Share

ตอนที่ 5 ลงหลักปักฐาน

last update Last Updated: 2025-03-08 02:15:38

แค่ทองคำแท้หนึ่งแท่งขนาดเล็กที่ซูอันนำไปขาย ก็ทำเงินให้นางมากถึงสิบตำลึงทอง แต่นางไม่ลืมแลกเป็นตำลึงเงินกับเหรียญอีแปะเผื่อเอาไว้ ยามหยิบใช้จะได้สะดวก ก่อนออกเดินทางไปยังเมืองผู่เถียน เมืองที่ขึ้นชื่อเรื่องการทอผ้าและผ้าปักอันงดงาม ซูอันไม่ลืมพาครอบครัวไปซื้อเสื้อผ้าชุดใหม่ ที่ราคาไม่แพงเกินไปมาสวมใส่ชั่วคราว

ระหว่างการเดินทางซูอันตระหนักได้ว่า เมื่อนางมาอยู่ในยุคโบราณเช่นนี้ เงินทองที่ใช้จ่ายย่อมมิใช่ที่ใช้ในยุคที่จากมา

จึงให้จีจี้เปลี่ยนทองคำแท่งทั้งหมด ให้กลายเป็นตำลึงทอง ตำลึงเงินและเหรียญอีแปะไว้ ทำให้ง่ายต่อการหยิบมาใช้สอยได้ทุกเวลา

ครอบครัวตระกูลจินจ้างรถม้ารับจ้าง ให้ไปส่งพวกเขาที่เมืองผู่เถียน ระหว่างเดินทางซูอันกับเยี่ยนหลิงนั่งมองทิวทัศน์

ผ่านหน้าต่างรถม้า การเดินทางไม่พบเจอปัญหาอันใดทุกอย่างราบรื่น จนผ่านมาสิบห้าวันในที่สุดซูอันกับครอบครัวก็มาถึงเมืองผู่เถียนเสียที

เมื่อผ่านประตูเข้าสู่เมืองความคึกคักของตลาดขนาดใหญ่ ที่ตั้งอยู่กลางเมืองก็ปรากฏแก่สายตา เสียงพ่อค้าแม่ค้าตะโกนเรียกลูกค้า กลิ่นอาหารหอมกรุ่นจากร้านแผงลอย และสีสันของผืนผ้าที่วางเรียงรายอยู่ในร้านค้าต่าง ๆ ทำให้นางรู้สึกว่าที่นี่คือศูนย์กลางการค้า ซึ่งเกี่ยวกับผ้าไหมอันมีชีวิตชีวาอย่างแท้จริง

แม้จะเป็นหญิงสาวที่บังเอิญทะลุมิติมาจากโลกปัจจุบัน แต่ด้วยประสบการณ์ที่เคยเป็นมาเฟียสาว ผู้เชี่ยวชาญการเจรจา

และการวางแผนทางธุรกิจมาก่อน ซูอันจึงไม่หวั่นกับการเริ่มต้นชีวิตใหม่ในเมืองแห่งนี้

แต่ก่อนจะเริ่มทำการค้าซูอันกับครอบครัว ต้องหาจวนที่เหมาะสมให้กับตนเองเสียก่อน นางจึงให้รถม้าไปส่งยังศาลาว่าการของเมือง ซึ่งเป็นสถานที่ที่พ่อค้าหรือชนชั้นสูง มักมาซื้อขายจวนหรือหาร้านค้าทำเลทองสำหรับกิจการของตน ล้วนอยู่ที่นี่ทั้งสิ้น

เจ้าหน้าที่ในชุดขุนนางรีบออกมาต้อนรับ เมื่อเห็นว่าผู้มาเยือนเป็นครอบครัวเล็ก ๆ การแต่งกายดูธรรมดาทั่วไป แต่ยังให้การต้อนรับเป็นอย่างดี

“คารวะทุกท่าน ไม่ทราบว่าท่านสนใจจวนเพื่ออยู่อาศัย หรือว่าร้านค้าภายในเมืองผู่เถียนดีขอรับ" เจ้าหน้าที่ถามด้วยน้ำเสียงสุภาพ ไม่มีท่าทีเย่อหยิ่งหรือดูถูกผู้มาติดต่อนักนิด

ซูอันก้าวขึ้นมาด้านหน้าเพื่อจัดการเรื่องนี้ด้วยตนเอง “ข้าต้องการจวนที่กว้างขวางสำหรับอยู่อาศัย รวมถึงร้านค้าในตลาด

ทำเลดี มีผู้คนเดินผ่านพลุกพล่านอีกหนึ่งร้าน ขอเป็นร้านขนาดกลางไปถึงขนาดใหญ่เจ้าค่ะ หากท่าเจ้าหน้าที่มีตัวอย่างให้ดูด้วย ย่อมง่ายต่อการตัดสินใจซื้อทั้งสองอย่างนะเจ้าคะ”

เมื่อได้ยินสิ่งที่แขกตรงหน้าต้องการ เจ้าหน้าที่จึงเชิญพวกเขาไปนั่งรอ จากนั้นจึงเข้าไปด้านในห้อง ๆ หนึ่ง เพื่อนำแบบจวนแต่ละหลังมาให้ครอบครัวซูอันได้เลือก รอไม่ถึงหนึ่งจิบชา แบบจวนหลังใหญ่ก็ถูกนำมากางอยู่บนโต๊ะกลางห้อง ให้ครอบครัวของซูอันได้เลือกตามแบบที่ชอบ ส่วนอีกโต๊ะหนึ่งนั้นเป็นร้านค้าเช่นที่ซูอันบอกไว้นั่นเอง

“ท่านพ่อท่านแม่ พี่หญิง พวกท่านชอบจวนหลังใดเจ้าคะ ข้าดูอย่างไรก็คล้ายกันไปเสียหมด จนเลือกไม่ถูกเลยว่าหลังไหนถึงจะเหมาะกับพวกเราเจ้าค่ะ” ซูอันคิดเช่นนั้นจริง ๆ

ทั้งสามคนที่ถูกซูอันเอ่ยถาม ต่างช่วยกันมองดูและค่อย ๆ พิจารณา สุดท้ายก็มีความเห็นตรงกันที่จะซื้อจวนขนาดใหญ่ที่มีทางเดิน ตัวจวนเป็นอาคารสองชั้นที่สร้างจากไม้และอิฐ ดูมั่นคงและมีพื้นที่สวนด้านหลัง เหมาะสำหรับการทำเป็นโรงทอผ้าขนาดย่อม และมีพื้นที่ว่างในการสร้างโรงเก็บผ้าได้ ส่วนร้านค้ากลางเมืองก็เลือกได้แล้วเช่นกัน

ซูอันเมื่อได้คำตอบจากทุกคนแล้ว จึงได้หันไปหาเจ้าหน้าที่คนเดิมอีกครั้ง “ท่านเจ้าหน้าที่ข้าเลือกจวนหลังขนาดใหญ่ ที่ตั้งอยู่บริเวณทิศเหนือใกล้ลำธารเล็ก ๆ หลังนี้เจ้าค่ะ และร้านค้าก็เอาเป็นร้านที่อยู่ติดกับร้านเครื่องประดับ รบกวนท่านรวมเงินทั้งสองอย่าง และจัดการเรื่องหนังสือซื้อขายให้ด้วยนะเจ้าคะ”

