Share

บทที่ 227

Author: ดอกถังร่วงหล่น
last update Last Updated: 2024-07-30 18:45:06
กิจการไปได้สวยขนาดนี้ ดูอย่างไรก็ไม่น่าจะขาดทุนเหมือนที่จดบัญชีเอาไว้เลย

มองปราดเดียว เฟิ่งชูอิ่งก็รู้แล้วว่าฮว๋าซื่อตั้งใจใช้อำนาจกลั่นแกล้งนาง

นางกระจ่างแจ้งในใจ ก่อนจะเดินวนรอบๆ ร้านค้า เตรียมจะหาผ้าสักพับเพื่อทำอาภรณ์ พร้อมกับตรวจดูการทำงานของร้านไปด้วย

เพียงแต่นางยังไม่ทันจะเอ่ยปาก หลงจู๊ก็เดินหน้าปลาบปลื้มเข้ามาหานาง “คุณหนู ในที่สุดท่านก็มาเสียที”

เฟิ่งชูอิ่งเอ่ยถามอย่างแปลกใจ “เจ้ารู้จักข้าหรือ?”

หลงจู๊ตอบว่า “ข้าไม่รู้จักท่านหรอก แต่ข้ารู้จักมารดาของท่าน

“ท่านหน้าตาเหมือนกับมารดาของท่านมาก มองแวบเดียวข้าก็จำได้แล้ว

“ตอนนั้นมารดาของท่านมีบุญคุณต่อข้าอย่างมาก ข้าก็เลยทำงานเป็นหลงจู๊ที่ร้านแห่งนี้ ช่วยดูแลกิจการแทนนาง

“ข้าเฝ้ารอให้ท่านมาที่ร้านแห่งนี้มาโดยตลอด แต่ท่านกลับไม่เคยมา

“ข้าเคยไปหาท่านที่จวนสกุลหลินด้วย แต่กลับไม่เคยได้พบกับท่านเลย ใจข้ารู้สึกเป็นกังวลอยู่มิน้อย

“วันนี้ในที่สุดก็ได้พบท่านเสียที ข้าดีใจจนบอกไม่ถูกเลยขอรับ!”

เฟิ่งชูอิ่งมองดวงตาที่เป็นสีแดงระเรื่อของเขา ดูแล้วเหมือนคนที่ซาบซึ้งยินดีอย่างมาก

นางจึงเอ่ยว่า “ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้ ก่อนหน้านี้ข้ายังเด็กนัก ท่านป้
Locked Chapter
Continue to read this book on the APP

Related chapters

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 228

    ไม่ต้องพูดถึงคนตระหนี่ถี่เหนียวอย่างฮว๋าซื่อเลย เป็นไปไม่ได้ที่นางจะตรวจไม่เจอการทำบัญชีปลอมนิทานที่หลงจู๊เล่าอาจจะหลอกเด็กสาวที่โง่เขลาและโลภมากได้ แต่มันหลอกนางไม่ได้หรอกตอนนั้นจิ่งสือเยี่ยนอยู่ด้วย ไม่อย่างนั้นนางคงลงมือจัดการหลงจู๊ไปแล้วหลังจากนางออกมาก็ยอมเดินตามหลงจู๊มาอย่างใจเย็น กว่าจะมาถึงตรงนี้ได้ไม่ใช่เรื่องง่าย หากไม่ใช่เพราะนางอยากรู้ว่าหลงจู๊คิดจะทำอะไร นางคงกระทืบเขาไปแล้วแม้นางจะไม่รู้ว่าที่นี่คือที่ไหน แต่จะต้องไม่ใช่สถานที่ดีๆ แน่ ดังนั้นนางไม่มีทางเข้าไปหรอกอีกทั้งหลงจู๊ยังกระซิบกระซาบเสียงเบาอีก เป็นหลักฐานยืนยันอย่างดีว่าที่นี่ไม่ปลอดภัยนางกำลังคิดว่าจะปล่อยเฉี่ยวหลิงทะลุกำแพงไปสำรวจสถานการณ์อีกฝั่งดีไหม จิ่งสือเยี่ยนก็มาขวางนางไว้ก่อน “ห้ามเข้าไปนะ”เขาโผล่มาแบบกะทันหัน เฟิ่งชูอิ่งจึงตกใจจนสะดุ้งโหยง หากเมื่อครู่นี้เฉี่ยวหลิงเอาหัวทะลุกำแพงเข้าไปสอดส่องอีกฝั่งจริงๆ ล่ะก็ งานนี้ได้แตกตื่นของจริงแน่นางสงบจิตสงบใจแล้วเอ่ยถาม “องค์ชายมาได้อย่างไรเพคะ?”จิ่งสือเยี่ยนตอบว่า “เมื่อครู่นี้ข้าได้ยินที่เจ้าสนทนากับหลงจู๊แล้วรู้สึกว่ามันแปลกๆ“ข้าเป็นห่วงก็เลยแอบตามมา

    Last Updated : 2024-07-30
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 229

