ่อนคลายอย่างมาก ขาเรียวทั้งสองข้างเหยียดไปข้างหน้ามากและรู้สึกขายาวทั้งสองข้างเหยียดไปข้างหน้าอย่างสบายตัวจั๋วซือหรานยืนอยู่ตรงหน้าเขาและรักษาอาการบาดเจ็บของเขา นางไม่ได้สังเกตพวกนี้มากนัก แต่ในสายตาของคนอื่น เวลานี้นางเหมือนกำลังยืนอยู่ในช่องว่างระหว่างขายาวทั้งสองข้างของเขา ตราบใดที่เขายื่นมืออก เขาสามารถอุ้มนางไว้ในอ้อมแขนของเขาได้ในสายตาของผู้อื่น พวกเขารู้สึกตราบใดที่นางยืนไม่นิ่งเล็กน้อย นางจะนั่งอยู่บนตักของเขาแล้วอาการบาดเจ็บบนร่างกายของเขาเบาลงและจางลงเรื่อย ๆเหยียนฉีมยืนองดูจากด้านข้าง เขารู้สึกโล่งใจ แต่ก็ท้อแท้เล็กน้อยเช่นกันในความเป็นจริง เหยียนฉีรู้ดีว่าเขาพ่ายแพ้ตั้งแต่ตอนที่จั๋วซือหรานเริ่มรักษาเฟิงเหยียน นางเริ่มการรักษาโดยไม่ต้องใช้ยาใด ๆ เลยเหยียนฉีมั่นใจว

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 127

    เฟิงเหยียนเงยหน้าขึ้นและมองจั๋วซือหราน เขาเห็นสีหน้าของนางไม่มีการเปลี่ยนแปลงในสายตาของคนนอก ท่าทางของนางทำให้ควพวกนั้นรู้สึกว่า แม่นางจั๋วจิ่วรักษาอาการบาดเจ็บสาหัสเช่นนี้ได้ ไม่เพียงแต่เร็วกว่าคุณชายสามเหยียน แต่นางยังรักษาให้หายด้วยวิธีที่ง่ายดาย และนางไม่หนื่อยด้วยซึ่งเห็นได้ชัดว่าความสามารถของนางเก่งกว่าตระกูลเหยียน อย่างมากหากเฟิงเหยียนไม่ได้เป็นหนึ่งในฝ่ายที่เกี่ยวข้องและอยู่ใกล้นางมาก เขาอาจเห็นด้วยว่า นางรักษาอาการของเขาอย่างง่ายดายแต่ตอนนี้ เฟิงเหยียนสังเกตเหงื่อบนฝ่ามือของนางอย่างชัดเจน และเขารู้โดยธรรมชาติว่านางกำลังพยายามอดทนอยู่จั๋วซือหรานสังเกตถึงสายตาของเขา แต่นางมองเขาอย่างสงบมาก จากนั้นนางหันตัวกลับอย่างผ่อนคลายนางพูดเบา ๆ กับเหยียนฉี “ขอบคุณที่ออมมือ”แม้ว่าเหยียนฉีดูเขินอายเล็กน้อย แต่เขาจะไม่ปฏิเสธที่จะยอมรับความพ่ายแพ้ หลังจากได้ยินคำพูดของจั๋วซือหราน เขาก็ยกมือขึ้นและทำท่าเคารพเล็กน้อยแล้วพูดว่า "เหยียนฉีมีทักษณะที่ไม่ดีเท่าแม่นาง ข้าเต็มใจที่จะยอมรับความพ่ายแพ้”จั๋วซือหรานไม่ได้มีเจตนาร้ายต่อเหยียนฉี ดังนั้นทั้งท่าทีหรือคำพูดของนางจึงไม่ได้มุ่งเป้

