Share

บทที่ 1025

Penulis: หูเทียนเสี่ยว
พอได้ยินคำนี้ของเฟิงอวี้ คิ้วของเฟิงเหยียนก็ขมวด

เขายกมือโบกกับฉุนจวิน เป็นสัญญาณให้ฉุนจวินถอยไป

ฉุนจวินประสานมือลา

หลังจากฉุนจวินออกไป เฟิงเหยียนจึงมองเฟิงอวี้ เอ่ยขึ้นว่า "กินของคนอื่นก็จะติดค้างเขานะ หลังจากข้าออกจากเมืองหลวง แม่ของนาง ธุรกิจของนาง คนของนาง ท่านก็ดูแลเสียหน่อยเถอะ"

เฟิงอวี้พอได้ยิน "ในเมื่อไม่วางใจขนาดนี้ ทำไมไม่ให้คนจัดการดูแลเสียเองล่ะ?"

เฟิงเหยียนยกมุมปาก รอยยิ้มเย็นชา "ถ้าข้าให้คนของข้าดูแล เจ้าพวกตาแก่นั่นก็น่าจะไม่วางใจต่อนาง ตอนนี้มองนางเป็นนางมารร้ายทำลายชาติบ้านเมืองไปแล้ว ถึงตอนนั้นก็ยังไม่แน่ว่าจะรับมือกับนางอย่างไร"

เฟิงอวี้ไม่พูดอะไร แค่มองเขาเงียบๆ

เฟิงเหยียนชะงัก แต่ยังคงพูดต่อไปว่า "ยิ่งไปกว่านั้น สิ่งที่ข้าต้องการ มันก็แบบนี้ไม่ใช่หรือ"

คำพูดนี้ฟังแล้วเหมือนไม่ค่อยสมเหตุสมผล แต่เฟิงอวี้กลับเข้าใจความหมายเขา

สิ่งที่ข้าต้องการ...เกรงว่าจะหมายถึงตนเองที่รักจั๋วซือหรานอย่างลึกซึ้งตอนที่ยังไม่ถูกลบความทรงจำกระมัง

เฟิงเหยียนหลังจากพูดเหล่านี้จบ ก็ไม่คิดจะพูดอะไรกับพ่อมากนัก หมุนตัวจะเดินออกไป

แต่เฟิงอวี้ก็เรียกเขาไว้ "ไหนๆ ก็มาแล้ว มากินมาดื่มก
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terkait

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1026

    สายตานางยังคงจับจ้องไปเบื้องหน้า กระทั่งเสียงกับท่าทางก็ยังคงดูไม่ใส่ใจเหมือนเดิมเนื้อหาในคำพูดทำให้คนขับรถขนหัวลุกขึ้นมาทันที"อย่างเช่นตอนแรกสุดก็มีคนไล่ตามเข้ามาติดๆ หรือข้างหน้ามีคนดักซุ่มโจมตีอะไรแบบนี้" จั๋วซือหรานตอบสีหน้าคนขับรถเปลี่ยนไป คำพูดเริ่มติดขัดขึ้นมา "ซุ่ม ซุ่มโจมตีหรือ? มีการซุ่มโจมตีหรือ?"เขาไม่รู้ตัวเลย เขาก็แค่คนขับรถม้าธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้นจั๋วซือหรานพยักหน้า "อืม เป็นเรื่องที่คาดไว้แล้ว แต่ไม่ต้องห่วง ข้าเองก็จงใจเดินทางแบบสัมภาระน้อยๆ ถ้าเอาขบวนรถม้าใหญ่ๆ มาข้าเองก็รับประกันไม่ได้ว่าจะคุ้มครองได้หมดไหม แต่ถ้าเจ้าแค่คนเดียวไม่ใช่ปัญหาเลย"คนขับรถเป็นคนขับรถในเรือนนาง ถึงแม้จะรู้ว่าการซุ่มโจมตีเป็นเรื่องน่ากลัว แต่สำหรับฝีมือคุณหนูของตนเองแล้วตนเองก็เชื่อมั่นอย่างยิ่งพอได้ยินคำนี้ของจั๋วซือหราน เส้นประสาทที่ยังตึงก่อนหน้านี้ ก็ผ่อนคลายลงมาไม่น้อย "แม่นางพูดชเ่นนี้ ข้า ข้าก็วางใจแล้ว""อืม เจ้าขับรถไปก็พอ อีกเดี๋ยวไม่ว่าเกิดเรื่องอะไร..." ดวงตาพญาหงส์ใสกระจ่างของจั๋วซือหราน หรี่ลงมาเล็กน้อย เอ่ยต่อว่า "...ไม่ต้องหยุด นี่เป็นสิ่งเดียวที่เจ้าต้องทำ""ร