เจ้าหน้าที่คนเดิมรีบรับคำอย่างรวดเร็ว ไม่คิดว่าเช้าวันนี้เขาจะทำงานได้ราบรื่นมีคนมาซื้อทั้งจวนและร้านค้า “ได้เลยขอรับ คุณหนูกับครอบครัวนั่งรอข้าสักประเดี๋ยว ไม่นานหนังสือรับรองการซื้อขายจะมาอยู่ในมือของพวกท่านแน่นอน”

“ขอบคุณท่านเจ้าหน้าที่มากเจ้าค่ะ”

หลังการเจรจาซื้อขายจบลง เจ้าหน้าที่คนเดิมได้พาครอบครัวของซูอันมาส่งยังจวนที่นางซื้อ ทำให้ซูอันต้องมีน้ำใจตอบแทนค่าน้ำร้อนน้ำชาไปเล็กน้อย เมื่อมีจวนเป็นของครอบครัวแล้ว ทั้งสี่คนจึงเริ่มลงมือทำความสะอาดจวนทันที กว่าจะทำความสะอาดจนทั่วก็เข้าสู่ยามเซิน

ซูอันเกรงว่าร้านค้าจะปิดเสียก่อน จึงให้มารดากับพี่สาวพักอยู่ที่จวนรอ ส่วนนางกับบิดาจะรีบไปหาซื้อฟูกนอน หมอนและผ้าห่มสำหรับคืนแรกในเมืองผู่เถียนแห่งนี้ แต่ก่อนจะไปซูอันไม่ลืมนำอาหารออกมา เพื่อให้มารดากับพี่สาวได้กินรองท้อง หากนางกับบิดากลับมาช้าทั้งสองคนจะได้ไม่ต้องหิ้วท้องรอ

ภายหลังจัดการเรื่องสิ่งของจำเป็น และให้ลูกจ้างของทางร้านนำไปส่งที่จวนแล้ว ซูอันเห็นว่ายังพอมีเวลาเหลืออยู่เล็กน้อย นางจึงได้ชักชวนบิดาแวะไปดูร้านค้าสักหน่อย จะได้รู้ว่ามีส่วนไหนที่ควรเปลี่ยนบ้างหรือไม่ “ท่านพ่อเจ้าคะ ก่อนจะกลับจวนพวกเราแวะไปดูร้านค้าเสียหน่อยดีไหมเจ้าคะ จะได้วางแผนปรับปรุงตั้งแต่เนิ่น ๆ เจ้าค่ะ”

“อืม ดีเหมือนกันนะอันเอ๋อร์ของพ่อช่างคิดนัก เพราะระหว่างการปรับปรุงร้านค้าพวกเราควรหาลูกจ้างไว้ด้วย หากทำกันเพียงลำพังสี่คนอาจเกิดข้อสงสัย เกี่ยวกับเรื่องการทอผ้าหรือปักผ้าได้” มู่ถงเป็นกังวลในเรื่องนี้หลังจากเปิดร้านค้าแล้วมากกว่า

“เรื่องนี้ท่านพ่อปล่อยให้เป็นหน้าที่ของข้าเถิดเจ้าค่ะ” แค่การหาคนมาทำงานมิใช่เรื่องยากสำหรับซูอัน

สองคนพ่อลูกเดินมาหยุดอยู่หน้าร้านค้าสองชั้น ที่ยังคงดูดีไม่น้อยเมื่อได้เข้าไปดูภายในร้าน ต่างก็พอใจกับการดูแลของทางการ ส่วนเรื่องปรับปรุงร้านคงมีไม่มากนัก เพียงแค่ต้องเพิ่มโต๊ะวางผ้า ราวแขวนผืนผ้าลวดลายต่าง ๆ รวมถึงหุ่นไม้สำหรับใส่ชุดตัดสำเร็จ ของพวกนี้ต้องใช้ช่างไม้ฝีมือดีในการทำ มิเช่นนั้นอาจสร้างความเสียหายกับผ้าราคาแพงได้

“ท่านพ่อเจ้าคะ พรุ่งนี้ข้ากับพี่หญิงจะออกไปหมู่บ้านใกล้ ๆ เพื่อมองหาลูกจ้างที่จะมาทำงานให้ร้านของเรานะเจ้าคะ ส่วนเรื่องช่างไม้คงต้องรบกวนท่านพ่อจัดการแทนข้าแล้วเจ้าค่ะ” ซูอันคิดว่าการแบ่งงานให้คนในครอบครัวได้ทำ ย่อมสำเร็จเร็วกว่าทำเพียงลำพัง

มู่ถงเองก็คิดไม่ต่างกับบุตรสาวนัก หากต้องทำไปทีละอย่างอาจเกิดความล่าช้าได้ “ได้สิลูก แต่เจ้ากับหลิงเอ๋อร์ต้องดูแลตัวเองให้ดีเล่า พวกเรายังไม่รู้จักผู้คนในเมืองนี้มากนัก ระวังตัวเอาไว้ย่อมดีที่สุดนะ”

“เจ้าค่ะท่านพ่อ ข้าจะดูแลพี่หญิงเป็นอย่างดี หากใครหน้าไหนกล้าเข้ามาหาเรื่องแล้วละก็ ฮึ่ม! ข้าจะอัดพวกมันให้จำทางกลับบ้านไม่ได้เลยเจ้าค่ะ” ซูอันที่เริ่มมีแรงมากขึ้นหลังจากได้กินอิ่ม และพักผ่อนเพียงพอมาเกือบหนึ่งเดือน พูดกับบิดาพร้อมชูกำปั้นเล็ก ๆ อย่างจริงจัง

“หึ ๆ เก่งเสียจริงเกรงว่าอันเอ๋อร์ของพ่อ คงจะหาคนแต่งด้วยยากเสียแล้วกระมัง ฮ่า ๆ ๆ” มู่ถงนึกขันกับท่าทางของบุตรสาว ที่ไม่มีท่าทางเรียบร้อยอ่อนหวาน แตกต่างกับพี่สาวอย่างเยี่ยนหลิงคนละขั้ว

เรื่องแต่งงานไม่เคยมีอยู่ในหัวของซูอัน “ใครสนเรื่องนั้นกันเจ้าคะ ถ้าร่ำรวยเงินทองก็ไม่จำเป็นต้องแต่งงาน ไปเป็นสาวใช้ให้ครอบครัวสามีจนไม่มีความสุข มิสู้ข้าอยู่ดูแลท่านพ่อท่านแม่จะไม่ดีกว่าหรือเจ้าคะ

หากจะให้ข้าแต่งงานออกเรือนจริง ๆ บุรุษที่จะมาเป็นลูกเขยของท่านพ่อ ต้องรักมั่นในตัวข้าผู้นี้เพียงหนึ่งเดียว ไม่หวั่นไหวแม้พบสตรีใบหน้างดงามล่มเมือง ที่สำคัญต้องเลี้ยงดูข้าให้อยู่สุขสบาย ยิ่งมีอำนาจในมือด้วยแล้วจะพิจารณาเป็นกรณีพิเศษเจ้าค่ะ

แต่ถึงอย่างไรการค้าของครอบครัวเรา ย่อมพบเจออุปสรรคจากคนที่เสียผลประโยชน์ ข้าไม่มีทางนั่งงอมืองอเท้ารอบุรุษมาปกป้องแน่ ฝีมือการต่อสู้ของข้าก็มิได้ด้อยไปกว่าทหาร ฉะนั้นนอกจากหาลูกจ้างมาทำงานที่ร้านแล้ว ยังต้องสร้างกองกำลังของตนเอง เพื่อปกป้องผ้าไหมราคาแพงของครอบครัวเราด้วยเจ้าค่ะท่านพ่อ”

