Share

บทที่ 1171

Author: หูเทียนเสี่ยว
จั๋วซือหรานเหลือบมองเขาผาดหนึ่ง "ไม่มีอะไรที่ลงมือไม่ได้หรอก ก่อนหน้านี้ข้าบอกกับพวกเขาไว้แล้ว ว่าคนอย่างข้า ไม่มีนิสัยเป็นจอมเชือด แต่ก็ไม่ใช่ว่าฆ่าคนไม่เป็น"

เสียงของนางไม่มีความอบอุ่นใด "แต่พวกเขาถ้าจะต้องตาย ก็ต้องไปบนเนินเขาเมฆาวารีก่อนแล้วค่อยตาย"

ปันอวิ๋นเห็นจิตสังหารที่ไม่ปิดบังในแววตานาง

คนที่มีเมตตาและความคมกล้าด้วยเท่านั้น จึงจะแข็งแกร่งอย่างแท้จริง

ปันอวิ๋นเพียงไม่นานก็ไปช่วยนางหลอมแมลงกู่แล้ว

จั๋วซือหรานเองก็กลับไปในห้อง ในสมองนางแทบจะระเบิดแล้ว

น่าจะเพราะก่อนหน้านี้บทสนทนาของนางกับปันอวิ๋น เจ้าเจ็ดตัวน้อยก็ซาบซึ้งอยู่ในจิตใต้สำนึกนางจนร้องไห้กันอย่างหนัก

ร้องกันจนนางปวดหัว!

ตอนที่กลับมาถึงห้อง จั๋วซือหรานจึงแยกจิตสำนึกส่วนหนึ่ง เข้าไปบอกกับพวกมันว่า "เอาล่ะ ไม่ต้องร้องแล้ว สมองข้าจะถูกเสียงร้องไห้พวกเจ้าระเบิดทิ้งอยู่แล้ว"

ขนมชาเขียวสะอึกสะอื้นเอ่ยว่า "ข้าซาบซึ้ง..."

"จะซาบซึ้งก็กลั้นเอาไว้ก่อน" จั๋วซือหรานยกมือกดที่ขมับ

น่าจะเพราะก่อนหน้านี้ทั้งเจ็ดตัวร้องไห้ระงมจนปวดขมอง ดังนั้นนางจึงไม่ทันได้สังเกต

แต่หลังจากที่สังเกตดู นางก็ขมวดคิ้ว มีปฏิกิริยาขึ้นมา

ทำไม
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1172

    "พวกเขาจะจับข้าไปเป็นผู้ทดลองยา!" จั๋วหวายยิ่งรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรม มีเสียงสะอื้น "พวกเขาจะโยนข้าเข้าไปในหลุมที่มีแต่แมลง แล้วยังกรอกยาขมๆ ให้ยาอีกตั้งเยอะ!""ดังนั้นเด็กโง่อย่างเจ้าน่ะมันโง่หรือเปล่า? ทำไมถึงเดินไปกับเขาอย่างว่าง่ายแบบนั้น" จั๋วซือหรานทั้งโมโห ทั้งเป็นห่วง ถามขึ้นอย่างจนใจจั๋วหวายสูดน้ำมูก เสียงขึ้นจมูกเพราะร้องไห้มา น้ำหูน้ำตาไหล ฟังแล้วน่าสงสารยิ่งกว่าเดิมเขาเอ่ยขึ้นเสียงแผ่ว "เพราะสุ่ยเชียนโยวคนนั้น นางสวยมาก"จั๋วซือหราน "..."นางพูดไม่ออกจริงๆ ไม่เคยเห็นเด็กที่แสดงออกว่าชอบผู้หญิงตรงๆ แบบนี้มาก่อนเลย"นี่ถ้าตอนนี้ข้าไม่ได้ระงับอารมณ์ไว้ เด็กอย่างเจ้าคงถูกข้าจับแขวนอัดไปแล้ว เจ้าเด็กกะล่อน!" จั๋วซือหรานตะคอกขึ้น "กลับไปก่อนจะสั่งสอนเจ้า"เสียงของจั๋วซือหรานเข้มงวดมาก ทำเอาจั๋วหวายตัวสั่นขึ้นมาในสายตาเขา พี่สาวพึ่งพาได้กว่าใครทั้งหมด!แต่บางครั้ง พี่สาวเองก็น่ากลัวกว่าอะไรทั้งหมดด้วย!เขาลนลานขึ้นมาทันที รีบพูดขึ้นว่า "ท่านพี่ ข้า ข้าไม่ได้หมายความว่าอย่งนั้น! สุ่ยเชียนโยวคนนั้น หน้าตาคล้ายท่านเลย! ข้าเลยรู้สึกอยากรู้อยากเห็น ดังนั้นจึงเข้าใกล้นา