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1027

    คนขับรถเห็นทั้งหมดกับตา!นั่นก็เพราะ เขาต้องตั้งใจพยายามขับรถม้าอยู่ตลอด ดังนั้นไม่ว่าการเคลื่อนไหวอะไร เขาจึงจ้องมองเบื้องหน้าอย่างตั้งใจ ดังนั้นจึงเห็นสาเหตุขั้นตอนทั้งหมดได้อย่างชัดเจนดังนั้นในสมองเขา จึงค่อยๆ ทำเรื่องราวทั้งหมดชัดเจนขึ้นอีกฝ่ายแค่ทดลองโจมตีใส่นางครั้งหนึ่ง ก็ถูกแม่นางจิ่วสกัดไว้ ขณะเดียวกันก็ยังพบร่องรอยของคนที่ลอบโจมตี จากนั้นก็สวนกลับทันที แล้วยังโต้กลับสำเร็จด้วย!คนขับรถอดคิดในใจไม่ได้ ถ้าหากพวกลอบโจมตีเหล่านี้ คิดจะลองเชิงพลังของแม่นางจิ่วก่อนล่ะก็ ผลลัพธ์การลองเชิงพวกเขาคงไม่ค่อยดีนักแน่ๆและระยะห่างของที่นี่กับช่องภูเขา คนขับรถคะเนจากการขับของตนเอง อย่างมากก็ประมาณหนึ่งเค่อครึ่งเท่านั้น ก็จะทะลวงผ่านช่องเขานี้ไปได้!ดังนั้น แม่นางจิ่วแค่ยืนหยัดในช่วงหนึ่งเค่อครึ่งให้ได้และคนที่ลอบโจมตีพวกนั้นก็มีเวลาแค่หนึ่งเค่อครึ่งความเป็นความตาย! อยู่ในเวลาสั้นๆ แค่หนึ่งเค่อครึ่งนี้!คนที่ลอบโจมตีก็เหมือนจะตระหนักได้แล้ว ว่าลอบโจมตีคนเดียวไม่ได้ ไม่ใช่แค่จะล่อลวงจั๋วซือหรานไม่ได้ แต่ยังถูกนางเด็ดหัวทิ้งไปด้วย!ดังนั้นเพียงไม่นาน การโจมตีจึงเปลี่ยนเป็บแบบกลุ่

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1028

    พอได้ยินคำนี้ของนายท่านผู้เยี่ยมยุทธ์ คนขับรถก็ตึงเครียดขึ้นมาหน่อยๆ "แม่ แม่นาง เป็นอะไรหรือเปล่า?"จั๋วซือหรานตอนแรกที่เข้ามายังเขตแดนนี้ ก็กางพลังวิญญาณของตนเองออกมาเพื่อสัมผัสการลอบโจมตีของศัตรูแล้วความเข้ากันได้กับธรรมชาติของพลังวิญญาณธาตุไม้แข็งแกร่งมาก ตอนที่ฝึกจนถึงระดับสูงๆ แต่ต้นไม้ใบหญ้าก็ยังอยู่ในสายตาและการได้ยินจั๋วซือหรานเองก็มีความสามารถเช่นนี้ แม้ขณะที่กำลังดำเนินการ ถ้าหากอีกฝ่ายไม่ขยับล่ะก็ ก็จะถือว่าแย่ไปหน่อยแต่ถ้าหากอีกฝ่ายขยับตัวอย่างให้ความร่วมมือ ปัญหาก็ไม่ยากแล้วดังนั้นเมื่อครู่จึงยิงได้อย่างไม่เสียเปล่า และตอนนี้นางสัมผัสได้ถึงสิ่งที่เกินจากคาดการณ์ไว้แล้ว...การเคลื่อนไหวนั้น เสียงนั้น นั้นไม่ใช่เสียงรั้งสายธนู และไม่ใช่เสียงสั่นสะเทือนของสายธนูนั่นเป็น...เสียงของเครื่องยิงธนู"รถยิงธนู" จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้นคนขับรถหน้าซีดไปทันที เขาไม่เคยไปสนามรบแต่ก็เคยได้ยินถึงความร้ายกาจของรถยิงธนู เจ้าสิ่งนี้พลานุภาพใหญ๋โตมาก สามารถยิงได้ระยะไกลโข! กระทั่งแทงทะลุรถม้าได้เลย!มีรถยิงธนูที่ร้ายกาจหน่อย กระทั่งสามารถยิงทะลุประตูเมืองขนาดเล็กที่ความหนาไม่ได้มา

