แชร์

บทที่ 729

ผู้เขียน: ดอกถังร่วงหล่น
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-04 18:00:01
เด็กหญิงมองเขาขึ้นลงอย่างพิจารณา เห็นได้ชัดว่าไม่ค่อยเชื่อคำพูดของเขา

นางเชิดหน้าขึ้นแล้วพูดว่า “ถึงพ่อแม่ของข้าจะเสียชีวิตไปแล้ว แต่ข้าก็อยู่ได้สบายดี เพื่อนบ้านแถวนี้ก็คอยดูแลข้าเป็นอย่างดี!”

ท่านอัครเสนาบดีฝ่ายซ้ายมองนางแล้วพูดว่า “ถึงพวกเขาจะดูแลนาง แต่นางอายุยังน้อย อาจจะถูกคนอื่นรังแกได้ง่าย”

“ข้าเป็นอัครเสนาบดีฝ่ายซ้ายแห่งราชสำนัก ชื่อเสียงของข้าเจ้าออกไปถามใครก็ได้ ก็ถือว่าไม่เลว”

วันนี้ที่นางเอาหัวมันเทศขว้างมาโดนเขา ทำให้เขารู้สึกถูกชะตาอย่างบอกไม่ถูก

ภรรยาผู้ล่วงลับของเขาก็นิสัยแบบนี้ พอมองจานกลมในมือ เข็มบนจานยังคงชี้ไปที่เด็กหญิง เขาก็เชื่อมากขึ้นว่านางคือคนที่เขากำลังตามหา

แต่ตอนนี้ทั้งสองคนอายุห่างกันอย่างน้อยสามสิบปี เขาไม่ได้คิดอะไรเกินเลยไปกว่านั้น

ไม่ว่านางจะเป็นภรรยาที่กลับชาติมาเกิดหรือไม่ เขาก็อยากให้นางมีชีวิตที่ดีขึ้น อยากเลี้ยงดูนางเหมือนลูกสาวคนหนึ่ง

เด็กหญิงมองเขาโดยไม่พูดอะไร

นางเป็นแค่เด็กหญิงตัวเล็กๆ ที่ต้องดิ้นรนเพื่อความอยู่รอดในแต่ละวัน นางไม่รู้เรื่องราชสำนักหรอก

บุคคลสำคัญอย่างอัครเสนาบดีฝ่ายซ้าย นางไม่เคยคิดว่าจะได้พบเจอมาก่อน จึงไม่เคยคิดจ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 730

    เฟิ่งชูอิ่งถามว่า “งั้นตอนนี้ท่านมาจ่ายเงินค่าจานหมุนหรือ? หนึ่งพันตำลึง ขอบคุณเจ้าค่ะ!”เสนาบดีฝ่ายซ้าย “......”เดิมทีเขายังรู้สึกซาบซึ้งอยู่บ้าง แต่พอนางเปิดปากก็พูดถึงเงินหนึ่งพันตำลึง ทำเอาเขาพูดไม่ออกเขาอดไม่ได้ที่จะค่อนขอดว่า “เจ้าเห็นแก่เงินหรือ?”เฟิ่งชูอิ่งตอบว่า “ใช่แล้วล่ะ”เสนาบดีฝ่ายซ้ายจ้องนางแล้วพูดว่า “ในคุกมีที่ให้ใช้เงินด้วยหรือ?”เฟิ่งชูอิ่งตอบอย่างองอาจว่า “ข้าหาเงินในคุกแล้วเอาไปใช้ข้างนอกไม่ได้หรือ?”เสนาบดีฝ่ายซ้าย “......”วันนี้เขาโดนสวนกลับมาหลายครั้ง ความรู้สึกแบบนี้พูดยากจริงๆ เขาสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วพูดว่า “อายุขนาดนี้แล้ว เพิ่งเคยเห็นคนติดคุกแล้วยังไม่ลืมหาเงิน”เฟิ่งชูอิ่งยิ้มแล้วพูดว่า “งั้นท่านก็ยังผ่านโลกมาน้อยไปหน่อย ข้าไม่ถือสาอะไรท่านหรอก”เสนาบดีฝ่ายซ้าย “......”เขารู้สึกจุกอกอีกแล้วเขาพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำว่า “เจ้าไม่กลัวข้าเอาจานหมุนไปแล้วไม่กลับมาอีกหรือ?”เฟิ่งชูอิ่งมองเขาด้วยสายตาเหมือนมองคนโง่ พูดว่า “ท่านก็กลับมาแล้วมิใช่หรือ?”เสนาบดีฝ่ายซ้าย “......”เฟิ่งชูอิ่งพูดต่อว่า “อย่าทำหน้าแบบนั้นสิ ข้าแค่มีความมั่นใจในความสา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-04
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 731

