Share

บทที่ 27

Author: ดอกถังร่วงหล่น
บ่าวหญิงแซ่จูรีบตอบทันที “ขอแค่ฆ่านังเฟิ่งชูอิ่งนั่นได้ ให้ทำอะไรข้าก็ยอมทั้งนั้น!”

ฮว๋าซื่อพยักหน้ากล่าวว่า “ถ้างั้นเจ้าก็เตรียมตัวให้ดีเถอะ ข้าจะจัดการทุกอย่างให้เอง ถึงตอนนั้นเจ้าก็หาโอกาสลงมือเสีย”

บ่าวหญิงแซ่จูเข้าใจความหมายที่ฮว๋าซื่อต้องการสื่อทันที จึงโขกศีรษะให้อีกฝ่ายแล้วกลับไปเตรียมตัว

ฮว๋าซื่อเห็นท่าทางของบ่าวหญิงแซ่จูก็ยกยิ้มมุมปาก เฟิ่งชูอิ่งสร้างปัญหาให้นางมากขนาดนี้ นางจำเป็นจะต้องรีบจำกัดอีกฝ่ายทิ้งโดยไว

ขณะเดียวกัน เฟิ่งชูอิ่งกำลังอ้าปากหาวหวอดๆ นางเดินตามขันทีมาขึ้นรถม้ามุ่งหน้าสู่วังหลวง

ตอนที่อยู่บนรถม้า นางก็ยัดเงินใส่มือของขันทีคนนั้น

จากที่ขันทีคนนั้นไม่พอใจที่ต้องยืนรอนานนางๆ หลังจากลองชั่งน้ำหนักเงินในมือดูก็อารมณ์ดีขึ้นมาหลายส่วน

กอปรกับใบหน้าที่น่ารักอ่อนหวาน ท่าทางว่านอนสอนง่าย และฝีปากที่ประจบสอพลอเก่งไม่เป็นสองรองใคร นางจึงซื้อใจคนได้ไม่ยาก

ขันทีคนนั้นจึงข้อควรระวังเวลาเข้าวังให้นางฟัง สุดท้ายยังเตือนนางอีกว่า “ครั้งนี้เจ้าได้เข้าวัง เพราะฮองเฮาทรงอยากพบหน้าแม่นาง”

เฟิ่งชูอิ่งพลันเข้าใจอะไรหลายๆ อย่างขึ้นมา

ฮ่องเต้องค์ปัจจุบัน ไม่ใช่พ่อแท้ๆ ของจ
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App
Comments (2)
goodnovel comment avatar
Saranya Pigmom
ก็สนุกดีนะถ้าอ่านแบบนวนิยายที่วไป
goodnovel comment avatar
อำไพ เอี่ยมธรรม
สนุกดีน่าติดตามตอยต่อไป
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 28

    นางไม่รู้หรอกว่าฮองเฮาตั้งใจจะแสดงอำนาจข่มนางหรือไม่ แต่นางรู้ว่าอำนาจของราชวงศ์ในยุคสมัยนี้ถือเป็นเด็ดขาด ฐานะของนางในปัจจุบันนี้ หากสร้างเรื่องวุ่นวายขึ้นในวัง มีหวังได้ถูกบั่นคอกันพอดีแต่จะให้นางยืนรออยู่ตรงนี้ไปเรื่อยๆ มันก็ไม่ใช้รูปแบบของนางอีกนั่นแหละนางมองเห็นม่านที่แขวนประดับอยู่ตรงคานตำหนัก แผนการก็ผุดขึ้นมาในใจทันทีนางหยิบปิ่นปักผมที่อยู่บนศีรษะออกมา ส่วนหัวของปิ่นชิ้นนั้นมีรอยบุ๋มอยู่แห่งหนึ่ง นางทำการปรับแต่งมันเล็กน้อย ก่อนจะเสียบไว้บนศีรษะเหมือนเดิมจากนั้นนางก็ขยับเปลี่ยนองศาอย่างแนบเนียน ทำให้ปิ่นปักผมรวมแสงสะท้อนไปบนผ้าม่านในตำหนัก แล้วยืนนิ่งอยู่กับที่ไม่ขยับไปไหนใช้เวลาประมาณครึ่งเค่อ ผ้าม่านผืนนั้นก็ลุกไหม้ เพียงครู่เดียวเท่านั้น ควันก็ลอยขโมงไปทั่ว ในตำหนักเต็มไปด้วยความอลหม่านมุมปากของเฟิ่งชูอิ่งพลันยกสูงเล็กน้อย นางอยากจะเห็นนักว่าฮองเฮาจะทนอยู่ในนั้นได้อีกนานแค่ไหนไม่นานนัก เพลิงก็ลุกลามหนัก ฮองเฮากับบรรดาองค์หญิงทั้งหลายพากันหนีตายออกมาจากตำหนักคุนหนิง นางกำนัลขันทีวิ่งวุ่นเพื่อหาทางดับไฟหลังจากเฟิ่งชูอิ่งวางเพลิงเรียบร้อย นางก็ยื่นมือไปปรับทิศทา

