"วอดก้า?ดื่มจากขวด? คุณกําลังพูดถึงเรื่องไร้สาระอะไร?" ลั่วกันหยุนถึงกับเปลือกตากระตุก"คุณชายหลีนี่คือพี่เขยของคุณหรือเปล่า? เขามีความแค้นอยากให้คุณตายใช่ไหมเนี่ย?"จางเฉิงเฟิงชี้ไปที่เย่เฟิงยิ้มเยาะและถาม"เรียกร้องความสนใจงั้นหรอ? ชิ!"เวินเสี่ยวเหมิงยิ้มเยาะ มองไปที่เย่เฟิงด้วยความดูถูก"ฉันแค่ถาม กล้าหรือไม่กล้า? ถ้าไม่กล้าก็ไปให้พ้น!"เย่เฟิงชี้ไปที่จางเฉิงเฟิง กล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาฝ่ายตรงข้ามผสมเหล้าขาวกับไวน์แดง นี่จงใจทำให้น้องภรรยาของเขาเมาเละชัดๆ ความคิดชั่วร้ายขนาดนี้?ถ้าเป็นเช่นนี้แล้ว เย่เฟิงก็ไม่จำเป็นต้องเกรงใจอะไรอีกต่อไปใครเล่นก็ตาย เป็นไปไม่ได้มั้ง!"เฮอะ!หลีหย่วนกล้าดื่มไหมล่ะ? ถ้าเขากล้า ฉันก็กล้า!"จางเฉิงเฟิงตบโต๊ะ กัดฟันพร้อมตะโกน"ตามนั้น!"เย่เฟิงพยักหน้าแล้วตบที่บ่าของหลีหย่วน:"มีเหล้าแบบนี้ไหม? สั่งให้คนเอามาขวดหนึ่ง!"หลี่หยวนยิ้มอย่างฝืนๆ มองไปที่เย่เฟิงครู่หนึ่งแล้วกัดฟันตอบ:"ได้!"เขามองตาเย่เฟิงและเห็นการยืนยันอย่างเต็มที่จากสายตาคู่นั้นคุณชายหลีเลือกที่จะเชื่อใจพี่เขย!หลังจากเข้ามาในห้องนี้ เขาก็ถูกลั่วกันหยุนและคนอื่นๆ กดดัน
หลังจากดื่มวอดก้าเข้าไปหนึ่งอึก จางเฉิงเฟิงก็อาเจียนเลือดออกมา!!ใบหน้าของเขาแดงก่ำเหมือนถ่าน, แสดงออกถึงความเจ็บปวดอย่างยิ่ง !เขายกมือจับไว้ที่คอของตัวเอง รู้สึกราวกับว่าคอและกระเพาะของเขาถูกมีดกรีดอั่ก!เขากระอักเลือดออกมาอีก สร้างความตกใจให้แก่ทุกคน!"กรี๊ด!"เวินเสี่ยวเหมิงเห็นภาพดังกล่าวก็ตะโกนออกมาด้วยความตกใจ.มู่ซินเฟยเองก็ตกใจจนใบหน้าขาวซีด ยกมือขึ้นปิดปากของเธอ.ลั่วกันหยุนและเจี่ยงเจิ้งรีบวิ่งไปช่วยจับจางเฉิงเฟิง แต่เขากลับดิ้นรนออกไปอย่างบ้าคลั่งต่อจากนั้น จางเฉิงเฟิงก็ยังคงอาเจียนเลือดออกมาด้วยความน่ากลัว"หลีหย่วน กูจะฆ่ามึง!"ลั่วกันหยุน ตะโกนด้วยความโกรธ ทันใดนั้นก็หยิบปืนออกมาและเล็งไปที่หลีหย่วนหลี่หยวนยิ้มเยาะ: "ยังเล่นไม่พอเหรอ? ถ้ากล้าก็ยิงมาเลย! ถ้าแกฆ่าฉันวันนี้ ก็ไม่มีใครในพวกแกที่จะได้ออกไปจากที่นี่!"เวลานี้จริงๆแล้ว หลีหย่วนเองก็รู้สึกประหลาดใจไม่น้อยไม่คาดคิดว่าวอดก้า 96 เปอร์เซ็นจะน่ากลัวขนาดนี้ด้วยเหตุนี้ เขาจึงเข้าใจว่าวิธีการที่เย่เฟิงแอบช่วยตัวเองเมื่อกี้ มันน่าเหลือเชื่อขนาดไหน เขายิ่งรู้สึกว่าพี่เขยของเขานั้นยิ่งลึกซึ้งหยั่งลึกไม่
