Share

บทที่ 573

Author: ดอกถังร่วงหล่น
ปู๋เยี่ยโหวเอ่ยอย่างมีความสุข “วันนี้ข้าย้ายที่อยู่อาศัย จึงอยากเชิญทุกคนมาทานอาหาร ใครที่อยู่ด้วยล้วนมีส่วนแบ่ง”

รองหัวหน้าศาลต้าหลี่ “......”

เขาไม่เคยเห็นใครเข้ามาในศาลต้าหลี่แล้วเป็นแบบนี้มาก่อนเลย

รองหัวหน้าศาลต้าหลี่คิดจะขัดขวาง แต่ปู๋เยี่ยโหวมีฐานะสูงกว่าเขาอย่างชัดเจน แล้วข้างกายยังมีองครักษ์และองครักษ์ลับอีก คิดจะลอบทำร้ายเขาเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย

ไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่ข้อหาของปู๋เยี่ยโหวเป็นเพียงการต้องสงสัยว่าฆ่าคน ยังไม่มีการตัดสินโทษ จึงไม่สามรถแตะต้องอะไรปู๋เยี่ยโหวได้

ดูจากการวางท่าของปู๋เยี่ยโหว หากปล่อยให้เขาพักอยู่ที่ศาลต้าหลี่จริงๆ บอกไม่ได้เลยว่าเขาจะทำเรื่องอะไรออกมาอีก

รองหัวหน้าศาลต้าหลี่กล่าวว่า “ข้าเพียงเชิญท่านโหวมาช่วยจัดการคดีความ หลังสอบถามเรียบร้อยแล้วท่านโหวสามารถกลับออกไปได้”

ปู๋เยี่ยโหวแกะเมล็ดแตงแล้วเอ่ยว่า “ไม่เห็นจะมีอะไรต้องสอบสวนเลย ข้าฆ่าคนจริงๆ ยินดีรับโทษตามที่กฎหมายกำหนด”

“หาคุกที่สะอาดสะอ้านให้ข้าสักหน่อยล่ะ ข้างในนั่นห้ามมีคนอื่นอยู่ด้วย เพราะว่าคนพวกนั้นอาจจะคิดลอบสังหารข้าได้”

“เอ๊ะ...ทำไมเจ้าทำหน้าแบบนั้นล่ะ? เจ้าอย่าบอกนะว่าศาลต้าหล
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 574

    เขาจ้องมองหลุมศพตรงหน้าแน่นิ่ง “ในเมื่อเป็นอย่างนั้น เซียวฉี่หรงเจ้าสารเลวคนนั้นจะมาขุดหลุมศพของนางทำไมล่ะ?”เซียวฉี่หรงคือชื่อของปู๋เยี่ยโหววันนี้ตอนที่เขาทราบข่าวจากสายสืบ บอกว่าหลังจากปู๋เยี่ยโหวฆ่าคนจากแคว้นซีฉู่แล้วก็มาขุดเปิดหลุมศพแห่งหนึ่ง จากนั้นก็นำศพของผู้หญิงคนหนึ่งมาฝังเอาไว้พอเขาได้ยินตำแหน่งที่แน่ชัดของหลุมศพ ก็พบว่ามันคือบริเวณเดียวกันกับหลุมศพของเฟิ่งชูอิ่ง ดังนั้นเขาถึงได้หน้าเปลี่ยนสีฉับพลันทว่าตอนที่เขาทราบข่าวก็ยังไม่แน่ใจมากนัก ดังนั้นเขาจึงไม่คิดจะหาเรื่องบีบคั้นปู๋เยี่ยโหวหลังจากปู๋เยี่ยโหวเปิดเผยว่าคนที่มาจากแคว้นซีฉู่เกี่ยวข้องกับเฟิ่งชูอิ่ง เขาก็สัมผัสได้ว่าคำพูดของปู๋เยี่ยโหวหกส่วนน่าจะเป็นความจริงอีกอย่างเขาก็รู้สึกปู๋เยี่ยโหวเป็นอย่างดี จึงตรวจพบความประหม่าของปู๋เยี่ยโหวอย่างชัดเจนเพราะว่าท่าทางประหม่าของปู๋เยี่ยโหวนั่นแหละ ทำให้เขาคิดว่าปู๋เยี่ยโหวอาจจะขุดหลุมศพของเฟิ่งชูอิ่งจริงๆและเพราะเขาตระหนักได้ถึงเรื่องนี้ ดังนั้นจึงละทิ้งหน้าที่ภาระงานทั้งหมดแล้วมุ่งหน้ามาตรวจสอบว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่พอเขามาถึงก็พบความผิดปกติทันทีความจริงแล้วหากไม่กี่วัน

