แชร์

บทที่ 1025

ผู้เขียน: หูเทียนเสี่ยว
พอได้ยินคำนี้ของเฟิงอวี้ คิ้วของเฟิงเหยียนก็ขมวด

เขายกมือโบกกับฉุนจวิน เป็นสัญญาณให้ฉุนจวินถอยไป

ฉุนจวินประสานมือลา

หลังจากฉุนจวินออกไป เฟิงเหยียนจึงมองเฟิงอวี้ เอ่ยขึ้นว่า "กินของคนอื่นก็จะติดค้างเขานะ หลังจากข้าออกจากเมืองหลวง แม่ของนาง ธุรกิจของนาง คนของนาง ท่านก็ดูแลเสียหน่อยเถอะ"

เฟิงอวี้พอได้ยิน "ในเมื่อไม่วางใจขนาดนี้ ทำไมไม่ให้คนจัดการดูแลเสียเองล่ะ?"

เฟิงเหยียนยกมุมปาก รอยยิ้มเย็นชา "ถ้าข้าให้คนของข้าดูแล เจ้าพวกตาแก่นั่นก็น่าจะไม่วางใจต่อนาง ตอนนี้มองนางเป็นนางมารร้ายทำลายชาติบ้านเมืองไปแล้ว ถึงตอนนั้นก็ยังไม่แน่ว่าจะรับมือกับนางอย่างไร"

เฟิงอวี้ไม่พูดอะไร แค่มองเขาเงียบๆ

เฟิงเหยียนชะงัก แต่ยังคงพูดต่อไปว่า "ยิ่งไปกว่านั้น สิ่งที่ข้าต้องการ มันก็แบบนี้ไม่ใช่หรือ"

คำพูดนี้ฟังแล้วเหมือนไม่ค่อยสมเหตุสมผล แต่เฟิงอวี้กลับเข้าใจความหมายเขา

สิ่งที่ข้าต้องการ...เกรงว่าจะหมายถึงตนเองที่รักจั๋วซือหรานอย่างลึกซึ้งตอนที่ยังไม่ถูกลบความทรงจำกระมัง

เฟิงเหยียนหลังจากพูดเหล่านี้จบ ก็ไม่คิดจะพูดอะไรกับพ่อมากนัก หมุนตัวจะเดินออกไป

แต่เฟิงอวี้ก็เรียกเขาไว้ "ไหนๆ ก็มาแล้ว มากินมาดื่มก
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1026

    สายตานางยังคงจับจ้องไปเบื้องหน้า กระทั่งเสียงกับท่าทางก็ยังคงดูไม่ใส่ใจเหมือนเดิมเนื้อหาในคำพูดทำให้คนขับรถขนหัวลุกขึ้นมาทันที"อย่างเช่นตอนแรกสุดก็มีคนไล่ตามเข้ามาติดๆ หรือข้างหน้ามีคนดักซุ่มโจมตีอะไรแบบนี้" จั๋วซือหรานตอบสีหน้าคนขับรถเปลี่ยนไป คำพูดเริ่มติดขัดขึ้นมา "ซุ่ม ซุ่มโจมตีหรือ? มีการซุ่มโจมตีหรือ?"เขาไม่รู้ตัวเลย เขาก็แค่คนขับรถม้าธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้นจั๋วซือหรานพยักหน้า "อืม เป็นเรื่องที่คาดไว้แล้ว แต่ไม่ต้องห่วง ข้าเองก็จงใจเดินทางแบบสัมภาระน้อยๆ ถ้าเอาขบวนรถม้าใหญ่ๆ มาข้าเองก็รับประกันไม่ได้ว่าจะคุ้มครองได้หมดไหม แต่ถ้าเจ้าแค่คนเดียวไม่ใช่ปัญหาเลย"คนขับรถเป็นคนขับรถในเรือนนาง ถึงแม้จะรู้ว่าการซุ่มโจมตีเป็นเรื่องน่ากลัว แต่สำหรับฝีมือคุณหนูของตนเองแล้วตนเองก็เชื่อมั่นอย่างยิ่งพอได้ยินคำนี้ของจั๋วซือหราน เส้นประสาทที่ยังตึงก่อนหน้านี้ ก็ผ่อนคลายลงมาไม่น้อย "แม่นางพูดชเ่นนี้ ข้า ข้าก็วางใจแล้ว""อืม เจ้าขับรถไปก็พอ อีกเดี๋ยวไม่ว่าเกิดเรื่องอะไร..." ดวงตาพญาหงส์ใสกระจ่างของจั๋วซือหราน หรี่ลงมาเล็กน้อย เอ่ยต่อว่า "...ไม่ต้องหยุด นี่เป็นสิ่งเดียวที่เจ้าต้องทำ""ร