    เสนาบดีฝ่ายซ้าย “…...”เขาชี้นิ้วไปที่นาง พ่นลมหายใจแล้วหันหลังเดินจากไปเฟิ่งชูอิ่งยิ้ม แต่ไม่ได้เรียกเขาไว้เฉี่ยวหลิงถามว่า “คุณหนู แล้วแบบนี้ถือว่าท่านกับอ๋องผู้สำเร็จราชการหย่าร้างกันแล้วหรือ”เฟิ่งชูอิ่งตอบ “น่าจะยังไม่ถือว่าหย่า”นางก็ว่าอยู่แล้ว จิ่งโม่เยี่ยจะยอมหย่ากับนางง่ายๆ ได้อย่างไรแต่เจ้าสุนัขนั่นรู้ว่านางไม่ค่อยรู้เรื่องพวกนี้ ก็เลยแกล้งทำเป็นตบตาหลอกนางไปเฉี่ยวหลิงถามนางว่า “แล้วตอนนี้จะทำอย่างไรดี”เฟิ่งชูอิ่งตอบ “ออกจากคุกก่อนแล้วค่อยว่ากัน”ถ้านางออกไปได้แล้ว จะทำอะไรได้สะดวกกว่าอยู่ในคุกต่อให้สนุกแค่ไหน พอรู้เรื่องนี้แล้วก็หมดสนุกตามที่เสนาบดีฝ่ายซ้ายคาดการณ์ไว้ ในคืนนั้นเอง ผู้ว่าราชการก็มาแจ้งนางด้วยตัวเองว่าพรุ่งนี้จะเปิดศาลไต่สวนคดีของนางต่อหน้าธารกำนัล ให้นางเตรียมตัวให้พร้อมผู้ว่าราชการยังเตือนนางเป็นพิเศษว่า “ถึงครั้งนี้ข้าจะเป็นคนไต่สวนคดีนี้ แต่จะมีคนมาฟังการพิจารณาคดีมากมาย”“ไม่ใช่แค่มหาราชครูที่จะมา แต่กระทรวงยุติธรรมทั้งสามน่าจะส่งคนมามาดูด้วย”“ดังนั้นคดีนี้ต้องดำเนินไปตามกระบวนการที่ถูกต้องที่สุด ห้ามให้ใครจับผิดได้แม้แต่นิดเดียว ไ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-04
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 732

    จิ่งโม่เยี่ยมั่นใจความสามารถของฉินจื๋อเจี้ยนในเรื่องนี้เป็นอย่างมาก เขาพรูลมหายใจออกช้าๆ แล้วกล่าวว่า “มะรืนนี้เป็นวันปีใหม่ ก็ควรจะหยุดว่าราชการได้แล้ว”เขาเป็นอ๋องผู้สำเร็จราชการ การจะหยุดว่าราชการเมื่อไหร่นั้น พูดง่ายๆ ก็คือขึ้นอยู่กับคำพูดของเขาเพียงคำเดียวคำพูดของเขาดูเหมือนไม่มีที่มาที่ไป ฉินจื๋อเจี้ยนไม่รู้ว่าเขาหมายความว่าอย่างไร “ตามธรรมเนียมปฏิบัติในปีก่อนๆ ส่วนใหญ่ก็หยุดว่าราชการในวันมะรืนนี้”จิ่งโม่เยี่ยสั่งการว่า “ไปแจ้งเรื่องนี้แก่ขุนนางทั้งหกกระทรวง”นี่ไม่ใช่เรื่องใหญ่ แค่ให้คนไปแจ้งข่าวเท่านั้น ฉินจื๋อเจี้ยนสามารถจัดการได้อย่างรวดเร็วแต่ฉินจื๋อเจี้ยนก็มีความกังวลของเขา “ท่านอ๋อง ท่านแน่ใจหรือว่าจะพาพระชายาจะกลับจวนอ๋องได้”จิ่งโม่เยี่ยจ้องมองเขาแล้วพูดว่า “เจ้ากำลังสงสัยความสามารถของข้ารึ?”ฉินจื๋อเจี้ยนส่ายหน้า “แน่นอนว่าไม่ ข้าแค่กังวลว่าพระชายาเจ้าท่านจอมยุทธ์เหมย[footnoteRef:1]ช่วยเหลือ อาจจะหนีออกจากเมืองหลวงในตอนกลางคืน” [1: อ้างอิงถึงเหมยตงยวน] จิ่งโม่เยี่ย “......”นี่ก็เป็นสิ่งที่เขากลัวที่สุดเช่นกันที่สำคัญคือทักษะของเฟิ่งชูอิ่งและเหมยตงยวนต่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-04
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 733

