แชร์

บทที่ 1012

ผู้เขียน: หูเทียนเสี่ยว
จั๋วซือหรานรู้ ตนเองเดิมพันไว้แล้ว

"เจ้าถามได้อีกสองข้อ"

"ขอสาม" จั๋วซือหรานต่อรอง

เฟิงอวี้เหมือนจะรำคาญ คิ้วขมวดแน่น แต่กลับไม่พูดปฏิเสธอะไร

จั๋วซือหรานถาม "ตอนนั้น ท่านสมัครใจหรือเปล่า"

สายตาคมเหมือนกระบี่ของเฟิงอวี้จู่ๆ ก็มองไปทางจั๋วซือหราน "เจ้านี่กล้าหาญเสียจริง เจ้ารู้ไหมว่าตนเองถามอะไรออกมา"

"รู้สิ" จั๋วซือหรานพยักหน้าอย่างตั้งใจ "ข้ากำลังถาม ว่าท่านตอนนั้นเป็นเหมือนเฟิงเหยียนที่จำข้าไม่ได้ เรื่องที่เสียความทรงจำเกี่ยวกับภรรยาไป ท่านสมัครใครหรือเปล่า?"

เฟิงอวี้จ้องมองตานาง กัดฟันตอบเสียงลอดไรฟันมาคำหนึ่ง "ใช่"

จั๋วซือหรานลมหายใจสับสนขึ้นมา ถามคำถามที่สองต่อ "เช่นนั้น เฟิงเหยียนที่สูญเสียความทรงจำตัวข้าไป เรื่องนี้เขาก็สมัครใจอย่างนั้นหรือ?"

สายตาเฟิงอวี้ยังคงจ้องที่นาง ไม่ได้ย้ายไปไหน เขาไม่ได้ตอบทันที แต่ถามมาว่า "เด็กน้อย เจ้ารู้เรื่องพวกนี้แล้วมันมีความหมายอะไร? ขอเตือนเจ้าไว้นะ ตอนที่ควรจะดูแลตัวเองก็ดูแลตัวเองไปซะ ตอนนี้เจ้เาองก็มีความสุขดีอยู่ไม่ใช่หรือ?"

จั๋วซือหรานเม้มปากแน่น ฟันในปากออกแรงกัดแน่น ในปากมีกลิ่นคาวเลือดแผ่ออกมา นางเอ่ยขึ้นว่า "นั่นมันเรื่องของข้
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1013

    ดวงตาของเฟิงอวี้ ราวกับมีสีแดงเลือดแผ่ขยายออกมา "หลังจากนั้นรึ?""ข้ารู้การตัดสินใจของพวกเขา และรู้ว่าการมีลูกให้กับคนที่แบกพลังศักดิ์สิทธิ์หงส์แดงไว้มันอันตรายแค่ไหน ดังนั้นจึงตัดสินใจไว้แล้ว ข้ากับเสวี่ยเจินชีวิตนนี้จะไม่มีลูกกัน"พวกเขาบอกกับข้าว่า จะปล่อยข้าไปก็ได้อยู่ แต่ถ้าข้าอยากให้เสวี่ยเจินอยู่รอดปลอดภัย ก็ต้องให้ตระกูลมีคนที่จะแบกโชคชะตาอีกคนปรากฏขึ้นมา แต่เนื่องจากพฤติกรรมการหลบหนีของข้ากับเสวี่ยเจินก่อนหน้านี้ ทำให้พวกเขาไม่สามารถเชื่อใจข้าได้แล้วดวงตาจั๋วซือหรานเบิกโพลงขึ้นมา เหมือนพอจะเดาถึงสถานการณ์ภายหลังนี้ได้ "พวกเขาเลยลบความทรงจำของทม่าน""ใช่ พวกเขากลัวข้าจะหนีไปกับเสวี่ยเจินอีก เลยจะลบความทรงจำข้าออกไป" เฟิงอวี้ตอบ "ข้าจึงรับปากไป""เพราะอะไร?" จั๋วซือหรานเม้มปาก "นั่นมัน...อาจจะเป็นกับดักชัดๆ"อันที่จริงที่จั๋วซือหรานอยากพูดคือนั่นมันเป็นกับดัก นางพูดอ้อมลงหน่อยเฟิงอวี้หัวเราะขึ้นเสียงหนึ่ง ฟังแล้ว...เย็นชามาก เขาไม่ได้อ้อมค้อม เขาเอ่ยขึ้นว่า "นั่นล่ะคือกับดัก""แต่ข้าตอนนั้นคิดว่า ถ้านั่นเป็นกับดักข้าก็ต้องยอมแล้ว พวกเขาก็แค่อยากให้ข้าเป็นคนแบกโชคชะตาตร

