Share

บทที่ 1166

Author: หูเทียนเสี่ยว
ครู่ต่อมา จึงพูดออกมาว่า "เป็นแค่สำนักเมฆาวารี ไม่ถึงกับต้องมาทำเรื่องหน้าไหว้หลังหลอกแบบนี้"

จั๋วซือหรานหัวเราะเย็นชา "ก็แค่สำนักเมฆาวารี เรื่องอย่างการจับน้องชายข้ามาทำผู้ทดลองยาก็ยังทำออกมาได้ ยังมีเรื่องอะไรที่ทำไมได้อีกกัน เอาจริงๆ ถ้ากางเกงบ้านใครหายไปแล้วบอกว่าสำนักเมฆาวารีเป็นคนทำ ข้ายังรู้สึกว่าน่าจะเป็นไปได้เลยด้วยซ้ำ"

หวงเจี้ยนถังเหมือนคิดจะโต้แย้ง สูดลมหายใจลึก แต่ก็ไม่พูดอะไรออกมา

ถ้าบอกว่าวิชาหุ่นเชิดของเขาไม่เก่งกาจเท่าจั๋วซือหรานล่ะก็ ฝีปากของเขาเองก็ยังเทียบกับอีกฝ่ายไม่ได้ยิ่งกว่า

ผ่านไปพักหนึ่ง เขาจึงเอ่ยขึ้นว่า "แล้วเจ้าคิดจะทำอย่างไร นี่ก็ไม่ได้นั่นก็ไม่ถูก เจ้าคิดจะเอาอย่างไร"

จั๋วซือหรานเหลือบมองคนทั้งหมดที่นี่

จากนั้นก็ชี้ไปยังคนสำนักเมฆาวารีที่เข้ามารายงานหวงเจี้ยนถังก่อนหน้านี้คนนั้น

"ข้า...ข้าหรือ?" คนผู้นี้ตึงเครียดขึ้นมา และก็หวาดกลัวด้วย อย่าว่าแต่เดินขึ้นหน้าเลย กระทั่งคิดจะถอยหนีตามสัญชาตญาณด้วยซ้ำ

แต่จั๋วซือหรานก็ไม่ให้โอกาสนี้กับเขา

"เจ้านั่นล่ะ" จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้น จากนั้นนิ้วทังห้าก็กางออก

คนผู้นี้จึงพบว่าร่างกายของตนเองเดินขึ้นหน้าไปอย่างค
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1167

    เรื่องในโรงน้ำชาของจั๋วซือหราน ก็ราวกับติดปีกบินออกไปอย่างไรอย่างนั้น แพร่สะพัดทั่วเมืองอวิ๋นในพริบตาผู้คนในเมืองอวิ๋นล้วนคุยกันแต่หัวข้อสนทนาที่เกี่ยวกับนาง"จริงหรือเปล่า?" มีคนที่ไม่อยู่ในเหตุการ รู้สึกไม่อยากเชื่อกับหัวข้อสนทนานี้"จริงสิ! ข้าเห็นมากับตาเลย! ให้ตายเถอะ! ผู้อาวุโสหวงโดนเล่นงานเหมือนลูกหมาเลย! หญิงสาวคนนั้นดูแล้ว...น่าจะอายุยังไม่ยี่สิบด้วยซ้ำ!"คนที่เห็นเหตุการณ์นี้ พูดถึงฉากสถานการณ์ตอนนั้นขึ้นมาก็ยังรู้สึกตื่นเต้นไม้ว่าปกติพวกเขาจะยอมจำนนต่ออำนาจ ในเมืองอวิ๋น ตัวตนฐานะของสำนักเมฆาวารีไม่ใช่สิ่งที่ต้องสงสัยแต่ว่า ตอนที่คนเห็นอำนาจแข็งแกร่งถูกท้าทาย ยิ่งไปกว่านั้นยังท้าทายสำเร็จ จึงรู้สึกถึงอกถึงใจกันขึ้นมา"เพียงแต่ว่า นางพูดแบบนั้นหรือ? เช่นนั้นนางก็ไม่ใช่ว่าแข็งข้อกับเจ้าสำนักเมฆาวารีแล้วน่ะสิ? นั่นมัน...เจ้าสำนักเมฆาวารีเชียวนะ""เจ้าสำนักเมฆาวารีจะฉุดคร่าบุตรชายของคนอื่นมาเป็นผู้ทดลองยาได้ยังไง..." พูดถึงจุดนี้ เสียงคนที่นี่ก็กดต่ำลง งึมงำว่า "เอาจริงๆ ถ้าหากเจอกับครอบครัวทั่วไป คงได้ถูกฉุดไปเปล่าๆ แล้ว...ตอนนี้ถือว่ามาเจอตอเข้าจริงๆ"แม้จะจงใจกดเสี

