"วอดก้า?ดื่มจากขวด? คุณกําลังพูดถึงเรื่องไร้สาระอะไร?" ลั่วกันหยุนถึงกับเปลือกตากระตุก"คุณชายหลีนี่คือพี่เขยของคุณหรือเปล่า? เขามีความแค้นอยากให้คุณตายใช่ไหมเนี่ย?"จางเฉิงเฟิงชี้ไปที่เย่เฟิงยิ้มเยาะและถาม"เรียกร้องความสนใจงั้นหรอ? ชิ!"เวินเสี่ยวเหมิงยิ้มเยาะ มองไปที่เย่เฟิงด้วยความดูถูก"ฉันแค่ถาม กล้าหรือไม่กล้า? ถ้าไม่กล้าก็ไปให้พ้น!"เย่เฟิงชี้ไปที่จางเฉิงเฟิง กล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาฝ่ายตรงข้ามผสมเหล้าขาวกับไวน์แดง นี่จงใจทำให้น้องภรรยาของเขาเมาเละชัดๆ ความคิดชั่วร้ายขนาดนี้?ถ้าเป็นเช่นนี้แล้ว เย่เฟิงก็ไม่จำเป็นต้องเกรงใจอะไรอีกต่อไปใครเล่นก็ตาย เป็นไปไม่ได้มั้ง!"เฮอะ!หลีหย่วนกล้าดื่มไหมล่ะ? ถ้าเขากล้า ฉันก็กล้า!"จางเฉิงเฟิงตบโต๊ะ กัดฟันพร้อมตะโกน"ตามนั้น!"เย่เฟิงพยักหน้าแล้วตบที่บ่าของหลีหย่วน:"มีเหล้าแบบนี้ไหม? สั่งให้คนเอามาขวดหนึ่ง!"หลี่หยวนยิ้มอย่างฝืนๆ มองไปที่เย่เฟิงครู่หนึ่งแล้วกัดฟันตอบ:"ได้!"เขามองตาเย่เฟิงและเห็นการยืนยันอย่างเต็มที่จากสายตาคู่นั้นคุณชายหลีเลือกที่จะเชื่อใจพี่เขย!หลังจากเข้ามาในห้องนี้ เขาก็ถูกลั่วกันหยุนและคนอื่นๆ กดดัน
หลังจากดื่มวอดก้าเข้าไปหนึ่งอึก จางเฉิงเฟิงก็อาเจียนเลือดออกมา!!ใบหน้าของเขาแดงก่ำเหมือนถ่าน, แสดงออกถึงความเจ็บปวดอย่างยิ่ง !เขายกมือจับไว้ที่คอของตัวเอง รู้สึกราวกับว่าคอและกระเพาะของเขาถูกมีดกรีดอั่ก!เขากระอักเลือดออกมาอีก สร้างความตกใจให้แก่ทุกคน!"กรี๊ด!"เวินเสี่ยวเหมิงเห็นภาพดังกล่าวก็ตะโกนออกมาด้วยความตกใจ.มู่ซินเฟยเองก็ตกใจจนใบหน้าขาวซีด ยกมือขึ้นปิดปากของเธอ.ลั่วกันหยุนและเจี่ยงเจิ้งรีบวิ่งไปช่วยจับจางเฉิงเฟิง แต่เขากลับดิ้นรนออกไปอย่างบ้าคลั่งต่อจากนั้น จางเฉิงเฟิงก็ยังคงอาเจียนเลือดออกมาด้วยความน่ากลัว"หลีหย่วน กูจะฆ่ามึง!"ลั่วกันหยุน ตะโกนด้วยความโกรธ ทันใดนั้นก็หยิบปืนออกมาและเล็งไปที่หลีหย่วนหลี่หยวนยิ้มเยาะ: "ยังเล่นไม่พอเหรอ? ถ้ากล้าก็ยิงมาเลย! ถ้าแกฆ่าฉันวันนี้ ก็ไม่มีใครในพวกแกที่จะได้ออกไปจากที่นี่!"เวลานี้จริงๆแล้ว หลีหย่วนเองก็รู้สึกประหลาดใจไม่น้อยไม่คาดคิดว่าวอดก้า 96 เปอร์เซ็นจะน่ากลัวขนาดนี้ด้วยเหตุนี้ เขาจึงเข้าใจว่าวิธีการที่เย่เฟิงแอบช่วยตัวเองเมื่อกี้ มันน่าเหลือเชื่อขนาดไหน เขายิ่งรู้สึกว่าพี่เขยของเขานั้นยิ่งลึกซึ้งหยั่งลึกไม่