    แต่ถึงเขาจะร้องโหยหวนสักแค่ไหนก็ไร้ประโยชน์ ไม่มีใครช่วยเขาได้ทั้งนั้นให้ทุกข์แก่ท่าน ทุกข์นั้นถึงตัวเฟิ่งชูอิ่งกับจิ่งสือเยี่ยนตัดสินใจเดินถอยออกไปทางข้างๆ เพียงแต่พวกเขาเดินไปเพียงไม่กี่ก้าว ก็มีเสียงวัตถุทะลวงอากาศดังขึ้นมานางตอบสนองอย่างว่องไวด้วยการหมอบลงพื้น ลูกธนูดอกหนึ่งจึงบินเฉียดหัวนางไปจิ่งสือเยี่ยนตอบสนองได้ช้ากว่านางนิดหน่อย แต่ลูกธนูดอกนั้นกลับไม่โดนตัวเขาเฟิ่งชูอิ่งเห็นเหตุการณ์ดังกล่าวก็ลอบถอนหายใจอีกครั้ง สมแล้วที่เป็นพระเอก ช่างเป็นลูกรักพระเจ้าอย่างแท้จริงนางเริ่มจะตะขิดตะขวงใจ หากไม่มีจิ่งสือเยี่ยนอยู่ตรงนี้ด้วย นางคงบอกให้เฉี่ยวหลิงช่วยแล้วเฉี่ยวหลิงเป็นวิญญาณร้าย สามารถโจมตีคนแบบไม่ให้รู้ตัวได้ทว่าจิ่งสือเยี่ยนยังอยู่ตรงนี้ด้วย นางจึงไม่กล้าให้เฉี่ยวหลิงเผยตัวลงมือจิ่งสือเยี่ยนกระเถิบมาหานางแล้วถาม “เจ้าไม่เป็นไรนะ?”เฟิ่งชูอิ่งตอบ “ข้าไม่เป็นไรเพคะ ตอนนี้จะทำอย่างไรดี?”ตอนนี้พวกเขาซุ่มหลบอยู่ที่หลังกำแพง ลูกธนูนั่นจึงยิงไม่โดนตัวพวกเขานางกับเฉี่ยวหลิงหันไปสบตากันแวบหนึ่ง นางสั่งให้เฉี่ยวหลิงรอก่อนอย่าเพิ่งเคลื่อนไหว รอดูสถานการณ์ก่อนค่อยว่ากันอีกทีจิ่

    Last Updated : 2024-07-30
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 230

    พริบตาเดียว กลิ่นคาวเลือดก็ลอยมาปะทะจมูก จนเฟิ่งชูอิ่งเกือบจะเข้าใจผิดคิดว่าจิ่งโม่เยี่ยฆ่าจิ่งสือเยี่ยนอยู่แล้วเชียวนางแหงนหน้าขึ้นอย่างยากลำบากแล้วหันมองไปทางจิ่งโม่เยี่ยเขายืนหน้าดำทะมึนอยู่ตรงนั้น ในมือถือกระบี่ที่ยังมีเลือดไหลหยดติ๋งๆ ลงมาจากปลายกระบี่อาจจะเป็นเพราะมองจากมุมต่ำ ตัวเขาในยามนี้จึงดูสูงเป็นอย่างมาก ตรงหว่างคิ้วมีความเย็นชาและเบื่อหน่ายผสมผสานกัน เผยให้เห็นถึงความเย็นเยียบและโหดเหี้ยมอย่างถึงที่สุดเสี้ยวพริบตานั้น เฟิ่งชูอิ่งพลันรู้สึกว่าเขาในยามนี้กำลังเบื่อโลกใบนี้อย่างมากขึ้นมา ราวกับว่าต้องการทำลายโลกทั้งใบจิ่งโม่เยี่ยที่เป็นแบบนี้ทำให้นางหวาดกลัวจับใจ จนคิดอยากจะถอยจากเขาไกลๆ ไกลได้อีกสักนิดก็จะดีในตอนนั้นเอง เสียงของจิ่งสือเยี่ยนก็แทรกขึ้นมา “พี่สาม ท่านมาแล้ว! ฮือฮือ เยี่ยมไปเลย! พวกเรารอดแล้ว!”เฟิ่งชูอิ่ง “......”นางเพิ่งจะเห็นว่าเลือดที่สาดลงบนใบหน้าของนางเมื่อครู่นี้ไม่ใช่ของจิ่งสือเยี่ยน แต่เป็นของมือสังหารชุดดำคนนั้นตอนที่เขามาถึง ทหารองครักษ์ที่ติดตามเขามาด้วยก็จัดการมือสังหารชุดดำพวกนั้นจนเรียบพอเขาเอ่ยเช่นนั้นจบ ก็ตะเกียกตะกายจากพื้นแล้วเดินไป

    Last Updated : 2024-07-30
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 231