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1029

    "เกิด...อะไรขึ้น?" คนลอบโจมตียังคิดว่ายิงโดนแล้วแน่ๆต่อให้ยิงไม่โดนจั๋วซือหราน แต่อย่างน้อยก็ต้องยิงไปโดนรถนาง นี่เป็นเป้าหมายแต่เดิมของพวกเขาขอแค่นางไม่มีรถ ทิ้งนางไว้ที่นี่ แต่นอนว่าจะรับมือกับนางได้ดีกว่าแต่ว่า การโจมตีเมื่อครู่ ไม่ใช่แค่ไม่โดนนางนะ แต่กระทั่งรถม้าของนางก็ยังไม่โดนลูกธนูหนาหนักขนาดนั้นดอกหนึ่ง หายวับไปกับตา ไม่เหลือแม้เงานี่มันประหลาดจริงๆ แต่ด้วยเวลาตอนนี้ ปฏิกิริยาที่พวกเขาสามารถทำออกมาได้เหมาะที่สุดก็คือ..."ยิงอีกรอบ!"เสียงเครื่องยิงธนูดังขึ้นอีกครั้ง!จั๋วซือหรานไม่ประมาทเลยแม้แต่น้อย นางร่อนลงมาบนตัวรถ เพื่อทำการเตรียมตัวรับมือการโจมตีครั้งต่อไปขณะที่คนขับถอนใจโล่ง ดวงตาก็เป็นประกาย พอเหลือบมองด้วยหางตาจึงมองเห็น ที่แท้คุณหนูก็หยิบยืมพลังของสัตว์อสูรปีกตัวหนึ่งดังนั้นเมื่อครู่จึงบินขึ้นไป!"อย่ามองข้า มองทางไป" ความระมัดระวังในเสียงจั๋วซือหรานยังไม่หายไป ฟังออกว่า นางไม่ได้ผ่อนความระแวดระวังลงเลยคนขับรถเองก็จริงจัง ตั้งใจขึ้นมา"มาอีกแล้ว" จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้น "เจ้าทำตามที่ข้าพูดก่อนหน้านี้ก็พอ"คนขับรถพยักหน้าเงียบๆ เรื่องอื่นเขาไม่ค่อยไ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1030

    ฝุ่นดินเหล่านั้นกระทั้งทำให้สายตาของคนขับเลือนรางด้วยแต่เขาก็ไม่กล้าหยุด ทำตามคำสั่งของนายท่านอย่างเดียวเท่านั้น ตรงไป! ตรงไป!เขาเองก็ไม่รู้ว่าคูน้ำข้างหน้าพวกนั้นตอนนี้เป็นอย่างไร แต่สรุปคือเขาต้องตรงไปอย่างเดียว!ที่คิดไม่ถึงก็คือ รถม้าแม้จะโคลงเคลง แต่ก็ไม่ได้หยุดลง!ในใจคนขับคิดขึ้นมาอย่างตกตะลึง หรือว่าแมงมุมพวกนั้นจะถมคูน้ำจนเรียบได้จริง!จากนั้นเขาจึงเห็นว่าคุณหนูยกมือตบเบาๆ ไปที่ตัวม้า ส่งแรงปลอบประโลมออกมาคนขับถามเสียงขึ้นเสียงเล็ก "คุณหนู เป็นอย่างไรบ้าง?""โอ้ ไม่เป็นไร ม้าแค่เครียดนิดหน่อย แมงมุมน้อยของข้าตัวใหญ่ไปหน่อย มันเลยตกใจน่ะ ข้าปลอบเสียหน่อย" จั๋วซือหรานตอบคนขับตอนนี้จึงเพิ่งรู้ "นี่พวกมันถมคูน้ำจนเรียบแล้วหรือ?"จั๋วซือหรานร้องอืมเสียงหนึ่ง "สัตว์ประหลาดอย่างพวกแมงมุมชนิดนี้ มีแขนเคียวคู่นั้นอยู่ ถนัดการขุดเจาะเป็นที่สุด แค่ถมคูน้ำแค่นี้ไม่ใช่เรื่องใหญ่เลย"คนขับเอ่ยขึ้นอย่างตื่นเต้น "ดีจริงๆ เช่นนั้นพวกเราก็ออกไปได้แล้ว!"ปากทางด่านช่องภูเขาอยู่ตรงหน้าแล้วแต่หลังจากที่ฝุ่นดินสลายไป คนขับก็หรี่ตาลง เห็นว่าที่ปากทางด่านช่องภูเขามีคนคนหนึ่งยืนอยู่

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1031

    "อุก" คิ้วงามของปันอวิ๋นขมวดเล็กน้อย แต่สีหน้ากลับไม่ได้ดูเจ็บปวดมากเท่าไรเขาเหลือบมองแผลที่เอวตนเองผาดหนึ่ง จุ๊ปากขึ้นมา "จะสังหารสามีรึ"ในน้ำเสียงที่พูดกระทั่งมีความยานคางอยู่เล็กน้อยจั๋วซือหรานเหลือบมองเขาผาดหนึ่ง นี่มันเวลาไหนแล้ว ยังจะมาพูดเล่นอยู่อีก ดังนั้นจึงขี้เกียจจะไปแกสรรพนามเขาใหม่นางยื่นมือไปจับข้อมือปันอวิ๋นเขาก้มลงมืองข้อมือที่ถูกจับไว้ผาดหนึ่ง สัมผัสได้ถึงพลังวูบหนึ่งที่ค่อยๆ ถ่ายเข้ามา"อื๋อ?" ในจมูกปันอวิ๋นมีเสียงพยางค์ความสงสัยดังขึ้นมาแต่เขายังไม่ทันจะมีปฏิกิริยา จั๋วซือหรานก็คลายมือออกแล้ว จากนันจึงยกเท้าขึ้นข้างหนึ่ง ถีบเขาตกลงไปจากบนรถน่าจะเพราะการกระทำนี้ของนางเกินจากที่เขาคาดการณ์ไว้ ดังนั้นตอนที่จั๋วซือหรานถีบเขาลงจากรถม้า สีหน้าของปันอวิ๋นจึงเหลือเครื่องหมาย '???' เอาไว้อยู่พักหนึ่งหลังของปันอวิ๋นสัมผัสกับพื้นดิน กระแทกจนเจ็บปวดขึ้นมา เขาไม่ได้ใส่ใจนัก และได้ยินเสียงใสเย็นชาของหญิงสาวที่เหมือนมีแววขบขันลอยแว่วมาตามลม:"รักษาให้เจ้าแล้วนะ เอาไว้เจอกันใหม่ เจ้าหุบเขาปัน"ปันอวิ๋นล้มลงอยู่กับพื้น จึงเอามือไปรองที่หลังคออย่างเกียจคร้าน นอนมันบ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1032