Latest chapter

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1263

    ท่าทีของเฟิงเหยียน ไม่ถือว่ากระตือรือร้นมากนัก กระทั่งค่อนข้างเย็นชาด้วยซ้ำแต่ก็เป็นเรื่องปกติ หลังจากที่เขาออกจากสำนักในตอนนั้น ก็ไม่ได้มีความฮึกเหิมเหมือนสมัยครั้งยังเด็กอีกมักจะเย็นชา และมักจะเฉยเมยปันอวิ๋นเม้มริมฝีปาก เข้าใจถึงสาเหตุนั้นสภาพการณ์ตอนที่เฟิงเหยียนออกจากสำนักครั้งนั้น เขาเองก็รู้เป็นอย่างดีต่อให้จนถึงตอนนี้ ก็ยังจดจำได้อย่างชัดเจนเพราะเฟิงเหยียนถูกทรยศเป็นคนแรก ดังนั้น ตอนนั้นพวกเขาก็อยู่ในฐานะคนที่ยังไม่ถูกทรยศอันที่จริง จะมากน้อยก็ยังมีความสงสัยว่าถ้าไม่อยู่ในสถานการณ์เดียวกันก็คงไม่เข้าใจอยู่พวกเขารู้สึกว่าเฟิงเหยียนทำเรื่องเล็กเป็นเรื่องใหญ่ เป็นเฟิงเหยียนที่ไม่รู้จักบุญคุณพวกเขารู้สึกว่า เป็นเฟิงเหยียนที่ทำไม่ถูกเฟิงเหยียนเป็นคนอกตัญญูจนต่อมา ต่อมาของต่อมา ทุกคนทยอยกันเดินบนเส้นทางของเฟิงเหยียน ใครก็หนีไม่พ้นการทรยศหรือใช้ประโยชน์ทั้งนั้นตามหลักแล้วควรจะยอมรับชะตากรรมอย่างที่เคยเตือนเฟิงเหยียนเอาไว้ในตอนนั้น และมองว่าสิ่งนั้นเป็นการบ่มเพาะและการให้ความสำคัญจากสำนักแต่เพระาอะไร...ถึงได้ดีใจกันขึ้นมาไม่ได้เลยและหลังจากนั้นอีก แต่ละคนก็ทร

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1262

    ดังนั้นเขาจึงยังไม่กล้าไปกอดนางไว้แบบนี้ตลอด คอยอยู่ด้วยเงียบๆแต่เขากลับไม่ง่วงเลย ไม่ได้หลับ ไม่ได้ปิดตาด้วยแค่มองนางเงียบๆ สัมผัสถึงความร้อนในตัวนางกับชีพจรนางกระทั่งตัวเขาเองก็ยังบอกไม่ได้ว่าเพราะอะไร แต่ก็มีความรู้สึกอย่างหนึ่ง...รู้สึกสงบใจอย่างมากราวกับว่า ทั้งหมดเปลี่ยนเป็นสมบูรณ์แบบแล้วทั้งที่ความทรงจำในอดีตยังไม่กลับคืนเข้าที่ แต่ความรู้สึกนี้ เหมือนสลักประทับอยู่ในจิตวิญญาณอย่างไรอย่างนั้น ยากที่จะลบเลือนจนกระทั่งลมหายใจของจั๋วซือหรานมั่นคงแล้ว สีหน้ายิ่งมีประกายแดง สภาพดีขึ้นมากแล้วเขามองไปที่คราบเลือดแห้งกรังเหล่านั้นบนใบหน้าจั๋วซือหราน รู้สึกเสียดแทงตาเหลือเกินจึงได้เคลื่อนไหวเบาๆ เดินออกไปด้านนอก กำชับคนรับใช้ให้เตรียมน้ำร้อนมาไม่ให้คนรับใช้เข้ามาปรนนิบัติ แต่เขาหิ้วถังน้ำเข้ามาเองเขาอุ้มนางมาแช่ในถังน้ำ คอยสระชำระเส้นผมนางทีละเล็กทีละน้อย เช็ดคราบเลือดบนผิวนางออกอาบตัวนางจนสะอาดหมดจด อุ้มกลับไปบนเตียง ใช้ผ้าห่มห่อตัวนางจากนั้นจึงใช้พลังวิญญาณธาตุไฟบริสุทธิ์ เป่าผมนางจนแห้งและเพราะมีกลิ่นอายของเขาห่อหุ้มอยู่ จั๋วซือหรานจึงหลับลึกอย่างสบาย ไม่ตื