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1014

    จั๋วซือหรานพอได้ยินเขาพูดถึงจุดนี้ ก็รู้ว่าเรื่องในอดีตเหมือนจะจบลงแล้ว นางก็เหมือนคนที่เพิ่งยกภาระออกจากอก ถอนหายใจยาวออกมาเงียบๆเฟิงอวี้นั่งอยู่บนเก้าอี้ ท่าทางดูแล้วไม่ได้เย็นเยียบเหมือนก่อนหน้าขนาดนั้นแล้วมองออกไม่ยาก เขาก็เหมือนเพิ่งยกภาระออกจากอกเช่นกันมีแต่ฟ้าที่รู้ว่าเขาแบกเรื่องนี้ไว้มานานแค่ไหน คำพูดเมื่อครู่นี้ คือคำตอบที่ให้กับนาง ขณะเดียวกันอาจจะเป็นการปลดปล่อยความรู้สึกตนเองออกมาด้วยก้ได้? จั๋วซือหรานคิดในใจจากนั้นก็คือความงงงัน พอย้อนนึกถึงความคิดนี้อีกครั้ง ก็จริง มีแต่ฟ้าที่รู้ว่าเขาแบกเรื่องนี้ไว้แล้วนานแค่ไหนจั๋วซือหรานเอ่ยขึ้น "เฟิงเหยียนไม่รู้เรื่องนี้เลย" นางใช้น้ำเสียงที่ยืนยัน ถ้าหากเฟิงเหยียนรู้เรื่องนี คงไม่มีทางมีท่าทีแบบนั้นกับพ่อของเขา...ท่าทีที่เหมือนว่าพ่อเป็นต้นเหตุของทุกสิ่งอย่างยิ่งไปกว่านั้น...จั๋วซือหรานขมวดคิ้ว บอกต่ออีกว่า "ตระกูลเฟิงไม่รู้เรื่องนี้ พวกเขาไม่รู้ว่าท่านฟื้นคืนความจำแล้ว...ไม่เช่นนั้นคงไม่มีทางเอาความเสียงอย่างท่านมาไว้ในตระกูล กระทั่งยังให้ความสำคัญเป็นพิเศษด้วย"เฟิงอวี้มองนาง ในดวงตามีสีหน้าเหมือนยิ้มเหมือนไม่ยิ้ม

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1015

    จั๋วซือหรานเรียบเรียงความคิดในหัว เรียบเรียงเรื่องราวออกมาให้ชัดเจน เอ่ยออกมาอย่างไม่รีบไม่ร้อน"ท่านไม่รู้ว่าพลังศักดิ์สิทธิ์เป็นเหมือนกับครรภ์พิษ สร้างตราประทับให้กับเฟิงเหยียนตั้งแต่ในครรภ์แม่ ดังนั้นท่านจึงไม่คิดจะให้เขาเป็นแบบท่าน ทรยศเจ้าโชคชะตาที่ยากลำบากนี้ ท่านปั้นเรื่องราวขึ้นมาภายใต้การยอมรับของตระกูลเฟิง"ท่านทำให้เขาเกลียดท่าน กระทั่งดีใจด้วยซ้ำที่มันเป็นเช่นนั้น ก็เพื่อให้ตอนที่เขาออกไปหลังจากนี้ ไม่ถูกท่านถ่วงแข้งขาไว้อีก ดังนั้นเฟิงเหยียนจึงได้ออกไปท่องโลกมานานในช่วงอายุยังน้อย กระทั่ง...เกือบจะได้สัมผัสถึงอิสระแล้วแต่เขาดันกลับมา ทรยศสิ่งที่เรียกว่าโชคชะตา คิดแล้วก็น่าจะเพราะเขาถูกประทับตราพลังศักดิ์สิทธิ์ไปตั้งแต่อยู่ในครรภ์แม่ ถ้าหากโตมาถึงระดับหนึ่ง...บางทีภายใต้เงื่อนไขบางอย่าง ถ้าไม่ได้รับสืบทอดพลังศักดิ์สิทธิ์ ก็อาจจะจบไม่สวยนัก...จั๋วซือหรานพูดถึงตรงนี้ ก็ตั้งใจครุ่นคิดขึ้นมา งึมงำกับตนเองว่า "เงื่อนไขอะไรกันนะ..." นางครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จึงเงยตามองไปทางเฟิงอวี้ ถามขึ้นว่า "กระบี่ประจำตระกูลใช่ไหม"เฟิงอวี้มองนาง ไม่ได้ตอบ แค่ถอนหายใจออกมาเบาๆจั๋วซือห