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1027

    คนขับรถเห็นทั้งหมดกับตา!นั่นก็เพราะ เขาต้องตั้งใจพยายามขับรถม้าอยู่ตลอด ดังนั้นไม่ว่าการเคลื่อนไหวอะไร เขาจึงจ้องมองเบื้องหน้าอย่างตั้งใจ ดังนั้นจึงเห็นสาเหตุขั้นตอนทั้งหมดได้อย่างชัดเจนดังนั้นในสมองเขา จึงค่อยๆ ทำเรื่องราวทั้งหมดชัดเจนขึ้นอีกฝ่ายแค่ทดลองโจมตีใส่นางครั้งหนึ่ง ก็ถูกแม่นางจิ่วสกัดไว้ ขณะเดียวกันก็ยังพบร่องรอยของคนที่ลอบโจมตี จากนั้นก็สวนกลับทันที แล้วยังโต้กลับสำเร็จด้วย!คนขับรถอดคิดในใจไม่ได้ ถ้าหากพวกลอบโจมตีเหล่านี้ คิดจะลองเชิงพลังของแม่นางจิ่วก่อนล่ะก็ ผลลัพธ์การลองเชิงพวกเขาคงไม่ค่อยดีนักแน่ๆและระยะห่างของที่นี่กับช่องภูเขา คนขับรถคะเนจากการขับของตนเอง อย่างมากก็ประมาณหนึ่งเค่อครึ่งเท่านั้น ก็จะทะลวงผ่านช่องเขานี้ไปได้!ดังนั้น แม่นางจิ่วแค่ยืนหยัดในช่วงหนึ่งเค่อครึ่งให้ได้และคนที่ลอบโจมตีพวกนั้นก็มีเวลาแค่หนึ่งเค่อครึ่งความเป็นความตาย! อยู่ในเวลาสั้นๆ แค่หนึ่งเค่อครึ่งนี้!คนที่ลอบโจมตีก็เหมือนจะตระหนักได้แล้ว ว่าลอบโจมตีคนเดียวไม่ได้ ไม่ใช่แค่จะล่อลวงจั๋วซือหรานไม่ได้ แต่ยังถูกนางเด็ดหัวทิ้งไปด้วย!ดังนั้นเพียงไม่นาน การโจมตีจึงเปลี่ยนเป็บแบบกลุ่

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1028

    พอได้ยินคำนี้ของนายท่านผู้เยี่ยมยุทธ์ คนขับรถก็ตึงเครียดขึ้นมาหน่อยๆ "แม่ แม่นาง เป็นอะไรหรือเปล่า?"จั๋วซือหรานตอนแรกที่เข้ามายังเขตแดนนี้ ก็กางพลังวิญญาณของตนเองออกมาเพื่อสัมผัสการลอบโจมตีของศัตรูแล้วความเข้ากันได้กับธรรมชาติของพลังวิญญาณธาตุไม้แข็งแกร่งมาก ตอนที่ฝึกจนถึงระดับสูงๆ แต่ต้นไม้ใบหญ้าก็ยังอยู่ในสายตาและการได้ยินจั๋วซือหรานเองก็มีความสามารถเช่นนี้ แม้ขณะที่กำลังดำเนินการ ถ้าหากอีกฝ่ายไม่ขยับล่ะก็ ก็จะถือว่าแย่ไปหน่อยแต่ถ้าหากอีกฝ่ายขยับตัวอย่างให้ความร่วมมือ ปัญหาก็ไม่ยากแล้วดังนั้นเมื่อครู่จึงยิงได้อย่างไม่เสียเปล่า และตอนนี้นางสัมผัสได้ถึงสิ่งที่เกินจากคาดการณ์ไว้แล้ว...การเคลื่อนไหวนั้น เสียงนั้น นั้นไม่ใช่เสียงรั้งสายธนู และไม่ใช่เสียงสั่นสะเทือนของสายธนูนั่นเป็น...เสียงของเครื่องยิงธนู"รถยิงธนู" จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้นคนขับรถหน้าซีดไปทันที เขาไม่เคยไปสนามรบแต่ก็เคยได้ยินถึงความร้ายกาจของรถยิงธนู เจ้าสิ่งนี้พลานุภาพใหญ๋โตมาก สามารถยิงได้ระยะไกลโข! กระทั่งแทงทะลุรถม้าได้เลย!มีรถยิงธนูที่ร้ายกาจหน่อย กระทั่งสามารถยิงทะลุประตูเมืองขนาดเล็กที่ความหนาไม่ได้มา

