แชร์

บทที่ 1019

ผู้เขียน: หูเทียนเสี่ยว
จวนตระกูลเฟิงช่วงกลางดึก ยังคงดูคึกคัก

กลุ่มลาดระเวนของจวนตระกูลเฟิงแต่เดิมยังไล่ตามผู้บุกรุกจวนไม่ได้ ค้นหาไปจนทั่วทุกซอกมุม

แล้วจึงเห็นร่างสีแดงร่างหนึ่ง เดินเข้ามาทางพวกเขาอย่างหยิ่งผยอง

คนของกลุ่มลาดตระเวนพอเห็น เบื้องหน้าก็มืดบอดไป!

ทำไมถึงเป็นนางปีศาจนี่อีกแล้วล่ะ?!

นางไม่ใช่ว่าไม่มาเล่นที่บ้านตระกูลเฟิงตังนานแล้วหรือ? ทำไมถึงมาอีกแล้วกัน?!

ยิ่งไปกว่านั้นนางปีศาจคนนี้ นางมีท่าท่าที่แอบเข้ามาบ้านคนอื่นอย่างลับๆ ล่อๆ เสียที่ไหน?

นี่นางปรากฏตัวอย่างหยิ่งผยองเลยต่างหาก!

ยืนอยู่ตรงหน้าพวกเขา กระทั่งยังโบกมือให้พวกเขาด้วย "ไม่เจอกันตั้งนาน"

คนของกลุ่มลาดตระเวน หน้าดำคร่ำเครียดไปหมด! อะไรคือไม่เจอกันตั้งนาน?!

ใครอยากเจอนางกัน!

"จั๋วจิ่ว! เจ้าบังอาจนักนะ ถึงกับกล้าบุกเข้ามาจวนตระกูลเฟิงอีกครั้ง!" หัวหน้ากลุ่มลาดตระเวนตะคอกขึ้นมา

จั๋วซือหรานคิดๆ "ก่อนหน้านี้ข้าก็มาบ่อยๆ คุ้นหน้ากันแล้วนี่ เจ้าไม่ต้องใช้น้ำเสียตกใจขนาดนี้ก็ได้ ช่วงนี้ข้าก็แค่มีเรื่องเยอะจนทำให้ล่าช้าไปเท่านั้น"

คนของกลุ่มลาดตระเวนล้วนตะโกนกันในใจ! ถึงอย่างไรก็ล่าช้าไปแล้วนี่! เจ้าไม่ต้องมาอีกเลยก็ได้!

จั๋วซือ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1020

    แต่ก็ไม่แปลก เพราะว่าพวกเขาล้วนรู้ว่าซื่อจื่อกับจั๋วจิ่วก่อนหน้านี้ใกล้ชิดกันมาก ดังนั้นจึงรู้สึกระวังตัวขึ้นมา คิดแค่ว่าซื่อจื่อจะช่วยจั๋วจิ๋วไหมและพอผ่อนลมหายใจ เพราะพวกเขารู้ว่าซื่อจื่อจำนางไม่ได้ไปนานแล้ว มีแต่นางที่ยังคิดไปเองฝ่ายเดียวคนของกลุ่มลาดตระเวนล้วนมองไปยังเฟิงเหยียนมุมปากจั๋วซือหรานยกขึ้นเป็นเส้นโค้งลางๆ "ทำไมหรือ? ท่านอ๋องจะลงมือกับข้ารึ?"เฟิงเหยียนไม่ตอบคำนี้ แค่กวาดตามองกลุ่มลาดตระเวนนี้อย่างเย็นชาผาดหนึ่ง "ยังไม่ไปนี่คือคิดจะลงมือกับนางจริงรึ?"หัวหน้ากลุ่มลาดตระเวนตอบสนองขึ้นมาฉับพลัน ซื่อจื่อมาคลี่คลายให้พวกเขาแล้วส่วนใหญ่ก็รู้อยู่ว่าถ้าลงมือกับนาง พวกเขาไม่พูดก็คงได้ตายกันอย่างไม่ต้องสงสัยแน่ อย่างน้อยก็ไม่มีความหวังที่จะชนะได้เลยลังเลเพียงครู่เดียว พวกเขาก็ออกไปกันจั๋วซือหรานเองก็ไม่คิดที่จะไล่ไปโจมตี นางไพล่มือไว้ด้านหลัง ยืนเงียบๆ อยู่กับที่ ดูแล้วเหมือนกำลังเดินผ่อนคลายอยู่ในสวยหลังบ้านตนเองอย่างไรอบ่างนั้น"ได้ยินว่าเจ้าจะออกจากเมืองหลวงแล้ว" เฟิงเหยียนเอ่ยขึ้นจั๋วซือหรานพอได้ยินก็ยกมุมปากยิ้ม "ก็เหมือนกันนั่นล่ะ ได้ยินว่าท่านอ๋องเองก็จะออกจ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1021