วินาทีต่อมา ลูกสาวของผู้บัญชาการคนนี้ก็เดินไปตรงหน้าเย่เฟิง แล้วพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำว่า “นี่เป็นยาที่นายอยากให้พ่อฉันช่วยโฆษณาให้น่ะเหรอ?”“ไม่ใช่ ไม่มีอะไรแล้วล่ะ”เย่เฟิงส่ายหน้า แล้วยื่นมือออกไปอยากนำของกลับคืนมาจากมือมู่ซินเฟยท่าทีและอารมณ์ของมู่จ้านที่อยู่ในโทรศัพท์ รวมถึงท่าทีของมู่ซินเฟยที่พบเจอตนในวันนี้ ทำให้เขาตัดสินใจไม่คบค้าสมาคมกับตระกูลมู่อีกต่อไปแต่มู่ซินเฟยไหวพริบดีมาก เธอรีบนำขวดยาไว้ข้างหลังตัวเองทันทีการกระทำของเย่เฟิงทำให้ลูกสาวผู้บัญชาการคนนี้ไม่พอใจนัก เธอพูดด้วยสีหน้าเย็นชาว่า “นายทำอะไรน่ะ? คิดจะแย่งไปจากมือฉันหรือไง?”ระหว่างที่พูด เธอแค่นเสียงเย็นชาไปทีหนึ่ง “เอาอย่างนี้ นายเอาของให้ฉันเพิ่มอีกสักหน่อย เดี๋ยวฉันเอากลับไปให้พ่อฉันทดสอบดู ถ้าผลลัพธ์ดีจริง เดี๋ยวจะลองพิจารณาช่วยนายโฆษณาให้กับกองทหารให้”เย่เฟิงได้ยินดังนั้น ก็ส่งเสียง ‘เหอะๆ’ ออกมานิ่งๆ “ไม่ต้องแล้ว”“ไม่ต้องแล้ว?”มู่ซินเฟยตะลึงงัน คิดไม่ถึงว่าครั้งนี้เย่เฟิงจะปฏิเสธชั่ววินาทีนั้นทำเอาเธอไม่พอใจยิ่งกว่าเดิม “คิดว่าดีมากหรือไง? ไม่ต้องก็ช่าง อย่าหาว่าพวกฉันไม่ช่วยนายก็แล้วกัน!”ข
ลั่วกันหยุนและมู่ซินเฟยได้ยินก็หันไปมองพร้อมกัน สีหน้าเปลี่ยนไปในทันที“ใครเคยจับปืนของนายบ้าง?”น้ำเสียงของลั่วกันหยุนดุดันขึ้นมาเจี่ยงเจิ้งคิด แล้วพูดด้วยสีหน้าไม่แน่ชัดว่า “พี่เขยของหลีหย่วนนั่น! ผมชักปืนใส่เขา เขาก็เลยจับปืนผมไปทีหนึ่ง แต่ไม่นานก็ปล่อยแล้ว!ตอนนั้น ผมคิดว่าเขาตกใจ ไม่กล้ายั่วอารมณ์ผม!แต่พอดูตอนนี้แล้ว…”เมื่อพูดถึงตรงนี้ บนหน้าผากของเจี่ยงเจิ้งก็มีเหงื่อเย็นซิบออกมา!ดีนะที่ตอนนั้นเขาไม่ได้เหนี่ยวไกปืน!ไม่อย่างนั้นต้องระเบิดแน่ๆ มือข้างนี้คงได้พิการอย่างแน่นอน!ลั่วกันหยุนมองดูรอยนิ้วมือบนกระบอกปืน เปลือกตาอดไม่ได้กระตุกขึ้นมา “คราวหน้า ถ้าเห็นพี่เขยของหลีหย่วนนี่ อย่าทำอะไรบุ่มบ่ามเด็ดขาด ปล่อยเขาไป อย่าให้ตกเป็นขี้ปากของคนอื่นว่าเราไม่กล้าเล่นด้วย”เจี่ยงเจิ้งหยักหน้า “รู้แล้วครับ…คนแซ่เย่นั่นดูน่ากลัวมาก!”คืนวันนั้น…เขตรักษาความปลอดภัยหยุนเฉิง ที่พักของผู้บัญชาการมู่เมื่อมู่จ้านเห็นว่าบาดแผลถูกกรีดของตนเมื่อครู่นี้สมานเข้าด้วยกันอย่างรวดเร็ว บนใบหน้าของเขาพลันเผยสีหน้าประหลาดใจออกมาผลลัพธ์ของ ‘ยาธาตุทองตระกูลหลี’ ปริมาณครึ่งขวดที่มู่ซินเฟยนำ