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1029

    "เกิด...อะไรขึ้น?" คนลอบโจมตียังคิดว่ายิงโดนแล้วแน่ๆต่อให้ยิงไม่โดนจั๋วซือหราน แต่อย่างน้อยก็ต้องยิงไปโดนรถนาง นี่เป็นเป้าหมายแต่เดิมของพวกเขาขอแค่นางไม่มีรถ ทิ้งนางไว้ที่นี่ แต่นอนว่าจะรับมือกับนางได้ดีกว่าแต่ว่า การโจมตีเมื่อครู่ ไม่ใช่แค่ไม่โดนนางนะ แต่กระทั่งรถม้าของนางก็ยังไม่โดนลูกธนูหนาหนักขนาดนั้นดอกหนึ่ง หายวับไปกับตา ไม่เหลือแม้เงานี่มันประหลาดจริงๆ แต่ด้วยเวลาตอนนี้ ปฏิกิริยาที่พวกเขาสามารถทำออกมาได้เหมาะที่สุดก็คือ..."ยิงอีกรอบ!"เสียงเครื่องยิงธนูดังขึ้นอีกครั้ง!จั๋วซือหรานไม่ประมาทเลยแม้แต่น้อย นางร่อนลงมาบนตัวรถ เพื่อทำการเตรียมตัวรับมือการโจมตีครั้งต่อไปขณะที่คนขับถอนใจโล่ง ดวงตาก็เป็นประกาย พอเหลือบมองด้วยหางตาจึงมองเห็น ที่แท้คุณหนูก็หยิบยืมพลังของสัตว์อสูรปีกตัวหนึ่งดังนั้นเมื่อครู่จึงบินขึ้นไป!"อย่ามองข้า มองทางไป" ความระมัดระวังในเสียงจั๋วซือหรานยังไม่หายไป ฟังออกว่า นางไม่ได้ผ่อนความระแวดระวังลงเลยคนขับรถเองก็จริงจัง ตั้งใจขึ้นมา"มาอีกแล้ว" จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้น "เจ้าทำตามที่ข้าพูดก่อนหน้านี้ก็พอ"คนขับรถพยักหน้าเงียบๆ เรื่องอื่นเขาไม่ค่อยไ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1030

    ฝุ่นดินเหล่านั้นกระทั้งทำให้สายตาของคนขับเลือนรางด้วยแต่เขาก็ไม่กล้าหยุด ทำตามคำสั่งของนายท่านอย่างเดียวเท่านั้น ตรงไป! ตรงไป!เขาเองก็ไม่รู้ว่าคูน้ำข้างหน้าพวกนั้นตอนนี้เป็นอย่างไร แต่สรุปคือเขาต้องตรงไปอย่างเดียว!ที่คิดไม่ถึงก็คือ รถม้าแม้จะโคลงเคลง แต่ก็ไม่ได้หยุดลง!ในใจคนขับคิดขึ้นมาอย่างตกตะลึง หรือว่าแมงมุมพวกนั้นจะถมคูน้ำจนเรียบได้จริง!จากนั้นเขาจึงเห็นว่าคุณหนูยกมือตบเบาๆ ไปที่ตัวม้า ส่งแรงปลอบประโลมออกมาคนขับถามเสียงขึ้นเสียงเล็ก "คุณหนู เป็นอย่างไรบ้าง?""โอ้ ไม่เป็นไร ม้าแค่เครียดนิดหน่อย แมงมุมน้อยของข้าตัวใหญ่ไปหน่อย มันเลยตกใจน่ะ ข้าปลอบเสียหน่อย" จั๋วซือหรานตอบคนขับตอนนี้จึงเพิ่งรู้ "นี่พวกมันถมคูน้ำจนเรียบแล้วหรือ?"จั๋วซือหรานร้องอืมเสียงหนึ่ง "สัตว์ประหลาดอย่างพวกแมงมุมชนิดนี้ มีแขนเคียวคู่นั้นอยู่ ถนัดการขุดเจาะเป็นที่สุด แค่ถมคูน้ำแค่นี้ไม่ใช่เรื่องใหญ่เลย"คนขับเอ่ยขึ้นอย่างตื่นเต้น "ดีจริงๆ เช่นนั้นพวกเราก็ออกไปได้แล้ว!"ปากทางด่านช่องภูเขาอยู่ตรงหน้าแล้วแต่หลังจากที่ฝุ่นดินสลายไป คนขับก็หรี่ตาลง เห็นว่าที่ปากทางด่านช่องภูเขามีคนคนหนึ่งยืนอยู่

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1031

    "อุก" คิ้วงามของปันอวิ๋นขมวดเล็กน้อย แต่สีหน้ากลับไม่ได้ดูเจ็บปวดมากเท่าไรเขาเหลือบมองแผลที่เอวตนเองผาดหนึ่ง จุ๊ปากขึ้นมา "จะสังหารสามีรึ"ในน้ำเสียงที่พูดกระทั่งมีความยานคางอยู่เล็กน้อยจั๋วซือหรานเหลือบมองเขาผาดหนึ่ง นี่มันเวลาไหนแล้ว ยังจะมาพูดเล่นอยู่อีก ดังนั้นจึงขี้เกียจจะไปแกสรรพนามเขาใหม่นางยื่นมือไปจับข้อมือปันอวิ๋นเขาก้มลงมืองข้อมือที่ถูกจับไว้ผาดหนึ่ง สัมผัสได้ถึงพลังวูบหนึ่งที่ค่อยๆ ถ่ายเข้ามา"อื๋อ?" ในจมูกปันอวิ๋นมีเสียงพยางค์ความสงสัยดังขึ้นมาแต่เขายังไม่ทันจะมีปฏิกิริยา จั๋วซือหรานก็คลายมือออกแล้ว จากนันจึงยกเท้าขึ้นข้างหนึ่ง ถีบเขาตกลงไปจากบนรถน่าจะเพราะการกระทำนี้ของนางเกินจากที่เขาคาดการณ์ไว้ ดังนั้นตอนที่จั๋วซือหรานถีบเขาลงจากรถม้า สีหน้าของปันอวิ๋นจึงเหลือเครื่องหมาย '???' เอาไว้อยู่พักหนึ่งหลังของปันอวิ๋นสัมผัสกับพื้นดิน กระแทกจนเจ็บปวดขึ้นมา เขาไม่ได้ใส่ใจนัก และได้ยินเสียงใสเย็นชาของหญิงสาวที่เหมือนมีแววขบขันลอยแว่วมาตามลม:"รักษาให้เจ้าแล้วนะ เอาไว้เจอกันใหม่ เจ้าหุบเขาปัน"ปันอวิ๋นล้มลงอยู่กับพื้น จึงเอามือไปรองที่หลังคออย่างเกียจคร้าน นอนมันบ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1032