    เฟิ่งชูอิ่งสำรวจบาดแผล ก่อนจะลองขยับขาดู จึงพบว่าถึงบาดแผลจะดูน่ากลัวไปสักหน่อย แต่กระดูกของนางไม่ได้แตกหักถ้าไม่บาดเจ็บถึงขั้นกระดูกหักก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ กลับไปทายาสักหน่อยก็ดีขึ้นแล้วพอนางสบายใจแล้วก็เตรียมจะดึงขากางเกงลงไปเหมือนเดิม แต่กลับถูกจิ่งโม่เยี่ยยึดข้อเท้าเอาไว้นางแหงนหน้าขึ้นมองเขาด้วยสายตาประหลาดใจ ไม่รู้ว่าเขาคิดจะทำอะไรนางเอ่ยถาม “ท่านอ๋อง มีอะไรหรือเปล่าเพคะ?”จิ่งโม่เยี่ยปรายตามองนางแวบหนึ่ง ก่อนจะดึงขากางเกงลงมาปิดเรียวขาของนาง จากนั้นก็อุ้มนางจนตัวลอยขึ้นมานี่เป็นครั้งที่สองที่เขาอุ้มนาง นางยังไม่ค่อยชินนักจึงเอ่ยว่า “แผลมิได้สาหัสมาก ข้าเดินเองได้เพคะ”จิ่งโม่เยี่ยเหล่มองนางแล้วเอ่ยว่า “เมื่อครู่นี้เจ้าอ้อนข้าอยู่เลย ไหนบอกว่าเจ็บมากไง?”เฟิ่งชูอิ่งเห็นสีหน้าของเขาก็แทบอยากจะโดดลงมาจากอ้อมแขนของเขาเสียเดี๋ยวนั้น จากนั้นก็ถอยห่างจากเขาอีกสักหนึ่งแสนแปดพันลี้เพียงแต่นางเข้าใจดีว่าสีหน้าท่าทางเช่นนี้ของเขา บ่งบอกว่าอีกฝ่ายหมดความอดทนแล้ว หากนางยังขัดคำสั่งเขาอีก เกรงว่าเขาอาจจะเอากระบี่มาฟันนางจริงๆนางจึงเอ่ยเสียงแผ่ว “เจ็บมากเพคะ แต่ก็ยังพอเดินไหว“ข้ากลัวจะเป

    Last Updated : 2024-07-30
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 232

    เฟิ่งชูอิ่งพยักหน้า “ไหวเพคะ”ครู่ต่อมา จิ่งโม่เยี่ยก็ค่อยๆ วางนางลงกับพื้นชั่วพริบตาที่นางยืนได้อย่างมั่นคง จิ่งโม่เยี่ยก็ชักกระบี่ออกจากฝักแล้วฟันปากของปู๋เยี่ยโหวด้วยความว่องไวดุจอสนีบาตปู๋เยี่ยโหวสบถหยาบคาย “จิ่งโม่เยี่ย เจ้าเกิดเป็นบ้าอะไรขึ้นมาอีกเนี่ย!“ข้าก็แค่อยากจะเห็นว่าหน้าตาของว่าที่พระชายาของเจ้าเป็นอย่างไร ถึงขั้นต้องลงไม้ลงมือกันเลยหรือ?”จิ่งโม่เยี่ยไม่พูดอะไร ทว่ากระบี่ในมือเขากลับเคลื่อนไหวคมกริบดุดันยิ่งกว่าเดิมปู๋เยี่ยโหวสะบัดพัดในมือขึ้นๆ ลงๆ ปัดป้องคมกระบี่ของจิ่งโม่เยี่ยให้ออกห่างจากตัวพัดของเขาเป็นของที่ทำขึ้นเป็นพิเศษ ยามที่สัมผัสโดนกระบี่ของจิ่งโม่เยี่ยจึงเกิดเสียงคล้ายโลหะกระทบกันครู่ต่อมา กระบี่คมก็เฉือนโดนข้อมือของปู๋เยี่ยโหว พัดของเขาถูกฟันเสียงดัง ‘เคร้ง’ ก่อนจะร่วงลงพื้นจิ่งโม่เยี่ยเอ่ยเสียงเรียบ ”ถึงขั้นนั้นแหละ”ปู๋เยี่ยโหว “......”เขารู้ว่าจิ่งโม่เยี่ยต่อสู้เสร็จแล้วถึงค่อยตอบคำถามก่อนหน้านี้ของเขาเขาก่นด่าอย่างหัวเสีย “แค่มองนิดเดียวมันจะเสียหายอะไร? สาวงามทั้งหลายของข้าเชิญเจ้ามองได้ตามสบายเลย”จิ่งโม่เยี่ยเพียงเก็บกระบี่เข้าไปในฝัก แล้วเดิ

    Last Updated : 2024-07-30
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 233

    อย่างไรเสียเขาก็เป็นคนเสียสติที่อยากตายอยู่แล้ว ถ้างั้นนางก็จะช่วยส่งเสริมเขาอีกแรงนางกำลังช่วยเหลือคนตกทุกข์ได้ยากอยู่นะ!หลังจากถูกคาถาของนางเล่นงานใส่ ปู๋เยี่ยโหวก็พลันรู้สึกว่าร่างกายของเขาหนาวเหน็บขึ้นมากะทันหันตอนที่เขาเห็นใบหน้าของนาง เขาก็ยิ่งรู้สึกหนาวมากกว่าเดิมเมื่อครู่นี้ตอนที่จิ่งโม่เยี่ยสังหารคน เลือดกระเด็นลงบนหน้าของนาง แล้วนางยังใช้มือเช็ดออกอีก ทำให้ใบหน้าของนางยามนี้มีแต่เลือดเต็มไปหมด มองไม่เห็นด้วยซ้ำว่าหน้าตาแท้จริงเป็นเช่นไรตอนที่นางทำท่าจะผละออกมาจากอ้อมแขนของจิ่งโม่เยี่ย ปู๋เยี่ยโหวยังวางมาดด้วยท่าทางที่คิดว่าตนเองหล่อเหลามากอยู่เลยหลังจากเห็นหน้าตาของนางแล้ว เขาก็เก็บมาดของตัวเองทันทีเขาค่อนข้างผิดหวัง จึงส่งเสียงจิ๊เบาๆ “น่าเกลียดชะมัด!”เฟิ่งชูอิ่ง “......”ตอนที่จิ่งโม่เยี่ยเห็นนางครั้งแรกก็บอกว่านางน่าเกลียดเหมือนกัน นางคิดว่าพวกเขาตาถั่วพอกันเลย!เมื่อเห็นว่าท่าทีของเขาไร้มารยาทสุดๆ นางจึงผสานมือใช้คาถาอีกครั้งด้วยการแสร้งทำเป็นยอบกายคารวะ “ท่านโหวกล่าวล้อเล่นแล้ว”ปู๋เยี่ยโหวรู้สึกหนาวยะเยือกยิ่งกว่าเดิม เขาจามออกมาแล้วเอ่ยว่า “น่าเบื่อชะมัด”เขาหั