    พอได้ยินคำนี้ของจั๋วซือหราน เหล่าองครักษ์เงาเดิมทียังอยู่ในท่ากิน ก็ล้วนชะงักนิ่งกันหมด"แม่นาง..."ฉุนจวินงึมงำเรียกนางขึ้นมาจั๋วซือหรานยิ้มให้เขา "เจ้าไม่ต้องคิดมาก ข้าไม่ได้มีความหมายอื่นอะไร เพียงแต่ข้าเข้าใจว่าพวกเจ้าภักดีต่อตัวเขามาก"ฉุนจวินเอ่ยว่า "ความภักดีต่อนายท่านของพวกเรา ไม่ได้ขัดแย้งกับความภักดีต่อแม่นางของพวกเรา กระทั่งว่า ถ้าต้องให้พวกเราเลือก บางทีทุกคนอาจจะเลือกแม่นางหมดก็ได้"อย่างน้อยภายใต้สถานการณืที่จั๋วซือหรานไม่ได้รังเกียจอะไรเฟิงเหยียน พวกขเาก็เลือกจะยืนข้างจั๋วซือหราน"ข้ารู้" จั๋วซือหรานพยักหน้า "เพียงแต่ว่า ข้าจะออกจากเมืองหลวงแล้ว หลวนหนานมีสถานการณ์แบบไหน ตอนนี้ก็ยังไม่รู้ ยิ่งไปกว่านั้น ข้ายังต้องไปที่สำนักเมฆาวารีก่อนด้วย ให้ข้าพาคนมากขนาดนี้ไป เดิมทีก็ไม่สมเห็นสมผลเท่าไร""ในจวนถึงแม้จะต้องการคนคอยคุ้มกัน และยังต้องการคนคุ้มกันแม่ข้า แต่ก็ไม่จำเป็นต้องมีมากขนาดนี้" จั๋วซือหรานพูดพลางเม้มปากเบาๆ มองฉุนจวิน "ข้างกายเขาตอนนี้คนที่ใช้ได้ไม่มีเลยสักคน"ฉุนจวินพอได้ยินคำพูดจั๋วซือหราน ก็เข้าใจขึ้นมาแล้วเขาถอนหายใจออกมาเบาๆ ที่สุดท้าย แม่นางจิ่วก็ยัง

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1022

    เสียงของฉุนจวินเย็นลงไปอีก "ข้าไม่อยากพูดไร้สาระกับพวกเจ้า หลีกไป นายท่านของข้าคือเฟิงเหยียน ถ้าหากนายท่านจะลงโทษอะไรพวกเรา พวกเราก็จะไม่ปริปากบ่น แต่ก่อนหน้านั้น พวกเราไม่ใช่ว่าใครจะมารังแกกันได้"ฉุนจวินบอก เสียงชิ้งดังขึ้น! ชักดาบยาวออกมาแล้ว องครักษ์เงาคนอื่นเองก็ทยอยกันชักอาวุธออกมาฉุนจวินมองกลุ่มลาดตระเวนห้าคนตรงหน้านี้อย่างเย็นชา บอกว่า "อย่างมากก็แค่เชือดพวกเจ้าทิ้ง แล้วค่อยมาดูว่าจะโดนโทษแบบไหน แค่ลงโทษพวกเราไม่กลัวหรอก ข้าจะคอยดูพวกเจ้า ถ้าไม่มีชีวิตแล้วยังจะทำอะไรได้อีก"พอได้ยินคำพูดของฉุนจวิน พวกของกลุ่มลาดตระเวนก็เริ่มมีอาการจะถอยให้อย่างชัดเจนเพียงแต่ดูเหมือนว่า ยังพยายามจะแสดงท่าทีแข็งกร้าวแต่ใจจริงอ่อนแอตอบมาว่า "พวกเจ้าต่อให้กลับมา! ก็ยังมีความผิดติดตัวอยู่! ยังกล้ามาพูดแบบนี้กับเราอีก! ไปเถอะ! พวกเจ้ามัดตัวเองไปหาซื่อจื่อโน่นเลย ข้าจะดู ว่าซื่อจื่อจะลงโทษอะไรพวกเจ้า..."พอสิ้นเสียงคนของกลุ่มลาดตระเวนเสียงเย็นชาเสียงหนึ่ง ก็ดังลอดเข้ามาจากข้างๆ ฟังแล้วไม่มีความอบอุ่นใด ไม่มีอารมณ์ใดด้วย"ฟังน้ำเสียงเจ้าแล้ว ถ้าข้าไม่ลงโทษพวกเขา พวกเจ้าเองก็ตั้งใจจะจัดการข้า