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1173

    ่จั๋วหวายแลบลิ้น "ข้ารู้สึกว่าเรื่องมันไม่ได้ง่ายขนาดนั้น ยิ่งไปกว่านั้นเรื่องนี้ ก็ยังไม่เคยหารือกับท่านด้วย ข้าเองก็ไม่กล้าบุ่มบ่ามไปทำ"ความเลื่อมใสและความไว้ใจที่จั๋วหวายมีให้พี่สาวนั้น ไม่มีสิ่งใดเทียบได้ไม่ว่าคนอื่นจะพูดอย่างไร ถ้าหากเป็นเรื่องเล็กก็ช่างมัน แต่ในเรื่องใหญ่แบบนี้ เขาจะต้องหารือกับพี่สาวแน่นอน"ยิ่งไปกว่านั้น ข้ารู้สึกว่านางป่วยเป็นแบบนั้น พี่สาวเองก็ไม่แน่ว่าจะรักษาไม่ได้ ไม่มีความจำเป็นต้องให้ข้ามาเป็นผู้ทดลองยาด้วย" จั๋วหวายเอ่ยขึ้นพอได้ยินคำนี้ จั๋วซือหรานก็เขกไปที่หน้าผากเขาทีหนึ่ง "ก็ยังไม่ถึงกับโง่นักนี่ น้องชายของจั๋วซือหราน ถ้าโง่ถูกคนจับไปเป็นคนทดลองยาได้ล่ะก็ คงจะน่าขำน่าดู""ดังนั้น ท่านพี่รักษาได้ไหม?" จั๋วหวายถาม"น่าจะได้กระมัง" จั๋วซือหรานเอ่ยเสียงเรียบ เหมือนไม่ได้แยแสกับเรื่องนี้นัก จากนั้นนางจึงหัวเราะขึ้นมาเบาๆ "แต่ข้าไม่มีทางรักษาให้นางหรอก"จั๋วหวายความคิดยังใสซื่อ น่าจะยังโง่อยู่หน่อยๆ ยังรู้สึกเสียดาย "อา อย่างนั้นหรือ..."จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้น "เจ้าเด็กโง่นี่ยังจะเสียดายแทนคนอื่นอีกหรือ? เจ้าคิดว่าคนอื่นเขาจะให้เจ้าเป็นแค่ผู้ทดลองยา

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1174

    บวกกับคุณสมบัติร่างกายของเจ้าเด็กนี่กับนางคล้ายคลึงกัน แข็งแกร่งสุดๆ ทรหดราวกับสุนัขป่า ไม่แปลกใจที่ใครๆ ต่างก็หมายปองกระดูกนี้สรุปคือ เนื่องจากสถานการณ์ยังไม่หนักหนา ดังนั้นจั๋วซือหรานกระทั่งไม่ต้องจ่ายยาอะไรให้นางเลยด้วยซ้ำฝังเข็มไปรอบหนึ่ง จากนั้นก็ยัดยาลูกกลอนไปอีกสองเม็ด เจ้าเด็กนี่ที่ทรหดเหมือนสุนัขป่า ก็คาดว่าน่าจะหายดีแล้วเข็มก็แทงลงไปแล้วจั๋วซือหรานลูบมือผ่าน หางเข็มทองก็สั่นไหวขึ้นมา"อุ๊...!" จั๋วหวายครางขึ้นมาอย่างทนไม่ไหวการหมุนเข็มก่อนหน้านี้ของนางก็ทำเขาร้องอ๊าวๆ แล้ว นั่นเพราะมันปวดแต่ตอนนี้ไม่ใช่เพราะปวด แต่เป็นความรู้สึกที่แย่กว่านั้น ในกระดูกเหมือนมีมดมาวิ่งไต่อย่างไรอย่างนั้นรู้สึกแย่กว่าความเจ็บปวดเสียอีกเด็กหนุ่มวัยรุ่นกัดฟันแน่น จั๋วซือหรานนั่งจิบชาอย่างใจเย็นอยู่ข้างๆจากนั้นจึงฝังเข็มให้เขาอย่างไม่รีบร้อนจั๋วหวายรู้สึกทันที เหมือนจะกระปรี้กระเปร่าขึ้นมาทั้งตัว ในที่สุดก็ได้สัมผัสความสุดยอดวิชาแพทย์ของพี่สาวเสียทีตอนที่เหลียนเจินเข้ามารายงาน พอเห็นจั๋วหวาย ก็ตกตะลึงไป"นี่..." เหลียนเจินตกตะลึง"โอ้" จั๋วซือหรานแนะนำให้ "น้องชายข้า จั๋วหว