    จนตอนเลิกเสื้อผ้าขึ้นแล้วมองดู...บนกล้ามเนื้อหน้าท่องที่แน่นกระชับ แข็งแรง นกจากรอยเลือดบางส่วนแล้ว...ก็แทบเหลืออะไรอยู่เลยถ้าหากไม่ใช่ยังมีรอยเลือดสะดุดตากับรอยแผลเป็นจางๆ ที่เหลืออยู่บนนั้น ใครก็มองไม่ออกทั้งนั้นว่าก่อนหน้านี้เคยบาดเจ็บมา"เอ๋?" ผู้ใต้บัญชาสงสัยขึ้นมา "เป็นไปได้อย่างไร...ทั้งที่เลือดออกมากขนาดนี้แท้ๆ"ปันอวิ๋นลุกขึ้นนั่ง ใช้มือปัดๆ ฝุ่นบนเสื้อผ้าออก ท่วงท่ายังคงสง่างามเช่นเคย เอ่ยขึ้นเสียงราบเรียบ "มีคนก่อนที่จะออกไปรักษาให้ข้าไว้น่ะ"ผู้ใต้บัญชาพอได้ยินคำนี้ ก็คิดถึงเป้าหมายของนายท่านวันนี้ขึ้นมา ต่อมาจึงตอบสนองกลับมาได้ "นายท่านจะบอกว่า...แม่นางจั๋วจิ่วคนนั้น?"ปันอวิ๋นไม่ตอบ เพียงแต่ในสายตามีความสนใจขึ้นอย่างลึกซึ้งผู้ใต้บัญชาถาม "นายท่าน ่ทางนี้ไม่มีเรื่องของเราแล้วกระมัง? กลับกันไหม?""ไม่" ปันอวิ๋นปฏิเสธ "กลับไปไม่มีอะไรทำ นางน่าสนใจกว่าตั้งเยอะ"ปันอวิ๋นกำชับกับผู้ใต้บัญชา "ไป ดูว่านางไปหยุดลงที่ไหน คิดจะไปไหน จากนั้นมารายงานข้าด้วย""ขอรับ"อีกด้านหนึ่ง จั๋วซือหรานหลังจากผ่านด่านช่องภูเขามาได้ ก็เป็นทางราบม้าวิ่งคนขับรถอดถอนใจยินดีไม่ได้ "โว้ว

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1033

    คนขับรถทำตามความต้องการของจั๋วซือหราน หยุดรถม้าลงมาจั๋วซือหรานที่อยู่ข้างๆ ก็เก็บกิ่งไม้ส่วนหนึ่งเข้ามา ก่อเป็นกองไฟเล็กๆคนขับรถเดิมทียังคิดจะทำตัวให้กล้าเข้าไว้ ถึงอย่างไร...ออกจากบ้านมาภายนอก จะให้คุณหนูมาทำงานหยาบๆ แบบนี้ได้อย่างไรกัน?!แต่ว่า คุณหนูก็ทำได้ทั้งเร็วและดีเลย...คนขับรถแอบรู้สึกดีใจที่คุณหนูยังต้องการให้เขาขับรถต่อให้จั๋วซือหรานกอดเขาอยู่ข้างกองไฟ ดูเหมือนจะเบื่อๆ อย่างไรอย่างนั้นแสงไฟสะท้อนในดวงตานาง ครู่ต่อมา นางก็กลอกตามองไปทางด่านช่องภูเขาก่อนหน้านี้ เหลือบมองไปครู่หนึ่งช่วงการเหลือบมองนี้ ทำให้คนขับรถเกิดเครียดขึ้นมาแบบไม่มีเหตุผล "มี...มีคนตามมาหรือ?"จั๋วซือหรานส่ายหัว หยิบท่อนไม้ออกมาเขี่ยกองไฟเล่น "กลัวคนไล่มาทำไมกัน เพียงแต่ว่า แมงมุมของข้ายังไม่กลับมากันเลย ข้าเองก็หิวแล้วด้วย"คนขับรถอันที่จริง...ก็ยังฟังความสัมพันธ์ของเหตุและผลไม่ค่อยเข้าใจนัก แมงมุมไม่กลับมากับหิวแล้วมันเกี่ยวข้องกันอย่างไร?แต่เขาก็ไม่ได้ถามละเอียด แต่รีบพูดขึ้นว่า "บนรถมีเสบียงแห้งอยู่ขอรับ คุณหนูจะกินเสียหน่อยไหม?"จั๋วซือหรานส่ายหัวถ้านางยอมกินพวกนั้น ก็คงไม่ต้องหิว

