Share

บทที่ 209

Penulis: เย่ว์เหมี่ยว
โม่จุนถูกนางโมโหใส่จนหนาวสั่นไปครู่หนึ่ง

"เจ้าเรียกข้าว่าอะไร?" โม่จุนคิดว่าหูของตัวเองมีปัญหาได้ยินผิด

"ผู้ชายชาติหมา!" มู่จิ่วซีโมโหใส่เขาออกไปตรงๆ

"มู่จิ่วซี! เจ้ากล้ายอกย้อนแล้ว!" โม่จุนก็โมโหดุร้ายออกมา เขาเป็นท่านผู้สำเร็จราชการแทนที่สูงส่ง แต่กลับมาถูกนางเรียกว่าผู้ชายชาติหมา?

"เจ้าอยากจะหลอกเงินข้า งั้นเจ้าก็คือผู้ชายชาติหมา ผู้ชายสารเลว!" มู่จิ่วซีไม่ได้กลัวเขาเลยแม้แต่น้อย

"มู่จิ่วซี เอาสิ ในสายตาของเจ้า ข้าไม่ได้ดีไปกว่าเศษเงินของเจ้างั้นสินะ" โม่จุนโมโหจนโกรธสั่นไปทั้งตัว

"โม่จุน เจ้าเข้าใจะไรผิดไปรึเปล่า? เอาตัวเองมาเียบกับเงิน? เจ้าจะยกเยินยอตัวเองสูงไปแล้วไหม?" มู่จิ่วซีรู้สึกขำกับคำพูดของเขา

"เจ้า?" โม่จุนอีกนิดก็เกือบจะสำลักความโกรธ "ข้าไม่อาจเทียบกับเงินได้แล้ว?"

นี่เขาเองเอาตัวเองไปเทียบกับเงินไม่ได้ยังไม่เท่าไหร่ แต่นี่ถึงขนาดที่เขาไม่มีสิทธิเอาตัวเองไปเทียบแล้วงั้นเหรอ?

"เอาไปเปรียบเทียบกันไม่ได้จริงๆ มันเทียบกันไม่ได้ ระหว่างเงิน 1 ตำลึงกับเจ้า ข้าเองก็เลือกเงิน 1 ตำลึง" มู่จิ่วซีจงใจแหย่เขา ไอผู้ชายชาติหมาคนนี้คงต้องโดนสั่งสอนเสียบ้าง

โม่จุนโกรธจนหน้ามื
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terkait

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 210

    "สาวใช้ข้างกายก็คือสาวใช้คอยปรนนิบัติรับใช้ ข้าให้เจ้าทำอะไรเจ้าก็ต้องอย่างนั้น" โม่จุนสูดหายใจและกล่าวออกมา มีแค่ใบหน้าหลอเหล่าเท่านั้นที่ร้อนผ่าวอย่างผิดปกติผู้หญิงคนนี้ร้ายกาจเกินไป นางไปร่ำเรียนมาจากไหนกันแน่ หรือว่าเพราะไปหอหล่านจวี๋มาหลายครั้ง?ให้ตายเถอะ ทำไมนางถึงจะมีระเบียบมารยาทกว่านี้หน่อยไม่ได้หรือไงนะ!"แบบนั้นคงไม่ได้ ถึงตอนนั้นเจ้าบังคับให้ข้าเอาเงินให้เจ้า เจ้าคิดว่าเป็นไปได้ไหมล่ะ?" มู่จิ่วซีเบ้ปากโม่จุนอีกนิดก็แทบจะกระอักเลือด สมองของนางเติบโตมายังไงกันแน่ ในหัวทำไมถึงมีแต่เงิน หรือว่าเงินงอกออกมาเป็นสมองให้นาง?"ก็แค่สาวใช้ตามปกติที่ทำเรื่องทั่วไป เช่นข้าไปไหนเจ้าก็ต้องติดตามไปด้วย รินช้าให้ จัดการดูแลอาหารทุกมื้อของข้า เป็นสาวใช้ที่มีความคล่องแคล่วและฉลาดเฉลียว ระยะเวลาแค่เดือนเดียว เป็นไง?"โม่จุนในใจก็คิดว่าหนึ่งเดือนนี้เขาจะกำจัดนิสัยแย่ๆ ของนางทิ้งไปซะ ให้นางได้รู้ว่าใครคือเจ้านาย และยังเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ทำให้เขารู้สึกถึงความสำเร็จพอเห็นนางภูมิใจยโสโอหังเกินไป เขาก็อยากทำให้นางอ่อนโยนประพฤติตัวดีสักหน่อย"ข้ารู้สึกว่าไม่คุ้ม" มู่จิ่วซีทำสีหน้าสงสัย