    เมื่อคืนหิมะตกหนักตลอดทั้งคืน แต่วันนี้กลับฟ้าเปิด แสงแดดและแสงสะท้อนจากหิมะสาดส่องเข้าตาจนแสบตาถึงแม้นางจะอยู่ในคุกไม่กี่วัน แต่พอออกมาแล้วก็รู้สึกเหมือนผ่านโลกมาอีกใบนางคิดว่าการติดคุกก็สนุกดี แต่มันค่อนข้างทำร้ายสุขภาพ คราวหน้าคงไม่ยอมมาติดคุกอีกแล้วเมื่อนางเดินตามเจ้าหน้าที่มาถึงศาลากลางของจวนผู้ว่าราชการ นางก็ตกใจกับบรรยากาศที่แสนคึกคัก สาเหตุก็ไม่มีอะไรมาก แค่มีชาวบ้านมามุงดูกันเต็มหน้าจวนผู้ว่าราชการชาวบ้านเหล่านั้นต่างก็ชี้ไม้ชี้มือ พูดนินทานางสารพัดนางยังเห็นหลินหว่านถิงและฮว๋าซื่อ ทั้งสองคนสวมเสื้อตัดเย็บจากผ้าฝ้ายเก่าๆ ใบหน้าซีดเหลือง ดูเปลี่ยนไปจากตอนที่เจอกันครั้งล่าสุดราวกับคนละคนเมื่อนางเห็นพวกเขา พวกเขาก็มองเห็นนางเช่นกันฮว๋าซื่ออยากจะพุ่งเข้ามาหาเฟิ่งชูอิ่ง แต่ถูกหลินหว่านถิงดึงรั้งเอาไว้หลินหว่านถิงมองเฟิ่งชูอิ่งด้วยสายตาซับซ้อน เพราะเฟิ่งชูอิ่งที่อยู่ตรงหน้าไม่มีท่าทีอิดโรยจากการติดคุกเลย กลับดูเปล่งปลั่งมีน้ำมีนวลมาถึงตอนนี้ หลินหว่านถิงยิ่งรู้สึกถึงความแตกต่างอย่างมากระหว่างนางกับเฟิ่งชูอิ่งทั้งๆ ที่จุดเริ่มต้นของนางสูงกว่า แต่ทำไมตอนนี้ถึงกลายเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-05
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 734

    เฟิ่งชูอิ่งไม่สนใจฮว๋าซื่อเลย แต่กลับหันไปพูดกับหลินหว่านถิงว่า “ตอนนี้เจ้ามีโอกาสที่จะเปลี่ยนแปลงโชคชะตาของตัวเอง เจ้าต้องการหรือไม่”หลินหว่านถิงหัวเราะเยาะ “อย่าบอกนะว่าเจ้าอยากให้ข้าเป็นพยานว่าเจ้าไม่ได้ฆ่าพี่ชายข้า เพื่อที่เจ้าจะได้ไม่ต้องรับผิดชอบอีกต่อไป แล้วแบบนี้จะเรียกว่าเปลี่ยนแปลงโชคชะตาได้ยังไง”เฟิ่งชูอิ่งเหลือบมองไปที่ท้องของหลินหว่านถิง ยกคิ้วขึ้นเล็กน้อย “ถ้าเจ้าอยากจะเข้าใจแบบนั้นก็ไม่ผิด”หลินหว่านถิงทำหน้าถมึงทึง “เจ้าอย่าหวังเลย!”“เจ้าฆ่าพี่ชายข้า ข้าจะให้เจ้าชดใช้ด้วยเลือด!”เฟิ่งชูอิ่งพูดอย่างเสียดาย “งั้นหรือ แม้แต่เทพเซียนก็ช่วยเจ้าไม่ได้แล้ว”“เจ้าเลือกทางเดินนี้เอง อย่าได้มาเสียใจภายหลังก็แล้วกัน”หลินหว่านถิงเชิดหน้าขึ้น “ข้าไม่มีทางเสียใจหรอก คนที่ควรเสียใจคือเจ้าต่างหาก!”“แม้ว่าตอนนี้เจ้าจะเป็นพระชายาของอ๋องผู้สำเร็จราชการแล้ว ตำแหน่งของเจ้าก็ไม่ได้มั่นคงอย่างที่เจ้าคิดหรอก”“เจ้าฆ่าคน เจ้าต้องชดใช้ด้วยชีวิต!”เฟิ่งชูอิ่งถอนหายใจเบาๆ “คนโง่มักจะคิดว่าตัวเองฉลาด โดนหลอกใช้แล้วยังไม่รู้ตัวอีก”“เดิมทีข้าเห็นแก่ที่เคยอาศัยอยู่ในจวนสกุลหลินมาหลายป

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-05
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 735

    ไม่ว่านางจะยอมรับหรือไม่ ไม่ว่าเขาจะมีท่าทีอย่างไรกับนาง อย่างน้อยครึ่งหนึ่งของคนที่อยู่ในห้องนี้ต้องการชีวิตของนางอีกทั้งวันนี้อากาศค่อนข้างเย็น นางจึงไม่ได้ปฏิเสธและรับเตาอุ่นมือจากเขาท่านมหาราชครูกล่าวขึ้นว่า “ท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการ การกระทำเช่นนี้ไม่เหมาะสมกระมัง ในเมื่อตอนนี้เฟิ่งชูอิ่งยังเป็นนักโทษอยู่”เสียงของจิ่งโม่เยี่ยเรียบเฉย “ในคดีฆาตกรรมหลินอีฉุน ชูอิ่งเป็นเพียงผู้ต้องสงสัย”“ในเมื่อนางเป็นเพียงผู้ต้องสงสัย ยังไม่ถูกตัดสินว่ามีความผิด นางก็ยังคงเป็นพระชายาของอ๋องผู้สำเร็จราชการ”พระชายาของผู้สำเร็จราชการเป็นตำแหน่งสูงศักดิ์ในระดับหนึ่ง นางมีตำแหน่งสูงกว่าขุนนางส่วนใหญ่ที่อยู่ในโถงใหญ่แห่งนี้ในเมื่อนางยังไม่ถูกตัดสินว่ามีความผิด ด้วยฐานะเช่นนี้ นางไม่จำเป็นต้องคำนับขุนนางเหล่านี้ แม้จะถูกไต่สวน นางก็ไม่จำเป็นต้องคุกเข่าท่านมหาราชครูกล่าวเสียงเย็นชา “ท่านอ๋องตั้งใจจะช่วยนางให้พ้นผิดตั้งแต่แรกเลยหรือพ่ะย่ะค่ะ”จิ่งโม่เยี่ยกล่าวอย่างใจเย็น “พ้นผิด? นางต้องมีความผิดก่อนจึงจะต้องช่วยให้พ้นผิด ตอนนี้นางเป็นเพียงผู้ถูกใส่ร้าย นางเป็นเหยื่อ ไม่จำเป็นต้องช่วยให้พ้นผิด”