มู่ถงตะลึงกับความคิดของบุตรสาว ที่คิดวางแผนครอบคลุมเอาไว้ล่วงหน้า “แม้จะมีสำนักคุ้มภัยที่รับจ้างดูแลการส่งสินค้า แต่การมีกำลังคนเป็นของตนเองย่อมป้องกันเรื่องร้ายได้อีกทาง พ่อไม่ได้เก่งเรื่องแผนการที่ซับซ้อนนัก เช่นนั้นยกให้อันเอ๋อร์เป็นคนจัดการดูแลโดยตรงนะลูก”

“เจ้าค่ะ รับรองท่านพ่อไม่มีทางผิดหวังแน่นอน ข้าว่าพวกเรารีบกลับเถิดเจ้าค่ะ ป่านนี้ท่านแม่กับพี่หญิงรอกินมื้อเย็นแล้วล่ะ”

พอสังเกตสีของท้องฟ้า ก็เห็นเป็นจริงเช่นที่ซูอันได้บอกกับเขาจริง ๆ “พวกเราเร่งฝีเท้ากันหน่อยเถิด อย่าให้ทั้งสองคนต้องรอนานดีไหม”

“เจ้าค่ะท่านพ่อ”

สองพ่อลูกปิดประตูร้านค้าไว้เช่นเดิม ก่อนจะเดินกลับจวนด้วยความเร็ว ส่วนสตรีอีกสองคนที่จวนมิได้นั่งรอเฉย ๆ พวกนางนำสิ่งของที่ร้านค้านำมาส่ง ไปจัดวางในห้องของแต่ละคนจนเสร็จ และได้เดินดูรอบ ๆ จวนที่ยามนี้ขึ้นชื่อว่าเป็นบ้านของพวกเขาจริง ๆ

เมื่อซูอันกับบิดามาถึงจวน การกินอาหารมื้อเย็นจึงได้เริ่มขึ้น ความสุขกับครอบครัวเล็ก ๆ กำลังเริ่มเข้าที่เข้าทาง พวกเขาทั้งสี่คนพูดคุยเรื่องการค้า เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นของกันและกัน ซึ่งการทำการค้าจะเร่งรีบมากเกินไปไม่ได้เด็ดขาด ไม่ว่าเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่ทุกอย่างต้องคิดอ่านวางแผนให้รอบคอบมากที่สุด นอกจากแผนการหลักแล้วยังต้องมีแผนสำรอง เผื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันจะได้ใช้มันรับมือได้ทันที

Related chapters

  • มาเฟียสาวทะลุมิติมาเป็นเจ้าของร้านผ้าไหมอันดับหนึ่ง   ตอนที่ 6 ช่วยหมู่บ้านซานอี๋

    วันรุ่งขึ้นซูอันและเยี่ยนหลิงจ้างรถม้า ออกเดินทางไปยังหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่อยู่ใกล้เมืองผู่เถียน ซึ่งใช้เวลานั่งรถม้าไม่ถึงหนึ่งเค่อเท่านั้น การไปหมู่บ้านแห่งนี้เป็นเพราะซูอันต้องการหาคนงาน ที่มีฝีมือในการเลี้ยงไหม ย้อมสี และลูกจ้างที่มีฝีมือการตัดเย็บไปทำงานกับร้านค้าของครอบครัวของนางครั้นซูอันกับเยี่ยนหลิงมาถึงหมู่บ้านซานอี๋ ทั้งคู่สังเกตเห็นว่าบรรยากาศของหมู่บ้านดูเงียบงันผิดปกติ ชาวบ้านบางส่วนที่เป็นเด็กและสตรี ต่างพากันหลบอยู่ในบ้านของตน“อันเอ๋อร์ดูเหมือนว่าหมู่บ้านซานอี๋มีบางอย่างผิดปกติ พวกเขาดูหวาดกลัวอะไรบางอย่างจนไม่กล้าออกจากบ้านเช่นนี้” เยี่ยนหลิงเอ่ยขึ้นพร้อมขมวดคิ้วซูอันพยักหน้าและคิดเช่นเดียวกับพี่สาว ก่อนจะเร่งให้รถม้าไปยังลานกว้างกลางหมู่บ้าน ที่นั่นพวกนางพบกลุ่มชายฉกรรจ์นับสิบคน กำลังยืนล้อมกลุ่มชาวบ้านที่นั่งอยู่กับพื้นด้วยสีหน้าท่าทางหวาดกลัว และกำลังร้องขอความเมตตาจากชายฉกรรจ์กลุ่มนี้“คุณชายกู้ได้โปรดเถิดขอรับ อย่าทำกับผ้าไหมของพวกเราเช่นนี้ ทุกคนในหมู่บ้านล้วนทอผ้าสุดฝีมือ ทุกขั้นตอนล้วนทำด้วยตนเองทั้งสิ้น มันจะกลายเป็นผ้าไหมเก่า ๆ ที่ท่านนำมาได้อย่างไรกัน”“น

    Last Updated : 2025-03-08
  • มาเฟียสาวทะลุมิติมาเป็นเจ้าของร้านผ้าไหมอันดับหนึ่ง   ตอนที่ 7 ได้ทั้งลูกจ้างและลูกน้อง

    ในที่สุดชาวบ้านต่างก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก แน่นอนว่าหัวหน้าหมู่บ้านอย่างเลี่ยงหยาง ย่อมเป็นตัวแทนของทุกคน ลุกขึ้นยืน โค้งคำนับให้ซูอันและกล่าวขอบคุณนาง“ขอบคุณคุณหนูที่ช่วยเหลือขอรับ หากไม่ได้ท่านช่วยไว้ วันนี้คงมีชาวบ้านที่ต้องเจ็บตัวจากตระกูลกู้อีกเป็นแน่ แต่ว่าท่านควรระวังคนตระกูลนี้เอาไว้นะขอรับ”ซูอันก้มศีรษะเล็กน้อยเป็นการรับน้ำใจ “พวกท่านเองก็อย่าถือเป็นบุญคุณเลยนะ การยอมก้มหัวให้คนเช่นนั้นมิใช่ทางออกที่ดีเสมอไป หากยอมให้พวกเขากดขี่ข่มเหง เหตุการณ์ก็จะเป็นอย่างวันนี้ที่พวกท่านต้องพบเจอตลอดไป ถ้าครั้งหน้ายังเกิดเรื่องเช่นนี้อีก ให้คนไปบอกกับข้าที่จวนตระกูลจินในเมืองผู่เถียนได้”เยี่ยนหลิงเองก็มีคำพูดบอกกับชาวบ้านบ้าง “ข้ากับน้องสาวเชื่อว่า หากท่านลุงท่านป้าไปตีกลองร้องทุกข์กับท่านเจ้าเมือง ย่อมได้รับความยุติธรรมอย่างแน่นอน”“พวกข้าจะจำไว้ขอรับ ว่าแต่พวกท่านมาที่หมู่บ้านของพวกเรา มีกิจธุระอันใดหรือไม่ขอรับ” เลี่ยงหยางถามสตรีสองคนที่เป็นพี่น้องกัน เพราะเขารู้สึกว่านี่มิใช่เรื่องบังเอิญเป็นซูอันที่ตอบไปสั้น ๆ “ใช่แล้ว พวกข้าสองคนมีธุระจริง ๆ”ชาวบ้านต่างพร้อมใจกันนิ่งเงียบ เพื่อร