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1168

    อาหารนางก็ทำเอง สุรานางก็หมักเองรสชาติถือว่าไม่เลวเลยยิ่งไปกว่านั้นเนื่องจากไล่ผู้จัดการกับพนักงานออกไปแล้ว เลยดูเงียบสงบขึ้นเยอะหลังจากนางดื่มไปสองถ้วย ก็แหงนหน้ามองเหลียนเจินผาดหนึ่ง "เหลียนเจินมาดื่มเป็นเพื่อนข้าสักสองถ้วยดีไหม?"เหลียนเจินตกตะลึง รีบโบกไม้โบกมือ ถอนออกมาสองก้าว "นายท่าน ข้าน้อยคอไม่แข็ง ยิ่งไปกว่านั้น...ยังต้องออกลาดตระเวณอีก!"จั๋วซือหรานจุ๊ปาก "ช่างเถอะ ก็จริง แผลบนตัวเจ้าก็ญังไม่หายดี คงจะดื่มสุราไม่ได้"ตอนนี้เอง ที่ประตูก็ได้ยินเสียงยานคางเฉื่อยชาที่แฝงไว้ด้วยความชั่วร้ายดังขึ้น "ถ้าอย่างนั้นข้าดื่มเป็นเพื่อนเจ้าสักสองกาดีไหม?"จั๋วซือหรานได้ยินเสียงนี้ ไม่ต้องหันหน้าไปมองประตู ก็รู้ว่าใครมานางจิบไปอีกทีหนึ่ง จึงเอ่ยขึ้นว่า "หุบเขาหมื่นพิษว่างขนาดนี้เชียว เจ้าหุบเขาถึงไม่ต้องกลับไปจัดการธุระปะปัง..."ปันอวิ๋นเดินเข้ามาทางประตู เดินขึ้นมาพลางตอบว่า "เป็นถึงเจ้าหุบเขาแล้ว ยังต้องมาจัดการธุระปะปังอะไรอีก ถ้าเป็นแบบนี้ ข้าจะขึ้นมาเป็นเจ้าหุบเขาให้ลำบากทำไมกัน"คำพูดของปันอวิ๋นก็ถูกใจจั๋วซือหรานมาก คล้ายคลึงกับทัศนคติชาติก่อนของนางมากก็จริง ข้าเป็นถ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1169

    "ขุดเจอแล้ว" จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้นปันอวิ๋นไม่พูดอะไร แหงนสองตาเรียวยาวมองจั๋วซือหรานเงียบๆดวงตาที่แฝงด้วยความเจ้าเล่ห์เย้าหยอกแต่เดิม ตอนนี้ดูจริงจังขึ้นอย่างเห็นได้ชัด"อะไรล่ะ?" ปันอวิ๋นถามจั๋วซือหรานยิ้ม "หน้าตาดี แล้วยังเป็นเจ้าหุบเขาหมื่นพิษ แล้วยังดูมีตัวตนฐานะด้วย...""ช่างมันเถอะ" พอฟังถึงตรงนี้ ปันอวิ๋นก็ยิ้มโบกไม้โบกมือ "ตัวตนนี้ถ้าเจ้าเห็นอยู่ในสายตาจริง ก็คงไม่ทิ้งข้าที่เมืองหยางเหมือนพวกชายเจ้าชู้แล้ว"จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้น "พูดแบบนี้ก็ไม่ได้นะ ไม่ต้องพูดถึงข้า อย่างน้อยคนอื่นก็ยังใส่ใจตัวตนฐานะของเจ้าอยู่นะ"ปันอวิ๋นเหลือบมองนางอย่างจนใจ หญิงสาวคนนี้ เหมือนนางจะแสดงออกอย่างชัดเจนว่า 'ไม่ได้เห็นตัวตนฐานะของเขาอยู่ในสายตาเลย'"แค่ท่าทีนี้ของสำนักเมฆาวารี ตัวตนฐานะโหวของข้า พวกเขายังไม่เห็นในสายตาเลย แต่เจ้าหุบเขาหมื่นพิษอย่างเจ้าน่าจะใช้ได้ผลอยู่" จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้นปันอวิ๋นไม่ใส่ใจกับเรื่องนี้ ยักไหล่ "แล้วยังไง? เจ้าจะบอกว่าอยากเป็นคนของหุบเขาหมื่นพิษเรอะ?"จั๋วซือหรานเอียงตามองเขา "เจ้าหุบเขาคำนี้พูดมาได้...วิชาแพทย์ของข้ายอดเยี่ยมขนาดนี้ วิชากู่ก็สูงส่ง วิชาหุ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1170