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 575

    ฉินจื๋อเจี้ยนตกตะลึงและเอ่ยถามว่า “ทำไมข้างในถึงไม่มีร่างของพระชายาล่ะ?”จิ่งโม่เยี่ยตอบเสียงทุ้ม “เพราะว่านางยังมีชีวิตอยู่ เซียวฉี่หรงรู้ว่านางอยู่ที่ไหน”ฉินจื๋อเจี้ยนสบถว่า “เขาบ้าไปแล้วหรือ? ทำไมถึงทำเรื่องแบบนี้ได้!”“เขารู้ทั้งรู้ว่าท่านอ๋องรักปักใจต่อพระชายามากแค่ไหน หลังจากพระชายาทรงจากไป ท่านอ๋องต้องเจ็บปวดมากแค่ไหน ทำไมเขาถึงยังปกปิดท่านอ๋องอีก!”“ไม่ได้การแล้ว ข้าต้องไปเชือดเขาทิ้ง!”เขาหมุนตัวเตรียมจะจากไป จิ่งโม่เยี่ยยังคงยืนมองโลงศพแล้วเอ่ยว่า “เรื่องนี้น่าจะเป็นความต้องการของชูอิ่ง”เขาพูดถึงตรงนี้ก็หัวเราะเบาๆ “ในใจของนางไม่เคยมีข้าอยู่เลย นางคิดจะหนีห่างจากข้าตลอด”“หากเรื่องคราวนี้หากมิใช่เพราะความสามารถพิเศษบางอย่างของนาง เกรงว่านางจะตายไปแล้ว”เขาหันมองฉินจื๋อเจี้ยน “ข้าเกือบทำร้ายนางจนตาย ยังจะมีหน้าไปโทษนางได้อย่างไร?”ฉินจื๋อเจี้ยนเห็นท่าทางโศกเศร้าในแววตาของเขา ทว่าหลังจากความโศกเศร้าอย่างถึงที่สุดเหล่านั้นสลายไปแล้ว กลับแฝงไว้ด้วยความดีใจอย่างบ้าคลั่งเขาได้ยินจิ่งโม่เยี่ยเอ่ยว่า “ก่อนหน้านี้ข้าเคยคิดว่าหากนางมีชีวิตอยู่ก็คงดี ข้าไม่มีความปรารถนาอื่นแล้ว”“แต่

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 576

    ชีวิตของจิ่งโม่เยี่ยนั้นเต็มไปด้วยความเด็ดขาด ไม่เคยมีความลังเลเช่นนี้มาก่อนเขารู้ดีว่าถ้าเขาหานางพบ นางอาจจะไม่ยอมพบเขา แต่เขาก็ไม่สามารถควบคุมความคิดที่จะไปหานางได้เขาเตือนตัวเอง ว่าหลุมศพที่ว่างเปล่านี้หมายถึงนางยังมีชีวิตอยู่ ไม่ต้องไปหาหรอก แค่รู้ว่านางยังมีชีวิตอยู่ก็พอนางไม่เคยชอบเขา ถ้าเขาหานางพบ โดยมีเรื่องราวในอดีตอยู่ เขาก็จะยิ่งเพิ่มความเกลียดชังต่อนางมากขึ้นเสียงอีกเสียงในใจของเขากลับพูดว่า “ถึงรู้ว่านางยังมีชีวิตอยู่ อย่างน้อยก็ต้องยืนยันให้ได้”“ไม่ต้องพูดถึงอย่างอื่น อย่างน้อยก็ต้องได้เห็นนางที่ยังมีชีวิตอยู่ด้วยตาของเขา”สองเสียงนี้ต่อสู้กันในใจของเขาท้ายที่สุด เสียงที่สองก็ชนะ เขาบอกตัวเองว่า “แค่ยืนยันว่านางยังมีชีวิตอยู่ แค่ได้เห็นนางสักครั้งก็พอ”จิ่งโม่เยี่ยยืดมือไปกดที่กลางหน้าผาก สูดหายใจลึก ๆ แล้วลุกขึ้นยืนทันทีฉินจื๋อเจี้ยนมองไปที่เขา เขาจึงเอ่ยเสียงต่ำว่า “ข้าจะออกไปเดินคนเดียว พวกเจ้าห้ามตามมา”ฉินจื๋อเจี้ยนมีความกังวลจึงกล่าวว่า “แต่…”จิ่งโม่เยี่ยรำคาญจึงขัดเขา “ไม่มีแต่ ถ้าหากเจอฆาตกร ข้าสามารถรับมือได้เอง”ฉินจื๋อเจี้ยนรู้ว่าเขามีฝีมือส