บทล่าสุด

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1038

    แล้วจึงยกใบไม้ขึ้น กินอย่างเอร็ดอร่อยขึ้นมาทั้งที่อย่างกันนอกป่าแบบนี้ แต่พอนางกินขึ้นมา กลับไม่ได้ดูหยาบกร้านเลยแม้แต่น้อย มองแล้วดูสง่างามหน่อยๆ ด้วย"กินสิ งงอะไรกัน" จั๋วซือหรานเชิดคางให้กับคนขับรถเขาจึงเพิ่งได้สติกลับมา ยกใบไม้ขึ้นแล้วลงมือกินก่อนหน้านี้ยังรู้สึกงงงันกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกะทันหัน ตอนนี้กลับสนแต่กินๆ แล้วก็กินอารารร้อนๆ ปลอบประโลมใจคนได้ดีที่สุด อารมณ์เขาสงบลงมาอย่างรวดเร็วถามจั๋วซือหรานคำหนึ่ง "คุณหนู พวกเขาคือ...ตัวประกันหรือ?""อื๋อ?" จั๋วซือหรานเหลือบมองไปทางคนของสำนักเมฆาวารี "พวกเขาเป็นคนของสำนักเมฆาวารี เดิมทีคิดว่าพอถามเสร็จจะจัดการทิ้ง แต่พอตอนนี้เจ้าบอกว่าตัวประกัน ก็เกิดความคิดใหม่ขึ้นมาแล้ว"คนพวกนั้นถูกสกัดจุดพูดเอาไว้ จึงพูดอะไรไม่ออกแต่ก็ไม่ได้สกัดการได้ยินไว้ ดังนั้นจึงได้ยินการสนทนากันของจั๋วซือหรานกับคนขับรถ พอได้ยินคำพูดเหล่านี้ พวกเขาก็ทยอยกันถลึงตาโตน่าจะเพราะไม่คิดว่า หญิงสาวงดงามตรงหน้าจะมีความโหดร้ายระดับนี้เลยทีเดียว!และไม่รู้ว่าเพราะคำพูดของจั๋วซือหรานสร้างบทบาทขึ้นหรือเปล่าหรือบางทีตอนที่พูดออกมานางจงใจทำให้พวกเขาไม

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1037

    บางทีพวกเขาไม่ใช่ไม่เคยมีความคิดเช่นนี้ แต่พอถูกสายตาที่แผ่จิตสังหารเช่นนี้ของนางกวาดเข้ามา ก็เหมือนทำลายความคิดนี้ทิ้งไปแล้วคนจาก 'สำนักเมฆาวารี' ที่ถูกนางเลือกออกมาเหล่านั้น ล้วนใช้สายตาอ้อนวอนขอความช่วยเหลือมองพวกเขาแต่พวกเขากลับเลี่ยงสายตาอ้อนวอนเหล่านี้ไป ตอนนี้ใครก็ไม่กล้าไปยุ่งกับหญิงสาวที่เหมือนสุนัขบ้าคนนี้พวกเขาเห็นจั๋วซือหรานลากคนของ 'สำนักเมฆาวารี' ออกไปกระทั่งเสียงร้องก็ยังร้องไม่ออก เหมือนถูกพลังไร้รูปร่างอะไรบางออกไปพวกเขาที่เข้าใจต่อตัวจั๋วจิ่วก็จะชัดเจนดี ว่านั่นคือไหมกู่ของพิษกู่ร้อยไหมหลายตัวของจั๋วจิ่วกระทั่งข่าวที่ปันอวิ๋นให้กับพวกเขาในตอนแรก พิษกู่ร้อยไหมที่เขาหลอมสกัดขึ้นมา ก็ยังไม่มีพลานุภาพมากขนาดนี้เลยแต่ว่าปันอวิ๋นเองก็พูดแล้ว แมลงกู่พวกนี้เป็นของที่แล้วแต่ปัจเจกบุคคล อาจเป็นของหวานของคนหนึ่ง และอาจเป็นยาพิษของอีกคนหนึ่งแมลงกู่แบบเดียวกัน พออยู่ในมือของปรมาจารย์กู่ที่ต่างกัน ก็อาจจะสำแดงพลังที่แตกต่างกันออกมาได้ถ้าต้องพูดเช่นนี้ขึ้นมาจริง พลานุภาพของพิษกู่ร้อยไหมหลายตัวในมือจั๋วซือหรานนี้คือสุดยอดแล้ว...พวกเขากระทั่งกังวลว่าคนเหล่านี้จะถู