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1016

    "ใช่ ตระกูลเฟิงจะว่าอย่างไรก็คือมองข้ามเจ้าไป ไม่คิดว่าจะมีตัวตนแบบเจ้า พวกเขาคิดไม่ถึงว่าเจ้าจะดึงดูดพลังศักดิ์สิทธิ์หงส์แดงของเฟิงเหยียนมาใช้กับตนเองได้ นี่เป็นเรื่องที่พวกเขาไม่เคยเจอมาก่อน ดังนั้นจึงรู้สึกว่ายากจะควบคุม ตัดสินใจเลือกปล่อยเจ้าทิ้งไปเสีย"ส่วนเหยียนเอ๋อร์...หลังจากที่รู้ว่าอาจจะทำให้เจ้าต้องบาดเจ็บ จึงเห็นด้วยกับวิธีลบความทรงจำของพวกเขา เขารู้นิสัยเจ้าดี ร้ว่าเจ้ากล้ารักและกล้าเกลียดดังนั้นเขาจึงรู้สึกว่า ขอแค่เขาจำเจ้าไม่ได้ ด้วยนิสัยของเจ้า ไม่มีทางที่จะเอาแต่อยู่กับเขาไม่จากไปไหนแน่นอนถึงแม้ในสายตาคนนอกเจ้าจะดูเหมือนรักเขาอย่างลึกซึ้ง แต่เขาเข้าใจนิสัยแท้จริงของเจ้าดี ดังนั้น เขาทำถึงขนาดนี้แล้ว เจ้าหนีได้ก็ควรจะรีบหนีไปซะ อย่ากระโดดมาลงหลุมอีก ข้าเตือนเจ้าไปตั้งนานแล้วพอฟังคำเหล่านี้ของเฟิงอวี้ จั๋วซือหรานจึงถามว่า "แล้วพวกท่านล่ะ? เฟิงเหยียนเหมือนตัดสินใจจะออกไปท่องเที่ยวนอกเมืองหลวงแล้วนี่?""ใช่ ตระกูลเฟิงถูกตัวตนของเจ้าเล่นงานจนรับมือไม่ทัน ดังนั้นตอนนั้นขอแค่เขาเห็นด้วยกับการลบความทรงจำ ตระกูลเฟิงก็จะเห็นด้วยกับเงื่อนไขที่มากมายของเขา หนึ่งในนั้นคือส

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1017

    ตอนที่เฟิงอวี้มีปฏิกิริยาถึงความหมายในคำพูดนาง เจ้าเด็กคนนี้ก็กระโจนหนีไปทางยอดไม้แล้วตอนนี้มันใช่ปัญหาเรื่องนามสกุลของลูกหรือ!เฟิงอวี้แค่รู้สึกว่าหนังหัวตึงขึ้นมา ก่อ่นหน้านี้บางทีคงไม่ทันสังเกต แต่ตอนนี้ ตัวตนของสายตาที่จับจ้องอยู่ด้านหลังนั้นเพิกเฉยไปไม่ได้เลยไม่รู้ว่ามาตั้งแต่ตอนไหน และไม่รู้ว่าฟังอยู่นานแค่ไหน ฟังไปมากแค่ไหนพอเฟิงอวี้หมุนตัว ก็เห็นว่าในมุมมืดไม่ห่างไปนัก ร่างสูงโปร่งร่างหนึ่งยืนอยู่ตรงนั้น เสื้อผ้าสีดำบนตัว เดิมทีก็ดูไม่เด่นอยู่แล้ว พอบวกกับการที่เขาเก็บงำตัวตนอย่างสมบูรณ์แบบดังนั้นจึงยิ่งทำให้คนสังเกตเห็นได้ยาก เฟิงอวี้ตอนนี้ก็เพิ่งจะจับได้ถึงตัวตนเขาพอคิดถึงคำพูดเหล่านั้นก่อนที่จั๋วจิ่วจะออกไป ก็ฟังออกว่า นางเหมือนจะสังเกตได้นานแล้ว เจ้าเด็กนี่จริงๆ เลย สังเกตเห็นเขาแล้วแท้ๆ ดันไม่เตือนกันเสียหน่อยถ้าเตือนมาสักนิด เขาคงไม่พูดอะไรไร้สาระมากขนาดนี้หรอก ตอนนี้คงไม่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกขนาดนี้เฟิงอวี้มองไปยังเฟิงเหยียนที่ยืนอยู่ในเงามืด ไม่ค่อยเจอจริงๆ บนใบหน้าเย็นชาแต่ไหนแต่ไรของเฟิงอวี้ ที่จะมีสีหน้าประหม่าขึ้นมาแบบนี้"เจ้ามาได้อย่างไรกัน" เฟิงอวี

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1018

    เฟิงอวี้มองขวดสุราผาดหนึ่ง สายตาก็เหมือนล่องลอยไปไกล แฝงไปด้วยความคิดคะนึง"ข้าดื่มสุรานี้ ไม่เดี่ยวกับอะไรกับพลังศักดิ์สิทธิ์หงส์แดง" ปลายนิ้วเฟิงอวี้นวดคลึงเบาๆ บนขวดสุรา ลายมือที่สลักอยู่บนขวดสุรา เลือนลางจนมองไม่ชัดไปตามกาลเวลาต้องมองอย่างละเอียด ถึงจะเห็นว่า ด้านบนสลักคำว่า 'เสวี่ย' ไว้คำว่าเสวี่ยจากชื่อเสวี่ยเจินแม่ของเฟิงเหยียน"ตอนนั้นข้าถูกพลังศักดิ์สิทธิ์ทรมาน ทุกวันเจ็บปวดแสนสาหัส แม่ของเจ้าก็คิดหาทุกวิถีทาง ถึงได้ทำสุราเหมันต์นี้ออกมาได้ บวกกับอักขระคำสาปพิเศษ จึงสามารถข่มพลังศักดิ์สิทธิ์ที่ทำร้ายตัวเองนี้ได้ในระดับหนึ่ง"เฟิงอวี้ทั้งที่พูดถึงความเจ็บปวดในอดีตแท้ๆ แต่อดีตพวกนั้นก็เคยเป็นช่วงเวลาที่เขาใช้ชีวิตกับภรรยาด้วย ดังนั้นบนหน้าเขาจึงไม่มีสีหน้าความเจ็บปวดแม้แต่น้อย แต่กลับดูอ่อนโยนเสียด้วยซ้ำไปเฟิงเหยียนพอได้ยินคำนี้ก็รู้สึกประหลาดใจ อันที่จริงก่อนหน้านี้ตอนที่เขาอยู่ในมุมมืด ก็ได้ยินเนื้อหาเหล่านั้นที่ท่านพ่อบอกกับจั๋วจิ่ว นั่นมันก็ประหลาดมากแล้ว...ไม่สิ คำพูดเหล่านั้นสำหรับเขา บางทีน่าจะเป็นการพลิกผันทำให้ความคิดและความเชื่อที่ฝังลึกมานานหลายปีพลิกผันไปอ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1019