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1175

    "นายท่าน เขาทางนี้" เทียนถงทำสัญญาณมือ "เพียงแต่ว่า..."เทียนถงดูกังวลหน่อยๆ "สภาพเขาเหมือนไม่ค่อยดีนัก หลังจากกลับมาจากโรงน้ำชา สภาพเขาก็ผิดปกติลแล้ว แต่ก็ไม่มีบาดแผลอะไรที่เด่น ราวกับว่า...ป่วยไปแล้ว?"จั๋วซือหรานฟังคำพูดของเทียนถง พยักหน้าให้เรียบๆ "ข้าไปดูหน่อย"น่าจะไม่ได้ป่วยกะทันหันหรอก คงไม่ใช่ว่าก่อนหน้านี้ไม่ยอมป่วย แล้วมาป่วยเอาตอนนี้หรอกนะจั๋วซือหรานรู้สึกว่า น่าจะเป็นเพราะถูกนางแย่งหุ่นเชิดมาหมดตอนที่สู้กับนางก่อนหน้านี้น่าจะรู้สึกโกรธ บวกกับหุ่นเชิดความมืดนี่ เดิมทีก็ค่อนข้างชั่วร้ายอยู่ อาจจะมีผลกระทบย้อนกลับอยู่บ้างไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร สำหรับนางแล้ว ไม่ใช่เรื่องที่ตำมืออะไรทั้งนั้นนางมีเรื่องจะถามเขา เช่นนั้นก็ต้องถามถ้าเขาจะตาย ก็ต้องตายหลังจากที่นางถามเสร็จน่าจะเพราะเป็นผู้อาวุโส เหลียนเจินจึงหาห้องแขกให้เขาเฉพาะห้องหนึ่งแสงในห้องไม่มืดนัก แต่พอเข้ามาก็ยังทำให้คนสัมผัสได้ถึงปราณความตายที่หนักอึ้งอยู่คนบนแคร่ เดิมทีก็ร่างกายผอมเหมือนศพแห้งอยู่แล้ว ตอนนี้ยิ่งดูซูบผอมกว่าเดิมราวกับพลังชีวิตถูกดูดออกไปจนหมดจั๋วซือหรานไม่ใส่ใจกับท่าทีนี้นัก หลังจาก

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1176

    เพียงแต่ว่าเขามีหน้าตาเหมือนศพแห้ง และเพราะมันดูแข็งทื่อ ดังนั้นจึงมองออกไม่ง่ายนักจั๋วซือหรานสังเกตเห็นสีหน้าเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยของเขา "ดูท่า คงจะคล้ายข้าจริงๆ สินะ"หวงเจี้ยนถังดวงตาปูดโปน "ข้ายังไม่ได้พูดอะไรเสียหน่อย!""ก็จริง เจ้าไม่ได้พูดอะไร แต่ว่าข้าก็ไม่จำเป็นต้องให้เจ้าใช้ปากพูดออกมานี่"จั๋วซือหรานยังคงมองเขาเรียบๆ ถามต่อว่า "น้องชายข้าเข้ากันกับนางได้พอดี เป็นผู้ทดลองยาให้นาง...ส่วนนางก็หน้าตาคล้ายข้า เจ้าคิดว่านี่มันเพราะอะไร? หรือว่าบนโลกนี้ จะมีเรื่องบังเอิญขนาดนี้หรือ?"หวงเจี้ยนถังฟังคำนี้ ม่านตาก็หดลง! หญิงสาวคนนี้มันปีศาจจำแลงกายมาหรือไรกัน?!นี่มันเกิดกว่าฉลาดหลักแหลมแล้ว นี่มัน...วิชาชั่วร้ายชัดๆ!ถ้าหากนางรู้จริงๆ แล้วมันก็เรื่องนึงแต่ตอนนี้จากที่ฟัง หวงเจี้ยนถังรู้สึกว่า นางเหมือนจะแค่...คาดเดาเท่านั้น นางไม่ได้รู้อะไรเลยแต่กลับเดาได้ใกล้เคียงความจริงขึ้นเรื่อยๆจั๋วซือหรานเห็นม่านตาของเขาหดลง ก็จับการเปลี่ยนแปลงทางสีหน้าของเขาได้อีกจั๋วซือหรานเลิกคิ้ว "ดูท่าโลกนี้จะไม่มีเรื่องบังเอิญขนาดนั้น แต่ก็จริง ข้าเชื่อประโยคหนึ่งมาตลอด ว่าบนโลกนี้ไม่มีเรื่

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1177

    รอยยิ้มของหวงเจี้ยนถังแข็งทื่อไปแล้วส่วนจั๋วซือหราน ก็มองเขาเหมือนยิ้มเหมือนไม่ยิ้ม น้ำเสียงมีแววเหมือนแมวไล่จับหนูถามขึ้นมาว่า "หัวเราะไปสิ ทำไมไม่หัวเราะล่ะ?"สีหน้าหวงเจี้ยนถังแข็งทื่อ ผ่านไปครู่หนึ่งก็ยังไม่พูดอะไรออกมาจั๋วหวายหายใจหอบถี่ เห็นได้ชัดว่าโมโหจัดกับคำพูดของหวงเจี้ยนถัง ยากจะคุมอารมณ์ไว้ได้แต่จั๋วซือหรานกลับยื่นมือไปกดบนบ่าเขา เอ่ยเสียงต่ำว่า "เด็กโง่ ใจร้อนซะจริง เขาแค่ยุแยงเจ้า เจ้าก็ติดกับเข้าเสียแล้ว"จั๋วหวายถึงอย่างไรก็เป็นชายหนุ่มเลือดร้อน อารมณ์กับความเลือดเดือดขึ้นมาไวมากแต่ยังดีที่เขามีพี่สาวเป็นหลักยึดเหนี่ยว อารมณ์จึงผ่อนคลายลงมาอย่างรวดเร็วจั๋วหวายใจเย็นลงมาแล้วในมือจั๋วซือหรานกำขลุ่ยกู่อยู่ เคาะลงไปเบาๆ บนบ่าหวงเจี้ยนถัง "ข้ายังไม่ได้คิดว่าจะจัดการเจ้าสำนักพวกเจ้าอย่างไรดี เจ้าก็อย่าลงแรงช่วยนางนักเลย""บังอาจนัก!" หวงเจี้ยนถังเสียงแหบแห้งจั๋วซือหรานหัวเราะเบาๆ "ยิ่งไปกว่านั้น เจ้าทำไมถึงได้มั่นใจนัก ว่าเจ้าสำนักจะกลับมาช่วยพวกเจ้า?"หวงเจี้ยนถังจ้องมองนาง "เจ้าหมายความว่ายังไง""นางทำไมจะมองดูพวกเจ้าตายไม่ได้?" จั๋วซือหรานเหมือนยิ้มเหมื