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 29

    “เรื่องพวกนี้แม้ทางด้านท่านราชครูจะยังไม่ได้ข้อสรุปออกมา แต่กลับเป็นเรื่องที่ทุกคนรับรู้กันหมด“แม่นางเฟิ่งคนนี้ยังไม่ต้องพูดถึงเรื่องอื่น เพียงแค่นามสกุลเฟิ่ง[footnoteRef:1]อย่างเดียว ก็ถือว่าเป็นการล่วงเกินฮองเฮาแล้วเพคะ [1: เฟิ่ง แปลว่าหงส์เพลิงหรือฟีนิกซ์] “ฮองเฮาต่างหากที่ทรงเป็นหงส์อย่างแท้จริง นางคิดว่าตัวเองเป็นใครกัน ถึงได้กล้าใช้แซ่เฟิ่ง?”เฟิ่งชูอิ่งได้ยินดังนั้นก็ตื่นตระหนกสุดขีดหรือนี่จะเป็นการฟื้นฝอยหาตะเข็บในตำนาน จงใจหาข้ออ้างมาใส่ร้ายเพื่อลงโทษก่อนหน้านี้นางเคยได้ยินว่าในวัง จะมีข้ารับใช้จำพวกหนึ่งที่กลิ้งกลอกสับปลับและโหดเหี้ยมอำมหิตอย่างมาก คิดไม่ถึงเลยว่านางเพิ่งเข้าวังมาวันแรกก็ได้เจอกับตัวเสียแล้วนางเอ่ยเสียงเบาว่า “แซ่สกุลเป็นสิ่งที่สืบทอดจากบิดามารดา เหตุไฉนถึงเป็นความผิดของข้าไปได้?”นางกำนัลคนนั้นตะคอกเสียงดุ “เจ้าคนไม่มีมารยาท ฮองเฮาทรงตรัสอยู่ เจ้ามีสิทธิ์สอดปากงั้นหรือ?”เฟิ่งชูอิ่งเอ่ยถามอย่างไม่เข้าใจ “แล้วทำไมเจ้าถึงสอดปากได้ล่ะ?”นางกำนัลคนนั้นคิดไม่ถึงว่าเฟิ่งชูอิ่งผู้ขี้ขลาดตาขาวจะกล้ายอกย้อนตนเอง!นางเบนหน้าไปทางฮองเฮา “ฮองเฮา ทรงทอดพ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 30

    เจี่ยนชุนที่อยู่ข้างๆ ยิ้มรับคำว่า “ดวงชะตาของอ๋องฉู่พิเศษนักเพคะ เขาทำว่าที่พระชายาตัวเองตายไปแล้วถึงเจ็ดคน“บุตรสาวขุนนางในเมืองหลวงไม่มีใครกล้าแต่งงานกับเขาสักคน ฮองเฮาทรงเมตตายิ่งนัก ถึงได้ลงทุนลงแรงเสาะหาว่าที่พระชายาให้เขาเช่นนี้“แค่หาว่าที่พระชายาคนใหม่ให้เขาได้ก็ดีมากแล้วเพคะ จะยังเรื่องมากได้อย่างไร?”ฮองเฮาหันมองเจี่ยนชุนและกล่าวว่า “ระวังคำพูดด้วย”เจี่ยนชุนรีบยกมือตบปากตัวเองเบาๆ กล่าวว่า “บ่าวปากพล่อย ฮองเฮาโปรดลงโทษด้วยเพคะ”ฮองเฮากล่าวเสียงเรียบว่า “ครั้งนี้แล้วไปเถิด แต่จากนี้อย่าพูดอะไรเช่นนี้อีก”เจี่ยนชุนพยักหน้ารัวๆ รับคำ ‘เพคะ’นางรู้ว่าฮองเฮามิได้ถือสาที่นางพูดจาเช่นนี้จริงๆ หรอก ตรงกันข้าม ฮองเฮาชื่นชอบให้คนพูดแบบนี้มากเชียวล่ะแต่เพราะฮองเฮาเป็นมารดาของแผ่นดินแต่เพราะฮองเฮาเป็นมารดาของแผ่นดิน จึงต้องแสดงภาพลักษณ์ใจดีมีเมตตาเท่านั้นเองฮองเฮากล่าวกับเจี่ยนชุนว่า “เจ้าสั่งการไปที่กรมราชทัณฑ์ บอกพวกเขาว่าอย่าได้ทำให้ว่าที่พระชายาในอ๋องฉู่ตกใจกลัว”เจี่ยนชุนเข้าใจความหมายของฮองเฮา “บ่าวจะรีบไปจัดการเดี๋ยวนี้เพคะ รับรองว่าไม่ทำให้ว่าที่พระชายาอ๋องฉู่หวาดกล