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1

    “เสียวจิ่ว ผู้นี้คือจวงเหยาเหยา นางมีเลือดเนื้อเชื้อไขของข้าอยู่ในท้องของนางแล้ว ในเมื่อวันนี้เป็นพิธีงานแต่งระหว่างข้าและเจ้า ข้าไม่อยากปิดบังอะไรเจ้า ข้าได้วางแผนที่จะให้นางมาเป็นนางสนม และข้าจะแต่งเจ้ากับนางเข้าเรือนในวันนี้"ฉินรุ่ยหยางไม่รู้สึกไร้ยางอายแม้แต่นิดเดียว“เจ้า...เมื่อครู่นี้เจ้าพูดอะไรนะ เจ้าพูดอีกครั้งสิ…”สีหน้าของจั๋วซือหรานดูซีดขาวมากยิ่งขึ้นเมื่อเทียบกับชุดแต่งงานสีแดงสดและมงกุฎหงส์นางจ้องเขม็งไปยังชายและหญิงที่อยู่ตรงหน้านางฉินรุ่ยหยาง"เสียวจิ่ว เจ้าไม่ต้องเป็นกังวลไป เจ้าจะเป็นภรรยาหลวงที่มีเกียรติเสมอ ไม่มีใครมีอำนาจเหนือเจ้าได้ ในภายภาคหน้า เหยาเหยาจะเคารพเจ้าอันเป็นแท้ และลูกของนางก็จะเรียกเจ้าว่า แม่ใหญ่"จั๋วซือหรานยิ้มเยาะ "ข้าเกลียดคำเรียกนี้เสียจริง เด็กเหี้ยอะไรกันกล้ามาเรียกข้าเป็นแม่"ใบหน้าของฉินรุ่ยหยางนิ่งขรึมจวงเหยาเหยาน้ำตาเอ่อคลอ " พี่จั๋วเจ้าคะ หนูรู้ดีว่าตนเองมีฐานะต่ำต้อย แต่เด็กที่อยู่ในท้องของข้านั้น เด็กไม่ได้ทำอะไรผิดด้วย โปรดเห็นแก่เด็กคนนี้ที่เป็นสายเลือดของพี่ฉินด้วยนะ... "จั๋วซือหรานไม่มองนาง สายตาจ้องไปยังฉินรุ่ยหยางอย่

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 2

    ฉินตวนหยางงและจวงเหยาเหยาถูกมัดอย่างแน่นจั๋วซือหรานก้าวขาเดินออกจากห้องด้วยความมั่นใจนางสวมชุดแต่งงานสีแดงอันสดใสและงดงาม เสมือนนางกำลังสวมชุดสู้รบ นางดูทรงมีพลังและองอาจหลังจากที่คุณหนูและคนใช้ทั้งสามเดินออกจากห้องไป บนหลังคามีเสียงหัวเราะดังขึ้นแผ่นกระเบื้องที่มุมหลังคาที่มิอาจได้รู้ว่า ถูกเปิดออกมาเมื่อใดเวลานี้กำลังถูกค่อย ๆ เคลื่อนกลับไปอยู่ที่เดิมร่างของสองคนค่อย ๆ ปรากฏขึ้นบนหลังคาชายหนุ่มทางด้านซ้ายแต่งกายด้วยชุดสีดำ เขามีใบหน้าเรียวงามส่วนชายหนุ่มทางด้านขวา เขายิ้มและมองเฟิงเหยียนที่อันหล่อเหลา บัดนี้เฟิงเหยียนกำลังเมินเฉยชายหนุ่มทางด้านขวาหัวเราะและพูด"เดิมทีข้าแค่อยากรู้ว่าจั๋วซือหรานที่ถอนหมั้นกับเจ้าจะงามเช่นใด ไม่คิดเลยว่า ภรรยาในอนาคตของเจ้าจะน่าสนใจขเช่นนี้หรอกนะ"ใบหน้าของเฟิงเหยียนนิ่งเฉย “เหยียนฉี เจ้าลากข้ามาที่นี่เพื่อปีนหลังคาของบ้านคนอื่นหรือ”แววตาของเฟิงเหยียนเย็นชา บุคคลิกของเขาประกายอารมณ์ที่ปฏิเสธผู้อื่นเข้าใกล้ชิดอย่างหนักแน่น "อีกอย่าง นางไม่ใช่คู่หมั้นของข้า"“เชอะ อย่าเย็นชาขนาดนี้สิ” ดวงตากลมโตของเหยียนฉีหรี่ลง “จั๋วจิ่วเพิ่งพูดไปเมื่

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 3

    แววตาของจั๋วซือหรานเต็มไปด้วยความสับสน มีพลังที่มองไม่เห็นกำลังล่อลวงหัวใจของนาง เพื่อให้นางทำตามคำพูดของฉินตวนหยางนางพยายามทรงตัวไว้และอดความเจ็บปวดไว้ไม่แปลกเลย ชะตากรรมอันเดิมของเจ้าของร่างคนนี้ราวกับคนตาบอด นางรักคนไร้ความสามารถอย่างฉินตวนหยางขนาดนี้ แท้จริงแล้ว นางถูกอาคมหนอนพิษกู่ควบคุมสติไว้พิษแปลก ๆ ดังกล่าวแปลกอย่างมากจนทำให้เจ้าของร่างเดิมโดนอาคมหนอนพิษกู่โดยไม่รู้ตัว แม้ตายไปก็ไม่ทราบว่าตัวเองโดนหนอนพิษกู่ หากจั๋วซือหรานไม่ได้เดินทางข้ามเวลามา ร่างเดิมคงใช้ชีวิตอันน่าสงเวชอย่างชะตากรรมอันเดิมที่กำหนดไว้แต่ในเมื่อจั๋วซือหรานมาแล้ว นางจะไม่มีวันฉินตวนหยางสมหวังฉินตวนหยางเห็นนางไม่ตอบ จึงเสกเป่าอีกที "เสี่ยวจิ่ว เจ้าเชื่อข้าไหมขอรับ"จั๋วซือหรานมองไปที่ฉินตวนหยาง นางค่อย ๆ อ้าริมฝีปากอันสีแดงให้กว้างขึ้น“เจ้าฝันไปเสียเถิด”เสียง 'คลิก'ดังขึ้น“อา”ขาของฉินตวนหยางถูกคนหัก และเขากรีดร้องด้วยความเจ็บปวดเขาตกใจด้วยความเจ็บปวดทรมาน ผู้นั้นได้กล่าวไว้อย่างชัดเจนว่า ตราบใดเสน่ห์หนอนพิษกู่นี้ยังคงอยู่ จั๋วซือหรานก็สามารถเชื่อฟังเขาไปตลอดชีวิต ทำไมหนอนพิษกู่จึงใช้งานไม่ไ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 4