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 211

    ใต้เท้าอัครมหาเสนาบดีไป๋ชินเตี่ยนแค่สงสัยโม่จุนที่เรียกซีเอ๋อร์ชื่อนี้ออกมา อีกอย่างข้างๆ ไม่ใช่ว่าก็มีสาวใช้ยืนอยู่หลายคนแล้วหรอกเหรอ? ก็ไม่เห็นว่าโม่จุนจะเรียกอะไรเลยเพียงแต่พอหันกลับมามอง ตอนที่เขาเห็นใบหน้างดงามของมู่จิ่วซีสวมชุดของสาวใช้ เขาอีกนิดก็เกือบจะล้มหงายจากบนเก้าอี้"คุณหนูใหญ่มู่? เจ้า นี่คือเจ้า?" อัครมหาเสนาบดีไป๋สะดุ้งตกใจมู่จิ่วซีก็รีบกระตุกยิ้มที่มุมปาก นางย่อตัวเคารพและกล่าว : "น้อมเคารพใต้เท้าอัครมหาเสนาบดี" จากนั้นนางก็หันหลังไปน้อมตัวเคารพให้กับโม่จุนเพราะกับดัดเสียงพูดออกมา "ซีเอ๋อร์น้อมเคารพท่านผู้สำเร็จราชการแทน""คุณหนูใหญ่มู่ เจ้า เจ้าทำอะไรของเจ้าเนี่ย?" ไป๋ชินเตี่ยนตกใจสะพรึงกลัว เขามองไปที่มู่จิ่วซีและท่านผู้สำเร็จราชการแทนอย่างไม่รู้จะหัวเราะดีหรือร้องไห้ดีโม่จุนส่งเสียงกระแอมออกมาเหมือนอยากจะหัวเราะและกล่าวออกมา : "ซีเอ๋อร์ วันนี้ไปเจ้าคือบ่าวรับใช้คนหนึ่งในจวนของข้า เจ้าต้องเข้าใจมารยาทและขนบธรรมเนียม เข้าใจไหม?"มู่จิ่วซีกลอกตามองบน ในก็คิดว่าไอชาติหมาโม่จุนคนนี้ พอได้ทีก็ขี่แพะไล่เลยนะแต่พอนึกถึงหอโม่ช่างเหวินราวกับทองแวววาวหลังนั้น นางก็

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 212

    ประโยคนี้ของมู่จิ่วซี ทำให้อัครมหาเสนาบดีไป๋เงยขึ้นมามองนาง จากนั้นเขาก็หันไปมองโม่จุนและกล่าว : "ท่านผู้สำเร็จราชการแทน คุณหนูใหญ่มู่ดูจะปลอมใจคนเป็นยิ่งกว่าท่านเสียอีก"ใบหน้าหล่อเหลาอันเฉยเมยของโม่จุนก็ได้ยิ้มขึ้นมา ดวงตาสีดำของเขามองมู่จิ่วซีอย่างลึกล้ำ"ปากของนางน่ะ ใต้หล้านี้ไม่มีใครสู้ได้อีกแล้ว ขนาดข้ายังยอมคารวะ""ฮาๆๆ" อัครมหาเสนาบดีไป๋หัวเราะออกมา ดวงตาวัยแก่ชราอันแสนฉลาดก็มองไปที่ใบหน้าของโม่จุน จากนั้นก็หันไปมองใบหน้าของมู่จิ่วซี"ความเปลี่ยนแปลงของคุณหนูใหญ่มู่ทำให้ทุกคนตกตะลึงจริงๆ ข้ากับตาเฒ่ามู่ต่อสู้กันมาเนิ่นนาน ตรงจุดนี้ของรุ่นลูกที่เทียบเขาไม่ได้เลยจริงๆ""ใต้เท้าอัครมหาเสนาบดี เจ้ากับพ่อข้าล้วนอายุยังน้อย เพิ่งจะอายุ 40 ปี เป็นช่วงทองคำของผู้ชาย ให้มีลูกอีกสักสองคนก็ไม่มีปัญหา ถ้าเจ้ารู้สึกว่ามีแค่ไป๋ชิงและไป๋เฟิ่งหว่านยังไม่พอ ข้าว่าเจ้าจัมีลูกเพิ่มอีกก็ยังได้ แน่นอนหากสมรรถภาพบางด้านของเจ้าไม่ไหว ข้าจะเขียนใบสั่งยาให้เจ้าก็ได้ รับรองว่ามังกรผงาดพยัคฆ์คำราม มีลูกหัวปีท้ายปีแน่นอน!" มู่จิ่วซีก็พูดโน้มน้าวให้กำลังใจเขา"พรูด!" โม่จุนที่เพิ่งจะดื่มชาลงไปก็สำลั

