แชร์

บทที่ 803

ผู้เขียน: ดอกถังร่วงหล่น
“เจ้าลองดูว่ามีตรงไหนไม่เหมาะสม หรือหากเจ้ามีวิธีการที่ดีกว่านี้ พวกเราก็มาปรับเปลี่ยนแผนการร่วมกัน”

ปู๋เยี่ยโหวเหลือบตามองจิ่งโม่เยี่ยแวบหนึ่ง เขาคิดว่าจิ่งโม่เยี่ยต่างหากที่หน้าด้านไร้ยางอายมากที่สุด!

จิ่งโม่เยี่ยทำราวกับถูกสุนัขจ้องมอง เมินเฉยต่ออีกฝ่ายอย่างสิ้นเชิง

เหมยตงยวนมองพวกเขาสื่อสารกันด้วยสายตา ก่อนจะถอยออกมาด้วยความสุขุม

พวกเขาจัดการเรื่องในที่สว่าง เรื่องในด้านมืดเขาจะเป็นคนจัดการทุกอย่างเอง

เขาเข้าไปในวังหลวงไม่ได้ แต่เขาเข้าไปในจวนของมหาราชครูได้

พวกเขาคิดว่าการฆ่ามหาราชครูตรงๆ อาจจะไม่สาสมกับสิ่งที่อีกฝ่ายทำ ถ้าอย่างนั้นเขาก็จะไม่ฆ่ามหาราชครู แต่จะมอบความประหลาดใจให้เขาสักเล็กน้อย

ตลอดหลายปีที่ผ่านมามหาราชครูทำเรื่องชั่วช้าไปมากมาย การจะมอบความประหลาดใจให้มหาราชครูเป็นเรื่องที่ง่ายดายมาก

เหมยตงยวนออกไปข้างนอกรอบหนึ่ง จากนั้นเขาก็พาวิญญาณร้ายจำนวนหนึ่งไปที่จวนของมหาราชครู

วิญญาณร้ายเหล่านี้เหมยตงยวนคัดเลือกมาเป็นอย่างดี

มหาราชครูล้วนรู้จักพวกเขา เพราะพวกเขาตายด้วยน้ำมือของมหาราชครูทั้งนั้น ทว่ามหาราชครูกลับไม่สนใจใยดีชีวิตของพวกเขาเลย

หลังจากเหมยตงยวนควบคุมวิญญาณร้ายในเ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 804

    แต่พอพูดออกไปแล้ว เขาก็นึกถึงเรื่องของจิ่งสือเฟิงขึ้นมาได้ ทำให้พริบตานั้นเขารู้สึกไม่มั่นใจเหมือนเดิมแล้วเหมยตงยวนปรากฏตัวตรงหน้าเขา “มหาราชครู ไม่เจอกันนานนะ”มหาราชครูไม่ได้เห็นเหมยตงยวนนานมากแล้ว พอยามนี้ได้เห็นจึงรู้สึกประหลาดใจอย่างมากเขาหลุดปากเอ่ยว่า “เจ้าคือเหมยตงยวน เจ้าสำนักลี้ลับ?”เหมยตงยวนพยักหน้า “ใช่แล้ว เจ้ายังอุตส่าห์จำข้าได้อีกนะ ทั้งที่ข้าก็ตายมาตั้งนานหลายปีแล้ว”สิ้นประโยคนี้ของเหมยตงยวน คนทั้งหมดก็หน้าซีดเผือดสำนักลี้ลับถูกกวาดล้างไปตั้งแต่สิบปีก่อนแล้ว บนโลกนี้ไม่มีเจ้าสำนักลี้ลับอยู่อีก มีเพียงเจ้าอารามเทียนอี้ทว่าคนที่นั่งอยู่ตรงนี้ทั้งหมด กลับยังจำความรุ่งโรจน์ของสำนักลี้ลับได้เป็นอย่างดีมหาราชครูสีหน้าเหมือนกลืนยาขม “การตายของเจ้าไม่เกี่ยวกับข้า สำนักลี้ลับถูกกวาดล้างก็ไม่เกี่ยวกับข้า เจ้าจะมาหาข้าทำไม?”เหมยตงยวนตอบ “ข้ามีสหายกลุ่มหนึ่ง พวกเขาบอกว่าตายด้วยน้ำมือของเจ้าทั้งนั้น ดังนั้นวันนี้ก็เลยแวะมาถามไถ่สารทุกข์สุกดิบกับเจ้า”พอเขาพูดจบก็โบกมือครั้งหนึ่ง ตรงหน้ามหาราชครูพลันปรากฏร่างวิญญาณร้ายจำนวนหลายตนมหาราชครูคุ้นหน้าคุ้นตาวิญญาณร้ายเหล่านี้เป็นอ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 805