    จวนตระกูลเฟิงช่วงกลางดึก ยังคงดูคึกคักกลุ่มลาดระเวนของจวนตระกูลเฟิงแต่เดิมยังไล่ตามผู้บุกรุกจวนไม่ได้ ค้นหาไปจนทั่วทุกซอกมุมแล้วจึงเห็นร่างสีแดงร่างหนึ่ง เดินเข้ามาทางพวกเขาอย่างหยิ่งผยองคนของกลุ่มลาดตระเวนพอเห็น เบื้องหน้าก็มืดบอดไป!ทำไมถึงเป็นนางปีศาจนี่อีกแล้วล่ะ?!นางไม่ใช่ว่าไม่มาเล่นที่บ้านตระกูลเฟิงตังนานแล้วหรือ? ทำไมถึงมาอีกแล้วกัน?!ยิ่งไปกว่านั้นนางปีศาจคนนี้ นางมีท่าท่าที่แอบเข้ามาบ้านคนอื่นอย่างลับๆ ล่อๆ เสียที่ไหน?นี่นางปรากฏตัวอย่างหยิ่งผยองเลยต่างหาก!ยืนอยู่ตรงหน้าพวกเขา กระทั่งยังโบกมือให้พวกเขาด้วย "ไม่เจอกันตั้งนาน"คนของกลุ่มลาดตระเวน หน้าดำคร่ำเครียดไปหมด! อะไรคือไม่เจอกันตั้งนาน?!ใครอยากเจอนางกัน!"จั๋วจิ่ว! เจ้าบังอาจนักนะ ถึงกับกล้าบุกเข้ามาจวนตระกูลเฟิงอีกครั้ง!" หัวหน้ากลุ่มลาดตระเวนตะคอกขึ้นมาจั๋วซือหรานคิดๆ "ก่อนหน้านี้ข้าก็มาบ่อยๆ คุ้นหน้ากันแล้วนี่ เจ้าไม่ต้องใช้น้ำเสียตกใจขนาดนี้ก็ได้ ช่วงนี้ข้าก็แค่มีเรื่องเยอะจนทำให้ล่าช้าไปเท่านั้น"คนของกลุ่มลาดตระเวนล้วนตะโกนกันในใจ! ถึงอย่างไรก็ล่าช้าไปแล้วนี่! เจ้าไม่ต้องมาอีกเลยก็ได้!จั๋วซือ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1020

    แต่ก็ไม่แปลก เพราะว่าพวกเขาล้วนรู้ว่าซื่อจื่อกับจั๋วจิ่วก่อนหน้านี้ใกล้ชิดกันมาก ดังนั้นจึงรู้สึกระวังตัวขึ้นมา คิดแค่ว่าซื่อจื่อจะช่วยจั๋วจิ๋วไหมและพอผ่อนลมหายใจ เพราะพวกเขารู้ว่าซื่อจื่อจำนางไม่ได้ไปนานแล้ว มีแต่นางที่ยังคิดไปเองฝ่ายเดียวคนของกลุ่มลาดตระเวนล้วนมองไปยังเฟิงเหยียนมุมปากจั๋วซือหรานยกขึ้นเป็นเส้นโค้งลางๆ "ทำไมหรือ? ท่านอ๋องจะลงมือกับข้ารึ?"เฟิงเหยียนไม่ตอบคำนี้ แค่กวาดตามองกลุ่มลาดตระเวนนี้อย่างเย็นชาผาดหนึ่ง "ยังไม่ไปนี่คือคิดจะลงมือกับนางจริงรึ?"หัวหน้ากลุ่มลาดตระเวนตอบสนองขึ้นมาฉับพลัน ซื่อจื่อมาคลี่คลายให้พวกเขาแล้วส่วนใหญ่ก็รู้อยู่ว่าถ้าลงมือกับนาง พวกเขาไม่พูดก็คงได้ตายกันอย่างไม่ต้องสงสัยแน่ อย่างน้อยก็ไม่มีความหวังที่จะชนะได้เลยลังเลเพียงครู่เดียว พวกเขาก็ออกไปกันจั๋วซือหรานเองก็ไม่คิดที่จะไล่ไปโจมตี นางไพล่มือไว้ด้านหลัง ยืนเงียบๆ อยู่กับที่ ดูแล้วเหมือนกำลังเดินผ่อนคลายอยู่ในสวยหลังบ้านตนเองอย่างไรอบ่างนั้น"ได้ยินว่าเจ้าจะออกจากเมืองหลวงแล้ว" เฟิงเหยียนเอ่ยขึ้นจั๋วซือหรานพอได้ยินก็ยกมุมปากยิ้ม "ก็เหมือนกันนั่นล่ะ ได้ยินว่าท่านอ๋องเองก็จะออกจ