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 213

    โม่จุนชะงักสั่นไปทั้งตัว เขาจ้องมองโม่จุนด้วยสายตาจริงจัง จากนั้นก็ส่ายหัวเบาๆ"พวกเขาอยู่ในท่าแบบนั้นได้นาน แต่การจะอยู่ในสภาวะกลบกลืนกับธรรมชาติแบบเจ้า และไม่ถูกศัตรูจับได้คงจะเป็นการยากอย่างมาก" โม่จุนกล่าวมู่จิ่วซีพยักหน้าและกล่าว : "ดังนั้นทหารมังกรดำของเจ้าหากต้องมาเผชิญกับข้า ข้าคนเดียวคงฆ่าได้สัก 10 คนและอาจจะมากกว่านี้ด้วย"อานเย่พริบตาก็มีเหงื่อไหลออกมาโม่จุนมองนางพักหนึ่งก่อนจะพยักหน้า : "ก็จริง พวกชุดดำในคืนนั้นก็ไม่ได้แย่ไปกว่าทหารมังกรดำ""การฝึกทหารเดนตายสักคนขึ้นมาได้ต้องลำบากมาก หากส่งให้ไปตาย นั่นก็เท่ากับขาดทุน โม่จุน ข้ารู้สึกว่าข้าสามารถช่วยเจ้าฝึกฝนทหารมังกรดำของเจ้าได้ อย่างน้อยในด้านสภาวะการลอบสังการ ก็คงจะพัฒนาเพิ่มขึ้นได้อีกสักระดับ"มู่จิ่วซีพูดขึ้นมาพร้อมกับเดินไปทางห้างข้างๆ ตรงข้ามกับห้องหนังสือ เพราะตรงนั้นเป็นที่พักของนางหนึ่งเดือดนต่อจากนี้ในจวนท่านผู้สำเร็จราชการแทน"เจ้าลองเอาไปคิดดู ข้าจะไปอาบน้ำก่อน"โม่จุนยืนอยู่ภายในเรือน อานเย่จู่ๆ ก็พูดขึ้นมา : "คุณท่าน อันที่จริงจี๋เฟิงและคนอื่นๆ ก็ไม่ได้เชื่อว่าคุณหนูใหญ่จะอาศัยพละกำลังของนางคนเดียวใ

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 214

    โม่จุนเห็นนางเอากุ้งทั้งตัวที่ยังไม่ปอกเปลือกยัดเข้าไปในปากทั้งตัว จากนั้นปากของนางก็บิดๆ เบี้ยวๆ ไปมา จนในตอนท้ายนางก็คายเปลือกกุ้งออกมา ทันใดนั้นเขาก็มองนางอย่างน่ารังเกียจ"ไม่มีพิษเจ้าคะ อันนี้อร่อยมาก" มู่จิ่วซีก็คีบกุ้งตัวใหญ่ให้โม่จุน"ปอกเปลือก!"โม่จุนกล่าวอย่างโมโห "มีที่ไหนคีบอาหารให้นายท่านแบบนี้? ให้ข้าปอกเองหรือไง?""มือเจ้าพิการหรือไง? ปอกเองไม่เป็น? มือใช้ไม่ได้ก็ใช้ปากแทนก็ได้ ใครมันจะไปทนนิสัยแย่ๆ ของเจ้าแบบนี้ได้กัน!" มู่จิ่วซีไม่ทันได้ระวังก็แอบเผลอโพล่งเป็นตัวเองออกมา"มู่จิ่วซี!" โม่จุนอีกนิดก็เกือบจะตบโต๊ะด้วยความโมโห "เจ้าคือบ่าวรับใช้!""ใช่ๆๆ บ่าวผิดไปแล้วเจ้าคะ บ่าวปอกให้ บ่าวปอกให้แล้วยังไม่พออีกหรือไง?" มู่จิ่วซีก็หย่อนก้นลงนั่งและเริ่มปอกเปลือกกุ้งแต่ในใจของนางก็ได้กล่าวทักทายบรรพบุรุษ 18 ชั่วโคตรของโม่จุนไปเรียบร้อยแล้ว แต่ว่าเพื่อหอโม่ช่างเหวินแล้ว นางต้ออดทนให้ได้!โม่จุนก็มองทักษะการปอกเปลือกกุ้งของนางอย่างขอไปทีจนตาของเขาเผ็ดร้อน พร้อมกับรู้สึกว่านางปอกให้เขาแบบนี้มันจะยังกินได้อยู่อีกเหรอ?"เอาไป!" มู่จิ่วซีปอกกุ้งได้ตัวหนึ่งก็เอามาวางไว้ในชา

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 215

    โม่จุนอีกนิดก็ถูกนางยั่วโมโหจนกระอักออกมามู่จิ่วซีไม่ได้หนีออกไปไหนไกล นางก็แค่ไปที่ห้องโถงข้างๆ ด้านหลัง ซึ่งเป็นห้องสำหรับเก็บอุปกรณ์การเขียนไว้ แบบนี้นางก็จะสามารถได้ยินเซียวหลิงเย่ว์พูดว่านางมาหาโม่จุนมีธุระอะไรโม่จุนที่มีใบหน้าดำทะมึนหลังจากเรียกให้คนไปจัดการเขาก็ทานอาการต่อ เพราะถึงอย่างไรเขาก็ถึ่งทานไปได้ไม่กี่คำเอง ส่วนมู่จิ่วซีทานไปไม่น้อยเซียวหลิงเย่ว์ไม่นานก็มาถึง นางสวมชุดกระโปรงสีฟ้า บนหัวสวมด้วยหมวกอีกกว้าง พอนางเข้ามาก็ถอดหมวกลง"หม่อมฉันน้อมเคารพท่านผู้สำเร็จราชการแทน" เซียวหลิงเย่ว์ย่อตัวลงเคารพโม่จุน"ลุกขึ้นมาเถอะ พี่สะใภ้ท่านอ๋องสามมาด้วยเนื่องธุระอะไรรึ?" โม่จุนก็พุ่งเข้าประเด็นในทันที พร้อมกับกับสีหน้าดำทะมึนเซียวหลิงเย่ว์เดินมาหยุดลงที่หน้าโต๊ะ นางมองหาอาหารที่อยู่บนโต๊ะและก็กล่าว : "พี่ใหญ่โม่ ข้ายังไม่ได้ทานอะไรเลย ท้องข้าก็หิวแล้วด้วย ถ้าพี่ใหญ่โม่ไม่รังเกียจข้าขอร่วมวงอาหารหน่อยได้ไหม"ก่อนที่นางจะได้กลายเป็นพระชายาสาม นางก็มักจะเรียกโม่จุนว่าพี่ใหญ่โม่เป็นการส่วนตัวมู่จิ่วซีหลังจากเข้าไปอยู่ห้องข้างๆ แล้วได้ยินประโยคนี้ นางก็อยากจะพูดออกมาว่าเซี

