แชร์

บทที่ 793

ผู้เขียน: ดอกถังร่วงหล่น
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-20 18:00:01
เขารู้สึกรังเกียจจิ่งสือเฟิงมาก จึงพูดว่า "เจ้าตายไปแล้ว ไปกินที่อื่นไม่ได้หรือไง?"

พอเขาพูดจบ เฉี่ยวหลิงกับเหมยตงยวนก็หันมามองเขาพร้อมกัน

เขารู้สึกอึดอัดจึงพูดว่า "ข้าไม่ได้พูดถึงพวกเจ้านะ ข้าพูดถึงเขาต่างหาก!"

หลังจากจิ่งสือเฟิงตายไปก็หน้าด้านขึ้นไม่น้อย "จะให้ข้าไปกินที่อื่นก็ได้ แต่เจ้าช่วยแบ่งอาหารทุกจานให้ข้ากินบ้างได้ไหม?"

ปู๋เยี่ยโหวจ้องเขา "อย่าได้ใจให้มากนักเลย! ยังคิดจะกินอาหารทุกอย่างอีก กลับลงนรกไปเลยนะ!"

พูดจบก็ยิ้มหวานให้เหมยตงยวน "ลุงเหมย ข้าแบ่งอาหารทุกจานให้แล้วนะขอรับ ถ้ารู้สึกว่ายังไม่พอ ข้าจะสั่งให้พ่อครัวทำเพิ่มอีก"

จิ่งสือเฟิงพูดอย่างน้อยใจ "เจ้าเลือกปฏิบัติเกินไปแล้วนะ!"

ปู๋เยี่ยโหวพูดอย่างหน้าด้านๆ "เจ้าเป็นศัตรูของข้า อีกอย่างก็ตายไปแล้วด้วย ข้าไม่อยากมีเรื่องกับเจ้าหรอก"

"ถ้าข้าใจแคบกว่านี้นิดหน่อย ก็คงให้ชูชูกับลุงเหมยสลายวิญญาณเจ้าไปแล้ว"

เฟิ่งชูอิ่งปล่อยให้พวกเขาทะเลาะกัน ส่วนนางก็ช่วยจัดอาหารให้เฉี่ยวหลิงกับเหมยตงยวนเรียบร้อยแล้ว

คนในจวนแห่งนี้ปกติจะอยู่กันเงียบมาก แต่พอปู๋เยี่ยโหวกลับมา จวนแห่งนี้ก็กลับมาคึกคัก

นางรู้สึกว่าปู๋เยี่ยโหวบางครั้งถ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 794

    จิ่งโม่เยี่ยยืนสงบนิ่งต่อข้อกล่าวหาของปู๋เยี่ยโหวและถามว่า "เดี๋ยวจะร่วมเล่นด้วยกันไหม?"ปู๋เยี่ยโหว "...เอาสิ!"จิ่งโม่เยี่ยมองปู๋เยี่ยโหวด้วยสายตาเหมือนมองคนโง่ ในดวงตาเต็มไปด้วยความดูแคลนปู๋เยี่ยโหวไม่สนใจเขาอีกต่อไป เขาผละออกไปหาเฟิ่งชูอิ่งกับเฉี่ยวหลิงเพื่อจุดดอกไม้ไฟด้วยกันเฉี่ยวหลิงเป็นวิญญาณร้าย กลัวไฟมาก ได้แต่ถือไม้ยาวๆ เพื่อไปจุดไฟแต่คืนนี้ลมแรง ไม้ที่จุดไฟไว้จึงดับเพราะถูกลมพัดในไม่ช้าทุกครั้งที่ไฟบนไม้ยาวมอดดับ นางก็ต้องขอให้คนอื่นช่วยจุดไฟให้ใหม่แม้ว่าอาการบาดเจ็บที่ขาของเฟิ่งชูอิ่งจะดีขึ้นเกือบหมดแล้ว แต่ก็ยังไม่หายสนิท การลุกนั่งย่อตัวบ่อยๆ ทำให้นางรู้สึกเหนื่อยนางจึงบอกกับปู๋เยี่ยโหวว่า "เจ้าไปช่วยจุดไฟให้เฉี่ยวหลิงทีสิ"ปู๋เยี่ยโหวไม่มีปัญหากับเรื่องนี้ แม้ว่าเฉี่ยวหลิงมักจะทุบตีเขาก่อนหน้านี้ แต่หลังจากที่เฟิ่งชูอิ่งย้ายมาอยู่ที่เรือนพัก ความสัมพันธ์ของทั้งสองก็ดีขึ้นมากเมื่อปู๋เยี่ยโหวรู้ว่าเฉี่ยวหลิงตายอย่างน่าเวทนา เขาก็รู้สึกเห็นใจนางมากขึ้นตอนนี้นางต้องการจุดดอกไม้ไฟ การช่วยจุดไฟให้นางก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรปู๋เยี่ยโหวมีฝีมือดี ตั้งแต่เด็กเขา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-20
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 795