    ปันอวิ๋นมองนาง ในสายตามีความไม่อยากเชื่อจั๋วซือหรานเองก็ไม่รู้สึกว่ามีอะไรน่าขอโทษ จึงแหงนตามองเขา"เจ้า..." ปันอวิ๋นเอ่ยขึ้นด้วยสายตาไม่อยากเชื่อ "ทิ้งข้าที่เมืองหยางเหมือนพวกชายชู้""อา" จั๋วซือหรานขานรับคำหนึ่งสายตาปันอวิ๋นยิ่งไม่อยากเชื่อขึ้นไปอีก "แต่เจ้ากลับ....สงสารแมลงทั้งเจ็ดตัว""อา" จั๋วซือหรานฟังออกถึงความหมายเขาแล้ว แต่ก็อดหัวเราะขึ้นมาไม่ได้ปันอวิ๋นขมวดคิ้ว "ข้าสู้แมลงเจ็ดตัวก็ไม่ได้หรือนี่?"จั๋วซือหรานหลังจากฟังออก ก็เผยรอยยิ้มที่สมบูรณ์แบบออกมายิ้มตาโค้งพูดกับปันอวิ๋นว่า "จะทำแบบนั้นได้ยังไงกัน...เจ้าหุบเขาอย่าดูถูกตนเองแบบนี้เลย เจ้าหิวหรือยัง? ข้าต้มหมี่ให้กินไหม?"นี่คือจะเปลี่ยนหัวข้อสนทนาแล้ว?ไร้ทักษะสุดๆ แข็งทื่อเหลือเกินแต่ปันอวิ๋นมองท่าทางยิ้มตาโค้งของนาง ก็สูดลมหายใจลึก หยุดลงไปครู่หนึ่ง พยักหน้าให้ "เอาสิ"จั๋วซือหรานยังคงยิ้มตาโค้ง ตอบกลับมาว่า "เอาสิหรือ? เช่นนั้นเจ้าหุบเขาก็รับปากแล้วใช่ไหม?"ปันอวิ๋นอืมมาทีหนึ่ง "ก็แค่เรื่องแมลงกู่ไม่กี่ตัวเท่านั้น เรื่องเล็กน้อย ยิ่งไปกว่านั้น เจ้าเจ็ดตัวในมือเจ้า แม้จะไม่รู้ว่าเจ้าเลี้ยงมาอย่างไร แต่

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1171

    จั๋วซือหรานเหลือบมองเขาผาดหนึ่ง "ไม่มีอะไรที่ลงมือไม่ได้หรอก ก่อนหน้านี้ข้าบอกกับพวกเขาไว้แล้ว ว่าคนอย่างข้า ไม่มีนิสัยเป็นจอมเชือด แต่ก็ไม่ใช่ว่าฆ่าคนไม่เป็น"เสียงของนางไม่มีความอบอุ่นใด "แต่พวกเขาถ้าจะต้องตาย ก็ต้องไปบนเนินเขาเมฆาวารีก่อนแล้วค่อยตาย"ปันอวิ๋นเห็นจิตสังหารที่ไม่ปิดบังในแววตานางคนที่มีเมตตาและความคมกล้าด้วยเท่านั้น จึงจะแข็งแกร่งอย่างแท้จริงปันอวิ๋นเพียงไม่นานก็ไปช่วยนางหลอมแมลงกู่แล้วจั๋วซือหรานเองก็กลับไปในห้อง ในสมองนางแทบจะระเบิดแล้วน่าจะเพราะก่อนหน้านี้บทสนทนาของนางกับปันอวิ๋น เจ้าเจ็ดตัวน้อยก็ซาบซึ้งอยู่ในจิตใต้สำนึกนางจนร้องไห้กันอย่างหนักร้องกันจนนางปวดหัว!ตอนที่กลับมาถึงห้อง จั๋วซือหรานจึงแยกจิตสำนึกส่วนหนึ่ง เข้าไปบอกกับพวกมันว่า "เอาล่ะ ไม่ต้องร้องแล้ว สมองข้าจะถูกเสียงร้องไห้พวกเจ้าระเบิดทิ้งอยู่แล้ว"ขนมชาเขียวสะอึกสะอื้นเอ่ยว่า "ข้าซาบซึ้ง...""จะซาบซึ้งก็กลั้นเอาไว้ก่อน" จั๋วซือหรานยกมือกดที่ขมับน่าจะเพราะก่อนหน้านี้ทั้งเจ็ดตัวร้องไห้ระงมจนปวดขมอง ดังนั้นนางจึงไม่ทันได้สังเกตแต่หลังจากที่สังเกตดู นางก็ขมวดคิ้ว มีปฏิกิริยาขึ้นมาทำไม

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1172

    "พวกเขาจะจับข้าไปเป็นผู้ทดลองยา!" จั๋วหวายยิ่งรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรม มีเสียงสะอื้น "พวกเขาจะโยนข้าเข้าไปในหลุมที่มีแต่แมลง แล้วยังกรอกยาขมๆ ให้ยาอีกตั้งเยอะ!""ดังนั้นเด็กโง่อย่างเจ้าน่ะมันโง่หรือเปล่า? ทำไมถึงเดินไปกับเขาอย่างว่าง่ายแบบนั้น" จั๋วซือหรานทั้งโมโห ทั้งเป็นห่วง ถามขึ้นอย่างจนใจจั๋วหวายสูดน้ำมูก เสียงขึ้นจมูกเพราะร้องไห้มา น้ำหูน้ำตาไหล ฟังแล้วน่าสงสารยิ่งกว่าเดิมเขาเอ่ยขึ้นเสียงแผ่ว "เพราะสุ่ยเชียนโยวคนนั้น นางสวยมาก"จั๋วซือหราน "..."นางพูดไม่ออกจริงๆ ไม่เคยเห็นเด็กที่แสดงออกว่าชอบผู้หญิงตรงๆ แบบนี้มาก่อนเลย"นี่ถ้าตอนนี้ข้าไม่ได้ระงับอารมณ์ไว้ เด็กอย่างเจ้าคงถูกข้าจับแขวนอัดไปแล้ว เจ้าเด็กกะล่อน!" จั๋วซือหรานตะคอกขึ้น "กลับไปก่อนจะสั่งสอนเจ้า"เสียงของจั๋วซือหรานเข้มงวดมาก ทำเอาจั๋วหวายตัวสั่นขึ้นมาในสายตาเขา พี่สาวพึ่งพาได้กว่าใครทั้งหมด!แต่บางครั้ง พี่สาวเองก็น่ากลัวกว่าอะไรทั้งหมดด้วย!เขาลนลานขึ้นมาทันที รีบพูดขึ้นว่า "ท่านพี่ ข้า ข้าไม่ได้หมายความว่าอย่งนั้น! สุ่ยเชียนโยวคนนั้น หน้าตาคล้ายท่านเลย! ข้าเลยรู้สึกอยากรู้อยากเห็น ดังนั้นจึงเข้าใกล้นา

