Share

บทที่ 809

Author: ดอกถังร่วงหล่น
last update Last Updated: 2024-11-24 18:00:00
พ่อครัวปาดน้ำตาพลางพูดว่า “นิดหน่อยขอรับ”

จิ่งโม่เยี่ยพูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆ ว่า “งั้นเจ้าถอยไป ข้าจะเคี่ยวเอง”

“เจ้าคอยดูอยู่ข้างๆ ถ้ามีตรงไหนไม่ถูกต้อง เจ้าก็คอยชี้แนะข้า”

พ่อครัวตกใจแทบจะคุกเข่าลง ให้ความกล้าเขาสิบเท่า เขาก็ไม่กล้าชี้จุดผิดของจิ่งโม่เยี่ยยู่ดี

จิ่งโม่เยี่ยยังพูดต่ออีกว่า “เจ้าต้องบอกข้านะ ถ้าน้ำแกงไก่ที่ข้าเคี่ยวไม่อร่อย เจ้าต้องรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว!”

พ่อครัวคุกเข่าลงกับพื้นทันที

จิ่งโม่เยี่ย “......”

เขาก็ไม่ได้พูดอะไร พ่อครัวคนนี้ขี้ขลาดเกินไปหน่อยแล้ว

ฉินจื๋อเจี้ยนเดินเข้ามาจากข้างนอกแล้วพูดว่า “ท่านอ๋อง ขข้างนอกโวยวายกันหนักมาก พวกเขาต่างก็เรียกร้องให้ท่านออกไป”

สีหน้าของจิ่งโม่เยี่ยไม่เปลี่ยนแปลง “พวกเขาอยากเจอข้า ข้าก็ต้องไปเจอพวกเขาหรือ? พวกเขาคิดว่าตัวเองเป็นใครกัน”

ฉินจื๋อเจี้ยน “......”

เอาเถอะ นี่แสดงว่ายังไม่ถึงเวลาเหมาะสม จิ่งโม่เยี่ยยังคงถ่วงเวลาพวกคนข้างนอกต่อ

ขณะที่พ่อครัวก็อยากให้จิ่งโม่เยี่ยออกไปจากครัวเร็วๆ อย่ามาสร้างความเดือดร้อนในครัวของเขาอีกเลย

จิ่งโม่เยี่ยไม่มีพรสวรรค์ในการทำอาหารเลยสักนิด เขาอยู่ในครัวก็เหมือนกับหายนะเดินได
Locked Chapter
Continue to read this book on the APP

Related chapters

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 810

    จิ่งโม่เยี่ยไม่สะทกสะท้านต่อเสียงด่าทอรอบข้าง เขาถือว่าอีกฝ่ายกำลังผายลมใส่เขาสำหรับพวกโง่เง่าแบบนี้ เขาคร้านจะอธิบายด้วยซ้ำเขาพูดอย่างใจเย็นว่า “ไร้มนุษยธรรม? พวกเจ้าคงเข้าใจผิดเกี่ยวกับคำนี้”“หากข้าไร้มนุษยธรรมจริง ๆ พวกเจ้าคงตายไปนานแล้ว”เสียงของเขาไม่ดังนัก แต่ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์กลับได้ยินอย่างชัดเจน สีหน้าของพวกเขาเปลี่ยนไปหลายครั้งมีคนโกรธจัดและเอ่ยว่า “ถึงแม้ท่านจะเป็นอ๋องผู้สำเร็จราชการ ท่านก็ไม่สามารถทำตัวอวดดีเช่นนี้ได้!”“ท่านไม่เพียงแต่ปิดล้อมจวนของมหาราชครู แต่ยังเข่นฆ่าผู้บริสุทธิ์ในเมืองหลวงอีกด้วย จริยธรรมบกพร่อง ไม่คู่ควรเป็นอ๋องผู้สำเร็จราชการ!”“นักปราชญ์ยอมตายได้ แต่ไม่ยอมถูกเหยียดหยาม ถ้าท่านมีความสามารถก็ฆ่าพวกเราให้หมดเลยสิ!”จิ่งโม่เยี่ยพูดกับทุกคนว่า “หมายความว่าวันนี้ พวกเจ้ามาหาที่ตายหรือ?”“งั้นเอาแบบนี้ ใครในหมู่พวกเจ้าอยากตายก็ก้าวออกมาได้เลย ข้าจะทำให้สมปรารถนาเอง”เมื่อพูดอย่างนี้ ก็ไม่มีใครยอมก้าวออกมาจิ่งโม่เยี่ยพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “เมื่อครู่พวกเจ้าไม่ใช่ว่าอยากตายกันหรอกหรือ? ทำไม? ตอนนี้กลัวแล้วหรือ?”การที่ทุกคนมาสร้างความ

    Last Updated : 2024-11-24
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 811