    จิ่งโม่เยี่ยถามนาง "แล้วความรู้สึกแรกของเจ้าที่มีต่อข้าเป็นอย่างไร?"เฟิ่งชูอิ่งมองเขาด้วยหางตาพลางพูดว่า "อารมณ์แปรปรวน โหดร้าย ฆ่าคนไม่เลือกหน้า ถ้าเป็นไปได้ก็ไม่อยากเจอกันอีกเลย"จิ่งโม่เยี่ย “......”เขารู้สึกว่าไม่ควรถามคำถามนี้กับนางเลย คำตอบที่ได้ยินช่างแย่เหลือเกินเฟิ่งชูอิ่งเห็นสีหน้าของเขาแล้วจึงยิ้มพลางเอ่ยว่า "ตอนนั้นท่านอ๋องก็แสดงภาพลักษณ์แบบนั้นต่อหน้าผู้คนไม่ใช่หรือ? ยากที่จะเข้าใกล้จริงๆ"จิ่งโม่เยี่ยถอนหายใจยาวพลางพูดว่า "ที่แท้ตอนนั้นข้าก็น่ารังเกียจขนาดนั้นเลยหรือ"เฟิ่งชูอิ่งขมวดคิ้วเล็กน้อย "นิสัยของท่านตอนนั้นไม่น่าคบหาจริงๆ นั่นแหละ"จิ่งโม่เยี่ยรู้ว่าก่อนหน้านี้ตัวเองไม่เป็นที่ชื่นชอบของนาง แต่ไม่รู้ว่าตอนที่พบกันครั้งแรก นางมีความประทับใจต่อเขาเช่นนี้เฟิ่งชูอิ่งมองเขาอย่างจริงจังพลางพูดว่า "ท่านอ๋อง ท่านไม่จำเป็นต้องเสียเวลากับข้าหรอก""ในโลกนี้มีสตรีนับหมื่นนับแสน ท่านมีตำแหน่งฐานะและอำนาจสูงส่ง จะเลือกสตรีแบบไหนก็ย่อมได้มิใช่หรือ?"จิ่งโม่เยี่ยพูดเบาๆ "แต่ในโลกนี้มีเจ้าเพียงคนเดียว"เฟิ่งชูอิ่ง “......”คำพูดของเขาทำให้นางไม่รู้จะตอบอย่างไรไปชั่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-20
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 796

    เฟิ่งชูอิ่งถอนหายใจพลางกล่าวว่า "ไม่มีอะไรหรอก ข้าแค่รู้สึกว่าข้าอาจจะทำอะไรผิดพลาดไป"จิ่งโม่เยี่ยมองนางด้วยความงุนงง นางถอนหายใจอีกครั้งและพูดว่า "อย่าถามอะไรเลย ปล่อยให้ข้าได้อยู่เงียบๆ เถอะ"แม้จิ่งโม่เยี่ยจะไม่เข้าใจความคิดที่วกวนของนาง แต่ด้วยความฉลาดของเขา ในตอนนี้ก็พอจะเดาได้บ้างแล้วเขาถามว่า "เจ้าคงไม่ได้คิดว่าข้าจะมีอนุภรรยาหลายคนหรอกนะ?"เฟิ่งชูอิ่งมองเขาแวบหนึ่งแต่ไม่พูดอะไรจิ่งโม่เยี่ยนึกถึงเรื่องอื่นขึ้นมา "เมื่อก่อนเจ้าเคยบอกว่าเคยชอบข้า แต่ก็มีความกังวลมากมาย จิตใจไม่มั่นคง""สาเหตุที่เจ้าเลือกจะหนีจากไปตอนที่ข้าก่อกบฏในวัง คงไม่ใช่เพราะคิดว่าหลังจากข้าก่อกบฏสำเร็จแล้ว จะถูกอำนาจครอบงำ ต้องประนีประนอมกับขุนนาง และมีสนมมากมายใช่ไหม?"เฟิ่งชูอิ่งรู้สึกเขินเล็กน้อยที่เขาคาดเดาความคิดของนางออกนางลูบจมูกเบาๆ พูดอย่างเก้อเขิน "จริงๆ ก็มีเหตุผลนี้ส่วนหนึ่ง"อีกเหตุผลหนึ่งคือเขาเคยแสดงเจตนาจะฆ่านางหลายครั้ง ทำให้นางรู้สึกไม่ปลอดภัยนางคิดว่าก่อนที่จะรักเขาลึกซึ้งเกินไป ควรจบความสัมพันธ์แล้วใช้ชีวิตอย่างอิสระตามที่ต้องการแต่นางไม่คิดว่ายังไม่ทันหนีออกจากจวนก็ถูกเข

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-20
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 797