    น้ำเสียงทุ้มต่ำของเฟิงเหยียนเต็มไปด้วยความเย็นชาและเสน่ห์"น่าอับอายเสียจริง เรื่องไร้สาระสิ้นดี"จั๋วซือหรานเงยหน้ามองชายผู้นี้ด้วยความเจ็บปวดอย่างมากใต้หล้ามีคนหน้าตาดีตั้งมากมายเฟิงเหยีนกลับมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่เหมือนใคร ความหล่อเหลาของเขาผสมด้วยความกล้าหาญที่ฮึกเหิมทันทีที่จั๋วซือหรานเห็นใบหน้านี้ นางหายความเจ็บปวดทันทีแต่จั๋วซือหรานหายเจ็บปวด ไม่ใช่เป็นเพราะนางเห็นหน้าตาอันหล่อเหลาแต่เป็นเพราะวินาทีที่ชายผู้นี้ปรากฏตัวอย่างรวดเร็ว เขาวางมือบนไหล่ฉินตวนหยาง"อ๊าก ๆ——!“ฉินตวนหยางกรีดร้องออกมาอย่างบ้าคลั่ง เสียงร้องนั้นดังเป็นสิบ ๆ เท่าเมื่อเทียบกับตอนที่เขาถูกหักขาในก่อนหน้านี้ และบัดนี้เขากำลังล้มบนพื้นและกระตุกไปทั้งตัวสายเลือดของตระกูลเฟิงเป็นเช่นนี้ สายเลือดนี้เป็นธาตุไฟที่รุนแรงที่สุด ยิ่งเป็นผู้ที่มีพรสวรรค์อันยอดเยี่ยม พลังทางจิตวิญญาณก็ยิ่งเผด็จการมาขึ้นเท่านั้นหากถูกพลังทางจิตวิญญาณนั้นรุกราน จะมีความรู้สึกอย่างร่างกายกำลังถูกไฟเผา ซึ่งความเจ็บปวดนั้นพอ ๆ กันกับความเจ็บปวดที่เสน่ห์หนอนพิษกู่นำมาในขณะเดียวกัน ฉินตวนหยางหลั่งน้ำอย่างหนัก เขาดูน่าเกลียดอย่า

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 5

    ทันทีที่เฟิงเหยียนเดินออกจากจวนของจั๋วซือหราน หลังจากนั้นไม่นาน ข้างเฟิงเหยียนมีร่างสีดำสองร่างปรากฏตัวอย่างเงียบ ๆ“ท่านอ๋องขอรับ” ชายที่สวมชุดดำทั้งสองแสดงความเคารพเฟิงเหยียนมีสีหน้าอย่างไม่มีอารมณ์ "ไปสืบมา ข้าต้องการรู้เสน่ห์หนอนพิษกู่ที่จั๋วจิ่วถูกวาง ใครเป็นคนสั่งการเบื้อหลัง"ไม่มีใครเชื่อหรอกว่าบัณฑิตที่ไร้ประโยชน์ผู้นั้นจะเป็นผู้กระทำความผิดนี้*จั๋วซือหรานกำลังนั่งอยู่ในห้อง ฝูซางกังวลอย่างมาก และรีบเช็ดเลือดที่ริมฝีปากของคุณหนูของนาง "คุณหนูเจ้าคะ คุณหนูจะปล่อยเป็นเช่นนี้อีกต่อไปมิได้หรอกนะ ข้าน้อยว่า เราควรรีบไปตามคุณหมอมาตรวจเถิดนะ"“ข้าแค่อาเจียนออกมาเป็นเลือดเพียงเท่านั้น กังวลอะไรล่ะ” จั๋วซือหรานดึงเข็มเงินที่นางสอดไว้ก่อนหน้านี้ออกมาอย่างใจเย็น “หากไม่บีบเลือดที่ติดพิษกู่ออกไป อาการบาดเจ็บภายในจะไม่มีทางหายหรอก”ฝูซาง: “ว่าแต่คุณหนูไปเรียนทักษะการรักษามาโรคตั้งแต่เมื่อไรกัน"จั๋วซือหรานยิ้มเบา ๆ และไม่ตอบ ”ยิ่งไปกว่านี้ ข้าอยากรู้ว่าใครกันแน่ที่เกลียดข้ามากจนใช้เสน่ห์หนอนพิษกู่ มิฉะนั้น ต่อให้ฉินตวนหยางมีความกล้าหาญมากเท่าไร เขาก็ไม่กล้าำเช่นนี้กับข้าหรอก แม้