    จวนมหาราชครูคืนนี้ ไม่มีใครสามารถข่มตาหลับได้อย่างแน่นอนเจ้านายที่สูงส่งยิ่งใหญ่ ผู้ปกครองที่กุมชะตาชีวิตของคนมากมายเอาไว้ คืนนี้ถูกสับเปลี่ยนตำแหน่งอย่างสิ้นเชิงวิญญาณร้ายพวกนั้นทำให้มหราชครูได้ลิ้มลองคงามหวาดกลัวอย่างสุดขีด และสัมผัสความสิ้นหวังที่ไม่ว่าจะเรียกหาใคร ก็ไม่มีใครได้ยินหรือรับรู้เรื่องนี้ทำให้ความกลัวของคนทะบานถึงขีดสุด แม่จะไม่ถึงขั้นทรมานจะเป็นจะตาย แต่ก็น่าหวาดผวาจนต้องร้องขอชีวิตฮ่องเต้เจาหยวนพอรู้ว่าคนของตนเองลอบสังหารเหล่าขุนนางไม่สำเร็จก็รู้สึกเสียดายเล็กน้อย แต่กลับไม่เก็บเอามาใส่ใจเพราะว่าองครักษ์ลับของเขามีความซื่อสัตย์ภักดีอย่างยิ่ง ต่อให้พวกเขาถูกจับตัวไปก็ต้องฆ่าตัวตายอยู่ดี ไม่มีทางสารภาพผู้ที่อยู่เบื้องหลังเขาแค่รู้สึกเสียดายนิดหน่อย เพราะว่าองครักษ์ลับพวกนั้นไม่ใช่จะฝึกฝนออกมาได้ง่ายๆ ในสถานการณ์แบบนี้บาดเจ็บล้มตายไปแค่คนสองคน คนที่เขาจะใช้งานในได้อนาคตก็ยิ่งลดน้อยลงไปอีกหลังจากฮ่องเต้เจาหยวนทราบเรื่องที่ฮองเฮาส่งมือสังหารไปฆ่าขุนนางก็สบถว่า “นังสตรีโง่เขลา สร้างผลงานไม่ได้แล้วยังทำลายแผนการผู้อื่นอีก!”ขันทีรีบปลอบ “ฮ่องเต้โปรดถนอมพระวรกายด้วยพ่ะ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 806

    ฮ่องเต้เจาหยวนสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วตรัสกับขันทีว่า “ไปเอาพู่กันกับหมึกมา ข้าจะเขียนราชโองการสละราชสมบัติ!”ขันทีปาดน้ำตาที่หางตา แล้วขานรับเบาๆ ก่อนจะไปหยิบของที่จำเป็นสำหรับการเขียนราชโองการฮ่องเต้เจาหยวนทรงยึดติดและหวงแหนอำนาจมาโดยตลอด หากพระวรกายไม่ถึงขีดจำกัดจริงๆ คงจะไม่ยอมแต่งตั้งองค์รัชทายาทเฟิ่งชูอิ่งตัดสินใจอยู่ที่เมืองหลวงชั่วคราวเนื่องจากเรื่องของเฉี่ยวหลิง หลังจากที่ได้แลกเปลี่ยนข้อมูลกับจิ่งโม่เยี่ยแล้ว ในใจของนางก็มีแผนคร่าวๆ รอเอาไว้เดิมทีจิ่งโม่เยี่ยมายังจวนโหว เพียงแค่คิดจะกินข้าวแล้วก็กลับไป แต่เพราะเฟิ่งชูอิ่งตกลงที่จะเข้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ เขาจึงไม่อยากกลับไปแล้วเขาไม่ได้ถามเฟิ่งชูอิ่งซ้ำอีกว่านางจะยอมให้โอกาสเขาอีกครั้งหรือไม่ เพราะเขารู้ว่าบางครั้งเรื่องแบบนี้ไม่จำเป็นต้องได้รับคำตอบสำหรับเขาแล้ว การที่นางไม่ได้ปฏิเสธเขาอย่างเด็ดขาดในครั้งนี้ ถือเป็นความก้าวหน้าครั้งใหญ่แค่ได้ลงมือทำอะไรบางอย่างไปพร้อมกับนาง เขาก็มีความสุขมากแล้วปีใหม่นี้ คนส่วนใหญ่ในเมืองหลวงไม่ได้ใช้ช่วงเวลาอย่างมีความสุขนักจนกระทั่งวันส่งท้ายปี บนท้องถนนก็ไม่มีบรรยากาศคึก