    ปู๋เยี่ยโหวเป็นคนฉลาดหลักแหลม เห็นสีหน้าและท่าทางของนางก่อนหน้านี้ จึงเอ่ยถามว่า “เมื่อครู่นี้เจ้าคุยเรื่องแต่งงานกับจิ่งโม่เยี่ยหรือ?”เฟิ่งชูอิ่งครางฮึ่มๆ ในลำคอเบาๆ แต่ไม่ตอบอะไรปู๋เยี่ยโหวรู้ทันทีว่าตนเองเดาถูก จึงกล่าวว่า “ถ้าเจ้าแต่งงานกับข้า ข้าสัญญาว่าทั้งชีวิตนี้จะไม่รับอนุภรรยาอีก”“อยู่กับข้าสนุกกว่าตั้งเยอะ ผู้หญิงคนอื่นในโลกนี้เทียบกับเจ้าแล้วล้วนดูจืดชืด”เฟิ่งชูอิ่งมองเขา เขาจึงยิ้มบางๆ แล้วพูดว่า “นี่คือความรู้สึกที่แท้จริงของข้า แต่หมายถึงความคิดในตอนนี้เท่านั้น”“ส่วนต่อไปจะเป็นอย่างไร ใครจะไปรู้!”เฟิ่งชูอิ่งขมวดคิ้ว เขากล่าวต่อว่า “ข้าเดาว่าจิ่งโม่เยี่ย ถึงจะไม่พูดแบบข้า แต่ก็น่าจะคิดคล้ายๆ กัน”“แต่ในฐานะผู้ชาย ข้าจะพูดอย่างยุติธรรม”“ความรักในโลกนี้ แท้จริงแล้วพูดถึงความรู้สึก ณ เวลานั้น”“เรื่องรักนิรันดร์ อยู่เคียงข้างจนแก่เฒ่า รักกันอย่างไม่ระแวงสงสัย แม้แต่คนธรรมดาทั่วไปก็ทำได้ยาก ยิ่งเป็นเชื้อพระวงศ์ยิ่งแล้วใหญ่”“เชื้อพระวงศ์มีเรื่องต้องกังวลมากมาย มีสิ่งล่อตาล่อใจมากมาย และมีหลายสิ่งที่ทำตามใจตนเองไม่ได้”เฟิ่งชูอิ่งถามปู๋เยี่ยโหวว่า “ท่านมีเรื่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-21
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 798

    เฟิ่งชูอิ่งถามว่า “เจ้าคิดอะไรออกหรือ”เฉี่ยวหลิงกุมหัวตัวเองไว้พลางพูดว่า “มันค่อนข้างสับสน...อ๊า ปวดหัวจัง!”เฟิ่งชูอิ่งรีบพูดว่า “ถ้าปวดหัวก็อย่าคิดแล้ว พักก่อนเถอะ!”นางรู้ว่าอาการของเฉี่ยวหลิงแบบนี้น่าจะเป็นเพราะช่วงนี้ฝึกกับเหมยตงยวน ทำให้ร่างวิญญาณฟื้นฟูขึ้นมาบ้าง จึงเริ่มนึกถึงความทรงจำตอนมีชีวิตได้เพียงแต่ความทรงจำเหล่านั้นมันเจ็บปวดเกินไปสำหรับเฉี่ยวหลิง ดังนั้นเวลาคิดถึงมันขึ้นมาจึงปวดหัวก่อนหน้านี้เฉี่ยวหลิงเผลอทีไร ลูกตาและคางก็จะหลุดออกมา ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นเครื่องยืนยันว่าตอนมีชีวิตนางถูกทรมานอย่างโหดร้ายในสถานการณ์แบบนี้ เฟิ่งชูอิ่งอยากให้นางลืมทุกอย่างไปเสียมากกว่าปู๋เยี่ยโหวเห็นท่าทางของเฉี่ยวหลิงก็พูดว่า “มันเป็นเรื่องในอดีตแล้ว อย่าไปคิดถึงมันเลย”ดวงตาของเฉี่ยวหลิงแดงก่ำ พลังอาฆาตทั่วร่างพุ่งสูง เล็บมือก็ยาวขึ้นและเปลี่ยนเป็นสีดำทันที “ข้าจะฆ่ามัน!”เฟิ่งชูอิ่งเห็นท่าไม่ดีจึงรีบร่ายมนต์สะกดลงบนร่างของเฉี่ยวหลิงปกติแล้ว คาถาบทนี้ของนางสามารถระงับพลังอาฆาตของเฉี่ยวหลิงได้แต่วันนี้พลังอาฆาตของเฉี่ยวหลิงกลับไม่ลดลงเลย แถมยังเพิ่มขึ้นอีก!เฟิ่งชูอิ่งจึง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-21
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 799

    เขาพูดต่อว่า "ข้าชอบที่เห็นนางเป็นแบบนี้มากกว่า ดูน่ารักดี"ตอนที่เขาเจอเฉี่ยวหลิงครั้งแรก จริงๆ แล้วเขาก็กลัวนางอยู่บ้าง เพราะนางไม่ใช่คนที่มีชีวิตอยู่แล้วแต่พอได้อยู่ด้วยกันนานๆ เขาก็รู้สึกว่าเฉี่ยวหลิงเป็นหญิงสาวที่ดีมาก มีน้ำใจ และนิสัยก็ดีมากด้วยเฉี่ยวหลิงทำหน้ารังเกียจพลางพูดว่า "ใครจะต้องการให้เจ้ามาชื่นชอบกัน!"นางพูดกับเฟิ่งชูอิ่งว่า "คุณหนู ข้านึกออกแล้วว่าข้าตายได้อย่างไร"เฟิ่งชูอิ่งพูดเสียงนุ่มว่า "ความทรงจำที่เจ็บปวดพวกนั้น ไม่ต้องคิดถึงมันก็ได้"เฉี่ยวหลิงเอียงหน้ามองจิ่งโม่เยี่ยที่ยืนอยู่ข้างๆ พลางกล่าวว่า "ความทรงจำของข้ามีความเกี่ยวข้องกับเขา"เฟิ่งชูอิ่งรู้สึกประหลาดใจ ปู๋เยี่ยโหวถามว่า "หรือว่าเขาจะเป็นคนฆ่าเจ้า?"เฉี่ยวหลิงส่ายหน้า "ไม่ใช่หรอก ข้าแค่นึกออกว่าข้าตายในคืนที่เขาได้รับการแต่งตั้งเป็นองค์รัชทายาท"พอพูดประโยคนี้ออกมา สีหน้าของทุกคนก็เปลี่ยนไปปู๋เยี่ยโหวคิดแปลกประหลาด "นั่นมันเรื่องเมื่อสิบปีที่แล้วนะ""ข้ารู้ว่าคนตายแล้วจะยังคงมีรูปร่างหน้าตาเหมือนตอนมีชีวิต ตอนที่นางมีชีวิตอยู่ก็หน้าตาแบบนี้ แล้วนางอายุเท่าไหร่กันแน่?"เฉี่ยวหลิงตอบ "เรื

