แชร์

บทที่ 229

ผู้เขียน: ดอกถังร่วงหล่น
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-07-30 18:45:06
แต่ถึงเขาจะร้องโหยหวนสักแค่ไหนก็ไร้ประโยชน์ ไม่มีใครช่วยเขาได้ทั้งนั้น

ให้ทุกข์แก่ท่าน ทุกข์นั้นถึงตัว

เฟิ่งชูอิ่งกับจิ่งสือเยี่ยนตัดสินใจเดินถอยออกไปทางข้างๆ เพียงแต่พวกเขาเดินไปเพียงไม่กี่ก้าว ก็มีเสียงวัตถุทะลวงอากาศดังขึ้นมา

นางตอบสนองอย่างว่องไวด้วยการหมอบลงพื้น ลูกธนูดอกหนึ่งจึงบินเฉียดหัวนางไป

จิ่งสือเยี่ยนตอบสนองได้ช้ากว่านางนิดหน่อย แต่ลูกธนูดอกนั้นกลับไม่โดนตัวเขา

เฟิ่งชูอิ่งเห็นเหตุการณ์ดังกล่าวก็ลอบถอนหายใจอีกครั้ง สมแล้วที่เป็นพระเอก ช่างเป็นลูกรักพระเจ้าอย่างแท้จริง

นางเริ่มจะตะขิดตะขวงใจ หากไม่มีจิ่งสือเยี่ยนอยู่ตรงนี้ด้วย นางคงบอกให้เฉี่ยวหลิงช่วยแล้ว

เฉี่ยวหลิงเป็นวิญญาณร้าย สามารถโจมตีคนแบบไม่ให้รู้ตัวได้

ทว่าจิ่งสือเยี่ยนยังอยู่ตรงนี้ด้วย นางจึงไม่กล้าให้เฉี่ยวหลิงเผยตัวลงมือ

จิ่งสือเยี่ยนกระเถิบมาหานางแล้วถาม “เจ้าไม่เป็นไรนะ?”

เฟิ่งชูอิ่งตอบ “ข้าไม่เป็นไรเพคะ ตอนนี้จะทำอย่างไรดี?”

ตอนนี้พวกเขาซุ่มหลบอยู่ที่หลังกำแพง ลูกธนูนั่นจึงยิงไม่โดนตัวพวกเขา

นางกับเฉี่ยวหลิงหันไปสบตากันแวบหนึ่ง นางสั่งให้เฉี่ยวหลิงรอก่อนอย่าเพิ่งเคลื่อนไหว รอดูสถานการณ์ก่อนค่อยว่ากันอีกที

จิ่
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 230

    พริบตาเดียว กลิ่นคาวเลือดก็ลอยมาปะทะจมูก จนเฟิ่งชูอิ่งเกือบจะเข้าใจผิดคิดว่าจิ่งโม่เยี่ยฆ่าจิ่งสือเยี่ยนอยู่แล้วเชียวนางแหงนหน้าขึ้นอย่างยากลำบากแล้วหันมองไปทางจิ่งโม่เยี่ยเขายืนหน้าดำทะมึนอยู่ตรงนั้น ในมือถือกระบี่ที่ยังมีเลือดไหลหยดติ๋งๆ ลงมาจากปลายกระบี่อาจจะเป็นเพราะมองจากมุมต่ำ ตัวเขาในยามนี้จึงดูสูงเป็นอย่างมาก ตรงหว่างคิ้วมีความเย็นชาและเบื่อหน่ายผสมผสานกัน เผยให้เห็นถึงความเย็นเยียบและโหดเหี้ยมอย่างถึงที่สุดเสี้ยวพริบตานั้น เฟิ่งชูอิ่งพลันรู้สึกว่าเขาในยามนี้กำลังเบื่อโลกใบนี้อย่างมากขึ้นมา ราวกับว่าต้องการทำลายโลกทั้งใบจิ่งโม่เยี่ยที่เป็นแบบนี้ทำให้นางหวาดกลัวจับใจ จนคิดอยากจะถอยจากเขาไกลๆ ไกลได้อีกสักนิดก็จะดีในตอนนั้นเอง เสียงของจิ่งสือเยี่ยนก็แทรกขึ้นมา “พี่สาม ท่านมาแล้ว! ฮือฮือ เยี่ยมไปเลย! พวกเรารอดแล้ว!”เฟิ่งชูอิ่ง “......”นางเพิ่งจะเห็นว่าเลือดที่สาดลงบนใบหน้าของนางเมื่อครู่นี้ไม่ใช่ของจิ่งสือเยี่ยน แต่เป็นของมือสังหารชุดดำคนนั้นตอนที่เขามาถึง ทหารองครักษ์ที่ติดตามเขามาด้วยก็จัดการมือสังหารชุดดำพวกนั้นจนเรียบพอเขาเอ่ยเช่นนั้นจบ ก็ตะเกียกตะกายจากพื้นแล้วเดินไป

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-30
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 231