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-05
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 736

    พวกเจ้าหน้าที่ศาลไต่สวนที่ยืนประจำตำแหน่งสองข้างเคาะกระบองลงพื้น พร้อมกับร้องว่า “เปิดศาล!”บรรยากาศในศาลที่เดิมทีค่อนข้างเฉื่อยชา ตอนนี้ก็ดูเคร่งขรึมขึ้นมากนอกประตูมีชาวบ้านมามุงดูเหตุการณ์มากมาย หลังจากเปิดศาล ทุกคนก็ยืนดูอยู่ด้านนอกอู่อิ้งเหวินก็ยืนเบียดเสียดอยู่ท่ามกลางฝูงชน เขาจ้องมองเฟิ่งชูอิ่งที่ยืนอยู่ตรงกลางด้วยความกังวลเฟิ่งชูอิ่งช่วยเขาแก้ต่างในวันนั้น ทำให้เขาได้รับการปล่อยตัวโดยไม่มีความผิด แต่นางกลับยังติดอยู่ในคุกอู่อิ้งเหวินเคยเห็นวิธีการของคนในจวนมหาราชครูมาก่อน เขาจึงกลัวว่าเฟิ่งชูอิ่งจะรับมือไม่ไหวแต่เขาเห็นว่าจิ่งโม่เยี่ยคอยปกป้องเฟิ่งชูอิ่งอยู่ จิ่งโม่เยี่ยสามารถเอาตัวรอดจากสถานการณ์เลวร้ายและขึ้นเป็นอ๋องผู้สำเร็จราชการได้ แสดงว่าเขาเป็นคนที่เก่งกาจมากเขาจึงรู้สึกว่าถ้ามีจิ่งโม่เยี่ยอยู่ เฟิ่งชูอิ่งก็น่าจะไม่เป็นไรแต่เขาก็ยังอดเป็นห่วงนางไม่ได้หลังจากที่ผู้ว่าราชการตรวจสอบชื่อและที่อยู่ของคนที่อยู่ในศาลตามขั้นตอนการพิจารณาคดีตามปกติแล้ว ก็กล่าวว่า “ฮว๋าซื่อ เจ้าฟ้องต่อศาลว่าเฟิ่งชูอิ่งเป็นคนที่ฆ่าลูกชายของเจ้า หลินอีฉุน มีหลักฐานหรือไม่”ฮว๋าซื่อก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-05
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 737

    เฉี่ยวหลิงส่ายหน้า “ข้าเป็นแค่สาวใช้ตัวเล็กๆ อ่อนแอ จะมีฝีมือแบบนั้นได้อย่างไร”“ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนั้นหลินอีฉุนเป็นฝ่ายปากเสียก่อน ข้าก็แค่ตบหน้าเขาไปหลายที แต่ข้าไม่ได้ตีหัวเขาจริงๆ ”ผู้ว่าราชการกล่าวด้วยเสียงทุ้มต่ำ “บาดแผลที่เจ้าหน้าที่ชันสูตรตรวจพบ บอกว่ากะโหลกศีรษะของหลินอีฉุนแตกร้าวตั้งแต่ช่วงจมูกขึ้นไป”“กล่าวคือ คนที่ตีจมูกเขานั่นแหละ คือฆาตกรที่แท้จริง”ฮว๋าซื่อพูดขึ้นทันที “งั้นก็เป็นเฟิ่งชูอิ่งที่ฆ่าอีฉุน วันนั้นมีแค่หล่อนคนเดียวที่ตีโดนจมูกอีฉุน”เฟิ่งชูอิ่งตั้งคำถาม “เจ้าหน้าที่ชันสูตรได้ข้อสรุปแบบนี้มาได้อย่างไร เขาถลกหนังหัวของหลินอีฉุนออกมาตรวจดูกระดูกหรือ”ฮว๋าซื่อได้ยินคำพูดนี้ก็ชะงักไปครู่หนึ่ง จากนั้นสีหน้าก็เปลี่ยนไป มองเห็นภาพตรงหน้ามืดลงหลินหว่านถิงตอบสนองอย่างรวดเร็ว รีบเข้าไปประคองนางไว้ จึงไม่ล้มลงไปแค่คิดถึงเรื่องการถลกหนังหัวของหลินอีฉุนออกมาก็รู้สึกน่ากลัวแล้วในฐานะมารดา นางจะทนรับเรื่องแบบนี้ได้อย่างไรผู้ว่าราชการกล่าวด้วยเสียงทุ้มต่ำ “เรียกเจ้าหน้าที่ชันสูตรเข้ามา”ไม่นานเจ้าหน้าที่ชันสูตรก็มาถึง ผู้ว่าราชการถามเขาว่า “เจ้าแน่ใจได้อย่างไร