วินาทีต่อมา ลูกสาวของผู้บัญชาการคนนี้ก็เดินไปตรงหน้าเย่เฟิง แล้วพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำว่า “นี่เป็นยาที่นายอยากให้พ่อฉันช่วยโฆษณาให้น่ะเหรอ?”“ไม่ใช่ ไม่มีอะไรแล้วล่ะ”เย่เฟิงส่ายหน้า แล้วยื่นมือออกไปอยากนำของกลับคืนมาจากมือมู่ซินเฟยท่าทีและอารมณ์ของมู่จ้านที่อยู่ในโทรศัพท์ รวมถึงท่าทีของมู่ซินเฟยที่พบเจอตนในวันนี้ ทำให้เขาตัดสินใจไม่คบค้าสมาคมกับตระกูลมู่อีกต่อไปแต่มู่ซินเฟยไหวพริบดีมาก เธอรีบนำขวดยาไว้ข้างหลังตัวเองทันทีการกระทำของเย่เฟิงทำให้ลูกสาวผู้บัญชาการคนนี้ไม่พอใจนัก เธอพูดด้วยสีหน้าเย็นชาว่า “นายทำอะไรน่ะ? คิดจะแย่งไปจากมือฉันหรือไง?”ระหว่างที่พูด เธอแค่นเสียงเย็นชาไปทีหนึ่ง “เอาอย่างนี้ นายเอาของให้ฉันเพิ่มอีกสักหน่อย เดี๋ยวฉันเอากลับไปให้พ่อฉันทดสอบดู ถ้าผลลัพธ์ดีจริง เดี๋ยวจะลองพิจารณาช่วยนายโฆษณาให้กับกองทหารให้”เย่เฟิงได้ยินดังนั้น ก็ส่งเสียง ‘เหอะๆ’ ออกมานิ่งๆ “ไม่ต้องแล้ว”“ไม่ต้องแล้ว?”มู่ซินเฟยตะลึงงัน คิดไม่ถึงว่าครั้งนี้เย่เฟิงจะปฏิเสธชั่ววินาทีนั้นทำเอาเธอไม่พอใจยิ่งกว่าเดิม “คิดว่าดีมากหรือไง? ไม่ต้องก็ช่าง อย่าหาว่าพวกฉันไม่ช่วยนายก็แล้วกัน!”ข
ลั่วกันหยุนและมู่ซินเฟยได้ยินก็หันไปมองพร้อมกัน สีหน้าเปลี่ยนไปในทันที“ใครเคยจับปืนของนายบ้าง?”น้ำเสียงของลั่วกันหยุนดุดันขึ้นมาเจี่ยงเจิ้งคิด แล้วพูดด้วยสีหน้าไม่แน่ชัดว่า “พี่เขยของหลีหย่วนนั่น! ผมชักปืนใส่เขา เขาก็เลยจับปืนผมไปทีหนึ่ง แต่ไม่นานก็ปล่อยแล้ว!ตอนนั้น ผมคิดว่าเขาตกใจ ไม่กล้ายั่วอารมณ์ผม!แต่พอดูตอนนี้แล้ว…”เมื่อพูดถึงตรงนี้ บนหน้าผากของเจี่ยงเจิ้งก็มีเหงื่อเย็นซิบออกมา!ดีนะที่ตอนนั้นเขาไม่ได้เหนี่ยวไกปืน!ไม่อย่างนั้นต้องระเบิดแน่ๆ มือข้างนี้คงได้พิการอย่างแน่นอน!ลั่วกันหยุนมองดูรอยนิ้วมือบนกระบอกปืน เปลือกตาอดไม่ได้กระตุกขึ้นมา “คราวหน้า ถ้าเห็นพี่เขยของหลีหย่วนนี่ อย่าทำอะไรบุ่มบ่ามเด็ดขาด ปล่อยเขาไป อย่าให้ตกเป็นขี้ปากของคนอื่นว่าเราไม่กล้าเล่นด้วย”เจี่ยงเจิ้งหยักหน้า “รู้แล้วครับ…คนแซ่เย่นั่นดูน่ากลัวมาก!”คืนวันนั้น…เขตรักษาความปลอดภัยหยุนเฉิง ที่พักของผู้บัญชาการมู่เมื่อมู่จ้านเห็นว่าบาดแผลถูกกรีดของตนเมื่อครู่นี้สมานเข้าด้วยกันอย่างรวดเร็ว บนใบหน้าของเขาพลันเผยสีหน้าประหลาดใจออกมาผลลัพธ์ของ ‘ยาธาตุทองตระกูลหลี’ ปริมาณครึ่งขวดที่มู่ซินเฟยนำ