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 31

    “ข้าจะบอกเจ้าตามตรงเลยก็แล้วกันนะ นับแต่เจ้าก้าวเข้ามาในกรมราชทัณฑ์ของข้า ก็อย่าหวังว่าจะได้กลับออกไปในสภาพดีๆ เลย“หากวันนี้เจ้ายอมให้ความร่วมมือกับข้าโดยดี ข้าก็จะไม่ทำให้เจ้าเจ็บตัวมากนัก”เฟิ่งชูอิ่งมองเขาด้วยท่าทางตื่นกลัว “ฮองเฮาทรงมีรับสั่งว่าห้ามใช้การทรมานกับข้า!”เจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ยิ้มตอบว่า “มีใครบ้างที่เข้ามาในกรมราชทัณฑ์แล้วจะไม่ถูกลงทัณฑ์ทรมาน“เพราะถึงอย่างไรกรมราชทัณฑ์ของพวกเรา ก็ถนัดเรื่องวิธีการทรมานนักโทษอยู่แล้ว ทว่าคนอื่นไม่มีทางมองออกหรอกว่าเจ้าโดนทำร้าย”เขาพูดขณะยื่นมือมาสัมผัสใบหน้าของนาง แต่นางหันหลบแล้วถอยไปอีกฝั่งเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ที่คว้าได้เพียงความว่างเปล่าก็แสดงความไม่พอใจผ่านทางสายตาเขายื่นมือออกมาแล้วนวดนิ้วตัวเองเบาๆ แล้วกล่าวกลั้วหัวเราะ “ดูเหมือนแม่นางเฟิ่งจะชอบดื่มสุราจับกรอกมากกว่าสุราคารวะ“ช่วยไม่ได้นะ เดี๋ยวข้าจะแสดงฝีมือให้เจ้าได้ประจักษ์เอง”เฟิ่งชูอิ่งลอบสังเกตเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์เงียบๆ พบว่าอีกฝ่ายมองนางด้วยสายตากระลิ้มกะเหลี่ย พลันใจหายวาบเล็กน้อยก่อนหน้านี้นางเคยได้ยินมาว่าพวกขันทีในวังหลวง เพราะอวัยวะบางส่วนในร่างกายขาดหายไม่

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 32

    เฉี่ยวหลิงตอบเสียงสะอื้น “ข้าไม่เป็นไร ชินแล้วล่ะ ถึงเรื่องแบบนี้จะไม่ได้เกิดขึ้นทุกวัน แต่อย่างน้อยๆ สองสามวันก็ต้องเกิดขึ้นครั้งหนึ่ง เพราะงั้นข้าชินชากับมันแล้วแหละ”นางเอ่ยจบก็ด่าทอว่า “เง็กเซียนฮ่องเต้ทรงไม่ยุติธรรมเอาเสียเลย! พวกวิญญาณตายโหงอย่างข้าไม่มีสิทธิ์เวียนว่ายตายเกิดก็แล้วไปเถิด แต่นี่แม้แต่จะแก้แค้นยังทำไม่ได้เลย!”“ต้องทนมองศัตรูเดินไปเดินมาผ่านหน้าทุกวัน แต่กลับทำอะไรเขาไม่ได้เลย ไอ้สวรรค์เฮงซวย!”นางด่าจบก็หันมาวอแวกับเฟิ่งชูอิ่งต่อ “ข้าบอกเลยนะ คราวนี้เจ้าได้ตายของจริงแน่“นังสารเลวฮองเฮานั่นจิตใจโหดเหี้ยมจะตายไป นางไม่ยอมให้ว่าที่พระชายาของอ๋องฉู่รอดชีวิตสักคน“ขันทีที่ทำงานในกรมราชทัณฑ์มีแต่พวกโรคจิตทั้งนั้น พวกเขาทำเรื่องเลวทรามต่ำช้าชนิดที่เจ้าคาดคิดไม่ถึงเชียวแหละ”เฟิ่งชูอิ่งถาม “เลวทรามแค่ไหนล่ะ?”เฉี่ยวหลิงมองนางแล้วหัวเราะคิกคัก “อีกเดี๋ยวเจ้าก็ได้รู้เอง”แววตาของเฟิ่งชูอิ่งแปรเปลี่ยนเล็กน้อย เอ่ยถามนางอีกครั้ง “หากเจ้ามีโอกาสล้างแค้นคนชั่วพวกนั้น เจ้าจะคว้าเอาไว้ไหม?”เฉี่ยวหลิง “แน่นอนอยู่แล้วสิ แต่เมื่อกี้เจ้าก็เห็นไปแล้วนี่นา แค่ข้ามีจิตอาฆาตขึ้นมานิดเด

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 33

    “นางกำนัลที่ถูกส่งตัวเข้ามา หากพวกเขามองว่านางไม่มีโอกาสกลับออกไป หรือต่อให้ได้กลับออกไปก็ไม่มีใครออกหน้าช่วยเหลือ ก็จะตกเป็นของเล่นของพวกเขาทั้งหมด”เจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ถกกางเกงลง แล้วนำของสิ่งนั้นสวมไว้ตรงบริเวณหว่างขาเสียงหัวเราะหื่นกระหายดังกระหึ่มยิ่งกว่าเก่า มีขันทีผู้หนึ่งเอ่ยว่า “ใต้เท้า นางกำนัลคนนี้ไม่เห็นจะน่าสนุกเลย ท่านมิสู้ไปเล่นสนุกกับแม่นางเฟิ่งโดยตรงล่ะ”“อย่างไรเสียนางก็จะต้องตายอยู่แล้ว อ๋องฉู่ก็เป็นแค่ขยะไร้ค่า ไม่มีเวลามาสนใจนางหรอกขอรับ”“ข้ายังได้ยินมาว่านางเป็นแค่เด็กกำพร้า โดนลุงแท้ๆ มัดมือชกให้กลายเป็นว่าที่พระชายาของอ๋องฉู่”“คนแบบนาง อยากจะเล่นสนุกแค่ไหนก็ย่อมได้ ต่อให้พลั้งมือฆ่าตายก็ไม่มีใครออกหน้าแทนนางหรอก”เจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์คิดว่าคำพูดของพวกเขามีเหตุผลมาก จึงถามว่า “ลงกลอนประตูใหญ่ของกรมราชทัณฑ์หรือยัง?”ขันทีคนหนึ่งเอ่ยตอบ “ปิดเรียบร้อยแล้วขอรับ ประตูกรมราชทัณฑ์ของพวกเราไม่เหมือนกับประตูของที่อื่นๆ“เพื่อป้องกันไม่ให้เสียงดังรบกวนผู้สูงศักดิ์ทั้งหลายในวัง ดังนั้นช่องว่างทั้งหมดจึงถูกอุดปิดอย่างแน่นหนา ต่อให้ข้างในนี้จะเกิดเรื่องวุ่นวายสักแค่ไหน

