Share

บทที่ 1173

Author: หูเทียนเสี่ยว
่จั๋วหวายแลบลิ้น "ข้ารู้สึกว่าเรื่องมันไม่ได้ง่ายขนาดนั้น ยิ่งไปกว่านั้นเรื่องนี้ ก็ยังไม่เคยหารือกับท่านด้วย ข้าเองก็ไม่กล้าบุ่มบ่ามไปทำ"

ความเลื่อมใสและความไว้ใจที่จั๋วหวายมีให้พี่สาวนั้น ไม่มีสิ่งใดเทียบได้

ไม่ว่าคนอื่นจะพูดอย่างไร ถ้าหากเป็นเรื่องเล็กก็ช่างมัน แต่ในเรื่องใหญ่แบบนี้ เขาจะต้องหารือกับพี่สาวแน่นอน

"ยิ่งไปกว่านั้น ข้ารู้สึกว่านางป่วยเป็นแบบนั้น พี่สาวเองก็ไม่แน่ว่าจะรักษาไม่ได้ ไม่มีความจำเป็นต้องให้ข้ามาเป็นผู้ทดลองยาด้วย" จั๋วหวายเอ่ยขึ้น

พอได้ยินคำนี้ จั๋วซือหรานก็เขกไปที่หน้าผากเขาทีหนึ่ง "ก็ยังไม่ถึงกับโง่นักนี่ น้องชายของจั๋วซือหราน ถ้าโง่ถูกคนจับไปเป็นคนทดลองยาได้ล่ะก็ คงจะน่าขำน่าดู"

"ดังนั้น ท่านพี่รักษาได้ไหม?" จั๋วหวายถาม

"น่าจะได้กระมัง" จั๋วซือหรานเอ่ยเสียงเรียบ เหมือนไม่ได้แยแสกับเรื่องนี้นัก จากนั้นนางจึงหัวเราะขึ้นมาเบาๆ "แต่ข้าไม่มีทางรักษาให้นางหรอก"

จั๋วหวายความคิดยังใสซื่อ น่าจะยังโง่อยู่หน่อยๆ ยังรู้สึกเสียดาย "อา อย่างนั้นหรือ..."

จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้น "เจ้าเด็กโง่นี่ยังจะเสียดายแทนคนอื่นอีกหรือ? เจ้าคิดว่าคนอื่นเขาจะให้เจ้าเป็นแค่ผู้ทดลองยา
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1174

    บวกกับคุณสมบัติร่างกายของเจ้าเด็กนี่กับนางคล้ายคลึงกัน แข็งแกร่งสุดๆ ทรหดราวกับสุนัขป่า ไม่แปลกใจที่ใครๆ ต่างก็หมายปองกระดูกนี้สรุปคือ เนื่องจากสถานการณ์ยังไม่หนักหนา ดังนั้นจั๋วซือหรานกระทั่งไม่ต้องจ่ายยาอะไรให้นางเลยด้วยซ้ำฝังเข็มไปรอบหนึ่ง จากนั้นก็ยัดยาลูกกลอนไปอีกสองเม็ด เจ้าเด็กนี่ที่ทรหดเหมือนสุนัขป่า ก็คาดว่าน่าจะหายดีแล้วเข็มก็แทงลงไปแล้วจั๋วซือหรานลูบมือผ่าน หางเข็มทองก็สั่นไหวขึ้นมา"อุ๊...!" จั๋วหวายครางขึ้นมาอย่างทนไม่ไหวการหมุนเข็มก่อนหน้านี้ของนางก็ทำเขาร้องอ๊าวๆ แล้ว นั่นเพราะมันปวดแต่ตอนนี้ไม่ใช่เพราะปวด แต่เป็นความรู้สึกที่แย่กว่านั้น ในกระดูกเหมือนมีมดมาวิ่งไต่อย่างไรอย่างนั้นรู้สึกแย่กว่าความเจ็บปวดเสียอีกเด็กหนุ่มวัยรุ่นกัดฟันแน่น จั๋วซือหรานนั่งจิบชาอย่างใจเย็นอยู่ข้างๆจากนั้นจึงฝังเข็มให้เขาอย่างไม่รีบร้อนจั๋วหวายรู้สึกทันที เหมือนจะกระปรี้กระเปร่าขึ้นมาทั้งตัว ในที่สุดก็ได้สัมผัสความสุดยอดวิชาแพทย์ของพี่สาวเสียทีตอนที่เหลียนเจินเข้ามารายงาน พอเห็นจั๋วหวาย ก็ตกตะลึงไป"นี่..." เหลียนเจินตกตะลึง"โอ้" จั๋วซือหรานแนะนำให้ "น้องชายข้า จั๋วหว