    “ถ้าหากเป็นของปลอม ก็สามารถมาสอบถามข้าได้ทุกเมื่อ”เหล่าขุนนางต่างตกตะลึงกับหลักฐานเหล่านั้น พวกเขาเพียงแค่เหลือบมองก็รู้ว่ามันเป็นของจริงหากท่านมหาราชครูทำเรื่องเช่นนี้จริง ๆ เขาก็ไม่เพียงแต่เป็นคนเลวทราม แต่ยังเป็นคนหน้าไหว้หลังหลอกอย่างแท้จริงตลอดหลายปีที่ผ่านมา ความเคารพที่ทุกคนมีต่อเขาก็เป็นเพียงเรื่องตลก!การที่พวกเขาออกมาปกป้องมหาราชครูในครั้งนี้ จึงดูโง่เขลาสิ้นดีแต่คนที่สามารถเป็นขุนนางในราชสำนักได้ ต่างก็คิดว่าตัวเองฉลาด จึงไม่มีทางยอมรับว่าตัวเองโง่ด้วยเหตุนี้ พวกเขาจึงเริ่มไม่พอใจมหาราชครูขึ้นมาสามส่วนในใจจิ่งโม่เยี่ยเข้าใจนิสัยของขุนนางในเมืองหลวงเป็นอย่างดี เขาจึงไม่พูดอะไรมาก ปล่อยให้พวกเขาดูเอกสารหลักฐานกันไปเขาวางแผนมานานหลายวัน ตอนนี้ถึงเวลาเก็บเกี่ยวผลแล้วมิเช่นนั้น คนเหล่านี้อาจคิดว่าเขารังแกได้ง่าย ๆครึ่งชั่วยามต่อมา มหาราชครูก็ถูกเชิญตัวมาเมื่อเขามาถึง ทุกคนก็ตกตะลึงไปทันทีเพราะเขาเปลี่ยนไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง ใบหน้าซีดเซียว ผมหงอกขาวไปกว่าครึ่งศีรษะ ดูเหมือนแก่ลงไปสิบกว่าปีจิ่งโม่เยี่ยเห็นสภาพของเขาก็รู้สึกประหลาดใจ เพราะเขาแค่สั่งให้คนล้อ

    Last Updated : 2024-11-24
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 812

    หลังจากที่มหาราชครูพูดจบ เขาก็คิดว่าทุกคนจะต้องเข้าข้างเขาและประณามจิ่งโม่เยี่ยแต่สิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น ทุกคนกลับมองเขาด้วยสายตาแปลกๆมหาราชครูไม่เข้าใจว่าทำไมพวกเขาถึงมองเขาแบบนั้นจิ่งโม่เยี่ยพูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆ ว่า “ข้าไม่เคยคิดที่จะตัดรากถอนโคนพวกเจ้าเลย และก็ไม่เคยคิดที่จะใช้อำนาจลงโทษเป็นการส่วนตัวด้วย”“วันนี้ที่เชิญมหาราชครูมา ก็ไม่ได้ต้องการจะไต่สวนคดีเป็นการส่วนตัว แต่ต้องการให้มหาราชครูมาดูบางสิ่ง”พูดจบ เขาก็ให้คนนำม้วนเอกสารเหล่านั้นมาวางไว้ตรงหน้ามหาราชครูหลังจากที่มหาราชครูเห็นสิ่งเหล่านั้น สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปอย่างมาก และพยายามที่จะทำลายสิ่งเหล่านั้นเขาคิดว่าพระสนมสวี่คงจะรู้อะไรบางอย่างเกี่ยวกับจวนมหาราชครู แต่กลับไม่คิดว่านางจะรู้มากขนาดนี้สิ่งเหล่านี้เพียงพอที่จะทำให้มหาราชครูเสียชื่อเสียงได้!จิ่งโม่เยี่ยไม่ได้ห้ามมหาราชครู เพียงเอ่ยว่า “ข้าให้คนคัดลอกสิ่งเหล่านี้ไว้หลายชุดแล้ว ต่อให้มหาราชครูฉีกชุดนี้ไปก็ไม่เป็นไร”มหาราชครู “......”มหาราชครู “!!!!!”เขาไม่คิดจริงๆ ว่าจิ่งโม่เยี่ยจะทำเรื่องพวกนี้ได้มากมายภายในเวลาสั้นๆ เช่นนี้มีคนอดไม่ไ

    Last Updated : 2024-11-24
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 813

    จิ่งโม่เยี่ยเอ่ยเสียงเรียบว่า “ถึงแม้ข้าจะเป็นอ๋องผู้สำเร็จราชการ แต่ข้าก็ไม่ได้ดูแลเรื่องการไต่สวนลงทัณฑ์”“เรื่องการพิจารณาคดี ควรให้ผู้เชี่ยวชาญมาทำดีกว่า จะได้ไม่มีใครกล่าวหาว่าข้าลำเอียง”“เอาล่ะ ไปเชิญขุนนางผู้ดูแลกระทรวงยุติธรรมทั้งสามมา”คำพูดที่ตรงไปตรงมาของเขา ทำให้คนที่ยังแคลงใจในตัวเขาคลายความสงสัยจนหมดสิ้นการพิจารณาคดีร่วมกันของทั้งสามกระทรวงแบบนี้ ถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ราชวงศ์ท่านมหาราชครูมองเห็นผู้คนที่กำลังซุบซิบนินทาตัวเองรอบด้าน ก็รู้สึกทนไม่ไหวอีกต่อไปดวงตาของเขามืดลงเหมือนจะหมดสติ แต่จิ่งโม่เยี่ยก็เข้ามาประคองไว้ได้ทันจิ่งโม่เยี่ยหันไปบอกหมอหลวงที่รออยู่ข้างๆ ว่า “ท่านมหาราชครูอายุมากแล้ว ทนรับความกดดันไม่ไหว”“เจ้าดูแลเขาหน่อย อย่าให้เขาเป็นลมหรือหัวใจวายตายเพราะความอับอาย”หมอหลวงมองท่านมหาราชครูแวบหนึ่งแล้วตอบว่า “พ่ะย่ะค่ะ”คนที่ซูโหย่วเหลียงส่งมาปะปนอยู่ในกลุ่มคน พอเห็นภาพนี้ก็รู้ว่าสถานการณ์ไม่ดีแล้วเดิมทีพวกเขาเป็นกลุ่มคนที่ส่งเสียงดังที่สุดในฝูงชน ตอนที่จิ่งโม่เยี่ยเปิดเผยหลักฐานมัดตัวของท่านมหาราชครู พวกเขาก็ถึงกับอึ้งไปเลยซูโหย่วเ