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1173

    ่จั๋วหวายแลบลิ้น "ข้ารู้สึกว่าเรื่องมันไม่ได้ง่ายขนาดนั้น ยิ่งไปกว่านั้นเรื่องนี้ ก็ยังไม่เคยหารือกับท่านด้วย ข้าเองก็ไม่กล้าบุ่มบ่ามไปทำ"ความเลื่อมใสและความไว้ใจที่จั๋วหวายมีให้พี่สาวนั้น ไม่มีสิ่งใดเทียบได้ไม่ว่าคนอื่นจะพูดอย่างไร ถ้าหากเป็นเรื่องเล็กก็ช่างมัน แต่ในเรื่องใหญ่แบบนี้ เขาจะต้องหารือกับพี่สาวแน่นอน"ยิ่งไปกว่านั้น ข้ารู้สึกว่านางป่วยเป็นแบบนั้น พี่สาวเองก็ไม่แน่ว่าจะรักษาไม่ได้ ไม่มีความจำเป็นต้องให้ข้ามาเป็นผู้ทดลองยาด้วย" จั๋วหวายเอ่ยขึ้นพอได้ยินคำนี้ จั๋วซือหรานก็เขกไปที่หน้าผากเขาทีหนึ่ง "ก็ยังไม่ถึงกับโง่นักนี่ น้องชายของจั๋วซือหราน ถ้าโง่ถูกคนจับไปเป็นคนทดลองยาได้ล่ะก็ คงจะน่าขำน่าดู""ดังนั้น ท่านพี่รักษาได้ไหม?" จั๋วหวายถาม"น่าจะได้กระมัง" จั๋วซือหรานเอ่ยเสียงเรียบ เหมือนไม่ได้แยแสกับเรื่องนี้นัก จากนั้นนางจึงหัวเราะขึ้นมาเบาๆ "แต่ข้าไม่มีทางรักษาให้นางหรอก"จั๋วหวายความคิดยังใสซื่อ น่าจะยังโง่อยู่หน่อยๆ ยังรู้สึกเสียดาย "อา อย่างนั้นหรือ..."จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้น "เจ้าเด็กโง่นี่ยังจะเสียดายแทนคนอื่นอีกหรือ? เจ้าคิดว่าคนอื่นเขาจะให้เจ้าเป็นแค่ผู้ทดลองยา

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1174

    บวกกับคุณสมบัติร่างกายของเจ้าเด็กนี่กับนางคล้ายคลึงกัน แข็งแกร่งสุดๆ ทรหดราวกับสุนัขป่า ไม่แปลกใจที่ใครๆ ต่างก็หมายปองกระดูกนี้สรุปคือ เนื่องจากสถานการณ์ยังไม่หนักหนา ดังนั้นจั๋วซือหรานกระทั่งไม่ต้องจ่ายยาอะไรให้นางเลยด้วยซ้ำฝังเข็มไปรอบหนึ่ง จากนั้นก็ยัดยาลูกกลอนไปอีกสองเม็ด เจ้าเด็กนี่ที่ทรหดเหมือนสุนัขป่า ก็คาดว่าน่าจะหายดีแล้วเข็มก็แทงลงไปแล้วจั๋วซือหรานลูบมือผ่าน หางเข็มทองก็สั่นไหวขึ้นมา"อุ๊...!" จั๋วหวายครางขึ้นมาอย่างทนไม่ไหวการหมุนเข็มก่อนหน้านี้ของนางก็ทำเขาร้องอ๊าวๆ แล้ว นั่นเพราะมันปวดแต่ตอนนี้ไม่ใช่เพราะปวด แต่เป็นความรู้สึกที่แย่กว่านั้น ในกระดูกเหมือนมีมดมาวิ่งไต่อย่างไรอย่างนั้นรู้สึกแย่กว่าความเจ็บปวดเสียอีกเด็กหนุ่มวัยรุ่นกัดฟันแน่น จั๋วซือหรานนั่งจิบชาอย่างใจเย็นอยู่ข้างๆจากนั้นจึงฝังเข็มให้เขาอย่างไม่รีบร้อนจั๋วหวายรู้สึกทันที เหมือนจะกระปรี้กระเปร่าขึ้นมาทั้งตัว ในที่สุดก็ได้สัมผัสความสุดยอดวิชาแพทย์ของพี่สาวเสียทีตอนที่เหลียนเจินเข้ามารายงาน พอเห็นจั๋วหวาย ก็ตกตะลึงไป"นี่..." เหลียนเจินตกตะลึง"โอ้" จั๋วซือหรานแนะนำให้ "น้องชายข้า จั๋วหว