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1175

    "นายท่าน เขาทางนี้" เทียนถงทำสัญญาณมือ "เพียงแต่ว่า..."เทียนถงดูกังวลหน่อยๆ "สภาพเขาเหมือนไม่ค่อยดีนัก หลังจากกลับมาจากโรงน้ำชา สภาพเขาก็ผิดปกติลแล้ว แต่ก็ไม่มีบาดแผลอะไรที่เด่น ราวกับว่า...ป่วยไปแล้ว?"จั๋วซือหรานฟังคำพูดของเทียนถง พยักหน้าให้เรียบๆ "ข้าไปดูหน่อย"น่าจะไม่ได้ป่วยกะทันหันหรอก คงไม่ใช่ว่าก่อนหน้านี้ไม่ยอมป่วย แล้วมาป่วยเอาตอนนี้หรอกนะจั๋วซือหรานรู้สึกว่า น่าจะเป็นเพราะถูกนางแย่งหุ่นเชิดมาหมดตอนที่สู้กับนางก่อนหน้านี้น่าจะรู้สึกโกรธ บวกกับหุ่นเชิดความมืดนี่ เดิมทีก็ค่อนข้างชั่วร้ายอยู่ อาจจะมีผลกระทบย้อนกลับอยู่บ้างไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร สำหรับนางแล้ว ไม่ใช่เรื่องที่ตำมืออะไรทั้งนั้นนางมีเรื่องจะถามเขา เช่นนั้นก็ต้องถามถ้าเขาจะตาย ก็ต้องตายหลังจากที่นางถามเสร็จน่าจะเพราะเป็นผู้อาวุโส เหลียนเจินจึงหาห้องแขกให้เขาเฉพาะห้องหนึ่งแสงในห้องไม่มืดนัก แต่พอเข้ามาก็ยังทำให้คนสัมผัสได้ถึงปราณความตายที่หนักอึ้งอยู่คนบนแคร่ เดิมทีก็ร่างกายผอมเหมือนศพแห้งอยู่แล้ว ตอนนี้ยิ่งดูซูบผอมกว่าเดิมราวกับพลังชีวิตถูกดูดออกไปจนหมดจั๋วซือหรานไม่ใส่ใจกับท่าทีนี้นัก หลังจาก

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1176

    เพียงแต่ว่าเขามีหน้าตาเหมือนศพแห้ง และเพราะมันดูแข็งทื่อ ดังนั้นจึงมองออกไม่ง่ายนักจั๋วซือหรานสังเกตเห็นสีหน้าเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยของเขา "ดูท่า คงจะคล้ายข้าจริงๆ สินะ"หวงเจี้ยนถังดวงตาปูดโปน "ข้ายังไม่ได้พูดอะไรเสียหน่อย!""ก็จริง เจ้าไม่ได้พูดอะไร แต่ว่าข้าก็ไม่จำเป็นต้องให้เจ้าใช้ปากพูดออกมานี่"จั๋วซือหรานยังคงมองเขาเรียบๆ ถามต่อว่า "น้องชายข้าเข้ากันกับนางได้พอดี เป็นผู้ทดลองยาให้นาง...ส่วนนางก็หน้าตาคล้ายข้า เจ้าคิดว่านี่มันเพราะอะไร? หรือว่าบนโลกนี้ จะมีเรื่องบังเอิญขนาดนี้หรือ?"หวงเจี้ยนถังฟังคำนี้ ม่านตาก็หดลง! หญิงสาวคนนี้มันปีศาจจำแลงกายมาหรือไรกัน?!นี่มันเกิดกว่าฉลาดหลักแหลมแล้ว นี่มัน...วิชาชั่วร้ายชัดๆ!ถ้าหากนางรู้จริงๆ แล้วมันก็เรื่องนึงแต่ตอนนี้จากที่ฟัง หวงเจี้ยนถังรู้สึกว่า นางเหมือนจะแค่...คาดเดาเท่านั้น นางไม่ได้รู้อะไรเลยแต่กลับเดาได้ใกล้เคียงความจริงขึ้นเรื่อยๆจั๋วซือหรานเห็นม่านตาของเขาหดลง ก็จับการเปลี่ยนแปลงทางสีหน้าของเขาได้อีกจั๋วซือหรานเลิกคิ้ว "ดูท่าโลกนี้จะไม่มีเรื่องบังเอิญขนาดนั้น แต่ก็จริง ข้าเชื่อประโยคหนึ่งมาตลอด ว่าบนโลกนี้ไม่มีเรื่