    Last Updated : 2024-11-25
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 814

    จิ่งโม่เยี่ยพูดกับรองเจ้ากรมราชทัณฑ์ว่า “เอาล่ะ โจทก์มาแล้ว เริ่มพิจารณาคดีได้”รองเจ้ากรมราชทัณฑ์รับคำ แล้วเริ่มพิจารณาคดีแท้จริงแล้วคดีนี้ไม่มีอะไรต้องพิจารณามาก เพราะหลักฐานมัดแน่น มีทั้งพยานบุคคลและพยานวัตถุครบถ้วน ปฏิเสธไม่ได้เมื่อมหาราชครูเห็นคนเหล่านั้นพากันออกมา เขาก็รู้ว่าเรื่องคราวนี้จบสิ้นแล้วแต่มาถึงตอนนี้ เขาก็ไม่สามารถนั่งรอความตายได้ตอนที่คนเหล่านั้นกล่าวหาเขา เขาน้ำตาไหลพรากพูดว่า “ทั้งหมดเป็นความผิดของข้าที่ดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาไม่ดี จึงทำให้พวกเขาสร้างเรื่องเลวร้ายเช่นนี้”เรื่องเหล่านี้ไม่ใช่เขาที่เป็นคนลงมือทำเอง แต่เป็นการสั่งให้คนสนิทไปทำในตอนนี้ เขาโยนความผิดให้ลูกชายหรือคนสนิท ฟังดูก็ไม่น่าสงสัยอะไรมากแต่การกระทำแบบนี้ ในสายตาของทุกคนมันช่างเสแสร้งและน่ารังเกียจทุกคนมองสีหน้าของมหาราชครูที่เปลี่ยนไปหลายครั้งมหาราชครูในตอนนี้ไม่เพียงแต่ตกจากแท่นบูชาเท่านั้น แต่ยังถูกคนถ่มน้ำลายรดหน้าอีกด้วยมหาราชครูเคยได้รับสายตาแบบนี้ที่ไหนกัน?ในใจเขารู้สึกอึดอัดมาก แต่พร่ำบอกกับตัวเองว่า ตราบใดที่เขายังมีชีวิตอยู่ ก็ยังมีโอกาสรักษาเกียรติยศของวงศ์ตระกูลไว้

    Last Updated : 2024-11-25
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 815

    ซูโหย่วเหลียงชอบฟังคำพูดแบบนี้เขาถามว่า “คนของเราที่ส่งไปเฝ้าหน้าจวนอ๋องผู้สำเร็จราชการมีข่าวอะไรส่งกลับมาบ้างไหม”ผู้ดูแลส่ายหน้า “ยังไม่มีขอรับ แต่ดูจากสถานการณ์แล้ว พวกเขาน่าจะยังยุยงปลุกปั่นอยู่ที่นั่น”“ข้าน้อยคาดว่าที่นั่นคงวุ่นวายไปหมดแล้ว อ๋องผู้สำเร็จราชการถึงได้ลงมืออย่างเด็ดขาด”ซูโหย่วเหลียงรู้สึกว่าคำพูดของผู้ดูแลมีเหตุผลในสถานการณ์เช่นนี้ พวกเขาสามารถเติมฟืนใสไฟได้อีกสักหน่อย แล้วจิ่งโม่เยี่ยก็จะกลายเป็นคนที่ใครๆ ต่างรุมประณาม ตำแหน่งอ๋องผู้สำเร็จราชการก็จะไม่มั่นคงซูโหย่วเหลียงครุ่นคิดสักพักแล้วพูดว่า “ข้าตัดสินใจจะไปที่นั่นด้วยตัวเอง”ผู้ดูแลเอ่ยด้วยความกังวล “นายท่านเดินทางไปเอง จะอันตรายหรือไม่ขอรับ”ซูโหย่วเหลียงพูดอย่างใจเย็น “เป็นแบบนี้แล้ว จะมีอันตรายอะไรได้”เขาพูดจบ ดวงตาก็ทอประกายเย็นชา “ยิ่งไปกว่านั้น ต้องเสี่ยงอันตรายจึงจะได้โชคลาภ”ผู้ดูแลได้ยินคำนี้ก็รู้สึกว่ามีเหตุผล จึงพูดว่า “ข้าน้อยจะไปกับนายท่านด้วยขอรับ”ซูโหย่วเหลียงพยักหน้าทั้งสองคนเตรียมตัวเสร็จแล้วก็ไปที่จวนอ๋องผู้สำเร็จราชการตอนที่พวกเขามาถึง ก็ได้ยินเสียงร้องไห้ดังระงมซูโหย่ว