“วิจัยออกมาแล้วยังไง ดูซิว่าถ้าขายไม่ออกขึ้นมา หล่อนจะทำหน้ายังไง!”น้าสะใภ้รองหลี่เยว่ผิงพูดเย้ยหยันเถ้าแก่หวงคนนี้เป็นตัวแทนจำหน่ายด้านผลิตภัณฑ์ยาสำหรับใช้ในทางการแพทย์ และทำงานกับตระกูลหลีมาหลายปีผลิตภัณฑ์ของบริษัทยาตระกูลหลีล้วนขายให้กับร้านยา และโรงพยาบาลต่างๆ ในพื้นที่รอบๆ ได้โดยผ่านการติดต่อหาช่องทางการค้าขายจากเถ้าแก่หวงทั้งนั้นหลี่เยว่ผิงอยากจะตัดช่องทางการจำหน่ายของหลีเอียนผ่านเถ้าแก่หวง ถือว่าโหดร้ายไม่น้อยแต่ทว่าเพิ่งพูดจบ ในสายตาของผู้อาวุโสหลีกลับเผยรังสีมึดมนออกมายิ่งกว่าเดิม“เหอะๆ…ฉันมีแผนที่ดีกว่า ขอแค่เถ้าแก่หวงยอมร่วมมือทำการแสดงด้วย รับรองว่าบริษัทยาไม่เพียงแต่ไม่สามารถใช้ประโยชน์จากยาสี่ตัวนี้ทำกำไรได้เท่านั้น แต่ยังจะขาดทุนมหาศาลด้วย!ฉันจะทำให้หลานสาวไม่รักดีของฉันคนนี้ล้มแล้วลุกไม่ขึ้นอีก!”“โอ๊ะ? คุณย่ามีแผนดีๆ อะไรเหรอคะ?”หลีถิงถามอย่างสงสัยผู้อาวุโสหลียิ้มชั่วร้ายทีหนึ่ง แล้วเล่าแผนการของตัวเอง “ง่ายมาก! รอให้เอียนเอ๋อร์ติดต่อเถ้าแกหวงแล้ว ก็ให้เถ้าแก่หวงตอบตกลงรับปากไปก่อนแบบนี้ หล่อนจะได้เริ่มทำการผลิตหึๆ…รอให้ผลิตยาออกมาได้แล้วเก็บเข้า
บริษัทยาตระกูลหลีตั้งใจตรงชานเมืองฝั่งตะวันตกของหยุนเฉิง ที่นั่นมีพื้นที่โรงงานผืนหนึ่ง ซึ่งก็คือโรงงานผลิตของบริษัทนั่นเองสองสามวันต่อจากนี้ หลีเอียนแทบจะพักอยู่ที่นี่ เฝ้าดูแลทุกกระบวนการการผลิตด้วยตัวเองวันนี้ ในที่สุดผลิตภัณฑ์ยาล็อตแรกก็ผลิตเสร็จแล้วแต่ทว่าหลีเอียนกลับรู้สึกกังวลเรื่องผลกำไร และขาดทุนเธอยืนอยู่ในโกดังเก็บของของโรงงาน เมื่อมองดูผลิตภัรฑ์ยาที่ตกลงมาจากเครื่องจักรสายการผลิตจำนวนมากแล้ว หลีเอียนพลันขมวดคิ้วแน่นเป็นปมเข้าด้วยกันจนถึงตอนนี้ ก็ยังไม่เห็นหัวเถ้าแก่หวงเลยหลีเอียนโทรศัพท์หาเขาวันนี้ อีกฝ่ายก็ไม่รับสายด้วย“ประธานหลี จะให้ผลิตต่อไหมครับ?”หัวหน้าโรงงานผลิตพูดขึ้นข้างๆ“ล็อตสองรอก่อนก็ได้ค่ะ”หลีเอียนตอบด้วยสีหน้าเคร่งขรึมจากนั้นก็หันไปมองเย่เฟิงที่อยู่ข้างๆ ด้วยสีหน้าไม่พอใจเล็กน้อยหลายวันมานี้ เย่เฟิงที่เป็น ‘ผู้ช่วยประธาน’ ในนามคนนี้ เวลาว่างจะอยู่ข้างกายหลีเอียนตลอด“คุณบอกเองว่าให้ผลิตเลย! ตอนนี้เถ้าแก่หวงยังไม่กลับมาเลย ไม่สามารถเข้าถึงช่องทางการจำหน่ายได้เลยด้วยซ้ำ ทีนี้จะทำยังไง?”หลีเอียนถามด้วยน้ำเสียงตำหนิเล็กน้อยเธอสัมผัสได้
“นี่หลานสาวคนโต ฉันแนะนำให้เธอเลิกความพยายามเลยดีกว่า แล้วแต่งงานกับคุณชายฉู่ดีๆ ซะ!”หลีเทียนกังพูดเหยียด“แล้วรวดคืนบริษัทให้ลุงรองของเธอดูแลต่อเถอะ อยู่กับเธอมันจะเจ๊งแล้วเนี่ย! จึๆ…”หลี่เยว่ผิงเหยียดหยามยิ่งกว่าหลีเอียนโมโหจนเลือดขึ้นหน้า เธอกัดริมฝีปากแน่นทันใดนั้น เย่เฟิงก็แค่นเสียงเย็นชา “ใครบอกพวกคุณว่ายาพวกนี้จะขายไม่ออก?”