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 577

    เฟิ่งชูอิ่งขมวดคิ้วเล็กน้อย นับตั้งแต่การบุกเข้ามาของมือสังหารรอบก่อน นางก็ระมัดระวังตัวมากขึ้นด้วยนิสัยของปู๋เยี่ยโหวคนนั้น คงมีคนในเมืองหลวงอยากจะฆ่าเขาเยอะเลยล่ะเฟิ่งชูอิ่งคิดว่าความรู้สึกก่อนหน้านี้ไม่ว่าจะเป็นการคิดไปเองหรือไม่ นางก็ควรจะระวังเอาไว้ก่อน ดังนั้นจึงหยิบยันต์สองแผ่นออกมาถือไว้ขาของนางไม่หายดีสักที ในยามปกตินางจึงต้องนั่งรถเข็น หากอยากจะเดินก็ต้องใช้ไม้เท้าค้ำยันช่วยนางใช้มือคลำๆ และหยิบไม้เท้าออกมาจากข้างเก้าอี้ พยายามลุกขึ้นยืนให้ยิ่งแล้วใช้ไม้เท้าประคองตัวเองเดินไปข้างหน้านางเดินไปด้วยตะโกนเรียกไปด้วย “เฉี่ยวหลิง!”นางในตอนนี้หันไปอีกทางแล้ว จิ่งโม่เยี่ยที่ซ่อนตัวอยู่หลังต้นไม้จึงปรากฏตัวออกมา เขามองเห็นนางใช้ไม้เท้าประคองตัวเองเดินอย่างยากลำบาก ร่างกายก็แข็งทื่อไปทันทีเฟิ่งชูอิ่งถูกเผาตายเพราะเพลิงที่เทียนซือเป็นคนวาง แต่ขาของนางเขาเป็นคนทำให้หักเองจิ่งโม่เยี่ยคิดถึงตอนแรกที่รู้ว่านาง ‘ตาย’ เขาเห็นว่าแผลที่ขาของนางเลวร้ายอย่างมาก ยามเห็นนางเดินอย่างทุลักทุเลในยามนี้ เขากลับรู้สึกว่าไม่อาจให้อภัยตัวเองได้จิ่งโม่เยี่ยคำนวณระยะเวลาในใจคร่าวๆ นางได้รับบาดเจ็บม

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 578

    เฟิ่งชูอิ่งในครั้งนี้ที่ล้มลงได้ปรับท่าทางของตัวเองเพื่อหลีกเลี่ยงการบาดเจ็บที่ขา แต่แขนกลับมีรอยถลอกรอยถลอกเล็กน้อยแค่นี้ นางจึงไม่ได้ใส่ใจมากนักนางยิ้มและพูดว่า “ข้าเรียกนางหลายครั้ง นางไม่ตอบ ข้าก็หิวน้ำมากเลยคิดจะไปตักน้ำเอง”“ใครจะรู้ว่าตอนนี้ข้าจะไร้ประโยชน์ขนาดนี้ แค่จะตักน้ำดื่มยังทำให้ตัวเองบาดเจ็บได้”เฉี่ยวหลิงตบหัวตัวเองและพูดว่า “เมื่อครู่นี้ข้าอยู่ในครัวเลยไม่ได้ยิน ถ้าครั้งหน้าข้าไม่มาทันเวลา ท่านก็ช่วยรอข้าหน่อยนะ”“ท่านไม่ใช่คนไร้ประโยชน์สักหน่อย เพียงแค่บาดเจ็บเท่านั้น รอให้ท่านหายดี ท่านจะเป็นสตรีที่เก่งกาจที่สุดในโลกเหมือนเดิม”เฟิ่งชูอิ่งถอนหายใจ “ข้าก็ไม่สามารถพึ่งพาเจ้าได้ทุกเรื่อง อีกอย่าง การขยับตัวบ้างก็เป็นเรื่องดีต่อร่างกาย”“ถ้าข้านอนอยู่เฉยๆ ทุกวัน รอให้ขาหายดี ข้ากลัวว่าตัวเองจะพิการของจริงน่ะสิ”เฉี่ยวหลิงปลอบใจนาง “ท่านอย่าเพิ่งกังวล อาการบาดเจ็บของท่านมีความพิเศษนิดหน่อย แต่ตอนนี้ก็กำลังค่อยๆ ดีขึ้น”เฟิ่งชูอิ่งถอนหายใจอีกครั้ง “เจ้าพูดถูก แต่ทุกวันนี้ข้าก็ทำแค่ได้นอนหรือนั่ง มันน่าเบื่อจริงมากๆ”“ข้าอ่านหนังสือที่พ่อหามาให้เกือบหมดแล้ว ถ้า

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 579

    เพราะว่าเหมยตงยวนมีความเร็วมาก แม้ว่าจะมีบรรยากาศจิตสังหารบนกระบี่ แต่ในช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดกลับมีพลังที่มองไม่เห็นค่อยๆ ลดทอนความตั้งใจฆ่าของเขาไปจิ่งโม่เยี่ยสังเกตเห็นความผิดปกติ เหมยตงยวนไม่ใช่มนุษย์ยิ่งเขามองเหมยตงยวนมากเท่าไหร่ เขายิ่งรู้สึกคุ้นเคย เหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อนแม้ว่าเขาจะเคยพบเหมยตงยวนในวัยเด็ก แต่ก็ไม่ได้มีความทรงจำลึกซึ้งเหมือนกับปู๋เยี่ยโหวที่ถูกเหมยตงยวนช่วยชีวิตตอนที่เขาเจอเหมยตงยวน เขาอยู่ในฐานะลูกชายคนเดียวของฮ่องเต้พระองค์ก่อน เป็นว่าที่ฮ่องเต้ในอนาคต เหมยตงยวนเป็นคนที่พบเขาในหมู่ขุนนางตอนนั้นเขายังเด็กและมีตำแหน่งสูงส่ง จึงไม่ได้ใส่ใจเหมยตงยวนมากนัก ทำให้ไม่สามารถจดจำได้ในทันทีจิ่งโม่เยี่ยใช้กระบี่ขับไล่เหมยตงยวนและถามว่า “ท่านคือใคร?”เพราะว่าเฟิ่งชูอิ่งมีเฉี่ยวหลิงติดตามอยู่ เขาจึงรู้ว่าเหมยตงยวนไม่ใช่มนุษย์ และคิดว่าเหมยตงยวนควรจะเป็นวิญญาณร้ายที่เฟิ่งชูอิ่งเพิ่งรับเข้ามาถ้าเป็นคนของเฟิ่งชูอิ่ง ก็ไม่จำเป็นต้องต่อสู้กันอย่างดุเดือดเช่นนี้เหมยตงยวนหัวเราะเยาะ “รอให้กระบี่ของข้าสอนให้เจ้ารู้จักความเป็นมนุษย์ก่อน เจ้าถึงจะมีสิทธิ์ถามชื่อของข