    Last Updated : 2024-11-25
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 816

    ซูโหย่วเหลียงตะโกนเสียงดังว่า “ท่านมหาราชครูเป็นผู้ทรงคุณธรรมสูงส่ง เป็นที่ประจักษ์แก่สายตาของทุกคน”“อ๋องผู้สำเร็จราชการทรงถามเช่นนี้ ควรจะถามบัณฑิตทั่วหล้าว่าเห็นด้วยหรือไม่!”จิ่งโม่เยี่ยยิ้มแล้วหันไปถามขุนนางทั้งหลายที่ยืนอยู่ว่า “พวกท่านคิดว่าท่านมหาราชครูเป็นผู้ทรงคุณธรรมสูงส่งหรือไม่?”สีหน้าของทุกคนดูไม่สู้ดี ไม่มีใครพูดอะไรก่อนวันนี้ พวกเขาคิดว่าท่านมหาราชครูเป็นผู้ทรงคุณธรรมสูงส่งจริงๆแต่วันนี้ พวกเขารู้สึกว่าตัวเองถูกหลอกให้หลงเชื่ออย่างน่าอนาถอู่อิ้งเหวินเห็นดังนั้นจึงก้าวออกมาพูดว่า “ท่านมหาราชครูหลอกลวงผู้คนในใต้หล้า เป็นคนหน้าไหว้หลังหลอก”“เขาไม่คู่ควรเป็นพ่อคน และไม่คู่ควรเป็นอาจารย์ด้วย!”ซูโหย่วเหลียงได้ยินดังนั้นก็โกรธมาก “พูดจาเหลวไหล!”“ท่านมหาราชครูเป็นอาจารย์ของฮ่องเต้ พวกเจ้าเป็นแค่ชนชั้นต่ำ จะมาวิจารณ์ท่านได้อย่างไร?”อู่อิงเหวินหัวเราะเยาะ “พวกเราเป็นแค่ชาวบ้านธรรมดา ไม่มีอำนาจ ไม่มีวาสนา ใช้ชีวิตแบบคนทั่วไป”“แต่เพราะพวกเราชาวบ้านนี่แหละ ที่ทำนาเสียภาษีเลี้ยงดูขุนนางในราชสำนัก พวกท่านถึงได้กินดีอยู่ดี”“ดังนั้นพวกเราไม่ใช่ชนชั้นต่ำ พวกเราคือชา

    Last Updated : 2024-11-25
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 817

    องครักษ์ของซูโหย่วเหลียงต้องการเข้ามาช่วย แต่พวกเขายังไม่ทันขยับ ก็ถูกคนของจิ่งโม่เยี่ยจับตัวไว้ก่อนซูโหย่วเหลียงตวาดลั่น “หยุดนะ!”หลางซานไม่สนใจคำพูดของเขา เตะเข้าที่ขาพับของซูโหย่วเหลียงจนล้มลงกับพื้นจิ่งโม่เยี่ยมองลงมาจากที่สูง “คนชั้นต่ำอย่างเจ้า พูดด้วยก็มีแต่จะทำให้ปากของข้าสกปรก”“ฉินจื๋อเจี้ยน เจ้ามาประกาศความผิดของซูโหย่วเหลียง”ฉินจื๋อเจี้ยนกล่าวเสียงดัง “ในเดือนเจ็ด รัชศกเจาหยวนที่ห้า ซูโหย่วเหลียงสมคบคิดกับศัตรูภายนอก ปล้นร้านปักผ้าที่เจียงหนาน ฆ่าช่างปักผ้าหนึ่งร้อยสามสิบหกคน”“ในเดือนสาม รัชศกเจาหยวนที่หก ซูโหย่วเหลียงนำคนไปเผาค่ายทหาร ฆ่าชาวบ้านธรรมดากว่าสองร้อยคน และปล้นยาสมุนไพรล้ำค่าไปกว่าหมื่นจิน”“ในเดือนเก้า รัชศกเจาหยวนที่เจ็ด ซูโหย่วเหลียงร่วมมือกับคนอื่นเปลี่ยนข้าวชั้นดีเป็นข้าวขึ้นรา ทำให้ทหารนับไม่ถ้วนท้องเสีย เป็นเหตุให้แพ้สงครามที่ด่านเฉิงเหลียง”“……”สีหน้าของซูโหย่วเหลียงดูน่าเกลียดมากเขาไม่คิดว่าจิ่งโม่เยี่ยจะสืบเรื่องทั้งหมดของเขาได้!เขาคิดว่าเรื่องพวกนี้เขาทำอย่างลับๆ ไม่มีใครรู้แต่เขาไม่รู้ว่าเรื่องพวกนี้ไม่สามารถปิดบังจิ่งโม่เยี่ยได้