    เฟิ่งชูอิ่งสำรวจบาดแผล ก่อนจะลองขยับขาดู จึงพบว่าถึงบาดแผลจะดูน่ากลัวไปสักหน่อย แต่กระดูกของนางไม่ได้แตกหักถ้าไม่บาดเจ็บถึงขั้นกระดูกหักก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ กลับไปทายาสักหน่อยก็ดีขึ้นแล้วพอนางสบายใจแล้วก็เตรียมจะดึงขากางเกงลงไปเหมือนเดิม แต่กลับถูกจิ่งโม่เยี่ยยึดข้อเท้าเอาไว้นางแหงนหน้าขึ้นมองเขาด้วยสายตาประหลาดใจ ไม่รู้ว่าเขาคิดจะทำอะไรนางเอ่ยถาม “ท่านอ๋อง มีอะไรหรือเปล่าเพคะ?”จิ่งโม่เยี่ยปรายตามองนางแวบหนึ่ง ก่อนจะดึงขากางเกงลงมาปิดเรียวขาของนาง จากนั้นก็อุ้มนางจนตัวลอยขึ้นมานี่เป็นครั้งที่สองที่เขาอุ้มนาง นางยังไม่ค่อยชินนักจึงเอ่ยว่า “แผลมิได้สาหัสมาก ข้าเดินเองได้เพคะ”จิ่งโม่เยี่ยเหล่มองนางแล้วเอ่ยว่า “เมื่อครู่นี้เจ้าอ้อนข้าอยู่เลย ไหนบอกว่าเจ็บมากไง?”เฟิ่งชูอิ่งเห็นสีหน้าของเขาก็แทบอยากจะโดดลงมาจากอ้อมแขนของเขาเสียเดี๋ยวนั้น จากนั้นก็ถอยห่างจากเขาอีกสักหนึ่งแสนแปดพันลี้เพียงแต่นางเข้าใจดีว่าสีหน้าท่าทางเช่นนี้ของเขา บ่งบอกว่าอีกฝ่ายหมดความอดทนแล้ว หากนางยังขัดคำสั่งเขาอีก เกรงว่าเขาอาจจะเอากระบี่มาฟันนางจริงๆนางจึงเอ่ยเสียงแผ่ว “เจ็บมากเพคะ แต่ก็ยังพอเดินไหว“ข้ากลัวจะเป

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-30
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 232

    เฟิ่งชูอิ่งพยักหน้า “ไหวเพคะ”ครู่ต่อมา จิ่งโม่เยี่ยก็ค่อยๆ วางนางลงกับพื้นชั่วพริบตาที่นางยืนได้อย่างมั่นคง จิ่งโม่เยี่ยก็ชักกระบี่ออกจากฝักแล้วฟันปากของปู๋เยี่ยโหวด้วยความว่องไวดุจอสนีบาตปู๋เยี่ยโหวสบถหยาบคาย “จิ่งโม่เยี่ย เจ้าเกิดเป็นบ้าอะไรขึ้นมาอีกเนี่ย!“ข้าก็แค่อยากจะเห็นว่าหน้าตาของว่าที่พระชายาของเจ้าเป็นอย่างไร ถึงขั้นต้องลงไม้ลงมือกันเลยหรือ?”จิ่งโม่เยี่ยไม่พูดอะไร ทว่ากระบี่ในมือเขากลับเคลื่อนไหวคมกริบดุดันยิ่งกว่าเดิมปู๋เยี่ยโหวสะบัดพัดในมือขึ้นๆ ลงๆ ปัดป้องคมกระบี่ของจิ่งโม่เยี่ยให้ออกห่างจากตัวพัดของเขาเป็นของที่ทำขึ้นเป็นพิเศษ ยามที่สัมผัสโดนกระบี่ของจิ่งโม่เยี่ยจึงเกิดเสียงคล้ายโลหะกระทบกันครู่ต่อมา กระบี่คมก็เฉือนโดนข้อมือของปู๋เยี่ยโหว พัดของเขาถูกฟันเสียงดัง ‘เคร้ง’ ก่อนจะร่วงลงพื้นจิ่งโม่เยี่ยเอ่ยเสียงเรียบ ”ถึงขั้นนั้นแหละ”ปู๋เยี่ยโหว “......”เขารู้ว่าจิ่งโม่เยี่ยต่อสู้เสร็จแล้วถึงค่อยตอบคำถามก่อนหน้านี้ของเขาเขาก่นด่าอย่างหัวเสีย “แค่มองนิดเดียวมันจะเสียหายอะไร? สาวงามทั้งหลายของข้าเชิญเจ้ามองได้ตามสบายเลย”จิ่งโม่เยี่ยเพียงเก็บกระบี่เข้าไปในฝัก แล้วเดิ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-30
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 233