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 807

    การลอบสังหารแบบนี้เกิดขึ้นหลายครั้งในเมืองหลวง ทำให้สถานการณ์โดยรวมดูเลวร้ายมากจวนตระกูลซูทางตะวันตกของเมืองซูโหย่วเหลียงถามผู้ดูแลข้างกายว่า “ข้างนอกเป็นอย่างไรบ้าง?”ผู้ดูแลตอบ “เลวร้ายมาก ขุนนางหลายคนไม่พอใจท่านอ๋องจิ่งโม่เยี่ยมาก”ซูโหย่วเหลียงพยักหน้าเบาๆ “ทำได้ดี โหมข่าวเรื่องนี้ให้ใหญ่โตขึ้นไปอีก”ผู้ดูแลพูดด้วยความกังวล “แต่อ๋องจิ้นเพิ่งส่งคนมาบอกให้เราอย่าทำอะไรบุ่มบ่าม”ซูโหย่วเหลียงพูดอย่างดูถูก “เขามักจะระมัดระวังเกินไป เรื่องแบบนี้ฟังเขาไม่ได้หรอก”“โอกาสดีแบบนี้ เราต้องไม่ปล่อยให้หลุดมือ”“ตอนนี้เขาพูดแบบนี้กับข้า ภายหลังก็จะขอบคุณข้าเอง เพราะอำนาจต้องแย่งชิงมา ความมั่งคั่งย่อมมีความเสี่ยง”ตอนนี้ในบรรดาองค์ชายทั้งหมด มีเพียงองค์ชายจิ่งสือเยี่ยนเท่านั้นที่มีอำนาจอย่างแท้จริงในสายตาของเขาหากจิ่งสือเยี่ยนแย่งอำนาจจากจิ่งโม่เยี่ยมาได้ในครั้งนี้ บัลลังก์ก็จะตกเป็นของจิ่งสือเยี่ยนและถ้าจิ่งสือเยี่ยนได้ขึ้นครองราชย์ เขาก็จะเป็นผู้ที่สร้างคุณงามความดีมากที่สุดเขายังเป็นลุงแท้ๆ ของจิ่งสือเยี่ยนด้วย ต่อไปต้องได้เป็นขุนนางผู้มีอำนาจล้นฟ้าแน่นอนเมื่อนึกถึงภาพนั้น

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 808

    ฉินจื๋อเจี้ยนล่วงรู้แผนการของจิ่งโม่เยี่ยมาตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้วเดิมทีเขาคิดว่าเรื่องนี้ถึงเวลาลงมือได้แล้ว แต่จิ่งโม่เยี่ยกลับให้เขารออีกหน่อย ทำให้เขากังวลอยู่บ้างแต่เขาก็เชื่อในการตัดสินใจของจิ่งโม่เยี่ย ถ้าจิ่งโม่เยี่ยบอกว่ายังลงมือไม่ได้ ก็คงต้องรอไปก่อนเสนาบดีฝ่ายซ้ายได้ยินความเคลื่อนไหวในเมืองหลวง ก็เพียงแต่ยิ้มรับเขาไม่สนใจเรื่องแย่งชิงอำนาจ ตอนนี้เขาคิดเพียงแต่จะหาวิธีเอาใจสาวน้อยคนนั้นมาที่จวนเสนาบดีให้ได้ครั้งที่แล้วหลังจากออกมาจากจวนผู้ว่าราชการ เขาได้ไปหาสาวน้อยคนนั้นอีกครั้ง แต่น่าเสียดายที่สาวน้อยไม่สนใจเขาเลยคคนรับใช้เดินเข้ามรายงานว่า “เสนาบดีฝ่ายซ้าย มีขุนนางหลายท่านมาขอพบที่หน้าประตูขอรับ”เสนาบดีฝ่ายซ้ายปฏิเสธทันที “ไม่พบ”คนรับใช้มีสีหน้าลำบากใจ “แต่ว่า…”ทันทีที่เขาพูดจบ ก็ได้ยินเสียงของท่านรองผู้ว่าตู้ดังขึ้น “เสนาบดีฝ่ายซ้าย ครั้งนี้ท่านต้องออกมาจัดการให้ความเป็นธรรม!”“อ๋องผู้สำเร็จราชการทำเกินกว่าเหตุ ไม่เคารพกฎหมายบ้านเมือง นับเป็นภัยต่อแผ่นดิน!”เสนาบดีฝ่ายซ้ายได้ยินดังนั้นจึงถามว่า “เจ้าให้ข้าจัดการให้ความเป็นธรรม เจ้าอยากให้ข้าจัดการอย่าง

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 809

    พ่อครัวปาดน้ำตาพลางพูดว่า “นิดหน่อยขอรับ”จิ่งโม่เยี่ยพูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆ ว่า “งั้นเจ้าถอยไป ข้าจะเคี่ยวเอง”“เจ้าคอยดูอยู่ข้างๆ ถ้ามีตรงไหนไม่ถูกต้อง เจ้าก็คอยชี้แนะข้า”พ่อครัวตกใจแทบจะคุกเข่าลง ให้ความกล้าเขาสิบเท่า เขาก็ไม่กล้าชี้จุดผิดของจิ่งโม่เยี่ยยู่ดีจิ่งโม่เยี่ยยังพูดต่ออีกว่า “เจ้าต้องบอกข้านะ ถ้าน้ำแกงไก่ที่ข้าเคี่ยวไม่อร่อย เจ้าต้องรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว!”พ่อครัวคุกเข่าลงกับพื้นทันทีจิ่งโม่เยี่ย “......”เขาก็ไม่ได้พูดอะไร พ่อครัวคนนี้ขี้ขลาดเกินไปหน่อยแล้วฉินจื๋อเจี้ยนเดินเข้ามาจากข้างนอกแล้วพูดว่า “ท่านอ๋อง ขข้างนอกโวยวายกันหนักมาก พวกเขาต่างก็เรียกร้องให้ท่านออกไป”สีหน้าของจิ่งโม่เยี่ยไม่เปลี่ยนแปลง “พวกเขาอยากเจอข้า ข้าก็ต้องไปเจอพวกเขาหรือ? พวกเขาคิดว่าตัวเองเป็นใครกัน”ฉินจื๋อเจี้ยน “......”เอาเถอะ นี่แสดงว่ายังไม่ถึงเวลาเหมาะสม จิ่งโม่เยี่ยยังคงถ่วงเวลาพวกคนข้างนอกต่อขณะที่พ่อครัวก็อยากให้จิ่งโม่เยี่ยออกไปจากครัวเร็วๆ อย่ามาสร้างความเดือดร้อนในครัวของเขาอีกเลยจิ่งโม่เยี่ยไม่มีพรสวรรค์ในการทำอาหารเลยสักนิด เขาอยู่ในครัวก็เหมือนกับหายนะเดินได