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1178

    ยิ่งไปกว่านั้น...เขายังกังวล ความยุ่งยากเหล่านี้จะเป็นตนเองหรือเปล่าที่นำมาแม้ตัวเองจะเกิดเรื่องขึ้น แต่ก็นำปัญหาไม่น้อยมาให้พี่สาวอย่างไม่ต้องสงสัยแต่ที่จั๋วหวายกังวลยิ่งกว่าก็คือ ศัตรูหลอกใช้เขา ล่อพี่สาวให้เข้ามาถึงอย่างไรจากในบทสนทนาของพี่สาวกับหวงเจี้ยนถังเมื่อครู่ ก็ฟังออกไม่อยากว่ามีความหมายแบบนี้"โอ้ พวกนั้นน่ะ" สีหน้าจั๋วซือหรานดูแล้วนิ่งมาก "ไม่มีอะไรหรอก ก็แค่ทำท่าลึกลับกั๊กเรื่องราวกับเขาไปอย่างนั้นแหละ"จั๋วหวายฟังคำนี้ พอกำลังจะถอนใจโล่ง แต่ก็รู้สึกว่าไม่น่าเป็นแบบนั้น ก็เลยขมวดคิ้วขึ้นมา"ท่านหลอกข้า" จั๋วหวายเอ่ยขึ้นอย่างมั่นใจ "เมื่อครู่ต้องไม่ใช่แค่ทำลึกลับแน่ๆ"จั๋วซือหรานพอได้ยินมุมปากก็ยกขึ้น เลิกคิ้วเอ่ยขึ้น "อื๋อ? เจ้าเด็กโง่ยังรู้ด้วยว่าข้าหลอกคนอื่นหรือเปล่า?""ท่านคงกลัวว่าข้าจะกังวล ดังนั้นเลยจงใจเลี่ยงเรื่องสำคัญพูดแต่เรื่องเล็ก" มุมปากจั๋วหวายห้อยลงมา "ถ้าหากข้าฟังออกบ้างก็แล้วไป แต่ถ้าข้าฟังไม่ออก ท่านต้องคิดจะหลอกข้าไปแบบนี้แน่"จั๋วซือหรานหัวเราะขึ้นเบาๆ "เอาล่ะ เดามาถึงขนาดนี้เชียว...""ท่านพี่!""ได้ๆๆ เช่นนั้นจะบอกเจ้าหน่อยแล้วกัน หลักๆ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1179

    ในสายตาจั๋วหวายมีความเสียใจขึ้นอย่างไม่ปิดบังจั๋วซือหรานมองออกถึงความเศร้าที่อัดแน่นเหล่านั้นการตายเร็วเกินไปของท่านพ่อ อันที่จริงก็สร้างความเจ็บช้ำมหาศาลให้กับท่านแม่ กับครอบครัวของพวกเขาอยู่แล้วนางกับเสี่ยวหวายกลายมาเป็นเด็กที่ไม่มีพ่อให้พึ่งพานางที่เป็นพี่สาวคนโต ก็จำใจต้องมารับผิดชอบส่วนท่านแม่...พูดแบบนี้ดีกว่า ถ้าหากไม่ใช่เพราะยังมีนางกับจั๋วหวายอยู่ นางคงจะตรอมใจตายตามท่านพ่อไปด้วยกันแล้วหรือก็คือ จากบางมุมมอง เซี่ยอวิ๋นซีแม้จะยังอยู่ แต่บางส่วนได้ตายตามสามีที่ล่วงลับไปแล้วชีวิตที่เหลืออยู่ของเซี่ยอวิ๋นซี ก็เหมือนจะมีไว้เพื่อลูกทั้งสองคน มีชีวิตอยู่เพื่อรำลึกถึงสามี ไม่ใช่เพื่อตัวเองอีกต่อไปดังนั้นจั๋วซือหรานตอนนี้จึงยังขุดคุ้ยความทรงจำจากเจ้าของร่างเดิมได้ ถึงภาพที่ตนเองคุกเข่ากราบไหว้อยู่หน้าป้ายวิญญาณบิดากับเสี่ยวหวายในทุกเทศกาลเช็งเม้งและเทศกาลกินอาหารเย็นทุกครั้ง ต่อให้เป็นการกราบไหว้ ดวงตาของเซี่ยอวิ๋นซีก็ยังแดงก่ำเหมือนจะร้องไห้เป็นสายเลือดหญิงสาวที่น่าสงสารคนนั้น แทบจะใช้ชีวิตที่เหลืออยู่เพื่อรำลึกถึงสามีจั๋วหวายเห็นมากับตา และถ้าหาก...ถ้าหากเรื่อ