Latest chapter

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1263

    ท่าทีของเฟิงเหยียน ไม่ถือว่ากระตือรือร้นมากนัก กระทั่งค่อนข้างเย็นชาด้วยซ้ำแต่ก็เป็นเรื่องปกติ หลังจากที่เขาออกจากสำนักในตอนนั้น ก็ไม่ได้มีความฮึกเหิมเหมือนสมัยครั้งยังเด็กอีกมักจะเย็นชา และมักจะเฉยเมยปันอวิ๋นเม้มริมฝีปาก เข้าใจถึงสาเหตุนั้นสภาพการณ์ตอนที่เฟิงเหยียนออกจากสำนักครั้งนั้น เขาเองก็รู้เป็นอย่างดีต่อให้จนถึงตอนนี้ ก็ยังจดจำได้อย่างชัดเจนเพราะเฟิงเหยียนถูกทรยศเป็นคนแรก ดังนั้น ตอนนั้นพวกเขาก็อยู่ในฐานะคนที่ยังไม่ถูกทรยศอันที่จริง จะมากน้อยก็ยังมีความสงสัยว่าถ้าไม่อยู่ในสถานการณ์เดียวกันก็คงไม่เข้าใจอยู่พวกเขารู้สึกว่าเฟิงเหยียนทำเรื่องเล็กเป็นเรื่องใหญ่ เป็นเฟิงเหยียนที่ไม่รู้จักบุญคุณพวกเขารู้สึกว่า เป็นเฟิงเหยียนที่ทำไม่ถูกเฟิงเหยียนเป็นคนอกตัญญูจนต่อมา ต่อมาของต่อมา ทุกคนทยอยกันเดินบนเส้นทางของเฟิงเหยียน ใครก็หนีไม่พ้นการทรยศหรือใช้ประโยชน์ทั้งนั้นตามหลักแล้วควรจะยอมรับชะตากรรมอย่างที่เคยเตือนเฟิงเหยียนเอาไว้ในตอนนั้น และมองว่าสิ่งนั้นเป็นการบ่มเพาะและการให้ความสำคัญจากสำนักแต่เพระาอะไร...ถึงได้ดีใจกันขึ้นมาไม่ได้เลยและหลังจากนั้นอีก แต่ละคนก็ทร

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1262

    ดังนั้นเขาจึงยังไม่กล้าไปกอดนางไว้แบบนี้ตลอด คอยอยู่ด้วยเงียบๆแต่เขากลับไม่ง่วงเลย ไม่ได้หลับ ไม่ได้ปิดตาด้วยแค่มองนางเงียบๆ สัมผัสถึงความร้อนในตัวนางกับชีพจรนางกระทั่งตัวเขาเองก็ยังบอกไม่ได้ว่าเพราะอะไร แต่ก็มีความรู้สึกอย่างหนึ่ง...รู้สึกสงบใจอย่างมากราวกับว่า ทั้งหมดเปลี่ยนเป็นสมบูรณ์แบบแล้วทั้งที่ความทรงจำในอดีตยังไม่กลับคืนเข้าที่ แต่ความรู้สึกนี้ เหมือนสลักประทับอยู่ในจิตวิญญาณอย่างไรอย่างนั้น ยากที่จะลบเลือนจนกระทั่งลมหายใจของจั๋วซือหรานมั่นคงแล้ว สีหน้ายิ่งมีประกายแดง สภาพดีขึ้นมากแล้วเขามองไปที่คราบเลือดแห้งกรังเหล่านั้นบนใบหน้าจั๋วซือหราน รู้สึกเสียดแทงตาเหลือเกินจึงได้เคลื่อนไหวเบาๆ เดินออกไปด้านนอก กำชับคนรับใช้ให้เตรียมน้ำร้อนมาไม่ให้คนรับใช้เข้ามาปรนนิบัติ แต่เขาหิ้วถังน้ำเข้ามาเองเขาอุ้มนางมาแช่ในถังน้ำ คอยสระชำระเส้นผมนางทีละเล็กทีละน้อย เช็ดคราบเลือดบนผิวนางออกอาบตัวนางจนสะอาดหมดจด อุ้มกลับไปบนเตียง ใช้ผ้าห่มห่อตัวนางจากนั้นจึงใช้พลังวิญญาณธาตุไฟบริสุทธิ์ เป่าผมนางจนแห้งและเพราะมีกลิ่นอายของเขาห่อหุ้มอยู่ จั๋วซือหรานจึงหลับลึกอย่างสบาย ไม่ตื