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 216

    เซียวหลิงเย่ว์ชะงักไป จากนั้นก็ส่ายหัวและกล่าวออกมา : "หลังจากข้าได้มาเป็นคุณหนูของตระกูลเซียว ข้าก็น้อยครั้งนักจะได้เห็นพ่อบุญธรรม ข้าจะไปฝึกฝนวรยุทธได้อย่างไร ข้าอยู่ที่ตระกูลเซียวล้วนได้แต่ทำงานพวกเย็บปักถักร้อย"โม่จุนพอนึกคิดดูแล้วก็คิดว่าถูกของนาง เซียวหลิงเย่ว์ก็เป็นแค่กุลสตรี ฉิน หมาก อักษรและภาพวาดต่างล้วนทำเป็น ถึงอย่างไรตระกูลเซียวก็มีความทะเยอทะยานสูงมาก พวกเขาบ่มเพาะเลี้ยงดูลูกสาวเพื่อให้กลายฮองเฮาพริบตาภายในห้องก็เงียบสนิท ทั้งสองคนไม่ได้พูดอะไรความอยากอาหารเซียวหลิงเย่ว์ก็รู้สึกไม่อร่อยขึ้นมา นางแอบเหลือบมองโม่จุนอยู่หลายครั้ง"พี่ใหญ่โม่ องค์ชายสามแคว้นซีเย่ว์จะมาถึงแคว้นเกาอวิ๋นในอีกสามวันอย่างงั้นเหรอ?"โม่จุนเงยหน้ามองไปที่นางอีกครั้งและกล่าว : "เจ้ารู้ได้อย่างไร?""วันนั้นข้าเผอิญพบกับองค์หญิงเหวินซิงแล้วได้คุยกัน" แววตาของเซียวหลิงเย่ว์แวววับขึ้นมาโม่จุนก็พยักหน้าและกล่าว : "อืม ใกล้ฤดูหนาวแล้ว แคว้นซีเย่ว์ต้องการมาที่แคว้นเกาอวิ๋นเพื่อเอาอาหารธัญพืชอีกครั้ง""พี่ใหญ่โม่ ขอไปเจอองค์ชายสามแคว้นซีเย่ว์ได้ไหม?" ประโยคนี้ของเซียวหลิงเย่ว์ทำให้โม่จุนสะดุ้งขึ้

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 217

    มู่จิ่วซีที่อยู่ด้านหลังพอได้ยินประโยคนี้ของเซียวหลิงเย่ว์ก็ได้แต่เบ้ปากพร้อมกับสีหน้าย่นจมูกอย่างรังเกียจโม่จุนคือคนประเภทไหนกัน? ในยุคสมัยราชวงศ์นี้ เขาเองก็อายุ 23 ปีแล้ว อย่าว่าแต่ยังไม่แต่งงาน แต่ว่าพระชายาเอกหรือพระชายารองสักคนก็ยังไม่มี เขาช่างน่าแปลกมากจริงๆดังนั้นการที่โม่จุนจะรักผู้หญิงสักคนก็เหมือนกับเรื่องพันหนึ่งราตรีอย่างใดอย่างนั้น (พันหนึ่งราตรี หมายถึง เรื่องที่เป็นไปไม่ได้)รักนางมู่จิ่วซี ?เหอะๆ มู่จิ่วซีคงจะไม่รู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจหรอก แต่นางคงรู้สึกว่าตัวเองคงไม่อาจอยู่ในครรลองธรรมจักษุของโม่จุนได้บางทีผู้ชายคนนี้อาจเป็นคนที่กลัวผู้หญิง ไม่ใช่ว่าไม่ยอมแต่งงาน แต่บางทีเขาอาจมีงานอดิเรกพิเศษ หรืออาจมีปัญหาโรคทางร่างกายเหตุผลที่โม่จุนปฏิบัติกับนางแตกต่างออกไปก็เพราะนางและเขาทำงานร่วมกันอยู่แล้ว ไม่สิ แต่คงมีบางอย่างที่ใจตรงกัน อีกทังพวกเขาก็ได้ร่วมเป็นร่วมตายกันมาแล้วถึงอย่างไรก็ไม่ใช่ผู้หญิงทุกคนที่จะเป็นสหายร่วมรบได้เหมือนกับผู้ชายแบบนี้ทางด้านของโม่จุนก็กล่าวเสียงดังออกมา"พี่สะใภ้ท่านอ๋องสาม เรื่องของข้า ข้ามีแผนในใจ เจ้าไม่ต้องกังวล ส่วนเรื่องที่เจ