Latest chapter

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1263

    ท่าทีของเฟิงเหยียน ไม่ถือว่ากระตือรือร้นมากนัก กระทั่งค่อนข้างเย็นชาด้วยซ้ำแต่ก็เป็นเรื่องปกติ หลังจากที่เขาออกจากสำนักในตอนนั้น ก็ไม่ได้มีความฮึกเหิมเหมือนสมัยครั้งยังเด็กอีกมักจะเย็นชา และมักจะเฉยเมยปันอวิ๋นเม้มริมฝีปาก เข้าใจถึงสาเหตุนั้นสภาพการณ์ตอนที่เฟิงเหยียนออกจากสำนักครั้งนั้น เขาเองก็รู้เป็นอย่างดีต่อให้จนถึงตอนนี้ ก็ยังจดจำได้อย่างชัดเจนเพราะเฟิงเหยียนถูกทรยศเป็นคนแรก ดังนั้น ตอนนั้นพวกเขาก็อยู่ในฐานะคนที่ยังไม่ถูกทรยศอันที่จริง จะมากน้อยก็ยังมีความสงสัยว่าถ้าไม่อยู่ในสถานการณ์เดียวกันก็คงไม่เข้าใจอยู่พวกเขารู้สึกว่าเฟิงเหยียนทำเรื่องเล็กเป็นเรื่องใหญ่ เป็นเฟิงเหยียนที่ไม่รู้จักบุญคุณพวกเขารู้สึกว่า เป็นเฟิงเหยียนที่ทำไม่ถูกเฟิงเหยียนเป็นคนอกตัญญูจนต่อมา ต่อมาของต่อมา ทุกคนทยอยกันเดินบนเส้นทางของเฟิงเหยียน ใครก็หนีไม่พ้นการทรยศหรือใช้ประโยชน์ทั้งนั้นตามหลักแล้วควรจะยอมรับชะตากรรมอย่างที่เคยเตือนเฟิงเหยียนเอาไว้ในตอนนั้น และมองว่าสิ่งนั้นเป็นการบ่มเพาะและการให้ความสำคัญจากสำนักแต่เพระาอะไร...ถึงได้ดีใจกันขึ้นมาไม่ได้เลยและหลังจากนั้นอีก แต่ละคนก็ทร

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1262

    ดังนั้นเขาจึงยังไม่กล้าไปกอดนางไว้แบบนี้ตลอด คอยอยู่ด้วยเงียบๆแต่เขากลับไม่ง่วงเลย ไม่ได้หลับ ไม่ได้ปิดตาด้วยแค่มองนางเงียบๆ สัมผัสถึงความร้อนในตัวนางกับชีพจรนางกระทั่งตัวเขาเองก็ยังบอกไม่ได้ว่าเพราะอะไร แต่ก็มีความรู้สึกอย่างหนึ่ง...รู้สึกสงบใจอย่างมากราวกับว่า ทั้งหมดเปลี่ยนเป็นสมบูรณ์แบบแล้วทั้งที่ความทรงจำในอดีตยังไม่กลับคืนเข้าที่ แต่ความรู้สึกนี้ เหมือนสลักประทับอยู่ในจิตวิญญาณอย่างไรอย่างนั้น ยากที่จะลบเลือนจนกระทั่งลมหายใจของจั๋วซือหรานมั่นคงแล้ว สีหน้ายิ่งมีประกายแดง สภาพดีขึ้นมากแล้วเขามองไปที่คราบเลือดแห้งกรังเหล่านั้นบนใบหน้าจั๋วซือหราน รู้สึกเสียดแทงตาเหลือเกินจึงได้เคลื่อนไหวเบาๆ เดินออกไปด้านนอก กำชับคนรับใช้ให้เตรียมน้ำร้อนมาไม่ให้คนรับใช้เข้ามาปรนนิบัติ แต่เขาหิ้วถังน้ำเข้ามาเองเขาอุ้มนางมาแช่ในถังน้ำ คอยสระชำระเส้นผมนางทีละเล็กทีละน้อย เช็ดคราบเลือดบนผิวนางออกอาบตัวนางจนสะอาดหมดจด อุ้มกลับไปบนเตียง ใช้ผ้าห่มห่อตัวนางจากนั้นจึงใช้พลังวิญญาณธาตุไฟบริสุทธิ์ เป่าผมนางจนแห้งและเพราะมีกลิ่นอายของเขาห่อหุ้มอยู่ จั๋วซือหรานจึงหลับลึกอย่างสบาย ไม่ตื