    อย่างไรเสียเขาก็เป็นคนเสียสติที่อยากตายอยู่แล้ว ถ้างั้นนางก็จะช่วยส่งเสริมเขาอีกแรงนางกำลังช่วยเหลือคนตกทุกข์ได้ยากอยู่นะ!หลังจากถูกคาถาของนางเล่นงานใส่ ปู๋เยี่ยโหวก็พลันรู้สึกว่าร่างกายของเขาหนาวเหน็บขึ้นมากะทันหันตอนที่เขาเห็นใบหน้าของนาง เขาก็ยิ่งรู้สึกหนาวมากกว่าเดิมเมื่อครู่นี้ตอนที่จิ่งโม่เยี่ยสังหารคน เลือดกระเด็นลงบนหน้าของนาง แล้วนางยังใช้มือเช็ดออกอีก ทำให้ใบหน้าของนางยามนี้มีแต่เลือดเต็มไปหมด มองไม่เห็นด้วยซ้ำว่าหน้าตาแท้จริงเป็นเช่นไรตอนที่นางทำท่าจะผละออกมาจากอ้อมแขนของจิ่งโม่เยี่ย ปู๋เยี่ยโหวยังวางมาดด้วยท่าทางที่คิดว่าตนเองหล่อเหลามากอยู่เลยหลังจากเห็นหน้าตาของนางแล้ว เขาก็เก็บมาดของตัวเองทันทีเขาค่อนข้างผิดหวัง จึงส่งเสียงจิ๊เบาๆ “น่าเกลียดชะมัด!”เฟิ่งชูอิ่ง “......”ตอนที่จิ่งโม่เยี่ยเห็นนางครั้งแรกก็บอกว่านางน่าเกลียดเหมือนกัน นางคิดว่าพวกเขาตาถั่วพอกันเลย!เมื่อเห็นว่าท่าทีของเขาไร้มารยาทสุดๆ นางจึงผสานมือใช้คาถาอีกครั้งด้วยการแสร้งทำเป็นยอบกายคารวะ “ท่านโหวกล่าวล้อเล่นแล้ว”ปู๋เยี่ยโหวรู้สึกหนาวยะเยือกยิ่งกว่าเดิม เขาจามออกมาแล้วเอ่ยว่า “น่าเบื่อชะมัด”เขาหั

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-30
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 234

    เฟิ่งชูอิ่ง “......”คำถามของจิ่งโม่เยี่ยกะทันหันเกินไปจนนางคิดตามไม่ทัน จึงได้แต่มองเขาอย่างตกตะลึงจิ่งโม่เยี่ยออกแรงบีบคางนางจนรู้สึกเจ็บ “ทำไม? ยังติดใจอยู่อีกหรือ?”เฟิ่งชูอิ่ง “......”ติดใจ? ตอนนั้นนางเกือบจะถูกจิ่งสือเยี่ยนทับจนแบนตายอยู่แล้ว นางจะติดใจทำซากอะไรล่ะ!นางคิดไปคิดว่าจึงกล่าวว่า “อืม ข้าจำได้ว่าเขาหนักมาก ตอนโดนเขาทับข้าเจ็บไปทั้งตัวเลย ขาก็แทบจะหักอยู่แล้ว”จิ่งโม่เยี่ยจ้องหน้านาง นางจึงใช้มือกระตุกแขนเสื้อเขาเบาๆ เอ่ยถามว่า “ถึงอ๋องจิ้นจะเป็นคนดีใช้ได้ แต่ก็โง่งมไปหน่อยเพคะ“เขาจะช่วยคนทั้งทีแต่กลับไม่ยอมคิดอ่านให้รอบคอบ ข้ารอดจากการโจมตีของคนชุดดำพวกนั้น แต่กลับถูกเขานอนทับเกือบตาย“เขาหน้าตาไม่ดีเท่าท่านอ๋อง ทำอะไรไม่รอบคอบเท่าท่านอ๋อง วรยุทธ์ก็สู้ท่านอ๋องไม่ได้ แม้แต่นิ้วข้างเดียวของท่านอ๋องเขาก็เทียบไม่ติด”จิ่งโม่เยี่ยชอบที่นางพูดจาเช่นนี้ ทว่าจิตใจของบุรุษคับแคบกว่าที่นางคาดคิดเอาไว้มาก ย่อมไม่อาจกลบเกลื่อนให้เรื่องนี้จบลงง่ายๆ นิ้วหัวแม่มือของเขาเลื่อนจากคางของนางขึ้นมาที่ใบหน้า ก่อนจะนวดแรงๆ สองสามครั้งนางถูกเขานวดจนเริ่มเจ็บ จึงขยับใบหน้าออกห่างโดยไม่ร

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-30
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 235

    ตอนนี้นางถูกเขากักตัวเอาไว้ในที่แคบ แทบไม่มีทางขยับไปไหนได้ เขาบดจูบนางด้วยความป่าเถื่อนดุดันประหนึ่งต้องการช่วงชิงลมหายใจของนางไปนางยกมือขึ้นผลักเขาเบาๆ การกระทำเช่นนี้ไม่ถึงกับเป็นการขัดขืน หนำซ้ำยังทำให้เขาบ้าคลั่งยิ่งกว่าเดิมอีกเฟิ่งชูอิ่ง “......”นางรับไม่ไหวแล้วจริงๆ ไอ้บุรุษผู้นี้มันจะบ้าคลั่งเกินไปแล้ว!อีกทั้งเขาแสดงออกอย่างชัดเจนว่าการใกล้ชิดกันเท่านี้มันยังไม่พอ เขาจึงอุ้มนางขึ้นมานั่งตัก ใช้มือข้างหนึ่งประคองท้ายทอยของนางไว้ มืออีกข้างโอบรอบเอวบาง ก่อนจะบดจูบลงมาอีกครั้งตอนนี้เฟิ่งชูอิ่งเริ่มจะมึนงงแล้ว นางถูกเขาจูบจนแทบจะขาดอากาศหายใจ เขาคิดจะกินนางจริงๆ หรือ?อีกอย่าง นางนั่งอยู่บนตักของเขาแบบนี้ ทำให้สัมผัสความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับตัวเขาอย่างชัดเจนเฟิ่งชูอิ่ง “!!!!!!”ทั้งสองคนเคยนอนหลับด้วยกันมาก่อน แล้วก็เคยจูบกันมาก่อน แต่นี่เป็นครั้งแรกที่นางสัมผัสการตอบสนองทางร่างกายของเขาได้และเป็นครั้งแรกที่นางรับรู้ถึงความปรารถนาของบุรุษเพศอย่างแท้จริง....นางเกิดกลัวขึ้นมาเล็กน้อย ครั้งนี้จึงไม่ได้ผลักเขาออกและกัดปากของเขาแทนจิ่งโม่เยี่ยปล่อยนางเป็นอิสระ นัยน์ตาดอกท้อ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-30
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 236