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-06

บทล่าสุด

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 938

    เหมยตงยวนมองเขาด้วยสายตาเย็นชาอย่างฉับพลัน เจ้าลูกหมานี่พูดจาแบบนี้ได้คล่องปากขึ้นทุกวันเฟิ่งชูอิ่งมองไปยังศาลาร่มรื่นที่เต็มไปด้วยวิญญาณร้าย นางรู้สึกว่าควรจะเตือนจิ่งโม่เยี่ยสักหน่อยนางจึงเปิดเนตรทิพย์ให้เขาอย่างเงียบๆ ทันใดนั้นเขาก็เห็นเหมยตงยวนทำหน้าบึ้งตึง และเหล่าวิญญาณร้ายตนอื่นๆ ที่ทำหน้าเหมือนกำลังดูละครสนุกๆจิ่งโม่เยี่ย “......”อย่างที่คิดไว้จริงๆ เรื่องน่าตกใจมันมีอยู่ทุกที่เขาไอเบาๆ แล้วคำนับเหมยตงยวน “สวัสดี ท่านอาเหมย”เหมยตงยวนพูดด้วยน้ำเสียงประชดประชัน “ข้าไม่กล้ารับคำนับจากฝ่าบาทหรอก”พลังแห่งฮ่องเต้ในตัวจิ่งโม่เยี่ยเข้มข้นขึ้นมากหลังจากผ่านคืนนี้ไปนั่นหมายความว่าการเข้าวังของเขาในวันนี้เป็นไปอย่างราบรื่นเพียงแต่ตอนนี้ดวงดาวของฮ่องเต้ยังไม่กลับมาประจำตำแหน่ง บัลลังก์ของเขายังไม่มั่นคงจิ่งโม่เยี่ยยิ้มแห้งๆ “ท่านอาเหมยอย่าล้อข้าเลย”“ตำแหน่งฮ่องเต้ไม่ใช่สิ่งที่ข้าต้องการได้มา แต่การมีตำแหน่งนี้ช่วยให้ข้าทำหลายๆ สิ่ง หลายๆ อย่างได้”เหมยตงยวนแค่นเสียง “ปากบอกว่าไม่ต้องการ แต่ความทะเยอทะยานมันเด่นชัดขนาดนั้น เจ้าเองก็ไม่ได้ดีไปกว่าจิ่งสือเยี่ยนนักหรอก”

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 937

    ถัดมา ม่านหน้าต่างก็สั่นไหวอย่างรุนแรง เผยให้เห็นเงาร่างน่าขนลุก รูปร่างคล้ายกับฮ่องเต้พระองค์ก่อนปู๋เยี่ยโหวเป็นคนแรกที่รู้สึกตัว “แม่เจ้า!”พูดจบก็กระโดดขึ้นไปขี่บนหลังท่านเสนาบดีฝ่ายซ้ายท่านเสนาบดีฝ่ายซ้าย “......”เขาอยากจะด่าบรรพบุรุษปู๋เยี่ยโหวสิบแปดชั่วโคตร!พุ่งเข้ามาแบบนี้ ตัวหนักขนาดนี้ เขาเป็นขุนนางฝ่ายบุ๋น อายุก็มากแล้ว จะแบกปู๋เยี่ยโหวไหวได้อย่างไร!แล้วทั้งสองคนก็ล้มกลิ้งลงกับพื้น ปู๋เยี่ยโหวกลายเป็นเบาะรองคนอื่นๆ ก็ตกใจตัวสั่นด้วยความกลัว เบียดเสียดกันเป็นก้อนตอนนี้ ไม่ว่าจะเป็นฮองเฮา พระโอรสผู้สูงศักดิ์หรือขุนนางผู้สุขุมเยือกเย็นในราชสำนัก ต่างก็หดตัวเป็นก้อน อยากจะเบียดเข้าหากันเป็นหนึ่งเดียวบางคนที่ว่องไวก็วิ่งออกไปอย่างรวดเร็วพระราชวังเป็นสถานที่ที่ปลอดภัยที่สุด การเกิดเรื่องแบบนี้ทำให้พวกเขาแทบสิ้นสติตอนแรกพวกเขาไม่เชื่อคำพูดของปู๋เยี่ยโหวเลย พอเกิดเรื่องแปลกประหลาดแบบนี้ จะไม่เชื่อก็ยากแล้วเดิมทีฮองเฮายังอยากจะซักถามปู๋เยี่ยโหวสองสามคำ พอเห็นสภาพแบบนี้นางก็พูดอะไรไม่ออกตอนนี้ทุกคนมีเพียงความคิดเดียวเท่านั้นหรือว่าเป็นเพราะองค์ฮ่องเต้เจาหยวนท