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 34

    เฟิ่งชูอิ่งใช้เท้าเหยียบยอดหน้าของเขา ก่อนจะกดลงพื้นแล้วขยี้ไปมา หัวเราะเสียงใสว่า “แค่นี้ก็ถือว่าจองหองแล้วหรือ? เจ้าช่างความรู้ตื้นเขินเสียจริงเชียว!”เจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ “!!!!!”นับตั้งแต่เขารับหน้าที่ควบคุมดูแลกรมราชทัณฑ์ ก็ถือว่าเป็นคนที่มีอำนาจในวังหลวงพอสมควรหากเป็นสถานการณ์โดยทั่วไป ไม่มีใครกล้าทำแบบนี้กับเขาแน่นอน!เขาจึงคิดว่าเฟิ่งชูอิ่งกำลังหาเรื่องตายชัดๆ!เขาสบถอย่างโกรธเคือง “พวกเจ้ามัวยืนโง่อยู่ทำไมล่ะ? ยังไม่รีบมาลากตัวนังสารเลวนี่ออกไปอีก!”ทว่ากลับไม่มีใครเข้ามาช่วยเหลือเขาเลยแม้แต่คนเดียวเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์พยายามหันหน้ากลับไปมอง ก่อนจะพบว่าลูกน้องทั้งหมดของเขากำลังยืนตาเหลือก คล้ายถูกอะไรบางอย่างบีบคอจนหายใจไม่ออก ภาพที่เห็นชวนอกสั่นขวัญแขวนไม่น้อย เขาจึงเอ่ยด้วยความตระหนกว่า “เจ้าทำอะไรกับพวกเขา?”คิ้วเรียวของเฟิ่งชูอิ่งกระดกขึ้นเล็กน้อย “ลองเดาสิ!”เฉี่ยวหลิงกระโดดมายืนตรงหน้าเฟิ่งชูอิ่งแล้วเอ่ยว่า “พวกเราไม่ถูกไอมังกรโจมตีจริงด้วย!“หมายความว่าวันนี้พวกเราก็ทำทุกอย่างได้ตามอำเภอใจเลยสิ?”ตอนที่เจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์สั่งให้ลูกน้องเข้าไปช่วย นางลองยื่นมือเข

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 35

    เฟิ่งชูอิ่งยิ้มตาหยีใส่เขาแล้วกล่าวว่า “ข้าเป็นใครงั้นหรือ? ขอคิดแปปนะ ตอนนี้ข้าน่าจะเป็นผู้ผดุงความยุติธรรมให้คนที่ตายโดยไร้ความผิดกระมัง!”เจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ “......”ก่อนหน้านี้เขาคิดว่านางเป็นเพียงสตรีอ่อนแอรังแกง่าย ตอนนี้เพิ่งจะเข้าใจว่านางนี่แหละ คนที่น่าสะพรึงกลัวที่สุดเขาประสานมือให้นาง “แม่นางเฟิ่ง ข้าผิดไปแล้ว ต่อไปข้าไม่กล้าทำอะไรแบบนี้แล้ว ได้โปรดยกโทษให้ข้าสักครั้งเถอะนะ!”เฟิ่งชูอิ่งใช้หางตาเหล่มองเขาแล้วเอ่ยว่า “หากการขอโทษของเจ้าทำให้คนบริสุทธิ์ที่ตายไปฟื้นคืนชีพขึ้นมาได้ ข้าก็อาจจะยอมยกโทษให้เจ้า“เจ้าจะลองดูสักหน่อยไหมล่ะ ว่าคนบริสุทธิ์ที่ตายไปพวกนั้นฟื้นคืนชีพได้หรือไม่?”เจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ “......”เรื่องนั้นมันทำได้ที่ไหนกันเล่า!เฟิ่งชูอิ่งกล่าวต่อว่า “เมื่อครู่นี้เจ้ายังอวดเก่งอยู่เลย แล้วยังคิดจะทำเรื่องพรรค์นั้นกับข้าอีก?”“ในเมื่อจิตใจของเจ้ามันสกปรก ถ้าอย่างนั้นวันนี้ข้าจะช่วยทำให้มันสะอาดเอง”นางกล่าวจบก็หยิบมีดเลาะกระดูกเล่มหนึ่งออกมาจากบรรดาเครื่องมือทรมาน ก่อนจะแทงใส่บริเวณท้องน้อยของเขาเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ “!!!!!!”เขาแผดร้องเสียงหลง ดังก้อง