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-21
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 800

    พอนางพูดจบ ทุกคนก็เงียบกันหมด มันต้องเจ็บปวดมากขนาดไหนกัน!ไม่แปลกใจเลยที่เมื่อนางนึกถึงเรื่องเหล่านี้ นางจะมีโทสะรุนแรงขนาดนั้น ความเจ็บปวดแบบนั้นไม่มีใครทนได้หรอกเฟิ่งชูอิ่งฟังนางพูดจบก็โกรธจัด “ฆ่าก็ฆ่าไปเถอะ ยังจะใช้วิธีทรมานโหดร้ายแบบนี้อีก นี่มันไม่ใช่มนุษย์แล้ว!”ตอนนี้นางก็เข้าใจแล้วว่าทำไมเฉี่ยวหลิงถึงเกลียดมหาราชครูตั้งแต่แรกเห็นส่วนที่มหาราชครูจำเฉี่ยวหลิงไม่ได้ ก็เพราะเฉี่ยวหลิงเป็นแค่หนึ่งในตัวละครเล็กๆ ที่มหาราชครูไม่สนใจผ่านมาหลายปีแบบนี้ มหาราชครูไม่มีทางจำเฉี่ยวหลิงได้หรอกปู๋เยี่ยโหวก็โมโหเช่นกัน “ข้าก็บอกแล้วว่ามหาราชครูมันไม่ใช่คนดีอะไรเลย!”“พวกที่วันๆ เอาแต่พร่ำเพ้อเรื่องความเมตตากรุณา คุณธรรม จริยธรรมเนี่ย ไม่มีใครดีสักคน”ก่อนหน้านี้เขายังลังเลเรื่องที่เฉี่ยวหลิงอายุมากกว่าเขาสิบกว่าปี ตอนนี้เขาก็มีแต่ความสงสารนางถึงเขาจะรู้มาก่อนว่านางถูกทรมานจนตาย แต่พอรู้ว่าใครเป็นคนทำ เขาก็ยิ่งโมโหเข้าไปอีกเฉี่ยวหลิงยื่นมือไปจับมือเฟิ่งชูอิ่ง “คุณหนู เรื่องมันผ่านไปแล้ว ข้าไม่เป็นไรจริงๆ ท่านอย่าโกรธเลย”เฟิ่งชูอิ่งลูบหัวนางแล้วพูดว่า “ใช่ เรื่องมันผ่านไปแล้ว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-21
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 801

    จิ่งโม่เยี่ยหันมองเฟิ่งชูอิ่ง “พอพูดถึงเรื่องนี้แล้ว ข้ามีเรื่องอยากขอให้เจ้าช่วยสักหน่อย”เฟิ่งชูอิ่งถาม “เรื่องอะไรหรือ?”จิ่งโม่เยี่ยบอกว่า “หลังเกิดเรื่องกับมหาราชครู พวกขุนนางใหญ่ในราชสำนักต่างก็ไปคุกเข่าประท้วงที่หน้าประตูวัง ขอให้ฮ่องเต้เจาหยวนออกมาจัดการปลดข้าจากตำแหน่ง”“ฮ่องเต้เจาหยวนนอกจากจะโดนธนูของเซียวฉี่หรงยิงใส่แล้ว ข้ายังแอบใช้กลอุบายบางอย่าง ทำให้เขามีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน”“ดังนั้นเขาจึงคิดว่านี่เป็นโอกาสดี ก็เลยส่งคนปลอมตัวไปสังหารพวกขุนนางเหล่านั้นเพื่อใส่ร้ายข้า”เฟิ่งชูอิ่งถามว่า “เรื่องนี้ข้าไม่น่าจะช่วยอะไรท่านได้นะ?”การชิงไหวชิงพริบในราชสำนัก ไม่ใช่เรื่องที่นางจะสอดมือเข้าไปยุ่งเกี่ยวได้เลยจิ่งโม่เยี่ยเผยรอยยิ้มบางๆ “เบื้องหลังของมหาราชครูคือฮ่องเต้เจาหยวน ต้องทำให้มหาราชครูลำบากสักหน่อย เขาจะได้รู้ว่าฮ่องเต้เจาหยวนเป็นที่พักพิงให้เขาไม่ได้”แววตาของเฟิ่งชูอิ่งยังคงฉงนสนเท่ห์จิ่งโม่เยี่ยจึงยกคิ้วขึ้นเล็กน้อย แล้วยกมุมปากอย่างช้าๆ “พวกนักฆ่าที่ฮ่องเต้เจาหยวนส่งมาถูกข้าจับเป็นเอาไว้จำนวนหนึ่ง”“พวกนักฆ่าที่ถูกจับเป็นเหล่านั้นเห็นสถานการณ์ไม่สู้ดี ก็เลยกัดยาพิ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-22