Bab terbaru

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 507

    ฮั้วอวิ๋นเทียนหันมองจื่ออวิ๋นเฟยด้วยแววตาปวดร้าว เขากล่าวอย่างเสียใจ : "ทำไมเป็นแบบนี้? เป็นฝีมืออาจื่อใช่ไหม?"จื่ออวิ๋นเฟยพาเขามานั่งข้างนอกและถอนใจสารภาพ : "อาจื่อสวมหน้ากากหนังมนุษย์ปลอมตัวเป็นหญิงอุ้มท้อง มู่จิ่วซีเจตนาดีช่วยหญิงอุ้มท้องจนถูกอาจื่อทำร้ายในระยะประชิด แผลที่เอวบาดเจ็บสาหัส แต่โชคดีที่นางทานยาเทพสถิตย์ทันที"แม้จื่ออวิ๋นเฟยจะเสียยายาเทพสถิตย์ไปสองเม็ดจนเขาอยากจะสบถ แต่พอรู้ว่ามู่จิ่วซีไม่เป็นอะไร เขาก็รู้สึกว่ามันคุ้มที่จะเสีย หากมู่จิ่วซีเป็นอะไรไป เขาคงจะเสียใจมากกว่าไม่ง่ายที่ในชีวิตนี้เขาจะมีเพื่อนสนิทไว้พูดคุย ได้เป็นศิษย์น้องของเขาร่วมกันค้นคว้าวิจัย เขาไม่อยากเสียนางไปจริงๆมีแค่นางสามารถปรุงยาเทพสถิตย์ฮั้วอวิ๋นเทียนตัวสั่นยิ้มเจื่อน : "ตอนนั้นเพื่อจะปกป้องอาจื่อ ข้าเลยขอยาเทพสถิตย์และหน้ากากหนังมนุษย์ให้นาง แต่กลับถูกเอามาใช้เล่นงานจิ่วซี จิ่วซีพูดถูกแล้ว ข้ามันไม่ทันสังเกต"ชิงเฟิงตายไปแล้ว มู่จิ่วซีคงทำใจไม่ได้ในทันที วิธีเดียวที่จะคลายปมแค้นในใจนางคือต้องจับอาจื่อ เจ้ารู้ไส้อาจื่อเป็นอย่างดี เจ้าพอจะช่วยนางได้ไหม?" จื่ออวิ๋นเฟยถามฮั้วอวิ๋นเทียนกล

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 506

    จื่ออวิ๋นเฟยใช้เวลากว่า 1 ชั่วยามซับเหงื่อมู่จิ่วซี เขาถอนหายใจมองใบหน้าซีดเซียวของนางผู้หญิงคนนี้ทำเวรทำกรรมอะไรมา แผลตรงอกไม่ทันหาย ตรงเอวก็มาเป็นต่อ แค่มองก็รู้ว่าถูกแทงระยะประชิดมู่จิ่วซีได้สติในเช้าวันรุ่งขึ้น นางตะโกนเสียงดัง : "ชิงเฟิง ! ชิงเฟิง?"ลู่เอ๋อร์กล่าวร้องห่มร้องไห้ : "คุณหนู ท่านอย่าเพิ่งขยับตัว ชิงเฟิงจากไปแล้วเจ้าค่ะ"มู่จิ่วซีกำผ้าห่มแน่น ในหัวยังคงเห็นภาพที่เกิดขึ้นเมื่อวานทั้งหมดชิงเฟิงตายเพราะช่วยนาง คนลงมือสังหารไม่ใช่อาจื่อ แต่เป็นมือธนูที่เชี่ยวชาญอีกคนต้องโทษนางที่มองแผนการปลอมเป็นหญิงตั้งครรภ์ไม่ออก ตอนนั้นเหตุการณ์โกลาหล ผู้คนวิ่งเตลิดร้องขอความช่วยเหลือนางช่วยหญิงตั้งภรรค์คนนั้นไว้เพราะอยากให้ต้องตายทั้งกลม ไม่คาดคิดว่าอาจื่อจะใช้ประโยชน์จากความใจอ่อนย้อนมาทำร้ายนางเองผู้หญิงคนนี้ฉลาด โหดร้ายชั่วช้า"ฉินหลานจื่อ! ข้าขอสาบาน ข้าจะทำทุกอย่างเพื่อหาเจ้าให้เจอ ข้าจะเลาะเนื้อเฉือนกระดูกเจ้าเพื่อแก้แค้นให้ชิงเฟิง!" มู่จิ่วซี"คุณหนูใหญ่ ท่านใจเย็นก่อน! เดี๋ยวแผลฉีก!" จื่ออวิ๋นเฟยเดินเข้ามาเห็นคราบเลือดบนเตียงขณะมู่จิ่วซีหุนหันเคียดแค้นโม่จุนเด