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1036

    "ตอนนี้ไม่ใช่ปัญหาเรื่องคนมากคนน้อยแล้ว นางตำมือขนาดนี้ คนปกติรับมือนางไม่ได้หรอก แล้วจะไปพึ่งจำนวนคนก็ยิ่งไม่มีประโยชน์""ใช่เลย เห็นอาวุธมหัศจรรย์ของนางแล้วนี่ สำแดงพลานุภาพได้ขนาดนั้น แล้วยังรู้สึกว่านางน่าจะยังดูสบายๆ อีกด้วย น่าจะยังมีอะไรซ่อนไว้อีก ถ้าหากเอาคนมาพอจริง หากคิดจะใช้จำนวนคนเพื่อกดดันนาง ก็ยังรู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดีอยู่ดี"เหมือนกับว่า...จะได้เจอกับเรื่องที่น่ากลัว!ตอนนี้เอง ข้างจู่ๆ ก็มีเสียงในเย็ฯชาดังขึ้น ยืนยันคำพูดของเขา "อืม ลางสังหรณ์ของเจ้าถูกจริงๆ เป็นตัวเลือกที่ฉลาด""ใครกัน!" ทุกคนระแวดระวังกันขึ้นมาและก็มีปฏิกิริยาขึ้นอย่างรวดเร็วว่าเจ้าของเสียงเป็นใคร ยังจะเป็นใครได้ เสียงหญิงสาวใสเย็นในหุบเขานี้...นอกจากคนผู้นั้นที่พุ่งฝ่าปากทางด่านช่องเขาออกไปก่อนหน้านี้ คงไม่ใช่ใครที่ไหนอีก"จั๋วจิ่ว!" ทุกคนมีปฏิกิริยากันขึ้นมา "นี่เจ้ากล้าเข้ามาติดร่างแหเองเลยเรอะ!"พวกเขาเห็นท่าทางที่จั๋วจิ่วที่มองเข้ามาดูจะขี้เกียจหน่อยๆ ด้วยซ้ำ ก้าวย่างแผ่วเบาเดินตรงมาหาพวกเขา"ใช่ๆๆ ข้าเข้ามาติดร่างแหเองเลย" นางบอกกับพวกเขา ไม่เพียงแต่ไม่ปฏิเสธ แต่กลับยังพยักหน้ายอมรับอย่

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1035

    คนขับรถพอได้ยินคำนี้ แม้จะไม่กล้ายืนยัน แต่ก็ยังสัมผัสได้ ว่าคำนี้ของคุณหนู...เหมือนจะไม่ได้มีความหมายแบบปกติ"คุณ คุณหนู..." คนขับรถเรียกนางขึ้นมาคำหนึ่งครู่ต่อมาจึงมองสิ่งที่นางยื่นส่งมาให้แบบงงงัน"อืม ถือไว้" จั๋วซือหรานเอาของในมือส่งไปให้คนขับรถคนขับรถรับมาแบบอ้ำอึ้ง ในมือถือสองขาหลังของตั๊กแตนผึ้งบุปผาหยกไว้ ราวกับกำลังถืออะไรบางอย่างที่ระเบิดได้ตลอดเวลาไว้อย่างระมัดระวัง"คุณหนู..." คนขับรถไม่เข้าใจความหมายของจั๋วซือหรานอย่างชัดเจน แม้จะเดาเอาไว้บ้างแล้ว แต่ก็ยังไม่แน่ใจ หรือบางทีอาจยังไม่กล้าที่จะเชื่อถึงอย่างไรคนปกติก็ไม่มีทางเชื่อ พุ่งฝ่าวงล้อมออกมาแล้วแท้ๆ ตนอนี้ยังคดจะหาทางย้อนกลับไปอีก?จั๋วซือหรานเอ่ยึ้น "เจ้าเอาสองข้านี้ไปย่างเสีย""ขอรับ" คนขับรถพยักหน้า ถามขึ้นอย่างระวัง "แล้วท่านล่ะ?"จั๋วซือหรานเลิกคิ้วขึ้นบอกว่า "ข้าจะกลับไปหน่อย"แม้ก่อนหน้านี้คนขับรถจะคาดเดาความเป็นไปได้นี้ไว้ แต่ตอนนี้พอได้ยินจั๋วซือหรานบอกออกมาจากปากตนเอง ในใจก็อดตกตะลึงขึ้นมาไม่ได้ "แต่ว่าคุณหนู พวก พวกเรากว่าจะฝ่าวงล้อมออกมาได้!"พอเขาพูดคำนี้ วินาทีต่อมา ก็เห็นคุณหนูของตนเองยิ้ม

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1034

    เขางงเป็นไก่ตาแตก นายท่านแค่พูดไม่กี่คำ? แต่ว่านี่...กำลังคุยกับแมงมุมอยู่จริงหรือ? ด้านนอกลือกันว่า คุณหนูของเขาเป็นนักภาษาสัตว์ ที่แท้...ก็เป็นเรื่องจริงสินะ!ราชาแมงมุมหน้าผียกแขนเคียวประกายหิมะขึ้น ฉีกแควกเปิดรังไหมสีขาวที่ห่อด้วยใยแมงมุมซึ่งอยู่ด้านหลังพวกมันออกมาเผยให้เห็นของที่ถูกห่ออยู่ด้านใน มีหลายรังไหมที่ห่อแมลงรูปร่างประหลาดไว้ ดูแล้วเหมือนเป็นหิ่งห้อยกับผึ้งรวมร่างกันแล้วขยายใหญ่ขึ้นใหญ่ขนาดแพะตัวหนึ่ง มีปีกใส ร่างท่อนบนกับขาหลังที่เหมือนมีแรงดีดมหาศาลแบบตั๊กแตนแต่ช่วงทอ้งกลับเหมือนผึ้ง ส่วนหางมีเหล็กในพิษแหลมคมแต่คนที่เห็นอะไรมาเยอะ ก็จะมองออกว่า นี่คือตั๊กแตนผึ้งบุปผาหยก สัตว์ประหลาดประเภทแมลงที่จัดการได้ยากชนิดหนึ่งเพราะมันเป็นแมลงแบบอยู่เป็นฝูง แล้วยังมีเหล็กในพิษเหมือนผึ้งอีกด้วย พอโจมตีเข้ามาเป็นกลุ่ม พลังโจมตีนั้นดูถูกไม่ได้เลย ในป่าต่อให้เป็นสัตว์ประหลาดที่แข็งแกร่ง ก็ไม่แน่ว่าจะกล้าเข้าไปยุ่งกับตั๊กแตนผึ้งบุปผาหยกพวกนี้ผู้บำเพ็ญที่เป็นมนุษย์เองแน่นอนว่าไม่กล้า แต่ก็อดพูดไม่ได้ ว่าขาหลังที่ใหญ่โตของตั๊กแตนผึ้งบุปผาหยกนี้จะมีรสชาติยอดเยี่ยมมากๆ ในโลกมนุ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1033