    Last Updated : 2024-11-26

Latest chapter

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 962

    ให้เฟิ่งชูอิ่งเอ่ยชมเจ้าอาวาสน่ะเป็นไปไม่ได้หรอก นางจึงพับแขนเสื้อขึ้นทันทีเจ้าอาวาสรีบวิ่งไปข้างๆ จิ่งโม่เยี่ย แล้วพูดว่า “ท่านอ๋อง ภรรยาท่านดุร้ายชะมัด กับสหายของท่านนางยังกล้าทำถึงเพียงนี้ ระวังนางจะเหิมเกริมจนท่านปราบไม่อยู่นะ!”จิ่งโม่เยี่ยถามเฟิ่งชูอิ่ง “ให้ข้าช่วยซัดเขาสักทีสองทีไหม?”เจ้าอาวาส “......”เขาลืมไปเลยว่าสองสามีภรรยาคู่นี้มันพวกเดียวกัน!เฟิ่งชูอิ่งหัวเราะลั่น “จัดการเลย!”เจ้าอาวาสยกมือขึ้นทั้งสองข้าง “อย่าเพิ่งๆ ข้ายอมบอกก็ได้!”เดิมทีเขาแค่จะล้อเล่นกับพวกเขาสักหน่อย แต่เรื่องดันกลายเป็นแบบนี้ไปได้!เฟิ่งชูอิ่งมองเขาแล้วพูดว่า “เจ้านี่มันหาเรื่องใส่ตัวเก่งจริงๆ”“บอกมาสิ วิธีดีๆ ของเจ้าคืออะไร?”เจ้าอาวาสตอบว่า “วัดของข้ากับอารามเทียนอี้เคยประลองวิชากันมาหลายปี ดังนั้นเราจึงรู้จักลึกตื้นหนาบางกันดี”“พอเวลาผ่านไปนานวันเข้า ก็ย่อมรู้ความลับของอีกฝ่ายบ้าง”ในโลกนี้ คนที่รู้จักเราดีที่สุดไม่ใช่สหาย แต่เป็นศัตรูบางความลับสหายอาจไม่รู้ แต่ศัตรูจะรู้แน่นอนเฟิ่งชูอิ่งถาม “อารามเทียนอี้มีความลับอะไร?”เจ้าอาวาสยิ้มอย่างลึกลับ “ข้ารู้ทางลัดไปยังวิหารใหญ่ข

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 961

    ระยะเวลาเพียงไม่กี่เดือน อารามเทียนอี้ก็ไม่ใช่อารามเทียนอี้ที่หยิ่งผยองเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้วเฟิ่งชูอิ่งเคยมาที่นี่เมื่อครั้งก่อน ได้สั่งสอนเจ้าสำนักและเหล่าผู้อาวุโสไปรอบหนึ่ง ครั้งนี้นางคิดว่าไหนๆ ก็มาแล้ว ทำไมไม่สั่งสอนพวกเขาอีกสักรอบล่ะองครักษ์ข้างกายจิ่งโม่เยี่ยเคาะประตูใหญ่ของอารามเทียนอี้อยู่นาน แต่ก็ไม่มีใครมาเปิดประตู หรือแม้แต่จะชะโงกหน้าออกมาดูด้วยซ้ำเหล่าองครักษ์พยายามจะงัดประตูออก แต่กลับพบว่าประตูบานนี้เปิดไม่ได้เลยเฟิ่งชูอิ่งรู้ว่านี่เป็นเพราะค่ายกลพิทักษ์ขุนเขาถูกเปิดใช้งาน มีเพียงคนข้างในเท่านั้นที่สามารถเปิดประตูได้ คนข้างนอกเข้าบุกรุกเข้าไปไม่ได้ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ พวกเขาไม่สามารถบุกเข้าไปจากที่อื่นได้ เพราะหากบุกเข้าไป อาจจะไปโดนกับดักและทำให้เกิดการบาดเจ็บล้มตายเป็นจำนวนมากเหมยตงยวนยืนอยู่ใต้ประตูทางเข้ากับเฟิ่งชูอิ่งและจิ่งโม่เยี่ย กล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยว่า “เดิมทีอารามเทียนอี้เป็นสาขาหนึ่งของสำนักลี้ลับ”“เนื่องจากอยู่ใกล้กับเมืองหลวงมาก ที่นี่จึงเคยมีนักพรตผู้ยิ่งใหญ่ในอดีตของสำนักลี้ลับ มาติดตั้งเขตอาคมขั้นสูงไว้”“เขตอาคมนี้ไม่เพียงแต่สามาร