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 580

    ดังนั้น ณ จุดนี้ เขาก็มีแต่ต้องยอมรับการโดนทุบตี ไม่มีทางที่จะตอบโต้ได้เลยเพราะเมื่อเข้าใกล้แล้ว จิ่งโม่เยี่ยก็จำเหมยตงยวนได้ในที่สุด “ท่านคือเจ้าสำนักลี้ลับเหมยตงยวนใช่ไหม?”เหมยตงยวนพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ท่านอ๋องทรงความจำดีจริง ๆ ถึงสามารถจำข้าได้”เมื่อจิ่งโม่เยี่ยจำเหมยตงยวนได้เขาก็รู้สึกตกใจอย่างมาก และทันใดนั้นก็คิดถึงคำพูดที่เฟิ่งชูอิ่งเคยพูดกับเขาหลินชูเจิ้งบอกเฟิ่งชูอิ่งว่าเหมยตงยวนคือพ่อของนางเหมยตงยวนมีความสามารถขนาดนี้ เฟิ่งชูอิ่งได้รับบาดเจ็บและตอนนี้อ่อนแอมาก ไม่สามารถควบคุมเหมยตงยวนได้ดังนั้นจึงเป็นไปได้ว่าเหมยตงยวนยินดีที่จะอยู่เคียงข้างเฟิ่งชูอิ่งและสิ่งที่ทำให้เหมยตงยวนซึ่งเป็นวิญญาณที่น่ากลัวอยู่เคียงข้างเฟิ่งชูอิ่งได้ ก็มีแต่ความเต็มใจอย่างแท้จริงความเต็มใจเช่นนี้ก็เป็นเพราะความสัมพันธ์ทางสายเลือดในสถานการณ์เช่นนี้ สิ่งที่พวกเขาคิดว่าเป็นไปไม่ได้ที่สุด กลับกลายเป็นความจริงจิ่งโม่เยี่ยปกป้องใบหน้าของเขาและพูดว่า “ท่านคือพ่อของชูอิ่งใช่ไหม?”เหมยตงยวนไม่รู้สึกแปลกใจที่จิ่งโม่เยี่ยเดาออกถึงความสัมพันธ์ของเขากับเฟิ่งชูอิ่งแววตาของเขาเย็นชา “ถูกต้อง

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 581

    “ไปให้พ้น!” เหมยตงยวนพูดแทรกอย่างดุดัน “ถ้าเจ้ามีนางอยู่ในใจจริงๆ แม้จะอารมณ์ร้อนแค่ไหนก็ต้องสามารถควบคุมอารมณ์ในขณะนั้นได้”“ถ้ารักใครสักคนจริงๆ เจ้าจะไม่มีวันทำให้นางได้รับความทุกข์แม้แต่น้อย ยิ่งไม่สามารถขังนางไว้ในโรงเก็บฟืนแล้วสั่งห้ามไม่ให้นางออกมา”“ถ้านางเป็นแค่ผู้หญิงธรรมดา คงตายไปนานแล้ว!”“เพื่อที่จะมีชีวิตอยู่ นางถึงกับใช้วิชาต้องห้าม ทำให้ขานางไม่หายดีสักที ต้องทนทุกข์ทรมานมากมาย!”“ความเจ็บปวดที่นางต้องทนรับ ไม่ว่าเจ้าจะเสียใจสักแค่ไหนหรือพูดอะไรออกมา ก็ไม่สามารถลบล้างได้หรอกนะ?”“ถ้าข้าสามารถฆ่าเจ้าได้ หากข้าฆ่าเจ้าได้จริงๆ ข้าคงฆ่าเจ้าไปนานแล้ว!”จิ่งโม่เยี่ยดวงตาร้อนผ่าว ในที่สุดเขาก็เข้าใจว่าทำไมนางถึงบาดเจ็บอยู่นานแต่ไม่หายดีสักทีเพราะนางใช้วิชาต้องห้ามนี่เอง ทำให้อาการบาดเจ็บที่ขาไม่หายสักทีเขาหมอบหน้าลงพูดว่า “ท่านพ่อตาพูดถูก ความเจ็บปวดที่ข้าทำให้นางนั้นต้องทนรับนั้น ไม่สามารถลบล้างได้ด้วยคำพูดไม่กี่คำ”“ข้าก็ไม่คิดจะลบล้างด้วยวิธีการแบบนี้ ข้าแค่ขอโอกาสจากท่านพ่อตา ให้ข้าได้ดูแลนางอย่างดี…”“ไปให้พ้น!” เหมยตงยวนพูดแทรกอีกครั้ง “เจ้ารู้ไหมว่าทำไมข้าถึง