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 936

    สุดท้ายปู๋เยี่ยโหวที่มีชนักติดหลังก็ยังอดแววตาสั่นไหวไม่ได้การกระพริบตาของเขา คนทั่วไปอาจจะไม่เห็นถึงปัญหา แต่คนที่เขากำลังเผชิญอยู่คือท่านเสนาบดีฝ่ายซ้ายท่านเสนาบดีฝ่ายซ้ายตีความได้ทันทีว่า เรื่องนี้เป็นฝีมือของปู๋เยี่ยโหวท่านเสนาบดีฝ่ายซ้ายด่าทออยู่ในใจ “เจ้าตัวสร้างปัญหา ฮ่องเต้เจาหยวนสิ้นพระชนม์ไปแล้ว ยังมาทำลายพระศพให้เป็นแบบนี้ คิดจะโยนความผิดให้คนอื่นรึไง?”“โง่จริงๆ โง่ที่สุด!”ถึงแม้จะด่าทออยู่ในใจอย่างหนัก แต่สีหน้ากลับไม่แสดงออกเลยแม้แต่น้อยเขาพูดอย่างเคร่งขรึมว่า “ข้าได้ยินมาว่า หากคนเรามีบาปกรรมมากมาย เมื่อตายไป ร่างกายก็จะถูกทำลาย”“แต่เรื่องนี้ข้าแค่เคยได้ยินมา ไม่เคยเห็นมาก่อน”หลังจากพูดจบ เขาก็ถามปู๋เยี่ยโหวว่า “เมื่อครู่ เกิดอะไรขึ้นในท้องพระโรงหรือ?”เมื่อปู๋เยี่ยโหวได้ยินคำถามนี้ ก็รู้ทันทีว่าท่านเสนาบดีฝ่ายซ้ายรู้แล้วว่าสภาพของฮ่องเต้เจาหยวนที่เป็นแบบนี้เป็นฝีมือของเขาเขาลอบถอนหายใจเบาๆ นี่แหละจิ้งจอกเฒ่าตัวจริง ไม่มีอะไรปิดบังท่านเสนาบดีฝ่ายซ้ายได้เลย โชคดีที่ท่านเสนาบดีฝ่ายซ้ายอยู่ข้างเดียวกับเขาปู๋เยี่ยโหวตอบทันทีว่า “หลังจากที่อ๋องผู้สำเร็จราช

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 935

    ปู๋เยี่ยโหวหวาดกลัวยิ่งกว่าเดิม จึงลงมือทุบกระดูกมือและกระดูกขาของฮ่องเต้เจาหยวนจนแหลกละเอียดฮ่องเต้เจาหยวน “……”ฮ่องเต้เจาหยวน “!!!!!!”ไอ้เจ้าสุนัขปู๋เยี่ยโหวมันกล้าดีอย่างไรมาทำลายศพของเขา! เขาจะฆ่ามัน!พลังวิญญาณของเขาพลุ่งพล่านถึงขีดสุดอย่างฉับพลันแต่เขายังไม่ทันได้กลายร่างเป็นวิญญาณร้าย ก็ถูกพลังมังกรซัดกระแทกลงพื้นอีกครั้งและเนื่องจากพลังวิญญาณของเขาแข็งแกร่งเกินไป พลังมังกรจึงตัดสินว่าเขาเป็นวิญญาณร้ายที่อันตรายอย่างยิ่งในการรับมือกับวิญญาณร้ายที่อันตรายเช่นนี้ พลังมังกรจะแสดงพลังอย่างรุนแรงและเด็ดขาด โดยการตรงเข้าไปฉีกวิญญาณของฮ่องเต้เจาหยวนจนแตกเป็นเสี่ยงๆฮ่องเต้เจาหยวน “!!!!!!”เขายังไม่ทันได้เข้าใจสถานการณ์ ก็วิญญาณแตกสลายไปแล้วไม่ว่าเขาจะมีความโกรธหรือความไม่ยินยอมมากแค่ไหน ก็ไม่มีประโยชน์อะไรอีกแล้วตอนที่เขายังมีชีวิตอยู่ เขาคือฮ่องเต้ ดังนั้นพลังมังกรจึงคุ้มครองเขาแต่หลังจากเขาตาย วิญญาณของเขาก็ไม่ต่างจากวิญญาณตนอื่นๆเพราะทันทีที่ฮ่องเต้เจาหยวนสิ้นพระชนม์ เขาก็ไม่ใช่ฮ่องเต้อีกต่อไป เมื่อวิญญาณของเขากลายเป็นวิญญาณร้าย มันก็จะถูกพลังมังกรโจมตียิ่งไป