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 505

    มู่จิ่วซีหันไปมอง เห็นธนูเพลิงดอกหนึ่งพุ่งไปยังหญิงสาวด้านหลังคนนั้นอีกทั้งนางเป็นหญิงท้องตั้งครรภ์มู่จิ่วซีไม่มีเวลาให้คิดมาก นางพุ่งตัวเข้าไปหาจากบนม้า กริชเล็งเควี้ยงออกไปยังธนูดอกนั้น ส่วนนางก็กระโจนคว้าหญิงตั้งครรภ์เอาไว้"คุณหนูใหญ่!" ชิงเฟิงตะโกนลั่นตามเข้ามาร่างกายของมู่จิ่วซีกระโจนไปหาหญิงตั้งครรภ์ ขณะมือของนางกำลังจะคว้าหญิงตั้งครรภ์คนนั้น นางกลับขนลุกชันขึ้นมาทั้งตัว นางจึงเอี้ยวตัวไปด้านข้าง"ฉวก!" กริชเล่มหนึ่งปักลงตรงเอวด้านซ้ายของนางมีดบินในมือของมู่จิ่วซีเล็งปาดไปที่คอของผู้หญิงตรงหน้าอย่างแรงนางเห็นใบหน้าของหญิงสาวคนนั้นชัดเจน เป็นสาวชาวบ้านธรรมดาๆ ทว่าตรงจมูกระหว่างตามีไฝสีดำเม็ดเล็กอาจื่อ! คาดไม่ถึงว่านางจะปลอมเป็นคนท้องเพียงเพื่อจะสังหารมู่จิ่วซี"มู่จิ่วซี เจ้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของข้า!" เสียงของอาจื่อแฝงไปด้วยความเย็นเยือกสุดขั้วพร้อมกับเบี่ยงศีรษะไปด้านหลัง หลบเลี่ยงคอ ทว่ามีดบินก็ยังกรีดเข้าที่หน้า บาดหน้ากากหนังมนุษย์จนเป็นรอย เลือดสดไหลซึมออกมาดวงตาของมู่จิ่วซีทั้งสองข้างคือความโกรธแค้น มีดบินปรากฎขึ้นในมืออีกครั้ง อาจื่อกลิ้งหลบไปด้านหลังสองตลบแล

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 504

    "แน่นอนอยู่แล้ว เซวียนหยวนเชาเมื่อก่อนคิดอยากจะช่วยหวางชิว หวางชิวไม่ใช่คนในราชวงศ์ แล้วเขาเป็นใครกันแน่? เขาถึงได้ไม่ไหว้หน้าเซวียนหยวนห้าว?" มู่จิ่วซียิ้มกล่าวโจวเหยาส่ายหัวและกล่าว : "หวางชิวแทรกซึมเข้าในแคว้นเกาอวิ๋น 20 กว่าปีแล้ว คงมีน้อยคนมากที่จะรู้ตัวตนแท้จริงของเขาในแคว้นเป่ยจิ้น"มู่จิ่วซีพยักหน้าพูด : "ดูเหมือนเซวียนหยวนห้าวใกล้จะมาแล้ว ในเมื่อหวางชิวสำคัญขนาดนั้น คราวนี้แคว้นเป่ยจิ้นคงต้องได้สังเวยเลือดครั้งใหญ่""คุณหนูใหญ่ เราจะต้องปล่อยหวางชิวไปในตอนสุดท้ายใช่ไหม?" โจวเหยาร้อนรนกล่าว "ถ้าต้องปล่อยเขาไป แบบนั้นเป็นการปล่อยเสือกลับภูเขาชัดๆ""เจ้าคิดว่าข้าใจดีขนาดนั้น?" ดวงตาทั้งสองข้างของมู่จิ่วซีมองโจวเหยาโจวเหยาตกตะลึง จากนั้นก็หัวเราะเสียงดังกล่าวออกมา : "งั้นข้าก็สบายใจได้แล้ว เขารู้ความลับของแคว้นเกาอวิ๋นมากเกินไป ถ้าต้องปล่อยเขากลับแคว้นเป่ยจิ้น ถือว่าไม่เป็นประโยชน์ต่อพวกเรา""วางใจเถอะ ต่อให้ปล่อยเขาออกกรมพระราชวังนครบาลไป ก็คงกลับไม่ถึงแคว้นเป่ยจิ้น เรื่องนี้ข้ากับโม่จุนได้ปรึกษากันแล้ว อนุญาตให้เซวียนหยวนเชามกุฎราชกุมารพิการคนนี้กลับไปได้เท่านั้น" มุมปาก

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 503

    มู่จิ่วซีกล่าวอย่างยิ้มมีเสน่ห์ : "ถึงอย่างไรเจ้าก็ห้ามทำไม่ดีกับข้า ไม่งั้นหลังจากนี้ข้าจะคิดบัญชีกับเจ้า อ่อใช่ เจ้าเคยคิดถึงกิจการในห้าแคว้นอื่นของท่านอ๋องสี่ไหม? ร่วมมือกับท่านพี่ฮั้วไหม?"มู่จิ่วซีเคยพูดถึงแผนการของฮั้วอวิ๋นเทียนให้โม่จุนฟัง"ฮั้วอวิ๋นเทียนคนนี้มันเจ้าเล่ห์ ต่อให้ข้าไม่ร่วมมือ เข้าก็ยังได้ทราบข้อมูลข่าวกรองก่อนใคร ลงมือก่อนใคร ข้าเองได้แต่เป็นฝ่ายถูกกระทำ ในเมื่อเขาเสนอมาว่าจะให้แบ่งให้เจ้าครึ่งหนึ่ง ข้าก็ตกลง เจ้าสมควรได้รับไว้"มู่จิ่วซีทันใดนั้นก็คลายกังวลและยิ้มกล่าว : "แล้วทางพระพันปีหลวงล่ะ?""อีกห้าแคว้นยังมีตำหนัก ไม่ได้ประกอบธุรกิจ ยังมีโฉนดอยู่ บางส่วนมอบคืนให้ราชวงศ์ ส่วนกิจการอื่นที่เกี่ยวข้องกับพระพันปีหลวงก็คงจะรู้ว่าไม่อาจเอากลับมาได้ ทั้ง 5 แคว้นแย่งไปจนเกลี้ยงแล้ว"โม่จุนกล่าวต่อ "ต่อให้ทหารมังกรดำของข้าอยู่ใน 5 แคว้น ก็ไม่อาจเอากลับมาได้ แบบนั้นจะเป็นหารเปิดเผยตัวตนพวกเขา ดังนั้นแผนการของฮั้วอวิ๋นเทียนจึงถูกใจข้าพอดี ข้าเดิมทีก็อยากจะร่วมมือกับเขา ในเมื่อเขามาหาเองถึงที่ งั้นทางเราก็จะไว้หน้าเขา""เจ้าเองก็จิ้งจอกเฒ่า" มู่จิ่วซีมองเขาซึ่งวา