    ดังนั้นนางจึงยอมให้เขากอดแต่โดยดี ไม่ขัดขืนแม้แต่นิดเดียวจิ่งโม่เยี่ยเห็นนางทำตัวเป็นเด็กดีเชื่อฟัง พลันคิดในใจว่าจะช้าเร็วนางก็ต้องเอาคืนเขาอย่างแน่นอนแต่ตอนที่เขาพานางมาถึงจวนสกุลหลิน นางก็ยังนั่งนิ่งอย่างว่านอนสอนง่าย ไม่ได้เล่นตุกติก แล้วก็ไม่ต่อต้านขัดขืนด้วยซึ่งจิ่งโม่เยี่ยไม่คุ้นชินกับสถานการณ์แบบนี้เลย “เจ้าไม่ได้คิดเป็นอย่างอื่นจริงๆ หรือ?”เฟิ่งชูอิ่งตอบกลับ “มิกล้าเพคะ”จิ่งโม่เยี่ยได้ยินเช่นนั้นก็วางใจ นางก็ยังเป็นนางพอรถม้าจอดสนิท นางก็กระโจนไปทางประตูรถม้าทันที แต่กลับถูกเขาคว้าตัวเอาไว้ก่อนนางหันมองเขา “ท่านอ๋องยังมีธุระอย่างอื่นอีกหรือ?”จิ่งโม่เยี่ยมองนางด้วยนัยน์ตาล้ำลึก นางจึงเดาไม่ออกว่าเขาต้องการอะไรอีก “ขอบพระทัยท่านอ๋องที่มาส่งเพคะ”จิ่งโม่เยี่ยเอ่ยเสียงราบเรียบ “เจ้าอุตส่าห์กล่าวขอบคุณแล้ว ข้าก็ควรจะไปส่งเจ้าให้ถึงที่สิ”เขากล่าวจบก็อุ้มนางขึ้นมาแล้วก้าวลงจากรถม้า เดินตรงเข้าไปในจวนสกุลหลินอย่างว่องไวคนเฝ้าประตูเห็นพวกเขาเดินเข้ามา แววตาก็หวั่นวิตกเล็กน้อย เอ่ยว่า “ท่านอ๋องส่งคุณหนูต่างสกุล.....”ทว่าเขายังไม่ทันจะได้พูดจบ จิ่งโม่เยี่ยที่เห็นว่าอีกฝ่ายน่าร

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-30
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 237

    “ท่านอ๋องโปรดรอตรงนี้สักครู่ หลังจากท่านนักพรตขับไล่สิ่งอัปมงคลออกไปเรียบร้อยแล้ว ท่านอ๋องค่อยเข้าไปเถอะเพคะ”จิ่งโม่เยี่ยได้ยินแบบนั้นก็ก้มมองเฟิ่งชูอิ่งเล็กน้อย เขาไม่อยู่ในเมืองหลวงแค่ไม่กี่วัน นางก่อเรื่องอะไรอีกแล้วล่ะ?เฟิ่งชูอิ่งเกาจมูกตัวเองเบาๆ “ไม่มีอะไรเพคะ เมื่อคืนข้าได้ยินว่าท่านป้ากับพี่สาวถูกภูติผีปีศาจตามรังควาน“ดังนั้นวันนี้ท่านป้าก็เลยทำพิธีขับไล่สิ่งชั่วร้ายในจวน ถือเป็นเรื่องที่สามารถเข้าใจได้เพคะ”จิ่งโม่เยี่ยได้ยินแบบนั้นก็กระจ่างแจ้งทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น แปดส่วนคงเป็นฝีมือนางที่ส่งเฉี่ยวหลิงไปหลอกหลอนฮว๋าซื่อกับหลินหว่านถิงหลังจากเขาทราบต้นสายปลายเหตุแล้ว จึงไม่อยากจะเสียเวลาอยู่ตรงนี้อีก เขาถามเฟิ่งชูอิ่งว่า “ปกติป้าของเจ้าดีกับเจ้าหรือไม่?”นี่เป็นเรื่องน่าอับอายภายในบ้าน โดยทั่วไปแล้วคนมักจะช่วยกันปกปิดแต่เฟิ่งชูอิ่งไม่คิดว่านางจำเป็นจะต้องปกปิด เพราะจิ่งโม่เยี่ยเคยเห็นตอนที่ฮว๋าซื่อคิดจะทำร้ายนางถึงสองครั้งแล้วนางจึงตอบว่า “ไม่ดีเพคะ”จิ่งโม่เยี่ยสีหน้าเฉยชา บอกกับฮว๋าซื่อว่า “เจ้ายังไม่หลีกไปอีก”ฮว๋าซื่อตอบยิ้มๆ ว่า “ท่านอ๋องได้โปรดอดทนอีกสัก....”นางยัง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-30