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 810

    จิ่งโม่เยี่ยไม่สะทกสะท้านต่อเสียงด่าทอรอบข้าง เขาถือว่าอีกฝ่ายกำลังผายลมใส่เขาสำหรับพวกโง่เง่าแบบนี้ เขาคร้านจะอธิบายด้วยซ้ำเขาพูดอย่างใจเย็นว่า “ไร้มนุษยธรรม? พวกเจ้าคงเข้าใจผิดเกี่ยวกับคำนี้”“หากข้าไร้มนุษยธรรมจริง ๆ พวกเจ้าคงตายไปนานแล้ว”เสียงของเขาไม่ดังนัก แต่ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์กลับได้ยินอย่างชัดเจน สีหน้าของพวกเขาเปลี่ยนไปหลายครั้งมีคนโกรธจัดและเอ่ยว่า “ถึงแม้ท่านจะเป็นอ๋องผู้สำเร็จราชการ ท่านก็ไม่สามารถทำตัวอวดดีเช่นนี้ได้!”“ท่านไม่เพียงแต่ปิดล้อมจวนของมหาราชครู แต่ยังเข่นฆ่าผู้บริสุทธิ์ในเมืองหลวงอีกด้วย จริยธรรมบกพร่อง ไม่คู่ควรเป็นอ๋องผู้สำเร็จราชการ!”“นักปราชญ์ยอมตายได้ แต่ไม่ยอมถูกเหยียดหยาม ถ้าท่านมีความสามารถก็ฆ่าพวกเราให้หมดเลยสิ!”จิ่งโม่เยี่ยพูดกับทุกคนว่า “หมายความว่าวันนี้ พวกเจ้ามาหาที่ตายหรือ?”“งั้นเอาแบบนี้ ใครในหมู่พวกเจ้าอยากตายก็ก้าวออกมาได้เลย ข้าจะทำให้สมปรารถนาเอง”เมื่อพูดอย่างนี้ ก็ไม่มีใครยอมก้าวออกมาจิ่งโม่เยี่ยพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “เมื่อครู่พวกเจ้าไม่ใช่ว่าอยากตายกันหรอกหรือ? ทำไม? ตอนนี้กลัวแล้วหรือ?”การที่ทุกคนมาสร้างความ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 811

    “ถ้าหากเป็นของปลอม ก็สามารถมาสอบถามข้าได้ทุกเมื่อ”เหล่าขุนนางต่างตกตะลึงกับหลักฐานเหล่านั้น พวกเขาเพียงแค่เหลือบมองก็รู้ว่ามันเป็นของจริงหากท่านมหาราชครูทำเรื่องเช่นนี้จริง ๆ เขาก็ไม่เพียงแต่เป็นคนเลวทราม แต่ยังเป็นคนหน้าไหว้หลังหลอกอย่างแท้จริงตลอดหลายปีที่ผ่านมา ความเคารพที่ทุกคนมีต่อเขาก็เป็นเพียงเรื่องตลก!การที่พวกเขาออกมาปกป้องมหาราชครูในครั้งนี้ จึงดูโง่เขลาสิ้นดีแต่คนที่สามารถเป็นขุนนางในราชสำนักได้ ต่างก็คิดว่าตัวเองฉลาด จึงไม่มีทางยอมรับว่าตัวเองโง่ด้วยเหตุนี้ พวกเขาจึงเริ่มไม่พอใจมหาราชครูขึ้นมาสามส่วนในใจจิ่งโม่เยี่ยเข้าใจนิสัยของขุนนางในเมืองหลวงเป็นอย่างดี เขาจึงไม่พูดอะไรมาก ปล่อยให้พวกเขาดูเอกสารหลักฐานกันไปเขาวางแผนมานานหลายวัน ตอนนี้ถึงเวลาเก็บเกี่ยวผลแล้วมิเช่นนั้น คนเหล่านี้อาจคิดว่าเขารังแกได้ง่าย ๆครึ่งชั่วยามต่อมา มหาราชครูก็ถูกเชิญตัวมาเมื่อเขามาถึง ทุกคนก็ตกตะลึงไปทันทีเพราะเขาเปลี่ยนไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง ใบหน้าซีดเซียว ผมหงอกขาวไปกว่าครึ่งศีรษะ ดูเหมือนแก่ลงไปสิบกว่าปีจิ่งโม่เยี่ยเห็นสภาพของเขาก็รู้สึกประหลาดใจ เพราะเขาแค่สั่งให้คนล้อ