Latest chapter

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 997

    เฟิ่งชูอิ่งพูดต่อว่า “แต่ตอนนี้ข้าไม่เหลือทั้งบิดามารดาแล้ว เจ้าห้ามรังแกข้าเชียวนะ!”จิ่งโม่เยี่ยยกมือสาบานต่อฟ้าทันที “หากข้าทำไม่ดีกับเจ้าในภายภาคหน้า ขอให้สวรรค์ลงทัณฑ์ส่งฟ้ามาผ่าให้ตาย!”เฟิ่งชูอิ่งหัวเราะ “เรื่องฟ้าผ่าไม่ต้องถึงมือสวรรค์หรอก ข้าก็ทำได้”จิ่งโม่เยี่ย “......”เขาเกือบลืมไปแล้วว่านางวาดยันต์ได้เก่งมาก ตราบใดที่นางต้องการ ใช้ฟ้าผ่าเขาก็ไม่ใช่เรื่องยากเฟิ่งชูอิ่งเห็นท่าทางของเขาก็แอบหัวเราะเบาๆ เอื้อมมือไปกอดแล้วซุกศีรษะพิงอกเขา กล่าวว่า “ข้าเชื่อใจท่าน”“ตอนนี้เราทั้งสองล้วนไม่มีพ่อแม่แล้ว ชีวิตที่เหลืออยู่ก็มีเพียงกันและกัน”“ต่อไปข้าจะดูแลเจ้าอย่างเต็มที่ จะไม่ระแวงเจ้าอีก ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ข้าจะเชื่อใจเจ้า”หัวใจที่ตึงเครียดของจิ่งโม่เยี่ยก็ผ่อนคลายลงในทันทีเขากอดนางตอบ “กาลเวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าการตัดสินใจของเจ้าถูกต้อง”เขาโน้มตัวลงจูบหน้าผากนางเบาๆ เอ่ยอย่างอ่อนโยนว่า “ข้าจะทุ่มเททุกอย่างเพื่อรักเจ้า”เมื่อเฟิ่งชูอิ่งได้ยินคำพูดนี้ หัวใจก็สั่นไหว นางช้อนตามองขึ้นไปที่เขา ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความอ่อนโยนนางรู้ว่าคำพูดของเขาในตอนนี้ล้วนมาจ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 996

    ก่อนหน้านี้เขาไม่รู้ฐานะของจิ้งจอกสือซานเหนียง แต่ตอนนี้เขาพอจะเข้าใจได้หลังจากได้ยินบทสนทนาระหว่างจิ้งจอกสือซานเหนียงและเฟิ่งชูอิ่งจิ้งจอกสือซานเหนียงเห็นสีหน้าเคร่งขรึมของเขาก็หัวเราะเบาๆ ก่อนจะหันหลังเดินจากไปเฟิ่งชูอิ่งถามว่า “เจ้าจะไปไหน? ข้ายังมีเรื่องอยากจะถามเจ้าอีกมาก”จิ้งจอกสือซานเหนียงตอบว่า “ข้าจะไปหาที่ขับไล่พลังชั่วร้ายออกจากร่างกาย พอขับไล่เสร็จแล้วข้าจะกลับมาหาเจ้า”ตลอดหลายปีที่ผ่านมา นางฝึกฝนวิชาสายชั่วร้ายมากมาย ทำให้พลังชั่วร้ายในร่างกายมีมากเกินไป หากอยู่ใกล้ใครนานๆ จะมีผลกระทบต่อคนรอบข้างเฟิ่งชูอิ่งจึงเตือนนางว่า “เจ้าอย่าผิดคำพูดล่ะ ข้าจะรอเจ้ากลับมา!”จิ้งจอกสือซานเหนียงโบกมือแล้วบอกว่า “วางใจเถอะ ข้าจะกลับมาแน่นอน”หลังจากนางเดินออกไปไกลแล้ว เฟิ่งชูอิ่งก็ถอนหายใจยาวๆ และเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นหลังจากแยกทางกันให้จิ่งโม่เยี่ยฟังหลังจากที่จิ่งโม่เยี่ยได้ยินเรื่องของเหมยตงยวน เขาก็เงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า “เพราะรักถลำลึกจึงไม่ยืนยาว เรื่องระหว่างท่านพ่อกับท่านแม่ช่างน่าเศร้า”เฟิ่งชูอิ่งกล่าวอย่างแผ่วเบาว่า “ดังนั้นการสื่อสารจึงสำคัญ ต่อไปไม่ว่าจะมี