    Last Updated : 2025-03-09
  • มาเฟียสาวทะลุมิติมาเป็นเจ้าของร้านผ้าไหมอันดับหนึ่ง   ตอนที่ 8 ลานฝึกที่ยอดเยี่ยมและคนจากหมู่บ้านซานอี๋

    ทางด้านมู่ถงที่ออกจากจวนตามหลังบุตรสาว ก็ได้ติดต่อนายช่างโจวซุ่นที่ชาวบ้านแนะนำกับเขา และพาไปดูร้านค้าพร้อมบอกรายละเอียด ที่ตนกับบุตรสาวต้องการให้นายช่างโจวปรับปรุง หรือเพิ่มเติมในส่วนที่ได้หารือกันเอาไว้ ซึ่งนายช่างโจวพอจะเห็นภาพตามที่มู่ถงได้บอกเล่าให้ฟัง เนื่องจากนายช่างโจวเองก็มีประสบการณ์สร้างร้านค้าผ้ามาไม่น้อยเมื่อพูดคุยและทำสัญญาการปรับปรุงร้าน นายช่างโจวขอเวลาสิบห้าวันเท่านั้น ที่เขาใช้เวลาไม่นานเป็นเพราะมีลูกน้องจำนวนมาก แต่ละคนยังมีฝีมือไม่ด้อยไปกว่ากันซูอันกับเยี่ยนหลิงกลับมาถึงจวน ก็ไม่ลืมบอกเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในหมู่บ้านซานอี๋ให้บิดามารดาได้รับรู้ และยังบอกอีกว่าหมู่บ้านแห่งนี้ คือลูกจ้างที่ตกลงทำสัญญาทำงานกับพวกตน“ลูกสาวของพ่อทั้งสองคนช่างจำนรรจาเกลี้ยกล่อมผู้คนเสียจริง แต่เป็นเรื่องที่ดีถ้ามีคนงานที่ชำนาญด้านต่าง ๆ หลายคน อย่างน้อยสินค้าที่ต้องนำไปวางขาย ย่อมไม่เกิดปัญหาขาดแคลนจนถูกลูกค้าตำหนิได้”“ท่านพ่อวางใจเถิดเจ้าค่ะ ข้ากับอันเอ๋อร์ไม่มีทางปล่อยให้เกิดเรื่องเช่นนั้นแน่ เพราะคนในหมู่บ้านซานอี๋ทำงานเกี่ยวกับผ้าไหมได้งดงาม หรืออาจเทียบเท่ากับพวกเรายามที่อยู่เมือง

    Last Updated : 2025-03-09
  • มาเฟียสาวทะลุมิติมาเป็นเจ้าของร้านผ้าไหมอันดับหนึ่ง   ตอนที่ 9 จินซูอันฝึกฝนหน่วยคุ้มกันรุ่นที่หนึ่ง

    ภายหลังที่หัวหน้าหมู่บ้านกลับไปแล้ว ก็ถึงเวลาที่ซูอันจะได้พูดคุยและทำความเข้าใจกับว่าที่หน่วยคุ้มกัน ซึ่งพวกเขาจะต้องพักอยู่ที่จวนแห่งนี้เพื่อรับการฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง จนกว่าจะผ่านหลักสูตรการฝึกที่นางกำหนดไว้ซูอันหันมาทางบุรุษทั้งสิบคนที่ยืนรออยู่เงียบ ๆ อย่างรู้มารยาท “เอาล่ะพี่ชายทั้งหลายถึงเวลาของพวกท่านแล้ว ตามข้าไปด้านหลังของจวน เนื่องจากสถานที่แห่งนั้นคือการเริ่มต้น เพื่อฝึกฝนร่างกายในการเป็นหน่วยคุ้มกันรุ่นที่หนึ่งของตระกูลจิน”“ขอรับคุณหนูเล็ก”ซูอันพาลูกน้องมือใหม่ไปยังด้านหลังจวน เพื่อพูดคุยทำความเข้าใจการทำหน้าที่ และค่าจ้างที่คนทั้งสิบจะได้รับ เมื่อเดินเข้ามาถึงด้านหลังจวนสิ่งที่ปรากฏตรงหน้า ทำเอากลุ่มของอวี้เหลียนต้องหยุดชะงัก อ้าปากค้างกับสิ่งที่เรียกว่าสนามฝึก“อะ อะ อวี้เหลียนเจ้าว่าพวกเรากำลังฝันอยู่หรือไม่ นี่ใช่ลานฝึกต่อสู้ที่คุณหนูเล็กพูดถึงงั้นรึ!” หยิ่งเจาเคยทำงานเป็นคนส่งผักมาก่อน เขาเคยเห็นในจวนของบุตรหลานคหบดี มักจะมีลานฝึกวิชาต่อสู้มาบ้างอึก “ข้าเองก็ตอบเจ้าไม่ได้เช่นกันหยิ่งเจา บางอย่างข้าไม่เคยเห็นมาก่อนด้วยซ้ำ” อวี้เหลียนตอบสหายอย่างตรงไปตรงมาคนอื่น ๆ ท

    Last Updated : 2025-03-09
  • มาเฟียสาวทะลุมิติมาเป็นเจ้าของร้านผ้าไหมอันดับหนึ่ง   ตอนที่ 9 จินซูอันฝึกฝนหน่วยคุ้มกันรุ่นที่หนึ่ง

    ภายหลังที่หัวหน้าหมู่บ้านกลับไปแล้ว ก็ถึงเวลาที่ซูอันจะได้พูดคุยและทำความเข้าใจกับว่าที่หน่วยคุ้มกัน ซึ่งพวกเขาจะต้องพักอยู่ที่จวนแห่งนี้ เพื่อรับการฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง จนกว่าจะผ่านหลักสูตรการฝึกที่นางกำหนดไว้ซูอันหันมาทางบุรุษทั้งสิบคนที่ยืนรออยู่เงียบ ๆ อย่างรู้มารยาท “เอาล่ะพี่ชายทั้งหลายถึงเวลาของพวกท่านแล้ว ตามข้าไปด้านหลังของจวน เนื่องจากสถานที่แห่งนั้นคือการเริ่มต้นเพื่อฝึกฝนร่างกาย ในการเป็นหน่วยคุ้มกันรุ่นที่หนึ่งของตระกูลจิน”“ขอรับคุณหนูเล็ก”ซูอันพาลูกน้องมือใหม่ไปยังด้านหลังจวน เพื่อพูดคุยทำความเข้าใจการทำหน้าที่ และค่าจ้างที่คนทั้งสิบจะได้รับ เมื่อเดินเข้ามาถึงด้านหลังจวนสิ่งที่ปรากฏตรงหน้า ทำเอากลุ่มของอวี้เหลียนต้องหยุดชะงัก อ้าปากค้างกับสิ่งที่เรียกว่าสนามฝึก“อะ อะ อวี้เหลียนเจ้าว่าพวกเรากำลังฝันอยู่หรือไม่ นี่ใช่ลานฝึกต่อสู้ที่คุณหนูเล็กพูดถึงงั้นรึ!” หยิ่งเจาเคยทำงานเป็นคนส่งผักมาก่อน เขาเคยเห็นในจวนของบุตรหลานคหบดี มักจะมีลานฝึกวิชาต่อสู้มาบ้างอึก “ข้าเองก็ตอบเจ้าไม่ได้เช่นกันหยิ่งเจา บางอย่างข้าไม่เคยเห็นมาก่อนด้วยซ้ำ” อวี้เหลียนตอบสหายอย่างตรงไปตรงมาคนอื่น ๆ