พูดจบ เขากดมือ แล้วพูดกับผู้จัดการระดับสูงสุดของบริษัทพวกนั้นว่า “ทุกคนอย่าเพิ่งรีบร้อนใจไป! ผมรับรองว่ายาพวกนี้จะขายออกไปได้ เรื่องออเดอร์มูลค่าร้อยล้านก็เป็นเรื่องในไม่ช้านี้ ถึงตอนนั้นการเงินส่วนที่ขาดหายไปของบริษัท ก็จะนำกลับมาได้ ไม่ใช่แค่นั้น แต่พวกคุณยังจะได้รับโบนัสและคอมมิชชั่นจำนวนมากด้วย!”เมื่อได้ยินดังนั้น สีหน้าของผู้จัดการระดับสูงสุดเหล่านั้นก็ยังทำหน้าเรียบเฉยหลีเทียนกังหัวเราะแห้ง พูดว่า “เย่เฟิง ถึงตอนนี้แล้วก็ยังจะโม้อีกเหรอ? นายกับหลีเอียนคงไม่ได้ยังรอเถ้าแก่หวงอยู่หรอกนะ? ฮ่าๆๆ…ฉันจะบอกให้นะ ความจริงตอนนี้เถ้าแก่หวงอยู่ในหยุนเฉิงนี่แหละ แต่แค่ไม่อยากสนใจพวกนายก็เท่านั้น! ดูสิว่านี่คือใคร?”พูดจบ เขาก็ปรบมือตามด้วยเงาร่างอ้
หงเม่าหมิงวิ่งเข้าไปในโกดัง ทำให้ฝูงชนตะลึงตกใจ ต่างก็มองคนคนนี้ด้วยสายตาแปลกประหลาด“คุณครับ หยุด! ที่นี่เป็นโกดังของโรงงานเรา คุณจะเข้ามาสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้นะครับ!”ขณะนี้ ยามรักษาความปลอดภัยของโรงงานวิ่งตามมาข้างหลัง แล้วพูดตะโกนต่อหงเม่าหมิงตัวแทนจำหน่ายรายใหญ่ประจำมณฑลจงโจว ประธานผู้จัดงานมหกรรมยาผู้นี้ วิ่งเข้าโกดัง เพื่อทำเวลาโชคดีที่เขามีบอดี้การ์ดคอยคุ้มกันอยู่เสมอ จึงช่วยเขากันคนอื่นๆ ได้เถ้าแก่หวงจำหงเม่าหมิงได้ เขาเดินเข้าไปทักทายอีกฝ่าย “คุณคือหงเม่าหมิง ประธานผู้จัดหงจริงเหรอครับ?”แต่ว่าหงเม่าหมิงกลับไม่สนใจเขาเลยแม้แต่น้อย เพียงแค่ผลักเขาออก แล้วมองไปยังผู้หญิงที่อยู่ในที่เกิดเหตุตัวแทนจำหน่ายน้อยๆ อย่างเถ้าแก่หวงไม่ถือว่าเป็นรายใหญ่มากในหยุนเฉิง ดังนั้นเถ้าแก่รายใหญ๋อย่างหงเม่าหมิงจะรู้จักเขาได้อย่างไร?เขาได้รับการติดต่อโดยซุนกว่างซาน หมอซุนบอกเขาให้มาพบประธานบริษัทยาตระกูลหลี บอกว่าอีกฝ่ายเป็นผู้หญิง แถมยังสวยมากด้วย“คุณคือประธานหลี หลีเอียนใช่ไหมครับ?”จากนั้น สายตาของหงเม่าหมิงก็จ้องไปที่หลีเอียน แล้วเดินเข้าไปถามอย่างให้เกียรติต้องยอมรับว่าเขาตาถ
“เอ่อ...”เย่เฟิงมองโทรศัพท์ที่ถูกวางสายไป ใบหน้าเต็มไปด้วยความมืดมนในเวลานั้นเอง เขารู้สึกได้ถึงสายตาคมกริบจากด้านข้างที่พุ่งตรงมาทางเขา!“ใครเหรอคะ? ที่รัก?”หลีเอียนยิ้มอย่างมีเสน่ห์ แต่รอยยิ้มนั้นกลับทำให้เย่เฟิงรู้สึกใจหวิว“แค่กๆ... เพื่อนคนหนึ่งน่ะ”เย่เฟิงตอบด้วยความรู้สึกผิดเล็กน้อย“เพื่อน? เพื่อนผู้หญิงใช่ไหม?”หลีเอียนถามพลางหัวเราะเบาๆ มือเล็กๆ ของเธอคว้าหูของเย่เฟิงไว้แล้ว“ใช่! เอ่อ ไม่! ไม่ใช่! เป็นเพื่อนผู้หญิง! แค่เพื่อนธรรมดา!”เย่เฟิงยิ้มแหยๆ ตอบ“เหรอ? เพื่อนธรรมดา?”