บทล่าสุด

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 958

    เฟิ่งชูอิ่งคิดว่านี่คือการมองข้ามสิ่งที่อยู่ใกล้ตัวทุกคนรู้ว่าสถานที่อย่างอารามเต๋าหรือวัดพุทธเป็นเหมือนสิ่งต้องห้ามสำหรับภูตผีปีศาจ ปกติแล้วพวกมันไม่กล้าเข้าใกล้สถานที่แบบนี้แต่จิ้งจอกสือซานเหนียงไม่ใช่ปีศาจทั่วไป นางเป็นปีศาจที่แม้แต่พลังมังกรก็ยังกล้าดูดกลืนในสถานการณ์เช่นนี้ นางจะหนีไปซ่อนตัวที่อารามเทียนอี้ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกเฟิ่งชูอิ่งจึงกล่าวว่า "แม้ค่ายกลพิทักษ์ขุนเขาของอารามเทียนอี้จะแข็งแกร่งมาก แต่มันอาจจะใช้ไม่ได้ผลกับจิ้งจอกสือซานเหนียง""ทหารองครักษ์ค้นหาทั่วภูเขาใกล้เคียงแล้วแต่ก็ยังไม่พบ ถ้าอย่างนั้นก็ลองไปค้นหาอารามเทียนอี้ดูเถอะ"จิ่งโม่เยี่ยเห็นด้วยกับความคิดของนาง จึงให้ทหารองครักษ์ไปค้นหาที่อารามเทียนอี้แต่ทหารองครักษ์กลับมาอย่างรวดเร็วและรายงานว่าค่ายกลพิทักษ์ขุนเขาของอารามเทียนอี้ถูกเปิดใช้งานแล้ว พวกเขาเข้าไปไม่ได้ทั้งจิ่งโม่เยี่ยและเฟิ่งชูอิ่งเคยเห็นพลังค่ายกลพิทักษ์ขุนเขาของอารามเทียนอี้มาแล้ว ตอนนั้นถ้าจิ่งโม่เยี่ยมาช่วยไม่ทันเวลา เฟิ่งชูอิ่งคงโดนยิงจนพรุนเป็นรังผึ้งไปแล้วเฟิ่งชูอิ่งถามด้วยความสงสัยว่า "ปกติค่ายกลพิทักษ์ขุนเขาของอารามเทียนอี้จะ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 957

    จิ่งโม่เยี่ยรู้สึกจากใจจริงว่าวิชาของเฟิ่งชูอิ่งนั้นลึกลับเกินคาด แถมยังแสดงออกมาในรูปแบบที่เหนือความคาดหมายของเขาอีกด้วยมีนางคอยช่วยเหลือ เขาก็ผ่อนคลายสบายใจขึ้นมากในสถานการณ์เช่นนี้ จิ่งโม่เยี่ยคิดว่าแผนการทั้งสองสามารถดำเนินการพร้อมกันได้ให้หลางซานและฉินจื๋อเจี้ยนไปปราบปรามทหารที่จิ่งสือเยี่ยนส่งมา ส่วนจิ่งโม่เยี่ยจะไปตามหาจิ้งจอกสือซานเหนียงกับเฟิ่งชูอิ่งองครักษ์ที่จิ่งสือเยี่ยนพามาล้วนถูกจิ่งโม่เยี่ยจัดการเรียบร้อยแล้ว พวกเขาถูกส่งตัวไปที่คุกของกรมราชทัณฑ์ทั้งหมดหลังจากเฟิ่งชูอิ่งได้รับข่าวที่จิ่งโม่เยี่ยส่งมา นางก็รีบเดินทางมาพร้อมกับเหมยตงยวนทันทีเมื่อเหมยตงยวนมาถึง เขาก็ร่ายคาถาสำรวจบรรยากาศรอบๆ แล้วพยักหน้าว่า “เป็นสือซานเหนียง”เฟิ่งชูอิ่งยิ้ม “เหมือนกับงมเข็มในมหาสมุทรมาตลอด พอมาวันนี้กลับได้พบโดยไม่ต้องออกแรง”“พวกเราตามหาสือซานเหนียงมานานแต่ไม่เห็นวี่แวว ไม่คิดว่าจะได้เบาะแสในเวลาแบบนี้”เหมยตงยวนมองสำรวจไปรอบๆ “ครั้งก่อนนางโดนปู่เยี่ยโหวทำร้ายจนอาการสาหัส ในเวลาสั้นๆ แบบนี้ร่างกายนางคงยังไม่หายดี”“นางปรากฏตัวออกมาในเวลาแบบนี้ คงเพราะอยากจะรักษาอาการบาดเจ็