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1177

    รอยยิ้มของหวงเจี้ยนถังแข็งทื่อไปแล้วส่วนจั๋วซือหราน ก็มองเขาเหมือนยิ้มเหมือนไม่ยิ้ม น้ำเสียงมีแววเหมือนแมวไล่จับหนูถามขึ้นมาว่า "หัวเราะไปสิ ทำไมไม่หัวเราะล่ะ?"สีหน้าหวงเจี้ยนถังแข็งทื่อ ผ่านไปครู่หนึ่งก็ยังไม่พูดอะไรออกมาจั๋วหวายหายใจหอบถี่ เห็นได้ชัดว่าโมโหจัดกับคำพูดของหวงเจี้ยนถัง ยากจะคุมอารมณ์ไว้ได้แต่จั๋วซือหรานกลับยื่นมือไปกดบนบ่าเขา เอ่ยเสียงต่ำว่า "เด็กโง่ ใจร้อนซะจริง เขาแค่ยุแยงเจ้า เจ้าก็ติดกับเข้าเสียแล้ว"จั๋วหวายถึงอย่างไรก็เป็นชายหนุ่มเลือดร้อน อารมณ์กับความเลือดเดือดขึ้นมาไวมากแต่ยังดีที่เขามีพี่สาวเป็นหลักยึดเหนี่ยว อารมณ์จึงผ่อนคลายลงมาอย่างรวดเร็วจั๋วหวายใจเย็นลงมาแล้วในมือจั๋วซือหรานกำขลุ่ยกู่อยู่ เคาะลงไปเบาๆ บนบ่าหวงเจี้ยนถัง "ข้ายังไม่ได้คิดว่าจะจัดการเจ้าสำนักพวกเจ้าอย่างไรดี เจ้าก็อย่าลงแรงช่วยนางนักเลย""บังอาจนัก!" หวงเจี้ยนถังเสียงแหบแห้งจั๋วซือหรานหัวเราะเบาๆ "ยิ่งไปกว่านั้น เจ้าทำไมถึงได้มั่นใจนัก ว่าเจ้าสำนักจะกลับมาช่วยพวกเจ้า?"หวงเจี้ยนถังจ้องมองนาง "เจ้าหมายความว่ายังไง""นางทำไมจะมองดูพวกเจ้าตายไม่ได้?" จั๋วซือหรานเหมือนยิ้มเหมื

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1178

    ยิ่งไปกว่านั้น...เขายังกังวล ความยุ่งยากเหล่านี้จะเป็นตนเองหรือเปล่าที่นำมาแม้ตัวเองจะเกิดเรื่องขึ้น แต่ก็นำปัญหาไม่น้อยมาให้พี่สาวอย่างไม่ต้องสงสัยแต่ที่จั๋วหวายกังวลยิ่งกว่าก็คือ ศัตรูหลอกใช้เขา ล่อพี่สาวให้เข้ามาถึงอย่างไรจากในบทสนทนาของพี่สาวกับหวงเจี้ยนถังเมื่อครู่ ก็ฟังออกไม่อยากว่ามีความหมายแบบนี้"โอ้ พวกนั้นน่ะ" สีหน้าจั๋วซือหรานดูแล้วนิ่งมาก "ไม่มีอะไรหรอก ก็แค่ทำท่าลึกลับกั๊กเรื่องราวกับเขาไปอย่างนั้นแหละ"จั๋วหวายฟังคำนี้ พอกำลังจะถอนใจโล่ง แต่ก็รู้สึกว่าไม่น่าเป็นแบบนั้น ก็เลยขมวดคิ้วขึ้นมา"ท่านหลอกข้า" จั๋วหวายเอ่ยขึ้นอย่างมั่นใจ "เมื่อครู่ต้องไม่ใช่แค่ทำลึกลับแน่ๆ"จั๋วซือหรานพอได้ยินมุมปากก็ยกขึ้น เลิกคิ้วเอ่ยขึ้น "อื๋อ? เจ้าเด็กโง่ยังรู้ด้วยว่าข้าหลอกคนอื่นหรือเปล่า?""ท่านคงกลัวว่าข้าจะกังวล ดังนั้นเลยจงใจเลี่ยงเรื่องสำคัญพูดแต่เรื่องเล็ก" มุมปากจั๋วหวายห้อยลงมา "ถ้าหากข้าฟังออกบ้างก็แล้วไป แต่ถ้าข้าฟังไม่ออก ท่านต้องคิดจะหลอกข้าไปแบบนี้แน่"จั๋วซือหรานหัวเราะขึ้นเบาๆ "เอาล่ะ เดามาถึงขนาดนี้เชียว...""ท่านพี่!""ได้ๆๆ เช่นนั้นจะบอกเจ้าหน่อยแล้วกัน หลักๆ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1179

    ในสายตาจั๋วหวายมีความเสียใจขึ้นอย่างไม่ปิดบังจั๋วซือหรานมองออกถึงความเศร้าที่อัดแน่นเหล่านั้นการตายเร็วเกินไปของท่านพ่อ อันที่จริงก็สร้างความเจ็บช้ำมหาศาลให้กับท่านแม่ กับครอบครัวของพวกเขาอยู่แล้วนางกับเสี่ยวหวายกลายมาเป็นเด็กที่ไม่มีพ่อให้พึ่งพานางที่เป็นพี่สาวคนโต ก็จำใจต้องมารับผิดชอบส่วนท่านแม่...พูดแบบนี้ดีกว่า ถ้าหากไม่ใช่เพราะยังมีนางกับจั๋วหวายอยู่ นางคงจะตรอมใจตายตามท่านพ่อไปด้วยกันแล้วหรือก็คือ จากบางมุมมอง เซี่ยอวิ๋นซีแม้จะยังอยู่ แต่บางส่วนได้ตายตามสามีที่ล่วงลับไปแล้วชีวิตที่เหลืออยู่ของเซี่ยอวิ๋นซี ก็เหมือนจะมีไว้เพื่อลูกทั้งสองคน มีชีวิตอยู่เพื่อรำลึกถึงสามี ไม่ใช่เพื่อตัวเองอีกต่อไปดังนั้นจั๋วซือหรานตอนนี้จึงยังขุดคุ้ยความทรงจำจากเจ้าของร่างเดิมได้ ถึงภาพที่ตนเองคุกเข่ากราบไหว้อยู่หน้าป้ายวิญญาณบิดากับเสี่ยวหวายในทุกเทศกาลเช็งเม้งและเทศกาลกินอาหารเย็นทุกครั้ง ต่อให้เป็นการกราบไหว้ ดวงตาของเซี่ยอวิ๋นซีก็ยังแดงก่ำเหมือนจะร้องไห้เป็นสายเลือดหญิงสาวที่น่าสงสารคนนั้น แทบจะใช้ชีวิตที่เหลืออยู่เพื่อรำลึกถึงสามีจั๋วหวายเห็นมากับตา และถ้าหาก...ถ้าหากเรื่อ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1180