หลีเอียนหรี่ตามองอย่างสงสัย“ใช่ ก็แค่เพื่อนร่วมชั้นเก่า” เย่เฟิงรีบอธิบายหลีเอียนส่งเสียงฮึเบาๆ “เพื่อนร่วมชั้นเก่า หรือแฟนเก่า?”“เกี่ยวอะไรล่ะ! ถ้าเป็นแฟนเก่าจริงๆ ผมจะกล้ารับโทรศัพท์ต่อหน้าคุณไหม? คุณว่าไหม?”เย่เฟิงเหงื่อแตกพลั่กเมื่อได้ยินเช่นนั้น หลีเอียนจ้องเย่เฟิง “ใครจะไปรู้ล่ะ? เผื่อคุณไม่แคร์ฉันไง ก็เลยไม่กลัวว่าฉันจะรู้”เย่เฟิงได้ยินดังนั้น ถึงกับหน้าตาเศร้าสลด “ที่รัก! ผมแคร์คุณไหม คุณรู้สึกไม่ได้จริงๆ เหรอ? ถ้าคุณพูดแบบนี้ ผมคงเสียใจมากเลยนะ!”บอสสาวสวยส่งเสียง “อื
“ไอ้คนแก่บ้า! ฉันอยากจะตบเธอสักทีจริง ๆ!”สวีเพ่ยเพ่ยโกรธจนหน้าแดงและพูดด้วยเสียงโมโห“เพ่ยเพ่ย คุณพูดอะไรน่ะ? นั่นแม่ของเรา…”หลีเทียนหยางขมวดคิ้วเมื่อได้ยินคำพูดของภรรยา“นั่นแม่ของคุณ ไม่ใช่แม่ของเรา! ฉันไม่ยอมรับผู้หญิงคนนี้เป็นแม่สามี! ฉันโกรธจนแทบคลั่งแล้ว!”สวีเพ่ยเพ่ยพูดด้วยฟันที่ขบแน่นหลีเทียนหยางหดคอด้วยความเกรงใจ แสดงให้เห็นด้านที่กลัวภรรยาที่สำคัญคือเขารู้สึกผิดจนไม่รู้ว่าจะช่วยพูดแทนผู้อาวุโสหลีได้อย่างไรครั้งนี้แม่ของเขาทำเกินไปจริงๆ จนถึงขั้นเรียกได้ว่าต่ำช้า"แม่ ใจเย็นๆ เถอะ! ตระกูลหลีถ้าขาดบ้านเราไป นั่นก็คือความสูญเสียของพวกเขาเอง"หลีหย่วนเองก็ได้แต่ยิ้มขื่นพยายามปลอบใจเย่เฟิงที่นั่งขับรถอยู่ด้านหน้าเอ่ยขึ้นมาบ้าง "แม่ ครั้งนี้เป็นความผิดพลาดของผมเอง ผมไม่คาดคิดว่าผู้อาวุโสจะทำแบบนี้! ครั้งหน้า! ถ้ามีโอกาส ผมสัญญาว่าจะไม่ปล่อยให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีก!"ตอนท้ายเสียงของเย่เฟิงแฝงไว้ด้วยความเย็นเยียบหากรู้ล่วงหน้าว่าจะเป็นเช่นนี้ เขาคงไม่ปล่อยให้จู้ชิวหนานมีโอกาสเปิดเผยวิธีแก้ไขแน่นอนต้องจัดการให้เด็ดขาด บีบให้ผู้อาวุโสหลีคายทุกอย่างที่เก็บไว้ ไม่
คำตอบของผู้อาวุโสหลี ทำให้เย่เฟิงและครอบครัวของหลีเอียนชะงักไป“แม่ ทำไมท่านถึงทำแบบนี้? อยู่ ๆ ทำไมถึงกลับคำพูด?”“เอาชีวิตแม่อะไรกัน พวกเราแค่อยากกลับมาเป็นส่วนหนึ่งของตระกูล และขอสิทธิ์ที่เป็นของเราคืนเท่านั้นเอง”“ถ้าไม่ใช่เสี่ยวเย่ ท่านคงถูกครอบครัวเจ้ารองวางแผนฆ่าไปแล้ว! ตอนนี้พวกเรามีข้อเรียกร้องเล็กน้อย แต่ท่านกลับปฏิเสธพวกเรา?”สวีเพ่ยเพ่ยพูดด้วยน้ำเสียงเดือดดาลเนื่องจากพวกเธอถูกขับออกจากตระกูลหลี หลีเทียนหยางและสวีเพ่ยเพ่ย จึงถูกถอดจากตำแหน่งในบริษัทตระกูลหลี และต้องใช้ชีวิตอยู่บ้านโดยไม่มีอะไรทำสำหรับพวกเขา การเรียกหุ้นคืนและกลับไปทำงานในบริษัทไม่ใช่แค่เรื่องเงิน แต่ยังเป็นเรื่องของการมีสิ่งให้ทำในชีวิตด้วยทั้งสองไม่ขาดแคลนเงิน แต่อายุพวกเขาเยอะแล้ว ว่างอยู่อย่างนี้จะเป็นบ้าเอาได้“หึ! สิทธิ์ของพวกเธอ? อะไรคือสิทธิ์ของพวกเธอ?”