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1261

    พลังศักดิ์สิทธิ์หงส์แดงที่บริสุทธิ์ที่สุด ถูกส่งผ่านเข้ามาอย่างนั้นจั๋วซือหรานมีความรู้สึกเหมือนตนเองถูกแช่ไว้ในน้ำอุ่น เป็นความรู้สึกที่สบายอย่างที่สุดในลำคอก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมาด้วยความสบายยิ่งไปกว่านั้น คนเราก็เหมือนจะเป็นเช่นนี้เดิมทีก็ไม่ได้รู้สึกว่าตนเองลำบากยากเย็นอะไรนักแต่ตอนที่ร่างกายสามารถผ่อนคลายลงมาได้ ไม่รู้สึกเจ็บปวดทรมานอีกแล้วพอย้อนคิดไปถึงความยากลำบากเหล่านั้นก่อนหน้า กลับรู้สึกว่าตนเองน่าสงสารขึ้นมาจั๋วซือหรานตอนนี้ก็รู้สึก ว่าตนเอง...ไม่ค่อยได้รับความเป็นธรรมเท่าไรชายคนนี้ เจ้าคนสมควรตายนี่มีสิทธิ์อะไร?มีสิทธิ์อะไรกัน?"..." ชายหนุ่มรู้สึกเจ็บที่ปลายลิ้นเขาขมวดคิ้ว รสชาติคคาวหวานของเลือดแผ่ซ่านในร่องฟันของทั้งสองคนเขามองหญิงสาวตรงหน้า ก็เห็นแววตาของนางมีความหงุดหงิดอยู่หน่อยๆแล้วยังมีสีหน้าท้าทายอีกด้วยดูเหมือนจะจงใจกัดปลายลิ้นเขา น่าจะโมโหเอาการชายหนุ่มไม่ครางออกมาเลย ราวกับไม่รู้สึกเจ็บอย่างไรอย่างนั้นยิ่งไปกว่านั้นยังไม่ใส่ใจ ปลายลิ้นยังโถมใส่นางอย่างเร่าร้อนรุนแรงถ้านางอยากได้ ก็ต้องแล้วแต่นางจั๋วซือหรานดูจนใจหน่อยๆ แต

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1260

    เหมือนว่าความทรมานทั้งหมดก่อนหน้านี้ ไม่ได้ทรมานอะไรขนาดนั้นและไม่รู้ว่าเจ้าโง่นี้ใช้แรงกระแทกนางมากแค่ไหน...มีหลายครั้ง ที่นางรู้สึกได้ว่า ในมิตินี้เหมือนสั่นไหวขึ้นมาราวกับวิญญาณของนางที่ถูกขังอยู่ในมิติ จะถูกดันกลับเข้าไปที่เดิมเลยจั๋วซือหรานถลึงตาโตขึ้นหน่อย จ้องมองมิติที่โยกไหวหน่อยๆรู้สึกหมดคำจะพูดแมงมุมน้อยงึมงำขึ้นมาข้างๆ "นายท่าน...ในนี้มัน...ร้อนจัง..."จั๋ซซือรหานมองไปทางเหล่าสัตว์อสูรของตนเอง มองออกไม่ยาก พวกมันเหมือนเริ่มมึนๆ จะหลับกันแล้ว พอเห็นแบบนี้ ก็เหมือนจะไม่ได้แตกต่างอะไรนักกับสถานการณ์ครั้งที่แล้วเพียงแต่ครั้งที่แล้ว ตนเองถูกทำจนเกือบจะสลบไปและตอนนี้ ตนเองถูกทำ...จนใกล้จะตื่นขึ้นมาแล้วผู้ชายคนนี้...ร้ายกาจจริงๆนี่มันช่าง....สัมผัสแนบเนื้อบนตัวนางมีเหงื่อบางๆ ชั้นหนึ่ง ผิวที่เคยขาวซีดไปทั้งตัว ตอนนี้พอมีเม็ดเหงื่อเกาะอยู่ จึงยิ่งดูเป็นประกายระยิบระยับขึ้นมาและไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน..."อือ..." หญิงสาวที่ไม่มีปฏิกิริยามาตลอด ริมฝีปากที่ยังมีรอยเลือดที่ยังเช็ดไม่สะอาด ส่งเสียงครางออกมาเหมือนลูกแมวตัวน้อยฟังดูแล้วเป็นเสียงอือๆ งึมงำๆน