    "โอ๋?" จั๋วซือหรานเลิกคิ้ว มุมปากยกขึ้นเป็นรอยยิ้มบางๆ น้ำเสียงฟังแล้วเหมือนครุ่นคิดอะไรอยู่ "เช่นนั้นก็เป็น...คนใจดีจริงๆ"ตอนที่นางพูดถึงคำว่าคนใจดี น้ำเสียงก็อ่อนลงมาเล็กน้อย"เป็นเขาที่ชี้ทางให้ข้า ให้ข้ามาคอนจับตาข่าวทางโรงน้ำชา บอกว่าข่าวสารที่โรงน้ำชารวดเร็วที่สุด ไม่แน่อาจจะได้ข่าวครอบครัวของข้า...แล้วเขาก็พูดถูกจริงๆ"จั๋วซือหรานหัวเราะเบาๆ "ใช่เลย เขาเก่งมาก"ทั้งหึงทั้งโกรธ แต่ก็ยังไม่ลืมที่จะมาชี้ทางให้น้องชายนาง เก่งจริงๆจั๋วหวายแน่นอนว่าไม่รู้สิ่งที่พี่สาวคิดในใจจั๋วหวายถามขึ้น "ท่านพี่ ถ้าหากท่านคิดจะใช้ข้าเป็นข้ออ้างหาเรื่องสำนักเมฆาวารี ข้าต้องไปหลบก่อนไหม?""อื๋อ?" จั๋วซือหรานมองเขา "ทำไมต้องหลบ?"จั๋วหวายตกตะลึง "ไม่...ไม่ใช่ว่าถ้าพวกเขาไม่ส่งข้าคืนให้ท่าน ท่านก็จะไม่เกรงใจพวกเขาหรือ? ถ้าข้าหลบไป ท่านถึงจะไม่เกรงใจพวกเขาได้ไง?"จั๋วซือหรานเขกหน้าผากเขา "เจ้าเด็กโง่ เจ้าก็อยู่ข้างๆ ข้านี่ล่ะ""แล้วพวกเขา..." จั๋วหวายยังงงๆ อยู่จั๋วซือหรานตอบ "พวกเขาบอกว่าเจ้าเป็นน้องชายข้าก็คือน้องชายข้าหรือไง? ถ้าข้าบอกไม่ใช่ พวกเขาจะพูดให้ฟ้าถล่มมันก็ไม่มีประโยชน์"จั

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1181

    ฝันร้ายถ้าหากมันน่ากลัว ก็จงเป็นฝันร้ายของฝันร้ายเสีย มังกรถ้าหากมันน่ากลัว ก็จงกลายเป็นมังกรของมังกรไปเสียจั๋วหวายฟังออก ว่าพี่สาวตนเองแค่ไม่ได้พูดออกมาตรงๆ เท่านั้น...คนอื่นถ้าหากกล้าเอาน้องชายของนางไปเป็นผู้ทดลองยา นางก็จะจับคนที่พวกนั้นหวงแหนมาหลอมเป็นกากยาเสียให้หมด!"นางอายุน้อยกว่าข้า สุขภาพไม่ค่อยดี" จั๋วหวายพูดถึงสุ่ยเชียนโยวจากสำนักเมฆาวารีคนนั้น "สภาพต้องกินยาตลอดแบบนั้นเลย"จั๋วซือหรานพอได้ยินก็ยิ้มๆ "ทำไม? อยากได้นางมาเป็นภรรยารึ?""!!" จั๋วหวายถลึงตาโต "ท่านพี่! อย่าพูดจาส่งเดชนะ! ข้าจะมีความคิดนั้นหรือเปล่ายังไม่พูดถึง แต่ถ้าเรื่องเป็นอย่างที่ท่านพูดไว้ก่อนหน้าล่ะก็ เช่นนั้นความสัมพันธ์ของนางกับพวกเราก็เป็น..."จั๋วหวายพูดขึ้นอย่างตั้งใจจั๋วซือหรานได้ยินก็กลั้นหัวเราะไว้ไม่อยู่ ต่อคำของเขามา "ไม่ใช่อะไรทั้งนั้น""อ๋า?" จั๋วหวายงงงันเหมือนเด็กทึ่มจั๋วซือหรานเอ่ยต่อ "ต่อให้เรื่องราวเป็นอย่างที่ข้าพูดไว้ก่อนหน้า ก็ไม่ได้เป็นตัวแทนของอะไรทั้งนั้น""เอ่อ..." จั๋วหวายกระพริบตาปริบๆ เหมือนหมาน้อยไร้เดียงสามองแล้วทำให้คนรู้สึกอยากเข้าไปลูบหัวเลยจั๋วซือหรานยื่นมือ