“ออกไป! พวกเธอไม่ใช่คนของตระกูลหลีอีกต่อไปแล้ว สักบาทของตระกูลหลีก็ไม่มีสิทธิ์เป็นของพวกเธอ!”“พวกเธอมีบริษัทยาของตัวเองไม่ใช่เหรอ? ฮึ!”ผู้อาวุโสหลีพูดด้วยเสียงเย็นชาและหัวเราะเยาะคำพูดนี้ทำให้หลีเอียนและครอบครัวรู้สึกโมโหอย่างมาก“คุ
“ท่านผู้บัญชาการเหอ ขอบคุณครับ!”เย่เฟิงกล่าวพร้อมยื่นมือไปจับมือกับท่านผู้บัญชาการเหอท่านผู้บัญชาการเหอ จับมือกับเขา ก่อนจะชี้ไปที่เย่เฟิงและพูดว่า “นายเองก็ไม่ใช่คนดีเท่าไหร่! ฮึ!”ทุกคนที่เห็นเหตุการณ์ต่างรู้ดีว่า จู้ชิวหนานและศิษย์ ต้องถูกเย่เฟิงเล่นงานบางอย่างแน่นอนการที่เย่เฟิงกล้าทำเรื่องแบบนี้ต่อหน้าท่านผู้บัญชาการเหอ ถือว่าน่าทึ่งและไม่เกรงกลัวใครเลย“ผมติดหนี้บุญคุณท่าน ถ้าท่านต้องการความช่วยเหลือจากผมในอนาคต บอกมาได้เลยครับ”เย่เฟิงยิ้มเจื่อนเมื่อได้ยินคำพูดนี้ ท่านผู้บัญชาการเหอ ก็หัวเราะออกมา “นี่นายพูดเองนะ!”…คืนนั้น เวลาเกือบสี่ทุ่มในห้องของผู้อาวุโสหลี มีทั้งหลีเทียนหยาง สวีเพ่ยเพ่ย เย่เฟิง หลีเอียน และหลีหย่วน รวมตัวกันอยู่ผู้อาวุโสหลีนั่งอยู่ที่เก้าอี้ เธอยกถ้วยชาขึ้นมาเพื่อดื่มแต่เย่เฟิงรีบยื่นมือไปหยุด “ผู้อาวุโส อย่าใช้ถ้วยนี้อีกเลยครับ”เมื่อได้ยินเช่นนั้น ผู้อาวุโสหลีชะงักเล็กน้อย ก่อนจะเข้าใจความหมายเพล้ง!เธอโยนถ้วยชาลงพื้นด้วยความโกรธและแค่นเสียงเย็นชาเย่เฟิงยิ้มเล็กน้อยก่อนพูดขึ้น “ผู้อาวุโส ตอนนี้ความจริงปรากฏแล้ว ถ้าท่านไม่อยากตา
"ฮ่า ๆ ตอนนี้ทุกคนได้ยินความจริงแล้วใช่ไหม?"เย่เฟิงหัวเราะเยาะ พลางมองไปรอบ ๆ ห้องทุกคนในห้องมองเย่เฟิงด้วยความหวาดหวั่น พร้อมกับแอบมองไปที่จู้ชิวหนานและศิษย์ของเขา ซึ่งนอนบิดตัวอยู่บนพื้นด้วยความเจ็บปวดนี่ถือว่าเป็นการซักถามโดยการทรมานต่อหน้าท่านผู้บัญชาการเหอหรือเปล่า?บางคนแอบคิดว่าเย่เฟิงช่างกล้าหาญเกินไปหลีเทียนกังตัวสั่นด้วยความโกรธ ก่อนจะชี้นิ้วไปที่เย่เฟิงและตะโกน "ท่านผู้บัญชาการเหอ คำพูดของจู้ชิวหนานและศิษย์ของเขาเชื่อไม่ได้! นี่มันชัดเจนว่าเย่เฟิงทรมานพวกเขาให้พูด!"ท่านผู้บัญชาการเหอยิ้มเยาะและพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา "ฉันไม่เห็นว่าเย่เฟิงจะทำอะไรพวกเขานะ เขาไม่ได้แตะตัวพวกเขาเลยสักนิด!พวกคุณเองก็พูดไว้แล้ว ทุกเรื่องต้องมีหลักฐานใช่ไหม?"“แก…ฉัน…”คำตอบนี้ทำให้หลีเทียนกังพูดไม่ออกหลี่เยว่ผิงและหลีถิงต่างก็ดูโกรธแค้น แต่ก็เถียงอะไรไม่ได้ใช่แล้ว ไม่มีใครเห็นเย่เฟิงแตะต้องจู้ชิวหนานและศิษย์ของเขาเลยแม้จะชัดเจน แต่กลับไม่มีหลักฐานวิธีการของเย่เฟิงมันเหนือธรรมชาติเกินไป!เย่เฟิงยิ้มเยาะ ก่อนจะหันมาทางหลีเทียนกังและครอบครัว "พวกคุณไม่มีอะไรจะพูดอีกเหรอ? ฉันไม่