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1261

    พลังศักดิ์สิทธิ์หงส์แดงที่บริสุทธิ์ที่สุด ถูกส่งผ่านเข้ามาอย่างนั้นจั๋วซือหรานมีความรู้สึกเหมือนตนเองถูกแช่ไว้ในน้ำอุ่น เป็นความรู้สึกที่สบายอย่างที่สุดในลำคอก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมาด้วยความสบายยิ่งไปกว่านั้น คนเราก็เหมือนจะเป็นเช่นนี้เดิมทีก็ไม่ได้รู้สึกว่าตนเองลำบากยากเย็นอะไรนักแต่ตอนที่ร่างกายสามารถผ่อนคลายลงมาได้ ไม่รู้สึกเจ็บปวดทรมานอีกแล้วพอย้อนคิดไปถึงความยากลำบากเหล่านั้นก่อนหน้า กลับรู้สึกว่าตนเองน่าสงสารขึ้นมาจั๋วซือหรานตอนนี้ก็รู้สึก ว่าตนเอง...ไม่ค่อยได้รับความเป็นธรรมเท่าไรชายคนนี้ เจ้าคนสมควรตายนี่มีสิทธิ์อะไร?มีสิทธิ์อะไรกัน?"..." ชายหนุ่มรู้สึกเจ็บที่ปลายลิ้นเขาขมวดคิ้ว รสชาติคคาวหวานของเลือดแผ่ซ่านในร่องฟันของทั้งสองคนเขามองหญิงสาวตรงหน้า ก็เห็นแววตาของนางมีความหงุดหงิดอยู่หน่อยๆแล้วยังมีสีหน้าท้าทายอีกด้วยดูเหมือนจะจงใจกัดปลายลิ้นเขา น่าจะโมโหเอาการชายหนุ่มไม่ครางออกมาเลย ราวกับไม่รู้สึกเจ็บอย่างไรอย่างนั้นยิ่งไปกว่านั้นยังไม่ใส่ใจ ปลายลิ้นยังโถมใส่นางอย่างเร่าร้อนรุนแรงถ้านางอยากได้ ก็ต้องแล้วแต่นางจั๋วซือหรานดูจนใจหน่อยๆ แต

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1260

    เหมือนว่าความทรมานทั้งหมดก่อนหน้านี้ ไม่ได้ทรมานอะไรขนาดนั้นและไม่รู้ว่าเจ้าโง่นี้ใช้แรงกระแทกนางมากแค่ไหน...มีหลายครั้ง ที่นางรู้สึกได้ว่า ในมิตินี้เหมือนสั่นไหวขึ้นมาราวกับวิญญาณของนางที่ถูกขังอยู่ในมิติ จะถูกดันกลับเข้าไปที่เดิมเลยจั๋วซือหรานถลึงตาโตขึ้นหน่อย จ้องมองมิติที่โยกไหวหน่อยๆรู้สึกหมดคำจะพูดแมงมุมน้อยงึมงำขึ้นมาข้างๆ "นายท่าน...ในนี้มัน...ร้อนจัง..."จั๋ซซือรหานมองไปทางเหล่าสัตว์อสูรของตนเอง มองออกไม่ยาก พวกมันเหมือนเริ่มมึนๆ จะหลับกันแล้ว พอเห็นแบบนี้ ก็เหมือนจะไม่ได้แตกต่างอะไรนักกับสถานการณ์ครั้งที่แล้วเพียงแต่ครั้งที่แล้ว ตนเองถูกทำจนเกือบจะสลบไปและตอนนี้ ตนเองถูกทำ...จนใกล้จะตื่นขึ้นมาแล้วผู้ชายคนนี้...ร้ายกาจจริงๆนี่มันช่าง....สัมผัสแนบเนื้อบนตัวนางมีเหงื่อบางๆ ชั้นหนึ่ง ผิวที่เคยขาวซีดไปทั้งตัว ตอนนี้พอมีเม็ดเหงื่อเกาะอยู่ จึงยิ่งดูเป็นประกายระยิบระยับขึ้นมาและไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน..."อือ..." หญิงสาวที่ไม่มีปฏิกิริยามาตลอด ริมฝีปากที่ยังมีรอยเลือดที่ยังเช็ดไม่สะอาด ส่งเสียงครางออกมาเหมือนลูกแมวตัวน้อยฟังดูแล้วเป็นเสียงอือๆ งึมงำๆน

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1259

    ในใจจั๋วหวายเข้าใจอย่างหนักแน่นว่าเฟิงเหยียนคือผู้ชายทรยศแต่ว่านี่ไม่ได้เป็นอุปสรรคที่ทำให้เขาคิดว่าเฟิงเหยียนจะทำให้พี่สาวดีขึ้นได้คนเราก็มักมีสองมาตรฐานเช่นนี้ ไม่มีทางเลือกดังนั้นจั๋วหวายแม้จะไม่ได้เน้นหนักว่าผู้ชายทรยศคนนั้นคือผู้ชายทรยศ แต่ก็ยังถามขึ้นว่า "เขาจะพาพี่สาวข้าไปไหน?"ปันอวิ๋นได้ยินคำนี้ สายตาก็ลึกซึ้งขึ้นมา "นั่น...เป็นเรื่องของผู้ใหญ่เขา เด็กๆ ไม่ต้องถามเยอะ"จั๋วหวายเบ้ปาก ในใจก็บ่นว่าตนเองไม่ใช่เด็กแล้วเสียหน่อยแต่ปันอวิ๋นในที่สุดก็ไม่ได้บอกจั๋วหวาย ว่าเฟิงเหยียนจะพาจั๋วซือหรานไปที่ไหนในใจปันอวิ๋นชัดเจนดี สภาพของจั๋วซือหรานแย่หนักถึงระดับนี้แล้ว ขนาดยาก็ยังดื่มไม่ลงถ้าคิดจะใช้พลังศักดิ์สิทธิ์ปลอบประโลมตัวนาง รวมถึงปลอบประโลมลูกในท้องนาง...วิธีการที่ดีที่สุด คือสิ่งนั้นอย่างไม่ต้องสงสัยสติสัมปชัญญะของจั๋วซือหรานไม่ได้หลับลึกอย่างสมบูรณ์ ในมิติยังสัมผัสรับรู้ได้ถึงสภาพแวดล้อมรอบๆความรู้สึกนั้น เหมือนกับสติสัมปชัญญะถูกขังอยู่ในมิติอย่างไรอย่างนั้นนางจึงเป็นได้เพียงแค่ผู้ชมเท่านั้น"เฮ้อ ดูท่าเขาจะใช้วิะีนั้นสินะ" จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้นขนมถั่วแดงกั