    จนตอนเลิกเสื้อผ้าขึ้นแล้วมองดู...บนกล้ามเนื้อหน้าท่องที่แน่นกระชับ แข็งแรง นกจากรอยเลือดบางส่วนแล้ว...ก็แทบเหลืออะไรอยู่เลยถ้าหากไม่ใช่ยังมีรอยเลือดสะดุดตากับรอยแผลเป็นจางๆ ที่เหลืออยู่บนนั้น ใครก็มองไม่ออกทั้งนั้นว่าก่อนหน้านี้เคยบาดเจ็บมา"เอ๋?" ผู้ใต้บัญชาสงสัยขึ้นมา "เป็นไปได้อย่างไร...ทั้งที่เลือดออกมากขนาดนี้แท้ๆ"ปันอวิ๋นลุกขึ้นนั่ง ใช้มือปัดๆ ฝุ่นบนเสื้อผ้าออก ท่วงท่ายังคงสง่างามเช่นเคย เอ่ยขึ้นเสียงราบเรียบ "มีคนก่อนที่จะออกไปรักษาให้ข้าไว้น่ะ"ผู้ใต้บัญชาพอได้ยินคำนี้ ก็คิดถึงเป้าหมายของนายท่านวันนี้ขึ้นมา ต่อมาจึงตอบสนองกลับมาได้ "นายท่านจะบอกว่า...แม่นางจั๋วจิ่วคนนั้น?"ปันอวิ๋นไม่ตอบ เพียงแต่ในสายตามีความสนใจขึ้นอย่างลึกซึ้งผู้ใต้บัญชาถาม "นายท่าน ่ทางนี้ไม่มีเรื่องของเราแล้วกระมัง? กลับกันไหม?""ไม่" ปันอวิ๋นปฏิเสธ "กลับไปไม่มีอะไรทำ นางน่าสนใจกว่าตั้งเยอะ"ปันอวิ๋นกำชับกับผู้ใต้บัญชา "ไป ดูว่านางไปหยุดลงที่ไหน คิดจะไปไหน จากนั้นมารายงานข้าด้วย""ขอรับ"อีกด้านหนึ่ง จั๋วซือหรานหลังจากผ่านด่านช่องภูเขามาได้ ก็เป็นทางราบม้าวิ่งคนขับรถอดถอนใจยินดีไม่ได้ "โว้ว

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1033

    คนขับรถทำตามความต้องการของจั๋วซือหราน หยุดรถม้าลงมาจั๋วซือหรานที่อยู่ข้างๆ ก็เก็บกิ่งไม้ส่วนหนึ่งเข้ามา ก่อเป็นกองไฟเล็กๆคนขับรถเดิมทียังคิดจะทำตัวให้กล้าเข้าไว้ ถึงอย่างไร...ออกจากบ้านมาภายนอก จะให้คุณหนูมาทำงานหยาบๆ แบบนี้ได้อย่างไรกัน?!แต่ว่า คุณหนูก็ทำได้ทั้งเร็วและดีเลย...คนขับรถแอบรู้สึกดีใจที่คุณหนูยังต้องการให้เขาขับรถต่อให้จั๋วซือหรานกอดเขาอยู่ข้างกองไฟ ดูเหมือนจะเบื่อๆ อย่างไรอย่างนั้นแสงไฟสะท้อนในดวงตานาง ครู่ต่อมา นางก็กลอกตามองไปทางด่านช่องภูเขาก่อนหน้านี้ เหลือบมองไปครู่หนึ่งช่วงการเหลือบมองนี้ ทำให้คนขับรถเกิดเครียดขึ้นมาแบบไม่มีเหตุผล "มี...มีคนตามมาหรือ?"จั๋วซือหรานส่ายหัว หยิบท่อนไม้ออกมาเขี่ยกองไฟเล่น "กลัวคนไล่มาทำไมกัน เพียงแต่ว่า แมงมุมของข้ายังไม่กลับมากันเลย ข้าเองก็หิวแล้วด้วย"คนขับรถอันที่จริง...ก็ยังฟังความสัมพันธ์ของเหตุและผลไม่ค่อยเข้าใจนัก แมงมุมไม่กลับมากับหิวแล้วมันเกี่ยวข้องกันอย่างไร?แต่เขาก็ไม่ได้ถามละเอียด แต่รีบพูดขึ้นว่า "บนรถมีเสบียงแห้งอยู่ขอรับ คุณหนูจะกินเสียหน่อยไหม?"จั๋วซือหรานส่ายหัวถ้านางยอมกินพวกนั้น ก็คงไม่ต้องหิว