    Last Updated : 2024-07-30
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 234

    เฟิ่งชูอิ่ง “......”คำถามของจิ่งโม่เยี่ยกะทันหันเกินไปจนนางคิดตามไม่ทัน จึงได้แต่มองเขาอย่างตกตะลึงจิ่งโม่เยี่ยออกแรงบีบคางนางจนรู้สึกเจ็บ “ทำไม? ยังติดใจอยู่อีกหรือ?”เฟิ่งชูอิ่ง “......”ติดใจ? ตอนนั้นนางเกือบจะถูกจิ่งสือเยี่ยนทับจนแบนตายอยู่แล้ว นางจะติดใจทำซากอะไรล่ะ!นางคิดไปคิดว่าจึงกล่าวว่า “อืม ข้าจำได้ว่าเขาหนักมาก ตอนโดนเขาทับข้าเจ็บไปทั้งตัวเลย ขาก็แทบจะหักอยู่แล้ว”จิ่งโม่เยี่ยจ้องหน้านาง นางจึงใช้มือกระตุกแขนเสื้อเขาเบาๆ เอ่ยถามว่า “ถึงอ๋องจิ้นจะเป็นคนดีใช้ได้ แต่ก็โง่งมไปหน่อยเพคะ“เขาจะช่วยคนทั้งทีแต่กลับไม่ยอมคิดอ่านให้รอบคอบ ข้ารอดจากการโจมตีของคนชุดดำพวกนั้น แต่กลับถูกเขานอนทับเกือบตาย“เขาหน้าตาไม่ดีเท่าท่านอ๋อง ทำอะไรไม่รอบคอบเท่าท่านอ๋อง วรยุทธ์ก็สู้ท่านอ๋องไม่ได้ แม้แต่นิ้วข้างเดียวของท่านอ๋องเขาก็เทียบไม่ติด”จิ่งโม่เยี่ยชอบที่นางพูดจาเช่นนี้ ทว่าจิตใจของบุรุษคับแคบกว่าที่นางคาดคิดเอาไว้มาก ย่อมไม่อาจกลบเกลื่อนให้เรื่องนี้จบลงง่ายๆ นิ้วหัวแม่มือของเขาเลื่อนจากคางของนางขึ้นมาที่ใบหน้า ก่อนจะนวดแรงๆ สองสามครั้งนางถูกเขานวดจนเริ่มเจ็บ จึงขยับใบหน้าออกห่างโดยไม่ร

    Last Updated : 2024-07-30
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 235

    ตอนนี้นางถูกเขากักตัวเอาไว้ในที่แคบ แทบไม่มีทางขยับไปไหนได้ เขาบดจูบนางด้วยความป่าเถื่อนดุดันประหนึ่งต้องการช่วงชิงลมหายใจของนางไปนางยกมือขึ้นผลักเขาเบาๆ การกระทำเช่นนี้ไม่ถึงกับเป็นการขัดขืน หนำซ้ำยังทำให้เขาบ้าคลั่งยิ่งกว่าเดิมอีกเฟิ่งชูอิ่ง “......”นางรับไม่ไหวแล้วจริงๆ ไอ้บุรุษผู้นี้มันจะบ้าคลั่งเกินไปแล้ว!อีกทั้งเขาแสดงออกอย่างชัดเจนว่าการใกล้ชิดกันเท่านี้มันยังไม่พอ เขาจึงอุ้มนางขึ้นมานั่งตัก ใช้มือข้างหนึ่งประคองท้ายทอยของนางไว้ มืออีกข้างโอบรอบเอวบาง ก่อนจะบดจูบลงมาอีกครั้งตอนนี้เฟิ่งชูอิ่งเริ่มจะมึนงงแล้ว นางถูกเขาจูบจนแทบจะขาดอากาศหายใจ เขาคิดจะกินนางจริงๆ หรือ?อีกอย่าง นางนั่งอยู่บนตักของเขาแบบนี้ ทำให้สัมผัสความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับตัวเขาอย่างชัดเจนเฟิ่งชูอิ่ง “!!!!!!”ทั้งสองคนเคยนอนหลับด้วยกันมาก่อน แล้วก็เคยจูบกันมาก่อน แต่นี่เป็นครั้งแรกที่นางสัมผัสการตอบสนองทางร่างกายของเขาได้และเป็นครั้งแรกที่นางรับรู้ถึงความปรารถนาของบุรุษเพศอย่างแท้จริง....นางเกิดกลัวขึ้นมาเล็กน้อย ครั้งนี้จึงไม่ได้ผลักเขาออกและกัดปากของเขาแทนจิ่งโม่เยี่ยปล่อยนางเป็นอิสระ นัยน์ตาดอกท้อ