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1258

    แต่ว่าชายหนุ่มยังคงไม่ตอบเขาเขาเพียงยกมือขึ้นมา สะบัดแขนเสื้อ เผยท่อนแขนออกมาจากในแขนเสื้อจั๋วหวายจึงเห็นว่าท่อนแขนของชายคนนี้ มีลายมัดกล้ามที่สวยงาม กระชับเรียวยาวผิวเองก็ขาวเย็น ไม่รู้ว่าเพราะปกติไม่ค่อยโดนแสงแดดหรือเปล่าและตอนนี้เอง ผิวหนังขาวเย็นที่โผล่ออกมานอกแขนเสื้อพอต้องกับแสงตะวัน จั๋วหวายก็รู้สึกเหมือนขาวจนสะท้อนแสงออกมาเลย!จากนั้น หลังจากสัมผัสกับแสง ก็ค่อยๆ รอยแผลเหมือนไฟลวกที่ค่อยๆ แดงขึ้น ก็ปรากฏมาบนท่อนแขนเขาไม่เพียงเท่านี้ หลังจากที่รอยไหม้เหล่านี้ปรากฏ ท่อนแขนเขาก็มีอักขระประหลาดบางส่วนปรากฏขึ้นมาอย่างรวดเร็วพออักขระคำสาปปรากฏ บาดแผลเผาไหม้พวกนั้นก็ถูกสะกดลงไป บาดแผลบนผิวหนังเริ่มสมานตัวกลับเหมือนเดิม หลังจากแผลสมานดี อักขระคำสาปเหล่านั้นก็ค่อยๆ สลายหายไปบนผิวหนังเขาแต่ไม่นานนัก ก็ปรากฏแผลไฟลวกอีกครั้ง อักขระเหล่านั้นก็ปรากฏขึ้นมาอีกซ้ำไปซ้ำมาแบบนี้ ดูแล้วทำให้คน...รู้สึกประหลาดมากจั๋วหวายมองจนบื้อไปเลยและชายหนุ่มก็ไม่ได้ใส่ใจกับแผลที่หายแล้วก็เกิด เกิดแล้วก็หายพวกนี้เลย ราวกับเหมือนมองไม่เห็นอย่างไรอย่างนั้นและก็เหมือนไม่ได้เจ็บได้ปวดเลย แม้ต

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1257

    เหมือนว่าพอสายตามองเห็นหญิงสาวในอ้อมกอดปันปวิ๋นที่เหมือนลมพัดก็สลายหายไปได้ ตอนนั้นเอง สัมผัสทั้งหมดก็เหมือนหายวับไปในพริบตาดวงตามองไม่เห็นสิ่งใดอีกแล้ว หุเองก็ไม่ได้ยินเสียงอื่นใดอีกความรู้สึกเดียวที่เหลืออยู่คือความเจ็บปวดรุนแรงเหมือนมีดกรีดกลางใจ ไม่เพียงเท่านี้ สมองก็เหมือนถูกของมีคมกวนคนอย่างไรอย่างนั้น เจ็บขึ้นมาเป็นระยะๆยิ่งเจ็บ ก็ยิ่งอยากจะมองนางให้ชัดจเน ไม่อยากพลาดไปแม้แต่น้อยปันอวิ๋นพอเห็นร่างของเขา และกลิ่นอายนั่นบนตัวปันอวิ๋นในที่สุดก็ถอนใจโล่ง เขามาได้เสียที..."เจ้าหุบเขา?" ศิษย์สำนักข้างๆ ยังระแวดระวังอยู่ปันอวิ๋นบอกกับศิษย์สำนักเสียงเรียบว่า "เขาไม่ทำอะไรหรอก"ศิษย์สำนักพอได้ยินคำนี้ จึงถอนใจโล่งออกมา เพราะตอนที่พวกคนคุ้มกันขวางเขาเมื่อครู่มันเกินต้านแล้วจริงๆปรมาจารย์กู่อย่างพวกเขาเดิมทีก็แพ้ธาตุไฟอยู่แล้ว และชายคนนี้ก็เหมือนจะมีธาตุไฟระดับสูงด้วยพวกเขาไม่มีความสามารถจะไปทัดทานได้เลยปันอวิ๋นพอเห็นร่างสูงใหญ่ตรงหน้า ก็คิดในใจ ยังจะงงอะไรอยู่เล่า ถ้าเจ้ายังงงอยู่ หญิงสาวคนนี้จะไม่ไหวแล้วนะ!"โอ๊ค..." ในปากจั๋วซือหรานมีเลือดสดทะลักออกมาและมือข้างนั