บทล่าสุด

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 997

    เฟิ่งชูอิ่งพูดต่อว่า “แต่ตอนนี้ข้าไม่เหลือทั้งบิดามารดาแล้ว เจ้าห้ามรังแกข้าเชียวนะ!”จิ่งโม่เยี่ยยกมือสาบานต่อฟ้าทันที “หากข้าทำไม่ดีกับเจ้าในภายภาคหน้า ขอให้สวรรค์ลงทัณฑ์ส่งฟ้ามาผ่าให้ตาย!”เฟิ่งชูอิ่งหัวเราะ “เรื่องฟ้าผ่าไม่ต้องถึงมือสวรรค์หรอก ข้าก็ทำได้”จิ่งโม่เยี่ย “......”เขาเกือบลืมไปแล้วว่านางวาดยันต์ได้เก่งมาก ตราบใดที่นางต้องการ ใช้ฟ้าผ่าเขาก็ไม่ใช่เรื่องยากเฟิ่งชูอิ่งเห็นท่าทางของเขาก็แอบหัวเราะเบาๆ เอื้อมมือไปกอดแล้วซุกศีรษะพิงอกเขา กล่าวว่า “ข้าเชื่อใจท่าน”“ตอนนี้เราทั้งสองล้วนไม่มีพ่อแม่แล้ว ชีวิตที่เหลืออยู่ก็มีเพียงกันและกัน”“ต่อไปข้าจะดูแลเจ้าอย่างเต็มที่ จะไม่ระแวงเจ้าอีก ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ข้าจะเชื่อใจเจ้า”หัวใจที่ตึงเครียดของจิ่งโม่เยี่ยก็ผ่อนคลายลงในทันทีเขากอดนางตอบ “กาลเวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าการตัดสินใจของเจ้าถูกต้อง”เขาโน้มตัวลงจูบหน้าผากนางเบาๆ เอ่ยอย่างอ่อนโยนว่า “ข้าจะทุ่มเททุกอย่างเพื่อรักเจ้า”เมื่อเฟิ่งชูอิ่งได้ยินคำพูดนี้ หัวใจก็สั่นไหว นางช้อนตามองขึ้นไปที่เขา ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความอ่อนโยนนางรู้ว่าคำพูดของเขาในตอนนี้ล้วนมาจ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 996

    ก่อนหน้านี้เขาไม่รู้ฐานะของจิ้งจอกสือซานเหนียง แต่ตอนนี้เขาพอจะเข้าใจได้หลังจากได้ยินบทสนทนาระหว่างจิ้งจอกสือซานเหนียงและเฟิ่งชูอิ่งจิ้งจอกสือซานเหนียงเห็นสีหน้าเคร่งขรึมของเขาก็หัวเราะเบาๆ ก่อนจะหันหลังเดินจากไปเฟิ่งชูอิ่งถามว่า “เจ้าจะไปไหน? ข้ายังมีเรื่องอยากจะถามเจ้าอีกมาก”จิ้งจอกสือซานเหนียงตอบว่า “ข้าจะไปหาที่ขับไล่พลังชั่วร้ายออกจากร่างกาย พอขับไล่เสร็จแล้วข้าจะกลับมาหาเจ้า”ตลอดหลายปีที่ผ่านมา นางฝึกฝนวิชาสายชั่วร้ายมากมาย ทำให้พลังชั่วร้ายในร่างกายมีมากเกินไป หากอยู่ใกล้ใครนานๆ จะมีผลกระทบต่อคนรอบข้างเฟิ่งชูอิ่งจึงเตือนนางว่า “เจ้าอย่าผิดคำพูดล่ะ ข้าจะรอเจ้ากลับมา!”จิ้งจอกสือซานเหนียงโบกมือแล้วบอกว่า “วางใจเถอะ ข้าจะกลับมาแน่นอน”หลังจากนางเดินออกไปไกลแล้ว เฟิ่งชูอิ่งก็ถอนหายใจยาวๆ และเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นหลังจากแยกทางกันให้จิ่งโม่เยี่ยฟังหลังจากที่จิ่งโม่เยี่ยได้ยินเรื่องของเหมยตงยวน เขาก็เงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า “เพราะรักถลำลึกจึงไม่ยืนยาว เรื่องระหว่างท่านพ่อกับท่านแม่ช่างน่าเศร้า”เฟิ่งชูอิ่งกล่าวอย่างแผ่วเบาว่า “ดังนั้นการสื่อสารจึงสำคัญ ต่อไปไม่ว่าจะมี