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 960

    จิ่งสือเยี่ยน “......”เขารู้สึกว่าคำพูดของนางแทงใจดำจริงๆเขาอดไม่ได้ที่จะพูดว่า "วรยุทธ์ของข้าก็ไม่ได้ด้อยกว่าเขามากกระมัง?"จิ้งจอกสือซานเหนียงหัวเราะเยาะ "ไม่ เจ้าด้อยกว่าเขามาก!""เจ้าต่อกรกับข้ายังไม่ถึงสิบกระบวนท่า แต่เขากลับเกือบฆ่าข้าได้""เขายังมียันต์วิเศษที่ร้ายกาจอีก เกือบจะฆ่าข้าตายอยู่แล้ว"จิ่งสือเยี่ยนเข้าใจในทันทีว่าบาดแผลบนตัวนางมาจากไหนเขาพูดเบาๆ "สตรีที่จิ่งโม่เยี่ยชอบเชี่ยวชาญศาสตร์ลี้ลับ ยันต์ที่ฟาดเจ้าคงเป็นของที่นางมอบให้จิ่งโม่เยี่ย"ดวงตาของจิ้งจอกสือซานเหนียงฉายแววสนใจ "จริงหรือ? มีสตรีที่เชี่ยวชาญศาสตร์ลี้ลับด้วยหรือ? น่าสนใจจริงๆ!"หลังจากพูดจบนางก็มองจิ่งสือเยี่ยนหัวจรดเท้าแล้วคลี่ยิ้ม "ดูจากสภาพเจ้าแล้วก็คงโดนศาสตร์ลี้ลับเล่นงานมาเหมือนกัน""มิฉะนั้น ด้วยพลังมังกรของเจ้า ข้าคงทำอะไรเจ้าไม่ได้ง่ายๆ และไม่มีทางหยุดเจ้าได้ด้วย"จิ่งสือเยี่ยนรู้สึกถึงอันตรายในทันที เขาเอ่ยถาม "หมายความว่าอย่างไร?"เมื่อเห็นท่าทางของเขา จิ้งจอกสือซานเหนียงก็หัวเราะออกมา เอื้อมมือไปบีบหน้าเขาเบาๆ แล้วพูดว่า "อ้าว โกรธแล้วหรือ?""ดูเหมือนเจ้าจะชอบสตรีผู้นั้นจริงๆ!

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 959

    จิ้งจอกสือซานเหนียงรู้สึกว่าแค่จิ่งสือเยี่ยนคนเดียวคงไม่พอ นางกลัวว่าถ้าดูดพลังเขาอีกสักสองสามครั้ง เขาคงเหี่ยวแห้งตายไปแน่ดังนั้นนางจึงคิดว่าควรจะลองเสี่ยงดูสักหน่อย เพราะตอนที่นางจับเขาได้ เขากำลังหลบหนีอยู่จริงๆ เรื่องนี้เขาไม่ได้โกหกนางหลังจากคิดทบทวนอยู่สักพัก นางจึงออกไปจับตัวจิ่งโม่เยี่ย แต่ดันกลายเป็นว่าไปเตะโดนแผ่นเหล็กเสียได้จิ้งจอกสือซานเหนียงบาดเจ็บหนัก จึงเอาความโกรธทั้งหมดไประบายกับจิ่งสือเยี่ยนนางไม่พูดพร่ำทำเพลง พุ่งถลาเข้าไปและกดจิ่งสือเยี่ยนให้อยู่ใต้ร่างจิ่งสือเยี่ยน “......”ความรู้สึกอับอายมันช่างหนักหนาสาหัส!เขาโกรธจนตัวสั่น แต่ก็ขัดขืนอะไรไม่ได้จิ้งจอกสือซานเหนียงใช้วิชากับเขา เขาจึงไม่สามารถหลุดพ้นจากการควบคุมของนางได้สิ่งที่น่ากลัวที่สุดไม่ใช่เรื่องนี้ แต่เป็นเรื่องที่เขาไม่สามารถควบคุมร่างกายของตัวเองได้เลย ร่างกายของเขาตอบสนองอย่างรวดเร็วเดิมทีจิ้งจอกสือซานเหนียงบาดเจ็บสาหัส ตอนนี้จิ่งสือเยี่ยนเป็นเหมือนยาบำรุงชั้นดีสำหรับนางนางในยามนี้จึงไม่คิดจะเกรงใจเขาแม้แต่น้อย ราวกับต้องการจับเขากลืนลงท้องไปทั้งตัวครั้งนี้ต่างจากสองสามครั้งก่อนโดย