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1261

    พลังศักดิ์สิทธิ์หงส์แดงที่บริสุทธิ์ที่สุด ถูกส่งผ่านเข้ามาอย่างนั้นจั๋วซือหรานมีความรู้สึกเหมือนตนเองถูกแช่ไว้ในน้ำอุ่น เป็นความรู้สึกที่สบายอย่างที่สุดในลำคอก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมาด้วยความสบายยิ่งไปกว่านั้น คนเราก็เหมือนจะเป็นเช่นนี้เดิมทีก็ไม่ได้รู้สึกว่าตนเองลำบากยากเย็นอะไรนักแต่ตอนที่ร่างกายสามารถผ่อนคลายลงมาได้ ไม่รู้สึกเจ็บปวดทรมานอีกแล้วพอย้อนคิดไปถึงความยากลำบากเหล่านั้นก่อนหน้า กลับรู้สึกว่าตนเองน่าสงสารขึ้นมาจั๋วซือหรานตอนนี้ก็รู้สึก ว่าตนเอง...ไม่ค่อยได้รับความเป็นธรรมเท่าไรชายคนนี้ เจ้าคนสมควรตายนี่มีสิทธิ์อะไร?มีสิทธิ์อะไรกัน?"..." ชายหนุ่มรู้สึกเจ็บที่ปลายลิ้นเขาขมวดคิ้ว รสชาติคคาวหวานของเลือดแผ่ซ่านในร่องฟันของทั้งสองคนเขามองหญิงสาวตรงหน้า ก็เห็นแววตาของนางมีความหงุดหงิดอยู่หน่อยๆแล้วยังมีสีหน้าท้าทายอีกด้วยดูเหมือนจะจงใจกัดปลายลิ้นเขา น่าจะโมโหเอาการชายหนุ่มไม่ครางออกมาเลย ราวกับไม่รู้สึกเจ็บอย่างไรอย่างนั้นยิ่งไปกว่านั้นยังไม่ใส่ใจ ปลายลิ้นยังโถมใส่นางอย่างเร่าร้อนรุนแรงถ้านางอยากได้ ก็ต้องแล้วแต่นางจั๋วซือหรานดูจนใจหน่อยๆ แต

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1260

    เหมือนว่าความทรมานทั้งหมดก่อนหน้านี้ ไม่ได้ทรมานอะไรขนาดนั้นและไม่รู้ว่าเจ้าโง่นี้ใช้แรงกระแทกนางมากแค่ไหน...มีหลายครั้ง ที่นางรู้สึกได้ว่า ในมิตินี้เหมือนสั่นไหวขึ้นมาราวกับวิญญาณของนางที่ถูกขังอยู่ในมิติ จะถูกดันกลับเข้าไปที่เดิมเลยจั๋วซือหรานถลึงตาโตขึ้นหน่อย จ้องมองมิติที่โยกไหวหน่อยๆรู้สึกหมดคำจะพูดแมงมุมน้อยงึมงำขึ้นมาข้างๆ "นายท่าน...ในนี้มัน...ร้อนจัง..."จั๋ซซือรหานมองไปทางเหล่าสัตว์อสูรของตนเอง มองออกไม่ยาก พวกมันเหมือนเริ่มมึนๆ จะหลับกันแล้ว พอเห็นแบบนี้ ก็เหมือนจะไม่ได้แตกต่างอะไรนักกับสถานการณ์ครั้งที่แล้วเพียงแต่ครั้งที่แล้ว ตนเองถูกทำจนเกือบจะสลบไปและตอนนี้ ตนเองถูกทำ...จนใกล้จะตื่นขึ้นมาแล้วผู้ชายคนนี้...ร้ายกาจจริงๆนี่มันช่าง....สัมผัสแนบเนื้อบนตัวนางมีเหงื่อบางๆ ชั้นหนึ่ง ผิวที่เคยขาวซีดไปทั้งตัว ตอนนี้พอมีเม็ดเหงื่อเกาะอยู่ จึงยิ่งดูเป็นประกายระยิบระยับขึ้นมาและไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน..."อือ..." หญิงสาวที่ไม่มีปฏิกิริยามาตลอด ริมฝีปากที่ยังมีรอยเลือดที่ยังเช็ดไม่สะอาด ส่งเสียงครางออกมาเหมือนลูกแมวตัวน้อยฟังดูแล้วเป็นเสียงอือๆ งึมงำๆน

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1259

    ในใจจั๋วหวายเข้าใจอย่างหนักแน่นว่าเฟิงเหยียนคือผู้ชายทรยศแต่ว่านี่ไม่ได้เป็นอุปสรรคที่ทำให้เขาคิดว่าเฟิงเหยียนจะทำให้พี่สาวดีขึ้นได้คนเราก็มักมีสองมาตรฐานเช่นนี้ ไม่มีทางเลือกดังนั้นจั๋วหวายแม้จะไม่ได้เน้นหนักว่าผู้ชายทรยศคนนั้นคือผู้ชายทรยศ แต่ก็ยังถามขึ้นว่า "เขาจะพาพี่สาวข้าไปไหน?"ปันอวิ๋นได้ยินคำนี้ สายตาก็ลึกซึ้งขึ้นมา "นั่น...เป็นเรื่องของผู้ใหญ่เขา เด็กๆ ไม่ต้องถามเยอะ"จั๋วหวายเบ้ปาก ในใจก็บ่นว่าตนเองไม่ใช่เด็กแล้วเสียหน่อยแต่ปันอวิ๋นในที่สุดก็ไม่ได้บอกจั๋วหวาย ว่าเฟิงเหยียนจะพาจั๋วซือหรานไปที่ไหนในใจปันอวิ๋นชัดเจนดี สภาพของจั๋วซือหรานแย่หนักถึงระดับนี้แล้ว ขนาดยาก็ยังดื่มไม่ลงถ้าคิดจะใช้พลังศักดิ์สิทธิ์ปลอบประโลมตัวนาง รวมถึงปลอบประโลมลูกในท้องนาง...วิธีการที่ดีที่สุด คือสิ่งนั้นอย่างไม่ต้องสงสัยสติสัมปชัญญะของจั๋วซือหรานไม่ได้หลับลึกอย่างสมบูรณ์ ในมิติยังสัมผัสรับรู้ได้ถึงสภาพแวดล้อมรอบๆความรู้สึกนั้น เหมือนกับสติสัมปชัญญะถูกขังอยู่ในมิติอย่างไรอย่างนั้นนางจึงเป็นได้เพียงแค่ผู้ชมเท่านั้น"เฮ้อ ดูท่าเขาจะใช้วิะีนั้นสินะ" จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้นขนมถั่วแดงกั