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1259

    ในใจจั๋วหวายเข้าใจอย่างหนักแน่นว่าเฟิงเหยียนคือผู้ชายทรยศแต่ว่านี่ไม่ได้เป็นอุปสรรคที่ทำให้เขาคิดว่าเฟิงเหยียนจะทำให้พี่สาวดีขึ้นได้คนเราก็มักมีสองมาตรฐานเช่นนี้ ไม่มีทางเลือกดังนั้นจั๋วหวายแม้จะไม่ได้เน้นหนักว่าผู้ชายทรยศคนนั้นคือผู้ชายทรยศ แต่ก็ยังถามขึ้นว่า "เขาจะพาพี่สาวข้าไปไหน?"ปันอวิ๋นได้ยินคำนี้ สายตาก็ลึกซึ้งขึ้นมา "นั่น...เป็นเรื่องของผู้ใหญ่เขา เด็กๆ ไม่ต้องถามเยอะ"จั๋วหวายเบ้ปาก ในใจก็บ่นว่าตนเองไม่ใช่เด็กแล้วเสียหน่อยแต่ปันอวิ๋นในที่สุดก็ไม่ได้บอกจั๋วหวาย ว่าเฟิงเหยียนจะพาจั๋วซือหรานไปที่ไหนในใจปันอวิ๋นชัดเจนดี สภาพของจั๋วซือหรานแย่หนักถึงระดับนี้แล้ว ขนาดยาก็ยังดื่มไม่ลงถ้าคิดจะใช้พลังศักดิ์สิทธิ์ปลอบประโลมตัวนาง รวมถึงปลอบประโลมลูกในท้องนาง...วิธีการที่ดีที่สุด คือสิ่งนั้นอย่างไม่ต้องสงสัยสติสัมปชัญญะของจั๋วซือหรานไม่ได้หลับลึกอย่างสมบูรณ์ ในมิติยังสัมผัสรับรู้ได้ถึงสภาพแวดล้อมรอบๆความรู้สึกนั้น เหมือนกับสติสัมปชัญญะถูกขังอยู่ในมิติอย่างไรอย่างนั้นนางจึงเป็นได้เพียงแค่ผู้ชมเท่านั้น"เฮ้อ ดูท่าเขาจะใช้วิะีนั้นสินะ" จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้นขนมถั่วแดงกั

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1258

    แต่ว่าชายหนุ่มยังคงไม่ตอบเขาเขาเพียงยกมือขึ้นมา สะบัดแขนเสื้อ เผยท่อนแขนออกมาจากในแขนเสื้อจั๋วหวายจึงเห็นว่าท่อนแขนของชายคนนี้ มีลายมัดกล้ามที่สวยงาม กระชับเรียวยาวผิวเองก็ขาวเย็น ไม่รู้ว่าเพราะปกติไม่ค่อยโดนแสงแดดหรือเปล่าและตอนนี้เอง ผิวหนังขาวเย็นที่โผล่ออกมานอกแขนเสื้อพอต้องกับแสงตะวัน จั๋วหวายก็รู้สึกเหมือนขาวจนสะท้อนแสงออกมาเลย!จากนั้น หลังจากสัมผัสกับแสง ก็ค่อยๆ รอยแผลเหมือนไฟลวกที่ค่อยๆ แดงขึ้น ก็ปรากฏมาบนท่อนแขนเขาไม่เพียงเท่านี้ หลังจากที่รอยไหม้เหล่านี้ปรากฏ ท่อนแขนเขาก็มีอักขระประหลาดบางส่วนปรากฏขึ้นมาอย่างรวดเร็วพออักขระคำสาปปรากฏ บาดแผลเผาไหม้พวกนั้นก็ถูกสะกดลงไป บาดแผลบนผิวหนังเริ่มสมานตัวกลับเหมือนเดิม หลังจากแผลสมานดี อักขระคำสาปเหล่านั้นก็ค่อยๆ สลายหายไปบนผิวหนังเขาแต่ไม่นานนัก ก็ปรากฏแผลไฟลวกอีกครั้ง อักขระเหล่านั้นก็ปรากฏขึ้นมาอีกซ้ำไปซ้ำมาแบบนี้ ดูแล้วทำให้คน...รู้สึกประหลาดมากจั๋วหวายมองจนบื้อไปเลยและชายหนุ่มก็ไม่ได้ใส่ใจกับแผลที่หายแล้วก็เกิด เกิดแล้วก็หายพวกนี้เลย ราวกับเหมือนมองไม่เห็นอย่างไรอย่างนั้นและก็เหมือนไม่ได้เจ็บได้ปวดเลย แม้ต