“วิจัยออกมาแล้วยังไง ดูซิว่าถ้าขายไม่ออกขึ้นมา หล่อนจะทำหน้ายังไง!”น้าสะใภ้รองหลี่เยว่ผิงพูดเย้ยหยันเถ้าแก่หวงคนนี้เป็นตัวแทนจำหน่ายด้านผลิตภัณฑ์ยาสำหรับใช้ในทางการแพทย์ และทำงานกับตระกูลหลีมาหลายปีผลิตภัณฑ์ของบริษัทยาตระกูลหลีล้วนขายให้กับร้านยา และโรงพยาบาลต่างๆ ในพื้นที่รอบๆ ได้โดยผ่านการติดต่อหาช่องทางการค้าขายจากเถ้าแก่หวงทั้งนั้นหลี่เยว่ผิงอยากจะตัดช่องทางการจำหน่ายของหลีเอียนผ่านเถ้าแก่หวง ถือว่าโหดร้ายไม่น้อยแต่ทว่าเพิ่งพูดจบ ในสายตาของผู้อาวุโสหลีกลับเผยรังสีมึดมนออกมายิ่งกว่าเดิม“เหอะๆ…ฉันมีแผนที่ดีกว่า ขอแค่เถ้าแก่หวงยอมร่วมมือทำการแสดงด้วย รับรองว่าบริษัทยาไม่เพียงแต่ไม่สามารถใช้ประโยชน์จากยาสี่ตัวนี้ทำกำไรได้เท่านั้น แต่ยังจะขาดทุนมหาศาลด้วย!ฉันจะทำให้หลานสาวไม่รักดีของฉันคนนี้ล้มแล้วลุกไม่ขึ้นอีก!”“โอ๊ะ? คุณย่ามีแผนดีๆ อะไรเหรอคะ?”หลีถิงถามอย่างสงสัยผู้อาวุโสหลียิ้มชั่วร้ายทีหนึ่ง แล้วเล่าแผนการของตัวเอง “ง่ายมาก! รอให้เอียนเอ๋อร์ติดต่อเถ้าแกหวงแล้ว ก็ให้เถ้าแก่หวงตอบตกลงรับปากไปก่อนแบบนี้ หล่อนจะได้เริ่มทำการผลิตหึๆ…รอให้ผลิตยาออกมาได้แล้วเก็บเข้า
บริษัทยาตระกูลหลีตั้งใจตรงชานเมืองฝั่งตะวันตกของหยุนเฉิง ที่นั่นมีพื้นที่โรงงานผืนหนึ่ง ซึ่งก็คือโรงงานผลิตของบริษัทนั่นเองสองสามวันต่อจากนี้ หลีเอียนแทบจะพักอยู่ที่นี่ เฝ้าดูแลทุกกระบวนการการผลิตด้วยตัวเองวันนี้ ในที่สุดผลิตภัณฑ์ยาล็อตแรกก็ผลิตเสร็จแล้วแต่ทว่าหลีเอียนกลับรู้สึกกังวลเรื่องผลกำไร และขาดทุนเธอยืนอยู่ในโกดังเก็บของของโรงงาน เมื่อมองดูผลิตภัรฑ์ยาที่ตกลงมาจากเครื่องจักรสายการผลิตจำนวนมากแล้ว หลีเอียนพลันขมวดคิ้วแน่นเป็นปมเข้าด้วยกันจนถึงตอนนี้ ก็ยังไม่เห็นหัวเถ้าแก่หวงเลยหลีเอียนโทรศัพท์หาเขาวันนี้ อีกฝ่ายก็ไม่รับสายด้วย“ประธานหลี จะให้ผลิตต่อไหมครับ?”หัวหน้าโรงงานผลิตพูดขึ้นข้างๆ“ล็อตสองรอก่อนก็ได้ค่ะ”หลีเอียนตอบด้วยสีหน้าเคร่งขรึมจากนั้นก็หันไปมองเย่เฟิงที่อยู่ข้างๆ ด้วยสีหน้าไม่พอใจเล็กน้อยหลายวันมานี้ เย่เฟิงที่เป็น ‘ผู้ช่วยประธาน’ ในนามคนนี้ เวลาว่างจะอยู่ข้างกายหลีเอียนตลอด“คุณบอกเองว่าให้ผลิตเลย! ตอนนี้เถ้าแก่หวงยังไม่กลับมาเลย ไม่สามารถเข้าถึงช่องทางการจำหน่ายได้เลยด้วยซ้ำ ทีนี้จะทำยังไง?”หลีเอียนถามด้วยน้ำเสียงตำหนิเล็กน้อยเธอสัมผัสได้
“นี่หลานสาวคนโต ฉันแนะนำให้เธอเลิกความพยายามเลยดีกว่า แล้วแต่งงานกับคุณชายฉู่ดีๆ ซะ!”หลีเทียนกังพูดเหยียด“แล้วรวดคืนบริษัทให้ลุงรองของเธอดูแลต่อเถอะ อยู่กับเธอมันจะเจ๊งแล้วเนี่ย! จึๆ…”หลี่เยว่ผิงเหยียดหยามยิ่งกว่าหลีเอียนโมโหจนเลือดขึ้นหน้า เธอกัดริมฝีปากแน่นทันใดนั้น เย่เฟิงก็แค่นเสียงเย็นชา “ใครบอกพวกคุณว่ายาพวกนี้จะขายไม่ออก?”พูดจบ เขากดมือ แล้วพูดกับผู้จัดการระดับสูงสุดของบริษัทพวกนั้นว่า “ทุกคนอย่าเพิ่งรีบร้อนใจไป! ผมรับรองว่ายาพวกนี้จะขายออกไปได้ เรื่องออเดอร์มูลค่าร้อยล้านก็เป็นเรื่องในไม่ช้านี้ ถึงตอนนั้นการเงินส่วนที่ขาดหายไปของบริษัท ก็จะนำกลับมาได้ ไม่ใช่แค่นั้น แต่พวกคุณยังจะได้รับโบนัสและคอมมิชชั่นจำนวนมากด้วย!”