บทล่าสุด

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1034

    เขางงเป็นไก่ตาแตก นายท่านแค่พูดไม่กี่คำ? แต่ว่านี่...กำลังคุยกับแมงมุมอยู่จริงหรือ? ด้านนอกลือกันว่า คุณหนูของเขาเป็นนักภาษาสัตว์ ที่แท้...ก็เป็นเรื่องจริงสินะ!ราชาแมงมุมหน้าผียกแขนเคียวประกายหิมะขึ้น ฉีกแควกเปิดรังไหมสีขาวที่ห่อด้วยใยแมงมุมซึ่งอยู่ด้านหลังพวกมันออกมาเผยให้เห็นของที่ถูกห่ออยู่ด้านใน มีหลายรังไหมที่ห่อแมลงรูปร่างประหลาดไว้ ดูแล้วเหมือนเป็นหิ่งห้อยกับผึ้งรวมร่างกันแล้วขยายใหญ่ขึ้นใหญ่ขนาดแพะตัวหนึ่ง มีปีกใส ร่างท่อนบนกับขาหลังที่เหมือนมีแรงดีดมหาศาลแบบตั๊กแตนแต่ช่วงทอ้งกลับเหมือนผึ้ง ส่วนหางมีเหล็กในพิษแหลมคมแต่คนที่เห็นอะไรมาเยอะ ก็จะมองออกว่า นี่คือตั๊กแตนผึ้งบุปผาหยก สัตว์ประหลาดประเภทแมลงที่จัดการได้ยากชนิดหนึ่งเพราะมันเป็นแมลงแบบอยู่เป็นฝูง แล้วยังมีเหล็กในพิษเหมือนผึ้งอีกด้วย พอโจมตีเข้ามาเป็นกลุ่ม พลังโจมตีนั้นดูถูกไม่ได้เลย ในป่าต่อให้เป็นสัตว์ประหลาดที่แข็งแกร่ง ก็ไม่แน่ว่าจะกล้าเข้าไปยุ่งกับตั๊กแตนผึ้งบุปผาหยกพวกนี้ผู้บำเพ็ญที่เป็นมนุษย์เองแน่นอนว่าไม่กล้า แต่ก็อดพูดไม่ได้ ว่าขาหลังที่ใหญ่โตของตั๊กแตนผึ้งบุปผาหยกนี้จะมีรสชาติยอดเยี่ยมมากๆ ในโลกมนุ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1033

    คนขับรถทำตามความต้องการของจั๋วซือหราน หยุดรถม้าลงมาจั๋วซือหรานที่อยู่ข้างๆ ก็เก็บกิ่งไม้ส่วนหนึ่งเข้ามา ก่อเป็นกองไฟเล็กๆคนขับรถเดิมทียังคิดจะทำตัวให้กล้าเข้าไว้ ถึงอย่างไร...ออกจากบ้านมาภายนอก จะให้คุณหนูมาทำงานหยาบๆ แบบนี้ได้อย่างไรกัน?!แต่ว่า คุณหนูก็ทำได้ทั้งเร็วและดีเลย...คนขับรถแอบรู้สึกดีใจที่คุณหนูยังต้องการให้เขาขับรถต่อให้จั๋วซือหรานกอดเขาอยู่ข้างกองไฟ ดูเหมือนจะเบื่อๆ อย่างไรอย่างนั้นแสงไฟสะท้อนในดวงตานาง ครู่ต่อมา นางก็กลอกตามองไปทางด่านช่องภูเขาก่อนหน้านี้ เหลือบมองไปครู่หนึ่งช่วงการเหลือบมองนี้ ทำให้คนขับรถเกิดเครียดขึ้นมาแบบไม่มีเหตุผล "มี...มีคนตามมาหรือ?"จั๋วซือหรานส่ายหัว หยิบท่อนไม้ออกมาเขี่ยกองไฟเล่น "กลัวคนไล่มาทำไมกัน เพียงแต่ว่า แมงมุมของข้ายังไม่กลับมากันเลย ข้าเองก็หิวแล้วด้วย"คนขับรถอันที่จริง...ก็ยังฟังความสัมพันธ์ของเหตุและผลไม่ค่อยเข้าใจนัก แมงมุมไม่กลับมากับหิวแล้วมันเกี่ยวข้องกันอย่างไร?แต่เขาก็ไม่ได้ถามละเอียด แต่รีบพูดขึ้นว่า "บนรถมีเสบียงแห้งอยู่ขอรับ คุณหนูจะกินเสียหน่อยไหม?"จั๋วซือหรานส่ายหัวถ้านางยอมกินพวกนั้น ก็คงไม่ต้องหิว