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1257

    เหมือนว่าพอสายตามองเห็นหญิงสาวในอ้อมกอดปันปวิ๋นที่เหมือนลมพัดก็สลายหายไปได้ ตอนนั้นเอง สัมผัสทั้งหมดก็เหมือนหายวับไปในพริบตาดวงตามองไม่เห็นสิ่งใดอีกแล้ว หุเองก็ไม่ได้ยินเสียงอื่นใดอีกความรู้สึกเดียวที่เหลืออยู่คือความเจ็บปวดรุนแรงเหมือนมีดกรีดกลางใจ ไม่เพียงเท่านี้ สมองก็เหมือนถูกของมีคมกวนคนอย่างไรอย่างนั้น เจ็บขึ้นมาเป็นระยะๆยิ่งเจ็บ ก็ยิ่งอยากจะมองนางให้ชัดจเน ไม่อยากพลาดไปแม้แต่น้อยปันอวิ๋นพอเห็นร่างของเขา และกลิ่นอายนั่นบนตัวปันอวิ๋นในที่สุดก็ถอนใจโล่ง เขามาได้เสียที..."เจ้าหุบเขา?" ศิษย์สำนักข้างๆ ยังระแวดระวังอยู่ปันอวิ๋นบอกกับศิษย์สำนักเสียงเรียบว่า "เขาไม่ทำอะไรหรอก"ศิษย์สำนักพอได้ยินคำนี้ จึงถอนใจโล่งออกมา เพราะตอนที่พวกคนคุ้มกันขวางเขาเมื่อครู่มันเกินต้านแล้วจริงๆปรมาจารย์กู่อย่างพวกเขาเดิมทีก็แพ้ธาตุไฟอยู่แล้ว และชายคนนี้ก็เหมือนจะมีธาตุไฟระดับสูงด้วยพวกเขาไม่มีความสามารถจะไปทัดทานได้เลยปันอวิ๋นพอเห็นร่างสูงใหญ่ตรงหน้า ก็คิดในใจ ยังจะงงอะไรอยู่เล่า ถ้าเจ้ายังงงอยู่ หญิงสาวคนนี้จะไม่ไหวแล้วนะ!"โอ๊ค..." ในปากจั๋วซือหรานมีเลือดสดทะลักออกมาและมือข้างนั