บทล่าสุด

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 997

    เฟิ่งชูอิ่งพูดต่อว่า “แต่ตอนนี้ข้าไม่เหลือทั้งบิดามารดาแล้ว เจ้าห้ามรังแกข้าเชียวนะ!”จิ่งโม่เยี่ยยกมือสาบานต่อฟ้าทันที “หากข้าทำไม่ดีกับเจ้าในภายภาคหน้า ขอให้สวรรค์ลงทัณฑ์ส่งฟ้ามาผ่าให้ตาย!”เฟิ่งชูอิ่งหัวเราะ “เรื่องฟ้าผ่าไม่ต้องถึงมือสวรรค์หรอก ข้าก็ทำได้”จิ่งโม่เยี่ย “......”เขาเกือบลืมไปแล้วว่านางวาดยันต์ได้เก่งมาก ตราบใดที่นางต้องการ ใช้ฟ้าผ่าเขาก็ไม่ใช่เรื่องยากเฟิ่งชูอิ่งเห็นท่าทางของเขาก็แอบหัวเราะเบาๆ เอื้อมมือไปกอดแล้วซุกศีรษะพิงอกเขา กล่าวว่า “ข้าเชื่อใจท่าน”“ตอนนี้เราทั้งสองล้วนไม่มีพ่อแม่แล้ว ชีวิตที่เหลืออยู่ก็มีเพียงกันและกัน”“ต่อไปข้าจะดูแลเจ้าอย่างเต็มที่ จะไม่ระแวงเจ้าอีก ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ข้าจะเชื่อใจเจ้า”หัวใจที่ตึงเครียดของจิ่งโม่เยี่ยก็ผ่อนคลายลงในทันทีเขากอดนางตอบ “กาลเวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าการตัดสินใจของเจ้าถูกต้อง”เขาโน้มตัวลงจูบหน้าผากนางเบาๆ เอ่ยอย่างอ่อนโยนว่า “ข้าจะทุ่มเททุกอย่างเพื่อรักเจ้า”เมื่อเฟิ่งชูอิ่งได้ยินคำพูดนี้ หัวใจก็สั่นไหว นางช้อนตามองขึ้นไปที่เขา ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความอ่อนโยนนางรู้ว่าคำพูดของเขาในตอนนี้ล้วนมาจ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 996

    ก่อนหน้านี้เขาไม่รู้ฐานะของจิ้งจอกสือซานเหนียง แต่ตอนนี้เขาพอจะเข้าใจได้หลังจากได้ยินบทสนทนาระหว่างจิ้งจอกสือซานเหนียงและเฟิ่งชูอิ่งจิ้งจอกสือซานเหนียงเห็นสีหน้าเคร่งขรึมของเขาก็หัวเราะเบาๆ ก่อนจะหันหลังเดินจากไปเฟิ่งชูอิ่งถามว่า “เจ้าจะไปไหน? ข้ายังมีเรื่องอยากจะถามเจ้าอีกมาก”จิ้งจอกสือซานเหนียงตอบว่า “ข้าจะไปหาที่ขับไล่พลังชั่วร้ายออกจากร่างกาย พอขับไล่เสร็จแล้วข้าจะกลับมาหาเจ้า”ตลอดหลายปีที่ผ่านมา นางฝึกฝนวิชาสายชั่วร้ายมากมาย ทำให้พลังชั่วร้ายในร่างกายมีมากเกินไป หากอยู่ใกล้ใครนานๆ จะมีผลกระทบต่อคนรอบข้างเฟิ่งชูอิ่งจึงเตือนนางว่า “เจ้าอย่าผิดคำพูดล่ะ ข้าจะรอเจ้ากลับมา!”จิ้งจอกสือซานเหนียงโบกมือแล้วบอกว่า “วางใจเถอะ ข้าจะกลับมาแน่นอน”หลังจากนางเดินออกไปไกลแล้ว เฟิ่งชูอิ่งก็ถอนหายใจยาวๆ และเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นหลังจากแยกทางกันให้จิ่งโม่เยี่ยฟังหลังจากที่จิ่งโม่เยี่ยได้ยินเรื่องของเหมยตงยวน เขาก็เงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า “เพราะรักถลำลึกจึงไม่ยืนยาว เรื่องระหว่างท่านพ่อกับท่านแม่ช่างน่าเศร้า”เฟิ่งชูอิ่งกล่าวอย่างแผ่วเบาว่า “ดังนั้นการสื่อสารจึงสำคัญ ต่อไปไม่ว่าจะมี