    Last Updated : 2025-03-10
  • มาเฟียสาวทะลุมิติมาเป็นเจ้าของร้านผ้าไหมอันดับหนึ่ง   ตอนที่ 10 เปิดกิจการ “ร้านหงส์ทอเมฆา”

    ตั้งแต่เริ่มฝึกฝนการต่อสู้จากการสั่งสอนของซูอัน หน่วยคุ้มกันรุ่นที่หนึ่งทั้งสิบคนล้วนมีความมุ่งมั่น เพื่อให้ตนเองกลายเป็นผู้พิทักษ์ของตระกูลจิน ที่มีทั้งความแข็งแกร่งด้านร่างกาย รวมไปถึงการต่อสู้ที่ใช้มือเปล่าหรือใช้อาวุธ และทุกเช้ามักจะมีซูอันมาร่วมฝึกด้วยเสมอหลังจากการฝึกร่างกายของตน ซูอันจะกลับมาพูดคุยกับบิดามารดาและพี่สาว เกี่ยวกับลายปักที่ครอบครัวของนาง ได้เริ่มลงมือปักลวดลายดอกไม้ต่าง ๆ เพื่อเพิ่มคุณค่าให้กับผ้าไหมแต่ละผืน แต่ยังคงเป็นซูอันที่มีตัวอย่างของลายปัก ซึ่งมีความแตกต่างมาให้ครอบครัวได้ทำ ทั้งพัดที่สตรีชอบถือติดตัวหรือจะเป็นผ้าเช็ดหน้า ถุงใส่เครื่องหอม ฉากกั้นขนาดกลางไปถึงขนาดใหญ่ไม่เพียงแค่คนในครอบครัวของซูอันที่ทำงานปักผ้า ลูกจ้างของนางจากหมู่บ้านซานอี๋ทั้งสี่คน ก็ได้มาเรียนรู้และปักตามลายที่ซูอันกำหนด ด้านผ้าไหมที่นางสั่งกับชาวบ้านไว้ จะมีหัวหน้าหมู่บ้านอย่างเลี่ยงหยาง นำใส่หีบอย่างดีมาส่งให้นางถึงจวนเมื่อครบหนึ่งเดือนยิ่งใกล้ถึงวันเปิดร้านผ้าของครอบครัว งานปักผ้าและตัดเย็บเป็นชิ้น ๆ ยิ่งต้องระมัดระวังอย่างมาก ซูอันสังเกตเห็นว่าชุดที่นางกับทุกคนใส่ประจำนั้น สีของม

    Last Updated : 2025-03-10
  • มาเฟียสาวทะลุมิติมาเป็นเจ้าของร้านผ้าไหมอันดับหนึ่ง   ตอนที่ 11 ตอนที่ 11 สองสหายต้องใจสตรี

    ภายในห้องรับรองด้านบนร้านค้าผ้าไหม ยามนี้ซูอันและแขกผู้เป็นลูกค้ากระเป๋าหนัก เริ่มพูดคุยเกี่ยวกับการซื้อขายผ้าไหม รวมถึงผ้าปักลวดลายต่าง ๆ ที่ร้านตระกูลจินได้ทำออกมาวางขายวั่นจิ่นต้านร้อนใจเกรงว่าตนจะไม่ได้สินค้าที่อยากได้“เอ่อ คุณหนูเล็กท่านมีข้อเสนออันใด เกี่ยวกับผ้าที่วางขายในร้านของท่านบ้าง ช่วยบอกให้ข้าทราบได้หรือไม่”ซูอันเห็นอาการกระตือรือร้นของลูกค้าตรงหน้า จึงยิ้มบาง ๆ ตอบกลับไปด้วยเหตุผลประกอบการซื้อขาย “ข้อเสนอของข้ามิได้ซับซ้อนแต่อย่างใดเจ้าค่ะ ขอเพียงท่านลุงมีความจริงใจที่จะทำการค้าร่วมกัน เรื่องอื่นย่อมพูดคุยกันได้อยู่แล้วเจ้าค่ะ”“ไอหยา คุณหนูเล็กท่านอย่าเอาข้าไปเปรียบเทียบกับพ่อค้าคนอื่นเลยนะ ตระกูลวั่นของข้าทำการค้าด้วยความซื่อสัตย์ หากข้าเป็นคนคดโกงเห็นแก่ตัวแล้วละก็ คงทำการค้าในเมืองหลวงมายาวนานมิได้แน่” วั่นจิ่นต้านพูดออกมาด้วยท่าทางจริงจัง เพราะตระกูลของเขานั้นยึดถือคำสอนของบรรพบุรุษ ที่ให้ทำการค้าอย่างตรงไปตรงมา“ขอบคุณท่านลุงที่แสดงความจริงใจเจ้าค่ะ เช่นนั้นไม่ทราบว่าท่านลุงต้องการผ้าไหมจำนวนเท่าใดหรือเจ้าคะ พวกเราจะได้ทำใบสั่งซื้อสินค้า และลงชื่อไว้เป็นหลักฐา

    Last Updated : 2025-03-10
  • มาเฟียสาวทะลุมิติมาเป็นเจ้าของร้านผ้าไหมอันดับหนึ่ง   ตอนที่ 1 แค่เก่งเกินผู้ชายถึงกับถูกสั่งเก็บ

    เสียงฝนกระหน่ำลงมาเป็นจังหวะสม่ำเสมอ ท่ามกลางถนนที่มืดมิดและเปียกชื้น รถคันหรูแล่นไปด้วยความเร็ว ภายใต้แสงไฟจากไฟฟ้าริมสองข้างถนน เสียงดังกระหึ่มของเครื่องยนต์ ไม่ได้รบกวนสมาธิของหญิงสาวที่นั่งอยู่ด้านคนขับ แม้แต่เสียงฝนที่กระทบกระจก ก็ยังไม่สามารถกลบเสียงของรถยนต์หลายคัน ที่กำลังพยายามเร่งความเร็วเพื่อกำจัดเธอในครั้งนี้หลิวเสวี่ยหงจับพวงมาลัยแน่น ดวงตาคู่เรียวทั้งมองถนนและมองรถที่ติดตามมา ตอนนี้จิตใจของเธอเต็มไปด้วยความเครียด จากการถูกศัตรูคู่แข่งในวงการมาเฟียไล่ล่า แม้เธอจะรู้อยู่แล้วว่าการไล่ล่านี้ย่อมเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา มิใช่ว่าเธอไม่เคยเจอแต่ครั้งนี้เป็นเพราะลูกน้องของเธอ ถูกศัตรูขวางทางเอาไว้จนตามมาไม่ทันเธอเห็นแสงไฟจากรถยนต์ของศัตรู ที่ตามมาในกระจกมองหลัง รถที่มาพร้อมกับความเร็วสูง ไม่ยอมปล่อยให้เธอหนีไปได้แม้แต่วินาทีเดียว“แค่ฉันมีความสามารถมากกว่าพวกแกถึงกับรับไม่ได้ อดทนอดกลั้นมาได้นานขนาดนี้คงวางแผนกับเครือข่ายอื่นล่ะสิ แต่คนอย่างหลิวเสวี่ยหงจะไม่ยอมให้ใครหน้าไหน มาทำลายทุกสิ่งที่ฉันสร้างขึ้นด้วยสองมือของฉันแน่!”เสียงพูดลอดไรฟันของหลิวเสวี่ยหงดังอยู่ในรถ และมีแค่เธอที่