Latest chapter

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 997

    เฟิ่งชูอิ่งพูดต่อว่า “แต่ตอนนี้ข้าไม่เหลือทั้งบิดามารดาแล้ว เจ้าห้ามรังแกข้าเชียวนะ!”จิ่งโม่เยี่ยยกมือสาบานต่อฟ้าทันที “หากข้าทำไม่ดีกับเจ้าในภายภาคหน้า ขอให้สวรรค์ลงทัณฑ์ส่งฟ้ามาผ่าให้ตาย!”เฟิ่งชูอิ่งหัวเราะ “เรื่องฟ้าผ่าไม่ต้องถึงมือสวรรค์หรอก ข้าก็ทำได้”จิ่งโม่เยี่ย “......”เขาเกือบลืมไปแล้วว่านางวาดยันต์ได้เก่งมาก ตราบใดที่นางต้องการ ใช้ฟ้าผ่าเขาก็ไม่ใช่เรื่องยากเฟิ่งชูอิ่งเห็นท่าทางของเขาก็แอบหัวเราะเบาๆ เอื้อมมือไปกอดแล้วซุกศีรษะพิงอกเขา กล่าวว่า “ข้าเชื่อใจท่าน”“ตอนนี้เราทั้งสองล้วนไม่มีพ่อแม่แล้ว ชีวิตที่เหลืออยู่ก็มีเพียงกันและกัน”“ต่อไปข้าจะดูแลเจ้าอย่างเต็มที่ จะไม่ระแวงเจ้าอีก ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ข้าจะเชื่อใจเจ้า”หัวใจที่ตึงเครียดของจิ่งโม่เยี่ยก็ผ่อนคลายลงในทันทีเขากอดนางตอบ “กาลเวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าการตัดสินใจของเจ้าถูกต้อง”เขาโน้มตัวลงจูบหน้าผากนางเบาๆ เอ่ยอย่างอ่อนโยนว่า “ข้าจะทุ่มเททุกอย่างเพื่อรักเจ้า”เมื่อเฟิ่งชูอิ่งได้ยินคำพูดนี้ หัวใจก็สั่นไหว นางช้อนตามองขึ้นไปที่เขา ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความอ่อนโยนนางรู้ว่าคำพูดของเขาในตอนนี้ล้วนมาจ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 996

    ก่อนหน้านี้เขาไม่รู้ฐานะของจิ้งจอกสือซานเหนียง แต่ตอนนี้เขาพอจะเข้าใจได้หลังจากได้ยินบทสนทนาระหว่างจิ้งจอกสือซานเหนียงและเฟิ่งชูอิ่งจิ้งจอกสือซานเหนียงเห็นสีหน้าเคร่งขรึมของเขาก็หัวเราะเบาๆ ก่อนจะหันหลังเดินจากไปเฟิ่งชูอิ่งถามว่า “เจ้าจะไปไหน? ข้ายังมีเรื่องอยากจะถามเจ้าอีกมาก”จิ้งจอกสือซานเหนียงตอบว่า “ข้าจะไปหาที่ขับไล่พลังชั่วร้ายออกจากร่างกาย พอขับไล่เสร็จแล้วข้าจะกลับมาหาเจ้า”ตลอดหลายปีที่ผ่านมา นางฝึกฝนวิชาสายชั่วร้ายมากมาย ทำให้พลังชั่วร้ายในร่างกายมีมากเกินไป หากอยู่ใกล้ใครนานๆ จะมีผลกระทบต่อคนรอบข้างเฟิ่งชูอิ่งจึงเตือนนางว่า “เจ้าอย่าผิดคำพูดล่ะ ข้าจะรอเจ้ากลับมา!”จิ้งจอกสือซานเหนียงโบกมือแล้วบอกว่า “วางใจเถอะ ข้าจะกลับมาแน่นอน”หลังจากนางเดินออกไปไกลแล้ว เฟิ่งชูอิ่งก็ถอนหายใจยาวๆ และเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นหลังจากแยกทางกันให้จิ่งโม่เยี่ยฟังหลังจากที่จิ่งโม่เยี่ยได้ยินเรื่องของเหมยตงยวน เขาก็เงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า “เพราะรักถลำลึกจึงไม่ยืนยาว เรื่องระหว่างท่านพ่อกับท่านแม่ช่างน่าเศร้า”เฟิ่งชูอิ่งกล่าวอย่างแผ่วเบาว่า “ดังนั้นการสื่อสารจึงสำคัญ ต่อไปไม่ว่าจะมี