Latest chapter

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1263

    ท่าทีของเฟิงเหยียน ไม่ถือว่ากระตือรือร้นมากนัก กระทั่งค่อนข้างเย็นชาด้วยซ้ำแต่ก็เป็นเรื่องปกติ หลังจากที่เขาออกจากสำนักในตอนนั้น ก็ไม่ได้มีความฮึกเหิมเหมือนสมัยครั้งยังเด็กอีกมักจะเย็นชา และมักจะเฉยเมยปันอวิ๋นเม้มริมฝีปาก เข้าใจถึงสาเหตุนั้นสภาพการณ์ตอนที่เฟิงเหยียนออกจากสำนักครั้งนั้น เขาเองก็รู้เป็นอย่างดีต่อให้จนถึงตอนนี้ ก็ยังจดจำได้อย่างชัดเจนเพราะเฟิงเหยียนถูกทรยศเป็นคนแรก ดังนั้น ตอนนั้นพวกเขาก็อยู่ในฐานะคนที่ยังไม่ถูกทรยศอันที่จริง จะมากน้อยก็ยังมีความสงสัยว่าถ้าไม่อยู่ในสถานการณ์เดียวกันก็คงไม่เข้าใจอยู่พวกเขารู้สึกว่าเฟิงเหยียนทำเรื่องเล็กเป็นเรื่องใหญ่ เป็นเฟิงเหยียนที่ไม่รู้จักบุญคุณพวกเขารู้สึกว่า เป็นเฟิงเหยียนที่ทำไม่ถูกเฟิงเหยียนเป็นคนอกตัญญูจนต่อมา ต่อมาของต่อมา ทุกคนทยอยกันเดินบนเส้นทางของเฟิงเหยียน ใครก็หนีไม่พ้นการทรยศหรือใช้ประโยชน์ทั้งนั้นตามหลักแล้วควรจะยอมรับชะตากรรมอย่างที่เคยเตือนเฟิงเหยียนเอาไว้ในตอนนั้น และมองว่าสิ่งนั้นเป็นการบ่มเพาะและการให้ความสำคัญจากสำนักแต่เพระาอะไร...ถึงได้ดีใจกันขึ้นมาไม่ได้เลยและหลังจากนั้นอีก แต่ละคนก็ทร

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1262

    ดังนั้นเขาจึงยังไม่กล้าไปกอดนางไว้แบบนี้ตลอด คอยอยู่ด้วยเงียบๆแต่เขากลับไม่ง่วงเลย ไม่ได้หลับ ไม่ได้ปิดตาด้วยแค่มองนางเงียบๆ สัมผัสถึงความร้อนในตัวนางกับชีพจรนางกระทั่งตัวเขาเองก็ยังบอกไม่ได้ว่าเพราะอะไร แต่ก็มีความรู้สึกอย่างหนึ่ง...รู้สึกสงบใจอย่างมากราวกับว่า ทั้งหมดเปลี่ยนเป็นสมบูรณ์แบบแล้วทั้งที่ความทรงจำในอดีตยังไม่กลับคืนเข้าที่ แต่ความรู้สึกนี้ เหมือนสลักประทับอยู่ในจิตวิญญาณอย่างไรอย่างนั้น ยากที่จะลบเลือนจนกระทั่งลมหายใจของจั๋วซือหรานมั่นคงแล้ว สีหน้ายิ่งมีประกายแดง สภาพดีขึ้นมากแล้วเขามองไปที่คราบเลือดแห้งกรังเหล่านั้นบนใบหน้าจั๋วซือหราน รู้สึกเสียดแทงตาเหลือเกินจึงได้เคลื่อนไหวเบาๆ เดินออกไปด้านนอก กำชับคนรับใช้ให้เตรียมน้ำร้อนมาไม่ให้คนรับใช้เข้ามาปรนนิบัติ แต่เขาหิ้วถังน้ำเข้ามาเองเขาอุ้มนางมาแช่ในถังน้ำ คอยสระชำระเส้นผมนางทีละเล็กทีละน้อย เช็ดคราบเลือดบนผิวนางออกอาบตัวนางจนสะอาดหมดจด อุ้มกลับไปบนเตียง ใช้ผ้าห่มห่อตัวนางจากนั้นจึงใช้พลังวิญญาณธาตุไฟบริสุทธิ์ เป่าผมนางจนแห้งและเพราะมีกลิ่นอายของเขาห่อหุ้มอยู่ จั๋วซือหรานจึงหลับลึกอย่างสบาย ไม่ตื