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1256

    ราวกับว่า...ต่อให้นางจะดูอ่อนแอเหมือนกดให้ตายได้ด้วยนิ้วเดียวแต่ยังคงไม่ยอมให้คนรู้สึกว่าอ่อนแอ ยังคงทำให้คนรู้สึกว่า ถ้าหากอยากจะเป็นศัตรูกับนาง ก่อนนางตายก็จะลากเจ้าลงนรกไปด้วยกันตอนนี้รอยยิ้มที่ดูเกียจคร้านไม่ใส่ใจ กลับยิ่งดูสงบนิ่งมั่นคงราวกับยกของหนักได้อย่างสบายนางเอ่ยขึ้นอย่างเกียจคร้าน "ใครจะรู้ล่ะ? อาจจะขาดหนูไม้ไผ่อยู่กระมัง"ปันอวิ๋นกลั้นหัวเราะไว้ไม่อยู่พอได้ยินหนูไม้ไผ่สองคำนี้ เขาก็รู้แล้ว ว่าตอนที่เขาไปทิ้งจดหมายที่บ้านไม้ไผ่ นางก็เดาได้แล้วว่าเขาทำอะไรเพียงแต่ไม่ได้พูดออกมาเท่านั้นเป็นหญิงสาวที่เจ้าเล่ห์กว่าจิ้งจอกเสียอีกปันอวิ๋นจุ๊ปาก "เจ้านี่ถึงตายไป สมองก็คงจะแล่นอยู่อย่างนี้สินะ?"จั๋วซือหรานแค่เหลือบมองเขา ไม่ได้พูดอะไร มุมปากกลับยกโค้งขึ้นบางๆหลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง คิ้วนางก็ขมวดขึ้นบางๆ"ทำไมหรือ?" ปันอวิ๋นเห็นการเปลี่ยนแปลงของสีหน้านาง จึงขมวดคิ้วเดินเข้ามา สองมือประคองบ่านางไว้อันที่จริงเป็นเพราะเขาไม่ค่อยได้เห็นสีหน้าทรมานจากหน้านางนัก นางมักจะทำเป็นเหมือนไม่เป็นไรเสมอแต่ตอนนี้ บนสีหน้า กลับดูทรมานขึ้นอย่างชัดเจนจากนั้น นางก็เหมือนจะยืน

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1255

    จั๋วหวายเกือบจะสำรอกออกมาแล้ว!"ถ้าจะอาเจียนก็ออกไปอาเจียนซะ ถ้าทำกู่กล่องนี้ของข้าพัง ข้าจะจับเจ้าแขวนห้อยหัวซะเลย" ปันอวิ๋นเอ่ยขึ้นเสียงเรียบจั๋วหวายหมุนตัวพุ่งออกไป สูดลมหายใจลึกหลายครั้งกว่าจะสงบลงมาได้ จากนั้นจึงเตรียมตัวเตรียมใจ ตอนที่เข้าไปอีกครั้งก็ไม่มีกระทบกระเทือนอย่างแรงแบบก่อนหน้าแล้วแต่สายตากลับไม่ได้มองไปยังแผ่นกระดานที่มีของดิ้นกระแด่วๆ นั่นมองแล้วขนลุกสุดๆ"มีเรื่องอะไร?" ปันอวิ๋นถามขึ้นเสียงเรียบจั๋วหวายเอ่ยเสียงต่ำ "ท่านรู้..." เขาสูดจมูก ถามออกไปว่า "ท่านรู้จักเฟิงเหยียนใช่ไหม?"ปันอวิ๋นเดิมทีกำลังป้อนอาหารเจ้าพวกดุ๊กดิ๊กพวกนั้นพอได้ยินคำนี้ การเคลื่อนไหวก็หยุดลงมา ไม่หันไปมองเขา ผ่านไปครู่หนึ่งจึงถามขึ้นเรียบๆ ว่า "ทำไมล่ะ?""ข้าอยากเจอเขา ข้าอยากจะถามเขา ว่าทำไมทำแบบนี้กับพี่ของข้า" จั๋วหวายขอบตาแดงรื้นเขาสูดหายใจลึกแล้วพ่นออกมา "ข้าเองก็อยากจะถามเขา ว่าช่วยพี่ข้าได้ไหม ถ้าหากไม่ได้ หรือก็คือเขาเป็นผู้ชายทรยศ ไม่ยินยอม เช่นนั้นเขามาบอกกับท่านพี่ได้ไหม ว่าให้เลิกแล้วต่อกันจบๆ ไป"ปันอวิ๋นพอได้ยินคำนี้ จะฟังความเสียใจในใจจั๋วหวายไม่ออกได้อย่างไรกั

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status