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1032

    จนตอนเลิกเสื้อผ้าขึ้นแล้วมองดู...บนกล้ามเนื้อหน้าท่องที่แน่นกระชับ แข็งแรง นกจากรอยเลือดบางส่วนแล้ว...ก็แทบเหลืออะไรอยู่เลยถ้าหากไม่ใช่ยังมีรอยเลือดสะดุดตากับรอยแผลเป็นจางๆ ที่เหลืออยู่บนนั้น ใครก็มองไม่ออกทั้งนั้นว่าก่อนหน้านี้เคยบาดเจ็บมา"เอ๋?" ผู้ใต้บัญชาสงสัยขึ้นมา "เป็นไปได้อย่างไร...ทั้งที่เลือดออกมากขนาดนี้แท้ๆ"ปันอวิ๋นลุกขึ้นนั่ง ใช้มือปัดๆ ฝุ่นบนเสื้อผ้าออก ท่วงท่ายังคงสง่างามเช่นเคย เอ่ยขึ้นเสียงราบเรียบ "มีคนก่อนที่จะออกไปรักษาให้ข้าไว้น่ะ"ผู้ใต้บัญชาพอได้ยินคำนี้ ก็คิดถึงเป้าหมายของนายท่านวันนี้ขึ้นมา ต่อมาจึงตอบสนองกลับมาได้ "นายท่านจะบอกว่า...แม่นางจั๋วจิ่วคนนั้น?"ปันอวิ๋นไม่ตอบ เพียงแต่ในสายตามีความสนใจขึ้นอย่างลึกซึ้งผู้ใต้บัญชาถาม "นายท่าน ่ทางนี้ไม่มีเรื่องของเราแล้วกระมัง? กลับกันไหม?""ไม่" ปันอวิ๋นปฏิเสธ "กลับไปไม่มีอะไรทำ นางน่าสนใจกว่าตั้งเยอะ"ปันอวิ๋นกำชับกับผู้ใต้บัญชา "ไป ดูว่านางไปหยุดลงที่ไหน คิดจะไปไหน จากนั้นมารายงานข้าด้วย""ขอรับ"อีกด้านหนึ่ง จั๋วซือหรานหลังจากผ่านด่านช่องภูเขามาได้ ก็เป็นทางราบม้าวิ่งคนขับรถอดถอนใจยินดีไม่ได้ "โว้ว

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1031

    "อุก" คิ้วงามของปันอวิ๋นขมวดเล็กน้อย แต่สีหน้ากลับไม่ได้ดูเจ็บปวดมากเท่าไรเขาเหลือบมองแผลที่เอวตนเองผาดหนึ่ง จุ๊ปากขึ้นมา "จะสังหารสามีรึ"ในน้ำเสียงที่พูดกระทั่งมีความยานคางอยู่เล็กน้อยจั๋วซือหรานเหลือบมองเขาผาดหนึ่ง นี่มันเวลาไหนแล้ว ยังจะมาพูดเล่นอยู่อีก ดังนั้นจึงขี้เกียจจะไปแกสรรพนามเขาใหม่นางยื่นมือไปจับข้อมือปันอวิ๋นเขาก้มลงมืองข้อมือที่ถูกจับไว้ผาดหนึ่ง สัมผัสได้ถึงพลังวูบหนึ่งที่ค่อยๆ ถ่ายเข้ามา"อื๋อ?" ในจมูกปันอวิ๋นมีเสียงพยางค์ความสงสัยดังขึ้นมาแต่เขายังไม่ทันจะมีปฏิกิริยา จั๋วซือหรานก็คลายมือออกแล้ว จากนันจึงยกเท้าขึ้นข้างหนึ่ง ถีบเขาตกลงไปจากบนรถน่าจะเพราะการกระทำนี้ของนางเกินจากที่เขาคาดการณ์ไว้ ดังนั้นตอนที่จั๋วซือหรานถีบเขาลงจากรถม้า สีหน้าของปันอวิ๋นจึงเหลือเครื่องหมาย '???' เอาไว้อยู่พักหนึ่งหลังของปันอวิ๋นสัมผัสกับพื้นดิน กระแทกจนเจ็บปวดขึ้นมา เขาไม่ได้ใส่ใจนัก และได้ยินเสียงใสเย็นชาของหญิงสาวที่เหมือนมีแววขบขันลอยแว่วมาตามลม:"รักษาให้เจ้าแล้วนะ เอาไว้เจอกันใหม่ เจ้าหุบเขาปัน"ปันอวิ๋นล้มลงอยู่กับพื้น จึงเอามือไปรองที่หลังคออย่างเกียจคร้าน นอนมันบ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1030