เมื่อได้ยินดังนั้น สีหน้าของผู้จัดการระดับสูงสุดเหล่านั้นก็ยังทำหน้าเรียบเฉยหลีเทียนกังหัวเราะแห้ง พูดว่า “เย่เฟิง ถึงตอนนี้แล้วก็ยังจะโม้อีกเหรอ? นายกับหลีเอียนคงไม่ได้ยังรอเถ้าแก่หวงอยู่หรอกนะ? ฮ่าๆๆ…ฉันจะบอกให้นะ ความจริงตอนนี้เถ้าแก่หวงอยู่ในหยุนเฉิงนี่แหละ แต่แค่ไม่อยากสนใจพวกนายก็เท่านั้น! ดูสิว่านี่คือใคร?”พูดจบ เขาก็ปรบมือตามด้วยเงาร่างอ้
หงเม่าหมิงวิ่งเข้าไปในโกดัง ทำให้ฝูงชนตะลึงตกใจ ต่างก็มองคนคนนี้ด้วยสายตาแปลกประหลาด“คุณครับ หยุด! ที่นี่เป็นโกดังของโรงงานเรา คุณจะเข้ามาสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้นะครับ!”ขณะนี้ ยามรักษาความปลอดภัยของโรงงานวิ่งตามมาข้างหลัง แล้วพูดตะโกนต่อหงเม่าหมิงตัวแทนจำหน่ายรายใหญ่ประจำมณฑลจงโจว ประธานผู้จัดงานมหกรรมยาผู้นี้ วิ่งเข้าโกดัง เพื่อทำเวลาโชคดีที่เขามีบอดี้การ์ดคอยคุ้มกันอยู่เสมอ จึงช่วยเขากันคนอื่นๆ ได้เถ้าแก่หวงจำหงเม่าหมิงได้ เขาเดินเข้าไปทักทายอีกฝ่าย “คุณคือหงเม่าหมิง ประธานผู้จัดหงจริงเหรอครับ?”แต่ว่าหงเม่าหมิงกลับไม่สนใจเขาเลยแม้แต่น้อย เพียงแค่ผลักเขาออก แล้วมองไปยังผู้หญิงที่อยู่ในที่เกิดเหตุตัวแทนจำหน่ายน้อยๆ อย่างเถ้าแก่หวงไม่ถือว่าเป็นรายใหญ่มากในหยุนเฉิง ดังนั้นเถ้าแก่รายใหญ๋อย่างหงเม่าหมิงจะรู้จักเขาได้อย่างไร?เขาได้รับการติดต่อโดยซุนกว่างซาน หมอซุนบอกเขาให้มาพบประธานบริษัทยาตระกูลหลี บอกว่าอีกฝ่ายเป็นผู้หญิง แถมยังสวยมากด้วย“คุณคือประธานหลี หลีเอียนใช่ไหมครับ?”จากนั้น สายตาของหงเม่าหมิงก็จ้องไปที่หลีเอียน แล้วเดินเข้าไปถามอย่างให้เกียรติต้องยอมรับว่าเขาตาถ
กลางดึกคืนนั้น เสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นดังขึ้นในคฤหาสน์ส่วนตัวของตระกูลเฉา “ฮือ...ฮือๆ...”ในคฤหาสน์ส่วนตัวของตระกูลเฉา เสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นดังขึ้ ฟังดูน่าขนลุกเฉาเริ่นและเฉาเหนียนผู้เป็นพ่อยืนอยู่ในห้องด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความตกใจและสงสัย เบื้องหน้าของทั้งสองคือคุณนายเฉา ที่นั่งอยู่บนพื้นห้องในสภาพเสียสติ ร้องไห้ไม่หยุด แถมยังใช้กรรไกรตัดผ้าปูที่นอนจนขาดเป็นเส้นๆ “นี่มันอะไรกัน? ที่รัก คุณเป็นอะไรไป?”เฉาเหนียนเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่สะท้านไปด้วยความหวาดกลัว การที่คนข้างกายลุกขึ้นมากลางดึกและเริ่มแสดงพฤติกรรมแปลกประหลาดเช่นนี้ ย่อมทำให้ใครก็ต้องขนลุก ส่วนคุณนายเฉาไม่เพียงแต่แค่ร้องไห้เท่านั้น แต่ยังดูเสียสติด้วยเธอร้องไห้ไปด้วยถือกรรไกรไปด้วย พร้อมกับตัดผ้าปูเป็นเส้นๆแต่ไม่ว่าจะเรียกหรือถามอย่างไร คุณนายเฉาก็ไม่มีทีท่าว่าจะตอบ ไม่ว่าเฉาเหนียนและลูกชายเฉาเริ่นจะเรียกเธอยังไง เธอก็ไม่ตอบสนองคล้ายเป็นคนเสียสติ“พ่อ...หรือว่าแม่จะโดนของ?”เฉาเริ่นถามด้วยน้ำเสียงหวาดกลัวและเต็มไปด้วยความสับสน “เร็วเข้า! เรียกอาจารย์คงมาดูหน่อย!”เฉาเหนียนรีบร้อนสั่งลูกชาย
ถงซวี่เย่ยิ้มพลางถาม เฉาเริ่นหน้าตึงขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะพูดกับเย่เฟิงด้วยน้ำเสียงไม่เต็มใจนัก “ขอบใจ!” เย่เฟิงได้ยินแล้วก็ยิ้มเยาะเล็กน้อย พลางถามกลับ “ขอบคุณยังไงล่ะ?” เขาไม่ได้ติดเรื่องช่วยคนอื่น แต่ติดเรื่องช่วยเหลือคนอื่นแล้ว อีกฝ่ายยังแสดงท่าทีไม่รู้บุญคุณอีกดังนั้น เขาเองก็ไม่ไว้หน้าเฉาเริ่นเช่นกัน!เมื่อได้ยินดังนั้น เฉาเริ่นถึงกับชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนจะขมวดคิ้วถามกลับด้วยสีหน้าไม่พอใจ “แล้วนายอยากให้ขอบคุณยังไง? จะเอาเงินรึไง?” ในน้ำเสียงของเขาแฝงด้วยความเย้ยหยันอย่างเห็นได้ชัด!แต่เย่เฟิงกลับพยักหน้าตอบหน้าตาย “เอาสิ! ขอสัก 90 ล้านแล้วกัน”ได้ยินดังนั้น เฉาเริ่นเบิกตากว้าง มองเย่เฟิงด้วยสีหน้าเต็มไปด้วยความโกรธจัด ถงซวี่เย่เองก็อึ้งไปเหมือนกัน ไม่คิดว่าเย่เฟิงจะพูดเอาเงินตรงๆ แบบนี้ “นายนี่กล้าดีจริงๆ นะ ยังจะ 90 ล้านอีก? นี่นายจนจนคลั่งไปแล้วใช่ไหม? หรือว่าคุณหนูใหญ่หลีไม่ให้เงินใช้?” เฉาเริ่นพูดด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ย “ถ้าเกิดอุบัติเหตุในไซต์งานนี้ นายต้องจ่ายค่าชดเชยไปเท่าไหร่? ไหนจะค่าเสียหายจากการหยุดงาน และผลกระทบในแง่ลบต่อชื่อเสียงบริษัทอีก? บร
“ถ้าขุดเจออะไรสกปรกจริงๆ ฉันจะกินมันเข้าไปเลย!”อาจารย์คงพูดด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยม แสดงออกถึงความเชื่อมั่นในฝีมือของตัวเอง “เล่นใหญ่ขนาดนี้เชียว?”เย่เฟิงส่ายหัวพลางถอนหายใจ รถขุดเริ่มทำงานตามจุดที่เย่เฟิงชี้ไว้ขณะที่เย่เฟิงยืนดูอยู่ข้างๆ ด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง ถงซวี่เย่เองก็มีสีหน้าเคร่งเครียด ดวงตาจับจ้องไม่กะพริบส่วนเฉาเริ่นกับอาจารย์คงยืนกอดอกอยู่ไม่ไกลนัก ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มเยาะ ไม่กี่นาทีต่อมา ก็ขุดลึกลงไปได้สี่ถึงห้าเมตร แต่กลับพบเพียงก้อนหินรกๆ เท่านั้น“ตลกจริงๆ! ไอ้ที่นายบอกมันอยู่ไหนล่ะ? ไม่รู้รึไงว่าฉันมีชื่อเสียงขนาดไหนในวงการฮวงจุ้ย กล้ามาสงสัยในฝีมือฉันเนี่ยนะ? ไอ้หนุ่ม จ่ายค่าเสียหายมาเลย ฉันไม่เอาเยอะ สักห้าล้านพอ!”