บทล่าสุด

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1022

    เสียงของฉุนจวินเย็นลงไปอีก "ข้าไม่อยากพูดไร้สาระกับพวกเจ้า หลีกไป นายท่านของข้าคือเฟิงเหยียน ถ้าหากนายท่านจะลงโทษอะไรพวกเรา พวกเราก็จะไม่ปริปากบ่น แต่ก่อนหน้านั้น พวกเราไม่ใช่ว่าใครจะมารังแกกันได้"ฉุนจวินบอก เสียงชิ้งดังขึ้น! ชักดาบยาวออกมาแล้ว องครักษ์เงาคนอื่นเองก็ทยอยกันชักอาวุธออกมาฉุนจวินมองกลุ่มลาดตระเวนห้าคนตรงหน้านี้อย่างเย็นชา บอกว่า "อย่างมากก็แค่เชือดพวกเจ้าทิ้ง แล้วค่อยมาดูว่าจะโดนโทษแบบไหน แค่ลงโทษพวกเราไม่กลัวหรอก ข้าจะคอยดูพวกเจ้า ถ้าไม่มีชีวิตแล้วยังจะทำอะไรได้อีก"พอได้ยินคำพูดของฉุนจวิน พวกของกลุ่มลาดตระเวนก็เริ่มมีอาการจะถอยให้อย่างชัดเจนเพียงแต่ดูเหมือนว่า ยังพยายามจะแสดงท่าทีแข็งกร้าวแต่ใจจริงอ่อนแอตอบมาว่า "พวกเจ้าต่อให้กลับมา! ก็ยังมีความผิดติดตัวอยู่! ยังกล้ามาพูดแบบนี้กับเราอีก! ไปเถอะ! พวกเจ้ามัดตัวเองไปหาซื่อจื่อโน่นเลย ข้าจะดู ว่าซื่อจื่อจะลงโทษอะไรพวกเจ้า..."พอสิ้นเสียงคนของกลุ่มลาดตระเวนเสียงเย็นชาเสียงหนึ่ง ก็ดังลอดเข้ามาจากข้างๆ ฟังแล้วไม่มีความอบอุ่นใด ไม่มีอารมณ์ใดด้วย"ฟังน้ำเสียงเจ้าแล้ว ถ้าข้าไม่ลงโทษพวกเขา พวกเจ้าเองก็ตั้งใจจะจัดการข้า

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1021

    พอได้ยินคำนี้ของจั๋วซือหราน เหล่าองครักษ์เงาเดิมทียังอยู่ในท่ากิน ก็ล้วนชะงักนิ่งกันหมด"แม่นาง..."ฉุนจวินงึมงำเรียกนางขึ้นมาจั๋วซือหรานยิ้มให้เขา "เจ้าไม่ต้องคิดมาก ข้าไม่ได้มีความหมายอื่นอะไร เพียงแต่ข้าเข้าใจว่าพวกเจ้าภักดีต่อตัวเขามาก"ฉุนจวินเอ่ยว่า "ความภักดีต่อนายท่านของพวกเรา ไม่ได้ขัดแย้งกับความภักดีต่อแม่นางของพวกเรา กระทั่งว่า ถ้าต้องให้พวกเราเลือก บางทีทุกคนอาจจะเลือกแม่นางหมดก็ได้"อย่างน้อยภายใต้สถานการณืที่จั๋วซือหรานไม่ได้รังเกียจอะไรเฟิงเหยียน พวกขเาก็เลือกจะยืนข้างจั๋วซือหราน"ข้ารู้" จั๋วซือหรานพยักหน้า "เพียงแต่ว่า ข้าจะออกจากเมืองหลวงแล้ว หลวนหนานมีสถานการณ์แบบไหน ตอนนี้ก็ยังไม่รู้ ยิ่งไปกว่านั้น ข้ายังต้องไปที่สำนักเมฆาวารีก่อนด้วย ให้ข้าพาคนมากขนาดนี้ไป เดิมทีก็ไม่สมเห็นสมผลเท่าไร""ในจวนถึงแม้จะต้องการคนคอยคุ้มกัน และยังต้องการคนคุ้มกันแม่ข้า แต่ก็ไม่จำเป็นต้องมีมากขนาดนี้" จั๋วซือหรานพูดพลางเม้มปากเบาๆ มองฉุนจวิน "ข้างกายเขาตอนนี้คนที่ใช้ได้ไม่มีเลยสักคน"ฉุนจวินพอได้ยินคำพูดจั๋วซือหราน ก็เข้าใจขึ้นมาแล้วเขาถอนหายใจออกมาเบาๆ ที่สุดท้าย แม่นางจิ่วก็ยัง