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 934

    ถึงปู๋เยี่ยโหวจะใจกล้าบ้าบิ่น แต่เขาก็กลัวผีที่เขาไม่กลัวเฉี่ยวหลิงมากนัก เพราะรู้จักกันดีแล้ว รู้ว่านางจะไม่ทำร้ายเขาแต่ฮ่องเต้เจาหยวน ไม่ว่าจะมองอย่างไรก็ไม่ใช่ผีที่ดีแน่ ๆ เพราะตอนยังมีชีวิตอยู่ก็ไม่ใช่คนดีอะไรปู๋เยี่ยโหวไม่พูดพร่ำทำเพลง คว้าอิฐที่วางอยู่ข้างๆ ซึ่งเตรียมไว้สำหรับรองฐานโลงศพ ฟาดลงไปที่หัวของฮ่องเต้เจาหยวนอย่างจังในจังหวะที่ฮ่องเต้เจาหยวนกำลังจะลุกขึ้นนั่งนั้น พระองค์ตั้งใจจะร้องเรียกขุนนางที่เฝ้าอยู่ด้านหน้าพระองค์คิดว่าหากบอกขุนนางเหล่านั้นว่าถูกจิ่งโม่เยี่ยกักขังไว้ในวัง ขุนนางคนสนิทของพระองค์จะต้องออกมาต่อต้านอย่างแน่นอนก่อนหน้านี้พระองค์ไม่สามารถติดต่อกับขุนนางเหล่านี้ได้ เมื่อพระองค์สิ้นพระชนม์ ขุนนางเหล่านี้จะต้องเข้าวังพระองค์ยังทรงทราบอีกว่าขุนนางเหล่านั้นเฝ้าอยู่ข้างนอก เพียงแค่พระองค์ร้องเสียงดัง พวกขุนนางก็จะได้ยินทันทีแผนการของพระองค์ค่อนข้างยอดเยี่ยม ในทางปฏิบัติแล้วนี่เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการส่งข่าวสารออกไปหากพระองค์สามารถส่งข่าวสารออกไปได้ แม้ว่าจะสิ้นพระชนม์หลังจากนั้น ก็ยังสามารถสร้างความลำบากให้กับจิ่งโม่เยี่ยได้ไม่น้อยหลังจากนี้

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 933

    สิ่งที่เกิดขึ้นกับองค์ฮ่องเต้พระองค์ก่อนจะไม่เกิดขึ้นซ้ำรอยกับเขาอีกถึงแม้ว่าตอนนี้เขายังไม่ได้ขึ้นครองราชย์ แต่บัลลังก์ของเขาก็มั่นคงแล้วเขาอยากจะแบ่งปันเรื่องนี้กับนางและบอกนางว่าต่อไปนี้ไม่ว่านางจะอยู่ที่ไหน นางก็สามารถทำตามอำเภอใจได้ทุกอย่าง เขาจะคอยคุ้มครองนางเองจิ่งโม่เยี่ยมีหลายสิ่งหลายอย่างที่ต้องทำในเวลานี้ ทว่าตอนนี้สิ่งเดียวที่เขาอยากทำคือไปพบนางเขาไม่อยากฝืนใจตัวเอง จึงหันหลังกลับจะเดินออกไป แต่ถูกปู๋เยี่ยโหวขวางไว้เขามองปู๋เยี่ยโหวด้วยสายตาเย็นชา แต่ปู๋เยี่ยโหวกลับไม่กลัวเขาเลยสักนิด “คืนนี้ข้าเป็นผู้มีคุณูปการอย่างใหญ่หลวง เจ้าอย่ามาจ้องข้าแบบนั้นนะ!”จิ่งโม่เยี่ยไม่เพียงแค่อยากจ้องเขา เขายังอยากจะต่อยอีกฝ่ายด้วย จิ่งโม่เยี่ยรู้ว่าทำไมปู๋เยี่ยโหวถึงขวางเขาไว้ในเวลาแบบนี้ปู๋เยี่ยโหวถอนหายใจด้วยความรู้สึกเหนื่อยหน่าย “อีกไม่นานเจ้าก็จะเป็นฮ่องเต้แล้ว ต่อไปนี้ข้าคงพูดกับเจ้าแบบนี้ไม่ได้อีก”“ดังนั้นข้าต้องรีบคว้าโอกาสสุดท้ายก่อนที่เจ้าจะขึ้นครองราชย์ เพื่อสัมผัสความรู้สึกของการได้ยั่วโมโหเจ้า”จิ่งโม่เยี่ยคิดว่าเขาเป็นบ้า!ปู๋เยี่ยโหวมองเขาแล้วพูดว่า “ข้ารู

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 932

    เมื่อเสนาบดีกรมพิธีได้ยินเช่นนั้น ก็เข้าใจแจ่มแจ้งในทันทีคำพูดนี้แปลได้ว่า ฮ่องเต้เจาหยวนเป็นฮ่องเต้ที่ถูกปลดออกจากตำแหน่ง ในเมื่อตายไปแล้วก็จบ ทุกอย่างจัดการอย่างเรียบง่ายก็เพียงพอ แค่อย่าให้ใครหาเรื่องจับผิดได้จิ่งโม่เยี่ยคือฮ่องเต้พระองค์ใหม่ เรื่องของพระองค์ต่างหากที่สำคัญที่สุดหลังจากที่เขาได้แนวทางแล้ว ก็เรียกขุนนางกรมพิธีมาสั่งการเรื่องสำคัญดังกล่าวเมื่อฮ่องเต้เจาหยวนกลายเป็นเพียงสามัญชนธรรมดา ก็ไม่คู่ควรที่จะนอนในโลงศพไม้แกะสลักฝังทองคำ ควรนอนในโลงศพธรรมดาๆ เท่านั้นจิ่งโม่เยี่ยยืนอยู่หน้าพระที่นั่ง มองขันทีนำศพของฮ่องเต้เจาหยวนเข้าไปวางในโลงศพธรรมดาๆ ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเย้ยหยัน และไม่ได้ขัดขวางเมื่อหัวหน้ากรมพิธีการเห็นปฏิกิริยาของพระองค์ ก็ชื่นชมท่านเสนาบดีฝ่ายซ้ายในใจ ท่านเสนาบดีฝ่ายซ้ายช่างเก่งกาจจริงๆ!เพียงคำพูดเดียวของจิ่งโม่เยี่ย กลับตีความได้มากมายขนาดนี้ฮองเฮาและเหล่าองค์ชายยืนเฝ้าอยู่ด้านข้าง เมื่อเห็นภาพนี้ นางก็รีบออกมาขัดขวางทันที “ฝ่าบาทเป็นถึงฮ่องเต้ของแคว้น พวกเจ้าจะใช้โลงศพแบบนี้ฝังพระองค์ได้อย่างไร!”จิ่งโม่เยี่ยกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 931