อาจารย์คงพูดด้วยความภูมิใจ “คุณเย่ ถ้าคุณไม่มีเงินจ่าย ก็ขอโทษอาจารย์คงซะ เดี๋ยวผมจะช่วยพูดให้ แล้วปล่อยให้เรื่องนี้จบๆ ไปอย่ากลับไปขอเงินคุณหลีเลยนะ แบบนั้นมันไม่ดี” เฉาเริ่นพูดพลางเย้ยหยัน “คุณชายเฉา จะขุดต่อไหมครับ?”คนงานของเขาเอียงศีรษะออกมาถาม“ขุดต่อไป!” เย่เฟิงพูดเสียงเรียบ ไม่สนใจคำพูดของอาจารย์คงและเฉาเริ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนท้ายที่เย่เฟิงพูดเชิงเย้ยหยันด้วยแก้วเหล้านั้น ทำให้เฉาเริ่นยิ่งรู้สึกไม่พอใจอย่างมาก “ผมเรียกพี่เย่มาช่วยดูฮวงจุ้ยหน่อยน่ะ” ถงซวี่เย่พูดด้วยรอยยิ้ม พอได้ยินเช่นนั้น เฉาเริ่นก็ขมวดคิ้วทันที “คุณชายถง เรื่องงานก่อสร้างนี่ปล่อยให้ตระกูลเฉาของเราจัดการเถอะ คุณไม่ต้องกังวลหรอก!”“ผมคอยดูสักหน่อยดีกว่า” ถงซวี่เย่ตอบ “คุณชายถง คุณไม่เชื่อใจผมแล้วเหรอ?”เฉาเริ่นพูดด้วยความไม่พอใจเล็กน้อย ขณะนั้นเอง ชายชราที่ดูมีลักษณะคล้ายคนมีวิชาในชุดกี่เพ้าเหลืองก็แค่นเสียงดังอย่างไม่พอใจ เฉาเริ่นแนะนำถงซวี่เย่ว่า “นี่คืออาจารย์คง ท่านเป็นอาจารย์ฮวงจุ้ยชื่อดังแห่งหยุนเฉิง ก่อนเริ่มงานก่อสร้างอะไรที่บ้านผมก็มักจะเชิญท่านอาจารย์คงมาดูให้เสมอ มีอาจารย์คงอยู่ตรงนี้แล้ว ไม่จำเป็นต้องเชิญใครที่ไม่ได้เรื่องมาดูอีกหรอกคุณชายถง คุณพาคุณเย่กลับไปเถอะ”พูดจบ เฉาเริ่นก็หันไปมองเย่เฟิงด้วยสายตาเหยียดหยามพร้อมโบกมือไล่ อาจารย์คงพยักหน้าเล็กน้อยก่อนพูดด้วยความหยิ่งยโส “ผมตรวจดูที่นี่แล้ว ฮวงจุ้ยดีมาก มีแสงแห่งโชคลาภปกคลุม สามารถเริ่มงานก่อสร้างอย่างสบายใจได้เลยพลังชั่ว
เมื่อได้ยินหลีเทียนกังพูดเช่นนี้ หลี่เยว่ผิงก็ฉายแววดีใจออกมาหลีถิงกลับเผยสีหน้าตกใจ “พ่อคะ ไม่…ไม่จริงหรอกใช่ไหมคะ? พ่อเองก็อยาก…”หลีเทียนกังขรึมหน้าลง แล้วจ้องหลีถิงเขม็ง “ถิงถิง แกอย่าพูดออกไปมั่วซั่วล่ะ! ถ้าย่าของแกตาย นั่นก็เพราะหลีเอียนกับไอ้หน้าขาวแซ่เย่! เข้าใจไหม?”หลีถิงตัวสะดุ้ง แล้วพยักหน้าด้วยความหวาดกลัว “เข้า…เข้าใจแล้วค่ะ!”วินาทีต่อมา หลีเทียนกังพลันสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วกดโทรหาเบอร์หนึ่งในฐานะที่เป็น ‘คุณชายรอง’ ของตระกูลหลี อำนาจของเขาในตระกูลย่อมมีคนสนิทคนหนึ่งอยู่แล้ว“หลีปา จัดการหมอหลี่ที่มาดูอาการผู้อาวุโสวันนี้ซะ! จัดการให้สะอาดล่ะ!”หลังจากวางสาย หลีเทียนกังแค่นเสียงเย็นชาไปทีหนึ่งก่อนจะกล่าวเสียงขรึมว่า “เรื่องนี้จะต้องหาแพทย์แผนจีนที่เก่งกาจคนหนึ่ง และต้องทำแบบเงียบๆ ไร้ร่องรอยด้วย!”หลี่เยว่ผิงกล่าวด้วยสายตาเป็นประกาย “จริงสิคะที่รัก ฉันได้ยินมาว่าหมอเทวดาจู้จากโม๋ตูคนนั้นมาที่หยุนเฉิงแล้ว ไม่กี่วันก่อนยังมารักษาที่คลินิกจู้คังด้วย หรือว่า…จะหาเขาดี?”คลินิกจู้คังที่หมอเทวดาจู้คนนี้ก่อตั้งขึ้นเป็นคลินิกลูกโซ่ ตอนนี้มีคลินิกย่อยอยู่ทั่วประเทศแล้ว