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 958

    เฟิ่งชูอิ่งคิดว่านี่คือการมองข้ามสิ่งที่อยู่ใกล้ตัวทุกคนรู้ว่าสถานที่อย่างอารามเต๋าหรือวัดพุทธเป็นเหมือนสิ่งต้องห้ามสำหรับภูตผีปีศาจ ปกติแล้วพวกมันไม่กล้าเข้าใกล้สถานที่แบบนี้แต่จิ้งจอกสือซานเหนียงไม่ใช่ปีศาจทั่วไป นางเป็นปีศาจที่แม้แต่พลังมังกรก็ยังกล้าดูดกลืนในสถานการณ์เช่นนี้ นางจะหนีไปซ่อนตัวที่อารามเทียนอี้ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกเฟิ่งชูอิ่งจึงกล่าวว่า "แม้ค่ายกลพิทักษ์ขุนเขาของอารามเทียนอี้จะแข็งแกร่งมาก แต่มันอาจจะใช้ไม่ได้ผลกับจิ้งจอกสือซานเหนียง""ทหารองครักษ์ค้นหาทั่วภูเขาใกล้เคียงแล้วแต่ก็ยังไม่พบ ถ้าอย่างนั้นก็ลองไปค้นหาอารามเทียนอี้ดูเถอะ"จิ่งโม่เยี่ยเห็นด้วยกับความคิดของนาง จึงให้ทหารองครักษ์ไปค้นหาที่อารามเทียนอี้แต่ทหารองครักษ์กลับมาอย่างรวดเร็วและรายงานว่าค่ายกลพิทักษ์ขุนเขาของอารามเทียนอี้ถูกเปิดใช้งานแล้ว พวกเขาเข้าไปไม่ได้ทั้งจิ่งโม่เยี่ยและเฟิ่งชูอิ่งเคยเห็นพลังค่ายกลพิทักษ์ขุนเขาของอารามเทียนอี้มาแล้ว ตอนนั้นถ้าจิ่งโม่เยี่ยมาช่วยไม่ทันเวลา เฟิ่งชูอิ่งคงโดนยิงจนพรุนเป็นรังผึ้งไปแล้วเฟิ่งชูอิ่งถามด้วยความสงสัยว่า "ปกติค่ายกลพิทักษ์ขุนเขาของอารามเทียนอี้จะ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 957

    จิ่งโม่เยี่ยรู้สึกจากใจจริงว่าวิชาของเฟิ่งชูอิ่งนั้นลึกลับเกินคาด แถมยังแสดงออกมาในรูปแบบที่เหนือความคาดหมายของเขาอีกด้วยมีนางคอยช่วยเหลือ เขาก็ผ่อนคลายสบายใจขึ้นมากในสถานการณ์เช่นนี้ จิ่งโม่เยี่ยคิดว่าแผนการทั้งสองสามารถดำเนินการพร้อมกันได้ให้หลางซานและฉินจื๋อเจี้ยนไปปราบปรามทหารที่จิ่งสือเยี่ยนส่งมา ส่วนจิ่งโม่เยี่ยจะไปตามหาจิ้งจอกสือซานเหนียงกับเฟิ่งชูอิ่งองครักษ์ที่จิ่งสือเยี่ยนพามาล้วนถูกจิ่งโม่เยี่ยจัดการเรียบร้อยแล้ว พวกเขาถูกส่งตัวไปที่คุกของกรมราชทัณฑ์ทั้งหมดหลังจากเฟิ่งชูอิ่งได้รับข่าวที่จิ่งโม่เยี่ยส่งมา นางก็รีบเดินทางมาพร้อมกับเหมยตงยวนทันทีเมื่อเหมยตงยวนมาถึง เขาก็ร่ายคาถาสำรวจบรรยากาศรอบๆ แล้วพยักหน้าว่า “เป็นสือซานเหนียง”เฟิ่งชูอิ่งยิ้ม “เหมือนกับงมเข็มในมหาสมุทรมาตลอด พอมาวันนี้กลับได้พบโดยไม่ต้องออกแรง”“พวกเราตามหาสือซานเหนียงมานานแต่ไม่เห็นวี่แวว ไม่คิดว่าจะได้เบาะแสในเวลาแบบนี้”เหมยตงยวนมองสำรวจไปรอบๆ “ครั้งก่อนนางโดนปู่เยี่ยโหวทำร้ายจนอาการสาหัส ในเวลาสั้นๆ แบบนี้ร่างกายนางคงยังไม่หายดี”“นางปรากฏตัวออกมาในเวลาแบบนี้ คงเพราะอยากจะรักษาอาการบาดเจ็

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 956

    ทันทีที่หลางซานเห็นจิ่งโม่เยี่ยก็รีบตรงเข้ามาสอบถามว่า “ท่านอ๋อง เกิดอะไรขึ้นหรือพ่ะย่ะค่ะ?”จิ่งโม่เยี่ยตอบว่า “ไม่มีอะไรหรอก พวกเราแค่เจอปีศาจจิ้งจอกเท่านั้นเอง”หลางซาน “......”เรื่องปีศาจแต่ก่อนมีอยู่แค่ในนิทานปรัมปราและตำนานพื้นบ้าน ไม่คิดเลยว่าครั้งนี้พวกเขาจะได้พบเจอกับของจริงหลางซานมองจิ่งโม่เยี่ยด้วยสีหน้าแปลกๆ จิ่งโม่เยี่ยจึงถามว่า “มองข้าด้วยสายตาแบบนั้นทำไม?”หลางซานทำท่าเหมือนอยากพูดแต่ก็ไม่กล้า จิ่งโม่เยี่ยจึงจ้องอีกฝ่ายเขม็ง หลางซานจึงเอ่ยว่า “เมื่อครู่นี้ ท่านอ๋องควบคุมตัวเองได้หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”จิ่งโม่เยี่ย “......”นี่มันคำถามอะไรกัน?หลางซานสบตากับแววตาดุดันของเขา แล้วแข็งใจกล่าวต่อว่า “ข้า... ข้าน้อยได้ยินมาว่าปีศาจจิ้งจอกเก่งกาจเรื่องมารยาสตรีมากที่สุด”“ไม่มีผู้ชายคนไหนที่เจอปีศาจจิ้งจอกแล้วจะรอดกลับมาได้ ท่านอ๋องเพิ่งจะปรับความเข้าใจกับพระชายา ถ้าหากว่า...”เขายังพูดไม่จบ จิ่งโม่เยี่ยก็เอามือวางบนด้ามกระบี่ เขาจึงรีบเปลี่ยนคำพูดแบบทันควัน “แต่ท่านอ๋องไม่ใช่บุรุษธรรมดา”“หัวใจของท่านอ๋องมีไว้เพื่อพระชายาเท่านั้น ไม่มีใครแทนที่ได้”“อย่าว่าแต่ปีศาจจิ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 955