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 956

    ทันทีที่หลางซานเห็นจิ่งโม่เยี่ยก็รีบตรงเข้ามาสอบถามว่า “ท่านอ๋อง เกิดอะไรขึ้นหรือพ่ะย่ะค่ะ?”จิ่งโม่เยี่ยตอบว่า “ไม่มีอะไรหรอก พวกเราแค่เจอปีศาจจิ้งจอกเท่านั้นเอง”หลางซาน “......”เรื่องปีศาจแต่ก่อนมีอยู่แค่ในนิทานปรัมปราและตำนานพื้นบ้าน ไม่คิดเลยว่าครั้งนี้พวกเขาจะได้พบเจอกับของจริงหลางซานมองจิ่งโม่เยี่ยด้วยสีหน้าแปลกๆ จิ่งโม่เยี่ยจึงถามว่า “มองข้าด้วยสายตาแบบนั้นทำไม?”หลางซานทำท่าเหมือนอยากพูดแต่ก็ไม่กล้า จิ่งโม่เยี่ยจึงจ้องอีกฝ่ายเขม็ง หลางซานจึงเอ่ยว่า “เมื่อครู่นี้ ท่านอ๋องควบคุมตัวเองได้หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”จิ่งโม่เยี่ย “......”นี่มันคำถามอะไรกัน?หลางซานสบตากับแววตาดุดันของเขา แล้วแข็งใจกล่าวต่อว่า “ข้า... ข้าน้อยได้ยินมาว่าปีศาจจิ้งจอกเก่งกาจเรื่องมารยาสตรีมากที่สุด”“ไม่มีผู้ชายคนไหนที่เจอปีศาจจิ้งจอกแล้วจะรอดกลับมาได้ ท่านอ๋องเพิ่งจะปรับความเข้าใจกับพระชายา ถ้าหากว่า...”เขายังพูดไม่จบ จิ่งโม่เยี่ยก็เอามือวางบนด้ามกระบี่ เขาจึงรีบเปลี่ยนคำพูดแบบทันควัน “แต่ท่านอ๋องไม่ใช่บุรุษธรรมดา”“หัวใจของท่านอ๋องมีไว้เพื่อพระชายาเท่านั้น ไม่มีใครแทนที่ได้”“อย่าว่าแต่ปีศาจจิ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 955

    จิ้งจอกสือซานเหนียงเป็นปีศาจไม่ใช่มนุษย์ นางจึงไม่ได้ใส่ใจศีลธรรมมากมายนัก ไม่รู้สึกว่าการที่นางดูดพลังมังกรจากคนอื่นเป็นเรื่องผิดแล้วนางก็ไม่ได้รู้สึกเกรงกลัวฮ่องเต้ของพวกมนุษย์แม้แต่น้อยก็แค่ผู้ชายที่มีตาสองข้างปากหนึ่งปาก ถอดเสื้อผ้าจับโยนลงบนเตียงก็เหมือนกันหมดนิสัยนางค่อนข้างจะบิดเบี้ยว ก่อนจะเปิดฉากสู้กับจิ่งโม่เยี่ย นางไม่ได้มุ่งมั่นว่าจะต้องจับเขามานอนด้วยให้ได้แต่ถ้ามีโอกาสได้ก็ต้องคว้าเอาไว้ เพราะสำหรับนางเขาคือยาบำรุงชั้นดีหลังจากสู้กับจิ่งโม่เยี่ยแล้ว นางก็รู้สึกว่าต้องได้ผู้ชายคนนี้มาครอบครองให้ได้!ดังนั้นตอนที่นางลงมือจึงยิ่งบ้าคลั่ง อยากจะกดจิ่งโม่เยี่ยลงใต้ร่างแล้วสูบพลังให้สาสมใจทันทีนางเพิ่มพลังขึ้นจนถึงขีดสุด พุ่งเข้าใส่เขาอย่างบ้าคลั่งเพราะนางบำเพ็ญเพียรมานานหลายปี ในตอนที่บันดาลโทสะ วิชาหลากหลายแขนงก็ถูกปลดปล่อยออกมาพร้อมกันต่อให้จิ่งโม่เยี่ยจะเก่งกาจขนาดไหน พอต้องเจอกับการโจมตีที่ไม่ใช่ทางกายภาพ เขาไม่มีทางรับมือได้อยู่แล้วไม่นานเขาก็ตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ ถูกจิ้งจอกสือซานเหนียงใช้ผ้าแพรขาวมัดจนขยับเขยื้อนไม่ได้จิ้งจอกสือซานเหนียงหอบหายใจขณะเอา