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 995

    สิ้นเสียงของนาง สายฟ้าก็ฟาดลงมาอีกครั้ง ทำให้พลังที่พุ่งพล่านของเขาสลายไปจิ่งสือเยี่ยน “!!!!!!!!”หลังจากถูกอสนีบาตฟาดใส่อย่างต่อเนื่องห้าครั้ง ร่างวิญญาณของเขาก็จางลงอย่างมากแต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ยังไม่ตายเฟิ่งชูอิ่งถึงกับตกใจ ชีวิตของจิ่งสือเยี่ยนช่างแข็งแกร่งเสียจริง!นางอดสงสัยไม่ได้ว่าเขาจะกลายเป็นเทียนซือคนที่สอง และจะกลายเป็นภัยพิบัติในอนาคตนางกำลังจะม้วนแขนเสื้อขึ้นเพื่อเสกยันต์ใส่จิ่งสือเยี่ยนอีกครั้ง แต่กลับมีเงาร่างหนึ่งพุ่งเข้ามาแล้วกลืนเขาเข้าไปทั้งตัวเฟิ่งชูอิ่ง “!!!!!!”จิ้งจอกสือซานเหนียงเรอออกมาคำโตแล้วบอกว่า “เขาเป็นอาหารที่ข้าหมายตาไว้แต่แรก”“การปล่อยให้อาหารหลุดมือไป เป็นเรื่องที่ไม่อาจให้อภัยได้”เฟิ่งชูอิ่ง “......”นางเคยจินตนาการถึงความตายของจิ่งสือเยี่ยนไว้หลายแบบ แต่ไม่มีฉากจบแบบนี้อยู่เลยนางได้คงบอกได้แค่ว่าจิ้งจอกสือซานเหนียงเจ๋งสุดยอด!ขณะเดียวกันนั้นจิ่งโม่เยี่ยก็เดินเข้ามา เขาจ้องมองจิ้งจอกสือซานเหนียงด้วยความระแวดระวัง มือจับกระบี่เอาไว้ เตรียมพร้อมที่จะฟันจิ้งจอกสือซานเหนียงได้ทุกเมื่อเฟิ่งชูอิ่งบีบมือเขาเบาๆ ให้เขาผ่อนคลายจิ้งจอก

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 994

    แต่ทว่าคันธนูของจิ่งสือเยี่ยนเพิ่งจะยกขึ้นมา ก็มีลูกธนูที่เร็วกว่าพุ่งทะลุหัวใจของเขาในทันทีจิ่งสือเยี่ยนมองลูกธนูที่ปักอยู่บนอกด้วยความไม่อยากเชื่อ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองและเห็นดวงตาที่เย็นชาของจิ่งโม่เยี่ยเมื่อครู่นี้พวกเขาทั้งสองยังมีระยะห่างต่อกันอยู่แท้ๆ และตำแหน่งที่เขาหลบอยู่ก็เป็นมุมอับที่จิ่งโม่เยี่ยยิงมาไม่ถึงทว่าเพียงแค่อึดใจเดียว จิ่งโม่เยี่ยก็ปรับตำแหน่งได้อย่างรวดเร็วและยิงธนูทะลุหัวใจเขาได้ในนัดเดียวในตอนนี้จิ่งสือเยี่ยนกับจิ่งโม่เยี่ยไม่ได้อยู่ห่างกันมากนัก แต่ถ้าพูดคุยกันตามปกติก็คงไม่ได้ยินทว่าในเวลาเช่นนี้ จิ่งสือเยี่ยนกลับได้ยินเสียงของจิ่งโม่เยี่ย “คนที่กล้าทำร้ายชูอิ่งต้องตาย!”ก่อนหน้านี้จิ่งสือเยี่ยนคิดแค่ว่าจิ่งโม่เยี่ยดีต่อเฟิ่งชูอิ่งมาก ทว่าตอนนี้เขาเพิ่งได้รู้ซึ้งเรื่องบางอย่างเฟิ่งชูอิ่งไม่ใช่แค่จุดอ่อนของจิ่งโม่เยี่ย แต่เป็นทั้งชีวิตของเขาแต่มาเข้าใจเอาป่านนี้ก็สายไปแล้วในตอนนี้เฟิ่งชูอิ่งยังคงนอนคว่ำอยู่บนพื้นหิมะ นางได้ยินเสียงวัตถุแหวกอากาศจึงหันไปมอง และเห็นภาพของจิ่งสือเยี่ยนล้มลงกับพื้นในเวลานี้ เฟิ่งชูอิ่งก็เข้าใจใด้ทันทีว่าในโลกน