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 995

    สิ้นเสียงของนาง สายฟ้าก็ฟาดลงมาอีกครั้ง ทำให้พลังที่พุ่งพล่านของเขาสลายไปจิ่งสือเยี่ยน “!!!!!!!!”หลังจากถูกอสนีบาตฟาดใส่อย่างต่อเนื่องห้าครั้ง ร่างวิญญาณของเขาก็จางลงอย่างมากแต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ยังไม่ตายเฟิ่งชูอิ่งถึงกับตกใจ ชีวิตของจิ่งสือเยี่ยนช่างแข็งแกร่งเสียจริง!นางอดสงสัยไม่ได้ว่าเขาจะกลายเป็นเทียนซือคนที่สอง และจะกลายเป็นภัยพิบัติในอนาคตนางกำลังจะม้วนแขนเสื้อขึ้นเพื่อเสกยันต์ใส่จิ่งสือเยี่ยนอีกครั้ง แต่กลับมีเงาร่างหนึ่งพุ่งเข้ามาแล้วกลืนเขาเข้าไปทั้งตัวเฟิ่งชูอิ่ง “!!!!!!”จิ้งจอกสือซานเหนียงเรอออกมาคำโตแล้วบอกว่า “เขาเป็นอาหารที่ข้าหมายตาไว้แต่แรก”“การปล่อยให้อาหารหลุดมือไป เป็นเรื่องที่ไม่อาจให้อภัยได้”เฟิ่งชูอิ่ง “......”นางเคยจินตนาการถึงความตายของจิ่งสือเยี่ยนไว้หลายแบบ แต่ไม่มีฉากจบแบบนี้อยู่เลยนางได้คงบอกได้แค่ว่าจิ้งจอกสือซานเหนียงเจ๋งสุดยอด!ขณะเดียวกันนั้นจิ่งโม่เยี่ยก็เดินเข้ามา เขาจ้องมองจิ้งจอกสือซานเหนียงด้วยความระแวดระวัง มือจับกระบี่เอาไว้ เตรียมพร้อมที่จะฟันจิ้งจอกสือซานเหนียงได้ทุกเมื่อเฟิ่งชูอิ่งบีบมือเขาเบาๆ ให้เขาผ่อนคลายจิ้งจอก

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 994

    แต่ทว่าคันธนูของจิ่งสือเยี่ยนเพิ่งจะยกขึ้นมา ก็มีลูกธนูที่เร็วกว่าพุ่งทะลุหัวใจของเขาในทันทีจิ่งสือเยี่ยนมองลูกธนูที่ปักอยู่บนอกด้วยความไม่อยากเชื่อ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองและเห็นดวงตาที่เย็นชาของจิ่งโม่เยี่ยเมื่อครู่นี้พวกเขาทั้งสองยังมีระยะห่างต่อกันอยู่แท้ๆ และตำแหน่งที่เขาหลบอยู่ก็เป็นมุมอับที่จิ่งโม่เยี่ยยิงมาไม่ถึงทว่าเพียงแค่อึดใจเดียว จิ่งโม่เยี่ยก็ปรับตำแหน่งได้อย่างรวดเร็วและยิงธนูทะลุหัวใจเขาได้ในนัดเดียวในตอนนี้จิ่งสือเยี่ยนกับจิ่งโม่เยี่ยไม่ได้อยู่ห่างกันมากนัก แต่ถ้าพูดคุยกันตามปกติก็คงไม่ได้ยินทว่าในเวลาเช่นนี้ จิ่งสือเยี่ยนกลับได้ยินเสียงของจิ่งโม่เยี่ย “คนที่กล้าทำร้ายชูอิ่งต้องตาย!”ก่อนหน้านี้จิ่งสือเยี่ยนคิดแค่ว่าจิ่งโม่เยี่ยดีต่อเฟิ่งชูอิ่งมาก ทว่าตอนนี้เขาเพิ่งได้รู้ซึ้งเรื่องบางอย่างเฟิ่งชูอิ่งไม่ใช่แค่จุดอ่อนของจิ่งโม่เยี่ย แต่เป็นทั้งชีวิตของเขาแต่มาเข้าใจเอาป่านนี้ก็สายไปแล้วในตอนนี้เฟิ่งชูอิ่งยังคงนอนคว่ำอยู่บนพื้นหิมะ นางได้ยินเสียงวัตถุแหวกอากาศจึงหันไปมอง และเห็นภาพของจิ่งสือเยี่ยนล้มลงกับพื้นในเวลานี้ เฟิ่งชูอิ่งก็เข้าใจใด้ทันทีว่าในโลกน