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1258

    แต่ว่าชายหนุ่มยังคงไม่ตอบเขาเขาเพียงยกมือขึ้นมา สะบัดแขนเสื้อ เผยท่อนแขนออกมาจากในแขนเสื้อจั๋วหวายจึงเห็นว่าท่อนแขนของชายคนนี้ มีลายมัดกล้ามที่สวยงาม กระชับเรียวยาวผิวเองก็ขาวเย็น ไม่รู้ว่าเพราะปกติไม่ค่อยโดนแสงแดดหรือเปล่าและตอนนี้เอง ผิวหนังขาวเย็นที่โผล่ออกมานอกแขนเสื้อพอต้องกับแสงตะวัน จั๋วหวายก็รู้สึกเหมือนขาวจนสะท้อนแสงออกมาเลย!จากนั้น หลังจากสัมผัสกับแสง ก็ค่อยๆ รอยแผลเหมือนไฟลวกที่ค่อยๆ แดงขึ้น ก็ปรากฏมาบนท่อนแขนเขาไม่เพียงเท่านี้ หลังจากที่รอยไหม้เหล่านี้ปรากฏ ท่อนแขนเขาก็มีอักขระประหลาดบางส่วนปรากฏขึ้นมาอย่างรวดเร็วพออักขระคำสาปปรากฏ บาดแผลเผาไหม้พวกนั้นก็ถูกสะกดลงไป บาดแผลบนผิวหนังเริ่มสมานตัวกลับเหมือนเดิม หลังจากแผลสมานดี อักขระคำสาปเหล่านั้นก็ค่อยๆ สลายหายไปบนผิวหนังเขาแต่ไม่นานนัก ก็ปรากฏแผลไฟลวกอีกครั้ง อักขระเหล่านั้นก็ปรากฏขึ้นมาอีกซ้ำไปซ้ำมาแบบนี้ ดูแล้วทำให้คน...รู้สึกประหลาดมากจั๋วหวายมองจนบื้อไปเลยและชายหนุ่มก็ไม่ได้ใส่ใจกับแผลที่หายแล้วก็เกิด เกิดแล้วก็หายพวกนี้เลย ราวกับเหมือนมองไม่เห็นอย่างไรอย่างนั้นและก็เหมือนไม่ได้เจ็บได้ปวดเลย แม้ต

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1257

    เหมือนว่าพอสายตามองเห็นหญิงสาวในอ้อมกอดปันปวิ๋นที่เหมือนลมพัดก็สลายหายไปได้ ตอนนั้นเอง สัมผัสทั้งหมดก็เหมือนหายวับไปในพริบตาดวงตามองไม่เห็นสิ่งใดอีกแล้ว หุเองก็ไม่ได้ยินเสียงอื่นใดอีกความรู้สึกเดียวที่เหลืออยู่คือความเจ็บปวดรุนแรงเหมือนมีดกรีดกลางใจ ไม่เพียงเท่านี้ สมองก็เหมือนถูกของมีคมกวนคนอย่างไรอย่างนั้น เจ็บขึ้นมาเป็นระยะๆยิ่งเจ็บ ก็ยิ่งอยากจะมองนางให้ชัดจเน ไม่อยากพลาดไปแม้แต่น้อยปันอวิ๋นพอเห็นร่างของเขา และกลิ่นอายนั่นบนตัวปันอวิ๋นในที่สุดก็ถอนใจโล่ง เขามาได้เสียที..."เจ้าหุบเขา?" ศิษย์สำนักข้างๆ ยังระแวดระวังอยู่ปันอวิ๋นบอกกับศิษย์สำนักเสียงเรียบว่า "เขาไม่ทำอะไรหรอก"ศิษย์สำนักพอได้ยินคำนี้ จึงถอนใจโล่งออกมา เพราะตอนที่พวกคนคุ้มกันขวางเขาเมื่อครู่มันเกินต้านแล้วจริงๆปรมาจารย์กู่อย่างพวกเขาเดิมทีก็แพ้ธาตุไฟอยู่แล้ว และชายคนนี้ก็เหมือนจะมีธาตุไฟระดับสูงด้วยพวกเขาไม่มีความสามารถจะไปทัดทานได้เลยปันอวิ๋นพอเห็นร่างสูงใหญ่ตรงหน้า ก็คิดในใจ ยังจะงงอะไรอยู่เล่า ถ้าเจ้ายังงงอยู่ หญิงสาวคนนี้จะไม่ไหวแล้วนะ!"โอ๊ค..." ในปากจั๋วซือหรานมีเลือดสดทะลักออกมาและมือข้างนั