    Last Updated : 2024-07-30

Latest chapter

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 997

    เฟิ่งชูอิ่งพูดต่อว่า “แต่ตอนนี้ข้าไม่เหลือทั้งบิดามารดาแล้ว เจ้าห้ามรังแกข้าเชียวนะ!”จิ่งโม่เยี่ยยกมือสาบานต่อฟ้าทันที “หากข้าทำไม่ดีกับเจ้าในภายภาคหน้า ขอให้สวรรค์ลงทัณฑ์ส่งฟ้ามาผ่าให้ตาย!”เฟิ่งชูอิ่งหัวเราะ “เรื่องฟ้าผ่าไม่ต้องถึงมือสวรรค์หรอก ข้าก็ทำได้”จิ่งโม่เยี่ย “......”เขาเกือบลืมไปแล้วว่านางวาดยันต์ได้เก่งมาก ตราบใดที่นางต้องการ ใช้ฟ้าผ่าเขาก็ไม่ใช่เรื่องยากเฟิ่งชูอิ่งเห็นท่าทางของเขาก็แอบหัวเราะเบาๆ เอื้อมมือไปกอดแล้วซุกศีรษะพิงอกเขา กล่าวว่า “ข้าเชื่อใจท่าน”“ตอนนี้เราทั้งสองล้วนไม่มีพ่อแม่แล้ว ชีวิตที่เหลืออยู่ก็มีเพียงกันและกัน”“ต่อไปข้าจะดูแลเจ้าอย่างเต็มที่ จะไม่ระแวงเจ้าอีก ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ข้าจะเชื่อใจเจ้า”หัวใจที่ตึงเครียดของจิ่งโม่เยี่ยก็ผ่อนคลายลงในทันทีเขากอดนางตอบ “กาลเวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าการตัดสินใจของเจ้าถูกต้อง”เขาโน้มตัวลงจูบหน้าผากนางเบาๆ เอ่ยอย่างอ่อนโยนว่า “ข้าจะทุ่มเททุกอย่างเพื่อรักเจ้า”เมื่อเฟิ่งชูอิ่งได้ยินคำพูดนี้ หัวใจก็สั่นไหว นางช้อนตามองขึ้นไปที่เขา ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความอ่อนโยนนางรู้ว่าคำพูดของเขาในตอนนี้ล้วนมาจ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 996

    ก่อนหน้านี้เขาไม่รู้ฐานะของจิ้งจอกสือซานเหนียง แต่ตอนนี้เขาพอจะเข้าใจได้หลังจากได้ยินบทสนทนาระหว่างจิ้งจอกสือซานเหนียงและเฟิ่งชูอิ่งจิ้งจอกสือซานเหนียงเห็นสีหน้าเคร่งขรึมของเขาก็หัวเราะเบาๆ ก่อนจะหันหลังเดินจากไปเฟิ่งชูอิ่งถามว่า “เจ้าจะไปไหน? ข้ายังมีเรื่องอยากจะถามเจ้าอีกมาก”จิ้งจอกสือซานเหนียงตอบว่า “ข้าจะไปหาที่ขับไล่พลังชั่วร้ายออกจากร่างกาย พอขับไล่เสร็จแล้วข้าจะกลับมาหาเจ้า”ตลอดหลายปีที่ผ่านมา นางฝึกฝนวิชาสายชั่วร้ายมากมาย ทำให้พลังชั่วร้ายในร่างกายมีมากเกินไป หากอยู่ใกล้ใครนานๆ จะมีผลกระทบต่อคนรอบข้างเฟิ่งชูอิ่งจึงเตือนนางว่า “เจ้าอย่าผิดคำพูดล่ะ ข้าจะรอเจ้ากลับมา!”จิ้งจอกสือซานเหนียงโบกมือแล้วบอกว่า “วางใจเถอะ ข้าจะกลับมาแน่นอน”หลังจากนางเดินออกไปไกลแล้ว เฟิ่งชูอิ่งก็ถอนหายใจยาวๆ และเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นหลังจากแยกทางกันให้จิ่งโม่เยี่ยฟังหลังจากที่จิ่งโม่เยี่ยได้ยินเรื่องของเหมยตงยวน เขาก็เงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า “เพราะรักถลำลึกจึงไม่ยืนยาว เรื่องระหว่างท่านพ่อกับท่านแม่ช่างน่าเศร้า”เฟิ่งชูอิ่งกล่าวอย่างแผ่วเบาว่า “ดังนั้นการสื่อสารจึงสำคัญ ต่อไปไม่ว่าจะมี