ส่วนสถานการณ์ของเจ้าสามและเจ้าสี่ไม่ชัดเจนนักผู้อาวุโสหลีหน้าเสียต่อหน้าหลีเอียนและเย่เฟิงมานักต่อนัก สุดท้ายยังต้องยอมจำนนอย่างน่าอับอายอีกเธอในตอนนี้ไม่ถูกกับครอบครัวลูกชายคนโตเลยแม้แต่นิด!ดังนั้นเธอย่อมต้องสนับสนุนคนที่ไม่ถูกกับอีกฝ่ายเช่นเดียวกันอยู่แล้วซึ่งคนคนนั้น ก็มีเพียงหลีเทียนกัง ลูกชายคนรองเท่านั้น…หลังจากที่กลับจากคฤหาสน์ตระกูลหลี ทันทีที่หลีเทียนกังขึ้นรถไป หลี่เยว่ผิวและหลีถิงที่รออยู่บนรถก่อนแล้วก็เอ่ยถามอย่างรอไม่ไหว“ที่รัก ผู้อาวุโสเป็นยังไงบ้าง? ใกล้จะไม่ไหวแล้วใช่ไหม?”ภรรยาคนนี้ทำหน้าตั้งตารอ“พ่อคะ พ่อต้องทำให้ย่าเขียนพินัยกรรมมอบหุ้นส่วนทั้งหมดให้พ่อก่อนที่ท่านจะตายนะคะ!”หลีถิงเองก็ทำหน้าโลภมากหลีเทียนกังแค่นเสียงเย็นชา แล้วโบกมืออย่างอารมณ์เสีย “คิดอะไรอยู่น่ะ? ผู้อาวุโสยังไม่ตายเร็วๆ นี้หรอก หมอบอกว่าแค่พักผ่อนดีๆ รักษาอาการป่วยให้ดี ก็ไม่มีอะไรต้องเป็นห่วง!”เมื่อได้ยินดังนั้น หลี่เยว่ผิงและหลีถิงก็เผยสีหน้าผิดหวังออกมาหลีเทียนกังเห็นดังนั้น ก็กล่าวด้วยน้ำเสียงไม่ดีว่า “แต่ผมขู่ผู้อาวุโสไป ให้ท่านรู้สึกว่าตัวเองเหลือเวลาอีกไม่มากแล้วแล
เมื่อเห็นท่าทางของลูกชายคนรอง ผู้อาวุโสหลีก็รู้สึกไม่ดี!ท่าทีของอีกฝ่าย ทำให้เธอรู้สึกเหมือนว่าตนใกล้จะตายแล้วอย่างไรอย่างนั้น"เป็นอะไรกันแน่? บอกมา!"ผู้อาวุโสหลีถามเสียงเข้ม สีหน้ายิ่งแดงก่ำกว่าเดิมพร้อมไอเป็นครั้งคราว"แม่ ไม่มีอะไรจริงๆ แม่พักผ่อนให้สบายเถอะ"หลีเทียนกังพยายามปลอบแต่ผู้อาวุโสหลียังจับตาดูลูกชายอยู่ครู่หนึ่งก่อนถอนหายใจ "เฮ้อ…ฉันเองก็อายุมากแล้ว ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นก็ไม่แปลก! เพียงแต่…ฉันไม่ยอม!"เธอพูดพลางตบโต๊ะด้วยความโกรธหลังจากใช้ชีวิตอย่างเด็ดเดี่ยวมาตลอด สุดท้ายเธอกลับพ่ายแพ้ให้กับหลานสาวตัวเอง จนถึงขั้นเสียบริษัทยาไปทั้งหมดความรู้สึกนี้ยากที่จะทำใจยอมรับได้ แม้จะเป็นวาระสุดท้ายก็ตาม!"แม่ครับ ผมจะช่วยกู้ศักดิ์ศรีกลับมาให้แม่เอง!"หลีเทียนกังกัดฟันและกล่าวด้วยน้ำเสียงเคียดแค้นครั้งนี้ไม่ใช่การแสร้งทำ!เมื่อคิดๆ ดูแล้ว ครอบครัวเขาหน้าด้านหน้าทนไปขอหลีเอียน แต่กลับถูกขับไล้ออกมาอย่างไร้เยื่อใย ในใจเขาเองก็รู้สึกอับอายและโกรธมากเช่นกัน"แม่ ถึงแม้เราจะเสียเปรียบเรื่องบริษัทยา แต่เราสามารถหาวิธีอื่นจัดการครอบครัวพี่ใหญ่ได้นี่ครับ!หลีหย่วนยังไงก็