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 993

    ในเมื่อเขาไม่ได้ราชบัลลังก์และเฟิ่งชูอิ่งมาครอบครอง ราชบัลลังก์เขาอาจจะทำลายไม่ได้ แต่เฟิ่งชูอิ่งแค่คนเดียวเขาทำลายได้แน่นอนองครักษ์สองคนของเขารีบเปลี่ยนมาง้างคันธนูเล็งไปที่เฟิ่งชูอิ่ง ทว่าลูกธนูยังไม่ทันได้ยิงออกไป ก็ถูกบางสิ่งบางอย่างปัดออกไปอีกครั้งในตอนนี้จิ่งสือเยี่ยนก็พลันเข้าใจบางอย่างขึ้นมาทันทีตลอดทางที่ผ่านมา วิญญาณร้ายของเฟิ่งชูอิ่งถึงจะมาแล้ว แต่ก็ไม่ได้ลงมือ นั่นก็น่าจะมีเหตุผลที่ลงมือไม่ได้วิญญาณร้ายโจมตีองครักษ์ของเขา แต่กลับไม่โจมตีเขา นั่นก็หมายความว่าวิญญาณร้ายเหล่านั้นโจมตีเขาไม่ได้เขานึกถึงข่าวลือที่เคยได้ยินมาว่า พลังมังกรของผู้เป็นฮ่องเต้เป็นสิ่งที่ปราบภูตผีปีศาจได้วิญญาณร้ายไม่โจมตีเขา นั่นแสดงว่าวิญญาณร้ายทำอะไรเขาไม่ได้ แปลว่าเขามีพลังมังกรอยู่ในตัว?ความคิดนี้ทำให้จิตใจเขาฮึกเหิมขึ้นมาทันที เขารีบหยิบธนูของตัวเองขึ้นมา อดทนต่อความเจ็บปวดจากบาดแผลแล้วยิงธนูไปที่หลังของเฟิ่งชูอิ่งเฉี่ยวหลิงเห็นภาพนี้ก็ตกใจ รีบยื่นมือออกไปเพื่อจะรับลูกธนูนั้นทว่าลูกธนูนั้นเปื้อนเลือดของจิ่งสือเยี่ยน เลือดนั้นเป็นอันตรายต่อวิญญาณร้ายอย่างมาก มือของนางแค่เพียงสัมผ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 992

    หิมะยังคงโปรยปรายลงมา โลกนี้เงียบสงัด มีเพียงเสียงฝีเท้ากระทบกับพื้นหิมะดังฟุ่บฟั่บช่วงใกล้รุ่งสาง ชวีเหลียงอวี่ก็มาปรากฏตัวและเอ่ยขึ้นทันทีว่า "ท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการรออยู่ข้างนอกแล้ว"เมื่อได้ยินดังนั้น เฟิ่งชูอิ่งก็เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยนางหันไปบอกกับจิ่งสือเยี่ยนว่า "เมื่อครู่ข้าลองคิดดูดีๆ แล้ว รู้สึกว่าที่เจ้าพูดก็มีเหตุผลอยู่บ้าง การมีชีวิตอยู่ก็ไม่เลว"จิ่งสือเยี่ยน “......”หลังจากผ่านมาทั้งคืน นางกลับปลงตกในเรื่องเช่นนี้ได้ ทำให้เขารู้สึกประหลาดใจอยู่เล็กน้อยแต่การที่นางคิดได้ในตอนนี้ก็เป็นเรื่องดีเขาจึงพูดว่า "หลายสิ่งหลายอย่างทำได้ตอนมีชีวิตอยู่เท่านั้น ตายไปแล้วทำไม่ได้""ตราบใดที่เจ้าพาข้าออกจากค่ายกลแห่งนี้ ข้าจะไม่สร้างความลำบากให้เจ้าอีก”เฟิ่งชูอิ่งพยักหน้า "ก็ได้ งั้นตอนนี้ข้าจะพาเจ้าไปทำลายค่ายกล"พูดจบนางก็ควบม้านำหน้าไป จิ่งสือเยี่ยนรีบนำทหารตามไปทันทีเพียงแต่พวกเขาเดินวนเวียนอยู่ที่นี่ทั้งคืน ทั้งเหนื่อยทั้งหิว พลังจึงลดลงไปมากเฟิ่งชูอิ่งมียันต์ป้องกันความหนาวติดตัวอยู่จึงไม่รู้สึกหนาว ก่อนหน้านี้ก็นอนหลับมาตลอดทาง ทำให้รักษาพลังงานไว้ได้มากที่สุ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 991

    เขาไม่เคยเจอใครดื้อด้านเท่านางมาก่อน!เขาสูดหายใจเข้าลึกๆ เพื่อระงับโทสะ เพราะตอนนี้เขาไม่สามารถตบตีหรือด่าทอนางได้ทั้งนั้นเขาพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “เจ้าอยากไปเจียงหนานไม่ใช่หรือ? พอออกจากที่นี่ได้ ข้าจะไม่ขัดขวางเจ้า เจ้าก็จะได้ไปชมวิวทิวทัศน์เจียงหนานที่เจ้าอยากเห็น”“เจียงหนานในฤดูหนาวที่มีหิมะปกคลุมทั้งงดงามและน่าหลงใหล ถ้าเจ้ายังไม่เคยเห็น ต้องไปดูด้วยตาตัวเองให้ได้เลย”เฟิ่งชูอิ่งยังคงนอนอยู่บนพื้นไม่ยอมลุกขึ้น “ไม่ไป อากาศหนาวเกินไป เดินทางเหนื่อยเกินไป”จิ่งสือเยี่ยน “…...”ตั้งแต่วินาทีที่เขาติดกับอยู่ที่นี่ สถานะระหว่างเขากับเฟิ่งชูอิ่งก็สลับกันโดยสิ้นเชิงเพราะเขามีความทะเยอทะยาน อยากใช้ชีวิตอย่างสุขสบายยิ่งเฟิ่งชูอิ่งแสดงออกว่าอยากตายมากเท่าไหร่ จิ่งสือเยี่ยนก็ยิ่งไม่ยอมให้นางตายมากขึ้นเท่านั้นดังนั้นตอนนี้นางจึงควบคุมเขาได้อย่างเบ็ดเสร็จการที่นางแสดงท่าทีไม่ยอมทำตามไม่ว่าเขาจะใช้ไม้แข็งหรือไม้อ่อนเช่นนี้ ทำให้เขาแทบเป็นบ้าจิ่งสือเยี่ยนไม่เคยคิดฝันมาก่อนว่าการจับตัวประกันจะน่าอึดอัดขนาดนี้เฟิ่งชูอิ่งนอนเอกเขนกอยู่ตรงนั้นอย่างสบายใจ เหตุผลก็ง่ายๆ นางใช้