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 502

    "ที่ที่อันตรายที่สุดคือที่ที่ปลอดภัยที่สุด ดูเหมือนว่าเราจะเดาผิด" มู่จิ่วซีกล่าว "แผลจะได้ไม่ต้องปริ"มู่จิ่วซีกุมอก"หากเป็นที่ลับตา ยังมีอีกที่หนึ่ง" โม่จุนหันมองมู่จิ่วซี"จวนท่านอ๋องสาม?" มู่จิ่วซีเลิกคิ้ว"ใช่ เขาหนีออกไปได้แล้ว ใครจะคิดว่าเขาจะกลับมา?" โม่จุนรีบกลับเลี้ยวม้าออกไปนอกวังด้านหลังตามขบวนมายาวเป็นหางว่าว เย่ฮาน ชิงเฟิงและทหารมังกรดำตามมาติดๆจนเมื่อมาถึงจวนอ๋องสาม เดิมทีควรจะเงียบสงัด ทว่ากลับได้ยินเสียงร้องไห้จากด้านในหลังจากโม่จุนอุ้มมู่จิ่วซีลงจากม้าก็กระโดดข้ามกำแพงเรือนเข้าไป ไม่ได้เข้ามาทางประตูใหญ่พอถึงพื้นก็ได้กลิ่นคาวเลือดคลุ้ง ทั้งสองสีหน้าเปลี่ยนไปมาก"ท่านผู้สำเร็จราชการแทน ช่วยด้วย!" บ่าวรับใช้รีบตะโกนเรียกเมื่อเห็นโม่จุนและมู่จิ่วซีโม่จุนเห็นบ่าวรับใช้นอนจมกองเลือดเลยรีบเข้าไปถาม : "ที่นี่เกิดอะไรขึ้น?""พระชายา พระชายาถูกลักพาตัวไปแล้วเจ้าค่ะ องค์หญิงสือบาดเจ็บ..." บ่าวรับใช้ชี้นิ้วไปด้านในโม่จุนรีบเรียกคนด้านหลังให้มาช่วยปฐมพยาบาล ส่วนเขาเองกับมู่จิ่วซีรีบเข้าไปด้านใน ตามทางมีองครักษ์มากมายถูกฆ่า ทั้งสองสีหน้าแย่มากกว่าเก่าหลังจากท่าน

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 501

    เย่อู่เหิงรีบวิ่งออกไป มู่จิ่วซีสีหน้าเปลี่ยน หลังจากเดินไปมาหลายรอบก็กัดฟัน เปลี่ยนเป็นชุดจิ้นจวงและเดินออกมา"คุณหนู ท่านจะไปไหน?" ลู่เอ๋อร์เข้ามาจากด้านนอกเห็นมู่จิ่วซีเปลี่ยนเสื้อผ้าออกไป นางตกใจสะดุ้งจนตะโกนร้องเรียก"ข้ามีธุระ เย่ฮาน ชิงเฟิง!" มู่จิ่วซีตะโกนเรียกจื่ออวิ๋นเฟยที่กำลังงุ่นง่านกับศาสตร์ศัลยกรรมตกแต่งได้ยินเสียงของมู่จิ่วซี ก็รีบวิ่งออกมา"คุณหนูใหญ่ เจ้า ท่านจะออกไปข้างนอกรึ?" เย่ฮานกล่าวอย่างตกใจ"มู่จิ่วซี ไม่รักชีวิตตัวเองเลยรึไง แผลยังไม่ทันหายยังจะออกไปอีก?" จื่ออวิ๋นเฟยเองก็ตกใจ"ข้าต้องเข้าไปในวัง ไปเตรียมม้า!" มู่จิ่วซีรีบวิ่งออกไป"เห้ยๆๆ เจ้าระมัดระวังด้วย อย่าบุ่มบ่ามจนแผลฉีกล่ะ" จื่ออวิ๋นเฟยตะโกนจากด้านหลัง"เอายามาให้ข้าเม็ดหนึ่ง! กันไว้ก่อน" มู่จิ่วซีันควับกลับมาและยืนมือไปทางจื่ออวิ๋นเฟย "กลับมาแล้วข้าจะปรุงยาเอามาคืนเจ้า"จื่ออวิ๋นเฟยเบือนหน้าหนีเดินถอยออกไป มู่จิ่วซีเบ้ปากกล่าว : "ขี้งก"พูดจบก็รีบเดินไปทางประตูจื่ออวิ๋นเฟยหยุดฝีเท้าลงและพูดขึ้นมากะทันหัน : "เอาไป!"มู่จิ่วซีหันกลับมา เห็นเพียงขวดยาที่ถูกโยนมาให้"ในนั้นเหลือแค่ 2 เม็ด