    จิ้งจอกสือซานเหนียงเป็นปีศาจไม่ใช่มนุษย์ นางจึงไม่ได้ใส่ใจศีลธรรมมากมายนัก ไม่รู้สึกว่าการที่นางดูดพลังมังกรจากคนอื่นเป็นเรื่องผิดแล้วนางก็ไม่ได้รู้สึกเกรงกลัวฮ่องเต้ของพวกมนุษย์แม้แต่น้อยก็แค่ผู้ชายที่มีตาสองข้างปากหนึ่งปาก ถอดเสื้อผ้าจับโยนลงบนเตียงก็เหมือนกันหมดนิสัยนางค่อนข้างจะบิดเบี้ยว ก่อนจะเปิดฉากสู้กับจิ่งโม่เยี่ย นางไม่ได้มุ่งมั่นว่าจะต้องจับเขามานอนด้วยให้ได้แต่ถ้ามีโอกาสได้ก็ต้องคว้าเอาไว้ เพราะสำหรับนางเขาคือยาบำรุงชั้นดีหลังจากสู้กับจิ่งโม่เยี่ยแล้ว นางก็รู้สึกว่าต้องได้ผู้ชายคนนี้มาครอบครองให้ได้!ดังนั้นตอนที่นางลงมือจึงยิ่งบ้าคลั่ง อยากจะกดจิ่งโม่เยี่ยลงใต้ร่างแล้วสูบพลังให้สาสมใจทันทีนางเพิ่มพลังขึ้นจนถึงขีดสุด พุ่งเข้าใส่เขาอย่างบ้าคลั่งเพราะนางบำเพ็ญเพียรมานานหลายปี ในตอนที่บันดาลโทสะ วิชาหลากหลายแขนงก็ถูกปลดปล่อยออกมาพร้อมกันต่อให้จิ่งโม่เยี่ยจะเก่งกาจขนาดไหน พอต้องเจอกับการโจมตีที่ไม่ใช่ทางกายภาพ เขาไม่มีทางรับมือได้อยู่แล้วไม่นานเขาก็ตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ ถูกจิ้งจอกสือซานเหนียงใช้ผ้าแพรขาวมัดจนขยับเขยื้อนไม่ได้จิ้งจอกสือซานเหนียงหอบหายใจขณะเอา

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 954

    พอทหารองครักษ์คนนั้นพูดจบ หมอกขาวก็ยิ่งรวมตัวกันรวดเร็วยิ่งขึ้นจิ่งโม่เยี่ยขมวดคิ้ว เพราะเขารู้ว่าคำพูดของทหารองครักษ์เป็นความจริงเขาจ้องมองหมอกที่หนาขึ้นเรื่อยๆ อย่างเย็นชา ร่างกายนิ่งสงบเหมือนภูเขาหมอกขาวกลืนกินทหารองครักษ์ที่อยู่ข้างๆ เขา ทำให้ทุกคนหายวับไปโดยไม่มีแม้แต่เสียงร้องโวยวายหลังจากที่จิ่งโม่เยี่ยอยู่กับเฟิ่งชูอิ่ง เขาก็มีความรู้ใหม่เกี่ยวกับวิชาของพวกศาสตร์ลี้ลับทั้งหลายในความคิดของเขา แม้ว่านี่จะไม่ใช่วิชาของสำนักลี้ลับ แต่มันก็อาจจะคล้ายคลึงกันหลายส่วนเสียงหัวเราะของผู้หญิงดังมาจากรอบๆ ผู้ชายทั่วไปได้ยินแล้วคงเผลอหลงใหล แต่เขาฟังแล้วรู้สึกรำคาญ เพราะนั่นไม่ใช่เสียงของเฟิ่งชูอิ่งในใจของจิ่งโม่เยี่ย ผู้หญิงในโลกนี้แบ่งออกเป็นสองประเภท ประเภทแรกคือเฟิ่งชูอิ่ง และอีกประเภทหนึ่งคือผู้หญิงคนอื่นเขาใช้ความพยายามอย่างมากเพื่อทำให้เฟิ่งชูอิ่งยอมตกลงปลงใจแต่งงานกับเขาตอนนี้ดันมีปีศาจที่ไหนไม่รู้มาเกี้ยวพาเขาแบบนี้ ถ้าเฟิ่งชูอิ่งรู้เรื่องนี้เข้า คงจะต้องโกรธมากแน่ๆจิ่งโม่เยี่ยมองไม่เห็นอะไรเลยในม่านหมอกหนา เขาจึงหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาพับแล้วมัดปิดตาตัวเองพริบตา

DMCA.com Protection Status