Bab terbaru

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1263

    ท่าทีของเฟิงเหยียน ไม่ถือว่ากระตือรือร้นมากนัก กระทั่งค่อนข้างเย็นชาด้วยซ้ำแต่ก็เป็นเรื่องปกติ หลังจากที่เขาออกจากสำนักในตอนนั้น ก็ไม่ได้มีความฮึกเหิมเหมือนสมัยครั้งยังเด็กอีกมักจะเย็นชา และมักจะเฉยเมยปันอวิ๋นเม้มริมฝีปาก เข้าใจถึงสาเหตุนั้นสภาพการณ์ตอนที่เฟิงเหยียนออกจากสำนักครั้งนั้น เขาเองก็รู้เป็นอย่างดีต่อให้จนถึงตอนนี้ ก็ยังจดจำได้อย่างชัดเจนเพราะเฟิงเหยียนถูกทรยศเป็นคนแรก ดังนั้น ตอนนั้นพวกเขาก็อยู่ในฐานะคนที่ยังไม่ถูกทรยศอันที่จริง จะมากน้อยก็ยังมีความสงสัยว่าถ้าไม่อยู่ในสถานการณ์เดียวกันก็คงไม่เข้าใจอยู่พวกเขารู้สึกว่าเฟิงเหยียนทำเรื่องเล็กเป็นเรื่องใหญ่ เป็นเฟิงเหยียนที่ไม่รู้จักบุญคุณพวกเขารู้สึกว่า เป็นเฟิงเหยียนที่ทำไม่ถูกเฟิงเหยียนเป็นคนอกตัญญูจนต่อมา ต่อมาของต่อมา ทุกคนทยอยกันเดินบนเส้นทางของเฟิงเหยียน ใครก็หนีไม่พ้นการทรยศหรือใช้ประโยชน์ทั้งนั้นตามหลักแล้วควรจะยอมรับชะตากรรมอย่างที่เคยเตือนเฟิงเหยียนเอาไว้ในตอนนั้น และมองว่าสิ่งนั้นเป็นการบ่มเพาะและการให้ความสำคัญจากสำนักแต่เพระาอะไร...ถึงได้ดีใจกันขึ้นมาไม่ได้เลยและหลังจากนั้นอีก แต่ละคนก็ทร

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1262

    ดังนั้นเขาจึงยังไม่กล้าไปกอดนางไว้แบบนี้ตลอด คอยอยู่ด้วยเงียบๆแต่เขากลับไม่ง่วงเลย ไม่ได้หลับ ไม่ได้ปิดตาด้วยแค่มองนางเงียบๆ สัมผัสถึงความร้อนในตัวนางกับชีพจรนางกระทั่งตัวเขาเองก็ยังบอกไม่ได้ว่าเพราะอะไร แต่ก็มีความรู้สึกอย่างหนึ่ง...รู้สึกสงบใจอย่างมากราวกับว่า ทั้งหมดเปลี่ยนเป็นสมบูรณ์แบบแล้วทั้งที่ความทรงจำในอดีตยังไม่กลับคืนเข้าที่ แต่ความรู้สึกนี้ เหมือนสลักประทับอยู่ในจิตวิญญาณอย่างไรอย่างนั้น ยากที่จะลบเลือนจนกระทั่งลมหายใจของจั๋วซือหรานมั่นคงแล้ว สีหน้ายิ่งมีประกายแดง สภาพดีขึ้นมากแล้วเขามองไปที่คราบเลือดแห้งกรังเหล่านั้นบนใบหน้าจั๋วซือหราน รู้สึกเสียดแทงตาเหลือเกินจึงได้เคลื่อนไหวเบาๆ เดินออกไปด้านนอก กำชับคนรับใช้ให้เตรียมน้ำร้อนมาไม่ให้คนรับใช้เข้ามาปรนนิบัติ แต่เขาหิ้วถังน้ำเข้ามาเองเขาอุ้มนางมาแช่ในถังน้ำ คอยสระชำระเส้นผมนางทีละเล็กทีละน้อย เช็ดคราบเลือดบนผิวนางออกอาบตัวนางจนสะอาดหมดจด อุ้มกลับไปบนเตียง ใช้ผ้าห่มห่อตัวนางจากนั้นจึงใช้พลังวิญญาณธาตุไฟบริสุทธิ์ เป่าผมนางจนแห้งและเพราะมีกลิ่นอายของเขาห่อหุ้มอยู่ จั๋วซือหรานจึงหลับลึกอย่างสบาย ไม่ตื