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 500

    "เจ้าไปวาดใบหน้าของหน้ากากหนังมนุษย์ของอาจื่อออกมาก่อน" มู่จิ่วซีกล่าว"เออ ข้า ข้าก็จำไม่ค่อยได้แล้ว เป็นผู้หญิงธรรมดามากๆ ไม่สะดุดตาเลย ข้าตอนนั้นกำลังเพิ่งเริ่มศึกษาค้นคว้า เลยทำหน้ากากออกมาแค่ผืนเดียว ถ้าของมันดี ข้าคงอดไม่ได้ที่จะต้องยกให้คนอื่นใช่ไหมล่ะ?" จื่ออวิ๋นเฟยทำสีหน้าโศกเศร้า"ไม่มีเอกลักษณ์อะไรเลยงั้นเหรอ? ถ้าเจ้าเห็นกับตาจะจำได้ไหม?" มู่จิ่วซีสูดหายใจเข้า"เอกลักษณ์? มีสิ ตรงจมูกหว่างตามีไฝสีดำเม็ดหนึ่ง มีแค่จุดนั้น เพราะว่าเป็นไฝเลยไม่มีวิธีจะเอาออก อาจื่อตอนนั้นยังบอกว่าอัปลักษณ์"มู่จิ่วซีก็ถอยหายใจได้ในที่สุด ขอเพียงมีเอกลักษณ์จุดสังเกต อย่างน้อยให้นางครั้งหน้าเห็นและจำได้ อีกอย่างอาจื่อคงจะต้องคิดหาวิธีมาฆ่านางแน่นอน"อายุล่ะ ภายนอกอายุประมาณเท่าไหร่?" มู่จิ่วซีถาม"ประมาณระหว่าง 20-30 ปี" จื่ออวิ๋นเฟยกล่าว "สีผิวดูคล้ำกว่าเจ้าเล็กน้อย ไม่ใช่คุณหนูประเภทนั้น คล้ายกับบ่าวรับใช้"มู่จิ่วซีพยักหน้า เข้าใจแล้ว"งั้นก็ดี ตอนนี้ข้าจะสอนศาสตร์ศัลยกรรมตกแต่งให้เจ้า" มู่จิ่วซีจิตใจวิตกกังวล แต่ก็ทำได้เพียงสงบใจและรอฟังข่าวเท่านั้นตกกลางคืน เย่อู่เหิงได้มาเยี่ยม คน

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 499

    จื่ออวิ๋นเฟยกล่าวอย่างระแวง : "เจ้า เจ้าอย่ามองข้าแบบนั้น อาจื่อไม่ใช่ว่ามีโรคหัวใจแต่กำเนิดรึไง? มอบยาให้นางไปก็เพื่อใช้ปกป้องชีวิตของนาง""เจ้าไม่ใช่ว่าเห็นนางขัดหูขัดตาหรือไง?" มู่จิ่วซีกล่าวอย่างโมโห"เออ คือ คือข้าได้แลกเปลี่ยนกับฮั้วอวิ๋นเทียน ว่าให้ข้าสามารถรับสวัสดิการที่ดีที่สุดในหอดาราจันทราทั้ง 6 แคว้นได้ ได้รับการปกป้องจากหอดาราจันทราทั้ง 6 แคว้น" จื่ออวิ๋นเฟยสำนักผิดมู่จิ่วซีหมดคำจะพูด"ท่านอ๋องสามตอนนั้นได้ก่อกบฎ ถูกโม่จุนหักขาไปข้าง ทว่าวันนี้ขาของข้ากลับมาเดินบนพื้นได้อีก แค่อาจไม่ค่อยคล่องแคล่ว คงได้ทานยาเทพสถิตย์ไปแล้วแน่" มู่จิ่วซีกล่าวอย่างมั่นใจ "นอกเสียจากมียารักษาสุดยอดยิ่งกว่ายาเทพสถิตย์"จื่ออวิ๋นเฟยอ้าปากกว้าง จากนั้นก็กล่าวอย่างอักอ่วน : "งั้น งั้นก็คงจะเป็นยาเทพสถิตย์แล้วล่ะ""จะให้พวกเขาหนีออกไปจากแคว้นเกาอวิ๋นไม่ได้เด็ดขาด ไม่งั้นไอระยำสองตัวนั้นคงทำให้พวกเราไม่อาจอยู่อย่างสงบได้แน่นอน" มู่จิ่วซีกำหมัดจนแน่น แววตาเต็มไปด้วยจิตสังหารจื่ออวิ๋นเฟยส่งเสียงไอ เขาถึงกับหัวหด"เจ้ายังมีอะไรปิดบังข้าอีก?" มู่จิ่วซีรู้สึกว่าจื่ออวิ๋นเฟยแปลกออกไป"หะ! ไม่

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status