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 995

    สิ้นเสียงของนาง สายฟ้าก็ฟาดลงมาอีกครั้ง ทำให้พลังที่พุ่งพล่านของเขาสลายไปจิ่งสือเยี่ยน “!!!!!!!!”หลังจากถูกอสนีบาตฟาดใส่อย่างต่อเนื่องห้าครั้ง ร่างวิญญาณของเขาก็จางลงอย่างมากแต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ยังไม่ตายเฟิ่งชูอิ่งถึงกับตกใจ ชีวิตของจิ่งสือเยี่ยนช่างแข็งแกร่งเสียจริง!นางอดสงสัยไม่ได้ว่าเขาจะกลายเป็นเทียนซือคนที่สอง และจะกลายเป็นภัยพิบัติในอนาคตนางกำลังจะม้วนแขนเสื้อขึ้นเพื่อเสกยันต์ใส่จิ่งสือเยี่ยนอีกครั้ง แต่กลับมีเงาร่างหนึ่งพุ่งเข้ามาแล้วกลืนเขาเข้าไปทั้งตัวเฟิ่งชูอิ่ง “!!!!!!”จิ้งจอกสือซานเหนียงเรอออกมาคำโตแล้วบอกว่า “เขาเป็นอาหารที่ข้าหมายตาไว้แต่แรก”“การปล่อยให้อาหารหลุดมือไป เป็นเรื่องที่ไม่อาจให้อภัยได้”เฟิ่งชูอิ่ง “......”นางเคยจินตนาการถึงความตายของจิ่งสือเยี่ยนไว้หลายแบบ แต่ไม่มีฉากจบแบบนี้อยู่เลยนางได้คงบอกได้แค่ว่าจิ้งจอกสือซานเหนียงเจ๋งสุดยอด!ขณะเดียวกันนั้นจิ่งโม่เยี่ยก็เดินเข้ามา เขาจ้องมองจิ้งจอกสือซานเหนียงด้วยความระแวดระวัง มือจับกระบี่เอาไว้ เตรียมพร้อมที่จะฟันจิ้งจอกสือซานเหนียงได้ทุกเมื่อเฟิ่งชูอิ่งบีบมือเขาเบาๆ ให้เขาผ่อนคลายจิ้งจอก

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 994

    แต่ทว่าคันธนูของจิ่งสือเยี่ยนเพิ่งจะยกขึ้นมา ก็มีลูกธนูที่เร็วกว่าพุ่งทะลุหัวใจของเขาในทันทีจิ่งสือเยี่ยนมองลูกธนูที่ปักอยู่บนอกด้วยความไม่อยากเชื่อ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองและเห็นดวงตาที่เย็นชาของจิ่งโม่เยี่ยเมื่อครู่นี้พวกเขาทั้งสองยังมีระยะห่างต่อกันอยู่แท้ๆ และตำแหน่งที่เขาหลบอยู่ก็เป็นมุมอับที่จิ่งโม่เยี่ยยิงมาไม่ถึงทว่าเพียงแค่อึดใจเดียว จิ่งโม่เยี่ยก็ปรับตำแหน่งได้อย่างรวดเร็วและยิงธนูทะลุหัวใจเขาได้ในนัดเดียวในตอนนี้จิ่งสือเยี่ยนกับจิ่งโม่เยี่ยไม่ได้อยู่ห่างกันมากนัก แต่ถ้าพูดคุยกันตามปกติก็คงไม่ได้ยินทว่าในเวลาเช่นนี้ จิ่งสือเยี่ยนกลับได้ยินเสียงของจิ่งโม่เยี่ย “คนที่กล้าทำร้ายชูอิ่งต้องตาย!”ก่อนหน้านี้จิ่งสือเยี่ยนคิดแค่ว่าจิ่งโม่เยี่ยดีต่อเฟิ่งชูอิ่งมาก ทว่าตอนนี้เขาเพิ่งได้รู้ซึ้งเรื่องบางอย่างเฟิ่งชูอิ่งไม่ใช่แค่จุดอ่อนของจิ่งโม่เยี่ย แต่เป็นทั้งชีวิตของเขาแต่มาเข้าใจเอาป่านนี้ก็สายไปแล้วในตอนนี้เฟิ่งชูอิ่งยังคงนอนคว่ำอยู่บนพื้นหิมะ นางได้ยินเสียงวัตถุแหวกอากาศจึงหันไปมอง และเห็นภาพของจิ่งสือเยี่ยนล้มลงกับพื้นในเวลานี้ เฟิ่งชูอิ่งก็เข้าใจใด้ทันทีว่าในโลกน