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1261

    พลังศักดิ์สิทธิ์หงส์แดงที่บริสุทธิ์ที่สุด ถูกส่งผ่านเข้ามาอย่างนั้นจั๋วซือหรานมีความรู้สึกเหมือนตนเองถูกแช่ไว้ในน้ำอุ่น เป็นความรู้สึกที่สบายอย่างที่สุดในลำคอก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมาด้วยความสบายยิ่งไปกว่านั้น คนเราก็เหมือนจะเป็นเช่นนี้เดิมทีก็ไม่ได้รู้สึกว่าตนเองลำบากยากเย็นอะไรนักแต่ตอนที่ร่างกายสามารถผ่อนคลายลงมาได้ ไม่รู้สึกเจ็บปวดทรมานอีกแล้วพอย้อนคิดไปถึงความยากลำบากเหล่านั้นก่อนหน้า กลับรู้สึกว่าตนเองน่าสงสารขึ้นมาจั๋วซือหรานตอนนี้ก็รู้สึก ว่าตนเอง...ไม่ค่อยได้รับความเป็นธรรมเท่าไรชายคนนี้ เจ้าคนสมควรตายนี่มีสิทธิ์อะไร?มีสิทธิ์อะไรกัน?"..." ชายหนุ่มรู้สึกเจ็บที่ปลายลิ้นเขาขมวดคิ้ว รสชาติคคาวหวานของเลือดแผ่ซ่านในร่องฟันของทั้งสองคนเขามองหญิงสาวตรงหน้า ก็เห็นแววตาของนางมีความหงุดหงิดอยู่หน่อยๆแล้วยังมีสีหน้าท้าทายอีกด้วยดูเหมือนจะจงใจกัดปลายลิ้นเขา น่าจะโมโหเอาการชายหนุ่มไม่ครางออกมาเลย ราวกับไม่รู้สึกเจ็บอย่างไรอย่างนั้นยิ่งไปกว่านั้นยังไม่ใส่ใจ ปลายลิ้นยังโถมใส่นางอย่างเร่าร้อนรุนแรงถ้านางอยากได้ ก็ต้องแล้วแต่นางจั๋วซือหรานดูจนใจหน่อยๆ แต

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1260

    เหมือนว่าความทรมานทั้งหมดก่อนหน้านี้ ไม่ได้ทรมานอะไรขนาดนั้นและไม่รู้ว่าเจ้าโง่นี้ใช้แรงกระแทกนางมากแค่ไหน...มีหลายครั้ง ที่นางรู้สึกได้ว่า ในมิตินี้เหมือนสั่นไหวขึ้นมาราวกับวิญญาณของนางที่ถูกขังอยู่ในมิติ จะถูกดันกลับเข้าไปที่เดิมเลยจั๋วซือหรานถลึงตาโตขึ้นหน่อย จ้องมองมิติที่โยกไหวหน่อยๆรู้สึกหมดคำจะพูดแมงมุมน้อยงึมงำขึ้นมาข้างๆ "นายท่าน...ในนี้มัน...ร้อนจัง..."จั๋ซซือรหานมองไปทางเหล่าสัตว์อสูรของตนเอง มองออกไม่ยาก พวกมันเหมือนเริ่มมึนๆ จะหลับกันแล้ว พอเห็นแบบนี้ ก็เหมือนจะไม่ได้แตกต่างอะไรนักกับสถานการณ์ครั้งที่แล้วเพียงแต่ครั้งที่แล้ว ตนเองถูกทำจนเกือบจะสลบไปและตอนนี้ ตนเองถูกทำ...จนใกล้จะตื่นขึ้นมาแล้วผู้ชายคนนี้...ร้ายกาจจริงๆนี่มันช่าง....สัมผัสแนบเนื้อบนตัวนางมีเหงื่อบางๆ ชั้นหนึ่ง ผิวที่เคยขาวซีดไปทั้งตัว ตอนนี้พอมีเม็ดเหงื่อเกาะอยู่ จึงยิ่งดูเป็นประกายระยิบระยับขึ้นมาและไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน..."อือ..." หญิงสาวที่ไม่มีปฏิกิริยามาตลอด ริมฝีปากที่ยังมีรอยเลือดที่ยังเช็ดไม่สะอาด ส่งเสียงครางออกมาเหมือนลูกแมวตัวน้อยฟังดูแล้วเป็นเสียงอือๆ งึมงำๆน

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1259

    ในใจจั๋วหวายเข้าใจอย่างหนักแน่นว่าเฟิงเหยียนคือผู้ชายทรยศแต่ว่านี่ไม่ได้เป็นอุปสรรคที่ทำให้เขาคิดว่าเฟิงเหยียนจะทำให้พี่สาวดีขึ้นได้คนเราก็มักมีสองมาตรฐานเช่นนี้ ไม่มีทางเลือกดังนั้นจั๋วหวายแม้จะไม่ได้เน้นหนักว่าผู้ชายทรยศคนนั้นคือผู้ชายทรยศ แต่ก็ยังถามขึ้นว่า "เขาจะพาพี่สาวข้าไปไหน?"ปันอวิ๋นได้ยินคำนี้ สายตาก็ลึกซึ้งขึ้นมา "นั่น...เป็นเรื่องของผู้ใหญ่เขา เด็กๆ ไม่ต้องถามเยอะ"จั๋วหวายเบ้ปาก ในใจก็บ่นว่าตนเองไม่ใช่เด็กแล้วเสียหน่อยแต่ปันอวิ๋นในที่สุดก็ไม่ได้บอกจั๋วหวาย ว่าเฟิงเหยียนจะพาจั๋วซือหรานไปที่ไหนในใจปันอวิ๋นชัดเจนดี สภาพของจั๋วซือหรานแย่หนักถึงระดับนี้แล้ว ขนาดยาก็ยังดื่มไม่ลงถ้าคิดจะใช้พลังศักดิ์สิทธิ์ปลอบประโลมตัวนาง รวมถึงปลอบประโลมลูกในท้องนาง...วิธีการที่ดีที่สุด คือสิ่งนั้นอย่างไม่ต้องสงสัยสติสัมปชัญญะของจั๋วซือหรานไม่ได้หลับลึกอย่างสมบูรณ์ ในมิติยังสัมผัสรับรู้ได้ถึงสภาพแวดล้อมรอบๆความรู้สึกนั้น เหมือนกับสติสัมปชัญญะถูกขังอยู่ในมิติอย่างไรอย่างนั้นนางจึงเป็นได้เพียงแค่ผู้ชมเท่านั้น"เฮ้อ ดูท่าเขาจะใช้วิะีนั้นสินะ" จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้นขนมถั่วแดงกั