เย่เฟิงเดินเข้าไปตบไหล่ครอบครัวหลีเทียนกัง แล้วพูดจาแฝงไว้ด้วยความหมายลึกซึ้ง“นาย... นายทำอะไร? อย่ามาแตะตัวฉันนะ!”หลีถิงตัวสั่นอย่างเห็นได้ชัด เมื่อเห็นรอยยิ้มของเย่เฟิงที่เต็มไปด้วยความเยือกเย็น เธอรู้สึกขนลุกไปทั้งตัวและตะโกนเสียงแหลมเย่เฟิงแค่นเสียงเย็นชา ก่อนจะหันไปมองจู้ชิวหนานและศิษย์หนุ่ม“พูดมา!”เย่เฟิงพูดเพียงสองคำสั้น ๆ แต่เต็มไปด้วยความเยือกเย็นและกดดัน“อ๊ากก! ฉันพูด... ฉันจะพูด!”“ฉันพูดทุกอย่าง! หลีเทียนกังมาหาฉัน และบอกให้ฉันช่วยทำลายชีวิตของผู้อาวุโสหลี โดยที่ไม่มีใครรู้...”“พวกเขาจ่ายเงินฉันมาพันล้าน และเพราะฉันเคยโกรธแค้นคุณเย่มาก่อน ฉันเลยตกลง!”“คุณเย่... โปรดไว้ชีวิตฉัน... ขอร้องล่ะ!”จู้ชิวหนานพูดด้วยใบหน้าเหยเกพลางกลิ้งไปมาบนพื้นด้วยความเจ็บปวดศิษย์หนุ่มของเขาก็พูดขึ้นด้วยเสียงแหบพร่า “ใช่... ใช่! ในสูตรยาที่อาจารย์ฉันเตรียมให้ มีเนื้อห่านแห้ง! การผสมเนื้อห่านกับไข่ไก่ จะทำให้พลังชีวิตของคนลดลงอย่างรุนแรง...หลี่เยว่ผิงเป็นคนเตรียมซุปไข่ให้ผู้อาวุโสหลีในช่วงนั้น...นั่นแหละคือสาเหตุที่ทำให้พลังชีวิตของเธอถูกทำลายจนร่างกายล้มเหลว!”“คุณเย่...
เมื่อเห็นจู้ชิวหนานและศิษย์ปรากฏตัว เย่เฟิงก็ถอนหายใจอย่างโล่งอกเล็กน้อย“หมอเทวดาจู้ อธิบายสิว่าพวกเขาจ่ายเงินจ้างคุณยังไงในการวางแผนทำร้ายผู้อาวุโสหลี”เย่เฟิงพูดพลางชี้ไปที่ครอบครัวหลีเทียนกังด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งสีหน้าของหลีเทียนกังและครอบครัวเปลี่ยนไปทันทีหัวใจเหมือนตกลงสู่หุบเหวหมอเทวดาจู้ยังมีชีวิตอยู่จริง ๆ!พวกเขาไม่รอดแน่!แต่แล้ว…“อะไรนะ? จ้างฉันวางแผนทำร้ายผู้อาวุโสหลีเหรอ? คุณเย่ คุณพูดอะไรออกมาน่ะ?”“ใช่แล้ว หลังจากวันนั้นที่ฉันออกไป ฉันก็ยกผู้อาวุโสหลีให้คุณดูแลแทน ทำไมตอนนี้เธอถึงกลายเป็นแบบนี้ได้ล่ะ?”จู้ชิวหนานถามอย่างสงสัยคำพูดของจู้ชิวหนานทำให้สีหน้าของเย่เฟิงเปลี่ยนไปทันที รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาหายไปในพริบตาเขาไม่คิดเลยว่าจู้ชิวหนานจะเปลี่ยนคำพูดยิ่งกว่านั้นยังทำเป็นไม่รู้อะไรทั้งสิ้นดวงตาของเย่เฟิงเปลี่ยนเป็นเย็นชาขณะที่หลีเทียนกังและครอบครัวเริ่มยิ้มออกมาด้วยความโล่งใจ“หมอเทวดาจู้ คุณไม่รู้หรือว่า หลังจากคุณออกไป เย่เฟิงก็ทิ้งผู้อาวุโสหลีไว้โดยไม่สนใจอะไรเลย?”“ตอนนี้เขายังกล้าบอกว่าพวกเราจ้างคุณมาวางแผนทำร้ายผู้อาวุโสอีก!”หลีเทียนกังพ