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 990

    เฟิ่งชูอิ่งยิ้มแล้วถามว่า “ทางที่ข้าชี้นำ เจ้ากล้าเดินตามหรือ?”เมื่อมาถึงตอนนี้แล้ว นางก็คร้านจะเสแสร้งต่อไปสีหน้าของจิ่งสือเยี่ยนแข็งค้างไปครู่หนึ่ง นางพูดอย่างเฉื่อยชาว่า “เพราะพวกเจ้าติดอยู่ที่นี่ คงรู้สึกหนาวเหน็บและหวาดกลัว”“เจ้าบาดเจ็บ ในสภาพอากาศหนาวเย็นเช่นนี้ แผลของเจ้าจะยิ่งทรุดหนัก”“เจ้ารีบร้อนมารวบรวมกำลังพลของกองกำลังอวี๋ซาน เจ้าคงไม่ได้พกอาหารมาด้วยมากนัก ดังนั้นตอนนี้พวกเจ้าคงหิวมากแล้ว”“ในสถานการณ์เช่นนี้ แค่ข้ากักขังพวกเจ้าไว้ที่นี่ ต่อให้ไม่หนาวตาย พวกเจ้าก็คงอดตายอยู่ดี”ขณะนี้หิมะขาวโพลนโปรยปรายไปทั่ว อากาศหนาวเหน็บ สภาพอากาศเช่นนี้คงจะดำเนินต่อไปเป็นเวลาอย่างน้อยครึ่งเดือนเป็นอย่างที่เฟิ่งชูอิ่งบอก พวกเขาเดินทางมาที่นี่โดยไม่ได้พกเสบียงอาหารแห้งหรืออะไรทำนองนั้นมาด้วยเลยด้วยเหตุนี้ตอนที่พวกเขาเดินวนจนครบรอบที่สาม เสบียงอาหารก็หมดลงตอนนี้ฟ้าเริ่มมืดแล้ว หลังจากตกกลางคืน อากาศจะยิ่งหนาวเย็นลง พวกเขาจะยิ่งลำบากมากขึ้นจิ่งสือเยี่ยนชักกระบี่ยาวออกมา “เจ้าเชื่อหรือไม่ว่าข้าสามารถบั่นคอเจ้าด้วยกระบี่เล่มนี้ได้!”เฟิ่งชูอิ่งยิ้มหวานแล้วเอ่ยว่า “เอาเลย ฆ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 989

    เขาคลี่ยิ้มมุมปากเล็กน้อย “ได้”หลังจากฆ่าจิ่งโม่เยี่ยแล้ว จะปล่อยนางไปหรือไม่ เรื่องนี้เขาจะเป็นคนตัดสินใจนางเป็นผู้หญิงคนแรกที่เขารู้สึกชอบจริงๆ และนางก็เป็นผู้หญิงคนแรกที่ทำให้เขารู้จักกับความล้มเหลวเขารู้ว่านางมีวิธีการบางอย่างที่คนทั่วไปไม่มี ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าประมาท เขาจะป้อนยาที่ทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงให้นางกินทุกวันเฟิ่งชูอิ่งรู้ทันความคิดของเขา และยอมให้ความร่วมมือแต่โดยดีขณะที่ในใจของนางกำลังครุ่นคิด ครั้งที่แล้วโดนไปขนาดนั้นยังรอดมาได้ ถ้าอย่างนั้นก็ต้องหาโอกาสฆ่าเขาให้ตายสนิทแบบไม่มีสิทธิ์ฟื้นขึ้นมาอีกนางพลันนึกถึงเรื่องที่เหมยตงยวนวิญญาณแหลกสลายหลังจากรู้ข่าวการตายของเฟิ่งชิงหลิง จิตใจนางจึงหม่นหมองตามไปด้วยนางรู้ว่าเหมยตงยวนรักเฟิ่งชิงหลิงอย่างสุดซึ้ง แต่ไม่คิดว่านั่นจะเป็นรากฐานที่ทำให้เขามีชีวิตอยู่ในโลกใบนี้เพราะนางเห็นความรักของพวกเขา นางจึงยิ่งรู้ชัดว่าตัวเองมีความรู้สึกแบบไหนต่อจิ่งโม่เยี่ยในเมื่อรักแล้ว ก็ต้องรักให้สุดหัวใจอย่าได้ทำเรื่องที่ทำให้ตัวเองเสียใจและทำให้ฝ่ายตรงข้ามเข้าใจผิดอีกจิ่งสือเยี่ยนไม่ได้ไปตามล่าจิ่งโม่เยี่ยโดยตรง เขาวางแผนท

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status