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 993

    ในเมื่อเขาไม่ได้ราชบัลลังก์และเฟิ่งชูอิ่งมาครอบครอง ราชบัลลังก์เขาอาจจะทำลายไม่ได้ แต่เฟิ่งชูอิ่งแค่คนเดียวเขาทำลายได้แน่นอนองครักษ์สองคนของเขารีบเปลี่ยนมาง้างคันธนูเล็งไปที่เฟิ่งชูอิ่ง ทว่าลูกธนูยังไม่ทันได้ยิงออกไป ก็ถูกบางสิ่งบางอย่างปัดออกไปอีกครั้งในตอนนี้จิ่งสือเยี่ยนก็พลันเข้าใจบางอย่างขึ้นมาทันทีตลอดทางที่ผ่านมา วิญญาณร้ายของเฟิ่งชูอิ่งถึงจะมาแล้ว แต่ก็ไม่ได้ลงมือ นั่นก็น่าจะมีเหตุผลที่ลงมือไม่ได้วิญญาณร้ายโจมตีองครักษ์ของเขา แต่กลับไม่โจมตีเขา นั่นก็หมายความว่าวิญญาณร้ายเหล่านั้นโจมตีเขาไม่ได้เขานึกถึงข่าวลือที่เคยได้ยินมาว่า พลังมังกรของผู้เป็นฮ่องเต้เป็นสิ่งที่ปราบภูตผีปีศาจได้วิญญาณร้ายไม่โจมตีเขา นั่นแสดงว่าวิญญาณร้ายทำอะไรเขาไม่ได้ แปลว่าเขามีพลังมังกรอยู่ในตัว?ความคิดนี้ทำให้จิตใจเขาฮึกเหิมขึ้นมาทันที เขารีบหยิบธนูของตัวเองขึ้นมา อดทนต่อความเจ็บปวดจากบาดแผลแล้วยิงธนูไปที่หลังของเฟิ่งชูอิ่งเฉี่ยวหลิงเห็นภาพนี้ก็ตกใจ รีบยื่นมือออกไปเพื่อจะรับลูกธนูนั้นทว่าลูกธนูนั้นเปื้อนเลือดของจิ่งสือเยี่ยน เลือดนั้นเป็นอันตรายต่อวิญญาณร้ายอย่างมาก มือของนางแค่เพียงสัมผ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 992

    หิมะยังคงโปรยปรายลงมา โลกนี้เงียบสงัด มีเพียงเสียงฝีเท้ากระทบกับพื้นหิมะดังฟุ่บฟั่บช่วงใกล้รุ่งสาง ชวีเหลียงอวี่ก็มาปรากฏตัวและเอ่ยขึ้นทันทีว่า "ท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการรออยู่ข้างนอกแล้ว"เมื่อได้ยินดังนั้น เฟิ่งชูอิ่งก็เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยนางหันไปบอกกับจิ่งสือเยี่ยนว่า "เมื่อครู่ข้าลองคิดดูดีๆ แล้ว รู้สึกว่าที่เจ้าพูดก็มีเหตุผลอยู่บ้าง การมีชีวิตอยู่ก็ไม่เลว"จิ่งสือเยี่ยน “......”หลังจากผ่านมาทั้งคืน นางกลับปลงตกในเรื่องเช่นนี้ได้ ทำให้เขารู้สึกประหลาดใจอยู่เล็กน้อยแต่การที่นางคิดได้ในตอนนี้ก็เป็นเรื่องดีเขาจึงพูดว่า "หลายสิ่งหลายอย่างทำได้ตอนมีชีวิตอยู่เท่านั้น ตายไปแล้วทำไม่ได้""ตราบใดที่เจ้าพาข้าออกจากค่ายกลแห่งนี้ ข้าจะไม่สร้างความลำบากให้เจ้าอีก”เฟิ่งชูอิ่งพยักหน้า "ก็ได้ งั้นตอนนี้ข้าจะพาเจ้าไปทำลายค่ายกล"พูดจบนางก็ควบม้านำหน้าไป จิ่งสือเยี่ยนรีบนำทหารตามไปทันทีเพียงแต่พวกเขาเดินวนเวียนอยู่ที่นี่ทั้งคืน ทั้งเหนื่อยทั้งหิว พลังจึงลดลงไปมากเฟิ่งชูอิ่งมียันต์ป้องกันความหนาวติดตัวอยู่จึงไม่รู้สึกหนาว ก่อนหน้านี้ก็นอนหลับมาตลอดทาง ทำให้รักษาพลังงานไว้ได้มากที่สุ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 991

    เขาไม่เคยเจอใครดื้อด้านเท่านางมาก่อน!เขาสูดหายใจเข้าลึกๆ เพื่อระงับโทสะ เพราะตอนนี้เขาไม่สามารถตบตีหรือด่าทอนางได้ทั้งนั้นเขาพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “เจ้าอยากไปเจียงหนานไม่ใช่หรือ? พอออกจากที่นี่ได้ ข้าจะไม่ขัดขวางเจ้า เจ้าก็จะได้ไปชมวิวทิวทัศน์เจียงหนานที่เจ้าอยากเห็น”“เจียงหนานในฤดูหนาวที่มีหิมะปกคลุมทั้งงดงามและน่าหลงใหล ถ้าเจ้ายังไม่เคยเห็น ต้องไปดูด้วยตาตัวเองให้ได้เลย”เฟิ่งชูอิ่งยังคงนอนอยู่บนพื้นไม่ยอมลุกขึ้น “ไม่ไป อากาศหนาวเกินไป เดินทางเหนื่อยเกินไป”จิ่งสือเยี่ยน “…...”ตั้งแต่วินาทีที่เขาติดกับอยู่ที่นี่ สถานะระหว่างเขากับเฟิ่งชูอิ่งก็สลับกันโดยสิ้นเชิงเพราะเขามีความทะเยอทะยาน อยากใช้ชีวิตอย่างสุขสบายยิ่งเฟิ่งชูอิ่งแสดงออกว่าอยากตายมากเท่าไหร่ จิ่งสือเยี่ยนก็ยิ่งไม่ยอมให้นางตายมากขึ้นเท่านั้นดังนั้นตอนนี้นางจึงควบคุมเขาได้อย่างเบ็ดเสร็จการที่นางแสดงท่าทีไม่ยอมทำตามไม่ว่าเขาจะใช้ไม้แข็งหรือไม้อ่อนเช่นนี้ ทำให้เขาแทบเป็นบ้าจิ่งสือเยี่ยนไม่เคยคิดฝันมาก่อนว่าการจับตัวประกันจะน่าอึดอัดขนาดนี้เฟิ่งชูอิ่งนอนเอกเขนกอยู่ตรงนั้นอย่างสบายใจ เหตุผลก็ง่ายๆ นางใช้