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 995

    สิ้นเสียงของนาง สายฟ้าก็ฟาดลงมาอีกครั้ง ทำให้พลังที่พุ่งพล่านของเขาสลายไปจิ่งสือเยี่ยน “!!!!!!!!”หลังจากถูกอสนีบาตฟาดใส่อย่างต่อเนื่องห้าครั้ง ร่างวิญญาณของเขาก็จางลงอย่างมากแต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ยังไม่ตายเฟิ่งชูอิ่งถึงกับตกใจ ชีวิตของจิ่งสือเยี่ยนช่างแข็งแกร่งเสียจริง!นางอดสงสัยไม่ได้ว่าเขาจะกลายเป็นเทียนซือคนที่สอง และจะกลายเป็นภัยพิบัติในอนาคตนางกำลังจะม้วนแขนเสื้อขึ้นเพื่อเสกยันต์ใส่จิ่งสือเยี่ยนอีกครั้ง แต่กลับมีเงาร่างหนึ่งพุ่งเข้ามาแล้วกลืนเขาเข้าไปทั้งตัวเฟิ่งชูอิ่ง “!!!!!!”จิ้งจอกสือซานเหนียงเรอออกมาคำโตแล้วบอกว่า “เขาเป็นอาหารที่ข้าหมายตาไว้แต่แรก”“การปล่อยให้อาหารหลุดมือไป เป็นเรื่องที่ไม่อาจให้อภัยได้”เฟิ่งชูอิ่ง “......”นางเคยจินตนาการถึงความตายของจิ่งสือเยี่ยนไว้หลายแบบ แต่ไม่มีฉากจบแบบนี้อยู่เลยนางได้คงบอกได้แค่ว่าจิ้งจอกสือซานเหนียงเจ๋งสุดยอด!ขณะเดียวกันนั้นจิ่งโม่เยี่ยก็เดินเข้ามา เขาจ้องมองจิ้งจอกสือซานเหนียงด้วยความระแวดระวัง มือจับกระบี่เอาไว้ เตรียมพร้อมที่จะฟันจิ้งจอกสือซานเหนียงได้ทุกเมื่อเฟิ่งชูอิ่งบีบมือเขาเบาๆ ให้เขาผ่อนคลายจิ้งจอก

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 994

    แต่ทว่าคันธนูของจิ่งสือเยี่ยนเพิ่งจะยกขึ้นมา ก็มีลูกธนูที่เร็วกว่าพุ่งทะลุหัวใจของเขาในทันทีจิ่งสือเยี่ยนมองลูกธนูที่ปักอยู่บนอกด้วยความไม่อยากเชื่อ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองและเห็นดวงตาที่เย็นชาของจิ่งโม่เยี่ยเมื่อครู่นี้พวกเขาทั้งสองยังมีระยะห่างต่อกันอยู่แท้ๆ และตำแหน่งที่เขาหลบอยู่ก็เป็นมุมอับที่จิ่งโม่เยี่ยยิงมาไม่ถึงทว่าเพียงแค่อึดใจเดียว จิ่งโม่เยี่ยก็ปรับตำแหน่งได้อย่างรวดเร็วและยิงธนูทะลุหัวใจเขาได้ในนัดเดียวในตอนนี้จิ่งสือเยี่ยนกับจิ่งโม่เยี่ยไม่ได้อยู่ห่างกันมากนัก แต่ถ้าพูดคุยกันตามปกติก็คงไม่ได้ยินทว่าในเวลาเช่นนี้ จิ่งสือเยี่ยนกลับได้ยินเสียงของจิ่งโม่เยี่ย “คนที่กล้าทำร้ายชูอิ่งต้องตาย!”ก่อนหน้านี้จิ่งสือเยี่ยนคิดแค่ว่าจิ่งโม่เยี่ยดีต่อเฟิ่งชูอิ่งมาก ทว่าตอนนี้เขาเพิ่งได้รู้ซึ้งเรื่องบางอย่างเฟิ่งชูอิ่งไม่ใช่แค่จุดอ่อนของจิ่งโม่เยี่ย แต่เป็นทั้งชีวิตของเขาแต่มาเข้าใจเอาป่านนี้ก็สายไปแล้วในตอนนี้เฟิ่งชูอิ่งยังคงนอนคว่ำอยู่บนพื้นหิมะ นางได้ยินเสียงวัตถุแหวกอากาศจึงหันไปมอง และเห็นภาพของจิ่งสือเยี่ยนล้มลงกับพื้นในเวลานี้ เฟิ่งชูอิ่งก็เข้าใจใด้ทันทีว่าในโลกน