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1261

    พลังศักดิ์สิทธิ์หงส์แดงที่บริสุทธิ์ที่สุด ถูกส่งผ่านเข้ามาอย่างนั้นจั๋วซือหรานมีความรู้สึกเหมือนตนเองถูกแช่ไว้ในน้ำอุ่น เป็นความรู้สึกที่สบายอย่างที่สุดในลำคอก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมาด้วยความสบายยิ่งไปกว่านั้น คนเราก็เหมือนจะเป็นเช่นนี้เดิมทีก็ไม่ได้รู้สึกว่าตนเองลำบากยากเย็นอะไรนักแต่ตอนที่ร่างกายสามารถผ่อนคลายลงมาได้ ไม่รู้สึกเจ็บปวดทรมานอีกแล้วพอย้อนคิดไปถึงความยากลำบากเหล่านั้นก่อนหน้า กลับรู้สึกว่าตนเองน่าสงสารขึ้นมาจั๋วซือหรานตอนนี้ก็รู้สึก ว่าตนเอง...ไม่ค่อยได้รับความเป็นธรรมเท่าไรชายคนนี้ เจ้าคนสมควรตายนี่มีสิทธิ์อะไร?มีสิทธิ์อะไรกัน?"..." ชายหนุ่มรู้สึกเจ็บที่ปลายลิ้นเขาขมวดคิ้ว รสชาติคคาวหวานของเลือดแผ่ซ่านในร่องฟันของทั้งสองคนเขามองหญิงสาวตรงหน้า ก็เห็นแววตาของนางมีความหงุดหงิดอยู่หน่อยๆแล้วยังมีสีหน้าท้าทายอีกด้วยดูเหมือนจะจงใจกัดปลายลิ้นเขา น่าจะโมโหเอาการชายหนุ่มไม่ครางออกมาเลย ราวกับไม่รู้สึกเจ็บอย่างไรอย่างนั้นยิ่งไปกว่านั้นยังไม่ใส่ใจ ปลายลิ้นยังโถมใส่นางอย่างเร่าร้อนรุนแรงถ้านางอยากได้ ก็ต้องแล้วแต่นางจั๋วซือหรานดูจนใจหน่อยๆ แต

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1260

    เหมือนว่าความทรมานทั้งหมดก่อนหน้านี้ ไม่ได้ทรมานอะไรขนาดนั้นและไม่รู้ว่าเจ้าโง่นี้ใช้แรงกระแทกนางมากแค่ไหน...มีหลายครั้ง ที่นางรู้สึกได้ว่า ในมิตินี้เหมือนสั่นไหวขึ้นมาราวกับวิญญาณของนางที่ถูกขังอยู่ในมิติ จะถูกดันกลับเข้าไปที่เดิมเลยจั๋วซือหรานถลึงตาโตขึ้นหน่อย จ้องมองมิติที่โยกไหวหน่อยๆรู้สึกหมดคำจะพูดแมงมุมน้อยงึมงำขึ้นมาข้างๆ "นายท่าน...ในนี้มัน...ร้อนจัง..."จั๋ซซือรหานมองไปทางเหล่าสัตว์อสูรของตนเอง มองออกไม่ยาก พวกมันเหมือนเริ่มมึนๆ จะหลับกันแล้ว พอเห็นแบบนี้ ก็เหมือนจะไม่ได้แตกต่างอะไรนักกับสถานการณ์ครั้งที่แล้วเพียงแต่ครั้งที่แล้ว ตนเองถูกทำจนเกือบจะสลบไปและตอนนี้ ตนเองถูกทำ...จนใกล้จะตื่นขึ้นมาแล้วผู้ชายคนนี้...ร้ายกาจจริงๆนี่มันช่าง....สัมผัสแนบเนื้อบนตัวนางมีเหงื่อบางๆ ชั้นหนึ่ง ผิวที่เคยขาวซีดไปทั้งตัว ตอนนี้พอมีเม็ดเหงื่อเกาะอยู่ จึงยิ่งดูเป็นประกายระยิบระยับขึ้นมาและไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน..."อือ..." หญิงสาวที่ไม่มีปฏิกิริยามาตลอด ริมฝีปากที่ยังมีรอยเลือดที่ยังเช็ดไม่สะอาด ส่งเสียงครางออกมาเหมือนลูกแมวตัวน้อยฟังดูแล้วเป็นเสียงอือๆ งึมงำๆน

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1259

    ในใจจั๋วหวายเข้าใจอย่างหนักแน่นว่าเฟิงเหยียนคือผู้ชายทรยศแต่ว่านี่ไม่ได้เป็นอุปสรรคที่ทำให้เขาคิดว่าเฟิงเหยียนจะทำให้พี่สาวดีขึ้นได้คนเราก็มักมีสองมาตรฐานเช่นนี้ ไม่มีทางเลือกดังนั้นจั๋วหวายแม้จะไม่ได้เน้นหนักว่าผู้ชายทรยศคนนั้นคือผู้ชายทรยศ แต่ก็ยังถามขึ้นว่า "เขาจะพาพี่สาวข้าไปไหน?"ปันอวิ๋นได้ยินคำนี้ สายตาก็ลึกซึ้งขึ้นมา "นั่น...เป็นเรื่องของผู้ใหญ่เขา เด็กๆ ไม่ต้องถามเยอะ"จั๋วหวายเบ้ปาก ในใจก็บ่นว่าตนเองไม่ใช่เด็กแล้วเสียหน่อยแต่ปันอวิ๋นในที่สุดก็ไม่ได้บอกจั๋วหวาย ว่าเฟิงเหยียนจะพาจั๋วซือหรานไปที่ไหนในใจปันอวิ๋นชัดเจนดี สภาพของจั๋วซือหรานแย่หนักถึงระดับนี้แล้ว ขนาดยาก็ยังดื่มไม่ลงถ้าคิดจะใช้พลังศักดิ์สิทธิ์ปลอบประโลมตัวนาง รวมถึงปลอบประโลมลูกในท้องนาง...วิธีการที่ดีที่สุด คือสิ่งนั้นอย่างไม่ต้องสงสัยสติสัมปชัญญะของจั๋วซือหรานไม่ได้หลับลึกอย่างสมบูรณ์ ในมิติยังสัมผัสรับรู้ได้ถึงสภาพแวดล้อมรอบๆความรู้สึกนั้น เหมือนกับสติสัมปชัญญะถูกขังอยู่ในมิติอย่างไรอย่างนั้นนางจึงเป็นได้เพียงแค่ผู้ชมเท่านั้น"เฮ้อ ดูท่าเขาจะใช้วิะีนั้นสินะ" จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้นขนมถั่วแดงกั