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 993

    ในเมื่อเขาไม่ได้ราชบัลลังก์และเฟิ่งชูอิ่งมาครอบครอง ราชบัลลังก์เขาอาจจะทำลายไม่ได้ แต่เฟิ่งชูอิ่งแค่คนเดียวเขาทำลายได้แน่นอนองครักษ์สองคนของเขารีบเปลี่ยนมาง้างคันธนูเล็งไปที่เฟิ่งชูอิ่ง ทว่าลูกธนูยังไม่ทันได้ยิงออกไป ก็ถูกบางสิ่งบางอย่างปัดออกไปอีกครั้งในตอนนี้จิ่งสือเยี่ยนก็พลันเข้าใจบางอย่างขึ้นมาทันทีตลอดทางที่ผ่านมา วิญญาณร้ายของเฟิ่งชูอิ่งถึงจะมาแล้ว แต่ก็ไม่ได้ลงมือ นั่นก็น่าจะมีเหตุผลที่ลงมือไม่ได้วิญญาณร้ายโจมตีองครักษ์ของเขา แต่กลับไม่โจมตีเขา นั่นก็หมายความว่าวิญญาณร้ายเหล่านั้นโจมตีเขาไม่ได้เขานึกถึงข่าวลือที่เคยได้ยินมาว่า พลังมังกรของผู้เป็นฮ่องเต้เป็นสิ่งที่ปราบภูตผีปีศาจได้วิญญาณร้ายไม่โจมตีเขา นั่นแสดงว่าวิญญาณร้ายทำอะไรเขาไม่ได้ แปลว่าเขามีพลังมังกรอยู่ในตัว?ความคิดนี้ทำให้จิตใจเขาฮึกเหิมขึ้นมาทันที เขารีบหยิบธนูของตัวเองขึ้นมา อดทนต่อความเจ็บปวดจากบาดแผลแล้วยิงธนูไปที่หลังของเฟิ่งชูอิ่งเฉี่ยวหลิงเห็นภาพนี้ก็ตกใจ รีบยื่นมือออกไปเพื่อจะรับลูกธนูนั้นทว่าลูกธนูนั้นเปื้อนเลือดของจิ่งสือเยี่ยน เลือดนั้นเป็นอันตรายต่อวิญญาณร้ายอย่างมาก มือของนางแค่เพียงสัมผ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 992

    หิมะยังคงโปรยปรายลงมา โลกนี้เงียบสงัด มีเพียงเสียงฝีเท้ากระทบกับพื้นหิมะดังฟุ่บฟั่บช่วงใกล้รุ่งสาง ชวีเหลียงอวี่ก็มาปรากฏตัวและเอ่ยขึ้นทันทีว่า "ท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการรออยู่ข้างนอกแล้ว"เมื่อได้ยินดังนั้น เฟิ่งชูอิ่งก็เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยนางหันไปบอกกับจิ่งสือเยี่ยนว่า "เมื่อครู่ข้าลองคิดดูดีๆ แล้ว รู้สึกว่าที่เจ้าพูดก็มีเหตุผลอยู่บ้าง การมีชีวิตอยู่ก็ไม่เลว"จิ่งสือเยี่ยน “......”หลังจากผ่านมาทั้งคืน นางกลับปลงตกในเรื่องเช่นนี้ได้ ทำให้เขารู้สึกประหลาดใจอยู่เล็กน้อยแต่การที่นางคิดได้ในตอนนี้ก็เป็นเรื่องดีเขาจึงพูดว่า "หลายสิ่งหลายอย่างทำได้ตอนมีชีวิตอยู่เท่านั้น ตายไปแล้วทำไม่ได้""ตราบใดที่เจ้าพาข้าออกจากค่ายกลแห่งนี้ ข้าจะไม่สร้างความลำบากให้เจ้าอีก”เฟิ่งชูอิ่งพยักหน้า "ก็ได้ งั้นตอนนี้ข้าจะพาเจ้าไปทำลายค่ายกล"พูดจบนางก็ควบม้านำหน้าไป จิ่งสือเยี่ยนรีบนำทหารตามไปทันทีเพียงแต่พวกเขาเดินวนเวียนอยู่ที่นี่ทั้งคืน ทั้งเหนื่อยทั้งหิว พลังจึงลดลงไปมากเฟิ่งชูอิ่งมียันต์ป้องกันความหนาวติดตัวอยู่จึงไม่รู้สึกหนาว ก่อนหน้านี้ก็นอนหลับมาตลอดทาง ทำให้รักษาพลังงานไว้ได้มากที่สุ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 991

    เขาไม่เคยเจอใครดื้อด้านเท่านางมาก่อน!เขาสูดหายใจเข้าลึกๆ เพื่อระงับโทสะ เพราะตอนนี้เขาไม่สามารถตบตีหรือด่าทอนางได้ทั้งนั้นเขาพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “เจ้าอยากไปเจียงหนานไม่ใช่หรือ? พอออกจากที่นี่ได้ ข้าจะไม่ขัดขวางเจ้า เจ้าก็จะได้ไปชมวิวทิวทัศน์เจียงหนานที่เจ้าอยากเห็น”“เจียงหนานในฤดูหนาวที่มีหิมะปกคลุมทั้งงดงามและน่าหลงใหล ถ้าเจ้ายังไม่เคยเห็น ต้องไปดูด้วยตาตัวเองให้ได้เลย”เฟิ่งชูอิ่งยังคงนอนอยู่บนพื้นไม่ยอมลุกขึ้น “ไม่ไป อากาศหนาวเกินไป เดินทางเหนื่อยเกินไป”จิ่งสือเยี่ยน “…...”ตั้งแต่วินาทีที่เขาติดกับอยู่ที่นี่ สถานะระหว่างเขากับเฟิ่งชูอิ่งก็สลับกันโดยสิ้นเชิงเพราะเขามีความทะเยอทะยาน อยากใช้ชีวิตอย่างสุขสบายยิ่งเฟิ่งชูอิ่งแสดงออกว่าอยากตายมากเท่าไหร่ จิ่งสือเยี่ยนก็ยิ่งไม่ยอมให้นางตายมากขึ้นเท่านั้นดังนั้นตอนนี้นางจึงควบคุมเขาได้อย่างเบ็ดเสร็จการที่นางแสดงท่าทีไม่ยอมทำตามไม่ว่าเขาจะใช้ไม้แข็งหรือไม้อ่อนเช่นนี้ ทำให้เขาแทบเป็นบ้าจิ่งสือเยี่ยนไม่เคยคิดฝันมาก่อนว่าการจับตัวประกันจะน่าอึดอัดขนาดนี้เฟิ่งชูอิ่งนอนเอกเขนกอยู่ตรงนั้นอย่างสบายใจ เหตุผลก็ง่ายๆ นางใช้