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 993

    ในเมื่อเขาไม่ได้ราชบัลลังก์และเฟิ่งชูอิ่งมาครอบครอง ราชบัลลังก์เขาอาจจะทำลายไม่ได้ แต่เฟิ่งชูอิ่งแค่คนเดียวเขาทำลายได้แน่นอนองครักษ์สองคนของเขารีบเปลี่ยนมาง้างคันธนูเล็งไปที่เฟิ่งชูอิ่ง ทว่าลูกธนูยังไม่ทันได้ยิงออกไป ก็ถูกบางสิ่งบางอย่างปัดออกไปอีกครั้งในตอนนี้จิ่งสือเยี่ยนก็พลันเข้าใจบางอย่างขึ้นมาทันทีตลอดทางที่ผ่านมา วิญญาณร้ายของเฟิ่งชูอิ่งถึงจะมาแล้ว แต่ก็ไม่ได้ลงมือ นั่นก็น่าจะมีเหตุผลที่ลงมือไม่ได้วิญญาณร้ายโจมตีองครักษ์ของเขา แต่กลับไม่โจมตีเขา นั่นก็หมายความว่าวิญญาณร้ายเหล่านั้นโจมตีเขาไม่ได้เขานึกถึงข่าวลือที่เคยได้ยินมาว่า พลังมังกรของผู้เป็นฮ่องเต้เป็นสิ่งที่ปราบภูตผีปีศาจได้วิญญาณร้ายไม่โจมตีเขา นั่นแสดงว่าวิญญาณร้ายทำอะไรเขาไม่ได้ แปลว่าเขามีพลังมังกรอยู่ในตัว?ความคิดนี้ทำให้จิตใจเขาฮึกเหิมขึ้นมาทันที เขารีบหยิบธนูของตัวเองขึ้นมา อดทนต่อความเจ็บปวดจากบาดแผลแล้วยิงธนูไปที่หลังของเฟิ่งชูอิ่งเฉี่ยวหลิงเห็นภาพนี้ก็ตกใจ รีบยื่นมือออกไปเพื่อจะรับลูกธนูนั้นทว่าลูกธนูนั้นเปื้อนเลือดของจิ่งสือเยี่ยน เลือดนั้นเป็นอันตรายต่อวิญญาณร้ายอย่างมาก มือของนางแค่เพียงสัมผ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 992

    หิมะยังคงโปรยปรายลงมา โลกนี้เงียบสงัด มีเพียงเสียงฝีเท้ากระทบกับพื้นหิมะดังฟุ่บฟั่บช่วงใกล้รุ่งสาง ชวีเหลียงอวี่ก็มาปรากฏตัวและเอ่ยขึ้นทันทีว่า "ท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการรออยู่ข้างนอกแล้ว"เมื่อได้ยินดังนั้น เฟิ่งชูอิ่งก็เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยนางหันไปบอกกับจิ่งสือเยี่ยนว่า "เมื่อครู่ข้าลองคิดดูดีๆ แล้ว รู้สึกว่าที่เจ้าพูดก็มีเหตุผลอยู่บ้าง การมีชีวิตอยู่ก็ไม่เลว"จิ่งสือเยี่ยน “......”หลังจากผ่านมาทั้งคืน นางกลับปลงตกในเรื่องเช่นนี้ได้ ทำให้เขารู้สึกประหลาดใจอยู่เล็กน้อยแต่การที่นางคิดได้ในตอนนี้ก็เป็นเรื่องดีเขาจึงพูดว่า "หลายสิ่งหลายอย่างทำได้ตอนมีชีวิตอยู่เท่านั้น ตายไปแล้วทำไม่ได้""ตราบใดที่เจ้าพาข้าออกจากค่ายกลแห่งนี้ ข้าจะไม่สร้างความลำบากให้เจ้าอีก”เฟิ่งชูอิ่งพยักหน้า "ก็ได้ งั้นตอนนี้ข้าจะพาเจ้าไปทำลายค่ายกล"พูดจบนางก็ควบม้านำหน้าไป จิ่งสือเยี่ยนรีบนำทหารตามไปทันทีเพียงแต่พวกเขาเดินวนเวียนอยู่ที่นี่ทั้งคืน ทั้งเหนื่อยทั้งหิว พลังจึงลดลงไปมากเฟิ่งชูอิ่งมียันต์ป้องกันความหนาวติดตัวอยู่จึงไม่รู้สึกหนาว ก่อนหน้านี้ก็นอนหลับมาตลอดทาง ทำให้รักษาพลังงานไว้ได้มากที่สุ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 991

    เขาไม่เคยเจอใครดื้อด้านเท่านางมาก่อน!เขาสูดหายใจเข้าลึกๆ เพื่อระงับโทสะ เพราะตอนนี้เขาไม่สามารถตบตีหรือด่าทอนางได้ทั้งนั้นเขาพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “เจ้าอยากไปเจียงหนานไม่ใช่หรือ? พอออกจากที่นี่ได้ ข้าจะไม่ขัดขวางเจ้า เจ้าก็จะได้ไปชมวิวทิวทัศน์เจียงหนานที่เจ้าอยากเห็น”“เจียงหนานในฤดูหนาวที่มีหิมะปกคลุมทั้งงดงามและน่าหลงใหล ถ้าเจ้ายังไม่เคยเห็น ต้องไปดูด้วยตาตัวเองให้ได้เลย”เฟิ่งชูอิ่งยังคงนอนอยู่บนพื้นไม่ยอมลุกขึ้น “ไม่ไป อากาศหนาวเกินไป เดินทางเหนื่อยเกินไป”จิ่งสือเยี่ยน “…...”ตั้งแต่วินาทีที่เขาติดกับอยู่ที่นี่ สถานะระหว่างเขากับเฟิ่งชูอิ่งก็สลับกันโดยสิ้นเชิงเพราะเขามีความทะเยอทะยาน อยากใช้ชีวิตอย่างสุขสบายยิ่งเฟิ่งชูอิ่งแสดงออกว่าอยากตายมากเท่าไหร่ จิ่งสือเยี่ยนก็ยิ่งไม่ยอมให้นางตายมากขึ้นเท่านั้นดังนั้นตอนนี้นางจึงควบคุมเขาได้อย่างเบ็ดเสร็จการที่นางแสดงท่าทีไม่ยอมทำตามไม่ว่าเขาจะใช้ไม้แข็งหรือไม้อ่อนเช่นนี้ ทำให้เขาแทบเป็นบ้าจิ่งสือเยี่ยนไม่เคยคิดฝันมาก่อนว่าการจับตัวประกันจะน่าอึดอัดขนาดนี้เฟิ่งชูอิ่งนอนเอกเขนกอยู่ตรงนั้นอย่างสบายใจ เหตุผลก็ง่ายๆ นางใช้