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1020

    แต่ก็ไม่แปลก เพราะว่าพวกเขาล้วนรู้ว่าซื่อจื่อกับจั๋วจิ่วก่อนหน้านี้ใกล้ชิดกันมาก ดังนั้นจึงรู้สึกระวังตัวขึ้นมา คิดแค่ว่าซื่อจื่อจะช่วยจั๋วจิ๋วไหมและพอผ่อนลมหายใจ เพราะพวกเขารู้ว่าซื่อจื่อจำนางไม่ได้ไปนานแล้ว มีแต่นางที่ยังคิดไปเองฝ่ายเดียวคนของกลุ่มลาดตระเวนล้วนมองไปยังเฟิงเหยียนมุมปากจั๋วซือหรานยกขึ้นเป็นเส้นโค้งลางๆ "ทำไมหรือ? ท่านอ๋องจะลงมือกับข้ารึ?"เฟิงเหยียนไม่ตอบคำนี้ แค่กวาดตามองกลุ่มลาดตระเวนนี้อย่างเย็นชาผาดหนึ่ง "ยังไม่ไปนี่คือคิดจะลงมือกับนางจริงรึ?"หัวหน้ากลุ่มลาดตระเวนตอบสนองขึ้นมาฉับพลัน ซื่อจื่อมาคลี่คลายให้พวกเขาแล้วส่วนใหญ่ก็รู้อยู่ว่าถ้าลงมือกับนาง พวกเขาไม่พูดก็คงได้ตายกันอย่างไม่ต้องสงสัยแน่ อย่างน้อยก็ไม่มีความหวังที่จะชนะได้เลยลังเลเพียงครู่เดียว พวกเขาก็ออกไปกันจั๋วซือหรานเองก็ไม่คิดที่จะไล่ไปโจมตี นางไพล่มือไว้ด้านหลัง ยืนเงียบๆ อยู่กับที่ ดูแล้วเหมือนกำลังเดินผ่อนคลายอยู่ในสวยหลังบ้านตนเองอย่างไรอบ่างนั้น"ได้ยินว่าเจ้าจะออกจากเมืองหลวงแล้ว" เฟิงเหยียนเอ่ยขึ้นจั๋วซือหรานพอได้ยินก็ยกมุมปากยิ้ม "ก็เหมือนกันนั่นล่ะ ได้ยินว่าท่านอ๋องเองก็จะออกจ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1019

    จวนตระกูลเฟิงช่วงกลางดึก ยังคงดูคึกคักกลุ่มลาดระเวนของจวนตระกูลเฟิงแต่เดิมยังไล่ตามผู้บุกรุกจวนไม่ได้ ค้นหาไปจนทั่วทุกซอกมุมแล้วจึงเห็นร่างสีแดงร่างหนึ่ง เดินเข้ามาทางพวกเขาอย่างหยิ่งผยองคนของกลุ่มลาดตระเวนพอเห็น เบื้องหน้าก็มืดบอดไป!ทำไมถึงเป็นนางปีศาจนี่อีกแล้วล่ะ?!นางไม่ใช่ว่าไม่มาเล่นที่บ้านตระกูลเฟิงตังนานแล้วหรือ? ทำไมถึงมาอีกแล้วกัน?!ยิ่งไปกว่านั้นนางปีศาจคนนี้ นางมีท่าท่าที่แอบเข้ามาบ้านคนอื่นอย่างลับๆ ล่อๆ เสียที่ไหน?นี่นางปรากฏตัวอย่างหยิ่งผยองเลยต่างหาก!ยืนอยู่ตรงหน้าพวกเขา กระทั่งยังโบกมือให้พวกเขาด้วย "ไม่เจอกันตั้งนาน"คนของกลุ่มลาดตระเวน หน้าดำคร่ำเครียดไปหมด! อะไรคือไม่เจอกันตั้งนาน?!ใครอยากเจอนางกัน!"จั๋วจิ่ว! เจ้าบังอาจนักนะ ถึงกับกล้าบุกเข้ามาจวนตระกูลเฟิงอีกครั้ง!" หัวหน้ากลุ่มลาดตระเวนตะคอกขึ้นมาจั๋วซือหรานคิดๆ "ก่อนหน้านี้ข้าก็มาบ่อยๆ คุ้นหน้ากันแล้วนี่ เจ้าไม่ต้องใช้น้ำเสียตกใจขนาดนี้ก็ได้ ช่วงนี้ข้าก็แค่มีเรื่องเยอะจนทำให้ล่าช้าไปเท่านั้น"คนของกลุ่มลาดตระเวนล้วนตะโกนกันในใจ! ถึงอย่างไรก็ล่าช้าไปแล้วนี่! เจ้าไม่ต้องมาอีกเลยก็ได้!จั๋วซือ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1018