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 990

    เฟิ่งชูอิ่งยิ้มแล้วถามว่า “ทางที่ข้าชี้นำ เจ้ากล้าเดินตามหรือ?”เมื่อมาถึงตอนนี้แล้ว นางก็คร้านจะเสแสร้งต่อไปสีหน้าของจิ่งสือเยี่ยนแข็งค้างไปครู่หนึ่ง นางพูดอย่างเฉื่อยชาว่า “เพราะพวกเจ้าติดอยู่ที่นี่ คงรู้สึกหนาวเหน็บและหวาดกลัว”“เจ้าบาดเจ็บ ในสภาพอากาศหนาวเย็นเช่นนี้ แผลของเจ้าจะยิ่งทรุดหนัก”“เจ้ารีบร้อนมารวบรวมกำลังพลของกองกำลังอวี๋ซาน เจ้าคงไม่ได้พกอาหารมาด้วยมากนัก ดังนั้นตอนนี้พวกเจ้าคงหิวมากแล้ว”“ในสถานการณ์เช่นนี้ แค่ข้ากักขังพวกเจ้าไว้ที่นี่ ต่อให้ไม่หนาวตาย พวกเจ้าก็คงอดตายอยู่ดี”ขณะนี้หิมะขาวโพลนโปรยปรายไปทั่ว อากาศหนาวเหน็บ สภาพอากาศเช่นนี้คงจะดำเนินต่อไปเป็นเวลาอย่างน้อยครึ่งเดือนเป็นอย่างที่เฟิ่งชูอิ่งบอก พวกเขาเดินทางมาที่นี่โดยไม่ได้พกเสบียงอาหารแห้งหรืออะไรทำนองนั้นมาด้วยเลยด้วยเหตุนี้ตอนที่พวกเขาเดินวนจนครบรอบที่สาม เสบียงอาหารก็หมดลงตอนนี้ฟ้าเริ่มมืดแล้ว หลังจากตกกลางคืน อากาศจะยิ่งหนาวเย็นลง พวกเขาจะยิ่งลำบากมากขึ้นจิ่งสือเยี่ยนชักกระบี่ยาวออกมา “เจ้าเชื่อหรือไม่ว่าข้าสามารถบั่นคอเจ้าด้วยกระบี่เล่มนี้ได้!”เฟิ่งชูอิ่งยิ้มหวานแล้วเอ่ยว่า “เอาเลย ฆ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 989

    เขาคลี่ยิ้มมุมปากเล็กน้อย “ได้”หลังจากฆ่าจิ่งโม่เยี่ยแล้ว จะปล่อยนางไปหรือไม่ เรื่องนี้เขาจะเป็นคนตัดสินใจนางเป็นผู้หญิงคนแรกที่เขารู้สึกชอบจริงๆ และนางก็เป็นผู้หญิงคนแรกที่ทำให้เขารู้จักกับความล้มเหลวเขารู้ว่านางมีวิธีการบางอย่างที่คนทั่วไปไม่มี ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าประมาท เขาจะป้อนยาที่ทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงให้นางกินทุกวันเฟิ่งชูอิ่งรู้ทันความคิดของเขา และยอมให้ความร่วมมือแต่โดยดีขณะที่ในใจของนางกำลังครุ่นคิด ครั้งที่แล้วโดนไปขนาดนั้นยังรอดมาได้ ถ้าอย่างนั้นก็ต้องหาโอกาสฆ่าเขาให้ตายสนิทแบบไม่มีสิทธิ์ฟื้นขึ้นมาอีกนางพลันนึกถึงเรื่องที่เหมยตงยวนวิญญาณแหลกสลายหลังจากรู้ข่าวการตายของเฟิ่งชิงหลิง จิตใจนางจึงหม่นหมองตามไปด้วยนางรู้ว่าเหมยตงยวนรักเฟิ่งชิงหลิงอย่างสุดซึ้ง แต่ไม่คิดว่านั่นจะเป็นรากฐานที่ทำให้เขามีชีวิตอยู่ในโลกใบนี้เพราะนางเห็นความรักของพวกเขา นางจึงยิ่งรู้ชัดว่าตัวเองมีความรู้สึกแบบไหนต่อจิ่งโม่เยี่ยในเมื่อรักแล้ว ก็ต้องรักให้สุดหัวใจอย่าได้ทำเรื่องที่ทำให้ตัวเองเสียใจและทำให้ฝ่ายตรงข้ามเข้าใจผิดอีกจิ่งสือเยี่ยนไม่ได้ไปตามล่าจิ่งโม่เยี่ยโดยตรง เขาวางแผนท

DMCA.com Protection Status