    ฝุ่นดินเหล่านั้นกระทั้งทำให้สายตาของคนขับเลือนรางด้วยแต่เขาก็ไม่กล้าหยุด ทำตามคำสั่งของนายท่านอย่างเดียวเท่านั้น ตรงไป! ตรงไป!เขาเองก็ไม่รู้ว่าคูน้ำข้างหน้าพวกนั้นตอนนี้เป็นอย่างไร แต่สรุปคือเขาต้องตรงไปอย่างเดียว!ที่คิดไม่ถึงก็คือ รถม้าแม้จะโคลงเคลง แต่ก็ไม่ได้หยุดลง!ในใจคนขับคิดขึ้นมาอย่างตกตะลึง หรือว่าแมงมุมพวกนั้นจะถมคูน้ำจนเรียบได้จริง!จากนั้นเขาจึงเห็นว่าคุณหนูยกมือตบเบาๆ ไปที่ตัวม้า ส่งแรงปลอบประโลมออกมาคนขับถามเสียงขึ้นเสียงเล็ก "คุณหนู เป็นอย่างไรบ้าง?""โอ้ ไม่เป็นไร ม้าแค่เครียดนิดหน่อย แมงมุมน้อยของข้าตัวใหญ่ไปหน่อย มันเลยตกใจน่ะ ข้าปลอบเสียหน่อย" จั๋วซือหรานตอบคนขับตอนนี้จึงเพิ่งรู้ "นี่พวกมันถมคูน้ำจนเรียบแล้วหรือ?"จั๋วซือหรานร้องอืมเสียงหนึ่ง "สัตว์ประหลาดอย่างพวกแมงมุมชนิดนี้ มีแขนเคียวคู่นั้นอยู่ ถนัดการขุดเจาะเป็นที่สุด แค่ถมคูน้ำแค่นี้ไม่ใช่เรื่องใหญ่เลย"คนขับเอ่ยขึ้นอย่างตื่นเต้น "ดีจริงๆ เช่นนั้นพวกเราก็ออกไปได้แล้ว!"ปากทางด่านช่องภูเขาอยู่ตรงหน้าแล้วแต่หลังจากที่ฝุ่นดินสลายไป คนขับก็หรี่ตาลง เห็นว่าที่ปากทางด่านช่องภูเขามีคนคนหนึ่งยืนอยู่

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1029

    "เกิด...อะไรขึ้น?" คนลอบโจมตียังคิดว่ายิงโดนแล้วแน่ๆต่อให้ยิงไม่โดนจั๋วซือหราน แต่อย่างน้อยก็ต้องยิงไปโดนรถนาง นี่เป็นเป้าหมายแต่เดิมของพวกเขาขอแค่นางไม่มีรถ ทิ้งนางไว้ที่นี่ แต่นอนว่าจะรับมือกับนางได้ดีกว่าแต่ว่า การโจมตีเมื่อครู่ ไม่ใช่แค่ไม่โดนนางนะ แต่กระทั่งรถม้าของนางก็ยังไม่โดนลูกธนูหนาหนักขนาดนั้นดอกหนึ่ง หายวับไปกับตา ไม่เหลือแม้เงานี่มันประหลาดจริงๆ แต่ด้วยเวลาตอนนี้ ปฏิกิริยาที่พวกเขาสามารถทำออกมาได้เหมาะที่สุดก็คือ..."ยิงอีกรอบ!"เสียงเครื่องยิงธนูดังขึ้นอีกครั้ง!จั๋วซือหรานไม่ประมาทเลยแม้แต่น้อย นางร่อนลงมาบนตัวรถ เพื่อทำการเตรียมตัวรับมือการโจมตีครั้งต่อไปขณะที่คนขับถอนใจโล่ง ดวงตาก็เป็นประกาย พอเหลือบมองด้วยหางตาจึงมองเห็น ที่แท้คุณหนูก็หยิบยืมพลังของสัตว์อสูรปีกตัวหนึ่งดังนั้นเมื่อครู่จึงบินขึ้นไป!"อย่ามองข้า มองทางไป" ความระมัดระวังในเสียงจั๋วซือหรานยังไม่หายไป ฟังออกว่า นางไม่ได้ผ่อนความระแวดระวังลงเลยคนขับรถเองก็จริงจัง ตั้งใจขึ้นมา"มาอีกแล้ว" จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้น "เจ้าทำตามที่ข้าพูดก่อนหน้านี้ก็พอ"คนขับรถพยักหน้าเงียบๆ เรื่องอื่นเขาไม่ค่อยไ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1028

    พอได้ยินคำนี้ของนายท่านผู้เยี่ยมยุทธ์ คนขับรถก็ตึงเครียดขึ้นมาหน่อยๆ "แม่ แม่นาง เป็นอะไรหรือเปล่า?"จั๋วซือหรานตอนแรกที่เข้ามายังเขตแดนนี้ ก็กางพลังวิญญาณของตนเองออกมาเพื่อสัมผัสการลอบโจมตีของศัตรูแล้วความเข้ากันได้กับธรรมชาติของพลังวิญญาณธาตุไม้แข็งแกร่งมาก ตอนที่ฝึกจนถึงระดับสูงๆ แต่ต้นไม้ใบหญ้าก็ยังอยู่ในสายตาและการได้ยินจั๋วซือหรานเองก็มีความสามารถเช่นนี้ แม้ขณะที่กำลังดำเนินการ ถ้าหากอีกฝ่ายไม่ขยับล่ะก็ ก็จะถือว่าแย่ไปหน่อยแต่ถ้าหากอีกฝ่ายขยับตัวอย่างให้ความร่วมมือ ปัญหาก็ไม่ยากแล้วดังนั้นเมื่อครู่จึงยิงได้อย่างไม่เสียเปล่า และตอนนี้นางสัมผัสได้ถึงสิ่งที่เกินจากคาดการณ์ไว้แล้ว...การเคลื่อนไหวนั้น เสียงนั้น นั้นไม่ใช่เสียงรั้งสายธนู และไม่ใช่เสียงสั่นสะเทือนของสายธนูนั่นเป็น...เสียงของเครื่องยิงธนู"รถยิงธนู" จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้นคนขับรถหน้าซีดไปทันที เขาไม่เคยไปสนามรบแต่ก็เคยได้ยินถึงความร้ายกาจของรถยิงธนู เจ้าสิ่งนี้พลานุภาพใหญ๋โตมาก สามารถยิงได้ระยะไกลโข! กระทั่งแทงทะลุรถม้าได้เลย!มีรถยิงธนูที่ร้ายกาจหน่อย กระทั่งสามารถยิงทะลุประตูเมืองขนาดเล็กที่ความหนาไม่ได้มา