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 954

    พอทหารองครักษ์คนนั้นพูดจบ หมอกขาวก็ยิ่งรวมตัวกันรวดเร็วยิ่งขึ้นจิ่งโม่เยี่ยขมวดคิ้ว เพราะเขารู้ว่าคำพูดของทหารองครักษ์เป็นความจริงเขาจ้องมองหมอกที่หนาขึ้นเรื่อยๆ อย่างเย็นชา ร่างกายนิ่งสงบเหมือนภูเขาหมอกขาวกลืนกินทหารองครักษ์ที่อยู่ข้างๆ เขา ทำให้ทุกคนหายวับไปโดยไม่มีแม้แต่เสียงร้องโวยวายหลังจากที่จิ่งโม่เยี่ยอยู่กับเฟิ่งชูอิ่ง เขาก็มีความรู้ใหม่เกี่ยวกับวิชาของพวกศาสตร์ลี้ลับทั้งหลายในความคิดของเขา แม้ว่านี่จะไม่ใช่วิชาของสำนักลี้ลับ แต่มันก็อาจจะคล้ายคลึงกันหลายส่วนเสียงหัวเราะของผู้หญิงดังมาจากรอบๆ ผู้ชายทั่วไปได้ยินแล้วคงเผลอหลงใหล แต่เขาฟังแล้วรู้สึกรำคาญ เพราะนั่นไม่ใช่เสียงของเฟิ่งชูอิ่งในใจของจิ่งโม่เยี่ย ผู้หญิงในโลกนี้แบ่งออกเป็นสองประเภท ประเภทแรกคือเฟิ่งชูอิ่ง และอีกประเภทหนึ่งคือผู้หญิงคนอื่นเขาใช้ความพยายามอย่างมากเพื่อทำให้เฟิ่งชูอิ่งยอมตกลงปลงใจแต่งงานกับเขาตอนนี้ดันมีปีศาจที่ไหนไม่รู้มาเกี้ยวพาเขาแบบนี้ ถ้าเฟิ่งชูอิ่งรู้เรื่องนี้เข้า คงจะต้องโกรธมากแน่ๆจิ่งโม่เยี่ยมองไม่เห็นอะไรเลยในม่านหมอกหนา เขาจึงหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาพับแล้วมัดปิดตาตัวเองพริบตา

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 953

    พลังหยาง พลังมังกรและโชคชะตาอันยิ่งใหญ่นางต้องการ นางต้องได้ทั้งหมดนั่นมาครอง!ตอนแรกจิ่งสือเยี่ยนโดนวิชาของเฟิ่งชูอิ่งเล่นงานจนอาการย่ำแย่อยู่แล้ว มาตอนนี้ยังถูกจิ้งจอกสือซานเหนียงสูบพลังอีก ทำให้โชคชะตาของเขาลดฮวบลงอย่างรวดเร็วพลังมังกรสามารถคุ้มครองป้องกันร่างกาย ไม่ให้ปีศาจเข้ามาใกล้ได้แต่ตราบใดที่ปีศาจไม่มีจิตสังหาร พลังมังกรก็จะไม่สนใจและปล่อยผ่านไปจิ่งสือเยี่ยนโดนจิ้งจอกสือซานเหนียงเล่นงานจนเกือบหมดแรงนอนเหี่ยวแห้งตายแต่จิ้งจอกสือซานเหนียงเหมือนจะยังไม่ค่อยพอใจ "เจ้าดูเหมือนจะร้ายกาจ แต่กลับได้แค่นี้เอง?"จิ่งสือเยี่ยน “......”จิ่งสือเยี่ยน “!!!!!!”เขาไม่คิดเลยว่าวันหนึ่งเขาจะถูกผู้หญิงดูถูกเรื่องความสามารถทางด้านนั้น!เขากล่าวด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำว่า "ตอนนี้เจ้าคงสาสมใจแล้ว ปล่อยข้าไปได้หรือยัง?"เขาร้อนใจอย่างมาก หากยังไม่รีบไปตอนนี้อีก เกรงว่าจะถูกจิ่งโม่เยี่ยตามมาทันจิ้งจอกสือซานเหนียงตบหน้าเขาไปฉาดหนึ่งแล้วเอ่ยว่า "ข้าเคยบอกตอนไหนว่าทำครั้งเดียวแล้วจะปล่อยเจ้าไป?"จิ่งสือเยี่ยนเบิกตากว้างจ้องมองนาง ในดวงตาเต็มไปด้วยความโกรธขึ้งเขาไม่คิดเลยว่าวันหนึ่งเขา

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 952

    ถ้าจะพูดถึงเรื่องที่จิ้งจอกสือซานเหนียงพลาดท่าเสียทีในการยั่วยวนผู้ชายตลอดหลายปีมานี้ ก็คงเป็นตอนที่นางได้เจอกับปู๋เยี่ยโหว และเป็นเพียงครั้งเดียวเท่านั้นทันทีที่สบตากับจิ่งสือเยี่ยน นางก็มั่นใจได้ทันทีว่า ถึงผู้ชายคนนี้จะไม่ใช่พวกหื่นกามจนขึ้นสมอง แต่อย่างน้อยก็ต้องเป็นคนเจ้าชู้อยู่บ้างไม่ต้องพูดอะไรมาก แค่มองตาเขาก็รู้แล้วจิ้งจอกสือซานเหนียงหัวเราะคิกคัก นางเอื้อมมือไปคล้องคอเขา “ค่ำคืนนี้ช่างวิเศษจริงๆ”จิ่งสือเยี่ยนยิ้มอย่างอ่อนโยน แต่ในวินาทีต่อมา เขาก็แทงกระบี่เข้าใส่จิ้งจอกสือซานเหนียงแบบไม่บอกกล่าวแต่การโจมตีของเขากลับพลาดเป้า สาวงามในอ้อมแขนก็หายวับไปในทันทีสีหน้าของจิ่งสือเยี่ยนเปลี่ยนไปเล็กน้อย พลาดการโจมตีครั้งแรก การจะลงมือครั้งต่อไปย่อมยากขึ้นจิ้งจอกสือซานเหนียงหัวเราะเยาะ “ข้าว่าแล้วเชียว ผู้ชายที่ยิ้มหน้าระรื่นได้แบบเจ้าไม่ใช่คนดีอะไรเลย”“ปากก็พูดจาไพเราะอ่อนหวาน แต่การกระทำกลับโหดเหี้ยมสิ้นดี!”“กับผู้ชายแบบนี้ ข้าไม่จำเป็นต้องเกรงใจ!”ทันทีที่นางพูดจบ จิ่งสือเยี่ยนก็รู้สึกว่ามีบางอย่างพันอยู่ที่ขา ก่อนที่เขาจะทันได้ตอบสนอง สิ่งนั้นก็ลากเขาลงไปกองกับพื