    เฟิงอวี้มองขวดสุราผาดหนึ่ง สายตาก็เหมือนล่องลอยไปไกล แฝงไปด้วยความคิดคะนึง"ข้าดื่มสุรานี้ ไม่เดี่ยวกับอะไรกับพลังศักดิ์สิทธิ์หงส์แดง" ปลายนิ้วเฟิงอวี้นวดคลึงเบาๆ บนขวดสุรา ลายมือที่สลักอยู่บนขวดสุรา เลือนลางจนมองไม่ชัดไปตามกาลเวลาต้องมองอย่างละเอียด ถึงจะเห็นว่า ด้านบนสลักคำว่า 'เสวี่ย' ไว้คำว่าเสวี่ยจากชื่อเสวี่ยเจินแม่ของเฟิงเหยียน"ตอนนั้นข้าถูกพลังศักดิ์สิทธิ์ทรมาน ทุกวันเจ็บปวดแสนสาหัส แม่ของเจ้าก็คิดหาทุกวิถีทาง ถึงได้ทำสุราเหมันต์นี้ออกมาได้ บวกกับอักขระคำสาปพิเศษ จึงสามารถข่มพลังศักดิ์สิทธิ์ที่ทำร้ายตัวเองนี้ได้ในระดับหนึ่ง"เฟิงอวี้ทั้งที่พูดถึงความเจ็บปวดในอดีตแท้ๆ แต่อดีตพวกนั้นก็เคยเป็นช่วงเวลาที่เขาใช้ชีวิตกับภรรยาด้วย ดังนั้นบนหน้าเขาจึงไม่มีสีหน้าความเจ็บปวดแม้แต่น้อย แต่กลับดูอ่อนโยนเสียด้วยซ้ำไปเฟิงเหยียนพอได้ยินคำนี้ก็รู้สึกประหลาดใจ อันที่จริงก่อนหน้านี้ตอนที่เขาอยู่ในมุมมืด ก็ได้ยินเนื้อหาเหล่านั้นที่ท่านพ่อบอกกับจั๋วจิ่ว นั่นมันก็ประหลาดมากแล้ว...ไม่สิ คำพูดเหล่านั้นสำหรับเขา บางทีน่าจะเป็นการพลิกผันทำให้ความคิดและความเชื่อที่ฝังลึกมานานหลายปีพลิกผันไปอ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1017

    ตอนที่เฟิงอวี้มีปฏิกิริยาถึงความหมายในคำพูดนาง เจ้าเด็กคนนี้ก็กระโจนหนีไปทางยอดไม้แล้วตอนนี้มันใช่ปัญหาเรื่องนามสกุลของลูกหรือ!เฟิงอวี้แค่รู้สึกว่าหนังหัวตึงขึ้นมา ก่อ่นหน้านี้บางทีคงไม่ทันสังเกต แต่ตอนนี้ ตัวตนของสายตาที่จับจ้องอยู่ด้านหลังนั้นเพิกเฉยไปไม่ได้เลยไม่รู้ว่ามาตั้งแต่ตอนไหน และไม่รู้ว่าฟังอยู่นานแค่ไหน ฟังไปมากแค่ไหนพอเฟิงอวี้หมุนตัว ก็เห็นว่าในมุมมืดไม่ห่างไปนัก ร่างสูงโปร่งร่างหนึ่งยืนอยู่ตรงนั้น เสื้อผ้าสีดำบนตัว เดิมทีก็ดูไม่เด่นอยู่แล้ว พอบวกกับการที่เขาเก็บงำตัวตนอย่างสมบูรณ์แบบดังนั้นจึงยิ่งทำให้คนสังเกตเห็นได้ยาก เฟิงอวี้ตอนนี้ก็เพิ่งจะจับได้ถึงตัวตนเขาพอคิดถึงคำพูดเหล่านั้นก่อนที่จั๋วจิ่วจะออกไป ก็ฟังออกว่า นางเหมือนจะสังเกตได้นานแล้ว เจ้าเด็กนี่จริงๆ เลย สังเกตเห็นเขาแล้วแท้ๆ ดันไม่เตือนกันเสียหน่อยถ้าเตือนมาสักนิด เขาคงไม่พูดอะไรไร้สาระมากขนาดนี้หรอก ตอนนี้คงไม่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกขนาดนี้เฟิงอวี้มองไปยังเฟิงเหยียนที่ยืนอยู่ในเงามืด ไม่ค่อยเจอจริงๆ บนใบหน้าเย็นชาแต่ไหนแต่ไรของเฟิงอวี้ ที่จะมีสีหน้าประหม่าขึ้นมาแบบนี้"เจ้ามาได้อย่างไรกัน" เฟิงอวี

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1016

    "ใช่ ตระกูลเฟิงจะว่าอย่างไรก็คือมองข้ามเจ้าไป ไม่คิดว่าจะมีตัวตนแบบเจ้า พวกเขาคิดไม่ถึงว่าเจ้าจะดึงดูดพลังศักดิ์สิทธิ์หงส์แดงของเฟิงเหยียนมาใช้กับตนเองได้ นี่เป็นเรื่องที่พวกเขาไม่เคยเจอมาก่อน ดังนั้นจึงรู้สึกว่ายากจะควบคุม ตัดสินใจเลือกปล่อยเจ้าทิ้งไปเสีย"ส่วนเหยียนเอ๋อร์...หลังจากที่รู้ว่าอาจจะทำให้เจ้าต้องบาดเจ็บ จึงเห็นด้วยกับวิธีลบความทรงจำของพวกเขา เขารู้นิสัยเจ้าดี ร้ว่าเจ้ากล้ารักและกล้าเกลียดดังนั้นเขาจึงรู้สึกว่า ขอแค่เขาจำเจ้าไม่ได้ ด้วยนิสัยของเจ้า ไม่มีทางที่จะเอาแต่อยู่กับเขาไม่จากไปไหนแน่นอนถึงแม้ในสายตาคนนอกเจ้าจะดูเหมือนรักเขาอย่างลึกซึ้ง แต่เขาเข้าใจนิสัยแท้จริงของเจ้าดี ดังนั้น เขาทำถึงขนาดนี้แล้ว เจ้าหนีได้ก็ควรจะรีบหนีไปซะ อย่ากระโดดมาลงหลุมอีก ข้าเตือนเจ้าไปตั้งนานแล้วพอฟังคำเหล่านี้ของเฟิงอวี้ จั๋วซือหรานจึงถามว่า "แล้วพวกท่านล่ะ? เฟิงเหยียนเหมือนตัดสินใจจะออกไปท่องเที่ยวนอกเมืองหลวงแล้วนี่?""ใช่ ตระกูลเฟิงถูกตัวตนของเจ้าเล่นงานจนรับมือไม่ทัน ดังนั้นตอนนั้นขอแค่เขาเห็นด้วยกับการลบความทรงจำ ตระกูลเฟิงก็จะเห็นด้วยกับเงื่อนไขที่มากมายของเขา หนึ่งในนั้นคือส