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1258

    แต่ว่าชายหนุ่มยังคงไม่ตอบเขาเขาเพียงยกมือขึ้นมา สะบัดแขนเสื้อ เผยท่อนแขนออกมาจากในแขนเสื้อจั๋วหวายจึงเห็นว่าท่อนแขนของชายคนนี้ มีลายมัดกล้ามที่สวยงาม กระชับเรียวยาวผิวเองก็ขาวเย็น ไม่รู้ว่าเพราะปกติไม่ค่อยโดนแสงแดดหรือเปล่าและตอนนี้เอง ผิวหนังขาวเย็นที่โผล่ออกมานอกแขนเสื้อพอต้องกับแสงตะวัน จั๋วหวายก็รู้สึกเหมือนขาวจนสะท้อนแสงออกมาเลย!จากนั้น หลังจากสัมผัสกับแสง ก็ค่อยๆ รอยแผลเหมือนไฟลวกที่ค่อยๆ แดงขึ้น ก็ปรากฏมาบนท่อนแขนเขาไม่เพียงเท่านี้ หลังจากที่รอยไหม้เหล่านี้ปรากฏ ท่อนแขนเขาก็มีอักขระประหลาดบางส่วนปรากฏขึ้นมาอย่างรวดเร็วพออักขระคำสาปปรากฏ บาดแผลเผาไหม้พวกนั้นก็ถูกสะกดลงไป บาดแผลบนผิวหนังเริ่มสมานตัวกลับเหมือนเดิม หลังจากแผลสมานดี อักขระคำสาปเหล่านั้นก็ค่อยๆ สลายหายไปบนผิวหนังเขาแต่ไม่นานนัก ก็ปรากฏแผลไฟลวกอีกครั้ง อักขระเหล่านั้นก็ปรากฏขึ้นมาอีกซ้ำไปซ้ำมาแบบนี้ ดูแล้วทำให้คน...รู้สึกประหลาดมากจั๋วหวายมองจนบื้อไปเลยและชายหนุ่มก็ไม่ได้ใส่ใจกับแผลที่หายแล้วก็เกิด เกิดแล้วก็หายพวกนี้เลย ราวกับเหมือนมองไม่เห็นอย่างไรอย่างนั้นและก็เหมือนไม่ได้เจ็บได้ปวดเลย แม้ต

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1257

    เหมือนว่าพอสายตามองเห็นหญิงสาวในอ้อมกอดปันปวิ๋นที่เหมือนลมพัดก็สลายหายไปได้ ตอนนั้นเอง สัมผัสทั้งหมดก็เหมือนหายวับไปในพริบตาดวงตามองไม่เห็นสิ่งใดอีกแล้ว หุเองก็ไม่ได้ยินเสียงอื่นใดอีกความรู้สึกเดียวที่เหลืออยู่คือความเจ็บปวดรุนแรงเหมือนมีดกรีดกลางใจ ไม่เพียงเท่านี้ สมองก็เหมือนถูกของมีคมกวนคนอย่างไรอย่างนั้น เจ็บขึ้นมาเป็นระยะๆยิ่งเจ็บ ก็ยิ่งอยากจะมองนางให้ชัดจเน ไม่อยากพลาดไปแม้แต่น้อยปันอวิ๋นพอเห็นร่างของเขา และกลิ่นอายนั่นบนตัวปันอวิ๋นในที่สุดก็ถอนใจโล่ง เขามาได้เสียที..."เจ้าหุบเขา?" ศิษย์สำนักข้างๆ ยังระแวดระวังอยู่ปันอวิ๋นบอกกับศิษย์สำนักเสียงเรียบว่า "เขาไม่ทำอะไรหรอก"ศิษย์สำนักพอได้ยินคำนี้ จึงถอนใจโล่งออกมา เพราะตอนที่พวกคนคุ้มกันขวางเขาเมื่อครู่มันเกินต้านแล้วจริงๆปรมาจารย์กู่อย่างพวกเขาเดิมทีก็แพ้ธาตุไฟอยู่แล้ว และชายคนนี้ก็เหมือนจะมีธาตุไฟระดับสูงด้วยพวกเขาไม่มีความสามารถจะไปทัดทานได้เลยปันอวิ๋นพอเห็นร่างสูงใหญ่ตรงหน้า ก็คิดในใจ ยังจะงงอะไรอยู่เล่า ถ้าเจ้ายังงงอยู่ หญิงสาวคนนี้จะไม่ไหวแล้วนะ!"โอ๊ค..." ในปากจั๋วซือหรานมีเลือดสดทะลักออกมาและมือข้างนั