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 990

    เฟิ่งชูอิ่งยิ้มแล้วถามว่า “ทางที่ข้าชี้นำ เจ้ากล้าเดินตามหรือ?”เมื่อมาถึงตอนนี้แล้ว นางก็คร้านจะเสแสร้งต่อไปสีหน้าของจิ่งสือเยี่ยนแข็งค้างไปครู่หนึ่ง นางพูดอย่างเฉื่อยชาว่า “เพราะพวกเจ้าติดอยู่ที่นี่ คงรู้สึกหนาวเหน็บและหวาดกลัว”“เจ้าบาดเจ็บ ในสภาพอากาศหนาวเย็นเช่นนี้ แผลของเจ้าจะยิ่งทรุดหนัก”“เจ้ารีบร้อนมารวบรวมกำลังพลของกองกำลังอวี๋ซาน เจ้าคงไม่ได้พกอาหารมาด้วยมากนัก ดังนั้นตอนนี้พวกเจ้าคงหิวมากแล้ว”“ในสถานการณ์เช่นนี้ แค่ข้ากักขังพวกเจ้าไว้ที่นี่ ต่อให้ไม่หนาวตาย พวกเจ้าก็คงอดตายอยู่ดี”ขณะนี้หิมะขาวโพลนโปรยปรายไปทั่ว อากาศหนาวเหน็บ สภาพอากาศเช่นนี้คงจะดำเนินต่อไปเป็นเวลาอย่างน้อยครึ่งเดือนเป็นอย่างที่เฟิ่งชูอิ่งบอก พวกเขาเดินทางมาที่นี่โดยไม่ได้พกเสบียงอาหารแห้งหรืออะไรทำนองนั้นมาด้วยเลยด้วยเหตุนี้ตอนที่พวกเขาเดินวนจนครบรอบที่สาม เสบียงอาหารก็หมดลงตอนนี้ฟ้าเริ่มมืดแล้ว หลังจากตกกลางคืน อากาศจะยิ่งหนาวเย็นลง พวกเขาจะยิ่งลำบากมากขึ้นจิ่งสือเยี่ยนชักกระบี่ยาวออกมา “เจ้าเชื่อหรือไม่ว่าข้าสามารถบั่นคอเจ้าด้วยกระบี่เล่มนี้ได้!”เฟิ่งชูอิ่งยิ้มหวานแล้วเอ่ยว่า “เอาเลย ฆ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 989

    เขาคลี่ยิ้มมุมปากเล็กน้อย “ได้”หลังจากฆ่าจิ่งโม่เยี่ยแล้ว จะปล่อยนางไปหรือไม่ เรื่องนี้เขาจะเป็นคนตัดสินใจนางเป็นผู้หญิงคนแรกที่เขารู้สึกชอบจริงๆ และนางก็เป็นผู้หญิงคนแรกที่ทำให้เขารู้จักกับความล้มเหลวเขารู้ว่านางมีวิธีการบางอย่างที่คนทั่วไปไม่มี ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าประมาท เขาจะป้อนยาที่ทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงให้นางกินทุกวันเฟิ่งชูอิ่งรู้ทันความคิดของเขา และยอมให้ความร่วมมือแต่โดยดีขณะที่ในใจของนางกำลังครุ่นคิด ครั้งที่แล้วโดนไปขนาดนั้นยังรอดมาได้ ถ้าอย่างนั้นก็ต้องหาโอกาสฆ่าเขาให้ตายสนิทแบบไม่มีสิทธิ์ฟื้นขึ้นมาอีกนางพลันนึกถึงเรื่องที่เหมยตงยวนวิญญาณแหลกสลายหลังจากรู้ข่าวการตายของเฟิ่งชิงหลิง จิตใจนางจึงหม่นหมองตามไปด้วยนางรู้ว่าเหมยตงยวนรักเฟิ่งชิงหลิงอย่างสุดซึ้ง แต่ไม่คิดว่านั่นจะเป็นรากฐานที่ทำให้เขามีชีวิตอยู่ในโลกใบนี้เพราะนางเห็นความรักของพวกเขา นางจึงยิ่งรู้ชัดว่าตัวเองมีความรู้สึกแบบไหนต่อจิ่งโม่เยี่ยในเมื่อรักแล้ว ก็ต้องรักให้สุดหัวใจอย่าได้ทำเรื่องที่ทำให้ตัวเองเสียใจและทำให้ฝ่ายตรงข้ามเข้าใจผิดอีกจิ่งสือเยี่ยนไม่ได้ไปตามล่าจิ่งโม่เยี่ยโดยตรง เขาวางแผนท

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status