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1027

    คนขับรถเห็นทั้งหมดกับตา!นั่นก็เพราะ เขาต้องตั้งใจพยายามขับรถม้าอยู่ตลอด ดังนั้นไม่ว่าการเคลื่อนไหวอะไร เขาจึงจ้องมองเบื้องหน้าอย่างตั้งใจ ดังนั้นจึงเห็นสาเหตุขั้นตอนทั้งหมดได้อย่างชัดเจนดังนั้นในสมองเขา จึงค่อยๆ ทำเรื่องราวทั้งหมดชัดเจนขึ้นอีกฝ่ายแค่ทดลองโจมตีใส่นางครั้งหนึ่ง ก็ถูกแม่นางจิ่วสกัดไว้ ขณะเดียวกันก็ยังพบร่องรอยของคนที่ลอบโจมตี จากนั้นก็สวนกลับทันที แล้วยังโต้กลับสำเร็จด้วย!คนขับรถอดคิดในใจไม่ได้ ถ้าหากพวกลอบโจมตีเหล่านี้ คิดจะลองเชิงพลังของแม่นางจิ่วก่อนล่ะก็ ผลลัพธ์การลองเชิงพวกเขาคงไม่ค่อยดีนักแน่ๆและระยะห่างของที่นี่กับช่องภูเขา คนขับรถคะเนจากการขับของตนเอง อย่างมากก็ประมาณหนึ่งเค่อครึ่งเท่านั้น ก็จะทะลวงผ่านช่องเขานี้ไปได้!ดังนั้น แม่นางจิ่วแค่ยืนหยัดในช่วงหนึ่งเค่อครึ่งให้ได้และคนที่ลอบโจมตีพวกนั้นก็มีเวลาแค่หนึ่งเค่อครึ่งความเป็นความตาย! อยู่ในเวลาสั้นๆ แค่หนึ่งเค่อครึ่งนี้!คนที่ลอบโจมตีก็เหมือนจะตระหนักได้แล้ว ว่าลอบโจมตีคนเดียวไม่ได้ ไม่ใช่แค่จะล่อลวงจั๋วซือหรานไม่ได้ แต่ยังถูกนางเด็ดหัวทิ้งไปด้วย!ดังนั้นเพียงไม่นาน การโจมตีจึงเปลี่ยนเป็บแบบกลุ่

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1026

    สายตานางยังคงจับจ้องไปเบื้องหน้า กระทั่งเสียงกับท่าทางก็ยังคงดูไม่ใส่ใจเหมือนเดิมเนื้อหาในคำพูดทำให้คนขับรถขนหัวลุกขึ้นมาทันที"อย่างเช่นตอนแรกสุดก็มีคนไล่ตามเข้ามาติดๆ หรือข้างหน้ามีคนดักซุ่มโจมตีอะไรแบบนี้" จั๋วซือหรานตอบสีหน้าคนขับรถเปลี่ยนไป คำพูดเริ่มติดขัดขึ้นมา "ซุ่ม ซุ่มโจมตีหรือ? มีการซุ่มโจมตีหรือ?"เขาไม่รู้ตัวเลย เขาก็แค่คนขับรถม้าธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้นจั๋วซือหรานพยักหน้า "อืม เป็นเรื่องที่คาดไว้แล้ว แต่ไม่ต้องห่วง ข้าเองก็จงใจเดินทางแบบสัมภาระน้อยๆ ถ้าเอาขบวนรถม้าใหญ่ๆ มาข้าเองก็รับประกันไม่ได้ว่าจะคุ้มครองได้หมดไหม แต่ถ้าเจ้าแค่คนเดียวไม่ใช่ปัญหาเลย"คนขับรถเป็นคนขับรถในเรือนนาง ถึงแม้จะรู้ว่าการซุ่มโจมตีเป็นเรื่องน่ากลัว แต่สำหรับฝีมือคุณหนูของตนเองแล้วตนเองก็เชื่อมั่นอย่างยิ่งพอได้ยินคำนี้ของจั๋วซือหราน เส้นประสาทที่ยังตึงก่อนหน้านี้ ก็ผ่อนคลายลงมาไม่น้อย "แม่นางพูดชเ่นนี้ ข้า ข้าก็วางใจแล้ว""อืม เจ้าขับรถไปก็พอ อีกเดี๋ยวไม่ว่าเกิดเรื่องอะไร..." ดวงตาพญาหงส์ใสกระจ่างของจั๋วซือหราน หรี่ลงมาเล็กน้อย เอ่ยต่อว่า "...ไม่ต้องหยุด นี่เป็นสิ่งเดียวที่เจ้าต้องทำ""ร

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status