    Last Updated : 2025-03-07

Latest chapter

  • มาเฟียสาวทะลุมิติมาเป็นเจ้าของร้านผ้าไหมอันดับหนึ่ง   ตอนที่ 11 ตอนที่ 11 สองสหายต้องใจสตรี

    ภายในห้องรับรองด้านบนร้านค้าผ้าไหม ยามนี้ซูอันและแขกผู้เป็นลูกค้ากระเป๋าหนัก เริ่มพูดคุยเกี่ยวกับการซื้อขายผ้าไหม รวมถึงผ้าปักลวดลายต่าง ๆ ที่ร้านตระกูลจินได้ทำออกมาวางขายวั่นจิ่นต้านร้อนใจเกรงว่าตนจะไม่ได้สินค้าที่อยากได้“เอ่อ คุณหนูเล็กท่านมีข้อเสนออันใด เกี่ยวกับผ้าที่วางขายในร้านของท่านบ้าง ช่วยบอกให้ข้าทราบได้หรือไม่”ซูอันเห็นอาการกระตือรือร้นของลูกค้าตรงหน้า จึงยิ้มบาง ๆ ตอบกลับไปด้วยเหตุผลประกอบการซื้อขาย “ข้อเสนอของข้ามิได้ซับซ้อนแต่อย่างใดเจ้าค่ะ ขอเพียงท่านลุงมีความจริงใจที่จะทำการค้าร่วมกัน เรื่องอื่นย่อมพูดคุยกันได้อยู่แล้วเจ้าค่ะ”“ไอหยา คุณหนูเล็กท่านอย่าเอาข้าไปเปรียบเทียบกับพ่อค้าคนอื่นเลยนะ ตระกูลวั่นของข้าทำการค้าด้วยความซื่อสัตย์ หากข้าเป็นคนคดโกงเห็นแก่ตัวแล้วละก็ คงทำการค้าในเมืองหลวงมายาวนานมิได้แน่” วั่นจิ่นต้านพูดออกมาด้วยท่าทางจริงจัง เพราะตระกูลของเขานั้นยึดถือคำสอนของบรรพบุรุษ ที่ให้ทำการค้าอย่างตรงไปตรงมา“ขอบคุณท่านลุงที่แสดงความจริงใจเจ้าค่ะ เช่นนั้นไม่ทราบว่าท่านลุงต้องการผ้าไหมจำนวนเท่าใดหรือเจ้าคะ พวกเราจะได้ทำใบสั่งซื้อสินค้า และลงชื่อไว้เป็นหลักฐา

  • มาเฟียสาวทะลุมิติมาเป็นเจ้าของร้านผ้าไหมอันดับหนึ่ง   ตอนที่ 10 เปิดกิจการ “ร้านหงส์ทอเมฆา”

    ตั้งแต่เริ่มฝึกฝนการต่อสู้จากการสั่งสอนของซูอัน หน่วยคุ้มกันรุ่นที่หนึ่งทั้งสิบคนล้วนมีความมุ่งมั่น เพื่อให้ตนเองกลายเป็นผู้พิทักษ์ของตระกูลจิน ที่มีทั้งความแข็งแกร่งด้านร่างกาย รวมไปถึงการต่อสู้ที่ใช้มือเปล่าหรือใช้อาวุธ และทุกเช้ามักจะมีซูอันมาร่วมฝึกด้วยเสมอหลังจากการฝึกร่างกายของตน ซูอันจะกลับมาพูดคุยกับบิดามารดาและพี่สาว เกี่ยวกับลายปักที่ครอบครัวของนาง ได้เริ่มลงมือปักลวดลายดอกไม้ต่าง ๆ เพื่อเพิ่มคุณค่าให้กับผ้าไหมแต่ละผืน แต่ยังคงเป็นซูอันที่มีตัวอย่างของลายปัก ซึ่งมีความแตกต่างมาให้ครอบครัวได้ทำ ทั้งพัดที่สตรีชอบถือติดตัวหรือจะเป็นผ้าเช็ดหน้า ถุงใส่เครื่องหอม ฉากกั้นขนาดกลางไปถึงขนาดใหญ่ไม่เพียงแค่คนในครอบครัวของซูอันที่ทำงานปักผ้า ลูกจ้างของนางจากหมู่บ้านซานอี๋ทั้งสี่คน ก็ได้มาเรียนรู้และปักตามลายที่ซูอันกำหนด ด้านผ้าไหมที่นางสั่งกับชาวบ้านไว้ จะมีหัวหน้าหมู่บ้านอย่างเลี่ยงหยาง นำใส่หีบอย่างดีมาส่งให้นางถึงจวนเมื่อครบหนึ่งเดือนยิ่งใกล้ถึงวันเปิดร้านผ้าของครอบครัว งานปักผ้าและตัดเย็บเป็นชิ้น ๆ ยิ่งต้องระมัดระวังอย่างมาก ซูอันสังเกตเห็นว่าชุดที่นางกับทุกคนใส่ประจำนั้น สีของม

  • มาเฟียสาวทะลุมิติมาเป็นเจ้าของร้านผ้าไหมอันดับหนึ่ง   ตอนที่ 9 จินซูอันฝึกฝนหน่วยคุ้มกันรุ่นที่หนึ่ง

    ภายหลังที่หัวหน้าหมู่บ้านกลับไปแล้ว ก็ถึงเวลาที่ซูอันจะได้พูดคุยและทำความเข้าใจกับว่าที่หน่วยคุ้มกัน ซึ่งพวกเขาจะต้องพักอยู่ที่จวนแห่งนี้ เพื่อรับการฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง จนกว่าจะผ่านหลักสูตรการฝึกที่นางกำหนดไว้ซูอันหันมาทางบุรุษทั้งสิบคนที่ยืนรออยู่เงียบ ๆ อย่างรู้มารยาท “เอาล่ะพี่ชายทั้งหลายถึงเวลาของพวกท่านแล้ว ตามข้าไปด้านหลังของจวน เนื่องจากสถานที่แห่งนั้นคือการเริ่มต้นเพื่อฝึกฝนร่างกาย ในการเป็นหน่วยคุ้มกันรุ่นที่หนึ่งของตระกูลจิน”“ขอรับคุณหนูเล็ก”ซูอันพาลูกน้องมือใหม่ไปยังด้านหลังจวน เพื่อพูดคุยทำความเข้าใจการทำหน้าที่ และค่าจ้างที่คนทั้งสิบจะได้รับ เมื่อเดินเข้ามาถึงด้านหลังจวนสิ่งที่ปรากฏตรงหน้า ทำเอากลุ่มของอวี้เหลียนต้องหยุดชะงัก อ้าปากค้างกับสิ่งที่เรียกว่าสนามฝึก“อะ อะ อวี้เหลียนเจ้าว่าพวกเรากำลังฝันอยู่หรือไม่ นี่ใช่ลานฝึกต่อสู้ที่คุณหนูเล็กพูดถึงงั้นรึ!” หยิ่งเจาเคยทำงานเป็นคนส่งผักมาก่อน เขาเคยเห็นในจวนของบุตรหลานคหบดี มักจะมีลานฝึกวิชาต่อสู้มาบ้างอึก “ข้าเองก็ตอบเจ้าไม่ได้เช่นกันหยิ่งเจา บางอย่างข้าไม่เคยเห็นมาก่อนด้วยซ้ำ” อวี้เหลียนตอบสหายอย่างตรงไปตรงมาคนอื่น ๆ