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1258

    แต่ว่าชายหนุ่มยังคงไม่ตอบเขาเขาเพียงยกมือขึ้นมา สะบัดแขนเสื้อ เผยท่อนแขนออกมาจากในแขนเสื้อจั๋วหวายจึงเห็นว่าท่อนแขนของชายคนนี้ มีลายมัดกล้ามที่สวยงาม กระชับเรียวยาวผิวเองก็ขาวเย็น ไม่รู้ว่าเพราะปกติไม่ค่อยโดนแสงแดดหรือเปล่าและตอนนี้เอง ผิวหนังขาวเย็นที่โผล่ออกมานอกแขนเสื้อพอต้องกับแสงตะวัน จั๋วหวายก็รู้สึกเหมือนขาวจนสะท้อนแสงออกมาเลย!จากนั้น หลังจากสัมผัสกับแสง ก็ค่อยๆ รอยแผลเหมือนไฟลวกที่ค่อยๆ แดงขึ้น ก็ปรากฏมาบนท่อนแขนเขาไม่เพียงเท่านี้ หลังจากที่รอยไหม้เหล่านี้ปรากฏ ท่อนแขนเขาก็มีอักขระประหลาดบางส่วนปรากฏขึ้นมาอย่างรวดเร็วพออักขระคำสาปปรากฏ บาดแผลเผาไหม้พวกนั้นก็ถูกสะกดลงไป บาดแผลบนผิวหนังเริ่มสมานตัวกลับเหมือนเดิม หลังจากแผลสมานดี อักขระคำสาปเหล่านั้นก็ค่อยๆ สลายหายไปบนผิวหนังเขาแต่ไม่นานนัก ก็ปรากฏแผลไฟลวกอีกครั้ง อักขระเหล่านั้นก็ปรากฏขึ้นมาอีกซ้ำไปซ้ำมาแบบนี้ ดูแล้วทำให้คน...รู้สึกประหลาดมากจั๋วหวายมองจนบื้อไปเลยและชายหนุ่มก็ไม่ได้ใส่ใจกับแผลที่หายแล้วก็เกิด เกิดแล้วก็หายพวกนี้เลย ราวกับเหมือนมองไม่เห็นอย่างไรอย่างนั้นและก็เหมือนไม่ได้เจ็บได้ปวดเลย แม้ต

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1257

    เหมือนว่าพอสายตามองเห็นหญิงสาวในอ้อมกอดปันปวิ๋นที่เหมือนลมพัดก็สลายหายไปได้ ตอนนั้นเอง สัมผัสทั้งหมดก็เหมือนหายวับไปในพริบตาดวงตามองไม่เห็นสิ่งใดอีกแล้ว หุเองก็ไม่ได้ยินเสียงอื่นใดอีกความรู้สึกเดียวที่เหลืออยู่คือความเจ็บปวดรุนแรงเหมือนมีดกรีดกลางใจ ไม่เพียงเท่านี้ สมองก็เหมือนถูกของมีคมกวนคนอย่างไรอย่างนั้น เจ็บขึ้นมาเป็นระยะๆยิ่งเจ็บ ก็ยิ่งอยากจะมองนางให้ชัดจเน ไม่อยากพลาดไปแม้แต่น้อยปันอวิ๋นพอเห็นร่างของเขา และกลิ่นอายนั่นบนตัวปันอวิ๋นในที่สุดก็ถอนใจโล่ง เขามาได้เสียที..."เจ้าหุบเขา?" ศิษย์สำนักข้างๆ ยังระแวดระวังอยู่ปันอวิ๋นบอกกับศิษย์สำนักเสียงเรียบว่า "เขาไม่ทำอะไรหรอก"ศิษย์สำนักพอได้ยินคำนี้ จึงถอนใจโล่งออกมา เพราะตอนที่พวกคนคุ้มกันขวางเขาเมื่อครู่มันเกินต้านแล้วจริงๆปรมาจารย์กู่อย่างพวกเขาเดิมทีก็แพ้ธาตุไฟอยู่แล้ว และชายคนนี้ก็เหมือนจะมีธาตุไฟระดับสูงด้วยพวกเขาไม่มีความสามารถจะไปทัดทานได้เลยปันอวิ๋นพอเห็นร่างสูงใหญ่ตรงหน้า ก็คิดในใจ ยังจะงงอะไรอยู่เล่า ถ้าเจ้ายังงงอยู่ หญิงสาวคนนี้จะไม่ไหวแล้วนะ!"โอ๊ค..." ในปากจั๋วซือหรานมีเลือดสดทะลักออกมาและมือข้างนั