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 995

    สิ้นเสียงของนาง สายฟ้าก็ฟาดลงมาอีกครั้ง ทำให้พลังที่พุ่งพล่านของเขาสลายไปจิ่งสือเยี่ยน “!!!!!!!!”หลังจากถูกอสนีบาตฟาดใส่อย่างต่อเนื่องห้าครั้ง ร่างวิญญาณของเขาก็จางลงอย่างมากแต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ยังไม่ตายเฟิ่งชูอิ่งถึงกับตกใจ ชีวิตของจิ่งสือเยี่ยนช่างแข็งแกร่งเสียจริง!นางอดสงสัยไม่ได้ว่าเขาจะกลายเป็นเทียนซือคนที่สอง และจะกลายเป็นภัยพิบัติในอนาคตนางกำลังจะม้วนแขนเสื้อขึ้นเพื่อเสกยันต์ใส่จิ่งสือเยี่ยนอีกครั้ง แต่กลับมีเงาร่างหนึ่งพุ่งเข้ามาแล้วกลืนเขาเข้าไปทั้งตัวเฟิ่งชูอิ่ง “!!!!!!”จิ้งจอกสือซานเหนียงเรอออกมาคำโตแล้วบอกว่า “เขาเป็นอาหารที่ข้าหมายตาไว้แต่แรก”“การปล่อยให้อาหารหลุดมือไป เป็นเรื่องที่ไม่อาจให้อภัยได้”เฟิ่งชูอิ่ง “......”นางเคยจินตนาการถึงความตายของจิ่งสือเยี่ยนไว้หลายแบบ แต่ไม่มีฉากจบแบบนี้อยู่เลยนางได้คงบอกได้แค่ว่าจิ้งจอกสือซานเหนียงเจ๋งสุดยอด!ขณะเดียวกันนั้นจิ่งโม่เยี่ยก็เดินเข้ามา เขาจ้องมองจิ้งจอกสือซานเหนียงด้วยความระแวดระวัง มือจับกระบี่เอาไว้ เตรียมพร้อมที่จะฟันจิ้งจอกสือซานเหนียงได้ทุกเมื่อเฟิ่งชูอิ่งบีบมือเขาเบาๆ ให้เขาผ่อนคลายจิ้งจอก

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 994

    แต่ทว่าคันธนูของจิ่งสือเยี่ยนเพิ่งจะยกขึ้นมา ก็มีลูกธนูที่เร็วกว่าพุ่งทะลุหัวใจของเขาในทันทีจิ่งสือเยี่ยนมองลูกธนูที่ปักอยู่บนอกด้วยความไม่อยากเชื่อ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองและเห็นดวงตาที่เย็นชาของจิ่งโม่เยี่ยเมื่อครู่นี้พวกเขาทั้งสองยังมีระยะห่างต่อกันอยู่แท้ๆ และตำแหน่งที่เขาหลบอยู่ก็เป็นมุมอับที่จิ่งโม่เยี่ยยิงมาไม่ถึงทว่าเพียงแค่อึดใจเดียว จิ่งโม่เยี่ยก็ปรับตำแหน่งได้อย่างรวดเร็วและยิงธนูทะลุหัวใจเขาได้ในนัดเดียวในตอนนี้จิ่งสือเยี่ยนกับจิ่งโม่เยี่ยไม่ได้อยู่ห่างกันมากนัก แต่ถ้าพูดคุยกันตามปกติก็คงไม่ได้ยินทว่าในเวลาเช่นนี้ จิ่งสือเยี่ยนกลับได้ยินเสียงของจิ่งโม่เยี่ย “คนที่กล้าทำร้ายชูอิ่งต้องตาย!”ก่อนหน้านี้จิ่งสือเยี่ยนคิดแค่ว่าจิ่งโม่เยี่ยดีต่อเฟิ่งชูอิ่งมาก ทว่าตอนนี้เขาเพิ่งได้รู้ซึ้งเรื่องบางอย่างเฟิ่งชูอิ่งไม่ใช่แค่จุดอ่อนของจิ่งโม่เยี่ย แต่เป็นทั้งชีวิตของเขาแต่มาเข้าใจเอาป่านนี้ก็สายไปแล้วในตอนนี้เฟิ่งชูอิ่งยังคงนอนคว่ำอยู่บนพื้นหิมะ นางได้ยินเสียงวัตถุแหวกอากาศจึงหันไปมอง และเห็นภาพของจิ่งสือเยี่ยนล้มลงกับพื้นในเวลานี้ เฟิ่งชูอิ่งก็เข้าใจใด้ทันทีว่าในโลกน