    คนขับรถทำตามความต้องการของจั๋วซือหราน หยุดรถม้าลงมาจั๋วซือหรานที่อยู่ข้างๆ ก็เก็บกิ่งไม้ส่วนหนึ่งเข้ามา ก่อเป็นกองไฟเล็กๆคนขับรถเดิมทียังคิดจะทำตัวให้กล้าเข้าไว้ ถึงอย่างไร...ออกจากบ้านมาภายนอก จะให้คุณหนูมาทำงานหยาบๆ แบบนี้ได้อย่างไรกัน?!แต่ว่า คุณหนูก็ทำได้ทั้งเร็วและดีเลย...คนขับรถแอบรู้สึกดีใจที่คุณหนูยังต้องการให้เขาขับรถต่อให้จั๋วซือหรานกอดเขาอยู่ข้างกองไฟ ดูเหมือนจะเบื่อๆ อย่างไรอย่างนั้นแสงไฟสะท้อนในดวงตานาง ครู่ต่อมา นางก็กลอกตามองไปทางด่านช่องภูเขาก่อนหน้านี้ เหลือบมองไปครู่หนึ่งช่วงการเหลือบมองนี้ ทำให้คนขับรถเกิดเครียดขึ้นมาแบบไม่มีเหตุผล "มี...มีคนตามมาหรือ?"จั๋วซือหรานส่ายหัว หยิบท่อนไม้ออกมาเขี่ยกองไฟเล่น "กลัวคนไล่มาทำไมกัน เพียงแต่ว่า แมงมุมของข้ายังไม่กลับมากันเลย ข้าเองก็หิวแล้วด้วย"คนขับรถอันที่จริง...ก็ยังฟังความสัมพันธ์ของเหตุและผลไม่ค่อยเข้าใจนัก แมงมุมไม่กลับมากับหิวแล้วมันเกี่ยวข้องกันอย่างไร?แต่เขาก็ไม่ได้ถามละเอียด แต่รีบพูดขึ้นว่า "บนรถมีเสบียงแห้งอยู่ขอรับ คุณหนูจะกินเสียหน่อยไหม?"จั๋วซือหรานส่ายหัวถ้านางยอมกินพวกนั้น ก็คงไม่ต้องหิว

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1032

    จนตอนเลิกเสื้อผ้าขึ้นแล้วมองดู...บนกล้ามเนื้อหน้าท่องที่แน่นกระชับ แข็งแรง นกจากรอยเลือดบางส่วนแล้ว...ก็แทบเหลืออะไรอยู่เลยถ้าหากไม่ใช่ยังมีรอยเลือดสะดุดตากับรอยแผลเป็นจางๆ ที่เหลืออยู่บนนั้น ใครก็มองไม่ออกทั้งนั้นว่าก่อนหน้านี้เคยบาดเจ็บมา"เอ๋?" ผู้ใต้บัญชาสงสัยขึ้นมา "เป็นไปได้อย่างไร...ทั้งที่เลือดออกมากขนาดนี้แท้ๆ"ปันอวิ๋นลุกขึ้นนั่ง ใช้มือปัดๆ ฝุ่นบนเสื้อผ้าออก ท่วงท่ายังคงสง่างามเช่นเคย เอ่ยขึ้นเสียงราบเรียบ "มีคนก่อนที่จะออกไปรักษาให้ข้าไว้น่ะ"ผู้ใต้บัญชาพอได้ยินคำนี้ ก็คิดถึงเป้าหมายของนายท่านวันนี้ขึ้นมา ต่อมาจึงตอบสนองกลับมาได้ "นายท่านจะบอกว่า...แม่นางจั๋วจิ่วคนนั้น?"ปันอวิ๋นไม่ตอบ เพียงแต่ในสายตามีความสนใจขึ้นอย่างลึกซึ้งผู้ใต้บัญชาถาม "นายท่าน ่ทางนี้ไม่มีเรื่องของเราแล้วกระมัง? กลับกันไหม?""ไม่" ปันอวิ๋นปฏิเสธ "กลับไปไม่มีอะไรทำ นางน่าสนใจกว่าตั้งเยอะ"ปันอวิ๋นกำชับกับผู้ใต้บัญชา "ไป ดูว่านางไปหยุดลงที่ไหน คิดจะไปไหน จากนั้นมารายงานข้าด้วย""ขอรับ"อีกด้านหนึ่ง จั๋วซือหรานหลังจากผ่านด่านช่องภูเขามาได้ ก็เป็นทางราบม้าวิ่งคนขับรถอดถอนใจยินดีไม่ได้ "โว้ว