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1256

    ราวกับว่า...ต่อให้นางจะดูอ่อนแอเหมือนกดให้ตายได้ด้วยนิ้วเดียวแต่ยังคงไม่ยอมให้คนรู้สึกว่าอ่อนแอ ยังคงทำให้คนรู้สึกว่า ถ้าหากอยากจะเป็นศัตรูกับนาง ก่อนนางตายก็จะลากเจ้าลงนรกไปด้วยกันตอนนี้รอยยิ้มที่ดูเกียจคร้านไม่ใส่ใจ กลับยิ่งดูสงบนิ่งมั่นคงราวกับยกของหนักได้อย่างสบายนางเอ่ยขึ้นอย่างเกียจคร้าน "ใครจะรู้ล่ะ? อาจจะขาดหนูไม้ไผ่อยู่กระมัง"ปันอวิ๋นกลั้นหัวเราะไว้ไม่อยู่พอได้ยินหนูไม้ไผ่สองคำนี้ เขาก็รู้แล้ว ว่าตอนที่เขาไปทิ้งจดหมายที่บ้านไม้ไผ่ นางก็เดาได้แล้วว่าเขาทำอะไรเพียงแต่ไม่ได้พูดออกมาเท่านั้นเป็นหญิงสาวที่เจ้าเล่ห์กว่าจิ้งจอกเสียอีกปันอวิ๋นจุ๊ปาก "เจ้านี่ถึงตายไป สมองก็คงจะแล่นอยู่อย่างนี้สินะ?"จั๋วซือหรานแค่เหลือบมองเขา ไม่ได้พูดอะไร มุมปากกลับยกโค้งขึ้นบางๆหลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง คิ้วนางก็ขมวดขึ้นบางๆ"ทำไมหรือ?" ปันอวิ๋นเห็นการเปลี่ยนแปลงของสีหน้านาง จึงขมวดคิ้วเดินเข้ามา สองมือประคองบ่านางไว้อันที่จริงเป็นเพราะเขาไม่ค่อยได้เห็นสีหน้าทรมานจากหน้านางนัก นางมักจะทำเป็นเหมือนไม่เป็นไรเสมอแต่ตอนนี้ บนสีหน้า กลับดูทรมานขึ้นอย่างชัดเจนจากนั้น นางก็เหมือนจะยืน

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1255

    จั๋วหวายเกือบจะสำรอกออกมาแล้ว!"ถ้าจะอาเจียนก็ออกไปอาเจียนซะ ถ้าทำกู่กล่องนี้ของข้าพัง ข้าจะจับเจ้าแขวนห้อยหัวซะเลย" ปันอวิ๋นเอ่ยขึ้นเสียงเรียบจั๋วหวายหมุนตัวพุ่งออกไป สูดลมหายใจลึกหลายครั้งกว่าจะสงบลงมาได้ จากนั้นจึงเตรียมตัวเตรียมใจ ตอนที่เข้าไปอีกครั้งก็ไม่มีกระทบกระเทือนอย่างแรงแบบก่อนหน้าแล้วแต่สายตากลับไม่ได้มองไปยังแผ่นกระดานที่มีของดิ้นกระแด่วๆ นั่นมองแล้วขนลุกสุดๆ"มีเรื่องอะไร?" ปันอวิ๋นถามขึ้นเสียงเรียบจั๋วหวายเอ่ยเสียงต่ำ "ท่านรู้..." เขาสูดจมูก ถามออกไปว่า "ท่านรู้จักเฟิงเหยียนใช่ไหม?"ปันอวิ๋นเดิมทีกำลังป้อนอาหารเจ้าพวกดุ๊กดิ๊กพวกนั้นพอได้ยินคำนี้ การเคลื่อนไหวก็หยุดลงมา ไม่หันไปมองเขา ผ่านไปครู่หนึ่งจึงถามขึ้นเรียบๆ ว่า "ทำไมล่ะ?""ข้าอยากเจอเขา ข้าอยากจะถามเขา ว่าทำไมทำแบบนี้กับพี่ของข้า" จั๋วหวายขอบตาแดงรื้นเขาสูดหายใจลึกแล้วพ่นออกมา "ข้าเองก็อยากจะถามเขา ว่าช่วยพี่ข้าได้ไหม ถ้าหากไม่ได้ หรือก็คือเขาเป็นผู้ชายทรยศ ไม่ยินยอม เช่นนั้นเขามาบอกกับท่านพี่ได้ไหม ว่าให้เลิกแล้วต่อกันจบๆ ไป"ปันอวิ๋นพอได้ยินคำนี้ จะฟังความเสียใจในใจจั๋วหวายไม่ออกได้อย่างไรกั

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status