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 993

    ในเมื่อเขาไม่ได้ราชบัลลังก์และเฟิ่งชูอิ่งมาครอบครอง ราชบัลลังก์เขาอาจจะทำลายไม่ได้ แต่เฟิ่งชูอิ่งแค่คนเดียวเขาทำลายได้แน่นอนองครักษ์สองคนของเขารีบเปลี่ยนมาง้างคันธนูเล็งไปที่เฟิ่งชูอิ่ง ทว่าลูกธนูยังไม่ทันได้ยิงออกไป ก็ถูกบางสิ่งบางอย่างปัดออกไปอีกครั้งในตอนนี้จิ่งสือเยี่ยนก็พลันเข้าใจบางอย่างขึ้นมาทันทีตลอดทางที่ผ่านมา วิญญาณร้ายของเฟิ่งชูอิ่งถึงจะมาแล้ว แต่ก็ไม่ได้ลงมือ นั่นก็น่าจะมีเหตุผลที่ลงมือไม่ได้วิญญาณร้ายโจมตีองครักษ์ของเขา แต่กลับไม่โจมตีเขา นั่นก็หมายความว่าวิญญาณร้ายเหล่านั้นโจมตีเขาไม่ได้เขานึกถึงข่าวลือที่เคยได้ยินมาว่า พลังมังกรของผู้เป็นฮ่องเต้เป็นสิ่งที่ปราบภูตผีปีศาจได้วิญญาณร้ายไม่โจมตีเขา นั่นแสดงว่าวิญญาณร้ายทำอะไรเขาไม่ได้ แปลว่าเขามีพลังมังกรอยู่ในตัว?ความคิดนี้ทำให้จิตใจเขาฮึกเหิมขึ้นมาทันที เขารีบหยิบธนูของตัวเองขึ้นมา อดทนต่อความเจ็บปวดจากบาดแผลแล้วยิงธนูไปที่หลังของเฟิ่งชูอิ่งเฉี่ยวหลิงเห็นภาพนี้ก็ตกใจ รีบยื่นมือออกไปเพื่อจะรับลูกธนูนั้นทว่าลูกธนูนั้นเปื้อนเลือดของจิ่งสือเยี่ยน เลือดนั้นเป็นอันตรายต่อวิญญาณร้ายอย่างมาก มือของนางแค่เพียงสัมผ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 992

    หิมะยังคงโปรยปรายลงมา โลกนี้เงียบสงัด มีเพียงเสียงฝีเท้ากระทบกับพื้นหิมะดังฟุ่บฟั่บช่วงใกล้รุ่งสาง ชวีเหลียงอวี่ก็มาปรากฏตัวและเอ่ยขึ้นทันทีว่า "ท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการรออยู่ข้างนอกแล้ว"เมื่อได้ยินดังนั้น เฟิ่งชูอิ่งก็เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยนางหันไปบอกกับจิ่งสือเยี่ยนว่า "เมื่อครู่ข้าลองคิดดูดีๆ แล้ว รู้สึกว่าที่เจ้าพูดก็มีเหตุผลอยู่บ้าง การมีชีวิตอยู่ก็ไม่เลว"จิ่งสือเยี่ยน “......”หลังจากผ่านมาทั้งคืน นางกลับปลงตกในเรื่องเช่นนี้ได้ ทำให้เขารู้สึกประหลาดใจอยู่เล็กน้อยแต่การที่นางคิดได้ในตอนนี้ก็เป็นเรื่องดีเขาจึงพูดว่า "หลายสิ่งหลายอย่างทำได้ตอนมีชีวิตอยู่เท่านั้น ตายไปแล้วทำไม่ได้""ตราบใดที่เจ้าพาข้าออกจากค่ายกลแห่งนี้ ข้าจะไม่สร้างความลำบากให้เจ้าอีก”เฟิ่งชูอิ่งพยักหน้า "ก็ได้ งั้นตอนนี้ข้าจะพาเจ้าไปทำลายค่ายกล"พูดจบนางก็ควบม้านำหน้าไป จิ่งสือเยี่ยนรีบนำทหารตามไปทันทีเพียงแต่พวกเขาเดินวนเวียนอยู่ที่นี่ทั้งคืน ทั้งเหนื่อยทั้งหิว พลังจึงลดลงไปมากเฟิ่งชูอิ่งมียันต์ป้องกันความหนาวติดตัวอยู่จึงไม่รู้สึกหนาว ก่อนหน้านี้ก็นอนหลับมาตลอดทาง ทำให้รักษาพลังงานไว้ได้มากที่สุ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 991

    เขาไม่เคยเจอใครดื้อด้านเท่านางมาก่อน!เขาสูดหายใจเข้าลึกๆ เพื่อระงับโทสะ เพราะตอนนี้เขาไม่สามารถตบตีหรือด่าทอนางได้ทั้งนั้นเขาพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “เจ้าอยากไปเจียงหนานไม่ใช่หรือ? พอออกจากที่นี่ได้ ข้าจะไม่ขัดขวางเจ้า เจ้าก็จะได้ไปชมวิวทิวทัศน์เจียงหนานที่เจ้าอยากเห็น”“เจียงหนานในฤดูหนาวที่มีหิมะปกคลุมทั้งงดงามและน่าหลงใหล ถ้าเจ้ายังไม่เคยเห็น ต้องไปดูด้วยตาตัวเองให้ได้เลย”เฟิ่งชูอิ่งยังคงนอนอยู่บนพื้นไม่ยอมลุกขึ้น “ไม่ไป อากาศหนาวเกินไป เดินทางเหนื่อยเกินไป”จิ่งสือเยี่ยน “…...”ตั้งแต่วินาทีที่เขาติดกับอยู่ที่นี่ สถานะระหว่างเขากับเฟิ่งชูอิ่งก็สลับกันโดยสิ้นเชิงเพราะเขามีความทะเยอทะยาน อยากใช้ชีวิตอย่างสุขสบายยิ่งเฟิ่งชูอิ่งแสดงออกว่าอยากตายมากเท่าไหร่ จิ่งสือเยี่ยนก็ยิ่งไม่ยอมให้นางตายมากขึ้นเท่านั้นดังนั้นตอนนี้นางจึงควบคุมเขาได้อย่างเบ็ดเสร็จการที่นางแสดงท่าทีไม่ยอมทำตามไม่ว่าเขาจะใช้ไม้แข็งหรือไม้อ่อนเช่นนี้ ทำให้เขาแทบเป็นบ้าจิ่งสือเยี่ยนไม่เคยคิดฝันมาก่อนว่าการจับตัวประกันจะน่าอึดอัดขนาดนี้เฟิ่งชูอิ่งนอนเอกเขนกอยู่ตรงนั้นอย่างสบายใจ เหตุผลก็ง่ายๆ นางใช้