“ราคาสูง? สูงแค่ไหน?”เย่เฟิงขมวดคิ้วถาม“ยกตัวอย่างเช่น ยาหนึ่งเม็ดจากตระกูลนี้ ราคาก็สูงถึงหลักสิบล้าน ส่วนทักษะวิชาการต่อสู้บางเล่มอาจทะลุไปถึงร้อยล้านเลย...”หลีหยวนเล่าความเป็นมาของตระกูลกู่นี้ให้เย่เฟิงฟังตระกูลกู่เป็นตระกูลที่เงียบสงบและไม่เผยตัวต่อสาธารณะ แต่ก็แข็งแกร่งมากพวกเขาไม่ทำธุรกิจข้างนอก แต่ก็ร่ำรวยมหาศาลลำพังแค่งานประมูลหนึ่งครั้ง ก็สามารถทำรายได้ถึงหลายพันหลายหมื่นล้านแล้วยิ่งไปกว่านั้น ตระกูลนี้ยังเต็มไปด้วยผู้เชี่ยวชาญฝีมือสูงที่สามารถรับงานต่างๆ ได้ แต่ค่าจ้างก็แพงมากเช่นกันแน่นอนว่าความสามารถของยอดฝีมือที่ส่งไปนั้น ก็เก่งกาจมากเช่นกันเฉินจิงเทียนที่ได้ชื่อว่าเป็นนักสู้อันดับหนึ่งในมณฑลเจียง ยังอาจไม่ใช่คู่ต่อสู้ของผู้เชี่ยวชาญบางคนในตระกูลนี้ด้วยซ้ำ เพียงแค่พวกเขาไม่เปิดเผยตัวเท่านั้นหลังจากที่หลีหย่วนพูดจบแล้ว เย่เฟิงก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วและรู้สึกหนักใจตระกูลกู่จะมีผู้เชี่ยวชาญหรือยอดฝีมืออะไรไม่เกี่ยวกับเขา สิ่งที่เขาต้องการคือของประมูลราคาสูงลิ่วที่หลีหย่วนพูดถึงตามที่หลีหย่วนกล่าว ราคาของหยกพลังวิญญาณนั่น เผลอๆ อาจสูงถึงร้อยล้านเลยก็ได้
ใช่แล้ว หลีเอียนรู้เรื่องจี้หยกรูปมังกรของเย่เฟิงตอนที่เย่เฟิงโดนรถของเธอชนแล้วกระเด็นไป ตอนนั้นเขากำจี้หยกชิ้นนั้นไว้แน่น หลีเอียนจึงจำมันได้ขึ้นใจอีกทั้งตอนที่เย่อินเสวียนหยิบภาพวาดออกมา หลีเอียนเองก็สงสัยอยู่ในใจ แต่ไม่ได้แสดงออกมาเมื่อได้ยินคำขู่ของหลีเอียน สีหน้าของเย่เฟิงก็เปลี่ยนไปทันที แววตาของเขาแฝงด้วยความเย็นชา “คุณกำลังขู่ผมอยู่เหรอ?”หลีเอียนที่เห็นสายตาเย็นชาของเย่เฟิง ก็หยุดชะงักไปเล็กน้อย ในใจเต็มไปด้วยความขุ่นเคืองและความไม่พอใจ เธอจ้องมองเขาอย่างน้อยใจ“ใช่ ฉันขู่คุณ แล้วจะทำไม? ยังจะกล้าขัดคำสั่งฉันไหม?”เย่เฟิงถอนหายใจเล็กน้อย รู้สึกปั่นป่วนในใจเมื่อเห็นท่าทางของเธอ สุดท้ายเขาก็ยอมจำนน“โอเคๆ ผมจะทำตามที่คุณบอก โอเคไหม คุณภรรยาผู้ยิ่งใหญ่ของผม...แต่คุณต้องช่วยผมเก็บเรื่องนี้เป็นความลับนะ”หลีเอียนจ้องเขาด้วยสายตาไม่พอใจแล้วพูดขึ้น “ก็ต้องดูพฤติกรรมของคุณแล้ว”“ผมว่าผมก็ทำตัวดีมาตลอดนะ”“แย่สุดๆ!”หลีเอียนกัดฟันและพูดออกมาด้วยใบหน้าที่เย็นชาทำให้เย่เฟิงได้แต่นั่งหน้าหมอง พร้อมคิดในใจว่า(ผู้หญิง เหอะๆ…เปลี่ยนอารมณ์ง่ายเหมือนเปลี่ยนหน้าหนังสือเลย!