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 951

    เขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แต่รู้สึกได้ว่าการหนีออกจากเมืองหลวงในวันนี้ เรียกได้ว่าทุกอย่างเต็มไปด้วยอุปสรรคขัดขวางต่อไปจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นบ้าง เขาก็ยิ่งไม่รู้เลยจิ่งสือเยี่ยนมีวรยุทธ์ไม่เลว ไม่ขาดแคลนทั้งความกล้าหาญและกลยุทธ์แต่ในขณะนี้ หัวใจของเขากลับเต็มไปด้วยความหนาวเหน็บราวกับน้ำแข็งเกาะ มีบางสิ่งกำลังหลุดออกจากการควบคุมจิ่งสือเยี่ยนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะชักกระบี่ออกมา ตะโกนเสียงดังว่า “ใครกำลังเล่นตลกอยู่?”ก่อนหน้านี้เขาไม่เชื่อเรื่องผีสาง แต่หลังจากได้รู้จักกับเฟิ่งชูอิ่ง เขาก็เริ่มเชื่ออีกครั้งเฟิ่งชูอิ่งเป็นคนที่มีวิชาอาคมสูงส่งที่สุด เท่าที่เขาเคยพบเห็นมาปฏิกิริยาแรกของเขาคือคนที่ซุ่มโจมตีเขาในวันนี้ อาจเป็นเฟิ่งชูอิ่งก็ได้ แต่ไม่นานเขาก็ปัดความคิดนี้ทิ้งเพราะถ้าเฟิ่งชูอิ่งลงมือจริง นางจะให้วิญญาณร้ายที่อยู่ข้างกายนางจัดการโดยตรง จะไม่ปิดบังอำพรางเช่นนี้จิ่งสือเยี่ยนคิดถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นในคืนนี้ เขาคิดว่าเขาอาจจะถูกสิ่งสกปรกบางอย่างตามรังควานจิ่งสือเยี่ยนพูดเสียงดังว่า “เจ้าต้องการอะไรก็พูดมาตรงๆ ไม่ต้องทำตัวลับๆ ล่อๆ แบบนี้”เสียงที่ตอบกล

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 950

    จิ่งสือเยี่ยนคิดว่าการเดินทางผ่านหมู่บ้านอาจเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีก จึงเลือกที่จะเดินทางผ่านป่าแทนแต่แล้วม้าของเขาก็ติดกับดักอีกครั้ง ครั้งนี้ม้าเกิดอาการตื่นตระหนกม้าที่เขาเพิ่งเปลี่ยนมาจากองครักษ์นั้นดีดดิ้นเหมือนกำลังคุ้มคลั่ง จนเขากระเด็นตกจากหลังม้าครั้งนี้เขาไม่โชคดีเท่าไหร่ ตอนที่ถูกม้าเหวี่ยงออกไป ร่างของเขาฟาดเข้ากับต้นไม้อย่างแรงมีเสียงดัง “โครม!” ก่อนจิ่งสือเยี่ยนจะกลิ้งลงมาจากต้นไม้ครั้งนี้เขารู้สึกเหมือนเอวจะหัก ปวดจนทนแทบไม่ไหวองครักษ์ของเขาช่วยพยุงเขาขึ้นมาและดึงม้าที่ตื่นตระหนกกลับมาจิ่งสือเยี่ยนสูดหายใจเข้าลึกๆ ในใจรู้สึกหงุดหงิดยิ่งไปกว่านั้น ทุกคนก็ไม่ได้เป็นอะไร มีแค่ม้าของเขาเท่านั้นที่มีปัญหาเรื่องแบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเขารู้สึกว่าวันนี้ตัวเองค่อนข้างโชคร้ายคืนนี้การเดินทางไม่คืบหน้าไปไหน แล้วเขายังต้องตกม้าถึงสองครั้ง เจอเรื่องแบบนี้แม้แต่พระอิฐพระปูนก็ยังโมโห นับประสาอะไรกับจิ่งสือเยี่ยนที่เป็นคนอารมณ์ร้อนอยู่แล้วเขาสูดหายใจเข้าลึกๆ พยายามระงับความโกรธแต่การตกม้าครั้งนี้ค่อนข้างรุนแรง เขาเคล็ดเอวด้วยจึงไม่สามารถขี่ม้าได้อีกสักพักเ

DMCA.com Protection Status