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 990

    เฟิ่งชูอิ่งยิ้มแล้วถามว่า “ทางที่ข้าชี้นำ เจ้ากล้าเดินตามหรือ?”เมื่อมาถึงตอนนี้แล้ว นางก็คร้านจะเสแสร้งต่อไปสีหน้าของจิ่งสือเยี่ยนแข็งค้างไปครู่หนึ่ง นางพูดอย่างเฉื่อยชาว่า “เพราะพวกเจ้าติดอยู่ที่นี่ คงรู้สึกหนาวเหน็บและหวาดกลัว”“เจ้าบาดเจ็บ ในสภาพอากาศหนาวเย็นเช่นนี้ แผลของเจ้าจะยิ่งทรุดหนัก”“เจ้ารีบร้อนมารวบรวมกำลังพลของกองกำลังอวี๋ซาน เจ้าคงไม่ได้พกอาหารมาด้วยมากนัก ดังนั้นตอนนี้พวกเจ้าคงหิวมากแล้ว”“ในสถานการณ์เช่นนี้ แค่ข้ากักขังพวกเจ้าไว้ที่นี่ ต่อให้ไม่หนาวตาย พวกเจ้าก็คงอดตายอยู่ดี”ขณะนี้หิมะขาวโพลนโปรยปรายไปทั่ว อากาศหนาวเหน็บ สภาพอากาศเช่นนี้คงจะดำเนินต่อไปเป็นเวลาอย่างน้อยครึ่งเดือนเป็นอย่างที่เฟิ่งชูอิ่งบอก พวกเขาเดินทางมาที่นี่โดยไม่ได้พกเสบียงอาหารแห้งหรืออะไรทำนองนั้นมาด้วยเลยด้วยเหตุนี้ตอนที่พวกเขาเดินวนจนครบรอบที่สาม เสบียงอาหารก็หมดลงตอนนี้ฟ้าเริ่มมืดแล้ว หลังจากตกกลางคืน อากาศจะยิ่งหนาวเย็นลง พวกเขาจะยิ่งลำบากมากขึ้นจิ่งสือเยี่ยนชักกระบี่ยาวออกมา “เจ้าเชื่อหรือไม่ว่าข้าสามารถบั่นคอเจ้าด้วยกระบี่เล่มนี้ได้!”เฟิ่งชูอิ่งยิ้มหวานแล้วเอ่ยว่า “เอาเลย ฆ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 989

    เขาคลี่ยิ้มมุมปากเล็กน้อย “ได้”หลังจากฆ่าจิ่งโม่เยี่ยแล้ว จะปล่อยนางไปหรือไม่ เรื่องนี้เขาจะเป็นคนตัดสินใจนางเป็นผู้หญิงคนแรกที่เขารู้สึกชอบจริงๆ และนางก็เป็นผู้หญิงคนแรกที่ทำให้เขารู้จักกับความล้มเหลวเขารู้ว่านางมีวิธีการบางอย่างที่คนทั่วไปไม่มี ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าประมาท เขาจะป้อนยาที่ทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงให้นางกินทุกวันเฟิ่งชูอิ่งรู้ทันความคิดของเขา และยอมให้ความร่วมมือแต่โดยดีขณะที่ในใจของนางกำลังครุ่นคิด ครั้งที่แล้วโดนไปขนาดนั้นยังรอดมาได้ ถ้าอย่างนั้นก็ต้องหาโอกาสฆ่าเขาให้ตายสนิทแบบไม่มีสิทธิ์ฟื้นขึ้นมาอีกนางพลันนึกถึงเรื่องที่เหมยตงยวนวิญญาณแหลกสลายหลังจากรู้ข่าวการตายของเฟิ่งชิงหลิง จิตใจนางจึงหม่นหมองตามไปด้วยนางรู้ว่าเหมยตงยวนรักเฟิ่งชิงหลิงอย่างสุดซึ้ง แต่ไม่คิดว่านั่นจะเป็นรากฐานที่ทำให้เขามีชีวิตอยู่ในโลกใบนี้เพราะนางเห็นความรักของพวกเขา นางจึงยิ่งรู้ชัดว่าตัวเองมีความรู้สึกแบบไหนต่อจิ่งโม่เยี่ยในเมื่อรักแล้ว ก็ต้องรักให้สุดหัวใจอย่าได้ทำเรื่องที่ทำให้ตัวเองเสียใจและทำให้ฝ่ายตรงข้ามเข้าใจผิดอีกจิ่งสือเยี่ยนไม่ได้ไปตามล่าจิ่งโม่เยี่ยโดยตรง เขาวางแผนท

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status