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1256

    ราวกับว่า...ต่อให้นางจะดูอ่อนแอเหมือนกดให้ตายได้ด้วยนิ้วเดียวแต่ยังคงไม่ยอมให้คนรู้สึกว่าอ่อนแอ ยังคงทำให้คนรู้สึกว่า ถ้าหากอยากจะเป็นศัตรูกับนาง ก่อนนางตายก็จะลากเจ้าลงนรกไปด้วยกันตอนนี้รอยยิ้มที่ดูเกียจคร้านไม่ใส่ใจ กลับยิ่งดูสงบนิ่งมั่นคงราวกับยกของหนักได้อย่างสบายนางเอ่ยขึ้นอย่างเกียจคร้าน "ใครจะรู้ล่ะ? อาจจะขาดหนูไม้ไผ่อยู่กระมัง"ปันอวิ๋นกลั้นหัวเราะไว้ไม่อยู่พอได้ยินหนูไม้ไผ่สองคำนี้ เขาก็รู้แล้ว ว่าตอนที่เขาไปทิ้งจดหมายที่บ้านไม้ไผ่ นางก็เดาได้แล้วว่าเขาทำอะไรเพียงแต่ไม่ได้พูดออกมาเท่านั้นเป็นหญิงสาวที่เจ้าเล่ห์กว่าจิ้งจอกเสียอีกปันอวิ๋นจุ๊ปาก "เจ้านี่ถึงตายไป สมองก็คงจะแล่นอยู่อย่างนี้สินะ?"จั๋วซือหรานแค่เหลือบมองเขา ไม่ได้พูดอะไร มุมปากกลับยกโค้งขึ้นบางๆหลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง คิ้วนางก็ขมวดขึ้นบางๆ"ทำไมหรือ?" ปันอวิ๋นเห็นการเปลี่ยนแปลงของสีหน้านาง จึงขมวดคิ้วเดินเข้ามา สองมือประคองบ่านางไว้อันที่จริงเป็นเพราะเขาไม่ค่อยได้เห็นสีหน้าทรมานจากหน้านางนัก นางมักจะทำเป็นเหมือนไม่เป็นไรเสมอแต่ตอนนี้ บนสีหน้า กลับดูทรมานขึ้นอย่างชัดเจนจากนั้น นางก็เหมือนจะยืน

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1255

    จั๋วหวายเกือบจะสำรอกออกมาแล้ว!"ถ้าจะอาเจียนก็ออกไปอาเจียนซะ ถ้าทำกู่กล่องนี้ของข้าพัง ข้าจะจับเจ้าแขวนห้อยหัวซะเลย" ปันอวิ๋นเอ่ยขึ้นเสียงเรียบจั๋วหวายหมุนตัวพุ่งออกไป สูดลมหายใจลึกหลายครั้งกว่าจะสงบลงมาได้ จากนั้นจึงเตรียมตัวเตรียมใจ ตอนที่เข้าไปอีกครั้งก็ไม่มีกระทบกระเทือนอย่างแรงแบบก่อนหน้าแล้วแต่สายตากลับไม่ได้มองไปยังแผ่นกระดานที่มีของดิ้นกระแด่วๆ นั่นมองแล้วขนลุกสุดๆ"มีเรื่องอะไร?" ปันอวิ๋นถามขึ้นเสียงเรียบจั๋วหวายเอ่ยเสียงต่ำ "ท่านรู้..." เขาสูดจมูก ถามออกไปว่า "ท่านรู้จักเฟิงเหยียนใช่ไหม?"ปันอวิ๋นเดิมทีกำลังป้อนอาหารเจ้าพวกดุ๊กดิ๊กพวกนั้นพอได้ยินคำนี้ การเคลื่อนไหวก็หยุดลงมา ไม่หันไปมองเขา ผ่านไปครู่หนึ่งจึงถามขึ้นเรียบๆ ว่า "ทำไมล่ะ?""ข้าอยากเจอเขา ข้าอยากจะถามเขา ว่าทำไมทำแบบนี้กับพี่ของข้า" จั๋วหวายขอบตาแดงรื้นเขาสูดหายใจลึกแล้วพ่นออกมา "ข้าเองก็อยากจะถามเขา ว่าช่วยพี่ข้าได้ไหม ถ้าหากไม่ได้ หรือก็คือเขาเป็นผู้ชายทรยศ ไม่ยินยอม เช่นนั้นเขามาบอกกับท่านพี่ได้ไหม ว่าให้เลิกแล้วต่อกันจบๆ ไป"ปันอวิ๋นพอได้ยินคำนี้ จะฟังความเสียใจในใจจั๋วหวายไม่ออกได้อย่างไรกั

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status