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1256

    ราวกับว่า...ต่อให้นางจะดูอ่อนแอเหมือนกดให้ตายได้ด้วยนิ้วเดียวแต่ยังคงไม่ยอมให้คนรู้สึกว่าอ่อนแอ ยังคงทำให้คนรู้สึกว่า ถ้าหากอยากจะเป็นศัตรูกับนาง ก่อนนางตายก็จะลากเจ้าลงนรกไปด้วยกันตอนนี้รอยยิ้มที่ดูเกียจคร้านไม่ใส่ใจ กลับยิ่งดูสงบนิ่งมั่นคงราวกับยกของหนักได้อย่างสบายนางเอ่ยขึ้นอย่างเกียจคร้าน "ใครจะรู้ล่ะ? อาจจะขาดหนูไม้ไผ่อยู่กระมัง"ปันอวิ๋นกลั้นหัวเราะไว้ไม่อยู่พอได้ยินหนูไม้ไผ่สองคำนี้ เขาก็รู้แล้ว ว่าตอนที่เขาไปทิ้งจดหมายที่บ้านไม้ไผ่ นางก็เดาได้แล้วว่าเขาทำอะไรเพียงแต่ไม่ได้พูดออกมาเท่านั้นเป็นหญิงสาวที่เจ้าเล่ห์กว่าจิ้งจอกเสียอีกปันอวิ๋นจุ๊ปาก "เจ้านี่ถึงตายไป สมองก็คงจะแล่นอยู่อย่างนี้สินะ?"จั๋วซือหรานแค่เหลือบมองเขา ไม่ได้พูดอะไร มุมปากกลับยกโค้งขึ้นบางๆหลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง คิ้วนางก็ขมวดขึ้นบางๆ"ทำไมหรือ?" ปันอวิ๋นเห็นการเปลี่ยนแปลงของสีหน้านาง จึงขมวดคิ้วเดินเข้ามา สองมือประคองบ่านางไว้อันที่จริงเป็นเพราะเขาไม่ค่อยได้เห็นสีหน้าทรมานจากหน้านางนัก นางมักจะทำเป็นเหมือนไม่เป็นไรเสมอแต่ตอนนี้ บนสีหน้า กลับดูทรมานขึ้นอย่างชัดเจนจากนั้น นางก็เหมือนจะยืน

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1255

    จั๋วหวายเกือบจะสำรอกออกมาแล้ว!"ถ้าจะอาเจียนก็ออกไปอาเจียนซะ ถ้าทำกู่กล่องนี้ของข้าพัง ข้าจะจับเจ้าแขวนห้อยหัวซะเลย" ปันอวิ๋นเอ่ยขึ้นเสียงเรียบจั๋วหวายหมุนตัวพุ่งออกไป สูดลมหายใจลึกหลายครั้งกว่าจะสงบลงมาได้ จากนั้นจึงเตรียมตัวเตรียมใจ ตอนที่เข้าไปอีกครั้งก็ไม่มีกระทบกระเทือนอย่างแรงแบบก่อนหน้าแล้วแต่สายตากลับไม่ได้มองไปยังแผ่นกระดานที่มีของดิ้นกระแด่วๆ นั่นมองแล้วขนลุกสุดๆ"มีเรื่องอะไร?" ปันอวิ๋นถามขึ้นเสียงเรียบจั๋วหวายเอ่ยเสียงต่ำ "ท่านรู้..." เขาสูดจมูก ถามออกไปว่า "ท่านรู้จักเฟิงเหยียนใช่ไหม?"ปันอวิ๋นเดิมทีกำลังป้อนอาหารเจ้าพวกดุ๊กดิ๊กพวกนั้นพอได้ยินคำนี้ การเคลื่อนไหวก็หยุดลงมา ไม่หันไปมองเขา ผ่านไปครู่หนึ่งจึงถามขึ้นเรียบๆ ว่า "ทำไมล่ะ?""ข้าอยากเจอเขา ข้าอยากจะถามเขา ว่าทำไมทำแบบนี้กับพี่ของข้า" จั๋วหวายขอบตาแดงรื้นเขาสูดหายใจลึกแล้วพ่นออกมา "ข้าเองก็อยากจะถามเขา ว่าช่วยพี่ข้าได้ไหม ถ้าหากไม่ได้ หรือก็คือเขาเป็นผู้ชายทรยศ ไม่ยินยอม เช่นนั้นเขามาบอกกับท่านพี่ได้ไหม ว่าให้เลิกแล้วต่อกันจบๆ ไป"ปันอวิ๋นพอได้ยินคำนี้ จะฟังความเสียใจในใจจั๋วหวายไม่ออกได้อย่างไรกั

Découvrez et lisez de bons romans gratuitement
Accédez gratuitement à un grand nombre de bons romans sur GoodNovel. Téléchargez les livres que vous aimez et lisez où et quand vous voulez.
Lisez des livres gratuitement sur l'APP
Scanner le code pour lire sur l'application
DMCA.com Protection Status