  • มาเฟียสาวทะลุมิติมาเป็นเจ้าของร้านผ้าไหมอันดับหนึ่ง   ตอนที่ 9 จินซูอันฝึกฝนหน่วยคุ้มกันรุ่นที่หนึ่ง

    ภายหลังที่หัวหน้าหมู่บ้านกลับไปแล้ว ก็ถึงเวลาที่ซูอันจะได้พูดคุยและทำความเข้าใจกับว่าที่หน่วยคุ้มกัน ซึ่งพวกเขาจะต้องพักอยู่ที่จวนแห่งนี้เพื่อรับการฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง จนกว่าจะผ่านหลักสูตรการฝึกที่นางกำหนดไว้ซูอันหันมาทางบุรุษทั้งสิบคนที่ยืนรออยู่เงียบ ๆ อย่างรู้มารยาท “เอาล่ะพี่ชายทั้งหลายถึงเวลาของพวกท่านแล้ว ตามข้าไปด้านหลังของจวน เนื่องจากสถานที่แห่งนั้นคือการเริ่มต้น เพื่อฝึกฝนร่างกายในการเป็นหน่วยคุ้มกันรุ่นที่หนึ่งของตระกูลจิน”“ขอรับคุณหนูเล็ก”ซูอันพาลูกน้องมือใหม่ไปยังด้านหลังจวน เพื่อพูดคุยทำความเข้าใจการทำหน้าที่ และค่าจ้างที่คนทั้งสิบจะได้รับ เมื่อเดินเข้ามาถึงด้านหลังจวนสิ่งที่ปรากฏตรงหน้า ทำเอากลุ่มของอวี้เหลียนต้องหยุดชะงัก อ้าปากค้างกับสิ่งที่เรียกว่าสนามฝึก“อะ อะ อวี้เหลียนเจ้าว่าพวกเรากำลังฝันอยู่หรือไม่ นี่ใช่ลานฝึกต่อสู้ที่คุณหนูเล็กพูดถึงงั้นรึ!” หยิ่งเจาเคยทำงานเป็นคนส่งผักมาก่อน เขาเคยเห็นในจวนของบุตรหลานคหบดี มักจะมีลานฝึกวิชาต่อสู้มาบ้างอึก “ข้าเองก็ตอบเจ้าไม่ได้เช่นกันหยิ่งเจา บางอย่างข้าไม่เคยเห็นมาก่อนด้วยซ้ำ” อวี้เหลียนตอบสหายอย่างตรงไปตรงมาคนอื่น ๆ ท

  • มาเฟียสาวทะลุมิติมาเป็นเจ้าของร้านผ้าไหมอันดับหนึ่ง   ตอนที่ 8 ลานฝึกที่ยอดเยี่ยมและคนจากหมู่บ้านซานอี๋

    ทางด้านมู่ถงที่ออกจากจวนตามหลังบุตรสาว ก็ได้ติดต่อนายช่างโจวซุ่นที่ชาวบ้านแนะนำกับเขา และพาไปดูร้านค้าพร้อมบอกรายละเอียด ที่ตนกับบุตรสาวต้องการให้นายช่างโจวปรับปรุง หรือเพิ่มเติมในส่วนที่ได้หารือกันเอาไว้ ซึ่งนายช่างโจวพอจะเห็นภาพตามที่มู่ถงได้บอกเล่าให้ฟัง เนื่องจากนายช่างโจวเองก็มีประสบการณ์สร้างร้านค้าผ้ามาไม่น้อยเมื่อพูดคุยและทำสัญญาการปรับปรุงร้าน นายช่างโจวขอเวลาสิบห้าวันเท่านั้น ที่เขาใช้เวลาไม่นานเป็นเพราะมีลูกน้องจำนวนมาก แต่ละคนยังมีฝีมือไม่ด้อยไปกว่ากันซูอันกับเยี่ยนหลิงกลับมาถึงจวน ก็ไม่ลืมบอกเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในหมู่บ้านซานอี๋ให้บิดามารดาได้รับรู้ และยังบอกอีกว่าหมู่บ้านแห่งนี้ คือลูกจ้างที่ตกลงทำสัญญาทำงานกับพวกตน“ลูกสาวของพ่อทั้งสองคนช่างจำนรรจาเกลี้ยกล่อมผู้คนเสียจริง แต่เป็นเรื่องที่ดีถ้ามีคนงานที่ชำนาญด้านต่าง ๆ หลายคน อย่างน้อยสินค้าที่ต้องนำไปวางขาย ย่อมไม่เกิดปัญหาขาดแคลนจนถูกลูกค้าตำหนิได้”“ท่านพ่อวางใจเถิดเจ้าค่ะ ข้ากับอันเอ๋อร์ไม่มีทางปล่อยให้เกิดเรื่องเช่นนั้นแน่ เพราะคนในหมู่บ้านซานอี๋ทำงานเกี่ยวกับผ้าไหมได้งดงาม หรืออาจเทียบเท่ากับพวกเรายามที่อยู่เมือง

  • มาเฟียสาวทะลุมิติมาเป็นเจ้าของร้านผ้าไหมอันดับหนึ่ง   ตอนที่ 7 ได้ทั้งลูกจ้างและลูกน้อง

    ในที่สุดชาวบ้านต่างก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก แน่นอนว่าหัวหน้าหมู่บ้านอย่างเลี่ยงหยาง ย่อมเป็นตัวแทนของทุกคน ลุกขึ้นยืน โค้งคำนับให้ซูอันและกล่าวขอบคุณนาง“ขอบคุณคุณหนูที่ช่วยเหลือขอรับ หากไม่ได้ท่านช่วยไว้ วันนี้คงมีชาวบ้านที่ต้องเจ็บตัวจากตระกูลกู้อีกเป็นแน่ แต่ว่าท่านควรระวังคนตระกูลนี้เอาไว้นะขอรับ”ซูอันก้มศีรษะเล็กน้อยเป็นการรับน้ำใจ “พวกท่านเองก็อย่าถือเป็นบุญคุณเลยนะ การยอมก้มหัวให้คนเช่นนั้นมิใช่ทางออกที่ดีเสมอไป หากยอมให้พวกเขากดขี่ข่มเหง เหตุการณ์ก็จะเป็นอย่างวันนี้ที่พวกท่านต้องพบเจอตลอดไป ถ้าครั้งหน้ายังเกิดเรื่องเช่นนี้อีก ให้คนไปบอกกับข้าที่จวนตระกูลจินในเมืองผู่เถียนได้”เยี่ยนหลิงเองก็มีคำพูดบอกกับชาวบ้านบ้าง “ข้ากับน้องสาวเชื่อว่า หากท่านลุงท่านป้าไปตีกลองร้องทุกข์กับท่านเจ้าเมือง ย่อมได้รับความยุติธรรมอย่างแน่นอน”“พวกข้าจะจำไว้ขอรับ ว่าแต่พวกท่านมาที่หมู่บ้านของพวกเรา มีกิจธุระอันใดหรือไม่ขอรับ” เลี่ยงหยางถามสตรีสองคนที่เป็นพี่น้องกัน เพราะเขารู้สึกว่านี่มิใช่เรื่องบังเอิญเป็นซูอันที่ตอบไปสั้น ๆ “ใช่แล้ว พวกข้าสองคนมีธุระจริง ๆ”ชาวบ้านต่างพร้อมใจกันนิ่งเงียบ เพื่อร