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1015

    จั๋วซือหรานเรียบเรียงความคิดในหัว เรียบเรียงเรื่องราวออกมาให้ชัดเจน เอ่ยออกมาอย่างไม่รีบไม่ร้อน"ท่านไม่รู้ว่าพลังศักดิ์สิทธิ์เป็นเหมือนกับครรภ์พิษ สร้างตราประทับให้กับเฟิงเหยียนตั้งแต่ในครรภ์แม่ ดังนั้นท่านจึงไม่คิดจะให้เขาเป็นแบบท่าน ทรยศเจ้าโชคชะตาที่ยากลำบากนี้ ท่านปั้นเรื่องราวขึ้นมาภายใต้การยอมรับของตระกูลเฟิง"ท่านทำให้เขาเกลียดท่าน กระทั่งดีใจด้วยซ้ำที่มันเป็นเช่นนั้น ก็เพื่อให้ตอนที่เขาออกไปหลังจากนี้ ไม่ถูกท่านถ่วงแข้งขาไว้อีก ดังนั้นเฟิงเหยียนจึงได้ออกไปท่องโลกมานานในช่วงอายุยังน้อย กระทั่ง...เกือบจะได้สัมผัสถึงอิสระแล้วแต่เขาดันกลับมา ทรยศสิ่งที่เรียกว่าโชคชะตา คิดแล้วก็น่าจะเพราะเขาถูกประทับตราพลังศักดิ์สิทธิ์ไปตั้งแต่อยู่ในครรภ์แม่ ถ้าหากโตมาถึงระดับหนึ่ง...บางทีภายใต้เงื่อนไขบางอย่าง ถ้าไม่ได้รับสืบทอดพลังศักดิ์สิทธิ์ ก็อาจจะจบไม่สวยนัก...จั๋วซือหรานพูดถึงตรงนี้ ก็ตั้งใจครุ่นคิดขึ้นมา งึมงำกับตนเองว่า "เงื่อนไขอะไรกันนะ..." นางครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จึงเงยตามองไปทางเฟิงอวี้ ถามขึ้นว่า "กระบี่ประจำตระกูลใช่ไหม"เฟิงอวี้มองนาง ไม่ได้ตอบ แค่ถอนหายใจออกมาเบาๆจั๋วซือห

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1014

    จั๋วซือหรานพอได้ยินเขาพูดถึงจุดนี้ ก็รู้ว่าเรื่องในอดีตเหมือนจะจบลงแล้ว นางก็เหมือนคนที่เพิ่งยกภาระออกจากอก ถอนหายใจยาวออกมาเงียบๆเฟิงอวี้นั่งอยู่บนเก้าอี้ ท่าทางดูแล้วไม่ได้เย็นเยียบเหมือนก่อนหน้าขนาดนั้นแล้วมองออกไม่ยาก เขาก็เหมือนเพิ่งยกภาระออกจากอกเช่นกันมีแต่ฟ้าที่รู้ว่าเขาแบกเรื่องนี้ไว้มานานแค่ไหน คำพูดเมื่อครู่นี้ คือคำตอบที่ให้กับนาง ขณะเดียวกันอาจจะเป็นการปลดปล่อยความรู้สึกตนเองออกมาด้วยก้ได้? จั๋วซือหรานคิดในใจจากนั้นก็คือความงงงัน พอย้อนนึกถึงความคิดนี้อีกครั้ง ก็จริง มีแต่ฟ้าที่รู้ว่าเขาแบกเรื่องนี้ไว้แล้วนานแค่ไหนจั๋วซือหรานเอ่ยขึ้น "เฟิงเหยียนไม่รู้เรื่องนี้เลย" นางใช้น้ำเสียงที่ยืนยัน ถ้าหากเฟิงเหยียนรู้เรื่องนี คงไม่มีทางมีท่าทีแบบนั้นกับพ่อของเขา...ท่าทีที่เหมือนว่าพ่อเป็นต้นเหตุของทุกสิ่งอย่างยิ่งไปกว่านั้น...จั๋วซือหรานขมวดคิ้ว บอกต่ออีกว่า "ตระกูลเฟิงไม่รู้เรื่องนี้ พวกเขาไม่รู้ว่าท่านฟื้นคืนความจำแล้ว...ไม่เช่นนั้นคงไม่มีทางเอาความเสียงอย่างท่านมาไว้ในตระกูล กระทั่งยังให้ความสำคัญเป็นพิเศษด้วย"เฟิงอวี้มองนาง ในดวงตามีสีหน้าเหมือนยิ้มเหมือนไม่ยิ้ม

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status