    เสนาบดีฝ่ายซ้ายเอ่ยเสียงเรียบว่า “ถึงแม้ทุกคนจะได้อ่านราชโองการฉบับนี้แล้ว แต่ข้าคิดว่าควรจะมีพิธีรีตองสักหน่อย”“ถ้าอย่างนั้นข้าจะอ่านราชโองการฉบับนี้อีกครั้ง”เหล่าขุนนางที่ลุกขึ้นยืนแล้วก็คุกเข่าลงอีกครั้งฮองเฮาและจิ่งสือเยี่ยนเดิมทีไม่อยากคุกเข่า แต่ในเวลานี้ก็จำต้องคุกเข่าลงอีกครั้งการแย่งชิงอำนาจราชบัลลังก์ ผู้ชนะคือราชา ผู้แพ้คือกบฏแม้ไม่มีราชโองการฉบับนี้ จิ่งโม่เยี่ยก็ควบคุมสถานการณ์ในเมืองหลวงได้แล้ว เขาคือราชาที่แท้จริงต่อให้จิ่งสือเยี่ยนจะใช้เล่ห์เหลี่ยมแค่ไหน เมื่อเผชิญหน้ากับพลังอำนาจที่แท้จริง ก็ไม่มีค่าให้เอ่ยถึงเลยเมื่อมีราชโองการฉบับนี้ การขึ้นครองราชย์ของเขาก็ยิ่งชอบธรรมมากขึ้นเมื่อมีความชอบธรรมนี้แล้ว ไม่ว่าเขาจะทำอะไร ก็ถือว่ามีเหตุผลรองรับช่วงเวลาต่อมา พวกเขาก็ปรึกษาหารือรายละเอียดการขึ้นครองราชย์ของจิ่งโม่เยี่ยจิ่งโม่เยี่ยไม่มีความหน้าไหว้หลังหลอกเหมือนจิ่งสือเยี่ยน เดิมทีเขาก็เป็นพระโอรสเพียงองค์เดียวของอดีตฮ่องเต้ เป็นรัชทายาทอันดับหนึ่ง ดังนั้นเขาจึงไม่จำเป็นต้องบ่ายเบี่ยงหรือเสแสร้งเขาไม่เคยปิดบังความตั้งใจที่จะเป็นฮ่องเต้ต่อหน้าผู้คนเพร

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 930

    มือของจิ่งสือเยี่ยนกำแน่นเป็นหมัด เขาไม่คิดเลยว่าจิ่งโม่เยี่ยจะรู้มาตลอด!เขาคิดว่าตัวเองทำได้ดีมาก ทุกคนต่างก็ชมว่าเขาเป็นคนจิตใจดีมีเมตตาแม้กระทั่งมีคนเตือนเขาว่าอย่าไปสนิทสนมกับจิ่งโม่เยี่ยมากเกินไป เดี๋ยวจะโดนฮ่องเต้เจาหยวนพาลลงโทษเขาคิดว่าตัวเองหลอกทุกคนได้หมด แต่ไม่นึกเลยว่า ขนาดจิ่งโม่เยี่ยที่เป็นเป้าหมายของเขายังล่วงรู้ความจริงเลยแบบนี้ก็อธิบายได้แล้วว่าทำไมจิ่งโม่เยี่ยถึงเย็นชาใส่เขาตลอด ทำท่าเหมือนไม่สนใจใยดีก่อนหน้านี้เขาคิดว่าเป็นเพราะนิสัยของจิ่งโม่เยี่ย แต่ตอนนี้เขารู้แล้วว่า จิ่งโม่เยี่ยมองเขาออกแบบทะลุปรุโปร่งตั้งนานแล้วความรู้สึกแบบนี้ทำให้เขารู้สึกเหมือนตัวเองเป็นแค่ตัวตลกที่ถูกจิ่งโม่เยี่ยปั่นหัวเล่นเขาขบฟันแน่นและเอ่ยว่า “ท่านพี่สาม ท่าน…”“เจ้าอยากจะบอกว่าข้าใจร้ายเกินไปสินะ รู้ทั้งรู้แต่ไม่ยอมพูด” จิ่งโม่เยี่ยยิ้มอย่างเย็นชา “เจ้าอยากจะเสแสร้งเป็นคนดี ข้าจะไปขัดขวางความสุขของเจ้าได้อย่างไร”จิ่งสือเยี่ยน “……”เขาถึงกับพูดไม่ออก เพราะคำพูดของจิ่งโม่เยี่ยเหมือนมีดคมๆ กรีดหน้ากากของเขาจนย่อยยับสุดท้ายจิ่งโม่เยี่ยสรุปให้จิ่งสือเยี่ยนฟังว่า “เอาจริงๆ

DMCA.com Protection Status