สีหน้าของหลีเทียนกังและครอบครัวเปลี่ยนไปมาอย่างรวดเร็ว ทั้งตกใจและโกรธแค้นส่วนสาวใช้ก็หน้าซีดด้วยความหวาดกลัว ภายใต้สายตาเย็นเยียบของ ท่านผู้บัญชาการเหอ จิตใจของเธอพังทลายลงทันที“ฉัน... ฉันไม่รู้อะไรทั้งนั้นค่ะ! คุณผู้ชายรองให้ยาพวกนี้กับฉัน แล้วบอกให้ฉันพูดแบบนั้น!”“ฉัน... ฉันแค่ทำตามคำสั่ง ฉันบริสุทธิ์นะคะ!”คำพูดนี้ทำให้การที่หลีเทียนกังและครอบครัวพยายามใส่ร้ายเย่เฟิง กลายเป็นเรื่องจริงยิ่งกว่าชัดเจนหลีเทียนกัง หลี่เยว่ผิง และหลีถิง ต่างมองสาวใช้ด้วยสายตาแค้นเคืองจนเหมือนจะฆ่าเธอได้“พี่รอง ฉันไม่คิดเลยว่าพี่จะใช้พวกเรามาเป็นเครื่องมือแบบนี้!”“พี่รองกับพี่สะใภ้รอง พวกคุณทำเกินไปแล้ว!”“ฉันยังไปช่วยพวกคุณใส่ร้ายเย่เฟิงเมื่อครู่ พวกคุณจะฆ่าฉันหรือไง?”ในตอนนี้ ลุงสาม ลุงสี่ และอาเล็ก ของหลีเอียน ต่างแสดงสีหน้าโกรธแค้นพวกเขารู้สึกว่าตัวเองถูกครอบครัวของหลีเทียนกังหลอกใช้ทุกอย่างที่เกิดขึ้นถูกจัดฉากโดยครอบครัวนี้!“ท่านผู้บัญชาการเหอ พวกเขาใส่ร้ายลูกเขยของฉัน ตอนนี้มีหลักฐานชัดเจนแล้ว สามารถจับกุมได้เลยใช่ไหมคะ?”สวีเพ่ยเพ่ย พูดพร้อมมองหลีเทียนกังด้วยสายตาเกลียดชัง
เมื่อเย่เฟิงชี้ไปที่ผู้อาวุโสหลีและบอกว่าเธอเป็นพยานของเขา ทุกคนในห้องถึงกับนิ่งอึ้ง“อะไรนะ? ผู้อาวุโสหลีเป็นพยานให้เย่เฟิง?”“เย่เฟิงบ้าหรือเปล่า?”“ใคร ๆ ก็รู้ว่าผู้อาวุโสเกลียดไอ้หน้าขาวนี่เข้าไส้ จะมาเป็นพยานให้เขาได้ยังไง?”หลีเทียนกังที่ตกใจในตอนแรก ถึงกับหัวเราะออกมา “นายจะให้แม่ฉันเป็นพยานให้นาย? ฮ่า ๆ ๆ…”“ไอ้หน้าขาว นายช่างกล้าคิดนะ?”หลีถิงเองก็หัวเราะเยาะหลี่เยว่ผิงยิ้มเย้ยอย่างกับฟังเรื่องขำขันสมาชิกตระกูลหลีทุกคนคิดว่าเย่เฟิงกำลังเพ้อฝันไปเองแต่เย่เฟิงยังคงมีสีหน้าเคร่งขรึมและมั่นใจ เขาหันไปหาผู้อาวุโสหลีและพูดว่า “ถึงเวลาที่คุณควรพูดอะไรบ้างแล้วครับ”ในสายตาเย้ยหยันและไม่เชื่อถือของทุกคน ผู้อาวุโสหลีกลับค่อย ๆ ลุกขึ้นยืนทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบงัน ทุกคนมองเธอด้วยสายตาตกตะลึงผู้อาวุโสหลียอมทำตามเย่เฟิงอย่างนั้นเหรอ?เธอไม่ควรจะสนใจเย่เฟิงเลยด้วยซ้ำ!เมื่อเห็นเธอลุกขึ้นยืน บรรยากาศในห้องก็เปลี่ยนไปทันที ทุกสายตามุ่งตรงไปยังเธอ“เย่เฟิงไม่เคยรักษาฉันเลยแม้แต่ครั้งเดียว”เธอกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ พร้อมทั้งมองครอบครัวของลูกชายคนรองด้วยสายตาเย็นชาคำ