  • มาเฟียสาวทะลุมิติมาเป็นเจ้าของร้านผ้าไหมอันดับหนึ่ง   ตอนที่ 6 ช่วยหมู่บ้านซานอี๋

    วันรุ่งขึ้นซูอันและเยี่ยนหลิงจ้างรถม้า ออกเดินทางไปยังหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่อยู่ใกล้เมืองผู่เถียน ซึ่งใช้เวลานั่งรถม้าไม่ถึงหนึ่งเค่อเท่านั้น การไปหมู่บ้านแห่งนี้เป็นเพราะซูอันต้องการหาคนงาน ที่มีฝีมือในการเลี้ยงไหม ย้อมสี และลูกจ้างที่มีฝีมือการตัดเย็บไปทำงานกับร้านค้าของครอบครัวของนางครั้นซูอันกับเยี่ยนหลิงมาถึงหมู่บ้านซานอี๋ ทั้งคู่สังเกตเห็นว่าบรรยากาศของหมู่บ้านดูเงียบงันผิดปกติ ชาวบ้านบางส่วนที่เป็นเด็กและสตรี ต่างพากันหลบอยู่ในบ้านของตน“อันเอ๋อร์ดูเหมือนว่าหมู่บ้านซานอี๋มีบางอย่างผิดปกติ พวกเขาดูหวาดกลัวอะไรบางอย่างจนไม่กล้าออกจากบ้านเช่นนี้” เยี่ยนหลิงเอ่ยขึ้นพร้อมขมวดคิ้วซูอันพยักหน้าและคิดเช่นเดียวกับพี่สาว ก่อนจะเร่งให้รถม้าไปยังลานกว้างกลางหมู่บ้าน ที่นั่นพวกนางพบกลุ่มชายฉกรรจ์นับสิบคน กำลังยืนล้อมกลุ่มชาวบ้านที่นั่งอยู่กับพื้นด้วยสีหน้าท่าทางหวาดกลัว และกำลังร้องขอความเมตตาจากชายฉกรรจ์กลุ่มนี้“คุณชายกู้ได้โปรดเถิดขอรับ อย่าทำกับผ้าไหมของพวกเราเช่นนี้ ทุกคนในหมู่บ้านล้วนทอผ้าสุดฝีมือ ทุกขั้นตอนล้วนทำด้วยตนเองทั้งสิ้น มันจะกลายเป็นผ้าไหมเก่า ๆ ที่ท่านนำมาได้อย่างไรกัน”“น

  • มาเฟียสาวทะลุมิติมาเป็นเจ้าของร้านผ้าไหมอันดับหนึ่ง   ตอนที่ 5 ลงหลักปักฐาน

    แค่ทองคำแท้หนึ่งแท่งขนาดเล็กที่ซูอันนำไปขาย ก็ทำเงินให้นางมากถึงสิบตำลึงทอง แต่นางไม่ลืมแลกเป็นตำลึงเงินกับเหรียญอีแปะเผื่อเอาไว้ ยามหยิบใช้จะได้สะดวก ก่อนออกเดินทางไปยังเมืองผู่เถียน เมืองที่ขึ้นชื่อเรื่องการทอผ้าและผ้าปักอันงดงาม ซูอันไม่ลืมพาครอบครัวไปซื้อเสื้อผ้าชุดใหม่ ที่ราคาไม่แพงเกินไปมาสวมใส่ชั่วคราวระหว่างการเดินทางซูอันตระหนักได้ว่า เมื่อนางมาอยู่ในยุคโบราณเช่นนี้ เงินทองที่ใช้จ่ายย่อมมิใช่ที่ใช้ในยุคที่จากมา จึงให้จีจี้เปลี่ยนทองคำแท่งทั้งหมด ให้กลายเป็นตำลึงทอง ตำลึงเงินและเหรียญอีแปะไว้ ทำให้ง่ายต่อการหยิบมาใช้สอยได้ทุกเวลาครอบครัวตระกูลจินจ้างรถม้ารับจ้าง ให้ไปส่งพวกเขาที่เมืองผู่เถียน ระหว่างเดินทางซูอันกับเยี่ยนหลิงนั่งมองทิวทัศน์ผ่านหน้าต่างรถม้า การเดินทางไม่พบเจอปัญหาอันใดทุกอย่างราบรื่น จนผ่านมาสิบห้าวันในที่สุดซูอันกับครอบครัวก็มาถึงเมืองผู่เถียนเสียทีเมื่อผ่านประตูเข้าสู่เมืองความคึกคักของตลาดขนาดใหญ่ ที่ตั้งอยู่กลางเมืองก็ปรากฏแก่สายตา เสียงพ่อค้าแม่ค้าตะโกนเรียกลูกค้า กลิ่นอาหารหอมกรุ่นจากร้านแผงลอย และสีสันของผืนผ้าที่วางเรียงรายอยู่ในร้านค้าต่าง ๆ ทำให้

  • มาเฟียสาวทะลุมิติมาเป็นเจ้าของร้านผ้าไหมอันดับหนึ่ง   ตอนที่ 4 ครอบครัวเล็ก ๆ เป็นอิสระ

    หลังจากครอบครัวของซูอันได้รับหนังสือตัดขาดจากตระกูลหลิว ก็พาครอบครัวออกจากจวนทันที แต่ก่อนที่นางจะก้าวเท้าพ้นประตู ยังมิวายหันไปข่มขู่คนด้านหลังที่นั่งกองอยู่กับพื้นเช่นเดิม“หึ ข้าขอเตือนพวกท่านทุกคนเอาไว้ หลังจากนี้หากคิดส่งคนตามไปทำร้ายครอบครัวข้าละก็ ข้าจะกลับมาฆ่าล้างคนในตระกูลทุกคน ตระกูลหลิวที่น่าภาคภูมิใจของพวกท่าน จะหายไปจากเมืองถู่หลานตลอดไป ฮ่า ๆ ๆ”ทันทีที่ไร้ร่างของซูอัน หลิวฉางฮุ่ยรีบพาตนเองคลานเข้ามาหาบิดา คล้ายต้องการกดดันให้จัดการมู่ถงกับครอบครัว เนื่องจากยังมีใบสั่งซื้อของลูกค้าค้างอยู่หลายคน “ท่านพ่อขอรับ ท่านจะปล่อยพวกมันไปเช่นนี้ไม่ได้นะ หากไม่มีพวกมัน แล้วใบสั่งซื้อผ้าปักที่ได้รับมามากมาย ใครจะรับผิดชอบเล่าขอรับ หลายปีที่ผ่านมาล้วนเป็นครอบครัวของมู่ถง คอยทำงานตามคำสั่งพวกเราทั้งนั้นนะขอรับท่านพ่อ”หลิวเฟยที่นั่งเงียบอยู่นาน จึงเงยหน้าตะคอกกลับบุตรชายคนโต ด้วยต้องการระบายความโกรธเช่นกัน “แล้วเจ้าจะให้ข้าทำเยี่ยงไร! เจ้าไม่เห็นหรือว่านางหลานตัวดีนั่นทำอะไรกับพวกเรา ฮะ! ข้าถูกทำร้ายแต่ไม่มีใครเข้ามาปกป้องสักคน ถ้าเจ้าอยากจัดการพวกมันก็ลงมือเอง แต่อย่าพาข้ากับคนอื่นต

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status