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1256

    ราวกับว่า...ต่อให้นางจะดูอ่อนแอเหมือนกดให้ตายได้ด้วยนิ้วเดียวแต่ยังคงไม่ยอมให้คนรู้สึกว่าอ่อนแอ ยังคงทำให้คนรู้สึกว่า ถ้าหากอยากจะเป็นศัตรูกับนาง ก่อนนางตายก็จะลากเจ้าลงนรกไปด้วยกันตอนนี้รอยยิ้มที่ดูเกียจคร้านไม่ใส่ใจ กลับยิ่งดูสงบนิ่งมั่นคงราวกับยกของหนักได้อย่างสบายนางเอ่ยขึ้นอย่างเกียจคร้าน "ใครจะรู้ล่ะ? อาจจะขาดหนูไม้ไผ่อยู่กระมัง"ปันอวิ๋นกลั้นหัวเราะไว้ไม่อยู่พอได้ยินหนูไม้ไผ่สองคำนี้ เขาก็รู้แล้ว ว่าตอนที่เขาไปทิ้งจดหมายที่บ้านไม้ไผ่ นางก็เดาได้แล้วว่าเขาทำอะไรเพียงแต่ไม่ได้พูดออกมาเท่านั้นเป็นหญิงสาวที่เจ้าเล่ห์กว่าจิ้งจอกเสียอีกปันอวิ๋นจุ๊ปาก "เจ้านี่ถึงตายไป สมองก็คงจะแล่นอยู่อย่างนี้สินะ?"จั๋วซือหรานแค่เหลือบมองเขา ไม่ได้พูดอะไร มุมปากกลับยกโค้งขึ้นบางๆหลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง คิ้วนางก็ขมวดขึ้นบางๆ"ทำไมหรือ?" ปันอวิ๋นเห็นการเปลี่ยนแปลงของสีหน้านาง จึงขมวดคิ้วเดินเข้ามา สองมือประคองบ่านางไว้อันที่จริงเป็นเพราะเขาไม่ค่อยได้เห็นสีหน้าทรมานจากหน้านางนัก นางมักจะทำเป็นเหมือนไม่เป็นไรเสมอแต่ตอนนี้ บนสีหน้า กลับดูทรมานขึ้นอย่างชัดเจนจากนั้น นางก็เหมือนจะยืน

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1255

    จั๋วหวายเกือบจะสำรอกออกมาแล้ว!"ถ้าจะอาเจียนก็ออกไปอาเจียนซะ ถ้าทำกู่กล่องนี้ของข้าพัง ข้าจะจับเจ้าแขวนห้อยหัวซะเลย" ปันอวิ๋นเอ่ยขึ้นเสียงเรียบจั๋วหวายหมุนตัวพุ่งออกไป สูดลมหายใจลึกหลายครั้งกว่าจะสงบลงมาได้ จากนั้นจึงเตรียมตัวเตรียมใจ ตอนที่เข้าไปอีกครั้งก็ไม่มีกระทบกระเทือนอย่างแรงแบบก่อนหน้าแล้วแต่สายตากลับไม่ได้มองไปยังแผ่นกระดานที่มีของดิ้นกระแด่วๆ นั่นมองแล้วขนลุกสุดๆ"มีเรื่องอะไร?" ปันอวิ๋นถามขึ้นเสียงเรียบจั๋วหวายเอ่ยเสียงต่ำ "ท่านรู้..." เขาสูดจมูก ถามออกไปว่า "ท่านรู้จักเฟิงเหยียนใช่ไหม?"ปันอวิ๋นเดิมทีกำลังป้อนอาหารเจ้าพวกดุ๊กดิ๊กพวกนั้นพอได้ยินคำนี้ การเคลื่อนไหวก็หยุดลงมา ไม่หันไปมองเขา ผ่านไปครู่หนึ่งจึงถามขึ้นเรียบๆ ว่า "ทำไมล่ะ?""ข้าอยากเจอเขา ข้าอยากจะถามเขา ว่าทำไมทำแบบนี้กับพี่ของข้า" จั๋วหวายขอบตาแดงรื้นเขาสูดหายใจลึกแล้วพ่นออกมา "ข้าเองก็อยากจะถามเขา ว่าช่วยพี่ข้าได้ไหม ถ้าหากไม่ได้ หรือก็คือเขาเป็นผู้ชายทรยศ ไม่ยินยอม เช่นนั้นเขามาบอกกับท่านพี่ได้ไหม ว่าให้เลิกแล้วต่อกันจบๆ ไป"ปันอวิ๋นพอได้ยินคำนี้ จะฟังความเสียใจในใจจั๋วหวายไม่ออกได้อย่างไรกั

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status