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 990

    เฟิ่งชูอิ่งยิ้มแล้วถามว่า “ทางที่ข้าชี้นำ เจ้ากล้าเดินตามหรือ?”เมื่อมาถึงตอนนี้แล้ว นางก็คร้านจะเสแสร้งต่อไปสีหน้าของจิ่งสือเยี่ยนแข็งค้างไปครู่หนึ่ง นางพูดอย่างเฉื่อยชาว่า “เพราะพวกเจ้าติดอยู่ที่นี่ คงรู้สึกหนาวเหน็บและหวาดกลัว”“เจ้าบาดเจ็บ ในสภาพอากาศหนาวเย็นเช่นนี้ แผลของเจ้าจะยิ่งทรุดหนัก”“เจ้ารีบร้อนมารวบรวมกำลังพลของกองกำลังอวี๋ซาน เจ้าคงไม่ได้พกอาหารมาด้วยมากนัก ดังนั้นตอนนี้พวกเจ้าคงหิวมากแล้ว”“ในสถานการณ์เช่นนี้ แค่ข้ากักขังพวกเจ้าไว้ที่นี่ ต่อให้ไม่หนาวตาย พวกเจ้าก็คงอดตายอยู่ดี”ขณะนี้หิมะขาวโพลนโปรยปรายไปทั่ว อากาศหนาวเหน็บ สภาพอากาศเช่นนี้คงจะดำเนินต่อไปเป็นเวลาอย่างน้อยครึ่งเดือนเป็นอย่างที่เฟิ่งชูอิ่งบอก พวกเขาเดินทางมาที่นี่โดยไม่ได้พกเสบียงอาหารแห้งหรืออะไรทำนองนั้นมาด้วยเลยด้วยเหตุนี้ตอนที่พวกเขาเดินวนจนครบรอบที่สาม เสบียงอาหารก็หมดลงตอนนี้ฟ้าเริ่มมืดแล้ว หลังจากตกกลางคืน อากาศจะยิ่งหนาวเย็นลง พวกเขาจะยิ่งลำบากมากขึ้นจิ่งสือเยี่ยนชักกระบี่ยาวออกมา “เจ้าเชื่อหรือไม่ว่าข้าสามารถบั่นคอเจ้าด้วยกระบี่เล่มนี้ได้!”เฟิ่งชูอิ่งยิ้มหวานแล้วเอ่ยว่า “เอาเลย ฆ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 989

    เขาคลี่ยิ้มมุมปากเล็กน้อย “ได้”หลังจากฆ่าจิ่งโม่เยี่ยแล้ว จะปล่อยนางไปหรือไม่ เรื่องนี้เขาจะเป็นคนตัดสินใจนางเป็นผู้หญิงคนแรกที่เขารู้สึกชอบจริงๆ และนางก็เป็นผู้หญิงคนแรกที่ทำให้เขารู้จักกับความล้มเหลวเขารู้ว่านางมีวิธีการบางอย่างที่คนทั่วไปไม่มี ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าประมาท เขาจะป้อนยาที่ทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงให้นางกินทุกวันเฟิ่งชูอิ่งรู้ทันความคิดของเขา และยอมให้ความร่วมมือแต่โดยดีขณะที่ในใจของนางกำลังครุ่นคิด ครั้งที่แล้วโดนไปขนาดนั้นยังรอดมาได้ ถ้าอย่างนั้นก็ต้องหาโอกาสฆ่าเขาให้ตายสนิทแบบไม่มีสิทธิ์ฟื้นขึ้นมาอีกนางพลันนึกถึงเรื่องที่เหมยตงยวนวิญญาณแหลกสลายหลังจากรู้ข่าวการตายของเฟิ่งชิงหลิง จิตใจนางจึงหม่นหมองตามไปด้วยนางรู้ว่าเหมยตงยวนรักเฟิ่งชิงหลิงอย่างสุดซึ้ง แต่ไม่คิดว่านั่นจะเป็นรากฐานที่ทำให้เขามีชีวิตอยู่ในโลกใบนี้เพราะนางเห็นความรักของพวกเขา นางจึงยิ่งรู้ชัดว่าตัวเองมีความรู้สึกแบบไหนต่อจิ่งโม่เยี่ยในเมื่อรักแล้ว ก็ต้องรักให้สุดหัวใจอย่าได้ทำเรื่องที่ทำให้ตัวเองเสียใจและทำให้ฝ่ายตรงข้ามเข้าใจผิดอีกจิ่งสือเยี่ยนไม่ได้ไปตามล่าจิ่งโม่เยี่ยโดยตรง เขาวางแผนท

DMCA.com Protection Status