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1031

    "อุก" คิ้วงามของปันอวิ๋นขมวดเล็กน้อย แต่สีหน้ากลับไม่ได้ดูเจ็บปวดมากเท่าไรเขาเหลือบมองแผลที่เอวตนเองผาดหนึ่ง จุ๊ปากขึ้นมา "จะสังหารสามีรึ"ในน้ำเสียงที่พูดกระทั่งมีความยานคางอยู่เล็กน้อยจั๋วซือหรานเหลือบมองเขาผาดหนึ่ง นี่มันเวลาไหนแล้ว ยังจะมาพูดเล่นอยู่อีก ดังนั้นจึงขี้เกียจจะไปแกสรรพนามเขาใหม่นางยื่นมือไปจับข้อมือปันอวิ๋นเขาก้มลงมืองข้อมือที่ถูกจับไว้ผาดหนึ่ง สัมผัสได้ถึงพลังวูบหนึ่งที่ค่อยๆ ถ่ายเข้ามา"อื๋อ?" ในจมูกปันอวิ๋นมีเสียงพยางค์ความสงสัยดังขึ้นมาแต่เขายังไม่ทันจะมีปฏิกิริยา จั๋วซือหรานก็คลายมือออกแล้ว จากนันจึงยกเท้าขึ้นข้างหนึ่ง ถีบเขาตกลงไปจากบนรถน่าจะเพราะการกระทำนี้ของนางเกินจากที่เขาคาดการณ์ไว้ ดังนั้นตอนที่จั๋วซือหรานถีบเขาลงจากรถม้า สีหน้าของปันอวิ๋นจึงเหลือเครื่องหมาย '???' เอาไว้อยู่พักหนึ่งหลังของปันอวิ๋นสัมผัสกับพื้นดิน กระแทกจนเจ็บปวดขึ้นมา เขาไม่ได้ใส่ใจนัก และได้ยินเสียงใสเย็นชาของหญิงสาวที่เหมือนมีแววขบขันลอยแว่วมาตามลม:"รักษาให้เจ้าแล้วนะ เอาไว้เจอกันใหม่ เจ้าหุบเขาปัน"ปันอวิ๋นล้มลงอยู่กับพื้น จึงเอามือไปรองที่หลังคออย่างเกียจคร้าน นอนมันบ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1030

    ฝุ่นดินเหล่านั้นกระทั้งทำให้สายตาของคนขับเลือนรางด้วยแต่เขาก็ไม่กล้าหยุด ทำตามคำสั่งของนายท่านอย่างเดียวเท่านั้น ตรงไป! ตรงไป!เขาเองก็ไม่รู้ว่าคูน้ำข้างหน้าพวกนั้นตอนนี้เป็นอย่างไร แต่สรุปคือเขาต้องตรงไปอย่างเดียว!ที่คิดไม่ถึงก็คือ รถม้าแม้จะโคลงเคลง แต่ก็ไม่ได้หยุดลง!ในใจคนขับคิดขึ้นมาอย่างตกตะลึง หรือว่าแมงมุมพวกนั้นจะถมคูน้ำจนเรียบได้จริง!จากนั้นเขาจึงเห็นว่าคุณหนูยกมือตบเบาๆ ไปที่ตัวม้า ส่งแรงปลอบประโลมออกมาคนขับถามเสียงขึ้นเสียงเล็ก "คุณหนู เป็นอย่างไรบ้าง?""โอ้ ไม่เป็นไร ม้าแค่เครียดนิดหน่อย แมงมุมน้อยของข้าตัวใหญ่ไปหน่อย มันเลยตกใจน่ะ ข้าปลอบเสียหน่อย" จั๋วซือหรานตอบคนขับตอนนี้จึงเพิ่งรู้ "นี่พวกมันถมคูน้ำจนเรียบแล้วหรือ?"จั๋วซือหรานร้องอืมเสียงหนึ่ง "สัตว์ประหลาดอย่างพวกแมงมุมชนิดนี้ มีแขนเคียวคู่นั้นอยู่ ถนัดการขุดเจาะเป็นที่สุด แค่ถมคูน้ำแค่นี้ไม่ใช่เรื่องใหญ่เลย"คนขับเอ่ยขึ้นอย่างตื่นเต้น "ดีจริงๆ เช่นนั้นพวกเราก็ออกไปได้แล้ว!"ปากทางด่านช่องภูเขาอยู่ตรงหน้าแล้วแต่หลังจากที่ฝุ่นดินสลายไป คนขับก็หรี่ตาลง เห็นว่าที่ปากทางด่านช่องภูเขามีคนคนหนึ่งยืนอยู่

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status